สถานที่ท่ ที่ อท่ งเที่ย ที่ ว ภาคอีส อี าน
คำ นำ หนังสือเล่มนี้จัดทำ ขึ้นเพื่อนำ เสนอหนังสือเรื่อ รื่ ง สถานที่ ท่องเที่ยวภาคอีสาน เพื่อให้คนไทยทุกๆ คนและชาวต่างชาติได้ ทราบถึงสถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสานว่า ว่ มีที่ใดบ้าง โดยข้อมูลที่ได้มา คณะจัดทำ ได้ศึกษาจากหนังสือและเว็บ ว็ ไซต์ต่างๆ หากหนังสือเล่มนี้ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย คณะผู้จัดทำ นางสาวณัฐธิดา บัวแก้ว นางสาววริน ริ ยุพา เล่ห์กล แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ 3/1
สารบัญ เรื่อรื่ ง หน้า123456789101112131415 น้ำ ตกถ้ำ พระพันโขดแสนไคร้วัดวัถ้ำ ศรีมรีงคลวัดวั ผาตากเสื้อ ถนนคนเดินเชียงคานภูทอกแก่งคุดคู้ทะเลบัวแดงวัดวัป่าภูก้อนคำ ชะโนดพิพิธภัณฑ์สิรินริ ธร วัดวั พุทธนิมิตภูค่าว สะพานเทพสุดาสามพันโบกวัดวัสิรินริ ธรวรารามภูพร้าว
1.น้ำ ตกถ้ำ พระ ยังอยู่กันที่ จ.บึงกาฬ ค่ะ แต่จะชวนเปลี่ยนบรรยากาศนั่งเรือ รืไปเที่ยว ‘ น้ำ ตกถ้ำ พระ ’ กันค่ะ ที่นี่เป็นน้ำ ตกสวยที่ หลายคนมุ่งหน้ามาเช็คอินกันเพราะอยากมาลองเล่นสไลด์เดอร์ธรรมชาติ ที่บอกเลยว่า ว่ เราลองแล้ว สนุกสุดๆ จน ติดใจอยากกลับไปเล่นซ้ำ เลยล่ะค่ะ แต่ขอแนะนำ ให้มาช่วงหน้าฝนนะคะ เพราะเป็นช่วงเวลาที่น้ำ ตกมีน้ำ เยอะ ส่วน การเดินทางไปน้ำ ตกถ้ำ พระจะต้องเดินทางโดยการนั่งเรือ รื เข้าไปประมาณ 20 นาที และเดินต่ออีกประมาณ 300 เมตร ซึ่งน้ำ ตกที่นี่จะมี 3 ชั้น โดยชั้นที่ 1 จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในหน้าผา ให้นักท่องเที่ยวมากราบสักการะ บูชาด้วยค่ะ
2.พันโขดแสนไคร้ ต่อกันที่ จ.หนองคาย อีกหนึ่งเมืองริม ริโขง ที่น่ามาล่องเรือ รื ชมแม่น้ำ สุดๆ โดยจุดที่ห้ามพลาดคือ บริเ ริ วณที่เรีย รี กว่า ว่ ‘ พันโขดแสนไคร้ ’ พิกัดที่ต้องล่องเรือ รื มาตามแม่น้ำ โขงราว 1 ชั่วโมง ที่นี่ได้สมญาว่า ว่ เป็นแกรนด์แคนยอนแม่น้ำ โขงแห่งหนองคาย เพราะมีต้นไคร้นับแสนต้นขึ้นอยู่บนโขดหินขนาดใหญ่และเนินทรายกลางแม่น้ำ โขงมากมาย จนได้ชื่อว่า ว่ เป็นดินแดนพันโขดแสนไคร้ กินพื้นที่ในแม่น้ำ โขงฝั่งหนองคายเริ่ม ริ่ ตั้งแต่หมู่บ้านตาดเสริม ริ ไปจนถึง บ้านห้วยค้อ รวมระยะทางกว่า ว่ 5 กิโลเมตรเลยทีเดียว ซึ่งในช่วงที่น้ำ ลง จะมีจุดที่เป็นหาดทรายขนาดใหญ่ กลางแม่น้ำ โขง สามารถลงไปเดินเล่นถ่ายรูปได้ด้วยค่ะ
3.วัด วั ถ้ำ ศรีม รี งคล อีกหนึ่งที่เที่ยว จ.หนองคาย ที่ไม่อยากให้พลาด ขอยกให้กับ ‘ วัด วั ถ้ำ ศรีม รี งคล ’ สถานที่ท่องเที่ยวใน ต.ผาตั้ง อ.สังคม ที่มีไฮไลท์อย่าง ถ้ำ ดินเพียง ซึ่งเชื่อกันว่า ว่ เป็นถ้ำ ที่พญานาคใช้เดินทางสู่เมืองบาดาล ภายในถ้ำ มีเส้น ทางคดเคี้ยวเชื่อมต่อกันมากมาย การเที่ยวชมต้องมีไกด์นำ ทาง เพราะเส้นทางค่อนข้างซับซ้อน นอกจากจะ ได้เที่ยวตามรอยตำ นานเส้นทางพญานาคแล้ว ภายในถ้ำ ยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรกประดิษฐานให้เราได้ กราบไหว้ข ว้ อพรกันอีกด้วย
4.วัด วั ผาตากเสื้อ คราวนี้จะพาไปอีกวัด วัสวย จ.หนองคาย นั่นคือ ‘ วัด วั ผาตากเสื้อ ’ วัด วั ชื่อดังที่นอกจากจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม แล้วที่นี่ยังเป็นจุดชมวิว วิ มุมสูงแบบ 360 องศา โดยมีไฮไลท์อยู่ที่สกายวอร์ค พื้นกระจกสูงจากระดับน้ำ ทะเล ประมาณ 500 เมตร ยื่นออกจากตัวหน้าผา 6 เมตร สามารถที่จะมองเห็นทิวทัศน์ของประเทศลาวซึ่งอยู่ฝั่งตรง ข้าม และหากแวะมาในช่วงหน้าหนาว ก็ยังมีโอกาสได้สัมผัสทะเลหมอกหนานุ่มอีกด้วยจ้า
5.ถนนคนเดินเชียงคาน มาที่พิกัดยอดฮิตของ จ.เลย กันบ้าง กับ ‘ ถนนคนเดินเชียงคาน ’ จุดหมายปลายทางยอดฮิตของนัก ท่องเที่ยวที่มีสเน่ห์อันโดดเด่น ทั้งในเรื่อ รื่ งศิลปะ วัฒ วั นธรรม วิถี วิถี ชีวิต วิ แบบดั้งเดิม บรรยากาศโดยรอบ เรีย รี บง่าย เนิบช้า เต็มไปด้วยที่พักชิลๆ ริม ริโขง ซึ่งดัดแปลงบ้านไม้เก่าแก่ อีกทั้งยังมีร้านค้า ร้านขายของ ฝาก มากมาย ซึ่งนอกจากจะมานอนชิลกับที่พักน่ารักริม ริโขง และช้อปปิ้งของจากถนนคนเดินแล้ว ที่นี่ก็ ยังน่ามาลองปั่นจักรยานเล่นไปตามถนนเส้นริม ริโขงด้วยค่ะ บอกเลยว่า ว่ วิว วิ ดี และได้ฟีลชิลๆ ดีต่อใจมาก
6.ภูทอก ไปกันต่อที่ ‘ ภูทอก ’ จุดชมทะเลหมอกที่งดงามอันดับต้นๆ ของจังหวัด วั เลย เป็นจุดเช็คอินที่ผู้คนนิยมมาชม หมอก ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก อยู่ห่างจากตัวอำ เภอแค่เพียง 7 กิโลเมตร มีรถสองแถวบริก ริ าร ตั้งแต่ตีห้า เลย นั่งรถกินลมชมวิว วิ เพลินๆ ไม่นานก็ถึงยอดเขาแล้วค่ะ โดยด้านบนจะเป็นจุดชมวิว วิ แบบ 360 องศา มองเห็น วิว วิ แม่น้ำ โขงและวิว วิ เมืองเชียงคานได้ชัดแจ๋ว มีพระพุทธรูปให้กราบไหว้สัว้ สั กการะ ที่สำ คัญคืออากาศดีมาก ยิ่งถ้า วัน วัไหนมีสายหมอกปกคลุม ก็ยิ่งสวยงามประทับใจสุดๆ
7.แก่งคุดคู้ อีกหนึ่ง Destination ห้ามพลาดถ้ามาเที่ยว จ.เลย ก็คือ ‘ แก่งคุดคู้ ’ สถานที่เที่ยวยอดฮิตในยามหน้าแล้ง เราจะได้เห็นโขดหินยาวขวางแม่น้ำ โขง เรีย รี กได้ว่า ว่ เป็นสัญลักษณ์ของแก่งคุดคู้เลยก็ว่า ว่ ได้ โดยหน้าแล้งน้ำ โขง จะลดลงทำ ให้เหมือนมีหาดทรายขนาดใหญ่ ซึ่งเราสามารถเดินลงไปถ่ายรูปเล่น หรือ รื จะไปล่องเรือ รื ชมความ สวยงามของแม่น้ำ โขงได้ นอกจากนี้ภายในบริเ ริ วณยังมีพิพิธภัณฑ์แก่งคุดคู้ด้วย ซึ่งภายในก็จะเต็มไปด้วย ประวัติ วัติ ความเป็นมาของสถานที่ รวมถึงเอกลักษณ์ต่างๆ ของจังหวัด วั เลยให้เราได้เข้าไปหาความรู้รอบตัวเพิ่ม กันเพลินๆ จนลืมเวลาเลยล่ะ
8.ทะเลบัวแดง มาถึงคิวของ จ.อุดรธานี ค่ะ พิกัดแรกที่ห้ามพลาด โดยเฉพาะกับสายชิล สายแชะทั้งหลาย นั่นก็ คือ ‘ ทะเลบัวแดง ’ ที่บึงหนองหาน อ.กุมภวาปี ที่เที่ยวขึ้นชื่อสุดอันซีนของภาคอีสาน ซึ่งเป็น บึง น้ำ จืดขนาดใหญ่ มีพื้นที่สองหมื่นกว่า ว่ ไร่ มีความหลากหลายทางชีวภาพ อุดมไปด้วยพืชน้ำ พันธุ์ นก และสัตว์น้ำ ว์ น้ำ จืดหลากหลายชนิด
9.วัด วัป่าภูก้อน อีกหนึ่งสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อไปอุดรธานีคือการเดินทางไป ‘ วัด วัป่าภูก้อน ’ วัด วั สวยท่ามกลางขุนเขา ตั้งอยู่ในเขตอำ เภอนายูง ห่างจากตัวเมืองอุดรธานีไป ประมาณ 120 กิโลเมตร ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือพระวิห วิ ารพระพุทธไสยาสน์ พระวิห วิ ารหลังคาสีฟ้าที่ตั้งอยู่บนเขา
10.คำ ชะโนด ต่อกันกับพิกัดชื่อดังอย่าง ‘ คำ ชะโนด ’ หรือ รื ‘ วัง วั นาคินทร์คำ ชะโนด ’ ตั้งอยู่ใน อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เป็นเกาะ ลอยน้ำ ที่เต็มไปด้วยต้นชะโนด เป็นสถานที่ที่เชื่อกันว่า ว่ มีความศักสิทธิ์ เป็นที่สิงสถิตของพญานาค ปู่ศ ปู่ รีสุรี สุ ทโธ ย่า ศรีปรี ระทุมมา จึงทำ ให้ผู้คนที่มีความศรัทธาต่างหลั่งไหลกันมาขอพร ขอโชคลาภ อย่างไม่ขาดสาย ด้านในของป่า คำ ชะโนด จะมีศาลเจ้าปูศ ปู รีสุรี สุ ทโธอยู่ตรงต้นไทรขนาดใหญ่ จุดนี้จะมีผู้คนมากมายมากราบไหว้บู ว้ บู ชากัน และบ่อน้ำ ศักดิ์สิทธิ์ หรือ รื "บ่อคำ ชะโนด" อยู่กลางเกาะ เป็นบ่อน้ำ ใต้ดิบที่ไม่เคยแห้งและ เชื่อกันว่า ว่ เป็นประตูเชื่อมไปสู่เมือง บาดาลอีกด้วย
11.พิพิธภัณฑ์สิริน ริ ธร คราวนี้พามาที่ จ.กาฬสินธุ์ มาเยือนถิ่นไดโนเสาร์กันค่ะ โดยที่นี่เค้ามีพิพิธภัณฑ์ที่จะพา เราย้อนกลับไปในยุคที่ไดโนเสาร์ยังคงความยิ่งใหญ่ อย่าง ‘ พิพิธภัณฑ์สิริน ริ ธร ’ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ดีที่สุดในอาเซียน ตั้งอยู่ที่ อ.สหัสขันธ์
12.วัด วั พุทธนิมิตภูค่าว มาไหว้พ ว้ ระนอนพันปีและชมพระอุโบสถไม้จากใต้น้ำ ที่ ‘ วัด วั พุทธนิมิตภูค่าว ’ กันค่ะ ที่นี่เป็นที่เที่ยวแลนด์ มาร์คที่ไม่ควรพลาดอีกแห่งหนึ่งของ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอุโบสถไม้ของที่นี่นั้นงดงามวิจิ วิจิ ตรตระการตามากๆ ภายในประดิษฐานพระมงคลชัยสิทธิ์ฯ พระประธานปางสมาธิสีทอง อีกทั้งไม้ที่นำ มาใช้สร้างอุโบสถหลังนี้ เป็นไม้ที่นำ ขึ้นมาจากใต้น้ำ ในเขื่อนลำ ปาว นำ มาแกะสลักนูนต่ำ เป็นเรื่อ รื่ งราวพุทธประวัติ วัติ บริเ ริ วณรอบๆ บานประตู หน้าต่าง และเพดานภายในอุโบสถ
13.สะพานเทพสุดา อีกหนึ่งที่เที่ยวแลนด์มาร์คของกาฬสินธุ์ที่สวยมากๆ ขอยกให้กับ คือ ‘ สะพานเทพสุดา ’ สะพานข้าม อ่างเก็บน้ำ เขื่อนลำ ปาวที่มีความยาวกว่า ว่ 2 กิโลเมตร เป็นพิกัดที่วิว วิ ดี โรแมนติกสุดๆ โดยเฉพาะในช่วง เย็นที่มองเห็นพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าบนสะพานได้อย่างชัดเจน ใครมีโอกาสมาเที่ยวแถวเขื่อนลำ ปาวต้องไม่พลาดแวะมาเดินเล่น ชมวิว วิ บนสะพานนี้ค่ะ เค้ามีทางเดินยาวตลอดสองฝั่งของสะพานให้ เดินเล่นได้แบบชิลๆ เลย
14.สามพันโบก คราวนี้ไปเที่ยว จ.อุบลราชธานี กันค่ะ เป็นอีกจังหวัด วั ที่เต็มไปด้วยพิกัดสุดอะเมซิ่ง และที่แรกที่เราอยากแนะนำ คือ ‘ สามพันโบก ’ ที่เที่ยวอันซีนที่ได้สมญาแกรนด์แคนยอนเมืองไทย เป็นแก่งหินขนาดใหญ่มากคล้ายภูเขา กลางลำ น้ำ โขง มีแอ่งน้อยใหญ่กว่า ว่ 3,000 แอ่ง ที่ถูกกระแสน้ำ กัดเซาะจนเว้า ว้ แหว่ง ว่ จนมองเห็นเป็นภาพต่างๆ ดูสวยงาม และมีรูปร่างแตกต่างกันออกไปมากมาย ไม่ว่า ว่ จะเป็นรูปหัวใจ สุนัข หรือ รื แม้แต่มิกกี้เม้าส์ ก็มีให้เห็น ตามแต่ที่เราจะจินตนาการ ซึ่งช่วงที่เหมาะกับการแวะมาที่สุดจะเป็นช่วงประมาณเดือนตุลาคม-พฤษภาคม เพราะเป็นช่วงที่นำ้ ลด มองเห็นโบกหรือ รื แอ่งต่างๆ ได้อย่างสวยงามชัดเจนค่ะ
15.วัด วัสิริน ริ ธรวรารามภูพร้าว พามาชมความอัศจรรย์ยามค่ำ คืนกันบ้างค่ะ กับ ' วัด วั เรือ รื งแสง ' แห่ง จ.อุบลราชธานี หรือ รื วัด วัสิริน ริ ธรวรารามภูพร้าว วัด วั ที่สวยงามดั่งป่าหิมพานต์ด้วยพระอุโบสถที่ตกแต่งด้วยงาน ศิลปะเป็นภาพต้นกัลปพฤกษ์ด้านหลังและลวดลายวิจิ วิจิ ตรโดยรอบที่จะเรือ รื งแสงเปล่งประกาย สวยงามหลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิว วิ ลำ น้ำ โขง มองเห็น ทิวทัศน์ของฝั่งประเทศลาวได้อีกด้วย