ท ำเนียบแหล่งเรียนรู้อ ำเภอบ้ำนบึง จังหวัดชลบุรีจัดท ำโดย สกร.อ ำเภอบ้ำนบึง
ห้องสมุดประชำชนอ ำเภอบ้ำนบึง ห้องสมุดประชำชนอ ำเภอบ้ำนบึง ตั้งอยู่ที่ ถนนเจตน์อ ำนำจ ต.บ้ำนบึง อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี 20170 โทร 038-444392 จัดบรรยากาศและสถานที่ทั้งภายในและภายนอกห้องสมุด มีบรรยากาศที่ดี ช่วยส่งเสริมการอ่านและเรียนรู้และการศึกษา ค้นคว้า วิจัย มีครุภัณฑ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย อุณหภูมิ แสงสว่างเหมาะสม คุณภาพของงานบริการที่สะดวก รวดเร็วและมีอัธยาศัยไมตรี บริการและกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ที่มีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทำงานเชิงรุกเพื่อ สนองความต้องการการเรียนรู้แก่คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกพื้นที่ จัดทำสื่อ สิ่งพิมพ์ เอกสารเพื่อเผยแพร่ความรู้ให้กับผู้ใช้บริการ และประชาชน เพื่อให้ได้ข้อมูล ข่าวสารที่ทันสมัยเกิดองค์ความรู้ทันต่อเหตุการณ์ เช่น จดหมายข่าว จดหมายข่าวออนไลน์ แผ่นพับ สาระน่ารู้รายวัน สาระน่ารู้รายวันออนไลน์ การจัดนิทรรศการ ผ่านช่องทาง ต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้มากที่สุด เช่น เฟซบุ๊ค ไลน์ เว็ปไซต์ หนังสือ หนังสืออิเล็กทรอนิค (e-book) บริการหนังสือหลากหลายประเภท เช่น หนังสือ วิชาการ หนังสือการ์ตูนสำหรับเด็กและเยาวชน นวนิยายไทย นวนิยายแปล หนังสือพิมพ์รายวัน วารสาร นิตยสาร และอินเทอร์เน็ตเพื่อการค้นคว้า กำรด ำเนินงำนของห้องสมุดประชำชนอ ำเภอบ้ำนบึง - สร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ - จัดให้มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หนังสือ สื่อ คลังความรู้ดิจิทัล (e-book) วัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัย - จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ ทั้งเชิงรับและเชิงรุก - ประชาสัมพันธ์กิจกรรมงานห้องสมุดให้เป็นที่รู้จัก - จัดทำสื่อ สิ่งพิมพ์ เอกสารเพื่อเผยแพร่ความรู้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่หลากหลาย - สร้างเครือข่ายเพื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ศูนย์กสิกรรมธรรมชำติมำบเอื้อง ศูนย์กสิกรรมธรรมชำติมำบเอื้อง ตั้งอยู่ที่ 114, 114/1 หมู่ที่ 1 ต.หนองบอนแดง อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี 20170 ศูนย์กสิกรรมธรรมชำติมำบเอื้อง ได้แบ่งกำรเรียนรู้ ออกเป็น 9 ฐำนเรียนรู้ ได้แก่ 1. คนรักษ์แม่ธรณี “…การปรับปรุงที่ดินนั้น ต้องอนุรักษ์ผิวดินซึ่งมีความสมบูรณ์ไว้ ไม่ให้ไถหรือลอกหน้าดินทิ้งไปสงวนไม้ยืนต้นที่ยัง เหลืออยู่ เพื่อที่จะรักษาความชุ่มชื้นของผืนดิน…” 2. คนรักษ์ป่ำ “…สมควรที่จะปลูกแบบป่าสําหรับใช้ไม้หนึ่ง ป่าสําหรับใช้ผลหนึ่ง ป่าสําหรับใช้เป็นฟืนอย่างหนึ่ง อันนี้แจกออกไป เป็นกว้างๆ ใหญ่ๆ การที่จะปลูกต้นไม้ สําหรับได้ประโยชน์ดังนี้ ในคําวิเคราะห์ของกรมป่าไม้รู้สึกว่าจะไม่ใช่ป่าไม้ จะเป็นสวนมากกว่าเป็นป่าไม้ แต่ว่าในความหมายของการช่วยเพื่อต้นน้ำลําธารนั้น ป่าไม้เช่นนี้จะเป็นสวนผลไม้ ก็ตามหรือเป็นสวนไม้ฟืน ก็ตาม นั่นแหละเป็นป่าไม้ที่ถูกต้อง เพราะทําหน้าที่เป็นป่า คือเป็นต้นไม้และท ําหน้าที่เป็น ทรัพยากร ในด้านสําหรับเป็นผลที่มาเป็นประโยชน์ แก่ประชาชนได้…” 3. คนรักษ์น้ ำ “…หลักสําคัญว่า ต้องมีน้ำ น้ำบริโภคและน้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้า ไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้…” 4. คนรักษ์แม่โพสพ “…ขอบใจที่นําสิทธิบัตรนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการประกันว่า การข้าวไทยเป็นของไทยแท้ ซึ่งคนหนักใจว่า เราเป็นข้าวไทย มานานแล้วจะกลายเป็นต้องไปกินข้าวฝรั่ง เพราะว่าสิทธิบัตรนี้เป็นของฝรั่ง แต่ว่ามาอย่างนี้ ก็ถือว่า เป็นว่าเราได้รับประกันว่าเราเป็นข้าวไทย และจะกินข้าวไทยต่อไป ฉะนั้นการที่มีสิทธิบัตรนี้ ก็เป็นสิ่งที่สําคัญ และก็หวังว่า จะต้องทุกคน จะรักษาความเป็นไทยได้ด้วย รับประทานกินข้าวไทยไม่ต้องกินข้าวฝรั่ง…” (ต่อ)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชำติมำบเอื้อง 5. คนเอำถ่ำน “…แต่ป่าไม้ที่จะปลูกนั้น สมควรที่จะปลูกแบบป่าสําหรับ ใช้ไม้หนึ่ง ป่าสําหรับใช้ผลหนึ่ง ป่าสําหรับใช้เป็นฟืน อย่างหนึ่ง อันนี้แยกออกไป เป็นกว้างๆ ใหญ่ๆ การที่จะ ปลูกต้นไม้สําหรับได้ประโยชน์ดังนี้ในคํา วิเคราะห์ของ กรมป่าไม้ รู้สึกว่าจะไม่ใช่ป่าไม้ เป็นสวนหรือจะเป็น สวน มากกว่าเป็นป่าไม้ แต่ว่าในความหมายของการช่วยเพื่อ ต้นน้ำ ลําธารนั้น ป่าไม้เช่นนี้จะเป็นสวนผลไม้ก็ตาม หรือ เป็นสวนไม้ฟืน ก็ตาม นั่นแหละเป็นป่าไม้ที่ถูกต้อง เพราะ ทําหน้าที่เป็นป่าคือเป็น ต้นไม้ และทําหน้าที่เป็นทรัพยากร ในด้านสําหรับเป็นผลที่มาเป็น ประโยชน์แก่ประชาชนได้…” 6. คนรักษ์สุขภำพ “....ร่างกายของเรานั้น ธรรมชาติสร้างมาสําหรับให้ออก แรงใช้งาน มิใช่ให้อยู่เฉยๆ ถ้าใช้แรงให้พอเหมาะพอดี โดยสม่ำเสมอ ร่างกายก็ เจริญแข็งแรง คล่องแคล่ว และคงทนยั่งยืน ถ้าไม่ใช้แรงเลยหรือใช้ไม่ เพียงพอ ร่างกาย ก็จะเจริญแข็งแรงอยู่ไม่ได้แต่จะค่อยๆ เสื่อมไปเป็น ลําดับ และหมดสมรรถภาพไปก่อนเวลาอันสมควร ดังนั้น ผู้ที่ปกติ ทําการงานโดยไม่ได้ใช้กําลังหรือใช้กําลังแต่น้อย จึงจําเป็นต้องหาเวลา ออกกําลังกาย ให้พอเพียง กับความต้องการตามธรรมชาติเสมอทุกวัน มิฉะนั้น จะเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่เขาจะใช้สติปัญญาความ สามารถของเขาทําประโยชน์ให้แก่ตนเอง และแก่ส่วนรวมได้น้อย เกินไป เพราะร่างกายอัน กลับกลายอ่อนแอลงนั้น จะไม่อํานวยโอกาส ให้ทําการงานโดยมีประสิทธิภาพได้” 7. คนมีไฟ “…น้ำมันปาล์มทราบว่าดีเป็นน้ำมันที่ดีใช้งานได้ ใช้บริโภคแบบใช้ น้ำมันมาทอดไข่ได้ มาทําครัวได้เอาน้ำมันปาล์มมาใส่รถดีเซลได้ กําลังของน้ำมันปาล์มนี้ดีมากได้ผล เพราะว่าเมื่อได้มาใส่รถดีเซล ไม่ต้องทําอะไรเลย ใส่เข้าไป แล่นไป คนที่แล่นตามบอกว่าหอมดี…” (ต่อ)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชำติมำบเอื้อง 8. คนมีน้ ำยำ “…การจะเป็นเสือนั้นไม่สําคัญ สําคัญอยู่ที่เรามีเศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกินนั้นหมายความว่าอุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง อันนี้ก็เคยบอกว่า ความพอเพียงนี้ไม่ได้หมายความว่า ทุกครอบครัวจะต้องผลิตอาหารของตัว จะต้องทอผ้าใส่เอง อย่างนั้นมันเกินไป แต่ว่าในหมู่บ้านหรือในอําเภอ จะต้องมีความพอเพียงพอสมควร บางสิ่งบางอย่าง ที่ผลิตได้มากกว่าความต้องการ ก็ขายได้ แต่ขายในที่ไม่ห่างไกลเท่าไหร่ ไม่ต้องเสียค่าขนส่งมากนัก…” 9. คนติดดิน “…ฉันพูดเศรษฐกิจพอเพียงความหมาย คือ ทําอะไรให้ เหมาะสมกับฐานะของตัวเอง คือทําจากรายได้ ๒๐๐-๓๐๐ บาท ขึ้นไปเป็นสองหมื่น สามหมื่นบาท คนชอบเอาคําพูดของฉัน เศรษฐกิจพอเพียงไปพูดกัน เลอะเทอะ เศรษฐกิจพอเพียง คือทําเป็น Self-Sufficiency มันไม่ใช่ความหมายไม่ใช่แบบที่ฉันคิด ที่ฉันคิดคือเป็น Self-Sufficiency of Economy เช่น ถ้าเขาต้องการดูทีวี ก็ควรให้เขามีดู ไม่ใช่ไปจํากัดเขาไม่ให้ซื้อทีวีดู เขาต้องการดูเพื่อความสนุกสนาน ในหมู่บ้าน ไกลๆ ที่ฉันไป เขามีทีวีดูแต่ใช้แบตเตอรี่ เขาไม่มีไฟฟ้า แต่ถ้า Sufficiency นั้น มีทีวีเขาฟุ่มเฟือย เปรียบเสมือนคนไม่มี สตางค์ ไปตัดสูทใส่ และยังใส่เนคไทเวอร์ซาเช่อันนี้ก็เกินไป…” ซึ่งในการดําเนินกิจกรรมทุกฐานล้วนได้นําพระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ที่ทรงตรัสไว้ ในโอกาสต่างๆ มาเป็นหลักในการดําเนินงานในแหล่งการเรียนรู้แห่งนี้มี
ร้ำนขนมจีนแม่กิมซัว ร้ำนขนมจีนแม่กิมซัว เลขที่ 6 ถนนประโยชน์เนื่องจ ำนงค์ หมู่ที่ 1 ต ำบลบ้ำนบึง อ ำเภอบ้ำนบึง จังหวัดชลบุรี โทร. 08-8205-7884, 038-443-009 ขนมจีนนั้นไม่ใช่อาหารจีน หากแต่เป็นอาหารมอญ ที่เรียกเช่นนี้เพราะคำว่า "ขนมจีน" เรายืมคำมาจากภาษา มอญว่า "ขฺนํจินฺ" [คะ -นอม-จีน] คำว่า "คะนอม" หมายถึง "สุก 2 ครั้ง" คำว่า "จีน" หมายความว่า "สุก" แม้ว่า ขนมจีน จะมีคำว่า "ขนม" แต่ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ ขนมใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้คำว่า "คนอม" นั้นสันนิษฐานว่าน่าจะใกล้เคียง กับคำไทย "เข้าหนม" แปลว่าข้าวที่นำมานวดให้เป็นแป้ง เสียก่อน ซึ่งภายหลังกร่อนเป็น "ขนม" อันที่จริงแล้ว ขนม ในความหมายดั้งเดิมจึงมิใช่ของหวานอย่างที่เข้าใจใน ปัจจุบัน ขนม หรือ หนม ในภาษาเขมร หรือ คนอม ใน ภาษามอญหมายถึงอาหารที่ทำจากแป้ง ดั้งเดิมทีเดียว ขนมจีนเป็นอาหารมอญ แล้วจึงแพร่หลายไปสู่ชนชาติอื่นๆ ในสุวรรณภูมิตั้งแต่โบราณกาล จนเป็นอาหารที่ได้รับความ นิยมสูง สามารถหากินได้ทั่วไปจนถึงปัจจุบัน (ต่อ)
วัด มี "ขนมจีนน้ำยาปู" อยู่เจ้าหนึ่งที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรีโด่งดังด้าน รสชาติมานานปีร้านนี้ไม่มีโต๊ะหน้าร้านให้นั่งกิน ต้อง"โทรสั่งทำล่วงหน้า อย่างน้อย 1 วันเท่านั้น" และต้อง “ไปรับเองถึงร้านที่บ้านบึง" อีกด้วย แต่ กระนั้นก็ยังมีผู้จากทั่วสารทิศที่ชื่นชอบติดใจโทรสั่งจองและดั้นด้นไปรับเอง จากที่ต่างๆ ไม่ขาดสาย ขนมจีนแม่กิมซัว มีออเดอร์โทรสั่งมาจากทั่วสาระทิศรวมถึงมีคนรับจ้าง มารับและไปขายต่อกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันกันเลยทีเดียว โดยขนมจีนแม่กิมซัวนั้นเริ่มจากคุณแม่กิมซัวทำขนมจีนน้ำยาไปช่วยตาม งานเลี้ยงงานบุญต่างๆ และด้วยความอร่อยเลิศเป็นที่ติดอกติดใจทำให้ต้อง เปิดเป็นร้านขายอย่างจริงจัง ปัจจุบันคุณป้ำจำรุวรรณ ธัมมำวุฑโธ (เจ้ง้อ) เป็นรุ่นที่สองที่ดูแลและ ควบคุมรสชาติให้ยังคงอร่อยครบสูตรเหมือนดั่งรุ่นแรก ตัวน้ำยามีส่วนประกอบสำคัญอย่างหัวกะทิ หางกะทิ น้ำพริก กระชาย เนื้อปลาทะเล และเนื้อปู ปรุงออกมาข้นนวลเนียนไม่มีแยกชั้น ตัวเส้นขนมจีนจะเป็นแบบขนมจีนแป้งสดตัวเส้นจับวางเรียงตัวกันเป็น ระเบียบตัวเส้นนุ่มไม่ถึงกับหนึบหนับแต่ก็ไม่ขาดง่าย ไม่มีกลิ่นเหม็นแป้ง ไม่มี เมือกหรือกลิ่นเปรี้ยว ทำให้ทานง่ายสบายใจ ส่วนผักต่างๆ ถูกหั่นถูกเด็ดทำ ความสะอาดมาเรียบร้อยพร้อมทานได้ทันที สมกับเป็นร้านต้นตำรับของ ขนมจีนน้ำยาบ้านบึงกับร้าน ขนมจีนแม่กิมซัว การบริการทุกอย่างเป็นระบบ เรียบร้อยรวดเร็วชัดเจน ตัวน้ำยาทำได้โดดเด่น ทางไปร้านขนมจีนแม่กิมซัวหาไม่ยาก มาที่ถนนบ้านบึง-แกลง สาย 344 แล้ว เลี้ยวซ้ายเข้าถนน "บ้านบึงสันติ” ข้างห้างบิ๊กซีบ้านบึงก่อนถึงสะพาน ลอยทาง ต่างระดับ เข้ามาไม่ถึง 400 เมตร จะเห็นซอยซ้ายมือ (คือถนนประโยชน์เนื่อง จำนงค์ 6) มีป้ายขนมจีนแม่กิมซัวสีขาว ตัวอักษรสีแดง เลี้ยวซ้ายตามป้ายเข้า ไปก็จะถึงร้านแม่กิมซัวอยู่ในตึกแถวเกือบข้างในสุดทางซ้ายมือ ถ้าเข้าอีกทาง หนึ่งอยู่ บนถนนบ้านบึง-แกลง สาย 344 เช่นกัน แต่เลี้ยวซ้ายก่อนถึง ถนนบ้านบึงสันติ 800 เมตร เข้า "ถนนเทศประสาท" จากนั้น เพียงไม่กี่ร้อยเมตร ให้เลี้ยวขวาเข้าซอย (ตามป้ายขนมจีน แม่กิมซัว) ก่อนถึง "วัดบึงบวรสถิต" วิ่งไปตามทางขรุขระไม่ไกล ก็จะถึงร้านแม่กิมซัว ถ้าเข้าทางนี้ตึกแถวจะอยู่ทางขวามือ
อ่ำงเก็บน้ ำบ้ำนบึงขยำย (หนองน้ ำเขียว) ต.คลองกิ่ว อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี อ่ำงเก็บน้ ำบ้ำนบึงขยำย (หนองน้ ำเขียว) ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี นอกจากจะเป็นแหล่งน้ำสำคัญในการผลิตน้ำประปาในพื้นที่อำเภอบ้านบึง แล้วยังเป็นที่เที่ยว ที่พักผ่อน หยอนใจ เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ออกกำลังกาย และจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ที่ได้มาท่องเที่ยว อีกด้วย อ่ำงเก็บน้ ำบ้ำนบึงขยำย (หนองน้ ำเขียว) เป็นสถานที่ที่กักเก็บน้ำ เอาไว้ใช้ในการผลิตน้ำประปา เพื่อใช้ในพื้นที่ของบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์แล้ว ยังสวยและวิวดีมากๆ เป็นจุดที่คนนิยม มาตกปลา หรือใครที่อยากมาพักผ่อน รับลมรับอากาศดีๆ ก็สามารถ มาตั้งแคมป์กันได้ที่ริมอ่างเก็บน้ำ ยิ่งในช่วงเวลายามเย็น ที่นี่จะดูสวยมากขึ้น เป็นพิเศษที่สำคัญยังใกล้กรุงเทพมากๆ ขับรถชั่วโมงเดียวก็ถึง รอบๆ ก็เต็มไป ด้วยป่าไม้รอบล้อม ทำให้วิวของบริเวณนี้สวยงดงามอย่างมาก ทำให้ชาวบ้าน ในพื้นที่นี้มาใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย อ่ำงเก็บน้ ำบ้ำนบึงขยำย (หนองน้ ำเขียว)
น้ ำตกอ่ำงช้ำงน้ ำ บ้ำนบึง ชลบุรี ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์ป่ำอ่ำงช้ำงน้ ำ เขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำเขำเขียว – เขำชมพู่ ที่เที่ยวธรรมชำติใกล้กรุงเทพ น้ ำตกอ่ำงช้ำงน้ ำ บ้ำนบึง ชลบุรี น้ ำตกอ่ำงช้ำงน้ ำ สถานที่ท่องเที่ยวและศึกษาธรรมชาติใกล้กรุงเทพ “น้ ำตกอ่ำงช้ำงน้ ำ บ้ำนบึง ชลบุรี" เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติและ น้ำตก ของหน่วยพิทักษ์ป่าอ่างช้างน้ำ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว – เขาชมพู่ แต่เดิมนั้นบริเวณเชิงเขาเขียว (เขาหินโป่ง) โดยมีลักษณะเป็นหุบเขาที่มีสันเขากั้นอยู่สามด้าน เมื่อน้ำไหลมาจากยอด เขาก็จะบรรจบกันตรงนั้นกลายเป็นอ่างน้ำขนาดใหญ่หลายร้อยไร่ มักจะมีช้างป่าชอบมาเล่นน้ำในอ่างนี้บ่อย ๆ ชาวบ้าน จึงพากันเรียกที่นี่ว่า "อ่ำงช้ำงน้ ำ” ปัจจุบันนี้สันเขาด้านหนึ่งในทิศตะวันออกพังทลายไปแล้ว พบเพียงร่องรอยของอ่าง ส่วนลำธารของน้ำตกไหลมาจากอ่างช้างน้ำ จึงพากันเรียกว่า "น้ ำตกอ่ำงช้ำงน้ ำ" โดยมีจำนวน 9 ชั้น น้ำตกอ่างช้างน้ำ เป็นเทือกเขาหินสูงชัน สลับซับซ้อน มีพืชในป่าเบญจพรรณ และพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ๆ เหมาะสำหรับ สายเดินป่า โดยมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และน้ำตก ดังนี้ ป่าเบญจพรรณ เมื่อเราเดินเข้าไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติก็จะพบเห็น ต้นประดู่ มอส ไลเคนส์หินแกรนิต ป่าเต็งรัง ต้นปรง ต้นผักหวาน ต้นแก้ว ต้นมะค่าโมง ต้นสมพง ไม้เลื้อย ปลวก เห็ด รา เถาวัลย์น้ำ ข่อย บุก และต้น สำโรง เป็นต้น (ต่อ)
น้ ำตกอ่ำงช้ำงน้ ำ น้ำตก ได้แก่ น้ำตกธารลอด อ่างช้างน้อย อ่างไทรงาม ลานหินสวย อ่างเถาวัลย์ และอ่างชัยยะและมีสัตว์อยู่อีกมากมาย เที่ยวได้ทุก ฤดูกาล ทั้งฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาวค่ะ แล้วแต่ว่าเราจะชอบ แบบไหน เพราะที่นี่อากาศดี เหมาะพักผ่อนหย่อนใจ กำรเที่ยวชมศึกษำธรรมชำติน้ ำตกอ่ำงช้ำงน้ ำ เที่ยวฤดูร้อน หรือ ฤดูหนาว อาจไม่มีน้ำตก เพราะน้ำแห้ง กิจกรรมที่น่าสนใจ คือ ปีนเขา เดินชมธรรมชาติ และลานหิน หรือ ออกค่ายพักแรม โดยกางเต๊นท์ทำกิจกรรมเดินป่าตาม เส้นทางศึกษาธรรมชาติสนุก ได้ความรู้และใกล้ชิดธรรมชาติ เที่ยวฤดูฝน เป็นช่วงที่น้ำตกจะมีน้ำและสวยที่สุด เล่นน้ำตก เดินชมธรรมชาติ กินไก่ย่างส้มตำ แต่ต้องระมัดระวัง เรื่องน้ำป่าไหลหลาก น้ําตกแห่งนี้อยู่ในเมืองแห่งอุตสาหกรรมอย่างชลบุรี ซึ่งแทบยากจะหาความสวยงามแบบนี้ไม่ได้ง่ายนักในปัจจุบัน
ปั้มน้ ำมันเอสโซ่ บ้ำนบึงจังหวัดชลบุรี ตั้งอยู่ที่ถนนสำยบ้ำนบึง- ชลบุรี อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี ปั้มน้ ำมันเอสโซ่ บ้ำนบึงจังหวัดชลบุรี ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ บ้านบึงจังหวัดชลบุรี ต้องตื่นตาตื่นใจกับห้องน้ำ เพราะห้องน้ำที่นี่สะอาดมากและยังเป็นมุม ถ่ายรูปจุดเช็คอินของอำเภอบ้านบึงได้เลย จอดแวะทางด้านหน้าห้องน้ำก็จะเห็นกับร้านค้าและอาคารหลักสีสัน สะดุดตา รวมถึงมีหอนาฬิกาขนาดใหญ่อยู่ หน้าห้องน้ำ ภายในห้องน้ำติดแอร์ และมีความสะอาดมากๆ พนักงานทำ ความสะอาดกันทุกๆ ชั่วโมง และยังมีร้านอาหารก๋วยเตี๋ยว และร้านกาแฟไว้บริการ มาที่นี่รับรองครบวงจร พร้อมที่จะเดินทางต่อ นอกจากความสวยงามแล้วในเชิงการท่องเที่ยว แบบเรียนรู้เราสามารถเรียนรู้กับการจัดสถานที่ การออกแบบศิลปะในการตกแต่งอาคารสถานที่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นต้นแบบในการสร้างไอเดียในการต่อยอด พัฒนาสถานที่และการให้บริการ
ศูนย์อนุรักษ์และพัฒนำควำยไทย ที่ตั้ง 76/6 หมู่ 2 ต ำบลหนองชำก อ ำเภอบ้ำนบึง จังหวัดชลบุรี ศูนย์อนุรักษ์และพัฒนำควำยไทย (CP) เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านการเกษตร ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายไทยขึ้นมาเพื่อใช้เป็น ศูนย์รวมของพ่อพันธุ์ควายชั้นดี เพื่อผลิตน้ำเชื้อควาย สายพันธุ์ดี สำหรับใช้ในการปรับปรุงสายพันธุ์ควายไทย ให้มีโครงสร้างใหญ่ และมีน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่ม มูลค่า นอกจากนั้นยังสามารถใช้ศูนย์ฯ แห่งนี้ เป็นศูนย์วิชาการและส่งเสริมการเลี้ยงควายให้แก่เกษตรกรได้อีกด้วย โดยมี นายสาโรจน์ เจียระคงมั่น เป็นประธานคณะทำงานโครงการ ศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายไทย ปัจจุบันศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายไทยแห่งนี้ ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานฟาร์มและ มาตรฐานการผลิตน้ำเชื้อจากกรมปศุสัตว์ โดยมีควายพ่อพันธุ์ที่เป็นแชมป์ระดับประเทศทั้งหมด 6 ตัว สามารถผลิตน้ำเชื้อได้ถึง ปีละ 26,000 หลอด ซึ่งทางศูนย์ฯจะมอบน้ำเชื้อพ่อควายพันธุ์ดีที่ทางศูนย์ฯ ผลิตได้ทั้งหมดให้กับกรมปศุสัตว์เป็นประจำทุกปี ในปีแรกที่ศูนย์ฯ ผลิตน้ำเชื้อได้จำนวน 26,000 หลอด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โดยผ่านอธิบดีกรมปศุสัตว์ นำไปมอบให้แก่ สำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ เพื่อนำไปส่งเสริมให้เกษตรกรได้ใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาสายพันธุ์ ควายไทยในอนาคตต่อไป ศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายไทย ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 550 ไร่ ในตำบลหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี โดยศูนย์ฯ ประกอบด้วยโรงเรือนพ่อพันธุ์ควายไทย ห้องปฎิบัติการแช่แข็งน้ำเชื้อ ศูนย์สาธิตเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะเป็นจุดสาธิตการใช้ ควายไถนา ,การเลี้ยงปลา ,การปลูกผักไร้ดินต้นทุนต่ำ ,การเพาะเห็ดหอม และบ้านเกษตรกรตัวอย่างในการประกอบอาชีพตาม ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อใช้เป็นแหล่งในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้แก่เกษตรกรทั่วไป
ก๋วยเตี๋ยวหมูบ้ำนบึง ที่ตั้ง หลังธนำคำรกรุงไทย ต ำบลบ้ำนบึง อ ำเภอบ้ำนบึง จังหวัดชลบุรี ก๋วยเตี๋ยวหมูบ้ำนบึง ก๋วยเตี๋ยวหมูบ้านบึงร้านดวงโภชนา หรือ “ก๋วยเตี๋ยวหมูบ้านบึงซอกตึก” เจ๊เซาะเอ็ง ตำนานก๋วยเตี๋ยวบ้านบึงซอยกรุงไทย ที่คนพื้นที่กล่าวขานกันว่าเป็นเจ้าต้นตำรับของแท้ “ร้านไหนคือก๋วยเตี๋ยวหมูบ้านบึงต้นตํารับของแท้” เมื่อได้สอบถามจากคนเฒ่าคนแก่และประชาชนชาวบ้านบึง ทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันถึงร้านก๋วยเตี๋ยวหมูบ้านบึงแถวๆ ซอยธนาคารกรุงไทย หรือที่บางคนเรียกกันว่า “ก๋วยเตี๋ยว หมูบ้านบึงซอกตึก” ซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่ที่ซอย บ้านบึง 23 ซึ่งเป็นซอยเล็กๆ ติดกับธนาคารกรุงไทย อยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ เข้ามาด้านในร้านเราจะเห็นคุณป้าท่าทางขะมักเขม้นอยู่กับการลวกก๋วยเตี๋ยว คุณป้าเจ้าของร้านคนนี้ชื่อว่า คุณมัลลิกา หรือเรียกแบบกันเองๆ ก็คือ เจ๊เซาะเอ็ง ตามตำนานกล่าวไว้ว่า เจ๊เซาะเอ็งวัย 67 ปีคนนี้ เป็นผู้สืบทอดเคล็ดวิชาก๋วยเตี๋ยว หมูบ้านบึงจากบรรพบุรุษ ผู้ซึ่งเดินทางข้ามทะเลมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ หากนับช่วงเวลา ณ ตอนนั้นจนถึงปัจจุบันก็เกือบ 80 ปี ได้แล้ว ชื่อร้านจริงๆ คือ “ก๋วยเตี๋ยวหมูบ้านบึง ดวงโภชนา” ครับ หากเราเข้ามาด้านในร้านจะเห็นป้ายสีเหลืองสุด คลาสสิกติดข้างกำแพง ให้ความรู้สึกขลังจริงๆ เจ๊เซาะเอ็งเล่าว่า ก๋วยเตี๋ยวหมูบ้านบึงต้นตำรับมีทั้งหมด 4 ร้านด้วยกันซึ่งเป็นญาติพี่น้องกัน ร้านแรกเลยอยู่ที่หน้า โรงแรมใน ต.บ้านบึง ร้านที่ 2 ร้านซอยกรุงไทย (ร้านนี้) ร้านที่ 3 อยู่ที่ตัวเมืองชลบุรี ร้านสุดท้าย อยู่แถวๆ ตลาดโต้รุ่ง ต.บ้านบึง ข้างๆ ร้านข้าวมันไก่เฮียเลี้ยง แล้วที่ร้านก็ไม่เคยขายสูตรให้ใคร (มีเพียง 4 ร้านเท่านั้น ถึงสูตรเดียวกันแต่รสชาติ ก็ไม่เหมือนกันอยู่ดี เพราะแต่ละร้านจะปรับสูตรนิดๆ หน่อยๆ)
กุยช่ำยบ้ำนบึง ถ้าเอ่ยถึงขนมกุยช่ำย ที่แป้งบาง เหนี่ยวนุ่ม คงหนีไม่พ้นที่ อำเภอบ้านบึง ที่เจ้าแรกต้นตำรับ อยู่ที่ร้ำนเฮียกอบ ซึ่งขายมาตั้งแต่ รุ่นปู่ย่าตายาย จนมาถึงรุ่นแม่ และปัจจุบัน มาเป็นรุ่นลูกขาย รวมระยะเวลากว่า 35 ปี โดยนายประกอบ วิศาลวิเศษวงศ์ อายุ 35 ปี เจ้าของร้าน และนางนวลจันทร์ วิไลรักษ์ อายุ 60 ปี ผู้เป็นแม่ ได้เผยว่า ขนมกุยช่าย เป็นขนมที่คนไทยเชื้อจีน เป็นที่รู้จักกันดี ที่มีความเชื่อ ต้นกุยช่าย จะงอกเงย งอกงาม ซึ่งจะทำให้เจริญรุ่งเรือง จึงมักจะมาสั่งซื้อนำไปไหว้ เทพเจ้า และไหว้ตามเทศกาลต่างๆ ซึ่งไม่เว้นแต่คนไทย มักจะมาสั่งซื้อไป เป็นของฝากญาติ ที่ต่างจังหวัด ทำให้มีลูกค้าที่รู้จักมาสั่งซื้อเป็นจำนวน มาก เนื่องจากเป็นเจ้าแรกของอำเภอบ้านบึง โดยจะใช้สูตรดั้งเดิมคือใช้มือนวดแป้ง และปั้นแป้งเอง ซึ่งใน แต่ละวันต้องใช้แป้งถึง 20 กิโลกรัม ใช้กุยช่าย 35 – 45 กิโลกรัม โดยที่ จะเริ่มทำตั้งแต่เช้ามืด ที่จะทำออกมาวันละ 2500 – 3000 ลูก เพราะ ในแต่ละครั้ง สามารถนึ่งได้เพียงครั้งละ 700 ลูก ต้องใช้เวลาประมาณ 40 นาที แต่ก็ขายจนหมดทุกครั้ง ซึ่งบางวันก็ไม่พอขาย จนทำให้แต่ละ เดือนมียอดจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท นอกจากนั้นยังมีใส้อื่น อาทิ หน่อไม้ มันแถว เผือก ใช้เท้า ให้ลิ้มลองอีกด้วย หากมีประชาชนที่ ผ่านมาในอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ก็เข้ามาลองชิมกันได้ หรือเข้าไป ในเฟสบุ๊ค กุยช่าย บ้านบึง เฮียกอบ หรือไอดีไลน์ กุยช่ำยบ้ำนบึง ขนมมงคลสืบทอดจำกรุ่นตำยำย ที่ตั้ง 39/12 ถนนเทศประสำท ต ำบลบ้ำนบึง อ ำเภอบ้ำนบึง จังหวัดชลบุรี เบอร์โทรศัพท์ 082-2039395
ตลำด 100 ปี หนองบอนแดง ตั้งอยู่ หมู่ที่2 ต.หนองบอนแดง อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี ตลำด 100 ปี หนองบอนแดง ตลำด 100 ปี หนองบอนแดง ส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชน กระตุ้น เศรษฐกิจท้องถิ่น เดินชมบรรยากาศตลาดเก่าโบราณ ณ ตลาดเก่า 100 ปี หนองบอนแดง หมู่ที่ 2 ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตลำดเก่ำ 100 ปี หนองบอนแดง อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี สถาปัตยกรรมพื้นถิ่น ห้องแถวไม้ อายุร่วม 100 ปี ก่อตั้งประมาณ ต้นสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นที่อยู่อาศัยและทำ การค้า ประกอบธุรกิจขนาดย่อม อาศัยอยู่ในชุมชนที่หนาแน่น โดยชั้นล่างจะแบ่งเป็นร้านค้า ชั้นสองเป็นที่อยู่อาศัย ชุมชนเล็กๆ ต.หนองบอนแดง อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอบ้านบึง 6.4 กิโลเมตร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้สนับสนุน ตลาด 100 ปี หนองบอนแดงให้เป็นสถานที่ท่องเทียวและเรียนรู้สถาปัตยกรรมท้องถิ่นโบราณ และสนับสนุนสินค้า ท้องถิ่น เปิดตลาดทุกวันเสาร์ เริ่มบ่าย 4 โมง เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสบรรยากาศในสมัย 100 ปี ที่ผ่านมาได้อย่างแท้จริง ซึ่งยังเหลืออยู่ในจังหวัดชลบุรีไม่มากนัก กำรเดินทำง จากตัวอำเภอบ้านบึง ขับเข้ามาทางถนนด้านข้างธนาคารยูโอบี สาขาบ้านบึง ขับตรงไปประมาณ 5-6 กิโลเมตร
ศำลเจ้ำเซียนซือไท้ อ ำเภอบ้ำนบึง ศำลเจ้ำเซียนซือไท้ ต ำบลบ้ำนบึง อ ำเภอบ้ำนบึง จังหวัดชลบุรี 20170 โทร 038-444304 อ ำเภอบ้ำนบึง เมืองเล็กแห่งชลบุรี สัมผัสเมืองไซน่ำทำวน์แห่งภำคตะวันออก อำเภอบ้านบึง เมืองไซน่าทาวน์แห่งภาคตะวันออก หากเอ่ยถึงอำเภอบ้านบึง อำเภอที่ไม่ใหญ่นักในจังหวัดชลบุรี เราจะนึกถึงอารยธรรมวัฒนธรรมจีน เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยบรรพชนดั้งเดิมผู้บุกเบิกอพยพตั้งรกรากจากเมืองจีน ทำให้บ้านบึง มีทั้งความเจริญก้าวหน้า ทั้งด้านการค้าขาย ขนบธรรมเนียม ประเพณี ที่ได้รับอิทธิพลมาจากเมืองจีน โดยหลักๆ ที่รู้จัก กันคือการไหว้เช้งเม้ง ประเพณีกินเจ และมีสถานที่สำคัญ คือ ศาลเจ้าเซียนซือไท้ ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บรรพชน ของชาวบ้านบึงได้ริเริ่มก่อสร้างสถานที่สำคัญๆ ไว้หลายอย่าง ซึ่งในเวลาต่อมาหลายอย่างกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองของบ้านบึง อาทิ ศาลเจ้าเซียนซือไท้ ซึ่งเป็นสถานที่ศักด์สิทธิ์สำหรับเป็นศูนย์รวมน้ำใจ ศำลเจ้ำเซียนซือไท้ เป็นศาลเจ้าของชาวจีนแต้จิ๋ว ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ราว 80 เปอร์เซนต์ของชาวจีนที่อาศัย อยู่ในเขต อ.บ้านบึง นับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านบึงเคารพสักการะและเป็นศูนย์รวมน้ำใจของชาวบ้านบึง ศาลเจ้าเซียนซือไท้แห่งนี้นับว่าเป็นตึกคอนกรีตหลักแรกของตลาดบ้านบึงซึ่งเดิมเป็นท้องถิ่นชนบท จึงมีความ สวยงามโดดเด่น ปัจจุบันจะมีผู้คนไปกราบไหว้บูชาเพื่อความโชคดีมีชัยอยู่เป็นนิจโดยเฉพาะในวันตรุษวันสารทและวัน สำคัญอื่นๆ ของชาวจีน (ต่อ)
ศำลเจ้ำเซียนซือไท้ บ้านบึง ชลบุรี ตัวอาคารสร้าง ในปี พ.ศ.2475 เดือน 11 จีน การก่อสร้างเทวสถานเซียนซือไท้ นับเป็นอาคารคอนกรีตแบบสองชั้นหลังแรกของตลาดบ้านบึง มีความโออ่า สวยงามในขณะนั้น เป็นที่โจษขานของคนทั่วไป ในปี พ.ศ. 2476 คุณพอ่ โต๊ะเท้า ได้จัดหาเทวรูปองค์โป๊ยเซียน มาจากเมืองจีน เทวสถาน เซียนซือไท้สร้างเสร็จเมื่อ ปี พ.ศ.2476 ได้ 76 กำหนดให้วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2476 อัญเชิญเทวรูปองค์โป้ยเซียนโจวซือขึ้นประดิษฐ์พร้อมกระถางธูป เป็นอันเสร็จพิธีงานอันยิ่งใหญ่ 11 ภายในศาลเจ้ามีภาพจิตรกรรม เจ้าจือหยาและ จิตรกรรมอื่น ๆ สวยงาม มีการประเมินกันว่าประชากรของบ้านบึงเป็นคนไทย เชื้อสายจีนเกิน 80 เปอร์เซ็นต์อประเพณีเด่นๆ ของบ้านบึง จึงเกี่ยวข้องกับคนจีน ประเพณีกินเจ ถือเป็นประเพณีที่เด่นอีกอย่างหนึ่งของเชื้อชาติจีน ซึ่งชาวจีนที่บ้านบึงได้นำมาปฏิบัติสืบต่อกันมาหลายสิบปี ประเพณีล้ำงป่ำช้ำ ประเพณีล้างป่าช้าก็เป็นประเพณีเด่นอีกอย่างหนึ่งที่ชาวจีน บ้านบึงได้นำมาปฏิบัติสืบต่อๆ กันมา โดยเริ่มมาตั้งแต่สมัย ยุคบุกเบิกของบ้านบึง ซึ่งสมัยนั้นประเพณีล้างป่าช้า ได้ทำร่วมกันที่ชลบุรี โดยคนจีนในชลบุรีและจากที่อื่นๆ จะเดินทางไปประกอบพิธีนี้ร่วมกัน
ศำลเจ้ำกวงตี้กุง (กวนอู) ตั้งอยู่ที่ถนนสถำวร ต.บ้ำนบึง อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี ศำลเจ้ำกวงตี้กุง (กวนอู) ศาลเจ้าแห่งนี้มีขนาดเล็ก เงียบสงบดี ผู้ดูแล เป็นชายแก่สูงวัยอัธยาศัยดี ให้คำแนะนำต่างๆ สถานที่สะอาด ห้องน้ำกว้าง สะอาด จุดเด่นอีก อย่างของที่นี่คือสีสันของภาพวาดและอาคารที่ สดใส สภาพยังค่อนข้างใหม่ ในวันหยุดพักผ่อนของหลายๆ คนคงหนีไม่พ้นการนำความสงบมาสู่จิตใจ และวัดก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เรามักจะหลบหลีก จากโลกแห่งความวุ่นวายไปพักผ่อนกัน บ้านบึงมีวัดมากมายไม่ว่าจะเป็นวัดไทยหรือวัดจีน ตัวอย่างวัดที่เป็นที่นิยม เช่น ศาลเจ้ากวงตี้กุง (กวนอู) เป็นศาลเจ้าที่เราสามารถไปสักการะหรือไหว้ขอพรได้ มีความเงียบสงบ ทั้งยังมีภาพศิลปะและ คำสอนต่างๆ มากมายตามผนัง ศาลเจ้ากวงตี้กุง (กวนอู) ตั้งอยู่ถนนสถาวร อำเภอบ้านบึงเพิ่มความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต มีคุณลุงใจดีดูแลสถานที่ คอยแนะนำการไหว้อย่างถูกวิธี ถ้าไหว้แล้วใครอยากเสี่ยงเซียมซี ที่นี่ก็มีเซียมซีให้เขย่าเช็กดวงด้วย
สำนักปฏิบัติธรรมพุทธสาวิกา มีเนื้อที่ 29 ไร่ ปัจจุบันมีคุณแม่ชี นลินรัตน์ สุทธิธรรมวิชญ์ เป็นเจ้าสำนักภายในสำนัก ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ มีกุฏิรับรองผู้ต้องการปฏิบัติธรรม 19 หลัง มีอาคาร 2 หลัง จำนวน 30 ห้อง มีห้องน้ำในอาคารทั้งหมด และมีห้องน้ำภายนอกอาคารไว้บริการอีก 51 ห้อง สำหรับผู้ที่ใช้เต็นท์หรือกรด มีสระใหญ่ซึ่งทำทางจงกรมไว้ด้านหลัง มีศาลาปฏิบัติธรรมซึ่งสามารถบรรจุคนได้ถึง 1,000 คน มีห้องอาหารไว้บริการสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรม นอกจากนี้ยังมีกุฏิ กรรมฐานซึ่งอยู่บนเชิงเขาอีก 12 หลัง ซึ่งเป็นธรรมสถานที่เหมาะแก่ “สุภาพสตรี” นักปฏิบัติ-นักภาวนา เป็นอย่างยิ่ง คุณแม่ชีนลินรัตน์ เริ่มสอนเพื่อพัฒนาจิต ตั้งแต่ พ.ศ.2546ติดต่อเรื่อยมาจนปัจจุบัน มีผู้ร่วมเข้าปฏิบัติธรรมเฉลี่ย เดือนละ 1,000 คน ในปีหนึ่งจะมีผู้เข้ามาปฏิบัติธรรมประมาณหมื่นเศษกิจวัตรประจำวันเริ่มด้วยวัตรเช้า และเจริญสมาธิ ภาวนา ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ไปสิ้นสุด ทำวัตรเย็น และเจริญสมาธิภาวนา เวลา 21.00 น. ทั้งนี้ทางสำนักจะใช้เสียงระฆัง แห่งสติในการร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมอย่างตรงต่อเวลาทุกกิจกรรม คนที่เข้ามาปฏิบัติที่นี่ แม่ชีทุกๆ ท่าน ที่ดูแลร่วมกันยัง ที่แห่งนี้ ต่างก็ดูแลเอาใจใส่ผู้มาฝึกจิตเป็นอย่างมาก ทำให้เป็นที่สบายใจ รักใคร่ของผู้ที่มาร่วมถือศีล เรื่องความปลอดภัยนั้น หายห่วงได้ เพราะแม่ชีท่านบอกว่า กระทั่งไม่ได้ล็อกกลอนห้องนอน ก็ไม่มีใครเข้ามาทำอันตราย หรือลักขโมยสิ่งของได้ ผู้ที่ ประสงค์มาปฏิบัติธรรมยังที่นี่จริงๆ คือ ต้องละขาดจากโลกภายนอกไปชั่วขณะหนึ่ง ธรรมสถานที่แห่งนี้ เชื่อว่า หลายคน เมื่อหวนกลับไปสู่โลกทุนนิยมเดิมที่ตนเองอยู่ ทัศนคติ มุมมอง ความคิด ความมีสติ รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บที่กัดกร่อนร่างกาย บั่นทอนจิตใจ จะทุเลา เบาบาง และทำให้ชีวิตสงบนิ่งดีขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ สำนักปฏิบัติธรรมพุทธ สาวิกาเวลาทำการ 08.00 – 17.00 น. (ทุกวัน) ส ำนักปฏิบัติธรรมพุทธสำวิกำ ตั้งอยู่ เลขที่ 104/2 หมู่ 3 ต.คลองกิ่ว อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี ส ำนักปฏิบัติธรรมพุทธสำวิกำ
วัดรำษฎร์เรืองสุข (มำบล ำบิด) วัดหลวงปู่ฮก เป็นชื่อที่คนทั่วไปเรียกกัน เนื่องจำกควำมศรัทธำในหลวงปู่ฮก แต่จริงๆแล้ว วัดหลวงปู่ฮก มีชื่อว่ำ วัดรำษฏร์เรืองสุข (วัดมำบล ำบิด) อยู่ที่ อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี ซึ่งวัดแห่งนี้มีพระเกจิชื่อดังของจังหวัดชลบุรีจำพรรษาอยู่ที่นี้ วัดที่ว่านั้นก็คือ วัดรำษฎร์เรืองสุข (มำบล ำบิด) ซึ่งมีพระเกจิชื่อดังแห่งภาคตะวันออก ก็คือหลวงปู่ฮก รตินฺธโร และมีพระครูวิสุทธิพรมจรรย์(พระอาจารย์ณรงค์) เป็น เจ้าอาวาส วัดราษฎร์เรืองสุขเป็นวัดที่อยู่ติดถนนเส้นหลัก เมื่อขับรถผ่านจะสามารถมองเห็นวัดดเป็นสีขาวเด่นสง่า ภายในวัดกำลังก่อสร้างยังไม่เสร็จสิ้นดี แต่กลับเป็นวัดที่มีโบสถ์สวยงามสง่ามาก ทั้งสถาปัตยกรรมที่ดูละเอียดงดงาม ชดช้อยอย่างประณีต ภายในวัดกว้างขวางมีสถานที่ให้สักการะมากมาย ด้วยความสมถะเรียบง่าย และมีเมตตาสูง ทำให้หลวงปู่ฮกมีคนศรัทธามาก และหลวงปู่ก็ไม่ต้องการยศศักดิ์ จึงไม่ต้องการเป็นเจ้าอาวาสวัด แต่วัดก็ยังคงได้รับอานิสงส์จากคนที่มากราบไหว้หลวงปู่ สิ่งก่อสร้างต่างๆภายในวัดนั้น ก็ได้มาจากเงินที่ลูกศิษย์ลูกหาเข้ามากราบไหว้และทำบุญถวายนั่นเอง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีรูปหล่อขนาดใหญ่ของ หลวงปู่ฮกที่กำลังก่อสร้างอยู่ นอกจากนั้นก็ยังมีศาลาใหม่ และกุฏิพระที่กำลังก่อสร้างอย่างสวยงามอีกด้วย หลวงปู่ฮก ท่านจะอยู่ในกุฏิไม้หลังเก่า โดยในแต่ละวันจะมีคนมารอเข้ากราบหลวงปู่เป็นจำนวนมากจนเต็มลาน หน้ากุฏิ ซึ่งใกล้ๆกันในฝั่งตรงข้ามกุฏิก็จะเป็นแผงเช่าวัตถุมงคลของหลวงปู่ฮก (ต่อ)
วัดวัดรำษฎร์เรืองสุข (มำบล ำบิด) ถนนหมำยเลข 3138 (บ้ำนบึง-บ้ำนค่ำย) หมู่ที่ 7 ต ำบลคลองกิ่ว อ ำเภอบ้ำนบึง จังหวัดชลบุรี ประวัติของวัดรำษฎร์เรืองสุข เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2490 มีชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาได้ถวายที่ดินเพื่อสร้างเป็นวัด ตอนแรกนั้นสร้างเป็นที่พักสงฆ์เล็ก ๆ ในเวลาต่อมาได้สร้างกุฎิ และพระอุโบสถ เพิ่ม จึงได้ก่อตั้งเป็นวัดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2510 บรรยากาศภายในวัด เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียว ทำให้อากาศเย็น ไม่ร้อนและทำให้สบายตา เมื่อเดินทาง เข้ามาถึงในวัดจะเห็นต้นมะม่วงต้นใหญ่ และจะมีโรงครัวอยู่ขวามือ ส่วนทาง ซ้ายมือจะเป็นพระอุโบสถสีขาวงดงามซึ่งตอนนี้กำลังก่อสร้างยังไม่เสร็จ เดินตรง มาอีกหน่อยจะเป็นกุฎิหลวงปู่ฮก ซึ่งเป็นกุฎิไม้สองชั้น ชั้นล่างจะเป็นโถงโล่ง ส่วนหลวงปู่จะอยู่ชั้นบน รอบกุฎิหลวงปู่จะมีผู้คนมาขายลอตเตอรี่และขาย อาหาร ปกติแล้ววัดก็จะเปิดทุกวัน เพื่อให้ศาสนิกชนมากราบหลวงปู่และเจิม หน้าผาก เจิมกระเป๋า เพื่อความเป็นสิริมงคล แต่หากวันไหนที่หลวงปู่ไม่อยู่วัด ก็จะมีตารางเวลาให้ดูว่าวันไหนหลวงปู่เดินทางไปที่ไหนบ้างขณะนี้ทางวัดมีการ ก่อสร้างสถานที่ประดิษฐานองค์พระหยกขาวหลวงปู่ฮกองค์ใหญ่ ซึ่งจะมีสระน้ำ ล้อมรอบ สามารถมองเห็นองค์พระหยกขาวหลวงปู่ฮกได้แต่ไกล เพราะองค์ใหญ่ มาก เมื่อมีงานบุญ ทั้งลูกศิษย์หลวงปู่ฮกและผู้มีจิตศรัทธาจะมาทำบุญกันเยอะ มาก เพราะว่าถ้าพูดถึงหลวงปู่ฮกไม่มีใครที่ไม่รู้จักท่าน จึงไม่แปลกที่ท่านมีลูก ศิษย์ลูกหามากมาย
วัดเจริญธรรม ตั้งอยู่เลขที่ 186 ซอย หมู่บ้านบึงทองธานีตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี 20170 เบอร์ติดต่อ 087-816 8157, 081-945 9704 “ไหว้พระขอพรพระประธานในพระอุโบสถจตุรมุขหลังคามณฑป ไถ่ชีวิตโคกระบือ ให้ทานอาหารปลา” วัดเจริญธรรม สร้างเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2530 นายบุญลือ พงศ์สมบัติวรา ชาวจังหวัดนครปฐม เป็นผู้มีจิตศรัทธามอบที่ดินถวายการสร้างวัด ที่ดิน ตั้งวัดมีเนื้อที่ 21 ไร่ 1 ตารางวา อำคำรเสนำสนะ ประกอบด้วย พระอุโบสถจตุรมุขขนาดใหญ่หลังคา มณฑปสวยงาม ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ พระอุโบสถ พระพุทธรูป ปางสมาธิด้านหน้าพระอุโบสถ พระประธานขนาดใหญ่ปางแสดงธรรม และสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ประชาชนสามารถเข้ามาสักการะและ เรียนรู้ ชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามได้ วัดเจริญธรรม ตั้งเมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2531 ชาวบ้านเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดใหม่เจริญธรรม วัดเจริญธรรม
วัดบุญญฤทธยำรำม (วัดบึงบน) วัดบุญญฤทธยาราม (วัดบึงบน) เป็นวัดสังกัดมหานิกาย ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านบึง ติด ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 344 บ้านบึง – แกลง มีเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ อยู่ห่างจากจังหวัด ชลบุรี 14 กิโลเมตร เดิมมีชื่อตามชาวบ้านเรียกว่า “วัดบึงคงคาลัย” และเหตุว่าวัดนี้ตั้งอยู่ ริมห้วย ส่วนหลักฐานในกรมศาสนาได้บันทึกไว้มีชื่อว่า “วัดบึงใน” ซึ่งเป็นวัดที่เคารพสักการะ ของชาวบ้านมาตั้งแต่ก่อนเป็นอำเภอบ้านบึง และเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของอำเภอบ้านบึง หลวงพ่อใย วัดบึงบน จ.ชลบุรี พระเถราจารย์ผู้มีตบะบารมีอันแก่กล้า หลวงพ่อใย ท่านเป็นพระที่มีอาคมขลัง ทั้งมากด้วยอิทธิคุณและบุญฤทธิ์ (เหรียญของท่านเป็นที่กล่าวขานกันว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก โดนหมากัดยังไม่ระคายผิว) ตามประวัติหลวงพ่อใย ท่านเกิดที่บ้านมอญ (บ้านเก่า) อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เมื่อประมาณ พุทธศักราช 2415 เป็นหลานชายของหลาวงพ่อเปิ่น วัดบ้านเก่า ซึ่งเป็นพระเถราจารย์ที่มี ชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้น หลวงพ่อใย จึงได้ศึกษาสรรพวิชาและพระวิปัสสนา กรรมฐานจาก หลวงพ่อเปิ้น หลวงพ่อใย ท่านเคยบวช 2 ครั้ง ครั้งหลังเข้าอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2465 ตอนอายุได้ประมาณ 50 ปี ณ วัดเครือวัลย์ โดยมี พระอุปัชฌาย์ถัน วัดเครือวัลย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อใย ถึงแก่มรณภาพเมื่อ พ.ศ.2486 สิริอายุได้ประมาณ 71 ปี วัดบุญญฤทธยำรำม (วัดบึงบน) ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ต ำบลบ้ำนบึง อ ำเภอบ้ำนบึง จังหวัดชลบุรี
วัดเขำน้อยคีรีวัน ตั้งอยู่ที่ตําบลคลองกิ่ว อําเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรีปัจจุบันมีอาจารย์นวล ขันติพโล เป็นเจ้าอาวาส ในอดีตวัดแห่งนี้มีพระเกจิอาจารย์ที่สําคัญ เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเป็นที่นับถือของคนในเมืองชลบุรีมาก ลักษณะภูมิ ประเทศของวัดเขาน้อยคีรีวัน เป็นเนินเขาสูง มีป่าไม้ลําต้นใหญ่ขึ้นอยู่มากมาย เงียบสงบ ในสมัยที่หลวงปู่ทิม อิสริโกวัด ละหารไร่ จังหวัดระยอง ยังมีชีวิตอยู่ท่านได้ให้การสนับสนุนว่าวัดแห่งนี้ น่าจะเป็น สถานที่เหมาะสมแก่การปฏิบัติธรรมและเจริญกรรมฐานเป็นอย่างมาก จึงเป็นกําลังใจให้หลวงปู่โทน อดีตเจ้าอาวาสวัดเขา น้อยคีรีวันเสมอมา ชาวบ้านเรียกหลวงปู่โทนว่า “สมภารวัดบ้านนอก” คือ ผู้เป็นสมภาร ที่รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้าน และช่วยสงเคราะห์การสวดมนต์ การประกอบพิธีกรรม การอบรมสั่งสอน แสดงธรรม หรืออธิษฐานจิตกุศล ท่านปฏิบัติ ได้ดีเยี่ยม เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านและผู้ที่เคารพเลื่อมใส ในตัวท่าน ร่วมบุญ ร่วมกุศล ช่วยกันสร้างศาสนสถาน ถาวร วัตถุต่าง ๆ ภายในวัดเขาคีรีวัน จนถึงปัจจุบัน เนื้อที่ภายในวัด 8 ไร่กําลังก่อสร้าง พระอุโบสถ และหล่อรูปเหมือน หลวงปู่โทนขนาดใหญ่เพื่อให้ประชาชน สักการะบูชา สำหรับการเดินไปวัดแห่งนี้ เมื่อถึง จ.ชลบุรี ให้ใช้ถนนบายพาสไปเส้นทางสี่แยกบ้านบึงประมาณ 12 กิโลเมตร จากสี่ แยกบ้านบึง (สี่แยกเอ็ม 16) ไปอีก 3 กิโลเมตร จะเห็นซุ้มประตูเข้าวัด ระยะทางเข้าวัดประมาณ 5 กิโลเมตร พระสงฆ์ ของวัดเขาน้อยคีรีวัน และกลุ่มลูกศิษย์ของหลวงปู่โทน ยังคงสืบสานเจตนาตามธรรมโอวาทของท่านที่ว่า พระข้างนอกพระข้างในมีให้ครบ จะประสบโชคค่ามหาศาล พระนอกดีแต่ข้างในใจดังมาร พระไม่หาญคุ้มครองปกป้องภัย วัดเขำน้อยคีรีวัน ตั้งอยู่ ต.คลองกิ่ว อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี โทร 08-5287-9779 วัดเขำน้อยคีรีวัน
เที่ยววัดเนื่องจ ำนงค์ ชมควำมอลังกำรหลวงปู่ทวด เหยียบน้ ำทะเลจืดองค์ใหญ่ นอกจากหลวงปู่ทวดแล้ว วัดวัดเนื่องจำนงค์แห่งนี้ ยังมี อนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักอีกด้วย และตอนเย็นก็จะเปิด ไฟรอบองค์หลวงปู่ทวดทำให้มีความงดงามยิ่งนัก วัดเนื่องจ ำนงค์ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 3 ต.หนองชำก อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี 20170 โทรศัพท์ : 038-742509 วัดเนื่องจ ำนงค์ วัดเนื่องจำนงค์ เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดชลบุรี แห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองชาก ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 44 ไร่ 3 งาน 48 ตารางวา อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ ศาลาอเนก ประสงค์ ศาลาบำเพ็ญกุศล นอกจากนี้มีอาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดเนื่องจำนงค์ ตั้งเมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ.2523 โดยนายอำนาจนางพูลสุข เนื่องจำนงค์ เป็นผู้มอบที่ดิน จำนวน 44 ไร่ 3 งาน 48 ตารางวา เพื่อสร้างวัด และนายประโยชน์ เนื่องจำนงค์เป็นผู้ขออนุญาตสร้างวัด และ ได้รับหนังสืออนุญาตให้สร้างวัด เมื่อ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2523 ได้มีการ พัฒนามาโดยลำดับ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2526 มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ,ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ ในวัด ,มีโรงเรียนประถมศึกษาตั้งอยู่ในวัด ปัจจุบันวัดเนื่องจำนงค์ จัด กิจกรรมส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนเข้าวัดปฏิบัติธรรมในวันสำคัญต่างๆ และเมื่อไม่นานมานี้ วัดเนื่องจำนงค์ บริเวณลานนมัสการหลวงปู่ทวด มีนักท่องเที่ยวเพิ่มจำนวนมากขึ้น มีร้านกาแฟสดวัดเนื่อง สำหรับนั่งพัก คลายร้อน มีร้านอาหารตามสั่ง เวลาหิว มีสวนและศาลาไว้นั่งพักผ่อน หย่อนใจ และเชื่อว่าในอนาคตข้างหน้าจะมีนักท่องเที่ยวรู้จักและมาท่องเที่ยว สถานที่แห่งนี้เพิ่มมากขึ้น กำรเดินทำง : จากตัวจังหวัดชลบุรี ขับรถไปเส้นบ้านบึง-วังจันทร์-แกลงจันทบุรี เลยตัวอำเภอบ้านบึงไปประมาณ 5 กม. จะเจอสี่แยกไฟแดง หนองชากให้เลี้ยวขวา ตรงไฟแดงผ่านตลาดเนื่องจำนงค์เข้าไปประมาณ 1 กม. ก็จะเห็นซุ้มประตูวัดและหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่อยู่ซ้ายมือ
วัดกุณฑีธำร หรือวัดหัวกุญแจ ตั้งอยู่บ้ำนหัวกุญแจ ต.คลองกิ่ว อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี 20170 หลวงพ่อประทังทีปกโรพระนักพัฒนำกำรศึกษำ แห่งวัดหัวกุญแจ วัดกุณฑีธำร วัดกุณฑีธาร หรือวัดหัวกุญแจ ต.คลองกิ่ง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตั้งอยู่ที่บ้าน หัวกุญแจ ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ทั้งนี้เมื่อปี ๒๔๘๓ กำนันหงษ์-นางกิมไล้ วิไลรัตน์ ได้ถวายที่ดินให้สร้างวัด และ เป็นผู้อุปถัมภ์วัดตลอดมา บริเวณที่ตั้งวัดสมัยก่อนอุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำ จึงได้ตั้งชื่อวัดว่า กุณฑีธาร ซึ่งแปลว่า หม้อน้ำเหนือ คนโทน้ำ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2494 ปัจจุบันมีพระครูพิมลกิจจานุวัตร หรือหลวงพ่อประทัง ทีปกโร รองเจ้าคณะอำเภอบ้านบึง เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อประทัง เป็นอีกหนึ่งพระเกจิเมืองชล เกิดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2498 เมื่ออายุ 23 ปี ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดหัวกุญแจ โดยมีพระครูพิบูลย์สังฆกิจ หรือหลวงพ่อสุน เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระครูวัชรินทร์ หรือหลวงพ่อ จ้อย วัดหนองน้ำเขียว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาสง่า ปญฺญาวฒฺฑโณ วัดหนองซาก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ทีปกโร” แปลว่า “พ่อเกิดแห่งแสงสว่าง” หลังจากบวชแล้วหลวงพ่อประทัง ได้ปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์อย่างเคร่งครัด ทั้งปริยัติและปฏิบัติปฏิเวชอย่าง เคร่งครัด โดยมิได้ขาดตกบกพร่อง และนำคำสอนนั้นไปเทศน์โปรดญาติโยมเพื่อเป็นการเผยแผ่พระศาสนา ถึงแม้ท่านจะเป็น พระหนุ่มในขณะนั้นแต่ท่านก็ขวนขวายไฝ่รู้ อีกทั้งยังสนับสนุนเรื่องการศึกษาทั้งพระสงฆ์ สามเณร และคฤหัสถ์ ให้มี การศึกษาทั้งแผนกธรรม-บาลี ทั้งทางโลกและทางธรรม จนลูกศิษย์ท่านเป็นใหญ่เป็นโต เป็นมหาเปรียญก็หลายรูป รวมทั้งยัง ส่งเสริมสนับสนุนพระครูสอนตามโรงเรียนจนเป็นที่ยอมรับ จนมีคำกล่าวขวัญว่า “วัดหัวกุญแจมียอดนักเทศน์ วิเศษนักพูด ที่สุดนักสอน” หลวงพ่อประทังขึ้นชื่อว่าเป็นพระนักเสียสละผู้ยิ่งใหญ่ รวมทั้งบริจาคที่ดินซึ่งเป็นมรกดของท่านจำนวน 11 ไร่ ถวายเป็นธรณีสงฆ์เป็นสมบัติของศาสนา เพื่อสร้างสำนักปฏิบัติธรรม โดยใช้ชื่อว่า “สำนักปฏิบัติธรรมสวนพุทธธรรม” ซึ่งอยู่ห่างจากวัดหัวกุญแจประมาณ 2 กิโลเมตร โดยใช้เป็นสถานที่อบรมปฏิบัติธรรมสำหรับเยาวชน ยุวชน และประชาชนทั่วๆ ไป เพราะเป็นสถานที่ร่มรื่นมาก ในแต่ละปีจะมีผู้มาฝึกปฏิบัติธรรมกันจำนวนมาก
วัดบึงบวรสถิตย์หรือ วัดบึงล่ำง ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 2 ต.บ้ำนบึง อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี 20170 โทรศัพท์038-750-155 วัดบึงบวรสถิตย์ วัดบึงบวรสถิตย์หรือ วัดบึงล่ำง เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นอารามราษฎร์ ตั้งอยู่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรีตั้งขึ้นเมื่อประมาณ ปีพ.ศ.2434 ไม่ปรากฏแน่นอนว่าใครเป็นผู้สร้าง แต่เล่ากันว่า มีพระภิกษุ รูปหนึ่ง ชื่อพระอาจารย์เขียวเดินทางจากวัดบุญญฤทธยาราม (วัดบึงบน) มาแผ้วถางที่วัดตรงปัจจุบันแล้วตั้งเป็นวัดขึ้น ในครั้งนั้นชาวบ้านโดยทั่วไป เรียกวัดนี้ว่า "วัดไร่บ้านบึง" บริเวณหน้าวัดมีพระพุทธไตรโลกนาถซึ่งเป็น พระพุทธรูปปางลีลาหล่อด้วยโลหะรมดำประดิษฐานอยู่บนแท่นหินอ่อน ที่ดินตั้งวัด มีเนื้อที่ 10 ไร่ 95 ตารางวา ในสมัยพระครูไพโรจน์ภัทรธาดา ได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดบึงบวรสถิต ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2528 ปัจจุบันมีโรงเรียนปริยัติธรรมแผนกธรรม โดยมีจุดเด่นที่บริเวณหน้า วัดมีพระพุทธไตรโลกนาถ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางลีลาหล่อด้วยโลหะรมดำ ประดิษฐานอยู่บนแท่นหินอ่อนที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ขออะไรก็ได้ ดั่งใจหวัง ประวัติหลวงพ่อสวัสดิ์ ปุณณสีโล(พระครูพิศาลพรหมจรรย์) อตีดเจ้าอาวาสวัดบึงบวรสถิตย์ชลบุรี เดิมชื่อสวัสดิ์ เฉลิมพงษ์เกิดวันที่ 18 มีนาคม 2451 ณ เมืองโพ้วเล้ง ประเทศจีน อุปสมบท วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2476 ที่วัดดอกไม้ ต.คลองโค อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ มีหลวงพ่อกล่อม เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2479 จำพรรษาที่วัดกำแพง จ.ชลบุรีปี พ.ศ.2498 ได้นักธรรมเอก และเปรียญธรรม 3 ประโยค เป็นเจ้าอาวาสวัดชากนิมิต วิทยา อ.บ้านบึง ชลบุรีและเจ้าคณะตำบลบ้านบึง พ.ศ.2528 สร้างสำนัก วิปัสสนา เม้าสุขา พ.ศ.2530 เป็นเจ้าอาวาสวัดบึงบวรสถิต และเป็น เจ้าคณะอำเภอบ้านบึง พ.ศ.2542 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบ้านบึง มรณภาพวันที่ 1 เมษายน2547 สิริอายุ 96 ปี 71 พรรษา
วัดเขำถ้ ำ (วัดเขำถ้ ำวิถีธรรมวนำรำม) ตั้งอยู่เลขที่ หมู่ที่ 8 บ้ำนเนินโมก ต ำบลหนองอิรุณ อ ำเภอบ้ำนบึง จังหวัดชลบุรี 20170 โทร 085-75502609 วัดเขำถ้ ำ (วัดเขำถ้ ำวิถีธรรมวนำรำม) วัดเขำถ้ ำ (วัดเขำถ้ ำวิถีธรรมวนำรำม) เป็นวัดที่อยู่บนเขาสามารถเห็นวิวโดยรอบได้สวยงาม ตั้งเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2530 โดยคุณทองหล่อ วิถีธรรม และนางสาวเซี้ยมเตียง เป็นผู้ถวายที่ดินให้สร้างวัดและเริ่มก่อสร้างระหว่างปี 2525-2529 ได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2537 พระครูไพบูลพัฒนำภรณ์หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อเฮียง เป็นเจ้าอาวาสภายในวัดมีอาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย พระธาตจุฬามณี เป็นที่ประดิษฐานพระบรม สารีริกธาตุ ชั้นบนของพระธาตุจะมีภาพเขียนบนเพดาน สวยงามมาก ทุกวันเสาร์จะมีพระมาสวดมนต์ที่วิหารจุฬามณีนี้ นอกจากนั้นยังมี พระอุโบสถ วิหารดาวดึงส์ วิหารพระพุทธชินราชตรีมุข วิหารพานทองตรีมุข กำรเดินทำง โดยรถยนต์ถ้าเดินทางจากกรุงเทพ มาทางมอเตอร์เวย์ให้เลี้ยวซ้ายที่แยกบ้านบึง – แกลง ขับรถต่ออีก ประมาณ 13 กิโลเมตร จะถึงอำเภอบ้านบึง (ไม่ต้องเข้าในตัวอำเภอขึ้นสะพานลอย) ผ่านตลาด (เนื่องจำนงค์) ตรงไปประมาณ 500 เมตร เลี้ยวซ้ายทางไปเนินโมก ผ่านโรงงานยูนิมิต อยู่ซ้ายมือ ขับไปประมาณ 2 กิโลเมตรจะเจอแยกโรงงานวนชัยกรุ๊ป ให้ตรงไปอีก ประมาณ 1 กิโลเมตร มีทางแยกอ่างเวียนให้ตรงไปเรื่อย ๆ ผ่านสุสานมาลีนนท์อยู่ทาง ขวามือ อีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบทางเข้าวัดทางซ้ายมีป้ายใหญ่ปักไว้ ตรงข้าม กับสุสานและบ้านพักคนชรา มองเข้าไปจะเห็น วัดอยู่บนเขา
วัดพระธรรมจักร ตั้งอยู่ที่ ต.คลองกิ่ว อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี วัดพระธรรมจักร วัดพระธรรมจักร วัดพระธรรมจักร ต. คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรีเป็นวัดป่ากรรมฐาน วิเวก สงบ สงัด เหมาะสำหรับผู้ใฝ่ในการปฏิบัติ สมาธิภาวนา เป็นอย่างยิ่ง อยู่ท่ามกลางหุบเขา ล้อมรอบ มีสถานปฏิบัติธรรมบนยอดเขา บริเวณตัววัดตั้งอยู่บนเนินเขา มีโคมแดงแขวนอยู่ระหว่างทางเดินเข้าวัด เป็นวัดที่ผสมผสานศิลปะระหว่างพุทธและวัดจีน อย่างลงตัว บริเวณรอบๆวัด ค่อนข้างสงบ เนื่องจากวัดตั้งอยู่บนเนินเขา ทำให้ลมที่พัดมาค่อนข้างแรงและเย็นสบาย โบสถ์ตั้งอยู่ชิดกับเชิงเขาเลย เป็น ศิลปะผสมกันระหว่างไทยกับจีนอย่างลงตัวสวยงามเทวสถานพระพิฆเนศ สามารถเข้าไปไหว้ขอพรได้ ภายในเทวสถานนี้ มีพระพุทธรูปให้ได้บูชากราบไหว้ เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต ภายในบริเวณวัดพระธรรมจักร ค่อนข้างสงบและร่มรื่นเหมาะสำหรับผู้ใฝ่ในการปฏิบัติสมาธิภาวนา เป็นอย่างมาก วัดพระธรรมจักรตั้งอยู่ ท่ามกลาง หุบเขา ล้อมรอบ มีสถานปฏิบัติธรรมบนยอดเขา ที่มีชื่อเสียงมาแต่โบราณ เป็นอีก 1 สถานที่ที่ต้องมา
วัดป่ำธรรมชำติ ตั้งอยู่ที่ ต.คลองกิ่ว อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี วัดป่ำธรรมชำติ วัดป่ำธรรมชำติ เป็นวัดที่อยู่บนภูเขำ ตั้งอยู่ในต ำบลคลองกิ่ว อ ำเภอบ้ำนบึง จังหวัดชลบุรีบรรยากาศภายในวัดร่มเย็นและเงียบ สงบ บริเวณโดยรอบของวัดเต็มไปด้วยต้นไม้และป่าเขา เนื่องจากวัด สร้างบนภูเขาจึงทำให้ด้านหลังข้างวัดมีน้ำตกให้เราสามารถเดินขึ้น ไปชมกันได้ เรียกได้ว่าได้มาวัดป่าแห่งนี้ทั้งอิ่มบุญและพักผ่อนได้ไป ในตัวเลย บริเวณด้านหลังของวัดถ้าหากเดินขึ้นไปก็จะเป็นน้ำตก ช่วงฤดูฝนน้ำตกจะเยอะเป็นพิเศษทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวน มากที่ได้เข้ามาทำบุญไหว้พระที่วัดแล้ว ก็จะต้องเดินขึ้นไป บริเวณเนินเขาด้านหลังของวัดเพื่อชมความสวยงามของน้ำตก นอกความเงียบสงบและความร่มเย็นของวัดแล้ว บรรยากาศของ วัดที่เต็มไปด้วยป่าเขาและต้นไม้ที่เขียวชอุ่มมองดูแล้วรู้สึกสดชื่น แล้วก็ผ่อนคลายนอกจากนี้ก็ยังมีนกหลากหลายสายพันธุ์บินลงมา ภายในวัดให้เราได้ชมกันอีกด้วย บริเวณด้านล่างซ้ายมือของทาง วัดก็จะประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่และยังมีรูปปั้นเสมือน ของพระเกจิชื่อดังต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้และ บูชากันเราสามารถเข้ามาเที่ยวชม ทำบุญไหว้พระที่วัดได้ทุกวัน จันทร์-วันอาทิตย์
วัดสิงห์ทองพรหมำวำส วัดสิงห์ทองพรหมาวาส เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 บ้านบึงกระโดน ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 20 ไร่ 11 ตารางวา อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาบำเพ็ญกุศล กุฏิสงฆ์ศาลาการเปรียญ ฯลฯ วัดสิงห์ทองพรหมาวาส ตั้งเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2512 เดิมเรียกว่า วัดบึงกระโดน เพราะสร้างในที่ลุ่มมีหนองน้ำและมีต้นไม้ชื่อ “กระโดน” เป็นต้นไม้ยืนต้น มีใบกลมชาวบ้านจึงเรียกชื่อดังกล่าว ที่ดินสร้างวัดนี้เป็นของ นายเสียง สิงห์โตทอง และนางทัศนีย์ บรรทมสินธุ์ ทั้งสองคนได้บริจาคที่ดิน ประมาณ 20 ไร่เศษ ประกอบกับชาวบ้านไม่สะดวกที่จะเดินทางไปทำบุญที่วัด ห่างไกล จึงพร้อมใจกันสร้างวัดขึ้นบนที่ดังกล่าว โดยได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2513 เจ้าอาวาสคือพระครูสิริธรรมกิตต์ การศึกษามีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรม ที่งดงามน่าชม บริเวณวัดร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ให้ความสงบเงียบเหมาะสำหรับ ผู้ที่แสวงหาความสงบและต้องการศึกษาเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชุมชน วัดสิงห์ทองพรหมำวำส วัดสิงห์ทองพรหมำวำส ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 บ้ำนบึงกระโดน ต.หนองชำก อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี
วัดท่อใหญ่ (ใหญ่พรหมประทำน) วัดท่อใหญ่ (ใหญ่พรหมประทาน) ตำบลหนองอิรุณ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี “ไหว้พระขอพรพระพุทธสัพพัญญูบรมครูเทพมนุษย์ (หลวงพ่อเงิน) พระประธานในพระอุโบสถ, วิหารพระพุทธเจ้า 16 พระองค์, พระสีวลีเถระ, เทพราหู, พระพิฆเนศ, พระพุทธเจ้าหลวง ร.5” ประวัติวัด ปี พ.ศ.2518 โดยมีคุณแม่ทองหยิบ แซ่ลี้ เป็นผู้บริจาคที่ดินจำนวน 18 ไร่ ให้ท่าน พระครูไพบูลพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะตำบลหนองอิรุณ เป็นผู้รับถวายที่ดินและดำเนินการก่อสร้างขึ้นต่อมา พระครูไพบูลพัฒนาภรณ์ ได้นิมนต์ หลวงพ่อสมบุญ สมาริโก มาอยู่จำพรรษาตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 กระทั่งปี พ.ศ. 2524 ท่านได้มรณภาพลงในปี พ.ศ.2526 คณะสงฆ์แต่งตั้งให้พระครูปลัดสมบัติ ภทฺทจารี มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ท่อใหญ่ ต่อมานายชั้น เรือนนาค ถวายที่ดิน 3 ไร่ ด้านทิศใต้ของวัด รวมเนื้อที่เป็นจำนวน 21 ไร่และวันที่ 31 มกราคม 2528 สำนักสงฆ์วัดท่อใหญ่ได้รับ อนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการให้จัดตั้งเป็นวัดโดยสมบูรณ์ได้ชื่อว่า วัดท่อใหญ่ (ใหญ่พรหมประทำน) วัดท่อใหญ่ (ใหญ่พรหมประทำน) วัดท่อใหญ่ (ใหญ่พรหมประทำน) ตั้งอยู่ที่เลขที่ 1 หมู่ 9 ถนนบ้ำนบึง-แกลง กม. 24-25 ต ำบลหนองอิรุณ อ ำเภอบ้ำนบึง จังหวัดชลบุรี
วัดชำกนิมิตวิทยำ วัดชำกนิมิตวิทยำ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2 ต.หนองซ้ ำซำก อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี วัดชำกนิมิตวิทยำ วัดชากนิมิตวิทยา หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียก วัดหนองซ้ำซาก วัดชากนิมิตวิทยานี้เดิมตั้งอยู่ในเขตหมู่ 4 ตำบลหนองซ้ำซาก (สถานที่เดิมนั้น ชาวบ้านยังเรียกว่า “วัดร้าง” ยังเป็นที่ของกรมการศาสนา) ปัจจุบันตั้งอยู่ ในเขตหมู่ 2 ตำบลหนองซ้ำซาก ห่างจาสถานที่เดิม 1 กม. สถานที่มีหนองน้ำใหญ่ เหมาะกับการอุปโภค บริโภค เป็นเหตุให้ย้ายวัดมาอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ประกอบกับมีป่าละเมาะเหมาะแก่การเจริญธรรม และความเห็นของญาติโยม ที่มีมีอยู่อาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำอยู่ก่อนช่วยกันดูแล บำรุงเสนาสนะจนถึงปัจจุบัน วัดนี้เริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ.2461 ซึ่งไม่มี ผู้ถวายที่สาธารณะ วัดจับจองได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2478 เนื่อที่ที่ได้รับ พระราชทานวิสุงคามสีมา กว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ปัจจุบัน(พ.ศ.2542)วัดนี้มีเนื้อที่ที่ตั้งวัดทั้งหมด 22 ไร่ 3 งาน วัดไทยสีสันสดใสและมีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม ภาพวาด เกี่ยวกับศาสนาบนฝาผนังทั้งภายในและภายนอก รูปปั้นสัตว์ ที่สำคัญทางศาสนามากมาย เช่น ช้าง หรือพญานาค นอกจากนี้บริเวณโดยรอบ ยังเป็นธรรมชาติที่ร่มรื่น มีสระน้ำที่เต็มไปด้วยปลาและเต่า ทั้งยังมีป่าละเมาะ ที่เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม นับว่าเป็นวัด ที่สงบร่มรื่นที่สุด แห่งหนึ่งของบ้านบึงเลยก็ว่าได้
วัดภัททันตะอำสภำรำม วัดภัททันตะอำสภำรำม ตั้งอยู่ที่ 118/1 หมู่ 1 บ้ำนหนอปรือ ต ำบลหนองไผ่แก้ว อ ำเภอบ้ำนบึง จังหวัดชลบุรี 20220 วัดภัททันตะอำสภำรำม วัดภัททันตะอาสภารามเป็นวัดปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนว มหาสติปัฏฐาน 4 โดยคณะศิษย์ได้จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2543ด้วยความ ศรัทธาอันมีต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระภัททันตะ อาสภมหาเถระ ธัมมาจริยะ อัคคมหากัมมัฏฐานาจริยะ ซึ่งได้ทำหน้าที่เป็นพระธรรมทูตจากประเทศพม่า เข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้านวิปัสสนาธุระในประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ.2496 จากการอาราธนาของคณะสงฆ์และรัฐบาลไทยในสมัยนั้น วัดภัททันตะอาสภารามได้รับการประกาศ ตั้งเป็นวัดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2546 โดยมีวัตถุประสงค์ในการตั้งวัด ดังนี้ - เพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน และประกาศเกียรติคุณของพระอาจารย์ใหญ่ให้เป็นที่ปรากฏ - เพื่อเผยแผ่วิปัสสนากรรมฐาน สานต่องานของพระอาจารย์ใหญ่ต่อไป - เพื่อเป็นวัดปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามนัยคัมภีร์มหาสติปัฏฐาน ๔ - เพื่อให้บริการ และเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่สาธุชนทั่วไป - เพื่อเป็นที่ฝึกปฏิบัติ และพัฒนาบุคลากรด้านวิปัสสนากรรมฐาน วัดนี้ได้รับการบริจาคที่ดินจำนวน ๒๗ ไร่ ๒ งาน จากนายสัตวแพทย์ จำเรือง พานเพียรศิลป์ อนึ่ง คุณเกษมศรี อนัมบุตร ได้ซื้อที่ดินซึ่งอยู่ติดกัน เพิ่มอีกจำนวน 2 ไร่ 86 ตารางวา และสร้าง เสาพระเจ้าอโศกมหาราช เพื่อแสดงถึงความมั่นคงของวัดในพระพุทธศาสนา ปัจจุบัน วัดภัททันตะอาสภารามได้ใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมพระสังฆาธิการสนองงานคณะสงฆ์ และเป็นสถานที่ ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของบุคลากรจากหน่วยราชการต่างๆ ตลอดจนฝึกอบรมวิปัสสนากรรมฐานแก่เยาวชนและ ประชาชนทั่วไป สามารถรองรับผู้เข้ามาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ได้ประมาณ 500 รูป/คน โดยมีพระครูภาวนา วราลังการ วิ. (สมศักดิ์ โสรโท) เป็นเจ้าอาวาส
วัดเขำแรด วัดเขำแรด ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ต.มำบไผ่ อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี วัดเขาแรดตั้งอยู่บนภูเขาเป็นวัดที่เงียบสงบเหมาะสำหรับมานั่งสมาธิเจริญภาวนา อากาศดีมาก
วัดมำบไผ่ วัดมำบไผ่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ต.มำบไผ่ อ.บ้ำนบึง จ.ชลบุรี วัดมาบไผ่
ที่ปรึกษำ นำงสำวพวงสุวรรณ์ พันธุ์มะม่วง ผู้อ ำนวยกำร สกร.อ ำเภอบ้ำนบึง นำงจันทนี กิ่งไทรงำม ครูช ำนำญกำรพิเศษ นำงสำวอิศรำภรณ์ สิริธนศักดิ์ ครู ผู้จัดท ำ นำงสำวอมรำ พวงภู่ ครูอำสำสมัครฯ นำงสำววันเพ็ญ โยโล ครูอำสำสมัครฯ นำงสำวขวัญศิริ พันธ์งำม บรรณำรักษ์ คณะผู้จัดท ำ