The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 วิทยาการคำนวณ ป.6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Theerat Tepnimitkul, 2020-08-05 01:42:54

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 วิทยาการคำนวณ ป.6

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 วิทยาการคำนวณ ป.6

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 2

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 ปกี ารศึกษา 2563
เร่อื ง รบั นอ้ งใหม่ หวั ใจปง๊ิ ๆ เวลา 1 ช่ัวโมง
ครูผู้สอน นายธรี ชั เทพนมิ ติ กุล

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รู้เท่าทนั และมีจริยธรรม
ตวั ชว้ี ัด ป.6/1 ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการอธบิ ายและออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหาท่ีพบใน
ชีวิตประจาวนั

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (ความร,ู้ ทักษะ, เจตคต)ิ
1. นกั เรียนมีความร้คู วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา
2. นักเรียนสามารถใชผ้ งั งานแสดงขนั้ ตอนในการทางานหรือการแกป้ ญั หาได้
3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และสามารถใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาใน

ชวี ิตประจาวนั ได้

3. สาระสาคัญ
การเปรยี บเทยี บสิ่งของสามารถทาได้หลายวธิ ี เชน่ เปรียบเทียบทลี ะช้ิน หรอื แบง่ สิง่ ของออกเป็นกลุ่ม

แล้วนามาเปรียบเทยี บกัน
วิธีการแก้ปัญหาหนึ่ง ๆ มีได้หลายวิธี แต่ละวิธีอาจมีจานวนข้ันตอนที่ไม่เท่ากัน แต่สามารถแก้ปัญหา

ได้เชน่ เดียวกนั
การแสดงข้ันตอนในการแก้ปัญหาสามารถทาได้โดยเขียนรหัสลาลอง หรือเขียนผังงาน ผังงาน

(flowchart) ใช้ออกแบบหรือวางแผนขั้นตอนการทางาน ช่วยให้เข้าใจขั้นตอนและเห็นภาพการทางานท่ี
ชัดเจนข้ึน และสามารถตรวจสอบ ย้อนกลับเมื่อพบข้อผิดพลาดในการทางานได้ นอกจากน้ีเราสามารถใช้ผัง
งาน แสดงขั้นตอนการทางานต่าง ๆ ในชีวิตประจาวันได้ด้วย สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียน ผังงาน เช่น เริ่มต้น/
จบ การปฏบิ ตั งิ าน การตัดสนิ ใจ ทศิ ทาง

4. สาระการเรยี นรู้
1. การใช้เหตุผลในการแกป้ ญั หา
2. การเขียนผงั งานเพอ่ื แสดงข้ันตอนการแก้ปัญหา

5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. อยู่อย่างพอเพียง
3. มุง่ มัน่ ในการทางาน

5. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน
ใบงาน เรือ่ ง การใช้เหตุผลในการแกป้ ัญหา

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเน้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ดาเนินการเรยี นการสอนดงั ตอ่ ไปน้ี

1. ข้ันสร้างความสนใจ (engagement)
1. ครูทบทวนความรู้เดิมโดยให้นักเรียนตอบคาถามในสารวจความรู้ก่อนเรียน และอาจใช้

คาถามอน่ื ๆ เช่น
- ส้ม 2 ผล กบั สม้ โอ 2 ผล อะไรมีนา้ หนักมากกว่ากนั (ส้มโอ)
- มะพร้าว 1 ผล กับ ส้มโอ 1 ผล อะไรมีน้าหนักมากกว่ากัน (อาจต้องช่ังน้าหนักเพื่อ

เปรยี บเทยี บ)
2. ขน้ั สารวจและคน้ หา (exploration)
1. ครนู าอภปิ รายเนอ้ื หาในหนังสือเรียน บทที่ 1 รบั นอ้ งใหมห่ ัวใจป้ิง ๆ หนา้ 3 – 14 (ถงึ ภาพ

ที่เด็ก ๆ ช่วยกันชั่งของขวัญและแกะกระดาษ เพ่ือนายางลบออกมา) โดยระหว่างการอภิปราย ครูอาจเปิดรูป
ใหน้ ักเรยี นดู ตวั อยา่ งคาถามระหวา่ งการศึกษาเนอื้ หา เชน่

- เพราะอะไรในตอนแรกไม้กระดกจึงคา้ งอยทู่ ่ีเดิม (เพราะผูเ้ ลน่ น้าหนักตัวต่างกนั มาก)
- มีวธิ ีแกป้ ญั หาอยา่ งไร (ใหค้ นน้าหนักใกลเ้ คียงกันเลน่ ด้วยกนั )
- ถ้าตอ้ งแกะกล่องของขวัญทั้งหมดเพือ่ คน้ หายางลบตอ้ งแกะทั้งหมดกี่คร้งั
2. ครูนานักเรียนศึกษาเน้ือหาในบทเรียน หน้า 14 ถึงหน้า จากนั้นครูยกตัวอย่างการเขียนผัง
งานจากสถานการณ์ในชีวิตประจาวันโดยให้นักเรียนช่วยกันเขียนเป็น รหัสลาลองก่อน เช่น ซื้อขนม (ควรใช้
ขน้ั ตอนทีก่ ระชบั เพอ่ื ให้ นักเรียนเข้าใจไดง้ ่าย) ดงั ตวั อย่าง

1. เรม่ิ ต้น
2. เลอื กขนม
3. ตรวจสอบวา่ มเี งินเพียงพอหรอื ไม่

3.1 ถา้ จริง ซื้อขนม
3.2 ถ้าเทจ็ ย้อนกลับไปทา ขอ้ 2.
4. จ่ายเงนิ
5. จบ
3. ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ (explanation)
1. จากน้ันครูทบทวนเก่ียวกับสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนผังงาน และให้นักเรียนช่วยกันเขียนผัง
งานบนกระดานโดยเทียบเคียงขน้ั ตอนจากรหัสลาลอง และครชู ว่ ยแนะนาโดยตงั้ คาถาม เช่น
- การเริม่ ตน้ ควรใชส้ ญั ลักษณ์ใด
- การแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ลาดบั ของการทางานควรใช้สญั ลักษณ์ใด
- สัญลักษณ์ท่ีใช้ในข้ันตอนการเลือกขนมควรเป็นสัญลักษณ์ใด ขั้นตอนการตรวจสอบว่ามี
เงินเพียงพอหรือไม่ ควรใช้สัญลักษณ์ใด สัญลักษณ์ที่เป็นการตัดสินใจ จะได้ทางเลือกท่ีทาง อะไรบ้าง (2
ทางเลือก ทางเลือกในกรณีทเี่ ป็นจรงิ กบั ทางเลอื กในกรณีที่เปน็ เทจ็ )
- เขียนขอ้ ความ “จรงิ ” และ “เทจ็ ” ไว้ทต่ี าแหนง่ ใดบา้ ง
- การจ่ายเงินใช้สญั ลกั ษณ์อะไร
- เมอื่ จบข้ันตอนการทางานใชส้ ญั ลกั ษณใ์ ด

ตวั อย่าง ผงั งานทีส่ อดคล้องกับกิจกรรม “ซ้ือขนม”

4. ขั้นขยายความรู้ (elaboration)
ครูให้นักเรียนทาใบงาน เร่ือง การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา และร่วมกันอภิปรายความ

คดิ เหน็ ประเดน็ การอภปิ ราย เชน่

- นักเรียนคิดว่าการอธิบายวิธีการชั่งถุงขนมด้วยการเล่าปากเปล่ากับการอธิบายด้วย
การเขียนผังงานมีข้อดีข้อเสียต่างกัน อย่างไร การเล่าอาจไม่เห็นรายละเอียดและขั้นตอนท่ีเป็นลาดับ ชัดเจน
และการเขียนเปน็ ผังงานสามารถตรวจสอบข้อผิดพลาด ไดง้ ่ายกวา่ )

5. ขนั้ ประเมิน (evaluation)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด

ใดบ้างที่ยงั ไม่เขา้ ใจหรือยงั มขี อ้ สงสัย ถ้ามี ครชู ่วยอธิบายเพ่ิมเติมใหน้ กั เรียนเข้าใจ
2. นกั เรยี นร่วมกันประเมินการปฏบิ ัติกิจกรรมกลุ่มวา่ มปี ญั หาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ

แก้ไขอย่างไรบา้ ง
3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ท่ีได้รับจากการปฏิบัติ

กจิ กรรม และการนาความรทู้ ไี่ ดไ้ ปใช้ประโยชน์

7. กระบวนการวดั และประเมินผล
การประเมินการเรยี นรู้ของนักเรยี นทาได้ ดังนี้
1. ประเมินความรเู้ ดิมจากการอภิปรายในชน้ั เรียน
2. ประเมินการเรียนรู้จากคาตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก

กจิ กรรม

8. สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้
- หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.

9. ความเห็นของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย

ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรูข้ องนายธีรัช เทพนิมิตกลุ แล้วมคี วามเหน็ ดงั นี้
1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรบั ปรงุ
2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้
 เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
 ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
 นาไปใช้ได้จรงิ
 ควรปรับปรงุ กอ่ นนาไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ..................................................
(.................................................)

วนั ท่ี........เดอื น...............พ.ศ. ...........

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
 ดา้ นความรู้
 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
 ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
 ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์
 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมที่มปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))
 ปญั หา/อุปสรรค
 แนวทางการแก้ไข

ลงชือ่ ..................................................ครูผู้สอน
(นายธีรชั เทพนมิ ิตกลุ )


Click to View FlipBook Version