The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เก้าอี้รีไซเคิลจากขวดพลาสติก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

โครงงานสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

เก้าอี้รีไซเคิลจากขวดพลาสติก



โครงงานกล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม

เรือ่ ง เกา้ อรี้ ีไซเคลิ จากขวดพลาสตกิ “Recycle Bottles Chair”

โดย เลยี้ งรักษา
1. เด็กหญงิ อรรถยา รานรอน
2. เดก็ หญิงพัชรีรัตน์ ศิลาวุธ
3. เดก็ ชายปรมี

ครูทีป่ รึกษา

1. นายณัฐพล สแี สงหนอ่ ม

2. นางสาวญาณันธร ช่นื ละออ

โรงเรยี นนครนนท์วทิ ยา 5 ทานสมั ฤทธิ์
สังกดั สานักการศกึ ษา เทศบาลนครนนทบรุ ี จงั หวัดนนทบรุ ี

กรมสง่ เสรมิ การปกครองท้องถิน่ กระทรวงมหาดไทย

ใช้ประกอบในการประกวดแข่งขันโครงงานกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1-3
งานมหกรรมการจดั การศึกษาทอ้ งถิ่น ระดบั ประเทศ ประจาปี 2565
ระหวา่ งวนั ท่ี 30 กันยายน - 7 ตลุ าคม 2565 ณ เทศบาลเมืองทุ่งสง



ชอ่ื โครงงาน เกา้ อ้ีรไี ซเคลิ จากขวดพลาสตกิ “Recycle Bottles Chair”
คณะผ้จู ดั ทา
1. เดก็ หญงิ อรรถยา เล้ยี งรกั ษา
ระดบั ชั้น
ครูทป่ี รึกษา 2. เดก็ หญงิ พชั รีรตั น์ รานรอน
ชื่อสถาบันทศ่ี กึ ษา
3. เดก็ ชายปรมี ศิลาวธุ
ปีการศึกษา
มัธยมศึกษาปที ี่ 1-3

นายณัฐพล สีแสงหนอ่ ม และนางสาวญาณนั ธร ช่ืนละออ

โรงเรยี นนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธิ์ เทศบาลนครนนทบุรี อาเภอเมอื ง

จงั หวัดนนทบรุ ี รหสั ไปรษณยี ์ 11000 โทร 02 - 589 - 6083

2565

บทคัดย่อ

โรงเรียนนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธ์ิ มีกลุ่มประชากร คือ นักเรียนจานวน 577 คน
เวลาพักกลางวันและหลังเลิกเรียน นักเรียนส่วนมากมักจะเข้าสหกรณ์ และตามร้านค้าต่าง ๆ ภายใน
โรงอาหารเพื่อท่ีจะซอ้ื ขนม นม น้า เมื่อกินเสร็จนักเรียนจะท้ิงขยะ ทาใหเ้ กิดปัญหาขยะล้นถัง โดยท่ีขยะ
พวกน้ันไม่ก่อประโยชน์อะไร คณะผู้จัดทาจึงคิดท่ีจะลดปริมาณของขยะด้วยวิธีการนากลับมาใช้ใหม่
อีกคร้ัง (Recycle) ด้วยการทาโครงงานช้ินนี้ คือ การทาเก้าอ้ีจากขวดพลาสติกเพื่อช่วยลดขยะภายใน
โรงเรยี นและเปน็ ประโยชน์ตอ่ การใชง้ านอีกดว้ ย

จากปัญหาดังกล่าวทางคณะผู้จัดทาจึงได้ทาการประดิษฐ์เก้าอ้ีจากขวดพลาสติกข้ึนเพื่อต้องการ
ที่จะลดขยะภายในโรงเรียนและเพื่อนาขยะน้ันไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ซ่ึงการเลือกประดิษฐ์เก้าอ้ี
จากขวดพลาสติกน้ีได้เป็นสิง่ ประดิษฐ์ที่สามารถแก้ไขปัญหาภายในโรงเรียนได้ และยังสามารถนาไปต่อยอด
ในการทาเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้อีกด้วย โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพ่ือลดปริมาณขยะขวดพลาสติก
ภายในโรงเรียน 2) เพ่ือสร้างจิตสานึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมบริเวณโรงเรียน 3) เพ่ือเสริมสร้างระเบียบ
วนิ ัยในการรักษาความสะอาดในโรงเรียน 4) เพอ่ื ปลูกฝังใหน้ กั เรียนมีคณุ ธรรมและมจี ติ อาสา

กลมุ่ เปา้ หมายในการทาโครงงานครั้งนี้ คือ นกั เรยี นระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1-3 โรงเรียนนคร-
นนท์วิทยา 5 ทานสมั ฤทธ์ิ สังกัดสานกั การศึกษา เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบรุ ี จานวน 100 คน
เครือ่ งมือที่ใชใ้ นการทาโครงงาน ไดแ้ ก่ แบบสอบถามประเมินความพงึ พอใจ

จากการศึกษาโดยภาพรวมค่าเฉลี่ยความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมโครงการ ฯ อยู่ในระดับดี

( x = 4.04) โดยผู้ตอบแบบสอบถามนั้นมีความคิดเห็นในประเด็นนักเรียนมีวินัยในการท้ิงและคัดแยก

ขยะอย่ใู นระดบั ดี ( x = 4.17) นักเรียนมีจิตสานกึ ในการช่วยกันดแู ลสภาพแวดลอ้ มในโรงเรียนและชุมชน

อยู่ในระดับดี ( x = 4.07) นักเรียนสามารถนาขยะประเภทขวดน้ามาแปลงโฉมให้เกิดมูลค่าเพ่ิมอยู่ใน

ระดับดี ( x = 3.98) และนักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรมและมีจิตอาสาที่ดี ( x =3.95) ตามลาดับ
น้ันแสดงให้เห็นว่าโครงงานเก้าอี้รีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair” ท่ีจัดทาข้ึน
มีประโยชน์ต่อนักเรียน โรงเรียน ชุมชนและสังคม การลดหรือเพิ่มของปริมาณขยะขึ้นอยู่กับวินัย
จิตสานึก และจิตสาธารณะของแต่ละบุคคล หากรณรงค์การท้ิงขยะท่ีถูกต้อง และการนาขยะ
ที่สามารถนากลบั มาใชไ้ ด้อกี มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ สภาพแวดลอ้ มหรือปริมาณขยะกจ็ ะลดนอ้ ยลง



กติ ตกิ รรมประกาศ

การจัดทาโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เร่ือง เก้าอี้รีไซเคิล
จากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair” ของนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนนคร-
นนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธิ์ สังกัดสานักการศึกษา เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ประจาปี
การศึกษา 2565 สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน และยังเป็นแนวทางในการนาไปใช้ในชีวิต
จรงิ ได้

การจัดทาโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เร่ือง เก้าอี้รีไซเคิล
จากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair” ครั้งนี้สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีความอนุเคราะห์อย่างดีย่ิง
ท่ีได้ให้ความเมตตาสละเวลาให้คาแนะนาและข้อคิดเห็น ตลอดจนตรวจแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ในการ
ดาเนนิ การจดั ทาโครงงานจนเป็นผลสาเรจ็

ขอกราบขอบพระคุณครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ทุกท่าน
ท่ีประสิทธ์ิประสาทวิชาความรู้พร้อมท้ังแนะนาความคิดเห็นและประสบการณ์ต่าง ๆ ให้แก่ผู้จัดทา
โครงงานกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ในคร้งั น้ี

ขอกราบขอบพระคุณ ผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรียนนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธ์ิ
ที่กรุณาสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ทางการศึกษา ให้คาปรึกษา แนะนาและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อ
โครงงานและใหก้ าลังใจดว้ ยดเี สมอมา

ขอกราบขอบพระคุณ นายณัฐพล สีแสงหน่อม และนางสาวญาณันธร ช่ืนละออ ครูท่ีปรึกษา
ในการจดั ทาโครงงาน ทใ่ี หค้ าแนะนาและชี้แนะจนสามารถทาโครงงานไดส้ าเรจ็

สุดท้ายน้ีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
เรื่อง เก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair” ของนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1-3
โรงเรียนนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธ์ิ สังกัดสานักการศึกษา เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
จะเปน็ ประโยชนต์ ่อผู้ศกึ ษาและสนใจไมม่ ากก็น้อย ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสน้ี

คณะผู้จัดทา



คานา

โครงงาน เร่ือง เก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair” ของนักเรียน
ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1-3 โรงเรียนนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธิ์ สังกัดสานักการศึกษา เทศบาล
นครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ประจาปีการศึกษา 2565 นี้เป็นส่วนหน่ึงของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม
ศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม คณะผู้จัดทาได้รวบรวมข้อมูลและจัดทาขึ้นเพ่ือนาเสนอวิธีการประดิษฐ์
ของใช้ทม่ี าจากวัสดุเหลือใช้นัน่ ก็ คือ ขวดน้าพลาสติก โดยมีการอธิบาย วิธีการทา ท่ีมาและความสาคัญ
ของการทาโครงงาน ความรู้เรื่องพลาสติก หลักธรรมท่ีใช้ในการดาเนินงาน เพื่อให้ทุกคนได้ทราบถึง
ความหมายของหลักธรรม การนาหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในการดาเนินงาน และประโยชน์ของ
การรีไซเคิลขยะที่สามารถสร้างรายได้และประหยัดค่าใช้จ่าย โครงงานน้ีได้รวบรวมเน้ือหา มาจาก
แหล่งข้อมูลต่าง ๆ ไดม้ ีการวเิ คราะห์และสรุปผลจนโครงงานสาเร็จ

ค ณ ะ ผู้ จั ด ท า ข อ ข อ บ คุ ณ ค รู ที่ ป รึ ก ษ า โ ค ร ง ง า น ท่ี ใ ห้ ค ว า ม รู้ เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร จั ด ท า โ ค ร ง ง า น
ผ้อู านวยการสถานศึกษาโรงเรียนนครนนท์วทิ ยา 5 ทานสัมฤทธ์ิ ที่ให้ความอนุเคราะห์และสนับสนุนการ
การจัดทาโครงงานในคร้ังนี้ คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ที่สนใจศึกษา ค้นคว้าโครงงานเล่มน้ี
จะได้รับความรู้จากโครงงานเรื่องน้ี และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้ที่สนใจศึกษา ค้นคว้า
ทุก ๆ ทา่ น

คณะผู้จัดทา

1. เด็กหญงิ อรรถยา เลี้ยงรกั ษา

2. เด็กหญงิ พัชรีรัตน์ ราญรอน

3. เด็กชายปรมี ศลิ าวุธ

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

โรงเรียนนครนนท์วทิ ยา 5 ทานสัมฤทธ์ิ



สารบัญ

เรือ่ ง หนา้
บทคัดย่อ…………………………………………………………………………………………………………….... ก
กติ ตกิ รรมประกาศ………………………………………………………………………………………………..... ข
คานา……………………………………………………………………………………………………………………. ค
สารบัญ…………………………………………………………………………………………………………………. ง
สารบัญตาราง………………………………………………………………………………………………………… ฉ
สารบัญภาพ…………………………………………………………………………………………………………… ช

บทท่ี 1 บทนา………………………………………………………………………………………………………… 1
1.1 ท่มี าและความสาคัญของปัญหา……………………………………………………………………….. 1
1.2 วัตถุประสงค์ของการจดั ทาโครงงาน…………………………………………………………………. 2
1.3 ขอบเขตของโครงงาน……………………………………………………………………………………… 2
1.4 นิยามศพั ท์เฉพาะท่ีใช้ในโครงงาน…………………………………………………………………….. 2
1.5 ประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับ……………………………………………………………………………………………. 3
1.7 กรอบแนวคดิ ในการทาโครงงาน………………………………………………………………………. 3

บทที่ 2 เอกสารทเ่ี ก่ียวข้อง 4
2.1 ความรทู้ ั่วไปเก่ยี วกับการสรา้ งสงิ่ ประดิษฐ์…………………………………………………………. 4
2.2 ความรเู้ กยี่ วกบั วัสดเุ หลอื ใช้……………………………………………………………………………… 5
2.3 ความร้เู ก่ยี วกบั การรไี ซเคิล………………………………………………………………………………. 6
2.4 ขวดน้าพลาสติก……………………………………………………………………………………………… 6
2.5 พลาสตกิ ……………………………………………………………………………………………………….. 7
2.6 แนวคดิ เก่ียวกบั เศรษฐกจิ พอเพียง……………………………………………………………………. 8
2.7 การนาหลักอทิ ธิบาทธรรม 4 มาประยุกต์ใช้ในโครงงาน………………………………………. 10

บทท่ี 3 วธิ ีการดาเนนิ โครงงาน………………………………………………………………………………… 13
3.1 วัสดุอุปกรณ์เพื่อใช้ในการดาเนินงาน………………………………………………………………… 13
3.2 วิธกี ารดาเนินงาน……………………………………………………………………………………………. 13
3.3 แผนผงั ข้ันตอนการดาเนินงาน…………………………………………………………………………. 14
3.4 แผนการปฏิบัตโิ ครงงาน…………………………………………………………………………………. 15
3.5 การวดั และประเมนิ ผลโครงงาน (PDCA)…………………………………………………………… 15

บทท่ี 4 ผลการดาเนินงาน……………………………………………………………………………………….. 21
4.1 ผลการดาเนนิ งาน…………………………………………………………………………………………… 21
4.2 หลกั การและหลกั ธรรมที่นามาบูรณาการ………………………………………………………….. 22



สารบัญ (ตอ่ ) 24
24
บทท่ี 5 สรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ……………………………………………………………………. 25
5.1 สรุปผลการดาเนนิ งาน…………………………………………………………………………………….. 25
5.2 อภิปรายผล…………………………………………………………………………………………………….
5.3 แผนการดาเนนิ งานในอนาคตและขอ้ เสนอแนะ…………………………………………………..

บรรณานกุ รม………………………………………………………………………………………………………….. 26
ภาคผนวก………………………………………………………………………………………………………………. 28
29
ภาคผนวก ก แบบสอบถามความพึงพอใจ…………………………………………………………………. 33
ภาคผนวก ข ภาพกจิ กรรมการต่อยอดผลิตภัณฑ์……………………………………………………….. 35
ภาคผนวก ค การประเมนิ และวิจารณโ์ ดยผู้อ่ืน…………………………………………………………...



สารบัญตาราง

ตารางท่ี หน้า

ตารางที่ 4.1 แสดงคา่ เฉลยี่ ผตู้ อบแบบสอบถามตามโครงงานระดับชนั้ มัธยมศึกษา

ปที ี่ 1-3……………………………………………………………………………………………… 21

ตารางท่ี 4.2 หลัก 3 หว่ ง……………………………………………………………………………………….. 22

ตารางที่ 4.3 หลกั 2 เงือ่ นไข…………………………………………………………………………………… 22



สารบัญภาพ

ภาพที่ เก้าอร้ี ีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair”………………….. หน้า
ภาพที่ 1.1 ขั้นตอนการดาเนินงาน……………………………………………………………………… 3
ภาพที่ 3.1 แสดงหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง…………………………………………….. 14
ภาพที่ 4.1 22

1

บทที่ 1
บทนา

1.1 ท่ีมาและความสาคัญของปญั หา
ปัจจุบันความนิยมในการใช้ขวดพลาสติกในการบรรจุอาหารและเครื่องดื่มมีเป็นจานวนมาก

เน่ืองจากสะดวกในการใช้งาน หาง่ายและมีราคาถูก ผลิตภัณฑ์เหล่าน้ีจะทาให้เกิดขยะมูลฝอยพลาสติก
ซ่ึงเป็นสาเหตุประการหน่ึงท่ีก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและมีผลต่อสุขภาพอนามัย ขยะมีปริมาณ
เพิ่มขึ้นทุกปี เพราะสาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของประชากร การขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
นับเป็นปัญหาท่ีสาคัญของชุมชนซ่ึงต้องได้รับการแก้ไข การกาจัดขยะโดยการนาไปเผา ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง
ที่ทาให้เกดิ มลพิษ เกิดแก๊ส ภาวะเรือนกระจก หรือภาวะโลกร้อน การกาจัดอีกทางหนึง่ คือ การนาขยะไป
ฝัง แต่ต้องเป็นขยะท่ีสามารถย่อยสลายได้ และต้องใช้เวลานานพอสมควร (สานักวิจัยและพัฒนาการ
อาชวี ศกึ ษา, 2565)

จากการสารวจขยะในบ้านและในบริเวณโรงเรียน พบว่าขยะส่วนใหญ่เป็นขวดพลาสติก ดังน้ัน
คณะผู้จัดทาจึงคิดโครงงานเก้าอ้ีจากขวดพลาสติกข้ึน เพ่ือช่วยลดปัญหาขยะ ปัญหาภาวะโลกร้อน และยัง
เปน็ การนาเอาของที่เหลือใชม้ าทาใหม้ ีค่า ใหเ้ กดิ ประโยชน์ และทาให้ขยะคนื สู่ส่ิงแวดลอ้ มทดี่ ไี ดอ้ กี ดว้ ย

โรงเรียนนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธิ์ สังกัดสานักการศึกษา เทศบาลนครนนทบุรี
จังหวัดนนทบุรี เป็นสถานศึกษาขนาดกลาง ที่มีจานวนนักเรียนไม่มาก แต่ก็มีปัญหาเรื่องของขยะ
ในบริเวณรอบ ๆ โรงเรียนและชุมชน แม้จะมีการรณรงค์ส่งเสริมวินัยในการคัดแยกขยะแล้วก็ตาม
แต่ก็ยังมีนักเรียนบางส่วนที่ยังขาดวินัยในการทิ้งขยะจึงก่อให้เกิดปัญหาของการเพิ่มจานวนขยะท่ีเป็น
ขวดพลาสติกมากขึ้น เช่น ขวดน้าด่ืม กระดาษ พลาสติก อันเป็นสาเหตุทาให้สภาพแวดล้อม
ในโรงเรียนนั้นไม่สะอาด เพ่ือเป็นการลดปริมาณขยะและสร้างจิตสานึกในระเบียนวินัยโดยอาศัย
การมีส่วนร่วมของนักเรียนทุกคนในการลดปริมาณขยะเพ่ือให้บริเวณโดยรอบของโรงเรียนเป็นระเบียบ
เรยี บร้อย

กลุ่มผู้จัดทาโครงงานจึงเล็งเห็นว่าขยะท่ีเป็นขวดพลาสติกในโรงเรียน เช่น ขวดน้าด่ืม สามารถ
นากลับมาใช้ได้ใหม่ (Recycle) หรือสามารถแปรรูปให้มีมูลค่ามากข้ึนโดยอาศัยการมีส่วนร่วมของ
นักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนในการช่วยกันลดปริมาณขยะพลาสติกในโรงเรียนและนาขยะมาใช้ได้
ใหม่อีกคร้ัง (Recycle) อีกท้ังยังเป็นการสร้างจิตสานึกให้กับนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนทุกคน
ในการดแู ลสภาพแวดล้อมของโรงเรียนใหส้ ะอาด น่าอยู่และสามารถนาผลผลิตขยะจากขวดพลาสติกมา
เพิ่มมลู ค่าและทาประโยชนใ์ หก้ บั ส่วนรวม

จากเหตุผลและความสาคัญดังกล่าวข้างต้นคณะผู้จัดทาโครงงานจึงได้มีแนวความคิดจัดทา
โครงงาน เร่ือง เก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair” เพื่อปลูกฝังสร้างจิตสานึกที่ดีให้
นักเรียน บุคลากร และผู้ปกครอง รู้จักประหยัดใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีส่วนร่วมในการดูแลรักษา
ส่งิ แวดล้อมในโรงเรยี น เพือ่ นาส่ิงของเหลือใช้นากลับมาใช้ใหม่อย่างหลากหลาย ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม
ของผู้เรียน ทาให้เป็นผู้มีคุณธรรม ค่านิยมที่ดีงาม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดารงชีวิตสามารถอยู่
ร่วมกับผู้อน่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข

2

1.2 วตั ถปุ ระสงค์
1.2.1 เพื่อลดปริมาณขยะขวดพลาสติกภายในโรงเรยี น
1.2.2 เพ่อื สรา้ งจิตสานึกในการรกั ษาสิ่งแวดล้อมบริเวณโรงเรยี น
1.2.3 เพ่อื เสรมิ สร้างระเบียบวินยั ในการรกั ษาความสะอาดในโรงเรยี น
1.2.4 เพอ่ื ปลกู ฝงั ใหน้ กั เรียนมีคุณธรรมและมีจติ อาสา

1.3 ขอบเขตการศกึ ษาเรียนรู้
ในการจดั ทาโครงงานคณะผจู้ ัดทาได้มีขอบเขตการศึกษาโครงงานดังน้ี
1.3.1 เปา้ หมาย
เชงิ ปริมาณ
นักเรียนโรงเรียนนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธิ์ สังกัดสานักการศึกษา เทศบาลนคร-

นนทบุรี จงั หวัดนนทบรุ ี จานวน 577 คน
เชิงคณุ ภาพ
นักเรียนโรงเรียนนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธิ์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1-3 สังกัดสานัก-

การศึกษา เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี จานวน 100 คน โดยใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง ดังตาราง
ตอ่ ไปนี้
ตารางท่ี 1.1 แสดงเปา้ หมายเชิงปรมิ าณและเชงิ คณุ ภาพ

เปา้ หมาย จานวน (คน)
เชิงปริมาณ 577

เชงิ คณุ ภาพ 100

1.3.2 สถานที่ในการจดั ทาโครงงาน
สถานท่ีในการจัดทาโครงงานในครั้งนี้ คือ โรงเรียนนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธิ์ สากัดสานัก-
การศึกษา เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เลขที่ 74/1056 หมู่ 6 ถนนติวานนท์ ตาบลท่าทราย
อาเภอเมืองนนทบุรี จังหวดั นนทบุรี 11000
1.3.3 ระยะเวลาในการจัดทาโครงงาน
ระยะที่ 1 กอ่ ร่างสรา้ งคณุ ธรรม ระหว่างวนั ท่ี 17 พฤษภาคม - 31 พฤษภาคม พ.ศ.2565
ระยะที่ 2 เน้นยา้ สร้างคณุ ธรรม ระหว่างวนั ท่ี 1 มถิ นุ ายน - 30 มถิ นุ ายน พ.ศ.2565

1.4 นิยามศพั ท์เฉพาะท่ีใชใ้ นโครงงาน
เพ่ือให้เข้าใจความหมายของศัพท์เฉพาะในการทาโครงงานท่ีตรงกัน จึงให้ความหมาย

และขอบเขตจากดั ดงั ตอ่ ไปน้ี คือ
1.4.1 พลาสติก หมายถึง สารประกอบอินทรีย์ท่ีสังเคราะห์ขึ้นเพ่ือใช้แทนวัสดุธรรมชาติซึ่ง

ประกอบด้วยสารคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน นอกจากนี้อาจมีธาตุอื่น ๆ เช่น ส่วนประกอบย่อย
ซง่ึ ไดแ้ ก่ ไนโตรเจน, ฟลูออรนี , คลอรีน และกามะถนั

1.4.2 ขวดน้าพลาสติก หมายถึง ขวดน้าพลาสติกอาจจะมีสีใสหรือขุ่นก็ได้ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์
สาหรับอปุ โภคหรือบริโภค

3

1.4.3 รีไซเคิล หมายถึง การนาวัสดุเหลือใช้กลับมาปรับเปล่ียนรูปแบบ หรือพัฒนารูปร่างใหม่
ใหส้ ามารถนามาใชป้ ระโยชน์ในรูปแบบอืน่ ๆ ได้

1.5 ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับ
1.5.1 ทาให้ปรมิ าณขยะขวดพลาสตกิ ภายในโรงเรียนลดลง
1.5.2 นกั เรยี นท่เี ขา้ รว่ มกจิ กรรมมีจิตสานกึ ในการรักษาสงิ่ แวดลอ้ มบรเิ วณโรงเรยี น
1.5.3 นกั เรียนท่ีเขา้ ร่วมกิจกรรมมีระเบียบวินัยในการรกั ษาความสะอาดในโรงเรยี น
1.5.4 ปลูกฝังใหน้ ักเรยี นทเี่ ข้าร่วมกิจกรรมมีคุณธรรมและมีจติ อาสา
1.5.5 นักเรียนเกิดสมรรถนะ ทักษะทางดา้ นการแก้ไขปญั หา และสรา้ งนวตั กรรมขน้ึ มาใหม่ได้

1.6 กรอบแนวคิดในการในการทาโครงงาน

อทิ ธิบาทธรรม 4 หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

เก้าอ้รี ีไซเคิลจากขวด - มวี นิ ัยในการทง้ิ และคดั
พลาสติก “Recycle แยกขยะ
- สามารถนาขยะประเภท
Bottles Chair” ขวดนา้ มา แปลงโฉมให้
เกดิ มลู คา่ เพิ่ม
- มจี ติ สานึกในการชว่ ยกัน
ดแู ลสภาพแวดล้อม
ในโรงเรียนและชุมชน
- มีคณุ ธรรมจริยธรรม
และมจี ิตอาสาทดี่ ี

ภาพประกอบท่ี 1.1 เก้าอีร้ ีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair”

4

บทท่ี 2
เอกสารทเ่ี กี่ยวขอ้ ง

ในการศึกษาโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม เร่ือง เก้าอ้ีจากขวด
น้าพลาสติก “Recycle Bottles Chair” คณะผู้จัดทาได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารและงานวิจัยที่เก่ียวข้อง
เพอ่ื ใช้เป็นแนวทางในการทาดังน้ี

2.1 ความรูท้ ว่ั ไปเกีย่ วกับการสร้างสิ่งประดิษฐ์
2.2 ความร้เู ก่ยี วกบั วสั ดเุ หลือใช้
2.3 ความรเู้ กย่ี วกับการรีไซเคลิ
2.4 ขวดนา้ พลาสติก
2.5 พลาสติก
2.6 แนวคิดเกย่ี วกับเศรษฐกิจพอเพยี ง
2.7 การนาหลักอทิ ธิบาทธรรม 4 มาประยุกตใ์ ช้ในโครงงาน

2.1 ความรู้ทวั่ ไปเก่ยี วกับการสร้างสิง่ ประดิษฐ์
ในปัจจุบันหากเราไม่นามาทาให้เกิดประโยชน์ ก็จะเป็นเพียงขยะที่ไม่มีมูลค่า ย่อยยากไม่เกิด

ประโยชน์ต่อส่ิงแวดล้อม แต่หากเราใส่ใจหยิบมาแปรรูป จากขยะไร้ค่าจะเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ท่ีมีมูลค่า
ขึ้นมา เกิดประโยชน์ข้ึน คือ ขายได้ราคาเพิ่มข้ึนและสร้างจิตสานึกท่ีดีถึงกัน ในการกระตุ้นให้ตระหนัก
เร่ืองการช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งการที่เราเพิ่มมูลค่าส่ิงของท่ีไม่ใช้แล้วหรือเป็นขยะเราจะต้องมีการ
สรา้ งและประดษิ ฐ์ขนึ้ มา

2.1.1 ความหมายของงานประดิษฐ์ หมายถึง งานที่เกิดจากการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของ
มนุษย์สร้างหรือประดิษฐ์ขึ้นตามวัตถุประสงค์ท่ีหลากหลาย หรือเพื่อความสวยงาม หรือประดับตกแต่ง
หรอื เพื่อประโยชนใ์ ช้สอย (กรณ์กวี ดวงลิวงษ์, 2565)

2.1.2 ความเป็นมาของงานประดิษฐ์ เกิดข้ึนเพราะมนุษย์เป็นผู้สร้างผู้พัฒนาปรับปรุง
และเปล่ียนแปลงแบบ ผลงานด้วยความคิดสร้างสรรค์ท่ีมีอยู่ในแต่ละบุคคล มีวัตถุประสงค์ในการสร้าง
สิ่งประดิษฐ์เพ่ือตอบสนอง ความต้องการด้านประโยชน์ใช้สอย งานประดิษฐ์มีความสัมพันธ์และ
เกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวันของคนไทยต้ังแต่สมัยโบราณ เก่ียวข้องกับขนบธรรมเนียมและประเพณีทาง
ศาสนา

2.1.3 หลักการสรา้ งสรรคง์ านประดิษฐ์
การสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ให้ประดิษฐ์ให้ประสบผลสาเร็จนั้น ผู้เรียนต้องมีความ

พงึ พอใจ ในการทางาน โดยยดึ หลักการดังนี้
2.1.3.1 หมั่นศึกษาหาความรู้ในงานที่ตนเองสนใจ โดยศึกษาจากผู้เช่ียวชาญในชุมชน

การโรงเรยี นจากตัวอยา่ งส่ิงประดษิ ฐ์ทสี่ นใจ
2.1.3.2 ศึกษาหลักการ วิธีการ หรือขั้นตอนการปฏิบัติงาน ในการประดิษฐ์ชิ้นงาน

โดยการวิเคราะห์ดว้ ยตนเองหรือศึกษาจากผู้รู้ ผู้เชีย่ วชาญ หรือจากส่ือต่าง ๆ เชน่ วารสาร หนังสอื เปน็ ต้น
2.1.3.3 ทดลองการปฏิบัติการประดิษฐ์ ผู้เรียนต้องศึกษาค้นคว้าและทดลองปฏิบัติตาม

แนวคดิ ทไี่ ดส้ รา้ งสรรค์ไว้ และมีการปรับปรุงแก้ไข ขอ้ บกพร่องจนสาเรจ็ เป็นช้ินงานประดิษฐ์ท่พี ึงพอใจ
(แพนตา สลี าโล้, 2564 : 8)

5

2.1.4 ประโยชน์ของงานประดษิ ฐ์
1. งานประดิษฐม์ ีความสัมพนั ธเ์ กี่ยวข้องกับชวี ิตประจาวนั ของไทย
2. งานประดิษฐม์ คี วามสัมพันธ์เกี่ยวข้องขนบธรรมเนยี มและประเพณีทางศาสนา
3. งานประดษิ ฐ์ช่วยใหเ้ กดิ ความรัก ความสามคั คใี นหมคู่ ณะ
4. งานประดษิ ฐช์ ว่ ยให้การทางานของสมองและประสาทสมั ผสั ประสานสัมพันธก์ ัน
5. ใชเ้ ป็นเคร่อื งประดบั ตกแตง่ ของเลน่ ของขวัญท่ีระลึก
6. รู้จกั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์
7. เป็นการฝึกลักษณะนิสัยในการทางานให้มีความอดทน (แพนตา สีลาโล้, 2564 : 10)

2.1.5 ลักษณะของงานประดษิ ฐ์
2.1.5.1 งานประดิษฐ์ทั่วไป เป็นงานที่บุคคลสร้างข้ึนมาจากความคิดของตนเอง

โดยอาศัยการเรียนรู้จากส่ิงรอบ ๆ ตัวนามาดัดแปลง หรือเรียนรู้จากตารา เช่น การประดิษฐ์ของใช้จาก
เศษวัสดุ การประดิษฐ์ดอกไม้

2.1.5.2 งานประดิษฐ์ทเ่ี ป็นเอกลักษณ์ไทย เป็นงานที่ได้รับการสบื ทอดมาจากบรรพบุรษุ ใน
ครอบครัวหรือในท้องถิ่น หรือทาข้ึนเพ่ือใช้งานหรือเทศกาลเฉพาะอย่าง เช่น มาลัย บายศรี
งานแกะสลกั

2.1.6 ประเภทของงานประดิษฐ์
งานประดิษฐ์ต่าง ๆ สามารถเลือกทาได้ตามความต้องการและประโยชน์ใช้สอยซ่ึงอาจ

แบง่ ประเภทของงานประดษิ ฐต์ ามโอกาสใชส้ อยดังน้ี
2.1.6.1 ประเภทใช้เป็นของเล่น เป็นของเล่นท่ีผู้ใหญ่ในครอบครัวทาให้ลูกหลานเล่น

เพ่ือความเพลิดเพลิน เช่น งานปน้ั ดินเป็นสตั ว์ ส่ิงของ งานจักสานใบลานเป็นโมบายงานพบั กระดาษ
2.1.6.2 ประเภทของใช้ ทาขึ้นเพื่อเป็นของใช้ในชีวิตประจาวัน เช่น การสานกระบุง

ตะกรา้ การทาเครื่องใช้จากดินเผา จากผ้าและเศษวสั ดุ
2.1.6.3 ประเภทงานตกแต่ง ใช้ตกแต่งสถานที่ บ้านเรือนให้สวยงาม เช่น งานแกะสลักไม้

การทากรอบรูป ดอกไมป้ ระดิษฐ์

2.2 ความรเู้ กีย่ วกบั วสั ดเุ หลอื ใช้
วัสดเุ หลือใช้ หมายถงึ วัสดุตา่ ง ๆ ทเ่ี หลือจากการอปุ โภค บริโภค ในชีวิตประจาวันซ่งึ มีมากมาย

หลายชนิด สามารถแบง่ ออกได้ ดังนี้
วัสดเุ หลอื ใชแ้ บง่ ตามทม่ี า ได้ดงั นี้
1. วัสดุเหลือใช้ในครัวเรือน เช่น กล่องยาสีฟัน กล่องสบู่ กล่องนม กระดาษ

หนงั สือพิมพ์ ไฟแช็ค เศษไม้ รูปภาพ ปฏทิ นิ ขวดน้าพลาสตกิ ฯลฯ
2. วสั ดุเหลือใช้จากการทาเกษตรกรรม บางครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม

เชน่ ปลูกขา้ วโพด เมอ่ื ปอกเปลือกขา้ วโพดแลว้ ส่วนทีเ่ หลือ คอื เปลือกหรือซงั ขา้ วโพด เป็นต้น
3. วัสดุเหลือใช้จากร้านค้า หรือสถานประกอบการ สถานบริการต่าง ๆ ในชุมชน เช่น

ร้านค้าขายของชา วัสดุท่ีเหลือใช้ได้แก่ ขวดแก้ว ขวดพลาสติก กล่องกระดาษ เป็นต้น ร้านอาหาร เช่น
เศษผัก เศษข้าว เป็นต้น ร้านซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะมีเศษน็อตหรือเศษชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ
เป็นต้น ร้านทาผม เช่น เศษผม เป็นต้น ร้านตัดเย็บเส้ือผ้า จะมีเศษผ้าชนิดต่าง ๆ เช่น ผ้าไหม ผ้ายืด
เป็นต้น

6

วสั ดุเหลอื ใช้แบ่งตามประเภท ไดด้ งั น้ี
1. วัสดจุ ากธรรมชาติ เชน่ เศษไม้ เปลือกขา้ วโพด เปลือกถั่วลิสง เปลือกไข่ เป็นตน้
2. พลาสติก เช่น ขวดน้าอัดลม ขวดน้าเปล่า กระป๋องแป้ง เส้นพลาสติกรัดของ ถุงห่อ
ขนม ถุงนม ขวดนา้ ยาล้างจาน เป็นต้น
3. แกว้ เชน่ ขวดแก้วเครอ่ื งดืม่ บารุงสุขภาพ เคร่อื งด่มื ชกู าลัง ขวดน้าปลา เป็นต้น
4. โลหะ เช่น เศษเหล็ก เส้นลวด น็อต ตะปู สงั กะสกี ระป๋องนม เป็นต้น
5. กระดาษ เชน่ กระดาษหนังสอื พมิ พ์ วารสาร นิตยสาร กล่องกระดาษ เป็นต้น
6. ผ้าหรือเศษด้าย เช่น เศษผ้าไหม เศษผ้ายืด เศษผา้ ฝา้ ย เป็นต้น
7. ประเภทอ่ืนๆ เช่น โฟม กระดมุ เศษกระเบ้อื ง ขี้เลอ่ื ย เป็นตน้
(วรรณี วงศพ์ านชิ ย์, 2546 : 51-53)

2.3 ความรูเ้ กย่ี วกับการรีไซเคลิ
รีไซเคิล (อังกฤษ : Recycle) เป็นการจัดการวัสดุเหลือใช้ท่ีกาลังจะเป็นขยะ โดยนาไปผ่าน

กระบวนการแปรสภาพ โดยเฉพาะการหลอม เพื่อให้เป็นวัสดุใหม่แล้วนากลับมาใช้ได้อีก ซ่ึงวัสดุ
ที่ผ่านการแปรสภาพนั้นอาจจะเป็นผลิตภัณฑ์เดิมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ก็ได้ รีไซเคิลมีความหมายต่างจาก
รียูส (Reuse) ซึ่งหมายถึง การนากลับมาใช้ใหม่โดยไม่ผ่านกระบวนการแปรสภาพใด ๆ ท้ังส้ินในความ
เข้าใจของคนบางกลุ่มนั้น การรีไซเคิลยัง หมายถึง การนาวัสดุเหลือใช้กลับมาปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือ
พฒั นารูปร่างใหม่ ให้สามารถนามาใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่น ๆ เชน่ ขวดน้าพลาสติกหากนามาใช้ใส่น้า
อีกครั้งเป็น การรียสู (reuse) แต่ถ้านาเอาขวดน้าพลาสติกมาตดั ให้เป็นกระป๋องแล้วนาไปใชต้ ัดดินบรรจุ
ในถุง หรือนาขวดพลาสติกมาตัดคร่ึง เป็นแจกันใส่ดอกไม้ หรือเป็นที่ใส่ปากกา มักถูกเรียกว่า
เป็นการรีไซเคลิ ขวดน้าพลาสตกิ

การรไี ซเคิลได้รับการปฏบิ ัตทิ ่ัวไปในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาตโิ ดยส่วนใหญ่ดว้ ยความสนับสนุน
ที่ได้รับการบันทึกไว้ย้อนกลับไปในอดีตอันยาวนานในยุคของเพลโตเมื่อ 400 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วง
ระยะเวลาเมื่อทรัพยากรเริ่มหายากข้ึนน้ัน จากการศึกษาทางโบราณคดีเกี่ยวกับการท้ิงขยะของเสีย
ในยุคโบราณแสดงให้เห็นว่า หลักฐานตัวอย่างขยะจากบ้านเรือนท่ีมีจานวนปริมาณเล็กน้อย (เช่น ถ้า
เคร่ืองมือหักและเคร่ืองป้ันดินเผา) ได้บ่งบอกถึงการท่ีมีขยะของเสียจานวนไม่น้อยได้ถูกนากลับมาใช้ใหม่
ในกรณีที่ไม่มวี ัสดุใหม่มาแทนของเดิม (แพนตา สลี าโล้, 2564 : 10-12)

2.4 ขวดนา้ พลาสติก
2.4.1 ประเภทของขวดน้าพลาสตกิ
สุนทร ตรีนันทวัน (2565) กล่าวไว้ว่าชนิดของขวดพลาสติกที่ใช้เก้าอ้ีขวดคือ พอลิเอทิลีน,

Low-density Polyethylene พอลิเอทิลีนผลิตจากแก๊สเอทิลีนท่ีผ่านกระบวนการเติมสารที่ทาให้
สามารถ จับตัวกันเป็นพอลิเมอร์ได้ภายใต้แรงดันขนาดต่าง ๆ ทาให้ได้พอลิเมอร์ที่มีขนาดต้ังแต่น้าหนัก
โมลิกุลต่า (ลักษณะเป็นนา้ มันหรอื ไขขน้ ) ไปจนถงึ ขนาดโมเลกุลสูง (ลักษณะเปน็ ของแขง็ ทยี่ ดื หยนุ่ ได้)

คุณสมบตั ิทางกายภาพ
1. LDPE เป็นโพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่า (0.910 - 0.940 กรัมต่อลูกบาศก์
เซนติเมตร) ที่ผลิตโดยใช้ แรงดันสูงจากกระบวนการ Free Radical Polymerization มีความเหนียวและ
ยืดหยุ่นได้ดีทนต่อการกรอบ แตก มีความน่ิม ความใสแต่ใสไม่เท่าพลาสติกชนิด PP (Polypropylene,

7

สัญลักษณ์เลข 5) โครงสร้างทางเคมี เป็นก่ิงสาขา (branching) มากกว่าโครงสร้างทางเคมีของ HDPE
(High-density polyethylene, สัญลักษณ์ เลข 2) จึงมีแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลของพอลิเมอร์ ต่ากว่า
และมีความแขง็ แรงทนทานน้อยกว่า HDPE LDPE ทนความร้อนได้ไมม่ ากนกั แตท่ นสารเคมีไดด้ ี โดยทน
ความร้อน (ทนอุณหภูมิสูงถึง 80 °C และทนอุณหภูมิสูงถึง 95°C ในช่วงสั้น ๆ ) แต่ไม่สามารถทน
อุณหภูมิสูงในหม้ออัดไอน้า (Autoclave) เท่าพลาสติกชนิด PP และทน ต่อสารเคมีน้อยกว่า HDPE
เร่ิมหลอมตัวท่ี 120 °C ทนความเย็นได้ถึง -50 °C ทนต่อสภาพอากาศได้ดีพอสมควร แต่อากาศ
สามารถซมึ ผ่านได้

2. LDPE มสี ขี าวขนุ่ โปร่งแสง มีความล่ืนมันในตวั มคี วามเหนียวและยืดหย่นุ ไม่มีกล่ิน
ไม่มีรส มีความหนาแน่นต่ากว่าน้าจึงลอยน้าได้ สามารถผสมให้มีสีต่าง ๆ ได้ ขวดท่ีนิยมใช้ในการบรรจุ
น้าดม่ื ในปจั จบุ ันมอี ยู่ 4 ชนิด คือ

2.1 ขวดแก้วใส
2.2 ขวดพลาสติกใสและแข็ง (Polystyrene - PS) มลี ักษณะใสและค่อนขา้ งแข็ง
2.3 ขวดพลาสติกเพท (Polystyrene terephthalate - PET) มลี กั ษณะใส
2.4 ขวดพลาสติกขุ่น (Hight - density - Polystyrene - HDPE) มีลักษณะกลมหรือ
เป็นเหลี่ยม มีลักษณะขาวขุ่น
ขวดนา้ ดื่ม 3 ชนิดแรกใช้บรรจุน้าดื่มได้ดีกว่าขวดพลาสตกิ ขาวขุ่น เคยมีการทดลองนา
น้าดื่มบรรจุขวดสีขาวขุ่นไปตั้งกลางแดดนาน ๆ จะมีกลิ่นของพลาสติกปนออกมากับน้าดื่ม ถึงแม้จะไม่
เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค แต่ก็ทาให้คุณภาพของน้าลดลง และขวดใสยังมีความใสทาให้เรามองเห็น
ลกั ษณะของนา้ ดมื่ ภายในได้ชัดเจน
ขวดพลาสติกต่าง ๆ ดังที่กล่าวมานั้น ปกติแล้วมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพียงครั้ง
เดียวแต่อย่างไรก็ตามสามารถนามาใช้ได้อีก แต่ต้องล้างให้สะอาดทุกคร้ัง และท้ิงไว้ให้แห้งสนิทก่อน
จะนามาใช้บรรจุน้าใหม่ทุกคร้ัง เพ่ือป้องกันเช้ือจุลินทรีย์หรือเช้ือโรคท่ีตกลงไปในขวด และถ้าหากว่า
ใช้ไปนาน ๆ หลาย ๆ คร้ังต้องหมั่นสังเกตการเปล่ียนแปลงของขวดหรือพลาสติก เช่น สีเร่ิมเปล่ียนไป
จากใสเป็นขุ่นมัวมากขึ้น ขวดมีรอยขูดขีด เน้ือพลาสติกเปราะ แตก ก็ไม่ควรนากลับมาใช้ อีก
เพราะพลาสตกิ ที่ใช้ทาขวดน้ันเร่ิมเปลีย่ นเสียสภาพแลว้

2.5 พลาสติก
พลาสติก (Plastic) คือ สารท่ีสามารถทาให้เป็นรูปต่าง ๆ ใส่ด้วยความร้อน พลาสติกเป็น

พอลเิ มอรข์ นาดใหญ่มวลโมเลกุลมาก
2.5.1 สมบตั ทิ วั่ ไปของพลาสติก
1. มคี วามเสถยี รมากในธรรมชาติ สลายตัวยาก มีมวลน้อย และเบา
2. เปน็ ฉนวนความรอ้ นและไฟฟ้าท่ดี ี
3. ส่วนมากอ่อนตัวและหลอมเหลวเม่ือได้รับความร้อน จึงเปล่ียนเป็นรูปต่าง ๆ
ได้ตามประสงค์
2.5.2 ประเภทของพลาสติก
1. เทอร์โมพลาสติก เมื่อได้รับความร้อนจะอ่อนตัว และเมื่อเย็นลงจะแข็งตัว สามารถ

เปลี่ยนรูปได้ พลาสติกประเภทน้ีโครงสร้างโมเลกุลเป็นโซ่ตรงยาว มีการเช่ือมต่อระหว่างโซ่พอลิเมอร์

8

น้อยมาก จึงสามารถหลอมเหลว หรือเม่ือผ่านการอัดแรงมากจะไม่ทาลายโครงสร้างเดิม ตัวอย่าง
พอลิเอทิลนี พอลิโพรพลิ นี พอลิสไตรนี

2. พลาสติกเทอร์โมเซต จะคงรูปหลังการผ่านความร้อนหรือความดันเพียงคร้ังเดียว
เม่ือเย็นลงจะแข็งมาก ทนความร้อนและความดัน ไม่ซ่อนตัวและเปล่ียนรูปร่างไม่ได้ แต่หากอุณหภูมิสูง
ก็จะแตกและไหม้เป็นข้ีเถ้าสีดา พลาสติกประเภทนี้ โมเลกุลจะเช่ือมโยงกันเป็นร่างซ้อนทับกันแน่น
แรงยดึ เหน่ยี วระหว่างโมเลกุลเเข็งเเรงมากจึงไม่สามารถนามาหลอมเหลวได้ ตัวอย่าง เมลามนี พอลิยูรเี ทน

2.5.3 พลาสติกรีไซเคิล (Plastics recycling)
พลาสติกเป็นวัสดุที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจาวันของเราเป็นอย่างมาก และ

มีแนวโน้มการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นเพราะใช้ทดแทนทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ไม้และเหล็กได้เป็นอย่างดี
และมีราคาถกู น้าหนกั เบาสามารถผลิตให้มีสมบตั ิตา่ ง ๆ ตามท่ีต้องการได้จากการเลอื กชนิดของวัตถดุ ิบ
ปฏิกิริยาเคมี กระบวนการผลิตและกระบวนการขึ้นรูป นอกจากน้ียังสามารถปรุงแต่งสมบัติ ได้ง่าย
โดยการเติมสารเติมแต่ง (Additives) เช่น สารเสริมสภาพพลาสติก (Plasticizer) สารปรับปรุงคุณภาพ
(Modifier) สารเสริม (Filler) สารคงสภาพ (Stabilizer) สารยับยั้งปฏิกิริยา (Inhibitor) สารหล่อ
ลนื่ (Lubricant) และผงสี (Pigment) เป็นตน้

ด้วยเทคโนโลยีการผลิตท่ีก้าวหน้า และทันสมัยในปัจจุบันทาให้เรามีผลิตภัณฑ์
พลาสติกหลากหลายรูปแบบ และสีสันให้เลือกใช้อย่างมากมาย ด้วยสมบัติท่ีโดดเด่นหลายด้านทาให้
พลาสติกได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วและมีปริมาณการใช้งานเพิ่มสูงขึ้นเร่ือย ๆ ส่งผลให้เกิดขยะ
พลาสติกในปริมาณสูงมากข้ึนตามด้วย ดังนั้นการนาพลาสติกกลับมาใช้ใหม่หรือการรีไซเคิลจึงได้รับ
ความสนใจเป็นอย่างมากเพราะนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกแล้วยังเป็นการใช้ทรัพยากร
อย่างคุ้มค่าอีกด้วย การพัฒนาทางเทคโนโลยีในช่วงหลายปีท่ีผ่านมาทาให้การรีไซเคิลพลาสติกมีอยู่
ด้วยกันหลายวิธี โดยแบ่งเป็น 4 ประเภทหลัก คือ การรีไซเคิลแบบปฐมภูมิ (Primary recycling)
การรีไซเคิลแบบทุติยภูมิ (Secondary recycling) การรีไซเคิลแบบตติยภูมิ (Tertiary recycling)
และการรไี ซเคลิ แบบจตภุ มู ิ (กรณ์กวี ดวงลวิ งษ์, 2565)

2.6 แนวคดิ เกย่ี วกับเศรษฐกิจพอเพียง
2.6.1 ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพียง
วัลลภ พรหมทอง (2544 : 8) กล่าวถึง เศรษฐกิจพอเพียงว่าเป็นแนวทางในการดาเนินชีวิต

ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจแบบพึ่งตนเอง พออยู่พอกิน ซึ่งเก่ียวข้องกับการผลิตและรวมท้ังวิถีชีวิตวิธีคิด
จติ สานึกของคน วฒั นธรรม วทิ ยาศาสตร์และธรรมชาติ ซง่ึ จะส่งผลต่อการพฒั นาท่ยี ั่งยนื มน่ั คงตลอดไป

สุนทร กุลวัฒนาวรพงศ์ (2544 : 63) กล่าวว่า เศรษฐกิจพอเพียงเป็นการดารงชีวิตในความ
พอดี มชี วี ิตใหม่ คอื หวนกลับมาใช้วิถีชวี ติ ไทยที่จะทาใหช้ าติบา้ นเมอื ง และตวั เราหลดุ พ้นจากความทกุ ข์
และมคี วามสขุ ในท่สี ดุ

บูรชัย ศิริมหาสาคร สัมฤทธ์ิ ศุภมัง และพัดชา กวางทอง (2546 : 149) กล่าวว่าเศรษฐกิจ
พอเพียงเป็นแนวคิดเรื่องการดาเนินชีวิตโดยเน้นหลักการพ่ึงตนเองและช่วยตนเองให้มากท่ีสุด โดยใช้
ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย และถ้ามีเหลือก็ให้ออมไว้ และเม่ือตนเองมีความเข้มแข็งสามารถ
พง่ึ ตนเองไดแ้ ล้ว กร็ ว่ มมือกันพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนใหเ้ ขม้ แขง็

คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง (2549 : 4) กล่าวว่า เศรษฐกิจพอเพียงเป็น
ปรัชญาช้ีถึงแนวการดารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับต้ังแต่ระดับครอบครัวระดับชุมชน

9

จนถึงระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทางสายกลางโดยเฉพาะการพัฒนา
เศรษฐกิจเพอ่ื ให้กา้ วทันตอ่ โลกยุคโลกาภวิ ัตน์ ความพอเพยี ง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล
รวมถึงความจาเป็นท่ีจะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจาก
การเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ความรอบคอบ และความ
ระมัดระวังอย่างย่ิงในการนาวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการทุกขั้นตอน และ
ขณะเดียวกนั จะตอ้ งเสริมสร้างพนื้ ฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะเจ้าหนา้ ท่ีของรัฐ นักทฤษฎีและนัก
ธรุ กิจในทุกระดับ ให้มีสานึกในคณุ ธรรมความซือ่ สัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดาเนินชีวิต
ด้วยความอดทน ความเพียร มีสติปัญญาและความรอบคอบ เพ่ือให้สมดุลและพร้อมต่อการรับรองการ
เปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางท้ังด้านวัตถุสังคมส่ิงแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอก
ไดเ้ ป็นอยา่ งดี

สุเมธ ตันติเวชกุล (2550 : 21-22) ให้ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียงว่า หมายถึงเศรษฐกิจ
ที่สามารถอุ้มชูตัวเองอยู่ได้โดยไม่ต้องเดือดร้อน โดยต้องสร้างพ้ืนฐานทางเศรษฐกิจให้ดีเสียก่อน คือ
ตั้งตัวให้มีความพออยู่พอกินพอใช้ ไม่ใช่มุ่งหวัง แต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญยกเศรษฐกิจให้รวดเร็ว
แต่เพยี งผู้เดียว เพราะผู้ที่มีอาชพี และฐานะเพียงพอทีจ่ ะพึ่งตนเองย่อมสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้า
และฐานะทางเศรษฐกิจท่สี งู ขึน้ ไปตามลาดบั ต่อไปได้

จากการท่ีมีผู้ให้ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียงไว้หลายท่านดังกล่าวข้างต้น สรุปได้ว่า
เศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง เป็นแนวทางในการดาเนินชีวิต ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจแบบพ่ึงตนเอง พออยู่
พอกิน เป็นกรอบแนวคิด ซ่ึงมุ่งให้ทุกคนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ รวมถึงการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จนเกิดความ
ยัง่ ยืน

2.6.2 กรอบแนวคดิ ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (2549 ข : 12-14)
ไดใ้ ห้หลกั การพิจารณาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงไว้ 5 ส่วน ดังนี้

1. กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาท่ีช้ีแนะแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนในทางท่ีควร
จะเปน็ โดยมพี ื้นฐานมาจากวิถีชีวติ ด้ังเดิมของสงั คมไทย สามารถนามาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลาและเป็น
การมองโลกเชิงระบบท่ีมีการเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยและวิกฤต
เพอ่ื ความมน่ั คงและความยงั่ ยืนของการพัฒนา

2. คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนามาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ใน
ทกุ ระดับ โดยเนน้ การปฏิบัตบิ นทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเปน็ ขั้นเป็นตอน

3. คานิยามความพอเพียงจะตอ้ งประกอบด้วย 3 คณุ ลกั ษณะพร้อม ๆ กันดงั น้ี
3.1 ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดที ่ไี มน่ ้อยเกินไป และไม่มากเกินไป

โดยไมเ่ บยี ดเบียนตนเองและผู้อน่ื เช่น การผลติ และการบริโภคท่อี ยูใ่ นระดับพอประมาณ
3.2 ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเก่ียวกับระดับความพอเพียงน้ัน

จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เก่ียวข้องตลอดจนคานึงถึงผลที่คาดว่า
จะเกิดขึน้ จากการกระทานนั้ ๆ อยา่ งรอบคอบ

3.3 การมีภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ
และการเปล่ียนแปลงด้านตา่ ง ๆ ท่จี ะเกิดข้ึน โดยคานึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณต์ า่ ง ๆ ทค่ี าดว่า
จะเกดิ ขึน้ ในอนาคตทงั้ ใกลแ้ ละไกล

10

4. เง่ือนไข การตัดสินใจและการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้นต้อง
อาศยั ทัง้ ความร้แู ละคุณธรรมเปน็ พ้นื ฐาน กล่าวคอื

4.1 เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนาความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน
เพื่อประกอบการวางแผน และความระมัดระวงั ในขั้นปฏบิ ัติ

4.2 เงื่อนไขคุณธรรม ท่ีจะต้องเสริมสร้างประกอบด้วยความตระหนัก
ในคุณธรรมมีความซอ่ื สตั ย์สุจรติ และมคี วามอดทน มคี วามเพยี ร ใชส้ ติปัญญาในการดาเนนิ ชีวิต

5. แนวทางปฏิบัติ / ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการนาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมา
ประยุกต์ใช้ คือ การพัฒนาที่สมดุลและย่ังยืน พร้อมรับต่อการเปล่ียนแปลงในทุก ๆ ด้านทั้งด้าน
เศรษฐกิจ สังคม ส่ิงแวดล้อม ความรู้และเทคโนโลยี (สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ
และสังคมแหง่ ชาติ, 2549 ข : 14)

2.7 การนาหลักอทิ ธบิ าทธรรม 4 มาประยกุ ตใ์ ช้ในโครงงาน
2.7.1 ความหมายของอิทธบิ าทธรรม 4
อิทธิบาทธรรม 4 ประการเป็นหลักธรรมที่สาคัญในพระพุทธศาสนา ได้มีนักปราชญ์

ให้ความหมายของอิทธบิ าทธรรมไวด้ ังนี้
พุทธทาสภิกขุ (2537 : 90) ได้ให้ความหมายไว้ว่า อิทธิบาท แยกเป็น “อิทธิ” แปลว่า

ความสาเร็จ “บาท” แปลว่า ฐาน เชิงรอง ดังน้ัน อิทธิบาท จึงแปลว่า รากฐานแห่งความสาเร็จ
ซ่งึ มี 4 อยา่ ง คอื ฉนั ทะ วริ ิยะ จิตตะ วมิ งั สา

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) (2545 : 40) ได้เขียนเกี่ยวกับอิทธิบาท 4 สรุปได้ว่า
หลักธรรมท่ีไม่เคยล้าสมัย หรือหลักธรรมอันเป็นหลักแห่งความสาเร็จ 4 ประการ ท่ีในปัจจุบันแม้เรา
จะหลงลืมกันไปบ้างว่า คืออะไร แต่ถ้าหากได้ย้อนราลึกกันบ้างว่า มีอะไร และคืออะไรจะเห็นได้ว่า
หลกั ธรรมอายุ 2,600 ปนี ้ี ไมม่ ีคราวใดท่จี ะเรียกว่าลา้ สมัย

1) ฉันทะ เพราะเหตวุ ่าทรงรักสง่ิ ท่ีทรงทาจงึ ได้ทาสิง่ ท่ที าอยใู่ นขณะน้ี
2) วิริยะ คอื ความพากเพยี ร ความพยายามไมย่ อ่ ท้อ
3) จิตตะ คือความเอาพระทัยจดจ่อในสิ่งที่ทรงทา เพราะฉะนนั้ ท่านจึงทาได้
4) วิมงั สา ทางานแลว้ ไมท่ งิ้ คอยตรวจสอบ ทบทวน ไตร่ตรอง พิจารณา ดังนนั้ หลกั ความสาเร็จ
ปฏิบัติตามหลักธรรม ที่จะนาไปสู่ความสาเร็จแห่งกิจการ ที่เรียกว่า อิทธิบาท (ธรรมให้ถึงความสาเร็จ)
ซ่ึงมี 4 ข้อ คือ 1) ฉันทะรักงาน (การเห็นคุณค่า ความรัก ความพอใจ) คือ มีใจรัก พอใจจะทาสิ่งนั้น
และทาด้วยใจรัก ต้องการ ทาให้เป็นผลสาเร็จอย่างดีแห่งกิจหรืองานที่ทา มิใช่สักว่าทาพอให้เสร็จ ๆ
หรอื เพียงเพราะอยา่ งได้รางวัลหรือผลกาไร 2) วริ ิยะ สู้งาน (ความเพียร เห็นเปน็ ความท้าทาย ใจสู้ ขยัน)
คือ พากเพียรทาขยันหมั่นประกอบ หม่ันกระทาสิ่งนั้นด้วยความพยายามเข้มแข็งอดทน เอาธุระ
ไมท่ อดท้งิ ไม่ทอ้ ถอยก้าวไปขา้ งหน้าจนกว่าจะสาเร็จ 3) จิตตะ ใสใ่ จงาน (ความคดิ อุทิศตัวต่องาน ใจจด
จ่อ จริงจงั ) คอื เอาจิตฝักใฝ่ ต้งั จติ รบั รู้ในสงิ่ ทีท่ า และทาสิ่งนั้นด้วยความคดิ ไม่ปล่อยจติ ใจให้ฟุ้งซ่านเลอ่ื น
ลอย ใช้ความคดิ ในเร่อื งนั้นบ่อย ๆ เสมอ ๆ ทากจิ หรอื งานนน้ั อยา่ งอทุ ศิ ตัวอุทิศใจ 4) วิมังสา ทางานดว้ ย
ปัญญา (ไตร่ตรอง พิสูจน์ ทดสอบ ตรวจตรา ปรับปรุงแก้ไข) ใช้ปัญญาสอบสวน คือ หมั่นใช้ปัญญา
พจิ ารณาใครค่ รวญตรวจตราหาเหตุผล และตรวจสอบข้อย่ิงหยอ่ นเกินเลยบกพรอ่ งขัดขอ้ งในสงิ่ ทท่ี าน้ัน

11

โดยร้จู กั ทดลอง วางแผน วดั ผล คิดคน้ วธิ ี แก้ไขปรับปรุง เปน็ ต้น เพื่อจัดการและดาเนินงานน้ันใหไ้ ดผ้ ลดี
ยิ่งขน้ึ ไป และสามารถต่อยอดองค์ความรู้ใหม่หรือนวตั กรรมใหม่ได้

พระธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) (ม.ป.ป. : 150) ได้อธิบายว่า อิทธิบาท คือ ทางที่จะ
ไปสู่ความสาเร็จ 4 ประการ คือ 1) ฉันทะ ความพอใจ 2 วิริยะ ความเพียร 3) จิตตะ ความเอาใจใส่
และวิมังสา ไตร่ตรองค้นคว้าในสิ่งนั้น ๆ ถ้าเรารักสิ่งนั้น เอาใจใส่ส่ิงนั้น มันก็ก้าวหน้า การคิด การทาก็
ก้าวหนา้ ต่อไป เพราะเรารักส่งิ น้นั ถ้าไมร่ ักมนั กไ็ ปไม่ได้

พระธรรมปิฏก (ป.อ.ปยุตโต) (2543 : 842-846) กล่าวว่า อิทธิบาท แปลว่า ธรรมเครอ่ื งให้ถึง
อิทธิ (ฤทธิ์หรือความสาเร็จ) หรือธรรมท่ีเป็นเหตุให้ประสบความสาเร็จหรือแปลง่าย ๆ ว่าทางแห่ง
ความสาเร็จมี 4 อย่างคือ ฉันทะ (ความพอใจ) วิริยะ (ความเพียร) จิตตะ (ความคิดจดจ่อ) และวิมังสา
(ความสอบสวนไตร่ตรอง) แปลให้จาง่ายตามลาดับว่า มีใจรัก พากเพียรทาเอาจิตฝักใฝ่ ใช้ปัญญา
สอบสวน อิทธิบาท มาจากคา 2 คา คือ อิทธิ หมายถึง ความสาเร็จ ความสัมฤทธ์ิ การบรรลุผล
และ บาท หมายถึง วิถีทาง เป็นรากฐานท่ีนาไปสู่ความสาเร็จ ดังนั้น อิทธิบาท หมายถึง วิถีทางที่จะ
นาไปสู่ความสาเร็จ เป็นหลักในการสร้างความสาเร็จให้แก่ตนเอง เป็นหลักธรรมท่ีนามาใช้ในการ
ประกอบกิจ ซ่งึ จะนาไปสู่ความสาเรจ็ โดยความหมายของความสาเรจ็ น้ัน ควรเป็นความสาเร็จในทางท่ดี ี
ทางสร้างสรรค์ มากกว่าความชั่วทางทาลาย หลักธรรมนี้เรียกอีกอย่างว่าธรรมสามัคคี เป็นหลักธรรม
ท่กี ารปฏิบัติท่ีเกี่ยวโยงกนั ผู้กระทาจะต้องร่วมกันกระทาทงั้ 4 ข้อ ถึงจะไปถงึ ความสาเร็จที่หวังไว้จะทา
เพียงข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้ อิทธิ แปลว่า ความยิ่งใหญ่ บาท แปลว่า ทางเดิน อิทธิบาท จึงแปลว่า ทางเดิน
ท่ีจะนาไปสู่ความย่ิงใหญ่นั่นเอง ถ้าเราปรารถนาจะประสบความสาเร็จในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการงานก็ดี
การศกึ ษากด็ ี หรอื กจิ การงานใด ๆ กต็ าม เราต้องใช้อิทธิบาท 4

จากที่กล่าวมาสรุปได้ว่า อิทธิบาท 4 หมายถึง หลักธรรมที่ปฏิบัติเพื่อเอาชนะปัญหา
และอุปสรรคต่าง ๆ เป็นหนทางนาไปสู่ความสาเร็จในหนา้ ที่การงานต่างๆตามท่ีมุ่งหวังไว้ ซึ่งเม่ือทาการ
งานใดก็ตามประกอบด้วยฉันทะ (ความพอใจ) วิริยะ (ความเพียร) จิตตะ (ความคิด) และวิมังสา
(ความไตรต่ รอง) และสามารสรา้ งความสาเร็จในโครงงานท่นี ักเรียนคดิ ค้นริเริ่มสร้างนวตั กรรมใหม่ได้

2.4.1 ความสาคัญของอทิ ธบิ าทธรรม 4
พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) (2542 : 190) ใหค้ วามสาคัญของหลักอีทธิบาท 4 ว่าอิทธบิ าท 4
นี้ มีความสาคัญต่อการเรียนรู้และเป็นปัจจัยสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ความพอใจอย่างเดียวก็ไม่สามารถ
สร้างผลแหง่ ความสาเร็จของการเรียนรู้ ผู้เรียนต้องมีความพอใจแล้วพยายามขวนขวายหาความรู้บ่อย ๆ
โดยไม่เลิกกลางคัน มีความเพียร พิจารณาหาข้อบกพรอ่ งในการเรยี น แล้วปฏิบตั ิส่ิงทเี่ ก้อื กูลต่อการเรียน
ลด ละเลกิ สง่ิ ทไี่ ม่เกอื้ กลู ตอ่ การเรยี น เพอื่ ให้ประสบความสาเร็จในการศกึ ษาเลา่ เรียนของตน
พระเมธีธรรมมาภรณ์ (ประยูร รมมจติ โต) (2539 : 10) กล่าวว่า อิทธิบาท 4 นอกจากจะเป็น
คุณธรรมที่นาไปสู่ความสาเร็จในงานที่ทาแล้ว อิทธิบาทยังเป็นอายุวัฒนธรรมคือ ธรรมเป็นเหตุให้คน
มีอายุยืนยาวอีกด้วย ดังที่มีพุทธดารัสรับรองไว้ในมหาปรินิพพานสูตว่า "ยสส กสส อานนท จตตาโร
อิทธิปาทา" เป็นต้น แปลความว่า "อานนท์ อิทธิบาท 4 บุคคลใดเจริญ ทาให้มาก ทาให้เป็นดุจยาน
ทาให้เป็นพ้ืนฐานต้ังไว้ อบรม เร่ิมไว้ดีแล้ว บุคคลนั้นเมื่อปรารถนาก็พึงดารงชีวิตอยู่ตลอดกัปหรือเกิน
กว่ากัป" พระอรรถกถาจารย์อธิบายว่า การเจริญอิทธิบาททาให้คนมีชีวิตอยู่ตลอดอายุกัป หมายถึง
มชี ีวิตอย่ไู ดจ้ นครบเกณฑอ์ ายขุ ยั ประมาณได้ 100 ปี หรือมากกวา่ นนั้
สุทธิพงษ์ ศรีวิชัย (2550 : 239) ได้เขียนไว้ว่า อิทธิบาท 4 มีความสาคัญเป็นอย่างมาก ท้ังนี้
ก็เพราะว่าการฝึกหัดคนให้มีคุณธรรมตามหลักอิทธิบาทธรรม 4 นี้จัดเป็นการใช้ปัญญาในการพิจารณา

12

หาเหตุผลและกระบวนการทางาน โดยวิมังสาเป็นผลของจิตตะ คือเม่ือตรวจตราดูแล้วเห็นว่า
การทางานของตนยังบกพร่องอยู่หรือผิดวัตถุประสงค์ อีกอย่างหน่ึงคือพิจารณาหาเหตุผลในการทางาน
ตามขั้นตอน งานที่ลงมือทาแล้วนั้นได้ผลเป็นขั้น ๆ อย่างไร เป็นการทบทวนผลว่าเป็นท่ีพึงปรารถนา
หรือไม่ถ้าได้ผลไม่เป็นท่ีน่าพอใจหรือได้ผลท่ีไม่พึงปรารถนา ก็จัดการแก้ไขหรือปรับปรุงตามกระบวนการ
อทิ ธบิ าท 4 นนั้

จากท่ีกล่าวมาสรุปได้ว่าความสาคัญของอิทธิบาท 4 มีความสาคัญต่อการเรียนการสอนเป็น
อย่างมาก เพราะถ้าขาดหลักอิทธิบาท 4 แล้ว ย่อมทาให้บุคคลน้ันไม่ประสบความสาเร็จในการเรียน
เพราะอิทธิบาทธรรม 4 จะทาให้บุคคลท่ีนาไปปฏิบัติน้ัน เกิดสร้างความพอใจในหน้าที่การงานของตน
พร้อมท้งั มีความขยันหมั่นเพียรเอาใจใส่ในหน้าที่ของตน และกลับมาทบทวนไตร่ตรอง หาข้อผิดพลาดที่
เกิดข้นึ แล้วจึงนาขอ้ ผดิ พลาดน้นั ไปแกไ้ ขใหด้ ยี ิ่งขน้ึ ไป

2.4.2 ประโยชนข์ องอทิ ธิบาทธรรม 4
ประโยชน์ของฉันทะ คือ ทาใหเ้ ปน็ ผมู้ ีความพอใจ และมใี จรักตอ่ งาน ทาใหเ้ กิดความรู้สึกเตม็ ใจ
ในการทางาน เกิดการทางานด้วยความสุข ไม่รู้สึกเบ่ือหน่ายง่าย ไม่เกิดอาการท้อแท้ ช่วยให้งานดาเนิน
ต่อไปอย่างต่อเนื่อง และเกิดการสร้างสรรค์ในงาน ประโยชน์ของวิริยะ คือ ทาให้เป็นคน ม่ันเพียร
และขยันในการทางาน ไม่มีความเกียจคร้าน มุ่งมั่นที่จะทางานให้เสร็จ ผู้ท่ีขาดความขยัน ย่อมทางาน
ขาด ๆ เกิน ๆ หรือมักทางานนั้นไม่สาเร็จ หรือหากสาเร็จก็สาเร็จล่าช้า และไมม่ ีประสทิ ธภิ าพประโยชน์
ของจิตตะ คือ ทาให้เป็นคนมีความมุ่งม่ัน และจดจ่อกับงานที่ทาจิตมีความแน่วแน่ และม่ันคงต่อปัญหา
ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ช่วยให้งานดาเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องตามกระบวนการ ทราบความเป็นไปของงานอยู่
เสมอ ประโยชน์ของวิมังสา คือ ทาให้เป็นผู้ที่รู้จักคิด วิเคราะห์ในงาน ช่วยทาให้ทราบ และเข้าใจใน
กระบวนการของงาน และหากเกิดปัญหาก็ย่อมเกิดแนวทางในการแก้ปัญหาน้ันได้อย่างง่ายดาย
งานไม่ผิดพลาด และทางานตามกรอบที่วางไว้ให้ประสบความสาเร็จ ถ้าขาดวิมังสาจะทาให้เป็น
คนทางานไม่มีหลักการ ทางานไม่มีแนวทาง ไม่มีแบบแผน ซ่ึงยากท่ีจะเกิดความสาเร็จได้โดยง่าย
ดังน้ัน ฉันทะ และวิริยะ เป็นหลักปฏิบัติที่ช่วยให้บุคคลมีความมั่นใจในการที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา
และอุปสรรคในการทางาน มีจิตตะ วิมังสา เป็นหลักปฏิบัติที่ช่วยในการเอาชนะปัญหา และอุปสรรค
ในการทางานเป็นไปอย่างมปี ระสทิ ธิภาพย่ิงข้นึ
อิทธิบาท 4 เปน็ แนวทางในการทางาน ให้ประสบความสาเร็จทพี่ ระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไวอ้ ย่าง
แยบคลาย อันประกอบด้วยแนวปฏิบัติ 4 ข้อ คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ซ่ึงใคร ๆ ก็ท่องได้จาได้
แต่จะมีสักก่ีคนท่ีปฏิบัติได้ครบกระบวนความท้ัง 4 ข้อ อันเป็น 4 ขั้นตอนที่ต่อเน่ืองหนุนเสริมกัน
จะขาดข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้ ด้วยว่ามันเป็นกระบวนการที่เชื่อมโยงกันทั้ง 4 ข้อ จึงจะทาให้เราประสบ-
ผลสาเร็จ ในชีวิตและการงานได้ตามความมุ่งหวัง ประโยชน์ของอิทธิบาท 4 ดังกล่าวน้ี จะเห็นได้ว่า
ฉันทะกับวิริยะ เป็นหลักปฏิบัติท่ีช่วยให้บุคคลมีความสามารถในการเผชิญปัญหาและอุปสรรคในการ
ทางานได้เป็นอย่างดี โดยมีจติ ตะและวิมังสา เป็นหลักปฏิบัติที่ช่วยให้การเอาชนะปัญหาและอุปสรรคใน
การทางานเป็นไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพย่งิ ข้ึน ซ่ึงในทีส่ ุดแลว้ ก็จะชว่ ยเสริมให้บุคคลมคี วามสามารถในการ
เผชิญปัญหาและอุปสรรคมากขึ้นน่ันเอง กล่าวโดยสรุป อิทธิบาทท้ังส่ีข้อน้ี เป็นทฤษฎีท่ีสมบูรณ์
พระพุทธเจา้ ทรงวางแนวป้องกนั อันตรายไวใ้ ห้ดว้ ยแลว้

13

บทท่ี 3
วธิ กี ารดาเนนิ โครงงาน

โครงงานสังคมศึกษา เรื่อง เก้าอี้รีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair”ระดับ
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1-3 คณะผู้ศกึ ษาคน้ คว้ามวี ธิ ดี าเนินการศกึ ษา ดังน้ี

3.1 วสั ดแุ ละอุปกรณ์เพ่อื ใช้ในการดาเนินงาน จานวน 1 ผนื
1. เศษผา้ จานวน 1 อัน
2. เขม็ เย็บผา้ เบอร์ใหญ่ จานวน 3 มว้ น
3. เทปกาวใสปดิ กลอ่ ง โอพีพสี ีนา้ ตาล กวา้ ง 23 นิ้ว จานวน 1 ผนื
4. แผ่นใยสงั เคราะห์ 1 เมตร ความหนา 1 น้ิว จานวน 1 อัน
5. กรรไกร จานวน 5 ม้วน
6. ลวดเส้นเล็ก จานวน 1 แผ่น
7. กระดาษลัง จานวน 1 แทง่
8. ปืนยงิ กาว กาวแทง่

3.2 วธิ กี ารดาเนินงาน
โครงงานสังคมศึกษา เร่ือง เก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair”

มีวธิ ีการดาเนินงาน 4 ขั้นตอน ดังน้ี
ข้นั ท่ี 1 สอดส่องมองปญั หา
ประชุมร่วมกันเพื่อวางแผนสารวจประเด็นปัญหาในการทาโครงงาน สรุปประเด็นปัญหา

กาหนดช่ือโครงงานและร่วมกันวางแผนในการศึกษาค้นคว้าหาขอ้ มลู ในการทาโครงงาน แล้วนาเสนอต่อ
ครูทปี่ รึกษา

ขั้นท่ี 2 นามาแปลงโฉม
2.1 แบบที่ 1 แบบทรงกลมโมเดิร์น
1) นาขวดน้าพลาสติกท่ีได้จากการคัดแยกจานวน 74 ขวด มาล้างให้สะอาดแล้วนาไปคว่า
ตากแดดไว้ใหแ้ หง้
2) นาขวดมาเรียงกันเปน็ วงกลมทั้งหมด 4 วง โดยเราจะเร่มิ ตน้ ทาจากวงด้านในสุด

2.1) วงในสุดใช้ขวดน้าจานวน 1 ขวด
2.2) วงท่สี องใช้ขวดนา้ จานวน 6 ขวด
2.3) วงทส่ี ามใช้ขวดนา้ จานวน 12 ขวด
2.4) วงนอกสดุ ใชข้ วดน้าจานวน 18 ขวด
ซง่ึ ในแตล่ ะวงจะยึดด้วยเทปใสเพื่อไม่ให้ขวดน้าพลาสติกขยับและมั่นคงแข็งแรง โดยทาทั้งหมด
2 ชั้น ชน้ั ละ 37 ขวด รวมท้งั หมดจานวน 74 ขวด
3) นาฟิวเจอร์บอร์ดมาตัดเปน็ วงกลมขนาดเสน้ ผา่ นศูนย์กลาง 39 เซนตเิ มตร ปดิ หวั ปิดทา้ ยแล้ว
ยึดดว้ ยเทปใส
4) บุด้านขา้ งและด้านบน ดว้ ยเส้นใยสงั เคราะหโ์ พลีเอสเตอร์
5) หมุ้ ดว้ ยเศษผา้ ท่เี ตรียมไว้หรอื วสั ดเุ หลอื ใชจ้ ากธรรมชาตเิ ปน็ อันเสร็จขน้ั ตอนการทา

14

2.2 เมื่อผลิตภัณฑ์มีความสวยงาม ใช้งานได้จริง ก็นาผลงานมาแสดงหน้าชั้นเรียน
พร้อมบรรยายผลกระทบจากขยะ เช่น ขวดน้าพลาสติก เชิญชวนให้เพื่อนในชั้นเรียน เข้าร่วมกิจกรรม
และชีแ้ จงแนวทางในการดาเนินโครงงานในช้ันเรยี น

2.3 สอนวิธีการนาขวดน้าพลาสติกมาแปลงโฉมเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้กับสมาชิกในช้ันเรียน
หลังจากนน้ั ประชาสัมพันธ์ใหเ้ พ่ือนร่วมช้ันเรียน นักเรียนในโรงเรียน คณะครูเข้าร่วมโครงงานนาความรู้
ถ่ายทอดสู่ชุมชนรอบ ๆ บริเวณโรงเรียน เพ่ือให้คนในชุมชนมีความรู้เกี่ยวกับการนาขวดน้ามาใช้
ประโยชน์เพ่ือเพิม่ มูลคา่

ขน้ั ท่ี 3 เปลยี่ นผลงานเปน็ เงนิ
เป็นข้ันตอนในการจาหน่ายผลิตภัณฑ์เพ่ือนาเงินมาสะสมเป็นต้นทุนในการแปลงโฉมขวดน้า
พลาสตกิ เปน็ เกา้ อ้ี และผลติ ภัณฑต์ ่าง ๆ ในราคาทแี่ ตกตา่ งกันออกไป ในงานตลาดนัดพอเพียงของโรงเรียน
ขัน้ ท่ี 4 เผยแพรผ่ ลงาน
1. ในโรงเรียน ประชาสัมพันธ์หน้าเสาธงและสอนวิธีการ ขั้นตอน การนาขวดน้าพลาสติกมา
แปลงโฉมเป็นผลติ ภณั ฑต์ ่าง ๆ ให้แก่นักเรยี นภายในโรงเรียน
2. สู่ชุมชน เผยแพร่ชมชนรอบ ๆ บริเวณโรงเรียนนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธิ์ สังกัดสานัก-
การศกึ ษา เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

3.3 แผนผงั ขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน

ข้นั ท่ี 1 สอดส่อง
มองปญั หา

ขนั้ ที่ 2 นามา รบั ผิดชอบโดย
แปลงโฉม กลมุ่ นว.๕ อาสา

ขั้นท่ี 3 เปล่ียน ทาความดี
ผลงานเป็นเงิน ดว้ ยหัวใจ

ขั้นท่ี 4 เผยแพร่
ผลงาน

ภาพประกอบที่ 3.1 ข้นั ตอนการดาเนินงาน

15

3.4 แผนการปฏบิ ัตโิ ครงงาน
1. การสารวจและคิดรปู แบบใหม่ ๆ และการอภปิ ราย / วิเคราะห์
2. การวางแผนทาโครงงาน ( ข้อ 1-2 ได้ดาเนินการปฏิบัติลว่ งหน้ามา 4 วนั )
3. การเตรียมวสั ดุ - อุปกรณ์ในการทาโครงงาน และการดาเนินการทาโครงงาน
4. รายงานผลการดาเนินงานของ โครงงาน
5. การแสดงผลงานโครงงาน
6. การสรปุ ผลการดาเนินโครงงาน
7. ได้เผยแพรใ่ หช้ ุมชน ผปู้ กครองและบุคลากรในโรงเรียนได้เรียนรู้ ปฏบิ ัติได้จานวน 5 ครั้ง
(กิจกรรมข้อที่ 3 -7 ได้ดาเนินการในช่ัวโมงชุมชุม และหลังเลิกเรียนสอนผู้ปกครองและบุคลากร

ทกุ วันเสาร์ - อาทิตย์)

3.5 การวดั และประเมนิ ผลโครงงาน (PDCA)
3.5.1 มกี ารวางแผน (Plan) รว่ มกนั ระหว่างนกั เรยี นและคุณครทู ่ีปรกึ ษาโครงงาน
1) แจ้งให้คุณครูท่ีปรึกษาทราบขอบเขตและวัตถุประสงค์ของการสร้างนวัตกรรม

โดยการประดิษฐ์เกา้ อ้รี ีไซเคลิ จากขวดพลาสติก
2) ประชมุ และช้ีแจงการทานวัตกรรมและร่วมระดมความคดิ ในการสรา้ งนวัตกรรมโดย

การประดิษฐ์เก้าอ้ีรไี ซเคิลจากขวดพลาสตกิ เพอ่ื ประโยชน์ในการใช้งาน สามารถรองรับน้าหนักได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ

3.5.2 ปฏบิ ตั ติ ามแผน (Do) ทดลองทา
1) สืบค้นจากแหล่งข้อมูลท่ีหน้าเชื่อถือได้ เพื่อประดิษฐ์เก้าอี้รีไซเคิลจากขวดพลาสติก

เช่น คน้ คว้างานวิจัย สัมภาษณผ์ ูท้ ่มี ีประสบการณ์
2) ร่วมจัดทานวัตกรรมการประดิษฐ์เกา้ อร้ี ไี ซเคลิ จากขวดพลาสติก
3) การนาไปปฏิบัติโดยการนาเสนอ ขั้นตอน วิธีการ คุณสมบัติ และกระบวนการของ

การประดิษฐ์เก้าอร้ี ีไซเคิลจากขวดพลาสตกิ
3.5.3 การทดสอบประสทิ ธภิ าพ (Check)

1) เก้าอ้ีจากขวดนา้ พลาสติกสามารถรบั นา้ หนกั ได้ไม่เกนิ 85 กิโลกรัม

2) เก้าอ้ีจากขวดน้าพลาสติกทนแรงกระแทกได้ดี ทดสอบจากการโยนลงจากท่ีสูง
ระยะ 4 และ 6 เมตร ยังคงสภาพเดิม

3.5.4 ปรับปรงุ และพัฒนา (Action)
เนื่องจากเก้าอี้รับนาหนักได้ไม่มากเพราะขวดน้าที่ใช้เป็นขวดน้าดื่มขนาด 600

มิลลิลิตรจึงต้องมีการศึกษาต่อยอดด้วยการนาเอาวัสดุจากธรรมชาติมาช่วยในการรองรับน้าหนัก
และทาให้เกิดความม่ันคงแข็งแรง เช่น ผักตบชวา หรือนาขวดน้าอัดลมมาใช้เป็นวัสดุในการทาเก้าอ้ี
เพราะมีความเหนยี วและหนา

16

เก้าอร้ี ไี ซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair”

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง เก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก
“Recycle Bottles Chair” ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1-3 คณะผู้ศึกษาค้นคว้าได้ดาเนินการนาขวด
พลาสติกท่ีใช้แล้วภายในโรงเรียน นามาประดิษฐ์เป็นเก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก โดยคานึงถึง
การนามาใช้ใหเ้ กิดประโยชน์อย่างคุ้มค่ามากทส่ี ดุ มีข้นั ตอน ดงั น้ี

แบบท่ี 1 แบบทรงกลมโมเดิร์น
1. นาขวดน้าพลาสติกท่ีผ่านการคัดแยกนาฉลากที่ติดกับขวดพลาสติกออก และนามาทา
ความสะอาด

2. นาขวดนา้ พลาสตกิ ไปผงึ่ ไว้ใหแ้ หง้

3. เตรยี มเทปกาวใส กรรไกร มดี สาหรบั ตัดและประกอบ

17

4. จากน้ันนาขวดพลาสติกที่ล้างทาความสาอาด จานวน 74 ขวด นาขวดมาเรียงกันเป็นวงกลม
ทัง้ หมด 4 วง โดยเราจะเรม่ิ ต้นทาจากวงด้านในสดุ

5. วงในสุดใช้ขวดน้าพลาสติกจานวน 1 ขวด และวงท่ีสอง ใช้ขวดน้าพลาสติกเรียงกันเป็นวง
จานวน 6 ขวดแล้วพนั ด้วยเทปใส

6. วงที่สามใช้ขวดน้าพลาสติกจานวน 12 ขวดแล้วพันด้วยเทปใสและวงสุดท้ายใช้ขวดน้า
พลาสติกจานวน 18 ขวดแล้วพนั ด้วยเทปใสถือว่าเสร็จในชั้นที่หน่ึงซ่ึงในชั้นท่ีหนึ่งเราใช้ขวดน้าพลาสติก
จานวน 37 ขวดและทาซ้าแบบเดมิ อีก 1 ช้ันซึ่งใชจ้ านวนขวดน้าพลาสติกจานวน 37 ขวดรวมทั้งสองช้ัน
ใชข้ วดนา้ พลาสตกิ จานวน 74 ขวด

18

7. นาขวดน้าพลาสติกที่ทาเสร็จในชั้นท่ี 1 ช้ันที่ 2 มาประกอบเข้าด้วยกันเพ่ือเป็นฐานแล้ว
พนั ด้วยเทปใสเชอื่ มช้ันท่ี 1 และชั้นที่ 2 ด้วยกาวรอ้ น เพอ่ื ความแขง็ แรงและม่นั คง

8. จากน้ันนาตลับเมตรมาวัดขนาดของฐานเก้าอี้

9. นาฟิวเจอรบ์ อร์ดมาตดั เป็นวงกลมขนาดเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง 39 เซนตเิ มตรเพือ่ ทาเปน็ ฐาน
ของเก้าอ้ี

19

10. นาฟวิ เจอร์บอร์ดท่ตี ัดสาเร็จแลว้ มาประกอบตดิ กับฐานของขวดน้าพลาสตกิ โดยใชก้ าวรอ้ น
ในการติด

11. นาใยสังเคราะหม์ าวัดขนาดรอบเก้าอี้ และนาไปตัดตรงตามขนาดทีว่ ดั ได้

12. นาใยสงั เคราะหท์ ตี่ ัดได้มาพันรอบขวดน้าพลาสติก โดยใชเ้ ทปใส

20

13. วัดขนาดหลังจากประกอบฟิวเจอรบ์ อรด์ และใยสังเคราะหเ์ ขา้ กบั ส่วนตา่ ง ๆ เพ่ือนามาตดั ผา้
คลุมช้ินงาน

14. ผลงานทีส่ าเร็จ
เก้าอี้รีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair” สามารถทาได้และนาไปใช้ได้จริง
เป็นการเรียนรู้ท่ีจะฝึกสมาธิ ใช้เศษสิ่งของเหลอื ใช้มาสร้างสรรค์ผลงานที่มีคณุ ค่า ลดขยะ ใช้เวลาว่างให้
เกิดประโยชน์ หากมีเวลาทาบ่อย ๆ สามารถพัฒนาต่อยอดจากการทาตอนมีเวลาว่างเป็นการทาสร้าง
รายไดใ้ ห้แกต่ นเองได้
คณุ สมบัติของเก้าอ้รี ีไซเคิลจากขวดพลาสตกิ
1. เก้าอเี้ ก้าอ้รี ีไซเคิลจากขวดพลาสตกิ สามารถรองรับน้าหนักได้ไม่เกิน 85 กโิ ลกรัม
2. การรองรบั การกระแทกสามารถรองรับการกระแทกไดด้ ีเมือ่ เทยี บกบั เกา้ อี้พลาสติกทว่ั ไป
3. นา้ หนักเบา
4. เคลอื่ นย้ายได้ง่ายและสะดวก
5. ใชเ้ ปน็ เฟอร์นเิ จอร์ ของตกแต่งบา้ น

21

บทท่ี 4
ผลการดาเนินงาน

จากการที่ได้ศึกษาและจัดทาโครงงานสังคมศึกษา เร่ือง เก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก
“Recycle Bottles Chair” มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้นักเรียนมีวินัยในการท้ิงและคัดแยกขยะ ส่งเสริมให้
นักเรียนนาขยะประเภทขวดน้ามาแปลงโฉมให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และสร้างจิตสานึกในการช่วยกันดูแล
สภาพแวดลอ้ มในโรงเรียนและชมุ ชน และปลกู ฝังให้นักเรยี น มีคุณธรรม และมีจติ อาสา

4.1 ผลการดาเนนิ งาน

หลังจากที่ดาเนินกิจกรรมเสร็จแล้วผู้จัดทาโครงงานสังคมศึกษา เรื่อง เก้าอี้รีไซเคิลจากขวด

พลาสติก “Recycle Bottles Chair” ได้จัดทาแบบสอบถามเพื่อให้ผเู้ ก่ียวข้องได้ตอบ โดยมีกลมุ่ เป้าหมาย

ที่ใช้ในการทาโครงงานคร้ังนี้ คือ นักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี1-3 โรงเรียนนครนนท์วิทยา 5

ทานสัมฤทธิ์ จานวน 100 คน จากผลการดาเนินงานข้างต้น สามารถประเมินผล ในรูปแบบตาราง

ดงั ตอ่ ไปน้ี

ขอ้ ที่ คุณลกั ษณะ คณุ ภาพ x S.D.
4 321
5

1. นักเรียนมวี ินัยในการทิง้ และคัดแยกขยะ 37 44 18 1 - 4.17 0.75

2. นักเรียนสามารถนาขยะประเภทขวดน้า 32 37 28 3 - 3.98 0.85

มา แปลงโฉมให้เกิดมูลคา่ เพ่ิม

3. นักเรียนมีจิตสานึกในการช่วยกันดูแล 36 37 26 - 1 4.07 0.84

สภาพแวดล้อมในโรงเรียนและชมุ ชน

4. นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรมและมีจิต 31 36 31 1 1 3.95 0.86

อาสาทีด่ ี

รวม ( x ) 4.04 0.83

ตารางท่ี 4.1 แสดงค่าเฉล่ยี ผู้ตอบแบบสอบถามตามโครงงานระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1-3

จากตารางท่ี 4.3 ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นของ นักเรียนโรงเรียนนครนนท์วิทยา 5
ทานสัมฤทธิ์ที่ตอบแบบสอบถาม โครงงานสังคมศึกษา เร่ืองเก้าอี้รีไซเคิลจากขวดพลาสติก
“Recycle Bottles Chair” พบว่า ค่าเฉลี่ยความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมโครงงานโดยภาพรวมอยู่

ในระดับดี ( x = 4.04) โดยผู้ตอบแบบสอบถามนน้ั มีความคิดเห็นในประเดน็ นักเรียนมวี ินยั ในการท้ิงและ

คัดแยกขยะอยู่ในระดับดี ( x = 4.17) นักเรียนมีจิตสานึกในการช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อมในโรงเรียน

และชุมชนอยู่ในระดับดี ( x = 4.07) นักเรียนสามารถนาขยะประเภทขวดน้ามาแปลงโฉมให้เกิด

มูลค่าเพ่ิมอยู่ในระดับดี ( x = 3.98) และนักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรมและมีจิตอาสาท่ีดี ( x =3.95)
ตามลาดับ แสดงให้เห็นว่าโครงงานเก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair” ที่จัดทาข้ึน
มีประโยชน์ต่อนักเรียน โรงเรียน ชุมชนและสังคม การลด หรือเพิ่มของปริมาณขยะขึ้นอยู่กับวินัย
จิตสานึก และจิตสาธารณะของแต่ละบุคคล หากรณรงค์การท้ิงขยะท่ีถูกต้อง และการนาขยะ ท่ีสามารถ
นากลบั มาใช้ได้อีก มาใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ สภาพแวดล้อม หรอื ปริมาณขยะกจ็ ะลดน้อยลง

22

4.2 หลักการและหลกั ธรรมที่นามาบรู ณาการ
หลักการท่ีนามาบรู ณาการในการจดั ทาโครงงานในครัง้ น้ีคือ
4.2.1 ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
การวิเคราะห์ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งกับโครงงานสงั คมศึกษา เร่ือง เก้าอี้รีไซเคิลจากขวด

พลาสติก “Recycle Bottles Chair” (ธานินทร์ คงศิลา, 2565)

ภาพประกอบที่ 4.1 แสดงหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ทม่ี า: (สานักสง่ เสรมิ การปลูกปา่ , 2560)

โดยสามารถอธิบายหลักของปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งไดด้ งั น้ี

หลกั ความพอประมาณ หลกั ความมีเหตผุ ล หลกั ภมู คิ มุ้ กนั
1. ระมัดระวังไมร่ บี รอ้ นจนเกนิ ไป
1. พอประมาณกับความต้องการ 1. เลอื กวสั ดุหางา่ ยมีทุกบา้ น 2. ลดภาวะโลกรอ้ น
3. มีรายได้เสรมิ แกป้ ญั หา
2. พอประมาณกับเวลา ให้เหมาะสม 2. ทาเพ่อื รกั ษาสิ่งแวดลอ้ ม ขาดแคลนรายได้

3. พอประมาณกบั ฐานะหรือกาลงั ทรัพย์ 3. ทาเพ่อื ลดโลกรอ้ น

ตารางท่ี 4.2 หลกั 3 หว่ ง

หลกั ความรู้ หลักคุณธรรม
1. การทากลุ่มเกดิ ความสามคั คี มคี วามรบั ผดิ ชอบ
1. มีความรู้เกยี่ วกบั ขน้ั ตอนการออกแบบ 2. การตรงตอ่ เวลาในการทางาน
โครงสรา้ งเก้าอ้ีจากขวดน้า การประดิษฐ์
ชน้ิ งานอน่ื ๆ 3. การเสยี สละเพ่ือส่วนรวม

2.มีความรู้เก่ยี วกับคุณสมบตั ิของวสั ดุ

ตารางที่ 4.3 หลกั 2 เง่ือนไข

23

4.2.2 หลกั ธรรมทนี่ ามาบรู ณาการ
อทิ ธบิ าท 4
หลักธรรมที่นามาเป็นแนวทางในการทาโครงงานจนประสบความสาเร็จ คือ อิทธิบาท 4
เป็นคณุ ธรรมทนี่ าไปสู่ความสาเรจ็ ในชีวติ ความสาเร็จในหนา้ ท่กี ารงานและการเรยี น ประกอบดว้ ย
1. ฉนั ทะ คือ ความพอใจรกั ใคร่ในสิ่งทต่ี นมี พอใจทจี่ ะทางานใหป้ ระสบความสาเรจ็
2. วิรยิ ะ คอื ความเพียรพยายามทาส่ิงนั้นจนเกิดความสาเร็จ
3. จติ ตะ คือ การเอาใจใสฝ่ ักใฝ่ในส่งิ นั้น
4. วิมงั สา คือ การไตร่ตรองใหร้ อบคอบโดยพจิ ารณาหาเหตผุ ลของสง่ิ นัน้
4.3.3 พระบรมราโชวาทที่นามาเปน็ แนวทางในการทาโครงงาน
ความเพียร
ในการดาเนินชีวิตและการประกอบกิจการงานยอ่ มจะต้องมีปญั หาตา่ ง ๆ เป็นอุปสรรคขัดขวาง
ความสาเร็จอยู่เสมอ ยากท่ีผู้ใดหรือสิ่งหน่ึงส่ิงใดจะหลีกเล่ียงพ้นได้คนก็มีปัญหาของคนสังคมก็มีปัญหา
ของสังคม ประเทศก็มีปัญหาของประเทศ แม้กระทั่งโลกก็มีปัญหาของโลก ปัญหาที่เกิดข้ึนในชีวิตและ
กจิ การงานจึงเป็น เรื่องธรรมดา ข้อสาคัญเมื่อมีปญั หาเกิดข้ึน จะต้องแก้ไขให้ลุล่วงไปโดยไม่ชักช้า ผใู้ ดมี
สติปัญญาคิดได้ดี ปฏิบัติได้ถูกผู้นั้นก็มีหวังบรรลุถึงเป้าหมายมีความสาเร็จสูง ถ้าเป็นตรงกันข้ามก็ยาก
ท่ีจะประสบความสาเร็จสมหวังได้ (พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธี
พระราชทานปริญญาบัตรของมหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.2539)

24

บทที่ 5

สรปุ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ

โครงงานสังคมศึกษา เร่ือง เก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair”
สามารถสรุปสาระสาคญั และผลการศกึ ษาตามลาดบั ได้ดงั นี้

5.1 สรุปผลการศกึ ษา
5.2 อภิปรายผลการศึกษา
5.3 แผนการดาเนินงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ

5.1 สรปุ ผลการดาเนินงาน
โครงงานสังคมศึกษา เร่ือง เก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair”

มีวัตถุประสงค์เพ่ือลดปริมาณขยะขวดพลาสติกภายในโรงเรียน การสร้างจิตสานึกในการรักษา
สิ่งแวดล้อมบริเวณโรงเรียน การเสริมสร้างระเบียบวินัยในการรักษาความสะอาดในโรงเรียน
และการปลูกฝังให้นักเรียนมีคุณธรรมและมีจิตอาสา กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการทาโครงงานคร้ังนี้ คือ
นักเรียนโรงเรียนนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธิ์ สังกัดสานักการศึกษา เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัด
นนทบุรี จานวน 100 คน ขั้นตอนการดาเนินงานแบ่งเป็น 4 ขั้น ดังนี้ ขั้นท่ี 1 สอดส่องมองปัญหา
โดยกลุ่มคณะผู้จัดทาโครงงาน ประชุมร่วมกันเพื่อวางแผนสารวจประเด็นปัญหา สรุปประเด็นปัญหา
กาหนดชื่อโครงงานแล้วนาเสนอต่อครูท่ีปรึกษา ข้ันที่ 2 นามาแปลงโฉม เป็นข้ันตอนที่กล่มุ คณะผู้จัดทา
โครงงาน ลงมือปฏิบัติงาน ตามลาดับดังนี้ แบบที่ 1 แบบทรงกลมโมเดิร์น นาขวดน้าพลาสติกที่ได้จาก
การคัดแยกจานวน 74 ขวด มาลา้ งให้สะอาดแล้วนาไปคว่าตากแดดไว้ใหแ้ ห้ง จากน้ันนาขวดมาเรียงกัน
เป็นวงกลมทั้งหมด 4 วง โดยเราจะเร่มิ ตน้ ทาจากวงด้านในสุด วงในสดุ ใช้ขวดน้าจานวน 1 ขวด วงทีส่ อง
ใช้ขวดน้าจานวน 6 ขวด วงทีส่ ามใช้ขวดนา้ จานวน 12 ขวด วงนอกสดุ ใชข้ วดน้าจานวน 18 ขวด ซ่ึงใน
แต่ละวงจะยึดด้วยเทปใสเพ่ือไม่ให้ขวดน้าพลาสติกขยับและมั่นคงแข็งแรง โดยทาท้ังหมด 2 ช้ัน ช้ันละ
37 ขวด รวมท้ังหมดจานวน 74 ขวด และนาฟิวเจอร์บอร์ดมาตัดเป็นวงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง
39 เซนติเมตร ปิดหัวปิดทา้ ยแล้วยึดดว้ ยเทปใส แล้วบุดา้ นข้างและด้านบน ด้วยเสน้ ใยสังเคราะห์โพลีเอ
สเตอร์ และหุ้มด้วยเศษผ้าท่ีเตรียมไว้หรือวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติเป็นอันเสร็จข้ันตอนการทา
เมื่อผลิตภณั ฑ์มีความสวยงาม ใช้งานได้จริง ก็นาผลงานมาแสดงหน้าช้ันเรียน พร้อมบรรยายผลกระทบ
จากขยะ เช่น ขวดน้าพลาสติก เชิญชวนให้เพ่ือนในชั้นเรียน เข้าร่วมกิจกรรมและช้ีแจงแนวทางในการ
ดาเนินโครงงานในช้ันเรียน สอนวิธีการนาขวดน้าพลาสติกมาแปลงโฉมเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้กับ
สมาชิกในชั้นเรียน ข้ันท่ี 3 เปล่ียนผลงานเป็นเงิน เป็นข้ันตอนในการจาหน่ายผลิตภัณฑ์เพ่ือนาเงินมา
สะสมเป็นต้นทุนในการแปลงโฉมขวดน้าเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในราคาท่ีแตกต่างกันออกไป และขั้น
สุดท้ายเผยแพร่ผลงาน ประชาสัมพันธ์ให้เพ่ือนร่วมช้ันเรียน นักเรียนในโรงเรียน คณะครูเข้าร่วม
โครงการ นาความรถู้ ่ายทอดสู่ชุมชนรอบ ๆ บริเวณโรงเรียน เพือ่ ใหค้ นในชุมชนมีความรู้เก่ียวกับการนาขวด
น้ามาใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มมูลคา่

25

5.2 อภปิ รายผลการดาเนนิ งาน
จากผลการดาเนินงาน โดยการวิเคราะห์ความคิดเห็นของ นักเรียนโรงเรียนนครนนท์วิทยา 5

ทานสัมฤทธ์ิ สังกัดสานักการศึกษา เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี สรุปได้ว่านักเรียนมีวินัย
สามารถท้ิงขวดน้าดื่มตามจุดท่ีกาหนด ปริมาณขยะในโรงเรียนนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธ์ิลดลง
นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรมและ มีจิตอาสาท่ีดี มีจิตสานึกในการช่วยดูแลสภาพแวดล้อมในโรงเรียน
และชุมชน นักเรียนมีทักษะในการนาขวดน้ามาทาให้เกิดมูลค่าเพ่ิมในการประกอบอาชีพและสามารถ
สร้างรายได้ให้กบั ตนเองและชมุ ชน

5.3 แผนการดาเนินงานในอนาคตและขอ้ เสนอแนะ
5.3.1 แผนการดาเนินงานในอนาคต
โครงงานสังคมศึกษา เรื่อง “เก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair” มีแผน

ดาเนินงานในอนาคตดงั ตอ่ ไปนี้
1) นาผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแปลงโฉมของขวดน้านาลงเว็บไซต์ ประกาศขายหรือสร้าง Blog

ในอนิ เทอร์เนต็ เพอ่ื ประชาสมั พนั ธ์สินคา้ และขายสนิ ค้า บริการส่งสนิ ค้าผา่ นไปรษณีย์
2) สร้างเครือข่ายระหว่างโรงเรียนกับชุมชน โดยใช้ชุมชนที่มีความพร้อมและมีกลุ่มแม่บ้าน

ท่มี ีพ้นื ฐานในการประดษิ ฐ์ ตัดเยบ็ และต่อยอดไปยังชุมชนอ่ืน ๆ ต่อไป
5.3.2 ข้อเสนอแนะ
1) ควรนาขยะทีม่ จี านวนมาก มาทาเป็นผลิตภัณฑ์อน่ื ๆ ทหี่ ลากหลาย
2) ควรนาขยะชนิดอืน่ ๆ ที่มีอยเู่ ป็นจานวนมาก มาผลิตแทนขวดนา้
3) ประยุกต์หลกั ธรรมและพระบรมราโชวาทอืน่ ๆ มาชว่ ยแก้ปญั หาและสรา้ งกาลังใจในการ

ปฏิบตั งิ าน

26

บรรณานกุ รม

กรณ์กวี ดวงลิวงษ์. (2565). แนวคดิ เกย่ี วกับการสร้างส่ิงประดษิ ฐ์จากวสั ดุเหลอื ใช้. คน้ ขอ้ มลู 15 พฤษภาคม
2565, เขา้ ถึงได้จาก https://sites.google.com/ caekancakkradashe56/bth-thi-2.

เกษม วัฒนชัย. (2555). เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดาริ. วารสารผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา,
ปีที่ 5 ฉบับที่ 2 ตุลาคม 2549 - มนี าคม 2550: 155-156.

คณะอนุกรรมการขับเคล่ือนเศรษฐกิจพอเพียง. (2549). กรณีศึกษาชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง.
กรุงเทพฯ: สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาต.ิ

ธานินทร์ คงศิลา. (2565). ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. ค้นข้อมูล 31 พฤษภาคม 2565, เข้าถึงได้จาก
https://pirun.ku.ac.th/~agrtnk/page2.html.

บุญชม ศรีสะอาด. (2533). รูปแบบการควบคุมวิทยานิพนธ์. มหาสารคาม: โครงการสถาบันวิจัยและ
พัฒนาการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยศรนี คริทรวโิ รฒ

บูรชัย ศิริมหาสาคร สัมฤทธิ์ ศุภมัง และพัดชา กวางทอง. (2546). แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา
พื้นฐาน กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช่วงช้ันท่ี 1 (ป. 1): สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม 1 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1-3 หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พทุ ธศักราช 2544. กรุงเทพฯ: อักษรเจริญทัศน์.

พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). (2549). พุทธวิธีการบริหาร. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหา
จฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั .
. (2551). ธรรมในใจของนกั บรหิ ารไฮโซ. กรงุ เทพฯ: ไทยรัฐ.

พระธรรมปฎิ ก. (2553). ธรรมะกับการทางาน. พมิ พค์ รั้งท่ี 3. กรงุ เทพฯ: สานักพมิ พม์ ูลนิธพิ ทุ ธรรม.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2551). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์คร้ังท่ี 16.

กรงุ เทพฯ: เอส. อาร์. พริ้นต้ิงแมสโปรดักส์.
พทุ ธทาสภิกข.ุ (ม.ป.ป.). บรหิ ารธุรกิจแบบพุทธ. กรุงเทพฯ: อตัมมโย.
แพนตา สีลาโล้. (2564). โครงการ เก้าอ้ีพีวีซี (PVC CHAIR). กรุงเทพฯ: วิทยาลัยเทคโนโลยีอรรถวิทย์

พณิชยการ.
วรรณี วงศ์พานิชย์ .(2546). หนังสือเรียนสาระการเรียนูร้พื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยีงาน

ประดิษฐ์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1-3. พิมพคัร์ ง้ ที่ 2. กรุงเทพฯ: อักษรเจรญิ ทศั น์.
สมพร เทพสิทธา. (2550). การดาเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ชุมชนและแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง

ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงในบรบิ ทของศาสนาและวัฒนธรรม. กรงุ เทพฯ: สมชายการพิมพ.์
สานักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2549). ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

แห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559). ในเอกสารประกอบการประชุมประจาปี 2554
แผน 11 สู่การพัฒนาท่ียั่งยืน วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม 2554 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและ
การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี. กรุงเทพฯ: สานักงานคณะกรรมการ
เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ.
สานักวจิ ยั และพัฒนาการอาชีวศึกษา. (2565). ขวดพลาสตกิ สารพัดประโยชน์. คน้ ขอ้ มลู 31 พฤษภาคม
2565, เข้าถงึ ได้จาก https://nia3portal.emworkgroup.co.th/info/ innovation/ /27410.
สานักส่งเสริมการปลูกป่า. (2560). ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง. ค้นข้อมูล 13 พฤษภาคม 2565, เข้าถึง
ไดจ้ าก https://www.forest.go.th.

27

บรรณานุกรม (ต่อ)

สนุ ทร กุลวัฒนาวรพงศ์. (2544). ตามรอยพระราชดาริ : เศรษฐกิจพอเพยี ง ทฤษฎใี หม่. กรุงเทพฯ: ชมรมเด็ก
สุนทร ตรีนันทวัน. (2565). ขวดบรรจุน้าด่ืม. ค้นข้อมูล 17 พฤษภาคม 2565, เข้าถึงได้จาก

dhttp://edtech.ipst.ac.th/?p=860.
สเุ มธ ตันตเิ วชกลุ . (2544). เศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวพระราชดาริ. กรงุ เทพฯ: มตชิ น
อังสุมาลี ไชยสาร. (2565). เก้าอ้ีพลาสติก. ค้นข้อมูล 15 พฤษภาคม 2565, เข้าถึงได้จาก

https://anyflip.com/lfzlo/ddpj/basic.

28

ภาคผนวก

29

ภาคผนวก ก
แบบสอบถามความพึงพอใจ

30

โครงงานเร่อื ง เก้าอรี้ ไี ซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair”

แบบสอบถามน้ีมีวตั ถุประสงค์เพอ่ื สารวจความพึงพอใจโครงงานเรื่อง เก้าอรี้ ีไซเคิลจากขวด

พลาสตกิ “Recycle Bottles Chair” แบง่ ออกเปน็ 2 ตอน คอื

ตอนที่ 1ขอ้ มูลเกยี่ วกบั สถานภาพและข้อมูลพน้ื ฐานของผู้ตอบแบบสอบถาม

คาชแ้ี จง โปรดใหร้ ายละเอยี ดทเ่ี กย่ี วกบั ตัวทา่ นโดยใช้เครื่องหมาย  ลงใน ( ) หน้าข้อความตาม

ความเปน็ จรงิ

เพศ ( ) ชาย ( ) หญิง

ตอนท่ี 2การประเมินความพงึ พอใจ

คาช้แี จง เขียนเครื่องหมาย  ลงในชอ่ งระดับความพงึ พอใจตามความเป็นจริง

ระดบั ความพึงพอใจ

หัวข้อประเมนิ มาก มาก ปานกลาง นอ้ ย ปรบั ปรงุ

ทส่ี ุด 4 3 2 1

5

1. นกั เรยี นมีวินยั ในการทิ้งและคดั แยกขยะ

2. นักเรียนสามารถนาขยะประเภทขวดนา้ มา

แปลงโฉมใหเ้ กดิ มูลค่าเพม่ิ

3. นักเรยี นมจี ติ สานกึ ในการช่วยกันดูแล

สภาพแวดล้อมในโรงเรยี นและชมุ ชน

4. นกั เรยี นมีคุณธรรมจรยิ ธรรมและมจี ติ

อาสาทีด่ ี

ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................................... .....................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .........................................
...................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

31

สรปุ ผลแบบประเมินความพึงพอใจ
โครงงานเรอื่ ง เกา้ อร้ี ีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair”

โครงงานสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง เก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก
“Recycle Bottle Chair” ได้จัดทาแบบประเมินความพึงพอใจ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานและเพ่ือเป็น
การพัฒนาโครงงานให้มีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ ผู้จัดทาจึงใคร่ขอความร่วมมือในการตอบ
แบบสอบถามความพึงพอใจโครงงานเก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottle Chair” สาหรับ
ผลการประเมินความพงึ พอใจสามารถสรุปผลไดด้ งั น้ี

จากการประเมินส รุปแบบประเมินความพึงพอใจ โครงงานเก้าอี้รีไซเคิลจากขว ดพลาสติก
“Recycle Bottles Chair” ซ่ึงประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนที่ 1 ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบประเมิน
ความพึงพอใจ ส่วนที่ 2 ระดับความพึงพอใจ โครงงาน เรื่อง เก้าอี้รีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle
Bottles Chair”ผลการประเมิน พบว่า มีผู้ตอบแบบสอบถามจานวน 100 คน ผู้ตอบแบบสอบถาม
จาแนกเป็น เพศชาย จานวน 56 คน คิดเป็นร้อยละ 56.00 เพศหญิง จานวน 44 คน คิดเป็นร้อยละ
44.00

ความพึงพอใจโครงงานเร่ือง เก้าอี้รีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair”
ในภาพรวมอยู่ในระดับ ดี มีค่าเฉลยี่ เท่ากับ 4.04 เมอ่ื พิจารณาคัดแยกเป้นรายด้าน พบว่านกั เรียนมีวินัย
ในการทง้ิ และคดั แยกขยะอยูใ่ นระดับ ดี มีคา่ เฉลยี่ 4. 17 รองลงมานักเรียนมีจิตสานกึ ในการช่วยกันดูแล
สภาพแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน อยู่ในระดับ ดี มีค่าเฉล่ีย 4.07 นักเรียนสามารถนาขยะประเภท
ขวดน้าพลาสติกมา แปลงโฉมให้เกิดมูลค่าเพ่ิมอยู่ในระดับ ดี มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.98 และด้านนักเรียน
มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและมจี ติ อาสาทดี่ ีอย่ใู นระดบั ดี มีค่าเฉล่ียเทา่ กบั 3.95

1. สรปุ ผลการวิเคราะห์
จากการวเิ คราะหส์ รปุ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของโครงงาน เรื่อง เก้าอี้รีไซเคลิ จากขวด

พลาสติก “Recycle Bottles Chair”

ตารางที่ 1 ขอ้ มูลเก่ียวขอ้ งกับผ้ตู อบแบบประเมนิ ความพึงพอใจ ร้อยละ

ขอ้ มูล จานวน 56.00
1.เพศ 44.00
111.11
ชาย 56
หญงิ 44

รวม 111

จากตารางที่ 1 พบวา่ ผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจจาแนกเป็นผู้หญงิ จานวน 44 คน
คดิ เป็นรอ้ ยละ 44.00 และเพศชาย จานวน 56.00

32

ตารางที่ 2 ความพึงพอใจ โครงงาน เรื่อง เกา้ อรี้ ไี ซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle Bottles Chair”

ระดับความพึงพอใจ เกณฑ์
รอ้ ยละ การ
หวั ข้อประเมนิ มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง นอ้ ย ปรบั ปรุง
5 1 คา่ เฉล่ยี ประเมิน
43 2 0 4.17
83.40 ดี
1. นกั เรยี นมวี ินยั ในการ 37 44 18 1
ทง้ิ และคัดแยกขยะ 32
37 28 3 0 3.98 79.60 ดี
2. นักเรยี นสามารถนา 36
ขยะประเภทขวดน้ามา 37 26 0 1 4.07 82.00 ดี
แปลงโฉมให้เกดิ 31
มลู คา่ เพิ่ม 36 31 1 1 3.95 79.00 ดี

3. นกั เรียนมีจิตสานึกใน
การช่วยกันดแู ล
สภาพแวดลอ้ มใน
โรงเรียนและชุมชน

4. นกั เรยี นมคี ุณธรรม
จริยธรรมและมจี ิตอาสา
ทดี่ ี

ตารางเกณฑก์ ารแปลความหมายค่าคะแนนเฉลย่ี ของแบบสอบถามประเมินความพงึ พอใจ โครงงาน

เร่อื ง เก้าอ้ีรไี ซเคลิ จากขวดพลาสตกิ “Recycle Bottles Chair” (บุญชม ศรสี ะอาด, 2533)

การแปลความหมายของคา่ คะแนนเฉล่ยี

4.51 - 5.00 ดีมาก

3.51 - 4.50 ดี

2.51 - 3.50 ปานกลาง

1.51 - 2.50 นอ้ ย

ต่ากว่า 1.50 ปรบั ปรงุ

จากตารางท่ี 2 พบวา่ ความพึงพอใจ โครงงาน เร่ือง เก้าอ้ีรีไซเคิลจากขวดพลาสติก “Recycle
Bottles Chair” โดยภาพรวมอยู่ในระดับดี ( x = 4.04) โดยผู้ตอบแบบสอบถามนั้นมีความคิดเห็น
ในประเด็นนักเรียนมีวินัยในการทิ้งและคัดแยกขยะอยู่ในระดับดี ( x = 4.17) นักเรียนมีจิตสานึกในการ
ช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชนอยู่ในระดับดี ( x = 4.07) นักเรียนสามารถนาขยะ
ประเภทขวดนา้ มาแปลงโฉมให้เกิดมูลค่าเพ่มิ อยู่ในระดับดี ( x = 3.98) และนักเรยี นมีคุณธรรมจริยธรรม
และมีจิตอาสาที่ดี ( x =3.95) ตามลาดบั

33

ภาคผนวก ข
ภาพกิจกรรมการตอ่ ยอดผลติ ภณั ฑ์ งานหัตถศิลปร์ ่วมกับชมุ ชน

วัสดธุ รรมชาติจากผักตบชวา

34

งานหัตถศลิ ป์ร่วมกับชุมชน วัสดุธรรมชาติจากผักตบชวา

35

ภาคผนวก ค
การประเมนิ และวจิ ารณโ์ ดยผู้อื่น

36

37

38

39


Click to View FlipBook Version