ชุมชนบ้านคีรีวง
ที่อยู่ : หมู่บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา
จังหวัดนครศรีธรรมราช
พิกัด :
https://goo.gl/maps/UEHb645GGp7aeiYBA
เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน
โทร : 0-7553-3111
ชุมชนคีรีวงตั้งอยู่บนพื้นที่ราบชิงเขาหลวง ลักษณะพื้นที่เป็น
ที่ราบแอ่งกระทะระหว่างภูเขา อยู่ในเขตเทือกเขานครศรีธรรมราช
ภูเขาที่สำคัญในพื้นที่ ได้แก่ เขาใหญ่ เขาหน้าลอน เขาในไฮ
และเขาสันสวรรค์ มีธารน้ำหลายสารซึ่งมีต้นกำเนิดบนเทือกเขา
โดยรอบไหลผ่านเป็นแหล่งน้ำหล่อเลี้ยงชุมชนก่อนไหลลง
สู่ทะเลบริเวณชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย
พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในลุ่มน้ำคลองท่าดี ซึ่งมีพื้นที่
72.9 ตารางกิโลเมตร โดยลุ่มน้ำท่าดีอยู่ระหว่างพิกัดที่
Lat. 8 ํ 24' - 8 ํ 29' N และ
Long. ที่ 99 ํ 42' - 99 ํ 48' E
ชุมชนคีรีวงตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศแบบคาบสมุทร และได้รับ
อิทธิพลจากลมมรสุมทั้งจากฝั่งทะเลอันดามันและฝั่งอ่าวไทย ทำให้
ชุมชนคีรีวงมีฤดูกาลเพียง 2 ฤดูกาล คือ ฤดูร้อนและฤดูฝน
โดยในช่วงฤดูร้อนอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน อันเป็น
ช่วงปลายลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีฝนตกน้อยและอุณหภูมิ
สูง
ส่วนในช่วงฤดูฝน สามารถแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกอยู่
ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันตก
เฉียงใต้พัดมาจากทะเลอันดามัน และมีฝนตกไม่มากนัก และช่วงที่
สองอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงถึงเดือนมกราคม เป็นช่วงที่ลม
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดมาจากทะเลจีนใต้ และมีฝนตกหนัก
ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติเขาหลวง มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม
ทั้งสองด้าน ทำให้มีสภาพชื้นและปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยสูง พืชพรรณไม้ส่วนใหญ่จึงเป็นสังคมพืชป่าดงดิบ
ชื้น ซึ่งสามารถจำแนกออกได้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ ป่าดิบเขา ป่าดงดิบชื้น
พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ เหมือด กำยานแดงเขา ก่อเขา บุญนาคเงา จำปูนช้าง พืชคลุมดินส่วน
ใหญ่คล้ายป่าดิบเขาระดับต่ำแต่จะมีพืชหญ้าขึ้นมาก ได้แก่บัวแฉกใบใหญ่ บัวแฉกใบมน
นอกจากนี้ยังมีกุหลาบพันปี กุหลาบป่าหรือกุหลาบเขาหลวง เต่าร้าง บีโกเนีย หรือก้ามกุ้ง
หลายชนิด มหาสดำ (เฟิร์นต้น Tree Fern) เป็นต้น
แหล่งน้ำ ชุมชนบ้านคีรีวงรายล้อมไปด้วยภูเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหลวง ซึ่งเป็นภูเขา
ที่สูงที่สุดในภาคใต้ จุดสูงสุดของเทือกเขามีความสูงประมาณ 1,835 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่ยังคง
ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และยังเป็นป่าต้นน้ำของลำธารอีกหลายสาย ป่าต้นน้ำเป็นแหล่งที่มา
ของน้ำที่ค่อย ๆ รวมตัวกันไหลลงสู่ลำธาร น้ำตก จนไปถึงแม่น้ำใหญ่ที่สุด คีรีวงมีแม่น้ำ ลำธารสาย
หลัก ได้แก่ คลองลำงา และคลองท่าชาย ซึ่งไหลผ่านบ้านคีรีทอง และไหลไปบรรจบกัน กลายเป็น
“คลองขุนน้ำ” และคลองขุนน้ำไหลผ่านบ้านขุนคีรีไปบรรจบกับคลองปงบริเวณบ้านคีรีธรรมกลายเป็น
“คลองท่าดี” เป็นคลองสายหลัก
ดิน
ในพื้นที่ชุมชนคีรีวงลักษณะของดินจะเป็นดินภูเขา (soil of hills and mountains) เป็นกลุ่มดิน
ในที่ลาดชันซึ่งเกิดจากหินที่มีสภาพเป็นกรด
ความหนาแน่นรวมมีค่าค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง
ซึ่งสลายตัวและผุพังได้ง่าย และดินสามารถระบายน้ำได้ดี ทำให้เกิดปัญหาการชะล้างพังทลาย
ของหน้าดินอยู่เสมอ
แร่ธาตุ
พื้นที่ลุ่มน้ำท่าดี พบหินอัคนีเป็นส่วนใหญ่ในกลุ่มหินแกรนิตใหม่
ซึ่งเกิดในยุคครีเตเซียส อายุประมาณ 11 ล้านปี
สัตว์
อุทยานแห่งชาติเขาหลวงเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าไม่น้อยกว่า 327 ชนิด
สัตว์ป่าที่พบเห็น เช่น สมเสร็จ เลียงผา ลิงกัง ลิงเสน ค่างดำ ค่างแว่นถิ่นใต้
ชะนีธรรมดา เสือลายเมฆ เสือดำ เสือโคร่ง หมีหมา เก้ง กวางป่า เม่นหางพวง
สัตว์จำพวกนก เช่น นกอินทรีดำ ไก่ฟ้าหน้าเขียว ไก่ป่า นกเขาเปล้าธรรมดา
นกหว้า นกเงือกหัวหงอก นกเงือกปากดำ นกกก นกชนหิน
นกโพระดกหลากสี
สัตว์
สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกที่หายากหลายชนิด เช่น งูลายสายมลายู เต่าจักร
งูหลามปากเป็ด งูสามเหลี่ยมหัวหางแดง จิ้งจกนิ้วยาวกำพล ตุ๊กแกป่าโคนนิ้วติด จิ้งเหลนเรียว
ปักษ์ใต้ งูเขียวดงลาย กบเขาท้องลาย เป็นต้น
สัตว์น้ำที่พบได้แก่ ปลาพลวง ปลาแฮะ ปลาไส้ขม ปลาซิวน้ำตก
ปลาอีกอง ปลาติดหิน ปูน้ำตก เป็นต้น
ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันภูมิทัศน์คีรีวงเสื่อมโทรมหนักขึ้นเรื่อย ๆ รีสอร์ทผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด อย่างไร้
ระเบียบ ระบบบำบัดน้ำเสียที่ไร้มาตรฐาน นอกจากนี้ในวันหยุดยาวหรือช่วงเทศกาลยังมีปัญหา
การจราจรแออัด ทั้งรถตู้ รถบัส รถส่วนตัว ติดเครื่องจอดแช่ไว้ปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์
กลายเป็นมลพิษทางอากาศสร้างความเดือดร้อนรำคาญใจแก่ชาวบ้านอย่างมาก บ้านพัก รีสอร์ท
ต่าง ๆ ก็ปล่อยให้นักท่องเที่ยวเสียงดัง สร้างมลภาวะทางเสียงรบกวนชุมชน
ปัญหาทรัพยากรดิน
เกิด
ปัญหาการชะล้างพังทลายของหน้าดินอยู่เสมอ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง
จากสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศที่มีปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์สูง และลักษณะดินที่พัง
ทลายได้ง่าย ทำให้พื้นที่ชุมชนคีรีวงประสบกับปัญหาอุทกภัยผสมกับการพังทลายของดินอยู่เสมอ
ปัญหาทรัพยากรน้ำ
พื้
นที่ชุมชนคีรีวงได้ประสบปัญหาน้ำเน่าเสีย สาเหตุของปัญหาน้ำเน่าเสียเกิดจากการ
ปล่อยน้ำเสียจากกิจการบ้านพัก รีสอร์ทต่าง ๆ ที่ไม่ได้รับการบำบัดหรือมีการกำจัดที่ถูกต้อง ถูก
ปล่อยลงมาสู่แหล่งน้ำ ลำคลอง
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
ปัญหาที่พบในท
รัพยากรป่าไม้ของชุมชนบ้านคีรีวง
จังหวัดนครศรีธรรมราช มีด้วยกัน
2 ลักษณะ คือ
1. การลักลอบตัดไม้ ปัญหาการลักลอบตัดไม้ยัง
ปรากฏอยู่บ้าง ส่วนหนึ่ง คือ การตัดไม้เพื่อ การสอยใน
ชุมชนโดยคนในชุมชน แต่ที่ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญอีกประการ
หนึ่ง คือ การลักลอบตัดไม้โดยคนนอกชุมชน โดยมีกลุ่ม
นายทุนอยู่เบื้องหลัง
2. การบุกรุกเพื่อครอบครองพื้นที่
ชุมชนคีรีวงได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ใน
บริเวณนี้มากว่า ๒๐๐ ปีแล้ว ในอดีต ชุมชนนี้
เรียกว่า “บ้านขุนน้ำ” เนื่องด้วยเพราะว่าชุมชนตั้ง
บ้านเรือนอยู่บริเวณต้นน้ำของเขาหลวง อันเป็น
ส่วนหนึ่งเทือกเขานครศรีธรรมราช ต่อมาได้เปลี่ยน
ชื่อเป็น “บ้านคีรีวง” ตามชื่อวัดที่สร้างขึ้นมา วัด
ประจำท้องถิ่นคือ วัดคีรีวง มีความหมายว่า
“บ้านที่อยู่ภายในวงล้อม (วง) ของภูเขา (คีรี)”
ตามความเชื่อที่กลุ่มผู้อาวุโสในชุมชนคีรีวง
ในสมัยเก่าวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่ผูกติดอยู่กับภูมิปัญญาชาวบ้านมีปราชญ์ มีพระ
ภิกษุ และคนเก่าแก่ใน หมู่บ้าน วิถีผูกติดอยู่กับธรรมชาติ มีความผูกพันอยู่กับชุมชน
และธรรมชาติ การดำเนินชีวิตก็หาได้จากดิน น้ำ ป่า ไม้ เช่น การหาของป่า สมุนไพร
รักษาโรค พืชผักต่างๆ การจับปลา ล่าสัตว์ เป็นต้น
อาชีพของคนในชุมชนส่วนใหญ่ทำการเกษตรบนพื้นที่เชิงเขาในรูปแบบสวนผสมผสาน
เป็นชุมชนที่นำเอาภูมิปัญญาจากคนรุ่นก่อน มาใช้ในการดำเนินชีวิตและประยุกต์ใช้ได้
อย่างเหมาะสม คือ การปลูกพืชหลายชนิด ไว้ในแปลงเดียวกัน ซึ่ง เรียกเป็นภาษาถิ่น
ใต้ว่า “สวนสมรม” ผลผลิตทางด้านการเกษตร เช่น มังคุดเขา ทุเรียน
ยางพารา สะตอ ลองกอง ลางสาด จำปาดะ ลูกเนียง ส้มแขก ผักเขลียง
โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 74 (ชุมชนบ้านค
ีรีวง) เดิมชื่อว่าโรงเรียนวัดคีรีวง ก่อ
ตั้งเมื่อปี พ.ศ.2476 โดยพระภิกษุแจ้ง พุทธรกฺขิโต ในความอุปถัมภ์ของพระ
ภิกษุเถื่อนสุชาโต เจ้าอาวาสวัดคีรีวง เปิดทำ การสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปี
ที่ 1-4 ต่อมาในปี พ.ศ.2515 ได้ขยายชั้นเรียนถึงชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5-7
ตามลำดับ ในปี พ.ศ.2518
ได้รับการจัดตั้งเป็นโรงเรียนชุมชนแห่งแรกของ
อำเภอลานสกาโดยใช้ชื่อว่าโรงเรียนชุมชนวัดคีรีวง
โรงเรียนได้รับการพัฒนาให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
การทำสวนสมรมของชาวคีรีวง
สำหรับอาหารชาวคีรีวง เนื่องจากคีรีวงเป็นพื้นที่อุดม
สมบูรณ์ ซึ่งมีวัตถุดิบจากธรรมชาติที่ใช้ประกอบอาหารอยู่มาก
ประกอบกับภูมิปัญญาท้องถิ่นและความคิดสร้างสรรค์ของชาวบ้าน
ทำให้เกิดการถนอมอาหารรูปแบบต่าง ๆ ที่มีรสชาติดี และเป็น
เอกลักษณ์ท้องถิ่นมากมาย มีกลุ่มในรูปแบบขององค์กรชุมชน คือ
กลุ่มหมาต้อ
กลุ่มแม่บ้านทุเรียนกวน
การสร้างบ้านเรือนของชาวคีรีวง การสร้างบ้าน
เรือนที่อยู่อาศัยของชุมชน ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันส่วนใหญ่นิยมตั้ง
บ้านเรือนใกล้กัน เพื่อความสะดวกสบายในการใช้น้ำอุปโภค
บริโภค และตั้งบ้านเรือนแบบกระจายตามพื้นที่เกษตรกรรม หรือ
ริมทางใกล้เคียงกับสถานที่สำคัญ และตามเส้นทางคมนาคม โดย
มีลักษณะ การตั้งบ้านเรือน เป็นบ้านแบบไม้ใต้ถุนสูง ต่อมามีการ
เปลี่ยนแปลงลักษณะเป็นปูน และดัดแปลงลักษณะบ้านเพื่อใช้พื้นที่
ในการใช้เพื่อทำการค้าขาย มีบ้านเรือนเพิ่มมากขึ้น
การทำลูกประคบเพื่อรักษาอาการเคล็ด
ขัดยอก ฟกช้ำ คือนำไพลเหลือง ไพลดำ และขมิ้นชัน
ซึ่งหาได้ในพื้นที่ของชุมชนมาโขลกให้ละเอียดแล้วนำมาห่อด้วยผ้าขาวบาง มัดให้แน่น แล้วจึงนึ่งให้มีความร้อน
เล็กน้อยนำมาประคบบริเวณที่มีอาการฟกช้ำ
ชุมชนคีรีวงมีการทำผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ ประกอบกับผ้ามัดย้อมใช้สีจากพืชธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิด
ผลเสียใดๆ จึงทำให้คนสนใจและนิยมซื้อผ้ามัดย้อมไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มลูกค้ามีทั้งภายในประเทศ และ
ส่งขายไปยังต่างประเทศ ซึ่งได้แก่ประเทศอังกฤษ และญี่ปุ่น ซึ่งสร้างรายได้ให้กับสมาชิกกลุ่มได้ดี
ชาวชุมชนคีรีวงนั
บถือศาสนาพุทธ
วิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีจึงเป็นแบบชาว
พุทธ และมีวัดเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน
วัดคีรีวง เป็นวัดที่สำคัญของหมู่บ้าน เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาว
คีรีวง สถานที่วัดตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา
จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ตั้งชื่อตามลักษณะ
ภูมิประเทศ ที่มีภูเขาล้อมรอบว่า “วัดคีรีวง” หมายถึงวัดที่อยู่ภายใต้วง
รอบของภูเขา ตามคำบอกเล่าได้ความว่า มีชาย 5 คนนำโดย ”ทวด
นุ่น” ซึ่งเป็นคนยุคแรก ๆ ของชุมชนไปทำนบกั้นน้ำที่ลำธาร ขณะเดิน
สำรวจบริเวณโดยรอบเพื่อจะตัดไม้มาสร้านบกั้นน้ำ ก็ได้พบกับเจดีย์เก่า
ซึ่งไม่ระบุหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ใดและมีพระพุทธรูปอยู่ด้วย
องค์หนึ่ง คนเชื่อว่า สถานแห่งนี้เคยเป็นวัดมาก่อนต่อมาชาวบ้านรวมตัว
กันบูรณะวัดเก่าขึ้นมาและตั้งชื่อใหม่ว่า “วัดคีรีวง” ตามภูมิศาสตร์ดัง
กล่าว
วัดกลางหรือวัดพิกุลแก้ว เล่ากันว่าเดิมเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง
ของบ้านคีรีวง มีเจ้าอาวาสเรียงลำดับไว้ดังนี้ พ่อท่านนุ่น พ่อท่านเผือก
พ่อท่านชื่น อาจารย์แจ้ง และครั้งเมื่ออาจารย์เถื่อน เจ้าอาวาสวัดคีรีวง
มรณะภาพ ชาวบ้านได้นิมนต์ อาจารย์แจ้งซึ่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดพิกุล
แก้วให้ไปจำพรรษาที่วัดคีรีวง ประวัติการสร้างวัดเล่าต่อกันว่า วัดกลาง
สร้างขึ้นหลังวัดคีรีวง โดยไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด ขนาด
พื้นที่วัดมีประมาณ 4 ไร่ ภายในวัดปรกอบด้วย ศาลา กุฏิ 2 หลัง และ
ฐาน (สุขา) และในขณะที่อาจารย์แจ้งย้ายมาอยู่ที่วัดคีรีวง ชาวบ้านได้
ช่วยกันย้ายสิ่งของดังกล่าวมาอยู่ทีวัดคีรีวงด้วย แต่น่าเสียดายที่หลักฐาน
ดังกล่าวได้ถูกน้ำพัดพาไปเมื่อเกิดอุทกภัย
ประเพณีชักพระ จัดขึ้นในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี กลางคืนมีการ
สมโภชนพระลาก มีมหรสพ การละเล่นต่าง ๆ รุ่งเช้าชาวบ้านจะแต่งกายด้วยชุดสวยงาม
ใส่เครื่องประดับ มาร่วมตักบาตรหน้าล้อหรือตักบาตรเทโว และประกอบพิธีทางศาสนา
จากนั้นร่วมกันชักพระนมของวัดคีรีวง โดยใช้คานไม้ขนาดใหญ่รูปพญานาค 2 ท่อน ซึ่ง
เป็นแบบดั้งเดิม ไม่ใส่ล้อ วางบนพื้น มีซุ้มมณฑปเรือนใหญ่ ยอดสวยงาม ประดิษฐานพระ
ลากเก่าแก่ของชุมชน มีน้ำหนักมาก ต้องอาศัยคนชักลากจำนวนมาก
และมีความพร้อมเพรียงกัน มีคนแห่พระให้จังหวะจึงชักไปได้
เมื่อถึงเวลาบ่ายจึงชักพระกลับวัด ทำพิธีสรงน้ำ
พระลากเป็นที่ครึกครื้น สนุกสนาน
ประเพณีสงกรานต์ ชาวคีรีวงจัดขึ้นทุกปี ในวันที่ 13 เมษายน มีทั้งพิธี
ทางศาสนา การทำบุญตักบาตรตอนเช้า ส่วนกุศลในบุพการีที่ล่วงลับไปแล้ว และมีพิธีกรรม
ตามขนบธรรมเนียมไทย คือ การทรงน้ำพระ การรดน้ำขอพรจากผู้สูงอายุเป็นการแสดง
ความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษและบุพการี สอนให้รู้จักการให้อภัยกัน ในอดีตชาวบ้านจะ
แช่ครกและสาก ในวันว่างมีการทอดเพลงบอก เพื่ออวยพรเจ้าบ้านตอนหัวค่ำ 3 คืน ใน
เวลากลางวันชาวบ้านจะเล่นอีควัด เล่นสะบ้า เล่นหมากขุม และการพนันอื่น ๆ
ทำบุญเจ้าอาวาส เป็นประเพณีทำบุญให้กับอดีตเจ้าอาวาสวัดคีรีวง พ่อท่าน
เถื่อน สุชาโต ซึ่งเคยมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำการพัฒนาชุมชน จนกระทั่งเจริญ
ก้าวหน้าเป็นหมู่บ้านพัฒนาในปัจจุบัน จัดขึ้นวันแรม 8 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี มีพิธีที่เป็น
เอกลักษณ์ท้องถิ่น คือ การกวนข้าวมธุปายาสตลอดวัน และการให้ทานไฟในเวลารุ่งเช้า
งานรำลึกอุทุกภัยปี พ.ศ. 2531 จัดขึ้นทุกวันที่ 22 พฤศจิกายน ของทุกปี
ชาวคีรีวงจะร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กาผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์น้ำท่วมคีรีวง ปี พ.ศ.
2531 เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจชาวคีรีวง ไม่ให้กระทำในสิ่งที่เป็นสาเหตุของภัยพิบัติมาสู่
ชุมชนอีก ในบางปีอาจมีกิจกรรมการเรียนรู้หรือบำเพ็ญประโยชน์เป็นกรณีพิเศษเพื่อกระตุ้น
และเสริมสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ประเพณีเดือนสิบ เป็นประเพณีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษ มีการ
ยกหมรับถวายวัด ทำบุญประจำปีในวันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบของทุกปี มีจุดเด่นคือ หมรับ
ขนาดใหญ่เต็มด้วยผลไม้ที่คัดสรรมาจากสวน เพื่อถวายวัด แล้วจัดจำหน่ายเป็นรายได้ถวาย
วัดเป็นจำนวนมาก
หนานหินท่าหา น้ำตกสอยดาว น้ำตกวังไม้ปัก
อนุสรณ์สถานวัดคีรีวงและมหาอุทุกธรณีภัย
ชุมชนคีรีวงเกิดอุทกภัยใหญ่ ๆ ถึง 2 ครั้ง
คือ ในปี พ.ศ.2518 และ พ.ศ. 2521 ซึ่งครั้งหลังเป็นอุก
ทกภัยที่ร้ายแรงที่สุด บ้านเรือนถูกน้ำท่วม ดินโคลนจาก
ภูเขาไหลทับถม เสียหายไปเป็นจำนวนมาก อุโบสถวัดคีรี
วงพังเหลือเพียงครึ่งหลัง ร่องรอยเหล่านี้ยังคงหลงเหลือ
มาจนถึงปัจจุบัน และเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่น่า
ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์และการพัฒนา
ชมรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่
รับผิดชอบในการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเพิ่ม
การศึกษาวิถีชีวิตชุมชน การทำ home stay มีสมาชิกจำนวน 47
คน มีการจัดกลุ่มสมาชิกที่มีความพร้อมด้านที่พัก ลูกหาบ เป็นชุด
เพื่อหมุนเวียนกันต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยให้ทุกคนได้เข้ามา
มีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกัน ปัจจุบันมีชุดลูกหาบทั้งหมด 5 ชุด
และมีชุดบ้านพักทั้งหมด 7 ชุด โดยทางชมรมมีการนำนักท่อง
เที่ยวได้เยี่ยมชมและร่วมกิจกรรมของกลุ่มต่าง ๆ เที่ยวหมู่บ้าน
วัด ตลาดนัด ดูนกในสวนสมรม ศึกษาธรรมชาติบนเขาหลวง
นายตรีวุธ พาระพัฒน์ ครูภูมิปัญญาไทย นายฝาก ตรีถวัลย์ ครูภูมิปัญญาไทยด้าน
ด้านเกษตรกรรม (สวนสมรม) กองทุนและธุรกิจชุมชน (ระบบบัญชีชาวบ้าน)
การเล่นสะบ้า
มักเล่นกันในช่วงสงกรานต์แต่เดิมการเล่นสะบ้า นิยมเล่น
ในหมู่หนุ่ม สาว เพื่อทำความรู้จักกันหลังจากเสร็จงาน ในตอนกลาง
วัน ครั้นถึงเวลาค่ำ จะมีการนัดเล่นบริเวณลานบ้านที่บ้านของคนที่
เป็นเจ้าของบ่อนพร้อมกับแบ่ง ผู้เล่นชาย หญิง เป็นคู่เท่ากันใช้ลูก
สะบ้าทอยไปยังแป้นที่มีหญิงคู่ของตนนั่ง ถ้าทอยผิด ฝ่ายหญิง จะยึด
ลูกสะบ้าไว้ต่อรองให้ฝ่ายชายทำในสิ่งที่ฝ่ายหญิงต้องการ เช่น ร้อง
เพลงในปัจจุบันนี้การเล่นสะบ้าไม่มีการเล่นเป็นประจำทุกปี เหมือน
แต่ก่อน อาจจะด้วยเหตุผลที่ว่า สภาพของสังคมเปลี่ยนแปลงไปหรือ
คนหนุ่มสาวสมัยนี้มีสิ่งบันเทิงต่างๆ หรือมหรสพอื่นๆ เช่น การดูหนัง
และฟังเพลง ตลอดจนภูมิปัญญาด้านนี้อยู่ในวัยที่ชรามากขึ้นจึงทำให้
การเล่นสะบ้านั้นลดน้อยลง
โดยรพ.สต.บ้านคีรีวง เป็นการเพื่อออกกำลังกายอย่าง
หนึ่ง การขยับร่างกาย ตามทำนองเพลง เป็นการออกกำลังกาย
ทุกส่วน และมีเพลงประกอบทำให้จิตใจผ่อนคลาย อารมณ์ผ่อน
คลาย และทางอสม.รพ.สต.ได้มีการจัดตั้งชมรมบาสโลบ บ้านคีรี
วงและทางชมรมได้ชนะประกวดเต้นบาสโลบ งานมังคุดหวาน
ของดีลานสกา ครองแชมป์ 2 ปีซ้อน ยังได้แสดงโชว์ในงานต่าง
ๆ ของหมู่บ้านอีกด้วย
เต้นบาสโลบ