The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล”
วันที่ 23 มีนาคม 2564
ณ ศูนย์การเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” หมู่ 8 ตำบลหนองเหียง
อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ebookchon, 2021-04-18 13:07:31

สรุปผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

โครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล”
วันที่ 23 มีนาคม 2564
ณ ศูนย์การเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” หมู่ 8 ตำบลหนองเหียง
อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 1

โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

คำนำ

กศน.ตำบลทุ่งขวาง กศน.ตำบลบ้านชา้ ง กศน.ตำบลบา้ นเซิด กศน.ตำบลหมอนนาง กศน.ตำบลกฎุ
โงง้ และ กศน.ตำบลนามะตูม สังกดั ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นิคม
ไดจ้ ดั ทำโครงการอบรมใหค้ วามรแู้ ละฝึกปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” โดยมีวัตถุประสงคเ์ พอ่ื ให้
ผูเ้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมรู้จักการใชพ้ ้ืนที่อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพสงู สุด พร้อมทง้ั สง่ เสรมิ และพัฒนาคุณภาพชวี ิตของ
ประชาชน ตลอดจนทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ซึ่งมีการ
สรุปผลการจดั กจิ กรรมโครงการดังกลา่ วเพื่อตอ้ งการทราบว่าการดำเนินโครงการบรรลุตามวตั ถปุ ระสงค์ที่
กำหนดไว้หรือไม่ บรรลใุ นระดบั ใดและได้จดั ทำเอกสารสรปุ ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี งเสนอต่อผูบ้ รหิ าร ผ้เู กย่ี วขอ้ งเพ่ือนำขอ้ มูลไปใชใ้ นการปรบั ปรุงและพัฒนาการดำเนิน
โครงการใหด้ ียง่ิ ขึน้

คณะผู้จดั ทำ ขอขอบคณุ ผู้อำนวยการศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
อำเภอ
พนสั นิคม ท่ีให้คำแนะนำ คำปรกึ ษา ในการจดั ทำสรปุ ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี งในครั้งนี้

หวงั เป็นอย่างย่งิ ว่าเอกสารสรุปผลการจัดกิจกรรมการเรียนรูต้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงฉบบั นี้ จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านโครงการและหน่วยงานทเ่ี กี่ยวข้องในการนำไปใช้ในการจัด
กิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ต่อไป

นิตยา น้ำฟ้า
ครู กศน.ตำบล
มีนาคม 2564

กศน.ตำบลทุ่งขวาง สังกัด กศน.อำเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจัดกิจกรรม 2

โครงการอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

สารบัญ

หวั เร่อื ง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
สารบัญตาราง ค
บทที่ 1 บทนำ 1

- หลักการและเหตุผล 1
- วัตถปุ ระสงค์ 1
- เปา้ หมายการดำเนินงาน 1
- ผลลพั ธ์ 2
- ตวั ชี้วดั ผลสำเร็จของโครงการ 2

บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและงานวิจัยทเ่ี กย่ี วข้อง 3
- กรอบการจัดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3
- เอกสาร/งานที่เก่ียวข้อง 3
10
บทท่ี 3 วธิ ีดำเนินงาน 13
บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล 18
บทที่ 5 อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ
ภาคผนวก

- แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง
- โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”
- แบบประเมนิ ผูร้ ับบรกิ าร

- ภาพประกอบการจัดกจิ กรรม

- หนงั สอื เชิญวิทยากร

คณะผู้จัดทำ

กศน.ตำบลทุ่งขวาง สังกดั กศน.อำเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจัดกิจกรรม 3

โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

สารบญั ตาราง

ตารางที่ รายละเอยี ด หน้า
13
1 ผู้เข้าร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามเพศ 13
14
2 ผู้เขา้ ร่วมโครงการท่ีตอบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามอายุ 14
14
3 ผเู้ ข้าร่วมโครงการท่ีตอบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามอาชพี 15
15
4 ผเู้ ข้าร่วมโครงการท่ีตอบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามระดับการศกึ ษา
16
5 แสดงคา่ รอ้ ยละเฉลย่ี ความสำเร็จของตัวช้ีวดั ผลผลติ ประชาชนท่วั ไป
16
6 ค่าเฉล่ียและสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ ในภาพรวม

7 ค่าเฉลี่ยและส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ

ดา้ นการบริหารจดั การ

8 ค่าเฉลย่ี และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ

ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้/การอบรม

9 ค่าเฉลย่ี และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ

ด้านประโยชน์ทไี่ ด้รับ

กศน.ตำบลทงุ่ ขวาง สังกัด กศน.อำเภอพนสั นคิ ม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 4

โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

บทที่ 1

บทนำ

หลักการและเหตผุ ล

สถานการณ์ของประเทศไทยในปจั จุบนั ต้องเผชิญกับผลกระทบจากวิกฤตการแพรร่ ะบาดของโรคติด
เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งสง่ ผลกระทบไปถงึ วิกฤตทางด้านเศรษฐกจิ ด้านการสาธารณสุข ดา้ น
การคมนาคมและอน่ื ๆ สง่ ผลให้เกิดวิกฤตทางสงั คมขนาดหนักไปท่ัวท้ังโลก ซงึ่ ส่งผลใหโ้ ลกมีผลผลติ ลดลงถึง
30%
ซง่ึ หมายถงึ โลกจะขาดอาหารและเศรษฐกจิ จะมีการเตบิ โตลดลง 1.5% อกี ทัง้ วกิ ฤตด้านการเปลยี่ นแปลง
สภาพภูมอิ ากาศ ท้งั เร่ืองภยั แล้งและน้ำทว่ ม ท่ีคาดวา่ จะมีความรุนแรงข้ึนทั้งในเชงิ ผันผวน ความถแี่ ละ
ขอบเขตที่กวา้ งมากขน้ึ ซ่ึงจะสรา้ งความเสียหายตอ่ ชวี ิตและโครงสรา้ งพนื้ ฐานท่ีจำเปน็ ทำให้เศรษฐกิจฐาน
รากของประเทศเกดิ ความเสียหาย เพ่อื ปัญหาความยากเจนและความเหล่ือมล้ำทางสงั คม ตลอดจนระบบ
การผลิตทางการเกษตรทมี่ ีความสัมพนั ธ์ต่อเน่ืองกับความม่ันคงด้านอาหารและนำ้ ขณะทีร่ ะบบนเิ วศต่าง ๆ มี
แนวโน้มเสือ่ มโทรมลง และมีแนวโนม้ ที่จะสญู เสยี ความสามารถในการรองรับความต้องการของมนษุ ย์ได้อยา่ ง
มีประสิทธิภาพ

ทางออกของประเทศไทยในการรอดพ้นวกิ ฤตและเกิดการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ได้ถูกกำหนดไว้ใน
ยุทธศาสตรช์ าติ พ.ศ. 2561-2580 และนโยบายรัฐบาลท่จี ะสืบสาน รกั ษา ต่อยอดและพัฒนาประเทศตาม
หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ซง่ึ ไดม้ ีการน้อมนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและหลักทฤษฎีใหม่
มาเปน็ หลกั ในการสง่ เสรมิ กระบวนการเรยี นรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึง่ เนน้ ประชาชนเป็น
ศนู ย์กลาง โดยการพัฒนาคนให้พึง่ ตนเอง มคี วามเปน็ เจ้าของและบริหารจัดการโดยชมุ ชน พฒั นาหมู่บา้ น
หรอื ชมุ ชนให้มวี ถิ ชี วี ติ เศรษฐกจิ พอเพยี งและเป็นสังคม “อยเู่ ยน็ เปน็ สขุ ”

ดงั นั้น กศน.ตำบลบ้านชา้ ง พร้อมด้วย กศน.ตำบล รวมท้ังส้ิน 6 แห่ง จึงไดจ้ ัดโครงการอบรมให้
ความรู้และฝกึ ปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล”ขน้ึ ให้แก่ประชาชน เพ่อื ใหผ้ เู้ ข้าร่วมกิจกรรมร้จู ักการใช้
พ้นื ท่ีอย่างมีประสทิ ธภิ าพสูงสุด พร้อมทั้งส่งเสรมิ และพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ของประชาชน ตลอดจน
ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

วตั ถปุ ระสงค์

1. เพอื่ สง่ เสรมิ ให้ผ้เู ข้ารว่ มกจิ กรรมรู้จกั การใช้พ้ืนท่ีอยา่ งมีประสิทธิภาพสูงสุด
2. เพ่อื ส่งเสริมและพฒั นาคณุ ภาพชีวิตของประชาชน ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม
ตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

กศน.ตำบลทงุ่ ขวาง สงั กัด กศน.อำเภอพนัสนิคม

สรุปผลการจัดกิจกรรม 5

โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

เป้าหมาย

ด้านปรมิ าณ
ประชาชน 6 ตำบล ๆ ละ 5 คน ได้แก่ ตำบลบ้านช้าง ตำบลบา้ นเซิด ตำบลหมอนนาง

ตำบลกุฎโงง้ ตำบลท่งุ ขวางและตำบลนามะตมู รวมทัง้ สน้ิ 30 คน
ดา้ นคุณภาพ
- ผู้เข้าร่วมกจิ กรรมรูจ้ กั การใช้พื้นที่อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพสงู สุด
- ผู้เข้าร่วมกจิ กรรมมีการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม

ตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ผลลพั ธ์

ผูเ้ ข้าร่วมกจิ กรรมรจู้ ักการใช้พืน้ ท่ีอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพสูงสุด อีกท้งั มีการพฒั นาคุณภาพชีวติ
ตลอดจนทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ดชั นชี ้วี ดั ผลสำเรจ็ ของโครงการ

ตวั ชี้วดั ผลผลติ
รอ้ ยละ 80 ผู้เข้ารบั การอบรมรจู้ ักการใชพ้ ้นื ทอี่ ย่างมปี ระสิทธิภาพสูงสุด

ตวั ชี้วดั ผลลัพธ์
รอ้ ยละ 80 ผูเ้ ข้ารับการอบรมมีการพฒั นาคุณภาพชวี ิตที่ดี ตลอดจนใช้ทรัพยากรธรรมชาติ

และสงิ่ แวดลอ้ มตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงได้อยา่ งเหมาะสม

กศน.ตำบลทุง่ ขวาง สงั กัด กศน.อำเภอพนัสนิคม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 6

โครงการอบรมให้ความร้แู ละฝึกปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

บทที่ 2

เอกสารการศึกษาและงานวจิ ยั ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง

ในการจัดทำสรปุ ผลโครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” ครั้งน้ี
คณะผู้จดั ทำโครงการไดท้ ำการค้นคว้าเนื้อหาเอกสารการศึกษาและงานวิจัยทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ดงั นี้

1. กรอบการจัดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
2. เอกสาร/งานวจิ ัยท่ีเกีย่ วข้อง

1. กรอบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
จดุ เนน้ การดำเนินงานประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2564
1. น้อมนำพระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาส่กู ารปฏิบัติ

1.1 สบื สานศาสตรพ์ ระราชา โดยการสรา้ งและพฒั นาศนู ยส์ าธติ และเรยี นรู้ “โคก
หนอง นา โมเดล” เพ่อื เปน็ แนวทางในการจดั การบรหิ ารทรพั ยากรรปู แบบตา่ ง ๆ ทง้ั ดนิ นำ้ ลม แดด
รวมถงึ พชื พนั ธตุ์ า่ ง ๆ และสง่ เสรมิ การใชพ้ ลงั งานทดแทนอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

ภารกิจตอ่ เน่อื ง
1. ดา้ นการจดั การศึกษาและการเรยี นรู้

1.3 การศกึ ษาต่อเน่อื ง
4) การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งผ่านกระบวนการ

เรียนรตู้ ลอดชีวิตในรูปแบบต่าง ๆ ใหก้ ับประชาชน เพื่อเสริมสร้างภมู คิ ุ้มกนั สามารถยนื หยดั อยู่ได้อย่างมัน่ คง
และมกี ารบริหารจดั การความเส่ียงอย่างเหมาะสม ตามทศิ ทางการพฒั นาประเทศสู่ความสมดุลและยั่งยืน

2. เอกสาร/งานวจิ ยั ที่เก่ียวขอ้ ง
เกษตรทฤษฎีใหม่ หลกั การออกแบบดว้ ยพ้ืนที่ดว้ ย ภมู ิสังคม

หลุมขนมครก ก็คอื เกษตรทฤษฎีใหมข่ องพระองค์ทา่ นน่แี หละ ถา้ จะให้นิยาม เรามาใชค้ ำ ให้เป็น
ภาษาชาวบา้ นแค่น้ันเอง

1. โคก หนอง นาโมเดล กถ็ ือเปน็ ๑ หลุม พืน้ ท่ลี มุ่ น้ำน้ันเปรียบเหมือนถาดขนมครก ถาด 1 ถาด ถ้า
ไม่มีหลุมเลย กจ็ ะเปน็ ถาดเรียบ ๆ ท่นี ำ้ ลากมาก็จะไหลผ่านหมด การทำหลุมขนมครกก็คือการทำ โคก หนอง
นา เปน็ หลมุ ๆ อยู่ในถาดน้นั ใหเ้ ปน็ จดุ ๆ ให้เต็มถาด เพ่อื ใหแ้ ทนท่ีนำ้ ที่อาจจะไหลผ่านทั้งหมดทเี ดยี ว นำ้ ก็จะ
ได้ขังอยูใ่ นหลมุ ขนมครก เพราะน้ำฝนทั้งหมดที่ตกมา แทนท่จี ะทะลักล้นทำให้เกดิ นำ้ ท่วมแบบนี้มันกจ็ ะโดน
เก็บไวก้ ่อนแลว้

กศน.ตำบลทงุ่ ขวาง สังกัด กศน.อำเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจัดกจิ กรรม 7

โครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

อย่างเช่น ที่น่านถ้าเราไปทำอย่างนี้ ทุกภูเขาท่ีกำลังหวั โลน้ อยู่ ไปทำทั้งระบบเกบ็ น้ำบนภเู ขา มีปลูกป่าเพิ่มเพ่อื
จะเก็บน้ำไวใ้ นดนิ เช่นการขุดหนองบนเขา ทำนาบนเขา เปน็ นาขั้นบันได กจ็ ะสามารถชะลอน้ำไม่ให้ลากลงมา
ได้ เพราะว่าระบบน้ำทฝ่ี นตก น้ำจากนำ้ ฝนน้ีเวลาตกจะโดนชะลออยู่ในพน้ื ท่ีก่อนไม่ใชต่ กแลว้ หลากด่ิงมาเลย
เพราะถ้าดิ่งลงมารวมกันหมด กจ็ ะทำใหเ้ กิดการทะลักกลายเป็นน้ำปา่ แต่ถ้าทำอย่างนีม้ ันจะชะลออยู่เป็นจุด
ๆ หลุมขนมครกน้ี นอกจากจะช่วยชะลอนำ้ ท่วมแล้ว กย็ งั ทำใหม้ นี ำ้ เกบ็ อยู่ในทดี่ ินซ่งึ สามารถนำมาใช้ตลอดทัง้
ปีได้

ซ่ึงหลักการออกแบบ คอื ต้องคำนวณวา่ ใน ๑ ปี จะใช้นำ้ อยู่กล่ี ูกบาศก์เมตร แลว้ จะตอ้ งเกบ็ น้ำให้
พอใชใ้ น ๑ ปี โดยทีไ่ มต่ อ้ งรอน้ำจากระบบชลประทาน และตอ้ งพง่ึ ตนเองเรื่องน้ำให้ได้ ๑๐๐% หรือ ๑๒๐%
เพอ่ื จะเผ่ือชาวบ้านท่เี ขาไมม่ ีพอ

หลักสำคญั ท่ีสุดในการออกแบบพ้ืนท่จี รงิ ๆ เราจะใชค้ ำว่าการออกแบบเชิงภมู สิ งั คมไทย ซง่ึ คำว่า
ภูมสิ ังคมนี้ เปน็ คำทใ่ี นหลวงท่านพระราชทานให้ และคำนกี้ ็เปน็ คำทท่ี างมหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำไปเปิดเป็น
หลกั สตู ร ชื่อว่าหลกั สูตรการพัฒนาภูมิสงั คมอยา่ งย่ังยืน ซ่ึงสามารถนำมาเชือ่ มโยงกบั ความเข้าใจของสิ่งที่
พระองค์ทา่ นทรงคดิ และปรชั ญาของพระองคท์ ่าน ว่าพระองค์ท่านอยากจะทำอยา่ งไร ท่ีสำคัญจริง ๆ น้ัน มี
ปัจจัยคอื เรื่องของคำว่าภูมิสงั คมนนั้ ภมู ิ คอื กายภาพ สภาพดิน นำ้ ลม ไฟ และสงั คม คือ วัฒนธรรม ความ
เช่ือ ภมู ิปญั ญาดง่ั เดิมที่อยู่ในพื้นท่ีนั้น เพราะฉะน้ันปัจจัย ๒ ตัวนีค้ อื ปจั จยั หลักทีส่ ำคัญ

ซึง่ การออกแบบจรงิ ๆ น้นั สังคมจะสำคญั กวา่ ภูมิ เพราะต้องออกแบบตามคนที่อยู่ เปรียบเสมอื น
ศัพท์ทางสถาปนิกทเ่ี รามกั จะใช้คอื ปลกู เรือนตามใจผ้อู ยู่ เช่น การออกแบบพ้นื ทห่ี น่ึงใน จังหวดั ลำปาง ถงึ แม้
จะเป็นภเู ขาด้านเดียวกนั แต่คนทอี่ ยู่อาศยั นั้นเป็นคนเผา่ กระเหรี่ยงและเผา่ อาข่า ซ่ึงเป็นคนละชนเผา่

ฉะนนั้ การออกแบบกจ็ ะใชค้ นละรูปแบบ เพราะวัฒนธรรมการกินอยู่ของทงั้ ๒ เผ่า นน้ั ไม่เหมือนกนั
พืชผกั ทเ่ี ขาปลูกก็ไมเ่ หมอื นกัน เพราะฉะน้ันความตอ้ งการน้ำของพืชผกั แตล่ ะชนิด จงึ ไม่เหมอื นกนั ฉะน้นั ภูมิ
ประเทศเหมอื นกันก็จริงแต่ถ้าสงั คมไมเ่ หมือนกนั การออกแบบกจ็ ะเปล่ยี นไปทนั ที ดังน้ันสังคมจงึ จะมาก่อนภูมิ

ภมู ิ จะเป็นบรรทดั ฐานท่ีง่าย ๆ คอื หลักของภูมินีจ้ ะใช้หลกั เดยี วกนั ท้ังประเทศ เช่น ปริมาณนำ้ ฝนใน
พืน้ ทแี่ ตล่ ะพ้ืนท่นี ้นั ตกต่างกันเท่าไหร่ ก็เอาปรมิ าณนำ้ ฝนมาเปน็ ตวั คำนวณ ทศิ ทางลมของพ้นื ที่ สว่ นใหญใ่ น
ประเทศไทย จะเปน็ ลมมรสุมตะวนั ตกเฉียงใต้อยูแ่ ล้ว แต่ถ้าในพ้นื ท่ีท่ีเปน็ ร่องเขาก็อาจจะตอ้ งดวู ่าลมมาจาก
ร่องเขาไหน ทิศทางแดด แดดชว่ งหนา้ หนาวตะวนั ออ้ มใต้ แดดก็คือความร้อน การวางผังอะไรก็ตาม จึงต้อง
คดิ ถึงเร่ืองอะไรพวกน้ีทัง้ หมด

การออกแบบหลุมขนมครก หรอื กค็ ือ โคก หนอง นา ในพ้ืนทีข่ องเรา จะต้องคำนึงถงึ ตัวแปลสำคัญ
นั่นคือ “ดนิ น้ำ ลม ไฟ และคน” ลกั ษณะความอมุ้ นำ้ ของดินท่ีตา่ งกันมผี ลต่อการออกแบบพ้นื ท่ี เพราะจะต้อง
มีการวางแผนเพ่อื ขุดหนองน้ำและสิง่ สำคญั อกี อย่างหนึง่ คือ การปรับปรุงดินโดยใช้หลักการฟน้ื ฟู รกั ษาความ

กศน.ตำบลทุง่ ขวาง สงั กัด กศน.อำเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 8

โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

สมบูรณ์ของหนา้ ดินโดยการห่มดนิ ดว้ ยฟาง ใบไม้ หรือหญ้า แล้วใช้ปุ๋ยอนิ ทรียใ์ หเ้ หมาะสม กบั คณุ ลักษณะของ
ดินจะช่วยแกป้ ัญหาดินได้

มองใหเ้ หน็ คุณคา่ ของน้ำฝนที่ตกลงมาโดยการเกบ็ ไว้ใหไ้ ด้มากท่ีสุด การขดุ หนองนำ้ โดยดู ทางไหล
ของนำ้ เขา้ และออกจากพื้นที่เป็นสว่ นสำคัญส่วนหน่ึง หากวางตำแหน่องของหนองนำ้ ในทิศทางที่ให้ ลมร้อน
พดั ผา่ นก็จะทำให้บ้านเยน็ ขึ้น การขุดหนองน้ำต้องขุดใหค้ ดเคีย้ ว ใหม้ ีระดบั ความสูงในหนองน้ำ ไมเ่ ทา่ กนั แล้ว
ปลูกพชื น้ำเพ่ือให้ปลาอาศยั และวางไข่ได้

รวมท้งั การทำแซนวชิ ด์ปลา คอื การนำหญ้าและฟางกองสลบั กับปุย๋ หมักไว้ท่ตี ้นนำ้ เพ่อื สร้างแพลง
ตอนเพ่ิมอาหารให้กบั สตั ว์น้ำนั่นเอง

ตัวแปลสำคัญของการออกแบบหลุมขนมครก หรอื ก็คอื โคก หนอง นา ในพ้ืนท่ีของเรา คอื “ดนิ นำ้
ลม ไฟ และคน”

ลมจะหอบท้งั ความร้อนและฝนเข้ามาในพน้ื ท่ี จึงต้องรู้ว่าลมพัดเข้ามาทางไหน ตามปกติแล้วลมฝนจะ
พัดมาทางทิศตะวนั ตกเฉียงใต้ ส่วนลมหนาวจะพดั มาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ดังน้นั จงึ ควรวางตำแหนง่
บา้ นและลานตากข้าวไม่ให้ขวางทศิ ทางลมหนาว การออกแบบบา้ นก็ควรให้มีช่องลมสอดรับกับทศิ ทางลมท่ีพดั
มาในแต่ละฤดูกาลเพ่ือทำให้บ้านเย็น ลดการใช้พลงั งานได้

ไฟก็คือแสงจากดวงอาทติ ย์ซงึ่ กอ่ ใหเ้ กิดความร้อนไปดว้ ย เราจะตอ้ งสำรวจทิศทางขึน้ และ ตกของดวง
อาทติ ย์โดยควรจะสงั เกตหลายๆ ครงั้ ในทุกฤดู เพราะในแต่ละฤดูมีทิศทาง และช่วงเวลาท่ีไม่เหมอื นกนั หวั ใจ
สำคัญของการออกแบบกค็ ือ ความต้องการของคน คนคิดอยา่ งไร คนอยอู่ ยา่ งไร ออกแบบให้เหมาะสมกับการ
ดำรงชีวิตของผู้อยทู่ ่นี ่นั จงึ จะเรียกวา่ ดที ีส่ ุด

อ.ยกั ษ์ จะสอนเสมอวา่ ทำงานให้ได้ ๓ อย่าง ในการทำงานของพวกเรา โคก หนอง นา ก็เหมือนกัน
เวลาออกแบบ เราก็ต้องคิดให้เขาทำให้ได้ ๓ อยา่ งเหมอื นกัน คอื

1. ทำงานตอ้ งไดง้ าน โคก หนอง นา เวลาเราทำเราต้องได้แบบของโคก หนอง นา

2. ทำงานต้องได้เพื่อน คอื ได้เพือ่ นมาชว่ ยกันทำงาน

3. เรื่องนเ้ี ป็นเรือ่ งใหญเ่ ลยและคนมักจะลืมกันไปกค็ ือ ทำงานต้องได้พัฒนาตนเอง ทง้ั จติ ใจ และกำลงั
กาย ท้งั สุขภาพ

เพราะฉะน้นั หลักในการออกแบบโคก หนอง นา ส่วนใหญจ่ ะเน้นในเร่ืองของการออกแบบอย่างไรให้
เกดิ กจิ กรรม ๓ กจิ กรรมนี้ เพราะ 3 กิจกรรมนี้ จะเปน็ ตัวทำให้งานสำเรจ็ สำเรจ็ และมนั ยง่ั ยนื ต่อไปและเขาก็
จะแบบมีความภมู ใิ จคือหลักๆในการออกแบบ

กศน.ตำบลทงุ่ ขวาง สังกัด กศน.อำเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 9

โครงการอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

เกษตรทฤษฎใี หม่ การขึน้ รูปแปลงนา
เวลาเราจะกินข้าวมีทางเลือกเยอะแยะเลย ไปซอื้ เอาก็ได้ เพราะมันถูกขา้ วมนั ราคาถูก แต่ว่า ปลูกกนิ

เองนก้ี บั ไปซื้อเขาอันไหนมันจะอร่อยกว่ากัน

การยกคันนา บ้านเรานม้ี ปี ริมาณนำ้ ฝนตกลงมาใส่ไร่หนึง่ ๒,๐๐๐ ตนั ข้นึ ไป ๒,๐๐๐ ตนั ก็คอื ๒,๐๐๐
ควิ นน่ั เอง เพราะฉะน้นั เกนิ กับปรมิ าณที่ข้าวต้องการ วธิ ที ีจ่ ะเก็บน้ำไวด้ ีท่ีสุด คือ ชาวนา ตอ้ งทำเข่อื นของ
ตวั เองขนาดใหญ่หรือท่เี รยี กว่าคนั นา อีสานเรยี กว่าคันแคนา คันนาขนาดใหญ่ ๑ - ๒ เมตร บางบ้านทำถึง ๕ –
๖ เมตร คันนาน้ี เรม่ิ ต้นก็ต้องยกคนั นา เชค็ ระดบั แล้วก็ยกคันนา ยกคันนาให้สามารถ เก็บน้ำไว้ในนาได้แล้ว
ปรบั พนื้ นาใหเ้ สมอกนั ถา้ ปริมาณน้ำไม่แนใ่ จวา่ มันจะเกบ็ ไดม้ ากกข็ ดุ ร่องริมคนั นา

การขุดรอ่ ง กเ็ พ่ือทจี่ ะเอาดินนน้ั ยกขน้ึ มาปนั้ คนั นาเม่ือได้คันนาใหญๆ่ สูงๆ กท็ ำใหต้ ้องการ ดินมาก
ดินตรงนั้นก็จะกลายเป็นร่องไป

รอ่ งน่ันกจ็ ะกลายเปน็ ทอี่ ยู่ของปลาอย่างดี เพราะปลาชอบอยู่ทง้ั ในน้ำลกึ และหากนิ ในน้ำตื้น จงึ ต้องมี
ร่องให้ปลาอย่อู ยา่ งมีความสุขในน้ำลกึ ขณะเดียวกันปลาก็จะขึ้นไปหากินในท่ีแดดส่องถึง ซึง่ กจ็ ะ มีแพลงตอน
พืช แพลงตอนสัตว์ มีสง่ิ มีชวี ติ ต่าง ๆ เยอะ เปน็ อาหารของปลา ปลากจ็ ะอยู่ได้อยา่ งมีความสุข

นอกจากน้ีการขุดคนั นาแบบไล่ระดบั หรือทเ่ี รียกว่าทำเปน็ ตะพัก ยังชว่ ยไมใ่ ห้ดินจากบนคันนาไหลลงสู่
พน้ื นาดา้ นล่าง โดยจะถูกดักไวบ้ นตะพักนก้ี ่อน และยังสามารถปลูกพชื บนจะพักได้อีกด้วย

ก่อนจะหวา่ นเมล็ดไม่วา่ จะตกกลา้ เพื่อจะถอนเอาไปดำหรอื หวา่ นสำหรับทจี่ ะเป็นนาหวา่ น ก็ควรจะ
ทำเทอื กก่อน

การทำเทอื ก กค็ ือทำเลนใหม้ ันเรยี บสนทิ ใหเ้ สมอกนั น่ันเอง เขามกั จะใหค้ นลงไปทุบไปยำ้ หรือใช้
เครือ่ งลงไปย้ำหรอื เครือ่ งลงไปทุบ แลว้ ก็จะเอาไมก้ ระดานหรือเหลก็ หรอื อะไรก็ไดป้ าดมันให้มนั เรียบ เปน็ เทือก
ก็คือใหเ้ ปน็ เลนเป็นเทือกเลย เรียบเพ่อื ให้นำ้ มันขังเทา่ กนั ข้าวก็จะโตในลักษณะเท่าเทียมกนั ฉะนัน้
จำเปน็ ตอ้ งปรบั ให้เสมอกันเพื่อให้น้ำขังความลกึ ของนำ้ เทา่ กันตลอดท้ังแปลง ถ้าสมมตแิ ปรงถดั ไปมีพ้ืนท่ตี ่ำ
กวา่ เราก็ต้องกดปรับขนึ้ อีกแปลงเพือ่ ทจี่ ะยกคนั นาเป็น ข้ัน ขนั้ ถา้ เป็นภูเขาก็ปรบั เปน็ ขั้น ข้ัน ท้องหรือพ้นื
ต้องเสมอกัน เพือ่ ใหใ้ นท้องนามีความลึกเท่ากนั น่ันเอง

นอกจากน้นั จะต้องบำรุงดินในพน้ื นาด้วยการดองเอาไวเ้ ราจะตอ้ งไปจัดการพ้ืนนาทจี่ ะเป็น ที่อยขู่ อง
รากคือท้งั หมักทัง้ ดอง ถกู ไหมทำไดท้ ้ัง 2 แบบ โดยมวี ตั ถุประสงค์อะไร ใหจ้ ุลินทรียม์ ันเพิ่มปริมาณหรือชกั ชวน
แม่ธรณมี าอยู่กบั เราจำนวนมาก ๆ เมอ่ื เราหมกั เมื่อเราดองจุลนิ ทรยี ์จะบมู มีมหาศาล

วธิ ีหมกั กค็ ือ เอาพืช ไมว่ ่าจะตอซังของมนั เอง รากของมนั เอง หญา้ หรือถัว่ เราต้องร้วู า่ ดินทด่ี ีเหมาะ
สำหรับข้าวมากทสี่ ุดคอื ดินท่ีมีอนิ ทรียวัตถุประมาณ ๕% สมัยโบราณ เขาก็ไถหมักพลิกหญา้ จะได้ ท้ังต้นหญา้
ดอกหญ้า ใบหญา้ รากหญ้า หมกั กจ็ ะไดจ้ ุลนิ ทรีย์ข้ึนมา แล้วเอานำ้ ใส่ เอาปยุ๋ ชวี ภาพ ทั้งปยุ๋ แหง้ ท้ังปยุ๋ นำ้ ใส่
ลงไป หรือไมอ่ าจใช้ปุ๋ยชวี ภาพธรรมดาเลย ก็คือเอาขี้ววั นแ่ี หละใส่ลงไปงา่ ย ๆ

กศน.ตำบลทงุ่ ขวาง สงั กดั กศน.อำเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจัดกจิ กรรม 10

โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

แล้วกป็ ยุ๋ น้ำหมักชีวภาพใสล่ งไปไรล่ ะลติ ร ใจร้อนบางคนใส่ทเี่ ดียวตั้ง ๒๐ ลิตร กไ็ ด้ ขา้ วก็จะ งามมาก
แลว้ ก็ย้ำลงไป ทบุ แลว้ ก็หมกั ทิ้งเอาไว้ ๗ วนั มนั กจ็ ะย่อยสลาย ถ้ามเี มล็ดตกคา้ งมันก็จะแตกออกมาเลย แล้ว
ย้ำทำอีกซ้ำลงไปอีกรอบหนง่ึ กจ็ ะใชเ้ คร่ืองกไ็ ด้ก็ทบุ ลงไป จากนัน้ ก็หมักทงิ้ เอาไว้

วิธีดองดนิ หมายถงึ ว่าเอาน้ำขังให้มันแช่นำ้ แล้วกด็ องทิ้งเอาไวใ้ ห้ไดส้ กั ๗ วนั รวมเป็น ๒ ครง้ั ก็ ๑๔
วนั โดยประมาณ แล้วหลงั จากนน้ั กด็ ำไดเ้ ลย หรือจะโยนกลา้ กไ็ ด้ หรอื จะดำก็ได้ ขา้ วก็จะงามโตเร็ว ให้
ผลผลิตดี

ขีว้ ัวผสมฟางทีใ่ ชห้ มักดองดิน สามารถนำมาฉาบไปบนขอบตล่ิง บนตะพัก รวมทัง้ บนคนั นา เพราะจะ
ได้ประโยชน์ทงั้ การบำรงุ ดิน และเปน็ การทำใหผ้ นังคันนาแข็งแรงข้นึ ด้วย

การห่มดินบนคนั นา คือธรรมชาติของบ้านเราเปน็ เขตร้อนชน้ื สงั เกตจากในปา่ จะมีใบไม้สลัดหม่ ดินไว้
หนา บางทีเดนิ ลงไปยุบลงไปหนาถึงเขา่ ฉะนัน้ จะทำให้ดนิ เกิดความอุดมสมบูรณเ์ หมือนดนิ ป่าตามธรรมชาติ ก็
ไปหาใบไม้ หญา้ หรือฟางก็ได้ เอามาห่มเอาไว้ให้หนา อย่างน้อยสักฝา่ มือ

โดยวัตถปุ ระสงคข์ องการหม่ ดิน กค็ ือ ต้องการให้ดินเกดิ ทงั้ ความร้อนทั้งความชน้ื สภาวะบ้านเราเปน็
เขตรอ้ นชืน้ ถ้าเราไปกวาดใบไม้ออกหมดปล่อยใหด้ นิ เปลือย ดินกจ็ ะไมช่ ้ืน และก็ไมร่ ้อน อยากทำให้ดินมี
สภาพเป็นร้อนชน้ื ก็ไปหามาห่มเอาไว้ กจ็ ะไดค้ วามช้นื อยูใ่ นดนิ พอเหมาะ อยา่ งน้อยประมาณสกั ๒๕% และก็มี
ความรอ้ นในสภาวะความรอ้ นความช้นื จลุ ินทรยี จ์ ะทำงานเร็วมาก น่นั ก็แปลวา่ รากกจ็ ะทำงานเร็วมาก จงึ ทำ
ให้รากยาวและกจ็ ะปริมาณมาก ทำให้หาอาหารได้เก่ง ต้นไม้ก็จะโตให้ผลผลิตดี

เทคนคิ การหม่ ดิน มดี งั น้ี

1. อย่าใหแ้ สงส่องถึงพนื้

2. ใหค้ วามรอ้ นชดั เจน เม่ือความรอ้ นนีถ้ ูกจุลินทรยี บ์ วกกบั ความชน้ื จะยอ่ ยสลายใบไม้กลายเป็น
ฮวิ มัส ซงึ่ เปน็ ปุ๋ยท่ีดีท่ีสุดสำหรับพชื ทุกชนดิ

ทบทวนการขน้ึ รปู แปลงนา
เร่มิ จากการทำคันนาสงู ประมาณ ๑ เมตร กว้างประมาณ ๒ เมตร จากนัน้ ขดุ ร่องนำ้ โดยรอบรวมทง้ั

ขุดไล่ระดบั คันนาเปน็ ตะพัก แลว้ นำดินทีข่ ดุ ไปเพม่ิ
ความสงู ของคนั นาได้อีก

ดา้ นบนคนั นาให้ขุดคลองไส้ไก่ไวด้ ว้ ยจะดมี าก
ต่อไปเป็นการปรบั ระดบั พนื้ นา โดยอาจนำนำ้ เข้าแปลง
นาเลก็ น้อย เพ่อื ให้การปรบั ระดับงา่ ยขนึ้ แลว้ ทำการย้ำ

กศน.ตำบลท่งุ ขวาง สังกดั กศน.อำเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 11

โครงการอบรมใหค้ วามรแู้ ละฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

โดยคน หรือใช้รถไถปรบั ระดับเพอื่ ให้พ้ืนนาเรยี บเทา่ กนั ทัง้ แปลง

หรอื ปุ๋ยชีวภาพ นำน้ำเข้าแปลงนาพอทว่ ม แลว้ ย่ำให้ผสมกนั

จากน้ันนำข้ผี สมฟางบางสว่ นขน้ึ มาฉาบไว้ตามคันนา หมกั ดองไว้ประมาณ ๗ วัน ช่วงเวลาน้ี ถ้ามีเมล็ด
พืชตกค้างก็อาจจะงอกข้ึนมาได้ เม่ือครบ ๗ วนั ก็ใหย้ ้ำลงไปอกี คร้ังและทง้ิ ไว้อกี ๗ วัน รวมเป็น ๑๔ วัน

จากนน้ั ห่มดินเพ่มิ โดยใชฟ้ าง แล้วก็สามารถปลกู ขา้ วและพืชผักตา่ ง ๆ ตามคนั นาไดเ้ ลย

เกษตรทฤษฎใี หม่ การบรหิ ารจัดการน้ำด้วย โคก หนอง นา โมเดล
บรรดาศาสตรต์ ่าง ๆ ในโลก สว่ นใหญ่จะเกิดจากปัญญาชน เกดิ จากพระ หรือเกิดจากเกษตรกร น้อย

นกั ท่ีจะเกดิ จากคนท่เี ป็นพระราชา แต่บา้ นเราโชคดีท่เี รามีพระราชาที่นอกจากจะทรงธรรม และยงั เป็น
นักวิทยาศาสตร์ เปน็ นักสร้างนวัตกรรม เปน็ นกั เกษตร เป็นผู้เช่ยี วชาญมากมาย

ศาสตร์คือองคค์ วามร้ทู ี่ถูกพัฒนา ถกู ทดลองมาแล้วอย่างเป็นระบบ เรียกว่า science หรือ ศาสตร์ ซงึ่
ได้ทดลองทำมา ๔,๐๐๐ กวา่ แห่ง เรยี กว่าทฤษฎีใหม่

ส่วนทฤษฎีเกา่ คือ การสบู น้ำจากคลองชลประทาน การเก็บนำ้ ไว้ในอ่างเก็บนำ้ แล้วก็ปล่อยน้ำมาใน
คลองชลประทานหรือปล่อยมาจากท่อ และสูบใสน่ า แลว้ ก็ทำนา เมื่อน้ำหมดก็จะนำน้ำจากคลองชลประทาน
มาเตมิ อย่างน้เี รยี กว่าทฤษฎเี ก่า

. ส่วนทฤษฎใี หม่นัน้ นอกจากเข่อื นท่สี ร้างไวแ้ ลว้ ควรสร้างเข่ือนขนาดกลาง เชน่ เขอ่ื นป่าสัก ซ่ึง
พระองค์ท่านได้สรา้ งไว้ให้ และทา่ นไดส้ ร้างเพิ่มขนึ้ อกี เชน่ อา่ งหว้ ยหินขาว ซงึ่ สามารถจุน้ำได้ ๑,๐๐๐,๐๐๐
ลกู บาศก์เมตร จากห้วยหนิ ขาวก็ตอ่ มาที่ชาวบ้าน ซ่งึ ชาวบา้ นแทนท่จี ะรอน้ำจากอา่ งห้วยหนิ ขาว หรือจากอา่ ง
เก็บน้ำป่าสกั ก็มาทำอ่างของตวั เองไว้ในบ้านของตนเอง ชาวบ้านกจ็ ะมหี นองนำ้ สระน้ำ อา่ งน้ำ ฝาย เพ่ือจะ
เก็บน้ำไวใ้ นที่ของตนเอง น่ีเป็นทฤษฎใี หม่

วิธกี ารเกบ็ นำ้ เหลา่ น้ี คอื ทใ่ี หญก่ เ็ ก็บ ท่ีขนาดกลางกเ็ กบ็ ท่ีบ้านใครบา้ นมันก็เกบ็ รวม ๓ ระดบั อยา่ งนี้
จะสามารถเกบ็ นำ้ ไดม้ ากกวา่ เดิมถงึ ๕ เท่า และหากชาวบ้านยอมเสยี ท่นี าของตัวเองลงไปสกั ๒๐ – ๓๐
เปอรเ์ ซน็ ต์ ก็จะมนี ำ้ ไวป้ ระจำบ้านตนเอง ระบบจดั การอย่างน้ี ทรงเรียกวา่ ทฤษฎีใหม่

การจัดประชุมกนั ในเครอื ขา่ ยชาวบ้าน ชาวบา้ นก็เห็นวา่ ต้องใช้ภาษาชาวบ้าน เมื่อขุดหนองจะเอา
ดินไปไหน ก็เอาไปทำโคก ปลูกโคกก็ปลูกป่า ส่วนตรงไหนท่ีมีคลอง ก็ขุดคลองไส้ไก่ ตรงไหนท่ีมีระดับต่างกนั ก็
ก้ันฝาย แล้วในนากป็ ั้นคันนาให้มีขนาดใหญ่ เหมือนคนโบราณ ซ่งึ บนหัวคนั นาของ คนโบราณเขามักจะปลูก
พริก ปลูกผกั ปลูกกล้วย ปลกู โน่นปลูกน่ีไว้กิน เพราะบนคนั นามีขนาดสูง ใหญ่ เม่ือนำ้ หลากมาก็จะไม่ทว่ ม
ฉะน้ันต้นไมท้ ป่ี ลูกไว้อย่บู นคันนาก็ไม่ตาย เราเรียกว่าคนั นาทองคำ

กศน.ตำบลทุง่ ขวาง สังกัด กศน.อำเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 12

โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

เพราะบนคนั นาจะมผี ลผลิตมั่งคงั่ ยิ่งกวา่ ทองคำ ในนาก็มปี ลาด้วยเพราะถ้าคนั นามขี นาดใหญ่ เก็บน้ำ
ไดเ้ ยอะ น้ำสงู กจ็ ะมีความลึก ปลากจ็ ะมาอยู่ มาวางไข่ ปลาจะมาอยเู่ อง เพราะนำ้ มีความลึก มคี วามปลอดภยั
ปลาก็มาอยู่ ขา้ วก็ไดด้ ี เพราะมีขีป้ ลา ข้กี ุ้ง จงึ ไม่ต้องไปซ้ือปุ๋ย

พอมปี ลามกี ุ้งอยู่ หญ้ากไ็ ม่ขน้ึ น้ำขงั มากหญ้าก็ไม่ขึน้ กท็ ำให้ประหยดั ทัง้ ยาฆ่าหญา้ ป๋ยุ ไม่ต้องใส่
แมลงไม่ตอ้ งฉดี มีกุ้ง หอย ปู ปลาอยู่ ทำให้ไม่ป่วย โรคแมลงมาปลากโ็ ดดจับกิน มันเปน็ ธรรมชาติ อยู่ ๆ กันมา
อย่างนี้เป็นพนั ๆ ปแี ล้ว จึงเปน็ ภาษางา่ ยๆ ท่ีเรียกว่า โคก หนอง นาโมเดล ซ่งึ ได้ประยุกต์มาจากทฤษฎใี หม่ที่
พระองค์ท่านคำนวณ น่ีคือศาสตร์ของพระราชา ของรัชกาลที่ ๙ ซงึ่ ท่านสรุปไวง้ ่ายๆ ทา่ นจะบอกวา่ ได้พฒั นา
มาจากบรรพบรุ ุษของเรา ซึ่งเราอยูท่ ่นี กี่ ันมา ๕,๐๐๐ กว่าปี บรรพบรุ ษุ ทา่ นพัฒนากันมาทีละนิด ทำแบบ
อะล่มุ อล่วยกันมา ไม่ไดต้ ิดตำราวา่ ต้องไปลอกประเทศโนน่ ประเทศนี้มา พฒั นาจากฐาน จากดิน จากอารย
ธรรมของเราเองเร่ือย ๆ ๕,๐๐๐ ปี ทา่ นบอกตำราแบบนีไ้ มจ่ บ

ทฤษฎีบนั ได 9 ขั้น สูค่ วามยั่งยนื ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

จากทฤษฎนี ี้แปลไปสูก่ ารปฏิบัติเปน็ ๓ ระดบั ปรชั ญา แปลงมาเป็นทฤษฎีบันได ๙ ขั้น จากทฤษฎี
แปลงไปสูก่ ารปฏบิ ตั ิ

ทฤษฎบี นั ได ๙ ขนั้ สู่ความยั่งยืนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เรมิ่ ต้นจากขนั้ พน้ื ฐาน ๔ ขน้ั แรก
นนั่ คือ พอกนิ พอใช้ พออยู่ พอรม่ เยน็ ซึ่งสรา้ งได้ดว้ ยการปลกู ปา่ ๓ อยา่ ง ประโยชน์ ๔ อยา่ ง

บันไดขน้ั ท่ี ๑ พอกนิ “เงนิ ทองเป็นของมายา ข้าวปลาสขิ องจริง” ต้องเริ่มจากการอย่ใู ห้ได้ โดยให้
ความสำคญั กับขา้ วปลาอาหารที่สร้างได้จากพน้ื ท่ีของตัวเอง พอมพี อกนิ ดว้ ยการปลูกพืช ผกั ผลไม้ ใหพ้ อกนิ
กอ่ น

ส่วนบันไดขน้ั ท่ี ๒ ๓ และ ๔ พอใช้ พออยู่ พอรม่ เย็น ปลูกไม้ให้พอใช้ ท้งั ทำเครื่องนงุ่ ห่ม มีสมุนไพร
เพอ่ื รักษาโรค ปลกู ไมใ้ ห้พออยู่ คอื มีไม้สำหรบั สรา้ งท่ีอยู่อาศยั ให้รม่ เงา ประโยชน์ของป่าเหล่าน้ที ำให้เกิด
บันไดขนั้ ท่ี ๔ พอรม่ เยน็ แนวทางนส้ี ามารถแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรไทย และปัญหาหน้ีสินที่
พอกพูนจากการทำเกษตรเชงิ เด่ยี ว ปัญหาความเสื่อมโทรมของทรพั ยากร ปัญหา ความขาดแคลนนำ้ และภัย
แล้ง ได้ด้วย

บันไดข้ันท่ี ๕ และ ๖ บุญและทาน “ย่ิงทำยิ่งได้ ยิ่งให้ยิ่งมี” เม่ือทำในขนั้ ที่ ๑ ถึง ๔ ได้ คนเรามี
พอแล้วท่ีเหลือกน็ ำมาแบ่งปนั เปน็ การฝกึ จติ ใจให้ละซ่ึงความโลภ เช่อื มน่ั ในฤทธข์ิ องทานคอื การให้ ดัง่ ท่ีพระ
เจา้ อยู่หัวสอนไว้วา่ Our Loss is Our Gain การขาดทุนน่นั คือกำไร

กศน.ตำบลทุง่ ขวาง สังกัด กศน.อำเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจัดกิจกรรม 13

โครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

บนั ไดขั้นท่ี ๗ เก็บรักษา เม่ือเรามพี อและไดแ้ บ่งปันแลว้ ข้ันต่อไปคอื การร้จู กั เก็บรักษา ใชภ้ ูมิปญั ญา
ในการแปลรปู อาหารทย่ี ังมอี ยู่ เพ่ือให้มอี าหารกนิ ท้ังปีหรือว่าขา้ มปี และยังเป็นการสร้างมูลคา่ เพม่ิ ให้สงิ่ ทเี่ รา
ปลูกเอง บันไดขัน้ ท่ี ๗ นยี้ ังเปน็ ส่ิงทเี่ กษตรกรจะต้องทำให้ได้กอ่ นจะไปสู่ข้นั ท่ี ๘ ต่อไป

บนั ไดขั้นที่ ๘ ขาย เน่ืองจากเศรษฐกิจพอเพียงไมใ่ ชเ่ ศรษฐกิจการคา้ แตไ่ มใ่ ช่เศรษฐกิจหลังเขา การค้า
ขายสามารถทำได้แตท่ ำภายใต้การรู้จกั พอประมาณ และทำไปตามลำดับ โดยของทขี่ ายคอื ของท่เี หลือจากทกุ
ข้นั แลว้ จึงนำมาขาย ขายด้วยความรสู้ กึ ของการให้ เพ่ืออุ้มชู เผ่ือแผ่ แบ่งปันไปด้วยกัน

สุดทา้ ยบนั ไดข้ันท่ี ๙ กองกำลังเกษตรโยธนิ หรือการสรา้ งเครือขา่ ยเช่อื มโยงท้ังประเทศ เพ่อื ขยาย
ผลสำเร็จตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่การปฏิวัตแิ นวคิดและวิธีการดำเนินชีวิตของคนในสังคมในชุมชน

ประเทศเราเป็นประเทศยากจนมาก่อน แล้วพัฒนามาเปน็ ประเทศปานกลาง ก็อยากไปเป็นประเทศ
ร่ำรวยเหมอื นประเทศอ่นื ท่านกบ็ อกไม่เอาแบบนน้ั เพราะวา่ ถา้ ติดตำราเด๋ียวพอถึงหน้าสดุ ทา้ ยไปต่อไมไ่ ด้ ก็
ต้องเปดิ หนา้ หนึง่ ใหม่ เพราะว่าถงึ หน้าสดุ ท้ายแลว้ พอติดเพดานบนิ แล้ว สดุ ทา้ ยกต็ กหวั ปักลงมาอย่างเชน่ ปี
๔๐ เศรษฐกิจเรามนั หวั ปกั ลงมา ทา่ นบอก เราไม่อยากก้าวหน้าอยา่ งมากแบบประเทศเหล่านนั้ แบบประเทศ
กา้ วหน้าอยา่ งมาก เราก็เปน็ ประเทศก้าวหนา้ เหมือนกัน แต่เราไมใ่ ชก่ ้าวหน้าอยา่ งมาก เราไม่อยากเป็นอยา่ ง
น้ัน เรากเ็ ป็นประเทศที่ม่งั คงั่ รำ่ รวยเหมือนกนั เรามีน้ำ มดี ิน มีอากาศ มนี ำ้ ใจทีย่ ่ิงกว่านั้น คอื สังคมเราเปน็
สงั คมมนี ้ำใจท่มี ง่ั คัง่ ท่สี ุดในโลก เราเปน็ เมืองยิ้ม ทว่ั โลกกร็ ู้จักเรา คราวนี้ก็พฒั นากันมาอย่างนี้ อยา่ ง
อะล่มุ อลว่ ยกนั มา เป็นพันปีอย่างนี้ เรียกว่าตำราแบบนี้ไมจ่ บ แล้วกจ็ ะพัฒนาไปเรื่อย ๆ เราก็จะค่อย ๆ
ก้าวหน้าไป อย่างไร ทา่ นกร็ ับส่ังวา่ ตอ้ งมีพอกิน พออยู่ พอใช้ ต้องมีสภาพแวดลอ้ มทดี่ ี ตอ้ งอยา่ ทำลายปา่
ตอ้ งฟน้ื ฟปู ่า ต้องจัดการน้ำ จัดการดนิ ฝนตกมาใหเ้ ก็บน้ำเอาไว้ อย่าปลอ่ ยใหน้ ำ้ ไปชะ พังทลายหน้าดนิ ลงมา
มีวธิ ีเก็บ และทา่ นกบ็ อกว่าบรรพบรุ ษุ ท่านร้วู า่ ทำอยา่ งไง พ้ืนทไี่ หนควรทำอะไร พ้ืนทีไ่ หนไม่ควรทำอะไร เวลา
ไหนควรทำอะไร เวลาไหนไม่ควรทำอะไร เค้าร้กู ันมาดีอยู่แลว้ นีค่ อื สง่ิ ทีพ่ ระเจา้ อยู่หวั เลา่ ให้ฟงั อนั นี้ทรง
เรียกวา่ พอเพียง เราก็จะเรยี กง่าย ๆ ว่าศาสตร์ของพระราชาองคน์ ี้

เกษตรทฤษฎใี หม่ โคก หนอง นา โมเดล เพื่อการจัดการนำ้ อยา่ งยั่งยนื
ถา้ เราสนใจ เรามที ่ดี นิ และสนใจอยากจะทำเป็นการประยุกตท์ ฤษฎใี หมข่ องพระบาทสมเด็จพระ

เจา้ อยู่หัวมาเป็น โคก หนอง นา โมเดลแบบชาวบ้านนนั้ วธิ ีทีต่ ้องทำครัง้ แรกคือ

การสำรวจท่ีดนิ ของตนเองวา่ เราอย่ใู นที่ท่ี ตนื้ ลกึ ขนาดไหน ปรมิ าณนำ้ ฝนท่ตี กลงแตล่ ะปเี ทา่ ไหร่
ตอ้ งเริ่มทำการสำรวจรอบ ๆ นน้ั วา่ อะไรบา้ ง ลมพดั ทางไหน แสงขึ้นทางไหน ทศิ เปน็ อย่างไง ต้องศึกษาภูมิ
ประเทศ ดนิ น้ำ ลม ไฟ ก่อน เรากต็ อ้ งเขา้ ใจสังคมของคนท่ีจะเป็นเจ้าของท่ีดิน คยุ กบั เจ้าของทีด่ นิ วา่ ชอบ

กศน.ตำบลทงุ่ ขวาง สงั กดั กศน.อำเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจัดกจิ กรรม 14

โครงการอบรมใหค้ วามร้แู ละฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

อะไร ไมช่ อบอะไร อย่างนี้เรียกวา่ สงั คม คือนำท้ังภูมิศาสตร์ ดนิ นำ้ ลม ไฟ ท้ังสังคม มาคำนวณภายใตเ้ ง่อื นไข
น้ำก่อน สมมติว่ามที ่ีอยู่ ๔ ไร่ ฝนตกลงมาในไร่ ไร่หน่ึงปริมาณ ๒,๕๐๐ คิว สมมติ ๔ ไร่ ก็หมื่นคิว คิวละตนั
หมื่นตนั น่จี ะเก็บอย่างไรบา้ ง จะเกบ็ ซับลงใตด้ นิ ด้วยวธิ อี ะไร จะใช้ต้นไม้อะไรปลกู บนโคก ซ่ึงโคกนั้นอ้มุ นำ้ ไม่ได้
ก็ตอ้ งซับบนโคกลงดิน วางแผนให้ได้สักครง่ึ หนึง่ ซบั ลงมาในโคก

การขุดหนองจะเก็บได้สกั เท่าไหร่ ตอ้ งลกึ เทา่ ไหร่ ตอ้ งใชพ้ ้นื ท่เี ทา่ ไหร่ กต็ อ้ งคำนวณออกมา เสรจ็ และ
จะขุดคลอง คลองเก็บได้เท่าไหร่ จะมอี ะไรอกี บ้างก็ต้องวางผังการใชท้ ่ดี ิน เสรจ็ แลว้ ดูทิศทาง จะวางบา้ นอยู่
ตรงไหน ถา้ เพ่ือความไมเ่ สี่ยงภยั ต้องมยี งุ้ ข้าว สตอ๊ กเอาไว้ ตอ้ งมีเครือ่ งสีข้าวเองบนโคก จึงตอ้ งออกแบบกอ่ น
แลว้ ค่อยลงมือขุด ลงมือทำ ถ้าไม่ได้คดิ ไม่ไดค้ ำนวณเลยตั้งไปส่งเดช พอถงึ หน้านน้ั กเ็ กดิ ปัญหา หนา้ นก้ี เ็ กดิ
ปญั หา เพราะฉะนนั้ การวางแผนล่วงหน้า ออกแบบบนที่ดนิ ของเราเองจงึ เป็นเรอ่ื งท่ีจำเป็น ซ่ึงก็ทำได้งา่ ย และ
ยืนยัน

โคก หนอง นา โมเดล เปน็ วิธีบริหารน้ำอยา่ งยั่งยืนในพ้ืนทข่ี องตนเอง เร่มิ ตน้ ด้วยการขุดหนอง เพ่ือ
เก็บกักนำ้ ไว้ใช้ในยามแล้ง โดยจะขุดแบบ Free Form ให้มีสว่ นเวา้ ส่วนโค้ง เลยี นแบบธรรมชาติ ความลกึ ของ
หนองควรมากกวา่ ๓.๖๕ เมตร ตามองคค์ วามรูท้ ่ีพระเจา้ อยู่หวั พระราชทานไว้วา่ ในแต่ละวันนำ้ จะละเหยไป
๑ เซนตเิ มตร หากเราขุดบอ่ ลึกมากกว่า ๓.๖๕ เมตร ใน ๑ ปี ต่อให้ฝนทงิ้ ชว่ งไปกย็ ังมนี ้ำใชอ้ ยนู่ ั่นเอง

การขดุ หนอง จะต้องขุดเป็นขั้น หรือเป็นตะพักๆ เพื่อใหแ้ สงแดดส่องถึงพื้นหนองบางสว่ นชว่ ยให้พืช
นำ้ เจรญิ เตบิ โตเป็นทอี่ ยู่อาศยั ของแพลนตอนพชื และเป็นแหลง่ อาหารของเหลา่ สัตวน์ ำ้ ดินจากการขุดหนอง
เอามาถมเปน็ โคก บนโคกปลูกทีอ่ ยู่อาศยั เล้ยี งสตั ว์ และปลกู ป่า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง นัน่ คือ ปลูกไม้กนิ
ไมใ้ ชส้ อย ไมส้ ำหรับสรา้ งที่อยู่อาศัย ซึง่ จะใหป้ ระโยชนเ์ ป็นความพอกนิ พอใช้ พออยู่ และพอรม่ เยน็ ต้นไม้ที่
ปลกู มีท้งั หมด ๕ ระดบั ได้แก่ ไมส้ งู ไม้กลาง ไมเ้ ต้ีย ไม้เร่ียดิน และพชื หวั เพื่อรักษาความช่มุ ช้นื ในดนิ

การเก็บกกั นำ้ อีกวิธหี นง่ึ คือขุดคลองไสไ้ ก่ให้ทวั่ พนื้ ท่ี ขดุ ให้คดเคีย้ วเพื่อใหใ้ ช้เป็นทางน้ำบนดิน เพิ่ม
ความช่มุ ช้นื โดยไมต่ ้องวางท่อหรือสปรงิ เกอร์ สรา้ งฝายชะลอนำ้ กัน้ เพอ่ื ลดความเร็วของนำ้ ทไ่ี หลไปตามคลอง
ปลูกหญ้าแฝกโดยรอบหนองและคลองไสไ้ ก่

ปั้นหัวคนั นาให้มีความสงู อยา่ งนอ้ ย ๑ เมตร บนคันนา กวา้ ง ๑ เมตร และฐานกวา้ ง ๒ เมตร ปลูก
พืชผักโดยรอบ ทัง้ ไม้ผล พืชผักสวนครัว พชื สมุนไพร จนกลายเปน็ หัวคันนาทองคำ เพราะป้นั หัวคนั นาสูง ใน
คนั นาจึงเปรียบเสมือนเข่ือนขนาดยอ่ ม สามารถเกบ็ กกั นำ้ ไวใ้ ชใ้ นชว่ งปลกู ขา้ ว และยังเป็นทอ่ี ยู่อาศยั เหล่า
บรรดาสตั วน์ ำ้ อกี ด้วย

เรอ่ื งนวัตกรรมเรื่องอะไรใหม่ๆ ทท่ี รงทำให้ดู กท็ รงบอกกับพวกเรา ใหก้ ำลังใจเสมอว่า ทำตัวอย่างของ
ความสำเรจ็ ไปเรื่อย ๆ เถอะ ๑๐ ปี ๒๐ ปี ๓๐ ปี นน่ั แหละ กว่าคนเขาจะมาเห็น มาจำ มาเขา้ ใจ และเขาก็จะ

กศน.ตำบลทงุ่ ขวาง สังกัด กศน.อำเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 15

โครงการอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

เอาไปเปน็ ประโยชน์ โดยเฉพาะเม่ือเขาถึงทางตนั แล้ว เมื่อถึงวนั นนั้ ๒๐ ปี ๓๐ ปี ขา้ งหน้า มันกจ็ ะเปน็
ตวั อยา่ ง เป็นท่ีพ่งึ ให้ชาวบา้ นได้ ใครที่ทำใหม่ๆ นม่ี ักจะเจอคนมองดว้ ยหางตา หาวา่ เพย้ี น และกม็ ักจะต่อต้าน
สุดท้ายกเ็ ร่ิมจำนน เพราะได้เพ่ิงจริง ๆ หลายคนพอทำ อดทนไปจนถึงทีส่ ดุ ก็จะได้รับ การยอมรบั ยงิ่ แนวโน้ม
โลกกำลังวิกฤตข้ึนเรอ่ื ย ๆ เร่ือง โคก หนอง นา โมเดล นแี้ หละท่ีจะเปน็ ท่ีพึ่งให้กับคน ได้ กล็ องมาศึกษากนั
ดกู ่อน

จากศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบตั อิ ยา่ งเปน็ รปู ธรรม วิกฤตน้ำของไทย จะถกู แก้ไขได้ด้วย การบริหาร
จดั การนำ้ อย่างยัง่ ยนื ในรปู แบบของ โคก หนอง นา

กศน.ตำบลทุง่ ขวาง สงั กัด กศน.อำเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 16

โครงการอบรมใหค้ วามรูแ้ ละฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

บทท่ี 3

วธิ ีดำเนนิ งาน

การดำเนินโครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝกึ ปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล”ไดด้ ำเนินการตาม
ข้ันตอนต่าง ๆ ดังนี้

1. ข้ันเตรยี มการ

 การศึกษาเอกสารที่เก่ียวข้องกับโครงการอบรมใหค้ วามรแู้ ละฝกึ ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา
โมเดล”

ผรู้ บั ผิดชอบโครงการได้ศกึ ษาค้นคว้าเอกสารทเ่ี ก่ียวขอ้ งเพื่อเปน็ ข้อมูลและแนวทางในการดำเนินการ
โครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ดงั น้ี

1. ศกึ ษาเอกสาร / คมู่ ือ ข้อมูลจากหนังสือ เกี่ยวกบั การดำเนนิ ชวี ิตตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง
เพอ่ื เป็นแนวทางเก่ียวกบั การจดั โครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

2. ศกึ ษาข้นั ตอนการดำเนนิ โครงการอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล”เพ่ือ
เป็นแนวทางในการจัดเตรยี มงาน วสั ดอุ ุปกรณ์ และบคุ ลากรให้เหมาะสม

 การสำรวจความตอ้ งการของประชาชนในพื้นที่ (ตามนโยบายของรัฐบาล)
กลุ่มภารกิจ การจัดการศึกษานอกระบบ มอบหมายให้ ครู กศน.ตำบล สำรวจความตอ้ งการ

ของกลมุ่ เปา้ หมายเพ่ือทราบความต้องการทีแ่ ท้จริงของประชาชนในตำบล และมีข้อมูลในการจดั กิจกรรมทตี่ รง
กบั ความต้องการของชมุ ชน

 การประสานงานผนู้ ำชมุ ชน / ประชาชน /วิทยากร
1. ครู กศน.ตำบล ไดป้ ระสานงานกับหวั หนา้ /ผนู้ ำชุมชนและประชาชนในตำบลเพอ่ื รว่ มกัน

ปรึกษาหารือในกลุ่มเก่ยี วกับการดำเนนิ การจดั โครงการให้ตรงกบั ความต้องการของชุมชน
2. ครู กศน.ตำบล ไดป้ ระสานงานกับหนว่ ยงานที่เกีย่ วขอ้ งเพื่อจดั หาวทิ ยากร

 การประชาสัมพนั ธ์โครงการฯ

กศน.ตำบลทุ่งขวาง สงั กัด กศน.อำเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจัดกิจกรรม 17

โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝกึ ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

ครู กศน.ตำบล ไดด้ ำเนนิ การประชาสัมพันธ์การจัดโครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝึก
ปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” เพ่ือให้ประชาชนทราบข้อมูลการจัดกิจกรรมดังกล่าวผา่ นผ้นู ำชุมชน

 ประชมุ เตรียมการ / วางแผน
1) ประชุมปรึกษาหารือผู้ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง
2) เขยี นโครงการ วางแผนมอบหมายงานใหฝ้ า่ ยต่าง ๆ เตรียมดำเนินการ
3) มอบหมายหน้าท่ี แต่งตั้งคณะทำงาน

 การรับสมคั รผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการฯ
ครู กศน.ตำบล ไดร้ ับสมัครผู้เขา้ รว่ มโครงการอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง

นา โมเดล”โดยใหป้ ระชาชนทั่วไปท่อี าศัยอยู่ในพนื้ ท่ี 6 ตำบล ๆ ละ 5-6 คน ไดแ้ ก่ ตำบลบา้ นชา้ ง ตำบล
บ้านเซดิ ตำบลหมอนนาง ตำบลกุฎโงง้ ตำบลท่งุ ขวางและตำบลนามะตูม รวมท้ังสน้ิ 35 คน

 การกำหนดสถานทแ่ี ละระยะเวลาดำเนนิ การ
ครู กศน.ตำบล ได้กำหนดสถานที่ในการจดั อบรมคอื ศนู ย์การเรียนรู้ “โคก หนอง นา

โมเดล”
ม.8 ต.หนองเหียง อ.พนสั นิคม จ.ชลบรุ ี ในวนั ที่ 23 มนี าคม 2564 จำนวน 1 วัน เวลา 09.00-15.00
น.

2. ขั้นดำเนนิ งาน

 กลมุ่ เปา้ หมาย

กล่มุ เป้าหมายของโครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝกึ ปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล”

ประชาชนตำบลบ้านชา้ ง จำนวน 6 คน
ประชาชนตำบลบา้ นเซดิ จำนวน 6 คน
ประชาชนตำบลหมอนนาง จำนวน 6 คน
ประชาชนตำบลกฎุ โง้ง จำนวน 6 คน
ประชาชนตำบลทุ่งขวาง จำนวน 5 คน
ประชาชนตำบลนามะตูม จำนวน 6 คน
จำนวน 35 คน
รวมทั้งสนิ้

กศน.ตำบลทงุ่ ขวาง สังกดั กศน.อำเภอพนสั นคิ ม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 18

โครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

 สถานทีด่ ำเนนิ งาน

ครู กศน.ตำบลบา้ นชา้ งครู กศน.ตำบลบ้านเซดิ และครู กศน.ตำบลหวั ถนน จัดกจิ กรรม
โครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” โดยจัดกิจกรรมอบรมใหค้ วามรู้ ในวนั ท่ี
23 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 09.00-15.00 น. ณ ศูนย์การเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” ม.8 ต.หนอง
เหียง อ.พนัสนคิ ม จ.ชลบรุ ี

 การขออนมุ ตั แิ ผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
กศน.ตำบลบา้ นช้าง ไดด้ ำเนินการขออนุมัตแิ ผนการจัดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามหลักปรัชญา

ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล”ตอ่ สำนกั งาน
กศน.จังหวดั ชลบรุ ี เพอ่ื ใหต้ ้นสงั กัดอนุมตั ิแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ
พอเพยี ง

 การจัดทำเคร่อื งมอื การวัดความพงึ พอใจของผูร้ ว่ มกิจกรรม

เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการติดตามประเมนิ ผลโครงการ ไดแ้ ก่ แบบประเมนิ ความพึงพอใจ

 ขั้นดำเนินการ / ปฏบิ ตั ิ

1. เสนอโครงการเพื่อขอความเห็นชอบ/อนมุ ตั ิจากต้นสงั กดั

2. วางแผนการจัดกิจกรรมในโครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝึกปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา
โมเดล” โดยกำหนดตารางกิจกรรมทก่ี ำหนดการ

3. มอบหมายงานให้แกผ่ ู้รบั ผิดชอบฝ่ายตา่ ง ๆ

4. แตง่ ต้ังคณะกรมการดำเนนิ งาน

5. ประชาสัมพันธ์โครงการอบรมใหค้ วามร้แู ละฝึกปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล”

6. จดั กิจกรรมโครงการอบรมให้ความร้แู ละฝึกปฏบิ ัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” ตาม
ตาราง

กจิ กรรมที่กำหนดการ

7. ตดิ ตามและประเมินผลโครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา
โมเดล”

3. การประเมินผล

กศน.ตำบลทงุ่ ขวาง สงั กดั กศน.อำเภอพนัสนิคม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 19

โครงการอบรมใหค้ วามรแู้ ละฝึกปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

 วเิ คราะห์ขอ้ มลู

1. บันทกึ ผลการสังเกตจากผู้เข้าร่วมกจิ กรรม

2. วเิ คราะหผ์ ลจากการประเมินในแบบประเมินความพงึ พอใจ

3. รายงานผลการปฏิบตั งิ าน รวบรวมสรุปผลการปฏบิ ัตงิ านของโครงการนำเสนอต่อ

ผบู้ ริหาร

นำปญั หา ขอ้ บกพร่องไปแก้ไขครั้งต่อไป

 ค่าสถติ ิท่ใี ช้

การวเิ คราะหข์ ้อมูล ใช้คา่ สถิติร้อยละในการประมวลผลข้อมูลสว่ นตวั และตวั ช้วี ัดความสำเร็จ
ของโครงการตามแบบสอบถามคิดเป็นรายข้อ โดยแปลความหมายคา่ สถิตริ อ้ ยละออกมาได้ดงั นี้

คา่ สถติ ิร้อยละ 90 ข้นึ ไป ดมี าก

คา่ สถิตริ อ้ ยละ 75 – 89.99 ดี

คา่ สถติ ริ อ้ ยละ 60 – 74.99 พอใช้

ค่าสถิตริ ้อยละ 50 – 59.99 ปรบั ปรุง

คา่ สถติ ริ อ้ ยละ 0 – 49.99 ปรับปรุงเรง่ ดว่ น

ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นรายข้อซึ่งมีลักษณะเป็นค่าน้ำหนัก
คะแนน และนำมาเปรียบเทียบ ได้ระดบั คณุ ภาพตามเกณฑก์ ารประเมิน ดังนี้

เกณฑก์ ารประเมิน (X)

คา่ น้ำหนักคะแนน 4.50 – 5.00 ระดับคุณภาพ คือ ดมี าก

คา่ น้ำหนกั คะแนน 3.75 – 4.49 ระดับคุณภาพ คือ ดี

ค่าน้ำหนักคะแนน 3.00 – 3.74 ระดับคณุ ภาพ คอื พอใช้

ค่านำ้ หนักคะแนน 2.50 – 2.99 ระดับคุณภาพ คอื ตอ้ งปรบั ปรงุ

คา่ นำ้ หนกั คะแนน 0.00 – 2.49 ระดบั คุณภาพ คือ ต้องปรับปรงุ เร่งดว่ น

กศน.ตำบลทุ่งขวาง สงั กดั กศน.อำเภอพนสั นคิ ม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 20

โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

บทท่ี 4
ผลการดำเนนิ งานและการวิเคราะหข์ อ้ มูล

ตอนท่ี 1 รายงานผลการจดั กจิ กรรมโครงการอบรมใหค้ วามรแู้ ละฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”
การจัดกจิ กรรมโครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” สรุปรายงานผล

การจัดกิจกรรมได้ดังนี้
ในการจดั กิจกรรมอบรมให้ความรูต้ ามโครงการอบรมให้ความร้แู ละฝกึ ปฏิบัติการ “โคก หนอง นา

โมเดล” เป็นการอบรมให้ความรู้ โดยมี นางรชั นกี ร ด้วงเงิน เป็นวิทยากรในการบรรยายให้ความรู้ เร่อื ง
ศาสตร์พระราชา หลกั การสร้าง โคก หนอง นา โมเดล ป่าให้อะไรมากกว่าท่ีคดิ เครื่องมอื การเกษตรน่ารู้
การเพิ่มมูลคา่ ผลผลติ ทางการเกษตรและรับฟังการบรรยายและฝึกปฏบิ ัตกิ าร “การทำสบู่”

ตอนที่ 2 รายงานผลความพึงพอใจของโครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา
โมเดล”

การจดั กจิ กรรมโครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” ซ่ึงสรุปรายงาน
ผลจากแบบสอบถามความคิดเหน็ ขอ้ มูลท่ีไดส้ ามารถวเิ คราะห์และแสดงค่าสถิติ ดงั น้ี

ตารางท่ี 1 ผู้เขา้ ร่วมโครงการทีต่ อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามเพศ
เพศ จำนวน รอ้ ยละ
ชาย 2 5.71
หญงิ 33 94.29
รวม 35 100.00
จากตารางท่ี 1 พบวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามทีเ่ ขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ

พอเพียง โครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” จำนวน 35 คน ส่วนใหญ่
เป็นเพศหญิง จำนวน 33 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 94.29 และเพศชาย จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 5.71

กศน.ตำบลทุง่ ขวาง สังกัด กศน.อำเภอพนสั นคิ ม

สรุปผลการจัดกจิ กรรม 21

โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

ตารางท่ี 2 ผเู้ ข้าร่วมโครงการทต่ี อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามอายุ

อายุ จำนวน รอ้ ยละ

15 – 25 ปี --

26 - 39 ปี --

40 – 49 ปี 1 2.86

50 - 59 ปี 13 37.14

60 ปีขึน้ ไป 21 60.00

รวม 35 100.00

จากตารางที่ 2 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามที่เขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง โครงการอบรมให้ความรูแ้ ละฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” จำนวน 35 คน สว่ นใหญ่มี
อายุ 60 ปขี ้ึนไป จำนวน 21 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 60.00 รองลงมาคืออายรุ ะหวา่ ง 50-59 ปี จำนวน 13 คน คดิ
เปน็ รอ้ ยละ 37.14 และสุดท้ายคืออายรุ ะหวา่ ง 40-49 ปี จำนวน 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 2.86

ตารางท่ี 3 ผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามอาชพี

ประกอบอาชีพ จำนวน ร้อยละ

รับจา้ ง 11 31.43

คา้ ขาย 4 11.43

เกษตรกร 7 20.00

ลกู จ้าง/ขา้ ราชการหน่วยงานภาครฐั หรือเอกชน - -

อ่ืน ๆ 13 37.14

รวม 35 100.00

จากตารางท่ี 3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่เี ขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรูต้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝึกปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” จำนวน 35 คน ส่วนใหญ่
ประกอบอาชีพอืน่ ๆ จำนวน 13 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 37.14 รองลงมาคืออาชพี รับจา้ ง จำนวน 11 คน คิด

กศน.ตำบลทุ่งขวาง สงั กัด กศน.อำเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจัดกจิ กรรม 22

โครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

เปน็ ร้อยละ 31.43 อาชีพเกษตรกร จำนวน 7 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 20.00 และสุดทา้ ยประกอบอาชีพค้าขาย
จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 11.43

ตารางที่ 4 ผ้เู ข้ารว่ มโครงการทต่ี อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามระดับการศึกษา

ระดบั การศกึ ษา จำนวน ร้อยละ

ตำ่ กวา่ ป.4 4 11.43

ป.4 3 8.57

ประถมศกึ ษา 5 14.29

มัธยมศกึ ษาตอนต้น 4 11.43

มัธยมศึกษาตอนปลาย 11 31.43

อนปุ รญิ ญา --

ปรญิ ญาตรี 8 22.86

สงู กวา่ ปริญญาตรี --

รวม 35 100.00

จากตารางท่ี 4 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามทเ่ี ข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ

พอเพียง โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”จำนวน 35 คน ส่วนใหญ่มี
การศกึ ษาระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 11 คน คดิ เป็นร้อยละ 31.43 รองลงมาคือระดบั ปรญิ ญาตรี
จำนวน 8 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 22.86 ระดบั ประถมศึกษา จำนวน 5 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 14.29 ระดับตำ่
กว่า ป.4 จำนวน 4 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 11.43 ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ จำนวน 4 คน คิดเป็นรอ้ ยละ
11.43 สุดทา้ ยคือระดบั ประถมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 3 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 8.57

กศน.ตำบลทงุ่ ขวาง สงั กัด กศน.อำเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจัดกิจกรรม 23

โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

ตารางที่ 5 แสดงคา่ ร้อยละเฉลยี่ ความสำเร็จของตัวช้ีวัด ผลผลติ ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมโครงการจำนวน 35
คน

ผลสำเรจ็ ของโครงการ จำนวน ร้อยละ

เปา้ หมายโครงการ 30 100.00

ผ้เู ขา้ ร่วมโครงการ 35 100.00

จากตารางท่ี 5 พบวา่ ผลสำเรจ็ ของตัวช้ีวัดผลผลติ กิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี งโครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” มีผู้เข้ารว่ มโครงการ
จำนวน 35 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 ซ่ึงบรรลุเปา้ หมายดา้ นตัวช้ีวดั ผลผลติ

ตารางที่ 6 คา่ เฉลีย่ และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีมคี วามพงึ พอใจต่อ
โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ในภาพรวม

รายการ คา่ เฉลีย่ สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดบั
() () ความพึงพอใจ
ดา้ นการบรหิ ารจัดการ 4.65 0.50
ความพึงพอใจด้านกระบวน 4.67 0.50 ดีมาก
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้/การอบรม ดมี าก
ดา้ นประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั 4.69
รวมทุกดา้ น 4.67 0.53 ดีมาก
0.51 ดมี าก

จากตารางท่ี 6 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทม่ี ีความพึงพอใจตอ่ โครงการอบรมให้ความรูแ้ ละฝกึ
ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ในภาพรวม จำนวน 35 คน อยู่ในระดับดมี าก (=4.67) เมอ่ื
พจิ ารณาเป็นรายด้าน พบว่า ดา้ นประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั อยู่ในระดับมากทีส่ ุด มีคา่ เฉลยี่ (= 4.69) รองลงมาคือ
ความพงึ พอใจดา้ นกระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้/การอบรม มอี ยู่ในระดับดีมาก มีคา่ เฉลีย่ (= 4.67)
และสดุ ท้ายดา้ นการบริหารจัดการ อยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลยี่ (= 4.65) ตามลำดบั โดยมีสว่ นเบ่ียงเบน
มาตรฐาน () อยู่ระหวา่ ง 0.50 - 0.53 แสดงวา่ ผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมมคี วามพึงพอใจสอดคล้องกนั

กศน.ตำบลทงุ่ ขวาง สงั กัด กศน.อำเภอพนัสนิคม

สรุปผลการจัดกจิ กรรม 24

โครงการอบรมให้ความรูแ้ ละฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

ตารางที่ 7 ค่าเฉล่ยี และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรมท่มี ีความพึงพอใจต่อ

โครงการอบรมให้ความร้แู ละฝกึ ปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”ด้านการบรหิ ารจัดการ

รายการ ค่าเฉลีย่ สว่ นเบยี่ งเบน ระดบั
() มาตรฐาน () ความพงึ พอใจ

1. อาคารสถานท่ี 4.63 0.55 ดมี าก

2. สิง่ อำนวยความสะดวก 4.69 0.47 ดี

3. กำหนดการและระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 4.66 0.54 ดมี าก

4. เอกสารการอบรม 4.51 0.51 ดีมาก

5. วทิ ยากรผใู้ หก้ ารอบรม 4.74 0.44 ดี

รวม 4.65 0.50 ดีมาก

จากตารางที่ 7 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมให้ความรู้และฝึก
ปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” ด้านการบริหารจัดการ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย (=
4.65) เมอ่ื พจิ ารณาเป็นรายขอ้ พบวา่ วทิ ยากรผ้ใู หก้ ารอบรม มีคา่ เฉล่ีย (= 4.74) รองลงมา คือ ส่งิ อำนวย
ความสะดวก มีค่าเฉลี่ย (= 4.69) กำหนดการและระยะเวลาในการดำเนินโครงการ ค่าเฉลี่ย (= 4.66)
อาคารสถานท่ี คา่ เฉลีย่ (= 4.63) และสุดทา้ ย เอกสารการอบรม มคี า่ เฉลี่ย (= 4.51) ตามลำดับ โดยมี
ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน () อยูร่ ะหวา่ ง 0.44 - 0.55 แสดงวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามคิดเห็นไปในทิศทาง
เดยี วกัน

กศน.ตำบลทุ่งขวาง สงั กัด กศน.อำเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 25

โครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

ตารางที่ 8 ค่าเฉลย่ี และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผูเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรมที่มีความพึงพอใจต่อ
โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ดา้ นกระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้/
การอบรม

รายการ คา่ เฉลย่ี สว่ นเบ่ียงเบน ระดับ
() มาตรฐาน () ความพึงพอใจ
6. การจัดกจิ กรรมโครงการอบรมใหค้ วามรูแ้ ละฝกึ
ปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” 4.60 0.55 ดมี าก
7. การใหค้ วามร้เู รื่อง “โคก หนอง นา โมเดล”
8. การตอบข้อซักถามของวิทยากร 4.57 0.56 ดีมาก
9. การแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ของผู้เข้ารับการอบรม 4.83 0.38 ดีมาก
10. การสรุปองค์ความรรู้ ว่ มกัน 4.80 0.41 ดมี าก
11. การวัดผล ประเมนิ ผล การฝึกอบรม 4.66 0.54 ดีมาก
4.54 0.51 ดมี าก
รวม 4.67 0.50 ดมี าก

จากตารางที่ 8 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจต่อโครงการอบรมให้ความร้แู ละฝกึ
ปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” ด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้/การอบรม ในภาพรวมอยใู่ น
ระดับดมี าก มคี ่าเฉลี่ย (= 4.79) เมอื่ พจิ ารณาเปน็ รายข้อ พบวา่ การตอบข้อซักถามของวทิ ยากร มี
คา่ เฉลีย่ (= 4.83) รองลงมาคือ การแลกเปลย่ี นเรียนรู้ของผเู้ ขา้ รบั การอบรม มคี ่าเฉลีย่ (= 4.80) การ
สรปุ องค์ความร้รู ่วมกัน มคี ่าเฉลี่ย (= 4.66) การจัดกจิ กรรมโครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบัติการ
“โคก หนอง นา โมเดล” มีค่าเฉลยี่ (= 4.60) การใหค้ วามรเู้ รื่อง “โคก หนอง นา โมเดล” มีคา่ เฉลยี่ (=
4.57) และสุดท้ายการวดั ผล ประเมินผล การฝกึ อบรม มีค่าเฉลี่ย (= 4.54) ตามลำดับ โดยมีส่วน
เบยี่ งเบนมาตรฐาน () อยู่ระหว่าง 0.38 - 0.56 แสดงวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเหน็ สอดคลอ้ งกนั

กศน.ตำบลท่งุ ขวาง สงั กดั กศน.อำเภอพนัสนิคม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 26

โครงการอบรมใหค้ วามรแู้ ละฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

ตารางที่ 9 คา่ เฉลย่ี และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมที่มีความพงึ พอใจตอ่
โครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ด้านประโยชน์ท่ีไดร้ บั

รายการ คา่ เฉล่ยี ส่วนเบ่ยี งเบน ระดับความ
() มาตรฐาน () พงึ พอใจ
12. การเรียนรู้และฝกึ ตนเองเก่ียวกบั “โคก หนอง นา 4.63 ดีมาก
โมเดล” 0.60
13. การนำความรู้ที่ไดร้ บั มาปรบั ใช้ในชีวิตประจำวัน 4.74 ดีมาก
4.69 0.44 ดีมาก
รวม 0.53

จากตารางที่ 9 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมให้ความรู้และฝึก
ปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” ด้านประโยชน์ที่ได้รับ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย (=
4.69) เมอ่ื พจิ ารณาเป็นรายขอ้ พบวา่ การนำความรทู้ ี่ได้รับมาปรบั ใช้ในชีวติ ประจำวัน มคี ่าเฉลยี่ (= 4.74)
และการเรียนรูแ้ ละฝึกตนเองเกีย่ วกับ “โคก หนอง นา โมเดล”ยง มีคา่ เฉลย่ี (= 4.63) โดยมีส่วนเบ่ียงเบน
มาตรฐาน ()

อยู่ระหว่าง 0.44 - 0.60 แสดงว่าผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามคิดเห็นไปในทศิ ทางเดยี วกัน

สรปุ ในภาพรวมของกจิ กรรมคิดเป็นร้อยละ 93.40 มีคา่ น้ำหนกั คะแนน 4.67 ถือว่าผู้รบั บรกิ าร
มคี วามพงึ พอใจทางดา้ นต่าง ๆ อยู่ในระดับดีมาก โดยเรียงลำดบั ดังน้ี

 อันดับแรก ดา้ นประโยชนท์ ่ไี ด้รบั คิดเปน็ ร้อยละ 93.80 มคี า่ นำ้ หนักคะแนน 4.69 อยูใ่ นระดบั
คณุ ภาพดีมาก

 อันดับสอง ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้/การอบรม คิดเป็นรอ้ ยละ 93.40 มีคา่ นำ้ หนกั
คะแนน 4.67 อยู่ในระดับคุณภาพดี

 อนั ดับสาม ด้านการบริหารจดั การ คิดเปน็ รอ้ ยละ 93.00 มีคา่ น้ำหนักคะแนน 4.65 อยใู่ น
ระดบั คุณภาพดี

กศน.ตำบลทุง่ ขวาง สงั กดั กศน.อำเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 27

โครงการอบรมให้ความร้แู ละฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

บทที่ 5

อภปิ รายและข้อเสนอแนะ

ผลการจัดกิจกรรมโครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ได้ผลสรุป
ดังน้ี

วตั ถุประสงค์

1. เพ่ือส่งเสรมิ ให้ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมรู้จักการใช้พื้นที่อย่างมปี ระสิทธภิ าพสูงสดุ
2. เพอ่ื ส่งเสริมและพฒั นาคุณภาพชีวติ ของประชาชน ตลอดจนทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม
ตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

เป้าหมาย (Outputs)

เป้าหมายเชิงปริมาณ
ประชาชน 6 ตำบล ๆ ละ 5 คน ได้แก่ ตำบลบ้านชา้ ง ตำบลบา้ นเซิด ตำบลหมอนนาง

ตำบลกุฎโงง้ ตำบลทุ่งขวางและตำบลนามะตมู รวมท้ังสิ้น 30 คน
เปา้ หมายเชิงคณุ ภาพ
- ผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมร้จู กั การใช้พนื้ ท่ีอยา่ งมีประสทิ ธิภาพสูงสุด
- ผูเ้ ข้าร่วมกิจกรรมมีการพฒั นาคุณภาพชวี ติ ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม

ตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

เครอื่ งมอื ท่ีใชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมูล
เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมูลในครั้งน้ี คือ แบบประเมินความพงึ พอใจ

การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้มอบหมายให้ ครู กศน.ตำบลท่ีรับผดิ ชอบกจิ กรรมแจกแบบสอบถาม

ความ
พึงพอใจให้กับผู้ร่วมกิจกรรม โดยให้ผ้เู ขา้ รว่ มกจิ กรรมประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามโครงการอบรมให้
ความรูแ้ ละฝกึ ปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล”

สรปุ ผลการดำเนินงาน
กศน.ตำบลบ้านชา้ ง กศน.ตำบลบา้ นเซิด กศน.ตำบลหมอนนาง กศน.ตำบลกุฎโง้ง กศน.ตำบลท่งุ

ขวางและกศน.ตำบลนามะตูม ไดด้ ำเนนิ การจัดกิจกรรมโครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏิบตั ิการ “โคก
หนอง นา โมเดล” โดยดำเนินการเสร็จส้ินลงแลว้ และสรปุ รายงานผลการดำเนินงานไดด้ ังนี้

กศน.ตำบลท่งุ ขวาง สังกดั กศน.อำเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 28

โครงการอบรมใหค้ วามรูแ้ ละฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

1. ผู้รว่ มกจิ กรรมจำนวน 35 คน รจู้ ักการใช้พน้ื ที่อย่างมีประสิทธภิ าพสูงสุด อีกท้ังมีการพฒั นา
คุณภาพชีวติ ที่ดีขึน้ ตลอดจนสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อมของตนเองได้อยา่ ง
เหมาะสมตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

2. ผู้รว่ มกจิ กรรมร้อยละ 93.80 นำความรู้ท่ีไดร้ ับมาปรับใช้ในชวี ิตประจำวนั
3. จากการดำเนนิ กิจกรรมตามโครงการดังกลา่ ว สรุปโดยภาพรวมพบว่า ผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมสว่ นใหญ่มี
ความพึงพอใจตอ่ โครงการ อยู่ในระดบั “ดีมาก ” และบรรลุความสำเร็จตามเป้าหมายตัวชีว้ ัดผลลัพธท์ ่ีตงั้ ไว้
โดยมีคา่ เฉลี่ยร้อยละภาพรวมของกิจกรรม 93.40 และค่าการบรรลเุ ป้าหมายค่าเฉลี่ย 4.67
ข้อเสนอแนะ
- อยากใหม้ ีการจัดกิจกรรมนี้อีก ประชาชนสามารถนำความรทู้ ่ไี ด้รับไปปรับใช้ในชีวติ ประจำวัน
รวมทง้ั สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองให้ดียิ่งข้นึ ตลอดจนใช้ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มท่ี
ตนเองมไี ดอ้ ย่างเหมาะสมตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

กศน.ตำบลทงุ่ ขวาง สังกัด กศน.อำเภอพนสั นคิ ม

สรุปผลการจัดกจิ กรรม 29

โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

ภาคผนวก

กศน.ตำบลทงุ่ ขวาง สังกดั กศน.อำเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจัดกิจกรรม 30

โครงการอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

ภาพประกอบการจดั กจิ กรรม

โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”
วันที่ 23 มนี าคม 2564

ณ ศูนยก์ ารเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” ม.8 ต.หนองเหียง อ.พนสั นิคม จ.ชลบรุ ี
วทิ ยากรคือนางรัชนีกร ด้วงเงนิ
ผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรมจำนวน 35 คน

กศน.ตำบลทุง่ ขวาง สงั กดั กศน.อำเภอพนสั นคิ ม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 31

โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”

คณะผูจ้ ดั ทำ

ที่ปรกึ ษา หมน่ื สา ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอพนัสนคิ ม
1. นางณัชธกญั การงานดี ครู
2. นางสาวมุทกิ า

คณะทำงาน ครู กศน.ตำบลบา้ นชา้ ง
1. นางสาวเบญจมาศ น้อยประเสริฐ ครู กศน.ตำบลบ้านเซิด
2. นางสาวสนุ ทรี เพชรประเสริฐ ครู กศน.ตำบลหมอนนาง
3. นางสาวจนั ทรท์ ิพย์ บรรดาศักด์ิ ครู กศน.ตำบลกุฎโง้ง
4. นางสาวกนกกร ฮกโก้ ครู กศน.ตำบลทุ่งขวาง
5. นางสาวนิตยา น้ำฟา้ ครู กศน.ตำบลนามะตูม
6. นางสาวสุทธิดา มาละเงนิ

บรรณาธิการ ศรบี ุณยะแก้ว ครูผ้ชู ่วย
1. นางสาวณภษร คลังสนิ ธ์ ครูอาสาสมัครฯ
2. นางสาวเฟือ่ งฟ้า

กศน.ตำบลทุง่ ขวาง สงั กดั กศน.อำเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจัดกจิ กรรม 32

โครงการอบรมใหค้ วามร้แู ละฝกึ ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”
กศน.ตำบลทุ่งขวาง สังกัด กศน.อำเภอพนัสนิคม


Click to View FlipBook Version