ผลการดำเนินงาน โครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ พนักงานขายสินค้าและบริการ วันที่ 18-23 กรกฎาคม 2565 ณ กศน.ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดชลบุรี
-กบทสรุปผู้บริหาร โครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ โดยมี วัตถุประสงค์ เพื่อฝึกอบรมภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพให้กับประชาชน และให้ประชาชนมี ความรู้พื้นฐานภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ซึ่งโครงการดำเนินการจัดในวันที่ 18-23 กรกฎาคม 2565 ณกศน.ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวนทั้งสิ้น 15 คน จากโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ พบว่า ประชาชนมีความรู้ ความรู้พื้นฐานภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน การดำเนินชีวิตได้ อยู่ในระดับ มากที่สุด เมื่อวิเคราะห์เป็นรายข้อพบว่า อันดับที่ 1 คือ วิทยากรมีความรู้ ความสามารถในการจัด กิจกรรม อันดับที่ 2 เทคนิค/กระบวนในการจัดกิจกรรมของวิทยากร เป็นอันดับที่ 3 การจัดกิจกรรมทำให้ผู้รับบริการสามารถ คิดเป็นทำเป็นแก้ปัญหาเป็น , ความพึงพอใจในภาพรวมของ ผู้รับบริการต่อการเข้าร่วมกิจกรรม อันดับที่ 4 สื่อ/เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม ,บุคลิกภาพของวิทยากร อันดับที่ 5 วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม อันดับที่ 6 ผู้รับบริการสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อันดับที่ 7 เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความ ต้องการของผู้รับบริการ , ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิด เห็นต่อการจัดทำหลักสูตร , สถานที่ใน การจัดกิจกรรมเหมาะสม มีค่าเท่ากันคือ อันดับที่ 8 กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ของหลักสูตร อันดับที่ 9 ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม ตามลำดับ
-ขคำนำ จากการที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ กศน.อำเภอสัตหีบ ได้จัดทำโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองต่อ นโยบายของสำนักงาน กศน. โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานภาษาต่างประเทศเพื่อการ สื่อสารด้านอาชีพและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ซึ่งโครงการดำเนินการจัดในวันที่ 18-23 กรกฎาคม 2565 ณ กศน. ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไป ได้ด้วยดี ซึ่งรายละเอียดผลการดำเนินงานต่างๆ ตลอดจนปัญหาและอุปสรรค ได้สรุปไว้แล้ว เพื่อรวบรวม กระบวนการดำเนินงาน ผลที่ได้นำไปใช้ ตลอดจนการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพวิถีชีวิต และการ ตอบสนองความต้องการของผู้เข้ารับการฝึกอบรม สุดท้ายคือ การนำไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริงและสามารถ แนะนำผู้อื่นได้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างต่อเนื่อง กศน.อำเภอสัตหีบ สิงหาคม 2565
-คสารบัญ หน้า บทสรุปผู้บริหาร..........................................................................................................................................ก คำนำ......................................................................................................................... ..................................ข สารบัญ....................................................................................................................... .................................ค สารบัญตาราง..............................................................................................................................................ง บทที่ 1 บทนำ.........................................................................................................................................1 ความเป็นมาและความสำคัญ......................................................................................................1 วัตถุประสงค์...............................................................................................................................1 เป้าหมาย....................................................................................................................................1 ระยะเวลาดำเนินงาน..................................................................................................................1 ผลลัพธ์.......................................................................................................................................1 ดัชนีวัดผลสำเร็จของโครงการ.....................................................................................................1 บทที่2 เอกสารการศึกษาและรายงานที่เกี่ยวข้อง.................................................................................3 ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน.ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ............3 กลยุทธ์การดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กศน.อำเภอสัตหีบ.........6 เอกสาร/งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง .......................................................................................................9 บทที่ 3 วิธีดำเนินงาน .............................................................................................................................24 ประชุมบุคลากรกรรมการสถานศึกษา.........................................................................................24 แต่งตั้งคณะทำงาน......................................................................................................................24 ดำเนินงานตามแผน ....................................................................................................................24 ประชากรที่ใช้ในการดำเนินงาน ..................................................................................................24 เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงาน...................................................................................................24 การเก็บรวบรวมข้อมูล................................................................................................................25 การวิเคราะห์ข้อมูล.....................................................................................................................25 บทที่ 4 ผลการดำเนินงานและการวิเคราะห์ข้อมูล................................................................................26 ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวผู้แบบสอบถามของผู้เข้ารับการอบรมในโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อ การสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ................................................................................26 ตอนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ พนักงานขายสินค้าและบริการ.................................................................................................................27
-คสารบัญ(ต่อ) หน้า บทที่ 5 สรุปผลการประเมิน อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ..................................................................29 สรุปผลการดำเนินงาน ................................................................................................................29 อภิปรายผล.................................................................................................................................29 ข้อเสนอแนะ...............................................................................................................................30 บรรณานุกรม...........................................................................................................................................31 ภาคผนวก................................................................................................................................................32
-งสารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามเพศ..................................................26 2 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอายุ..................................................26 3 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอาชีพ ...............................................27 4 ผลการประเมินโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้า และบริการ..............................................................................................................................27
บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญ ด้วยสำนักงาน กศน. ได้จัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 ตามโครงการ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้า ประจำปีงบประมาณ 2565 ให้แก่สำนักงาน กศน. จังหวัดทุกแห่ง/กทม. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดอบรมประชาชนตามโครงการภาษาอังกฤษเพื่อการ สื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้า ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงขอกำหนดแนว ทางการดำเนินงานดังนี้ แผนงานยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ งบ รายจ่ายอื่น รายการโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ โครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ วัตถุประสงค์ 1 เพื่อฝึกอบรมภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพให้กับประชาชน 2 เพื่อให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพและสามารถ นำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เป้าหมาย 4.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ - ประชาชนทั่วไป จำนวน 15 คน 4.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ - ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาพัฒนาคุณภาพชีวิต สื่อสาร ด้านอาชีพ มีความรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ และสามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ ระยะเวลาดำเนินงาน วันที่ 18-23 กรกฎาคม 2565 ณ กศน.ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ผลลัพธ์ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพให้กับพนักงานขาย ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ และสามารถนำความรู้ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ดัชนีวัดผลและความสำเร็จของโครงการ ททททท 1. ตัวชี้วัดผลผลิต (Outputs) - ร้อยละ 80 ของผู้ที่เข้าร่วมโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขาย สินค้าและบริการ ในระดับพอใช้ - ดี - ร้อยละ 80 มีความพึงพอใจในระดับมากขึ้นไป
2. ตัวชี้วัดผลลัพธ์ (Outcomes) - ประชาชน มีความพึงพอใจระดับมากขึ้นไป ต่อการดำเนินงานโครงการไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 - ประชาชน สามารถนำความรู้และประสบการณ์จากการที่ได้รับมาปรับใช้ในการใช้ ชีวิตประจำวัน 2
บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำรายงานโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและ บริการ ในครั้งนี้ ผู้จัดทำโครงการได้ทำการศึกษาค้นคว้าเนื้อหาจากเอกสารการศึกษาและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. นโยบายและจุดเน้นการดําเนินงาน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ททททท 2. แนวทาง/กลยุทธ์การดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของอำเภอสัตหีบ 3. เอกสาร/งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 1.นโยบายและจุดเน้นการดําเนินงาน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ได้กำหนดแผนแม่บทประเด็นการพัฒนาศักยภาพคน ตลอดช่วงชีวิต โดยมีแผนย่อยที่เกี่ยวข้องกับการใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนได้แก่ แผนย่อย ประเด็นการพัฒนาการเรียนรู้ และแผนย่อยประเด็นการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ที่มุ่งเน้นการสร้าง สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ การพัฒนาเด็กตั้งแต่ช่วงการตั้งครรภ์จนถึง ปฐมวัย การพัฒนาช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น การพัฒนาและยกระดับศักยภาพวัยแรงาน รวมถึงการส่งเสริมศักยภาพ วัยผู้สูงอายุ ประเด็นการพัฒนาการเรียนรู้ ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 และพหุปัญญาของ มนุษย์ที่หลากหลาย ประกอบกับแผนการปฏิรูป ประเทศด้านการศึกษา นโยบายรัฐบาลทั้งในส่วนนโยบายหลัก ด้านการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพ คนตลอดช่วงชีวิต และนโยบายเร่งด่วนเรื่องการ เตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ตลอดจนแผนพัฒนาประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2568) นโยบายและแผนระดับชาติ ว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2562 2568) โดยคาดหวังว่าการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ประชาชนจะได้รับ การพัฒนาการเรียนรู้ให้ เป็นคนดี คนเก่งมีคุณภาพ และมีความพร้อมร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน และกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดนโยบายและจุดเน้น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ขึ้น เพื่อเป็น เข็มมุ่ง ของหน่วยงานภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ ขับเคลื่อนการดําเนินงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของแผนต่าง ๆ ดังกล่าว สำนักงาน กศน. เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตระหนัก ถึงความสำคัญของการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต ได้มุ่งมั่นขับเคลื่อนภารกิจหลักตามแผนพัฒนา ประเทศ และนโยบาย และจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ที่คำนึงถึงหลักการบริหารจัดการทั้งในเรื่องหลัก ธรรมาภิบาล หลักการกระจายอำนาจ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การมุ่งเน้น ผลสัมฤทธิ์ และปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสาร การสร้างบรรยากาศในการทำงานและการเรียนรู้ ตลอดจนการใช้ ทรัพยากรด้านการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ โดยเน้น การพัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย ใน 4 ประเด็นใหญ่ ประกอบด้วย การ จัดการเรียนรู้คุณภาพ การสร้างสมรรถนะและทักษะคุณภาพ องค์กร สถานศึกษา และแหล่งเรียนรู้คุณภาพ และการบริหารจัดการคุณภาพ อันจะนําไปสู่การสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำ ทางการศึกษา การ ยกระดับคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสำหรับทุกกลุ่มเป้าหมาย และสร้างความพึงพอใจ ให้กับ ผู้รับริการ โดยได้กำหนดนโยบายและจุดเน้นการดําเนินงาน สำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ดังนี้
หลักการ กศน. เพื่อประชาชน “ก้าวใหม่ : ก้าวแห่งคุณภาพ” นโยบายและจุดเน้นการดําเนินงาน สำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 1. ด้านการจัดการเรียนรู้คุณภาพ 1.1 น้อมนําพระบรมราโชบายสู่การปฏิบัติ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการดําเนินงาน โครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดําริทุกโครงการ และโครงการอันเกี่ยวเนื่องจากราชวงศ์ 1.2 ขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ที่สนองตอบยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายของรัฐมนตรีว่าการ และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 1.3 ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคง การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ในการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย การเรียนรู้ที่ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะ และอุดมการณ์ ความยึด มั่นในสถาบันหลักของชาติ รวมถึงการมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมต่างๆ 1.4 ปรับปรุงหลักสูตรทุกระดับทุกประเภทให้สอดรับกับการพัฒนาคน ทิศทางการพัฒนาประเทศ สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลง ความต้องการและความหลากหลายของผู้เรียน/ผู้รับบริการ รวมถึงปรับลด ความหลากหลายและความซ้ำซ้อนของหลักสูตร เช่น หลักสูตรการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายบนพื้นที่สูง พื้นที่พิเศษ และพื้นที่ชายแดน รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ 1.5 ปรับระบบทดสอบ วัดผล และประเมินผล โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือให้ผู้เรียน สามารถเข้าถึงการประเมินผลการเรียนรู้ได้ตามความต้องการ เพื่อการสร้างโอกาสในการเรียนรู้ ให้ความสำคัญ กับ การเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ พัฒนาระบบการประเมินสมรรถนะ ผู้เรียน ให้ตอบโจทย์การประเมินในระดับประเทศและระดับสากล เช่น การประเมินสมรรถภาพผู้ใหญ่ ตลอดจนกระจายอำนาจ ไปยังพื้นที่ในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1.6 ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการจัดหลักสูตรการเรียนรู้ในระบบออนไลน์ด้วยตนเองครบวงจร ตั้งแต่การลงทะเบียนจนการประเมินผลเมื่อจบหลักสูตร ทั้งการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษา ต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อเป็นการสร้างและขยายโอกาสในการเรียนรู้ให้กับ กลุ่มเป้าหมายที่สามารถเรียนรู้ ได้สะดวก และตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียน 1.7 พัฒนา Digital Learning Platform แพลตฟอร์มการเรียนรู้ของสำนักงาน กศน. ตลอดจน พัฒนา สื่อการเรียนรู้ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ และให้มีคลังสื่อการเรียนรู้ที่เป็นสื่อที่ถูกต้องตามกฎหมาย ง่ายต่อการสืบค้นและนําไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ 1.8 เร่งดำเนินการเรื่อง Academic Credit-bank System ในการสะสมและเทียบโอนหน่วยกิต เพื่อ การสร้างโอกาสในการศึกษา 1.9 พัฒนาระบบนิเทศการศึกษา การกำกับ ติดตาม ทั้งในระบบ On-Site และ Online รวมทั้ง ส่งเสริมการวิจัยเพื่อเป็นฐานในการพัฒนาการดําเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย 2. ด้านการสร้างสมรรถนะและทักษะคุณภาพ 2.1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิตที่เน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับแต่ละช่วงวัย และ การจัดการศึกษาและการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายและบริบทพื้นที่ 2.2 พัฒนาหลักสูตรอาชีพระยะสั้นที่เน้น New skill Up skill และ Re skill ที่สอดคล้องกับบริบท พื้นที่ ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ความต้องการของตลาดแรงงาน และกลุ่มอาชีพใหม่ที่รองรับ Disruptive Technology 4
2.3 ยกระดับผลิตภัณฑ์ สินค้า บริการจากโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ที่เน้น “ส่งเสริมความรู้ สร้าง อาชีพ เพิ่มรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี” ให้มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของตลาด ต่อยอดภูมิปัญญา ท้องถิ่น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม พัฒนาสู่วิสาหกิจชุมชน ตลอดจนเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์และช่องทางการ จําหน่าย 2.4 ส่งเสริมการจัดการศึกษาของผู้สูงอายุเพื่อให้เป็น Active Ageing Workforce และมี Life Skill ในการดำรงชีวิตที่เหมาะกับช่วงวัย 2.5 ส่งเสริมการจัดการศึกษาที่พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับกลุ่มเป้าหมายพิเศษ เช่น ผู้พิการ ออทิสติก เด็กเร่ร่อน และผู้ด้อยโอกาสอื่นๆ 2.6 ส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัลและทักษะด้านภาษาให้กับบุคลากร กศน. และผู้เรียนเพื่อรองรับ การพัฒนาประเทศ 2.7 ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมของผู้เรียน กศน. 2.8 สร้าง อาสาสมัคร กศน. เพื่อเป็นเครือข่ายในการส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษาตลอดชีวิต ใน ชุมชน 2.9 ส่งเสริมการสร้างและพัฒนานวัตกรรมของบุคลากร กศน. รวมทั้งรวบรวมและเผยแพร่เพื่อให้ หน่วยงาน / สถานศึกษา นําไปใช้ในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน 3. ด้านองค์กร สถานศึกษา และแหล่งเรียนรู้คุณภาพ 3.1 ทบทวนบทบาทหน้าที่ของหน่วยงาน สถานศึกษา เช่น สถาบัน กศน.ภาค สถาบันการศึกษา และ พัฒนาต่อเนื่องสิรินธร สถานศึกษาขึ้นตรงสังกัดส่วนกลาง กลุ่มสำนักงาน กศน.จังหวัด ศูนย์ฝึกและพัฒนา ราษฎรไทย บริเวณชายแดน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในพื้นที่ 3.2 ยกระดับมาตรฐาน กศน.ตำบล และศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” (ศศช.) ให้ เป็นพื้นที่การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สำคัญของชุมชน 3.3 ปรับรูปแบบกิจกรรมในห้องสมุดประชาชน ที่เน้น Library Delivery เพื่อเพิ่มอัตราการอ่าน และ การรู้หนังสือของประชาชน 3.4 ให้บริการวิทยาศาสตร์เชิงรุก Science@home โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือนําวิทยาศาสตร์ สู่ชีวิตประจำวันในทุกครอบครัว 3.5 ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ ในรูปแบบ Public Learning Space/ Co- (eaming Space เพื่อการสร้างนิเวศการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นสังคม 3.6 ยกระดับและพัฒนาศูนย์ฝึกอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน ให้เป็นสถาบันพัฒนาอาชีพระดับภาค 3.7 ส่งเสริมและสนับสนุนการดําเนินงานของกลุ่ม กศน. จังหวัดให้มีประสิทธิภาพ 4. ด้านการบริหารจัดการคุณภาพ 4.1 ขับเคลื่อนกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตลอดจนทบทวนภารกิจบทบาท โครงสร้างของหน่วยงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงตามกฎหมาย 4.2 ปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง และข้อบังคับต่าง ๆ ให้มีความทันสมัย เอื้อต่อการบริหาร จัดการ และการจัดการเรียนรู้ เช่น การปรับหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายในการจัดหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่อง 4.3 ปรับปรุงแผนอัตรากําลัง รวมทั้งกำหนดแนวทางที่ชัดเจนในการนําคนเข้าสู่ตำแหน่ง การย้าย โอน และการเลื่อนระดับ 4.4 ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทุกระดับให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานตำแหน่งให้ตรงกับ สาย งาน และทักษะที่จําเป็นในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ 5
4.5 ปรับปรุงระบบการจัดสรรทรัพยากรเพื่อการศึกษาให้มีความครอบคลุม เหมาะสม เช่น การปรับ ค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาของผู้พิการ เด็กปฐมวัย 4.6 ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ เช่น ข้อมูล การรายงานผลการดําเนินงาน ข้อมูลเด็กตกหล่นจากการศึกษาในระบบ เด็กเร่ร่อน ผู้พิการ 4.7 ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการอย่างเต็มรูปแบบ 4.8 ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐสู่ระบบราชการ 4.0 และการประเมินคุณภาพ และความโปร่งใสการดําเนินงานของภาครัฐ (ITA) 4.9 เสริมสร้างขวัญและกําลังใจให้กับข้าราชการและบุคลากรทุกประเภทในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ประกาศ เกียรติคุณ การมอบโล่ / วุฒิบัตร 4.10 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความพร้อมในการจัดการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชน 2. แนวทาง/กลยุทธ์การดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของ กศน. อำเภอสัตหีบ ปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจ กศน.อำเภอสัตหีบ ปรัชญา “คิดเป็น ทำเป็น เน้นคุณธรรม” วิสัยทัศน์ ภายในปี 2565 ผู้เรียน/ผู้รับบริการของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ สัตหีบ มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ใช้แหล่งเรียนรู้โดยเครือข่ายมีส่วนร่วม พันธกิจ 1. ออกแบบการจัดการกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับหลักสูตร 2. จัดระบบสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้และการบริหารการศึกษา 3. พัฒนาบุคลากรด้านการออกแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้/สื่อ/การประเมินผล 4. ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายและชุมชนในการจัดกิจกรรมการศึกษา ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ได้กำหนดแผนแม่บทประเด็นการพัฒนาศักยภาพคน ตลอดช่วงชีวิต โดยมีแผนย่อยที่เกี่ยวข้องกับการใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนได้แก่ แผนย่อย ประเด็นการพัฒนาการเรียนรู้ และแผนย่อยประเด็นการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ที่มุ่งเน้นการสร้าง สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ การพัฒนาเด็กตั้งแต่ช่วงการตั้งครรภ์จนถึง ปฐมวัย การพัฒนาช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น การพัฒนาและยกระดับศักยภาพวัยแรงาน รวมถึงการส่งเสริมศักยภาพ วัยผู้สูงอายุ ประเด็นการพัฒนาการเรียนรู้ ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 และพหุปัญญาของ มนุษย์ที่หลากหลาย ประกอบกับแผนการปฏิรูป ประเทศด้านการศึกษา นโยบายรัฐบาลทั้งในส่วนนโยบายหลัก ด้านการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาศักยภาพ คนตลอดช่วงชีวิต และนโยบายเร่งด่วนเรื่องการ เตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ตลอดจนแผนพัฒนาประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2568) นโยบายและแผนระดับชาติ ว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2562 2568) โดยคาดหวังว่าการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ประชาชนจะได้รับ การพัฒนาการเรียนรู้ให้ เป็นคนดี คนเก่งมีคุณภาพ และมีความพร้อมร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน และกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดนโยบายและจุดเน้น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ขึ้น 6
เพื่อเป็น เข็มมุ่งของหน่วยงานภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ ขับเคลื่อนการดําเนินงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ของแผนต่าง ๆ ดังกล่าว กศน.อำเภอสัตหีบ เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย ตระหนัก ถึงความสำคัญของการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต ได้มุ่งมั่นขับเคลื่อนภารกิจหลักตาม แผนพัฒนาประเทศ และนโยบาย และจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ที่คำนึงถึงหลักการบริหารจัดการทั้งใน เรื่องหลักธรรมาภิบาล หลักการกระจาย อำนาจ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ และปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสาร การสร้างบรรยากาศในการทำงานและการเรียนรู้ ตลอดจนการใช้ทรัพยากรด้านการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ โดยเน้น การพัฒนาคุณภาพการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย ใน 4 ประเด็นใหญ่ ประกอบด้วย การจัดการเรียนรู้คุณภาพ การสร้างสมรรถนะและทักษะคุณภาพ องค์กร สถานศึกษา และแหล่ง เรียนรู้คุณภาพ และการบริหารจัดการคุณภาพ อันจะนําไปสู่การสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำ ทาง การศึกษา การยกระดับคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสำหรับทุกกลุ่มเป้าหมาย และสร้างความ พึงพอใจ ให้กับผู้รับริการ โดยได้กำหนดนโยบายและจุดเน้นการดําเนินงาน สำนักงาน กศน. ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2565 ดังนี้ หลักการ กศน. เพื่อประชาชน “ก้าวใหม่ : ก้าวแห่งคุณภาพ” นโยบายและจุดเน้นการดําเนินงาน สำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 1. ด้านการจัดการเรียนรู้คุณภาพ 1.1 กศน.อำเภอสัตหีบ น้อมนําพระบรมราโชบายสู่การปฏิบัติ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการ ดําเนินงานโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดําริทุกโครงการ และโครงการอันเกี่ยวเนื่องจากราชวงศ์ 1.2 กศน.อำเภอสัตหีบ ขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ที่สนองตอบยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 1.3 กศน.อำเภอสัตหีบ ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคง การสร้างความเข้าใจที่ ถูกต้อง ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย การเรียนรู้ที่ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะ และอุดมการณ์ ความยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ รวมถึงการมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมต่างๆ 1.4 กศน.อำเภอสัตหีบ ปรับปรุงหลักสูตรทุกระดับทุกประเภทให้สอดรับกับการพัฒนาคน ทิศทางการ พัฒนาประเทศ สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลง ความต้องการและความหลากหลายของผู้เรียน/ผู้รับบริการ รวมถึงปรับลด ความหลากหลายและความซ้ำซ้อนของหลักสูตร เช่น หลักสูตรการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมาย บนพื้นที่สูง พื้นที่พิเศษ และพื้นที่ชายแดน รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ 1.5 กศน.อำเภอสัตหีบ ปรับระบบทดสอบ วัดผล และประเมินผล โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีเป็น เครื่องมือให้ผู้เรียน สามารถเข้าถึงการประเมินผลการเรียนรู้ได้ตามความต้องการ เพื่อการสร้างโอกาสในการ เรียนรู้ ให้ความสำคัญกับ การเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ พัฒนาระบบ การประเมินสมรรถนะผู้เรียน ให้ตอบโจทย์การประเมินในระดับประเทศและระดับสากล เช่น การประเมิน สมรรถภาพผู้ใหญ่ ตลอดจนกระจายอำนาจ ไปยังพื้นที่ในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1.6 กศน.อำเภอสัตหีบ ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการจัดหลักสูตรการเรียนรู้ในระบบออนไลน์ด้วย ตนเองครบวงจร ตั้งแต่การลงทะเบียนจนการประเมินผลเมื่อจบหลักสูตร ทั้งการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษา ต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อเป็นการสร้างและขยายโอกาสในการ เรียนรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่สามารถเรียนรู้ ได้สะดวก และตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียน 7
1.7 กศน.อำเภอสัตหีบ พัฒนา Digital Learning Platform แพลตฟอร์มการเรียนรู้ของสำนักงาน กศน. ตลอดจน พัฒนาสื่อการเรียนรู้ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ และให้มีคลังสื่อการเรียนรู้ที่เป็นสื่อที่ ถูกต้องตามกฎหมาย ง่ายต่อการสืบค้นและนําไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ 1.8 กศน.อำเภอสัตหีบ เร่งดำเนินการเรื่อง Academic Credit-bank System ในการสะสมและเทียบ โอนหน่วยกิต เพื่อการสร้างโอกาสในการศึกษา 1.9 กศน.อำเภอสัตหีบ พัฒนาระบบนิเทศการศึกษา การกำกับ ติดตาม ทั้งในระบบ On-Site และ Online รวมทั้ง ส่งเสริมการวิจัยเพื่อเป็นฐานในการพัฒนาการดําเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย 2. ด้านการสร้างสมรรถนะและทักษะคุณภาพ 2.1 กศน.อำเภอสัตหีบ ส่งเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิตที่เน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับ แต่ละช่วงวัย และการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายและบริบทพื้นที่ 2.2 กศน.อำเภอสัตหีบ พัฒนาหลักสูตรอาชีพระยะสั้นที่เน้น New skill Up skill และ Re skill ที่ สอดคล้องกับบริบท พื้นที่ ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ความต้องการของตลาดแรงงาน และกลุ่มอาชีพ ใหม่ที่รองรับ Disruptive Technology 2.3 กศน.อำเภอสัตหีบ ยกระดับผลิตภัณฑ์ สินค้า บริการจากโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ที่เน้น “ส่งเสริมความรู้ สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี” ให้มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของตลาด ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม พัฒนาสู่วิสาหกิจชุมชน ตลอดจนเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์และ ช่องทางการจําหน่าย 2.4 กศน.อำเภอสัตหีบ ส่งเสริมการจัดการศึกษาของผู้สูงอายุเพื่อให้เป็น Active Ageing Workforce และมี Life Skill ในการดำรงชีวิตที่เหมาะกับช่วงวัย 2.5 กศน.อำเภอสัตหีบ ส่งเสริมการจัดการศึกษาที่พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับกลุ่มเป้าหมายพิเศษ เช่น ผู้พิการ ออทิสติก เด็กเร่ร่อน และผู้ด้อยโอกาสอื่นๆ 2.6 กศน.อำเภอสัตหีบ ส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัลและทักษะด้านภาษาให้กับบุคลากร กศน. และ ผู้เรียนเพื่อรองรับ การพัฒนาประเทศ 2.7 กศน.อำเภอสัตหีบ ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมของผู้เรียน กศน. 2.8 กศน.อำเภอสัตหีบ สร้าง อาสาสมัคร กศน. เพื่อเป็นเครือข่ายในการส่งเสริม สนับสนุนการจัด การศึกษาตลอดชีวิต ในชุมชน 2.9 กศน.อำเภอสัตหีบส่งเสริมการสร้างและพัฒนานวัตกรรมของบุคลากร กศน. รวมทั้งรวบรวมและ เผยแพร่เพื่อให้ หน่วยงาน / สถานศึกษา นําไปใช้ในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน 3. ด้านองค์กร สถานศึกษา และแหล่งเรียนรู้คุณภาพ 3.1 กศน.อำเภอสัตหีบ ทบทวนบทบาทหน้าที่ของหน่วยงาน สถานศึกษา เช่น สถาบัน กศน.ภาค สถาบันการศึกษา และพัฒนาต่อเนื่องสิรินธร สถานศึกษาขึ้นตรงสังกัดส่วนกลาง กลุ่มสำนักงาน กศน.จังหวัด ศูนย์ฝึกและพัฒนาราษฎรไทย บริเวณชายแดน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาตลอด ชีวิตในพื้นที่ 3.2 กศน.อำเภอสัตหีบ ยกระดับมาตรฐาน กศน.ตำบล และศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ ฟ้าหลวง” (ศศช.) ให้เป็นพื้นที่การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สำคัญของชุมชน 3.3 กศน.อำเภอสัตหีบ ปรับรูปแบบกิจกรรมในห้องสมุดประชาชน ที่เน้น Library Delivery เพื่อเพิ่ม อัตราการอ่าน และการรู้หนังสือของประชาชน 8
3.4 กศน.อำเภอสัตหีบ ให้บริการวิทยาศาสตร์เชิงรุก Science@home โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ นําวิทยาศาสตร์ สู่ชีวิตประจำวันในทุกครอบครัว 3.5 กศน.อำเภอสัตหีบ ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ ในรูปแบบ Public Learning Space/ Co- (eaming Space เพื่อการสร้างนิเวศการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นสังคม 3.6 กศน.อำเภอสัตหีบ ยกระดับและพัฒนาศูนย์ฝึกอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน ให้เป็นสถาบัน พัฒนาอาชีพระดับภาค 3.7 กศน.อำเภอสัตหีบส่งเสริมและสนับสนุนการดําเนินงานของกลุ่ม กศน. จังหวัดให้มีประสิทธิภาพ 4. ด้านการบริหารจัดการคุณภาพ 4.1 กศน.อำเภอสัตหีบ ขับเคลื่อนกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตลอดจนทบทวน ภารกิจบทบาท โครงสร้างของหน่วยงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงตามกฎหมาย 4.2 กศน.อำเภอสัตหีบ ปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง และข้อบังคับต่าง ๆ ให้มีความทันสมัย เอื้อ ต่อการบริหาร จัดการ และการจัดการเรียนรู้ เช่น การปรับหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายในการจัดหลักสูตรการศึกษา ต่อเนื่อง 4.3 กศน.อำเภอสัตหีบ ปรับปรุงแผนอัตรากําลัง รวมทั้งกำหนดแนวทางที่ชัดเจนในการนําคนเข้าสู่ ตำแหน่ง การย้าย โอน และการเลื่อนระดับ 4.4 กศน.อำเภอสัตหีบิส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทุกระดับให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐาน ตำแหน่งให้ตรงกับ สายงาน และทักษะที่จําเป็นในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ 4.5 กศน.อำเภอสัตหีบ ปรับปรุงระบบการจัดสรรทรัพยากรเพื่อการศึกษาให้มีความครอบคลุม เหมาะสม เช่น การปรับ ค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาของผู้พิการ เด็กปฐมวัย 4.6 กศน.อำเภอสัตหีบ ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการอย่าง เป็นระบบ เช่น ข้อมูล การรายงานผลการดําเนินงาน ข้อมูลเด็กตกหล่นจากการศึกษาในระบบ เด็กเร่ร่อน ผู้ พิการ 4.7 กศน.อำเภอสัตหีบ ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการอย่าง เต็มรูปแบบ 4.8 กศน.อำเภอสัตหีบ ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐสู่ระบบราชการ 4.0 และการ ประเมินคุณภาพ และความโปร่งใสการดําเนินงานของภาครัฐ (ITA) 4.9 กศน.อำเภอสัตหีบ เสริมสร้างขวัญและกําลังใจให้กับข้าราชการและบุคลากรทุกประเภทใน รูปแบบต่าง ๆ เช่น ประกาศ เกียรติคุณ การมอบโล่ / วุฒิบัตร 4.10 กศน.อำเภอสัตหีบ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความพร้อมใน การจัดการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับ ประชาชน 3. เอกสาร/งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ความหมายของทักษะการพูดภาษาอังกฤษ การพูดภาษาอังกฤษมิใช่เพียงความสามารถทางการ ออกเสียงให้ถูกต้องตามโครงสร้างทาง ไวยากรณ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสื่อสารถ้อยคำไปยังผู้รับสารให้รับรู้ ความรู้สึกนึกคิด สาระข่าวสาร ใช้น้ำเสียงหรือกิริยาอาการ ผู้พูดต้องมีทักษะความรู้ด้านการออกเสียง คำศัพท์ กฎการใช้ทางไวยากรณ์เข้าใจวัฒนธรรมทางภาษา และผู้พูดต้องมีทักษะการใช้กลวิธีการพูดเพื่อการสื่อสารได้ อย่างมีประสิทธิภาพ William Litterwood4 ได้อธิบายว่า การพูดหมายถึงการแลกเปลี่ยนข่าวสารต่างๆ ระหว่าง บุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยมีผู้พูดและผู้ฟัง ผู้พูดจำเป็นต้องพูดให้ผู้ฟังเข้าใจความหมายที่ผู้พูดต้องการ จะสื่อ 9
ดังนั้นจึงต้องพูดให้ถูกต้องตามหลักภาษา และใช้คำพูดที่เหมาะสมรวมถึงพูดได้ถูกต้องตาม สถานการณ์ นอกจากนั้นยังได้ให้ความหมายของการพูดเพื่อการสื่อสารว่ามิได้เป็นเพียงการออกเสียงคำ และการออกเสียงสูง ต่ำในประโยคเท่านั้น แต่เป็นการพูดตามหน้าที่ของภาษา การทำให้ผู้อื่นเข้าใจ จุดประสงค์ในสิ่งที่ผู้พูดพูด และ การพูดของผู้ที่มีความสามารถในระดับที่สูงขึ้นไป ยังต้องมีการเลือกใช้สำนวนภาษาที่ถูกต้อง เหมาะสม และเป็น ที่ยอมรับของเจ้าของภาษาด้วยได้ให้ความหมายว่าทักษะการ พูดคือคำพูดที่เกิดจากความตั้งใจของผู้พูดและ ก่อให้เกิดสัมฤทธิ์ผลอย่างใดอย่างหนึ่งตามแต่สถานการณ์ในการสื่อสาร กล่าวโดยสรุปการพูดจึงหมายถึงการ สนทนาระหว่างบุคคลสองคนขึ้นไป โดยถ่ายทอดความคิด แลกเปลี่ยนข่าวสารโดยใช้ภาษาและท่าทางที่ถูกต้อง เหมาะสมกับสถานการณ์ ต้องมีองค์ประกอบแยกย่อยเช่น รู้คำศัพท์ที่เหมาะสม ใช้หลักไวยากรณ์และรูปแบบ ประโยคอย่างถูกต้อง ออกเสียงและ เน้นเสียงได้ถูก และเข้าใจวัฒนธรรมของการพูดหรือวัฒนธรรมทางภาษา องค์ประกอบของทักษะการพูดภาษาอังกฤษ องค์ประกอบของการพูดที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ 4 องค์ประกอบ ดังนี้ 1. ต้องมีความรู้ด้านไวยากรณ์หรือโครงสร้าง (grammatical competence) หมายถึง ความรู้ด้าน ภาษา ได้แก่ ความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ โครงสร้างของคำ ประโยค ตลอดจนการสะกดและการ ออกเสียง 2. ต้องมีความรู้ด้านสังคม (sociolinguistic competence) หมายถึงการใช้คำ และโครงสร้าง ประโยคได้เหมาะสมตามบริบทของสังคม เช่น การขอโทษ การขอบคุณ การถามทิศทางและข้อมูล ต่าง ๆ และ การใช้ประโยคคำสั่ง เป็นต้น 3. ต้องมีความรู้ในการใช้โครงสร้างภาษาเพื่อสื่อความหมายด้านการพูด และเขียน (discourse competence) หมายถึง ความสามารถในการเชื่อมระหว่างโครงสร้างภาษา (grammatical form) กับ ความหมาย (meaning) ในการพูดและเขียนตามรูปแบบ และสถานการณ์ที่แตกต่างกัน 4. ต้องมีความรู้ในการใช้กลวิธีในการสื่อความหมาย (strategic competence) หมายถึง การใช้ เทคนิคเพื่อให้การติดต่อสื่อสารประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการสื่อสารด้านการพูด เช่น การ ใช้ภาษาท่าทาง (body language) การขยายความโดยใช้คำศัพท์อื่นแทนคำที่ผู้พูดนึกไม่ออก 5 เป็นต้น ทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดขึ้นจากความพยายาม ที่ชาญ ฉลาด ทั้งนี้ผู้สอนภาษาอังกฤษจะต้องเข้าใจธรรมชาติและเข้าใจกลวิธีที่การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อใช้เป็น เครื่องมือสำคัญในการพัฒนาทักษะและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในระหว่างที่สื่อสารภาษา เป้าหมายได้ ความหมายของกลวิธีการสื่อสาร ผู้พูดสามารถใช้ภาษาพูดติดต่อสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าผู้พูดมีความสามารถด้านการใช้กลวิธี ทางการสื่อสาร (Communication strategies) ทั้งแบบใช้คำพูดและแบบที่ไม่ใช้คำพูดมาชดเชย ความ ล้มเหลวในการสื่อสารซึ่งมีผลมาจากตัวแปรต่างๆในการใช้ภาษา ได้แก่ ความขาดทักษะด้านภาษา ความไม่ แน่ใจของผู้พูด การไม่รู้คำศัพท์ที่จะใช้เรียก ขาดความรู้ไวยากรณ์ เป็นต้น ความหมายของกลวิธีเพื่อการสื่อสาร สามารถจำแนกออกเป็นสองแนวคิดหลังที่สำคัญได้ ดังนี้แนวคิดแรก เน้นการแก้ไขปัญหาในการสื่อสารเป็น หลัก หมายถึงการที่ผู้ใช้เทคนิควิธีการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหา หรืออุปสรรคที่เกิดขึ้นในขณะที่พูดในสถานการณ์ ต่างๆ ซึ่งเป็นความยากลำบากใน การพูดภาษาเป้าหมาย เนื่องจากขาดความรู้ทางด้านคำศัพท์ โครงสร้าง ไวยากรณ์ หรือวัฒนธรรมของ ผู้พูดเอง จึงจำเป็นต้องใช้กลวิธีทางการสื่อสารเข้าไปแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อย่างฉับพลัน นอกจากนั้น นักภาษาศาสตร์เชิงจิตวิทยา (psycholinguistics) ได้พูดถึง กลวิธีเพื่อการสื่อสาร เป็นการวางแผนของ ผู้พูดเพื่อแก้ไขปัญหาการไม่รู้คำศัพท์ รู้โครงสร้างไวยากรณ์ และวัฒนธรรมทางภาษา โดย ผู้พูดอาจ ทำไปโดยไม่รู้สึกตัว ปัญหาของการสื่อสารอาจจะเป็นปัญหาของผู้พูดฝ่ายเดียวโดยไม่จำเป็นต้อง 10
เกิดขึ้นระหว่างการสนทนากับคู่สนทนา แนวคิดที่สอง เน้นการสื่อสารในสถานการณ์ทั่วไป โดยไม่ได้คำนึงว่าจะ เกี่ยวข้องกับการแก้ไข อุปสรรคทางการศึกษาหรือไม่ กลวิธีเพื่อการสื่อสารในแนวคิดนี้ หมายถึงการที่ผู้พูด พยายามใช้เทคนิค หรือวิธีการต่างๆ ในการสื่อสารเพื่อให้เกิดการต่อรองความหมาย ให้เข้าใจตรงกัน ใน ปัจจุบันนี้ผู้เรียนและนักวิจัยทางการเรียนการสอนภาษาที่สองกำลังให้ความสนใจกับ กระบวนการเรียน (learning process) มากกว่าผลของการเรียน (learning product) และให้ความ สำคัญที่พฤติกรรมของ ผู้เรียนมากกว่าพฤติกรรมของครู ให้ความสนใจทักษะการสื่อสารทางภาษา มากกว่าความสามารถทาง ไวยากรณ์ ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้กลวิธีการสื่อสาร ในทางภาษาศาสตร์และการเรียนการสอนภาษาอังกฤษพบว่ามีหลายปัจจัยที่มีผลต่อกลวิธีการสื่อสาร ของผู้เรียนภาษา เช่น ปัจจัยด้านกลวิธีการเรียน ด้านการคิด แรงจูงใจ กิจกรรม ความรู้เกี่ยวกับวิธีการสื่อสาร ความตระหนักถึงความแตกต่างของภาษาแม่ (mother tongue) และภาษา ที่สอง (second language) หรือ การสอนกลวิธีทางการสื่อสาร แต่ปัจจัยที่มีผลกระทบอย่างยิ่งต่อตัว ผู้เรียนที่สำคัญ ได้แก่ 1. ความสามารถทางภาษา (language proficiency) การใช้กลวิธีทางการสื่อสารของผู้มี ความสามารถทางภาษาของผู้เรียนเป็นปัจจัยที่มีผลต่อประเภทความถี่และประสิทธิภาพขอการใช้กลวิธี ทางการสื่อสาร ดังนี้ 1.1ความสามารถของผู้เรียนมีผลต่อความถี่ของการใช้กลวิธีในการสื่อสาร กล่าวคือผู้ที่ มี ความสามารถทางภาษาสูงใช้กลวิธีทางการสื่อสารในความถี่ที่น้อย ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้ที่มีความสามารถ ทาง การศึกษาต่ำ เนื่องจากกลวิธีทางการสื่อสารนั้นใช้เพื่อชดเชยความรู้ด้านคำศัพท์และไวยากรณ์ใน ภาษาเป้าหมายที่ไม่เพียงพอ 1.2 ของผู้เรียนมีผลต่อประเภทของการใช้กลวิธีในการสื่อสาร กล่าวคือ ผู้ที่มีความสามารถทาง ภาษาสูงใช้กลวิธีทางการสื่อสารในการสื่อสารที่มีพื้นฐานภาษามากกว่าผู้ที่มีความสามารถทางภาษาต่ำ ผู้ที่มี ความสามารถทางภาษาสูงมักสามารถควบคุมความรู้ทางภาษาเป้าหมาย ของตนเองได้ 1.3 ความสามารถทางภาษาของผู้เรียนมีผลต่อประสิทธิภาพของการใช้กลวิธีในการสื่อสาร กล่าวคือ ผู้ที่มีความสามารถทางภาษาสูงใช้กลวิธีที่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการสื่อสารภาษามากกว่า ผู้ที่มี ความสามารถทางภาษาต่ำ ผู้ที่มีความสามารถด้านการใช้ภาษา มักมีประสิทธิภาพในการสื่อสาร ความหมาย ของคำศัพท์ที่เหมาะสมและชัดเจน ตรงไปตรงมา 2. ความรู้ทั่วไป (World knowledge) ความรู้ทั่วไปมีผลต่อการใช้กลวิธีในการสื่อสาร กล่าวคือ ผู้เรียน ที่มีความรู้ทั่วไปดีจะสามารถ นำความรู้นั้นมาใช้กับการแก้ปัญหาที่เป็นสาเหตุจากการขาดความรู้ทางภาษาได้ 3. ภาระงาน (Tasks) ความแตกต่างของภาระงานที่กำหนดให้ผู้เรียนทำอาจมีอิทธิพลต่อการเลือกใช้ กลวิธีการ สื่อสารชนิดใดชนิดหนึ่งโดยเฉพาะ ดังนั้น ภาระงานคือ แผนงานที่สร้างขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ ใช้ความรู้ความสามารถในการสื่อสารภาษาใหม่ๆ ทั้งนี้ภาระงานเพื่อการสื่อสารจะต้องมีจุดประสงค์เพื่อ การ สื่อสาร ต้องเน้นความหมายทางไวยากรณ์ ต้องมีช่องว่างทางการสื่อสาร หรือมีปัญหาที่ทำให้ผู้เรียน พยายาม แก้ไข ต้องเปิดให้มีการเจรจาหรือแลกเปลี่ยนการสื่อสารจริง ประเภทของกลวิธีการสื่อสาร กลวิธีทางการ สื่อสารมีหลายประเภทที่ผู้พูดได้พยายามใช้ในการสื่อสารเพื่อให้เกิดการเข้าใจ ความหมายที่ตรงกันในการ สนทนา เป็นการพูดในสถานการณ์ต่างๆ หรือแก้ไขอุปสรรคทางภาษาต่างๆ มีผู้วิจัยพยายามสร้างกลวิธีทางการ สื่อสารต่างๆ มากมายสามารถสรุปโดยรวมแบ่งออกเป็นสอง ประเภทใหญ่ๆ คือ ประเภทแรกกลวิธีทำให้สำเร็จ (Achievement Strategy) คือกลวิธีที่ผู้พูดใช้วิธีการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะที่พูด เพื่อให้การ สื่อสารยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่ติดขัด เช่น กลวิธีใช้คำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน กลวิธีอธิบายความ กลวิธี สร้างคำใหม่ หรือกลวิธีกล่าวซ้ำประเภทที่สองกลวิธีหลีกเลี่ยงหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากลวิธีตัดทอน (Avoidance Strategy or Reduction Strategy) เป็นกลวิธีที่ใช้ในการหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในขณะที่ 11
พูดในภาษาเป้าหมาย ด้วยการละทิ้งข้อมูล หรือเปลี่ยนเรื่องพูดไปพูดในเรื่องที่ตนเองพูดได้หรือมีความชำนาญ การนำกลวิธีการสื่อสารภาษาอังกฤษไปใช้กลวิธีการสื่อสารเพื่อการพูดภาษาอังกฤษ หมายถึงวิธีต่างๆ ที่ผู้พูด สามารถนำใช้ในการสื่อสาร เพื่อให้เกิดการต่อรอง เป็นการพูดเพื่อสื่อความหมายในสถานการต่างๆ โดยใช้ แนวคิดของนักวิชาการ ด้านการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดยกลวิธีทางการสื่อสารที่ผู้พูดใช้จะครอบคลุมทั้ง ๑๒ กลวิธีที่ สำคัญ ดังนี้ 1. การพูดภาษาอังกฤษภาษาแม่ปนกับภาษาเป้าหมาย (First Language-Switch Strategy) เป็น กลวิธีที่ผู้พูดใช้ภาษาแม่ปนกับภาษาเป้าหมายโดยที่ผู้พูดใช้คำศัพท์ภาษามาทับศัพท์ภาษาเป้าหมาย เป็น ลักษณะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เช่น ใช้คำว่า “Muay Thai” แทนคำว่า “Thai boxing” 2. กลวิธีการพูดแบบแปลคำต่อคำ (Literal Translation Strategy) เป็นวิธีที่ผู้พูดใช้วิธีเรียงคำหรือ กลุ่มคำ ตามลักษณะประโยคของภาษาแม่ โดยใช้วิธีแปลคำต่อคำ หรือใช้โครงสร้าง ทางไวยากรณ์เหมือนภาษา แม่ เนื่องจากผู้พูดขาดความชำนาญ หรือมีความรู้ในภาษาเป้าหมายที่จำกัด เช่น ใช้คำว่า place du feu ใน ภาษาฝรั่งเศส และเป็นภาษาอังกฤษใช้คำว่า fireplace 3. กลวิธีสร้างคำใหม่ (Word Coinage Strategy) เป็นกลวิธีที่ผู้พูดคิดคำศัพท์ขึ้นมาใหม่ เนื่องจากไม่ ทราบคำศัพท์ที่ถูกต้องของภาษาเป้าหมาย จึงสร้างคำขึ้นมาเองโดยหวังว่าผู้ฟังจะเข้าใจภาษา ที่ผู้พูดสร้างขึ้น เช่นใช้คำว่า “airball” แทนคำว่า “balloon” 4. กลวิธีที่มีความหมายใกล้เคียงหรือเกือบตรงกัน (Approximation Strategy) เป็นกลวิธีที่ผู้พูดใช้ คำหรือกลุ่มคำที่ใกล้เคียงกับภาษาเป้าหมาย หรือเป็นคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน (Synonym) หรือใช้คำที่ บอกหมวดหมู่ (super ordinate) เช่น “ship” แทน “sailboat” 5. กลวิธีการอธิบายความ (Circumlocution strategy) เป็นกลวิธีที่ผู้พูดอธิบายหรือบรรยาย รายละเอียดโดยใช้คำหลายคำ หรือวลีหลายวลีเพื่อสื่อความแทนคำพูดด้วยการใช้คำศัพท์เพียงคำเดียว เนื่องจากผู้พูดไม่ทราบคำศัพท์ภาษาเป้าหมาย เช่น “it has waste basket. It has a basket who probably serves for buying things in the market” แทนคำว่า “a shopping basket” 6. กลวิธีการพูดพึมพำเพื่อขอเวลาในการคิด (Surfing Strategy) กลวิธีที่ผู้พูดใช้เสียง หรือ คำที่มี ความหมาย หรือปราศจากความหมายเป็นช่วงๆ เพื่อบอกผู้ฟังว่าผู้พูดยังพูดไม่จบและกำลังใช้ความคิด หรือ กำลังประสบปัญหาในการสื่อสาร วางแผนการพูดต่อ เช่น “er, erm, uh, well, I mean, you know” 7. กลวิธีกล่าวซ้ำ Repetition Strategy เป็นกลวิธีที่ผู้พูดคำ หรือประโยคโครงสร้างที่ ซ้ำๆ กัน อาจ เกิดจากผู้พูดมีความคุ้นเคยต่อการใช้คำ หรือโครงสร้างดังกล่าว หรือผู้พูดกำลังคิดถึงคำที่จะพูดต่อไป โดยผู้พูด จะกล่าวซ้ำๆตั้งแต่เป็นหน่วยคำไปจนถึงระดับประโยค เช่น “Do you know what an emperor is? What is an emperor?” 8. กลวิธีแก้ไขผิดพลาดด้วยตัวเอง (Self- Repair Strategy) กลวิธีที่ผู้พูดใช้เมื่อพบว่าตนเอง พูดคำผิด หรือพูดไวยากรณ์ผิด จึงพยายามแก้ไขคำหรือประโยคให้ถูกต้องทันทีตามหลักไวยากรณ์ภาษา อังกฤษ เช่น well, “what I mean to say is”, “speak more slowly”, “Sorry, I am foreigner” 9. กลวิธีพูดไม่ตรงประเด็น (Topic Avoidance Strategy) กลวิธีที่ผู้พูดพูดในสิ่งที่ไม่ได้เป็นเป้าหมาย เนื่องจากผู้พูดขาดความพร้อมในการพูด หรือไม่มีความรู้ในเรื่องที่จะพูดเรื่องนั้นๆ จึงตัดสินใจพูดในเรื่องที่ ตัวเองถนัดและมั่นใจ ผู้พูดอาจนำความรู้หรือประสบการณ์ที่ตนมีมาพูดแสดง ความคิดเห็นหรือความรู้สึก เพื่อ ต้องการสื่อความหมายในสิ่งที่ตัวเองเห็น เช่น “your presentation was very exciting by the way have you ever visited our university” 12
10. กลวิธียุติการพูด (Message Abandonment Strategy) เป็นกลวิธีที่ผู้พูดหยุดพูดเรื่อง ที่กำลังพูด อยู่ทันที เพื่อต้องการแสดงให้ผู้ฟังทราบว่า ผู้พูดไม่สามารถดำเนินการพูดต่อไปได้อีกแล้ว และ ต้องหยุดพูด เรื่องนั้นๆ 11. กลวิธีการพูดภาษาอื่นปนกับภาษาเป้าหมาย (L๓-Switch Strategy) กลวิธีที่ใช้ผู้พูด ใช้คำที่พูดมา จากภาษาอื่น (ภาษาที่สาม) ที่ไม่ใช่คำจากภาษาแม่ หรือภาษาเป้าหมาย (ภาษาที่สอง) มาสื่อแทน ภาษาเป้าหมาย เนื่องจากผู้พูดขาดความรู้คำศัพท์ในภาษาเป้าหมาย 12. กลวิธีการให้ความหมายไม่สมบูรณ์ (Massage Reduction Strategy) กลวิธีที่ผู้พูด สื่อสารได้ ใจความน้อยกว่าที่ควรเป็น เป็นคำพูดที่ไม่จบประโยค และขาดใจความสำคัญ เนื่องจากผู้พูด ไม่รู้คำศัพท์ใน ภาษาเป้าหมาย ในทัศนะของผู้เขียนขอเสนอแนะวิธีการสอนกลวิธีที่ ๔ กลวิธีที่มีความหมายใกล้เคียงหรือเกือบ ตรงกัน (Approximation Strategy) ซึ่งเหมาะสมกับการใช้ในสถานการณ์จริง และใช้บ่อยสำหรับ คนไทยที่ไม่ใช่ เจ้าของภาษา กลวิธีที่มีความหมายใกล้เคียงหรือเกือบตรงกับ (Approximation Strategy) อาจจะเรียกอีก อย่างหนึ่งว่า กลวิธีแทนที่ (paraphrasing) การพูดถึงความหมายของคำในอีกวิถีทางหนึ่ง หรือในอีก ความหมายหนึ่ง คือการที่ผู้พูดพยายามอธิบายหน้าที่คำในภาษาเป้าหมายใน อีกแนวทางหนึ่ง โดยอาจจะใช้ คำ พ้องความหมาย (synonym) หรือ คำตรงกันข้าม (antonyms) เข้ามาช่วย ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้พูดไม่รู้จักคำว่า “Vacuum cleaner” ผู้พูดอาจจะพยายามอธิบายหน้าที่ของ คำว่า “the machine that we use when we clean our rooms” กลวิธีนี้ไม่ใช้สำหรับผู้เรียนภาษา เท่านั้น สำหรับเจ้าของภาษาเองก็อาจไม่จำเป็นต้องใช้ เพื่อการอธิบายคำศัพท์ที่ไม่แน่ใจ หรือคำศัพท์ที่ ไม่คุ้นเคยได้ การวัดผลและการประเมินผล เกณฑ์การประเมินผลความสามารถการพูดภาษาอังกฤษนั้นที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น ๒ องค์ประกอบ ได้แก่องค์ประกอบด้านความถูกต้องเหมาะสมในการใช้ภาษาซึ่งหมายถึงมีการออกเสียง คำศัพท์ และการใช้โครงสร้างไวยากรณ์ภาษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมเพียงใด และองค์ประกอบด้าน ความคล่องแคล่ว ในการใช้ภาษา ซึ่งหมายถึงการพูดได้อย่างคล่องแคล่ว รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ในการพูด ทำให้ผู้อื่นเข้าใจ ได้ง่ายเพียงใด ส่วนการประเมินอีกลักษณะหนึ่งได้แก่การประเมินการพูด เพื่อการสื่อสาร โดยภาพรวมที่ ประเมินความสารถในการพูดเพื่อการสื่อสารของผู้เรียนอยู่ในระดับเกณฑ์ขั้นต่ำ ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ปานกลาง ดี ดีมาก สภาการทดสอบประจำท้องถิ่นมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ การทดสอบการพูดภาษาอังกฤษใน ระดับต้น University of Cambridge Local Examinations Syndicate: PET SPEAKING, 1996) ได้ให้เกณ ฑ์ การ ประเมินผลความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษ โดยแบ่งออกเป็น ๔ องค์ประกอบ มีดังนี้ 1. ความคล่องแคล่วการใช้ภาษาอังกฤษ (fluency ) 2. ความถูกต้องและความเหมาะสมในการใช้ภาษาอังกฤษ (accuracy and Appropriateness of Language) 3. การออกเสียง (pronunciation) 4. ความสำเร็จในการทำกิจกรรม (task achievement) ในแต่ละองค์ประกอบใช้มาตราส่วนในการ ประเมินค่า 5 ระดับคะแนน เช่น การวัดความคล่องแคล่ว การใช้ภาษาได้อย่างต่อเนื่อง ให้คะแนน 1 คะแนน ไม่สามารถพูดอังกฤษได้ ให้ 2 คะแนน พูดได้ แต่ไม่ต่อเนื่องกันและยากแก่การเข้าใจ ให้ ๓ คะแนน พูดด้วยความลังเล จนทำให้ผู้ฟังขาดความอดทน ที่จะฟัง ได้ 4 คะแนน พูดด้วยความลังเลใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ไม่มีอุปสรรคกับการสื่อสารกับผู้อื่น และให้ 5 คะแนน พูดสื่อสารได้โดยใช้โครงสร้างประโยค คำศัพท์และข้อความที่ถูกต้อง 13
บทสรุป จากความหมายของกลวิธีการสื่อสารที่กล่าวมาข้างต้น สามารถสรุปได้ว่ากลวิธีทางการสื่อสาร หมายถึงกระบวนการหรือวิธีการที่ใช้หรือแก้ปัญหาในการติดต่อสื่อสารปฏิสัมพันธ์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ของ การสื่อความหมายที่ถูกต้องอย่างมีระบบของผู้พูด โดยผ่านกระบวนการคิดอย่างมีสติ ทั้งนี้ยังสามารถแบ่งให้ ความหมายของกลวิธีการสื่อสารมีสองแนว คือ ความหมายในแง่ปฏิสัมพันธ์และ ความหมายในแง่ภาษาศาสตร์ เชิงจิตวิทยาจากแนวคิดที่กล่าวมาข้างต้นจะพบว่าความสามารถใช้ทักษะ การพูดภาษาอังกฤษเป็นทักษะการ สื่อสารที่ผู้พูดจำเป็นต้องมีความรู้ด้านโครงสร้างทางไวยากรณ์คำศัพท์ และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ วัฒนธรรมทางภาษา และมีทักษะในการใช้กลวิธีการพูดเพื่อการ สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ กลวิธีการสื่อสารมีหลายประเภทที่ผู้พูดสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมในการสื่อสาร ได้แก่ กลวิธีที่ทำให้ สัมฤทธิ์ผลซึ่งเป็นกลวิธีที่ผู้พูดใช้เพื่อแก้ปัญหาในขณะที่พูดให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น และกลวิธีหลีกเลี่ยงตัด ทอน เป็นกลวิธีที่ใช้ในการหลีกเลี่ยงปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะที่พูด กลวิธีทางการสื่อสาร เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ ช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษให้บรรลุผลสำเร็จของการสื่อสาร เป็นทักษะหนึ่งที่สำคัญสำหรับ ผู้เรียนต่อการดำเนินชีวิตในปัจจุบันเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น ในขณะพูดภาษาอังกฤษในสถานการณ์ ต่างๆ หากผู้พูดใช้กลวิธีทางการสื่อสารก็จะช่วยให้เกิดความ เข้าใจในกระบวนการสื่อสารและบรรลุเป้าหมาย การสื่อสารได้ Class 1: การปูพื้นฐานภาษาอังกฤษ 1. คําทักทายภาษาอังกฤษ การทักทายภาษาอังกฤษ (Greetings) คำทักทายที่ควรทราบ มีดังนี้ ทักทายตอนเช้า Good morning (กุด-มอร์-นิ่ง) แปลว่า อรุณสวัสดิ์, สวัสดีตอนเช้า (ใช้ในเวลาเช้าถึงเที่ยงวัน) Example sentence / ตัวอย่าง: • Good morning, Mark. (กุด-มอร์-นิ่ง มาร์ค) อรุณสวัสดิ์มาร์ค • Good morning, everybody. (กุด-มอร์-นิ่ง-เอ๊ฝริบ้อด ดิ) / Good morning, everyone. (กุดมอร์-นิ่ง-เอ๊ฝริวัน) อรุณสวัสดิ์ทุกคน ทักทายตอนบ่าย Good afternoon (กุด-อาฟ-เทอะ-นูน) แปลว่า สวัสดีตอนบ่าย (ใช้ในเวลาหลังเที่ยงวันถึงช่วงเย็น) Example sentence / ตัวอย่าง: • Good afternoon, Bam. (กุด-อาฟ-เทอะ-นูน-แบม) สวัสดีแบม • Good afternoon, ladies, and gentlemen. (กุด-อาฟ-เทอะ-นูน-เลดีซ-แอ็นด-เจ็นเทิลแม๊น) สวัสดี ค่ะ ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ทักทายตอนเย็น Good evening (กุด-อีฟ-นิ่ง) แปลว่า สวัสดีตอนเย็น (ใช้ในช่วงเย็นถึงกลางคืน) Example sentence / ตัวอย่าง : • Good evening, Lisa. (กุด-อีฟ-นิ่ง-ลิซ่า) สวัสดีตอนเย็นลิซ่า • Good evening. May I have your attention, please? (กุด-อีฟ-นิ่ง เม-ไอ-แฮ็บฟ- ยัวร์-อะเท้นชั่น พลีซ) สวัสดีตอนเย็นค่ะ ฉันขอเวลาสักครู่ จะได้ไหมคะ ? 14
คำทักทายระหว่างวัน Good day (กุด-เดย์) แปลว่า สวัสดี Example sentence / ตัวอย่าง : • Good day, Sunny. (กุด-เดย์-ซันนี่) สวัสดีตอนเย็นซันนี่ • Did you have a good day? (ดิด-ยู-แฮ๊ฟบ-อะ-กุด-เดย์) วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณไหม? Hello (เฮล’โล) / Hi (ไฮ) แปลว่า สวัสดี Example sentence / ตัวอย่าง: • Hello, everybody. (เฮล’โล เอ๊ฝริบ้อด ดิ) สวัสดีค่ะทุกคน 2.คำทักทายที่“ถามถึงทุกข์-สุข สบายดีไหม?” ตัวอย่างการถาม • How are you? (ฮาว-อา-ยู) คุณเป็นไงบ้าง? (เน้นเรื่องสุขภาพ) • How are you going? (ฮาว-อา-ยู-โก๊-อิ้ง) / How are you doing? (ฮาว-อา-ยู-ดู๊-อิ้ง) คุณเป็นอย่างไรบ้าง? • How’s it going? (ฮาว-อิท-โก๊อิ้ง) เป็นอย่างไรบ้าง? (เน้นความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน) • How have you been? (ฮาว-แฮฟ-ยู-บีน) คุณเป็นอย่างไรบ้าง? (ในกรณีนาน ๆ เจอกันที) • How’s your life? (ฮาว-ยัว-ไลฟ์) ชีวิตคุณเป็นอย่างไรบ้าง? • How’s everything? (ฮาว-เอ็ฟ-ฟรี-ติง) ตอนนี้ทุกอย่างดีไหม? • How are things (with you)? (ฮาว-อา-ธิง-วิท-ยู) คุณเป็นอย่างไรบ้าง? ตัวอย่างการตอบ • (I’m) fine, thanks. And you? (แอม-ไฟนฺ-แธงคซฺ) สบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ • Good. (กูด) สบายดี • Very well. (เว’รี-เวล) สบายดีมาก • I’m O.K. (แอม-โอ-เค) ก็ดี • So so. (โซ-โซ) ก็งั้น ๆ • Not (too) bad. (นอท-ทู-แบด) ก็ไม่เลว • Great! (เกรท) เยี่ยม, วิเศษ 3.คำทักทายด้วยการถามว่า “ไปไหนมา” ตัวอย่างการถามและตอบ A: Where did you go? (คุณไปไหนมา) B: We went to a beautiful beach. (เราไปเที่ยวชายทะเลที่สวยงามแห่งหนึ่ง) A: Did you swim in the ocean? (ได้ว่ายน้ำในทะเลหรือเปล่า) B: Yes, but we swam close to the shore. (จ้ะ, แต่เราว่ายอยู่แถวๆ ชายฝั่ง) ประโยคอื่น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับกิจกรรมการท่องเที่ยว We went to a beautiful beach. park สวนสาธารณะ We went to a park. drove ขับรถ We drove to a beautiful beach. 15
they เขาทั้งหลาย They went to a beautiful beach. orchard สวนผลไม้ We went to a beautiful orchard. 4. คำทักทายด้วยการถามว่า “กินข้าวหรือยัง” ตัวอย่างการถาม • Have you eaten? หรือ Have you eaten yet? “กินข้าวหรือยัง” นอกจากนั้น อาจจะใช้to have/to eat + คำนามที่หมายถึงมื้ออาหาร เช่น • Have you eaten breakfast? ทานข้าวเช้าหรือยัง • Have you had lunch? ทานข้าวเที่ยงหรือยัง • Have you had dinner? ทานข้าวเย็นหรือยัง ตัวอย่างการตอบ ถ้ากินแล้ว จะตอบว่า Yes, I have. หรือถ้า "ไม่" ก็จะตอบว่า No, I haven’t. หรือ No, not yet. 5.คำทักทายด้วย “การชม” ตัวอย่างการทักทาย • What a nice dress! ชุดคุณสวยจริง ๆ • I like your blouse! ฉันชอบเสื้อของเธอจัง • I really like your hair. ฉันชอบทรงผมของคุณจริง ๆ • You look good today. วันนี้คุณดูดีจริง ๆ • Your watch looks really cool. นาฬิกาของคุณดูเท่จริง • Your smile is so radiant. รอยยิ้มของคุณสดใสมาก ๆ • That coat looks very nice. โค้ทตัวนั้นดูดีมาก ๆ เลย) ตัวอย่างการตอบ • Thank you. I’m so glad you like it. ขอบคุณ ฉันดีใจมากเลยที่คุณชอบมัน • Thank you. Yours is also very nice. ขอบคุณ ของคุณก็ดีเหมือนกัน • Thank you. My girlfriend gave it to me. (ขอบคุณ แฟนผมให้มาน่ะ) • Wow! You’re embarrassing me! (ว้าว! คุณทำให้ฉันเขินเลยนะเนี่ย) Class 2: การบอกตำแหน่ง (เส้นทางและสถานที่) การบอกตำแหน่ง 1. บอกจุดเริ่มต้น • You are here. (ยู อาร์ เฮีย) • คุณอยู่ตรงนี้ When you go out of the hotel …….(เว็น ยู โก เอ้า อ๊อฟ เธอะ โฮเทล) • เมื่อคุณออกจากโรงแรม…. 16
2. บอกการเดินทาง ด้วยข้อความต่อไปนี้ • Cross over the road. แปลว่า ข้ามถนน • walk along the road / Walk straight on / Go straight on. แปลว่า เดินตรงไป • Walk pass the school / Go pass the school. แปลว่า เดินผ่านโรงเรียน • Walk for about 5 minutes แปลว่า เดินไปประมาณ 5 นาที • Intersection / crossroads แปลว่า สี่แยก • Junction แปลว่า สามแยก • Traffic lights แปลว่า ไฟจราจร • at the end of the road. แปลว่า สุดถนน • on your right / left แปลว่า ข้างขวา / ข้างซ้าย • next to school แปลว่า ติดกับโรงเรียน • just before school แปลว่า ก่อนถึงโรงเรียน • Go straight ahead for a few buildings. แปลว่า ตรงไปข้างหน้าอีกช่วง 2-3 ตึก • Follow this street. แปลว่า ไปตามถนนเส้นนี้ • Keep going straight. แปลว่า เดินตรงไปเรื่อย ๆ • You have come too far. You must go back แปลว่า คุณมาไกลเกินไป คุณต้องกลับไป • Follow me, please. แปลว่า ตามฉันมาค่ะ • This way, please. แปลว่า ทางนี้ค่ะ • Go up the street. แปลว่า เดินย้อนถนนเส้นนี้ขึ้นไป • Go down the street. แปลว่า เดินย้อนถนนเส้นนี้ลงไป • Go downstairs. แปลว่า ลงบันไดไป • Walk over the footbridge. แปลว่า เดินข้ามสะพานลอยคนข้ามไป • Walk to the end of this road. แปลว่า เดินไปจนสุดถนนเส้นนี้ • Cross at the traffic lights แปลว่า ข้ามที่สัญญาณไฟจราจร • It’s 400 meters from here. (คำที่ขีดเส้นใต้เป็นระยะทางที่ต้องการแจ้งให้ผู้ถามทราบ) แปลว่า ไป จากที่นี่ 400 เมตรค่ะ • It’s next door to the restaurant. (คำที่ขีดเส้นใต้เป็นชื่อสถานที่หรือสิ่งที่ต้องการอ้างอิง) แปลว่า มันอยู่ติดกับร้านอาหารค่ะ • It’s directly opposite the shopping mall. (คำที่ขีดเส้นใต้เป็นชื่อสถานที่หรือสิ่งที่ต้องการอ้างอิง) แปลว่า มันอยู่ตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าพอดี • It’s about five minutes walk from here. (คำที่ขีดเส้นใต้เป็นเวลาที่ต้องการแจ้งให้ผู้ถามทราบ) แปลว่า เดินไปประมาณ 5 นาทีจากที่นี่ 3. ในกรณีที่เราอยากช่วย แต่ดันไม่รู้เส้นทางจริงๆ อาจตอบเขาไปว่า • I’m sorry. I’m not from around here. แปลว่า ขอโทษด้วย ไม่ใช่คนแถวนี้ค่ะ • Let me ask someone who knows. แปลว่า เดี๋ยวถามผู้รู้ให้นะคะ • You should ask a tourism officer. แปลว่า ถามเจ้าหน้าที่ดีกว่าค่ะ 17
4.ประโยคบอกเส้นทาง โดยการใช้รถแท็กซี่ (Taxi) เราสามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยประโยคต่อไปนี้ • You can catch a taxi / take a taxi. It will take you there in 5 minutes. (ยู แคน แคช อะ แท็คซิ / เทค อะ แท็คซิ อิท วิวล์ เทค ยู แดร์ อิน เทน มินิทส) คุณสามารถไปรถแท็กซี่ และจะพาคุณไปที่นั่นใน 5 นาที • You had better take a taxi. แปลว่า คุณควรขึ้นรถเท็กซี่ไปดีกว่า • Let me give the driver directions. แปลว่า ขอให้ฉันบอกทางแก่คนขับรถเอง • Let me draw a map for you. แปลว่า ขอให้ฉันวาดแผนที่ให้คุณ • I will write it in Thai for the driver. แปลว่า ฉันจะเขียนเป็นไทยให้คนขับรถเองค่ะ • It should cost no more than 50 baht. แปลว่า มันไม่ควรจะคิดเกิน 50 บาทค่ะ 5.ประโยคบอกเส้นทาง โดยใช้รถประจำทาง (Bus) • Take a number 540 bus. That’ll take you pass…(บอกสถานที่ ) and then you get off at (เทค อะ นัมเบอร์ 540 บัส แธทอิล เทค ยู พาสท……… แอนด์ เธน ยู เกท ออฟ แอท) ไปรถประจำทางเบอร์ 540 ก็จะผ่าน….(สถานที่) จากนั้นลงรถที่….. (บอกสถานที่) • take / catch / get on ( เทค / แคช / เกท ออน) = ขึ้นรถ • get off. ( เกท ออฟ ) = ลงรถ • bus number 540 / a number 540 bus ( บัส นัมเบ่อร์ 540 / อะ นัมเบ่อร์ 540 บัส ) = เบอร์รถ (**ข้อสังเกต เมื่อใช้ bus number 21 จะไม่มี article ‘ a ‘ นำหน้า) • bus stop ( บัส สตอพ ) = ป้ายรถเมล์ • It will take you pass……… ( อิท วิว เทค ยู พาส ) แปลว่า รถแล่นผ่านอะไรบ้าง บอกสถานที่ว่า ผ่านอะไร? คําศัพท์เกี่ยวกับการบอกตำแหน่งทาง • Go straight (โกสเตรท์) แปลว่า ตรงไป • Turn right (เทิรน์ไรท์) แปลว่า เลี้ยวขวา • Turn left (เทิรน์เล็ฟท์) แปลว่า เลี้ยวซ้าย • Right side (ไรท์ไซด์) แปลว่า ฝั่งขวา • Left side (เล็ฟท์ไซด์) แปลว่า ฝั่งซ้าย • Between (บีทวีน) แปลว่า อยู่ระหว่าง • Across from (อะครอสฟรอม) แปลว่า ตรงข้าม • Next to (เน็กซท์ทู) แปลว่า ข้างๆ • Around (อะเราน์ดฺ) แปลว่า ใกล้ๆ • At the corner (แอ๊ทเดอะคอร์เนอร) แปลว่า ตรงหัวมุม 18
Class 3: การซื้อขายสินค้า 1.ประโยคต้อนรับลูกค้า May I help you? (เมย์ไอ เฮลพ ยู) can I help you? (แคน ไอ เฮลพ ยู) Do you want any help? (ดูยูวอนท เอนนีเฮลพ) Do you need any help? (ดูยูนีด เอนนีเฮลพ) Would you like any help? (วูด ยูไลค เอนนีเฮลพ) Have you been helped? (แฮฟว ยูบีน เฮลพท) Anything can I do for you? (เอนนีธิง แคน ไอ ดูฟอร์ยู) What can I do for you? (วอท แคน ไอ ดูฟอร์ยู) การตอบรับข้อเสนอ Yes, please. (เยส พลีซ) ค่ะ ได้ค่ะ Yes, I’d love to. (เยส ไอ ลัฟว ทู) ครับ ยินดีมากเลย Yes. That would be great. (เยส แธท วูด’บีเกรท) ค่ะ มันจะดีมากเลย That sounds nice. (แธท เซาน์ดฺ ไนสฺ) นั้นจะดีมากเลย Thank you. I’d like to. (แธงคิว ไอ ไลค ทู) ยินดี ๆ ขอบคุณนะ 2.การถามราคา How much is it? / ราคาเท่าไร How much are the apples? แอปเปิลเหล่านี้ราคาเท่าไร How much does this bag cost? กระเป๋าใบนี้ราคาเท่าไร 3.การบอกราคา It is 80 baht. ราคา 80 บาท This pen is 10 baht. ปากกาด้ามนี้ราคา 10 บาท These apples are 100 baht. แอปเปิลพวกนี้ราคา 100 บาท การบอกราคารวม ถ้าเราต้องการเน้นว่าเป็นราคารวม เราสามารถใช้คำว่า total กำกับ It is 100-baht total. ทั้งหมดราคา 100 บาท การบอกราคาต่อหน่วย การบอกราคาต่อหนึ่งหน่วย เราสามารถใช้รูปวลี “ราคา + a/an + หน่วย” หรือ “ราคา + per + หน่วย” เช่น 20 baht a piece หรือ 20 baht per piece – 20 บาทต่อชิ้น 20 baht a cup หรือ 20 baht per cup – 20 บาทต่อถ้วย 20 baht a gram หรือ 20 baht per gram – 20 บาทต่อกรัม หรือเราจะใช้คำว่า each ในการบอกราคาต่อหนึ่งหน่วยก็ได้เช่นกัน 20 baht each – 20 บาทต่อหนึ่งหน่วย ถ้าเราต้องการบอกราคาต่อสินค้าหลายหน่วย เราจะใช้รูปวลี “ราคา + per + จำนวน + หน่วย” อย่างเช่น 19
20 baht per 2 pieces – 20 บาทต่อ 2 ชิ้น 20 baht per 4 cups – 20 บาทต่อ 4 ถ้วย 20 baht per 10 grams – 20 บาทต่อ 10 กรัม ตัวอย่างประโยค เช่น This cake is 20 baht each. เค้กนี้ราคาชิ้นละ 20 บาท This spice is 60 baht per 100 grams. เครื่องเทศนี้ราคา 60 บาทต่อ 100 กรัม 4. การต่อราคา ตัวอย่างประโยคการต่อราคาก็อย่างเช่น Can you give me a discount? คุณลดราคาให้ฉันหน่อยได้มั้ย Can you go any lower? คุณลดราคาลงกว่านี้ได้มั้ย Can you make it 20 baht? คุณขายให้ฉัน 20 บาทได้มั้ย Class 4: การถามความพึ่งพอใจ ณ ร้านอาหารหรือภัตตาคาร คำศัพท์เกี่ยวกับรสชาติอาหารในภาษาอังกฤษ (Taste) Bitter บิท’เทอะ รสชาติเข้ม ๆ มันขม ๆ เช่น กาแฟขม Sweet สวีทฺ รสชาติหวาน Dry ดราย แห้ง ๆ Moist มอยซฺทฺ ชุ่มช่ำ Bland แบลนดฺ จืด ๆ ขาดรสชาติ Spicy สไปซี่ รสชาติเผ็ดร้อนจากพริก Savory เซ’เวอรี มีรสชาติ,รสอร่อย Rich ริช อาหารที่เต็มไปด้วยเนย ครีม และไข่ในนั้น Salty ซอล’ที มีรสเค็ม Tasty เทสที รสชาติอร่อย น่ารับประทาน Greasy กรี’ซี เต็มไปด้วยไขมัน หรือมีไขมันเคลือบไว้ Scrumptious สครัมเฉิส รสชาติอร่อยโอชา Sour เซ้าเออ มีรสชาติเปรี้ยว Delicious. ดิลิเชียส อร่อย yummy ยัมมี่ อร่อย Strong สตรอง รสเข้ม Mild ไมลด์ รสอ่อน Unripe อันไรป ไม่สุก Ripe ไรป สุก Oily ออยลี่ เลี่ยน Greasy กรีซี่ เลี่ยน 20
ตัวอย่างบทสนทนาเกี่ยวกับอาหารแบบง่าย ๆ Q: Do you like Pizza? คุณชอบพิซซ่ามั้ย A: Yes, I do. But sometime, it is a bit too greasy. ใช่ ฉันชอบ แต่บางครั้งมันก็มันเยอะไปหน่อย Q: How does it taste? รสชาติเป็นอย่างไงบ้าง ถ้ารสชาติอาหารมันอร่อย A: It tastes good. มันรสชาติอร่อยเลย Wow, that is delicious! ว้าว นี่มันอร่อยมาก That is amazing! รสชาติมันน่าทึ่งมาก Q: It’s so yummy, where did you get the recipe? รสชาติโครตอร่อย คุณไปได้สูตรทำอาหารมาจากไหนเนี่ย Q: That tastes great, where did you buy it? รสชาติเลิศมาก คุณไปซื้อมาจากไหน Q: Ken, how is your cake? เคน เค้กของคุณรสชาติเป็นไงบ้าง A: It tastes delicious, but it is a little bit too dry. รสชาติอร่อยเลย แต่ว่ามันแห้งไปนิด ถ้ารสชาติอาหารมันไม่อร่อย That’s disgusting/horrible. รสชาติมันน่าสะอิดสะเอียนมาก/แย่มาก I don’t like that. ฉันไม่ชอบมันอ่ะ This is ok, but I’ve had better. มันก็โอเคนะ แต่ฉันเคยกินที่อร่อยกว่านี้ Class 5: การถามความพึ่งพอใจ ณ ร้านเสื้อผ้า บทสนทนาภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย (Shopping for clothes) ตัวอย่างบทสนทนา Q: May I help you? มีอะไรให้ช่วยไหมครับ A: I’m looking for a pair of trousers. ผมกำลังหากางขายาวครับ Q: I’m not sure. Can you measure me? ผมไม่แน่ใจ คุณช่วยวัดหน่อยครับ A: You’re a 43-inch waist. เอวคุณ 43นิ้ว Q: How about these? ตัวนี้เป็นอย่างไรครับ A: Nice ดีครับ Q: Can I see that shirt please? ขอดูเสื้อตัวนั้นหน่อยครับ A: Sure แน่นอนครับ Q: What color would you like? ต้องการสีอะไรครับ Q: Do you have this in white color? คุณมีเสื้อสีขาวไหม Q: What material are they? ทำมาจากวัสดุอะไรครับ 21
Q: Do you have anything in cotton? คุณมีที่ทำจากผ้าฝ้ายไหมครับ ตัวอย่างประโยคคำถามเวลาขอลองเสื้อผ้า Can I try it on? (แคน ไอ ไทร อิท ออน) = ขอลองหน่อยได้ไหมครับ Could I try it on? (คูด ไอ ไทร ธิส ออน) = ขอลองอันนี้หน่อยได้ไหม Where’s the fitting room? (แวร์ส เธอะ ฟิททิง รูม) = ห้องลองเสื้ออยู่ที่ไหน Do you have a fitting room? (ดู ยู แฮฟว อะ ฟิททิง รูม) = มีห้องลองเสื้อผ้าไหม ตัวอย่างประโยคเวลาถามขนาดของเสื้อผ้า Q: Do you have this in a size? (ดู ยู แฮฟว ธิส อิน อะ ไซซ) = คุณมีแบบนี้/พวกนี้ เบอร์…ไหม A: ถ้ามี Yes, I will bring for you. มีครับ/ค่ะ จะไปหยิบมาให้นะคะ/ครับ ถ้าไม่มี I’m sorry. We don’t have your size. ขอโทษครับ เราไม่มีไซส์ของคุณ Q: Have you got this in a smaller/larger size? (แฮฟว ยู กอท ธิส อิน อะ สมอลเลอะ/ลาร์จเจอะ ไซซ) = คุณมีแบบนี้แต่ไซส์ เล็ก/ใหญ่ กว่านี้ไหม A: ถ้ามี Yes, I’ll get you a bigger size. มีครับ ผมจะไปหาไซส์ที่่ใหญ่กว่ามาให้คุณ ถ้าไม่มี I’m sorry. We don’t have bigger size. ขอโทษค่ะ/ครับ เราไม่มีไซส์ที่ใหญ่กว่านี่นะคะ/ครับ ตัวอย่างคำถามหลังลองเสื้อ Does it fit well? (ดาส อิท ฟิท เวล) = ใส่พอดีไหม Is that a good fit? (อีส แธท อะ กูด ฟิท) = ใส่พอดีไหม ตัวอย่างคำตอบ It’s just right. (อิทส จัสท ไรท) = พอดีแล้ว It doesn’t fit. (อิท ดัซซึนท ฟิท) = ไม่พอดี A little tight. (อะ ลิทเทิล ไทท) = คับไปหน่อย A little loose (อะ ลิทเเทิล ลูส) = หลวมไปหน่อย It’s much too big. (อิทส มัช ทู บิก) = ใหญ่เกินไป It’s much too small. (อิทส มัช ทู สมอล) = เล็กเกินไป It’s a little too big / small. (อิทส อะ ลิทเทิล ทู บิก / สมอล) = ใหญ่/เล็ก เกินไปหน่อย คำศัพท์ที่เกี่ยวเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย • Academic gown/academic dress ชุดครุย • Bikini บิกินี • Bra เสื้อยกทรง • Blouse เสื้อผู้หญิง • Clothes เสื้อผ้า • Clothing store ร้านขายเสื้อผ้า • Coat เสื้อโค้ท/เสื้อคลุม • Ceremony dress ชุดพิธี • Childrenswear เสื้อผ้าเด็ก 22
• Changing room ห้องลองเสื้อผ้า • Dress ชุดกระโปรง • Evening dress ชุดราตรี • Hat หมวก • Jacket แจ็คเก็ต • Leather belt เข็มขัดหนัง • Long sleeve shirt เสื้อแขนยาว • Menswear เสื้อผ้าผู้ชาย • Mini skirt กระโปรงมินิ • Overcoat เสื้อนอก • Pajamas ชุดนอน • Polo shirt เสื้อคอโปโล • Raincoat เสื้อกันฝน • Swimming suit ชุดว่ายน้ำ • Shopping malls ห้างสรรพสินค้า • Shorts กางเกงขาสั้น • Shorts jeans กางเกงยีนส์ขาสั้น • T-shirt เสื้อยืด • Trousers กางเกงขายาว • Underpants กางเกงใน • Underwear ชุดชั้นใน • Uniform ชุดเครื่องแบบ, ยูนิฟอร์ม • V-neck เสื้อคอ V Class 6: ทบทวนบทเรียนและสร้างสถานการณ์จำลอง Class: 1 - การทักทาย ถาม-ตอบ (ประโยค/วลี/คำศัพท์พื้นฐาน) Class: 2 - การบอกตำแหน่ง - คำศัพท์ในการตำแหน่ง เช่น สถานที่ - ตัวอย่างประโยคถามทางและบอกทาง Class: 3 - การซื้อขายสินค้า / การเสนอขาย - สอบถามราคา / ต่อรองราคา Class: 4 - ถามความพึ่งพอใจ ณ ร้านอาหาร หรือ ภัตตาคาร - ประโยค/วลี/คำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับอาหาร Class: 5 - ถามความพึ่งพอใจของเครื่องแต่งกาย - ประโยค/วลี/คำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับเสื้อผ้า 23
บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน ททททททททศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ ได้เล็งเห็นความสำคัญของ ภาษาต่างประเทศ และความสอดคล้องกับนโยบาย แผนงานยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนด้านการพัฒนาและ เสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ งบรายจ่ายอื่น รายการโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้าน อาชีพ จึงเข้ามามีส่วนร่วมในการนำเสนอแนวคิดผ่านกระบวนการกลุ่ม อันเป็นการสนองความรู้ ความเข้าใจใน การปลูกฝังให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอสัตหีบที่มีความสนใจในการสื่อสารเกี่ยวกับภาษาต่างประเทศ กศน. อำเภอสัตหีบ จึงได้มอบหมายให้ กศน.ตำบลสัตหีบจัด โครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ พนักงานขายสินค้าและบริการ โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1.ประชุมบุคลากรกรรมการ กศน.อำเภอสัตหีบ 2.แต่งตั้งคณะทำงาน 3.ดำเนินงานตามแผน 4.ประชากรที่ใช้ในการดำเนินงาน 5.เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงาน 6.การเก็บรวบรวมข้อมูล 7.การวิเคราะห์ข้อมูลล 1. ประชุมบุคลากรกรรมการ กศน.อำเภอสัตหีบ ททททททททกศน.อำเภอสัตหีบ ได้วางแผนประชุมบุคลากรกรรมการ กศน.อำเภอสัตหีบ เพื่อหาแนวทางใน การดำเนินงานและกำหนดวัตถุประสงค์ร่วมกัน 2. จัดตั้งคณะทำงาน ททททททททจัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานโครงการ เพื่อมอบหมายหน้าที่ในการทำงานให้ชัดเจน เช่น ทททท ทททททททท2.1 คณะกรรมการที่ปรึกษา/อำนวยการ มีหน้าที่อำนวยความสะดวก และให้คำปรึกษาแก้ไข ปัญหาที่เกิดขึ้น ทททททททท 2.2 คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์รับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ ททททททท 2.3 คณะกรรมการฝ่ายรับลงทะเบียนและประเมินผลหน้าที่จัดทำหลักฐานการลงทะเบียน ผู้เข้าร่วมโครงการ และรวบรวมการประเมินผล และรายงานผลการดำเนินการ 3. ดำเนินการตามแผนงานโครงการ ททททททททวั ;วันที่ 18-23 กรกฎาคม 2565 ณ กศน.ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 4. กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการดำเนินงาน ททททททททจำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 15 คน 5. เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงาน แบบสอบถามความพึงพอใจ โครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้า และบริการ
6. การเก็บรวบรวมข้อมูล ททททททททจากการดำเนินงานโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและ บริการ ณ กศน.ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 15 คน โดยมีการแจก สอบถามทั้งหมด 15 ชุด และเก็บรวบรวมแบบสอบถามได้ 15 ชุด คิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ 7. การวิเคราะห์ข้อมูล ทททททททจากการดำเนินงานโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและ บริการ โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ 1. ค่าแจกแจงความถี่ 2. ค่าร้อยละ 3. ค่าเฉลี่ย 4. ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ททททททททเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้เข้าอบรมได้รับประโยชน์นำไปใช้ได้จริงตามศักยภาพของแต่ ละคน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป และได้ดำเนินการตามขั้นตอนและได้รวบรวมข้อมูลจากแบบสำรวจสถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ กศน.อำเภอสัตหีบ จะได้นำแนวทางไปใช้ข้อมูลพิจารณาหลักสูตร เนื้อหาตลอดจนเทคนิค วิธีการจัดการกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้เข้าอบรมได้รับประโยชน์นำไปใช้ ได้จริงตามศักยภาพของแต่ละคน ให้มีความเข้าใจและมีคุณภาพต่อไป ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนและได้รวบรวมข้อมูล โดยใช้สภาพการใช้สื่อการสอนของ ครูในสถานศึกษาเป็นแบบมาตรวัดประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ โดยมีรายละเอียดดังนี้ (บุญชม ศรี สะอาด และบุญส่ง นิลแก้ว ,2556) 5 หมายถึง มีการดำเนินงานในระดับมากที่สุด 4 หมายถึง มีการดำเนินงานในระดับมาก 3 หมายถึง มีการดำเนินงานในระดับปานกลาง 2 หมายถึง มีการดำเนินงานในระดับน้อย 1 หมายถึง มีการดำเนินงานในระดับน้อยที่สุด โดยมีเกณฑ์การแปลความหมายค่าเฉลี่ย (บุญชม ศรีสะอาด,2556) ดังนี้ 4.50 – 5.00 หมายถึง มีความคิดเห็น/การดำเนินงานอยู่ในระดับมากที่สุด 3.50 – 4.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การดำเนินงานอยู่ในระดับมาก 2.50 – 3.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การดำเนินงานอยู่ในระดับปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การดำเนินงานอยู่ในระดับน้อย 1.00 – 1.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การดำเนินงานอยู่ในระดับน้อยที่สุด ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องกรอกข้อมูลตามแบบสอบถาม เพื่อนำไปใช้ในการประเมินผลของการจัด กิจกรรมดังกล่าว และจะได้นำไปเป็นข้อมูล ปรับปรุง และพัฒนา ตลอดจนใช้ในการจัดทำแผนการดำเนินการ ในปีต่อไป 25
บทที่ 4 ผลการดำเนินการ จากผลการดำเนินงานการจัด โครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้า และบริการ ณ กศน.ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งจัดโครงการ ในวันที่ 18-23 กรกฎาคม 2565 มีผู้เข้าอบรมในโครงการ จำนวน 15 คน โดยมี นาย เป็นวิทยากรให้ความรู้สรุปได้ดังนี้ จากแบบสอบถามที่ได้ สามารถนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล จากผู้ให้ข้อมูลทั้งหมด จำนวน 15ชุด 1. ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้ารับการอบรมโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อ การสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ 2. ตอนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้เข้ารับอบรมโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสาร ด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้ารับการอบรม โครงการภาษาต่างประเทศ เพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ พนักงานขายสินค้าและบริการ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ที่ตอบแบบสอบถามได้นำมา จำแนกตามเพศ อายุ และอาชีพ ผู้จัดทำได้เสนอจำแนกตามข้อมูลดังกล่าว ดังปรากฏตาม ตารางที่ 1 ดังต่อไปนี้ ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามเพศ เพศ ความคิดเห็น ชาย หญิง จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ ผู้เข้าอบรมโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้าน อาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ 3 20 12 80 จากตารางที่ 1 แสดงผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้าน อาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ เป็นเพศหญิง 12 คน คิดเป็นร้อยละ 80 เป็นเพศชาย 3 คน คิดเป็นร้อย ละ 20 ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแทนแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอายุ อายุ ความคิดเห็น ต่ำกว่า15 ปี 16-39 ปี 40-59 ปี 60 ปีขึ้นไป จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ ผู้ เข้ า อ บ ร ม โ ค ร ง ก า ร ภาษาต่างประเทศเพื่อการ สื่อสารด้านอาชีพพนักงาน ขายสินค้าและบริการ - - 5 33.33 3 20 7 46.67 จากตารางที่ 2 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามผู้เข้ารับอบรมโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสาร ด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ อยู่ในช่วงอายุ60 ปีขึ้นไป มากที่สุดจำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 46.67 ช่วงอายุ 16-39 ปีมีจำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 33.33 และช่วงอายุ 40-59 ปีจำนวน 3 คน คิดเป็น ร้อยละ 20
ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามโดยจำแนกตามอาชีพ ประเภท ความคิดเห็น รับจ้าง รับราชการ เกษตรกรรม อื่น ๆ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ ผู้ เข้ า อ บ ร ม โ ค ร ง ก า ร ภาษาต่างประเทศเพื่อการ สื่อสารด้านอาชีพพนักงาน ขายสินค้าและบริการ 4 26.67 - - - - 11 73.33 รรรรรรรจากตารางที่ 3 แสดงผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าอบรมโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสาร ด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ มีอาชีพอื่นๆมากที่สุด จำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 73.33 และ อาชีพรับจ้าง จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 26.67 ตอนที่2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้เข้ารับอบรมโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้าน อาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ ความคิดเห็นของผู้เข้ารับร่วมกิจกรรม จำนวน 15 คน จาก แบบสอบถามทั้งหมดที่มีต่อโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ ตารางที่ 4 แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขาย สินค้าและบริการ รายการที่ประเมิน N = 15 µ σ อันดับ ที่ ระดับผล การประเมิน ด้านหลักสูตร 1. กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ของหลักสูตร 4.47 0.74 8 มาก 2. เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของ ผู้รับบริการ 4.53 0.64 7 มากที่สุด 3. การจัดกิจกรรมทำให้ผู้รับบริการสามารถ คิดเป็นทำ เป็นแก้ปัญหาเป็น 4.67 0.62 3 มากที่สุด 4. ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิด เห็นต่อการ จัดทำหลักสูตร 4.53 0.64 7 มากที่สุด 5. ผู้รับบริการสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ 4.60 0.51 6 มากที่สุด 6. สื่อ/เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม 4.67 0.49 4 มากที่สุด ด้านวิทยากร 7. วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการจัด กิจกรรม 4.80 0.56 1 มากที่สุด 8. เทคนิค/กระบวนในการจัดกิจกรรมของวิทยากร 4.73 0.46 2 มากที่สุด 9. วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม 4.60 0.63 5 มากที่สุด 10. บุคลิกภาพของวิทยากร 4.67 0.49 4 มากที่สุด 27
ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ 11. สถานที่ในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 4.53 0.64 7 มากที่สุด 12. ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 4.47 0.83 9 มาก 13. ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับบริการต่อการเข้าร่วม กิจกรรม 4.67 0.62 3 มากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.61 0.61 มากที่สุด ททจากตารางที่ 4 แสดงให้เห็นว่า โครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขาย สินค้าและบริการ อยู่ในระดับ มากที่สุด เมื่อวิเคราะห์เป็นรายข้อพบว่า อันดับที่ 1 คือ วิทยากรมีความรู้ ความสามารถในการจัด กิจกรรม (µ = 4.80) อันดับที่ 2 เทคนิค/กระบวนในการจัดกิจกรรมของวิทยากร (µ = 4.73) เป็นอันดับที่ 3 การจัดกิจกรรมทำให้ผู้รับบริการสามารถ คิดเป็นทำเป็นแก้ปัญหาเป็น , ความพึง พอใจในภาพรวมของผู้รับบริการต่อการเข้าร่วมกิจกรรม มีค่าเท่ากันคือ (µ =4.67 ) อันดับที่ 4 สื่อ/เอกสาร ประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม ,บุคลิกภาพของวิทยากร มีค่าเท่ากันคือ (µ =4.67) อันดับที่ 5 วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม (µ =4.60) อันดับที่ 6 ผู้รับบริการสามารถนำความรู้ ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้(µ =4.60) อันดับที่ 7 เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของผู้รับบริการ , ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิด เห็นต่อการจัดทำหลักสูตร , สถานที่ในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีค่าเท่ากันคือ (µ =4.47) อันดับที่ 8 กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ของหลักสูตร (µ =4.47) อันดับที่ 9 ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม (µ =4.47) ตามลำดับ 28
บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ททททททททจากการดำเนินงานโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและ บริการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพและ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ซึ่งโครงการดำเนินการจัดในวันที่ 18-23 กรกฎาคม 2565 ณ กศน. ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 15 คน โดยมีการแจกสอบถาม ทั้งหมด 15 ชุด ซึ่งผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ สรุปผลการดำเนินงาน ทท1. ผู้ตอบแบบสอบถามเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ พนักงานขายสินค้าและบริการ จำนวนทั้งหมด 15 เป็นเพศชาย 3 คน คิดเป็นร้อยละ 20 เป็นเพศหญิง 12 คน คิดเป็นร้อยละ 80 ในช่วงอยู่ในช่วงอายุ60 ปีขึ้นไป มากที่สุดจำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 46.67 ช่วงอายุ 16-39 ปีมีจำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 33.33 และช่วงอายุ 40-59 ปีจำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 20 มีอาชีพอื่นๆมากที่สุด จำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 73.33 และอาชีพรับจ้าง จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 26.67 ทท2. ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ พนักงานขายสินค้าและบริการ พบว่าอยู่ในระดับ มากที่สุด เมื่อวิเคราะห์เป็นรายข้ออันดับที่ 1 คือ วิทยากรมี ความรู้ความสามารถในการจัด กิจกรรม (µ = 4.80) อันดับที่ 2 เทคนิค/กระบวนในการจัดกิจกรรมของ วิทยากร (µ = 4.73) เป็นอันดับที่ 3 การจัดกิจกรรมทำให้ผู้รับบริการสามารถ คิดเป็นทำเป็นแก้ปัญหาเป็น , ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับบริการต่อการเข้าร่วมกิจกรรม มีค่าเท่ากันคือ (µ =4.67 ) อันดับที่ 4 สื่อ/ เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม ,บุคลิกภาพของวิทยากร มีค่าเท่ากันคือ (µ =4.67) อันดับ ที่ 5 วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม (µ =4.60) อันดับที่ 6 ผู้รับบริการสามารถนำ ความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้(µ =4.60) อันดับที่ 7 เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของ ผู้รับบริการ , ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิด เห็นต่อการจัดทำหลักสูตร , สถานที่ในการจัด กิจกรรมเหมาะสม มีค่าเท่ากันคือ (µ =4.47) อันดับที่ 8 กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ของ หลักสูตร (µ =4.47) อันดับที่ 9 ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม (µ =4.47) ตามลำดับ อภิปรายผล ทททจากโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ พบว่าอยู่ ในระดับ มากที่สุด เมื่อวิเคราะห์เป็นรายข้อพบว่า อันดับที่ 1 คือ วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการจัด กิจกรรม อันดับที่ 2 เทคนิค/กระบวนในการจัดกิจกรรมของวิทยากร เป็นอันดับที่ 3 การจัดกิจกรรมทำให้ ผู้รับบริการสามารถ คิดเป็นทำเป็นแก้ปัญหาเป็น , ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับบริการต่อการเข้าร่วม กิจกรรม อันดับที่ 4 สื่อ/เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม ,บุคลิกภาพของวิทยากร มีค่า เท่ากันคือ อันดับที่ 5 วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม อันดับที่ 6 ผู้รับบริการสามารถ นำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อันดับที่ 7 เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของผู้รับบริการ , ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิด เห็นต่อการจัดทำหลักสูตร , สถานที่ในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มี ค่าเท่ากันคือ อันดับที่ 8 กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ของหลักสูตร อันดับที่ 9 ระยะเวลาในการจัด กิจกรรมเหมาะสม ตามลำดับ
ข้อเสนอแนะ - ปัญหาและอุปสรรค 30
บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ . (2543). บุญชม ศรีสะอาด และ บุญส่ง นิวแก้ว. (2535 หน้า 22 – 25). บุญชม ศรีสะอาด และ บุญส่ง นิลแก้ว 2545 กรมการศึกษานอกโรงเรียน. (ม.ป.ป. : 9), (2546:76). บรรพต สุวรรณประเสริฐ. (2544:12). สำนักงานกศน.นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สุทธิดา หงส์บุญเสริม, 2550 : 42 วิชัย วงษ์ใหญ่. (2525:2-3), (2525:10). file:///C:/Users/HP/Downloads/suchaya09,+Journal+editor,+09.+%E0%B9%81%E0%B8 %99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8% A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B1 %E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B0+(%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A8 %E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%8C+125-137)%20(2).pdf 31
คณะผู้จัดทำ ที่ปรึกษา นางสุรัสวดี เลี้ยงสุพงศ์ ผอ. กศน.อำเภอสัตหีบ นางสุพัด นำเจริญลาภ ครูชำนาญการ นายทัพพเทพ อรเนตร ครูผู้ช่วย คณะทำงาน นางสาวสุภาวดี บางโสก หัวหน้า กศน.ตำบลสัตหีบ นางสาวปารย์พิชชา เจริญศรี ครู กศน.ตำบลสัตหีบ นางปิยวดี เตชะวงค์ ครู ศรช.ตำบลสัตหีบ ผู้จัดพิมพ์ นางสาวสุภาวดี บางโสก หัวหน้า กศน.ตำบลสัตหีบ
ภาคผนวก
รายงานผลการดำเนินงาน โครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ ประจำปีงบประมาณ 2565 ผู้รับผิดชอบ นางสาวสุภาวดี บางโสก ,นางสาวปารย์พิชชา เจริญศรี,นางปิยวดี เตชะวงศ์ 1.หลักการและเหตุผล ด้วยสำนักงาน กศน. ได้จัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 ตามโครงการ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้า ประจำปีงบประมาณ 2565 ให้แก่สำนักงาน กศน. จังหวัดทุกแห่ง/กทม. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดอบรมประชาชนตามโครงการภาษาอังกฤษเพื่อการ สื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้า ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงขอกำหนดแนว ทางการดำเนินงานดังนี้ 2. วัตถุประสงค์ 1 เพื่อฝึกอบรมภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพให้กับประชาชน 2 เพื่อให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพและสามารถนำไป ประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต 3. เป้าหมาย เชิงปริมาณ ประชาชนทั่วไป จำนวน 15 คน เชิงคุณภาพ ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาพัฒนาคุณภาพชีวิต สื่อสาร ด้านอาชีพ มีความรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ และสามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ 4. ตัวชี้วัดความสำเร็จ ตัวชี้วัดผลผลิต (Outputs) 1) ประชาชน เข้าร่วมโครงการตามเป้าหมายที่กำหนด ตัวชี้วัดผลลัพธ์(Outcomes) 1. ประชาชน มีความพึงพอใจระดับมากขึ้นไป ต่อการดำเนินงานโครงการไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 2. ประชาชน สามารถนำความรู้และประสบการณ์จากการที่ได้รับมาปรับใช้ในการใช้ ชีวิตประจำวัน
5.ขั้นตอนการดำเนินการโครงการ รายการ การดำเนินงาน การวางแผน (Plan) วางแผนดำเนินงาน และเสนอแผนงานโครงการต่อ ผู้บริหารสถานศึกษา รายการ การดำเนินงาน การปฏิบัติ (Do) 1. สำรวจความต้องการในการเข้าร่วมกิจกรรม 2. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3. ขออนุมัติโครงการต่อ ผอ.กศน.อำเภอสัตหีบ 4. แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน 5. ดำเนินงานตามแผนงาน 6. ประเมินผลการจัดกิจกรรม/โครงการ 7. สรุปและรายงานผลการดำเนินงาน การตรวจสอบ/ประเมินผล (Check) แบบประเมินโครงการของผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 แนวทางการนำผลการประเมินไปปรับปรุง (Act) แบบประเมินโครงการของผู้เข้าร่วมน้อยกว่าร้อยละ 80 ต้องนำไปแก้ไข ปรับปรุงในจุดที่บกพร่อง เพื่อนำไปใช้กับ การจัดกิจกรรม/โครงการในครั้งต่อไป 6.ระยะเวลาดำเนินงาน วันที่ 18 -23 กรกฎาคม 2565 7.สถานที่ในการจัดกิจกรรมโครงการ ณ กศน. ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 8.ผลการดำเนินโครงการ 8.1 ผลการประเมินข้อมูลพื้นฐานของผู้เข้าร่วมโครงการ 1) ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 15 คน 2) อายุ ผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่ มีอายุระหว่าง 17-65 ปี 3) อาชีพ ผู้เข้าร่วมอบรม ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ,ค้าขาย , เกษตรกร และอื่นๆ 8.2 ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุด 8.3 บรรลุตามวัตถุประสงค์คือ 1. ผู้เข้าอบรมมีความเข้าใจในการสื่อสารด้านอาชีพให้กับประชาชน 2. ผู้เข้าอบรมมีความรู้พื้นฐานภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพและสามารถนำไป ประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต 8.4 สรุปงบประมาณในการดำเนินงาน แผนงานยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ งบ รายจ่ายอื่น รายการโครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ โครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ รหัสงบประมาณ 20002350052005000016 แหล่งของ เงิน 6511500 จำนวนเงิน 17,700.- บาท (หนึ่งหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน )
1. ค่าตอบแทนวิทยากร (1 คน x300 บาท x จำนวน 30 ชม.) จำนวนเงิน 9,000.-บาท 2. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม (15 คน x 25 บาท x 12 มื้อ) จำนวนเงิน 4,500.-บาท 3. ค่าอาหารกลางวัน (15 คน x45 บาท x 6 มื้อ) จำนวนเงิน 4,050.-บาท 4. ค่าวัสดุประกอบการอบรม จำนวนเงิน 150.- บาท รวมทั้งสิ้น 17,700.-บาท (หนึ่งหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) 9. จำนวนผู้เรียนและผู้ผ่านการเรียน/อบรม จำแนกตามอายุและเพศ เพศ อายุ ต่ำกว่า 15 ปี 15-39 ปี 40-59 ปี 60 ปีขึ้นไป รวม รวมทั้งสิ้น ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ จำนวนผู้เรียน - - 1 4 1 2 1 6 3 12 15 จำนวนผู้ผ่านการฝึกอบรม - - 1 4 1 2 1 6 3 12 15 10. จำนวนผู้เรียนและผู้ผ่านการฝึกอบรม จำแนกตามกลุ่มอาชีพและเพศ กลุ่มอาชีพ เพศ รับ ราชการ พนักงาน รัฐวิสาหกิจ ค้าขาย เกษตรกรรม รับจ้าง อื่นๆ รวม รวมทั้งสิ้น ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ จำนวนผู้เรียน - - - - - 2 - - 1 3 2 7 3 12 15 จำนวนผู้ผ่านการฝึกอบรม - - - - - 2 - - 1 3 3 7 3 12 15 11. จำนวนผู้เรียนและผู้ผ่านการฝึกอบรม จำแนกตามกลุ่มเป้าหมายและเพศ กลุ่มเป้าหมาย เพศ ผู้นำ ท้องถิ่น อบต. ผู้ต้องขัง ทหารกอง ประจำการ แรงงาน ไทย แรงงาน ต่างด้าว เกษตรกร อสม. กลุ่ม สตรี อื่น ๆ รวม รวม ทั้งสิ้น ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ จำนวนผู้เรียน - - - - - - - - 2 6 - - - - - - - 1 6 3 12 15 จำนวนผู้ผ่าน การฝึกอบรม - - - - - - - - 2 6 - - - - - - - 1 6 3 12 15 12.ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างดำเนินงาน ..............ไม่มี............................................................................................................................. ............ 13.ข้อเสนอแนะในการจัดกิจกรรมโครงการครั้งต่อไป ................ไม่มี.........................................................................................................................................
4.ภาพกิจกรรม (จำนวน 2-4 ภาพ) โครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ วันที่ 18-23 กรกฎาคม 2565 ณ กศน.ตำบลสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
โครงการภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพพนักงานขายสินค้าและบริการ วันที่ 18-23 กรกฎาคม 2565 ณ กศน.ตำบลสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ...........................................ผู้รายงาน (นางสาวสุภาวดี บางโสก)