The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประจำปีงบประมาณ 2562

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ebookchon, 2023-08-06 01:30:32

รายงานผลโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประจำปีงบประมาณ 2562

รายงานผลโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประจำปีงบประมาณ 2562

โครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในวันที่ 28 มิถุนายน 2562 ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอสัตหีบ ส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จังหวัดชลบุรี


ค าน า ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอสัตหีบ ได้จัดท าแผนการปฏิบัติงานประจ าปี งบประมาณ 2562 โดยได้จัดโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้กับประชาชนต าบล พลูตาหลวง ในวันที่ 28 มิถุนายน 2562 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 15.00 น. ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ผู้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จ านวน 20 คน โครงการดังกล่าวได้ด าเนินเสร็จสิ้นไปด้วยดี ซึ่งรายละเอียดผลการด าเนินงานต่างๆ ตลอดจนปัญหาอุปสรรค ได้สรุปไว้แล้ว เพื่อรวบรวมกระบวนการด าเนินงาน ผลที่ได้รับและการน าไปใช้ ตลอดจนการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้อง กับผู้เข้าร่วมอบรม และการตอบสนองความต้องการของผู้เข้าร่วมอบรม การน าไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง และต้องขอขอบคุณศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดชลบุรี ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณ ตลอดจนค าปรึกษาแนะน าในการจัดกิจกรรมดังกล่าว กศน.ต าบลพลูตาหลวง กรกฎาคม 2562


สารบัญ หน้า บทที่ 1 บทน า ความเป็นมา 1 วัตถุประสงค์ 1 เป้าหมาย 1 ผลลัพธ์ 1 ดัชนีชี้วัดผลส าเร็จ 1 2 เอกสารการศึกษาและรายงานที่เกี่ยวข้อง นโยบายและจุดเน้นการด าเนินงานส านักงาน กศน.ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 2 นโยบายและจุดเน้นการด าเนินงาน กศน.อ าเภอสัตหีบประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2562 12 การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน 20 เอกสาร/งานที่เกี่ยวข้อง 21 3 วิธีการด าเนินงาน ประชุมบุคลากรกรรมการสถานศึกษาและตัวแทนนักศึกษา 23 จัดตั้งคณะท างาน 23 ประสานงานหน่วยงานและบุคลที่เกี่ยงข้อง 23 ด าเนินตามแผนงาน 23 วัดผล/ประเมินผล/สรุปผลและรายงาน 23 4 ผลการด าเนินงานและการวิเคราะห์ข้อมูล ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้ารับการอบรมโครงการ 25 ตอนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีของผู้เข้าร่วมโครงการ 27 5 สรุปผลการด าเนินการ อภิปราย และข้อเสนอแนะ ผลที่ปรากฎ 29 สรุปผลการด าเนินงาน 29 อภิปรายผล 29 ข้อเสนอแนะ 30


สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจ าแนกตามเพศ 25 2 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจ าแนกตามอายุ 25 3 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจ าแนกตามอาชีพ 26 4 ผลการประเมินโครงการ 28


บทที่ 1 บทน า โครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่มาและความส าคัญ โครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นโครงการส่งเสริมจิตส านึกใน ความรักชาติ การด าเนินชีวิตตามแนวพระราชด าริ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพร้อมกับน้อมระลึกถึงพระมหา กรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การปลูกฝังจิตส านึกด้านจริยธรรมตามหลักศาสนา การส่งเสริมความรัก ความสามัคคี การท างานร่วมกันเป็นหมู่คณะ น าความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการด าเนินชีวิตประจ าวัน ก่อให้เกิด ประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติต่อไป ดังนั้น กศน.ต าบลพลูตาหลวงจึงได้จัดท าโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา เพื่อให้ เข้าใจเรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทยและมีจิตส านึกความเป็นพลเมืองที่ดีในระบอบ ประชาธิปไตย ตระหนักถึงความ รักชาติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทยเป็นพลเมืองที่ดีในระบอบ ประชาธิปไตย ต่อไป วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. เพื่อเพิ่มศักยภาพของประชาชนในชุมชน ให้เกิดความรู้ ความช านาญ เกิดความตระหนักถึง ความรักชาติไทย และความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป้าหมาย เชิงปริมาณ ประชาชนต าบลพลูตาหลวง จ านวน 15 คน เชิงคุณภาพ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นการเพิ่มศักยภาพของประชาชนในชุมชน ให้เกิดความรู้ ความช านาญ เกิดความตระหนักถึงความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตัวชี้วัดผลส าเร็จ ตัวชี้วัดผลผลิต (Output) - มีผู้เข้าร่วมโครงการ ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้าหมาย - ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจในระดับดีขึ้นไปไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ตัวชี้วัดผลลัพธ์ (Outcome) ผู้เข้าร่วมโครงการร้อยละ 80 สามารถน าความรู้ไปใช้ในชีวิตประจ าวัน มีความรู้ ความเข้าใจเรื่อง ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์


บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและรายงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดท ารายงานครั้งนี้ได้ศึกษาค้นคว้าเนื้อหาจากเอกสารการศึกษาและรายงานที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้ 1. นโยบายและจุดเน้นการด าเนินงานส านักงาน กศน.ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 2. นโยบายและจุดเน้นการด าเนินงาน กศน.อ าเภอสัตหีบประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2562 3. การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน 4. เอกสารที่เกี่ยวข้อง 1. นโยบายและยุทธศาสตร์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย งบประมาณ 2562 วิสัยทัศน์ “คนไทยได้รับโอกาสการศึกษา และการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ สามารถด ารงชีวิตที่เหมาะสมกับ ช่วงวัย สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีทักษะที่จ าเป็นในโลกศตวรรษที่ 21” พันธกิจ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ เพื่อยกระดับการศึกษา พัฒนา ทักษะการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมทุกช่วงวัย และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง บริบททาง สังคม และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต 2. ส่งเสริม สนับสนุน และประสานภาคีเครือข่าย ในการมีส่วนร่วมจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยและ การเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมทั้งการด าเนินกิจกรรม ของศูนย์การเรียนและแหล่งการเรียนรู้อื่น 3. ส่งเสริมและพัฒนาการน าเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ ในการ จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง 4. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและนวัตกรรม การวัดและประเมินผล ในทุก รูปแบบให้สอดคล้องกับบริบทในปัจจุบัน 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งจัดการศึกษาและการเรียนรู้ที่มี คุณภาพ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล


เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้รับโอกาส ทางการศึกษา ในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่องและการศึกษา ตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เป็นไปตามสภาพ ปัญหา และความต้องการของแต่ละ กลุ่มเป้าหมาย 2. ประชาชนได้รับการยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และความเป็นพลเมือง อันน าไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพื่อพัฒนาไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืน ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม 3. ประชาชนได้รับโอกาสในการเรียนรู้และมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถคิด วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน รวมทั้งแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์ 4. ประชาชนได้รับการสร้างและส่งเสริมให้มีนิสัยรักการอ่านเพื่อการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 5. ชุมชนและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการด าเนินงานการศึกษา นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการขับเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู้ของชุมชน 6. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนา เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการยกระดับ คุณภาพในการจัดการเรียนรู้และเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ให้กับประชาชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาสื่อและการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนา คุณภาพชีวิต ที่ตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงบริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งตามความต้องการของประชาชน และชุมชนในรูปแบบที่หลากหลาย ฉบับเผยแพร่ทางเว็บไซต์(V13-061160) 8. บุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ 9. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล ตัวชี้วัด ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ 1. จ านวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายตาม สิทธิที่ก าหนดไว้ 2. จ านวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ได้รับบริการกิจกรรม การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัยที่สอดคล้องกับสภาพ ปัญหา และความต้องการ 3. จ านวนผู้รับบริการในพื้นที่เป้าหมายได้รับการส่งเสริมด้านการรู้หนังสือและการพัฒนาทักษะชีวิต 4. ร้อยละการอ่านของคนไทยเพิ่มขึ้น 5. จ านวนนักเรียน นักศึกษาที่ได้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้ 6. จ านวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่เข้าถึงบริการการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ ในรูปแบบต่าง ๆ 7. จ านวนประชาชนที่ได้รับการอบรมให้มีความรู้ ในอาชีพการเกษตรที่เหมาะสมกับสภาพบริบท และ ความต้องการของพื้นที่/ชุมชน 8. จ านวนแหล่งเรียนรู้ในระดับต าบลที่มีความพร้อมในการให้บริการการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย 9. จ านวนท าเนียบศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียงของต าบล และจ านวนกลุ่มเกษตรชุมชนดีเด่น 3


10. จ านวนประชาชนได้รับการอบรมตามหลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ (ระยะ สั้น) ส าหรับประชาชนในศูนย์อาเซียนศึกษา กศน. 11. มีการพัฒนาอุปกรณ์การผลิตและการเผยแพร่ข่าวโทรทัศน์เพื่อการศึกษาส าหรับศูนย์ข่าว โทรทัศน์เพื่อการศึกษา 1 ระบบ 12. จ านวนบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรายการโทรทัศน์ได้รับการอบรมให้มีความรู้และทักษะใน การปฏิบัติงานเพื่อรองรับการปฏิบัติงานในสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบดิจิทัล 13. จ านวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่เข้าถึงบริการความรู้นอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยผ่านช่องทางสื่อเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีการสื่อสาร 14. จ านวนรายการโทรทัศน์/ CD/แอพพลิเคชั่น ในการให้ความรู้ด้านการเกษตร 15. จ านวน/ประเภทของสื่อ ที่มีการจัดท าพัฒนาและน าไปใช้เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน/ ผู้รับบริการการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย 16. ร้อยละของหน่วยงาน และสถานศึกษา กศน. ที่มีการใช้ระบบเทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดท า ฐานข้อมูลชุมชนและการบริหารจัดการ เพื่อสนับสนุนการด าเนินงานการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตาม อัธยาศัยขององค์การ 17. จ านวนระบบฐานข้อมูลกลางด้านการศึกษาของประเทศที่ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยและเป็น ปัจจุบัน ฉบับเผยแพร่ทางเว็บไซต ์(V13-061160) 18. จ านวนผู้ผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่ก าหนดของโครงการสร้างเครือข่ายดิจิทัลชุมชนระดับ ต าบล 19. ร้อยละของต าบล/แขวง ที่มีปริมาณขยะลดลง 20. จ านวนบุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการ ปฏิบัติงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 21. ร้อยละของสถานศึกษาในสังกัดที่มีระบบประกันคุณภาพภายในและมีการจัดท ารายงานการ ประเมินตนเอง 22. จ านวนองค์กรภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ที่ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการด าเนินงาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ 1. ร้อยละที่เพิ่มขึ้นของคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ การศึกษานอกระบบ โรงเรียน (N-NET) 2. ร้อยละของก าลังแรงงานที่ส าเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือเทียบเท่า ได้รับ การศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า 3. ร้อยละของนักเรียน/นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาที่ได้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้ เพิ่ม สูงขึ้น 4. ร้อยละผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษานอกระบบที่สามารถน าความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตาม จุดมุ่งหมายของหลักสูตร/กิจกรรมที่ก าหนด 5. ร้อยละของผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่สามารถอ่านออกเขียนได้และคิดเลขเป็นตามจุดมุ่งหมายของ กิจกรรม 4


6. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ลงทะเบียนเรียนที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาอาชีพตาม โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน 7. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการ พัฒนาศักยภาพ ทักษะอาชีพ สามารถมีงานท าหรือน าไปประกอบอาชีพได้ 8. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ด้าน อาชีพ (ระยะสั้น) มีความรู้ในการสื่อสารภาษาอังกฤษ และสามารถน าไปประยุกต์ใช้ในการด าเนินชีวิตได้ 9. จ านวนครู กศน. ต้นแบบการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่สามารถเป็นวิทยากรแกนน าได้ 10. ร้อยละของครู กศน. ทั่วประเทศ ที่สามารถจัดกระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ได้อย่างสอดคล้องกับบริบทของผู้เรียน 11. ร้อยละของผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านเกณฑ์การ อบรมตามหลักสูตรที่ก าหนด 12. ร้อยละของหน่วยงาน และสถานศึกษา กศน. ที่สามารถด าเนินงานโครงการ/กิจกรรม ตาม บทบาทภารกิจที่รับผิดชอบได้ส าเร็จตามเป้าหมายที่ก าหนดไว้อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยใช้ทรัพยากรอย่าง คุ้มค่า/ตามแผนที่ก าหนดไว้ 13. ร้อยละของคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสของการด าเนินงานของหน่วยงาน 5


นโยบายเร่งด่วนเพื่อร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ตามนโยบายและจุดเน้นการ ด าเนินงานส านักงาน กศน. ประจ าปีงบประมาณ 2562 1. ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง 1.1 ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่ปลูกฝังคุณธรรม สร้างวินัย การมีจิตอาสา และอุดมการณ์ความยึดมั่น ในสถาบันหลักของชาติ 1) เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข มีความเป็นพลเมืองดี เคารพความคิดของผู้อื่น ยอมรับความแตกต่างและหลากหลายทางความคิด อุดมการณ์ รวมทั้งสังคมพหุวัฒนธรรม 2) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ปลูกฝังคุณธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะ และอุดมการณ์ สนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้กับบุคลากรในองค์กร 1.2 ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน โดยบูรณาการขับเคลื่อนการ ด าเนินงานตามแนวทางประชารัฐ ด าเนินโครงการ/กิจกรรมในพื้นที่ทั้งในระดับต าบล หมู่บ้าน โดยใช้การขับเคลื่อน การพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน ระดับต าบลเป็นแกนหลัก และสนับสนุนกลไกการขับเคลื่อนในพื้นที่ ทุกระดับตั้งแต่จังหวัด อ าเภอ ต าบล และหมู่บ้าน 1.3 พัฒนาการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัด ชายแดนภาคใต้ และพื้นที่ชายแดน 1) พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีความสอดคล้องกับ บริบทของสังคม วัฒนธรรม และพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ 2) เร่งรัดท าแผนและมาตรการด้านความปลอดภัยที่ชัดเจนส าหรับหน่วยงานและสถานศึกษาทั้ง รวมทั้งบุคลากรที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยบูรณาการแผนการ ปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ 3) ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดกระบวนการเรียนรุ้ในสถาบันศึกษาปอเนาะ ในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย ตรงกับความต้องการของผู้เรียน อาทิ การเพิ่มพูนประสบการณ์ การเปิดโลกทัศน์ การยึดหลัก คุณธรรมและสถาบันหลักของชาติ 4) สนับสนุนให้มีการพัฒนาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้น เพื่อสามารถ ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1.4 ส่งเสริมการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงบริบทด้านสังคมและการเมือง รวมทั้งความต้องการของประชาชนและชุมชนในรูปแบบที่หลากหลาย ให้ประชาชนคิดเป็น วิเคราะห์ได้ ตัดสินใจภายใต้ข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น ความรู้เรื่องการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันฯลฯ 6


2.ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาก าลงคน การวิจัย และนวัตกรรมเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของ ประเทศ 2.1 ขับเคลื่อนการด าเนินงานภายใต้แผนพัฒนาการศึกษาระดับภาค 1) สร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับบุคลากรของส านักงาน กศน. เกี่ยวกับการด าเนินงานภายใต้การ พัฒนาการศึกษาระดับภาค เพื่อร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาภาค 2) เร่งจัดท ายุทธศาสตร์และแผนพัฒนาการศึกษาระดับภาค ของส านักงาน กศน. ให้สอดคล้อง กับแผนพัฒนาการศึกษาระดับภาค 2.2 พัฒนาก าลังคนให้มีทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Dbgital Literacy) 1) พัฒนาความรู้และทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้สามารถใช้ Social Media และ Application ต่างๆ ในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน 2) ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนมีทักษะความเข้าใจการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล ที่สามารถน าไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน รวมทั้งรายได้ให้กับตนเองได้ 3) พัฒนาทักษะและส่งเสริมให้ประชาชนประกอบธุรกิจการค้าออนไลน์ (พาณิชย์อิเล็กทรอนิก การใช้ความคิดสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรมในการประกบอาชีพ สร้างทักษะอาชีพที่สูงขึ้นให้กับประชาชน รวมทั้งร่วม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล 2.3 พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้กับประชาชนเพื่อรองรับการพัฒนาประเทศ 1) พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของประชาชนในรูปแบบต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม เน้นทักษะภาษาเพื่ออาชีพ ทั้งในภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเที่ยว 2) พัฒนาความรู้และทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล การใช้ Social Media และ Application ต่างๆ พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของครูและบุคลากรทางการศึกษา 3) พัฒนาสื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารเพื่อพัฒนา อาชีพ 3.ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนให้มีคุณภาพ 3.1 เร่งรัดด าเนินการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อยกระดับทักษะอาชีพของประชาชนสู่ฝีมือแรงงาน 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานท าที่สอดคล้องกับศักยภาพของชุมชน และความต้องการ ทางการตลาดให้ประชาชนสามารถน าไปประกอบอาชีพได้จริง โดยให้เน้นหลักสูตรการศึกษาอาชีพช่างพื้นฐานมา ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนด้านอาชีพ เช่น การเรียนผ่าน Youtube การเรียนผ่าน Facebook Live ระบบการเรียนรู้ในระบบเปิดส าหรับมหาชน (Massive Open Online Courses : MOOC) คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) เป็นต้น รวมถึงสนับสนุนให้เกิดประบวนการ ที่ครบวงจร และเปิดพื้นที่ส่วนราชการเป็นที่แสดงสินค้าของชุมชนเพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน 2) บูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาฝีมือแรงงานกับส านักงานคณะกรรมการการศึกษาภาค ประชาชน โดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพและภูมิสังคมเฉพาะของพื้นที่ และด าเนินการเชิงรุกเพื่อเสริมจุดเด่นใน ระดับภาคในการเป็นฐานการผลิตและการบริการที่ส าคัญ รวมถึงมุ่งเน้นสร้างโอกาสในการสร้างรายได้เพื่อตอบสนอง ต่อความต้องการของตลาดแรงงานทั้งภาคอุตสาหกรรมและการบริการ 7


3) พัฒนากลุ่มอาชีพพื้นฐานที่รองรับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่สามารถ พัฒนาศักยภาพไปสู่ระดับฝีมือแรงาน โดยศึกษาต่อในสถาบันการอาชีวศึกษา 3.2 ส่งเสริมให้ประชาชนใช้เทคโนโลยีในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า การท าช่องทางเผยแพร่และ จ าหน่ายผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนให้เป็นระบบครบวงจร และสนับสนุนการจ าหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ ผ่าน ศูนย์จ าหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ออนไลน์ กศน. (ONIE Online Commerce Center : OOCC) เพื่อจ าหน่าย สินค้าออนไลน์ระดับต าบล 3.3 ส่งเสริมการพัฒนาสุขภาวะของประชาชนทุกวัย โดยการสร้างความรู้ ความเข้าใจ การสนับสนุน กิจกรรมสุขภาวะ และสร้างเครือข่ายภาคประชาชน ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคให้กับประชาชนทุก ช่วงวัย โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล พื้นที่ชายแดน และชายแดนภาคใต้ โดยประสานงานร่วมกับโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพต าบลและเจ้าหน้าที่ อสม. ในการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาวะอนามัยให้กับประชาชน รวมทั้ง ผลิตชุดความรู้เกี่ยวกับสุขภาวะ สุขอนามัย เพื่อใช้ประกอบการเรียนรู้ในหลักสูตรการศึกษาของ กศน. 3.4 เพิ่มอัตราการอ่านของประชาชน โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในรูปแบบต่างๆ เช่น อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ห้องสมุดประชาชน บ้านหนังสือชุมชน ห้องสมุดเคลื่อนที่ ผลักดันให้เกิดห้องสมุดสู่ การเป็นห้องสมุดเสมือนจริงต้นแบบ เพื่อพัฒนาให้ประชาชนมีความสามารถในระดับอ่านคล่อง เข้าใจความ คิด วิเคราะห์พื้นฐาน และสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและทันเหตุการณ์ รวมทั้งน าความรู้ที่ได้รับไปใช้ปฏิบัติจริง ในชีวิตประจ าวัน 3.5 เตรียมความพร้อมการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่เหมาะสมและมีคุณภาพ 1) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมให้กับประชาชนเพื่อสร้างความตระหนักถึงการเตรียมพร้อมเข้าสู่สังคม ผู้สูงอายุ (Aging Society)มีความเข้าใจในการพัฒนาการของช่วงวัย รวมทั้งเรียนรู้และมีส่วนร่วมในการดูแล รับผิดชอบผู้สูงอายุที่เหมาะสมและมีคุณภาพ 2) พัฒนาการจัดบริการการศึกษาและการเรียนรู้ส าหรับประชาชนในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัย สูงอายุที่เหมาะสมและมีคุณภาพ 3) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตส าหรับผู้สูงอายุภายใต้แนวคิด “Active Aging” การศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และพัฒนาทักษะชีวิต ให้สามารถดูแลตนเองทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตและ รู้จักใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 4) สร้างความตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุ เปิดโอกาสให้มีการเผยแพร่ภูมิปัญญาของ ผู้สูงอายุ และให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านต่างๆ ในชุมชน เช่น ด้านอาชีพ กีฬา ศาสนาและวัฒนธรรม 5) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในทุกระดับ 8


3.6 พัฒนาหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยใช้กระบวนการ “สะเต็ม ศึกษา” (STEM Eµucation) 4.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 4.1 ส่งเสริมการรู้ภาษาไทย เพิ่มอัตราการรู้หนังสือ และยกระดับการรู้หนังสือของประชาชน 1) ส่งเสริมการรู้ภาษาไทย ให้กับประชาชนในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สามารถฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาไทย เพื่อประโยชน์ในการใช้ ชีวิตประจ าวันได้ 2) เร่งรัดการศึกษาเพื่อเพิ่มอัตราการรู้หนังสือ และคงสภาพการรู้หนังสือ ให้ประชาชนสามารถ อ่านออก เขียนได้ และคิดเลขเป็น โดยมีการวัดระดับการรู้หนังสือ การใช้สื่อ กระบวนการและกิจกรรมพัฒนา ทักษะในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย 3) ยกระดับการรู้หนังสือของประชาชน โดยจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการรู้หนังสือในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งพัฒนาให้ประชาชนมีทักษะที่จ าเป็นในศตวรรษที่ 21 เพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชน 4.2 เพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้ประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา 1) เร่งด าเนินการหาตัวตนของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา ให้กลับเข้าสู่ระบบ การศึกษา โดยใช้กลวิธี “เคาะประตูบ้าน รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” โดยประสานกับส านักงานศึกษาธิการจังหวัด เพื่อด าเนินการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร์เทียบกับข้อมูลการลงทะเบียนเรียนของทุกหน่วยงาน ค้นหาผู้ที่ไม่ได้ อยู่ในระบบการศึกษาเป็นรายบุคคล และรวบรวมจัดท าเป็นฐานข้อมูล และลงพื้นที่ติดตามหาตัวตนของ กลุ่มเป้าหมาย หาสาเหตุของการไม่เข้าเรียน และสอบถามความต้องการในการศึกษาต่อ พร้อมทั้งจ าแนกข้อมูล ตามประเภทของสาเหตุ และประเภทความต้องการในการศึกษาต่อ และส่งต่อกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้รับการศึกษาต่อ ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2) ติดตามผลของกลุ่มเป้าหมายประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาที่ได้รับการจัดหาที่เรียน และทั้งจัดท าฐานข้อมูลผู้ส าเร็จการศึกษาของกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งพัฒนาระบบเพื่อการติดตามกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับ การช่วยเหลือให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาแบบครบวงจร โดยติดตามตั้งแต่การเข้าศึกษาต่อจนจบการศึกษา 4.3 ส่งเสริมและพัฒนาระบบการสะสมและเทียบโอนหน่วยการเรียน (Credit Bank System) ของสถานศึกษา ให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อประโยชน์ ในการด าเนินการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.4 ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดต้นแบบเมืองแห่งการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องให้กับ ประชาชนในชุมชน โดยก าหนดพื้นที่น าร่องที่ผ่านมาตรฐานเทียบวัด (Benchmark) ของส านักงาน กศน. 4.5 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะสั้น ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกับบริบท ของพื้นที่ และตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้รับบริการ 4.6 พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกล ให้มีความทันสมัย มีหลักสูตรและสาระการเรียนรู้ที่ หลากหลาย และสถานศึกษา กศน. สามารถน าไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเหมาะสม 9


4.7 สร้างกระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบ E-learningที่ใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการเรียนรู้ เพื่อเป็นการสร้างและขยายโอกาสในการเรียนรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้สะดวก รวดเร็ว ตรงตามความต้องการของ ประชาชนผู้รับบริการ เช่น ระบบการเรียนรู้ในระบบเปิดส าหรับมหาชน (Massive Open Online Courses : MOOCs)คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) 4.8 ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายทหารกองประจ าการ รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายพิเศษอื่นๆ เช่น ผู้ต้องขัง คนพิการ เด็กออกกลางคัน ให้จบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถน าความรู้ที่ ได้รับไปพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง 5.ยุทธศาสตร์ด้านส่งเสริมและจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5.1 ส่งเสริมให้มีการให้ความรู้กับประชาชน เกี่ยวกับการป้องกันผลกระทบและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติธรรมชาติ 5.2 สร้างความตระหนักถึงความส าคัญของการสร้างสังคมสีเขียว ส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับ การคัดแยก การแปรรูป และการก าจัดขยะ รวมทั้งการจัดการมลพิษในชุมชน 5.3 ส่งเสริมให้หน่วยงานและสถานศึกษาใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการใช้ทรัพยากร ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 6. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการ 6.1 พัฒนาระบบฐานข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และเชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลกลางของประทรวงศึกษาธิการ เพื่อการบริหารจัดการและบูรณาการข้อมูลของ ประชาชนอย่างเป็นระบบ 6.2 ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานต าแหน่งให้ ตรงกับสายงาน และความต้องการของบุคลากร 6.3 ส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต าแหน่งครู มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ (ว21/2560) 10


2.แนวทาง/กลยุทธ์การด าเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของกศน.อ าเภอสัตหีบ - ปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจ กศน.อ าเภอสัตหีบ ปรัชญา “คิดเป็น ท าเป็น เน้น ICT” วิสัยทัศน์ จัดการศึกษาตลอดชีวิต ศูนย์ฝึกอาชีพอย่างยั่งยืน ผูกมิตรกับเครือข่าย กระจายความรู้สู่ชุมขนทุกที่ทุกเวลา ด้วย ICT พันธกิจ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ของประชาชนในต าบลสัตหีบ 2. ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายและชุมชนของพื้นที่ต าบลสัตหีบ ในการจัด การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 3. ส่งเสริมและพัฒนาการน าเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ให้เกิด ประสิทธิภาพในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 4. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและนวัตกรรม การวัดและประเมินผลในทุกรูปแบบ 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการเพื่อมุ่งจัดการศึกษาที่มีคุณภาพโดยยึดหลักธรรมาภิบาลและ การมีส่วนร่วม ผลการวิเคราะห์ SWOT (Swot Analysis) ของ กศน.อ าเภอสัตหีบ S = จุดแข็ง 1. ด้านอาคารสถานที่ตั้งอยู่ในเขตชุมชนเมือง สะดวกในการติดต่อ 2. ด้านบุคลากรมีจ านวนเพียงพอต่อการปฏิบัติงาน 3. มีระบบการจัดเก็บและสืบค้นข้อมูลที่ทันสมัยสามารถสืบค้นข้อมูลทางเวปไซด์ได้ W = จุดอ่อน 1. สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ ไม่เพียงพอต่อการด าเนินงานและการบริการ 2. ระบบสารสนเทศ เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต wifi ไม่เพียงพอต่อการด าเนินงานและการบริการประชาชนและ นักศึกษา 3. สถานที่คับแคบ ไม่เหมาะสมกับการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ O = โอกาส 1. ได้รับความร่วมมือกบภาคีเครือข่ายเป็นอย่างดี 2. ได้รับการยอมรับจากชุมชนและหน่วยงานอื่นๆ 3. มีแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่โดดเด่นจากเศรษฐกิจพอเพียง 4. มีกรอบแนวทางการด าเนินงานที่ชัดเจน T = อุปสรรค 1. สถานที่ 2. นักศึกษาไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้บ่อยครั้ง 3. ผู้เรียนไม่ค่อยพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 4. การจัดสรรงบประมาณจากหน่วยงานล่าช้า 11


นโยบายและจุดเน้นของ กศน.อ าเภอสัตหีบ เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมทั้งประชาชนกลุ่มเป้าหมายพิเศษได้รับโอกาส ทางการศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่องและการศึกษาตาม อัธยาศัยที่มีคุณภาพ อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เป็นไปตามสภาพ ปัญหา และความต้องการของแต่ละกลุ่ม 2. ประชาชนได้รับการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความ เข้มแข็งให้กับชุมชน โดยมีกศน. ต าบล ศูนย์การเรียนชุมชน และแหล่งการเรียนรู้อื่นในชุมชนเป็นกลไกในการจัดการ เรียนรู้เพื่อพัฒนาไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และสิ่งแวดล้อมใน ต าบลสัตหีบ 3. ชุมชนและทุกภาคส่วน ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการด าเนินงานการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู้ของชุมชนตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและปรัชญาคิดเป็น 4. ประชาชนในต าบลสัตหีบได้รับโอกาสในการเรียนรู้และมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ เหมาะสมสามารถคิด วิเคราะห์และประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์ 5. กศน.ต าบลสัตหีบ หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาและน าสื่อเทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร มาใช้ในการเพิ่มโอกาสและยกระดับคุณภาพในการจัดการเรียนรู้ให้กับนักศึกษาในต าบล สัตหีบ 6. บุคลากรของ กศน.ต าบลสัตหีบและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างทั่วถึง 7. กศน.ต าบลสัตหีบและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล ตัวชี้วัด 1. จ านวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามสิทธิที่ ก าหนดไว้ 2. จ านวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายต่างๆ (กลุ่มเป้าหมายทั่วไป กลุ่มเป้าหมายพิเศษ และกลุ่มคนไทยทั่วไป เป็นต้น) ที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ได้รับบริการกิจกรรมการศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัยที่สอดคล้อง กับสภาพ ปัญหา และความต้องการ 3. ร้อยละผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษานอกระบบสามารถน าความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตามจุดมุ่งหมาย ของหลักสูตร/กิจกรรมที่ก าหนด 4. จ านวนแหล่งเรียนรู้ในระดับต าบลที่มีความพร้อมในการให้บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย 5. จ านวนประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่เข้ารับการฝึกอาชีพ เห็นช่องทางในการประกอบอาชีพ 6. ร้อยละของผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่สามารถอ่านออกเขียนได้และคิดเลขเป็นตามจุดมุ่งหมายของกิจกรรม 7. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับบริการเข้าร่วมกิจกรรมแหล่งเรียนรู้ตามอัธยาศัย มีความรู้ความเข้าใจ เจตคติทักษะตามจุดมุ่งหมายของกิจกรรมที่ก าหนด 8. จ านวนผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่ก าหนด 9. จ านวนองค์กรภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ที่ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการด าเนินงานการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 12


10. จ านวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่เข้าถึงบริการการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ในรูปแบบ 11. จ านวน/ประเภทของสื่อ และเทคโนโลยีทางการศึกษาที่มีการจัดท า/พัฒนาและน าไปใช้เพื่อส่งเสริมการ เรียนรู้ของผู้เรียน/ผู้รับบริการการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย 12. จ านวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่เข้าถึงบริการความรู้นอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยผ่านช่องทางสื่อเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีการสื่อสาร 13. ร้อยละของนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ได้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้เพิ่มสูงขึ้น 14. จ านวนบุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 15. ร้อยละของสถานศึกษาในสังกัดที่มีระบบประกันคุณภาพภายในและมีการจัดท ารายงานการประเมิน ตนเอง 16. ร้อยละของหน่วยงาน และสถานศึกษา กศน. ที่มีการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารใน การจัดท าฐานข้อมูลชุมชนและการบริหารจัดการ เพื่อสนับสนุนการด าเนินงานการศึกษานอกระบบ และการศึกษา ตามอัธยาศัยขององค์การ 17. ร้อยละของหน่วยงาน และสถานศึกษา กศน. ที่สามารถด าเนินงานโครงการ/กิจกรรมตามบทบาทภารกิจ ที่รับผิดชอบได้ส าเร็จตามเป้าหมายที่ก าหนดไว้อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้โดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า/ตามแผนที่ ก าหนดไว้ จุดเน้นการด าเนินงาน กศน. ตามยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ 6 ยุทธศาสตร์ 1. พัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน และการวัดผลประเมินผล จุดเน้นการด าเนินงาน 1.1 จัดกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของประชาชนชุมชนและสังคม ในรูปแบบที่หลากหลาย ให้ประชาชนคิดเป็น วิเคราะห์ได้ตัดสินใจภายใต้ฐานข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น ความรู้เรื่องการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข/การเลือกตั้ง แนวทางและทิศทางการพัฒนา ประเทศด้านต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยประสานความร่วมมือกับกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมจัดท าเนื้อหาและสื่อ ประกอบการจัดกระบวนการเรียนรู้รวมทั้งให้มีการจัดท าแผนการเรียนรู้รายชุมชน เพื่อพัฒนาสู่ชุมชน/เมืองแห่งการ เรียนรู้ 1.2 ส่งเสริมให้มีการจัดการเรียนการสอนแบบ “สะเต็มศึกษา” (STEM Education) โดยบูรณาการความรู้ ด้าน คณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต สู่การประกอบอาชีพ ประยุกต์ใช้ในการท างาน และเป็นแนวทางของการสร้างแรงงานที่มีศักยภาพได้ในอนาคต 1.3 จัดการศึกษาเพื่อเพิ่มอัตราการรู้หนังสือให้คนไทยให้สามารถอ่านออกเขียนได้โดยใช้หลักสูตรการรู้ หนังสือของคนไทยของส านักงาน กศน.และสื่อที่เหมาะสมกับสภาพและพื้นที่ของกลุ่มเป้าหมาย 2. การผลิต พัฒนา ครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา จุดเน้นการด าเนินงาน 2.1 จัดท าแผนพัฒนาอัตราก าลังล่วงหน้าระยะ 10 ปีเพื่อใช้เป็นข้อมูลส าหรับการขอกรอบอัตราก าลัง เพิ่มเติมให้เพียงพอต่อขอบข่ายการด าเนินงานของ กศน. 2.2 เร่งพัฒนาศักยภาพครูกศน. ทุกประเภท เพื่อให้สามารถเป็นทั้งผู้สอนและผู้ออกแบบการเรียนรู้ รายบุคคล และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจัดท าแผนพัฒนาครูกศน.ทุกประเภท และทุกระดับ ช่วงระยะ 10 ปีเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูกศน. ให้ได้เกณฑ์มาตรฐานที่ก าหนด 2.3 ส ารวจข้อมูล และทบทวนหลักเกณฑ์การจ้างลูกจ้างแบบจ้างเหมาบริการ และพนักงานราชการให้ตรง ตามความต้องการของพื้นที่ 13


3. ผลิต และพัฒนาก าลังคน รวมทั้งงานวิจัยที่สอดคล้องกับความต้องการของการพัฒนาประเทศ จุดเน้นการด าเนินงาน 3.1 ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มพนักงานรักษาความปลอดภัย ให้จบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพ โดยเน้นการเรียนรูปแบบโปรแกรมเรียนรู้รายบุคคล 3.2 จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้สอดคล้องและรองรับกับความต้องการของการ พัฒนาตามบริบทของแต่ละพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยมุ่งเน้นผลิตก าลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการ ของพื้นที่ พร้อมทั้งสร้างทักษะทางวิชาชีพ โดยเน้นด้านการบริหารและการประกอบการ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ ได้รับการพัฒนาศักยภาพในแนวทางที่ดีขึ้น 4. ขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต จุดเน้นการด าเนินงาน 4.1 เร่งบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก โดยประสานข้อมูลโรงเรียนขนาดเล็กจากส านักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อส ารวจความต้องการในกาจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อท าเป็น กศน. ต าบลหรือแหล่งการเรียนรู้ของชุมชนภายในต าบลสัตหีบ 4.2 จัดและส่งเสริมความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย เด็กออกกลางคัน/เด็กตกหล่น และกลุ่มคนพิการในต าบลสัตหีบ 4.3 เร่งส ารวจข้อมูลการรู้หนังสือของคนไทย โดยให้ความส าคัญกับกลุ่มเป้าหมายนักศึกษา กศน.ในต าบล สัตหีบ 4.4 พัฒนา กศน.ต าบล/แขวง ให้เป็นฐานการขับเคลื่อนการจัดการศึกษา โดยเน้นการประสานเชื่อมโยง ระหว่างชุมชนและภาคีเครือข่าย ในการจัดการศึกษารูปแบบ กศน.ต าบล 4 ศูนย์ได้แก่ (1) ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจ าต าบล (2) ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยต าบล (3) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน และ (4) ศูนย์การศึกษาตลอดชีวิตชุมชน เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของประชาชนอย่างมี ประสิทธิภาพ รวมทั้งสร้างและกระจายโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุมชน 4.5 จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนทุกช่วงวัย“กศน.เพื่อประชาชน”เช่น จัดการเรียนวิชาชีพ ระยะสั้น (โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน) ให้กับประชาชนที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน บริบทของ พื้นที่ จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและการพัฒนาทักษะชีวิตในการเตรียมความพร้อม รับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการเข้าสู่สังคมเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อน ด้วยนวัตกรรม (Thailand 4.0) 4.6 มุ่งเน้นการส่งเสริมให้เกิดชุมชนรักการอ่านภายในต าบลสัตหีบ “นั่งที่ไหน อ่านที่นั่น” ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ห้องสมุดประชาชน บ้านหนังสือชุมชน ตู้หนังสือเคลื่อนที่ในตลาด และหนังสือพิมพ์ฝาผนัง เป็นต้น 5. ส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา จุดเน้นการด าเนินงาน 5.1 พัฒนา กศน. ต าบลสัตหีบ ให้มีความพร้อมเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT และเทคโนโลยีเพื่อ การศึกษาอื่นที่เหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อให้กศน.ต าบลสัตหีบ เข้าถึงการใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตมีความพร้อมในการ ให้บริการการศึกษาและการเรียนรู้ที่เป็นไปตามความต้องการของประชาชนและชุมชน และสร้างโอกาสในการเรียนรู้ ได้อย่างทั่วถึง 14


5.2 พัฒนาระบบช่องทางแหล่งเรียนรู้ออนไลน์(Portal Web) และส่งเสริมให้ประชาชนน าเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารมาประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้/กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสการเรียนรู้และการพัฒนาอาชีพ เช่น การแสวงหาความรู้เพื่อการด ารงชีวิต การพัฒนาต่อยอดอาชีพเพื่อสร้างรายได้โดยผ่านกลไกของศูนย์ดิจิทัล ชุมชน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถน าความรู้ความสามารถ เจตคติที่ดีต่อการประกอบอาชีพและทักษะที่พัฒนาขึ้นไปใช้ ประโยชน์ในการประกอบอาชีพที่สร้างรายได้ได้จริงและการพัฒนาสู่เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ต่อไป 6. พัฒนาระบบบริหารจัดการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา จุดเน้นการด าเนินงาน 6.1 ส ารวจ วิเคราะห์และปรับปรุงค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยด าเนินการให้ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซื้อต าราเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่าเล่าเรียน อย่างทั่วถึง และเหมาะสมกับสภาพการจัดการศึกษา เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับการศึกษาที่มีคุณภาพโดยไม่เสีย ค่าใช้จ่าย 6.2 สร้างความรู้ความตระหนัก และปลูกจิตส านึกตามหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนความรู้เรื่องกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานให้กับบุคลากรทุกระดับทุกประเภทโดยส่งเสริมการจัด กิจกรรม การจัดท านวัตกรรมเกี่ยวกับองค์ความรู้ด้านคุณธรรมจริยธรรม การป้องกันการทุจริต และราชการใสสะอาด ของหน่วยงานและสถานศึกษา เพื่อให้กศน.ต าบลสัตหีบ เป็นองค์กรแห่งศักดิ์ศรีและสุจริตธรรมที่ประชาชนมีความ เชื่อมั่น ศรัทธาและมีความไว้วางใจในการปฏิบัติงาน ภารกิจต่อเนื่อง 1. ด้านการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ 1.1 การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบตั้งแต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยด าเนินการให้ ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซื้อต าราเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่าเล่าเรียนอย่างทั่วถึงและ เพียงพอเพื่อเพิ่มโอกาสในการรับการศึกษาที่มีคุณภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ด้อย พลาดและขาด โอกาสทางการศึกษา ทั้งระบบการให้บริการ ระบบการเรียนการสอน ระบบการวัดและประเมินผลการเรียน ผ่านการ เรียนแบบเรียนรู้ด้วยตนเอง การพบกลุ่ม การเรียนแบบชั้นเรียน และการจัดการศึกษาทางไกล 3) จัดให้มีการประเมินเพื่อเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ที่มี ความโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้มีมาตรฐานตามที่ก าหนด และสามารถตอบสนองความต้องการของ กลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4) ส่งเสริมให้ผู้เรียนต้องเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อด าเนินกิจกรรม เสริมสร้างความสามัคคีบ าเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารีและยุวกาชาด กิจกรรมจิตอาสา การจัดตั้ง ชมรม/ชุมนุม และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนน ากิจกรรมการบ าเพ็ญประโยชน์อื่น ๆนอกหลักสูตร มาใช้เพิ่มชั่วโมงกิจกรรม ให้ผู้เรียนจบตามหลักสูตรได้ 5) จัดตั้งศูนย์แนะแนวและประสานการศึกษาพิเศษอ าเภอ/เขต ให้ครบทุกอ าเภอทั่วประเทศ 15


1.2 การศึกษาต่อเนื่อง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานท าอย่างยั่งยืน โดยให้ความส าคัญกับการจัดการศึกษาอาชีพ เพื่อการมีงานท าประเภทช่างพื้นฐาน/ช่างชนบท และอาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียนและศักยภาพของ แต่ละพื้นที่ 2) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตให้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยจัดกิจกรรมการศึกษาในรูปแบบ ต่างๆ อาทิค่ายพัฒนาทักษะชีวิต การจัดตั้งชมรม/ชุมนุม การส่งเสริมความสามารถพิเศษต่างๆ ที่มุ่งเน้นให้ทุก กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเองให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีคุณธรรม จริยธรรม รวมทั้งสามารถใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัวและชุมชน 3) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ บูรณาการในรูปแบบของการฝึกอบรม การเรียนทางไกล การประชุม สัมมนา การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัด กิจกรรมจิตอาสา การสร้างชุมชนนักปฏิบัติและรูปแบบอื่นๆ ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและบริบทของชุมชนแต่ละ พื้นที่ โดยเน้นการด าเนินตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างจิตส านึกความเป็นประชาธิปไตย ความเป็น พลเมืองดีการบ าเพ็ญประโยชน์การอนุรักษ์พลังงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4) ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เพื่อสร้างจิตส านึกและวินัยในชุมชน เช่น การส่งเสริมคุณธรรมและ จริยธรรมในชุมชน การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของชุมชน ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจ าต าบลสัตหีบ 1.3 การศึกษาตามอัธยาศัย 1) ส่งเสริมให้มีการขยายและพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ในระดับต าบล เพื่อการถ่ายทอดองค์ความรู้ และจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ในชุมชนได้อย่างทั่วถึง 2) จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน และพัฒนาความสามารถในการอ่าน และศักยภาพการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายให้ได้ระดับอ่านคล่อง อ่านเข้าใจความเขียนคล่อง และอ่าน เชิงคิดวิเคราะห์พื้นฐาน และให้ประชาชนสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและทันเหตุการณ์เพื่อสามารถน าความรู้ ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติจริง 3) ส่งเสริมให้มีการสร้างบรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดย สนับสนุนการพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น พัฒนาห้องสมุดประชาชนทุกแห่งให้เป็น แหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้างเครือข่ายส่งเสริมการ อ่าน จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่พร้อมอุปกรณ์เพื่อส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่หลากหลายออกให้บริการประชาชน ในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างทั่วถึง สม่ าเสมอ รวมทั้งเสริมสร้างความพร้อมในด้านสื่ออุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการอ่าน และการ จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอ่านอย่างหลากหลาย 4) จัดท ามุมวิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้เชิงวิชาการประจ าต าบล โดยพัฒนา และจัดท านิทรรศการ และจัดกิจกรรมที่เน้นการเสริมสร้างทักษะ กระบวนการเรียนรู้และเจตคติทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้นักศึกษา ประชาชนน าความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์ไปใช้พัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์บนฐานข้อมูลที่ ถูกต้อง และสามารถปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเชื่อมโยง กระบวนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาชุมชน ให้ผู้รับบริการสามารถน าไปประยุกต์ใช้ในการด าเนินชีวิตการพัฒนา อาชีพ การรักษาสิ่งแวดล้อม และการป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติในพื้นที่ 16


2. ด้านหลักสูตร สื่อ รูปแบบการเรียนรู้การวัดและประเมินผล งานบริการทางวิชาการและการประกันคุณภาพ การศึกษา 2.1 ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการเรียนการสอน และกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่หลากหลาย ทันสมัย รวมทั้งหลักสูตรท้องถิ่นที่สอดคล้องกับสภาพบริบทของ พื้นที่ และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและชุมชน เช่น การจัดโปรแกรมการเรียนรู้รายบุคคล และแผนการเรียนรู้ รายชุมชน 2.2 พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกลให้มีความทันสมัยด้วยระบบห้องเรียนและการควบคุมการสอบ ออนไลน์ 2.3 พัฒนาระบบการประเมินเพื่อเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ให้มี คุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.4 ส่งเสริมการพัฒนาสื่อแบบเรียน สื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่ออื่นๆ ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลุ่มเป้าหมายทั่วไปและกลุ่มเป้าหมายพิเศษ 2.5 พัฒนาระบบการวัดผลและประเมินผลการศึกษานอกระบบทุกหลักสูตร โดยเฉพาะหลักสูตรในระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐานให้ได้มาตรฐาน โดยการน าแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอิเล็กทรอนิกส์(e-Eµam) มาใช้ อย่างมีประสิทธิภาพ 2.6 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัย พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้และเผยแพร่ รูปแบบการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อให้มีการน าไปสู่การ ปฏิบัติอย่างกว้างขวางและมีการพัฒนาให้เหมาะสมกับบริบทอย่างต่อเนื่อง 2.7 พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาให้ได้มาตรฐาน เพื่อพร้อมรับการประเมินคุณภาพ ภายนอก โดยพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจ ตระหนักถึงความส าคัญของระบบการประกันคุณภาพ และ สามารถด าเนินการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้การประเมินภายในด้วยตนเอง และ จัดให้มีระบบสถานศึกษาพี่เลี้ยงเข้าไปสนับสนุนอย่างใกล้ชิด ส าหรับสถานศึกษาที่ยังไม่ได้เข้ารับการประเมินคุณภาพ ภายนอก ให้พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่ก าหนด 3. ด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา 3.1 ผลิตและพัฒนารายการวิทยุและรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาให้เชื่อมโยงและตอบสนองต่อการจัด กิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาส าหรับ กลุ่มเป้าหมายต่างๆ ให้มีทางเลือกในการเรียนรู้ที่หลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพัฒนาตนเองให้รู้เท่าทันสื่อและ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร เช่น รายการพัฒนาอาชีพเพื่อการมีงานท ารายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ฯลฯ เผยแพร่ทางสถานีวิทยุศึกษา สถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และทางอินเทอร์เน็ต 32 พัฒนาช่องทางการเผยแพร่การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านระบบเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารแบบออนไลน์เพื่อส่งเสริมให้ครูกศน.น าเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในการ สร้างกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3.3 พัฒนาสถานีวิทยุศึกษา และสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการ ออกอากาศให้กลุ่มเป้าหมายสามารถใช้เป็นช่องทางการเรียนรู้ที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยขยาย เครือข่ายการรับฟังให้สามารถรับฟังได้ทุกที่ ทุกเวลา ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศและเพิ่มช่องทางให้สามารถรับชม รายการโทรทัศน์ได้ทั้งระบบ Ku - Band , C - Band และทางอินเทอร์เน็ตพร้อมที่จะรองรับการพัฒนาเป็นสถานีวิทยุ โทรทัศน์เพื่อการศึกษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พัฒนาระบบการให้บริการสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาให้ได้หลายช่องทางทั้งทางอินเทอร์เน็ต และ รูปแบบอื่น ๆ เช่น Application บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ Tablet, DVD, CD, VCD และ MP3 เป็นต้น เพื่อให้ กลุ่มเป้าหมายสามารถเลือกใช้บริการเพื่อเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ได้ตามความต้องการ 17


3.5ส ารวจ วิจัย ติดตามประเมินผลด้านสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และน าผลมาใช้ในการ พัฒนางานให้มีความถูกต้อง ทันสมัยและสามารถส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชนได้อย่าง แท้จริง 4. ด้านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด าริหรือโครงการอันเกี่ยวเนื่องจากราชวงศ์ 4.1 ส่งเสริมและสนับสนุนการด าเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด าริหรือโครงการอันเกี่ยวเนื่อง จากราชวงศ์ภายในต าบลและพื้นที่ใกล้เคียง 4.2 จัดท าฐานข้อมูลโครงการและกิจกรรมของ กศน.ต าบล ที่สนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด าริ ที่สามารถน าไปใช้ในการวางแผน การติดตามประเมินผลและการพัฒนางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.3 ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการด าเนินงานเพื่อสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด าริเพื่อให้เกิด ความเข้มแข็งในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 4.4 พัฒนาศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” ให้มีความพร้อมในการจัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยตามบทบาทหน้าที่ที่ก าหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ 5. ด้านบุคลากร ระบบการบริหารจัดการ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน 5.1 การพัฒนาบุคลากร 1) พัฒนาบุคลากรทุกระดับ ทุกประเภทให้มีสมรรถนะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งก่อนและระหว่างการ ด ารงต าแหน่งเพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการปฏิบัติงาน สามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการการด าเนินงานของหน่วยงาน และสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งส่งเสริมให้บุคลากรในสังกัดพัฒนาตนเองเพื่อเลื่อนต าแหน่งหรือเลื่อน วิทยฐานะโดยเน้นการประเมินวิทยฐานะเชิงประจักษ์ 2) พัฒนาหัวหน้า กศน. ต าบล ให้มีสมรรถนะสูงขึ้นในการบริหารจัดการ กศน. ต าบลสัตหีบ และ การปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการเป็นนักจัดการความรู้และผู้อ านวยความสะดวกใน การเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง 3) พัฒนาครูกศน. และผู้ที่เกี่ยวข้องให้สามารถจัดรูปแบบการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพโดยส่งเสริม ให้มีความรู้ความสามารถในการจัดท าแผนการสอน การจัดกระบวนการเรียนรู้การวัดและประเมินผล และการวิจัย เบื้องต้น 4) ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการ กศน. ต าบลสัตหีบ เพื่อให้มีส่วนร่วมในการบริหาร การด าเนินงานตามบทบาทภารกิจของ กศน. ต าบลสัตหีบ อย่างมีประสิทธิภาพ 5) พัฒนาศักยภาพบุคลากร ที่รับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีความรู้ ความสามารถและมีความเป็นมืออาชีพในการจัดบริการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชนในต าบลสัตหีบ 1) พัฒนาอาสาสมัคร กศน.สัตหีบ ให้สามารถท าหน้าที่เป็นผู้จัด ส่งเสริมและสนับสนุนการจัด 2) การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ 7) เสริมสร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคลากร รวมทั้งภาคีเครือข่ายทั้งในต าบลและต าบลใกล้เคียงใน ทุกระดับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการท างานร่วมกัน โดยจัดให้มีกิจกรรมการพัฒนาสมรรถนะ และเสริมสร้าง ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร และภาคีเครือข่ายในรูปแบบที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง 18


5.2 การพัฒนาโครงสร้างและอัตราก าลัง 1) จัดท าแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและด าเนินการปรับปรุงสถานที่ และวัสดุอุปกรณ์ให้มี ความพร้อมในการจัดการศึกษา 2) แสวงหาภาคีเครือข่ายในท้องถิ่นเพื่อการมีส่วนร่วมในการด าเนินกิจกรรม การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งระดมทรัพยากรเพื่อน ามาใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อม ส าหรับด าเนินกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชน 3) บริหารอัตราก าลังที่มีอยู่ทั้งในส่วนที่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างให้เกิด ประสิทธิภาพสูงสุดในการปฏิบัติงาน 5.3 การพัฒนาระบบบริหารจัดการ 1) เร่งผลักดันให้มีการประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยการศึกษาตลอดชีวิต 2) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการก ากับ ควบคุมและเร่งรัด การเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นตามเป้าหมายที่ก าหนดไว้ 3) พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อมโยงกันทั่วประเทศอย่าง เป็นระบบเพื่อให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถน าไปใช้เป็นเครื่องมือส าคัญในการบริหารการวางแผน การปฏิบัติงาน การติดตามประเมินผล และการน าผลมาพัฒนาการด าเนินงานอย่างต่อเนื่องตามวงจรคุณภาพเดมมิ่ง (PDCA) รวมทั้งจัดบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ 4) พัฒนาระบบฐานข้อมูลรวมของนักศึกษา กศน.ต าบลสัตหีบ ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อมโยงกันทั่วประเทศ สามารถสืบค้นและสอบทานได้ทันความต้องการเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษาให้กับ ผู้เรียนและการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ 5) ส่งเสริมให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการศึกษาวิจัยเพื่อ สามารถน ามาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพการด าเนินงานที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและชุมชน พร้อมทั้งพัฒนาขีดความสามารถเชิงการแข่งขันของหน่วยงานและสถานศึกษา 6) สร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการพัฒนาและส่งเสริมการ จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต 5.4 การก ากับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผล 1) สร้างกลไกการก ากับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการด าเนินงานการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้เชื่อมโยงกับหน่วยงาน สถานศึกษา และภาคีเครือข่ายทั้งระบบ 2) ให้หน่วยงานและสถานศึกษาที่เกี่ยวข้องทุกระดับ พัฒนาระบบกลไกการก ากับ ติดตามและ รายงานผลการน านโยบายสู่การปฏิบัติให้สามารถตอบสนองการด าเนินงานตามนโยบายในแต่ละเรื่องได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 3) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสื่ออื่น ๆ ที่เหมาะสม เพื่อการก ากับ นิเทศ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลอย่างมีประสิทธิภาพ 4) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการตามค ารับรองการปฏิบัติราชการประจ าปี ของ กศน.ต าบล เพื่อการรายงานผลตามตัวชี้วัดในค ารับรองการปฏิบัติราชการประจ าปีของส านักงาน กศน. ให้ด าเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามเกณฑ์วิธีการ และระยะเวลาที่ก าหนด 5) ให้มีการเชื่อมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กรตั้งแต่ ส่วนกลาง ภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด อ าเภอ/เขต และต าบล/แขวง เพื่อความเป็นเอกภาพในการใช้ข้อมูล และการ พัฒนางานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 19


3. การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน เป็นการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะความสามารถและศักยภาพของคนในชุมชน รวมทั้งกลไกทุกภาคส่วนใน ชุมชนให้ร่วมกันรับผิดชอบและเห็นถึงความส าคัญในการ ฟื้นฟูพัฒนาสังคมและชุมชนของตนเอง โดยหน่อยงาน สถานศึกษาการศึกษานอกโรงเรียนต้องให้ความส าคัญต่อการใช้กระบวนการทางการศึกษาส่งเสริมให้ปราชน ชุมชน เกิด การเรียนรู้และบูรณาการความรู้ ประสบการณ์ และทักษะอาชีพเข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคมและชุมชน โดยรวม และเพื่อให้การด าเนินงานบรรลุผลส าเร็จตามนโยบายดังกล่าว จึงได้ก าหนดแนวทางการด าเนินการด าเนินงานใน ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมพัฒนา สังคมและชุมชน ใน 5 ด้าน ซึ่งมีจุดเน้นของแต่ละด้าน ดังนี้ 1. ด้านเศรษฐกิจ –กิจกรรมเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเอง 2. ด้านการเมือง –กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตยในวิถีชีวิต 3. ด้านสังคม –กิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ 4. ด้านสิ่งแวดล้อม –กิจกรรมรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม 5. ด้านศิลปวัฒนธรรม –กิจกรรมเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้พยายามเชื่อมโยงหรือบูรณาการทั้ง 4 กิจกรรมด้วย โดยสอดคล้องกับสภาพเป็น จริงในชีวิตและสังคมของผู้เรียน 20


เอกสาร/งานที่เกี่ยวข้อง ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหกษัตริย์ ความหมายของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักชาติศาสนา พระมหากษัตริย์(Love of nation, religion and king) เป็นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ ธ ารงไว้ซึ่งความเป็นชาติ ศรัทธา ยึดมั่นในศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบัน พระมหากษัตริย์ เด็กที่มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จะเป็นเด็กที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มีความ สามัคคี ปรองดอง ภูมิใจ เชิดชูความเป็นไทย ปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ และแสดงความจงรักภักดีต่อ สถาบันพระมหากษัตริย์ ชาติหมายถึง แผ่นดินที่มีประชาชนยึดครอง มีอาณาเขตที่แน่นอน มีการปกครองเป็นสัดส่วน มีผู้น าเป็นผู้ปกครอง ประเทศและประชาชนทั้งหมด ด้วยกฎหมายที่ประชาชนในชาตินั้นก าหนดขึ้น เช่น ประเทศไทย มีการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข มีศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจ าชาติ มีวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และจารีตประเพณี เป็นเอกลักษณ์ประจ าชาติของตนเอง สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษเป็นเวลา ยาวนาน ผู้ที่มีความรักชาติ จะช่วยกันปกป้องรักษาชาติ ไม่ให้ศัตรูมารุกรานหรือท าร้ายท าลาย เพื่อให้ลูกหลานได้อยู่ อาศัยต่อไปให้อยู่ร่วมกันด้วยความสงบสุขสืบไป ศาสนา หมายถึง ค าสอนขององค์พระศาสดาแต่ละพระองค์ ศาสนาทุกศาสนามีไว้เพื่อสอนให้มนุษย์ละชั่ว ประพฤติดี ผู้ที่รักศาสนา จะเป็นผู้ที่น าค าสอนของแต่ละศาสนาไปประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจ าวัน ละความชั่ว กระท าแต่ความดี และท าจิตใจให้สะอาดปราศจากเครื่องเศร้าหมอง คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ส่วนผู้ที่ไม่รักศาสนา จึงเป็นผู้ ที่ไม่น าค าสอนของศาสนานั้นไปประพฤติปฏิบัติ ไม่ละความชั่ว ไม่ประพฤติดี ไม่ช าระจิตใจให้สะอาดปราศจากกิเลส ปล่อยให้ความโลภ ความโกรธ ความหลงครอบง าจิตใจ พระมหากษัตริย์หมายถึง พระเจ้าแผ่นดิน ผู้เป็นพระประมุขของประเทศ มีหน้าที่ปกครองประชาชนพลเมืองใน ประเทศนั้นให้อยู่ดีมีสุขตามกฎหมาย ตามครรลองคลองธรรมจารีตประเพณีวัฒนธรรมของชาตินั้นๆ เช่น ประเทศไทย มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นพระประมุข ทรงปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชน ชาวสยาม ทรงให้แนวพระราชด าริเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการด าเนินชีวิตของปวงชนชาวไทย น าความ เจริญรุ่งเรืองความผาสุกมาสู่พสกนิกรถ้วนหน้า มีความเป็นอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข มีความรู้รักสามัคคีกลมเกลียว เรา ควรประพฤติตนเป็นคนดีถวายเป็นพระราชกุศล และถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สถาบันทั้ง 3 นี้มีบุญคุณต่อเราอย่างมาก เพราะชาติ คือ แผ่นดินที่เราอยู่อาศัย ศาสนา คือ ค าสอนของ องค์พระศาสดาแต่ละพระองค์ที่สอนให้เราทุกคนเป็นคนดี และพระมหากษัตริย์ คือ ผู้ปกครองบ้านเมืองโดยธรรม เพื่อความสงบสุขของพสกนิกรชาวไทย เราทุกคนจึงควรรักชาติ รักศาสนา รักพระมหากษัตริย์ ด้วยใจอันบริสุทธิ์ ยึด มั่นและปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 21


บรรพบุรุษของเราเสียเลือดเสียเนื้อเพื่อรักษาเอกราชของประเทศไทย เพื่อด ารงไว้ซึ่ง ชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ เราควรภูมิใจในความเป็นไทย และร่วมกันรักษาท านุบ ารุงประเทศชาติผู้ ปกครองและคุณครูจึง เป็นส่วนส าคัญในการปลูกฝังทัศนคติที่ถูกต้องดีงามสู่คน รุ่นหลังเพื่อสืบสานความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ ฝังอยู่ในจิตส านึกเสมอ โดยให้เด็กๆได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ในชีวิตจริง เช่น 1) ปลูกฝังให้เด็กฟังและร้องเพลงชาติ ยืนตรงเคารพธงชาติ 2)เล่าประวัติความเป็นมาของประเทศชาติ รวมถึงสอนมารยาท ประเพณีวัฒนธรรม และภาษาไทยให้ ถูกต้อง 3)ปลูกฝังให้เด็กเรียนรู้เข้าใจศาสนา สอนหลักศีลธรรม และพาเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาเพื่อขัดเกลา จิตใจ เช่น ไหว้พระ สวดมนต์ ตักบาตร นั่งสมาธิ 4) สอนให้มีความรู้เข้าใจเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์รู้จักแสดงความจงรักภักดี และส านึกถึงพระมหา กรุณาธิคุณเสมอ หากมีการปลูกฝังค่านิยมให้ถูกต้องเรื่องความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จากรุ่นสู่รุ่น และทุกคน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมอันดี บ้านเมืองก็จะร่มเย็นเป็นสุข ด ารงความเป็นไท 22


บทที่ 3 วิธีการด าเนินงาน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอสัตหีบ จัดท าโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มีขั้นตอนดังนี้ 1. ประชุมบุคลากรกรรมการสถานศึกษาและตัวแทนประชาชนต าบลพลูตาหลวง 2. จัดตั้งคณะท างาน 3. ประสานงานกับหน่วยงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง 4. ด าเนินงานตามแผน 5. วัดผล/ประเมินผล/สรุปผลและรายงาน 1.ประชุมบุคลากรกรรมการสถานศึกษาและตัวแทนประชาชนต าบลพลูตาหลวง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอสัตหีบ ได้วางแผนประชุมกับบุคลากรกรรมการ สถานศึกษาและตัวแทนประชาชนต าบลพลูตาหลวง เพื่อหาแนวทางในการด าเนินงานและก าหนดวัตถุประสงค์ร่วมกัน 2.จัดตั้งคณะท างาน จัดท าค าสั่งแต่งตั้งคณะท างานโครงการ เพื่อมอบหมอบหมายหน้าที่ในการท างานให้ชัดเจน เช่น 1) คณะกรรมการที่ปรึกษา/อ านวยการ มีหน้าที่อ านวยความสะดวก และให้ค าปรึกษาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 2) คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์รับสมัครนักศึกษาเข้าร่วมโครงการ 3) คณะกรรมการฝ่ายรับลงทะเบียนและประเมินผลหน้าที่จัดท าหลักฐานการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมกิจกรรม และรวบรวมการประเมินผล และรายงานผลการด าเนินการ ประสานเครือข่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น ประสานเรื่องสถานที่ใช้อบรม ประสานงานกับคณะกรรมการสถานศึกษา ประสานงานกับทีมวิทยากร และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม 3. ด าเนินการตามแผนงานโครงการ โครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์วันที่ 28 มิถุนายน 2562 ณ ศาลา ประชาคม หมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 4.กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการด าเนินงาน ประชากรในต าบลพลูตาหลวง จ านวน 20 คน จากเป้า 15 คน 5. เครื่องมือที่ใช้ในการด าเนินงาน 1. แบบส ารวจความคิดเห็นโครงการ ส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. แบบสอบถามความพึงพอใจโครงการ ส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 6.ด าเนินการตามแผนงานโครงการ โครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ในวันที่ 28 มิถุนายน 2562 ณ ศาลา ประชาคม หมู่ที่ 7 ต าบลพลูตาหลวง อ าเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 7. การเก็บรวบรวมข้อมูล จากการด าเนินงานโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในวันที่ 28 มิถุนายน 2562 ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 7 ต าบลพลูตาหลวง อ าเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นประชาชนต าบลพลูตาหลวง จ านวน 20 คนจากเป้าหมายที่ก าหนด 15 คน โดยมีการแจกแบบสอบถามทั้งหมด 20 ชุด และเก็บรวบรวม แบบสอบถามได้ 20 ชุด คิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์


8. การวิเคราะห์ข้อมูล ททททททททจากการโครงการ ส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยมีเครื่องมือที่ใช้ ในการ วิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ 1. ค่าแจกแจงความถี่ 2. ค่าร้อยละ 3. ค่าเฉลี่ย 4. ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทท การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอสัตหีบ จะได้น าแนวทางไปใช้ข้อมูลพิจารณา หลักสูตร เนื้อหาตลอดจนเทคนิควิธีการจัดการกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้เข้า อบรมได้รับประโยชน์น าไปใช้ได้จริงตามศักยภาพของแต่ละคน ให้มีความเข้าใจและมีคุณภาพต่อไป ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอสัตหีบ ได้ด าเนินการตามขั้นตอนและได้รวบรวมข้อมูล โดยใช้สภาพการ ใช้สื่อการสอนของครูในสถานศึกษาเป็นแบบมาตรวัดประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ โดยมีรายละเอียดดังนี้ (บุญชม ศรีสะอาด และบุญส่ง นิลแก้ว ,2545) 5 หมายถึง มีการด าเนินงานในระดับมากที่สุด 4 หมายถึง มีการด าเนินงานในระดับมาก 3 หมายถึง มีการด าเนินงานในระดับปานกลาง 2 หมายถึง มีการด าเนินงานในระดับน้อย 1 หมายถึง มีการด าเนินงานในระดับน้อยที่สุด โดยมีเกณฑ์การแปลความหมายค่าเฉลี่ย (บุญชม ศรีสะอาด,2556) ดังนี้ 4.50 – 5.00 หมายถึง มีความคิดเห็น/การด าเนินงานอยู่ในระดับมากที่สุด 3.50 – 4.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การด าเนินงานอยู่ในระดับมาก 2.50 – 3.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การด าเนินงานอยู่ในระดับปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การด าเนินงานอยู่ในระดับน้อย 1.00 – 1.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การด าเนินงานอยู่ในระดับน้อยที่สุด ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องกรอกข้อมูลตามแบบสอบถาม เพื่อน าไปใช้ในการประเมินผลของการจัดกิจกรรม ดังกล่าว และจะได้น าไปเป็นข้อมูล ปรับปรุง และพัฒนา ตลอดจนใช้ในการจัดท าแผนการด าเนินการในปีต่อไป 24


บทที่ 4 ผลการด าเนินงานและการวิเคราะห์ข้อมูล ในการจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในวันที่ 28 มิถุนายน 2562 ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 7 ต าบลพลูตาหลวง อ าเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งได้สรุปผลจากแบบสอบถามและ น าเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด จ านวน 20 คน และซึ่งได้สรุปผลจากแบบสอบถามและ น าเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล จากผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ไว้ดังนี้ ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวผู้ตอบแบบถามของผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ตอบแบบสอบถามได้น ามาจ าแนกตามเพศ ระดับการศึกษา และอายุ ผู้จัดท าได้ น าเสนอจ าแนกตามข้อมูลดังกล่าว ดังปรากฏตามตารางที่ 1 ดังต่อไปนี้ ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจ าแนกตามเพศ เพศ ความคิดเห็น ชาย หญิง จ านวน ร้อยละ จ านวน ร้อยละ โครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 8 40 12 60 รจากตารางที่ 1 แสดงผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นชาย 8 คน คิดเป็นร้อยละ 40 เป็นหญิง 12 คน คิดเป็นร้อยละ 60 ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจ าแนกตามอายุ อายุ ความคิดเห็น ต่ ากว่า 15 ปี 16-39 ปี 40-59 ปี 60 ขึ้นไป จ านวน ร้อยละ จ านวน ร้อยละ จ านวน ร้อยละ จ านวน ร้อยละ โครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ - - 2 10 3 15 15 75 จากตารางที่ 2 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ช่วงอายุ 16-39 ปีมีจ านวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 10 ช่วงอายุ 40-59 ปี มีจ านวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 15 ช่วงอายุ 60 ขึ้นไป มีจ านวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 75


ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจ าแนกตามอาชีพ ประเภท ความคิดเห็น รับจ้าง ค้าขาย รับราชการ เกษตรกรรม อื่นๆ(ว่างงาน) จ านวน ร้อย ละ จ านวน ร้อย ละ จ านวน ร้อย ละ จ านวน ร้อย ละ จ านวน ร้อย ละ โครงการส่งเสริมความ จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 5 25 - - - - - - 15 75 จากตารางที่ 3 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อื่นๆ(ว่างงาน) มากที่สุด จ านวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 75 รองลงมาคือ รับจ้าง จ านวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 25 26


ตอนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมกิจกรรม จ านวน 20 คน จากแบบสอบถามทั้งหมดที่มีต่อโครงการส่งเสริมความ จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รายการที่ประเมิน N = 20 µ σ อันดับ ที่ ระดับผล การประเมิน ด้านหลักสูตร 1. กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ของหลักสูตร 4.40 0.60 5 มาก 2. เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของผู้รับบริการ 4.50 0.61 2 มากที่สุด 3. การจัดกิจกรรมท าให้ผู้รับบริการสามารถ คิดเป็นท าเป็นแก้ปัญหาเป็น 4.45 0.69 3 มาก 4. ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิด เห็นต่อการจัดท าหลักสูตร 4.35 0.75 6 มาก 5. ผู้รับบริการสามารถน าความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวันได้ 4.55 0.69 1 มากที่สุด 6. สื่อ/เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม 4.45 0.51 3 มาก ด้านวิทยากร 7. วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการจัด กิจกรรม 4.50 0.5 2 มากที่สุด 8. เทคนิค/กระบวนในการจัดกิจกรรมของวิทยากร 4.40 0.51 5 มาก 9. วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม 4.45 0.51 3 มาก 10. บุคลิกภาพของวิทยากร 4.45 0.60 3 มาก ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ 11. สถานที่ในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 4.35 0.81 6 มาก 12. ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 4.43 0.66 4 มาก 13. ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับบริการต่อการเข้าร่วมกิจกรรม 4.45 0.51 3 มาก ค่าเฉลี่ย 4.43 0.61 มาก ท จากตารางที่ 4 แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วม โครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์พบว่าอยู่ใน ระดับดี เมื่อวิเคราะห์เป็นรายข้อพบว่า ผู้รับบริการสามารถน าความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวันได้(µ= 4.55) เป็น อันดับที่ 1 รองลงมาคือเนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของผู้รับบริการ , วิทยากรมีความรู้ความสามารถใน การจัดกิจกรรม (µ=4.50) การจัดกิจกรรมท าให้ผู้รับบริการสามารถ คิดเป็นท าเป็นแก้ปัญหาเป็น,สื่อ/เอกสาร ประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม, วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม ,บุคลิกภาพของ วิทยากร , ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับบริการต่อการเข้าร่วม (µ=4.45) ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม (µ=4.43) กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ,เทคนิค/กระบวนในการจัดกิจกรรมของวิทยากร (µ=4.40) ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิด เห็นต่อการจัดท าหลักสูตร ,สถานที่ในการจัดกิจกรรมเหมาะสม (µ=4.35) ตามล าดับ 27


ตารางที่ 5 ผลการประเมินผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เนื้อหาผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการส่งเสริมความ จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ N = 20 µ σ อันดับที่ ระดับผลการประเมิน 1. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม 4.45 0.51 3 มาก 2. ความพึงพอใจในการเข้าร่วมโครงการ 4.50 0.61 2 มากที่สุด 3. การคิดอย่างมีเหตุผล 4.55 0.69 1 มากที่สุด 4. การเข้าใจ และรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่น 4.40 0.75 4 มาก 5.การรู้จัก และเข้าใจตนเอง 4.35 0.75 5 มาก ค่าเฉลี่ย 4.45 0.66 มาก จากตารางที่ 5 พบว่า โดยเฉลี่ยแล้วผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อยู่ในระดับ ดีเมื่อวิเคราะห์เป็นรายพบว่า การคิดอย่างมีเหตุผล (µ=4.55) รองลงมาคือ ความพึง พอใจในการเข้าร่วมโครงการ (µ=4.50) การมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม (µ= 4.45) การเข้าใจและรับฟังความคิดเห็น จากผู้อื่น (µ= 4.40) การรู้จักและเข้าใจตนเอง (µ= 4.35) ตามล าดับ 28


บทที่ 5 สรุปผลการด าเนินการ อภิปราย และข้อเสนอแนะ ผลที่ปรากฏ การจัดท าโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ในวันที่ 28 มิถุนายน 2562 ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นประชาชนต าบลพลูตาหลวง จ านวน 20 คน ตลอดระยะเวลาที่รับการอบรม โดยมีการซักถามพูดคุยตอบโต้ ในวิทยากรอย่างสนใจ ในด้านต่างๆ คือ ด้านหลักสูตร - มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ผู้เรียนมีความพึงพอใจ - เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของผู้เข้าอบรม ด้านวิทยากร - วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างดี - เทคนิค/กระบวนการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของวิทยากรเหมาะสม - วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม - บุคลิกภาพของวิทยากร ดีเหมาะสม ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ - สถานที่ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะ - ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เหมาะ - ผู้เข้ารับการอบรมมีความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมกิจกรรม สรุปผลการด าเนินงาน ผู้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอสัตหีบ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 4.43 อภิปรายผล จากกิจกรรมโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอสัตหีบ 1.เข้าร่วมโครงการมีความคิดเห็นต่อโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ระดับมาก 2.ที่ร่วมโครงการมีความเป็นระเบียบและพร้อมเพียงกันในการร่วมกิจกรรม 3.ผู้ที่ร่วมโครงการได้รับประสบการณ์ตรงจากวิทยากร 4.ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถน าความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดต่อผู้อื่น 5.ผู้เข้าร่วมโครงการมีความสุขและสนุกกับการร่วมกิจกรรม


ข้อเสนอแนะ ด้านแบบส ารวจและวัดความพึงพอใจของผู้เข้ารับการอบรม - ควรจะมีการจัดโครงการศึกษาดูงานในด้านอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง - ควรมีการจัดรถรับส่งผู้เข้าร่วมอบรม 30


ภาคผนวก


ภาพกิจกรรม


คณะผู้จัดท า ที่ปรึกษา นางสุรัสวดี เลี้ยงสุพงศ์ ผอ.กศน.อ าเภอสัตหีบ นางสุพัด น าเจริญลาภ ครูช านาญการ คณะท างาน นางสุภาภรณ์ นวมมา ครูกศน. ต าบล ผู้รวบรวม เรียบเรียง และจัดพิมพ์ นางสุภาภรณ์ นวมมา ครูกศน. ต าบล


แบบประเมินผู้เรียน / โครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วนที่ 1 ค าชี้แจง ใส่เครื่องหมาย/ลงในช่องที่ตรงกับข้อมูลของท่านเพียงช่องเดียว เพศ ชาย หญิง อายุ 14-39 ปี 40-59 ปี 60 ปีขึ้นไป อาชีพ รับจ้าง ค้าขาย เกษตรกรรม รับราชการ อื่นๆ ส่วนที่ 2 ด้านความพึงพอใจของผู้เรียน/ผู้รับบริการ (ใส่เครื่องหมาย/ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่านเพียง ช่องเดียว ข้อที่ รายการ ระดับการประเมิน มากที่สุด มาก ปาน กลาง น้อย น้อยที่สุด 1 กิจกรรมที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร 2 เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการ 3 การจัดกิจกรรมท าให้สามารถคิดเป็นท าเป็น แก้ปัญหาได้ 4 ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น 5 ผู้รับบริการสามารถน าความรู้ไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้ 6 สื่อ/เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม 7 วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการจัดกิจกรรม 8 เทคนิค/กระบวนการในการจัดกิจกรรมของวิทยากร 9 วิทยากรมีการใช้สื่อสอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม 10 บุคลิกภาพของวิทยากร 11 สถานที่ในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 12 ระยะเวลาในการจัดเหมาะสม 13 ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับการอบรม


ใบสมัครโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี วันที่ 28 มิถุนายน 2562 สถานศึกษา..ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอสัตหีบ ข้อมูลส่วนตัว (กรอกข้อมูลด้วยตัวบรรจง) ชื่อ-นามสกุล (นาย/ นาง/ นางสาว)................................................................................................ เลขประจ าตัวประชาชน........................................เกิดวันที่............/................../...........อายุ.............. ปี สัญชาติ................. ศาสนา....................... อาชีพ........................รายได้เฉลี่ยต่อเดือน....................บาท ที่อยู่ปัจจุบัน................................. หมู่ที่................................... หมู่บ้าน................................................ ต าบล........................................ อ าเภอ........................................ จังหวัด........................... .................. รหัสไปรษณีย์............................................... โทรศัพท์............................................................................ ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ


Click to View FlipBook Version