The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประจำปีงบประมาณ 2564

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ebookchon, 2023-08-07 23:24:23

รายงานผลโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประจำปีงบประมาณ 2564

รายงานผลโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประจำปีงบประมาณ 2564

โครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในวันที่ 11 มีนาคม 2564 ศาลาประชาคมหมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จังหวัดชลบุรี


คำนำ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ ได้จัดทำแผนการปฏิบัติงานประจำปี งบประมาณ 2564 โดยได้จัดโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้กับประชาชนตำบล พลูตาหลวง ในวันที่ 11 มีนาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 15.00 น. ณ ศาลาประชาคมหมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีโดยมี พ.จ.อ.สังวรณ์ จันทร์เสงี่ยม เป็นวิทยากรให้ความรู้ ผู้เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จำนวน 15 คน โครงการดังกล่าวได้ดำเนินเสร็จสิ้นไปด้วยดี ซึ่งรายละเอียดผลการดำเนินงานต่างๆ ตลอดจนปัญหา อุปสรรค ได้สรุปไว้แล้ว เพื่อรวบรวมกระบวนการดำเนินงาน ผลที่ได้รับและการนำไปใช้ ตลอดจนการพัฒนาเพื่อให้ สอดคล้องกับผู้เข้าร่วมอบรม และการตอบสนองความต้องการของผู้เข้าร่วมอบรม การนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างแท้จริง และต้องขอขอบคุณศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดชลบุรี ที่ให้การ สนับสนุนงบประมาณ ตลอดจนคำปรึกษาแนะนำในการจัดกิจกรรมดังกล่าว กศน.ตำบลพลูตาหลวง เมษายน 2564


สารบัญ หน้า บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมา 1 วัตถุประสงค์ 1 เป้าหมาย 1 ผลลัพธ์ 1 ดัชนีชี้วัดผลสำเร็จ 1 2 เอกสารการศึกษาและรายงานที่เกี่ยวข้อง นโยบายและจุดเน้นการดําเนินงานสํานักงาน กศน.ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 2 แนวทาง/กลยุทธ์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กศน.ตำบลพลูตาหลวง 2564 14 หลักการพัฒนาสังคม ชุมชน 27 เอกสาร/งานที่เกี่ยวข้อง 28 3 วิธีการดำเนินงาน ประชุมบุคลากรกรรมการสถานศึกษาและตัวแทนนักศึกษา 29 จัดตั้งคณะทำงาน 29 ประสานงานหน่วยงานและบุคลที่เกี่ยงข้อง 29 ดำเนินตามแผนงาน 29 วัดผล/ประเมินผล/สรุปผลและรายงาน 29 4 ผลการดำเนินงานและการวิเคราะห์ข้อมูล ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้ารับการอบรมโครงการ 32 ตอนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีของผู้เข้าร่วมโครงการ 34 5 สรุปผลการดำเนินการ อภิปราย และข้อเสนอแนะ ผลที่ปรากฎ 36 สรุปผลการดำเนินงาน 36 อภิปรายผล 36 ข้อเสนอแนะ 37


สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามเพศ 32 2 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอาชีพ 32 3 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอายุ 32 4 ผลการประเมินโครงการ 34


บทที่ 1 บทนำ โครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่มาและความสำคัญ โครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นโครงการส่งเสริมจิตสำนึกในความรัก ชาติ การดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพร้อมกับน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การปลูกฝังจิตสำนึกด้านจริยธรรมตามหลักศาสนา การส่งเสริมความรัก ความสามัคคี การทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ นำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อ ตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติต่อไป ดังนั้น กศน.ตำบลพลูตาหลวง จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา เพื่อให้เข้าใจ เรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทยและมีจิตสำนึกความเป็นพลเมืองที่ดีในระบอบ ประชาธิปไตย ตระหนักถึงความ รักชาติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทยเป็นพลเมืองที่ดีในระบอบ ประชาธิปไตย ต่อไป วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. เพื่อเพิ่มศักยภาพของประชาชนในชุมชน ให้เกิดความรู้ ความชำนาญ เกิดความตระหนักถึงความ รักชาติไทย และความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป้าหมาย เชิงปริมาณ ประชาชนตำบลพลูตาหลวงจำนวน 15 คน เชิงคุณภาพ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นการเพิ่มศักยภาพของประชาชนในชุมชน ให้เกิดความรู้ ความชำนาญ เกิดความตระหนักถึง ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตัวชี้วัดผลสำเร็จ ตัวชี้วัดผลผลิต (Outputs) - มีผู้เข้าร่วมโครงการ ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้าหมาย - ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจในระดับมากขึ้นไปไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ตัวชี้วัดผลลัพธ์ (Outcomes) ผู้เข้าร่วมโครงการร้อยละ 80 สามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีความรู้ความเข้าใจ เรื่องความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์


บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและรายงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำรายงานครั้งนี้ได้ศึกษาค้นคว้าเนื้อหาจากเอกสารการศึกษาและรายงานที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้ 1. นโยบายและจุดเน้นการดําเนินงานสํานักงาน กศน.ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 2. แนวทาง/กลยุทธ์การดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของกศน.ตำบลพลูตา หลวง 3. หลักการพัฒนาสังคม ชุมชน 4. เอกสารที่เกี่ยวข้อง นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 วิสัยทัศน์ คนไทยทุกช่วงวัยได้รับโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ มีทักษะที่จำเป็นและ สมรรถนะที่สอดรับกับทิศทางการพัฒนาประเทศ สามารถดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสมบนรากฐานของ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พันธกิจ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ สอดคล้อง กับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อยกระดับการศึกษา และพัฒนาสมรรถนะ ทักษะการเรียนรู้ของประชาชนกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ให้พร้อมรับ การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวในการดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสม ก้าวสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต อย่างยั่งยืน 2. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษา การวัดและประเมินผลในทุกรูปแบบให้มีคุณภาพและมาตรฐานสอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้และบริบทใน ปัจจุบัน 3. ส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และนำเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อเพิ่มช่องทางและโอกาสการ เรียนรู้ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดและให้บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง 4. ส่งเสริมสนับสนุน แสวงหา และประสานความร่วมมือเชิงรุกกับภาคีเครือข่าย ให้เข้ามามีส่วนร่วม ในการสนับสนุนและจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิตในรูปแบบต่าง ๆ ให้กับประชาชน 5. พัฒนาระบบการบริหารจัดการภายในองค์กรให้มีเอกภาพ เพื่อการบริหารราชการที่ดี บนหลัก ของธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และคล่องตัวมากยิ่งขึ้น 6. ยกระดับการบริหารและการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ สมรรถนะ คุณธรรม และจริยธรรมที่ดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการทางการศึกษาและการเรียนรู้ที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น


เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษารวมทั้งประชาชนทั่วไปได้รับโอกาสทางการศึกษา ในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัยที่มี คุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เป็นไปตามบริบท สภาพปัญหาและความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย 2. ประชาชนได้รับการยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม หน้าที่ความเป็น พลเมืองที่ดีภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่สอดคล้องกับหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพื่อพัฒนา ไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม 3. ประชาชนได้รับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้และแสวงหาความรู้ด้วยตนเองผ่านแหล่งเรียนรู้ช่องทางการ เรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งมีเจตคติทางสังคม การเมือง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ เหมาะสม สามารถคิด วิเคราะห์ แยกแยะอย่างมีเหตุผล และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันรวมถึงการแก้ปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์ 4. หน่วยงานและสถานศึกษา กศน. มีหลักสูตร สื่อ นวัตกรรม ช่องทางการเรียนรู้ และกระบวนการเรียนรู้ ในรูปแบบที่หลากหลาย ทันสมัย และรองรับกับสภาวะการเรียนรู้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนา คุณภาพชีวิตตามความต้องการของประชาชนและชุมชน รวมทั้งตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงบริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และสิ่งแวดล้อม 5. หน่วยงานและสถานศึกษา กศน. สามารถนำเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนา เพื่อเพิ่มช่องทางการเรียนรู้ และนำมาใช้ในการยกระดับคุณภาพในการจัดการเรียนรู้และโอกาสการเรียนรู้ให้กับ ประชาชน 6. ชุมชนและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการขับเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู้ของชุมชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการองค์กรที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเป็นไป ตามหลักธรรมาภิบาล 8. บุคลากร กศน. ทุกประเภททุกระดับได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มทักษะและสมรรถนะในการปฏิบัติงานและ การให้บริการทางการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมถึงการปฏิบัติงานตามสายงานอย่างมี ประสิทธิภาพ 3


รายละเอียดตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย 1. ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ 1.1 ร้อยละของผู้เรียนที่ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายการศึกษานอกระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐานตามสิทธิที่กำหนดไว้ (เทียบกับเป้าหมาย พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่าย ประจำปี) ร้อยละ 80 1.2 จำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ ได้รับบริการกิจกรรมการศึกษา ต่อเนื่อง ที่สอดคล้องกับสภาพ ปัญหา และความต้องการ 756,675 คน 1.3 จำนวนผู้รับบริการ/เข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย 9,800,000 คน 1.4 จำนวนบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่น้อยกว่า 3,000 ฉบับ 1.5 จำนวนแหล่งเรียนรู้ในระดับตำบลที่มีความพร้อมในการให้บริการ/ การจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 1,787 แห่ง 1.6 จำนวนประชาชนที่เข้ารับการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อสร้างรายได้ และการมีงานทำ 424,500 คน 1.7 จำนวน ครู กศน.ตำบล ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 100 คน 1.8 จำนวนประชาชนที่ได้รับการฝึกอบรมภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสาร ด้านอาชีพ 22,272 คน 1.9 จำนวนผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ 6,800 คน 1.10 จำนวนประชาชนที่ผ่านการอบรมจากศูนย์ดิจิทัลชุมชน 185,600 คน 1.11 จำนวนสื่อการเรียนออนไลน์ หลักสูตรการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่องานอาชีพ ไม่น้อยกว่า 30 วิชา 1.12 จำนวนบุคลากรสังกัดสำนักงาน กศน. ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพ และความก้าวหน้าตามสายงานในอาชีพ 2,807 คน 1.13 จำนวนบุคลากรในสังกัดสำนักงาน กศน. ที่เข้ารับการอบรมด้านการปกป้อง และเชิดชูสถาบันหลักของชาติ ด้านความปรองดองสมานฉันท์ ด้านการมีจิตสาธาณะ และด้านทักษะในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น 10,000 คน 1.14 จำนวนบทความเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตในระดับตำบล ในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ อาชีพชุมชน วัฒนธรรมท้องถิ่น ภูมิปัญญา 80,000 บทความ 1.15 จำนวนศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ (Co-Learning Space) 77 แห่ง 4


รายละเอียดตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย 2. ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ 2.1 ร้อยละของนักศึกษาที่คาดว่าจะจบในทุกระดับ ที่สำเร็จการศึกษา ในแต่ละภาคเรียน ร้อยละ 75 2.2 ร้อยละของผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษาต่อเนื่อง ที่สามารถนำความรู้ ความเข้าใจไปใช้พัฒนาตนเองได้ตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร/กิจกรรม ร้อยละ 80 2.3 ร้อยละของผู้ผ่านการพัฒนาทักษะอาชีพ สามารถนำความรู้ไปใช้ในการประกอบ อาชีพหรือพัฒนาตนเองได้ ร้อยละ 80 2.4 ร้อยละของผู้เรียนในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพ หรือทักษะด้านอาชีพ สามารถมีงานทำหรือนำไปประกอบอาชีพได้ ร้อยละ 80 2.5 ร้อยละของประชาชนที่ได้รับบริการ/ เข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย มีความรู้ความเข้าใจ/ เจตคติ/ ทักษะ ตามจุดมุ่งหมายของกิจกรรมที่กำหนด ร้อยละ 80 2.6 ร้อยละของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย มีโอกาสมาเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษา ตลอดชีวิต ร้อยละ 80 2.7 ร้อยละของบุคลากรที่ได้รับการพัฒนา ที่มีการพัฒนาตนเองในด้านพฤติกรรม บุคลิกภาพ ทัศนคติ ค่านิยมที่พึงประสงค์ ภาวะผู้นำ และมีจรรยาบรรณวิชาชีพ ที่เหมาะสมยิ่งขึ้น ร้อยละ 90 จุดเน้นการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 1. น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาสู่การปฏิบัติ 1.1 สืบสานศาสตร์พระราชา โดยการสร้างและพัฒนาศูนย์สาธิตและเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการบริหารทรัพยากรรูปแบบต่าง ๆ ทั้งดิน น้ำ ลม แดด รวมถึงพืชพันธุ์ ต่าง ๆ และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนอย่างมีประสิทธิภาพ 1.2 จัดให้มี “หนึ่งชุมชน หนึ่งนวัตกรรม การพัฒนาชุมชน” เพื่อความกินดี อยู่ดี มีงานทำ 1.3 การสร้างกลุ่มจิตอาสาพัฒนาชุมชน รวมทั้งปลูกฝังผู้เรียนให้มีหลักคิดที่ถูกต้องด้านคุณธรรม จริยธรรม มีทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมือง และเป็นผู้มีความพอเพียง ระเบียบวินัย สุจริต จิตอาสา ผ่านกิจกรรม การพัฒนาผู้เรียนโดยการใช้กระบวนการลูกเสือและยุวกาชาด 2. ส่งสริมการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนที่เหมาะสมกับทุกช่วงวัย 2.1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำ ในรูปแบบ Re-Skill& Up-Skill และการสร้าง นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย ทันสมัย และตอบสนองความต้องการของประชาชน ผู้รับบริการ และสามารถออกใบรับรองความรู้ความสามารถเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพได้ 2.2 ส่งเสริมและยกระดับทักษะภาษาอังกฤษให้กับประชาชน (English for All) 2.3 ส่งเสริมการเรียนการสอนที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่เข้าสู่สังคมสูงวัย อาทิ การฝึกอบรมอาชีพ ที่เหมาะสมรองรับสังคมสูงวัย หลักสูตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมสมรรถนะผู้สูงวัย และหลักสูตร การดูแลผู้สูงวัย โดยเน้นการมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัย 5


3. พัฒนาหลักสูตร สื่อ เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา แหล่งเรียนรู้ และรูปแบบ การจัดการศึกษาและการเรียนรู้ ในทุกระดับ ทุกประเภท เพื่อประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาที่เหมาะสม กับทุกกลุ่มเป้าหมาย มีความทันสมัย สอดคล้องและพร้อมรองรับกับบริบทสภาวะสังคมปัจจุบัน ความต้องการของ ผู้เรียน และสภาวะการเรียนรู้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 3.1 พัฒนาระบบการเรียนรู้ ONIE Digital Learning Platform ที่รองรับ DEEP ของ กระทรวงศึกษาธิการและช่องทางเรียนรู้รูปแบบอื่น ๆ ทั้ง Online On-site และ On-air 3.2 พัฒนาแหล่งเรียนรู้ประเภทต่าง ๆ อาทิ Digital Science Museum/ Digital Science Center/ Digital Library ศูนย์การเรียนรู้ทุกช่วงวัย และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ กศน. (Co-Learning Space) เพื่อให้ สามารถ “เรียนรู้ได้อย่างทั่วถึง ทุกที่ ทุกเวลา 3.3 พัฒนาระบบรับสมัครนักศึกษาและสมัครฝึกอบรมแบบออนไลน์ มีระบบการเทียบโอนความรู้ ระบบสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank System) และพัฒนา/ขยายการให้บริการระบบทดสอบอิเล็กทรอนิกส์ (E-exam) 4. บูรณาการความร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนุน และจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับ ประชาชนอย่างมีคุณภาพ 4.1 ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้ง ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน อาทิ การส่งเสริมการฝึกอาชีพที่เป็นอัตลักษณ์และบริบทของชุมชน ส่งเสริมการตลาดและขยายช่องทางการจำหน่ายเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์/สินค้า กศน. 4.2 บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาค 5. พัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากร กศน. 5.1 พัฒนาศักยภาพและทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy & Digital Skills) ให้กับบุคลากรทุกประเภททุกระดับ รองรับความเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนาครูให้มีทักษะ ความรู้ และความชำนาญในการใช้ภาษาอังกฤษ การผลิตสื่อการเรียนรู้และการจัดการเรียน การสอนเพื่อฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบและมีเหตุผล เป็นขั้นตอน 5.2 จัดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ของบุคลากร กศน.และกิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงานร่วมกันในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การแข่งขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาประสิทธิภาพ ในการทำงาน 6. ปรับปรุง และพัฒนาโครงสร้างและระบบบริหารจัดการองค์กร ปัจจัยพื้นฐานในการจัดการศึกษา และการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ต่อสาธารณะชน 6.1 เร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. ... ให้สำเร็จ และปรับโครงสร้างการบริหาร และอัตรากำลังให้สอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลง เร่งการสรรหา บรรจุ แต่งตั้งที่มีประสิทธิภาพ 6.2 นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการ พัฒนาระบบการทำงานและข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษาที่ทันสมัย รวดเร็ว และสามารถใช้งานทันที โดยจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกลาง กศน. เพื่อจัดทำ ข้อมูล กศน. ทั้งระบบ (ONE ONIE) 6.3 พัฒนา ปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูอาคารสถานที่ และสภาพแวดล้อมโดยรอบของหน่วยงาน สถานศึกษา และแหล่งเรียนรู้ทุกแห่ง ให้สะอาด ปลอดภัย พร้อมให้บริการ 6


6.4 ประชาสัมพันธ์/สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการบริการทางวิชาการ/กิจกรรม ด้านการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และสร้างช่องทางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวิชาการ ของหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัด อาทิ ข่าวประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อรูปแบบต่าง ๆ การจัดนิทรรศการ/มหกรรม วิชาการ กศน. การจัดการศึกษาและการเรียนรู้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ของสำนักงาน กศน. จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ส่งผลกระทบต่อระบบการจัดการเรียนการสอนของไทยในทุกระดับชั้น ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกประกาศและมีมาตรการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสดังกล่าว อาทิ กำหนดให้มี การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ห้ามการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษา ทุกประเภท เพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ ฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก การปิดสถานศึกษาด้วยเหตุพิเศษ การกำหนดให้ใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ อาทิ การจัดการเรียนรู้แบบออนไลน์ การจัดการเรียนรู้ผ่านระบบการออกอากาศทางโทรทัศน์ วิทยุ และโซเซียลมีเดีย ต่าง ๆ รวมถึงการสื่อสารแบบทางไกลหรือด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนของสำนักงาน กศน. ได้มีการพัฒนา ปรับรูปแบบ กระบวนการ และวิธีการดำเนินงาน ในภารกิจต่อเนื่องต่าง ๆ ในสถานการณ์การใช้ชีวิตประจำวัน และการจัดการเรียนรู้เพื่อรองรับการชีวิต แบบปกติวิถีใหม่ (New Normal) ซึ่งกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานตามมาตรการ การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) อาทิ การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ทุกประเภท หากมีความจำเป็นต้องมาพบกลุ่ม หรืออบรมสัมมนา ทางสถานศึกษาต้องมีมาตรการป้องกัน ที่เข้มงวด มีเจลแอลกอฮอลล้างมือ ผู้รับบริการต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ต้องมีการเว้นระยะห่าง ระหว่างบุคคลเน้นการใช้สื่อดิจิทัลและเทคโนโลยีออนไลน์ในการจัดการเรียนการสอน ภารกิจต่อเนื่อง 1. ด้านการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ 1.1 การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบตั้งแต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยดำเนินการให้ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซื้อหนังสือเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และ ค่าจัดการเรียนการสอนอย่างทั่วถึงและเพียงพอเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพโดยไม่ เสียค่าใช้จ่าย 2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา ผ่านการเรียนแบบเรียนรู้ด้วยตนเอง การพบกลุ่ม การเรียนแบบชั้นเรียน และการจัด การศึกษาทางไกล 3) พัฒนาประสิทธิภาพ คุณภาพ และมาตรฐานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ทั้งด้านหลักสูตรรูปแบบ/กระบวนการเรียนการสอน สื่อและนวัตกรรม ระบบการวัดและประเมินผลการ เรียน และระบบการให้บริการนักศึกษาในรูปแบบอื่น ๆ 4) จัดให้มีการประเมินเพื่อเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ที่มีความโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานตามที่กำหนด และสามารถตอบสนองความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 7


5) จัดให้มีกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนที่มีคุณภาพที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้และเข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการจบหลักสูตร อาทิ กิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคี กิจกรรมเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไข ปัญหายาเสพติดการแข่งขันกีฬา การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด กิจกรรมจิตอาสา และ การจัดตั้งชมรม/ชุมนุม พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เรียนนำกิจกรรมการบำเพ็ญประโยชน์อื่น ๆ นอกหลักสูตรมาใช้เพิ่ม ชั่วโมงกิจกรรมให้ผู้เรียนจบตามหลักสูตรได้ 1.2 การส่งเสริมการรู้หนังสือ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ไม่รู้หนังสือ ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัยและเป็นระบบเดียวกัน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 2) พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร สื่อ แบบเรียนเครื่องมือวัดผลและเครื่องมือการดำเนินงานการ ส่งเสริมการรู้หนังสือที่สอดคล้องกับสภาพและบริบทของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย 3) พัฒนาครู กศน. และภาคีเครือข่ายที่ร่วมจัดการศึกษา ให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะ การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับผู้ไม่รู้หนังสืออย่างมีประสิทธิภาพ และอาจจัดให้มีอาสาสมัครส่งเสริมการรู้หนังสือ ในพื้นที่ที่มีความต้องการจำเป็นเป็นพิเศษ 4) ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมส่งเสริมการรู้หนังสือ การคงสภาพการรู้หนังสือ การพัฒนาทักษะการรู้หนังสือให้กับประชาชนเพื่อเป็นเครื่องมือในการศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตของ ประชาชน 1.3 การศึกษาต่อเนื่อง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาอาชีพ เพื่อการมีงานทำในกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และอาชีพเฉพาะทางหรือการ บริการ รวมถึงการเน้นอาชีพช่างพื้นฐาน ที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียน ความต้องการและศักยภาพของแต่ละ พื้นที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงาน และการพัฒนาประเทศ ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยจัดให้มีการส่งเสริมการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน การ พัฒนาหนึ่งตำบลหนึ่งอาชีพเด่น การประกวดสินค้าดีพรีเมี่ยม การสร้างแบรนด์ของ กศน. รวมถึงการส่งเสริมและ จัดหาช่องทางการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ และให้มีการกำกับ ติดตาม และรายงานผลการจัดการศึกษาอาชีพ เพื่อการมีงานทำอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง 2) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตให้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะคนพิการ ผู้สูงอายุ ที่สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของแต่ละบุคคล และมุ่งเน้นให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีทักษะการดำรงชีวิตตลอดจน สามารถประกอบอาชีพพึ่งพาตนเองได้มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเอง ให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขสามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมพร้อมสำหรับการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของข่าวสารข้อมูลและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในอนาคต โดยจัดกิจกรรมที่มีเนื้อหาสำคัญต่าง ๆ เช่น การอบรมจิตอาสา การให้ความรู้เพื่อการป้องการการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) การอบรมพัฒนาสุขภาพกายและสุขภาพจิต การอบรมคุณธรรมและ จริยธรรม การป้องกันภัยยาเสพติด เพศศึกษา การปลูกฝั่งและการสร้างค่านิยมที่พึงประสงค์ ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ผ่านการอบรมเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ค่ายพัฒนาทักษะชีวิต การจัดตั้งชมรม/ชุมนุมการอบรม ส่งเสริมความสามารถพิเศษต่าง ๆ เป็นต้น 3) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบบูรณาการในรูปแบบของการฝึกอบรมการประชุม สัมมนา การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดกิจกรรม 8


จิตอาสา การสร้างชุมชนนักปฏิบัติ และรูปแบบอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และบริบทของชุมชนแต่ละพื้นที่ เคารพความคิดของผู้อื่น ยอมรับความแตกต่างและหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์ รวมทั้งสังคมพหุ วัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการให้บุคคลรวมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน สร้างกระบวนการจิตสาธารณะ การ สร้างจิตสำนึกความเป็นประชาธิปไตย การเคารพในสิทธิและเสรีภาพ และรับผิดชอบต่อหน้าที่ความเป็นพลเมืองที่ดี ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม การเป็น จิตอาสา การบำเพ็ญประโยชน์ในชุมชนการ บริหารจัดการน้ำ การรับมือกับ สาธารณภัย การอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการพัฒนาสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน 4) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในรูปแบบต่าง ๆ ให้กับประชาชน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง และมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ตามทิศทางการพัฒนาประเทศสู่ความสมดุลและยั่งยืน 1.4 การศึกษาตามอัธยาศัย 1) พัฒนาแหล่งการเรียนรู้ที่มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอ่านและพัฒนาศักยภาพ การเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น การพัฒนา กศน. ตำบล ห้องสมุด ประชาชนทุกแห่งให้มีการบริการที่ทันสมัย ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้างเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน จัดหน่วยบริการห้องสมุดเคลื่อนที่ ห้องสมุดชาวตลาด พร้อมหนังสือและอุปกรณ์ เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่หลากหลายให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างทั่วถึง สม่ำเสมอ รวมทั้งเสริมสร้างความพร้อมในด้านบุคลากร สื่ออุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการอ่าน และการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอ่านอย่างหลากหลายรูปแบบ 2) จัดสร้างและพัฒนาศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ให้เป็นแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตลอดชีวิตของประชาชน เป็นแหล่งสร้างนวัตกรรมฐานวิทยาศาสตร์และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะวิทยาการ ประจำท้องถิ่น โดยจัดทำและพัฒนานิทรรศการสื่อและกิจกรรมการศึกษาที่เน้นการเสริมสร้างความรู้และสร้างแรง บันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์สอดแทรกวิธีการคิดเชิงวิเคราะห์ การคิดเชิงสร้างสรรค์ และปลูกฝังเจตคติทาง วิทยาศาสตร์ผ่านการกระบวนการเรียนรู้ที่บูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ควบคู่กับเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์รวมทั้งสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บริบทของชุมชน และประเทศ รวมทั้ง ระดับภูมิภาคและระดับโลกเพื่อให้ประชาชนมีความรู้และสามารถนำความรู้และทักษะ ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต การพัฒนาอาชีพ การรักษาสิ่งแวดล้อม การบรรเทาปละป้องกันภัยพิบัติ ทางธรรมชาติ รวมทั้งความสามารถในการปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็นไป อย่างรวดเร็วและรุนแรง (Disruptive Changes) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3) ประสานความร่วมมือหน่วยงาน องค์กร หรือภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีแหล่งเรียนรู้อื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีรูปแบบที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของประชาชน เช่น พิพิธภัณฑ์ศูนย์เรียนรู้ แหล่งโบราณคดี วัด ศาสนาสถาน ห้องสมุด รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นต้น 2. ด้านหลักสูตร สื่อรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลงานบริการ ทางวิชาการ และการประกันคุณภาพการศึกษา 2.1 ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้และกิจกรรม เพื่อส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่หลากหลาย ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะ และหลักสูตรท้องถิ่นที่สอดคล้องกับสภาพบริบทของพื้นที่และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและชุมชน 2.2 ส่งเสริมการพัฒนาสื่อแบบเรียน สื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่ออื่น ๆ ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายทั่วไปและกลุ่มเป้าหมายพิเศษ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา 9


2.3 พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกลให้มีความทันสมัย หลากหลายช่องทางการเรียนรู้ ด้วยระบบห้องเรียนและการควบคุมการสอบรูปแบบออนไลน์ 2.4 พัฒนาระบบการประเมินเพื่อเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ เพื่อให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมี การประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้รับรู้และสามารถเข้าถึงระบบการประเมินได้ 2.5 พัฒนาระบบการวัดและประเมินผลการศึกษานอกระบบทุกหลักสูตร โดยเฉพาะหลักสูตร ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ได้มาตรฐานโดยการนำแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอิเล็กทรอนิกส์(eExam) มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.6 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัย เพื่อพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ การ วัดและประเมินผล และเผยแพร่รูปแบบการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย รวมทั้งให้มีการนำไปสู่การปฏิบัติอย่างกว้างขวางและมีการพัฒนาให้เหมาะสม กับบริบทอย่างต่อเนื่อง 2.7 พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาให้ได้มาตรฐาน มีการพัฒนาระบบการประกัน คุณภาพภายในที่สอดคล้องกับบริบทและภารกิจของ กศน. มากขึ้น เพื่อพร้อมรับการประเมินคุณภาพภายนอก โดย พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสำคัญของระบบการประกันคุณภาพ และสามารถ ดำเนินการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้การประเมินภายใน ด้วยตนเอง และจัดให้มีระบบสถานศึกษาพี่เลี้ยงเข้าไปสนับสนุนอย่างใกล้ชิด สำหรับสถานศึกษาที่ยังไม่ได้เข้ารับการ ประเมินคุณภาพภายนอก ให้พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด 3. ด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา 3.1 ผลิตและพัฒนารายการวิทยุและรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษา เพื่อให้เชื่อมโยงและตอบสนอง ต่อการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษา สำหรับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ให้มีทางเลือกในการเรียนรู้ที่หลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพัฒนาตนเองให้รู้เท่า ทันสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร เช่น รายการพัฒนาอาชีพ เพื่อการมีงานทำ รายการติวเข้มเติมเต็มความรู้รายการ รายการทำกินก็ได้ ทำขายก็ดี ฯลฯ เผยแพร่ทางสถานีวิทยุ ศึกษา สถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และทางอินเทอร์เน็ต 3.2 พัฒนาการเผยแพร่การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โดยผ่านระบบ เทคโนโลยีดิจิทัล และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Youtube Facebook หรือ Application อื่น ๆ เพื่อส่งเสริมให้ ครู กศน. นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3.3 พัฒนาสถานีวิทยุศึกษาและสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการ ออกอากาศให้กลุ่มเป้าหมายสามารถใช้เป็นช่องทางการเรียนรู้ที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยขยายเครือข่ายการรับฟังให้สามารถรับฟังได้ทุกที่ ทุกเวลา ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศและเพิ่มช่องทาง ให้สามารถรับชมรายการโทรทัศน์ได้ทั้งระบบ Ku - Band C - Band Digital TV และทางอินเทอร์เน็ต พร้อมที่จะ รองรับการพัฒนาเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พัฒนาระบบการให้บริการสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เพื่อให้ได้หลายช่องทางทั้งทาง อินเทอร์เน็ต และรูปแบบอื่น ๆ อาทิ Application บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ Tablet รวมทั้งสื่อ Offline ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเลือกใช้บริการเพื่อเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ได้ตาม ความต้องการ 10


3.5 สำรวจ วิจัย ติดตามประเมินผลด้านการใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำผลมาใช้ในการพัฒนางานให้มีความถูกต้อง ทันสมัยและสามารถส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ ตลอดชีวิตของประชาชนได้อย่างแท้จริง 4. ด้านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหรือโครงการอันเกี่ยวเนื่องจากราชวงศ์ 4.1 ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหรือโครงการ อันเกี่ยวเนื่องจากราชวงศ์ 4.2 จัดทำฐานข้อมูลโครงการและกิจกรรมของ กศน.ที่สนองงานโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริหรือโครงการอันเกี่ยวเนื่องจากราชวงศ์เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน การติดตามประเมินผล และการพัฒนางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.3 ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการดำเนินงาน เพื่อสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 4.4 พัฒนาศูนย์ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” เพื่อให้มีความพร้อมในการจัด การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตามบทบาทหน้าที่ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.5 จัดและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนบนพื้นที่สูง ถิ่นทุรกันดาร และพื้นที่ชายขอบ 5. ด้านการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและพื้นที่บริเวณ ชายแดน 5.1 พัฒนาการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 1) จัดและพัฒนาหลักสูตร และกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ที่ตอบสนองปัญหา และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายรวมทั้งอัตลักษณ์และความเป็นพหุวัฒนธรรมของพื้นที่ 2) พัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องเพื่อให้ ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ได้จริง 3) ให้หน่วยงานและสถานศึกษาจัดให้มีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยแก่บุคลากรและ นักศึกษา กศน.ตลอดจนผู้มาใช้บริการอย่างทั่วถึง 5.2 พัฒนาการจัดการศึกษาแบบบูรณาการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 1) ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำแผนการศึกษาตามยุทธศาสตร์ และบริบทของแต่ละจังหวัดในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 2) จัดทำหลักสูตรการศึกษาตามบริบทของพื้นที่ โดยเน้นสาขาที่เป็นความต้องการของตลาด ให้เกิดการพัฒนาอาชีพได้ตรงตามความต้องการของพื้นที่ 5.3 จัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน (ศฝช.) 1) พัฒนาศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน เพื่อให้เป็นศูนย์ฝึกและสาธิตการ ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบการจัดกิจกรรมตามแนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง สำหรับประชาชนตามแนวชายแดนด้วยวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลาย 2) มุ่งจัดและพัฒนาการศึกษาอาชีพโดยใช้วิธีการหลากหลายใช้รูปแบบเชิงรุก เพื่อการเข้าถึง กลุ่มเป้าหมาย เช่น การจัดมหกรรมอาชีพ การประสานความร่มมือกับเครือข่าย การจัดอบรมแกนนำด้านอาชีพที่ เน้นเรื่องเกษตรธรรมชาติที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชนชายแดน ให้แก่ประชาชนตามแนวชายแดน 11


6. ด้านบุคลากรระบบการบริหารจัดการ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน 6.1 การพัฒนาบุคลากร 1) พัฒนาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทให้มีสมรรถนะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งก่อนและระหว่างการ ดำรงตำแหน่งเพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการปฏิบัติงานให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานตำแหน่ง ให้ตรงกับสายงานความชำนาญ และความต้องการของบุคลากรสามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการ การดำเนินงานของหน่วยงานและสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งส่งเสริมให้ข้าราชการในสังกัดพัฒนา ตนเองเพื่อเลื่อนตำแหน่งหรือเลื่อนวิทยฐานะโดยเน้นการประเมินวิทยฐานะเชิงประจักษ์ 2) พัฒนาศึกษานิเทศก์ กศน. ให้มีสมรรถนะที่จำเป็นครบถ้วน มีความเป็นมืออาชีพ สามารถ ปฏิบัติการนิเทศได้อย่างมีศักยภาพ เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยในสถานศึกษา 3) พัฒนาหัวหน้า กศน.ตำบล/แขวงให้มีสมรรถนะสูงขึ้น เพื่อการบริหารจัดการ กศน.ตำบล/แขวง และการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการเป็นนักจัดการความรู้และผู้อำนวยความ สะดวกในการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง 4) พัฒนาครู กศน. และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาให้สามารถจัดรูปแบบการเรียนรู้ได้ อย่างมีคุณภาพโดยส่งเสริมให้มีความรู้ความสามารถในการจัดทำแผนการสอน การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัด และประเมินผล และการวิจัยเบื้องต้น 5) พัฒนาศักยภาพบุคลากร ที่รับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรียนรู้ ให้มีความรู้ ความสามารถและมีความเป็นมืออาชีพในการจัดบริการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชน 6) ส่งเสริมให้คณะกรรมการ กศน. ทุกระดับ และคณะกรรมการสถานศึกษา มีส่วนร่วม ในการบริหารการดำเนินงานตามบทบาทภารกิจของ กศน.อย่างมีประสิทธิภาพ 7) พัฒนาอาสาสมัคร กศน. ให้สามารถทำหน้าที่สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ 8) พัฒนาสมรรถนะและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรรวมทั้งภาคีเครือข่ายทั้งใน และต่างประเทศในทุกระดับ โดยจัดให้มีกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างสัมพันธภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ร่วมกันในรูปแบบที่หลากหลายอย่างต่อเนื่องอาทิการแข่งขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาประสิทธิภาพใน การทำงาน 6.2 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอัตรากำลัง 1) จัดทำแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและดำเนินการปรับปรึงสถานที่และวัสดุอุปกรณ์ ให้มี ความพร้อมในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ 2) สรรหา บรรจุ แต่งตั้ง และบริหารอัตรากำลังที่มีอยู่ทั้งในส่วนที่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ให้เป็นไปตามโครงสร้างการบริหารและกรอบอัตรากำลัง รวมทั้งรองรับกับบทบาทภารกิจตามที่กำหนด ไว้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการปฏิบัติงาน 3) แสวงหาความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการระดมทรัพยากรเพื่อนำมาใช้ ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อมสำหรับดำเนินกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย และการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับประชาชน 6.3 การพัฒนาระบบบริหารจัดการ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อมโยงกันทั่วประเทศ อย่างเป็นระบบเพื่อให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหาร 12


การวางแผน การปฏิบัติงาน การติดตามประเมินผล รวมทั้งจัดบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ 2) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกำกับ ควบคุม และเร่งรัด การเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 3) พัฒนาระบบฐานข้อมูลรวมของนักศึกษา กศน. ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และ เชื่อมโยงกันทั่วประเทศ สามารถสืบค้นและสอบทานได้ทันความต้องการเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษาให้กับ ผู้เรียนและการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ 4) ส่งเสริมให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการศึกษาวิจัยเพื่อ สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และชุมชนพร้อมทั้งพัฒนาขีดความสามารถเชิงการแข่งขันของหน่วยงานและสถานศึกษา 5) สร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อสร้างความเข้าใจ และให้เกิดความ ร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนุน และจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับประชาชนอย่างมีคุณภาพ 6) ส่งเสริมการใช้ระบบสำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ (e -office) ในการบริหารจัดการ เช่น ระบบการ ลา ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ระบบการขอใช้รถราชการ ระบบการขอใช้ห้องประชุม เป็นต้น 7) พัฒนาและปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริต และประพฤติมิชอบ บริหารจัดการบนข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ มุ่งผลสัมฤทธิ์มีความโปร่งใส 6.4 การกำกับ นิเทศติดตามประเมิน และรายงานผล 1) สร้างกลไกการกำกับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการดำเนินงานการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้เชื่อมโยงกับหน่วยงาน สถานศึกษา และภาคีเครือข่ายทั้งระบบ 2) ให้หน่วยงานและสถานศึกษาที่เกี่ยวข้องทุกระดับ พัฒนาระบบกลไกการกำกับ ติดตามและ รายงานผลการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ ให้สามารถตอบสนองการดำเนินงานตามนโยบายในแต่ละเรื่องได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 3) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสื่ออื่น ๆ ที่เหมาะสม เพื่อการกำกับ นิเทศ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลอย่างมีประสิทธิภาพ 4) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปี ของหน่วยงาน สถานศึกษา เพื่อการรายงานผลตามตัวชี้วัดในคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปี ของสำนักงาน กศน. ให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่กำหนด 5) ให้มีการเชื่อมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กร ตั้งแต่ ส่วนกลาง ภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด อำเภอ/เขต และตำบล/แขวง เพื่อความเป็นเอกภาพในการใช้ข้อมูลและการ พัฒนางานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 2. แนวทาง/กลยุทธ์การดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของ กศน.ตำบลพลูตาหลวง วิสัยทัศน์ “คนไทยได้รับโอกาสการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ สามารถดำรงชีวิตที่เหมาะสม กับช่วงวัย สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีทักษะที่จำเป็นในโลกศตวรรษที่ 21” 13


พันธกิจ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ เพื่อยกระดับการศึกษา พัฒนาทักษะการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมทุกช่วงวัย พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงบริบททาง สังคม และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต 2 ส่งเสริม สนับสนุน และประสานภาคีเครือข่าย ในการมีส่วนร่วมจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมของศูนย์การเรียนและแหล่งการเรียนรู้อื่น ใน รูปแบบต่าง ๆ 3. ส่งเสริมและพัฒนาการนำเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพในการ จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง 4. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและนวัตกรรม การวัดและประเมินผลในทุก รูปแบบให้สอดคล้องกับบริบทในปัจจุบัน 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งจัดการศึกษาและการเรียนรู้ที่มี คุณภาพ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้รับโอกาสทาง การศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย ที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เป็นไปตามสภาพ ปัญหา และความต้องการของแต่ละ กลุ่มเป้าหมาย 2. ประชาชนได้รับการยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และความเป็นพลเมือง อันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพื่อพัฒนาไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืน ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม 3. ประชาชนได้รับโอกาสในการเรียนรู้ และมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เหมาะสมสามารถคิด วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์ 4. ประชาชนได้รับการสร้างและส่งเสริมให้มีนิสัยรักการอ่านเพื่อการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 5. ชุมชนและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการดำเนินงานการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการขับเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู้ของชุมชน 6. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนา เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการยกระดับ คุณภาพในการจัดการเรียนรู้และเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ให้กับประชาชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาสื่อและการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพ ชีวิต ที่ตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงบริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และ สิ่งแวดล้อม รวมทั้งตามความต้องการของประชาชนและชุมชนในรูปแบบที่หลากหลาย 8. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการที่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล 9. บุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงานการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ 14


ตัวชี้วัด ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ 1. จำนวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาชั้นพื้นฐานที่ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามสิทธิที่ กำหนดไว้ 2. จำนวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/เข้ารับบริการกิจกรรมการศึกษา ต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัยที่สอดคล้องกับสภาพ ปัญหา และความต้องการ 3. ร้อยละของกำลังแรงงานที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป 4. จำนวนภาคีเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัด/พัฒนา/ส่งเสริมการศึกษา (ภาคีเครือข่าย : สถานประกอบการ องค์กร หน่วยงานที่มาร่วมจัด/พัฒนา/ส่งเสริมการศึกษา) 5. จำนวนประชาชน เด็ก และเยาวชนในพื้นที่สูง และชาวไทยมอแกน ในพื้นที่ 5 จังหวัด 11 อำเภอ ได้รับบริการการศึกษาตลอดชีวิตจากศูนย์การเรียนชุมชนสังกัดสำนักงาน กศน. 6. จำนวนผู้รับบริการในพื้นที่เป้าหมายได้รับการส่งเสริมด้านการรู้หนังสือและการพัฒนาทักษะชีวิต 7. จำนวนนักเรียนนักศึกษาที่ได้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้ 8. จำนวนประชาชนที่ได้รับการฝึกอาชีพระยะสั้น สามารถสร้างอาชีพเพื่อสร้างรายได้ 9. จำนวน ครู กศน. ตำบล จากพื้นที่ กศน.ภาค ได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 10. จำนวนประชาชนที่ได้รับการฝึกอบรมภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ 11. จำนวนผู้สูงอายุภาวะพึ่งพิงในระบบ Long Term Care มีผู้ดูแลที่มีคุณภาพและมาตรฐาน 12. จำนวนประชาชนที่ผ่านการอบรมจากศูนย์ดิจิทัลชุมชน 13. จำนวนศูนย์การเรียนชุมชน กศน. บนพื้นที่สูง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการฟัง พูด ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร ร่วมกันในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. ตชด. และกศน. 14. จำนวนบุคลากร กศน. ตำบลที่สามารถจัดทำคลังความรู้ได้ 15. จำนวนบทความเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตในระดับตำบลในหัวข้อต่าง ๆ 16. จำนวนหลักสูตรและสื่อออนไลน์ที่ให้บริการกับประชาชน ทั้งการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้น พื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ 1. ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ การศึกษานอกระบบ (N-NET) ทุกรายวิชาทุกระดับ 2. ร้อยละของผู้เรียนที่ได้รับการสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเทียบกับค่าเป้าหมาย 3. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ลงทะเบียนเรียนในทุกหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษาต่อเนื่องเทียบ กับเป้าหมาย 4. ร้อยละของผู้ผ่านการฝึกอบรม/พัฒนาทักษะอาชีพระยะสั้นสามารถนำความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพ หรือพัฒนางานได้ 5. ร้อยละของผู้เรียนในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพ หรือทักษะด้านอาชีพ สามารถมีงานทำหรือนำไปประกอบอาชีพได้ 6. ร้อยละของผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมที่สามารถนำความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร กิจกรรม การศึกษาต่อเนื่อง 15


7. ร้อยละของประชาชนที่ได้รับบริการมีความพึงพอใจต่อการบริการ/เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้การศึกษา ตามอัธยาศัย 8. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับบริการ/ข้าร่วมกิจกรรมที่มีความรู้ความเข้าใจ/เจตคติ ทักษะ ตามจุดมุ่งหมายของกิจกรรมที่กำหนด ของการศึกษาตามอัธยาศัย 9. ร้อยละของนักเรียน/นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาที่ได้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้เพิ่ม สูงขึ้น 10. ร้อยละของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย มีโอกาสมาเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาตลอดชีวิต นโยบายเร่งด่วนเพื่อร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 วิสัยทัศน์ คนไทยทุกช่วงวัยได้รับโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ มีทักษะที่จำเป็นและ สมรรถนะที่สอดรับกับทิศทางการพัฒนาประเทศ สามารถดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสมบนรากฐานของ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พันธกิจ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ สอดคล้อง กับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อยกระดับการศึกษา และพัฒนาสมรรถนะ ทักษะการเรียนรู้ของประชาชนกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ให้พร้อมรับ การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวในการดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสม ก้าวสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต อย่างยั่งยืน 2. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษา การวัดและประเมินผลในทุกรูปแบบให้มีคุณภาพและมาตรฐานสอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้และบริบทใน ปัจจุบัน 3. ส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และนำเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อเพิ่มช่องทางและโอกาสการ เรียนรู้ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดและให้บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง 4. ส่งเสริมสนับสนุน แสวงหา และประสานความร่วมมือเชิงรุกกับภาคีเครือข่าย ให้เข้ามามีส่วนร่วม ในการสนับสนุนและจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิตในรูปแบบต่าง ๆ ให้กับประชาชน 5. พัฒนาระบบการบริหารจัดการภายในองค์กรให้มีเอกภาพ เพื่อการบริหารราชการที่ดี บนหลัก ของธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และคล่องตัวมากยิ่งขึ้น 6. ยกระดับการบริหารและการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ สมรรถนะ คุณธรรม และจริยธรรมที่ดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการทางการศึกษาและการเรียนรู้ที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น 16


เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษารวมทั้งประชาชนทั่วไปได้รับโอกาสทางการศึกษา ในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัยที่มี คุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เป็นไปตามบริบท สภาพปัญหาและความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย 2. ประชาชนได้รับการยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม หน้าที่ความเป็น พลเมืองที่ดีภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่สอดคล้องกับ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพื่อ พัฒนาไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม 3. ประชาชนได้รับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้และแสวงหาความรู้ด้วยตนเองผ่านแหล่งเรียนรู้ช่องทางการ เรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งมีเจตคติทางสังคม การเมือง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ เหมาะสม สามารถคิด วิเคราะห์ แยกแยะอย่างมีเหตุผล และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันรวมถึงการแก้ปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์ 4. หน่วยงานและสถานศึกษา กศน. มีหลักสูตร สื่อ นวัตกรรม ช่องทางการเรียนรู้ และกระบวนการ เรียนรู้ ในรูปแบบที่หลากหลาย ทันสมัย และรองรับกับสภาวะการเรียนรู้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตตามความต้องการของประชาชนและชุมชน รวมทั้งตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงบริบทด้าน เศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม 5. หน่วยงานและสถานศึกษา กศน. สามารถนำเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนา เพื่อเพิ่มช่องทางการเรียนรู้ และนำมาใช้ในการยกระดับคุณภาพในการจัดการเรียนรู้และโอกาสการเรียนรู้ให้กับ ประชาชน 6. ชุมชนและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการขับเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู้ของชุมชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการองค์กรที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเป็นไป ตามหลักธรรมาภิบาล 8. บุคลากร กศน. ทุกประเภททุกระดับได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มทักษะและสมรรถนะในการปฏิบัติงานและ การให้บริการทางการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมถึงการปฏิบัติงาน ตามสายงานอย่างมีประสิทธิภาพ จุดเน้นการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 1. น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาสู่การปฏิบัติ 1.1 สืบสานศาสตร์พระราชา โดยการสร้างและพัฒนาศูนย์สาธิตและเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการบริหารทรัพยากรรูปแบบต่าง ๆ ทั้งดิน น้ำ ลม แดด รวมถึงพืชพันธุ์ ต่าง ๆ และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนอย่างมีประสิทธิภาพ 1.2 จัดให้มี “หนึ่งชุมชน หนึ่งนวัตกรรม การพัฒนาชุมชน” เพื่อความกินดี อยู่ดี มีงานทำ 1.3 การสร้างกลุ่มจิตอาสาพัฒนาชุมชน รวมทั้งปลูกฝังผู้เรียนให้มีหลักคิดที่ถูกต้องด้านคุณธรรม จริยธรรม มีทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมือง และเป็นผู้มีความพอเพียง ระเบียบวินัย สุจริต จิตอาสา ผ่านกิจกรรม การพัฒนาผู้เรียนโดยการใช้กระบวนการลูกเสือและยุวกาชาด 17


2. ส่งสริมการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนที่เหมาะสมกับทุกช่วงวัย 2.1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำ ในรูปแบบ Re-Skill& Up-Skill และการสร้าง นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย ทันสมัย และตอบสนองความต้องการของประชาชน ผู้รับบริการ และสามารถออกใบรับรองความรู้ความสามารถเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพได้ 2.2 ส่งเสริมและยกระดับทักษะภาษาอังกฤษให้กับประชาชน (English for All) 2.3 ส่งเสริมการเรียนการสอนที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่เข้าสู่สังคมสูงวัย อาทิ การฝึกอบรมอาชีพ ที่เหมาะสมรองรับสังคมสูงวัย หลักสูตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมสมรรถนะผู้สูงวัย และหลักสูตร การดูแลผู้สูงวัย โดยเน้นการมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัย 3. พัฒนาหลักสูตร สื่อ เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา แหล่งเรียนรู้ และรูปแบบ การจัดการศึกษาและการเรียนรู้ ในทุกระดับ ทุกประเภท เพื่อประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาที่เหมาะสม กับทุกกลุ่มเป้าหมาย มีความทันสมัย สอดคล้องและพร้อมรองรับกับบริบทสภาวะสังคมปัจจุบัน ความต้องการของ ผู้เรียน และสภาวะการเรียนรู้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 3.1 พัฒนาระบบการเรียนรู้ ONIE Digital Learning Platform ที่รองรับ DEEP ของ กระทรวงศึกษาธิการและช่องทางเรียนรู้รูปแบบอื่น ๆ ทั้ง Online On-site และ On-air 3.2 พัฒนาแหล่งเรียนรู้ประเภทต่าง ๆ อาทิDigital Science Museum/ Digital Science Center/ Digital Library ศูนย์การเรียนรู้ทุกช่วงวัย และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ กศน. (Co-Learning Space) เพื่อให้ สามารถ “เรียนรู้ได้อย่างทั่วถึง ทุกที่ ทุกเวลา 3.3 พัฒนาระบบรับสมัครนักศึกษาและสมัครฝึกอบรมแบบออนไลน์ มีระบบการเทียบโอนความรู้ ระบบสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank System) และพัฒนา/ขยายการให้บริการระบบทดสอบอิเล็กทรอนิกส์ (E-exam) 4. บูรณาการความร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนุน และจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับ ประชาชนอย่างมีคุณภาพ 4.1 ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้ง ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน อาทิ การส่งเสริมการฝึกอาชีพที่เป็นอัตลักษณ์และบริบทของชุมชน ส่งเสริมการตลาดและขยายช่องทางการจำหน่ายเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์/สินค้า กศน. 4.2 บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาค 5. พัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากร กศน. 5.1 พัฒนาศักยภาพและทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy & Digital Skills) ให้กับบุคลากรทุกประเภททุกระดับ รองรับความเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนาครูให้มีทักษะ ความรู้ และความชำนาญในการใช้ภาษาอังกฤษ การผลิตสื่อการเรียนรู้และการจัดการเรียน การสอนเพื่อฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบและมีเหตุผล เป็นขั้นตอน 5.2 จัดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ของบุคลากร กศน.และกิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ร่วมกันในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การแข่งขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน 18


6. ปรับปรุง และพัฒนาโครงสร้างและระบบบริหารจัดการองค์กร ปัจจัยพื้นฐานในการจัดการศึกษา และการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ต่อสาธารณะชน 6.1 เร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. ... ให้สำเร็จ และปรับโครงสร้างการบริหาร และอัตรากำลังให้สอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลง เร่งการสรรหา บรรจุ แต่งตั้งที่มีประสิทธิภาพ 6.2 นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการ พัฒนาระบบการทำงานและข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษาที่ทันสมัย รวดเร็ว และสามารถใช้งานทันที โดยจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกลาง กศน. เพื่อจัดทำ ข้อมูล กศน. ทั้งระบบ (ONE ONIE) 6.3 พัฒนา ปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูอาคารสถานที่ และสภาพแวดล้อมโดยรอบของหน่วยงาน สถานศึกษา และแหล่งเรียนรู้ทุกแห่ง ให้สะอาด ปลอดภัย พร้อมให้บริการ 6.4 ประชาสัมพันธ์/สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการบริการทางวิชาการ/กิจกรรม ด้านการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และสร้างช่องทางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวิชาการ ของหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัด อาทิ ข่าวประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อรูปแบบต่าง ๆ การจัดนิทรรศการ/มหกรรม วิชาการ กศน. การจัดการศึกษาและการเรียนรู้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ของสำนักงาน กศน. จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ส่งผลกระทบต่อระบบการจัดการเรียนการสอนของไทยในทุกระดับชั้น ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกประกาศและมีมาตรการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสดังกล่าว อาทิ กำหนดให้มี การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ห้ามการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษา ทุกประเภท เพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ ฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก การปิดสถานศึกษาด้วยเหตุพิเศษ การกำหนดให้ใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ อาทิ การจัดการเรียนรู้แบบออนไลน์ การจัดการเรียนรู้ผ่านระบบการออกอากาศทางโทรทัศน์ วิทยุ และโซเซียลมีเดีย ต่าง ๆ รวมถึงการสื่อสารแบบทางไกลหรือด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนของสำนักงาน กศน. ได้มีการพัฒนา ปรับรูปแบบ กระบวนการ และวิธีการดำเนินงานในภารกิจ ต่อเนื่องต่าง ๆ ในสถานการณ์การใช้ชีวิตประจำวัน และการจัดการเรียนรู้เพื่อรองรับการชีวิตแบบปกติวิถีใหม่ (New Normal) ซึ่งกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) อาทิการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทุกประเภท หากมีความจำเป็นต้องมาพบ กลุ่ม หรืออบรมสัมมนา ทางสถานศึกษาต้องมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด มีเจลแอลกอฮอลล้างมือ ผู้รับบริการต้อง ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ต้องมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลเน้นการใช้สื่อดิจิทัลและเทคโนโลยี ออนไลน์ในการจัดการเรียนการสอน ภารกิจต่อเนื่อง 1. ด้านการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ 1.1 การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบตั้งแต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยดำเนินการให้ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซื้อหนังสือเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และ ค่าจัดการเรียนการสอนอย่างทั่วถึงและเพียงพอเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพโดยไม่ เสียค่าใช้จ่าย 19


2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา ผ่านการเรียนแบบเรียนรู้ด้วยตนเอง การพบกลุ่ม การเรียนแบบชั้นเรียน และการจัด การศึกษาทางไกล 3) พัฒนาประสิทธิภาพ คุณภาพ และมาตรฐานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ทั้งด้านหลักสูตรรูปแบบ/กระบวนการเรียนการสอน สื่อและนวัตกรรม ระบบการวัดและประเมินผลการ เรียน และระบบการให้บริการนักศึกษาในรูปแบบอื่น ๆ 4) จัดให้มีการประเมินเพื่อเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ที่มีความโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานตามที่กำหนด และสามารถตอบสนองความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5) จัดให้มีกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนที่มีคุณภาพที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้และเข้าร่วมปฏิบัติ กิจกรรม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการจบหลักสูตร อาทิ กิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคี กิจกรรมเกี่ยวกับการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดการแข่งขันกีฬา การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด กิจกรรมจิตอาสา และการจัดตั้งชมรม/ชุมนุม พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เรียนนำกิจกรรมการบำเพ็ญ ประโยชน์อื่น ๆ นอกหลักสูตรมาใช้เพิ่มชั่วโมงกิจกรรมให้ผู้เรียนจบตามหลักสูตรได้ 1.2 การส่งเสริมการรู้หนังสือ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ไม่รู้หนังสือ ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัยและเป็นระบบเดียวกัน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 2) พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร สื่อ แบบเรียนเครื่องมือวัดผลและเครื่องมือการดำเนินงานการ ส่งเสริมการรู้หนังสือที่สอดคล้องกับสภาพและบริบทของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย 3) พัฒนาครู กศน. และภาคีเครือข่ายที่ร่วมจัดการศึกษา ให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะ การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับผู้ไม่รู้หนังสืออย่างมีประสิทธิภาพ และอาจจัดให้มีอาสาสมัครส่งเสริมการรู้หนังสือ ในพื้นที่ที่มีความต้องการจำเป็นเป็นพิเศษ 4) ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมส่งเสริมการรู้หนังสือ การคงสภาพการรู้หนังสือ การพัฒนาทักษะการรู้หนังสือให้กับประชาชนเพื่อเป็นเครื่องมือในการศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตของ ประชาชน 1.3 การศึกษาต่อเนื่อง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาอาชีพ เพื่อการมีงานทำในกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และอาชีพเฉพาะทางหรือการ บริการ รวมถึงการเน้นอาชีพช่างพื้นฐาน ที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียน ความต้องการและศักยภาพของแต่ละ พื้นที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงาน และการพัฒนาประเทศ ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยจัดให้มีการส่งเสริมการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน การ พัฒนาหนึ่งตำบลหนึ่งอาชีพเด่น การประกวดสินค้าดีพรีเมี่ยม การสร้างแบรนด์ของ กศน. รวมถึงการส่งเสริมและ จัดหาช่องทางการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ และให้มีการกำกับ ติดตาม และรายงานผลการจัดการศึกษาอาชีพ เพื่อการมีงานทำอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง 2) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตให้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะคนพิการ ผู้สูงอายุ ที่สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของแต่ละบุคคล และมุ่งเน้นให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีทักษะการดำรงชีวิตตลอดจน สามารถประกอบอาชีพพึ่งพาตนเองได้มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเอง 20


ให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขสามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมพร้อมสำหรับการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของข่าวสารข้อมูลและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในอนาคต โดยจัดกิจกรรมที่มีเนื้อหาสำคัญต่าง ๆ เช่น การอบรมจิตอาสา การให้ความรู้เพื่อการป้องการการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) การอบรมพัฒนาสุขภาพกายและสุขภาพจิต การอบรมคุณธรรมและ จริยธรรม การป้องกันภัยยาเสพติด เพศศึกษา การปลูกฝั่งและการสร้างค่านิยมที่พึงประสงค์ ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ผ่านการอบรมเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ค่ายพัฒนาทักษะชีวิต การจัดตั้งชมรม/ชุมนุมการอบรม ส่งเสริมความสามารถพิเศษต่าง ๆ เป็นต้น 3) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบบูรณาการในรูปแบบของการฝึกอบรมการประชุม สัมมนา การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดกิจกรรม จิตอาสา การสร้างชุมชนนักปฏิบัติ และรูปแบบอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และบริบทของชุมชน แต่ละพื้นที่ เคารพความคิดของผู้อื่น ยอมรับความแตกต่างและหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์ รวมทั้ง สังคมพหุวัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการให้บุคคลรวมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน สร้างกระบวนการจิต สาธารณะ การสร้างจิตสำนึกความเป็นประชาธิปไตย การเคารพในสิทธิและเสรีภาพ และรับผิดชอบต่อหน้าที่ความ เป็นพลเมืองที่ดีภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม การเป็นจิตอาสา การบำเพ็ญประโยชน์ในชุมชนการ บริหารจัดการน้ำ การรับมือกับ สาธารณภัย การอนุรักษ์พลังงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการพัฒนาสังคม และชุมชนอย่างยั่งยืน 4) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในรูปแบบต่าง ๆ ให้กับประชาชน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง และมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ตามทิศทางการพัฒนาประเทศสู่ความสมดุลและยั่งยืน 1.4 การศึกษาตามอัธยาศัย 1) พัฒนาแหล่งการเรียนรู้ที่มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอ่านและพัฒนาศักยภาพ การเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น การพัฒนา กศน. ตำบล ห้องสมุด ประชาชนทุกแห่งให้มีการบริการที่ทันสมัย ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้างเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน จัดหน่วยบริการห้องสมุดเคลื่อนที่ ห้องสมุดชาวตลาด พร้อมหนังสือและอุปกรณ์ เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่หลากหลายให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างทั่วถึง สม่ำเสมอ รวมทั้งเสริมสร้างความพร้อมในด้านบุคลากร สื่ออุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการอ่าน และการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอ่านอย่างหลากหลายรูปแบบ 2) จัดสร้างและพัฒนาศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ให้เป็นแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตลอดชีวิตของประชาชน เป็นแหล่งสร้างนวัตกรรมฐานวิทยาศาสตร์และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะวิทยาการ ประจำท้องถิ่น โดยจัดทำและพัฒนานิทรรศการสื่อและกิจกรรมการศึกษาที่เน้นการเสริมสร้างความรู้และสร้างแรง บันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์สอดแทรกวิธีการคิดเชิงวิเคราะห์ การคิดเชิงสร้างสรรค์ และปลูกฝังเจตคติทาง วิทยาศาสตร์ผ่านการกระบวนการเรียนรู้ที่บูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ควบคู่กับเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์รวมทั้งสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บริบทของชุมชน และประเทศ รวมทั้ง ระดับภูมิภาคและระดับโลกเพื่อให้ประชาชนมีความรู้และสามารถนำความรู้และทักษะไปประยุกต์ใช้ในการดำเนิน ชีวิต การพัฒนาอาชีพ การรักษาสิ่งแวดล้อม การบรรเทาปละป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมทั้งความสามารถใน การปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง (Disruptive Changes) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 21


3) ประสานความร่วมมือหน่วยงาน องค์กร หรือภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีแหล่งเรียนรู้อื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีรูปแบบที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของประชาชน เช่น พิพิธภัณฑ์ศูนย์เรียนรู้ แหล่งโบราณคดี วัด ศาสนาสถาน ห้องสมุด รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นต้น 2. ด้านหลักสูตร สื่อรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้การวัดและประเมินผลงานบริการ ทางวิชาการ และการประกันคุณภาพการศึกษา 2.1 ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้และกิจกรรม เพื่อส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่หลากหลาย ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะ และหลักสูตรท้องถิ่นที่สอดคล้องกับสภาพบริบทของพื้นที่และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและชุมชน 2.2 ส่งเสริมการพัฒนาสื่อแบบเรียน สื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่ออื่น ๆ ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลุ่มเป้าหมายทั่วไปและกลุ่มเป้าหมายพิเศษ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา 2.3 พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกลให้มีความทันสมัย หลากหลายช่องทางการเรียนรู้ ด้วยระบบห้องเรียนและการควบคุมการสอบรูปแบบออนไลน์ 2.4 พัฒนาระบบการประเมินเพื่อเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ เพื่อให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมี การประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้รับรู้และสามารถเข้าถึงระบบการประเมินได้ 2.5 พัฒนาระบบการวัดและประเมินผลการศึกษานอกระบบทุกหลักสูตร โดยเฉพาะหลักสูตร ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ได้มาตรฐานโดยการนำแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.6 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัย เพื่อพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ การ วัดและประเมินผล และเผยแพร่รูปแบบการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย รวมทั้งให้มีการนำไปสู่การปฏิบัติอย่างกว้างขวางและมีการพัฒนาให้เหมาะสมกับบริบทอย่างต่อเนื่อง 2.7 พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาให้ได้มาตรฐาน มีการพัฒนาระบบการประกัน คุณภาพภายในที่สอดคล้องกับบริบทและภารกิจของ กศน. มากขึ้น เพื่อพร้อมรับการประเมินคุณภาพภายนอก โดย พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสำคัญของระบบการประกันคุณภาพ และสามารถ ดำเนินการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้การประเมินภายใน ด้วยตนเอง และจัดให้มีระบบสถานศึกษาพี่เลี้ยงเข้าไปสนับสนุนอย่างใกล้ชิด สำหรับสถานศึกษาที่ยังไม่ได้เข้ารับการ ประเมินคุณภาพภายนอก ให้พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด 3. ด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา 3.1 ผลิตและพัฒนารายการวิทยุและรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษา เพื่อให้เชื่อมโยงและตอบสนอง ต่อการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษา สำหรับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ให้มีทางเลือกในการเรียนรู้ที่หลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพัฒนาตนเองให้รู้เท่า ทันสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร เช่น รายการพัฒนาอาชีพ เพื่อการมีงานทำ รายการติวเข้มเติมเต็มความรู้รายการ รายการทำกินก็ได้ ทำขายก็ดี ฯลฯ เผยแพร่ทางสถานีวิทยุ ศึกษา สถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และทางอินเทอร์เน็ต 3.2 พัฒนาการเผยแพร่การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โดยผ่านระบบ เทคโนโลยีดิจิทัล และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Youtube Facebook หรือ Application อื่น ๆ เพื่อส่งเสริมให้ ครู กศน. นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 22


3.3 พัฒนาสถานีวิทยุศึกษาและสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการ ออกอากาศให้กลุ่มเป้าหมายสามารถใช้เป็นช่องทางการเรียนรู้ที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตโดยขยาย เครือข่ายการรับฟังให้สามารถรับฟังได้ทุกที่ ทุกเวลา ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศและเพิ่มช่องทางให้สามารถรับชม รายการโทรทัศน์ได้ทั้งระบบ Ku - Band C - Band Digital TV และทางอินเทอร์เน็ต พร้อมที่จะรองรับการพัฒนา เป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พัฒนาระบบการให้บริการสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เพื่อให้ได้หลายช่องทางทั้งทาง อินเทอร์เน็ต และรูปแบบอื่น ๆ อาทิ Application บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ Tablet รวมทั้งสื่อ Offline ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเลือกใช้บริการเพื่อเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ได้ตาม ความต้องการ 3.5 สำรวจ วิจัย ติดตามประเมินผลด้านการใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำผลมาใช้ในการพัฒนางานให้มีความถูกต้อง ทันสมัยและสามารถส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ของประชาชนได้อย่างแท้จริง 4. ด้านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือโครงการอันเกี่ยวเนื่องจากราชวงศ์ 4.1 ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหรือโครงการ อันเกี่ยวเนื่องจากราชวงศ์ 4.2 จัดทำฐานข้อมูลโครงการและกิจกรรมของ กศน.ที่สนองงานโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริหรือโครงการอันเกี่ยวเนื่องจากราชวงศ์เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน การติดตามประเมินผลและการ พัฒนางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.3 ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการดำเนินงาน เพื่อสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 4.4 พัฒนาศูนย์ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” เพื่อให้มีความพร้อมในการจัด การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตามบทบาทหน้าที่ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.5 จัดและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนบนพื้นที่สูง ถิ่นทุรกันดาร และพื้นที่ชายขอบ 5. ด้านการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและพื้นที่บริเวณ ชายแดน 5.1 พัฒนาการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 1) จัดและพัฒนาหลักสูตร และกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ที่ตอบสนองปัญหา และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายรวมทั้งอัตลักษณ์และความเป็นพหุวัฒนธรรมของพื้นที่ 2) พัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องเพื่อให้ ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ได้จริง 3) ให้หน่วยงานและสถานศึกษาจัดให้มีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยแก่บุคลากรและ นักศึกษา กศน.ตลอดจนผู้มาใช้บริการอย่างทั่วถึง 5.2 พัฒนาการจัดการศึกษาแบบบูรณาการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 1) ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำแผนการศึกษาตามยุทธศาสตร์ และบริบทของแต่ละจังหวัดในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 2) จัดทำหลักสูตรการศึกษาตามบริบทของพื้นที่ โดยเน้นสาขาที่เป็นความต้องการของตลาด ให้เกิดการพัฒนาอาชีพได้ตรงตามความต้องการของพื้นที่ 23


5.3 จัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน (ศฝช.) 1) พัฒนาศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน เพื่อให้เป็นศูนย์ฝึกและสาธิตการ ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบการจัดกิจกรรมตามแนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง สำหรับประชาชนตามแนวชายแดนด้วยวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลาย 2) มุ่งจัดและพัฒนาการศึกษาอาชีพโดยใช้วิธีการหลากหลายใช้รูปแบบเชิงรุก เพื่อการเข้าถึง กลุ่มเป้าหมาย เช่น การจัดมหกรรมอาชีพ การประสานความร่มมือกับเครือข่าย การจัดอบรมแกนนำด้านอาชีพที่ เน้นเรื่องเกษตรธรรมชาติที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชนชายแดน ให้แก่ประชาชนตามแนวชายแดน 6. ด้านบุคลากรระบบการบริหารจัดการ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน 6.1 การพัฒนาบุคลากร 1) พัฒนาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทให้มีสมรรถนะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งก่อนและระหว่างการ ดำรงตำแหน่งเพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการปฏิบัติงานให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานตำแหน่ง ให้ตรงกับสายงานความชำนาญ และความต้องการของบุคลากรสามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการ การดำเนินงานของหน่วยงานและสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งส่งเสริมให้ข้าราชการในสังกัดพัฒนา ตนเองเพื่อเลื่อนตำแหน่งหรือเลื่อนวิทยฐานะโดยเน้นการประเมินวิทยฐานะเชิงประจักษ์ 2) พัฒนาศึกษานิเทศก์ กศน. ให้มีสมรรถนะที่จำเป็นครบถ้วน มีความเป็นมืออาชีพ สามารถ ปฏิบัติการนิเทศได้อย่างมีศักยภาพ เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยในสถานศึกษา 3) พัฒนาหัวหน้า กศน.ตำบล/แขวงให้มีสมรรถนะสูงขึ้น เพื่อการบริหารจัดการ กศน.ตำบล/แขวง และการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการเป็นนักจัดการความรู้และ ผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง 4) พัฒนาครู กศน. และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาให้สามารถจัดรูปแบบ การเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพโดยส่งเสริมให้มีความรู้ความสามารถในการจัดทำแผนการสอน การจัดกระบวนการ เรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการวิจัยเบื้องต้น 5) พัฒนาศักยภาพบุคลากร ที่รับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรียนรู้ ให้มีความรู้ ความสามารถและมีความเป็นมืออาชีพในการจัดบริการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชน 6) ส่งเสริมให้คณะกรรมการ กศน. ทุกระดับ และคณะกรรมการสถานศึกษา มีส่วนร่วม ในการบริหารการดำเนินงานตามบทบาทภารกิจของ กศน.อย่างมีประสิทธิภาพ 7) พัฒนาอาสาสมัคร กศน. ให้สามารถทำหน้าที่สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ 8) พัฒนาสมรรถนะและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรรวมทั้งภาคีเครือข่ายทั้งใน และต่างประเทศในทุกระดับ โดยจัดให้มีกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างสัมพันธภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ร่วมกันในรูปแบบที่หลากหลายอย่างต่อเนื่องอาทิการแข่งขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาประสิทธิภาพใน การทำงาน 6.2 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอัตรากำลัง 1) จัดทำแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและดำเนินการปรับปรึงสถานที่และวัสดุอุปกรณ์ ให้มี ความพร้อมในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ 24


2) สรรหา บรรจุ แต่งตั้ง และบริหารอัตรากำลังที่มีอยู่ทั้งในส่วนที่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ให้เป็นไปตามโครงสร้างการบริหารและกรอบอัตรากำลัง รวมทั้งรองรับกับบทบาทภารกิจตามที่กำหนด ไว้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการปฏิบัติงาน 3) แสวงหาความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการระดมทรัพยากรเพื่อนำมาใช้ในการ ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อมสำหรับดำเนินกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับประชาชน 6.3 การพัฒนาระบบบริหารจัดการ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อมโยงกันทั่วประเทศ อย่างเป็นระบบเพื่อให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหาร การวางแผน การปฏิบัติงาน การติดตามประเมินผล รวมทั้งจัดบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ 2) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกำกับ ควบคุม และเร่งรัด การเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 3) พัฒนาระบบฐานข้อมูลรวมของนักศึกษา กศน. ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และ เชื่อมโยงกันทั่วประเทศ สามารถสืบค้นและสอบทานได้ทันความต้องการเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษาให้กับ ผู้เรียนและการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ 4) ส่งเสริมให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการศึกษาวิจัยเพื่อ สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และชุมชนพร้อมทั้งพัฒนาขีดความสามารถเชิงการแข่งขันของหน่วยงานและสถานศึกษา 5) สร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อสร้างความเข้าใจ และให้เกิดความ ร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนุน และจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับประชาชนอย่างมีคุณภาพ 6) ส่งเสริมการใช้ระบบสำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ (e -office) ในการบริหารจัดการ เช่น ระบบการ ลา ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ระบบการขอใช้รถราชการ ระบบการขอใช้ห้องประชุม เป็นต้น 7) พัฒนาและปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริต และประพฤติมิชอบ บริหารจัดการบนข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ มุ่งผลสัมฤทธิ์มีความโปร่งใส 6.4 การกำกับ นิเทศติดตามประเมิน และรายงานผล 1) สร้างกลไกการกำกับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการดำเนินงานการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้เชื่อมโยงกับหน่วยงาน สถานศึกษา และภาคีเครือข่ายทั้งระบบ 2) ให้หน่วยงานและสถานศึกษาที่เกี่ยวข้องทุกระดับ พัฒนาระบบกลไกการกำกับ ติดตามและ รายงานผลการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ ให้สามารถตอบสนองการดำเนินงานตามนโยบายในแต่ละเรื่องได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 3) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสื่ออื่น ๆ ที่เหมาะสม เพื่อการกำกับ นิเทศ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลอย่างมีประสิทธิภาพ 4) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปี ของหน่วยงาน สถานศึกษา เพื่อการรายงานผลตามตัวชี้วัดในคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปี ของสำนักงาน กศน. ให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่กำหนด 25


5) ให้มีการเชื่อมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กร ตั้งแต่ ส่วนกลาง ภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด อำเภอ/เขต และตำบล/แขวง เพื่อความเป็นเอกภาพในการใช้ข้อมูลและการ พัฒนางานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน โดยให้ประชาชน ชุมชนร่วมกัน รับผิดชอบและเห็นถึงความสำคัญ ในการฟื้นฟูพัฒนาสังคมและชุมชนของตนเอง เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเกิดการ เรียนรู้ บูรณาการความรู้ ประสบการณ์ และทักษะอาชีพ เข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคมและชุมชน โดยรวม ทำให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ นำไปสู่สังคมที่เข้มแข็ง มีความเอื้ออาทรต่อกัน และพึ่งพาตนเองได้อย่าง ยั่งยืน กิจกรรมพัฒนาสังคมและชุมชนมี 5 ด้าน คือ 1. ด้านเศรษฐกิจ - กิจกรรมเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเอง 2. ด้านการเมือง - กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย 3. ด้านสังคม - กิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ 4. ด้านสิ่งแวดล้อม - กิจกรรมรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม 5. ด้านศิลปวัฒนธรรม - กิจกรรมเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน เป็นการจัดการศึกษาที่บูรณาการความรู้ และทักษะจาก การศึกษาที่ผู้เรียนมีอยู่ หรือได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษานอกโรงเรียน โดยมีรูปแบบการเรียนที่ หลากหลาย ให้ชุมชนเป็นฐานในการพัฒนาการเรียนรู้ และทุนทางสังคมเป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนรู้เพื่อ พัฒนาสังคมและชุมชนให้มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และประชาชนอยู่ ร่วมกันอย่างมีความสุขตามวิถีทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีมีการ พัฒนาที่ยั่งยืน เอกสาร/งานที่เกี่ยวข้อง ประวัติศาสตร์ชาติไทยและบุญคุณพระมหากษัตริย์ 26


รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ (คสช.) ได้ให้ความสำคัญ และส่งเสริม ปลูกฝังความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อเผยให้เห็นถึง กลไกและความคิดทางประวัติศาสตร์ ที่ทั้งเปิดเผยและแฝงอยู่ โดยมีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องการให้คนในชาติ เกิด ความรักสามัคคี ความปรองดองในสังคม ตลอดจนมีความสำนึกและจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นับแต่มี รัฐบาล คสช. การเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย ถูกนำเสนออย่างเข้มข้น ผ่านระบบการศึกษาทั้งภาคบังคับทุก ระดับชั้น และการศึกษานอกระบบ โดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดำเนินการปรับปรุงวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ซึ่งอยู่ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ด้วยการแยกวิชาการทั้งสองออกจากกัน และพิจารณาเพิ่มเวลาเรียนวิชา ประวัติศาสตร์ให้มากขึ้น โดยมุ่งหวังให้เยาวชนเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของบ้านเมือง เกิดสำนึกความรักชาติ และ เห็นความสำคัญของเอกลักษณ์ไทย นอกจากการปรับปรุงหลักสูตรเพิ่มเติมเนื้อหาในระบบภาคบังคับแล้ว รัฐบาลยัง จัดทำโครงการอบรม "ประวัติศาสตร์ชาติไทยและพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย" โดยมีกอง อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ร่วมเป็นวิทยากรอบรม ดำเนินงานด้วยงบประมาณ ของ ศธ. ตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา โครงการนี้เข้าถึงทุกหน่วยงานในสังกัด ศธ. มีผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียน นักศึกษา ทั้งจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) เข้ารับการอบรมรุ่นแล้วรุ่นเล่า ด้วยงบประมาณก้อนโตพอสมควร สาระสำคัญ ของการอบรมตามที่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล อดีต รมช.ศึกษาธิการ ได้เคยบรรยายพิเศษเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อปลูกจิตสำนึกความรักชาติ ศรัทธายึดมั่นในศาสนา เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้แก่ผู้บริหาร สำนักงาน กศน. ส่วนกลาง, สำนักงาน กศน.จังหวัด, และผู้บริหารระดับอำเภอในทุกจังหวัดทั่วประเทศที่เข้ารับการ อบรม ตอนหนึ่งว่า "...ศธ. มุ่งดำเนินงานเพื่อจัดการศึกษาเรียนรู้แก่ผู้เรียน และประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งการจัดโครงการอบรมครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสร้างความเป็นพลเมือง หน้าที่พลเมือง ที่เน้นความรับผิดชอบ เน้นความรู้รักสามัคคี รู้ความเป็นมาเป็นไปรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่จะช่วยสร้างความรักชาติ ศาสนา และบูรพ มหากษัตริย์ที่ได้สละเลือดเนื้อเพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทยให้เราได้อยู่มาจนทุกวันนี้ ตลอดจนพระมหากรุณาธิคุณต่อ ปวงชนชาวไทย ให้ได้อยู่ดีมีความสุข ดังนั้นจึงขอให้ทุกคนช่วยกันขยายผลโครงการอบรมนี้ในวงกว้างมากขึ้น เพื่อเผยแพร่ประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ถูกต้องไปสู่เด็กและเยาวชน ได้รับรู้ที่มาที่ไป ได้รับรู้ถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ต่อแผ่นดินไทย สามารถเชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพื่อให้เกิดทัศนคติที่ถูกต้อง เกิดความรัก หวงแหนความเป็นชาติ และ สามารถดำรงรักษาความเป็นชาติไทยไว้ในอนาคต โดยเฉพาะในส่วนของประชาชน นอกจากจะต้องดำเนินการให้ ประชาชนทุกช่วงวัย ได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และมีศักยภาพ อยู่ในสังคมแห่งการเรียนรู้ ได้อย่างมีความสุขแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย พระราชกรณียกิจนานัปการ ของพระมหากษัตริย์ไทยเพื่อให้พสกนิกรอยู่เย็นเป็นสุข" ม.ล.ปนัดดา กล่าว สำหรับสำนักงาน กศน.ถือเป็น หน่วยงานสำคัญที่ "เข้าถึง เข้าใจ และพัฒนา" ประชาชนในระดับฐานรากของประเทศมาช้านาน โดยนายกฤตชัย อรุณรัตน์ เลขาธิการ กศน. กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน พ.ค.2560 เป็นต้นมา มีผู้บริหารสำนักงาน กศน.จากส่วนกลาง สำนักงาน กศน.จังหวัด สถานศึกษาที่ขึ้นตรง และผู้บริหารระดับอำเภอบางส่วนในทุกจังหวัดทั่วประเทศ จำนวน กว่า 550 คนเข้าอบรมในโครงการนี้ และขณะนี้ได้จะขยายผลการอบรมในส่วนภูมิภาค ในกลุ่มผู้บริหาร กศน.อำเภอ ที่เหลือ และครู กศน.ตำบลในพื้นที่ โดยจัดเป็นกลุ่ม/ศูนย์จังหวัด 17 ครั้ง รวมทั้งหมด 10,615 คน โดยเฉพาะครู 27


กศน.ตำบล ที่จะเป็นแกนนำขยายผล สู่ผู้เรียน กศน. และประชาชนทั่วไป ในการสร้างทัศนคติ และความเข้าใจเรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์ และประวัติศาสตร์ชาติไทย ได้อย่างถูกต้อง "ขณะนี้สำนักงาน กศน.ได้รับความร่วมมือจาก กอ.รมน. สนับสนุนวิทยากรอบรม คือนายหมวดเอก ธารณา คชเสนี และว่าที่ ร.ต.น้ำเพ็ชร คชเสนี สัตยารักษ์ เพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ให้มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง โดยมุ่งหวังผู้เข้าอบรมจะสามารถนำความรู้ ความ เข้าใจที่ถูกต้อง ไปดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน สำหรับผู้เรียนและประชาชนทั่วไป ให้มีความรู้ความ เข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป" เลขาธิการ กศน. กล่าวทิ้งท้าย โครงการประวัติศาสตร์ชาติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย เป็นโครงการที่ดีตามความตั้งใจ ของรัฐบาล คสช. ที่จะปลุกพลังความสามัคคี สร้างความปรองดอง ความรักชาติผ่านประวัติศาสตร์ ซึ่งตลอด 2-3ปีที่ ผ่านมานี้เชื่อว่าองค์ความรู้เหล่านั้นได้แทรกซึมถึงก้นบึ้งหัวใจคนไทย เด็กและเยาวชนเลือดใหม่จะเกิดภาคภูมิใน ความเป็นไทย 29


บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ จัดทำโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มีขั้นตอนดังนี้ 1. ประชุมบุคลากรกรรมการสถานศึกษาและตัวแทนประชาชนตำบลพลูตาหลวง 2. จัดตั้งคณะทำงาน 3. ประสานงานกับหน่วยงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง 4. ดำเนินงานตามแผน 5. วัดผล/ประเมินผล/สรุปผลและรายงาน ประชุมบุคลากรกรรมการสถานศึกษาและตัวแทนประชาชนตำบลพลูตาหลวง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ ได้วางแผนประชุมกับบุคลากรกรรมการ สถานศึกษาและตัวแทนประชาชนตำบลพลูตาหลวง เพื่อหาแนวทางในการดำเนินงานและกำหนดวัตถุประสงค์ ร่วมกัน จัดตั้งคณะทำงาน จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานโครงการ เพื่อมอบหมอบหมายหน้าที่ในการทำงานให้ชัดเจน เช่น 1) คณะกรรมการที่ปรึกษา/อำนวยการ มีหน้าที่อำนวยความสะดวก และให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหาที่ เกิดขึ้น 2) คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์รับสมัครนักศึกษาเข้าร่วมโครงการ 3) คณะกรรมการฝ่ายรับลงทะเบียนและประเมินผลหน้าที่จัดทำหลักฐานการลงทะเบียนผู้เข้าร่วม กิจกรรมและรวบรวมการประเมินผล และรายงานผลการดำเนินการ ประสานงานกับหน่วยงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ประสานเครือข่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น ประสานเรื่องสถานที่ใช้อบรม ประสานงานกับคณะกรรมการ สถานศึกษา ประสานงานกับทีมวิทยากร และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม ดำเนินการตามแผนงานโครงการ โครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ในวันที่ 11 มีนาคม 2564 ณ ศาลา ประชาคมหมู่ที่ 7 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี วัดผล/ประเมิน/สรุปผลและรายงาน จากการดำเนินงานโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ในวันที่ 11 มีนาคม 2564ณ ศาลาประชาคมหมู่ที่ 7 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีเป็นประชาชนตำบล พลูตาหลวง จำนวน 15คน


การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ จะได้นำแนวทางไปใช้ข้อมูลพิจารณา หลักสูตร เนื้อหาตลอดจนเทคนิควิธีการจัดการกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้เข้า อบรมได้รับประโยชน์นำไปใช้ได้จริงตามศักยภาพของแต่ละคน ให้มีความเข้าใจและมีคุณภาพต่อไป ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนและได้รวบรวมข้อมูล โดยกำหนดค่าลำดับความสำคัญของการประเมินผลออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้ มากที่สุด ให้คะแนน 5 มาก ให้คะแนน 4 ปานกลาง ให้คะแนน 3 น้อย ให้คะแนน 2 น้อยที่สุด ให้คะแนน 1 ในการแปลผล ผู้จัดทำได้ใช้เกณฑ์การพิจารณาจากคะแนนเฉลี่ยตามแนวคิดของ บุญชม ศรีสะอาด และบุญส่ง นิวแก้ว (2535, หน้า 22-25) 4.51-5.00 หมายความว่า มากที่สุด 3.51-4.50 หมายความว่า มาก 2.51-3.50 หมายความว่า ปานกลาง 1.51-2.50 หมายความว่า น้อย 1.00-1.50 หมายความว่า ต้องปรับปรุง ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องกรอกข้อมูลตามแบบสอบถาม เพื่อนำไปใช้ในการประเมินผลของการจัดกิจกรรม ดังกล่าว และจะได้นำไปเป็นข้อมูล ปรับปรุง และพัฒนา ตลอดจนใช้ในการจัดทำแผนการดำเนินการในปีต่อไป 31


บทที่ 4 ผลการดำเนินงานและการวิเคราะห์ข้อมูล ในการจัดกิจกรรมโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ในวันที่ 11 มีนาคม 2564 ณ ศาลาประชาคมหมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีซึ่งได้สรุปผลจากแบบสอบถามและนำเสนอผลการ วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด จำนวน 15 คน และซึ่งได้สรุปผลจากแบบสอบถามและนำเสนอผล การวิเคราะห์ข้อมูล จากผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ไว้ดังนี้ ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวผู้ตอบแบบถามของผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ตอบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามเพศ ระดับการศึกษา และอายุ ผู้จัดทำได้ นำเสนอจำแนกตามข้อมูลดังกล่าว ดังปรากฏตามตารางที่ 1 ดังต่อไปนี้ ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามเพศ เพศ ความคิดเห็น ชาย หญิง จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ โครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 1 7 14 93 รจากตารางที่ 1 แสดงผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นชาย 1 คน คิดเป็นร้อยละ 7 เป็นหญิง 14 คน คิดเป็นร้อยละ 93 ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอายุ อายุ ความคิดเห็น ต่ำกว่า 15 ปี 16-39 ปี 40-59 ปี 60 ขึ้นไป จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ โครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ - - - - 7 46 8 54 จากตารางที่ 2 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ช่วงอายุ 40-59 ปีมีจำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 46 ช่วงอายุ60 ขึ้นไป มีจำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 54


ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอาชีพ ประเภท ความคิดเห็น รับจ้าง ค้าขาย รับราชการ เกษตรกรรม อื่นๆ(ว่างงาน) จำนวน ร้อย ละ จำนวน ร้อย ละ จำนวน ร้อย ละ จำนวน ร้อย ละ จำนวน ร้อย ละ โครงการเสริมสร้าง อุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 9 60 - - - - - - 6 40 จากตารางที่ 3 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์รับจ้าง มากที่สุด จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 60 รองลงมาคือ อื่นๆ(ว่างงาน) จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 40 ตอนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 15 คน จากแบบสอบถามทั้งหมดที่มีต่อโครงการเสริมสร้าง อุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ณ ศาลาประชาคมหมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รายการที่ประเมิน N = 15 µ อันดับ ที่ ระดับผล การประเมิน ด้านหลักสูตร 1. กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ของหลักสูตร 4.40 0.60 10 มาก 2. เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของผู้รับบริการ 4.50 0.61 2 มาก 3. การจัดกิจกรรมทำให้ผู้รับบริการสามารถ คิดเป็นทำเป็นแก้ปัญหาเป็น 4.45 0.69 4 มาก 4. ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิด เห็นต่อการจัดทำหลักสูตร 4.35 0.75 12 มาก 5. ผู้รับบริการสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ 4.55 0.69 1 มากที่สุด 6. สื่อ/เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม 4.45 0.51 4 มาก ด้านวิทยากร 7. วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการจัด กิจกรรม 4.50 0.5 2 มาก 8. เทคนิค/กระบวนในการจัดกิจกรรมของวิทยากร 4.40 0.51 10 มาก 9. วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม 4.45 0.51 4 มาก 10. บุคลิกภาพของวิทยากร 4.45 0.60 4 มาก ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ 11. สถานที่ในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 4.35 0.81 12 มาก 12. ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 4.43 0.66 9 มาก 13. ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับบริการต่อการเข้าร่วมกิจกรรม 4.45 0.51 4 มาก ค่าเฉลี่ย 4.43 0.61 ดี ทททท 33


ท จากตารางที่ 4 แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วม โครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พบว่าอยู่ในระดับมาก เมื่อวิเคราะห์เป็นรายข้อพบว่า ผู้รับบริการสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ (µ = 4.55) เป็นอันดับที่ 1 รองลงมาคือเนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของผู้รับบริการ , วิทยากรมี ความรู้ความสามารถในการจัดกิจกรรม (µ =4.50) การจัดกิจกรรมทำให้ผู้รับบริการสามารถ คิดเป็นทำเป็น แก้ปัญหาเป็น,สื่อ/เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม, วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสม กับกิจกรรม ,บุคลิกภาพของวิทยากร , ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับบริการต่อการเข้าร่วม (µ =4.45) ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม (µ =4.43) กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ,เทคนิค/ กระบวนในการจัดกิจกรรมของวิทยากร (µ =4.40) ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิด เห็นต่อการจัดทำ หลักสูตร ,สถานที่ในการจัดกิจกรรมเหมาะสม (µ =4.35) ตามลำดับ ตารางที่ 5 ผลการประเมินผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เนื้อหาผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการเสริมสร้าง อุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ N = 15 µ อันดับ ที่ ระดับผล การประเมิน 1. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม 4.45 0.51 3 มาก 2. ความพึงพอใจในการเข้าร่วมโครงการ 4.50 0.61 2 มาก 3. การคิดอย่างมีเหตุผล 4.55 0.69 1 มาก 4. การเข้าใจ และรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่น 4.40 0.75 4 มาก 5.การรู้จัก และเข้าใจตนเอง 4.35 0.75 5 มาก ค่าเฉลี่ย 4.45 0.66 มาก รรรรรรรร จากตารางที่ 5 พบว่า โดยเฉลี่ยแล้วผู้เข้าร่วมผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ในระดับ มาก เมื่อวิเคราะห์เป็นรายพบว่า การคิดอย่างมีเหตุผล (µ =4.55) รองลงมาคือ ความพึงพอใจในการเข้าร่วมโครงการ (µ =4.50) การมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม (µ= 4.45) การเข้าใจและรับฟัง ความคิดเห็นจากผู้อื่น (µ = 4.40) การรู้จักและเข้าใจตนเอง (µ = 4.35) ตามลำดับ 34


บทที่ 5 สรุปผลการดำเนินการ อภิปราย และข้อเสนอแนะ ผลที่ปรากฏ การจัดทำโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในวันที่ 11 มีนาคม 2564 ณ ศาลาประชาคมหมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีเป็นประชาชนตำบลพลูตาหลวง จำนวน 15 คน ตลอด ระยะเวลาที่รับการอบรม โดยมีการซักถามพูดคุยตอบโต้ ในวิทยากรอย่างสนใจ ในด้านต่างๆ คือ ด้านหลักสูตร - มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ผู้เรียนมีความพึงพอใจ - เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของผู้เข้าอบรม ด้านวิทยากร - วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างดี - เทคนิค/กระบวนการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของวิทยากรเหมาะสม - วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม - บุคลิกภาพของวิทยากร ดีเหมาะสม ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ - สถานที่ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะ - ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เหมาะ - ผู้เข้ารับการอบรมมีความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมกิจกรรม สรุปผลการดำเนินงาน ผู้เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 4.45 อภิปรายผล จากกิจกรรมโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ 1.เข้าร่วมโครงการมีความคิดเห็นต่อโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ระดับดีมาก 2.ที่ร่วมโครงการมีความเป็นระเบียบและพร้อมเพียงกันในการร่วมกิจกรรม 3.ผู้ที่ร่วมโครงการได้รับประสบการณ์ตรงจากวิทยากร 4.ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดต่อผู้อื่น 5.ผู้เข้าร่วมโครงการมีความสุขและสนุกกับการร่วมกิจกรรม ข้อเสนอแนะ ด้านแบบสำรวจและวัดความพึงพอใจของผู้เข้ารับการอบรม - ควรจะมีการจัดโครงการศึกษาดูงานในด้านอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง - เพิ่มเวลาการอบรม


บรรณานุกรม กรมการศึกษานอกโรงเรียน. (ม.ป.ป. : 9), (2546:76). บุญชม ศรีสะอาด และ บุญส่ง นิวแก้ว. (2515 หน้า 22 – 25). บรรพต สุวรรณประเสริฐ. (2544:12). สำนักงานบริหารการศึกษานอกโรงเรียน. (2549:2), (2549:5). สุทธิดา หงส์บุญเสริม, 2550 : 42 วิชัย วงษ์ใหญ่. (2525:2-3), (2525:10). http://www.thaikids.org/brain/brain4.htm http://www.thaikids.org/brain/brain1.htm http://th.wikipedia.org http://www.tanti.ac.th/Com-tranning/Online_Word/page1.html http://www.toywars.in.th/webboard/content.aspx?nForumID=1&nTopicID=11847 http://202.44.34.144/kmit/knowledge_detail.php?IDKM=250 https://sirinipha1.wordpress.com/


ภาคผนวก


แบบประเมินผู้เรียน / โครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วนที่1 คำชี้แจง ใส่เครื่องหมาย/ลงในช่องที่ตรงกับข้อมูลของท่านเพียงช่องเดียว เพศ ชาย หญิง อายุ 14-39 ปี 40-59 ปี 60 ปีขึ้นไป อาชีพ รับจ้าง ค้าขาย เกษตรกรรม รับราชการ อื่นๆ ส่วนที่ 2 ด้านความพึงพอใจของผู้เรียน/ผู้รับบริการ (ใส่เครื่องหมาย/ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่านเพียง ช่องเดียว ข้อที่ รายการ ระดับการประเมิน มากที่สุด มาก ปาน กลาง น้อย น้อยที่สุด 1 กิจกรรมที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร 2 เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการ 3 การจัดกิจกรรมทำให้สามารถคิดเป็นทำเป็น แก้ปัญหาได้ 4 ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น 5 ผู้รับบริการสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 6 สื่อ/เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม 7 วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการจัดกิจกรรม 8 เทคนิค/กระบวนการในการจัดกิจกรรมของวิทยากร 9 วิทยากรมีการใช้สื่อสอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม 10 บุคลิกภาพของวิทยากร 11 สถานที่ในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 12 ระยะเวลาในการจัดเหมาะสม 13 ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับการอบรม


ใบสมัครโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ณ ศาลาประชาคมหมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี วันที่ 11 มีนาคม 2564 สถานศึกษา..ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ ข้อมูลส่วนตัว (กรอกข้อมูลด้วยตัวบรรจง) ชื่อ-นามสกุล (นาย/ นาง/ นางสาว)................................................................................................ เลขประจำตัวประชาชน........................................เกิดวันที่............/................../...........อายุ.............. ปี สัญชาติ................. ศาสนา....................... อาชีพ........................รายได้เฉลี่ยต่อเดือน....................บาท ที่อยู่ปัจจุบัน................................. หมู่ที่................................... หมู่บ้าน................................................ ตำบล........................................ อำเภอ........................................ จังหวัด............................................. รหัสไปรษณีย์............................................... โทรศัพท์............................................................................ ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ


รายงานผลการจัดกิจกรรม โครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จำนวน 5 ชั่วโมง วันที่ 11 มีนาคม 2564 ณ สาลาประชาคม หมู่ที่ 7 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 15 คน


คณะผู้จัดทำ ที่ปรึกษา 1. นางสุรัสวดี เลี้ยงสุพงศ์ ผอ.กศน.อำเภอสัตหีบ 2. นางสุพัด นำเจริญลาภ ครูชำนาญการ 3. นายทัพพเทพ อรเนตร ครูผู้ช่วย คณะทำงาน 1.นางสุภาภรณ์ นวมมา หัวหน้า กศน. ตำบลพลูตาหลวง 2.นางสาวเกษนีย์ เดชรักษา ครู กศน.ตำบลพลูตาหลวง ผู้รวบรวม เรียบเรียง และจัดพิมพ์ 1.นางสุภาภรณ์ นวมมา หัวหน้า กศน. ตำบลพลูตาหลวง 2.นางสาวเกษนีย์ เดชรักษา ครู กศน.ตำบลพลูตาหลวง


Click to View FlipBook Version