The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พระราชประวัติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ebookchon, 2021-10-10 01:01:35

พระราชประวัติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พระราชประวัติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอ่านออนไลน์

เร่ือง พระราชประวตั ิสมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ ์ิ
พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปหี ลวง
เนื่องในโอกาสวนั เฉลิมพระชนมพรรษาและวนั แมแ่ หง่ ชาติ

ห้องสมดุ ประชาชนอำเภอบา้ นบงึ
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอบา้ นบึง
สำนกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวดั ชลบุรี

สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พระราชประวตั ิ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เป็นธิดาในหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร (ภายหลัง คือ
พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ) กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร (ราชสกุลเดิม สนิทวงศ์) เสด็จ
พระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ณ บ้านของพลเอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์
(หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์) บ้านเลขที่ 1808 ถนนพระรามท่ี 6 ตำบลวังใหม่ อำเภอปทุมวัน
จังหวัดพระนคร อันเป็นบ้านของพระอัยกาฝ่ายพระราชมารดา มีพระเชษฐาสองคน คือ หม่อมราชวงศ์
กัลยาณกิติ์ กิติยากรและหม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร และมีพระขนิษฐาหนึ่งคน คือ ท่านผู้หญิงบุษบา
สธนพงศ์
สำหรับพระนาม "สิริกิติ์" ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีความหมายวา่ "ผ้เู ป็นศรีแห่งกิติยากร เรียกโดยลำลองว่า "คุณหญิงสิริ" ส่วนพระราชสวามจี ะทรงเรยี กว่า
"แมส่ ริ ิ"

พ.ศ. 2479 เม่ือหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์มกีอาารยศุไึกดษ้ 4า ปี ก็ได้เข้ารับการศึกษาคร้ังแรกในช้ันอนุบาล
ทโี่ รงเรยี นราชินี ทวา่ ในขณะน้นั แม้เหตุการณด์ า้ นการเมืองภายในสยามจะสงบลง แตส่ ถานการณ์ระหว่าง
ประเทศก็ไม่สงบ กล่าวคือสงครามแปซิฟิกเร่ิมแผ่ขยายมาถึงสยาม จังหวัดพระนครถูกโจมตีทางอากาศ
หลายครั้งจนการคมนาคมไม่สะดวก บิดาจึงให้หม่อมราชวงศ์สิรกิ ิต์ิย้ายไปเรียนที่โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซา
เวียร์คอนแวนต์ เพราะอยู่ใกล้วังบิดา ได้เรียนที่น่ันตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 จนถึงช้ันมัธยมศึกษา
หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้เริ่มเรียนเปียโน ซ่ึงเรียนได้ดีและเร็วเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังได้ศึกษาภาษาอังกฤษ
และภาษาฝรั่งเศสซึ่งทรงสันทดั เชน่ กัน

พ.ศ. 2489 คร้ันเมื่อสงครามโลกคร้ังที่สองสงบลง หม่อมเจ้านักขัตรมงคลต้องเสด็จไปดำรง
ตำแหน่งอัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็มประจำสำนักเซนต์เจมส์ ประเทศอังกฤษ ท้ังน้ีได้ทรงพาครอบครัว
ท้ังหมดไปอยู่ด้วย ในเวลาน้ันหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ มีอายุได้ 13 ปีเศษ และเรียนจบชั้นมัธยมศึกษา
ปที ี่ 3 แล้ว

ขณะท่ีอยู่ในประเทศอังกฤษ หม่อมราชวงศส์ ิริกิต์ิไดศ้ ึกษาตอ่ ท้ังวิชาภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส และ
วิชาเปยี โนกับครูพิเศษ[18] หลังจากน้นั ไม่นาน บิดายา้ ยไปประเทศเดนมาร์กและฝรงั่ เศสตามลำดับ ขณะท่ี
หมอ่ มราชวงศส์ ริ ิกติ ์ิก็ยงั คงเรยี นเปยี โนและต้งั ใจจะศกึ ษาตอ่ ในวทิ ยาลัยการดนตรีที่มีชอ่ื เสียงของกรุงปารีส
จนจบ

ระหว่างท่ีอยู่ในประเทศฝร่ังเศส หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้มีโอกาสรับเสด็จพระบาทสมเด็จ
พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อคร้งั ดำรงพระอิสริยยศ สมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวภูมิพล
อดุลยเดช (ขณะนั้นทรงศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์หลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์) ซึ่งพระองค์เสด็จ
ประพาสกรุงปารีส เพื่อทอดพระเนตรโรงงานทำรถยนต์ ทั้งนี้เน่ืองจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล
อดุลยเดช โปรดการดนตรีเป็นพิเศษ ขณะที่หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ก็สนใจศิลปะเช่นกัน ทำให้เกิด
ความสมั พันธข์ ้นึ

อภเิ ษกสมรส

วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2491 สมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ภูมพิ ลอดลุ ยเดช ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งหน่ึงโดยมีหม่อมหลวงบัวและหม่อม
ราชวงศ์สิริกิต์ิ เข้าเฝ้าฯ เยี่ยมพระอาการเป็นประจำ และในช่วงระยะเวลาท่ีหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์อยู่เฝ้าฯ
ถวายสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวภมู ิพลอดลุ ยเดชท่ีสวติ เซอร์แลนด์นั้น สมเด็จพระราชชนนศี รีสังวาลยท์ รงรบั เป็น
ธุระจัดการให้หม่อมราชวงศ์สิรกิ ิต์เิ ข้าศึกษาในโรงเรียน Pensionnat Riante Rive ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ
แห่งหนึ่งของโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คร้ันเม่ือสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงหาย
จากอาการประชวรแล้ว ก็ได้ทรงหมั้นกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เป็นการภายในเมื่อวันที่ 19 กรก ฎาคม
พ.ศ. 2492

หลังจากทรงหมั้นแล้ว หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ยังคงศึกษาต่อ กระทั่ง พ.ศ. 2493 เมื่อสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินนิวัตประเทศไทย เพ่ือร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิง
พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระองคท์ ่านโปรดฯ ให้หม่อมราชวงศ์สิริกติ ์ิ
ตามเสดจ็ พระราชดำเนนิ กลบั ด้วย

เมื่อวันท่ี 28 เมษายน พ.ศ. 2493 พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภูมิพลอดุลยเดชกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์จึงจัดขึ้น ณ วังสระปทุม โดยมีสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรม
ราชเทวี พระพันวสั สาอัยยิกาเจ้า เสด็จฯ เป็นองค์ประธาน ในการนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
ทรงลงพระปรมาภิไธยในทะเบียนสมรสและโปรดให้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากรพร้อมทั้งสักขีพยาน
ลงนามในทะเบียนน้ัน หลังจากน้ัน สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าเสด็จออกในพระราชพิธีถวาย
น้ำพระพุทธมนต์เทพมนต์แด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและทรงรดน้ำพระพุทธมนต์เทพมนต์แด่หม่อมราชวงศ์
สิริกิติ์ ในการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสตามโบราณราชประเพณี ต่อมาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล
อดุลยเดชโปรดเกล้าฯ ใหอ้ าลกั ษณอ์ า่ นประกาศสถาปนาหม่อมราชวงศส์ ริ ิกติ ิ์ กิติยากรขึ้นเปน็ "สมเด็จ

พระราชินีสิริกิต์ิ" พร้อมท้ังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์
อนั มีเกียรตคิ ุณรงุ่ เรืองยิง่ มหาจกั รีบรมราชวงศ์ในการนดี้ ว้ ย

ต่อมา ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เมอื่ วนั ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชดำริว่า
ตามโบราณราชประเพณเี ม่ือสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจา้ ไดเ้ สด็จเถลิงถวัลยราชสมบัตบิ รมราชาภเิ ษก
แลว้ ย่อมโปรดใหส้ ถาปนาเฉลมิ พระเกียรติยศสมเดจ็ พระอัครมเหสีขน้ึ เป็นสมเด็จพระบรมราชนิ ี

ดังน้ัน พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จ
พระราชินีสิริกิติ์ ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี หลังจากนั้นท้ังสองพระองค์ได้เสด็จฯ
กลับไปยังสวิตเซอร์แลนด์เพื่อทรงรักษาพระองค์และทรงศึกษาต่อ จนกระทั่ง พระองค์มีพระประสูติกาล
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และเมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
มีพระชันษาได้ 3 เดือน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินจี งึ เสดจ็ นวิ ตั ิประเทศไทย

พระราชกรณยี กิจสังเขป

ศิลปาชพี

ในขณะท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 ทรงริเริ่มก่อตั้งโครงการหลวงต่างๆ สมเด็จ
พระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงทรงริเริ่มโครงการให้ราษฎร
โดยเฉพาะชาวนาในท้องถ่ินชนบททำอาชีพเสริมโดยใช้เวลาว่างจากการทำนาทำไร่มาทำงานศิลปาชีพ
จนราษฎรเหล่าน้ันมีความรู้ความสามารถในงานผลิต งานศิลปหัตถกรรม จนเป็นท่ียอมรับในประเทศไทย
และระดับสากล

ความมั่นคงของชาติ

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ ิ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงห่วงใยความม่ันคง
ของชาติและทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทุกวิถีทางท่ีจะช่วยทะนุบำรุงและปกป้องรักประเทศชาติ
ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมทหาร ตำรวจ ราษฎรอาสาสมัคร จนถึงฐานปฏิบัติการ
ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่อันตรายเพียงใดก็ตามได้พระราชทานถุงของขวัญประกอบด้วยเคร่ืองอุปโภคบริโภค
ทจ่ี ำเป็น เพอ่ื พระราชทานกำลงั ใจแก่ผู้ปฏิบัติงานดา้ นความม่นั คงของชาติตลอดมา

การสาธารณสขุ
ในด้านการสาธารณสุข นอกจากทรงช่วยเหลือผู้ท่ีได้รับความเดือดร้อนโดยจัด “หน่วยแพทย์

พระราชทาน” ตามเสด็จไปรักษาพยาบาลราษฎรในถิ่นทุรกันดารแล้ว ยังทรงช่วยเหลือกลุ่มผู้ประสบภัย
ธรรมชาติ ทรงช่วยเหลือทหาร ตำรวจ และราษฎรอาสาสมัครตามชายแดน ทรงริเร่ิมจัดต้ังมูลนิธิสายใจ
ไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในกรณีที่ทรงพบราษฎรเจ็บป่วยก็จะทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชา
นุเคราะห์ ทรงอุปถัมภ์องค์กรการกุศล สมาคม มลู นิธติ ่างๆ เปน็ จำนวนมาก
การสง่ เสริมอนุรักษ์ธรรมชาติ

ด้านการส่งเสริมอนุรักษ์ธรรมชาติ พระทรงมีพระราชดำริให้จัดต้ัง “โครงการป่ารักน้ำ” ทั้งน้ี
เพ่ือให้ราษฎรมีส่วนร่วมในการร่วมกันปลูกป่า หลังจากน้ันยังมีโครงการตามพระราชดำรทิ ่ีปรากฏข้ึนเพื่อ
สง่ เสริมการอนุรักษธ์ รรมชาติ อาทิ โครงการสวนสัตวป์ ่าเปิดภูเขียวตามพระราชดำริ โครงการอนุรกั ษแ์ ละ
ขยายพันธ์ุเต่าทะเล โครงการเพาะเลี้ยงและขยายพันธ์ุสัตว์ป่า โครงการปลูกป่าเสริมธรรมชาติ โครงการ
พระราชดำรสิ วนหาดทรายใหญ่ เปน็ ต้น

พระอสิ ริยยศ

• หม่อมราชวงศส์ ริ ิกิติ์ กติ ิยากร (12 สิงหาคม พ.ศ. 2475 – 28 เมษายน พ.ศ. 2493)

• สมเดจ็ พระราชนิ ีสิรกิ ติ ิ์ (28 เมษายน พ.ศ. 2493 – 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493)

• สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกติ ิ์ พระบรมราชนิ ี (5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 – 5 ธันวาคม พ.ศ. 2499)

• สมเด็จพระนางเจา้ สิริกติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ (5 ธนั วาคม พ.ศ. 2499 – 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559)

• สมเด็จพระนางเจ้าสริ ิกติ ์ิ พระบรมราชินนี าถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช
(13 ตลุ าคม พ.ศ. 2559 – 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562)

• สมเดจ็ พระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนพี ันปีหลวง
(5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 – ปัจจบุ นั )

ตราประจำพระองค์
ธงประจำพระองค์

เกรด็ ความรู้
ผู้ทรงพระราชอิสริยยศ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ต้องทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชินี

ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในแผ่นดินก่อนและต้องทรงเป็นพระราชมารดาของพระเจ้าแผ่นดิน
พระองค์ปัจจุบันด้วย นับได้ว่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ท่ีสองของกรุงรัตนโกสินทร์ ต่อ
จากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบรมราชชนนีในล้นเกล้า
รชั กาลท่ี 6

ประวัตวิ ันแม่แห่งชาติ

แต่เดิมนั้น วันท่ี 12 สิงหาคม มิได้เป็น วันแม่แห่งชาติ อย่างเช่นในปัจจุบัน แต่ได้มีการกำหนด
เอาวันท่ี 15 เมษายนของทุกๆ ปีเป็น วันแม่แห่งชาติ โดยเป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีท่ีได้ประกาศ
รับรองเอาไว้เมื่อวันท่ี 23 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2493 ซ่ึงได้พิจารณาเห็นว่าการจัดงานวันแม่เป็นส่วน
งานของสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง จึงได้มอบหมายให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติเป็นผู้จัดงานวันแม่มาตั้งแต่
วันท่ี 15 เมษายน พุทธศักราช 2493 เป็นต้นมา อีกท้ังการจัดงานก็เป็นได้ด้วยความสำเร็จ เน่ืองด้วย
ประชาชนให้การสนับสนุนจนสามารถขยายขอบข่ายของงานให้กว้างออกไปได้ จึงทำให้การจัดงาน
ไม่เพียงแต่มีการจัดพิธีทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่ยังจัดให้มีการประกวดแม่ของชาติ การประกวดคำ
ขวัญวันแม่ ทั้งนี้ก็เพ่ือเป็นเกียรติแก่แม่ และเป็นการเพ่ิมความสำคญั ของงานวนั แม่ใหม้ ีมากย่ิงข้ึน ด้วยเหตุ
น้ี งานวันแม่จึงเป็นวันแม่ประจำปีของชาติตามประกาศของรัฐบาล ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม
แต่โดยทั่วไปมกั เรียกกันวา่ วนั แม่ของชาติ

ตอ่ มา ในปีพุทธศักราช 2519 ทางราชการได้เปล่ียนแปลงวันแม่ใหม่ โดยให้ถือว่าวันเสด็จพระราช
สมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินินาถ ซ่ึงก็คือวันท่ี 12 สิงหาคม เป็น วนั แม่แห่งชาติ โดยได้
เรมิ่ ประกาศใช้เป็นครัง้ แรกในปพี ุทธศักราช 2519 เปน็ ตน้ มา

ดอกมะลิ

เป็นท่ีรู้กันว่า “ดอกมะลิ” เป็นสัญลักษณ์ของวันแม่แห่งชาติ เน่ืองจากดอกมะลิถือเป็นดอกไม้
มงคลของไทย ดั้งเดิมคนไทยนิยมนำดอกมะลิไปบูชาพระในวันพระ และวันสำคัญทางศาสนา เพราะมี
สีขาวบริสุทธ์ิและมีกล่ินหอมยาวนานออกดอกได้ตลอดทั้งปี รวมถึงการนำไปผลิตเป็นกล่ินต่างๆ ที่มีฤทธิ์
เป็นยาหอมอย่างดขี องไทยเรา

ดอกมะลเิ ปรยี บถงึ ความรักอันบรสิ ทุ ธ์ิ ที่แมม่ ีต่อลูก และมีอยา่ งยาวนานตลอดไป เสมอื นสีและกล่ิน
ของดอกมะลิที่ขาวตลอดเวลาและหอมอบอวนตลอดทงั้ วนั ท้ังคืน ในประเพณีไทยการไหว้มารดาจึงนยิ มใช้
ดอกมะลิเป็นดอกไม้หลัก และในบางแห่งได้มีการนำดอกมะลิทำเป็นเข็มกลัด ติดท่ีปกเสื้อหรืออกเสื้อ
เพ่ือแสดงเปน็ สัญลกั ษณ์ของวนั แม่แห่งชาติ

กิจกรรมในวันแม่

1. นำพวงมาลัย ไปกราบแม่ ขอพร เพื่อความเป็นสริ มิ งคลแกช่ วี ิต
2. ทำบญุ ตักบาตร และทำกจิ กรรมสาธารณะประโยชน์
3. รว่ มงาน/จัดกจิ กรรมตา่ งๆ จัดนทิ รรศการ การประกวด เพื่อรำลึกถงึ พระคุณแม่
4. ประดบั ไฟตามบา้ นเรอื น ประดับธงชาติ เพอ่ื เป็นการเฉลมิ พระเกียรติ
5. ร่วมจุดเทียนชยั ถวายพระพร ทส่ี ถานท่ีสำคญั ของส่วนราชการในคนื วนั ท่ี 12 สงิ หาคม

ข้อมลู อา้ งองิ

https://th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์_พระบรมราชินีนาถ_พระบรมราชชนนี
พนั ปหี ลวง

http://event.sanook.com/day/motherday/

คณะผ้จู ดั ทำ

ท่ีปรึกษา ผอ.กศน.อำเภอบ้านบงึ
นางสาวพวงสุวรรณ์ พันธ์มุ ะมว่ ง ครชู ำนาญการพิเศษ
นางจันทนี กิ่งไทรงาม ครูผ้ชู ว่ ย
นางสาวอิศราภรณ์ สริ ธิ นศกั ดิ์
บรรณารักษ์
ผู้รวบรวม / เรียบเรียง
นางสาวสุชาดา เนื่องจำนงค์

หอ้ งสมุดประชาชนอำเภอบา้ นบงึ
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอบา้ นบงึ
สำนกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจงั หวดั ชลบรุ ี


Click to View FlipBook Version