The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ประจำปีงบประมาณ 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ebookchon, 2023-08-05 01:19:03

รายงานผลโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ประจำปีงบประมาณ 2563

รายงานผลโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ประจำปีงบประมาณ 2563

1 รายงานผลโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer วันที่ 10 - 11 มิถุนายน 2563 ณ ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบลนาจอมเทียน ปีงบประมาณ 2563 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดชลบุรี


2 -กบทสรุปผู้บริหาร โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อส่งเสริมให้ ประชาชนมีความรู้เพิ่มมากขึ้นและสามารถเป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer สามารถปรับเปลี่ยนไป ทำเกษตรตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ ซึ่งโครงการดำเนินการจัด ในวันที่ 10 -11 มิถุนายน 2563 ณ ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล นาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 16 คน ททจากโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer พบว่าอยู่ในระดับ มากที่สุด เมื่อ วิเคราะห์เป็นรายข้อพบว่า อันดับที่ 1 คือ ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับบริการต่อการเข้าร่วมกิจกรรม และลำดับรองลงมาตามลำดับคือ กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ เป็นอันดับที่ 2 ผู้รับบริการ สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ เป็นอันดับที่ 3 เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของ ผู้รับบริการ , การจัดกิจกรรมทำให้ผู้รับบริการสามารถคิดเป็นทำเป็นแก้ปัญหาเป็น, วิทยากรมีความรู้ ความสามารถในการจัดกิจกรรม, วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม, บุคลิกภาพของ วิทยากร มีค่าเท่ากันเป็นอันดับที่ 4 ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการจัดทำหลักสูตร, ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีค่าเท่ากันเป็นอันดับที่ 5 ตามลำดับทอาจเป็นเพราะว่าผู้เข้าอบรม ทั้งหมดประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรจึงมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการ ดำรงชีวิตการเกษตร และจำเป็นต้องพัฒนาตนเองให้ก้าวไปสู่การนำ นวัตกรรมใหม่ของการเกษตรในยุค ดิจิตอล มีการนำเอาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศหลายด้านมาใช้ในการทำการเกษตรในรูปแบบสมาร์ท ฟาร์มเมอร์ต่อไป ซึ่งสอดคล้องและเกี่ยวข้องกับงานวิจัยของ ดร. ฤทัยชนก จริงจิตร (นักวิชาการพาณิชย์ ชำนาญการ) แนวคิด “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” เป็นวัตถุประสงค์ของยุทธศาสตร์ที่ 1 จาก 4 ประเด็นยุทธศาสตร์ ของ แผนพัฒนาการเกษตร ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 แนวคิดนี้เน้น การ พัฒนาเกษตรกรให้มีความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ มีภูมิคุ้มกันพร้อมรับความเสี่ยงในมิติของการ ผลิตและ การตลาด รวมทั้งมีความสามารถในการผลิตและการตลาดในระดับที่พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้จัดการ ฟาร์มมือ อาชีพที่ทำการเกษตรได้จนประสบความสำเร็จ เกษตรกรรมในประเทศไทยยังประสบปัญหาหลาย ด้าน โดยเฉพาะในมิติของผลิตภาพ (Productivity) ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงและรายได้เกษตรกรมีอัตราเฉลี่ยต่ำ เนื่องจากเกษตรกรไม่มีความรู้เพียงพอ ขาดข้อมูล เชิงลึกด้านการตลาดสำหรับวางแผนการผลิต รวมทั้งความรู้ ในการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพสูงที่มีความ ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประเด็นปัญหา ดังกล่าวสะท้อนว่าอาชีพเกษตรกรยังขาดการ พัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็งให้สามารถ พึ่งตนเองได้ในระยะยาว ซึ่งจะทำให้ภาครัฐไม่ จำเป็นต้องกำหนดนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและโอบ อุ้มเกษตรกร แนวคิด “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” จึง เป็นกลไกสำคัญในการตอบโจทย์การพัฒนาดังกล่าว ในมุมมอง ของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติซึ่งได้นำเสนอ Smart Farm Flagship ในภาค การเกษตร แนวคิดหลักของสมาร์ทฟาร์มคือการใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ รวมถึง เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการพัฒนาทั้งห่วงโซ่อุปทาน สินค้าเกษตรเพื่อยกระดับผลิตภาพ มาตรฐาน สินค้า และลดต้นทุน โดยการพัฒนาเกษตรกรรมใน 4 ด้านได้แก่ 1) ลดต้นทุน 2) เพิ่มคุณภาพการผลิตและ มาตรฐานสินค้า 3) ลดความเสี่ยงจากศัตรูพืชและภัยธรรมชาติ และ 4) การจัดการและส่งผ่านความรู้ ส่วน แนวคิด “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” ในมุมมองของกระทรวงเกษตรฯ หมายถึงเกษตรกรที่มีความรู้อย่างถ่องแท้


3 เกี่ยวกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม สามารถวางแผนโดยรู้ถึงอุปสงค์ตลาดและเตรียมการผลิตให้ สอดคล้อง รวมทั้งมีความสามารถในเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและในการแก้ปัญหาได้รวดเร็ว โดยการ วิเคราะห์ข้อมูลรอบด้านเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจที่ตั้งอยู่บนหลักการและเหตุผล ตลอดจนรู้จัก ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการเกษตร ในมิติของผลผลิต “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” จะเน้นการผลิตสินค้าเกษตรที่มี คุณภาพสูง ปลอดภัยต่อ ผู้บริโภค และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และจักรกฤษณ์ หมั่นวิชา ฟาร์มอัจฉริยะหรือฟาร์มที่มีการจัดการอย่างถูกต้องแม่นยำ(Smart Farm/ Precision Farm) จัดเป็น นวัตกรรมใหม่ของการเกษตรในยุคดิจิตอล มีการนำเอาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี สารสนเทศหลายด้านมาใช้ในฟาร์ม เช่น GPS GIS remote-sensing proximal-sensing VRT และ DSS โดย ผ่านเครือข่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สาย ในการรับส่งข้อมูล และมีการประมวลผลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป ฟาร์มอัจฉริยะมีขั้นตอนการดำเนินงาน 5 ขั้นตอนคือ การเก็บข้อมูล การวินิจฉัยข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การปฏิบัติการตามแผน และการประเมินผล โดยมีการ จัดการฟาร์มในทุกขั้นตอน คือ การจัดทำแผนที่สภาพ ดิน การให้น้ำ การให้ปุ๋ย การกำจัดศัตรูพืช การเก็บเกี่ยว การ คำนวณต้นทุน กำไร ตลอดจนการวางแผนการ เพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป การดำเนินการฟาร์มอัจฉริยะ ส่งผลให้ เกิดการใช้ปัจจัยการผลิตที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มปริมาณผลผลิตที่มีคุณภาพ คุ้มค่าต่อการลงทุน ลดผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม ลดต้นทุน ลดการจ้าง แรงงาน ประหยัดเวลา และนำไปสู่การเกษตรยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


4 -ขคำนำ จากการที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ กศน.ตำบลนาจอมเทียน ได้จัดทำโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของสำนักงาน กศน. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้เพิ่มมากขึ้นและสามารถเป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer สามารถปรับเปลี่ยนไปทำเกษตรตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้สามารถลด ต้นทุนการผลิตได้ ซึ่งโครงการดำเนินการจัดในวันที่ 10 -11 มิถุนายน 2563 ณ ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีโครงการนี้ได้วิทยากร เกษตรกรต้นแบบ Master Trainer มาให้ความรู้ให้กับชุมชนตำบลนาจอมเทียน เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำ ความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้จริง โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี ซึ่ง รายละเอียดผลการดำเนินงานต่างๆ ตลอดจนปัญหาและอุปสรรค ได้สรุปไว้แล้ว เพื่อรวบรวมกระบวนการ ดำเนินงาน ผลที่ได้นำไปใช้ ตลอดจนการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพวิถีชีวิต และการตอบสนองความ ต้องการของผู้เข้ารับการฝึกอบรม สุดท้ายคือ การนำไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริงและสามารถแนะนำผู้อื่นได้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างต่อเนื่อง กศน.ตำบลนาจอมเทียน มิถุนายน 2563


5 -คสารบัญ หน้า บทสรุปผู้บริหาร............................................................................................................................. .............ก คำนำ......................................................................................................................... ..................................ข สารบัญ........................................................................................................................................................ค สารบัญตาราง.................................................................................................................. ............................ง บทที่ 1 บทนำ..........................................................................................................................................1 ความเป็นมาและความสำคัญ ......................................................................................................2 วัตถุประสงค์...............................................................................................................................2 เป้าหมาย....................................................................................................................................2 ระยะเวลาดำเนินงาน..................................................................................................................2 ผลลัพธ์.......................................................................................................................................2 ดัชนีวัดผลสำเร็จของโครงการ.....................................................................................................2 นิยามศัพท์เฉพาะ........................................................................................................................2 บทที่2 เอกสารการศึกษาและรายงานที่เกี่ยวข้อง .................................................................................3 ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน.ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ............3 แนวทาง/กลยุทธ์การดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของ กศน.ตำบลนาจอมเทียน..............................................................................................................10 แผนแม่บท สมาร์ทฟาร์มเมอร์" พลิกชีวิตเกษตรกร..................................................................................................17 ความหมายของสมาร์ทฟาร์มเมอร์...............................................................................................18 เอกสาร/งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง........................................................................................................21 บทที่ 3 วิธีดำเนินงาน..............................................................................................................................22 ประชุมบุคลากรกรรมการสถานศึกษา.........................................................................................21 แต่งตั้งคณะทำงาน......................................................................................................................21 ดำเนินงานตามแผน.....................................................................................................................21 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการดำเนินงาน..............................................................................................21 เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงาน ...................................................................................................21 การเก็บรวบรวมข้อมูล................................................................................................................23 การวิเคราะห์ข้อมูล.....................................................................................................................23


6 -คสารบัญ(ต่อ) หน้า บทที่ 4 ผลการดำเนินงานและการวิเคราะห์ข้อมูล.................................................................................24 ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวผู้แบบสอบถามของผู้เข้ารับการอบรมในโครงการขยายผลเกษตรกร ต้นแบบ Master Trainer ...........................................................................................24 ตอนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier.....................................................................................................................25 บทที่ 5 สรุปผลการประเมิน อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ...................................................................27 สรุปผลการดำเนินงาน.................................................................................................................27 อภิปรายผล.................................................................................................................................27 ข้อเสนอแนะ...............................................................................................................................29 บรรณานุกรม...........................................................................................................................................30 ภาคผนวก ภาคผนวก ก ภาคผนวก ข


7 -งสารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามเพศ..................................................24 2 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอายุ..................................................24 3 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอาชีพ................................................25 4 ผลการประเมินโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ......................................25


8 บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญ ทททททททตามที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร โดยชี้นำ เกษตรกรไทยต้องเป็น Smart Farmer คือ ต้องนำความรู้ หลักวิชาการ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาช่วยใน การทำการเกษตร โดยต้องทำให้น้อยลง ได้ผลผลิตมากขึ้น ใช้พื้นที่ให้น้อยลง ใช้น้ำให้น้อยลง ผลผลิตเพิ่มขึ้น ในปีงบประมาณ 2563 สำนักงาน กศน.จังหวัดชลบุรี ได้รับงบประมาณในการพัฒนาศักยภาพการ ผลิตภาคการเกษตร การสร้างองค์ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายให้มีความรู้ ความชำนาญอย่างต่อเนื่องสามารถ ขยายผลแก่ผู้อื่นได้ เป็นความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ มุ่งเน้นการสร้าง สมดุลระหว่างการพัฒนาความมั่นคง สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรูปแบบ “ประชารัฐ” โดยยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายการพัฒนาที่มุ่งเน้นการ ยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ บนพื้นฐานแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ (1) “ต่อยอดอดีต” โดย มองกลับไปที่รากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตและจุดเด่นทาทรัพยากรธรรมชาติ ที่หลากหลาย รวมทั้งความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศในด้านอื่น ๆ นำมาประยุกต์ผสมผสานกับ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้สอดกับบริบทของเศรษฐกิจและสังคมโลกสมัยใหม่ (2) “ปรับปัจจุบัน” เพื่อ ปูทางสู่อนาคตผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในมิติต่าง ๆ ทั้งโครงข่ายระบบคมนาคม และการ ขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและดิจิทัล และปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนา อุตสาหกรรมและบริการอนาคต และ (3) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของ ผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่รวมถึงปรับรูปแบบธุรกิจเพื่อตอบสองความต้องการของตลาด ผสมผสานกับ ยุทธศาสตร์ที่รองรับอนาคต บนพื้นฐานของการต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน พร้อมทั้งการส่งเสริมและ สนับสนุนจากภาครัฐให้ประเทศไทยสามารถสร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาสทางการค้าและ การลงทุนในเวทีโลก ควบคู่กับการยกระดับรายได้และการกินดีอยู่ดี รวมถึงการเพิ่มขึ้นของคนชั้นกลาง และลด ความเหลื่อมล้ำของคนในประเทศในคราวเดียวกัน ในปีงบประมาณ 2561 ได้ดำเนินการจัดอบรมประชาชนในตำบล จำนวน 92 แห่ง มีประชาชนที่ ผ่านการอบรมเรื่องเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer จำนวน 1,380 คน และเพื่อการพัฒนาต่อเนื่องให้ เกษตรกรผู้ผ่านการอบรมสามารถไปขยายผลกับเกษตรกรอื่น ๆ ให้สามารถประกอบอาชีพด้านการเกษตรได้ อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว มีความมั่นคงในอาชีพด้านการเกษตร มีความ ภูมิใจในการเป็นเกษตรกร รวมทั้งเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลัง ให้เกิดความรัก หวงแหนในอาชีพด้าน การเกษตร จึงได้กำหนดให้มีโครงการ Smart ONIE เพื่อสร้าง Smart Farmer ปีงบประมาณ 2562 เพื่อจัด อบรมต่อยอดการพัฒนาให้เป็นเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) ปีงบประมาณ 2563 เกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) ที่ผ่านการอบรมในปีงบประมาณ 2562 ได้ไปขยายผลการอบรมประชาชนให้เป็นเกษตรกร ปราดเปรื่อง Smart Farmer ต่อไป


9 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้มีองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการงานเกษตรและการเกษตร เชิงท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 2. เพื่อให้เกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) ได้ไปขยายผลการอบรมประชาชนให้เป็น เกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer เป้าหมาย 1. เชิงปริมาณ ประชาชนในตำบลนาจอมเทียน จำนวน 15 คน 2. เชิงคุณภาพ ผู้เข้าอบรมร้อยละ 80 ของประชาชนที่ได้รับการอบรมมีความรู้เพิ่มมากขึ้นและสามารถเป็น เกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer ได้ ระยะเวลาดำเนินงาน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10-11 มิถุนายน 2563 ณ ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตร ทฤษฎีใหม่ประจำตำบลนาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ผลลัพธ์ ททททผู้เข้าอบรมมีมีความรู้เพิ่มมากขึ้นและสามารถเป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer สามารถปรับเปลี่ยนไปทำเกษตรตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ ดัชนีวัดผลและความสำเร็จของโครงการ ทททททททท1. ตัวชี้วัดผลผลิต (Outputs) - มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้าหมาย - ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจในระดับดีขึ้นไปไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 2. ตัวชี้วัดผลลัพธ์ (Outcomes) - ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ร้อยละ 80 ได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเป็น รูปธรรม - ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ร้อยละ 80 ได้นำความรู้ที่ได้รับไปขยายผลให้กับชุมชน นิยามศัพท์เฉพาะ ททททททททsmart farmer หมายถึง สิ่งของเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตและอุปโภคซึ่งเสื่อมสภาพจนใช้ การไม่ได้หรือไม่ต้องการใช้แล้ว บางชนิดเป็นของแข็งหรือกากของเสีย (Solid Waste) มีผลเสียต่อสุขภาพทาง กายและจิตใจเนื่องจากความสกปรก เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคทำให้เกิดมลพิษและทัศนะอุจาด 2


10 บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ททททททททในการจัดทำรายงานโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ในครั้งนี้ ผู้จัดทำ โครงการได้ทำการศึกษาค้นคว้าเนื้อหาจากเอกสารการศึกษาและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ทททททททท1. ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ทททททททท2. แนวทาง/กลยุทธ์การดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของ กศน. ตำบลนาจอมเทียน ทททททททท3. แผนแม่บท สมาร์ทฟาร์มเมอร์" พลิกชีวิตเกษตรกร ทททททททท4 ความหมายของสมาร์ทฟาร์มเมอร์ 5. เอกสาร/งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 1. นโยบายและยุทธศาสตร์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย งบประมาณ 2563 วิสัยทัศน์ คนไทยได้รับโอกาสการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ สามารถดำรงชีวิตที่เหมาะสม กับช่วงวัย สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีทักษะที่จำเป็นในโลกศตวรรษที่ 21 พันธกิจ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ เพื่อยกระดับการศึกษา พัฒนาทักษะการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมทุกช่วงวัย พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง บริบททางสังคม และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต 2 ส่งเสริม สนับสนุน และประสานภาคีเครือข่าย ในการมีส่วนร่วมจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมของศูนย์การเรียนและแหล่งการ เรียนรู้อื่น ในรูปแบบต่าง ๆ 3. ส่งเสริมและพัฒนาการนำเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ ในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง 4. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและนวัตกรรม การวัดและประเมินผลในทุก รูปแบบให้สอดคล้องกับบริบทในปัจจุบัน 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งจัดการศึกษาและการเรียนรู้ที่ มีคุณภาพ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้รับโอกาสทาง การศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตาม อัธยาศัย ที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เป็นไปตามสภาพ ปัญหา และความต้องการของแต่ละ


11 กลุ่มเป้าหมาย 1. ประชาชนได้รับการยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และความเป็น พลเมือง อันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพื่อพัฒนาไปสู่ความมั่นคง และยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม 2. ประชาชนได้รับโอกาสในการเรียนรู้ และมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถคิด วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่าง สร้างสรรค์ 3. ประชาชนได้รับการสร้างและส่งเสริมให้มีนิสัยรักการอ่านเพื่อการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 4. ชุมชนและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการดำเนินงานการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการขับเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู้ของชุมชน 5. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนา เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการยกระดับ คุณภาพในการจัดการเรียนรู้และเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ให้กับประชาชน 6. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาสื่อและการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนา คุณภาพชีวิต ที่ตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงบริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งตามความต้องการของประชาชนและชุมชนในรูปแบบที่หลากหลาย 7. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการที่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล 8. บุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ 1. จำนวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาชั้นพื้นฐานที่ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายตาม สิทธิที่กำหนดไว้ 2. จำนวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/เข้ารับบริการกิจกรรม การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัยที่สอดคล้องกับสภาพ ปัญหา และความต้องการ 3. ร้อยละของกำลังแรงงานที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป 4. จำนวนภาคีเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัด/พัฒนา/ส่งเสริมการศึกษา (ภาคีเครือข่าย :สถาน ประกอบการ องค์กร หน่วยงานที่มาร่วมจัด/พัฒนา/ส่งเสริมการศึกษา) 5. จำนวนประชาชน เด็ก และเยาวชนในพื้นที่สูง และชาวไทยมอแกน ในพื้นที่ 5 จังหวัด 11 อำกอ ได้รับบริการการศึกษาตลอดชีวิตจากศูนย์การเรียนชุมชนสังกัดสำนักงาน กศน. 6. จำนวนผู้รับบริการในพื้นที่เป้าหมายได้รับการส่งเสริมด้านการรู้หนังสือและการพัฒนาทักษะชีวิต 7. จำนวนนักเรียนนักศึกษาที่ได้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้ 8. จำนวนประชาชนที่ได้รับการฝึกอาชีพระยะสั้น สามารถสร้างอาชีพเพื่อสร้างรายได้ 9. จำนวน ครู กศน. ตำบล จากพื้นที่ กศน.ภาค ได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการ สอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 10. จำนวนประชาชนที่ได้รับการฝึกอบรมภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ 11. จำนวนผู้สูงอายุภาวะพึ่งพิงในระบบ Long Term Care มีผู้ดูแลที่มีคุณภาพและมาตรฐาน 12. จำนวนประชาชนที่ผ่านการอบรมจากศูนย์ดิจิทัลชุมชน 4 4


12 13. จำนวนศูนย์การเรียนชุมชน กศน. บนพื้นที่สูง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการ ฟัง พูดภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร ร่วมกันในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. ตชด. และกศน. 14. จำนวนบุคลากร กศน. ตำบลที่สามารถจัดทำคลังความรู้ได้ 15. จำนวนบทความเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตในระดับตำบลในหัวข้อต่าง ๆ 16. จำนวนหลักสูตรและสื่อออนไลน์ที่ให้บริการกับประชาชน ทั้งการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ 1. ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ การศึกษานอกระบบ (N-NET) ทุกรายวิชาทุกระดับ 2. ร้อยละของผู้เรียนที่ได้รับการสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเทียบกับค่าเป้าหมาย 3. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ลงทะเบียนเรียนในทุกหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษาต่อเนื่อง เทียบกับเป้าหมาย 4. ร้อยละของผู้ผ่านการฝึกอบรม/พัฒนาทักษะอาชีพระยะสั้นสามารถนำความรู้ไปใช้ในการประกอบ อาชีพหรือพัฒนางานได้ 5. ร้อยละของผู้เรียนในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพ หรือทักษะด้าน อาชีพ สามารถมีงานทำหรือนำไปประกอบอาชีพได้ 6. ร้อยละของผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมที่สามารถนำความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตามจุดมุ่งหมายของ หลักสูตรกิจกรรม การศึกษาต่อเนื่อง 7. ร้อยละของประชาชนที่ได้รับบริการมีความพึงพอใจต่อการบริการ/เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาตามอัธยาศัย 8. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับบริการ/ข้าร่วมกิจกรรมที่มีความรู้ความเข้าใจ/เจตคติ ทักษะ ตามจุดมุ่งหมายของกิจกรรมที่กำหนด ของการศึกษาตามอัธยาศัย 9. ร้อยละของนักเรียน/นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาที่ได้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้ เพิ่มสูงขึ้น 10. ร้อยละของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย มีโอกาสมาเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาตลอดชีวิต นโยบายเร่งด่วนเพื่อร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 1.ยุทธศาสตร์ด้านความมันคง 1.1 พัฒนาและเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ โดยปลูกฝังและสร้างความตระหนัก รู้ถึงความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ รณรงค์เสริมสร้างความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย และชาติไทย น้อมนำและเผยแพร่ศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรวมถึงแนวทาง พระราชดำริต่าง ๆ 1.2 เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และการมีส่วนร่วมอย่างถูกต้องกับการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในบริบทของไทย มีความเป็นพลเมืองดี ยอมรับและเคารพ ความหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์ 1.3 ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ทั้ง ยาเสพติด การค้ามนุษย์ ภัยจากไซเบอร์ ภัยพิบัติจากธรรมชาติ โรคอุบัติใหม่ ฯลฯ 5


13 1.4 ยกระดับคุณภาพการศึกษาและสร้างเสริมโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษา การพัฒนาทักษะ การสร้างอาชีพ และการใช้ชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรม ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่ชายแดนอื่น ๆ 1.5 สร้างความรู้ ความเข้าใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านยอมรับ และเคารพในประเพณี วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ และชาวต่างชาติที่มีความหลากหลาย ในลักษณะพหุ สังคมที่อยู่ร่วมกัน 2 ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 2.1 เร่งปรับหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ กศน. เพื่อยกระดับทักษะด้านอาชีพของประชาชนให้ เป็นอาชีพที่รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (First S - curve และ New S-curve) โดยบูรณาการ ความร่วมมือในการพัฒนาและเสริมทักษะใหม่ด้านอาชีพ (Upskill & Reskill) รวมถึงมุ่งเน้นสร้างโอกาสในการ สร้างงาน สร้างรายได้ และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงานทั้งภาคอุตสาหกรรมและการบริการ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจ และเขตพัฒนาพิเศษตามภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศสำหรับพื้นที่ปกติ ให้พัฒนาอาชีพที่เน้นการต่อยอดศักยภาพและตามบริบทของพื้นที่ 2.2 จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก ยกระดับการศึกษาให้กับประชาชนให้จบการศึกษา อย่างน้อยการศึกษาภาคบังคับ สามารถนำคุณวุฒิที่ได้รับไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ รวมทั้งพัฒนาทักษะ ในการประกอบอาชีพตามความต้องการของประชาชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ตอบสนองต่อบริบทของสังคม และชุมชน รวมทั้งรองรับการพัฒนาเขตพื้นที่ระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) 2.3 พัฒนาและส่งเสริมประชาชนเพื่อต่อยอดการผลิตและจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ออนไลน์ 1) เร่งจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Brand กศน. เพื่อยกระดับคุณภาพของสินค้าและ ผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดการที่ครบวงจร (การผลิต การตลาด การส่งออก และสร้างช่องทางจำหน่าย) รวมทั้ง ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการเผยแพร่และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 2) พัฒนาและคัดเลือกสุดยอดสินค้าและลิตภัณฑ์ กศน. ในแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งประสานความ ร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมันในการเป็นซ่องทางการจำหน่ายสุดยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ กศน.ให้กว้างขวาง ยิ่งขึ้น 3 ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 3.1 พัฒนาครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมและการเรียนรู้ เป็นผู้เชื่อมโยงความรู้กับ ผู้เรียนและผู้รับบริการ มีความเป็น "ครูมืออาชีพ" มีจิตบริการ มีความรอบรู้และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของ สังคมและเป็น ผู้อำนวยการการเรียนรู้" ที่สามารถบริหารจัดการความรู้ กิจกรรม และการเรียนรู้ที่ดี 1) เพิ่มอัตราข้าราชการครูให้กับ กศน. อำเภอทุกแห่ง โดยเร่งดำเนินการเรื่องการหาอัตราตำแหน่ง การสรรหา บรรจุ และแต่งตั้ง ข้าราชการครู 2) พัฒนาข้าราชการครูในรูปแบบครบวงจร ตามหลักสูตรที่เชื่อมโยงกับวิทยฐานะ 3) พัฒนาครู กศน.ตำบล ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นเรื่องการพัฒนาทักษะ การจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ทักษะภาษาต่างประเทศ ทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้ 4) พัฒนาศึกษานิเทศก์ ให้สามารถปฏิบัติการนิเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5) พัฒนาบุคลากร กศน.ทุกระดับทุกประเภทให้มีทักษะความรู้เรื่องการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลและ ภาษาต่างประเทศที่จำเป็น 6


14 3.2 พัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีความพร้อมในการ ให้บริการกิจกรรมการศึกษาและการเรียนรู้ เป็นแหล่งสารสนเทศสาธารณะที่ง่ายต่อการเข้าถึง มีบรรยากาศที่ เอื้อต่อการเรียนรู้ เป็นคาเฟ่พื้นที่การเรียนรู้สำหรับคนทุกช่วงวัย มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีบรรยากาศ สวยงามมีชีวิต ที่ดึงดูดความสนใจ และมีความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บริการ 1) เร่งยกระดับ กศน.ตำบลนำร่อง 928 แห่ง (อำเภอละ 1 แห่ง) ให้เป็น กศน.ตำบล 5 ดี พรีเมี่ยม ที่ประกอบด้วย ครูดี สถานที่ดี (ตามบริบทของพื้นที่) กิจกรรมดี เครือข่ายดี และมีนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ดีมี ประโยชน์ 2) จัดให้มีศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ กศน. เพื่อยกระดับการเรียนรู้ ใน 6 ภูมิภาค เป็นพื้นที่การเรียนรู้ (Co - Learning Space) ที่ทันสมัยสำหรับทุกคน มีความพร้อมในการให้บริการต่าง ๆ อาทิ พื้นที่สำหรับการ ทำงาน/การเรียนรู้ พื้นที่สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ มีห้องประชุมขนาดเล็ก รวมทั้งทำงานร่วมกับห้องสมุด ประชาชนในการให้บริการในรูปแบบห้องสมุดดิจิทัล บริการอินเทอร์เน็ต สื่อมัลติมีเดีย เพื่อรองรับการเรียนรู้ แบบ Active Learning 3) พัฒนาห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" ให้เป็น Digital Library โดยให้มีบริการหนังสือ ในรูปแบบ e - Book บริการคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมทั้ง Free Wifi เพื่อการสืบค้น ข้อมูล 3.3 ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เอื้อต่อการเรียนรู้สำหรับทุกคน สามารถ เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา มีกิจกรรมที่หลากลาย น่าสนใจ สนองตอบความต้องการของชุมชน เพื่อพัฒนาศักยภาพ การเรียนรู้ของประชาชน รวมทั้งใช้ประโยชน์จากประชาชนในชุมชนในการร่วมจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อ เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของคนในชุมชนไปสู้การจัดการความรู้ของชุมชนอย่างยั่งยืน 1) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ปลูกฝังคุณธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะ ความรับผิดชอบต่อ ส่วนรวม และการมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมลูกเสือ กศน. กิจกรรมจิตอาสา ตลอดจนสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้กับบุคลากรในองค์กร 2) จัดให้มีหลักสูตรลูกเสือมัคคุเทศก์ โดยให้สำนักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่ปกทม. จัดตั้งกองลูกเสือที่ ลูกเสือมีความพร้อมด้านทักษะภาษาต่างประเทศ เป็นลูกเสือมัคคุเทศก์จังหวัดละ 1 กอง เพื่อส่งเสริมลูกเสือ จิตอาสาพัฒนาการท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัด 3.4 เสริมสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ประสาน ส่งเสริมความร่วมมือภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อสร้างความเข้าใจ และให้เกิดความร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนุน และจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับ ประชาชนอย่างมีคุณภาพ 1) เร่งจัดทำทำเนียบภูมิปัญญาท้องถิ่นในแต่ละตำบล เพื่อใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการ สร้างการเรียนรู้จากองค์ความรู้ในตัวบุคคลให้เกิดการถ่ายทอดภูมิปัญญา สร้างคุณค่าทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน 2) ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การจัดการเรียนรู้ชุมชน 3) ประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพื่อการขยายและพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มอย่างกว้างขวางและมีคุณภาพ อาทิ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม อสม. 7


15 3.5 พัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาและกลุ่มเป้าหมาย 1) พัฒนาการจัดการศึกษาออนไลน์ กศน. ทั้งในรูปแบบของการศึกษาขั้นพื้นฐาน การพัฒนาทักษะ ชีวิตและทักษะอาชีพ การศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการพัฒนาช่องทางการค้าออนไลน์ 2) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน การบริหารจัดการ และการจัดการเรียนรู้ 3) ส่งเสริมให้มีการใช้การวิจัยอย่างง่ายเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ 3.6 พัฒนาศักยภาพคนด้านทักษะและความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) 1) พัฒนาความรู้และทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อพัฒนารูปแบบการ จัดการเรียนการสอน 2) ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนมีทักษะความเข้าใจและใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับตนเองได้ 3.7 พัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารของประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นทักษะภาษาเพื่ออาชีพ ทั้งในภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเที่ยว รวมทั้งพัฒนา สื่อการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารและการพัฒนาอาชีพ 3.8 เตรียมความพร้อมการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่เหมาะสมและมีคุณภาพ 1) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมให้กับประชาชนเพื่อสร้างความตระหนักถึงการเตรียมพร้อมเข้าสู่สังคม ผู้สูงอายุ (Aging Society) มีความเข้าใจในพัฒนาการของช่วงวัย รวมทั้งเรียนรู้และมีส่วนร่วมในการดูแล รับผิดชอบผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชน 2) พัฒนาการจัดบริการการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับประชาชนในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัย สูงอายุที่เหมาะสมและมีคุณภาพ 3) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับผู้สูงอายุภายใต้แนวคิด "Active Aging"การศึกษาเพื่อ พัฒนาคุณภาพชีวิต และพัฒนาทักษะชีวิต ให้สามารถดูแลตนเองทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตและรู้จักใช้ ประโยชน์จากเทคโนโลยี 4) สร้างความตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุ เปิดโอกาสให้มีการเผยแพร่ภูมิปัญญาของ ผู้สูงอายุ และให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านต่าง ๆ ในชุมชน เช่น ด้านอาชีพ กีฬา ศาสนาและวัฒนธรรม 5) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในทุกระดับ 3.9 การส่งเสริมวิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 1) จัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เชิงรุก และเน้นให้ความรู้วิทยาศาสตร์อย่างง่ายกับประชาชนในชุมชนทั้ง วิทยาศาสตร์ในวิถีชีวิต และวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน 2) พัฒนาสื่อนิทรรศการเละรูปแบบการจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ให้มีความทันสมัย 3.10 ส่งเสริมการรู้ภาษาไทยให้กับประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพื้นที่สูง ให้สามารถฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาไทย เพื่อประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำวันได้ 4 ยุทธศาสตร์ต้นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 4.1 จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้สำหรับทุกช่วงวัย ที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สามารถให้บริการ ประชาชนได้ทุกคน ทุกช่วงวัย ที่มีกิจกรรมที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ในแต่ละวัยและ เป็นศูนย์บริการความรู้ ศูนย์การจัดกิจกรรมที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย เพื่อให้มีพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมและมี ความสุขกับการเรียนรู้ตามความสนใจ 8


16 1) เร่งประสานกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อจัดทำฐานข้อมูลโรงเรียนที่ถูกยุบ รวม หรือคาดว่าน่าจะถูกยุบรวม 2) ให้สำนักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่งที่อยู่ในจังหวัดที่มีโรงเรียนที่ถูกยุบรวม ประสานขอใช้พื้นที่เพื่อ จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้สำหรับทุกช่วงวัย กศน. 4.2 ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้พิการ 1) จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ และการศึกษาตาม อัธยาศัย โดยเน้นรูปแบบการศึกษาออนไลน์ 2) ให้สำนักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่ง/กทม. ทำความร่วมมือกับศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัด ใน การใช้สถานที่ วัสดุอุปกรณ์ และครุภัณฑ์ด้านการศึกษา เพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับ กลุ่มเป้าหมายผู้พิการ 4.3 ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายทหารกองประจำการ รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายพิเศษอื่น ๆ อาทิ ผู้ต้องขัง คนพิการ เด็กออกกลางคัน ประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาให้จบการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง 4.4 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะสั้น ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกับ บริบทของพื้นที่ และตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้รับบริการ 5. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 5.1 ส่งเสริมให้มีการให้ความรู้กับประชาชนในการรับมือและปรับตัวเพื่อลดความเสียหายจากภัย ธรรมชาติและผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 5.2 สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างสังคมสีเขียว ส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชน เกี่ยวกับการคัดแยกตั้งแต่ต้นทาง การกำจัดขยะ และการนำกลับมาใช้ช้ำ เพื่อลดปริมาณและต้นทุนในการ จัดการขยะของเมือง และสามารถนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้โดยง่าย รวมทั้งการจัดการมลพิษในชุมชน 5.3 ส่งเสริมให้หน่วยงานและสถานศึกษาใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการใช้ ทรัพยากรที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น รณรงค์เรื่องการลดการใช้ถุงพลาสติก การประหยัดไฟฟ้า เป็นต้น 6. ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบหารบริหารจัดการภาครัฐ 6.1 พัฒนาและปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ บริหารจัดการบนข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ มุ่งผลสัมฤทธิ์มีความโปร่งใส 6.2 นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการทำงานที่เป็นดิจิทัลมาใช้ในการบริหารและพัฒนางาน สามารถเชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งพัฒนาโปรแกรมออนไลน์ที่ สามารถเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ที่ทำให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างต่อเนื่องกันตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ และให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างทันที ทุกที่และทุกเวลา 6.3 ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานตำแหน่ง ให้ตรงกับสายงาน ความชำนาญ และความต้องการของบุคลากร 9


17 2. แนวทาง/กลยุทธ์การดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของ กศน.ตำบลนาจอมเทียน ปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจ กศน.ตำบลนาจอมเทียน ปรัชญา “คิดเป็น ทำเป็น เน้น ICT” วิสัยทัศน์ กศน.ตำบลนาจอมเทียน จัดการศึกษาตลอดชีวิตและการศึกษาอาชีพที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง เท่าเทียม กัน เพื่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ ICT และมีความสามารถเชิงแข่งขันในประชาคมอาเซียนอย่างยั่งยืน พันธกิจ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ เพื่อยกระดับการศึกษา พัฒนาทักษะการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมทุกช่วงวัย พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง บริบททางสังคม และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต 2 ส่งเสริม สนับสนุน และประสานภาคีเครือข่าย ในการมีส่วนร่วมจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมของศูนย์การเรียนและแหล่งการ เรียนรู้อื่น ในรูปแบบต่าง ๆ 3. ส่งเสริมและพัฒนาการนำเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ ในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง 4. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและนวัตกรรม การวัดและประเมินผลในทุก รูปแบบให้สอดคล้องกับบริบทในปัจจุบัน 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งจัดการศึกษาและการเรียนรู้ที่ มีคุณภาพ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้รับโอกาสทาง การศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตาม อัธยาศัย ที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เป็นไปตามสภาพ ปัญหา และความต้องการของแต่ละ กลุ่มเป้าหมาย 1. ประชาชนได้รับการยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และความเป็น พลเมือง อันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพื่อพัฒนาไปสู่ความมั่นคง และยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม 2. ประชาชนได้รับโอกาสในการเรียนรู้ และมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถคิด วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่าง สร้างสรรค์ 10


18 3. ประชาชนได้รับการสร้างและส่งเสริมให้มีนิสัยรักการอ่านเพื่อการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 4. ชุมชนและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการดำเนินงานการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการขับเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู้ของชุมชน 5. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนา เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการยกระดับ คุณภาพในการจัดการเรียนรู้และเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ให้กับประชาชน 6. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาสื่อและการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนา คุณภาพชีวิต ที่ตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงบริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งตามความต้องการของประชาชนและชุมชนในรูปแบบที่หลากหลาย 7. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการที่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล 8. บุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ 1. จำนวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาชั้นพื้นฐานที่ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายตาม สิทธิที่กำหนดไว้ 2. จำนวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/เข้ารับบริการกิจกรรม การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัยที่สอดคล้องกับสภาพ ปัญหา และความต้องการ 3. ร้อยละของกำลังแรงงานที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป 4. จำนวนภาคีเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัด/พัฒนา/ส่งเสริมการศึกษา (ภาคีเครือข่าย :สถาน ประกอบการ องค์กร หน่วยงานที่มาร่วมจัด/พัฒนา/ส่งเสริมการศึกษา) 5. จำนวนประชาชน เด็ก และเยาวชนในพื้นที่สูง และชาวไทยมอแกน ในพื้นที่ 5 จังหวัด 11 อำกอ ได้รับบริการการศึกษาตลอดชีวิตจากศูนย์การเรียนชุมชนสังกัดสำนักงาน กศน. 6. จำนวนผู้รับบริการในพื้นที่เป้าหมายได้รับการส่งเสริมด้านการรู้หนังสือและการพัฒนาทักษะชีวิต 7. จำนวนนักเรียนนักศึกษาที่ได้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้ 8. จำนวนประชาชนที่ได้รับการฝึกอาชีพระยะสั้น สามารถสร้างอาชีพเพื่อสร้างรายได้ 9. จำนวน ครู กศน. ตำบล จากพื้นที่ กศน.ภาค ได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการ สอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 10. จำนวนประชาชนที่ได้รับการฝึกอบรมภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ 11. จำนวนผู้สูงอายุภาวะพึ่งพิงในระบบ Long Term Care มีผู้ดูแลที่มีคุณภาพและมาตรฐาน 12. จำนวนประชาชนที่ผ่านการอบรมจากศูนย์ดิจิทัลชุมชน 13. จำนวนศูนย์การเรียนชุมชน กศน. บนพื้นที่สูง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการ ฟัง พูดภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร ร่วมกันในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. ตชด. และกศน. 14. จำนวนบุคลากร กศน. ตำบลที่สามารถจัดทำคลังความรู้ได้ 15. จำนวนบทความเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตในระดับตำบลในหัวข้อต่าง ๆ 16. จำนวนหลักสูตรและสื่อออนไลน์ที่ให้บริการกับประชาชน ทั้งการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย 11


19 ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ 1. ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ การศึกษานอกระบบ (N-NET) ทุกรายวิชาทุกระดับ 2. ร้อยละของผู้เรียนที่ได้รับการสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเทียบกับค่าเป้าหมาย 3. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ลงทะเบียนเรียนในทุกหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษาต่อเนื่อง เทียบกับเป้าหมาย 4. ร้อยละของผู้ผ่านการฝึกอบรม/พัฒนาทักษะอาชีพระยะสั้นสามารถนำความรู้ไปใช้ในการประกอบ อาชีพหรือพัฒนางานได้ 5. ร้อยละของผู้เรียนในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพ หรือทักษะด้าน อาชีพ สามารถมีงานทำหรือนำไปประกอบอาชีพได้ 6. ร้อยละของผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมที่สามารถนำความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตามจุดมุ่งหมายของ หลักสูตรกิจกรรม การศึกษาต่อเนื่อง 7. ร้อยละของประชาชนที่ได้รับบริการมีความพึงพอใจต่อการบริการ/เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาตามอัธยาศัย 8. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับบริการ/ข้าร่วมกิจกรรมที่มีความรู้ความเข้าใจ/เจตคติ ทักษะ ตามจุดมุ่งหมายของกิจกรรมที่กำหนด ของการศึกษาตามอัธยาศัย 9. ร้อยละของนักเรียน/นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาที่ได้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้ เพิ่มสูงขึ้น 10. ร้อยละของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย มีโอกาสมาเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาตลอดชีวิต นโยบายเร่งด่วนเพื่อร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 1.ยุทธศาสตร์ด้านความมันคง 1.1 พัฒนาและเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ โดยปลูกฝังและสร้างความตระหนัก รู้ถึงความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ รณรงค์เสริมสร้างความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย และชาติไทย น้อมนำและเผยแพร่ศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรวมถึงแนวทาง พระราชดำริต่าง ๆ 1.2 เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และการมีส่วนร่วมอย่างถูกต้องกับการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในบริบทของไทย มีความเป็นพลเมืองดี ยอมรับและเคารพ ความหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์ 1.3 ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ทั้ง ยาเสพติด การค้ามนุษย์ ภัยจากไซเบอร์ ภัยพิบัติจากธรรมชาติ โรคอุบัติใหม่ ฯลฯ 1.4 ยกระดับคุณภาพการศึกษาและสร้างเสริมโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษา การพัฒนาทักษะ การสร้างอาชีพ และการใช้ชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรม ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่ชายแดนอื่น ๆ 1.5 สร้างความรู้ ความเข้าใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านยอมรับ และเคารพในประเพณี วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ และชาวต่างชาติที่มีความหลากหลาย ในลักษณะพหุ สังคมที่อยู่ร่วมกัน 12


20 2 ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 2.1 เร่งปรับหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ กศน. เพื่อยกระดับทักษะด้านอาชีพของประชาชนให้ เป็นอาชีพที่รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (First S - curve และ New S-curve) โดยบูรณาการ ความร่วมมือในการพัฒนาและเสริมทักษะใหม่ด้านอาชีพ (Upskill & Reskill) รวมถึงมุ่งเน้นสร้างโอกาสในการ สร้างงาน สร้างรายได้ และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงานทั้งภาคอุตสาหกรรมและการบริการ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจ และเขตพัฒนาพิเศษตามภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศสำหรับพื้นที่ปกติ ให้พัฒนาอาชีพที่เน้นการต่อยอดศักยภาพและตามบริบทของพื้นที่ 2.2 จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก ยกระดับการศึกษาให้กับประชาชนให้จบการศึกษา อย่างน้อยการศึกษาภาคบังคับ สามารถนำคุณวุฒิที่ได้รับไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ รวมทั้งพัฒนาทักษะ ในการประกอบอาชีพตามความต้องการของประชาชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ตอบสนองต่อบริบทของสังคม และชุมชน รวมทั้งรองรับการพัฒนาเขตพื้นที่ระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) 2.3 พัฒนาและส่งเสริมประชาชนเพื่อต่อยอดการผลิตและจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ออนไลน์ 1) เร่งจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Brand กศน. เพื่อยกระดับคุณภาพของสินค้าและ ผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดการที่ครบวงจร (การผลิต การตลาด การส่งออก และสร้างช่องทางจำหน่าย) รวมทั้ง ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการเผยแพร่และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 2) พัฒนาและคัดเลือกสุดยอดสินค้าและลิตภัณฑ์ กศน. ในแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งประสานความ ร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมันในการเป็นซ่องทางการจำหน่ายสุดยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ กศน.ให้กว้างขวาง ยิ่งขึ้น 3 ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 3.1 พัฒนาครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมและการเรียนรู้ เป็นผู้เชื่อมโยงความรู้กับ ผู้เรียนและผู้รับบริการ มีความเป็น "ครูมืออาชีพ" มีจิตบริการ มีความรอบรู้และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของ สังคมและเป็น ผู้อำนวยการการเรียนรู้" ที่สามารถบริหารจัดการความรู้ กิจกรรม และการเรียนรู้ที่ดี 1) เพิ่มอัตราข้าราชการครูให้กับ กศน. อำเภอทุกแห่ง โดยเร่งดำเนินการเรื่องการหาอัตราตำแหน่ง การสรรหา บรรจุ และแต่งตั้ง ข้าราชการครู 2) พัฒนาข้าราชการครูในรูปแบบครบวงจร ตามหลักสูตรที่เชื่อมโยงกับวิทยฐานะ 3) พัฒนาครู กศน.ตำบลให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นเรื่องการพัฒนาทักษะ การจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ทักษะภาษาต่างประเทศ ทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้ 4) พัฒนาศึกษานิเทศก์ ให้สามารถปฏิบัติการนิเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5) พัฒนาบุคลากร กศน.ทุกระดับทุกประเภทให้มีทักษะความรู้เรื่องการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลและ ภาษาต่างประเทศที่จำเป็น 3.2 พัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีความพร้อมในการ ให้บริการกิจกรรมการศึกษาและการเรียนรู้ เป็นแหล่งสารสนเทศสาธารณะที่ง่ายต่อการเข้าถึง มีบรรยากาศที่ เอื้อต่อการเรียนรู้ เป็นคาเฟ่พื้นที่การเรียนรู้สำหรับคนทุกช่วงวัย มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีบรรยากาศ สวยงามมีชีวิต ที่ดึงดูดความสนใจ และมีความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บริการ 1) เร่งยกระดับ กศน.ตำบลนำร่อง 928 แห่ง (อำเภอละ 1 แห่ง) ให้เป็น กศน.ตำบล 5 ดี พรีเมี่ยม ที่ประกอบด้วย ครูดี สถานที่ดี (ตามบริบทของพื้นที่) กิจกรรมดี เครือข่ายดี และมีนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ดีมี ประโยชน์ 13 5


21 2) จัดให้มีศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ กศน. เพื่อยกระดับการเรียนรู้ ใน 6 ภูมิภาค เป็นพื้นที่การเรียนรู้ (Co - Learning Space) ที่ทันสมัยสำหรับทุกคน มีความพร้อมในการให้บริการต่าง ๆ อาทิ พื้นที่สำหรับการ ทำงาน/การเรียนรู้ พื้นที่สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ มีห้องประชุมขนาดเล็ก รวมทั้งทำงานร่วมกับห้องสมุด ประชาชนในการให้บริการในรูปแบบห้องสมุดดิจิทัล บริการอินเทอร์เน็ต สื่อมัลติมีเดีย เพื่อรองรับการเรียนรู้ แบบ Active Learning 3) พัฒนาห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" ให้เป็น Digital Library โดยให้มีบริการหนังสือ ในรูปแบบ e - Book บริการคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมทั้ง Free Wifi เพื่อการสืบค้น ข้อมูล 3.3 ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เอื้อต่อการเรียนรู้สำหรับทุกคน สามารถ เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา มีกิจกรรมที่หลากลาย น่าสนใจ สนองตอบความต้องการของชุมชน เพื่อพัฒนาศักยภาพ การเรียนรู้ของประชาชน รวมทั้งใช้ประโยชน์จากประชาชนในชุมชนในการร่วมจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อ เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของคนในชุมชนไปสู้การจัดการความรู้ของชุมชนอย่างยั่งยืน 1) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ปลูกฝังคุณธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะ ความรับผิดชอบต่อ ส่วนรวม และการมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมลูกเสือ กศน. กิจกรรมจิตอาสา ตลอดจนสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้กับบุคลากรในองค์กร 2) จัดให้มีหลักสูตรลูกเสือมัคคุเทศก์ โดยให้สำนักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่ง กทม. จัดตั้งกองลูกเสือที่ ลูกเสือมีความพร้อมด้านทักษะภาษาต่างประเทศ เป็นลูกเสือมัคคุเทศก์จังหวัดละ 1 กอง เพื่อส่งเสริมลูกเสือ จิตอาสาพัฒนาการท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัด 3.4 เสริมสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ประสาน ส่งเสริมความร่วมมือภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อสร้างความเข้าใจ และให้เกิดความร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนุน และจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับ ประชาชนอย่างมีคุณภาพ 1) เร่งจัดทำทำเนียบภูมิปัญญาท้องถิ่นในแต่ละตำบล เพื่อใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการ สร้างการเรียนรู้จากองค์ความรู้ในตัวบุคคลให้เกิดการถ่ายทอดภูมิปัญญา สร้างคุณค่าทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน 2) ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การจัดการเรียนรู้ชุมชน 3) ประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพื่อการขยายและพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มอย่างกว้างขวางและมีคุณภาพ อาทิ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม อสม. 3.5 พัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาและกลุ่มเป้าหมาย 1) พัฒนาการจัดการศึกษาออนไลน์ กศน. ทั้งในรูปแบบของการศึกษาขั้นพื้นฐาน การพัฒนาทักษะ ชีวิตและทักษะอาชีพ การศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการพัฒนาช่องทางการค้าออนไลน์ 2) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน การบริหารจัดการ และการจัดการเรียนรู้ 3) ส่งเสริมให้มีการใช้การวิจัยอย่างง่ายเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ 3.6 พัฒนาศักยภาพคนด้านทักษะและความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) 1) พัฒนาความรู้และทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อพัฒนารูปแบบการ จัดการเรียนการสอน 2) ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนมีทักษะความเข้าใจและใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับตนเองได้ 14


22 3.7 พัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารของประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นทักษะภาษาเพื่ออาชีพ ทั้งในภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเที่ยว รวมทั้งพัฒนา สื่อการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารและการพัฒนาอาชีพ 3.8 เตรียมความพร้อมการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่เหมาะสมและมีคุณภาพ 1) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมให้กับประชาชนเพื่อสร้างความตระหนักถึงการเตรียมพร้อมเข้าสู่สังคม ผู้สูงอายุ (Aging Society) มีความเข้าใจในพัฒนาการของช่วงวัย รวมทั้งเรียนรู้และมีส่วนร่วมในการดูแล รับผิดชอบผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชน 2) พัฒนาการจัดบริการการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับประชาชนในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัย สูงอายุที่เหมาะสมและมีคุณภาพ 3) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับผู้สูงอายุภายใต้แนวคิด "Active Aging"การศึกษาเพื่อ พัฒนาคุณภาพชีวิต และพัฒนาทักษะชีวิต ให้สามารถดูแลตนเองทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตและรู้จักใช้ ประโยชน์จากเทคโนโลยี 4) สร้างความตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุ เปิดโอกาสให้มีการเผยแพร่ภูมิปัญญาของ ผู้สูงอายุ และให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านต่าง ๆ ในชุมชน เช่น ด้านอาชีพ กีฬา ศาสนาและวัฒนธรรม 5) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในทุกระดับ 3.9 การส่งเสริมวิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 1) จัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เชิงรุก และเน้นให้ความรู้วิทยาศาสตร์อย่างง่ายกับประชาชนในชุมชนทั้ง วิทยาศาสตร์ในวิถีชีวิต และวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน 2) พัฒนาสื่อนิทรรศการเละรูปแบบการจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ให้มีความทันสมัย 3.10 ส่งเสริมการรู้ภาษาไทยให้กับประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพื้นที่สูง ให้สามารถฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาไทย เพื่อประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำวันได้ 4 ยุทธศาสตร์ต้นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 4.1 จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้สำหรับทุกช่วงวัย ที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สามารถให้บริการ ประชาชนได้ทุกคน ทุกช่วงวัย ที่มีกิจกรรมที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ในแต่ละวัยและ เป็นศูนย์บริการความรู้ ศูนย์การจัดกิจกรรมที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย เพื่อให้มีพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมและมี ความสุขกับการเรียนรู้ตามความสนใจ 1) เร่งประสานกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อจัดทำฐานข้อมูลโรงเรียนที่ถูกยุบ รวม หรือคาดว่าน่าจะถูกยุบรวม 2) ให้สำนักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่งที่อยู่ในจังหวัดที่มีโรงเรียนที่ถูกยุบรวม ประสานขอใช้พื้นที่เพื่อ จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้สำหรับทุกช่วงวัย กศน. 4.2 ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้พิการ 1) จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ และการศึกษาตาม อัธยาศัย โดยเน้นรูปแบบการศึกษาออนไลน์ 2) ให้สำนักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่ง/กทม. ทำความร่วมมือกับศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัด ใน การใช้สถานที่ วัสดุอุปกรณ์ และครุภัณฑ์ด้านการศึกษา เพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับ กลุ่มเป้าหมายผู้พิการ 15


23 4.3 ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายทหารกองประจำการ รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายพิเศษอื่น ๆ อาทิ ผู้ต้องขัง คนพิการ เด็กออกกลางคัน ประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาให้จบการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง 4.4 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะสั้น ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกับ บริบทของพื้นที่ และตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้รับบริการ 5. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 5.1 ส่งเสริมให้มีการให้ความรู้กับประชาชนในการรับมือและปรับตัวเพื่อลดความเสียหายจากภัย ธรรมชาติและผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 5.2 สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างสังคมสีเขียว ส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชน เกี่ยวกับการคัดแยกตั้งแต่ต้นทาง การกำจัดขยะ และการนำกลับมาใช้ช้ำ เพื่อลดปริมาณและต้นทุนในการ จัดการขยะของเมือง และสามารถนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้โดยง่าย รวมทั้งการจัดการมลพิษในชุมชน 5.3 ส่งเสริมให้หน่วยงานและสถานศึกษาใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการใช้ ทรัพยากรที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น รณรงค์เรื่องการลดการใช้ถุงพลาสติก การประหยัดไฟฟ้า เป็นต้น 6. ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบหารบริหารจัดการภาครัฐ 6.1 พัฒนาและปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ บริหารจัดการบนข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ มุ่งผลสัมฤทธิ์มีความโปร่งใส 6.2 นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการทำงานที่เป็นดิจิทัลมาใช้ในการบริหารและพัฒนางาน สามารถเชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งพัฒนาโปรแกรมออนไลน์ที่ สามารถเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ที่ทำให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างต่อเนื่องกันตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ และให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างทันที ทุกที่และทุกเวลา 6.3 ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานตำแหน่ง ให้ตรงกับสายงาน ความชำนาญ และความต้องการของบุคลากร ปัจจัยหลักแหล่งความสำเร็จ กศน.ตำบลนาจอมเทียน 1. กศน.ตำบลนาจอมเทียน ยึดหลักวิชา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักปรัชญาคิดเป็น หลักธรรมาภิบาล และผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการ ทั้งด้านวิชาการงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และ การบริหารทั่วไปทั้งภายใน กศน.ตำบลนาจอมเทียน และการทำงานร่วมกันกับภาคีเครือข่าย 2. กศน.ตำบลนาจอมเทียน ใช้ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ในการดำเนินงาน ทั้งที่ยึดพื้นที่ ยึดสภาวะ แวดล้อม ยึดกลุ่มเป้าหมายาและความต้องการยึดประเด็นปัญหาของกลุ่มเป้าหมายหรือประเด็นการพัฒนา ยึดความสำเร็จ และยึดนโยบายเป็นฐาน 3. กศน.ตำบลนาจอมเทียน การเน้นการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้ง เครือข่ายเชิงพื้นที่เครือข่ายเชิงภารกิจและการสร้างความเข้มแข็งร่วมมือและความยั่งยืนในการเป็นภาคี เครือข่าย 4. กศน.ตำบลนาจอมเทียน เป็นฐานและสถานีปลายทาง ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้กับ ประชาชนในพื้นที่ โดยได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพและพร้อมในการปฏิบัติงานตลอดเวลา 5. กศน.ตำบลนาจอมเทียน ใช้สถานศึกษาเป็นกลไกขับเคลื่อนการบริหารนโยบายในระดับ พื้นที่ โดยมีคณะกรรมการสถานศึกษาคณะกรรมการ กศน.ตำบล เป็นผู้เสนอแนะ กำกับติดตาม นิเทศการ ดำเนินงานเพื่อให้สามารถจัดการศึกษาในระดับพื้นฐานได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ 16


24 6. กศน.ตำบลนาจอมเทียน มีข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มตามจุดเน้น มาใช้ในการ วางแผนการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และ ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ในชุมชนได้ อย่างมีประสิทธิภาพ 7. กศน.ตำบลนาจอมเทียน มีระบบการนิเทศกำกับติดตามและรายงานผล การปฏิบัติงาน และการใช้จ่ายงบประมาณที่สามารถตรวจสอบความก้าวหน้าในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 8. กศน.ตำบลนาจอมเทียน มีกลไก/ระบบที่สามารถเชื่อมโยงการทำงานระหว่างส่วนราชการ และหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายจากสถานศึกษาเช่น ระบบ ฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องและการจัดกิจกรรม เพื่อตอบสนองนโยบายเร่งด่วนหรือ นโยบายเฉพาะที่ได้รับมอบหมายจากสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 9. กศน.ตำบลนาจอมเทียน มีหน่วยงาน/สถานศึกษารับผิดชอบตัวชี้วัดความสำเร็จ ตาม ยุทธศาสตร์และจุดเน้นที่ตรงตามภารกิจอย่างชัดเจนที่กำกับติดตามและรายงานผลตัวชี้วัดทั้งส่วนกลางระดับ จังหวัด และระดับสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ 3.แผนแม่บท สมาร์ทฟาร์มเมอร์" พลิกชีวิตเกษตรกร ปัญหาของเกษตรกร ยังเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกและยังคงดำรงอยู่อย่างนั้นในทุกยุคทุกสมัย เกษตรกรไทยยังไม่เคยหนีพ้นวังวนปัญหาเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหนี้สิน ราคาผลผลิตตกต่ำ ขาดอำนาจ ต่อรองในระบบเศรษฐกิจทุนนิยม และยังถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายทุนที่มีอำนาจทางการเงินสูงกว่า ทำให้ เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อยของประเทศที่เติบโตด้วยผลผลิตทางเกษตรกรรม กลายเป็นชนชั้นราก หญ้าที่ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ง่ายๆ โครงการสมาร์ทฟาร์มเมอร์ หรือเกษตกรปราดเปรื่อง เป็นอีกหนึ่ง โครงการความหวังของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ต้องการยกระดับเกษตรกรไทย เริ่มมาตั้งแต่ยุค ยุคล ลิ้ม แหลมทอง เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในช่วงปลายปี 2556มีเป้าหมายของโครงการก็คือเกษตรกรต้องมี รายได้ไม่ต่ำกว่า 1.8 แสนบาท/ปี หรืออย่างน้อย 300 บาท/วัน แต่ที่น่าตระหนกและต้องกลับมาทบทวน เมื่อ กรมส่งเสริมการเกษตร รายงานว่า ผลการสำรวจของสำนักงานเศรษฐกิจ การเกษตร (สศก.) สรุปผลคัดกรอง เกษตรกรตามคุณสมบัติจากจำนวนแรงงานภาคเกษตร 17 ล้านราย (ปี 2559 ) พบว่า มีเกษตรกรผ่าน คุณสมบัติเพียง 9.6 แสนรายเท่านั้น ที่เหลือยังไม่ผ่านเกณฑ์ ผลจากการตรวจสอบและพูดคุยของคนทำเกษตร จริง มีผลออกมาเป็นเหรียญสองด้าน โดยพบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ที่เข้าโครงการมักจะก้าวผ่านความยากจน และหลายคนเริ่มขยายพื้นที่เพาะปลูก โดยมีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลัก และการเรียนรู้จากสมาร์ท ฟาร์มเมอร์มาเป็นฐานเพิ่มองค์ความรู้ในขณะที่อีกส่วนใหญ่ของประเทศยอมรับว่า การเปลี่ยนเป็นเรื่องยาก เพราะยังขาดความมั่นใจเรื่องรายได้ที่จะหล่อเลี้ยงครอบครัว และยังไม่พร้อมจะปรับตัวด้วยเหตุผลที่ต้องรับ ฟังพัฒน์พงษ์ มงคลกาญจนกุล อาชีพไร่นาสวนผสม อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี หนึ่งในเกษตรกรที่เข้าอบรม โครงการสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เล่าว่า ก่อนหน้านั้นทำเกษตรเชิงเดี่ยว คือ ปลูกข้าวโพด 21 ไร่ แต่เป็นหนี้มา ตลอด ไม่เคยปลดหนี้ได้ เพราะระหว่างรอผลผลิตไม่มีรายได้เข้าบ้านมีแต่ต้องจ่ายออกทุกวัน เมื่อเข้าโครงการ สมาร์ทฟาร์มเมอร์ และทำสวนแบบผสมผสาน โดยนำแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวง รัชกาลที่ 9 มา ปรับใช้ ทำให้มีรายได้เข้าบ้านทุกวันจากการขายไข่ เห็ด ผัก โดยไม่ต้องรอขายข้าวโพดอย่างเดียว จนขณะนี้มี การขยายพื้นที่ทำไร่นาสวนผสมเป็น 39 ไร่ และเป็นศูนย์เรียนรู้กับเกษตรกรด้วย พัฒน์พงษ์ กล่าวว่า การที่ เกษตรกรส่วนมากไม่ยอมที่จะปรับปรุง หรือเปลี่ยนรูปแบบการทำการเกษตร มาจากความกลัว ไม่มั่นใจ เกรง ว่าหากเปลี่ยนแล้วจะทำไม่ได้ ล้มเหลว และสุดท้ายก็ต้องกลับมาที่เดิม ในฐานะที่ผ่านมาแล้วก็อยากสื่อให้รู้ว่า ในช่วงแรกเราอาจจะต้องยอมปรับตัวบ้าง แต่เมื่อเริ่มไปได้สักระยะ เราจะเริ่มเห็นหน้าเห็นหลัง อย่างน้อยมี รายได้เข้ามาทุกวัน อย่างไรก็ตาม วิเชียร พวงลำเจียก แกนนำเกษตรกรชาวนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สะท้อนอีกมุมมองหนึ่งว่า ยอมรับว่าชาวนาส่วนใหญ่ไม่ยอมเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นเพราะไม่กล้าทำ เนื่องจากไม่ 17


25 คุ้นเคย และเกรงจะทำไม่ได้ และพื้นที่นาไม่เหมาะกับการปลูกพืชอื่น โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มหรือในพื้นที่ ชลประทานของเขา ปัญหาสำคัญ คือ ปัญหาที่ดินซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เช่า ทำให้เกษตรกรไม่กล้าที่จะ ปรับเปลี่ยนอาชีพตามคำแนะนำของกระทรวงเกษตรฯ เพราะไม่มั่นใจรายได้ และจะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า เพราะ ปัจจุบันผู้ให้เช่าไม่ง้อเกษตรกร เนื่องจากสามารถจ้างผลิต จ้างปลูกได้โดยไม่ต้องลงมือเอง ดังนั้นไม่ว่ารัฐจะ วางโครงการอะไรก็ยาก เพราะที่ดินไม่ใช่ของเกษตรกรเองกว่า 60% เป็นพื้นที่เช่าทั้งสิ้น 4. ความหมายของสมาร์ทฟาร์มเมอร์ สมาร์ทฟาร์ม หรือ เกษตรอัจฉริยะ เป็นรูปแบบการทำเกษตรแบบใหม่ที่จะทำให้ การทำไร่ทำนา มีภูมิคุ้มกันต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการนำเอาข้อมูลของภูมิอากาศทั้งในระดับพื้นที่ย่อย (Microclimate) ระดับไร่ (Mesoclimate) และระดับมหภาค (Macroclimate) มาใช้ในการบริหารจัดการ ดูแลพื้นที่เพาะปลูก เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพอากาศที่เกิดขึ้น รวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศ ที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต ดร.สุมิท มองว่าอยู่ที่มุมมองของแต่ละองค์กรหรือหน่วยงาน “แล้วแต่ว่าองค์กรไหน หน่วยงาน ไหนพูดถึง ซึ่งเป็นไปตามจริตของหน่วยงานหรือองค์กรนั้น หลายคนก็พูดถึง Smart Farmer ในบริบทเหมือน เป็นผู้ประกอบการ มีความรู้ มีการวางแผน หรือมีรายได้เยอะ ซึ่งก็ถือว่าเป็น Smart Farmer ถ้าเป็นอย่าง มุมมองของธนาคารก็อยากให้ Smart Farmer ร่ำรวย มีความสามารถในการบริหารเงิน เพื่อจะได้ไม่มีหนี้เสีย ซึ่งก็เป็น Smart Farmer ในอีกมุมหนึ่งที่คิดแบบธนาคาร แต่ในความหมายที่เราต้องการนั้น หากจะเป็น Smart Farmer ต้องเข้าใจธรรมชาติ หมายถึงการที่ต้องลงทุนลงแรงน้อย ให้ธรรมชาติช่วยเยอะ ๆ ก็คือการไม่ ทำร้ายธรรมชาติ ใช้ทรัพยากรเท่าที่จำเป็น ทำแล้วต้องสบายขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่ยิ่งทำยิ่งเหนื่อย เช่น การมีพื้นที่ เล็ก ๆ แต่สามารถออกแบบให้ปลูกแบบผสมผสานและเกื้อกูลกันได้” นายธนวิทย์ วงษ์ใหญ่ (2560) ได้ให้ความหมายว่า สำหรับระบบสมาร์ทฟาร์มเป็นระบบบริหาร จัดการแปลงเกษตรผ่านแอพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ สามารถสั่งงานระบบให้น้ำและปุ๋ยน้ำ ควบคุมปริมาณ และตั้งเวลาให้น้ำและปุ๋ยล่วงหน้า ตรวจสอบอุณหภูมิเพื่อการตัดสินใจสั่งให้น้ำผ่านสมาร์ทโฟน รวมทั้งยังดูแล โรงเรือนผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ได้ทุกเวลาตามที่ต้องการ ธีรเกียรติ์ เกิดเจริญ. Smart Farm. [ออนไลน์] มาร์ทฟาร์ม หรือ เกษตรอัจฉริยะ เป็นรูปแบบ การทำเกษตรแบบใหม่ที่จะทำให้ การทำไร่ทำนามีภูมิคุ้มกันต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการ นำเอาข้อมูลของภูมิอากาศทั้งในระดับพื้นที่ย่อย (Microclimate) ระดับไร่ (Mesoclimate) และระดับมหภาค (Macroclimate) มาใช้ในการบริหารจัดการ ดูแลพื้นที่เพาะปลูก เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพอากาศที่เกิดขึ้น รวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต ดร. ฤทัยชนก จริงจิตร เจาะลึก “Smart Farmer” แค่แนวคิดใหม่ หรือจะพลิกโฉมการเกษตร ไทย. [ออนไลน์] “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” เป็นวัตถุประสงค์ของยุทธศาสตร์ที่ ๑ จาก 4 ประเด็นยุทธศาสตร์ของ แผนพัฒนาการเกษตร ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 แนวคิดนี้เน้นการ พัฒนาเกษตรกรให้มีความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ มีภูมิคุ้มกันพร้อมรับความเสี่ยงในมิติของการผลิตและ การตลาด รวมทั้งมีความสามารถในการผลิตและการตลาดในระดับที่พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้จัดการฟาร์มมือ อาชีพที่ทำการเกษตรได้จนประสบความสำเร็จ 18


26 3) สมาร์ทฟาร์ม(Smart farm) สมาร์ทฟาร์ม(Smart farm) เป็นนวัตกรรมที่เกิดจากแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช (พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย) เกี่ยวกับการส่งเสริม สนับสนุนให้เกษตรกรและ ผู้ประกอบการใช้นวัตกรรมด้านการเกษตรมากขึ้น เพื่อนำไปสู่การเพิ่มผลผลิตและพัฒนาภาคการเกษตรให้ ยั่งยืนในอนาคต โดยรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมาร์ทฟาร์ม มีดังนี้ สมาร์ฟาร์ม หรือ เกษตรอัจฉริยะ เป็นรูปแบบการทำเกษตรแบบใหม่ที่จะทำให้การทำไร่ทำนามี ภูมิคุ้มกันต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการนำข้อมูลของภูมิอากาศทั้งในระดับพื้นที่ย่อย (Microclimate) ระดับไร่ (Mesoclimate) และระดับมหภาค (Macroclimate) มาใช้ในการบริหารจัดการ ดูแลพื้นที่เพาะปลูก เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพอากาศที่เกิดขึ้น รวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศ ที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต โดยได้รับการขนานนามว่า เกษตรกรรมความแม่นยำสูง หรือ เกษตรแม่นยำสูง (Precision Agriculture) ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเริ่มแพรหลายเขาไป ในหลายประเทศ ทั้งยุโรป ญี่ปุน มาเลเซีย และอินเดีย แนวคิดหลักของสมาร์ทฟาร์ม คือ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ รวมถึง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในการพัฒนาทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ของกระบวนการผลิต สินค้าเกษตรไปจนถึงผู้บริโภค เพื่อยกระดับคุณภาพการผลิต ลดต้นทุน รวมทั้งพัฒนามาตรฐานสินค้า สมาร์ท ฟาร์มเป็นความพยายามยกระดับการพัฒนาเกษตรกรรม 4 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ (1) การลดต้นทุนใน กระบวนการผลิต (2) การเพิ่มคุณภาพมาตรฐานการผลิตและมาตรฐานสินค้า (3) การลดความเสี่ยงในภาค เกษตร ซึ่งเกิดจากการระบาดของศัตรูพืชและจากภัยธรรมชาติ (4) การจัดการและส่งผ่านความรู้ โดยนำ เทคโนโลยีสารสนเทศจากการวิจัยไปประยุกต์สู่การพัฒนาในทางปฏิบัติ และให้ความสำคัญต่อการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศของเกษตรกร ซึ่งเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการทำสมาร์ทฟาร์ม ได้แก่ -Global Positioning System (GPS) เปนเทคโนโลยีในการระบุพิกัด หรือตําแหนงบน พื้นผิวโลกโดยใชกลุมของดาวเทียมจํานวน 24 ดวง ซึ่งโคจรรอบโลกในวงโคจร 6 วง ที่ความสูง 20,200 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก -Geographic Information System (GIS) เปนเทคโนโลยีในการรวบรวมและวิเคราะห์ ข้อมูลเชิงพื้นที่ แลวนํามาแสดงผลในรูปแบบตางๆ สามารถเก็บข้อมูลได้หลากหลายมิติ ซึ่งระบบ GIS ที่รู้จักกัน ดีคือ Google Earth -Remote Sensing หรือเทคโนโลยีการรับรูระยะไกล เปนเครื่องมือที่ใชในการเก็บขอมูลพื้น ที่ โดยอาศัยคลื่นแสงในชวงความยาวคลื่นตางๆ และคลื่นแมเหล็กไฟฟา เชน เรดาห์ ไมโครเวฟ วิทยุ เปนตน อุปกรณรับรูเหลานี้มักจะติดตั้งบนอากาศยาน หรือดาวเทียม -Proximal Sensing หรือเทคโนโลยีการรับรูระยะใกล อาศัยเซ็นเซอรวัดขอมูลต่างๆ ได้ โดยตรงในจุดที่สนใจ เชน เซ็นเซอรตรวจอากาศ (Weather Station) เซ็นเซอรวัดดิน (Soil Sensor) เซ็นเซอร ตรวจโรคพืช (Plant Disease Sensor) เซ็นเซอรตรวจวัดผลผลิต (Yield Monitoring Sensor) เป็นต้น เซ็นเซ อรเหลานี้สามารถนํามาวางเปนระบบเครือขายไรสาย (Wireless Sensor Network) โดยนําไปติดตั้งหรือปล อยในพื้นที่ไรนา เพื่อเก็บขอมูลตางๆ ได้แก่ ความชื้นในดิน อุณหภูมิ ปริมาณแสง และสารเคมี -Variable Rate Technology (VRT) หรือเทคโนโลยีการใหปุย น้ำ ยาฆาแมลง ตามสภาพ ความแตกตางของพื้นที่ โดยมักจะใชรวมกับเทคโนโลยี GPS 19


27 -Crop Models and Decision Support System (DSS) เปนเทคโนโลยีที่บูรณาการ เทคโนโลยีทั้งหมดที่กลาวมาขางตนเขาไวดวยกัน เพื่อใชในการตัดสินใจวาจะทําอะไรกับฟารม เมื่อไร อยางไร รวมถึงยังสามารถทํานายผลผลิตได้ด้วย การทําสมาร์ทฟาร์มในประเทศไทยอาจมีข้อจำกัด เนื่องจากระบบเทคโนโลยีบางชนิดยังมี ประสิทธิภาพไม่ดี เช่น ระบบ GPS และ GIS ต้องใช้เงินในการลงทุนสูง รวมถึงเกษตรกรขาดความชำนาญใน การใช้เครื่องมือ แต่เมื่อโลกเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งทางกายภาพ สังคม ตลอดจนองค์ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ที่มีการแลกเปลี่ยนส่งผ่านกันอย่างรวดเร็วไปทั่วทุกภูมิภาค เกษตรกรไทยจึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเอง ตามสภาพการดำเนินชีวิต การเปิดรับ เรียนรู้ ข้อมูลข่าวสาร เพื่อพาตัวเองก้าวสู่การเป็นเกษตรกรคุณภาพ (Smart farmer) ตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ว่า การพัฒนา เกษตรกรให้เป็น Smart farmer โดยมี Smart officer เป็นเพื่อนคู่คิด ซึ่งคุณสมบัติพื้นฐานของ Smart farmer มี 6 ประการ คือ ประการที่ 1 เป็นผู้มีความรู้ในเรื่องที่ทำอยู่ สามารถเป็นวิทยากรถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการ เกษตร หรือให้คำแนะนำปรึกษากับผู้อื่นที่สนใจในเรื่องที่ทำอยู่ได้ ประการที่ 2 มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลทั้งจากเจ้าหน้าที่ของ รัฐ และผ่านทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอื่นๆ เช่น Internet, Mobile smart phone เป็นต้น ประการที่ 3 มีการบริหารจัดการผลผลิตและการตลาด มีความสามารถในการบริหารจัดการ ปัจจัยการผลิต แรงงาน และทุน สามารถเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดเพื่อให้ขายผลผลิตได้ ตลอดจน สามารถจัดการของเหลือจากการผลิตที่มีประสิทธิภาพ (Zero waste management) ประการที่ 4 เป็นผู้มีความตระหนักถึงคุณภาพสินค้าและความปลอดภัยของผู้บริโภค มี ความรู้หรือได้รับการอบรมเกี่ยวกับมาตรฐาน GAP/GMP เกษตรอินทรีย์ หรือมาตรฐานอื่นๆ ประการที่ 5 มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม/สังคม มีกระบวนการผลิตที่ไม่ก่อให้เกิด มลภาวะและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม (Green economy) มีกิจกรรมช่วยเหลือชุมชนและสังคมอย่างต่อเนื่อง ประการที่ 6 มีความภูมิใจในความเป็นเกษตรกร มีความมุ่งมั่นในการประกอบอาชีพ การเกษตร รักและหวงแหนพื้นที่และอาชีพทางการเกษตรไว้ให้คนรุ่นต่อไป มีความสุขและพึงพอใจในการ ประกอบอาชีพการเกษตร กระบวนการสร้าง Smart farmer เป็นการพัฒนา Smart Officer หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมี องค์ความรู้ทางวิชาการและนโยบาย สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้สนับสนุนเกษตรกร โดยชี้นำเกษตรกรตามแนว ทางการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนการก้าวสู่การเป็น Smart Officer คือ การปรับกระบวนการ ทำงาน ซึ่งเริ่มจากการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงชนิดและปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งปัญหาของสินค้าแต่ละชนิด และต้องสามารถเชื่อมโยงกับศูนย์วิจัยของเครือข่ายหน่วยงานในกระทรวง เกษตรฯ และข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยนำมาวางแผนด้านการผลิตให้กับเกษตรกรได้อย่าง มีประสิทธิภาพ http://www.sptn.dss.go.th [ออนไลน์] ตามแนวคิดของ ตำบลนาจอมเทียน มีดังนี้ 1. จัดทำแผนยุทธศาสตร์ จัดทำโครงการ ฝึกอบรมโดยมีชาวบ้านในชุมชนมาร่วมอบรม 2. ให้ความรู้ในเรื่องของการทำเกษตร โดยการเชิญวิทยากร ของเกษตรอำเภอมาให้ความรู้แก่ชาวบ้าน 3. ให้ชุมชนได้เข้าถึงในยุคของ 4.0 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมี งานทำและก่อให้เกิดรายได้4. สร้างแรงจูงใจให้ประชาชนมีความคิดที่สร้างสรรค์5. ประสานงานกับองค์กร 20


28 ต่าง ๆ ภายในท้องถิ่น เช่น บ้าน วัด โรงเรียน ในการทำเกษตร อย่างคุ้มค่า และให้เกิดรายได้ที่ดีขึ้น 6. ติดตาม นโยบายของจังหวัดเกี่ยวกับงานด้าน Smart Onie 5. เอกสาร/งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดย ดร. ฤทัยชนก จริงจิตร (นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ) แนวคิด “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” เป็น วัตถุประสงค์ของยุทธศาสตร์ที่ 1 จาก 4 ประเด็นยุทธศาสตร์ของ แผนพัฒนาการเกษตร ซึ่งสอดคล้องกับ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 แนวคิดนี้เน้นการ พัฒนาเกษตรกรให้มีความสามารถในการ พึ่งพาตนเองได้ มีภูมิคุ้มกันพร้อมรับความเสี่ยงในมิติของการผลิตและ การตลาด รวมทั้งมีความสามารถในการ ผลิตและการตลาดในระดับที่พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้จัดการฟาร์มมือ อาชีพที่ทำการเกษตรได้จนประสบความ สำเร็จ เกษตรกรรมในประเทศไทยยังประสบปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะในมิติของผลิตภาพ (Productivity) ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงและรายได้เกษตรกรมีอัตราเฉลี่ยต่ำ เนื่องจากเกษตรกรไม่มีความรู้เพียงพอ ขาดข้อมูล เชิงลึกด้านการตลาดสำหรับวางแผนการผลิต รวมทั้งความรู้ในการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพสูงที่มีความ ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประเด็นปัญหาดังกล่าวสะท้อนว่าอาชีพเกษตรกรยังขาดการ พัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็งให้สามารถพึ่งตนเองได้ในระยะยาว ซึ่งจะทำให้ภาครัฐไม่ จำเป็นต้องกำหนดนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและโอบอุ้มเกษตรกร แนวคิด “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” จึง เป็นกลไกสำคัญในการตอบโจทย์การพัฒนาดังกล่าว ในมุมมองของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และ คอมพิวเตอร์แห่งชาติซึ่งได้นำเสนอ Smart Farm Flagship ในภาคการเกษตร แนวคิดหลักของสมาร์ทฟาร์ม คือการใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการพัฒนาทั้งห่วงโซ่ อุปทาน สินค้าเกษตรเพื่อยกระดับผลิตภาพ มาตรฐาน สินค้า และลดต้นทุน โดยการพัฒนาเกษตรกรรมใน 4 ด้านได้แก่ 1) ลดต้นทุน 2) เพิ่มคุณภาพการผลิตและ มาตรฐานสินค้า 3) ลดความเสี่ยงจากศัตรูพืชและภัย ธรรมชาติ และ 4) การจัดการและส่งผ่านความรู้ ส่วน แนวคิด “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” ในมุมมองของกระทรวง เกษตรฯ หมายถึงเกษตรกรที่มีความรู้อย่างถ่องแท้เกี่ยวกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม สามารถวางแผน โดยรู้ถึงอุปสงค์ตลาดและเตรียมการผลิตให้สอดคล้อง รวมทั้งมีความสามารถในเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และในการแก้ปัญหาได้รวดเร็ว โดยการ วิเคราะห์ข้อมูลรอบด้านเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจที่ตั้งอยู่บน หลักการและเหตุผล ตลอดจนรู้จัก ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการเกษตร ในมิติของผลผลิต “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” จะเน้นการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัยต่อ ผู้บริโภค และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จักรกฤษณ์ หมั่นวิชา ฟาร์มอัจฉริยะหรือฟาร์มที่มีการจัดการอย่างถูกต้องแม่นยำ(Smart Farm/ Precision Farm) จัดเป็น นวัตกรรมใหม่ของการเกษตรในยุคดิจิตอล มีการนำเอาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศหลายด้านมาใช้ในฟาร์ม เช่น GPS GIS remote-sensing proximal-sensing VRT และ DSS โดยผ่านเครือข่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สาย ในการรับส่งข้อมูล และมีการประมวลผลด้วยโปรแกรม สำเร็จรูป ฟาร์มอัจฉริยะมีขั้นตอนการดำเนินงาน 5 ขั้นตอนคือ การเก็บข้อมูล การวินิจฉัยข้อมูล การวิเคราะห์ ข้อมูล การปฏิบัติการตามแผน และการประเมินผล โดยมีการ จัดการฟาร์มในทุกขั้นตอน คือ การจัดทำแผนที่ สภาพดิน การให้น้ำ การให้ปุ๋ย การกำจัดศัตรูพืช การเก็บเกี่ยว การ คำนวณต้นทุน กำไร ตลอดจนการวาง แผนการเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป การดำเนินการฟาร์มอัจฉริยะ ส่งผลให้เกิดการใช้ปัจจัยการผลิตที่มี ประสิทธิภาพ เพิ่มปริมาณผลผลิตที่มีคุณภาพ คุ้มค่าต่อการลงทุน ลดผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม ลดต้นทุน ลด การจ้างแรงงาน ประหยัดเวลา และนำไปสู่การเกษตรยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 21


29 บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน ททททททททศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ ได้เห็นความสำคัญของ ชาวบ้านที่มีอาชีพเกษตรกรเป็นหลักและมีรายได้น้อยในการทำเกษตร ทาง กศน.ตำบลนาจอมเทียน จึงได้มี การจัดทำโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer เพื่อเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้เพิ่มมาก ขึ้นและสามารถเป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer สามารถปรับเปลี่ยนไปทำเกษตรตามแนวปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ จึงมีขั้นตอนดังนี้ 1.ประชุมบุคลากรกรรมการ กศน.ตำบลนาจอมเทียน 2.แต่งตั้งคณะทำงาน 3.ดำเนินงานตามแผน 4.กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการดำเนินงาน 5.เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงาน 6.การเก็บรวบรวมข้อมูล 7.การวิเคราะห์ข้อมูล 1. ประชุมบุคลากรกรรมการ กศน.ตำบลนาจอมเทียน ททททททททกศน.ตำบลนาจอมเทียน ได้วางแผนประชุมบุคลากรกรรมการ กศน.ตำบลนาจอมเทียน เพื่อหา แนวทางในการดำเนินงานและกำหนดวัตถุประสงค์ร่วมกัน 2. จัดตั้งคณะทำงาน ททททททททจัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานโครงการ เพื่อมอบหมายหน้าที่ในการทำงานให้ชัดเจน เช่น ทท ทททททททททท2.1 คณะกรรมการที่ปรึกษา/อำนวยการ มีหน้าที่อำนวยความสะดวก และให้คำปรึกษาแก้ไข ปัญหาที่เกิดขึ้น ทททททททททท2.2 คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์รับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ ททททททททท 2.3 คณะกรรมการฝ่ายรับลงทะเบียนและประเมินผลหน้าที่จัดทำหลักฐานการลงทะเบียน ผู้เข้าร่วมโครงการ และรวบรวมการประเมินผล และรายงานผลการดำเนินการ 3. ดำเนินการตามแผนงานโครงการ ททททททททวั ;วันที่ 10 – 11 มิถุนายน 2563 ณ ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎี ใหม่ประจำตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 4. กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการดำเนินงาน ททททททททเป็นกลุ่มประชากรในตำบลนาจอมเทียน จำนวนกลุ่มประชากรทั้งหมดจำนวน 16 คน จากเป้า 15 คน 5. เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงาน 1. แบบสำรวจความคิดเห็นโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer 2. แบบสอบถามความพึงพอใจโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer


30 6. การเก็บรวบรวมข้อมูล ททททททททจากการดำเนินงานโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ณ ณ ศูนย์เรียนรู้ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มี ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 16 คน จากเป้าหมายที่กำหนด 15 คน โดยมีการแจกสอบถามทั้งหมด 16 ชุด และ เก็บรวบรวมแบบสอบถามได้ 16 ชุด คิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ 7. การวิเคราะห์ข้อมูล ททททททททจากการดำเนินงานโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer โดยมีเครื่องมือที่ใช้ใน การวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ 1. ค่าแจกแจงความถี่ 2. ค่าร้อยละ 3. ค่าเฉลี่ย 4. ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ททททททททเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้เข้าอบรมได้รับประโยชน์นำไปใช้ได้จริงตามศักยภาพของแต่ ละคน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป และได้ดำเนินการตามขั้นตอนและได้รวบรวมข้อมูลจากแบบสำรวจสถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ กศน.ตำบลนาจอมเทียน จะได้นำแนวทางไปใช้ข้อมูลพิจารณาหลักสูตร เนื้อหาตลอดจน เทคนิควิธีการจัดการกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้เข้าอบรมได้รับประโยชน์ นำไปใช้ได้จริงตามศักยภาพของแต่ละคน ให้มีความเข้าใจและมีคุณภาพต่อไป ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนและได้รวบรวมข้อมูล โดยใช้สภาพการใช้สื่อการ สอนของครูในสถานศึกษาเป็นแบบมาตรวัดประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ โดยมีรายละเอียดดังนี้ (บุญชม ศรีสะอาด และบุญส่ง นิลแก้ว ,2545) 5 หมายถึง มีการดำเนินงานในระดับมากที่สุด 4 หมายถึง มีการดำเนินงานในระดับมาก 3 หมายถึง มีการดำเนินงานในระดับปานกลาง 2 หมายถึง มีการดำเนินงานในระดับน้อย 1 หมายถึง มีการดำเนินงานในระดับน้อยที่สุด โดยมีเกณฑ์การแปลความหมายค่าเฉลี่ย (บุญชม ศรีสะอาด,2556) ดังนี้ 4.50 – 5.00 หมายถึง มีความคิดเห็น/การดำเนินงานอยู่ในระดับมากที่สุด 3.50 – 4.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การดำเนินงานอยู่ในระดับมาก 2.50 – 3.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การดำเนินงานอยู่ในระดับปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การดำเนินงานอยู่ในระดับน้อย 1.00 – 1.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การดำเนินงานอยู่ในระดับน้อยที่สุด ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องกรอกข้อมูลตามแบบสอบถาม เพื่อนำไปใช้ในการประเมินผลของการจัด กิจกรรมดังกล่าว และจะได้นำไปเป็นข้อมูล ปรับปรุง และพัฒนา ตลอดจนใช้ในการจัดทำแผนการดำเนินการ ในปีต่อไป 23


31 บทที่ 4 ผลการดำเนินการ จากผลการดำเนินงานการจัด โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ณ ศูนย์เรียนรู้ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีซึ่งจัด โครงการในวันที่ 10 – 11 มิถุนายน 2563 มีผู้เข้าอบรมในโครงการ จำนวน 16 คน จากเป้าที่กำหนด 15 คน โดยมี นายสนอง สุภาผล เป็นวิทยากร สรุปได้ดังนี้ จากแบบสอบถามที่ได้ สามารถนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล จากผู้ให้ข้อมูลทั้งหมด จำนวน 16 ชุด 1. ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้ารับการอบรมโครงการขยายผลเกษตรกร ต้นแบบ Master Trainer 2. ตอนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้เข้ารับอบรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้ารับการอบรม โครงการขยายผล เกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ที่ตอบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามเพศ อายุ และอาชีพ ผู้จัดทำได้เสนอ จำแนกตามข้อมูลดังกล่าว ดังปรากฏตาม ตารางที่ 1 ดังต่อไปนี้ ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามเพศ เพศ ความคิดเห็น ชาย หญิง จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ ผู้เข้าอบรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer 4 25.00 12 75.00 รรรรรรรรจากตารางที่ 1 แสดงผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer เป็นชาย 4 คน คิดเป็นร้อยละ 25.00 เป็นหญิง 12 คน คิดเป็นร้อยละ 75.00 ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแทนแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอายุ อายุ ความคิดเห็น ต่ำกว่า15 ปี 16-39 ปี 40-59 ปี 60 ปีขึ้นไป จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ ผู้เข้าอบรมโครงการขยาย ผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer - - - - 12 75.00 4 25.00 รร


32 รจากตารางที่ 2 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามผู้เข้ารับอบรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ในช่วงอายุ40-59 ปีมีจำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 75.00 และอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 25.00 ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามโดยจำแนกตามอาชีพ ประเภท ความคิดเห็น รับจ้าง ค้าขาย รับราชการ เกษตรกรรม อื่น ๆ จำนวน ร้อย ละ จำนวน ร้อย ละ จำนวน ร้อย ละ จำนวน ร้อย ละ จำนวน ร้อย ละ ผู้เข้าอบรม โครงการ ขยายผล เกษตรกร ต้นแบบ Master Trainer 16 100 16.00 รรรรรรรรจากตารางที่ 3 แสดงผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าอบรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer อาชีพเกษตรกรรม จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 100.00 ตอนที่2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้เข้ารับอบรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ความคิดเห็นของผู้เข้ารับร่วมกิจกรรม จำนวน 16 คน จากแบบสอบถามทั้งหมดที่มีต่อโครงการขยาย ผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer รายการที่ประเมิน N = 16 µ σ อันดับ ที่ ระดับผล การประเมิน ด้านหลักสูตร 1. กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ของ หลักสูตร 4.63 0.50 2 มากที่สุด 2. เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของ ผู้รับบริการ 4.50 0.52 4 มากที่สุด 3. การจัดกิจกรรมทำให้ผู้รับบริการสามารถ คิด เป็นทำเป็นแก้ปัญหาเป็น 4.50 0.52 4 มากที่สุด 4. ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิด เห็น ต่อการจัดทำหลักสูตร 4.38 0.50 12 มาก 5. ผู้รับบริการสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ 4.56 0.51 3 มากที่สุด 25


33 6. สื่อ/เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมีความ เหมาะสม 4.44 0.51 9 มาก ด้านวิทยากร 7. วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการจัด กิจกรรม 4.50 0.52 4 มากที่สุด 8. เทคนิค/กระบวนในการจัดกิจกรรมของวิทยากร 4.44 0.51 9 มาก 9. วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับ กิจกรรม 4.50 0.52 4 มากที่สุด 10. บุคลิกภาพของวิทยากร 4.50 0.52 4 มากที่สุด ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ 11. สถานที่ในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 4.44 0.51 9 มาก 12. ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 4.38 0.50 12 มาก 13. ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับบริการต่อการ เข้าร่วมกิจกรรม 4.69 0.48 1 มากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.50 0.51 มากที่สุด ททททททจากตารางที่ 4 แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วม โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer อยู่ในระดับ มากที่สุด เมื่อวิเคราะห์เป็นรายข้อพบว่า อันดับที่ 1 คือ ความพึงพอใจในภาพรวมของ ผู้รับบริการต่อการเข้าร่วมกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ (µ = 4.69) และลำดับรองลงมาตามลำดับคือ กิจกรรม ที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ(µ =4.603) ผู้รับบริการสามารถนำความรู้ไป ปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ (µ =4.56) เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของ ผู้รับบริการ , การจัดกิจกรรมทำให้ผู้รับบริการสามารถคิดเป็นทำเป็นแก้ปัญหาเป็น, วิทยากรมีความรู้ ความสามารถในการจัดกิจกรรม, วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม, บุคลิกภาพของ วิทยากร มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน คือ (µ =4.50) ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการจัดทำ หลักสูตร, ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน คือ (µ =4.38) ตามลำดับ 26


34 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ททททททททจากการดำเนินงานโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้เพิ่มมากขึ้นและสามารถเป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer สามารถ ปรับเปลี่ยนไปทำเกษตรตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ซึ่งโครงการ ดำเนินการจัดในวันที่ 10 -11 มิถุนายน 2563 ณ ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ประจำตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 16 คน โดยมีการแจก สอบถามทั้งหมด 16 ชุด ซึ่งผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ สรุปผลการดำเนินงาน ททททททททท1. ผู้ตอบแบบสอบถามเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer จากจำนวนทั้งหมด 16 คน เป็นเพศชาย จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 25.00 เป็นหญิง 12 คน คิดเป็นร้อยละ 75.00 ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ40-59 ปีและทุกคนมีอาชีพการเกษตรทั้งหมด ทททททททท2. ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer พบว่าอยู่ในระดับ มากที่สุด เมื่อวิเคราะห์เป็นรายข้อพบว่า อันดับที่ 1 คือ ความพึงพอใจในภาพรวมของ ผู้รับบริการต่อการเข้าร่วมกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ (µ = 4.69) และลำดับรองลงมาตามลำดับคือ กิจกรรม ที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ(µ =4.603) ผู้รับบริการสามารถนำความรู้ไป ปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ (µ =4.56) เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของ ผู้รับบริการ , การจัดกิจกรรมทำให้ผู้รับบริการสามารถคิดเป็นทำเป็นแก้ปัญหาเป็น, วิทยากรมีความรู้ ความสามารถในการจัดกิจกรรม, วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม, บุคลิกภาพของ วิทยากร มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน คือ (µ =4.50) ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการจัดทำ หลักสูตร, ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน คือ (µ =4.38) ตามลำดับ อภิปรายผล ททททททททจากโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer พบว่าอยู่ในระดับ มากที่สุด เมื่อ วิเคราะห์เป็นรายข้อพบว่า อันดับที่ 1 คือ ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับบริการต่อการเข้าร่วมกิจกรรม และลำดับรองลงมาตามลำดับคือ กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ เป็นอันดับที่ 2 ผู้รับบริการ สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอันดับที่ 3 เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของ ผู้รับบริการ , การจัดกิจกรรมทำให้ผู้รับบริการสามารถคิดเป็นทำเป็นแก้ปัญหาเป็น, วิทยากรมีความรู้ ความสามารถในการจัดกิจกรรม, วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม, บุคลิกภาพของ วิทยากร มีค่าเท่ากันเป็นอันดับที่ 4 ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการจัดทำหลักสูตร, ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีค่าเท่ากันเป็นอันดับที่ 5 ตามลำดับทอาจเป็นเพราะว่าผู้เข้าอบรม ทั้งหมดประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรจึงมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการ ดำรงชีวิตการเกษตร และจำเป็นต้องพัฒนาตนเองให้ก้าวไปสู่การนำ นวัตกรรมใหม่ของการเกษตรในยุค ดิจิตอล มีการนำเอาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศหลายด้านมาใช้ในการทำการเกษตรในรูปแบบสมาร์ท ฟาร์มเมอร์ต่อไปทททททท ทท


35 ซึ่งสอดคล้องและเกี่ยวข้องกับงานวิจัยของ ดร. ฤทัยชนก จริงจิตร (นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ) แนวคิด “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” เป็นวัตถุประสงค์ของยุทธศาสตร์ที่ 1 จาก 4 ประเด็นยุทธศาสตร์ของ แผนพัฒนาการเกษตร ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 แนวคิดนี้เน้นการ พัฒนาเกษตรกรให้มีความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ มีภูมิคุ้มกันพร้อมรับความเสี่ยงในมิติของการผลิตและ การตลาด รวมทั้งมีความสามารถในการผลิตและการตลาดในระดับที่พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้จัดการฟาร์มมือ อาชีพที่ทำการเกษตรได้จนประสบความสำเร็จ เกษตรกรรมในประเทศไทยยังประสบปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะในมิติของผลิตภาพ (Productivity) ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงและรายได้เกษตรกรมีอัตราเฉลี่ยต่ำ เนื่องจากเกษตรกรไม่มีความรู้เพียงพอ ขาดข้อมูล เชิงลึกด้านการตลาดสำหรับวางแผนการผลิต รวมทั้งความรู้ ในการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพสูงที่มีความ ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประเด็นปัญหา ดังกล่าวสะท้อนว่าอาชีพเกษตรกรยังขาดการ พัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็งให้สามารถ พึ่งตนเองได้ในระยะยาว ซึ่งจะทำให้ภาครัฐไม่ จำเป็นต้องกำหนดนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและโอบ อุ้มเกษตรกร แนวคิด “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” จึง เป็นกลไกสำคัญในการตอบโจทย์การพัฒนาดังกล่าว ในมุมมอง ของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติซึ่งได้นำเสนอ Smart Farm Flagship ในภาค การเกษตร แนวคิดหลักของสมาร์ทฟาร์มคือการใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ รวมถึง เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการพัฒนาทั้งห่วงโซ่อุปทาน สินค้าเกษตรเพื่อยกระดับผลิตภาพ มาตรฐาน สินค้า และลดต้นทุน โดยการพัฒนาเกษตรกรรมใน 4 ด้านได้แก่ 1) ลดต้นทุน 2) เพิ่มคุณภาพการผลิตและ มาตรฐานสินค้า 3) ลดความเสี่ยงจากศัตรูพืชและภัยธรรมชาติ และ 4) การจัดการและส่งผ่านความรู้ ส่วน แนวคิด “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” ในมุมมองของกระทรวงเกษตรฯ หมายถึงเกษตรกรที่มีความรู้อย่างถ่องแท้ เกี่ยวกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม สามารถวางแผนโดยรู้ถึงอุปสงค์ตลาดและเตรียมการผลิตให้ สอดคล้อง รวมทั้งมีความสามารถในเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและในการแก้ปัญหาได้รวดเร็ว โดยการ วิเคราะห์ข้อมูลรอบด้านเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจที่ตั้งอยู่บนหลักการและเหตุผล ตลอดจนรู้จัก ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการเกษตร ในมิติของผลผลิต “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” จะเน้นการผลิตสินค้าเกษตรที่มี คุณภาพสูง ปลอดภัยต่อ ผู้บริโภค และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และจักรกฤษณ์ หมั่นวิชา ฟาร์มอัจฉริยะหรือฟาร์มที่มีการจัดการอย่างถูกต้องแม่นยำ (Smart Farm/ Precision Farm) จัดเป็น นวัตกรรมใหม่ของการเกษตรในยุคดิจิตอล มีการนำเอา วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศหลายด้านมาใช้ในฟาร์ม เช่น GPS GIS remote-sensing proximalsensing VRT และ DSS โดยผ่านเครือข่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สาย ในการรับส่งข้อมูล และมีการ ประมวลผลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป ฟาร์มอัจฉริยะมีขั้นตอนการดำเนินงาน 5 ขั้นตอนคือ การเก็บข้อมูล การ วินิจฉัยข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การปฏิบัติการตามแผน และการประเมินผล โดยมีการ จัดการฟาร์มในทุก ขั้นตอน คือ การจัดทำแผนที่สภาพดิน การให้น้ำ การให้ปุ๋ย การกำจัดศัตรูพืช การเก็บเกี่ยว การ คำนวณ ต้นทุน กำไร ตลอดจนการวางแผนการเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป การดำเนินการฟาร์มอัจฉริยะ ส่งผลให้เกิด การใช้ปัจจัยการผลิตที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มปริมาณผลผลิตที่มีคุณภาพ คุ้มค่าต่อการลงทุน ลดผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม ลดต้นทุน ลดการจ้างแรงงาน ประหยัดเวลา และนำไปสู่การเกษตรยั่งยืนและเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม 28


36 สรุปผล ด้านหลักสูตร มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ผู้เข้าอบรมมีความพึงพอใจ เนื้อหาของ หลักสูตรตรงกับความต้องการของผู้เข้าอบรม ผู้เข้าอบรมนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับ มากถึงมากที่สุด ด้านวิทยากร วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างดีเทคนิค/กระบวนการใน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของวิทยากรเหมาะสม วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม และบุคลิกภาพของวิทยากร ดีเหมาะสม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากถึงมากที่สุด ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ สถานที่ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เหมาะ ผู้เข้ารับการอบรมมีความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมกิจกรรม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากถึงมากที่สุด สรุปผลในภาพรวมของโครงการ ผู้เข้าอบรมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากที่สุด ข้อเสนอแนะ ด้านแบบสำรวจและวัดความพึงพอใจของผู้เข้ารับการอบรม - ในภาพรวมผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความต้องการเรียนรู้การอบรมการเขียนโครงการเพื่อใช้ในการ เสนอของบประมาณจากแหล่งทุนต่าง ๆ ในการทำเกษตรได้ 29


37 บรรณานุกรม บุญชม ศรีสะอาด และ บุญส่ง นิลแก้ว (2545) . การอ้างอิงกลุ่มประชากรเมื่อใช้เครื่องมือแบบมาตราส่วน ประมาณค่ากับกลุ่มตัวอย่าง. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒมหาสารคราม ,3(1),22-25). https://drive.google.com/file/d/1JCM6yFGsTcm9megAjdRNsZUHUkLeyN9V/view https://sites.google.com/site/adec5801122041/sma-rfar-me-xr-khux-xari http://www.trat.doae.go.th/data/smart%20Farmer/SF&SOdoae.pdf https://www.sme.go.th/upload/mod_download/download-20181005060126.pdf


38 ภาคผนวก


39 โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ประจำปีงบประมาณ 2563 ผู้รับผิดชอบโครงการ นายวีรากร มณีทรัพย์สุคนธ์ และนางสาวจิราพร สีโสด 1.หลักการและเหตุผล ตามที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร โดยชี้นำเกษตรกร ไทยต้องเป็น Smart Farmer คือ ต้องนำความรู้ หลักวิชาการ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาช่วยในการทำ การเกษตร โดยต้องทำให้น้อยลง ได้ผลผลิตมากขึ้น ใช้พื้นที่ให้น้อยลง ใช้น้ำให้น้อยลง ผลผลิตเพิ่มขึ้น ในปีงบประมาณ 2562 สำนักงาน กศน.จังหวัดชลบุรี ได้รับงบประมาณในการพัฒนาศักยภาพการ ผลิตภาคการเกษตร การสร้างองค์ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายให้มีความรู้ ความชำนาญอย่างต่อเนื่องสามารถ ขยายผลแก่ผู้อื่นได้ เป็นความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ มุ่งเน้นการสร้าง สมดุลระหว่างการพัฒนาความมั่นคง สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรูปแบบ “ประชารัฐ” โดยยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายการพัฒนาที่มุ่งเน้นการ ยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ บนพื้นฐานแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ (1) “ต่อยอดอดีต” โดย มองกลับไปที่รากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตและจุดเด่นทาทรัพยากรธรรมชาติ ที่หลากหลาย รวมทั้งความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศในด้านอื่น ๆ นำมาประยุกต์ผสมผสานกับ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้สอดกับบริบทของเศรษฐกิจและสังคมโลกสมัยใหม่ (2) “ปรับปัจจุบัน” เพื่อปู ทางสู่อนาคตผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในมิติต่าง ๆ ทั้งโครงข่ายระบบคมนาคม และการ ขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและดิจิทัล และปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนา อุตสาหกรรมและบริการอนาคต และ (3) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของ ผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่รวมถึงปรับรูปแบบธุรกิจเพื่อตอบสองความต้องการของตลาด ผสมผสานกับ ยุทธศาสตร์ที่รองรับอนาคต บนพื้นฐานของการต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน พร้อมทั้งการส่งเสริมและ สนับสนุนจากภาครัฐให้ประเทศไทยสามารถสร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาสทางการค้าและ การลงทุนในเวทีโลก ควบคู่กับการยกระดับรายได้และการกินดีอยู่ดี รวมถึงการเพิ่มขึ้นของคนชั้นกลาง และลด ความเหลื่อมล้ำของคนในประเทศในคราวเดียวกัน ในปีงบประมาณ 2561 ได้ดำเนินการจัดอบรมประชาชนในตำบล จำนวน 92 แห่ง มีประชาชนที่ผ่านการ อบรมเรื่องเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer จำนวน 1,380 คน และเพื่อการพัฒนาต่อเนื่องให้เกษตรกรผู้ ผ่านการอบรมสามารถไปขยายผลกับเกษตรกรอื่น ๆ ให้สามารถประกอบอาชีพด้านการเกษตรได้อย่างมี ประสิทธิภาพ สร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว มีความมั่นคงในอาชีพด้านการเกษตร มีความภูมิใจในการ เป็นเกษตรกร รวมทั้งเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลัง ให้เกิดความรัก หวงแหนในอาชีพด้านการเกษตร จึงได้ กำหนดให้มีโครงการ Smart ONIE เพื่อสร้าง Smart Farmer ปีงบประมาณ 2562 เพื่อจัดอบรมต่อยอดการ พัฒนาให้เป็นเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) ปีงบประมาณ 2563 เกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) ที่ ผ่านการอบรมในปีงบประมาณ 2562 ได้ไปขยายผลการอบรมประชาชนให้เป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer ต่อไป


40 2.วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้มีองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการงานเกษตรและการเกษตรเชิง ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 2. เพื่อให้เกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) ได้ไปขยายผลการอบรมประชาชนให้เป็นเกษตรกร ปราดเปรื่อง Smart Farmer 3.เป้าหมาย 3.1 เชิงปริมาณ ประชาชนในพื้นที่ตำบลนาจอมเทียน จำนวน 16 คน 3.2 เชิงคุณภาพ ร้อยละ 80 ของประชาชนที่ได้รับการอบรมมีความรู้เพิ่มมากขึ้นและสามารถเป็นเกษตรกร ปราดเปรื่อง Smart Farmer ได้ 4.ตัวชี้วัดความสำเร็จ ดัชนีตัวชี้วัดผลสำเร็จของโครงการ 4.1 ตัวชี้วัดผลผลิต (Outputs) - มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้าหมาย - ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจในระดับมากขึ้นไปไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 4.2 ตัวชี้วัดผลลัพธ์ (Outcome) - ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ร้อยละ 80 ได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเป็นรูปธรรม - ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ร้อยละ 80 ได้นำความรู้ที่ได้รับไปขยายผลให้กับผู้อื่นได้ 5.ขั้นตอนการดำเนินการโครงการ กิจกรรมหลัก วัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย เป้าหมาย พ้ืนที่ ด าเนินงาน ระยะเวลา งบประมาณ ขั้นการวางแผน (P:Plan) 1. วางแผนการจัด โครงการ 1.1 ประชุม 1.2 เขียนโครงการ/ อนุมัติ - กำหนดเป้าหมาย และวางแผนการ ดำเนินงาน A1.ครู กศน. ตำบล 2.ครู ศรช. 2 คน 1 คน กศน.ตำบล นาจอม เทียน วันที่ 2 มิถุนายน 2563 12,500.- บาท ขั้นการดำเนินงาน (D:Do) 1. ประสานการ ดำเนินงานตามแผน - เพื่อเตรียมความ พร้อมในการ ดำเนินงาน 1.ครู กศน. ตำบล 2.ครู ศรช. 2 คน 1 คน กศน.ตำบล นาจอม เทียน วันที่ 4 มิถุนายน 2563 2. ดำเนินโครงการ ขยายผลเกษตรกร ต้นแบบ Master Trannier 1.เพื่อเสริมสร้าง องค์ความรู้ และ น้อมนำปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง มาปฏิบัติและ ประชาชน และ เกษตรกรใน ตำบลนา จอมเทียน 15 คน ศูนย์เรียนรู้ ปรัชญา เศรษฐกิจ พอเพียง และเกษตร วันที่ 10- 11 มิถุนายน 2563 12,500.- บาท


41 นำไปสู่การพัฒนา เป็นเกษตรกร ต้นแบบ 2 เพื่อพัฒนา ศักยภาพเกษตรกร ให้เป็นเกษตรกร ต้นแบบ (Master Trainer ทฤษฎีใหม่ ประจำ ตำบลนา จอมเทียน ขั้นสรุปและ ประเมินผล (C : Check) 4. สรุปรายงานผลและ นำไปปรับปรุงการจัด กิจกรรม 1.เพื่อสรุปจัดทำ เป็นรายงาน เผยแพร่ต่อต้น สังกัดและ สาธารณะ 2. เพื่อนำผลการ ประเมินไปพัฒนา โครงการต่อไป 1.ผู้รับผิดชอบ โครงการฯ 2.ครู กศน. ตำบล3.ครู ศรช. 2 คน 1 คน กศน.ตำบล นาจอม เทียน วันที่ 15 มิถุนายน 2563 ขั้นปรับปรุงตามผล การประเมิน (A : Act) 5.กำหนดแนวทางใน การปรับปรุงการ ดำเนินงานในครั้ง ต่อไปให้มีคุณภาพ มากยิ่งขึ้น 1.ครู กศน. ตำบล 2.ครู ศรช. 2 คน 1 คน กศน.ตำบล นาจอม เทียน 6.ระยะเวลาดำเนินงาน - วันที่ 10 – 11 มิถุนายน 2563 7.สถานที่ในการจัดกิจกรรมโครงการ - ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบลนาจอมเทียน ต.นาจอม เทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 8.ผลการดำเนินโครงการ 8.1 ผลการประเมินข้อมูลพื้นฐานของผู้เข้าร่วมโครงการ -ผู้เข้าอบรมมีมีความรู้เพิ่มมากขึ้นและสามารถเป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer สามารถปรับเปลี่ยนไปทำเกษตรตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้


42 8.2 ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ - ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจในระดับมากขึ้นไปไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 8.3 บรรลุตามวัตถุประสงค์ คือ - ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ร้อยละ 80 ได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเป็น รูปธรรม - ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ร้อยละ 80 ได้นำความรู้ที่ได้รับไปขยายผลให้กับผู้อื่นได้ 8.4 สรุปงบประมาณในการดำเนินงาน - วงเงินงบประมาณทั้งโครงการ 12,500.-บาท งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 งบรายจ่ายอื่น รายการค่าใช้จ่ายโครงการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก สำนักงาน กศน. รหัส งบประมาณ 2000234752700004 9. จำนวนผู้เรียนและผู้ผ่านการเรียน/อบรม จำแนกตามอายุและเพศ เพศ อายุ ต่ำกว่า 15 ปี 15-39 ปี 40-59 ปี 60 ปีขึ้นไป รวม รวม ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ทั้งสิ้น จำนวนผู้เรียน 3 9 1 3 4 12 16 จำนวนผู้ผ่านการฝึกอบรม 3 9 1 3 4 12 16 10. จำนวนผู้เรียนและผู้ผ่านการฝึกอบรม จำแนกตามกลุ่มอาชีพและเพศ กลุ่มอาชีพ อายุ รับราชการ พนักงาน รัฐวิสาหกิจ ค้าขาย เกษตรกรร ม รับจ้าง อื่นๆ รวม รวมทั้งสิ้น ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ จำนวนผู้เรียน 4 12 4 12 16 จำนวนผู้ผ่านการฝึกอบรม 4 12 4 12 16 11. จำนวนผู้เรียนและผู้ผ่านการฝึกอบรม จำแนกตามกลุ่มเป้าหมายและเพศ กลุ่มเป้าหมา ยอายุ ผู้นำ ท้องถิ่น อบต. ผู้ต้องขัง ทหารกอง ประจำการ แรงงา นไทย แรงงาน ต่างด้าว เกษตรกร อสม. กลุ่ม สตรี อื่น ๆ รวม รวม ทั้งสิ้ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ น จำนวน ผู้เรียน 4 12 4 12 16 จำนวนผู้ ผ่านการ ฝึกอบรม 4 12 4 12 16 12.ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างดำเนินงาน …....................................-............................................................................................................ 13.ข้อเสนอแนะในการจัดกิจกรรมโครงการครั้งต่อไป .....................................................................................................................................................


43 14.ภาพกิจกรรม ภาพรายงานผลการดำเนินงาน โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier วันที่ 10 – 11 มิถุนายน 2563


44 ภาพรายงานผลการดำเนินงาน(ต่อ) โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier วันที่ 10 – 11 มิถุนายน 2563 ............................................ ผู้รายงาน ............................................ ผู้รายงาน ( นางสาวจิราพร สีโสด) ( นายวีรากร มณีทรัพย์ สุคนธ์)


45 ภาคผนวก ก. แบบสำรวจผู้เข้าร่วมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ (กศน.ตำบลนาจอมเทียน) 1. ข้อมูลทั่วไป 1.1. ชื่อ....................................................................... นามสกุล ..................................................อายุ 1.2. อาชีพปัจจุบัน ( ) ไม่มี ( ) มี ระบุ............................................................................. 1.3. ที่อยู่ ...................................................................................................โทรศัพท์..... ........................... 2. ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย (ทำเครื่องหมาย ✓ตรงหน้าอาชีพที่ต้องฝึกอบรม) หมวดเกษตรกรรม ( ) การปลูกผักไฮโดรลิก ( ) หลักเกษตรธรรมชาติ ( ) การปลูกพืชผักสมุนไพร ( ) การเพาะเห็ดนางฟ้า ( ) การเพาะเห็ดฟางด้วยตะกร้าอย่างง่าย ( ) Master Trainer ( ) อื่นๆ ระบุ................................................................... หมวดอุตสาหกรรม ( ) ช่างซ่อมเครื่องยนต์เล็ก ( ) ช่างเดินสายไฟภายในอาคาร ( ) ช่างก่อสร้าง ( ) ช่างปูน ( ) ช่างปูกระเบื้อง ( ) ช่างไม้ ( ) ช่างทาสี ( ) ช่างซ่อมโทรศัพท์ ( ) ช่างซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า ( ) อื่นๆ ระบุ ................................................................. หมวดพาณิชยกรรม ( ) คอมพิวเตอร์เบื้องต้น ( ) การนวดแผนไทย ( ) การจัดการตลาด ( ) การทำบัญชีอย่างง่าย ( ) ภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร ( ) ภาษาอังกฤษเพื่ออาชีพพนักงานขายสินค้า ( ) อื่นๆ ระบุ ................ หมวดความคิดสร้างสรรค์ ( ) การทำข้าวเกรียบสมุนไพร ( ) การทำสบู่สมุนไพรจากธรรมชาติ ( ) การทำขนมไทย ( ) การสานกระเป๋าจากเส้นพลาสติก ( ) กะหรี่ปั๊บทรงเครื่อง ( ) การเพ้นท์เล็บ ( ) การแปรรูปเห็ด ( ) น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( ) การส่งเสริมอาชีพด้วยสมุนไพรไทย ( ) ศิลปะประดิษฐ์จากผ้าใยบัว ( ) การประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ของเหลือใช้จากกระป๋องอลูมิเนียม ( ) อื่นๆ ระบุ .............................................. ( ) กิจกรรมบริจาคหนังสือ/ส่งเสริมการอ่าน หมวดกลุ่มอาชีพอำนวยการและอาชีพ ( ) การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ( ) การซ่อมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ( ) การซ่อมเสื้อผ้า ( ) ช่างเสริมสวย ( ) การซ่อมรองเท้า ( ) ช่างเย็บผ้าอุตสาหกรรม ( ) ช่างตัดผมชาย ( ) อื่นๆ ระบุ ...............................................................


46 หมวดกลุ่มทักษะชีวิต ( ) การทำบัญชีครัวเรือน ( ) โภชนาการผู้สูงอายุ ( ) อบรมเรื่องยาเสพติด ( ) ภาษาอาเซียน ( ) การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ( ) ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ( ) การส่งเสริมการอ่าน ( ) อื่นๆ ระบุ ............................................................... 3. ระยะเวลาที่ต้องการให้ดำเนินการฝึกอบรม ( ) วันหยุดราชการระหว่างเวลา _______________________ จำนวน _________วัน ( ) วันราชการระหว่างเวลา __________________________จำนวน _________วัน 4. สถานที่ฝึกอบรม ( ) ในชุมชน ( ) สถานประกอบการ ............................................................................... ( ) อื่นๆ (ระบุ) ........................................................................................... 5. องค์ความรู้ที่ต้องการ ( ) ฝึกปฏิบัติ ( ) การเพิ่มมูลค่าผลผลิต ( ) การตลาด ( ) อื่นๆ ระบุ ................................................................................................. ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ กศน.ตำบลนาจอมเทียน โทร.0912647737


47 ภาคผนวก ข. แบบสำรวจผู้เข้าร่วมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ส่วนที่ 1 คำชี้แจง ใส่เครื่องหมาย/ลงในช่องที่ตรงกับข้อมูลของท่านเพียงช่องเดียว เพศ ชาย หญิง อายุ 14-39 ปี 40-59ปี 60ปีขึ้นไป อาชีพ รับจ้าง ค้าขาย เกษตรกรรม รับราชการ อื่นๆ ส่วนที่ 2 ด้านความพึงพอใจของผู้เรียน/ผู้รับบริการ (ใส่เครื่องหมาย/ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่านเพียง ช่องเดียว ข้อที่ รายการ ระดับการประเมิน มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด 1 กิจกรรมที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ของหลักสูตร 2 เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความ ต้องการ 3 การจัดกิจกรรมทำให้ผู้รับบริการ สามารถคิดเป็นทำเป็น แก้ปัญหาได้ 4 ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดง ความคิดเห็นต่อการจัดทำหลักสูตร 5 ผู้รับบริการสามารถนำความรู้ไปใช้ ในชีวิตประจำวันได้ 6 สื่อ/เอกสารประกอบการจัดกิจกรรม มีความเหมาะสม 7 วิทยากรมีความรู้ความสามารถใน การจัดกิจกรรม 8 เทคนิค/กระบวนการในการจัด กิจกรรมของวิทยากร 9 วิทยากรมีการใช้สื่อสอดคล้องและ เหมาะสมกับกิจกรรม 10 บุคลิกภาพของวิทยากร 11 สถานที่ในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 12 ระยะเวลาในการจัดเหมาะสม 13 ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับ การอบรม ข้อเสนอแนะ


48 คณะผู้จัดทำ ที่ปรึกษา นางสุรัสวดี เลี้ยงสุพงศ์ ผอ. กศน.อำเภอสัตหีบ นางสุพัด นำเจริญลาภ ครูชำนาญการ คณะทำงาน นายวีรากร มณีทรัพย์สุคนธ์ หัวหน้า กศน.ตำบลนาจอมเทียน นางสาวจิราพร สีโสด ครู กศน.ตำบลนาจอมเทียน นางสาวกุสมา เพชรสีนวล ครูศูนย์การเรียนชุมชนตำบลนาจอมเทียน


49


50


Click to View FlipBook Version