The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดกิจกรรมที่ 1 การถ่ายทดลักษณะทางพันธุกรรม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by te_ry_tan1, 2022-04-09 08:23:27

ชุดกิจกรรมที่ 1 การถ่ายทดลักษณะทางพันธุกรรม

ชุดกิจกรรมที่ 1 การถ่ายทดลักษณะทางพันธุกรรม

ชุดกจิ กรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E)
รายวิชาชีววิทยา (ว30244) เร่อื ง พันธศุ าสตร์

ชุดกจิ กรรมท่ี 1 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม

คำนำ

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ บบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) รายวิชาชวี วิทยา
(ว30244) เรอ่ื ง พันธุศาสตร์ ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 เป็นการจดั กิจกรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ทเ่ี นน้ ผูเ้ รียนเป็น
สาคญั ผู้เรยี นสามารถนาไปฝึกปฏิบตั หิ รือเรียนรเู้ พิ่มเติมดว้ ยตนเอง ทั้งในและนอกเวลาเรียน โดยชุดกจิ กรรมการ
เรียนรู้แตล่ ะชุดประกอบด้วยเอกสาร 2 สว่ น คอื คูม่ อื ครูและชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ทงั้ นเี้ พอื่ ใหผ้ ูเ้ รยี นนาชุดกจิ กรรม
การเรียนรูไ้ ปดาเนินการกิจกรรมตา่ งๆ ได้สะดวกและมีประสิทธภิ าพตรงตามจดุ มุง่ หมายของการสร้างชุดกจิ กรรม
ซึ่งชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง พนั ธุศาสตร์ ประกอบดว้ ย 6 ชดุ กิจกรรม ดงั น้ี

ชดุ ท่ี 1 เรอื่ ง การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ชุดท่ี 2 เรือ่ ง ความน่าจะเปน็
ชดุ ท่ี 3 เร่อื ง กฏแหง่ การแยกและกฎแห่งการรวมกลุ่มอยา่ งอสิ ระ
ชุดที่ 4 เรื่อง การผสมเพ่ือทดสอบ
ชดุ ท่ี 5 เรื่อง ส่วนขยายของพนั ธศุ าสตรเ์ มนเดล ตอนท่ี 1
ชดุ ที่ 6 เรอื่ ง สว่ นขยายของพนั ธศุ าสตรเ์ มนเดล ตอนที่ 2
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ บบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7E) น้ี
เป็นชุดท่ี 1 เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
ผจู้ ัดทาหวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ ว่าชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรูแ้ บบวัฏจักร
การเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) ) รายวิชาชีววิทยา (ว30244) เรอ่ื ง พันธศุ าสตร์ ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6 จะก่อใหเ้ กิด
ประโยชนใ์ นการนาไปใชใ้ นการจัดการเรียนการสอนไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ

นางวไิ ลพร จันเสง่ียม

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7E)
รายวชิ าชีววทิ ยา (ว30244) เร่อื ง พนั ธศุ าสตร์

ชุดกิจกรรมท่ี 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม

สำรบัญ

คำนำ หน้า
สำรบญั 1
คำชีแ้ จง 2
4
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E)
คำแนะนำกำรใช้ 5

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ บบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E) 6
แผนผังแสดงขน้ั ตอนกำรเรยี นรู้ 7
ผลกำรเรยี นรู้ 8
สำระสำคัญ 8
จุดประสงค์กำรเรยี นรู้
ข้ันตรวจสอบควำมรเู้ ดิม (Elicitation) 9

แบบทดสอบกอ่ นเรียน 12
ขนั้ สรำ้ งควำมสนใจ (Engagement)
14
บตั รกิจกรรมการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง ฉันหน้าเหมอื นโครกันนะ
ข้นั สำรวจและค้นหำ (Exploration) 15

บัตรกิจกรรมการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง สารวจ ละค้นหา 16
ขั้นอธิบำยและลงข้อสรปุ (Explanation) 20

บัตรกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การศกึ ษาพันธุศาสตร์ของเมนเดล 21
ขนั้ ขยำยควำมรู้ (Elaboration)
24
บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 4 เร่ือง โดมโิ นหรรษา
บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 5 เรอ่ื ง ทบทวนความรู้ด้วยตนเอง 25
ขั้นประเมนิ ผล (Evaluation) 28
แบบทดสอบหลังเรยี น 32
ขั้นนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ (Extension)
บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 6 เร่อื ง แผนผงั แสดงความคดิ
บตั รควำมรู้
บตั รความรทู้ ี่ 1 เร่อื ง พันธุศาสตร์
บัตรความรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง การศึกษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล
บัตรความรทู้ ี่ 3 เรอื่ ง คาศัพทเ์ กี่ยวกบั พนั ธุศาสตร์

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E)
รายวิชาชีววิทยา (ว30244) เรือ่ ง พันธศุ าสตร์

บรรณำนุกรม ชดุ กิจกรรมท่ี 1 การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม
ภำคผนวก
สำรบญั
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลังเรยี น
เฉลยบัตรกจิ กรรมที่ 1 หน้า
เฉลยบตั รกจิ กรรมที่ 2 35
เฉลยบตั รกจิ กรรมที่ 3
เฉลยบัตรกิจกรรมที่ 4 37
เฉลยบตั รกิจกรรมท่ี 5 38
เฉลยบัตรกิจกรรมที่ 6 39
แบบสังเกตพฤติกรรมกำรทำงำนรำยบคุ คล 41
แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม 42
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะของผู้เรียน 44
45
46
47
48

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E)
รายวชิ าชวี วิทยา (ว30244) เรื่อง พันธุศาสตร์

ชุดกจิ กรรมที่ 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม

คำช้ีแจงชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ตำมกระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรูแ้ บบวฏั จกั รกำรเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จักร 7 ข้ัน (7E) รายวิชาชวี วิทยา
(ว30244) เรอื่ ง พนั ธศุ าสตร์ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ประกอบดว้ ย ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 ชดุ ดังนี้

ชดุ ท่ี 1 เร่ือง การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม
ชุดที่ 2 เรอ่ื ง ความนา่ จะเป็น
ชดุ ท่ี 3 เรือ่ ง กฏแห่งการแยกและกฎแห่งการรวมกล่มุ อยา่ งอสิ ระ
ชุดที่ 4 เร่ือง การผสมเพื่อทดสอบ
ชดุ ที่ 5 เรื่อง ส่วนขยายของพันธศุ าสตรเ์ มนเดล ตอนที่ 1
ชุดท่ี 6 เรอ่ื ง สว่ นขยายของพนั ธศุ าสตรเ์ มนเดล ตอนท่ี 2
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ฉบบั น้ี เปน็ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรชู้ ดุ ที่ 1 เรอื่ ง การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม
ซึง่ นกั เรียนจะไดศ้ ึกษาเรียนรู้และปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตา่ ง ๆ เพ่ือศึกษาเกยี่ วกบั ความหลากหลานของสง่ิ มชี วี ติ โดยใช้
เวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมท้งั หมด 2 คาบเรียน และให้นักเรียนศกึ ษาชดุ กิจกรรมตามลาดบั ข้ันตอนต่อไปน้ี

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E)
รายวิชาชีววิทยา (ว30244) เรื่อง พันธุศาสตร์

ชุดกจิ กรรมท่ี 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม

คำแนะนำกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้
ตำมกระบวนกำรสืบเสำะหำควำมร้แู บบวฏั จักรกำรเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E)

ขนั้ เตรียมกอ่ นใชช้ ุดกจิ กรรม
1. ทาการศึกษาคน้ คว้าในเรอื่ งทีต่ นเองจะเรยี นหรอื ปฏิบัตกิ จิ กรรมมาก่อนลว่ งหน้าเพอ่ื ให้เขา้ ใจในบทเรยี น
ไดด้ ีและรวดเรว็ ย่ิงข้ึน
2. เตรียมความพรอ้ มของตนเองสาหรบั การปฏบิ ัติกจิ กรรมร่วมกบั เพอ่ื นในหอ้ งเรียนและเพอื่ นรว่ มกลุ่ม
3. คาแนะนาในการปฏบิ ัตงิ านกล่มุ
3.1 เลือกประธานกลุม่ เพ่ือเปน็ ผู้นาในการดาเนินการจดั การเรยี นรู้ และเลขากลมุ่ เพ่อื บันทึก
3.2 สมาชิกทุกคนตอ้ งมีสว่ นร่วม ชว่ ยเหลือซึง่ กนั และกนั และรบั ผดิ ชอบรว่ มกนั
3.3 ตงั้ ใจปฏบิ ัตกิ ิจกรรมอยา่ งเตม็ ความสามารถและรอบคอบ
4. ใช้กลุ่มเดิมตลอดการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรยี นร้ชู ดุ ที่ 1 เรือ่ ง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม

ขั้นเตรียมกอ่ นใช้ชดุ กิจกรรม
1. ศึกษาภาระงานให้เขา้ ใจ และปฏบิ ตั ิตามขน้ั ตอน
2. ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมด้วยตนเอง ไม่ลอกเพ่อื นและไมใ่ ห้เพ่ือนลอก
3. ศึกษากจิ กรรมดว้ ยความต้งั ใจ แล้วทาการวิเคราะหเ์ น้ือหาและสรุปเพอ่ื ให้เข้าใจง่าย ๆ
4. ศึกษาคาชีแ้ จงของกจิ กรรมโดยการระดมความคดิ ในกลุ่ม เพื่อตอบคาถามใหต้ รงตามทฤษฎีของเร่อื ง
ท่ีเรยี น ไม่ตอบโดยไมม่ เี หตผุ ลหรือไมม่ ีทฤษฎรี องรบั
5. รว่ มอภปิ รายกับครูด้วยความตั้งใจ จดความรู้ใหม่ และซักถามทันทีเมือ่ ไม่เข้าใจ
6. มคี วามสามัคคี มนี า้ ใจ ภาคภูมิใจในผลงานของกลุม่ โดยไมเ่ อาเปรียบดว้ ยการน่ังเฉยหรือกอ่ ความ
วุน่ วายในหอ้ งเรียน

ขั้นหลังใชช้ ุดกิจกรรม
1. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน
2. รวบรวมผลงานที่ได้จากการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมส่งครู เพือ่ ประเมินผลการเรียนรู้
3. จดั เก็บอุปกรณ์ทกุ ชิน้ ให้เรยี บรอ้ ย

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E)
รายวิชาชีววิทยา (ว30244) เรอื่ ง พันธุศาสตร์

ชุดกจิ กรรมท่ี 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

ผงั แสดงขั้นตอนกำรเรียนรู้

1 ศกึ ษำชแี้ จงและคำแนะนำกำรใช้
ชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้

2 ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
ในชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้

3 ศกึ ษำชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ด้วยตนเอง

ไม่ผำ่ นเกณฑ์ 4 ลงมือปฏบิ ตั บิ ัตรกจิ กรรม
กำรเรยี นรตู้ ำมท่กี ำหนด

5 ตรวจคำตอบและศกึ ษำ
บตั รควำมรู้ด้วยตนเอง

6 ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น ผำ่ นเกณฑ์
ในชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้

7 ศึกษำชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้
ในชุดถัดไป

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรูแ้ บบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E)
รายวิชาชวี วิทยา (ว30244) เรอื่ ง พันธศุ าสตร์

ชดุ กิจกรรมที่ 1 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม

ผลกำรเรียนรู้

ด้ำนควำมรู้
1. สามารถสบื ค้นข้อมูล วิเคราะห์ และเปรียบเทยี บลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมทมี่ กี ารแปรผันตอ่ เนือ่ งและ
ลักษณะทางพันธุกรรมท่มี กี ารแปรผันไมต่ อ่ เนอื่ งได้
2. นกั เรยี นสามารถสบื คน้ ข้อมูล และอธบิ ายการค้นพบกฏการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของเมนเดลได้

ด้ำนทกั ษะกระบวนกำร
นักเรียนสามารถปฏบิ ัติกิจกรรมตามกระบวนการสบื เสาะหาความร้แู บบวัฏจักร 7 ข้ัน (7E) ดังน้ี
1. ทาแบบฝึกหัดกอ่ นบทเรยี น เพอ่ื ทดสอบความรู้เดิม (Elicitation Phase)
2. รว่ มกนั อภปิ รายและตั้งคาถามจากแบบทดสอบกอ่ นเรียน (Engagement Phase)
3. สบื คน้ ขอ้ มูลจากเอกสารประกอบการเรียนรู้เรื่อง การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม
(Exploration Phase)
4. นาขอ้ มูลมาดาเนนิ การวเิ คราะห์ แปลผล สรปุ ผลและนาเสนอผลท่ีไดใ้ นรปู ต่าง ๆ เชน่ บรรยายสรุป
สร้างแผนภมู ิความคิดรวบยอด (Explanation and Expansion Phase)
5. ใหน้ กั เรียนนาผลงานทไ่ี ด้จากการสรุปผลการวเิ คราะห์มานาเสนอหน้าช้นั เรียนเพือ่ นาไปสูห่ าสรุป
รว่ มกันในชัน้ เรยี นและประเมินผลงาน (Evaluation and Extension Phase)

ดำ้ นคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์
1. มีความสนใจใฝ่เรยี นรู้ ได้แก่ การสนทนาซักถาม กระตอื รอื รน้ ในการปฏิบตั ิกิจกรรม
2. มคี วามรับผดิ ชอบ ไดแ้ ก่ ปฏบิ ตั ิหน้าทที่ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ทางานสาเร็จตามเปา้ หมาย
3. ความมีเหตุผล ได้แก่ การรวบรวมขอ้ มลู การอธิบายหรือแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตุผล มหี ลกั การ
หรือขอ้ มูลอ้างอิง
4. มรี ะเบยี บวนิ ยั ได้แก่ ตรงต่อเวลาทีน่ ดั หมาย ปฏบิ ัตติ ามระเบียบวนิ ัยของกิจกรรม
5. อย่อู ย่างพอเพียง ไดแ้ ก่ ใช้ทรัพย์สนิ ตนเองอยา่ งประหยดั ทรพั ยส์ นิ ส่วนรวมอยา่ งคมุ้ คา่ ไมเ่ อาเปรียบ
คนอน่ื วางแผนการเรยี นการทางาน
6. ม่งุ ม่นั ในการทางาน ไดแ้ ก่ ตั้งใจ อดทนทางาน ไม่ยอ่ ท้อ
7. รกั ความเป็นไทย ไดแ้ ก่ มีจิตสานึกในความเป็นไทยและภูมิปัญญาไทย
8. มีจติ สาธารณะ ได้แก่ ชว่ ยเหลอื เพอ่ื น พ่อแม่ ครู จติ อาสา ทางานเพอื่ ส่วนรวม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความร้แู บบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E)
รายวชิ าชวี วิทยา (ว30244) เร่ือง พันธศุ าสตร์

ชดุ กิจกรรมท่ี 1 การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม

สำระสำคญั

สิง่ มชี วี ิตมกี ารถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรมจากพ่อแม่สรู่ ุ่นลูกหลานได้ ซ่งึ สงั เกตไดจ้ าก
ลักษณะทีป่ รากฏ ลักษณะทางพนั ธกุ รรมบางลกั ษณะมคี วามแตกต่างกนั ชัดเจน เช่น การมีต่ิงหู หรอื
ไม่มตี ง่ิ หู ซึ่งเป็นลักษณะทางพนั ธุกรรมทมี่ กี ารแปรผนั ไม่ตอ่ เนือ่ ง ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมบางลักษณะ
มคี วามแตกตา่ งกนั เลก็ นอ้ ยและลดหล่ันกันไป เช่น ความสูง และสผี ิวของมนษุ ย์ ถูกควบคุมโดยยีน
หลายคู่ซ่ึงเปน็ ลักษณะทางพันธุกรรมท่ีมีการแปรผันตอ่ เนอ่ื ง และส่ิงแวดล้อมอาจมผี ลตอ่ การแสดง
ลกั ษณะนั้นเมนเดลได้ศกึ ษาลกั ษณะตา่ งๆ ของถั่วลันเตาก ลกั ษณะ ทาใหพ้ บวา่ ลักษณะตา่ งๆ เหลา่ นี้
ตอ้ งมหี นว่ ยควบคุมซงึ่ อยเู่ ป็นคู่ โดยสามารถแสดงออกเป็นลักษณะเดน่ หรือลกั ษณะดอ้ ยก็ได้
และสามารถถ่ายทอดจากรนุ่ พ่อแม่ไปสรู่ ุน่ ลูกหลานได้

จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้

1. จาแนกลกั ษณะทางพันธุกรรมท่มี กี ารแปรผนั ตอ่ เนื่อง และลักษณะทางพนั ธกุ รรมทม่ี ีการแปรผนั ไม่
ตอ่ เน่อื ง (K, P)

2. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ ายและสรปุ ผลการทดลองของเมนเดล (K, P)
3. อธบิ ายความหมายและยกตวั อย่างคาศพั ท์ทเี่ กี่ยวข้องทางพนั ธศุ าสตร์ (K, P)
4. ปฏิบัตติ ามคาชีแ้ จงตามข้ันตอนอยา่ งตง้ั ใจ ซ่ือสัตย์ และตรงต่อเวลา (P, A)

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E)
รายวชิ าชีววทิ ยา (ว30244) เรอื่ ง พนั ธศุ าสตร์

ชุดกจิ กรรมท่ี 1 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม

แบบทดสอบก่อนเรยี น ชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรทู้ ี่ 1
เร่ือง กำรถำ่ ยทอดลักษณะทำงพนั ธกุ รรม

คำช้ีแจง แบบทดสอบเปน็ แบบปรนัยเลอื กตอบ 4 ตวั จานวน 10 ขอ้ ใช้เวลาทา 15 นาที

1. ลกั ษณะในข้อใดเกดิ จากการถ่ายทอดทางพันธกุ รรม
ก. ญาญา่ มลี กั ยมิ้ เหมอื นแม่
ข. ท่ีใหญ่ขอบกินเผด็ เหมือนพ่อ
ค. แพนเค้กมีผวิ สีแทนเหมอื นยาย
ง. แตว้ และแมป่ ว่ ยเป็นโรคกระเพาะ

2. ในการเล้ียงสนุ ขั บางพันธุ์ ผ้เู ล้ยี งนยิ มหางกดุ และหเู ล็ก ถ้านาสนุ ัขพันธุน์ ้ีตดั หางกับขลิบหูทุก ๆ รุน่ และใหผ้ สมพันธ์ุ
กนั เอง จะมโี อกาสไดพ้ นั ธ์แุ ท้ทไ่ี ม่มหี างและหเู ล็กแตก่ าเนิดหรือไม่
ก. ไมม่ โี อกาส เพราะส่ิงมชี ีวติ ท่ีผสมพนั ธ์ไุ ดจ้ ะอ่อนแอและตายไป
ข. มีโอกาส เพราะพ่อพันธ์ุแม่พนั ธทุ์ นี่ าไปผสมตัดหางกับขลบิ หูทุกตัว
ค. ไมม่ ีโอกาส เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงภายนอกไมเ่ กย่ี วกบั จโี นไทป์
ง. มโี อกาส แตใ่ นรุน่ แรกจะยงั ไม่ได้ลักษณะที่ตอ้ งการสว่ นรุน่ หลังจะได้ผลทีละน้อย

3. ชายคนหน่งึ มีหนังตาช้ันเดยี ว มลี ักย้มิ แตห่ อ่ ลิ้นไมไ่ ด้ แบบ homozygous แต่งงานกับหญงิ ทมี่ หี นงั ตาสองช้ัน
ไมม่ ลี กั ย้ิม ห่อลนิ้ ได้ แบบ homozygous ลกู ทีเ่ กดิ ขึ้นจะตอ้ งมลี กั ษณะแบบใด
ก. หนังตาชน้ั เดียว มลี กั ยมิ้ หอ่ สิ้นได้
ข. หนงั ตาสองชัน้ มลี ักยม้ิ ห่อลน้ิ ไม่ได้
ค. หนงั ตาชน้ั เดียว ไมม่ ลี กั ย้ิม ห่อลนิ้ ได้
ง. หนังตาสองชั้น ไมม่ ีลักยมิ้ หอ่ ล้นิ ไม่ได้

4. การทดลองของเมนเดลไม่เกี่ยวขอ้ งกับเร่อื งใด
ก. แอลลีล
ข. ความน่าจะเป็น
ค. มลั ติเปิลแอลลีล
ง. การแปรผันไม่ต่อเน่ือง

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรูแ้ บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E)
รายวชิ าชวี วิทยา (ว30244) เรอ่ื ง พนั ธุศาสตร์

ชุดกิจกรรมที่ 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

5. จากการทดลองของเมนเดล จะพบอตั ราส่วนระหวา่ งลักษณะเด่นตอ่ ลักษณะดอ้ ย ในรุ่น F2 มลี ักษณะเป็นอยา่ งไร
ก. ลกั ษณะเด่น : ลักษณะดอ้ ย = 0 : 4
ข. ลักษณะเดน่ : ลักษณะด้อย = 4 : 0
ค. ลักษณะเด่น : ลกั ษณะดอ้ ย = 1 : 3
ง. ลักษณะเดน่ : ลกั ษณะด้อย = 3 : 1

6. ข้อใดไม่ใชป่ จั จัยที่ทาใหก้ ารผสมพนั ธ์ถุ ั่วลนั เตาของเมนเดลประสบความสาเร็จ จนทาใหเ้ ขาค้นพบหลกั การ
ถ่ายทอดทางพันธกุ รรม
ก. ถวั่ ลันเตาเปน็ พชื อายุส้นั ปลูกงา่ ย โตเร็ว
ข. ดอกถว่ั ลันเตาเปน็ ดอกสมบรู ณ์เพศ ผสมพันธ์ใุ นดอกเดียวกนั
ค. ลกั ษณะของถว่ั ลนั เตาทั้ง 7 ประการอยบนโครโมโซมแหง่ เดยี วกนั
ง. ถั่วลันเตามีหลายลกั ษณะในพันธเุ์ ดยี วกนั และสามารถแยกแยะลักษณะออกได้ชดั เจน

7. ถ่วั ลนั เตาพนั ธ์ุฝักสีเขยี วเปน็ ลกั ษณะเดน่ ตอ่ ฝักสเี หลอื ง เม่ือเมนเดลนาถั่วลนั เตาพนั ธ์ุฝักสเี ขียวพันธแุ์ ท้ และฝกั สี
เหลืองมาผสมกัน ลูกรนุ่ ที่ 1 จะมีลกั ษณะอย่างไร
ก. ทุกตน้ มฝี ักสเี ขยี วทั้งหมด
ข. ทุกต้นมฝี กั สีเหลืองท้ังหมด
ค. ตน้ ทีม่ ีฝกั สเี หลืองและต้นท่ีมฝี ักสีเขียวมจี านวนเท่าๆ กนั
ง. ต้นทีม่ ฝี กั สีเหลอื งและต้นท่มี ผี กั สเี ขยี วมอี ัตราส่วน 3 ตอ่ 1

8. ข้อใดมีความหมายตรงกบั คาว่าแอลลลี มากที่สุด
ก. ยนี เหมอื นกันควบคุมพันธกุ รรมเดียวกนั
ข. หน่วยพนั ธุกรรมท่ีอย่เู ป็นค่กู นั บนโฮโมโลกัสโครโมโซม
ค. ยืนตา่ งชนดิ กันอยู่บนตาแหน่งเดียวกนั ของโฮโมโลกสั โครโมโซม
ง. ยีนทเี่ ปน็ โฮโมไซกสั บนตาแหน่งเดยี วกันของโฮโมโลกัสโครโมโซม

9. ขอ้ ใดแสดงถึงลักษณะของสิง่ มีชวี ิตท่ีสังเกตได้ด้วยตาแต่เป็นผลมาจากยนื ในร่างกาย
ก. แอลลีล
ข. จโี นไทป์
ค. ฟีโนไทป์
ง. พันธุกรรม

10. สิง่ มชี ีวิตท่ีมีลกั ษณะเดน่ พันธ์แุ ทจ้ ะมลี ักษณะอย่างไร
ก. เฮเทอโรไซกสั , Tt
ข. เซลล์ดิพลอยด์, 2n
ค. โฮโมไซกสั รีเซสซีพ, gg
ง. โฮโมไซกัสโดมแิ นนท์, AA

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E)
รายวิชาชีววทิ ยา (ว30244) เร่อื ง พนั ธุศาสตร์

ชุดกิจกรรมที่ 1 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

กระดำษคำตอบ ชดุ กิจกรรมกำรเรยี นร้ทู ่ี 1
เรื่อง กำรถ่ำยทอดลกั ษณะทำงพนั ธุกรรม

 กอ่ นเรียน  หลังเรียน

ช่ือ......................................................ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่.ี ........................เลขที่......................

ขอ้ ท่ี ก. ข. ค. ง.
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ บบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7E)
รายวชิ าชวี วทิ ยา (ว30244) เรอื่ ง พนั ธุศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมท่ี 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม

บตั รกจิ กรรมกำรเรยี นรทู้ ี่ 1
เรือ่ ง ใครหน้ำเหมือนใครกนั นะ

ข้นั สรำ้ งควำมสนใจ (Engagement)

คำชีแ้ จง
1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่ม ศึกษาบัตรกิจกรรมการเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง ฉันหน้าเหมือนใครกันนะ ซง่ึ ประกอบด้วยภาพบุคคล

16 คน
2. สงั เกตลกั ษณะของบุคคล จาแนกความเหมือนของบุคคลในภาพ และจบั คู่บุคคลทนี่ กั เรยี นคิดว่าเป็นครอบครัว

เดียวกนั
3. ร่วมกนั อภิปรายว่าเพราะเหตุใดจงึ ให้บุคคลเหล่านน้ั อยกู่ ลุม่ เดยี วกนั
4. ส่งตัวแทนกลมุ่ มานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
5. กลุ่มท่ที ากจิ กรรมไดร้ วดเร็วและถกู ต้องทีส่ ดุ จะเป็นฝ่ายชนะ และได้รบั รางวลั
คำถำม
1. บคุ คลในภาพใดบ้างทเี่ ป็นครอบครัวเดยี วกนั

ครอบครวั ที่ 1

ครอบครัวที่ 2

ครอบครวั ท่ี 3

ครอบครวั ท่ี 4

ครอบครัวที่ 5

2. เพราะเหตุใด นกั เรียนจึงให้บุคคลดังกลา่ วอย่ใู นครอบครัวเดยี วกนั

...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E)
รายวิชาชีววิทยา (ว30244) เร่ือง พันธศุ าสตร์

ชดุ กิจกรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม

บัตรภำพ “หน้ำฉันเหมือนใครกนั นะ”

คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 คนที่ 4

คนที่ 5 คนที่ 6 คนท่ี 7 คนที่ 8

คนที่ 9 คนที่ 10 คนท่ี 11 คนท่ี 12

คนท่ี 13 คนที่ 14 คนท่ี 15 คนท่ี 16

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความร้แู บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E)
รายวชิ าชวี วิทยา (ว30244) เร่ือง พนั ธุศาสตร์

ชดุ กิจกรรมท่ี 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

บตั รกิจกรรมกำรเรยี นรูท้ ี่ 2
เรอ่ื ง สำรวจและค้นหำ

ขัน้ สำรวจและคน้ หำ (Exploration)

คำช้ีแจง
1. นกั เรียนแต่ละกลุ่ม ซึ่งถูกกาหนดวา่ เปน็ กลุ่มบ้าน (Home Group) นบั เลข เพื่อแสดงลาดับทีข่ องตนในกลุ่ม

เชน่ 1 2 และ 3 จนครบทกุ คนในกลุม่ แล้วแบ่งหน้าทีศ่ ึกษาบัตรความร้ตู ามที่กาหนด เชน่
- นกั เรียนคนท่นี ับ 1 ศกึ ษาบัตรความรู้ที่ 1 เรื่อง พันธุศาสตร์
- นักเรียนคนท่ีนับ 2 ศกึ ษาบัตรความรู้ท่ี 2 เรือ่ ง การศึกษาพันธุศาสตร์ของเมนเดล
- นกั เรยี นคนท่ีนับ 3 ศึกษาบัตรความรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง คาศพั ท์เก่ียวกับพันธุศาสตร์

2. นกั เรียนแต่ละคนในกลมุ่ บา้ น (Home Group) ศึกษาบตั รความรู้ท่ีไดร้ ับมอบหมายใหเ้ ข้าใจอย่างละเอยี ด
3. นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มบ้าน (Home Group) แยกออกจากกลมุ่ เพอ่ื ไปรวมตวั กับเพื่อนตา่ งกลุ่ม ทไ่ี ด้รับมอบหมาย

ใหศ้ กึ ษาในเร่ืองเดียวกนั เป็นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุม่ ผ้เู ชยี่ วชาญ (Expert Group)
4. นักเรยี นกลุ่มผู้เช่ียวชาญ (Expert Group) แลกเปล่ยี นความร้ซู ่งึ กันและกัน ในเรื่องที่ไดร้ บั มอบหมายแลว้ สรปุ เป็น

องคค์ วามร้ใู นเรอ่ื งน้นั ๆ
5. นักเรียนกลมุ่ ผู้เช่ยี วชาญ (Expert Group) แยกกลับไปยงั กลุ่มบ้าน (Home Group) แล้วผลัดเปล่ยี นหมุนเวียนกนั

อธบิ ายความรูท้ ่ไี ดร้ ับจากกลมุ่ ผเู้ ช่ียวชาญ และรวมเปน็ ความรขู้ องกลุ่มเพอื่ เตรียมตวั นาเสนอ หน้าชน้ั เรียน

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ บบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E)
รายวชิ าชวี วทิ ยา (ว30244) เร่ือง พันธุศาสตร์

ชดุ กิจกรรมที่ 1 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม

บัตรกจิ กรรมกำรเรยี นร้ทู ่ี 3
เร่ือง กำรศึกษำพันธศุ ำสตร์ของเมนเดล

ข้ันอธิบำยและลงขอ้ สรปุ (Explanation)

คำชีแ้ จง
จากการศึกษาของเมนเดล ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มสรปุ องคค์ วามและนาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น ในประเด็นดังตอ่ ไปนี้
1. ใหน้ ักเรียนร่วมกันเขยี นลักษณะของรนุ่ ลูกรนุ่ ท่ี 1 และลูกร่นุ ที่ 2 ทไี่ ดจ้ ากการผสมของลักษณะดังต่อไปนี้

2. ให้นักเรยี นเปรยี บเทยี บลกั ษณะทีป่ รากฏในร่นุ F2 และลักษณะที่ปรากฏในรุน่ F1 วา่ มคี วามเหมือนหรือแตกต่างกัน
อยา่ งไร
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................

3. ใหน้ ักเรียนร่วมกันอภิปรายลกั ษณะสาคัญท่ที าใหเ้ มนเดลประสบความสาเร็จในการทดลอง

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ บบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E)
รายวชิ าชีววิทยา (ว30244) เรือ่ ง พันธศุ าสตร์

ชดุ กิจกรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม

บัตรกจิ กรรมกำรเรยี นรทู้ ่ี 4
เรอ่ื ง โดมโิ นหรรษำ

ขนั้ ขยำยควำมรู้ (Elaboration)
คำชแ้ี จง
1. ให้นกั เรียนแต่ละกล่มุ แบง่ หน้าทเ่ี ปน็ ผูส้ ังเกตการณ์ 1 คน และผู้เลน่ 3-4 คน
2. ศกึ ษากจิ กรรมโดมโิ นหรรษาในกลอ่ งกจิ กรรมที่ 4 ซ่ึงประกอบด้วยโดมโิ นคาศพั ทจ์ านวน 40 บตั ร
3. ผูส้ งั เกตการณน์ าบัตรโดมิโนคาศัพท์ แจกผู้เลน่ แตล่ ะคนจานวนเทา่ ๆ กนั
4. ผ้เู ล่นคนที่ได้รบั บัตรโดมโิ น “START” จะไดร้ ับสิทธ์ใิ นการลงโดมิโนคนแรก
5. ผู้เลน่ คนทอ่ี ยู่ทางขวามอื ของคนที่ถือบัตร START จะเป็นผู้ลงบตั รโดมโิ นคาศัพท์คนถัดไป
6. ผู้เลน่ คนใดไมท่ ราบคาตอบ หรือไมม่ บี ัตรโดมโิ นคาศัพท์ในการลงตอ่ จากเพ่ือนสามารถผา่ นไปยังคนถดั ไปได้

โดยไมเ่ สียคะแนน
7. ผสู้ งั เกตการณ์ เปน็ คนดเู ฉลยจากใบเฉลยกิจกรรม หากเพอื่ นผู้เลน่ วางบัตรโดมิโนคาศัพท์ผดิ ให้นาออกและแจง้

ให้งดวาง 1 รอบ และให้เพอื่ นคนถัดไปเลน่ ต่อ
8. ผู้เลน่ คนที่บตั รโดมโิ นคาศัพทห์ มดเปน็ คนแรกเปน็ ผูช้ นะ

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ บบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ข้นั (7E)
รายวิชาชวี วทิ ยา (ว30244) เรอ่ื ง พนั ธุศาสตร์

ชุดกิจกรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม

บัตรกิจกรรม “โดมิโนหรรษำ”

สิง่ มีชวี ิตรนุ่ แรกที่ได้ TT
จำกกำรผสมพนั ธ์ุ

F Tt Frist generation เซลลท์ มี่ ี
1 offspring โครโมโซม 2 ชดุ

รปู แบบในระดบั โมเลกุล Diploid Hybrid

Phenotypeที่แตกต่ำงกันของยนี

ลกั ษณะของ ลกั ษณะต้นสงู คู่แอลลีลทม่ี ี สภำพของยนี
สง่ิ มีชวี ิตที่สังเกตได้ รปู แบบตำ่ งกัน ทม่ี ีอยใู่ นสงิ่ มีชวี ิต

ลักษณะตำสฟี ำ้ Allele ยนี ท่มี รี ูปแบบ เป็นรนุ่ พ่อแม่
เปน็ Aa

Heterozygous Genotype Homozygous
dominant
Haploid Gene
Recessive Dominant
Allele

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E)
รายวิชาชวี วิทยา (ว30244) เรื่อง พนั ธศุ าสตร์

ชดุ กิจกรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม

บตั รกิจกรรม “โดมิโนหรรษำ”

Tt เซลล์ท่ีมี ลกู ของรุ่นพ่อแม่ Homozygous
โครโมโซม 2 ชดุ

AA Second generation สิง่ มชี ีวติ
offspring รนุ่ พ่อแม่

SS เซลลท์ ่ีมี Parent คู่แอลลีลทีม่ ีรปู แบบ
โครโมโซม 1 ชดุ
แอลลลี เดยี วกนั

Haploid Gene Recessive Dominant
Allele

Aa Gene ลกั ษณะเด่น ลกั ษณะดอ้ ย

Homozygous Dominant
recessive
Recessive Dominant
Haploid Gene Allele

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E)
รายวิชาชวี วิทยา (ว30244) เรอ่ื ง พนั ธุศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมที่ 1 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม

บตั รกิจกรรม “โดมิโนหรรษำ”

หนว่ ยทม่ี ีข้อมูลของ หนว่ ยทำงพันธกุ รรมท่ี

F Phenotype2 ลักษณะทำงพนั ธกุ รรม ควบคุมลักษณะต่ำงๆ

AA Aa Recessive ยนี
Allele

Diploid Homozygous Homozygous แฟคเตอร์
Allele Dominant

F2 Gene F1 Phenotype

aa Gene Recessive ลักษณะเด่น

Heterozygous Dominant

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรูแ้ บบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E)
รายวิชาชีววทิ ยา (ว30244) เรื่อง พนั ธุศาสตร์

ชุดกจิ กรรมที่ 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม

บัตรกิจกรรมกำรเรยี นรู้ท่ี 5
เร่ือง ทบทวนควำมรู้ด้วยตนเอง

ขนั้ ขยำยควำมรู้ (Elaboration)

คำชี้แจง
ใหน้ กั เรยี นทาทวนคาศพั ท์ด้วยตนเองเปน็ รายบุคคล แล้วนาตัวอักษรหน้าคาศัพท์ด้านขวามือ เติมลงหนา้ ขอ้ ความ
ซา้ ยมือท่สี ัมพันธ์กนั

………..1. รูปแบบในระดับโมเลกุลทแี่ ตกตา่ งกนั ของยีน A. Phenotype
………..2. โฮโมไซกัส โดมิแนนท์ B. Dominant allele
………..3. สิ่งมชี วี ติ รนุ่ แรกท่ีได้จากการผสมพนั ธ์ุ C. Allele
………..4. เซลล์ท่มี ีโครโมโซม 2 ชดุ D. F2
E. Haploid

………..5. ยีนท่ีมีรูปแบบเปน็ Aa F. Heterozygous
………..6. โฮโมไซกสั รีเซสสพี G. Genotype
………..7. ลกั ษณะของสิ่งมีชีวติ ท่ีสังเกตได้ H. aa
………..8. Second-generation offspring I. First-generation offspring
………..9. สภาพของยีนที่มอี ยู่ในส่ิงมีชีวติ J. AA
K. Recessive allele

………..10. หนว่ ยที่มีข้อมูลของลักษณะทางพันธกุ รรม L. Gene

M. diploid

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ บบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E)
รายวชิ าชีววิทยา (ว30244) เรือ่ ง พันธุศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม

แบบทดสอบหลงั เรยี น ชดุ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ท่ี 1
เรื่อง กำรถำ่ ยทอดลกั ษณะทำงพนั ธุกรรม

คำชแี้ จง แบบทดสอบเปน็ แบบปรนัยเลือกตอบ 4 ตวั จานวน 10 ข้อ ใช้เวลาทา 15 นาที

1. ในการเลี้ยงสุนัขบางพนั ธุ์ ผเู้ ลย้ี งนยิ มหางกดุ และหูเลก็ ถ้านาสุนขั พันธุ์นี้ตดั หางกับขลิบหูทุก ๆ รนุ่ และให้ผสมพนั ธุ์
กนั เอง จะมโี อกาสได้พนั ธุ์แทท้ ไ่ี มม่ ีหางและหูเลก็ แตก่ าเนดิ หรือไม่
ก. ไม่มโี อกาส เพราะสง่ิ มชี วี ติ ทผี่ สมพันธไุ์ ด้จะออ่ นแอและตายไป
ข. มีโอกาส เพราะพ่อพนั ธุ์แมพ่ นั ธ์ทุ ่ีนาไปผสมตดั หางกับขลิบหูทุกตัว
ค. ไมม่ โี อกาส เพราะเปน็ การเปลี่ยนแปลงภายนอกไม่เกี่ยวกบั จีโนไทป์
ง. มโี อกาส แต่ในรนุ่ แรกจะยังไมไ่ ด้ลักษณะที่ตอ้ งการสว่ นรุ่นหลังจะได้ผลทีละนอ้ ย

2. ชายคนหนง่ึ มหี นงั ตาชน้ั เดียว มีลกั ยม้ิ แตห่ อ่ ล้ินไม่ได้ แบบ homozygous แต่งงานกบั หญงิ ที่มหี นังตาสองชนั้
ไมม่ ลี ักย้ิม ห่อลิ้นได้ แบบ homozygous ลกู ทเี่ กิดขนึ้ จะตอ้ งมลี กั ษณะแบบใด
ก. หนังตาชัน้ เดยี ว มลี กั ยิ้ม ห่อสิ้นได้
ข. หนังตาสองชัน้ มลี ักยม้ิ หอ่ ลิ้นไมไ่ ด้
ค. หนงั ตาชน้ั เดียว ไมม่ ีลักยม้ิ หอ่ ลนิ้ ได้
ง. หนงั ตาสองชัน้ ไมม่ ีลกั ยิ้ม หอ่ ลิน้ ไม่ได้

3. ลักษณะในข้อใดเกิดจากการถ่ายทอดทางพนั ธุกรรม
ก. ญาญา่ มลี ักยม้ิ เหมือนแม่
ข. ท่ใี หญข่ อบกนิ เผด็ เหมือนพ่อ
ค. แพนเค้กมีผวิ สีแทนเหมอื นยาย
ง. แตว้ และแม่ปว่ ยเปน็ โรคกระเพาะ

4. ถั่วลันเตาพันธ์ุฝักสเี ขียวเปน็ ลักษณะเดน่ ตอ่ ฝกั สเี หลือง เมือ่ เมนเดลนาถัว่ ลันเตาพนั ธุ์ฝักสีเขียวพันธุแ์ ท้ และฝักสี
เหลอื งมาผสมกนั ลกู รุ่นที่ 1 จะมีลกั ษณะอยา่ งไร
ก. ทกุ ต้นมฝี กั สีเขยี วทง้ั หมด
ข. ทกุ ตน้ มีฝกั สีเหลืองทัง้ หมด
ค. ต้นท่ีมฝี กั สีเหลืองและตน้ ท่ีมฝี ักสีเขียวมจี านวนเท่าๆ กนั
ง. ตน้ ทีม่ ีฝกั สีเหลืองและต้นท่ีมผี กั สเี ขียวมีอตั ราส่วน 3 ต่อ 1

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรูแ้ บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E)
รายวิชาชีววทิ ยา (ว30244) เรอ่ื ง พนั ธุศาสตร์

ชุดกิจกรรมที่ 1 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม

5. จากการทดลองของเมนเดล จะพบอัตราส่วนระหว่างลกั ษณะเดน่ ต่อลักษณะด้อย ในรุ่น F2 มลี ักษณะเปน็ อยา่ งไร
ก. ลกั ษณะเดน่ : ลกั ษณะดอ้ ย = 0 : 4
ข. ลักษณะเดน่ : ลกั ษณะด้อย = 4 : 0
ค. ลกั ษณะเด่น : ลักษณะด้อย = 1 : 3
ง. ลักษณะเด่น : ลักษณะดอ้ ย = 3 : 1

6. การทดลองของเมนเดลไม่เกี่ยวขอ้ งกับเรื่องใด
ก. แอลลีล
ข. ความนา่ จะเป็น
ค. มลั ติเปิลแอลลีล
ง. การแปรผันไมต่ ่อเนื่อง

7. ขอ้ ใดไม่ใชป่ จั จยั ท่ีทาให้การผสมพันธุถ์ ่ัวลนั เตาของเมนเดลประสบความสาเร็จ จนทาให้เขาค้นพบหลกั การ
ถ่ายทอดทางพันธกุ รรม
ก. ถัว่ ลนั เตาเป็นพชื อายุสนั้ ปลกู ง่าย โตเรว็
ข. ดอกถ่วั ลนั เตาเปน็ ดอกสมบรู ณเ์ พศ ผสมพนั ธใ์ุ นดอกเดียวกัน
ค. ลกั ษณะของถว่ั ลนั เตาทง้ั 7 ประการอยบนโครโมโซมแห่งเดียวกนั
ง. ถ่ัวลันเตามีหลายลกั ษณะในพนั ธุ์เดยี วกนั และสามารถแยกแยะลกั ษณะออกได้ชดั เจน

8. ขอ้ ใดแสดงถงึ ลกั ษณะของส่ิงมีชีวิตท่ีสงั เกตไดด้ ้วยตาแตเ่ ปน็ ผลมาจากยนื ในรา่ งกาย
ก. แอลลีล
ข. จโี นไทป์
ค. ฟโี นไทป์
ง. พนั ธกุ รรม

9. สงิ่ มชี ีวิตท่มี ีลกั ษณะเด่นพนั ธุแ์ ทจ้ ะมลี กั ษณะอยา่ งไร
ก. เฮเทอโรไซกสั , Tt
ข. เซลล์ดิพลอยด์, 2n
ค. โฮโมไซกัสรเี ซสซีพ, gg
ง. โฮโมไซกัสโดมแิ นนท์, AA

10. ข้อใดมคี วามหมายตรงกับคาวา่ แอลลลี มากที่สุด
ก. ยนี เหมอื นกันควบคมุ พนั ธกุ รรมเดียวกนั
ข. หนว่ ยพนั ธุกรรมทีอ่ ยเู่ ป็นคู่กนั บนโฮโมโลกัสโครโมโซม
ค. ยนื ตา่ งชนดิ กนั อยบู่ นตาแหน่งเดียวกนั ของโฮโมโลกสั โครโมโซม
ง. ยนี ท่เี ปน็ โฮโมไซกสั บนตาแหนง่ เดียวกนั ของโฮโมโลกสั โครโมโซม

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรูแ้ บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E)
รายวชิ าชวี วทิ ยา (ว30244) เร่ือง พนั ธุศาสตร์

ชุดกิจกรรมที่ 1 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

กระดำษคำตอบ ชดุ กิจกรรมกำรเรยี นร้ทู ่ี 1
เรื่อง กำรถ่ำยทอดลกั ษณะทำงพนั ธุกรรม

 กอ่ นเรียน  หลังเรียน

ช่ือ......................................................ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่.ี ........................เลขที่......................

ขอ้ ท่ี ก. ข. ค. ง.
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ บบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7E)
รายวชิ าชวี วทิ ยา (ว30244) เรอื่ ง พนั ธุศาสตร์

ชุดกิจกรรมที่ 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม

บัตรกิจกรรมกำรเรยี นรู้ท่ี 6
เรือ่ ง แผนผังแสดงควำมคดิ

ขน้ั นำควำมรูไ้ ปประยุกตใ์ ช้ (Elaboration)
คำช้แี จง
ให้นกั เรียนเขยี นแผนผงั แสดงความคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ต่อไปน้ี

สถำนกำรณ์

นักเรียนและเพอ่ื นๆ ไดไ้ ปเทยี่ วงานวัด และพบเดก็ หลงทาง เมอื่ นักเรยี นพาเด็กหลงทาง
ไปยังจดุ ประชาสมั พันธ์ ปรากฏว่ามคี นมารับเด็กหลงทางคนนัน้

ใหน้ กั เรียนสงั เกตโดยใช้ความร้เู กย่ี วกบั ลกั ษณะทางพันธุกรรมว่าบคุ คลนเ้ี ปน็ พอ่ หรอื แม่
ของเด็กหลงทางคนนัน้ หรอื ไม่ โดยทเ่ี ดก็ หลงทางไมไ่ ดบ้ อกขอ้ มลู แก่นกั เรยี น

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรูแ้ บบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E)
รายวิชาชีววิทยา (ว30244) เรอื่ ง พันธุศาสตร์

ชดุ กิจกรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม

บัตรควำมรู้ที่ 1
เรอ่ื ง พนั ธศุ ำสตร์

พนั ธุศำสตร์ (Genetic)
เป็นวทิ ยาศาสตรส์ าขาหน่งึ ที่กล่าวถึงลกั ษณะตา่ งๆ ของส่ิงมชี ีวติ ซ่งึ ถกู ควบคุมโดยหนว่ ยควบคุมลกั ษณะ
ซง่ึ เรียกว่า ยีน (Gene) ซึง่ จะถ่ายทอดลกั ษณะต่างๆ จากรุน่ หนง่ึ ไปยงั อกี รุ่นหนง่ึ และควบคุมให้ส่ิงมีชีวติ ชนดิ นั้นมี
โครงสรา้ งรูปร่าง สว่ นประกอบ และลกั ษณะอน่ื ๆ ทส่ี อดคล้องกับรุ่นพ่อแม่
ลกั ษณะทำงพันธกุ รรม (Genetic character)
เป็นลักษณะของสิ่งมีชวี ติ แต่ละชนิด เช่น ลกั ษณะจมกู โด่ง จมกู แบน ผมหยกิ ผมเหยยี ด ผวิ ดา ผิวขาว
ตาสองชั้น ตาชนั้ เดยี ว ถนดั ขวา ถนัดซ้าย ลกั ษณะดังกล่าวมักมลี ักษณะเหมือนกับพ่อและแม่ หรือเหมอื นญาติ
ทางพ่อและแม่ ดังนน้ั ลักษณะเหล่านี้ จงึ สามารถถ่ายทอดมาจากพอ่ แม่ได้ ซ่ึงเรยี กวา่ ลักษณะทางพนั ธุกรรม
(Genetic character)

ภาพ การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม
ทีม่ า http://cms573.bps.in.th/group12/genetic-character

สบื คน้ เม่ือ 5 เมษายน 2562

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E)
รายวชิ าชวี วิทยา (ว30244) เรื่อง พันธุศาสตร์

ชุดกิจกรรมท่ี 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม

ควำมแปรผนั ทำงพนั ธุกรรม (genetic variation)
สามารถแบ่งออกได้เปน็ 2 ประเภท คอื
1. ลักษณะทำงพันธกุ รรมที่มีควำมแปรผันแบบไม่ต่อเน่อื ง (Discontinuous variation) เป็นการแปร
ผนั ทีแ่ ยกออกจากกันไดโ้ ดยเดด็ ขาด เช่น

- ผมหยกิ และผมตรง
- หนงั ตาสองชั้น และหนังตาชัน้ เดียว
- การมีลักย้ิม และการไมม่ ลี ักยม้ิ
- การมตี ิงหู และไมม่ สี ิ่งหู
- เชงิ ผมทหี่ นา้ ผากแหลม และเชิงผมทห่ี น้าผากมน
- การมว้ นลน้ิ การห่อลิ้น เป็นตน้

ภาพ ลักษณะทางพันธกุ รรมทม่ี คี วามแปรผนั แบบไมต่ ่อเนอ่ื ง
ท่มี า https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/31740-044317

สบื คน้ เมือ่ 5 เมษายน 2562

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E)
รายวิชาชีววิทยา (ว30244) เร่ือง พันธศุ าสตร์

ชดุ กิจกรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม

2. ลกั ษณะทำงพนั ธกุ รรมทมี่ ีควำมแปรผันแบบตอ่ เน่อื ง (Continuous variation) เปน็ ลักษณะทาง
พันธุกรรมทไ่ี ม่สามารถแยกความแตกต่างได้อย่างชัดเจน ซึง่ ไดร้ ับอิทธิพลจากพนั ธุกรรมและสิ่งแวดลอ้ ม เช่น
ลกั ษณะสผี วิ ของคนที่มีตงั้ แต่ดาสนทิ ดาปานกลาง ดานอ้ ยลงเร่อื ย ๆ จนถงึ ผวิ ขาว หรอื ความสงู ที่มีตงั้ แตส่ ูงมาก
สูงปานกลาง และสงู ลดลงเรอื่ ยๆ จนถงึ เต้ีย ซ่งึ แยกออกจากกนั ไดไ้ มช่ ดั เจน เรียกได้ อีกอยา่ งหน่ึงว่า ลกั ษณะเชงิ
ปริมาณ (Quantitative trait)

ภาพ ลกั ษณะทางพันธุกรรมทม่ี ีความแปรผันแบบตอ่ เนอื่ ง
ทมี่ า https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/31740-044317

สบื ค้นเมื่อ 5 เมษายน 2562

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E)
รายวชิ าชีววิทยา (ว30244) เรื่อง พนั ธุศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมที่ 1 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม

บตั รควำมร้ทู ี่ 2
เรื่อง กำรศกึ ษำพนั ธศุ ำสตร์ของเมนเดล

เกรเกอร์ เมนเดล (Gregor Mendel)
เกรเกอร์ เมนเดล (Gregor Mendel) บดิ าแห่งวชิ าพนั ธศุ าสตร์ ไดท้ าการศกึ ษารปู แบบของการถ่ายทอด
ทางพันธุกรรมในถวั่ ลนั เตา (Garden pea : Pisum sativum) โดยตน้ ถัว่ ลันเตามีขอ้ ดีหลายอยา่ ง เชน่ เพาะปลูก
ได้ง่าย มีวงชีวติ สนั้ สามารถเจรญิ เติบโตไดเ้ รว็ และลกั ษณะของดอกถว่ั ลนั เตา มโี ครงสร้างเป็นดอกปิด
ธรรมชาติตน้ ถ่ัวลนั เตา จึงเปน็ พชื ท่มี ีการปฏสิ นธิ ภายในดอกเดียวกนั (Self-fertilization) ลักษณะของ
ดอกเชน่ นี้ ทาให้เมนเดลสามารถควบคมุ การทดลอง และปอ้ งกนั การผสมละอองเรณูจากดอกของต้นถว่ั ลันเตา
ตน้ อ่ืนได้

ภาพ เกรเกอร์ เมนเดล (Gregor Mendel)
ที่มา https://www.takieng.com/stories/14028

สบื ค้นเมือ่ 5 เมษายน 2562
กำรผสมขำ้ ม (Cross-fertilization)
การผสมขา้ ม (Cross-fertilization) ระหว่างต้นถ่ัวสองต้น เกดิ ขน้ึ เม่ือละอองเรณูจากดอกของถว่ั ต้นหนงึ่
ไปตกบนยอดเกสรเพศเมียในดอกของถ่วั อกี ตน้ หน่ึง เมนเดลทราบหลักการน้ดี ี จงึ ได้ทาการทดลอง โดยเมนเดล
นาต้นถั่วลันเตาทีม่ ดี อกสีมว่ งพันธแุ์ ทม้ าตดั เกสรเพศผู้ออก เพอ่ื ป้องกันเซลลส์ ืบพันธ์ุเพศผูใ้ นละอองเรณเู ข้าปฏิสนธิ
กับเซลลไ์ ข่ จากน้นั ใช้พูก่ นั ย้ายละอองเรณูจากตน้ ถว่ั ที่มีดอกสีขาวพนั ธแุ์ ท้มาใส่ในดอกสมี ่วง จะไดล้ ูกทเ่ี กดิ มามีดอก
สีม่วงทงั้ หมด ทาใหเ้ มนเดลค้นพบว่าลักษณะต้นถ่ัวลันเตาที่มดี อกสีม่วงเป็นลักษณะเดน่

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรูแ้ บบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขัน้ (7E)
รายวิชาชีววิทยา (ว30244) เรอ่ื ง พันธศุ าสตร์

ชุดกิจกรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม

ภาพ การทดลองของเกรเกอร์ เมนเดล
ท่ีมา https://sites.google.com/site/kimbiology123/bth-thi-2

สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2562
เมนเดลทาการทดลองโดยการนาต้นที่มีลกั ษณะสูงพันธแุ์ ท้กับตน้ ทมี่ ีลกั ษณะเตี้ยพันธ์ุแท้ผสมกนั เป็น
รุ่นพ่อแม่ (P generation) พบวา่ ลกู ที่เกิดข้นึ ในรุน่ F1 จะมีลักษณะต้นสูงทัง้ หมด (ลกั ษณะเดน่ ทง้ั หมด) จากนั้น
ถา้ นาลกู รุ่น F1 ทเ่ี กิดขึ้นมาผสมพนั ธ์กุ นั เอง จะพบว่ารุ่นลูกรุ่น F2 ทีเ่ กดิ ขน้ึ จะมอี ัตราสว่ นของฟีโนไทปข์ องลักษณะ
เดน่ ตอ่ ลักษณะดอ้ ย เป็นอตั ราส่วนโดยประมาณ 3 : 1 เสมอ การผสมพันธขุ์ องสงิ่ มีชวี ติ โดยพิจารณาลกั ษณะเพียง
ลกั ษณะเดยี ว เรยี กวา่ Monohybrid cross

ภาพ การผสมแบบ Monohybrid cross
ท่ีมา https://www.takieng.com/stories/14028

สบื ค้นเมื่อ 5 เมษายน 2562

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความร้แู บบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E)
รายวิชาชวี วทิ ยา (ว30244) เร่อื ง พนั ธุศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม

จำกกำรทดลองพบวำ่
1. F1 (First filial generation) ท่เี กิดจากการผสมต้นดอกสีมว่ งกับสีขาว เป็นดอกสีม่วงท้ังหมด
(จึงต้งั คาถามวา่ ลกั ษณะดอกสขี าวหายไปไหน?)
2. เขาจงึ นาลูก F1 มาผสมกันเอง
3. ได้ F2 (Second filial generation) พบวา่ มีลักษณะดอกสมี ว่ ง 705 ต้น และดอกสขี าว 224 ต้น (3:1)
(ซงึ่ พบว่า ลกั ษณะดอกสขี าวไมไ่ ดห้ ายไปใหนแตแ่ อบแฝงอยใู่ น F1 และกลับมาแสดงออกใน F2)

สรุปผลกำรทดลองได้วำ่
1. ลกั ษณะตา่ งๆ ของถัว่ ลนั เตา ถกู ควบคุมด้วย หนว่ ยควบคุมลักษณะซงึ่ เขาเรียกวา่ Heritable factor
เช่น สีดอกมี 2 แบบคอื แบบทคี่ วบคมุ สมี ว่ ง และสีขาว (ปจั จุบันเราเรียก Heritable factor วา่ Gene)
2. Heritable factor (Gene) ที่ควบคุมแต่ละลกั ษณะ จะอยู่กันเปน็ คู่ (Allele ใชเ้ รียก Gene ที่เปน็ คกู่ ัน,
ควบคุมลักษณะเดยี วกัน) ยีนทีเ่ ข้าคู่กัน ยนี หนง่ึ ไดม้ าจากพ่อและอกี ยนี ไดม้ าจากแม่
3. ลักษณะท่ีปรากฎในทุกรนุ่ เรยี กวา่ ลกั ษณะเดน่ (Dominant trait) ควบคุมโดย ยนี เด่น (Dominant
gene) สว่ นลักษณะท่ีปรากฎในบางร่นุ เรยี กว่า (Recessive trait) ควบคมุ โดย ยีนดอ้ ย (Recessive gene)
ลกั ษณะตา่ งๆ ของถ่วั ลันเตาทเ่ี มนเดลไดท้ าการศึกษา ประกอบดว้ ย
- สขี องดอกถว่ั ลนั เตา
- ตาแหน่งของดอกบนต้น
- สีของเมล็ด
- รปู รา่ งของเมลด็
- สขี องฝัก
- รปู ร่างของฝัก
- ความสงู ของลาต้น
ซึ่งแสดงลกั ษณะเด่นและลักษณะด้อยไดด้ งั ภาพ

ทีม่ า https://www.blockdit.com/posts/5ee76a866f3dc70564a7d5e9
สบื ค้นเมื่อ 5 เมษายน 2562

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความร้แู บบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ข้นั (7E)
รายวชิ าชวี วทิ ยา (ว30244) เรอื่ ง พนั ธุศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมที่ 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม

เมนเดล ประสบผลสาเร็จในการทดลอง จนต้ังเป็นกฎเกยี่ วกบั การถ่ายทอดทางพันธกุ รรมจากพอ่ แม่
มายงั ลกู หลาน ในช่วงตอ่ ๆ มาได้ เนอื่ งจากสาเหตุสาคญั 2 ประการ คือ

1. เมนเดลรจู้ ักเลือกชนิดของพืชมำทำกำรทดลอง คือ ถัว่ ลันเตา (Pisum sativum) ซ่ึงมีข้อดใี นการศึกษา
ด้านพนั ธศุ าสตร์หลายประการ เชน่

1.1 เปน็ พชื ที่ผสมตัวเอง (Self- fertilization) ซ่งึ สามารถสร้างพนั ธุ์แทไ้ ด้งา่ ย หรอื ทาการผสมข้ามพนั ธุ์
(Cross-fertilization) เพอ่ื สร้างลกู ผสมก็ทาไดโ้ ดยวิธผี สมโดยใชม้ อื ช่วย (Hand pollination)

1.2 เปน็ พืชทป่ี ลูกงา่ ย ใชเ้ วลาต้ังแต่ปลูก จนถึงเก็บเก่ยี วภายในหนึ่งฤดูปลูก (Growing season) ประมาณ
3 เดือนเท่าน้ัน และยงั ใหเ้ มลด็ ในปริมาณที่มากดว้ ย

1.3 เปน็ พชื ทม่ี ลี ักษณะทางพนั ธกุ รรม ทแ่ี ตกต่างกนั ชดั เจนหลายลกั ษณะ ซง่ึ ในการทดลองดังกลา่ วเมนเดล
ได้นามาใช้ 7 ลกั ษณะดว้ ยกนั

2. เมนเดลรู้จกั วำงแผนกำรทดลอง
2.1 เลอื กศึกษาการถา่ ยทอดลกั ษณะของถ่วั ลนั เตาแต่ละลักษณะก่อน เมอ่ื เข้าใจหลักการถ่ายทอดลักษณะ
นน้ั ๆ แล้ว เขาจงึ ได้ศึกษาการถ่ายทอดสองลักษณะไปพร้อมๆ กนั
2.2 ในการผสมพันธจ์ุ ะใช้พอ่ แม่พนั ธุ์แท้ (Pure tine) ในลักษณะท่ีตรงกันข้ามมาผสมข้ามพันธ์ุ เพอ่ื สร้าง
ลูกผสมโดยใชม้ ือชว่ ย (Hand pollination)
2.3 ลกู ผสมจากขอ้ 2.2 เรยี กว่าลูกผสมช่วงที่ 1 หรอื F1 (First-generation offspring) นาลูกผสมทไ่ี ด้
มาปลูกดูลักษณะท่เี กิดข้นึ ว่าเป็นอยา่ งไร บันทึกลักษณะและจานวนทีพ่ บ
2.4 ปล่อยให้ลูกผสมช่วงท่ี 1 ผสมกนั เอง ลูกทไ่ี ด้เรียกว่า ลกู ผสมชว่ งท่ี 2 หรือ F2 (Second-generation
offspring) นาลกู ชว่ งท่ี 2 มาปลูกดลู กั ษณะต่างๆ ท่ีเกิดขนึ้ ว่าเป็นอยา่ งไร บันทกึ ลกั ษณะและจานวนทพี่ บ

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ บบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ข้นั (7E)
รายวิชาชวี วิทยา (ว30244) เรอ่ื ง พนั ธุศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม

บัตรควำมรูท้ ี่ 3
เร่ือง คำศพั ท์เกยี่ วกับพนั ธุศำสตร์

คำศพั ท์พน้ื ฐำนเกย่ี วกบั กำรถ่ำยทอดลกั ษณะทำงพนั ธกุ รรม

Factor (แฟคเตอร)์ หรอื Gene (ยนี ) เปน็ หนว่ ยพนั ธกุ รรมท่ีควบคุม
ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของสง่ิ มีชวี ิตและถ่ายทอดจากร่นุ หน่ึงไปยงั อีก
รุ่นหนึง่ เช่น ยีน T, ยีน t , ยีน R , ยนี r

Gamete (เซลล์สืบพนั ธ)ุ์ หมายถงึ ไข่ (Egg cell) หรือ สเปิร์ม (Sperm)
ซ่ึงเป็นโครงสรา้ งทบี่ รรจสุ ารพันธุกรรมทจี่ ะถ่ายทอดไปยังรุ่นลกู เม่ือมกี าร
ปฏิสนธิเกดิ ขึน้

Locus (โลคสั ) หมายถึง ตาแหนง่ ที่
อยูข่ องยีนบนโครโมโซม

Allele (แอลลลี ) คอื ยนี ทเ่ี ปน็ ค่เู ดยี วกันเรยี กวา่ เป็น
แอลลีลิก (Allelic) ตอ่ กัน หมายความวา่ แอลลีลเหล่านน้ั
จะมีตาแหน่ง เดียวกันบนโครโมโซมท่ีเป็นคกู่ ัน
(Homologous chromosome)

Homozygous gene (โฮโมไซกัสยีน) หมายถงึ ยีนทีเ่ หมอื นกนั
อยู่ด้วยกนั เช่น TT, tt เปน็ ต้น

TT = homozygouse dominant gene (เดน่ พันธุแ์ ท้)
tt = homozygouse recessive gene (ด้อยพนั ธ์แุ ท้)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความร้แู บบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E)
รายวิชาชีววทิ ยา (ว30244) เร่อื ง พนั ธุศาสตร์

ชุดกจิ กรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

Heterozygous gene (เฮเทอโรไซกสั ยีน) หมายถงึ
เปน็ สภาพของสงิ่ มชี ีวติ ท่ีมยี นี 2 ยีนแตกต่างกันและ
ควบคมุ ลกั ษณะหนึง่ เชน่ Tt (พันธ์ุทาง = hybrid)

Genotype (จีโนไทป์) หมายถึง แบบของยนี ทอ่ี ยู่เปน็ คูๆ่
ซึง่ สิง่ มชี ีวิตไดร้ ับมาจากพอ่ และแม่ มหี น้าท่ีควบคุมลักษณะ
ของสงิ่ มีชีวิตในร่างกาย การเขียนจีโนไทป์ เขียนไดห้ ลายแบบ
เชน่ TT , Tt , tt , T/T , T/t , t/t

Phenotype (ฟโี นไทป์) หมายถงึ ลักษณะ
ของสง่ิ มีชีวติ ทป่ี รากฏออกมาเน่ืองจากการ

แสดงออกของยนี และอทิ ธพิ ลของสิง่ แวดล้อม
ฟีโนไทป์ = จีโนไทป์ + สิง่ แวดลอ้ ม

Dominance (ลกั ษณะเด่น) หมายถงึ Recessive (ลักษณะดอ้ ย) หมายถึง

ลกั ษณะท่ีปรากฏออกมาในรุ่นลูก ลกั ษณะทไ่ี มม่ ีโอกาสปรากฏในรุ่นต่อไป
หรือรนุ่ ตอ่ ๆ ไปเสมอ เปน็ ยนี ท่แี ฝงอยู่ และจะถกู ข่มโดยยนี เดน่

Homologous chromosome (โฮโมโลกสั โครโมโซม)
หมายถงึ โครโมโซมท่ีเปน็ คกู่ นั มีขนาดและรูปร่างภายนอก

เหมอื นกัน (แต่ยนี ภายในอาจแตกต่างกนั ) โดยทอ่ นหน่ึง
มาจากพอ่ อีกทอ่ นหนงึ่ มาจากแม่

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความร้แู บบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E)
รายวชิ าชีววทิ ยา (ว30244) เรื่อง พนั ธศุ าสตร์

ชดุ กจิ กรรมที่ 1 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

Homozygous chromosome (โฮโมไซกัส โครโมโซม)
หมายถึง โครโมโซมท่เี ป็นโฮโมโลกสั กัน และมียีนทเี่ ปน็
โฮโมไซกัสกันอยา่ งนอ้ ยหนง่ึ คู่

Monohybrid cross (กำรถ่ำยทอดพันธุกรรมลักษณะเดยี ว)
เปน็ การผสมพันธ์ซุ ง่ึ เราคานงึ ถงึ ลกั ษณะเพยี งลกั ษณะเดียวและ
มียีนควบคุมอยเู่ พียงคู่เดยี ว

Dihybrid cross (กำรถ่ำยทอดพันธุกรรมสองลกั ษณะ)
เป็นการผสมท่ีศกึ ษาสองลักษณะในเวลาเดียวกนั มยี นี
ควบคมุ สองคู่

First filial generation (ลูก F1) ลกู รุ่นท่ี 1
ลูกที่เกดิ จากการแต่งงานหรือผสมข้ามพันธ์ุ
รนุ่ แรกหรอื ลกู ผสม (hybrid) ลูกทเ่ี กิดจาก
การผสมขา้ มระหวา่ งพ่อแม่ที่มจี ีโนไทปต์ ่างกนั

Second filial generation (ลูก F2) ลูกรนุ่ ท่ี 2
ลกู ทีเ่ กดิ จากการผสมภายในลกู รนุ่ ท่ี 1 (ลกู F1)
หรือร่นุ หลาน

Pure line = Bred true (พันธ์ุแท้) สงิ่ มชี วี ติ ท่ี
เกดิ จากการผสมภายในประชากรเดยี วกันมาเป็น
เวลานานจนมจี โี นไทป์เปน็ โฮโมไซกัสกนั หรือ
สิง่ มชี วี ติ ทมี่ ีพันธกุ รรมแบบเดียวกันในประชากร

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความร้แู บบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E)
รายวชิ าชวี วิทยา (ว30244) เร่อื ง พันธศุ าสตร์

ชุดกิจกรรมท่ี 1 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

บรรณำนุกรม

จิรัสย์ เจนพาณชิ ย์(2553). BIOLOOGY for high school students ชีววทิ ยำสำหรบั นักเรยี นมธั ยมปลำย
(พิมพ์คร้งั ท่ี 8). กรงุ เทพมหานคร: หา้ งหุ้นส่วนจากัดสามลดา.

ทมี คณาจารย์ ภาควิชาชวี วทิ ยา มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ (2551). ชีววิทยำ เล่ม 1 (Biology : Concepts and
Applications). กรุงเทพมหานคร: เจเอสที พับลิชชงิ่ จากัด.

นภัทร ปราบมชี ัย(2559). ชีวะระยะประชิด (Biology Speedy Edition). กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พภ์ าพพมิ พ์.
(2560). ไบโอ-สปดี เทสต์. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พภ์ าพพมิ พ์.

ประสงค์ หลาสะอาด และ จิตเกษม หลาสะอาด(2552). ชวี วิทยำ ม.6 เล่ม 5. กรุงเทพมหานคร: สานกั พมิ พ์
พฒั นาศกึ ษา.

ศภุ ณัฐ ไพโรหกลุ (2558). Essential Biology. กรงุ เทพมหานคร: บริษัท แอคทีฟพรนิ้ ท์ จากัด.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี(2554). คู่มือครูรำยวิชำเพิ่มเติมชีววิทยำ เลม่ 4.

กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว.
(2554). หนังสอื เรยี นรำยวชิ ำเพ่มิ เตมิ ชวี วิทยำ เล่ม 4. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว.
สพุ รรณทิพย์ อติโพธิ์(2557). ULTRABIOLOGYสรปุ ชีววิทยำ มัธยมปลำย. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั กรีนไลฟ์
พร้นิ ท์ต้งิ เฮ้าส์ จากัด.

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E)
รายวชิ าชวี วทิ ยา (ว30244) เรอื่ ง พนั ธุศาสตร์

ชุดกจิ กรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E)
รายวิชาชีววิทยา (ว30244) เร่อื ง พันธศุ าสตร์

ชุดกิจกรรมท่ี 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลังเรยี น ชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ที่ 1
เร่อื ง กำรถ่ำยทอดลักษณะทำงพันธุกรรม

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ง.
X
ขอ้ ที่ ก. ข. ค. X
1X ง.
2X X
3X X
4X
5
6X
7X
8X
9X
10

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

ขอ้ ที่ ก. ข. ค.
1X
2X
3X
4X
5
6X
7X
8X
9
10 X

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E)
รายวชิ าชวี วิทยา (ว30244) เรื่อง พนั ธุศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม

เฉลยบัตรกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ที่ 1
เร่อื ง ใครหน้ำเหมอื นใครกนั นะ

ขั้นสรำ้ งควำมสนใจ (Engagement)

คำช้แี จง
1. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ศกึ ษาบัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เร่อื ง ฉนั หน้าเหมือนใครกันนะ ซง่ึ ประกอบดว้ ยภาพบุคคล

16 คน
2. สงั เกตลกั ษณะของบคุ คล จาแนกความเหมอื นของบคุ คลในภาพ และจับคู่บุคคลทีน่ กั เรยี นคดิ วา่ เป็นครอบครัว

เดยี วกัน
3. รว่ มกนั อภปิ รายวา่ เพราะเหตใุ ดจึงให้บุคคลเหล่าน้ันอยู่กลุม่ เดยี วกัน
4. สง่ ตวั แทนกลุ่มมานาเสนอหนา้ ชัน้ เรียน
5. กลมุ่ ทท่ี ากจิ กรรมได้รวดเร็วและถกู ต้องท่สี ุด จะเปน็ ฝา่ ยชนะ และไดร้ ับรางวัล

คำถำม
1. บคุ คลในภาพใดบ้างทเ่ี ปน็ ครอบครวั เดยี วกนั

ครอบครวั ท่ี 1 คนท่ี 1 , 5 , 7

ครอบครัวที่ 2 คนที่ 2 , 4

ครอบครวั ท่ี 3 คนที่ 3 , 6 , 8 , 9

ครอบครวั ที่ 4 คนที่ 10 , 12 , 13 , 15 ,16

ครอบครวั ท่ี 5 คนที่ 11 , 14

2. เพราะเหตใุ ด นักเรียนจงึ ใหบ้ ุคคลดังกลา่ วอยู่ในครอบครัวเดียวกนั

...ค..า..ต...อ..บ...ข..ึน้...อ..ย..ู่ก...บั ..ค...ว..า..ม..ค...ิด..เ.ห...็น..ข...อ..ง..น...กั ..เ.ร..ยี...น....แ..ต..ค่...ว..ร..ม..แี...น..ว..ค...า..ต..อ..บ...ว..า่...ส...ัง..เ.ก..ต...จ..า..ก..ล..กั...ษ...ณ...ะ..ต...่า.ง..ๆ...................
...ท...่ีค..ล..้า..ย...ค..ล..ึง..ก...ัน....เ.ช..่น....ร..ิม...ฝ..ีป..า..ก....จ..ม...ูก....ต..า...ล...ัก..ย..้ิม....โ..ค..ร..ง..ห...น..้า...ส...ผี ..ิว...ฯ...ล..ฯ...........................................................

...................................................................................................................................................................

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E)
รายวชิ าชวี วทิ ยา (ว30244) เรื่อง พันธุศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมที่ 1 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

บัตรกิจกรรมกำรเรยี นรูท้ ่ี 2
เร่อื ง สำรวจและคน้ หำ

ขั้นสำรวจและตน้ หำ (Exploration)

คำช้ีแจง
1. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ซ่งึ ถกู กาหนดว่าเป็นกลมุ่ บ้าน (Home Group) นับเลข เพอ่ื แสดงลาดับที่ของตนในกลมุ่

เชน่ 1 2 และ 3 จนครบทกุ คนในกลุ่ม แลว้ แบ่งหน้าทศ่ี ึกษาบัตรความรู้ตามที่กาหนด เชน่
- นักเรยี นคนทน่ี บั 1 ศกึ ษาบัตรความรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง พนั ธุศาสตร์
- นักเรียนคนที่นับ 2 ศึกษาบัตรความรู้ที่ 2 เรอ่ื ง การศกึ ษาพันธุศาสตร์ของเมนเดล
- นกั เรยี นคนที่นับ 3 ศึกษาบัตรความรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง คาศัพท์เกยี่ วกับพันธศุ าสตร์

2. นักเรยี นแตล่ ะคนในกลมุ่ บา้ น (Home Group) ศึกษาบัตรความร้ทู ่ีไดร้ บั มอบหมายให้เข้าใจอย่างละเอียด
3. นักเรยี นแต่ละคนในกลมุ่ บา้ น (Home Group) แยกออกจากกล่มุ เพ่อื ไปรวมตวั กับเพ่ือนตา่ งกลุ่ม ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย

ให้ศึกษาในเรื่องเดียวกันเป็นกลุม่ ใหม่ เรยี กว่า กลุ่มผูเ้ ชีย่ วชาญ (Expert Group)
4. นักเรียนกลมุ่ ผู้เช่ียวชาญ (Expert Group) แลกเปลยี่ นความรู้ซึง่ กนั และกัน ในเรอื่ งที่ได้รบั มอบหมายแลว้ สรปุ เป็น

องคค์ วามรู้ในเรือ่ งนน้ั ๆ
5. นกั เรียนกลุม่ ผ้เู ชี่ยวชาญ (Expert Group) แยกกลับไปยังกลมุ่ บ้าน (Home Group) แลว้ ผลัดเปลย่ี นหมนุ เวยี นกัน

อธิบายความรูท้ ่ีไดร้ บั จากกลมุ่ ผู้เช่ียวชาญ และรวมเป็นความรู้ของกลมุ่ เพือ่ เตรยี มตัวนาเสนอ หน้าช้นั เรียน

นักเรยี นควรสรปุ ได้ในประเด็นดังตอ่ ไปนี้
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมทม่ี คี วามแปรผนั แบบไมต่ อ่ เน่อื ง (เป็นการแปรผันทแี่ ยกออกจากกนั ได้โดยเด็ดขาด)
เช่น การมีลักย้ิมหรือไมม่ ลี กั ยม้ิ การหอ่ ลนิ้ ได้หรือการห่อล้ินไม่ได้ เป็นต้น และลกั ษณะทางพันธกุ รรมที่มคี วามแปรผนั
แบบต่อเนื่อง (เปน็ การแปรผันที่แยกออกจากกันไดไ้ มช่ ัดเจน) เช่น ลักษณะสีผิวของคน ลกั ษณะความสงู เปน็ ต้น
เกรเกอร์ เมนเดล ได้รับการยกย่องใหเ้ ปน็ บดิ าแห่งวิชาพันธศุ าสตร์ เขาทาการศกึ ษารปู แบบของการถ่ายทอด
ลักษณะทางพันธกุ รรมในถ่วั ลนั เตา ลกั ษณะ ซ่งึ นกั เรยี นควรสรปุ ได้ดงั นี้

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความร้แู บบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E)
รายวิชาชีววิทยา (ว30244) เร่อื ง พันธุศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม

นกั เรยี นควรสรุป คาจากดั ความของคาศัพท์ที่เกย่ี วข้องกบั พันธศุ าสตรไ์ ด้ ดงั เชน่

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ บบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E)
รายวิชาชวี วิทยา (ว30244) เร่อื ง พันธศุ าสตร์

ชุดกจิ กรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

บตั รกจิ กรรมกำรเรยี นร้ทู ี่ 3
เร่อื ง กำรศกึ ษำพนั ธศุ ำสตรข์ องเมนเดล

ข้นั อธิบำยและลงข้อสรปุ (Explanation)

คำชแี้ จง
จากการศึกษาของเมนเดล ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มสรปุ องคค์ วามและนาเสนอหนา้ ชั้นเรียน ในประเดน็ ดังตอ่ ไปนี้

1. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั เขียนลักษณะของรนุ่ ลูกรนุ่ ท่ี 1 และลกู ร่นุ ที่ 2 ทไี่ ด้จากการผสมของลกั ษณะดงั ต่อไปน้ี

เมล็ดกลม เมล็ดกลม , เมลด็ ขรขุ ระ

สเี หลือง สเี หลือง , สเี ขียว
สพี องกลม สพี องกลม , ฝักขรุขระ

สีเขียว สีเขียว , สีเหลือง
สมี ่วง สมี ่วง , สีขำว
ขำ้ งลำตน้ , ปลำยยอด
ข้ำงลำต้น ตน้ สงู , ตน้ เตย้ี
ตน้ สงู

2. ให้นกั เรียนเปรยี บเทยี บลักษณะท่ปี รากฏในรุน่ F2 และลักษณะท่ีปรากฏในรุ่น F1 วา่ มคี วามเหมอื นหรือแตกตา่ งกัน
อยา่ งไร
................ล..ัก..ษ...ณ....ะ..ท..ปี่...ร..า..ก..ฏ...ใ.น...ร..ุน่....F..1...จ..ะ..ป...ร..า..ก..ฏ...ล..ัก...ษ..ณ....ะ..ข..อ...ง..ร..ุน่ ..พ...่อ..แ...ม..่เ.พ...ีย..ง..ล...ัก..ษ...ณ...ะ..เ.ด...ีย..ว....เ.ช..่น....ร..นุ่...พ..่อ...แ..ม...่ .................
..ล...กั ..ษ...ณ...ะ..ต...น้ ..ส..งู..ผ...ส..ม..พ...ัน...ธ..์กุ ..ับ...ล..กั...ษ..ณ....ะ..ต..น้...เ.ต..ี้ย....ใ..น..ร..ุน่....F..1...จ..ะ...ป..ร..า..ก...ฏ..ล...กั ..ษ...ณ...ะ..ต...้น..ส...งู .เ..พ..ยี...ง.ล...ัก..ษ...ณ...ะ..เ..ด..ยี..ว....แ..ต...่ใ.น...ร..ุ่น..............
..F...2..จ...ะ..ป..ร..า..ก...ฏ..ล...กั ..ษ...ณ...ะ..ท...้งั..ต..้น...ส..ูง..แ..ล..ะ...ต..น้...เ.ต..ี้ย.................................................................................................................

3. ให้นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายลกั ษณะสาคญั ทีท่ าให้เมนเดลประสบความสาเร็จในการทดลอง

ช่างสงั เกต ชอบจดบนั ทึก ร้จู ักวางแผนการ เป็นพชื ท่ผี สมตวั เอง ปลูกง่าย มีลกั ษณะ
ทดลอง ศกึ ษาทีละข้ันตอน ทางานอย่างเป็น ทางพนั ธุกรรมที่แตกตา่ งกนั ชัดเจนหลาย
ลาดบั ลักษณะ

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E)
รายวชิ าชีววทิ ยา (ว30244) เร่อื ง พนั ธศุ าสตร์

ชดุ กิจกรรมท่ี 1 การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม

บัตรกจิ กรรมกำรเรยี นรทู้ ่ี 4
เร่อื ง โดมิโนหรรษำ

ขน้ั ขยำยควำมรู้ (Elaboration)

คำช้ีแจง
1. ให้นกั เรยี นแต่ละกลุม่ แบง่ หน้าทเี่ ป็นผู้สังเกตการณ์ 1 คน และผ้เู ลน่ 3-4 คน
2. ศกึ ษากจิ กรรมโดมิโนหรรษาในกล่องกจิ กรรมท่ี 4 ซ่ึงประกอบดว้ ยโดมิโนคาศพั ท์จานวน 40 บัตร
3. ผู้สงั เกตการณ์นาบัตรโดมโิ นคาศัพท์ แจกผู้เลน่ แตล่ ะคนจานวนเท่าๆ กัน
4. ผเู้ ลน่ คนที่ไดร้ ับบัตรโดมโิ น “START” จะได้รบั สทิ ธ์ิในการลงโดมโิ นคนแรก
5. ผู้เลน่ คนท่อี ยู่ทางขวามือของคนท่ีถอื บัตร START จะเปน็ ผู้ลงบตั รโดมโิ นคาศัพทค์ นถัดไป
6. ผ้เู ลน่ คนใดไมท่ ราบคาตอบ หรือไมม่ ีบัตรโดมโิ นคาศัพท์ในการลงตอ่ จากเพอ่ื นสามารถผ่านไปยงั คนถัดไปได้

โดยไมเ่ สียคะแนน
7. ผู้สังเกตการณ์ เป็นคนดเู ฉลยจากใบเฉลยกจิ กรรม หากเพอื่ นผเู้ ล่นวางบัตรโดมโิ นคาศัพทผ์ ดิ ใหน้ าออกและแจง้

ให้งดวาง 1 รอบ และใหเ้ พ่ือนคนถดั ไปเล่นตอ่
8. ผู้เล่นคนท่ีบตั รโดมโิ นคาศพั ท์หมดเป็นคนแรกเป็นผูช้ นะ

แนวคำตอบ

ใหน้ กั เรยี นสามารถนาคาท่ีมีความหมายสัมพันธ์กนั มาต่อโดมโิ น ได้ดงั นี้
รูปแบบท่ี 1
สง่ิ มชี วี ิตร่นุ แรกท่ไี ด้จากการผสมพนั ธุ์ / F1 / Frist generation offspring / ลกู ของรนุ่ พ่อแม่
รูปแบบท่ี 2
เป็นรุ่นพอ่ แม่ / สิ่งมีชีวิตรนุ่ พอ่ แม่ / Parent
รูปแบบท่ี 3
Gene / หน่วยทีม่ ีขอ้ มลู ของลกั ษณะทางพันธกุ รรม / หนว่ ยทางพนั ธกุ รรมทีค่ วบคมุ ลักษณะตา่ งๆ / Factor
รปู แบบที่ 4
TT / Homozygous dominant / Dominant /Homozygous / AA / Dominant allele / SS /
คู่แอลลลี ท่ีมรี ปู แบบแอลลีลเดยี วกัน / ลักษณะเด่น
รูปแบบท่ี 5
aa / คูแ่ อลลีลทมี่ รี ูปแบบแอลลีลเดียวกนั / Recessive / ลกั ษณะด้อย / Homozygous recessive
Recessive allele

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E)
รายวิชาชีววิทยา (ว30244) เร่อื ง พนั ธุศาสตร์

ชุดกิจกรรมที่ 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม

รปู แบบท่ี 6
TT / คู่แอลลีลที่มรี ปู แบบต่างกนั / ยีนทม่ี รี ูปแบบเป็น Aa / Heterozygous / Aa
รูปแบบท่ี 7
Genotype / Tt / Aa / aa / SS / AA / TT
รูปแบบท่ี 8
Phenotype / ลกั ษณะของสง่ิ มีชวี ิตทสี่ งั เกตได้ / ลักษณะต้นสงู / ลักษณะตาสีฟ้า
รปู แบบที่ 9
F2 / Second generation offspring
รปู แบบท่ี 10
เซลลท์ ่ีมีโครโมโซม 2 ชุด / Diploid
รูปแบบท่ี 11
เซลลท์ ม่ี ีโครโมโซม 1 ชดุ / Haploid
รูปแบบที่ 12
Allele / รูปแบบในระดบั โมเลกลุ ทีแ่ ตกต่างกันของยีน / สภาพของยีนทม่ี อี ยใู่ นสิ่งมชี วี ิต

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความร้แู บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E)
รายวิชาชวี วิทยา (ว30244) เรื่อง พันธศุ าสตร์

ชุดกจิ กรรมที่ 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม

บัตรกิจกรรมกำรเรยี นรทู้ ี่ 5
เร่ือง ทบทวนควำมรูด้ ้วยตนเอง

ขน้ั ขยำยควำมรู้ (Elaboration)

คำช้ีแจง
ใหน้ ักเรยี นทาทวนคาศัพท์ดว้ ยตนเองเป็นรายบุคคล แลว้ นาตัวอักษรหนา้ คาศพั ท์ด้านขวามอื เตมิ ลงหน้าขอ้ ความ
ซา้ ยมือทสี่ มั พันธ์กัน

……C…..1. รูปแบบในระดับโมเลกุลท่แี ตกตา่ งกันของยีน A. Phenotype
B. Dominant allele
…J……..2. โฮโมไซกัส โดมแิ นนท์ C. Allele
…I……..3. สิ่งมีชีวิตรุ่นแรกท่ไี ด้จากการผสมพนั ธุ์ D. F2
…M……..4. เซลลท์ ม่ี ีโครโมโซม 2 ชุด E. Haploid
…F……..5. ยนี ท่มี ีรปู แบบเปน็ Aa F. Heterozygous
…H……..6. โฮโมไซกัส รีเซสสพี G. Genotype
…A……..7. ลกั ษณะของสิ่งมีชวี ติ ที่สงั เกตได้ H. aa
…D……..8. Second-generation offspring I. First-generation offspring
…G……..9. สภาพของยนี ท่ีมีอยูใ่ นสิ่งมีชีวิต J. AA
…L……..10. หน่วยท่มี ีขอ้ มูลของลักษณะทางพันธุกรรม K. Recessive allele
L. Gene

M. diploid

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ บบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E)
รายวชิ าชวี วทิ ยา (ว30244) เร่อื ง พนั ธศุ าสตร์

ชุดกจิ กรรมที่ 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม

เฉลยบตั รกจิ กรรมกำรเรยี นรูท้ ี่ 6
เรือ่ ง แผนผงั แสดงควำมคดิ

ขน้ั นำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ (Elaboration)

คำชีแ้ จง
ใหน้ ักเรียนเขยี นแผนผงั แสดงความคิดเกี่ยวกบั สถานการณ์ต่อไปนี้

สถำนกำรณ์

นักเรยี นและเพือ่ นๆ ไดไ้ ปเทยี่ วงานวดั และพบเดก็ หลงทาง เมื่อนกั เรียนพาเด็กหลงทาง
ไปยงั จุดประชาสัมพันธ์ ปรากฏว่ามีคนมารับเด็กหลงทางคนนน้ั

ให้นกั เรียนสงั เกตโดยใชค้ วามรู้เกีย่ วกบั ลักษณะทางพันธุกรรมว่าบคุ คลน้ีเปน็ พ่อหรือแม่
ของเดก็ หลงทางคนนน้ั หรือไม่ โดยทเ่ี ด็กหลงทางไม่ไดบ้ อกข้อมูลแกน่ ักเรยี น

คำตอบข้นึ กบั ควำมรแู้ ละควำมคิดเห็นของนกั เรยี น แต่อำจมแี นวคำตอบดังน้ี

ลกั ษณะเส้นผม สตี ำ

ศึกษำลกั ษณะ สผี ม
ใบหน้ำ ภำยนอก

ลกั ย้ิม

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความร้แู บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E)
รายวชิ าชวี วทิ ยา (ว30244) เร่ือง พนั ธุศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมท่ี 1 การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม

แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล
เรื่อง กำรถำ่ ยทอดลักษณะทำงพันธกุ รรม

ช่ือ......................................................ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี.่ ........................เลขท.ี่ .....................

คำช้ีแจง ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั
ระดบั คะแนน

ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321
1 การแสดงความคิดเห็น
2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผู้อื่น
3 การทางานตามหน้าทท่ี ี่ได้รบั มอบหมาย
4 ความมนี ้าใจ
5 การตรงต่อเวลา

รวม

ลงช่อื ......................................ผูป้ ระเมนิ
........../................./........

เกณฑ์กำรให้คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้งั ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ำรตัดสินคุณภำพ ระดับคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ดมี าก
18-20 ดี
14-17 พอใช้
10-13 ปรบั ปรงุ
ตา่ กว่า 10

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E)
รายวิชาชีววทิ ยา (ว30244) เรอ่ื ง พนั ธศุ าสตร์

ชดุ กิจกรรมที่ 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม
เร่ือง กำรถ่ำยทอดลกั ษณะทำงพนั ธุกรรม

ชอื่ ......................................................ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี.........................เลขท.ี่ .....................

คำชีแ้ จง ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งทต่ี รงกับ
ระดบั คะแนน

ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน
4321
1 การแบ่งหน้าท่ีกนั อยา่ งเหมาะสม
2 ความร่วมกนั ทางาน
3 การแสดงความคิดเห็น
4 การรบั ฟงั ความคดิ เหน็
5 ความมนี ้าใจช่วยเหลอื กัน

รวม

ลงชื่อ......................................ผปู้ ระเมิน
........../................./........

เกณฑก์ ำรให้คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ำรตัดสนิ คณุ ภำพ ระดบั คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ดีมาก
18-20 ดี
14-17 พอใช้
10-13 ปรบั ปรุง
ตา่ กวา่ 10

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E)
รายวชิ าชวี วทิ ยา (ว30244) เรอ่ื ง พนั ธุศาสตร์

ชุดกจิ กรรมท่ี 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะของผ้เู รียน
เรอื่ ง กำรถ่ำยทอดลกั ษณะทำงพันธกุ รรม

ช่ือ......................................................ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่.........................เลขที่......................

คำชี้แจง ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั
ระดับคะแนน

คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
4321
อนั พงึ ประสงค์

ด้าน

1. 1. ยนื ตรงเม่อื ไดย้ ินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมายของเพลงชาติ

รกั ชาติ 2. ปฏบิ ัติตามสทิ ธฯิ และหน้าที่ของนักเรียน

ศาสน์ 3. ให้ความรว่ มมอื รว่ มใจในการทางานกับสมาชิกในโรงเรยี น

กษัตรยิ ์ 4. เข้าร่วมกจิ กรรมและมีส่วนรว่ ม ในการจดั กจิ กรรมทีส่ รา้ งความสามคั คปี รองดอง

และเปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรียนและชมุ ชน

5. เข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทีต่ นนบั ถือ ปฏิบัตติ ามหลักของศาสนา

6. เข้าร่วมกจิ กรรมและมีส่วนรว่ มในการคดิ จดั กจิ กรรม เกีย่ วกบั สถาบนั พระมหากษัตริย์

ตามที่โรงเรยี นและชุมชนจดั ข้ึน

2. 1. ให้ข้อมลู ท่ถี กู ต้องและเปน็ จริง

ซ่ือสัตย์ 2. ปฏบิ ัติในสงิ่ ท่ถี กู ต้อง ละอายและเกรงกลัวทจี่ ะทาความผิด ทาตามสญั ญาท่ีตนใหไ้ ว้

สุจรติ กับเพ่อื น พ่อแม่หรือผ้ปู กครอง และครู

3. ปฏิบตั ติ อ่ ผู้อืน่ ด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชน์ในทางทีไ่ มถ่ ูกต้อง

3. 1. ปฏิบตั ิตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับของครอบครัวและโรงเรยี น

มวี นิ ัย 2. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจาวันและรบั ผิดชอบในการทางาน
รับผดิ ชอบ

4. 1. แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ เรียนรู้ต่างๆ

ใฝ่เรียนรู้ 2. มกี ารจดบันทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ

3. สรปุ ความรทู้ ่ไี ดอ้ ยา่ งมีเหตผุ ล

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E)
รายวิชาชีววทิ ยา (ว30244) เร่อื ง พันธศุ าสตร์

ชดุ กิจกรรมท่ี 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม

คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
4321
อนั พงึ ประสงค์

ดา้ น

5. 1. ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คมุ้ คา่ และเกบ็ รักษา
อยอู่ ยา่ ง ดแู ลอยา่ งดีและใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม
พอเพียง
2. ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คุม้ คา่ และเก็บรกั ษาดูแลอยา่ งดี

3. ปฏิบตั ิตนและตดั สนิ ใจด้วยความรอบคอบมีเหตุผล

4. ไม่เอาเปรยี บผู้อืน่ และไมท่ าใหผ้ ้อู ื่นเดือดรอ้ น พรอ้ มให้อภยั เมือ่ ผูอ้ นื่ กระทาผิดพลาด

5. วางแผนการเรยี น การทางาน และการใช้ชวี ิตประจาวนั บนพ้ืนฐานของความรู้ข้อมลู

ขา่ วสาร

6. รู้เทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสภาพแวดล้อมยอมรับ และปรบั ตัวอยู่ร่วมกับ

ผู้อื่นไดอ้ ย่างมคี วามสุข

6. 1. มีความต้ังใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย

มุง่ มัน่ 2. มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อุปสรรคเพอื่ ให้งานสาเรจ็
ในการทางาน

7. 1. มีจิตสานึกในการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย
รักความ 2. เหน็ คุณคา่ และปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมไทย
เปน็ ไทย

8. 1. รจู้ กั ช่วยพ่อแมผ่ ้ปู กครองและครทู างาน

มี 2. อาสาทางานช่วยคิดชว่ ยทาและแบ่งปันสงิ่ ของให้ผูอ้ ืน่
จติ สาธารณะ 3. ดูแลรักษาทรัพยส์ มบตั ิของหอ้ งเรยี นโรงเรียนและชมุ ชน

4. เข้ารว่ มกจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรยี น

ลงชื่อ......................................ผปู้ ระเมิน
........../................./........

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E)
รายวชิ าชีววิทยา (ว30244) เรื่อง พันธุศาสตร์


Click to View FlipBook Version