นางสภุ าภรณ์ นวมมา
ครู กศน.ตาบล
ก
คานา
กศน.ตาํ บลพลตู าหลวง มคี วามประสงค์ขอจัดโครงการอบรมหลกั สตู รการเข้าใจดจิ ทิ ลั (Digital Literacy
Curriculum) โดยมวี ัตถุประสงค์เพื่อรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล คดิ วิเคราะห์ แยกแยะ ส่อื ดิจิทลั เพอื่ การบรโิ ภคได้อยา่ ง
เหมาะสมรวมถงึ การประยกุ ต์ใชด้ ิจทิ ลั เพ่อื การใชง้ านอยา่ งเหมาะสม สามารถนําเคร่ืองมือดจิ ิทัลไปใช้ในชวี ติ ประจําวนั
ได้ ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ สาํ นักงาน กศน. ในฐานะเป็นหน่วยงานท่ีทําหน้าที่สง่ เสรมิ สนับสนนุ การจดั การศึกษานอก
ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ซ่ึงเปน็ ภาพรวมของการศกึ ษาตลอดชวี ติ จึงเป็นหน่วยทท่ี ่ีได้รับมอบหมายให้
ดําเนินงานในด้านของการสร้างเครอื ขา่ ยศนู ย์ดิจิทลั ชมุ ชน เพ่ือสร้างความพร้อมและความเขม้ แข็งของชุมชน ในการ
รองรบั การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีและสังคมดิจิทัล
ในการนี้ เพ่ือเปน็ การส่งเสรมิ และดาํ เนนิ งานในเรือ่ งการสร้างเครอื ข่ายศูนย์ดิจิทัล และสรา้ งความพร้อมของ
ชมุ ชนให้บรรลตุ ามนโยบายและวตั ถปุ ระสงค์ กศน.ตาํ บลพลูตาหลวง จงึ เห็นควรจัดโครงการอบรมหลักสูตรการเข้าใจ
ดิจิทัล (Digital Literacy Curriculum) เพ่อื ให้ความรู้ และการใช้เคร่อื งมอื ดจิ ิทลั ตา่ งๆ สามารถนาํ ไปใช้ใน
ชีวติ ประจาํ วนั ได้
กศน.ตําบลพลูตาหลวง
มนี าคม 2563
ข
บทสรปุ ผู้บรหิ าร
โครงการอบรมหลักสตู รการเข้าใจดจิ ิทลั (Digital Literacy Curriculum) นั้นมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พ่อื รู้เทา่ ทนั สื่อดจิ ทิ ัล
คิด วเิ คราะห์ แยกแยะ สือ่ ดจิ ิทลั เพ่อื การบรโิ ภคได้อย่างเหมาะสมรวมถงึ การประยกุ ต์ใช้ดจิ ทิ ลั เพ่อื การใชง้ านอย่าง
เหมาะสม สามารถนาํ เครื่องมือดิจิทัลไปใชใ้ นชวี ิตประจาํ วันได้ ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ซ่งึ โครงการไดจ้ ดั ในวันท่ี 26 และ
27 มนี าคม 2563 ณ กศน.ตาํ บลพลตู าหลวง ตาํ บลพลตู าหลวง อําเภอสตั หีบ จังหวัดชลบุรี มีผเู้ ขา้ ร่วมอบรมจาํ นวน
15 คน มี นางสุภาภรณ์ นวมมา และนางสาวเกษนยี ์ เดชรกั ษา เปน็ วิทยากร ให้ความรู้
ผลการดําเนินงานและการวเิ คราะหข์ ้อมลู กศน. ตําบลพลูตาหลวง ผลปรากฏอยู่ในระดับ มาก เน้ือหาของ
หลกั สูตรตรงกบั ความตอ้ งการของผู้รบั บรกิ าร เปน็ อันดับที่ 1 รองลงมาคือ ผรู้ บั บริการมีส่วนรว่ มในการแสดงความ
คิดเห็นต่อการจัดทําหลักสูตร, ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับบริการตอ่ การเข้าร่วมกิจกรรม, วิทยากรมคี วามรู้
ความสามารถในการจัด กจิ กรรม ,วิทยากรมีการใชส้ ื่อทสี่ อดคล้องและเหมาะสมกับกจิ กรรม, ผู้รบั บริการสามารถนํา
ความรไู้ ปปรับใชใ้ นชีวติ ประจําวันได้ และต่อมา กจิ กรรมท่ีจดั สอดคล้องกบั วัตถุประสงค์ของหลกั สตู ร,การจดั กจิ กรรม
ทาํ ให้ผ้รู ับบริการสามารถคิดเป็นทําเปน็ แกป้ ญหหาเปน็ , ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสมเทคนคิ /กระบวนในการจดั
กจิ กรรมของวิทยากร, บคุ ลกิ ภาพของวิทยากร, สถานท่ีในการจดั กิจกรรมเหมาะสมสอ่ื /เอกสารประกอบการจัด
กิจกรรมมีความเหมาะสม ตามลําดับทท
ททท ซ่ึงสอดคล้องและเกี่ยวข้องกบั งานวจิ ยั ของ กานต์ชนติ ตะ๊ นยั (2551) วจิ ยั เร่ือง สือ่ เทคโนโลยใี น
ชีวติ ประจาํ วนั ตําบลพลตู าหลวง อาํ เภอสตั หบี จงั หวัดชลบุรี มีวัตถปุ ระสงคเ์ พื่อรเู้ ทา่ ทันสอ่ื ดิจทิ ลั คดิ วิเคราะห์
แยกแยะ สือ่ ดิจทิ ัลเพอื่ การบริโภคได้อยา่ งเหมาะสมรวมถงึ การประยกุ ต์ใช้ดิจทิ ลั เพื่อการใช้งานอยา่ งเหมาะสม สามารถ
นําเครอื่ งมือดจิ ิทลั ไปใชใ้ นชีวิตประจาํ วันได้ ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ตาํ บลพลตู าหลวง จงั หวัดชลบุรี ปีการศกึ ษา
2563 เกบ็ ข้อมลู จากประชากรจาํ นวน 15 คน มเี นือ้ หาในการศึกษา 4 ดา้ น คือ ดา้ นการวางแผน การลงมือ
ปฏบิ ตั ิ การตรวจสอบผลการปฏบิ ัตงิ านและการแก้ไข ปรับปรงุ และศึกษาผลการน้อมนาํ แนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียงสู่
การปฏบิ ตั ิในโรงเรยี น โดยเครอ่ื งมือทใี่ ช้เปน็ แบบสอบถามแบบมาตราสว่ นประมาณค่า และแบบปลายเปดิ วิเคราะห์
ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน
ผลการศกึ ษา พบวา่ การน้อมนําแนวคิดโครงการอบรมหลักสูตรการเขา้ ใจดิจิทัล (Digital Literacy
Curriculum) ตาํ บลพลตู าหลวง จงั หวดั ชลบุรี ทง้ั 4 ด้าน พบวา่ ด้านการวางแผน การลงมอื ปฏบิ ัตกิ ารตรวจสอบผล
การปฏิบัติงาน และการแกไ้ ข ปรับปรุง ในภาพรวมอยูใ่ นระดบั ปานกลาง
สารบัห
คาํ นาํ .................................................................................................................................................................... ก
บทสรุปผ้บู ริหาร.................................................................................................................................................... ข
บทที่ 1 บทนาํ ....................................................................................................................................................... 1
ความเป็นมา ......................................................................................................................................................... 1
วตั ถุประสงค์......................................................................................................................................................... 1
เป้าหมาย.............................................................................................................................................................. 1
ผลท่ีคาดว่าจะได้รบั .............................................................................................................................................. 2
บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและรายงานทเี่ กยี่ วข้อง ............................................................................................... 3
(รา่ ง) นโยบายและจดุ เน้นการดาํ เนนิ งาน สาํ นักงาน กศน..................................................................................... 3
ประจําปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 .......................................................................................................................... 3
เอกสารทเี่ ก่ยี วข้อง..............................................................................................................................................15
บทที่ 3................................................................................................................................................................21
วิธีการดําเนนิ งาน................................................................................................................................................21
บทที่ 4................................................................................................................................................................23
ผลการดาํ เนินงานและการวเิ คราะหข์ ้อมลู ...........................................................................................................23
ตอนที่ 1 ข้อมลู สว่ นตวั ผตู้ อบแบบถามของผู้เข้าร่วมโครงการ .............................................................................23
ตอนท่ี 2 ข้อมูลเกย่ี วกบั ความคดิ เหน็ ของผ้เู ขา้ ร่วมโครงการ................................................................................24
บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ........................................................................................................26
สรุป .................................................................................................................................................................... 26
อภิปรายผล......................................................................................................................................................... 26
บทท่ี 1
บทนา
โครงการอบรมหลกั สตู รการเข้าใจดิจทิ ัล (Digital Literacy Curriculum)
ความเปน็ มา
ตามทคี่ ณะรัฐมนตรีภายใตก้ ารบริหารราชการแผ่นดนิ ของ พลเอก ประยุทธ์ จันทรโ์ อชา ได้แถลงนโยบายต่อ
สภานิติบหั หตั แิ ห่งชาติ เมื่อวันท่ี 12 กนั ยายน 2557 ด้านการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ข้อ 6.18
ตอ้ งการให้มีการสง่ เสรมิ ภาคเศรษฐกิจดจิ ิทลั และวางรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลให้เริ่มขับเคล่ือนไดอ้ ยา่ งจรงิ จงั ซงึ่ จะ
ทาํ ใหท้ ุกภาคเศรษฐกิจกา้ วหน้าไปได้ทนั โลกและสามารถแขง่ ขันในโลกสมัยใหมไ่ ด้ ซ่ึงเป็นทย่ี อมรับวา่ ผทู้ ี่มี
ความสามารถทางด้านการใช้ดจิ ิทลั ไดม้ ากกว่า ย่อมเปน็ ผูไ้ ดเ้ ปรยี บในสังคมเน่ืองจากสามารถใช้ประโยชนจ์ ากดจิ ิทลั
เพ่อื เพิม่ คุณค่าให้กับชีวิต สรา้ งสรรคน์ วัตกรรมและสิ่งใหม่ไดม้ ากกว่าทําให้พฒั นาเศรษฐกิจให้กา้ วหน้าไดด้ ี มีคุณภาพ
ชวี ิตท่ีดีขน้ึ และมีความจาํ เป็นในการเสริมสร้างทักษะดิจทิ ลั ให้แกป่ ระชาชน ใหส้ ามารถเข้าถึง เรยี นรู้ และได้ประโยชน์
จากการใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ลั อยา่ งปลอดภยั สรา้ งสรรค์ มีคุณธรรม จริยธรรม และตระหนกั ถงึ ผลกระทบต่อสงั คม จงึ
เหน็ ควรดาํ เนนิ กจิ กรรมศึกษากรอบแนวทางการพัฒนาทักษะดิจิทลั เบื้องต้น (Digital Literacy) สาํ หรับประชาชนทกุ
กล่มุ วัยทีเ่ หมาะสมกบั บรบิ ทของประเทศไทย ภายใต้โครงการส่งเสรมิ การใช้ดิจิทลั อยา่ งสรา้ งสรรค์และรับผิดชอบต่อ
สงั คม เพ่ือใช้ในการสง่ เสริมความรู้ และพฒั นาทักษะทางดิจิทัลแกป่ ระชาชน ทัง้ เด็ก เยาวชนใน และนอกระบบ
การศึกษา ครู ผู้ปกครอง วัยแรงงาน คนพิการ ผู้ดอ้ ยโอกาส และผู้สงู อายุ เพ่ือลดชอ่ งว่างทางดจิ ิทัล สร้างโอกาสและ
ความเท่าเทยี มในการเขา้ ถงึ ข้อมูล ข่าวสาร สารสนเทศและใชป้ ระโยชนจ์ ากเทคโนโลยดี จิ ทิ ัลในชวี ติ ประจําวัน การ
อาชพี และเตรยี มพรอ้ มสู่การเปน็ พลเมืองดิจทิ ัลในอนาคตอยา่ งสมบรู ณ์แบบต่อไป
ดงั น้ันศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อําเภอสัตหบี ในความรบั ผดิ ชอบของ กศน.ตาํ บล
พลูตาหลวง เลง็ เห็นความสําคัหในการพัฒนา ให้ประชาชนในพน้ื ท่ีตําบลพลูตาหลวง เรียนรเู้ ก่ยี วกบั ดิจทิ ัล ใหร้ ูเ้ ทา่ ทัน
สือ่ ดจิ ทิ ลั คิด วเิ คราะห์ แยกแยะ สอ่ื ดิจิทลั เพือ่ การบรโิ ภคไดร้ วมถึงการประยุกต์ใช้ดิจทิ ลั เพอ่ื การใช้งานอยา่ งเหมาะสม
จึงจดั ทาํ โครงการหลักสตู รการเขา้ ใจดิจทิ ลั (Digital Literacy Curriculum) ข้ึน
วัตถุประสงค์
1. อธบิ ายทฤษฎหี ลกั การเข้าถงึ และใชด้ ิจทิ ลั สาํ หรบั การปฏบิ ัตงิ านและการใชใ้ นชวี ติ ประจําวันได้
2. รเู้ ท่าทันสอื่ ดจิ ทิ ัล คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ส่อื ดิจิทลั เพื่อการบรโิ ภคไดอ้ ย่างเหมาะสม
3. ประยุกต์ใชด้ ิจทิ ลั เพื่อการปฏิบตั ิงานไดย้ า่ งเหมาะสม
เปา้ หมาย
เชงิ ปรมิ าณ
ประชาชนในพื้นที่ตําบลพลูตาหลวง จาํ นวน 15 คน
เชิงคุณภาพ
ผ้เู ขา้ อบรม สามารถร้เู ทา่ ทนั ส่ือดจิ ทิ ัล คิด วเิ คราะห์ แยกแยะ สอื่ ดิจทิ ลั เพ่ือการบรโิ ภคได้รวมถึงการ
ประยกุ ต์ใชด้ จิ ิทัลเพื่อการใช้งานอย่างเหมาะสม
ดชั นีวดั ผลสาํ เรจ็ ของโครงการ
2
ตัวช้ีวัดผลสาเร็จ (Outputs)
-มผี เู้ ขา้ รว่ มกิจกรรมจํานวนร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้าหมายทีก่ าํ หนดไว้
ตัวชวี้ ดั ผลลัพท์ (Outcome)
-ผู้เข้าร่วมกจิ กรรมมีความพึงพอใจในระดบั มากขนึ้ ไปร้อยละ 80
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1 ผูเ้ ข้าอบรมสามารถอธบิ ายทฤษฎีหลักการเข้าถึงและใช้ดิจิทัล สําหรบั การปฏบิ ตั งิ านและการใชใ้ น
ชวี ติ ประจําวันได้
2 ผูเ้ ข้ารบั การอบรมสามารถรู้เท่าทันสือ่ ดิจิทลั คดิ วิเคราะห์ แยกแยะ สอ่ื ดจิ ทิ ลั เพื่อการบรโิ ภคได้อยา่ ง
เหมาะสม
3 ผเู้ ขา้ รบั การอบรมสามารถนาํ ไปประยุกตใ์ ชด้ ิจิทลั เพ่ือการปฏบิ ัตงิ านไดย้ ่างเหมาะ
บทที่ 2
เอกสารการศกึ ษาและรายงานทเ่ี กี่ยวข้อง
ในการจัดทํารายงานครง้ั นี้ ได้ทาํ การศึกษาค้นคว้าเน้ือหาจากเอกสารการศึกษาและรายงานท่เี กย่ี วข้อง
ดังตอ่ ไปนี้
1. นโยบายและจดุ เนน้ การดําเนินงานสาํ นกั งาน กศน.ประจําปงี บประมาณ พ.ศ. 2563
2. นโยบายและจดุ เน้นการดําเนนิ งาน กศน.ตําบลพลูตาหลวง ประจําปงี บประมาณ พ.ศ.2563
3. ด้านการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร
4. เอกสารที่เกีย่ วขอ้ ง
(รา่ ง) นโยบายและจดุ เน้นการดาเนินงาน สานักงาน กศน.
ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
วสิ ยั ทศั น์
คนไทยได้รับโอกาสการศึกษาและการเรยี นรตู้ ลอดชีวิตอยา่ งมีคุณภาพ สามารถดํารงชวี ติ ท่เี หมาะสม
กบั ชว่ งวัย สอดคล้องกับหลักปรัชหาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และมีทักษะทจ่ี าํ เป็นในโลกศตวรรษที่ 21
พนั ธกิจ
1. จดั และสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่มี คี ุณภาพ เพื่อยกระดบั การศึกษา พัฒนา
ทักษะการเรยี นรู้ของประชาชนทุกกล่มุ เป้าหมายใหเ้ หมาะสมทกุ ชว่ งวยั พรอ้ มรับการเปลี่ยนแปลงบรบิ ททางสงั คม และ
สรา้ งสงั คมแห่งการเรยี นรู้ตลอดชีวิต
2 ส่งเสริม สนับสนนุ และประสานภาคเี ครือขา่ ย ในการมสี ว่ นร่วมจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศัย และการเรยี นรู้ตลอดชวี ิต รวมท้งั การดาํ เนนิ กิจกรรมของศนู ยก์ ารเรียนและแหล่งการเรียนรูอ้ ื่น ใน รูปแบบ
ตา่ ง ๆ
3. ส่งเสรมิ และพฒั นาการนําเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั มาใชใ้ หเ้ กิดประสิทธภิ าพในการจัด
การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยให้กบั ประชาชนอย่างทวั่ ถงึ
4. พฒั นาหลกั สูตร รูปแบบการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื และนวัตกรรม การวัดและประเมนิ ผลในทกุ รูปแบบ
ให้สอดคล้องกบั บริบทในปจญ จุบนั
5. พฒั นาบุคลากรและระบบการบรหิ ารจดั การให้มปี ระสิทธภิ าพ เพือ่ มุ่งจัดการศึกษาและการเรยี นรู้ท่ีมี
คุณภาพ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล
เป้าประสงค์
1. ประชาชนผูด้ อ้ ย พลาด และขาดโอกาสทางการศกึ ษา รวมท้ังประชาชนท่วั ไปไดร้ ับโอกาสทางการศึกษาใน
รูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอธั ยาศยั ทม่ี คี ุณภาพ
อยา่ งเท่าเทียมและทวั่ ถึง เป็นไปตามสภาพ ปญหหา และความตอ้ งการของแตล่ ะ
กลุม่ เป้าหมาย
2. ประชาชนไดร้ บั การยกระดับการศึกษา สร้างเสรมิ และปลกู ฝญงคณุ ธรรม จริยธรรม และความเปน็ พลเมือง
อนั นําไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวติ และเสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งใหช้ ุมชน เพือ่ พฒั นาไปสู่ความมั่นคงและย่งั ยืนทางดา้ น
เศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม ประวตั ิศาสตร์ และสง่ิ แวดลอ้ ม
4
3. ประชาชนไดร้ บั โอกาสในการเรยี นรู้ และมีเจตคติทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที ่ีเหมาะสมสามารถคิด
วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาํ วัน รวมทง้ั แก้ปญหหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์
4. ประชาชนไดร้ บั การสร้างและส่งเสรมิ ใหม้ ีนิสัยรักการอ่านเพ่ือการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง
5. ชมุ ชนและภาคีเครอื ข่ายทุกภาคสว่ น รว่ มจัด สง่ เสริม และสนับสนนุ การดําเนินงานการศกึ ษานอกระบบและ
การศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการขบั เคล่อื นกิจกรรมการเรียนรู้ของชมุ ชน
6. หนว่ ยงานและสถานศึกษาพฒั นา เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยดี ิจิทัล มาใช้ในการยกระดบั คุณภาพ
ในการจดั การเรยี นรู้และเพิ่มโอกาสการเรยี นรูใ้ หก้ ับประชาชน
7. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาสอ่ื และการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อแก้ปญหหาและพัฒนาคณุ ภาพชีวิต ท่ี
ตอบสนองกับการเปลย่ี นแปลงบริบทดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม การเมือง วฒั นธรรม ประวตั ิศาสตรแ์ ละสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง
ตามความต้องการของประชาชนและชุมชนในรปู แบบท่หี ลากหลาย
8. หนว่ ยงานและสถานศึกษามรี ะบบการบริหารจดั การท่ีเป็นไปตามหลกั ธรรมาภบิ าล
9. บคุ ลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาไดร้ ับการพฒั นาเพ่อื เพิ่มสมรรถนะในการปฏบิ ัตงิ านการศึกษานอก
ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอยา่ งมีประสิทธิภาพ
ตัวช้วี ดั
ตัวช้ีวดั เชิงปริมาณ
1. จํานวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาชน้ั พืน้ ฐานทไี่ ดร้ ับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามสทิ ธิที่
กําหนดไว้
2. จํานวนของคนไทยกลุ่มเปา้ หมายต่าง ๆ ท่เี ข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนร/ู้ เข้ารบั บริการกิจกรรมการศึกษา
ต่อเน่ือง และการศึกษาตามอัธยาศยั ทีส่ อดคล้องกับสภาพ ปหญ หา และความตอ้ งการ
3. ร้อยละของกาํ ลงั แรงงานที่สําเรจ็ การศกึ ษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้นขน้ึ ไป
4. จํานวนภาคเี ครือขา่ ยทเี่ ขา้ มามสี ว่ นร่วมในการจัด/พฒั นา/ส่งเสริมการศึกษา (ภาคีเครือข่าย :
สถานประกอบการ องคก์ ร หนว่ ยงานท่ีมาร่วมจัด/พัฒนา/สง่ เสริมการศึกษา)
5. จํานวนประชาชน เด็ก และเยาวชนในพ้ืนที่สงู และชาวไทยมอแกน ในพนื้ ที่ 5 จงั หวดั 11 อําเภอ
ไดร้ ับบรกิ ารการศึกษาตลอดชีวติ จากศนู ย์การเรยี นชมุ ชนสังกดั สํานกั งาน กศน.
6. จํานวนผรู้ ับบรกิ ารในพืน้ ทเี่ ป้าหมายไดร้ บั การสง่ เสริมดา้ นการรหู้ นังสอื และการพฒั นาทักษะชีวติ
7. จํานวนนกั เรียนนักศึกษาท่ีได้รบั บรกิ ารติวเข้มเตม็ ความรู้
8. จํานวนประชาชนท่ไี ด้รบั การฝกึ อาชีพระยะสน้ั สามารถสร้างอาชพี เพือ่ สรา้ งรายได้
9. จํานวน ครู กศน. ตําบล จากพืน้ ที่ กศน.ภาค ไดร้ บั การพฒั นาศักยภาพด้านการจดั การเรยี นการสอน
ภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร
10. จาํ นวนประชาชนทีไ่ ดร้ ับการฝกึ อบรมภาษาต่างประเทศเพ่ือการสื่อสารด้านอาชพี
11. จํานวนผู้สงู อายุภาวะพ่งึ พงิ ในระบบ Long Term Care มีผู้ดแู ลทมี่ คี ุณภาพและมาตรฐาน
12. จํานวนประชาชนท่ีผา่ นการอบรมจากศนู ยด์ จิ ทิ ัลชมุ ชน
13. จํานวนศนู ยก์ ารเรียนชมุ ชน กศน. บนพน้ื ท่ีสูง ในพืน้ ท่ี 5 จงั หวดั ที่ส่งเสริมการพฒั นาทกั ษะการฟญง พูด
ภาษาไทยเพือ่ การส่อื สาร รว่ มกนั ในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. ตชด. และกศน.
14. จาํ นวนบุคลากร กศน. ตําบลที่สามารถจดั ทําคลงั ความรู้ได้
15. จํานวนบทความเพ่ือการเรียนรู้ตลอดชีวติ ในระดับตําบลในหวั ข้อตา่ ง ๆ
16. จาํ นวนหลักสูตรและส่อื ออนไลนท์ ่ีใหบ้ ริการกับประชาชน ทัง้ การศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้
พื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอธั ยาศยั
5
ตัวชีว้ ัดเชิงคณุ ภาพ
1. รอ้ ยละของคะแนนเฉลีย่ ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ การศึกษานอกระบบ (N-NET)
ทุกรายวชิ าทุกระดบั
2. รอ้ ยละของผเู้ รยี นที่ได้รับการสนับสนนุ การจัดการศึกษาขัน้ พื้นฐานเทียบกับค่าเป้าหมาย
3. รอ้ ยละของประชาชนกลุ่มเปา้ หมายท่ลี งทะเบยี นเรยี นในทกุ หลกั สตู ร/กิจกรรมการศึกษาตอ่ เนื่องเทยี บกบั
เป้าหมาย
4. รอ้ ยละของผผู้ ่านการฝึกอบรม/พัฒนาทักษะอาชพี ระยะส้นั สามารถนําความร้ไู ปใช้ในการประกอบอาชพี
หรือพฒั นางานได้
5. รอ้ ยละของผเู้ รยี นในเขตพื้นทจ่ี ังหวัดชายแดนภาคใตท้ ี่ไดร้ บั การพฒั นาศกั ยภาพ หรอื ทักษะดา้ นอาชีพ
สามารถมงี านทาํ หรอื นําไปประกอบอาชีพได้
6. รอ้ ยละของผ้จู บหลกั สตู ร/กิจกรรมทสี่ ามารถนําความรูค้ วามเขา้ ใจไปใช้ไดต้ ามจุดมงุ่ หมายของหลักสูตร
กจิ กรรม การศกึ ษาต่อเนอื่ ง
7. รอ้ ยละของประชาชนท่ีได้รับบรกิ ารมีความพงึ พอใจต่อการบริการ/เข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรกู้ ารศกึ ษาตาม
อัธยาศยั
8. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเปา้ หมายที่ไดร้ ับบรกิ าร/ข้าร่วมกจิ กรรมท่มี คี วามรคู้ วามเข้าใจ/เจตคติ
ทักษะ ตามจุดมุ่งหมายของกิจกรรมทกี่ ําหนด ของการศกึ ษาตามอธั ยาศยั
9. ร้อยละของนกั เรียน/นักศึกษาทม่ี ผี ลสมั ฤทธิท์ างการเรียนในวิชาทีไ่ ด้รบั บรกิ ารติวเขม้ เต็มความรู้
เพม่ิ สูงขึน้
10. ร้อยละของผสู้ ูงอายทุ ีเ่ ปน็ กล่มุ เปา้ หมาย มีโอกาสมาเข้าร่วมกจิ กรรมการศึกษาตลอดชวี ิต
นโยบายเรง่ ด่วนเพือ่ ร่วมขบั เคล่ือนยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาประเทศ
1.ยทุ ธศาสตรด์ า้ นความมันคง
1.1 พัฒนาและเสริมสรา้ งความจงรกั ภกั ดตี ่อสถาบันหลักของชาติ โดยปลกู ฝญงและสร้างความตระหนักรู้ถึง
ความสําคหั ของสถาบนั หลักของชาติ รณรงค์เสริมสรา้ งความรักและความภาคภูมใิ จในความเปน็ คนไทยและชาติไทย
นอ้ มนาํ และเผยแพรศ่ าสตร์พระราชา หลักปรัชหาของเศรษฐกจิ พอเพียงรวมถงึ แนวทางพระราชดาํ รติ า่ ง ๆ
1.2 เสรมิ สร้างความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้อง และการมีสว่ นรว่ มอยา่ งถูกต้องกับการปกครองระบอบ
ประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข ในบรบิ ทของไทย มีความเปน็ พลเมืองดี ยอมรบั และเคารพความ
หลากหลายทางความคดิ และอุดมการณ์
1.3 สง่ เสริมและสนับสนุนการจัดการศกึ ษาเพื่อป้องกันและแกไ้ ขปหญ หาภัยคุกคามในรปู แบบใหม่ ทั้งยาเสพตดิ
การคา้ มนุษย์ ภยั จากไซเบอร์ ภัยพิบตั จิ ากธรรมชาติ โรคอุบัติใหม่ ฯลฯ
1.4 ยกระดับคณุ ภาพการศึกษาและสรา้ งเสริมโอกาสในการเขา้ ถึงบริการการศกึ ษา การพัฒนาทกั ษะ การสรา้ ง
อาชีพ และการใช้ชีวิตในสังคมพหวุ ฒั นธรรม ในเขตพฒั นาพิเศษเฉพาะกจิ จังหวดั ชายแดนภาคใต้ และพ้นื ทช่ี ายแดนอ่ืน
1.5 สร้างความรู้ ความเข้าใจในขนบธรรมเนยี ม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านยอมรบั และเคารพ
ในประเพณี วฒั นธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ และชาวต่างชาติที่มีความหลากหลาย ในลกั ษณะพหสุ ังคมท่ีอยูร่ ว่ มกัน
2 ยุทธศาสตร์ดา้ นการสรา้ งความสามารถในการแข่งขนั
2.1 เร่งปรบั หลักสูตรการจดั การศกึ ษาอาชพี กศน. เพื่อยกระดบั ทักษะด้านอาชพี ของประชาชน
ให้เป็นอาชพี ทรี่ องรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (First S - curve และ New S-curve) โดยบูรณา
การความรว่ มมือในการพัฒนาและเสรมิ ทักษะใหมด่ ้านอาชีพ (Upskill & Reskill) รวมถึงมงุ่ เน้นสรา้ งโอกาส
6
ในการสรา้ งงาน สรา้ งรายได้ และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงานท้ังภาคอุตสาหกรรมและการบรกิ าร
โดยเฉพาะในพนื้ ท่เี ขตระเบียงเศรษฐกจิ และเขคพัฒนาพเิ ศษตามภูมิภาคตา่ ง ๆ ของประเทศสําหรับพนื้ ทีป่ กติใหพ้ ัฒนา
อาชีพทเ่ี น้นการต่อยอดศกั ยภาพและตามบริบทของพน้ื ที่
2.2 จดั การศึกษาเพื่อพฒั นาพื้นทภ่ี าคตะวันออก ยกระดับการศกึ ษาใหก้ ับประชาชนให้จบการศกึ ษาอย่างน้อย
การศึกษาภาคบังคับ สามารถนาํ คณุ วฒุ ทิ ีไ่ ดร้ ับไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ รวมทั้งพัฒนาทกั ษะในการประกอบ
อาชพี ตามความต้องการของประชาชน สร้างอาชีพ สรา้ งรายได้ ตอบสนองต่อบรบิ ทของสังคมและชมุ ชน รวมทัง้ รองรับ
การพัฒนาเขตพนื้ ที่ระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
2.3 พฒั นาและส่งเสริมประชาชนเพื่อต่อยอดการผลติ และจําหน่ายสนิ ค้และผลิตภัณฑ์ออนไลน์
1) เร่งจัดต้งั ศนู ย์ใหค้ ําปรึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Brand กศน. เพื่อยกระดบั คุณภาพของสินคแ้ ละผลติ ภณั ฑ์
การบริหารจัดการทค่ี รบวงจร (การผลติ การตลาด การสง่ ออก และสร้างชอ่ งทางจําหน่าย) รวมทั้งสง่ เสริมการใช้
ประโยชน์จากเทคโนโลยดี จิ ิทัลในการเผยแพร่และจาํ หนา่ ยผลิตภัณฑ์
2) พฒั นาและคดั เลือกสุดยอดสินค้าและลิตภณั ฑ์ กศน. ในแตล่ ะจังหวดั พรอ้ มทัง้ ประสานความร่วมมอื กบั
สถานบี รกิ ารนํา้ มันในการเป็นซอ่ งทางการจาํ หน่ายสดุ ยอดสินคา้ และผลติ ภณั ฑ์ กศน.ใหก้ ว้างขวางยิ่งขนึ้
3 ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาและเสริมสรา้ งศกั ยภาพทรพั ยากรมนุษย์
3.1 พฒั นาครูและบุคลากรทเ่ี กี่ยวข้องกบั การจัดกจิ กรรมและการเรียนรู้ เปน็ ผู้เช่ือมโยงความรกู้ ับ
ผเู้ รยี นและผ้รู บั บรกิ าร มีความเป็น "ครูมืออาชีพ" มีจติ บริการ มคี วามรอบรู้และทนั ต่อการเปลย่ี นแปลงของสงั คมและ
เป็น "ผู้อาํ นวยการการเรียนรู้" ทีส่ ามารถบรหิ ารจดั การความรู้ กิจกรรม และการเรียนรู้ที่ดี
1) เพิม่ อตั ราขา้ ราชการครูให้กับ กศน. อาํ เภอทุกแหง่ โดยเร่งดาํ เนินการเร่ืองการหาอัตราตาํ แหนง่
การสรรหา บรรจุ และแต่งตั้ง ข้าราชการครู
2) พฒั นาข้าราชการครูในรูปแบบครบวงจร ตามหลกั สตู รที่เชอ่ื มโยงกบั วทิ ยฐานะ
3) พัฒนาครู กศน.ตําบลใหส้ ามารถปฏิบตั ิงานไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ โดยเนน้ เรอ่ื งการพัฒนาทักษะการจัดการ
เรียนการสอนออนไลน์ ทกั ษะภาษาต่างประเทศ ทักษะการจัดกระบวนการเรยี นรู้
4) พฒั นาศึกษานิเทศก์ ใหส้ ามารถปฏิบัติการนเิ ทศไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ
5) พฒั นาบุคลากร กศน.ทกุ ระดับทุกประเภทให้มีทักษะความร้เู รอ่ื งการใชป้ ระโยชน์จากดจิ ิทัลและ
ภาษาต่างประเทศที่จาํ เปน็
3.2 พฒั นาแหลง่ เรียนรใู้ หม้ ีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมท่เี อ้ือต่อการเรยี นรู้ มีความพรอ้ มในการให้บริการ
กิจกรรมการศกึ ษาและการเรียนรู้ เปน็ แหลง่ สารสนเทศสาธารณะที่งยต่อการเข้าถงึ มีบรรยากาศทเี่ อ้ือต่อการเรียนรู้
เปน็ คาเพ่พืน้ ท่ีการเรียนร้สู าํ หรบั คนทกุ ช่วงวยั มีสง่ิ อาํ นวยความสะดวก มีบรรยากาศสวยงามมชี วี ติ ที่ดึงดดู ความสนใจ
และมคี วามปลอดภยั สําหรับผู้ใช้บริการ
1) เรง่ ยกระดับ กศน.ตําบลนําร่อง 928 แหง่ (อําเภอละ 1 แหง่ ) ให้เปน็ กศน.ตําบล 5 ดี พรีเมี่ยม
ท่ปี ระกอบดว้ ย ครูดี สถานท่ีดี (ตามบรบิ ทของพืน้ ที่) กิจกรรมดี เครือขา่ ยดี และมีนวตั กรรมการเรียนรู้ที่ดมี ปี ระโยชน์
2) จดั ให้มศี ูนย์การเรยี นร้ตู น้ แบบ กศน. เพ่ือยกระดับการเรียนรู้ ใน 6 ภมู ิภาค เปน็ พื้นที่การเรยี นรู้
(Co - Learning Space) ท่ที ันสมยั สําหรบั ทกุ คน มีความพรอ้ มในการใหบ้ รกิ ารตา่ ง ๆ อาทิ พ้นื ทส่ี ําหรบั การทํางาน/
การเรียนรู้ พ้นื ทสี่ าํ หรับกิจกรรมต่าง ๆ มหี อ้ งประชุมขนาดเลก็ รวมทงั้ ทํางานรว่ มกับห้องสมดุ ประชาชนในการ
ใหบ้ ริการในรูปแบบห้องสมดุ ดจิ ทิ ลั บรกิ ารอินเทอรเ์ น็ต สื่อมลั ติมีเดีย เพือ่ รองรบั การเรียนร้แู บบ Active Learning
3) พฒั นาห้องสมุดประชชน "เฉลิมราชกุมารี" ใหเ้ ป็น Digital Library โดยให้มีบริการหนงั สือ
ในรูปแบบ e - Book บรกิ ารคอมพวิ เตอร์ และอนิ เทอรเ์ น็ตความเรว็ สงู รวมทัง้ Free Wifi เพอื่ การสืบคน้ ข้อมลู
3.3 ส่งเสริมการจดั การเรยี นรู้ทีท่ นั สมัยและมปี ระสิทธิภาพ เอื้อต่อการเรยี นรสู้ ําหรบั ทุกคน สามารถ
เรยี นไดท้ ุกท่ที ุกเวลา มกี จิ กรรมที่หลากลาย น่าสนใจ สนองตอบความต้องการของชุมชน เพ่อื พฒั นาศักยภาพ
7
การเรียนร้ขู องประชาชน รวมทงั้ ใช้ประโยชนจ์ ากประชาชนในชุมชนในการรว่ มจัดกิจกรรมการเรยี นรูเ้ พ่ือเชือ่ มโยง
ความสมั พนั ธ์ของคนในชุมชนไปสู้การจดั การความรขู้ องชมุ ชนอย่างย่งั ยืน
1) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ทีป่ ลกู ฝงญ คณุ ธรรม สร้างวินยั จิตสาธารณะ ความรับผิดชอบ
ต่อส่วนรวม และการมจี ติ อาสา ผา่ นกิจกรรมรปู แบบต่าง ๆ อาทิ กจิ กรรมลูกเสือ กศน. กิจกรรมจติ อาสา ตลอดจน
สนบั สนุนให้มีการจัดกิจกรรมเพ่ือปลูกฝญงคณุ ธรรม จรยิ ธรรมใหก้ บั บุคลากรในองค์กร
2) จดั ใหม้ หี ลักสูตรลกู เสือมัคคุเทศก์ โดยให้สํานักงาน กศน.จงั หวัดทกุ แห่ปกทม. จดั ตงั้ กองลกู เสือ
ทีล่ ูกเสือมีความพรอ้ มดา้ นทักษะภาษาต่างประเทศ เปน็ ลกู เสอื มัคคุเทศก์จังหวัดละ 1 กอง เพอ่ื สง่ เสริมลูกเสือจิตอาสา
พัฒนาการท่องเท่ียวในแตล่ ะจงั หวัด
3.4 เสรมิ สรา้ งความรว่ มมือกับภาคีเครือข่าย ประสาน สง่ เสริมความร่วมมือภาคเี ครือข่าย ท้ังภาครฐั เอกชน
ประชาสงั คม และองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น รวมทั้งสง่ เสริมและสนบั สนุนการมสี ่วนรว่ มของชุมชนเพ่ือสร้างความ
เขา้ ใจ และให้เกิดความรว่ มมือในการสง่ เสริม สนบั สนนุ และจดั การศึกษาและการเรยี นร้ใู ห้กบั ประชาชนอย่างมี
คุณภาพ
1) เรง่ จัดทาํ ทําเนยี บภมู ิปญหหาท้องถิ่นในแตล่ ะตําบล เพื่อใชป้ ระโยชนจ์ ากภมู ปิ หญ หาท้องถิ่นในการสร้างการ
เรยี นรูจ้ ากองค์ความรู้ในตวั บคุ คลใหเ้ กดิ การถ่ายทอดภมู ปิ ญหหา สร้างคุณค่าทางวัฒนธรรมอย่างยงั่ ยนื
2) ส่งเสริมภมู ิปญหหาทอ้ งถนิ่ สู่การจัดการเรียนรู้ชุมชน
3) ประสานความร่วมมือกับภาคเี ครือขา่ ยเพอื่ การขยายและพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศยั ให้เข้าถึงกลมุ่ เป้าหมายทกุ กลุ่มอย่างกว้างขวางและมคี ุณภาพ อาทิ กลมุ่ ผสู้ ูงอายุ กลุ่ม อสม.
3.5 พัฒนานวตั กรรมทางการศึกษาเพื่อประโยชน์ตอ่ การจัดการศึกษาและกลมุ่ เป้าหมาย
1) พัฒนาการจดั การศกึ ษาออนไลน์ กศน. ทัง้ ในรูปแบบของการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน การพัฒนาทกั ษะ
ชวี ิตและทกั ษะอาชีพ การศึกษาตามอธั ยาศยั รวมท้ังการพัฒนาช่องทางการค้าออนไลน์
2) ส่งเสริมการใชเ้ ทคโนโลยีในการปฏิบัตงิ าน การบริหารจัดการ และการจดั การเรียนรู้
3) สง่ เสริมให้มีการใช้การวิจัยอยา่ งงา่ ยเพ่ือสรา้ งนวัตกรรมใหม่
3.6 พฒั นาศักยภาพคนด้านทักษะและความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยดี จิ ิทัล (Digital Literacy)
1) พฒั นาความร้แู ละทักษะเทคโนโลยดี จิ ิทลั ของครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา เพื่อพัฒนา
รูปแบบการจัดการเรียนการสอน
2) สง่ เสริมการจัดการเรยี นร้ดู ้านเทคโนโลยดี จิ ิทัล เพือ่ ให้ประชาชนมีทกั ษะความเข้าใจและใชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทัล
ท่ีสามารถนําไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาํ วัน รวมทั้งสร้างรายไดใ้ ห้กับตนเองได้
3.7 พัฒนาทกั ษะภาษาตา่ งประเทศเพื่อการสื่อสารของประชาชนในรูปแบบตา่ ง ๆอย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้น
ทักษะภาษาเพอ่ื อาชพี ทงั้ ในภาคธุรกจิ การบรกิ าร และการท่องเทีย่ ว รวมทั้งพัฒนาส่ือการเรียนการสอนเพอื่ ส่งเสรมิ
การใช้ภาษาเพ่ือการสอื่ สารและการพฒั นาอาชีพ
3.8 เตรยี มความพรอ้ มการเข้าสูส่ งั คมผู้สงู อายุท่เี หมาะสมและมีคุณภาพ
1) สง่ เสริมการจดั กจิ กรรมให้กบั ประชาชนเพ่ือสร้างความตระหนกั ถึงการเตรียมพร้อมเข้าสู่
สงั คมผูส้ งู อายุ (Aging Society) มคี วามเข้าใจในพฒั นาการของช่วงวยั รวมท้ังเรยี นร้แู ละมสี ว่ นรว่ มในการดูแล
รับผดิ ชอบผูส้ ูงอายุในครอบครวั และชมุ ชน
2) พัฒนาการจดั บริการการศึกษาและการเรียนร้สู าํ หรบั ประชาชนในการเตรียมความพร้อม
เขา้ สู่วัยสงู อายทุ เ่ี หมาะสมและมีคุณภาพ
3) จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพชวี ิตสําหรับผู้สูงอายภุ ายใต้แนวคิด "Active Aging"
การศึกษาเพื่อพฒั นาคุณภาพชีวิต และพัฒนาทักษะชวี ิต ให้สามารถดแู ลตนเองทง้ั สุขภาพกายและสุขภาพจติ
และรู้จกั ใชป้ ระโยชนจ์ ากเทคโนโลยี
8
4) สร้างความตระหนกั ถึงคุณค่าและศักด์ิศรขี องผ้สู ูงอายุ เปิดโอกาสให้มีการเผยแพรภ่ มู ิปหญ หา
ของผสู้ งู อายุ และให้มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมด้านตา่ ง ๆ ในชุมชน เช่น ดา้ นอาชพี กฬี า ศาสนาและวฒั นธรรม
5) จดั การศึกษาอาชีพเพื่อรองรบั สังคมผูส้ งู อายุ โดยบูรณาการความรว่ มมอื กับหนว่ ยงานท่เี ก่ยี วข้อง ในทุก
ระดบั
3.9 การส่งเสรมิ วิทยาศาสตรเ์ พอ่ื การศึกษา
1) จดั กจิ กรรมวิทยาศาสตร์เชิงรุก และเนน้ ให้ความรู้วิทยาศาสตรอ์ ยา่ งงา่ ยกับประชาชนในชมุ ชน
ท้ังวทิ ยาศาสตรใ์ นวถิ ชี ีวติ และวทิ ยาศาสตรใ์ นชวี ติ ประจาํ วัน
2) พฒั นาส่อื นิทรรศการเละรูปแบบการจดั กิจกรรมทางวทิ ยาศาสตร์ให้มคี วามทันสมัย
3.10 สง่ เสรมิ การรู้ภาษาไทยให้กับประชาชนในรปู แบบต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพนื้ ท่ีสูง
ใหส้ ามารถฟญง พูด อ่าน และเขยี นภาษาไทย เพื่อประโยชในการใช้ชีวิตประจาํ วันได้
4 ยุทธศาสตร์ต้นการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม
4.1 จัดต้งั ศูนยก์ ารเรยี นรู้สาํ หรบั ทุกช่วงวัย ท่ีเป็นศนู ยก์ ารเรยี นรู้ตลอดชวี ติ ทีส่ ามารถให้บริการ
ประชาชนไดท้ ุกคน ทุกชว่ งวยั ทมี่ ีกจิ กรรมท่ีหลากหลาย ตอบสนองความต้องการในการเรียนรใู้ นแต่ละวยั
และเป็นศนู ย์บริการความรู้ ศูนยก์ ารจัดกิจกรรมทคี่ รอบคลุมทกุ ช่วงวยั เพือ่ ให้มีพฒั นาการเรียนรทู้ เ่ี หมาะสม
และมีความสุขกบั การเรียนรตู้ ามความสนใจ
1) เร่งประสานกบั สาํ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน เพื่อจดั ทําฐานขอ้ มลู โรงเรียนที่ถูกยบุ รวม หรือ
คาดว่านา่ จะถูกยุบรวม
2) ใหส้ าํ นักงาน กศน.จังหวัดทกุ แหง่ ที่อยู่ในจังหวัดท่ีมโี รงเรยี นท่ถี กู ยุบรวม ประสานขอใชพ้ ืน้ ท่เี พื่อจดั ต้ังศูนย์
การเรยี นรสู้ ําหรับทกุ ช่วงวัย กศน.
4.2 ส่งเสริมและสนับสนุนการจดั การศกึ ษาและการเรียนรู้สําหรับกลุ่มเปา้ หมายผู้พิการ
1) จดั การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน การศกึ ษาเพื่อพัฒนาทกั ษะชวี ติ และทักษะอาชีพ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย โดย
เนน้ รูปแบบการศึกษาออนไลน์
2) ใหส้ าํ นักงาน กศน.จังหวดั ทกุ แห่ง/กทม. ทาํ ความร่วมมือกบั ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจาํ จังหวัด ในการใช้
สถานที่ วัสดุอปุ กรณ์ และครุภณั ฑ์ด้านการศึกษา เพ่ือสนับสนุนการจดั การศึกษาและการเรยี นรู้สาํ หรบั กลุ่มเป้าหมายผู้
พิการ
4.3 ยกระดบั การศึกษาให้กบั กลุ่มเปา้ หมายทหารกองประจาํ การ รวมทั้งกลุ่มเปา้ หมายพิเศษอน่ื ๆ อาทิ
ผตู้ อ้ งขัง คนพิการ เดก็ ออกกลางคนั ประชากรวัยเรยี นท่ีอยู่นอกระบบการศึกษาใหจ้ บการศึกษานอกระบบระดบั
การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน สามารถนาํ ความรทู้ ่ไี ด้รบั ไปพัฒนาตนเองได้อยา่ งตอ่ เนื่อง
4.4 พัฒนาหลกั สตู รการจดั การศกึ ษาอาชีพระะส้ัน ให้มคี วามหลากหลาย ทันสมยั เหมาะสมกบั บรบิ ทของ
พื้นท่ี และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผรู้ ับบรกิ าร
5. ยุทธศาสตร์ดา้ นการสร้างการเตบิ โตบนคุณภาพชีวติ ที่เปน็ มิตรต่อสงิ่ แวดล้อม
5.1 ส่งเสริมใหม้ ีการให้ความรู้กับประชาชนในการรับมือและปรับตวั เพื่อลดความเสียหายจากภัยธรรมชาตแิ ละ
ผลกระทบที่เกย่ี วข้องกับการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศ
5.2 สร้างความตระหนักถึงความสาํ คหั ของการสรา้ งสังคมสเี ขียว สง่ เสรมิ ความร้ใู หก้ บั ประชาชนเกย่ี วกับการ
คดั แยกต้ังแตต่ น้ ทาง การกําจัดขยะ และการนาํ กลบั มาใช้ชํ้า เพ่ือลดปริมาณและตน้ ทนุ ในการจัดการขยะของเมอื ง และ
สามารถนําขยะกลบั มาใช้ประโยชน์ไดโ้ ดยงา่ ย รวมทัง้ การจัดการมลพิษในชุมชน
5.3 ส่งเสริมให้หนว่ ยงานและสถานศกึ ษาใช้พลังงานท่ีเปน็ มติ รกบั สิง่ แวดล้อม รวมทัง้ ลดการใชท้ รัพยากรท่ี
สง่ ผลกระทบต่อสงิ่ แวดลอ้ ม เชน่ รณรงค์เร่อื งการลดการใช้ถงุ พลาสติก การประหยัดไฟฟ้า เปน็ ต้น
6. ยุทธศาสตรด์ ้านการปรับสมดลุ และพัฒนาระบบหารบริหารจัดการภาครัฐ
9
6.1 พฒั นาและปรับระบบวธิ ีการปฏิบตั ริ าชการใหท้ ันสมยั มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริต บริหารจัดการบน
ขอ้ มลู และหลักฐานเชิงประจักษ์ มงุ่ ผลสมั ฤทธมิ์ ีความโปร่งใส
6.2 นาํ นวตั กรรมและเทคโนโลยรี ะบบการทํางานทีเ่ ป็นดจิ ิทลั มาใชใ้ นการบรหิ ารและพัฒนางานสามารถ
เชื่อมโยงกบั ระบบฐานข้อมลู กลางของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมท้ังพัฒนาโปรแกรมออนไลนท์ ส่ี ามารถเชื่อมโยงข้อมลู
ตา่ ง ๆ ท่ที าํ ให้การบริหารจัดการเปน็ ไปอย่างต่อเนอื่ งกันตงั้ แตต่ น้ จนจบกระบวนการและใหป้ ระชาชนกล่มุ เปา้ หมาย
สามารถเขา้ ถึงบริการได้อย่างทนั ที ทุกทแ่ี ละทกุ เวลา
6.3 ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทกุ ระดับอย่างต่อเนอื่ ง ให้มคี วามรู้และทักษะตามมาตรฐานตําแหนง่ ให้ตรงกบั
สายงาน ความชํานาห และความต้องการของบคุ ลากร
2. แนวทาง/กลยทุ ธก์ ารดาํ เนนิ งานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยของ กศน.ตําบลพลตู า
หลวง
วิสัยทศั น์
“คนไทยได้รับโอกาสการศกึ ษาและการเรียนรตู้ ลอดชวี ติ อย่างมีคุณภาพ สามารถดาํ รงชวี ติ ที่เหมาะสม
กบั ช่วงวัย สอดคล้องกบั หลักปรชั หาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และมีทักษะทจ่ี ําเป็นในโลกศตวรรษที่ 21”
พันธกจิ
1. จดั และส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยทม่ี ีคุณภาพ เพอ่ื ยกระดับการศึกษา พฒั นา
ทักษะการเรียนรู้ของประชาชนทกุ กล่มุ เปา้ หมายใหเ้ หมาะสมทุกชว่ งวัย พรอ้ มรบั การเปลี่ยนแปลงบรบิ ททางสังคม และ
สร้างสงั คมแหง่ การเรียนรู้ตลอดชีวติ
2 ส่งเสรมิ สนบั สนนุ และประสานภาคีเครอื ขา่ ย ในการมีสว่ นรว่ มจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม
อธั ยาศัย และการเรียนร้ตู ลอดชีวติ รวมทงั้ การดาํ เนินกจิ กรรมของศนู ยก์ ารเรียนและแหลง่ การเรยี นรู้อนื่ ใน รปู แบบ
ต่าง ๆ
3. ส่งเสริมและพัฒนาการนําเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยดี จิ ิทลั มาใช้ใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพในการจัด
การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ให้กับประชาชนอย่างทัว่ ถึง
4. พฒั นาหลกั สตู ร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ส่ือและนวตั กรรม การวัดและประเมินผลในทกุ รปู แบบ
ให้สอดคล้องกับบรบิ ทในปจญ จุบัน
5. พฒั นาบคุ ลากรและระบบการบรหิ ารจัดการให้มปี ระสิทธิภาพ เพ่อื มุ่งจดั การศึกษาและการเรียนรู้ท่ีมี
คุณภาพ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล
เป้าประสงค์
1. ประชาชนผ้ดู ้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศกึ ษา รวมท้ังประชาชนท่ัวไปไดร้ บั โอกาสทางการศกึ ษาใน
รปู แบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศกึ ษาต่อเน่ือง และการศึกษาตามอธั ยาศยั ท่มี คี ุณภาพ
อย่างเทา่ เทยี มและท่ัวถึง เปน็ ไปตามสภาพ ปญหหา และความต้องการของแต่ละ
กลุ่มเปา้ หมาย
2. ประชาชนไดร้ บั การยกระดับการศกึ ษา สร้างเสริมและปลูกฝญงคุณธรรม จริยธรรม และความเปน็ พลเมือง
อนั นาํ ไปสู่การยกระดบั คุณภาพชีวติ และเสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งให้ชุมชน เพือ่ พัฒนาไปส่คู วามมนั่ คงและยงั่ ยืนทางด้าน
เศรษฐกจิ สังคม วัฒนธรรม ประวัตศิ าสตร์ และส่งิ แวดล้อม
3. ประชาชนได้รับโอกาสในการเรียนรู้ และมเี จตคติทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที ่ีเหมาะสมสามารถคิด
วเิ คราะห์ และประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจาํ วัน รวมท้ังแก้ปญหหาและพัฒนาคุณภาพชวี ิตได้อย่างสร้างสรรค์
4. ประชาชนไดร้ บั การสรา้ งและสง่ เสริมให้มนี ิสยั รกั การอ่านเพ่อื การแสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเอง
10
5. ชุมชนและภาคเี ครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมจัด สง่ เสรมิ และสนับสนุนการดาํ เนนิ งานการศึกษานอกระบบและ
การศกึ ษาตามอธั ยาศัย รวมทั้งการขบั เคลอื่ นกจิ กรรมการเรียนรขู้ องชุมชน
6. หนว่ ยงานและสถานศึกษาพัฒนา เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยดี จิ ทิ ัล มาใชใ้ นการยกระดับคุณภาพ
ในการจัดการเรยี นรู้และเพิม่ โอกาสการเรยี นรใู้ ห้กบั ประชาชน
7. หนว่ ยงานและสถานศึกษาพฒั นาสอ่ื และการจดั กระบวนการเรยี นรู้ เพ่ือแก้ปญหหาและพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ท่ี
ตอบสนองกบั การเปล่ียนแปลงบริบทดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม การเมือง วฒั นธรรม ประวตั ศิ าสตร์และสงิ่ แวดล้อม รวมทง้ั
ตามความต้องการของประชาชนและชมุ ชนในรูปแบบทหี่ ลากหลาย
8. หนว่ ยงานและสถานศึกษามีระบบการบรหิ ารจดั การท่เี ป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล
9. บุคลากรของหนว่ ยงานและสถานศึกษาไดร้ ับการพฒั นาเพอ่ื เพิ่มสมรรถนะในการปฏบิ ัติงานการศึกษานอก
ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชวี้ ดั
ตวั ช้วี ัดเชิงปริมาณ
1. จาํ นวนผเู้ รียนการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาชน้ั พน้ื ฐานทไ่ี ด้รบั การสนบั สนุนคา่ ใช้จา่ ยตามสทิ ธิท่ี
กําหนดไว้
2. จํานวนของคนไทยกลุ่มเปา้ หมายต่าง ๆ ท่เี ข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นร/ู้ เข้ารบั บริการกจิ กรรมการศึกษา
ต่อเนอ่ื ง และการศึกษาตามอัธยาศยั ทีส่ อดคล้องกับสภาพ ปหญ หา และความตอ้ งการ
3. ร้อยละของกําลังแรงงานที่สําเรจ็ การศกึ ษาระดับมธั ยมศึกษาตอนต้นขนึ้ ไป
4. จาํ นวนภาคีเครอื ขา่ ยท่ีเข้ามามีส่วนร่วมในการจัด/พฒั นา/สง่ เสริมการศึกษา (ภาคีเครือขา่ ย :
สถานประกอบการ องค์กร หนว่ ยงานที่มารว่ มจัด/พฒั นา/สง่ เสรมิ การศึกษา)
5. จํานวนประชาชน เด็ก และเยาวชนในพนื้ ทส่ี ูง และชาวไทยมอแกน ในพน้ื ที่ 5 จงั หวดั 11 อําเภอ
ได้รบั บริการการศึกษาตลอดชีวติ จากศนู ยก์ ารเรียนชมุ ชนสงั กัดสํานกั งาน กศน.
6. จํานวนผูร้ บั บรกิ ารในพื้นท่เี ปา้ หมายไดร้ ับการส่งเสริมด้านการรู้หนังสือและการพฒั นาทักษะชวี ติ
7. จํานวนนักเรยี นนักศกึ ษาที่ได้รบั บรกิ ารติวเข้มเต็มความรู้
8. จํานวนประชาชนท่ไี ด้รบั การฝึกอาชีพระยะส้ัน สามารถสรา้ งอาชีพเพอ่ื สร้างรายได้
9. จาํ นวน ครู กศน. ตําบล จากพ้นื ที่ กศน.ภาค ไดร้ ับการพฒั นาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอน
ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร
10. จาํ นวนประชาชนทไ่ี ด้รบั การฝึกอบรมภาษาตา่ งประเทศเพื่อการสื่อสารดา้ นอาชพี
11. จํานวนผูส้ ูงอายภุ าวะพง่ึ พิงในระบบ Long Term Care มีผดู้ ูแลทม่ี ีคุณภาพและมาตรฐาน
12. จาํ นวนประชาชนทผ่ี า่ นการอบรมจากศนู ย์ดจิ ทิ ลั ชมุ ชน
13. จาํ นวนศูนยก์ ารเรยี นชมุ ชน กศน. บนพนื้ ทสี่ ูง ในพนื้ ที่ 5 จังหวัด ท่ีสง่ เสรมิ การพัฒนาทักษะการฟงญ พดู
ภาษาไทยเพอ่ื การสื่อสาร รว่ มกนั ในสถานศึกษาสังกดั สพฐ. ตชด. และกศน.
14. จํานวนบคุ ลากร กศน. ตําบลท่สี ามารถจดั ทําคลงั ความรู้ได้
15. จํานวนบทความเพ่ือการเรียนรูต้ ลอดชวี ิตในระดบั ตาํ บลในหัวขอ้ ต่าง ๆ
16. จํานวนหลักสูตรและส่อื ออนไลน์ที่ให้บริการกบั ประชาชน ทัง้ การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั
พื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอธั ยาศยั
11
ตัวช้ีวัดเชิงคุณภาพ
1. ร้อยละของคะแนนเฉลยี่ ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติ การศึกษานอกระบบ (N-NET)
ทกุ รายวชิ าทกุ ระดบั
2. ร้อยละของผูเ้ รยี นท่ีได้รับการสนับสนนุ การจัดการศึกษาขนั้ พนื้ ฐานเทยี บกับค่าเป้าหมาย
3. รอ้ ยละของประชาชนกลุ่มเปา้ หมายทีล่ งทะเบยี นเรียนในทกุ หลักสูตร/กจิ กรรมการศกึ ษาตอ่ เนื่องเทยี บกบั
เปา้ หมาย
4. ร้อยละของผผู้ า่ นการฝกึ อบรม/พฒั นาทักษะอาชพี ระยะสน้ั สามารถนําความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชพี
หรอื พัฒนางานได้
5. ร้อยละของผ้เู รยี นในเขตพื้นท่จี งั หวดั ชายแดนภาคใตท้ ี่ไดร้ บั การพฒั นาศักยภาพ หรอื ทักษะดา้ นอาชีพ
สามารถมีงานทําหรือนําไปประกอบอาชีพได้
6. ร้อยละของผูจ้ บหลักสูตร/กิจกรรมทีส่ ามารถนาํ ความรู้ความเข้าใจไปใชไ้ ด้ตามจดุ มุ่งหมายของหลกั สูตร
กิจกรรม การศึกษาต่อเนอ่ื ง
7. ร้อยละของประชาชนท่ีได้รับบริการมคี วามพงึ พอใจตอ่ การบรกิ าร/เขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้การศกึ ษาตาม
อัธยาศัย
8. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเปา้ หมายที่ได้รับบรกิ าร/ขา้ รว่ มกิจกรรมทม่ี คี วามรคู้ วามเขา้ ใจ/เจตคติ
ทักษะ ตามจดุ มุ่งหมายของกิจกรรมทีก่ ําหนด ของการศึกษาตามอธั ยาศัย
9. ร้อยละของนกั เรียน/นักศึกษาท่มี ีผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนในวชิ าท่ีได้รบั บริการตวิ เขม้ เต็มความรู้เพ่ิมสงู ข้ึน
10. รอ้ ยละของผู้สงู อายทุ เี่ ปน็ กลมุ่ เป้าหมาย มีโอกาสมาเขา้ ร่วมกิจกรรมการศึกษาตลอดชีวติ
นโยบายเรง่ ด่วนเพ่อื ร่วมขับเคลอื่ นยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาประเทศ
1.ยทุ ธศาสตร์ดา้ นความมนั คง
1.1 พฒั นาและเสริมสรา้ งความจงรกั ภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ โดยปลกู ฝญงและสร้างความตระหนักรู้ถงึ
ความสําคัหของสถาบันหลักของชาติ รณรงคเ์ สริมสรา้ งความรกั และความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยและชาตไิ ทย
น้อมนําและเผยแพรศ่ าสตรพ์ ระราชา หลกั ปรัชหาของเศรษฐกิจพอเพยี งรวมถึงแนวทางพระราชดาํ รติ ่าง ๆ
1.2 เสรมิ สรา้ งความรูค้ วามเข้าใจท่ถี ูกต้อง และการมสี ่วนรว่ มอยา่ งถูกต้องกับการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ ในบรบิ ทของไทย มีความเป็นพลเมืองดี ยอมรับและเคารพความ
หลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์
1.3 ส่งเสริมและสนบั สนนุ การจดั การศึกษาเพือ่ ป้องกนั และแกไ้ ขปหญ หาภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ทงั้ ยาเสพตดิ
การคา้ มนุษย์ ภยั จากไซเบอร์ ภัยพิบตั ิจากธรรมชาติ โรคอุบัติใหม่ ฯลฯ
1.4 ยกระดบั คณุ ภาพการศึกษาและสร้างเสรมิ โอกาสในการเขา้ ถงึ บริการการศึกษา การพัฒนาทักษะ การสร้าง
อาชพี และการใช้ชีวติ ในสังคมพหวุ ฒั นธรรม ในเขตพฒั นาพิเศษเฉพาะกิจจังหวดั ชายแดนภาคใต้ และพน้ื ทช่ี ายแดนอื่น
1.5 สร้างความรู้ ความเข้าใจในขนบธรรมเนยี ม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านยอมรับและเคารพ
ในประเพณี วฒั นธรรมของกลุ่มชาตพิ นั ธุ์ และชาวตา่ งชาติท่ีมีความหลากหลาย ในลักษณะพหสุ งั คมที่อยู่รว่ มกนั
2 ยุทธศาสตรด์ ้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน
2.1 เร่งปรับหลกั สูตรการจัดการศึกษาอาชพี กศน. เพื่อยกระดับทักษะดา้ นอาชีพของประชาชน
ให้เปน็ อาชีพทร่ี องรบั อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (First S - curve และ New S-curve) โดยบรู ณา
การความร่วมมือในการพฒั นาและเสริมทักษะใหม่ด้านอาชีพ (Upskill & Reskill) รวมถึงมุ่งเน้นสรา้ งโอกาส
ในการสรา้ งงาน สรา้ งรายได้ และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงานท้ังภาคอุตสาหกรรมและ
การบริการ โดยเฉพาะในพน้ื ทีเ่ ขตระเบียงเศรษฐกิจ และเขคพฒั นาพเิ ศษตามภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ
สาํ หรบั พืน้ ทป่ี กตใิ ห้พัฒนาอาชีพทเี่ น้นการต่อยอดศักยภาพและตามบรบิ ทของพ้ืนท่ี
12
2.2 จัดการศกึ ษาเพือ่ พัฒนาพื้นทภ่ี าคตะวนั ออก ยกระดับการศกึ ษาใหก้ ับประชาชนให้จบการศกึ ษาอยา่ งน้อย
การศกึ ษาภาคบังคับ สามารถนาํ คณุ วุฒทิ ่ีไดร้ บั ไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ รวมทั้งพัฒนาทกั ษะในการประกอบ
อาชีพตามความต้องการของประชาชน สรา้ งอาชพี สรา้ งรายได้ ตอบสนองต่อบริบทของสังคมและชมุ ชน รวมทั้งรองรับ
การพฒั นาเขตพ้นื ท่รี ะเบยี บเศรษฐกิจภาคตะวนั ออก (EEC)
2.3 พฒั นาและสง่ เสรมิ ประชาชนเพ่อื ต่อยอดการผลิตและจําหนา่ ยสนิ คแ้ ละผลติ ภัณฑ์ออนไลน์
1) เร่งจดั ตง้ั ศูนย์ให้คาํ ปรึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Brand กศน. เพื่อยกระดับคุณภาพของสินคแ้ ละผลิตภัณฑ์
การบรหิ ารจดั การทค่ี รบวงจร (การผลติ การตลาด การสง่ ออก และสรา้ งช่องทางจาํ หน่าย) รวมท้งั ส่งเสรมิ การใช้
ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจทิ ัลในการเผยแพร่และจําหนา่ ยผลิตภณั ฑ์
2) พฒั นาและคัดเลือกสุดยอดสนิ คา้ และลติ ภณั ฑ์ กศน. ในแตล่ ะจังหวดั พรอ้ มทงั้ ประสานความร่วมมือกบั
สถานบี ริการนํา้ มนั ในการเปน็ ซอ่ งทางการจําหน่ายสุดยอดสินค้าและผลิตภณั ฑ์ กศน.ให้กว้างขวางยง่ิ ขน้ึ
3 ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสรา้ งศกั ยภาพทรพั ยากรมนษุ ย์
3.1 พัฒนาครูและบุคลากรท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั การจัดกิจกรรมและการเรียนรู้ เปน็ ผู้เช่ือมโยงความรกู้ บั
ผู้เรียนและผู้รับบริการ มคี วามเปน็ "ครูมอื อาชีพ" มีจิตบรกิ าร มีความรอบรู้และทันต่อการเปล่ยี นแปลงของสงั คมและ
เป็น "ผูอ้ าํ นวยการการเรียนรู้" ท่สี ามารถบรหิ ารจัดการความรู้ กจิ กรรม และการเรียนรู้ท่ีดี
1) เพ่มิ อัตราขา้ ราชการครูให้กบั กศน. อําเภอทุกแหง่ โดยเรง่ ดําเนนิ การเร่ืองการหาอตั ราตําแหน่ง
การสรรหา บรรจุ และแต่งต้ัง ข้าราชการครู
2) พัฒนาข้าราชการครูในรูปแบบครบวงจร ตามหลักสูตรทีเ่ ชือ่ มโยงกับวิทยฐานะ
3) พฒั นาครู กศน.ตาํ บลใหส้ ามารถปฏิบตั งิ านไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ โดยเนน้ เรือ่ งการพัฒนาทกั ษะการจัดการ
เรยี นการสอนออนไลน์ ทักษะภาษาต่างประเทศ ทักษะการจัดกระบวนการเรยี นรู้
4) พฒั นาศึกษานเิ ทศก์ ให้สามารถปฏบิ ัตกิ ารนเิ ทศไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
5) พฒั นาบุคลากร กศน.ทกุ ระดบั ทุกประเภทให้มที ักษะความรเู้ รอื่ งการใชป้ ระโยชน์จากดจิ ิทลั และ
ภาษาต่างประเทศท่ีจําเป็น
3.2 พัฒนาแหล่งเรยี นรใู้ หม้ บี รรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อตอ่ การเรยี นรู้ มีความพรอ้ มในการใหบ้ รกิ าร
กจิ กรรมการศกึ ษาและการเรียนรู้ เป็นแหล่งสารสนเทศสาธารณะทง่ี ยต่อการเข้าถึง มบี รรยากาศท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้
เป็นคาเพ่พนื้ ที่การเรียนรูส้ าํ หรบั คนทกุ ชว่ งวยั มีสิ่งอาํ นวยความสะดวก มีบรรยากาศสวยงามมีชีวิต ทด่ี ึงดูดความสนใจ
และมีความปลอดภยั สาํ หรับผู้ใชบ้ ริการ
1) เร่งยกระดบั กศน.ตาํ บลนําร่อง 928 แห่ง (อําเภอละ 1 แหง่ ) ใหเ้ ป็น กศน.ตาํ บล 5 ดี พรีเมี่ยม
ทีป่ ระกอบดว้ ย ครูดี สถานท่ีดี (ตามบรบิ ทของพ้ืนท่ี) กจิ กรรมดี เครอื ข่ายดี และมีนวัตกรรมการเรียนรู้ท่ีดมี ปี ระโยชน์
2) จดั ใหม้ ศี ูนย์การเรียนรูต้ น้ แบบ กศน. เพ่อื ยกระดบั การเรียนรู้ ใน 6 ภมู ิภาค เปน็ พน้ื ท่ีการเรยี นรู้
(Co - Learning Space) ที่ทันสมัยสาํ หรับทกุ คน มีความพร้อมในการให้บริการตา่ ง ๆ อาทิ พื้นทีส่ ําหรบั การทํางาน/
การเรียนรู้ พืน้ ที่สาํ หรับกิจกรรมตา่ ง ๆ มีห้องประชุมขนาดเลก็ รวมทงั้ ทาํ งานรว่ มกับหอ้ งสมุดประชาชนในการ
ให้บรกิ ารในรปู แบบห้องสมดุ ดิจิทลั บริการอินเทอรเ์ น็ต สื่อมัลติมีเดีย เพอื่ รองรบั การเรียนรแู้ บบ Active Learning
3) พฒั นาห้องสมุดประชชน "เฉลิมราชกมุ ารี" ให้เป็น Digital Library โดยใหม้ ีบริการหนังสือ
ในรปู แบบ e - Book บริการคอมพวิ เตอร์ และอินเทอรเ์ น็ตความเร็วสูง รวมทัง้ Free Wifi เพื่อการสบื ค้นข้อมลู
3.3 สง่ เสรมิ การจัดการเรียนรู้ทท่ี ันสมัยและมปี ระสิทธิภาพ เอือ้ ต่อการเรียนรู้สาํ หรับทุกคน สามารถ
เรียนได้ทุกท่ีทุกเวลา มกี จิ กรรมทห่ี ลากลาย นา่ สนใจ สนองตอบความต้องการของชมุ ชน เพือ่ พฒั นาศักยภาพ
การเรียนรขู้ องประชาชน รวมท้ังใชป้ ระโยชน์จากประชาชนในชมุ ชนในการร่วมจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เพื่อเชอ่ื มโยง
ความสมั พันธ์ของคนในชมุ ชนไปสูก้ ารจดั การความรูข้ องชมุ ชนอยา่ งยั่งยนื
1) สง่ เสรมิ การจดั กจิ กรรมการเรียนร้ทู ี่ปลูกฝงญ คุณธรรม สร้างวินยั จิตสาธารณะ ความรับผดิ ชอบ
13
ต่อสว่ นรวม และการมีจิตอาสา ผา่ นกิจกรรมรปู แบบต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมลกู เสือ กศน. กิจกรรมจติ อาสา ตลอดจน
สนบั สนุนให้มีการจัดกจิ กรรมเพ่อื ปลูกฝญงคุณธรรม จรยิ ธรรมใหก้ บั บุคลากรในองค์กร
2) จัดให้มหี ลกั สูตรลูกเสือมัคคเุ ทศก์ โดยใหส้ าํ นักงาน กศน.จังหวัดทกุ แหป่ กทม. จดั ตั้งกองลูกเสือ
ที่ลูกเสอื มีความพรอ้ มด้านทักษะภาษาต่างประเทศ เปน็ ลูกเสือมคั คุเทศกจ์ ังหวดั ละ 1 กอง เพือ่ ส่งเสริมลูกเสอื จิตอาสา
พฒั นาการท่องเทย่ี วในแต่ละจังหวดั
3.4 เสรมิ สร้างความร่วมมือกับภาคเี ครอื ขา่ ย ประสาน ส่งเสริมความร่วมมือภาคีเครือข่าย ทง้ั ภาครัฐเอกชน
ประชาสังคม และองคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ รวมทั้งสง่ เสริมและสนับสนุนการมีส่วนรว่ มของชมุ ชนเพอื่ สร้างความ
เข้าใจ และให้เกิดความรว่ มมือในการส่งเสริม สนับสนุน และจดั การศึกษาและการเรยี นร้ใู หก้ บั ประชาชนอย่างมี
คุณภาพ
1) เร่งจัดทําทําเนยี บภูมปิ ญหหาท้องถิน่ ในแต่ละตําบล เพ่ือใช้ประโยชน์จากภูมิปญหหาท้องถิ่นในการสร้างการ
เรียนรู้จากองค์ความรู้ในตวั บคุ คลให้เกดิ การถ่ายทอดภูมปิ ญหหา สรา้ งคุณคา่ ทางวฒั นธรรมอยา่ งย่งั ยนื
2) ส่งเสรมิ ภมู ปิ ญหหาทอ้ งถ่ินสู่การจดั การเรยี นรูช้ มุ ชน
3) ประสานความรว่ มมือกบั ภาคีเครือขา่ ยเพอ่ื การขยายและพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศยั ใหเ้ ข้าถงึ กลมุ่ เป้าหมายทุกกลุ่มอย่างกวา้ งขวางและมีคุณภาพ อาทิ กลุม่ ผ้สู ูงอายุ กลุ่ม อสม.
3.5 พัฒนานวตั กรรมทางการศกึ ษาเพ่ือประโยชน์ตอ่ การจดั การศกึ ษาและกลมุ่ เป้าหมาย
1) พฒั นาการจดั การศกึ ษาออนไลน์ กศน. ท้ังในรูปแบบของการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน การพัฒนาทกั ษะ
ชวี ิตและทักษะอาชพี การศึกษาตามอัธยาศยั รวมทงั้ การพัฒนาชอ่ งทางการค้าออนไลน์
2) สง่ เสรมิ การใชเ้ ทคโนโลยใี นการปฏบิ ัตงิ าน การบรหิ ารจัดการ และการจดั การเรยี นรู้
3) ส่งเสรมิ ให้มีการใช้การวิจัยอยา่ งงา่ ยเพ่ือสรา้ งนวตั กรรมใหม่
3.6 พัฒนาศักยภาพคนด้านทักษะและความเขา้ ใจในการใชเ้ ทคโนโลยดี ิจทิ ัล (Digital Literacy)
1) พัฒนาความรูแ้ ละทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครแู ละบุคลากรทางการศึกษา เพื่อพัฒนา
รูปแบบการจัดการเรียนการสอน
2) ส่งเสริมการจัดการเรียนรูด้ ้านเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั เพือ่ ให้ประชาชนมีทกั ษะความเข้าใจและ
ใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ัลท่ีสามารถนําไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาํ วนั รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับตนเองได้
3.7 พัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศเพ่ือการส่ือสารของประชาชนในรปู แบบตา่ ง ๆ
อย่างเป็นรปู ธรรม โดยเนน้ ทกั ษะภาษาเพ่ืออาชีพ ท้ังในภาคธรุ กจิ การบริการ และการท่องเท่ียว รวมทั้ง
พัฒนาสอ่ื การเรียนการสอนเพอ่ื สง่ เสรมิ การใชภ้ าษาเพื่อการสอ่ื สารและการพัฒนาอาชีพ
3.8 เตรียมความพรอ้ มการเข้าสสู่ งั คมผูส้ งู อายุทเ่ี หมาะสมและมีคุณภาพ
1) ส่งเสริมการจดั กิจกรรมให้กบั ประชาชนเพ่ือสรา้ งความตระหนักถึงการเตรยี มพร้อมเข้าสสู่ ังคมผสู้ งู อายุ
(Aging Society) มีความเขา้ ใจในพัฒนาการของชว่ งวยั รวมท้ังเรียนร้แู ละมสี ่วนรว่ มในการดแู ล
รบั ผดิ ชอบผู้สูงอายุในครอบครวั และชุมชน
2) พัฒนาการจดั บรกิ ารการศึกษาและการเรียนรสู้ าํ หรบั ประชาชนในการเตรียมความพร้อม
เข้าสู่วยั สงู อายุท่ีเหมาะสมและมคี ุณภาพ
3) จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตสาํ หรับผูส้ ูงอายุภายใตแ้ นวคดิ "Active Aging"การศกึ ษาเพื่อพฒั นา
คณุ ภาพชวี ติ และพฒั นาทักษะชีวติ ให้สามารถดูแลตนเองทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจติ และรูจ้ ักใชป้ ระโยชน์จาก
เทคโนโลยี
4) สรา้ งความตระหนกั ถงึ คุณค่าและศกั ด์ิศรขี องผู้สงู อายุ เปดิ โอกาสใหม้ ีการเผยแพรภ่ มู ิปญหหาของผู้สูงอายุ
และให้มสี ่วนร่วมในกิจกรรมด้านต่าง ๆ ในชุมชน เช่น ดา้ นอาชีพ กีฬา ศาสนาและวฒั นธรรม
14
5) จดั การศึกษาอาชีพเพื่อรองรบั สงั คมผู้สูงอายุ โดยบรู ณาการความร่วมมือกับหนว่ ยงานทีเ่ กย่ี วข้อง ในทุก
ระดับ
3.9 การส่งเสริมวิทยาศาสตร์เพือ่ การศึกษา
1) จัดกจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์เชิงรกุ และเนน้ ให้ความรู้วทิ ยาศาสตรอ์ ย่างง่ายกบั ประชาชนในชุมชน
ทง้ั วทิ ยาศาสตรใ์ นวิถชี วี ิต และวทิ ยาศาสตร์ในชีวิตประจําวนั
2) พัฒนาสื่อนิทรรศการเละรูปแบบการจัดกิจกรรมทางวทิ ยาศาสตร์ให้มีความทันสมยั
3.10 สง่ เสรมิ การรู้ภาษาไทยใหก้ บั ประชาชนในรปู แบบต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพ้นื ทีส่ ูง
ให้สามารถฟญง พูด อ่าน และเขียนภาษาไทย เพื่อประโยชในการใช้ชีวิตประจําวันได้
4 ยทุ ธศาสตร์ตน้ การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม
4.1 จดั ตั้งศนู ย์การเรียนรสู้ าํ หรับทกุ ชว่ งวยั ทเ่ี ป็นศูนยก์ ารเรียนรู้ตลอดชีวติ ที่สามารถให้บริการ
ประชาชนไดท้ ุกคน ทุกช่วงวยั ทมี่ ีกิจกรรมท่หี ลากหลาย ตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ในแตล่ ะวัย
และเป็นศูนย์บริการความรู้ ศูนยก์ ารจดั กิจกรรมที่ครอบคลุมทกุ ช่วงวยั เพื่อใหม้ ีพัฒนาการเรียนรูท้ ่ีเหมาะสม
และมคี วามสขุ กับการเรียนรูต้ ามความสนใจ
1) เร่งประสานกบั สาํ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน เพือ่ จดั ทาํ ฐานข้อมลู โรงเรยี นทถี่ กู ยบุ รวม หรือ
คาดวา่ น่าจะถกู ยุบรวม
2) ใหส้ าํ นกั งาน กศน.จงั หวดั ทกุ แหง่ ท่ีอยใู่ นจังหวัดทีม่ โี รงเรียนทีถ่ ูกยบุ รวม ประสานขอใช้พืน้ ท่เี พ่ือจดั ตั้งศนู ย์
การเรียนรู้สําหรับทุกชว่ งวยั กศน.
4.2 ส่งเสริมและสนบั สนุนการจดั การศกึ ษาและการเรยี นรู้สําหรบั กลุ่มเปา้ หมายผู้พิการ
1) จดั การศึกษาข้นั พน้ื ฐาน การศกึ ษาเพ่ือพัฒนาทักษะชวี ิตและทักษะอาชีพ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย โดย
เนน้ รูปแบบการศึกษาออนไลน์
2) ให้สาํ นักงาน กศน.จงั หวัดทกุ แห่ง/กทม. ทาํ ความรว่ มมือกบั ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจําจังหวัด ในการใช้
สถานท่ี วสั ดุอปุ กรณ์ และครุภณั ฑ์ดา้ นการศึกษา เพื่อสนับสนนุ การจัดการศึกษาและการเรียนรู้สาํ หรับกล่มุ เปา้ หมายผู้
พกิ าร
4.3 ยกระดบั การศึกษาให้กบั กลุม่ เป้าหมายทหารกองประจําการ รวมท้งั กลุ่มเป้าหมายพิเศษอน่ื ๆ อาทิ
ผู้ตอ้ งขงั คนพิการ เด็กออกกลางคัน ประชากรวยั เรยี นท่ีอยนู่ อกระบบการศกึ ษาใหจ้ บการศกึ ษานอกระบบระดบั
การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน สามารถนําความรู้ท่ไี ด้รับไปพฒั นาตนเองไดอ้ ย่างต่อเนื่อง
4.4 พฒั นาหลกั สูตรการจดั การศึกษาอาชีพระะสั้น ให้มีความหลากหลาย ทันสมยั เหมาะสมกับบรบิ ทของ
พน้ื ท่ี และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผู้รบั บริการ
5. ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการสร้างการเตบิ โตบนคุณภาพชวี ติ ทีเ่ ปน็ มติ รต่อสงิ่ แวดลอ้ ม
5.1 สง่ เสรมิ ให้มกี ารให้ความรู้กบั ประชาชนในการรบั มือและปรับตัวเพื่อลดความเสยี หายจากภัยธรรมชาตแิ ละ
ผลกระทบทีเ่ กยี่ วข้องกบั การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
5.2 สร้างความตระหนักถงึ ความสาํ คหั ของการสรา้ งสังคมสีเขยี ว ส่งเสริมความรใู้ ห้กับประชาชนเก่ยี วกับการ
คัดแยกต้ังแต่ต้นทาง การกาํ จัดขยะ และการนํากลับมาใชช้ ํ้า เพ่อื ลดปรมิ าณและตน้ ทุนในการจัดการขยะของเมือง และ
สามารถนาํ ขยะกลบั มาใช้ประโยชนไ์ ด้โดยงา่ ย รวมทง้ั การจัดการมลพิษในชุมชน
5.3 สง่ เสรมิ ใหห้ นว่ ยงานและสถานศึกษาใชพ้ ลงั งานท่ีเป็นมิตรกับส่งิ แวดลอ้ ม รวมทัง้ ลดการใช้ทรพั ยากรท่ี
สง่ ผลกระทบต่อส่งิ แวดลอ้ ม เชน่ รณรงค์เรอ่ื งการลดการใช้ถุงพลาสติก การประหยัดไฟฟ้า เปน็ ต้น
6. ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการปรับสมดุลและพัฒนาระบบหารบรหิ ารจัดการภาครัฐ
6.1 พฒั นาและปรบั ระบบวิธกี ารปฏบิ ัตริ าชการให้ทันสมยั มคี วามโปร่งใส ปลอดการทจุ รติ บรหิ ารจดั การบน
ขอ้ มลู และหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ มุ่งผลสัมฤทธิ์มีความโปร่งใส
15
6.2 นํานวตั กรรมและเทคโนโลยรี ะบบการทํางานที่เป็นดจิ ิทลั มาใช้ในการบริหารและพัฒนางานสามารถ
เช่ือมโยงกบั ระบบฐานข้อมลู กลางของกระทรวงศกึ ษาธิการ พรอ้ มทง้ั พฒั นาโปรแกรมออนไลนท์ ี่สามารถเช่ือมโยงข้อมลู
ตา่ ง ๆ ทที่ าํ ให้การบริหารจดั การเป็นไปอย่างต่อเนื่องกันตัง้ แตต่ ้นจนจบกระบวนการและให้ประชาชนกลมุ่ เปา้ หมาย
สามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารได้อยา่ งทนั ที ทกุ ท่แี ละทุกเวลา
6.3 ส่งเสริมการพฒั นาบุคลากรทุกระดบั อย่างต่อเนอื่ ง ให้มคี วามรู้และทักษะตามมาตรฐานตาํ แหน่ง ให้ตรงกับ
สายงาน ความชํานาห และความตอ้ งการของบุคลากร
เอกสารท่ีเกีย่ วข้อง
Facebook
Facebook เริ่มมายงั ไง? หลายๆคนในคณะใช้ Facebook กัน ไม่ว่าจะเป็นการตดิ ต่อระหว่างเพ่อื นฝงู เล่น
เกมส์ หรอื อะไรอีกหลายอยา่ ง แต่มี ใครร้บู ้างวา่ Facebook เกิดมาไดย้ งั ไง เรอ่ื งราวของ Facebook เร่ิมจากนกั ศึกษา
เบยี ร์ สตั วต์ า่ งๆ การ Hack และการโดนจับ ซง่ึ ดจู ากการเริ่มตน้ ของ Facebook แล้วก็ Amazing มากๆวา่ มาไกลถงึ
ขนาดนี้ (ผู้ใช้งาน 400 ลา้ นคน) ในเวลาแค่ 6 ปี
Mark Zuckerberg
Facebook ก่อต้ังโดย Mark Zuckerberg พร้อมกบั เพอื่ นท่ีเรยี นด้วยกันที่ Harvard คือ Dustin
Moskovitz, Eduardo Saverin, and Chris Hughes ความคดิ ท่จี ะทํา Facebook มาจาก เมื่อตอน Mark เรียน
มัธยมอยู่ ซ่ึง ตอนนั้นท่โี รงเรียนมีการถา่ ยรูปนักเรยี นและอาจารย์เก็บเอาไว้ เรียกว่า "facebook" (หรอื หนงั สือหน้า
นัน่ เอง) ประวตั ิ Mark Zuckerbergผกู้ อ่ ตัง้ facebook
Mark Zuckerberg มารค์ ซคั เคอรเ์ บิร์ก (มาร์ก สากกระเบือ) แฮก็ เกอร์หนุม่ จากฮาร์วาร์ดผกู้ ่อตัง้ Facebook
เครอื ข่ายสังคมออนไลน์ขนาดใหหส่ ดุ ของโลกจนโด่งดงั เปร้ียงปร้างไปท่ัว และได้รับการจัดอันดบั จากนิตยสารไทมใ์ ห้
เปน็ บุคคลท่ที รงอิทธพิ ลทส่ี ดุ ของโลก ประจําปี 2008 ขณะอายเุ พียง 23 ปโี ดยปจญ จบุ นั มผี ูใ้ ชเ้ ฟซบุ๊กมากกวา่ 400 ล้าน
คน นบั ต้ังแต่เริม่ ก่อตั้งเม่ือ 6ปกี ่อน วนั ที่ 4 ก.พ. ปี 2004ยอ้ นกลบั ไปในวยั เดก็ “มาร์ค” มีชีวติ แสนจะธรรมดา เขาเกดิ
ในครอบครวั อเมริกนั เชอ้ื สายยวิ เมอื่ วนั ท่ี 14พ.ค. ปี 1984 โตมาในยา่ น ดอบสเ์ ฟอรร์ ี รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมรกิ ามีพ่อ
เปน็ หมอฟญนและนักจติ วิทยา ชวี ติ วัยเด็กของเขาค่อนขา้ งจะสขุ สบายไมเ่ คยผ่านความลาํ บากยากจน เขามพี ่ีน้อง 4 คน
ทว่า เป็นลูกชายคนเดียวของบ้านเปน็ เดก็ เรียนเกง่ ออกแนวเนริ ์ดๆ ชอบขลกุ อยู่แตใ่ นห้องไอเดยี สาํ คหั ทจี่ ุดประกายให้
16
นักศกึ ษาวชิ าคอมพวิ เตอรว์ ัย 20 ปีคนน้ี ลกุ ข้นึ ทําเฟซบุก๊ เกิดจากความหมกมนุ่ อยู่กับเรือ่ งคอม พิวเตอร์และการเขียน
โปรแกรม จนค้นพบปญหหาว่ามหาวทิ ยาลยั ระดบั โลกอยา่ งฮาร์วารด์ ไม มีระบบหนงั สอื รนุ่ ทางออนไลน์ เขาจงึ นาํ ไอเดยี
ไปเสนอเพอ่ื ขอจดั ทําแต่กลบั ถกู มหาวทิ ยาลยั ปฏเิ สธ โดยบอกวา่ ไมม่ นี โยบายใหน้ ักศึกษาเขา้ ถึงข้อมูลดังกล่าวกระนั้น
ด้วยความคันไม้คันมือ และอยากเอาชนะเขาจึงสวมวิหหาณแฮ็กเกอรเ์ จาะเขา้ ไปในระบบทะเบียนประ วัตนิ ักศึกษาของ
ฮารว์ ารด์ ดึงรปู นักศกึ ษาและประวตั ิส่วนตวั จากฐานขอ้ มูลมหาวทิ ยาลัยมาใส่ในเวบ็ ไซต์ Facemashพร้อมกันน้ียงั เชหิ
ชวนเพือ่ นๆนกั ศกึ ษาเลน่ เกม Hot or Not โดยโพสต์รูปนกั ศึกษาให้เพื่อนๆเข้ามาชว่ ยกันโหวตวา่ ใครฮอต หรอื ไม่ฮอต
ผลตอบรับดเี กนิ คาดเพราะภายในเวลาแค่ 4 ชว่ั โมง มีนักศึกษาเข้ามาโหวตถึง 450 คน สร้างสถิติคลกิ ชม22,000 คร้ัง
แต่แทนที่จะไดร้ บั เสียงชมจากอาจารยเ์ ขากลบั ถูกมหาวิทยาลัยลงโทษระงบั การใชอ้ นิ เตอรเ์ นต็ เหตกุ ารณ์ที่เกิดข้นึ
กลายเปน็ แรงบันดาลใจใหเ้ ขาลุยตอ่ เพื่อสรา้ ง Facebook โดยเขานง่ั เขยี นโปรแกรมอยใู่ นหอพักมหาวิทยาลัยและไดร้ ับ
ความช่วยเหลือจากรมู เมต“ดัสตนิ มาสโควิตซ์”ซึ่งภายหลังได้กลายมาเปน็ ผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุก๊ และร้ังตาํ แหน่งวีพีด้านเอน
จิเนยี ริ่งแรกเริม่ เขาพยายามเชหิ ชวนเพอ่ื นๆนกั ศึกษาส่งรูปและข้อมูลส่วนตวั เขา้ มาโพสต์บนเวบ็ ไซต์ ซึง่ มีคนสง่ รูปเข้า
มาถงึ 500 รปู ตอ่ มาได้พฒั นาโปรแกรมโดยสร้างเว็บเพจให้เพ่อื นร่วมชน้ั สามารถส่งอเี มล์เข้ามาชว่ ยกันเขียนความคิด
เหน็ และเพ่ิมเติมประวตั ิได้อย่างไมจ่ าํ กดั ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดจี ากเว็บไซตเ์ พ่ือสรา้ งสัมพันธใ์ นหมูน่ ักศึกษา
ฮารว์ ารด์ จึงขยายความฮติ ฮอตไปยงั มหาวทิ ยาลยั อ่ืนๆกวา่ 30 สถาบนั ชวี ิตของเขาต้องมาถงึ ทางแยกเมอ่ื เขากบั เพ่ือนๆ
ชวนกันเดินทางไปดูลาดเลาท่ีพาโล อัลโต ซงึ่ เปน็ ซิลิคอน วัลเลย์ในรฐั แคลฟิ อรเ์ นยี เพอ่ื หาเงินลงทุนก่อตั้งบริษทั และ
พฒั นาเวบ็ ไซต์ ตอนนนั้ พวกเขายงั มีแผนจะกลับมาเรียนตอ่ ในชว่ งเปิดเทอม แตท่ า้ ยสุดเมื่อได้รับไฟเขียวอนุมตั เิ งนิ ลงทุน
ถึง 500,000 ดอลลาร์สหรฐั ฯ ภาพของ “บิลลเ์ กตส์”ผสู้ ร้างตํานานลาออกจากฮาร์วาร์ด เพ่อื มาสร้างไมโครซอฟท์ จงึ ผุด
ข้นึ ตรงหนา้ ทาํ ให้ตดั สนิ ใจทง้ิ ปริหหา และบอกกับตวั เองว่าถ้าไมโครซอฟท์เจง๊ เม่ือไหร่…จะกลับไปเรียนฮาร์วาร์ดทนั ที
ประวัติ LINE
เคยสงสยั กนั บา้ งมัย้ คะวา่ แอพพลิเคชน่ั LINE ท่เี ราใช้แชทกับเพ่ือนในโทรศัพทม์ ือถือ (หรือในคอมพวิ เตอร์) นั้นมีประวัติ
ความเปน็ มาอย่างไร
LINE Application น้นั เป็นโปรแกรมที่ถูกสรา้ งข้นี ในชว่ งกลางปี 2010 โดยการรว่ มมอื ของบริษัท Naver Japan
Corporation และบริษัท livedoor โดยมี NHN Japan เปน็ ผูพ้ ฒั นาฟีเจอรต์ า่ งๆ ของไลน์ และในส่วนของการตลาด
ดา้ นธุรกิจนน้ั ยกให้บรษิ ัทแม่ท่ีเกาหลี NHN Corporation จดั การ หลงั จากทีเ่ ปิดตัวได้เพียงไมน่ าน ก็ได้รับการตอบรับ
ถึงหลายสบิ ลา้ นยสู เซอร์ในหี่ปุ่น ประเด็นแรกท่ใี ชใ้ นการสรา้ งโปรแกรมแชท LINE ขึน้ มากม็ ีสาเหตมุ าจากเหตุการณ์
แผน่ ดินไหวทภี่ มู ภิ าค Tohoku เมือ่ ต้นปี 2011 น่ันเอง ในตอนนน้ั ระบบการติดต่อทางการโทรศัพท์ล่มอย่างไมเ่ ป็นทา่
ทําให้ NHN Japan ตดั สนิ ใจออกแบบ App ที่สามารถใช้ได้ท้งั บนมือถือ บนแท็บเลต็ และคอมพวิ เตอร์พีซี ซ่งึ จะ
ทํางานบนเครือข่ายขอ้ มลู ที่สามารถแชทตอบโต้ไดร้ วดเร็วและตอ่ เน่ือง
17
ด้วยความท่ีไลนม์ ีคณุ สมบัติของโปรแกรมแชทครบถว้ น ตง้ั แต่ แชท ส่งไฟล์รูป ไฟลว์ ดิ ีโอ ไฟลเ์ สียง ระบบการค้นหา
เพอ่ื นดว้ ย QR Code หรือจะเกมไวค้ ลายเครยี ด ยังมีอีกสิง่ หนึ่งที่ถอื ไดว้ า่ เปน็ จดุ เด่นของแอพพลเิ คชน่ั น้ีก็ว่าไดค้ ่ะ น่นั ก็
คอื “Sticker” น่ันเอง และในตอนนี้เราจะมาพดู ถึงเรื่อง “สติกเกอร์” กันนะคะ โดยจะขอแนะนําตัวการ์ตูนหลักๆ ของ
สติกเกอร์ในไลนท์ ี่เป็นมาสค็อตท่ีเหน็ กันบ่อยๆ และคิดวา่ ทุกคนต้องเคยใช้มาแล้วมาเร่ิมจาก
Moon เป็นสติกเกอร์หัวกลม ตัวสขี าว เปน็ สตกิ เกอร์พนื้ ฐานของผเู้ ลน่ ไลน์กันเลยทเี ดยี ว เพราะมแี ทบจะทุกอารมณ์ทผ่ี ู้
เลน่ ต้องการ สติกเกอร์ตัวนป้ี ฏเิ สธไม่ไดเ้ ลยวา่ ผู้เลน่ ไลนต์ อ้ งใชก้ นั อยา่ งน้อยคนละ 2 คร้งั แน่ๆ
Cony เป็นสติกเกอร์กระต่ายสีขาว หูด้านในสชี มพู ดว้ ยความท่ีเปน็ กระต่ายและแสดงอีโมชัน่ ผา่ นทา่ ทางและใบหนา้
ออกมาไดน้ า่ รัก หลายๆ คนจึงชอบใชส้ ติกเกอร์โคนก่ี ัน โคนี้มักจะมาพร้อมกบั บราวน์
18
Brown เป็นหมีสนี ้าํ ตาล หน้าน่ิงแต่แสดงอารมณ์ออกมาทางการกระทําไดน้ ่ารักมากๆ ค่ะ แตก่ ็มกี ลุ่มคนไมน่ ้อยทช่ี ืน่
ชอบความแบ๊วซื่อๆ ของเจ้าสตกิ เกอร์ตวั นี้ และบราวนม์ ักจะมีสตกิ เกอร์ค่กู บั โคนี่
James เป็นสตกิ เกอรห์ นุ่มเจ้าสาํ อาง มีจุดเด่นคอื เป็นคนจริงๆ และผมสีทอง มาในชดุ เส้ือขาว กางเกงดาํ ชอบทําหนา้
แบบหลงตัวเอง เจมสเ์ ป็นอีกหนึง่ สตกิ เกอรท์ ีเ่ ป็นที่นยิ มมากเพราะ “ความฮา” ของเคา้ น่แี หละค่ะ ไมว่ ่าจะทําหนา้ หล่อ
หรือแม้แต่ท่านอนตายแบบส้ินหวัง เจมส์มีหมด
และ Sally เปด็ เหลืองตัวจวิ๋ มักจะมาแจมกับคาแร็กเตอรต์ วั อน่ื ๆ อยูเ่ สมอ
19
นอกจากน้ี คาแรคเตอรห์ ลักของไลนย์ ังถูกนําไปเป็นอนิเมช่ันในชื่อ Line Offline Salaryman Stamp
อนิเมไลน์นเ้ี ริ่มฉายเมอื่ วันท่ี 7 มกราคม 2013 ทางโตเกยี วทวี ี ใน 1 ตอนจะมีความยาวเพียงแค่ 4 นาทเี ท่านัน้ ชว่ งเวลา
การฉายอยทู่ ี่ 01.30 – 01.35 น. ตามเวลาหปี่ ุ่นนะคะ คาแรค็ เตอร์ไลนแ์ ตล่ ะตัวจะถกู สร้างขน้ึ มาใหเ้ ป็นพนักงาน
เงนิ เดอื น ปญจจุบนั มีหลายตอนแล้ว
ลา่ สดุ นี้ ทาง NAVER ไดม้ กี ารฉลองใหก้ ับผู้ใชง้ านไลน์เกิน 100 ล้านคน ดว้ ยการแจกสติกเกอร์ 7 วนั 7 แบบให้ไป
สะสมกับฟรๆี โดยไมเ่ สยี เงินค่ะ โดยวธิ ีการโหลดคอื 1 วนั ตอ่ 1 คาแร็คเตอร์ ต้ังแต่วันท่ี 18-24 มกราคม 2556 ลาย
ของสติกเกอรท์ แี่ จกมีดังนี้ค่ะ
LINE เผยประวตั ิความสาเรจ็ และขอ้ มูลสถติ ิล่าสุดของผู้ใช้งานทัว่ โลก
1. จาํ นวนผ้ใู ช้
– ห่ปี ่นุ : 41.51 ลา้ น, ไทย: 12.27 ลา้ น, ไตห้ วนั : 11.83 ลา้ น, ประเทศอ่นื ๆ: 34.39 ลา้ น
– สัดส่วนระหวา่ งหี่ปุ่น ตอ่ ประเทศอื่นๆ = 4:62. ทอ๊ ป 5 ประเทศ (จากจาํ นวนผใู้ ช้มากสุด)
– ห่ีปุ่น ไทย ไต้หวนั เกาหลี สเปน
2. ประเทศและภูมภิ าคท่ี LINE ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแอพฯ อันดับ 1 โดย App Store/Google Play (ในประเภท
แอพฯ ฟร)ี
– เอเชยี
– หป่ี นุ่ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน สิงคโปร์ ไทย มาเลเซยี กัมพูชา ลาว ครี ์กซิ สถาน ตุรกี บาร์เรน อุซเบกิสถาน
คาซคั สถาน จอร์แดน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต อิสราเอล การตา้ ร์ ซาอุดิ อาเรเบีย โอมาน
– ยโุ รป
– รัสเซีย เบลารสู สเปน สวิสเซอรแ์ ลนด์
20
– อเมรกิ าเหนือ
– โดมินิแคน รพี ับลคิ เอล ซาวาดอร์ ปานามา ฮอนดรู ัส
– อเมริกาใต้
– เอควาดอร์ เวเนซเู อล่า อาร์เจนตนิ ่า เปรู ชิลี โบลิเวีย ปารากวยั อุรกุ วยั
– แอฟริกา
– มาลิ แองโกลา่
– โอเชียนา่
– ปาปญวนิวกนิ ี
3. ความถ่ใี นการใช้งาน
80.3% ตอ่ เดือน (นับถึงเดือนธนั วาคม 2555)
4. จาํ นวนผลู้ งทะเบียนใชง้ านสงู สดุ ตอ่ วนั
600,000 คน (นับถึงวันที่ 16 ธนั วาคม 2555)
5. รางวลั ทไ่ี ด้รบั
– รางวัล iTunes ยอดเย่ียมประจําปี 2555 : อันดับ 1 ประเภทฟรีแอพลเิ คช่นั (ประเทศห่ปี ุ่น)
– รางวลั iF ดไี ซน์ ปี 2556 : รางวัลสอื่ โฆษณา
– รางวลั ดีไซนด์ เี ยีย่ มเหรียหทอง ปี 2555
– รางวัลเทรนด์ Shogakukan Dime ปี 2555
– รางวลั ทีมงานยอดเยย่ี ม ปี 2555
– รางวัล AMD Digital Contents ครงั้ ท่ี 17 ประจําปี 2556
– รางวัล Nikkei Sangyo Shimbun: Nikkei Superior Products Service ปี 2555
– รางวลั Nikkei MJ Hit Products ปี 2555
– รางวัล Nikkei Trendy: Hit Products ปี 2555 : อนั ดับ 2 จาก 30 ลาํ ดับ
– รางวัล Top Worldwide in Non-Game Apps by Monthly Revenues for iOS/Google Play
(พฤศจิกายน 2555)
– รางวลั elEconomista: Nominated for Best Technology (ประเทศสเปน)
– รางวัล EL PAIS: Nominated for Best Trend (ประเทศสเปน)
6. ขอ้ มูลสาํ คหั เกีย่ วกับแอพฯของ LINE
– มีจํานวนทง้ั หมด 24 แอพฯ (ไม่รวมแอพฯบนเวบ็ ไซต์)
– จาํ นวนยอดดาวน์โหลดสงู ถงึ 100 ล้าน
7. อันดบั ความนิยมของสต๊กิ เกอรท์ วั่ โลก
บทที่ 3
วิธีการดาเนินงาน
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อําเภอสัตหบี ได้เห็นความสําคัหของโครงการอบรม
หลักสูตรการเขา้ ใจดิจิทัล (Digital Literacy Curriculum) จงึ ได้ให้ กศน.ตาํ บลพลตู าหลวง จดั ทําโครงการอบรม
หลักสตู รการเขา้ ใจดจิ ทิ ลั (Digital Literacy Curriculum) ประชาชนทั่วไป ในพ้ืนท่ีตาํ บลพลตู าหลวงมีขั้นตอนดังน้ี
1.ประชมุ บุคลากรกรรมการ กศน.ตาํ บลพลูตาหลวง
2.จดั ตั้งคณะทํางาน
3.ประสานงานกับผเู้ รียน/วทิ ยากรผ้สู อน
4.ดําเนินงานตามแผน
5.วัดผล/ประเมนิ ผล/สรปุ ผลและรายงาน
1. ประชุมบุคลากรกรรมการ กศน.ตาบลพลูตาหลวง
กศน.ตําบลพลูตาหลวง ไดว้ างแผนประชุมบุคลากรกรรมการ กศน.ตําบลพลตู าหลวง เพ่ือหาแนวทางในการ
ดาํ เนินงานและกาํ หนดวตั ถปุ ระสงค์รว่ มกัน
2. จัดตัง้ คณะทางาน
จัดทําคาํ สงั่ แต่งตั้งคณะทํางานโครงการ เพ่ือมอบหมอบหมายหน้าทใ่ี นการทาํ งานใหช้ ัดเจน เชน่
2.1 คณะกรรมการที่ปรกึ ษา/อํานวยการ มีหน้าท่ีอาํ นวยความสะดวก และให้คําปรึกษาแก้ไขปญหหา
ทเ่ี กิดข้ึน
2.2 คณะกรรมการฝา่ ยประชาสัมพันธ์ มหี นา้ ที่ประชาสัมพันธร์ ับสมคั รผ้เู ขา้ รว่ มโครงการ
2.3 คณะกรรมการฝา่ ยรับลงทะเบยี นและประเมนิ ผลหน้าท่จี ัดทําหลักฐานการลงทะเบียนผู้เขา้ ร่วม
โครงการ และรวบรวมการประเมินผล และรายงานผลการดาํ เนินการ
3. ประสานงานกบั ผู้เรียน/วิทยากรผู้สอน
ประสานงานกับผเู้ รยี นและวทิ ยากร เชน่ ประสานเรื่องสถานที่ใชท้ ําการเรยี นการสอน ประสานงานกบั
วิทยากรผูส้ อน เรือ่ งเน้ือหา หลักสูตรการเรียนการสอน รปู แบบการเรียนการสอน วนั เวลา สถานที่
4. ดาเนนิ การตามแผนงานโครงการ
โครงการอบรมหลักสูตรการเขา้ ใจดิจทิ ัล (Digital LiteracyCurriculum) ในวันที่ 26-27 มีนาคม 2563
ณ กศน.ตาํ บลพลูตาหลวง อาํ เภอสตั หีบ จังหวดั ชลบุรี จํานวนผ้เู ขา้ ร่วมโครงการฯ จาํ นวน 15 คน เวลา 09.00–
15.00 น. นางสาวสุภาภรณ์ นวมมาและนางสาวเกษนีย์ เดชรกั ษา เปน็ วิทยากร
22
5. สรปุ ผลและรายงาน
จากการดําเนินงานประชาชนทวั่ ไปในพ้นื ทต่ี ําบลพลตู าหลวง ในวันท่ี 26-27 มีนาคม 2563 ณ กศน.ตาํ บล
พลตู าหลวง อําเภอสัตหบี จังหวดั ชลบุรี จาํ นวนผูเ้ ข้ารว่ มโครงการฯ จาํ นวน 15 คน กศน.ตาํ บลพลูตาหลวง จะได้นํา
แนวทางไปใช้ขอ้ มลู พิจารณาหลักสตู ร เนือ้ หาตลอดจนเทคนิควิธกี ารจดั การกระบวนการเรียนรตู้ ่างๆ เพื่อให้ตอบสนอง
ความต้องการของผ้เู ขา้ อบรมไดร้ บั ประโยชนน์ ําไปใช้ไดจ้ รงิ ตามศกั ยภาพของแตล่ ะคน ให้มคี ุณภาพชวี ติ ท่ดี ีตอ่ ไป กศน.
ตาํ บลพลตู าหลวง ไดด้ าํ เนนิ การตามขนั้ ตอนและไดร้ วบรวมข้อมลู จากแบบสํารวจสถติ ิท่ีใชใ้ นการวเิ คราะห์ คือโดย
กาํ หนดคา่ ลําดบั ความสาํ คหั ของการประเมนิ ผลออกเปน็ 5 ระดบั ดงั นี้
มากทสี่ ดุ ใหค้ ะแนน 5
มาก ใหค้ ะแนน 4
ปานกลาง ใหค้ ะแนน 3
น้อย ให้คะแนน 2
นอ้ ยท่สี ุด ให้คะแนน 1
ในการแปลผล ผูจ้ ดั ทําได้ใชเ้ กณฑ์การพิจารณาจากคะแนนเฉลี่ยตามแนวคดิ ของ บุหชม ศรสี ะอาด
และบหุ ส่ง นิวแกว้ (2535, หนา้ 22-25)
4.51-5.00 หมายความว่า มากท่สี ุด
3.51-4.50 หมายความว่า มาก
2.51-3.50 หมายความว่า กลาง
1.51-2.50 หมายความวา่ นอ้ ย
1.00-1.50 หมายความว่า นอ้ ยทส่ี ดุ
ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการจะตอ้ งกรอกขอ้ มูลตามแบบสอบถาม เพ่ือนําไปใชใ้ นการประเมินผลของการจดั กิจกรรม
ดังกลา่ ว และจะไดน้ ําไปเป็นข้อมูล ปรบั ปรุง และพัฒนา ตลอดจนใชใ้ นการจัดทําแผนการดําเนนิ การในปีต่อไป
บทท่ี 4
ผลการดาเนินงานและการวิเคราะห์ข้อมลู
ในการจดั โครงการอบรมหลกั สตู รการเขา้ ใจดิจิทลั (Digital Literacy Curriculum) ในวนั ท่ี 26-27
มนี าคม 2563 ซง่ึ ไดส้ รุปผลจากแบบสอบถามและนาํ เสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู จากผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ
จํานวน 15 ชดุ
ตอนท่ี 1 ข้อมลู ส่วนตัวผตู้ อบแบบถามของผู้เขา้ รว่ มโครงการอบรมหลักสตู รการเข้าใจดิจทิ ลั (Digital
Literacy Curriculum) ณ กศน.ตาํ บลพลูตาหลวง ผ้เู ขา้ รว่ มกจิ กรรมทตี่ อบแบบสอบถามได้นาํ มาจําแนกตามเพศ อายุ
และอาชีพ ผู้จัดทําไดน้ ําเสนอจําแนกตามข้อมูลดังกลา่ ว ดังปรากฏตามตารางท่ี 1 ดังต่อไปน้ี
ตารางที่ 1 แสดงคา่ รอ้ ยละของผูต้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ
เพศ ชาย หหงิ
ความคิดเหน็ จํานวน รอ้ ยละ จาํ นวน รอ้ ยละ
ผูเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรมโครงการอบรมหลักสตู รการเข้าใจดจิ ทิ ัล 10 66.67 5 33.33
(Digital Literacy Curriculum)
จากตารางท่ี 1 แสดงว่า ผ้ตู อบแบบสอบถามของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการอบรมหลักสตู รการเข้าใจดิจิทลั (Digital
Literacy Curriculum) เป็นชาย 10 คน รอ้ ยละ 66.67 เป็นหหงิ 57 รอ้ ยละ 33.33
ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอายุ
อายุ 14 - 39 ปี 40 - 59 ปี 60 ปี ข้นึ ไป
ความคิดเห็น จาํ นวน รอ้ ยละ จํานวน ร้อยละ จํานวน ร้อยละ
ผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมโครงการอบรมหลักสตู รการ 15 100 - - - -
เข้าใจดจิ ิทลั (Digital Literacy Curriculum)
จากตารางที่ 2 แสดงวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามของผูเ้ ข้าร่วมผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมโครงการอบรมหลักสตู รการเข้าใจ
ดิจทิ ัล (Digital Literacy Curriculum) เป็นช่วงอายุ 14 - 39 ปี ทง้ั หมด จํานวน 15 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100
ตารางท่ี 3 แสดงคา่ รอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชพี
รับจ้าง คา้ ขาย รับราชการ เกษตรกรรม อื่นๆ(ว่างงาน)
ประเภท จาํ นวน รอ้ ยละ จํานวน ร้อย จาํ นวน ร้อย จาํ นวน ร้อยละ จํานวน ร้อยละ
ความคดิ เหน็ ละ ละ
ผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรม 6 40 - - - - - - 9 60
โครงการอบรมหลกั สตู ร
การเข้าใจดิจิทัล (Digital
Literacy Curriculum)
จากตารางท่ี 3 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามของ ผูเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรมโครงการอบรมหลกั สูตรการเข้าใจดจิ ิทลั (Digital
Literacy Curriculum) อาชีพอนื่ ๆ(ว่างงาน) มากท่ีสุด จาํ นวน 9 คน คิดเปน็ ร้อยละ 60 รองลงมามีอาชีพรับจา้ ง
จํานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 40
24
ตอนท่ี 2 ขอ้ มลู เก่ียวกบั ความคดิ เห็นของผ้เู ขา้ รว่ มโครงการอบรมหลกั สูตรการเข้าใจดจิ ิทัล (Digital Literacy
Curriculum)
ความคิดเห็นของผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรม จํานวน 15 คน จากแบบสอบถามทง้ั หมดทมี่ ตี ่อโครงการอบรมหลักสตู ร
การเข้าใจดิจิทัล (Digital Literacy Curriculum) ณ กศน.ตาํ บลพลูตาหลวง อาํ เภอสตั หีบ จังหวดั ชลบุรี ดงั ปรากฏใน
ตารางท่ี 4
ตารางท่ี 4 ผลการประเมินโครงการอบรมหลกั สูตรการเข้าใจดจิ ทิ ลั (Digital Literacy Curriculum)
N = 15
รายการท่ีประเมนิ µ อันดับ ระดบั ผล
ที่ การประเมิน
ด้านหลกั สูตร
1. กจิ กรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ ของหลักสูตร 4.40 0.60 10 มาก
2. เนือ้ หาของหลกั สตู รตรงกบั ความตอ้ งการของผูร้ ับบริการ 4.50 0.61 2 มาก
3. การจดั กจิ กรรมทาํ ให้ผู้รับบริการสามารถ คดิ เปน็ ทําเปน็ แก้ปญหหาเป็น 4.45 0.69 4 มาก
4. ผูร้ บั บริการมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิด เหน็ ต่อการจัดทําหลกั สูตร 4.35 0.75 12 มาก
5. ผู้รับบริการสามารถนาํ ความรู้ไปปรบั ใช้ในชวี ติ ประจาํ วันได้ 4.55 0.69 1 มากทส่ี ุด
6. สื่อ/เอกสารประกอบการจดั กิจกรรมมีความเหมาะสม 4.45 0.51 4 มาก
ด้านวทิ ยากร
7. วทิ ยากรมคี วามรู้ความสามารถในการจัด กิจกรรม 4.50 0.5 2 มาก
8. เทคนคิ /กระบวนในการจดั กิจกรรมของวิทยากร 4.40 0.51 10 มาก
9. วทิ ยากรมกี ารใชส้ อื่ ทสี่ อดคล้องและเหมาะสมกบั กิจกรรม 4.45 0.51 4 มาก
10. บุคลิกภาพของวทิ ยากร 4.45 0.60 4 มาก
ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ
11. สถานทใ่ี นการจดั กจิ กรรมเหมาะสม 4.35 0.81 12 มาก
12. ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมเหมาะสม 4.43 0.66 9 มาก
13. ความพงึ พอใจในภาพรวมของผู้รับบรกิ ารต่อการเขา้ ร่วมกิจกรรม 4.45 0.51 4 มาก
ค่าเฉล่ยี 4.43 0.61 มาก
ททททททททจากตารางที่ 4 แสดงใหเ้ หน็ ว่า ผ้เู ขา้ รว่ ม โครงการอบรมหลกั สตู รการเข้าใจดิจิทัล (Digital Literacy
Curriculum) พบวา่ อยู่ในระดบั มาก เมื่อวิเคราะห์เปน็ รายขอ้ พบว่า ผู้รบั บริการสามารถนาํ ความรู้ไปปรับใชใ้ น
ชีวิตประจาํ วนั ได้ (µ = 4.55) เป็นอนั ดบั ท่ี 1 รองลงมาคอื เนื้อหาของหลกั สูตรตรงกบั ความตอ้ งการของผรู้ บั บรกิ าร ,
วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการจัดกจิ กรรม (µ =4.50) การจดั กจิ กรรมทําให้ผรู้ ับบรกิ ารสามารถ คิดเปน็ ทาํ เป็น
แก้ปญหหาเป็น,ส่ือ/เอกสารประกอบการจดั กิจกรรมมคี วามเหมาะสม, วิทยากรมีการใช้สือ่ ทส่ี อดคล้องและเหมาะสมกับ
กิจกรรม ,บคุ ลิกภาพของวิทยากร , ความพึงพอใจในภาพรวมของผ้รู บั บริการตอ่ การเข้าร่วม (µ =4.45) ระยะเวลาใน
การจัดกจิ กรรมเหมาะสม (µ =4.43) กิจกรรมท่ีจดั สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ของหลกั สตู ร ,เทคนิค/กระบวนในการ
จดั กจิ กรรมของวทิ ยากร (µ =4.40) ผูร้ ับบริการมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เห็นต่อการจดั ทําหลักสตู ร ,สถานท่ใี น
การจดั กจิ กรรมเหมาะสม (µ =4.35) ตามลาํ ดับ
25
ตารางที่ 5 ผลการประเมินโครงการอบรมหลกั สูตรการเข้าใจดิจิทลั (Digital Literacy Curriculum)
เน้อื หาโครงการอบรมหลักสูตรการเข้าใจดิจิทลั (Digital N = 15
Literacy Curriculum) µ อนั ดบั ที่ ระดบั ผลการประเมิน
1. การมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมกล่มุ 4.85 0.24 1 มากทีส่ ุด
2. ความพึงพอใจในการเข้าร่วมโครงการ 4.30 0.49 4 มาก
3. การคิดอยา่ งมีเหตุผล 4.65 0.55 3 มากทสี่ ุด
4. การเขา้ ใจ และรับฟญงความคดิ เหน็ จากผู้อ่นื 4.28 0.46 5 มาก
5.การร้จู ัก และเข้าใจตนเอง 4.72 0.38 2 มากท่สี ุด
ค่าเฉล่ยี 4.51 0.12 มากที่สดุ
จากตารางท่ี 5 พบว่า โดยเฉลี่ยแลว้ ผเู้ ข้ารว่ มโครงการอบรมหลกั สตู รการเขา้ ใจดจิ ิทลั (Digital Literacy
Curriculum) ดีมาก เม่ือวิเคราะหเ์ ป็นรายพบว่า การมีส่วนรว่ มในกิจกรรมกลุ่ม (µ =4.85) เป็นอันดับที่ 1 การรจู้ กั และ
เข้าใจตนเอง (µ =4.72) การคิดอยา่ งมเี หตุผล (µ =4.65) ความพงึ พอใจในการเข้ารว่ มโครงการ (µ =4.30) การเขา้ ใจ
และรับฟงญ ความคิดเห็นจากผู้อนื่ (µ =4.28) ตามลาํ ดับ
บทท่ี 5
สรุป อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ
สรปุ
จากโครงการ ผู้ท่ีไมม่ ีอาชีพมีจาํ นวนมากทีส่ ดุ
1.1 ข้อมูลเกย่ี วกบั ความคิดเห็นของผ้เู ข้ารว่ มโครงการอบรมหลักสตู รการเขา้ ใจดจิ ทิ ัล (Digital
Literacy Curriculum) พบว่ามคี วามพึงพอใจในภาพรวมของผู้รบั การอบรมอยูใ่ นระดบั มาก
ทส่ี ดุ รองลงมาการจัดกจิ กรรมทําให้ผู้เขา้ อบรมสามารถคิดเปน็ แก้ปญหหาได้ และสื่อ/เอกสาร
ประกอบการจดั กิจกรรมมคี วามเหมาะสม ,เทคนคิ /กระบวนการในการจัดกิจกรรมของ
วทิ ยากร,สถานท่ีในการจดั กจิ กรรมเหมาะสม ตามลาํ ดับ
1.2 เนอื้ หาโครงการอบรมหลักสตู รการเข้าใจดจิ ิทลั (Digital Literacy Curriculum) พบว่า การ
คดิ อย่างมีเหตผุ ลมากท่สี ดุ รองลงมา การมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ และการเขา้ ใจ และรับ
ฟงญ ความคิดเหน็ จากผู้อืน่ ตามลําดบั
1.3 ผ้เู ขา้ ร่วม โครงการอบรมหลกั สูตรการเขา้ ใจดจิ ิทัล (Digital Literacy Curriculum) มี
ความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ระดบั 4.43 และระดบั 4.51
อภิปรายผล
จากกจิ กรรมโครงการอบรมหลักสูตรการเข้าใจดจิ ทิ ัล (Digital Literacy Curriculum)
1.เขา้ ร่วมโครงการมีความคิดเหน็ ต่อโครงการอบรมหลักสูตรการเข้าใจดจิ ิทลั (Digital Literacy
Curriculum) ระดบั ดีมาก
2.ท่รี ่วมโครงการมีความเป็นระเบียบและพร้อมเพียงกนั ในการรว่ มกิจกรรม
3.ผทู้ ่รี ่วมโครงการไดร้ บั ประสบการณ์ตรงจากวิทยากร
4.ผู้เข้ารว่ มโครงการสามารถนําความรู้ทีไ่ ด้ไปถ่ายทอดต่อผู้อื่น
5.ผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการมีความสุขและสนุกกับการร่วมกิจกรรม
3. ปัญหาและอุปสรรค
เนอื่ งจากการจดั กิจกรรมการเรยี นตอ้ งใช้อนิ เตอร์เนต และต้องมีการแชร์ Wifi สําหรับผู้เรียนที่
ไม่ไดส้ มคั รอินเตอร์เนตในสมาร์ทโฟนของตนเอง ก็จะมปี หญ หาตดิ ขัดบา้ ง เพราะมีการแชร์กนั มาก
4. ควรมีการจัดหาสถานที่เรยี นทีม่ ีความพร้อมในเรื่องระบบเครือข่ายอินเตอร์เนต็
27
บรรณาณกุ รม
กรมการศึกษานอกโรงเรียน. (ม.ป.ป. : 9), (2546:76).
บหุ ชม ศรสี ะอาด และ บุหส่ง นวิ แก้ว. (2515 หน้า 22 – 25).
บรรพต สวุ รรณประเสรฐิ . (2544:12).
สาํ นกั งานบรหิ ารการศึกษานอกโรงเรยี น. (2549:2), (2549:5).
สทุ ธดิ า หงส์บุหเสรมิ , 2550 : 42
วิชัย วงษ์ใหห่. (2525:2-3), (2525:10).
http://www.thaikids.org/brain/brain4.htm
http://www.thaikids.org/brain/brain1.htm
http://th.wikipedia.org
http://www.tanti.ac.th/Com-tranning/Online_Word/page1.html
http://www.toywars.in.th/webboard/content.aspx?nForumID=1&nTopicID=11847
http://202.44.34.144/kmit/knowledge_detail.php?IDKM=250
https://sirinipha1.wordpress.com/