1 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน
2 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน สารจากผู้อำนวยการ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา เปรียบเสมือนต้นกล้าอินทนิลที่มีอาจารย์ คอยดูแลอบรมสั่งสอนในด้านทักษะการเรียนรู้ในสาขาต่างๆ การมีจิต สาธารณะ นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม การเรียนรู้ที่ดีจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีที่เพียบพร้อม ห้องเรียนที่เปิดกว้างในการ สร้างองค์ความรู้ซึ่งทางโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนา การศึกษา มีความพร้อมที่จะให้นักเรียนแสวงหาความรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพและสามารถอยู่บนพื้นฐานของระเบียบ วินัยของโรงเรียนได้อย่างเหมาะสม การที่จะทำให้ต้นกล้ากลายเป็นต้นไม้ใหญ่ได้ จะต้องอาศัยความร่วมมือ การเอาใจ ใส่จากตัวผู้เรียน และครอบครัวเพื่อช่วยให้นักเรียนเติบโตและใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณนักเรียน ผู้ปกครอง ชมรมศิษย์เก่า สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนสาธิต แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา คณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือสนับสนุนการจัด กิจกรรมของโรงเรียนมาอย่างต่อเนื่อง และขอให้กำลังใจแก่คณาจารย์และบุคลากรของโรงเรียนในการปฏิบัติงานจน ประสบความสำเร็จ ตามเป้าหมายของโรงเรียนทุกประการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สานิตย์ รัศมี ผู้อำนวยการ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา
3 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา สังกัด กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ที่ตั้ง 1 หมู่ 6 ตำบลกำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม 73140 เว็บไซต์โรงเรียน : www.kus.kps.ku.ac.th Facebook : รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน หมายเลขโทรศัพท์ : 034 - 351396
4 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน ในปีพ.ศ. ๒๕๒๓ ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีนโยบายที่จะกำหนดให้เปิดดำเนินการโรงเรียนสาธิตแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เพื่อจะได้สอดคล้องกับแผนพัฒนามหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์และเป็น การส่งเสริมขยายงานทางด้านการศึกษา ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาในชุมชนด้วย ฉะนั้นมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์จึงได้อนุมัติให้เปิดโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๒๓ โดยให้คณะศึกษาศาสตร์เป็นฝ่ายรับผิดชอบในการจัดการเรียนการสอน ดังนั้นคณะศึกษาศาสตร์จึง วางเป้าหมายที่จะให้โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ที่จะทำการวิจัยการศึกษาในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในเขตชนบทไปพร้อมกับการทดลองจัดการเรียนการสอน แบบสมรรถฐานและการบริการทางวิชาการแก่ชุมชนด้วย ในปีพ.ศ. ๒๕๒๓ ทางโรงเรียนมีความพร้อมที่จะเปิดดำเนินการสอนได้ตั้งแต่ชั้น ป.๑- ป.๓ โดยกำหนด วัตถุประสงค์ของโรงเรียนไว้ดังนี้ ๑. เพื่อพัฒนาการศึกษา วิจัย และทดลองทฤษฎีทางการศึกษาและจิตวิทยาการศึกษาที่เหมาะสมสำหรับเขต พื้นที่ชนบท เพื่อการพัฒนาการศึกษาชนบท ๒. เพื่อการทดลอง วิจัยเกี่ยวกับหลักสูตรในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในการพัฒนาอาชีพแขนงต่างๆให้ สอดคล้องกับเขตพื้นที่ ๓. เพื่อเป็นแหล่งสาธิตและเผยแพร่ผลงานการศึกษา เพื่อการพัฒนาการศึกษาชนบทให้มีประสิทธิภาพ และจะ เป็นโรงเรียนพี่เลี้ยงสำหรับโรงเรียนในเขตชนบทใกล้เคียง ๔. เพื่อเป็นสถานที่สำหรับฝึกปฏิบัติงานของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ในการฝึกปฏิบัติงานครูฝึกสอน ทดลอง วิจัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติการเรียนการสอนตามหลักวิชา ๕. เพื่อเป็นสถานที่สำหรับกุลบุตร กุลธิดา ในท้องที่ชนบทที่จะศึกษาเล่าเรียนตามระดับความสามารถทาง สติปัญญา ความถนัด และความสนใจ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาบุคคลในชนบทให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ พร้อมที่จะนำความรู้ ความคิด ความเข้าใจในการแก้ปัญหา ไปใช้และเสริมสร้างชีวิตและสังคมให้ดีขึ้น อันเป็นรากฐานของพลเมืองดี ในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ทางโรงเรียนได้รับอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ให้จัดการเรียนการสอนระดับ อนุบาลศึกษาซึ่งเป็นโครงการขยายภาระงานเดิมจากการจัดการเรียนการสอนระดับ ป.๑ - ม.๖ เป็นการจัดการเรียนการสอน ระดับอนุบาลศึกษา ถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ในปัจจุบันได้มีการกำหนดวัตถุประสงค์ของโรงเรียนโดยมีรายละเอียด ดังนี้ ๑. เพื่อเป็นสถานที่ฝึกปฏิบัติงานสำหรับนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ โดยฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ฝึกหัดการสอน ทดลอง วิจัย เกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติสำหรับการจัดการเรียนการสอน ๒. เพื่อพัฒนาการศึกษา วิจัย และทฤษฎีทางการศึกษา จิตวิทยาการศึกษา และหลักสูตรอันจะเป็นแนวทางในการ พัฒนาการศึกษาชนบท ๓. เพื่อเป็นแหล่งสาธิตและเผยแพร่ผลงานทางการศึกษา เป็นโรงเรียนพี่เลี้ยงสำหรับโรงเรียนในเขตชนบท ใกล้เคียง ๔. เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาสำหรับกุลบุตร กุลธิดา ที่จะได้ศึกษาเล่าเรียนตามระดับสติปัญญา ความสามารถ ความถนัดอันจะเป็นพื้นฐานการศึกษาต่อในระดับสูงต่อไป รวมถึงการพัฒนาบุคคลให้เจริญเติบโตเป็นพลเมืองดี พร้อมที่จะนำความรู้ ความคิด ความเข้าใจในการแก้ปัญหาไปใช้เพื่อเสริมสร้างชีวิตและสังคมให้ดีขึ้น
5 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน
6 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน
7 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน
8 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน วิสัยทัศน์ (Vision) จัดการศึกษาเพื่อเป็นการสร้างทางเลือกให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้มุ่งสู่สถาบันอุดมศึกษา โดยมีความเป็นผู้นำ ดำรงคุณธรรมตามที่สังคมต้องการ พันธกิจ (Mission) ๑. บริหารองค์กรและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ๒. พัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ๓. พัฒนาคณาจารย์และบุคลากรให้มีมาตรฐานวิชาชีพ ๔. พัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการคิด การใช้เทคโนโลยี และภูมิปัญญาในมหาวิทยาลัย ๕. พัฒนาองค์กรให้เป็นแหล่งฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู สนับสนุนกระบวนการวิจัย ตามพันธกิจของคณะ ศึกษาศาสตร์และ พัฒนศาสตร์ ๖. ส่งเสริมนักเรียนระดับปฐมวัยให้มีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน ให้เหมาะสมตามวัย ๗. พัฒนานักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เกิดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี ทักษะทางภาษาเพื่อการสื่อสารและทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตร ๘. ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของนักเรียนเพื่อเป็นผู้นำที่ดีมีความคิดสร้างสรรค์ เป็นพลโลกที่มีคุณภาพ ๙. ส่งเสริมนักเรียนให้เป็นผู้ที่มีสุขภาวะที่ดี และมีสุนทรียภาพ ดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข เป้าหมาย ๑. ผู้เรียนทุกคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพไม่ต่ำกว่ามาตรฐานการศึกษา ๒. ผู้เรียนระดับอนุบาลศึกษามีความพร้อมที่จะศึกษาต่อในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ดี ๓. ผู้เรียนระดับประถมศึกษามีทักษะกระบวนการในการแสวงหาความรู้อย่างหลากหลาย มีคุณธรรม จริยธรรม และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีความสามารถในการแสดงออกและเป็นผู้นำ ๔. ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษา มีการพัฒนากระบวนการแสวงหาและสร้างองค์ความรู้การดูแลสุขภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม มีความสุนทรีย์และสามารถศึกษาต่อตามความถนัดอย่างมีคุณภาพ ๕. คณาจารย์สามารถค้นคว้า วิจัย ทดลองเพื่อพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ๖. โรงเรียนมีระบบการบริหารที่ดีมีประสิทธิภาพ
9 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน
10 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน ระเบียบการวัดและประเมินผล ระเบียบการวัดและประเมินผล ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา * * * * * * * * * * * * * ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และกระจายอำนาจให้ สถานศึกษากำหนดหลักสูตรสถานศึกษาขึ้นใช้เอง ดังนั้นโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและ พัฒนาการศึกษา ได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในปีการศึกษา 2553 เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งดังกล่าวโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนา การศึกษา จึงได้วางระเบียบการวัดและประเมินผลตามหลักสูตรแกนกลางสถานศึกษาพุทธศักราช 2551 ไว้ดังนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบการวัดและประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา” ข้อ 2 ระเบียบนี้ใช้บังคับแต่ปีการศึกษา 2553 เป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งอื่นใด ในส่วนที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้หรือซึ่งขัดแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน ข้อ 4 ให้ใช้ระเบียบการวัดและประเมินผลนี้ควบคู่กับหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ข้อ 5 ให้หัวหน้าสถานศึกษา รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้ หมวด 1 หลักการในการประเมินผลการเรียน ข้อ 1 การประเมินผลการเรียนให้เป็นไปตามหลักการต่อไปนี้ 1.1 สถานศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบการประเมินผลการเรียนของผู้เรียนโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและ วิชาการ 1.2 การวัดและประเมินผลการเรียนต้องสอดคล้องและครอบคลุมมาตรฐานการศึกษาที่กำหนดในหลักสูตรสถานศึกษา 1.3 การประเมินผลการเรียนต้องประกอบด้วย การประเมินเพื่อปรับปรุงพัฒนาผู้เรียน การจัดการเรียนการสอน และการประเมิน เพื่อตัดสินผลการเรียน 1.4 การประเมินผลเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียนการสอนต้องดำเนินการด้วยวิธีที่หลากหลายเหมาะสมกับสิ่งที่ ต้องการวัด ธรรมชาติของวิชาและระดับชั้นของผู้เรียน 1.5 ให้มีการประเมินความสามารถของผู้เรียนในด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในแต่ละระดับชั้น 1.6 ให้มีการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น 1.7 ให้มีการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น 1.8 ให้มีการประเมินคุณภาพของผู้เรียนในระดับชาติ 1.9 เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถตรวจสอบผลการประเมินผลการเรียนได้ 1.10 ให้มีการเทียบโอนผลการเรียนระหว่างสถานศึกษาและรูปแบบการศึกษาต่าง ๆ
11 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน หมวด 2 วิธีการประเมินผลการเรียน ข้อ 2 วิธีการประเมินผลการเรียน การวัดและประเมินผลการเรียนเป็นกระบวนการที่ให้ผู้สอนพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเพื่อให้ได้ข้อมูลสารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้าตลอดจนความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ให้มีการประเมินเพื่อปรับปรุงผลการเรียนมากกว่าตัดสินผลการเรียน ประกอบด้วย 2.1 การวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียนเป็นการวัดความก้าวหน้าทั้งทางด้านความรู้ทักษะกระบวนการ คุณธรรม จริยธรรมและ ค่านิยมอันพึงประสงค์ 2.2 การประเมินผลระดับสถานศึกษาเพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าด้านการเรียนรู้รายปี/รายภาค ของสถานศึกษา สำหรับนำ ข้อมูลที่ได้เป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาการเรียนการสอนและคุณภาพของผู้เรียนให้เป็นไปตามมาตรฐานการเรียนรู้รวมทั้งพิจารณา การตัดสินเลื่อนชั้น 2.3 การประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียนเป็นการประเมินเพื่อสรุปความสำเร็จในการเรียนรู้ของผู้เรียนในการจบหลักสูตร สถานศึกษาในระดับต่างๆ ซึ่งทำให้ผู้เรียนได้รับการรับรองความรู้และวุฒิการศึกษาจากสถานศึกษา 2.4 การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชาติ เป็นการประเมินด้วยแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เป็นมาตรฐาน ระดับชาติ เพื่อตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาและคุณภาพการศึกษาของชาติสำหรับนำผลการประเมินไปวางแผนดำเนินการ ปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาการศึกษาให้ได้มาตรฐาน หมวด 3 แนวดำเนินการประเมินผลการเรียน ข้อ 3 แนวดำเนินการประเมินผลการเรียนของสถานศึกษา เพื่อให้การวัดและประเมินผลการเรียนของสถานศึกษาสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีการดำเนินการตามหลักการกำกับกระจายอำนาจ มีการประเมินผู้เรียนตามหลักการวัดและประเมินผลการเรียน มีการตรวจสอบและกำกับ ติดตามประเมินคุณภาพการประเมินผลการเรียนอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพจึงกำหนดแนวดำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนของ สถานศึกษา ดังนี้ 3.1 สถานศึกษาโดยคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของสถานศึกษากำหนดรูปแบบ ระบบและระเบียบประเมินผลของ สถานศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติในการประเมินผลการเรียนของสถานศึกษา 3.2 กลุ่มสาระการเรียนรู้แต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้กำหนดตัวชี้วัดผลการเรียนรู้รายปี/รายภาค ของกลุ่มสาระการเรียนรู้โดย วิเคราะห์จากมาตรฐานการเรียนรู้ เพื่อใช้เป็นเป้าหมายในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้รายปี/รายภาค 3.3 คณะอนุกรรมการระดับกลุ่มสาระการเรียนรู้ให้ความเห็นชอบรูปแบบ วิธีการ เครื่องมือของการประเมินผลการตัดสินผล การประเมินผลการเรียนรายวิชาของผู้สอน 3.4 ผู้สอนจัดการเรียนการสอน ตรวจสอบพัฒนาการของผู้เรียน และประเมินสรุปผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยวิธีที่หลากหลายตาม สภาพจริง 3.5 คณะกรรมการวิชาการและอาจารย์ประจำชั้น/อาจารย์ที่ปรึกษา ประชุมอนุมัติตัดสินผลการเรียนรายปี 3.6 หัวหน้าสถานศึกษาอนุมัติผลการเรียนรายปี/รายภาค 3.7 สถานศึกษาจัดทำรายงานผลการดำเนินการประเมินผลการเรียนประจำปีโดยความเห็นชอบของฝ่ายวิชาการและวิจัย
12 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน หมวด 4 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ข้อ 4 การวัดและประเมินผลการเรียนในด้านรายวิชาต่างๆ ประกอบด้วย ข้อ 4.1 การประเมินผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม ให้ถือปฏิบัติดังนี้ 4.1.1 แจ้งผู้เรียนทราบถึงตัวชี้วัดผลการเรียนรู้รายปี/รายภาค วิธีการประเมินผลการเรียน เกณฑ์การผ่านตัวชี้วัดผล การเรียนรู้ และเกณฑ์ขั้นต่ำของการผ่านรายวิชา ก่อนสอนในรายวิชานั้น 4.1.2 ตัวชี้วัดผลการเรียนรู้รายปี/รายภาคต้องครอบคลุมพฤติกรรมด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ และค่านิยม อันพึงประสงค์จากการร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน 4.1.3 ประเมินผลก่อนเรียน เพื่อประเมินความพร้อมและพื้นฐานของผู้เรียนและประเมินความรอบรู้ในเรื่องที่เรียนก่อน การเรียน 4.1.4 วัดและประเมินผลการเรียนระหว่างเรียนด้วยวิธีการที่หลากหลายเพื่อมุ่งตรวจสอบพัฒนาการของผู้เรียนว่าบรรลุ ตามตัวชี้วัดผลการเรียนรู้ในการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ครูผู้สอนได้วางแผนไว้หรือไม่ และนำผลที่ได้จากการประเมินไปปรับปรุง แก้ไขข้อบกพร่องของผู้เรียนและส่งเสริมผู้เรียนที่มีความรู้ ความสามารถให้เกิดพัฒนาการสูงสุดตามศักยภาพ 4.1.5 วัดและประเมินผลเพื่อสรุปผลการเรียน มุ่งตรวจสอบความสำเร็จของผู้เรียนเมื่อผ่านการเรียนรู้ในช่วงหนึ่งหรือ สิ้นสุดการเรียนรายวิชา การวัดและประเมินผลเพื่อสรุปผลการเรียนประกอบด้วย 1. วัดผลและประเมินผลหลังเรียนในเรื่องที่เรียนจบแล้ว เพื่อตรวจสอบว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามตัวชี้วัดผลการเรียน หรือไม่ ถ้าได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 50 ของผลการเรียนรู้นั้นให้ซ่อมเสริมให้ผ่านก่อนสอบปลายภาคหรือปลายปี 2. วัดผลและประเมินผลการเรียนปลายปีหรือปลายภาคเพื่อตรวจสอบผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนในการเรียนรายวิชาต่างๆ ตามตัวชี้วัดผลการเรียนรายปี หรือรายภาค และเพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับปรับปรุงแก้ไขซ่อมเสริมผู้เรียนที่ไม่ผ่านการประเมินผลการเรียนรู้ รายวิชาด้วยวิธีการและเครื่องมือการประเมินที่หลากหลาย 4.1.6 การตัดสินผลการเรียนโดยนำคะแนนการประเมินผลระหว่างเรียนรวมคะแนนการประเมินผลปลายปี/ปลายภาค ตามอัตราส่วนที่แต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้กำหนด โดยให้น้ำหนักความสำคัญของการประเมินระหว่างเรียนมากกว่าการประเมินตอนปลายปี/ ปลายภาค แล้วนำมาเปลี่ยนเป็นระดับผลการเรียน ช่วงคะแนนร้อยละ ระดับผลการเรียน ความหมาย 80 - 100 75 - 79 70 - 74 65 - 69 60 - 64 55 - 59 50 - 54 0 - 49 4.0 3.5 3.0 2.5 2.0 1.5 1.0 0 ดีมาก ค่อนข้างดีมาก ดี ค่อนข้างดี พอใช้ ค่อนข้างพอใช้ ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ ข้อ 4.2 การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นการประเมินพัฒนาการของผู้เรียนเพิ่มเติมจากคุณลักษณะที่กำหนดในกลุ่มสาระการ เรียนรู้ทุกกลุ่ม เพื่อสร้างเอกลักษณ์เกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและวัฒนธรรมของผู้เรียน โดยมีขั้นตอนการประเมิน ดังนี้ 4.2.1 อาจารย์ประจำชั้น/อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ประจำวิชาและผู้เกี่ยวข้องดำเนินการประเมินผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการที่หลากหลาย
13 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน 4.2.2 การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์มี 10 คุณลักษณะดังนี้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ 1 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ปฏิบัติตนตามหลักธรรม เบื้องต้นของศาสนา มีความเป็น ประชาธิปไตย มีความรักและเทิดทูนในความเป็นชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รู้จักใช้สิทธิและหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ 2 ซื่อสัตย์สุจริต ต่อตนเองและต่อผู้อื่น รวมทั้งมีความซื่อสัตย์สุจริตต่อการเรียนและ การงาน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ 3 มีวินัยในตนเอง ให้เกียรติผู้อื่น มีความมั่นใจกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมแสดง กิริยามารยาท ใช้คำพูดและแต่งกายถูกต้องตามกาลเทศะ พร้อมทั้งปฏิบัติตนได้ตามระเบียบวินัยของโรงเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ 4 ใฝ่เรียนรู้ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม ตั้งใจทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย สนใจเอาใจใส่ ต่อการเรียนรวมทั้งซักถามเมื่อมีข้อสงสัย คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ 5 อยู่อย่างพอเพียง มีความพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ รู้จักประหยัดอดออมใช้ทรัพยากรอย่าง คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดตลอดจนรู้จักประยุกต์ใช้สิ่งของในชีวิตประจำวัน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ 6 มุ่งมั่นในการทำงาน ขยัน อดทนในการทำงานให้สำเร็จ มีความละเอียดรอบคอบใน การทำงาน และสามารถพัฒนางาน ทำงานเป็นทีม มีลำดับขั้นตอนในการทำงาน ปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและภูมิใจใน ความสามารถของตน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ 7 รักความเป็นไทย มีความรู้ ความเข้าใจในภูมิปัญญาไทยและศิลปวัฒนธรรมไทย ชื่นชม และสืบสาน ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงามของท้องถิ่น อนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยและรักในศิลปวัฒนธรรมไทยให้ความสำคัญกับส่วนรวม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ 8 มีจิตสาธารณะ ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม สมบัติส่วนรวม รู้จักใช้ ทรัพยากรอย่างประหยัด และคุ้มค่า มีความเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละเพื่อส่วนรวม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ 9 มีสุนทรียภาพ มีความรัก สนใจงานด้านศิลปะ ดนตรี และกีฬา เข้าร่วมกิจกรรมศิลปะ ดนตรี และกีฬาเป็นประจำมีผลงานด้านศิลปะ ดนตรีและกีฬา ตลอดจนสามารถวิพากษ์วิจารณ์งานศิลปะ ดนตรี มีน้ำใจนักกีฬา คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ 10 มีสุขนิสัย สุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดีและปฏิบัติตนห่างไกลยาเสพติด 4.2.3 การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์พิจารณาเป็นระดับคุณภาพโดยรวมรายปีและรายภาคเพื่อวินิจฉัยแบ่ง พฤติกรรมของผู้เรียนเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ ดีเยี่ยม หมายถึง ผู้เรียนมีคุณลักษณะในการปฏิบัติจนเป็นนิสัยและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อประโยชน์สุข ของตนเองและสังคม ดี หมายถึง ผู้เรียนมีคุณลักษณะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสังคม ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่สถานศึกษากำหนด ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนไม่รับรู้และไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่สถานศึกษากำหนด ผู้เรียนที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ตั้งแต่ ผ่าน ดี ดีเยี่ยม ทั้ง 10 คุณลักษณะอันพึงประสงค์จึงจะถือว่าผ่านและจะได้รับการพิจารณาให้ ผ่านรายปีหรือเลื่อนชั้นร่วมกับเกณฑ์อื่น ผู้เรียนคนใดมีผลการประเมินรายข้อเป็น ไม่ผ่าน ให้คณะกรรมการงานวัดและประเมินผลดำเนินการ ประสานงานให้อาจารย์ผู้ประเมิน ปรับปรุงแก้ไข พร้อมทั้งบันทึกวิธีการปรับปรุงและผลการปรับปรุงแต่ละครั้ง ข้อ 4.3 การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถของตนเองตามความถนัดและความสนใจให้เต็มศักยภาพของตัวนักเรียนโดยมุ่งเน้นการพัฒนา องค์รวมของความเป็นมนุษย์ทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม โดยผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนทุกภาคเรียน ดังนี้
14 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน 4.3.1 ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และผ่านการประเมินตามที่โรงเรียนกำหนด คือกิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพื่อสังคมและบำเพ็ญประโยชน์ โดยผู้เรียนทุกคนจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมให้ครบถ้วน และมีผลการประเมิน คุณภาพแต่ละกิจกรรมเป็น ผ่าน จึงจะถือว่า ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 4.3.2 ผู้รับผิดชอบกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแต่ละกิจกรรมและผู้เกี่ยวข้องดำเนินการประเมินการเข้าร่วมกิจกรรมของ ผู้เรียนตามจุดประสงค์ของกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วงเวลาของการจัดกิจกรรม โดยรวบรวมจากบันทึกการเข้าร่วมกิจกรรม ผลการปฏิบัติกิจกรรม และตัดสินผลการเข้าร่วมกิจกรรมเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาปฏิบัติกิจกรรม 4.3.3 การตัดสินผลการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ให้ประเมินผลและตัดสินเป็นรายกิจกรรม โดยพิจารณาจากการ ประเมินตามจุดประสงค์สำคัญ กับเวลาที่เข้าร่วมกิจกรรม แล้วตัดสินผลตามเกณฑ์คือ ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน เกณฑ์และความหมายการผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ผลการประเมิน ความหมาย ผ่าน ผ่านจุดประสงค์สำคัญและมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ไม่ผ่าน ไม่ผ่านจุดประสงค์สำคัญและ/หรือมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ถึงร้อยละ 80 4.3.4 ผู้เรียนที่ได้รับผลการประเมินการเข้าร่วมกิจกรรม ทุกกิจกรรมเป็นผ่าน จะได้รับการพิจารณาให้ผ่านรายปี/รายภาค ร่วมกับเกณฑ์อื่น ในกรณีที่ผู้เรียนมีผลการประเมินการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง ไม่ผ่าน จะต้องเข้าร่วมการแก้ไขกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน ตามที่คณะกรรมการกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนกำหนดให้ครบถ้วน จนได้ผลการประเมินเป็นผ่าน จึงจะได้รับการพิจารณาให้ผ่าน รายปี/รายภาค และเลื่อนชั้น ทั้งนี้ให้เสร็จสิ้นภายในระหว่างปิดเรียนภาคปลาย ข้อ 4.4 การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน 4.4.1 ผู้เรียนต้องเข้ารับการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน การประเมินตามเกณฑ์ที่กำหนดโดยผู้เรียนทุกคน จะต้องเข้ารับการประเมินให้ครบถ้วน และมีผลการประเมินแต่ละหัวข้อเป็น ผ่าน 4.4.๒ เกณฑ์และความหมายของระดับคุณภาพผลการประเมินผลการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ดีเยี่ยม หมายถึง สามารถจับใจความสำคัญได้ครบถ้วน เขียนวิพากษ์วิจารณ์เขียนสร้างสรรค์ แสดงความ คิดเห็นประกอบอย่างมีเหตุผลได้ถูกต้องและสมบูรณ์ ใช้ภาษาสุภาพและเรียบเรียงได้สละสลวย ดี หมายถึง สามารถจับใจความสำคัญได้ เขียนวิพากษ์วิจารณ์และเขียนสร้างสรรค์ได้โดยใช้ภาษาสุภาพ ผ่าน หมายถึง สามารถจับใจความสำคัญและเขียนวิพากษ์วิจารณ์ได้บ้าง ไม่ผ่าน หมายถึง ไม่สามารถจับใจความสำคัญและไม่สามารถเขียนวิพากษ์วิจารณ์ได้ ผู้เรียนที่ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง การอ่าน คิดวิเคราะห์ เขียนจะได้รับการพิจารณาให้ผ่านการเลื่อนชั้นร่วมกับเกณฑ์อื่น ในกรณีผู้เรียนไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ เขียน ประการใดประการหนึ่งคณะกรรมการงานวัดและประเมินผล ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขผู้เรียนให้ได้รับผลการประเมินตั้งแต่ผ่านขึ้นไปจึงจะได้รับการพิจารณาให้ผ่านการเลื่อนชั้นต่อไป ทั้งนี้ให้เสร็จสิ้น ภายในระหว่างปิดเรียนภาคปลาย ข้อ 4.5 การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชาติ เพื่อตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนและคุณภาพการศึกษาระดับชาติ ผู้เรียนทุกคนสอบเพื่อประเมินสมรรถภาพที่ จำเป็นและมีความสำคัญตามระดับชั้น
15 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน หมวด 5 การตัดสินผลการเรียน ข้อ 5 การตัดสินผลการเรียน ข้อ 5.1 การตัดสินผลการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม ให้ถือปฏิบัติดังนี้ 5.1.1 พิจารณาตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา 5.1.2 พิจารณาตัดสิน ผู้เรียนให้ได้หน่วยกิตในแต่ละรายวิชา เฉพาะผู้ที่สอบได้ในระดับผลการเรียน 1.0 ถึง 4.0 5.1.3 วัดผลการเรียนปลายปี/ปลายภาค เฉพาะผู้ที่มีเวลาเรียนตลอดปีหรือตลอดภาคไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียน ทั้งหมดในรายวิชานั้น สำหรับผู้ที่มีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 80 ให้ยื่นคำร้องขอมีสิทธ์สอบ ทั้งนี้ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหัวหน้าสถานศึกษา 5.1.4 ผู้เรียนมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 60 ให้มีผลการเรียนเป็น “มส” และต้องลงเรียนซ้ำในรายวิชานั้น 5.1.5 ผู้เรียนไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่โรงเรียนกำหนดไว้ ให้ได้ระดับผลการเรียนเป็น “0” 5.1.6 ผู้เรียนที่ทุจริตในการสอบหรือทุจริตในงานที่มอบหมายในรายวิชาใด ครั้งใดก็ตามให้ได้คะแนน “0” ในครั้งนั้น 5.1.7 ผู้เรียนที่ไม่ได้รับการวัดผลปลายปี/ปลายภาค เพราะเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ไม่สามารถประเมินได้ ให้มีผลการเรียน เป็น “ร” ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าสถานศึกษา ข้อ 5.2 ผู้เรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโดยผ่านเกณฑ์การประเมินให้ได้ผลการเรียนเป็น “ผ่าน” (ผ) ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ การประเมินให้ได้ผลการเรียนเป็น “ไม่ผ่าน” (มผ) ข้อ 5.3 ผู้เรียนที่ได้รับการตัดสินผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดในระดับใด ให้มี ผลการประเมินเป็นไปตามเกณฑ์นั้น และถ้ามีพฤติกรรมไม่ผ่านเกณฑ์ตามที่สถานศึกษากำหนดให้ได้รับผลการประเมิน “ไม่ผ่าน” ข้อ 5.4 ผู้เรียนได้รับการตัดสินการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน โดยถ้าผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดในระดับใดให้มี ผลการประเมินเป็นไปตามเกณฑ์นั้น และถ้ามีไม่ผ่านเกณฑ์ตามที่สถานศึกษากำหนดให้ได้รับผลการประเมินเป็น “ไม่ผ่าน” ข้อ 5.5 การตัดสินผลการเรียนระดับประถมศึกษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ตามหลักสูตรสถานศึกษา) ได้กำหนดโครงสร้าง เวลาเรียน มาตรฐาน การเรียนรู้/ตัวชี้วัด การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนคุณลักษณะอันพึงประสงค์และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ที่สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนเกิด การเรียนรู้ มีคุณภาพเต็มตามศักยภาพและให้สถานศึกษากำหนดหลักเกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อตัดสินผลการเรียนของผู้เรียน ดังนี้ ๑) ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอดปีการศึกษาไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด ๒) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และมีผลการประเมินผ่านไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของตัวชี้วัดทั้งหมด ๓) ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา ๔) ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ๕) ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๖) ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนทุกกิจกรรม ข้อ 5.6 การตัดสินผลการเรียนระดับมัธยมศึกษา การตัดสินผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษามีการตัดสินในหลายลักษณะคือ การผ่านรายวิชากำหนดเป็นภาคเรียน การเลื่อนชั้นปี กำหนดเป็นปีการศึกษาและการจบระดับชั้นกำหนดเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หลักเกณฑ์การวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้เพื่อตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ตามหลักสูตร สถานศึกษา) มีดังนี้
16 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน ๑) ตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอดภาคเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด ในรายวิชานั้นๆ ๒) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัดและมีผลการประเมินผ่านไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของตัวชี้วัดทั้งหมด ๓) ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา ๔) ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ๕) ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๖) ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนทุกกิจกรรม หมวด 6 การเปลี่ยนผลการเรียน ข้อ 6 ผลการเรียนที่มีเงื่อนไข ผลการเรียนที่มีเงื่อนไข ได้แก่ ไม่มีสิทธิเข้ารับการประเมินผลปลายภาคในรายวิชาและรอการตัดสิน ให้ใช้ตัวอักษรระบุเงื่อนไข แสดงผลการเรียน ประกอบด้วย ๑) ตัวอักษรแสดงผลการเรียนแต่ละรายวิชาใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ “มส” หมายถึง ไม่มีสิทธิ์เข้ารับการประเมินผลปลายภาคเรียน โดยผู้เรียนที่มีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 80 ของเวลาเรียน ในแต่ละรายวิชาและไม่ได้รับการผ่อนผันให้เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน “ร” หมายถึง รอการตัดสินและยังตัดสินไม่ได้ โดยผู้เรียนไม่มีข้อมูลผลการเรียนรายวิชานั้นครบถ้วน เช่น ไม่ได้วัดผล กลางภาคเรียน/ปลายภาคเรียน ไม่ได้ส่งงานที่ได้รับมอบหมายให้ทำซึ่งงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินผลการเรียน หรือมีเหตุสุดวิสัยที่ทำ ให้ประเมินผลการเรียนไม่ได้ ๒) ตัวอักษรแสดงผลการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน “ผ” หมายถึงผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด “มผ” หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด ข้อ 6.1 การเปลี่ยนผลการเรียน “0” สถานศึกษาจัดให้มีการสอนซ่อมเสริมในตัวชี้วัดที่ผู้เรียนสอบไม่ผ่านก่อน แล้วจึงสอบแก้ตัวให้และให้สอบแก้ตัวได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ทั้งนี้ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีการศึกษานั้น ถ้าผู้เรียนไม่ดำเนินการสอบแก้ตัวตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นี้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะพิจารณาขยายเวลาออกไปอีก ไม่เกิน 1 ภาคเรียน สำหรับภาคเรียนที่ ๒ ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นในปีการศึกษานั้น ถ้าสอบแก้ตัว 2 ครั้งแล้ว ยังได้ระดับผลการเรียน “0” อีก ให้สถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการ (หลักสูตรหรือวิชาการ) ดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ผลการเรียนของผู้เรียนโดยปฏิบัติดังนี้ ๑) ถ้าเป็นรายวิชาพื้นฐาน ให้เรียนซ้ำรายวิชา ๒) ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติม ให้เรียนซ้ำหรือเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา ในกรณีที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่าเรียนแทนรายวิชาใด ข้อ 6.2 การเปลี่ยนผลการเรียน “ร” การเปลี่ยนผลการเรียน “ร” มี 2 กรณี ดังนี้ ๑. ถ้าสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่า มีเหตุสุดวิสัย ทำให้ประเมินผลการเรียนไม่ได้ เช่น เจ็บป่วย เมื่อผู้เรียนได้เข้าสอบหรือ ส่งผลงานที่ติดค้างอยู่เสร็จเรียบร้อย หรือแก้ปัญหาเสร็จสิ้นแล้ว ให้ได้ระดับผลการเรียนตามปกติ (ตั้งแต่ 0 – 4) ๒. ถ้าสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เมื่อผู้เรียนได้เข้าสอบหรือส่งผลงานที่ติดค้างอยู่เสร็จเรียบร้อย หรือ แก้ปัญหาเสร็จสิ้นแล้ว ให้ได้ระดับผลการเรียนไม่เกิน “1”
17 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน การเปลี่ยนผลการเรียน “ร” ให้ดำเนินการแก้ไขตามสาเหตุให้เสร็จสิ้นภายในปีการศึกษานั้น ถ้าผู้เรียนไม่มาดำเนินการแก้ “ร” ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ให้เรียนซ้ำรายวิชา ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะขยายเวลาการแก้ “ร” ออกไปอีก ไม่เกิน 1 ภาคเรียนแต่เมื่อพ้นกำหนดนี้แล้วให้ปฏิบัติดังนี้ (๑) ถ้าเป็นรายวิชาพื้นฐาน ให้เรียนซ้ำรายวิชา (๒) ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติม ให้เรียนซ้ำหรือเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา ในกรณีที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่า เรียนแทนรายวิชาใด ข้อ 6.3 การเปลี่ยนผลการเรียน “มส” การเปลี่ยนผลการเรียน “มส” มี 2 กรณี ดังนี้ ๑) กรณีผู้เรียนได้ผลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 80 แต่มีเวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของเวลาเรียน ทั้งหมด ให้สถานศึกษาจัดให้เรียนเพิ่มเติมโดยใช้ชั่วโมงสอนซ่อมเสริมหรือเวลาว่าง หรือวันหยุด หรือมอบหมายงานให้ทำ จนมีเวลาเรียนครบ ตามที่กำหนดไว้สำหรับรายวิชานั้น แล้วจึงให้สอบเป็นกรณีพิเศษ ผลการแก้ “มส” ให้ได้ระดับผลการเรียนไม่เกิน “1” การแก้ “มส” กรณีนี้ ให้กระทำให้เสร็จสิ้น ในปีการศึกษานั้น ถ้าผู้เรียนไม่มาดำเนินการแก้ “มส” ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นี้ให้เรียนซ้ำ ยกเว้น มีเหตุสุดวิสัยให้ อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะขยายเวลาการแก้ “มส” ออกไปอีกไม่เกิน 1 ภาคเรียน แต่เมื่อพ้นกำหนดนี้แล้วให้ปฏิบัติดังนี้ (1) ถ้าเป็นรายวิชาพื้นฐาน ให้เรียนซ้ำรายวิชา (2) ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติม ให้เรียนซ้ำหรือเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา ๒) กรณีผู้เรียนได้ผลการเรียน “มส” และมีเวลาเรียนน้อยกว่าร้อยละ 60 ของเวลาเรียนทั้งหมด ให้สถานศึกษาจัดให้เรียนซ้ำใน รายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนรายวิชาใหม่ได้สำหรับรายวิชาเพิ่มเติมเท่านั้น ในกรณีที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่าเรียนแทนรายวิชาใด ในกรณีภาคเรียนที่ 2 หากผู้เรียนยังมีผลการเรียน “0” “ร” “มส” ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนเปิดเรียนปีการศึกษาถัดไป สถานศึกษาอาจเปิดการเรียนการสอนในภาคฤดูร้อนเพื่อแก้ไขผลการเรียนของผู้เรียนได้ ข้อ 6.4 การเปลี่ยนผลการเรียน “มผ” ในกรณีที่ผู้เรียนได้ผลการเรียน “มผ” สถานศึกษาต้องจัดซ่อมเสริมให้ผู้เรียนทำกิจกรรมจนครบตามเวลาที่กำหนด หรือปฏิบัติ กิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณลักษณะที่ต้องปรับปรุง แก้ไข แล้วจึงเปลี่ยนผลการเรียนจาก “มผ” เป็น “ผ” ทั้งนี้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน ปีการศึกษานั้น ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะพิจารณาขยายเวลาออกไปอีกไม่เกิน ๑ ภาคเรียน สำหรับ ภาคเรียนที่ ๒ ต้องดำเนินให้เสร็จสิ้นภายในปีการศึกษานั้น หมวด 7 การเลื่อนระดับชั้น ข้อ 7 การเลื่อนระดับชั้น ข้อ 7.1 ระดับประถมศึกษา เมื่อสิ้นปีการศึกษา ผู้จะได้รับการพิจารณาเลื่อนระดับชั้น เมื่อมีคุณสมบัติตามเกณฑ์หลักสูตรสถานศึกษาที่กำหนด ดังนี้ ๑) ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอดปีการศึกษาไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด ๒) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัดและมีผลการประเมินผ่านไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของตัวชี้วัดทั้งหมด ๓) ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชาและมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐานทุกรายวิชาผ่านเกณฑ์การ ประเมินขั้นต่ำขึ้นไป (คือตั้งแต่ 1.0 ขึ้นไป) ๔) ระดับผลการเรียนเฉลี่ยในปีการศึกษานั้นได้ไม่ต่ำกว่า 1.00 ๕) ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ๖) ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๗) ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนทุกกิจกรรม
18 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน การพิจารณาเลื่อนชั้น ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงบางตัวชี้วัด ซึ่งสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่าสามารถพัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ก็ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าสถานศึกษาที่จะผ่อนผันให้เลื่อนชั้นได้ ในกรณีที่ผู้เรียนมีสติปัญญาและความสามารถดีเลิศ สามารถเรียนรู้ได้เร็วเป็นพิเศษโรงเรียนอาจให้โอกาสผู้เรียนเลื่อนชั้นระหว่าง ปีการศึกษา โดยสถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการประกอบด้วยคณะกรรมการวิชาการและผู้แทนของเขตพื้นที่การศึกษาหรือต้นสังกัด อย่างน้อย 1 คน เมื่อผู้เรียนมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขทั้ง 3 ประการ ต่อไปนี้ ๑. มีผลการเรียนปีการศึกษาที่ผ่านมาและมีผลการเรียนระหว่างปีอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม ๒. มีวุฒิภาวะเหมาะสมที่จะเรียนในชั้นที่สูงขึ้น ๓. ผ่านการประเมินผลความรู้ความสามารถตามตัวชี้วัดรายปีทั้งหมดในภาคเรียนที่ 2 ปีปัจจุบัน และภาคเรียนที่ 1 ของ ปีการศึกษาถัดไป การอนุมัติให้เลื่อนไปเรียนชั้นสูงได้ 1 ระดับชั้นนี้ ต้องได้รับการยินยอมจากนักเรียนและผู้ปกครองและต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้น ภายในวันที่ 1 กันยายนของปีการศึกษานั้น ข้อ 7.2 ระดับมัธยมศึกษา การตัดสินผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมีหลักเกณฑ์การเลื่อนระดับชั้น ดังนี้ ๑) ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอดภาคเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด ๒) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัดและมีผลการประเมินผ่านไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของตัวชี้วัดทั้งหมด ๓) ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา และมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐานผ่านเกณฑ์การประเมิน ขั้นต่ำขึ้นไป (คือตั้งแต่ 1.0 ขึ้นไป) ๔) ระดับผลการเรียนเฉลี่ยในปีการศึกษานั้นได้ไม่ต่ำกว่า 1.00 ๕) ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ๖) ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๗) ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนทุกกิจกรรม การพิจารณาเลื่อนชั้น ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงบางตัวชี้วัด ซึ่งโรงเรียนพิจารณาเห็นว่าสามารถพัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ก็ให้ อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าสถานศึกษาจะผ่อนผันให้เลื่อนชั้นได้ ทั้งนี้รายวิชาใดที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน สถานศึกษาสามารถซ่อมเสริมผู้เรียนให้ได้รับการแก้ไขในภาคเรียนถัดไป หมวด 8 การเรียนซ้ำและการสอนซ่อมเสริม ข้อ 8 การเรียนซ้ำและการสอนซ่อมเสริม ข้อ 8.1 การเรียนซ้ำ สถานศึกษาจะจัดให้ผู้เรียนเรียนซ้ำใน 2 กรณี ดังนี้ กรณีที่ 1 การเรียนซ้ำรายวิชา หากผู้เรียนได้รับการสอนซ่อมเสริมและสอบแก้ตัว 2 ครั้ง แล้วไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้เรียนซ้ำ รายวิชานั้น ทั้งนี้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาในการจัดให้เรียนซ้ำในช่วงใดช่วงหนึ่งที่สถานศึกษาเห็นว่าเหมาะสม เช่น พักกลางวัน วันหยุด ชั่วโมงว่างหลังเลิกเรียน ภาคฤดูร้อน เป็นต้น การเรียนซ้ำรายวิชา ให้ดำเนินการดังนี้ ๑. การลงทะเบียนเรียนผู้เรียนสามารถลงทะเบียนเรียนได้ไม่เกิน 7 หน่วยกิต ๒. ให้คิดเวลาเรียน 1 หน่วยกิต ต่อการเรียน 40 ชั่วโมง การตัดสินผลการเรียนให้เป็นไปตามระเบียบวัดผลในข้อที่ 5.1 กรณีที่ 2 การเรียนซ้ำชั้น มี 2 ลักษณะคือ ๒.๑) ผู้เรียนมีระดับผลการเรียนเฉลี่ยในปีการศึกษานั้นต่ำกว่า 1.00 และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนใน ระดับชั้นที่สูงขึ้น
19 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน ๒.๒) ผู้เรียนมีผลการเรียน 0, ร, มส เกินครึ่งหนึ่งของรายวิชาที่ลงทะเบียนเรียนในปีการศึกษานั้น ทั้งนี้ หากเกิดลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรือทั้ง 2 ลักษณะ ให้สถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณา หากเห็นว่าไม่มีเหตุผล อันสมควรก็ให้ซ้ำชั้น โดยยกเลิกผลการเรียนเดิมและให้ใช้ผลการเรียนใหม่แทน หากพิจารณาแล้วไม่ต้องเรียนซ้ำชั้น ให้อยู่ในดุลยพินิจของ สถานศึกษาในการแก้ไขผลการเรียน ข้อ 8.2 การสอนซ่อมเสริม การสอนซ่อมเสริม เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียนรู้และเป็นการให้โอกาสแก่ผู้เรียนได้มีเวลาเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพิ่มขึ้นจน สามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ การจัดสอนซ่อมเสริมเป็นการสอนกรณีพิเศษนอกเหนือไปจากการสอนตามแผน จัดการเรียนรู้ปกติ เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องที่พบในผู้เรียน เป็นการให้โอกาสแก่ผู้เรียนได้เรียนรู้และพัฒนา โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ หลากหลายและคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน การสอนซ่อมเสริมสามารถดำเนินการได้ในกรณีดังต่อไปนี้ ๑) ผู้เรียนมีความรู้/ทักษะพื้นฐานไม่เพียงพอที่จะศึกษาในแต่ละรายวิชานั้นควรจัดการสอนซ่อมเสริม ปรับความรู้/ ทักษะพื้นฐาน ๒) การประเมินระหว่างเรียน ผู้เรียนไม่สามารถแสดงความรู้ ทักษะกระบวนการ หรือเจตคติ/คุณลักษณะที่กำหนดไว้ ตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๓) ผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์ และ/หรือต่ำกว่าเกณฑ์การประเมิน โดยผู้เรียนได้ระดับผลการเรียน “0” ต้องจัดการสอน ซ่อมเสริมก่อนจะให้ผู้เรียนสอบแก้ตัว ๔) ผู้เรียนมีผลการเรียนไม่ผ่าน สามารถจัดสอนซ่อมเสริมในภาคฤดูร้อนเพื่อแก้ไขผลการเรียน ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจ ของหัวหน้าสถานศึกษา หมวด ๙ การจบระดับชั้น ข้อ ๙ การจบระดับชั้น ข้อ 9.1 เกณฑ์การจบระดับประถมศึกษา ๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติม ตามโครงสร้างเวลาเรียนที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐานกำหนดและรายวิชา/กิจกรรม เพิ่มเติมที่สถานศึกษากำหนด ๒) ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐานผ่านเกณฑ์การประเมินขั้นต่ำขึ้นไป (ตั้งแต่ 1.0 ขึ้นไป) ๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินตั้งแต่ “ผ่าน” ขึ้นไปในการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินตั้งแต่ “ผ่าน” ขึ้นไปในการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินเป็น “ผ่าน” ในทุกกิจกรรมของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ข้อ 9.2 เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติมไม่เกิน 81 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 66 หน่วยกิต และ รายวิชาเพิ่มเติมที่สถานศึกษากำหนด ๒) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 66 หน่วยกิต และ รายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 11 หน่วยกิต ๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินตั้งแต่ “ผ่าน” ขึ้นไปในการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินตั้งแต่ “ผ่าน” ขึ้นไปในการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินเป็น “ผ่าน” ในทุกกิจกรรมของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
20 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน ข้อ 9.3 เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 81 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 41 หน่วยกิต และ รายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษากำหนด ๒) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 41 หน่วยกิต และ รายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต ๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินตั้งแต่ “ผ่าน” ขึ้นไปในการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินตั้งแต่ “ผ่าน” ขึ้นไปในการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินเป็น “ผ่าน” ในทุกกิจกรรมของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หมวด 10 การเทียบโอนผลการเรียน ข้อ 10 การเทียบโอนผลการเรียน สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้จากสถานศึกษาได้ในกรณีต่างๆ ได้แก่ การย้ายสถานศึกษา การเปลี่ยนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การละทิ้งการศึกษาและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศและ ขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จากแหล่งการเรียนรู้อื่นๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันทางศาสนา สถาบันการฝึกอบรมอาชีพ การศึกษาโดยครอบครัว การเทียบโอนผลการเรียนควรดำเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรียนแรกที่สถานศึกษารับผู้ขอเทียบโอนเป็น นักเรียน ทั้งนี้นักเรียนที่ได้รับการเทียบโอนผลการเรียนต้องศึกษาต่อเนื่อง ในสถานศึกษาที่รับเทียบโอนอย่างน้อย 1 ภาคเรียน โดย สถานศึกษาที่รับการเทียบโอนควรกำหนดรายวิชาจำนวนหน่วยกิตที่จะรับเทียบโอนตามความเหมาะสม การพิจารณาการเทียบโอน สามารถดำเนินการได้ดังนี้ ๑) พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา ซึ่งจะให้ข้อมูลที่แสดงความรู้ ความสามารถของนักเรียนใน ด้านต่างๆ ๒) พิจารณาจากความรู้ ประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติจริง การทดสอบ การสัมภาษณ์ เป็นต้น ๓) พิจารณาจากความสามารถและการปฏิบัติในสภาพจริง ๔) ในกรณีมีเหตุผลจำเป็นระหว่างเรียน นักเรียนสามารถแจ้งความจำนงขอไปศึกษาบางรายวิชาในสถานศึกษา/สถาน ประกอบการอื่น แล้วนำมาเทียบโอนได้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารหลักสูตร และวิชาการของสถานศึกษา ๕) การเทียบโอนผลการเรียนให้ดำเนินการในรูปของคณะกรรมการ การเทียบโอนจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน แต่ไม่ควรเกิน 5 คน ๖) การเทียบโอนให้ดำเนินการ ดังนี้ ๖.๑ กรณีผู้ขอเทียบโอนมีผลการเรียนมาจากหลักสูตรอื่น ให้นำรายวิชาหรือหน่วยกิตที่มีตัวชี้วัด/มาตรฐานการเรียนรู้/ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง/จุดประสงค์/เนื้อหาที่สอดคล้องกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 มาเทียบโอนผลการเรียนและพิจารณาให้ระดับผลการเรียน ให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่รับเทียบโอน ๖.๒ กรณีการเทียบโอนความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ให้พิจารณาจากเอกสารหลักฐาน (ถ้ามี) โดยให้มีการประเมินด้วย เครื่องมือที่หลากหลายและให้ระดับผลให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่รับเทียบโอน ๖.๓ กรณีการเทียบโอนที่นักเรียนเข้าโครงการแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ให้ดำเนินการตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง หลักการและแนวปฏิบัติการเทียบชั้นการศึกษาสำหรับนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ วิธีการเทียบโอนผลการเรียนให้เป็นไปตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง
21 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน
22 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน ระเบียบโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ว่าด้วยเรื่อง การปฏิบัติตนของนักเรียน ทรงผม และเครื่องแต่งกาย การควบคุมความประพฤติ การลงโทษ การตัดและการเพิ่มคะแนนความประพฤติ พ.ศ.๒๕๖6 ******************************* เพื่อให้ระเบียบโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน จึงสมควรปรับปรุงและให้ตราเป็นระเบียบใช้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนา การศึกษา ว่าด้วยเรื่องการปฏิบัติตนของนักเรียน ทรงผมและเครื่องแต่งกาย การควบคุมความประพฤติ การลงโทษ การตัดและการเพิ่ม คะแนนความประพฤติ พ.ศ. ๒๕๖6” ข้อ 2 ในระเบียบนี้ “ผู้อำนวยการ” หมายถึง ผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศึกษาสถานศึกษา บังคับบัญชา บริหารกิจการของสถานศึกษา วางแผนการปฏิบัติการ ควบคุม กำกับ ดูแลเกี่ยวกับการบริหารงานด้านต่าง ๆ ของโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา “รองผู้อำนวยการ” หมายถึง ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลสายงานที่รับผิดชอบตาม โครงสร้างการบริหารงานของโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา “ผู้ช่วยผู้อำนวยการ” หมายถึง ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการที่ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลนักเรียนในระดับอนุบาล ศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ของโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนา การศึกษา ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นไปตามระเบียบของโรงเรียน “นักเรียน” หมายถึง ผู้เรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียน ก่อนระดับอนุบาลศึกษา ระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษาและ มัธยมศึกษาของโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา “ผู้ปกครอง” หมายถึง บิดา มารดา หรือบุคคลซึ่งรับนักเรียนไว้ในความปกครองหรืออุปการะเลี้ยงดู เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ และไม่อยู่ในสภาพการเป็นนักเรียน ผู้ปกครองต้องให้ความร่วมมือกับโรงเรียน โดยควบคุมดูแลความประพฤติและการศึกษาเล่าเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ประพฤติตนให้ถูกต้องตามระเบียบโรงเรียน “การกระทำผิด” หมายถึง การที่นักเรียนประพฤติผิดหรือฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของโรงเรียน “การลงโทษ” หมายถึง การลงโทษนักเรียนที่ประพฤติผิดหรือฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของโรงเรียน โดยมีความมุ่งหมายเพื่อ อบรมสั่งสอน การลงโทษนักเรียน จะลงโทษเมื่อปรากฏชัดแจ้งว่านักเรียนผู้นั้นได้กระทำผิดและสมควรถูกลงโทษ ผู้อำนวยการโรงเรียน มีสิทธิ์ยับยั้ง ลด เพิ่มการตัดคะแนนการลงโทษทุกกรณี ตามที่เห็นสมควร “การว่ากล่าวตักเตือน” หมายถึง การตักเตือนนักเรียนในกรณีกระทำความผิดไม่ร้ายแรง สามารถกระทำโดยการเตือนเป็น รายบุคคลหรือการประกาศหน้าเสาธง/บอร์ดต่าง ๆ/เว็บไซต์โรงเรียน กิจกรรมยามเช้า ของอาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษา หรือจากการ ประชุมของระดับต่าง ๆ “การทำทัณฑ์บน” หมายถึง บทลงโทษที่นักเรียนประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน หรือกรณีทำให้เสื่อมเสีย ชื่อเสียงเกียรติศักดิ์ของสถานศึกษา หรือฝ่าฝืนระเบียบของสถานศึกษา หรือว่ากล่าวตักเตือนแล้วแต่ยังไม่เข็ดหลาบ โดยให้ทำเป็น หนังสือและเชิญบิดามารดาหรือผู้ปกครอง มาบันทึกรับทราบความผิดและรับรองการทำทัณฑ์บนไว้ด้วย “คะแนนความประพฤติ” หมายถึง คะแนนที่ใช้ควบคุมความประพฤตินักเรียน ซึ่งในแต่ละช่วงชั้นนักเรียนแต่ละคนจะมี คะแนนความประพฤติของตนเอง 100 คะแนน
23 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน “การควบคุมความประพฤตินักเรียน” หมายถึง การลงโทษและการตัดคะแนนความประพฤติของนักเรียนควบคู่กันไปด้วย “การเพิ่มคะแนนความประพฤติ” หมายถึง การเพิ่มคะแนนให้กับนักเรียนในกรณีมีหลักฐานแสดงว่าเป็นบุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม ช่วยเหลือสังคม สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนเป็นแบบอย่างกับผู้อื่นให้เป็นที่ประจักษ์ “การตัดคะแนนความประพฤติ” หมายถึง การตัดคะแนนความประพฤติที่พบจากการกระทำความผิด มีการบันทึกข้อมูล การกระทำความผิดลงในโปรแกรมหรือเอกสารบันทึกการตัดคะแนน ในกรณีที่เกินกว่าอำนาจในการตัดคะแนน ให้นำเสนอเพื่อให้งาน ส่งเสริมวินัยนักเรียนพิจารณา หรือเสนอต่อรองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียนตามลำดับเป็นผู้อนุญาตในการตัดคะแนนและบันทึก ข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน “กิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม” หมายถึง การให้นักเรียนที่กระทำผิดได้ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยใช้วินัย เชิงบวก ปราศจากความรุนแรงทั้งวาจาและการกระทำ ให้โอกาสนักเรียนทำความดีเพื่อทดแทนหรือชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก การกระทำผิดของตนเอง เช่น บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ (จิตอาสา) และการปฏิบัติกิจกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรม ข้อ 3 นักเรียนระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษาและมัธยมศึกษาทุกคน ต้องปฏิบัติตนตามแนวทางที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้ ยกเว้น นักเรียนก่อนระดับอนุบาลศึกษาให้เป็นไปตามประกาศของทางโรงเรียน ข้อ 4 ยกเลิกระเบียบโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ที่มี อยู่เดิมหรือระเบียบใดที่ขัดกับระเบียบนี้ หมวดที่ 1 การปฏิบัติตนของนักเรียน ข้อ 5 การปฏิบัติตนโดยทั่วไปของนักเรียน 1. นักเรียนต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นไปตามระเบียบนี้ของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด 2. มีบัตรประจำตัวนักเรียนและนำติดตัวมาทุกครั้งที่เข้าโรงเรียน 3. มาโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลา หากหยุดเรียนต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบว่าด้วยการลา 4. เป็นผู้มีประชาธิปไตยอันอยู่ในขอบเขตที่ถูกต้อง และเข้าใจในหน้าที่ของตนเองและเคารพสิทธิของผู้อื่น 5. ปฏิบัติตนให้เป็นคนดีมีคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต รู้จักเกรงใจผู้อื่น 6. เป็นผู้มีความขยันหมั่นเพียร รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองและหมู่คณะ 7. เป็นผู้เสียสละทั้งกำลังกาย กำลังใจและกำลังสมอง ช่วยเหลืองานต่างๆ เพื่อพัฒนาโรงเรียนให้เจริญก้าวหน้า 8. ต้องช่วยกันส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี 9. ต้องช่วยกันรักษาทรัพย์สินของโรงเรียนให้คงทนถาวร หากผู้ใดทำให้ชำรุดเสียหายผู้นั้นจะต้องรู้สำนึกในความ รับผิดชอบ และต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับทางโรงเรียน 10. ปฏิบัติตนเป็นคนดีกล้าหาญ กล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกที่ควร รู้จักอดกลั้น รู้จักกาลเทศะ มีกิริยาวาจา สุภาพ มีสัมมาคารวะต่อบิดา มารดา อาจารย์และมีความสุภาพอ่อนโยนต่อบุคคลทั่วไป 11. ไม่เอาของผู้อื่นมาเป็นของตนและไม่กระทำการใด ๆ ที่ผิดกฎหมาย 12. ไม่นำอุปกรณ์การพนันมาโรงเรียนและไม่เล่นการพนันทุกประเภท 13. ไม่ครอบครองอุปกรณ์การเสพ เสพ และจำหน่ายสารเสพติด และของมึนเมาทุกชนิด 14. ไม่นำมาหรือมีไว้ในครอบครอง และจำหน่ายสื่อทุกประเภทที่ผิดต่อศีลธรรม 15. ไม่นำเครื่องประดับหรือของใช้ที่เกินความจำเป็นต่อการเรียนมาโรงเรียน เว้นแต่ได้รับอนุญาตให้นำมาเพื่อประกอบการเรียน 16. ไม่นำหรือจำหน่ายอาวุธวัตถุระเบิดและสิ่งประดิษฐ์อื่นใด ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายเข้ามาในบริเวณโรงเรียน 17. ไม่ล้อเลียน ข่มขู่ ข่มเหง ก้าวร้าว พูดจาคุกคาม พูดด้วยคำหยาบคาย 18. ไม่ก่อการทะเลาะวิวาท หรือการกระทำใด ๆ ที่จะก่อให้เกิดการแตกแยก ทุกคนจะต้องช่วยกันประสานให้เกิด ความสามัคคีของหมู่คณะ
24 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน ข้อ 6 การปฏิบัติตนในการมาโรงเรียน 1. นักเรียนระดับอนุบาลศึกษา - มาเรียนให้ทันตามกำหนด ก่อนเวลา 08.20 น. - การกลับบ้านหลังเลิกเรียน นักเรียนจะต้องออกจากโรงเรียน ไม่เกินเวลา 17.00 น. 2. นักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา - การแต่งกายเครื่องแบบนักเรียน ชุดพลศึกษา ชุดลูกเสือและเนตรนารีเหล่าอากาศ/ชุดนักศึกษาวิชาทหาร มา โรงเรียนตามวันที่กำหนด - มาเรียนให้ทันตามกำหนด ก่อนเวลา 07.50 น. และเมื่อเข้าประตูโรงเรียนต้องหยุดตามจุดที่โรงเรียนกำหนด เพื่อไหว้พระและทำความเคารพอาจารย์เวรประจำวัน - นักเรียนต้องบันทึกการเข้า-ออกจากโรงเรียน ผ่านระบบสแกน โดยให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด - การกลับบ้านหลังเลิกเรียน นักเรียนจะต้องออกจากโรงเรียน ไม่เกินเวลา 17.30 น. ยกเว้นกรณีที่มีอาจารย์ นัดหมายทำกิจกรรมนอกเหนือเวลาเรียนและต้องมีอาจารย์คอยดูแล หรือรอผู้ปกครองมารับ 3. ถ้าโรงเรียนมีความประสงค์จะให้นักเรียนมาโรงเรียนเพื่อทำกิจกรรมใดๆ ในวันหยุดจะต้องมีหนังสือขออนุญาต แจ้งให้ผู้ปกครองทราบและอนุญาตก่อนทุกครั้ง 4. การมาติดต่อราชการกับทางโรงเรียน นักเรียนต้องแต่งเครื่องแบบนักเรียนให้เรียบร้อย 5. โรงเรียนไม่อนุญาตให้นักเรียนมาค้างที่โรงเรียน หรือมาโรงเรียนในวันหยุดราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อ 7 การปฏิบัติตนในการเข้าแถวเคารพธงชาติ 1. นักเรียนระดับอนุบาลศึกษา เตรียมตัวเข้าแถวเคารพธงชาติเมื่อได้ยินเสียงบอกเวลาและสัญญาณเพลงมาร์ชของ โรงเรียน เวลา ๐8.2๐ น.และเข้าแถวเคารพธงชาติ เวลา ๐๘.3๐ น. และร่วมกิจกรรมหน้าเสาธงด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย 2. นักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เตรียมตัวเข้าแถวเคารพธงชาติ เมื่อได้ยินเสียงบอกเวลา และ สัญญาณเพลงมาร์ชของโรงเรียน เวลา ๐๗.๕๐ น. และเข้าแถวเคารพธงชาติเวลา ๐๘.๐๐ น. และร่วมกิจกรรมหน้าเสาธงด้วยความเป็น ระเบียบเรียบร้อย ข้อ 8 การปฏิบัติตนเมื่อมาสาย 1. การมาถึงโรงเรียนหลังเวลา ๐๘.๐๐ น. ที่ทำกิจกรรมเคารพธงชาติแล้วเสร็จ ถือว่ามาสาย นักเรียนที่มาสายทาง โรงเรียนจะดำเนินการดังนี้ - ยืนเข้าแถวบริเวณอาคารอเนกประสงค์ (โดม) ในจุดที่กำหนด - ดำเนินกิจกรรมร้องเพลงชาติ สวดมนต์ ปฏิญาณตน - อาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษา บันทึกข้อมูล 2. การมาสายหลังเวลา ๐๘.2๐ น. ให้ปฏิบัติ ดังนี้ - ให้รับบัตรอนุญาตให้เข้าชั้นเรียนจากกรรมการงานส่งเสริมวินัยนักเรียนที่ห้องธุรการของโรงเรียน กรณีไม่มี บัตรอนุญาตให้เข้าชั้นเรียนไปแสดงต่ออาจารย์ผู้สอนจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชั้นเรียน ข้อ 9 การปฏิบัติตนเมื่ออยู่ในอาคารเรียน/ห้องเรียน/ห้องปฏิบัติการ 1. เข้าห้องเรียน หลังจากกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จเรียบร้อยเพื่อทำกิจกรรมยามเช้า เริ่มเรียนในคาบเรียนที่ 1 เวลา ๐๘.๒๐ น. 2. นักเรียนต้องรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่คุยเสียงดัง ไม่เล่นในห้องเรียน 3. นักเรียนต้องไม่นำอาหารของขบเคี้ยว เครื่องดื่มอื่น ๆ ยกเว้นน้ำเปล่า เข้าห้องเรียนหรือรับประทานในห้องเรียน 4. จัดโต๊ะ เก้าอี้ ของตนให้เป็นระเบียบและรักษาความสะอาดตลอดเวลา และห้ามเคลื่อนย้ายโต๊ะเก้าอี้โดยไม่ได้ รับอนุญาต 5. รักษาทรัพย์สิน อุปกรณ์ต่าง ๆ ของโรงเรียน หากเกิดเสียหายให้รายงาน อาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษาหรืออาจารย์ ผู้สอนทันที 6. ปิดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดหลังเลิกใช้งาน
25 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน 7. ช่วยกันดูแลความสะอาดของห้องเรียน/ห้องปฏิบัติการ 8. ตั้งใจเรียนด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ออกจากห้องเรียนก่อนได้รับอนุญาต 9. ไม่นั่งบนโต๊ะเรียนหรือโต๊ะอาจารย์ 10. งดนักเรียนใช้ลิฟต์ในอาคารเรียน ยกเว้นได้รับการอนุญาตจากทางโรงเรียน ข้อ 10 การปฏิบัติตนในการรักษาทรัพย์สมบัติของโรงเรียน 1. ไม่ขีดเขียนข้อความใด ๆ หรือทำให้เกิดรอยตามฝาผนังอาคารเรียน ห้องเรียน ห้องน้ำ โต๊ะ เก้าอี้ และวัสดุ ครุภัณฑ์ของโรงเรียน 2. นักเรียนพึงช่วยกันรักษาทรัพย์สินของโรงเรียนมิให้บุบสลาย แตกหัก ถ้าหากเกิดความเสียหายขึ้น นักเรียน จะต้องรับผิดชอบและชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โรงเรียน ข้อ 11 การปฏิบัติตนในการเดินบนถนน ระเบียง ขึ้นลงบันไดในโรงเรียน 1. ไม่ปีนหรือนั่งบริเวณที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุแก่นักเรียน เช่น ระเบียง ราวบันได หลังคา ฯลฯ 2. เดินขึ้นลงบันไดบริเวณอาคารเรียน ให้เดินชิดขวามือ 3. การข้ามถนนให้ใช้ทางม้าลายหรือเดินบริเวณที่มีทางเชื่อม 4. การเดินบนถนนทั้งในและนอกโรงเรียน นักเรียนต้องเดินบนทางเท้าเสมอเพื่อความปลอดภัยงดการเดินบนเส้นทาง การเดินรถหรือผิวการจราจร กรณีไม่มีทางเท้าให้เดินชิดขอบทางด้านขวาหรือเดินบนเส้นทางที่ทางโรงเรียนกำหนดไว้เพื่อความปลอดภัย ข้อ 12 การปฏิบัติตนในการใช้เครื่องมือสื่อสาร/อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของนักเรียน 1. ในกรณีนักเรียนนำเครื่องมือสื่อสารรวมทั้งของมีค่าทุกชนิดมาโรงเรียน หากมีการสูญหายทางโรงเรียนจะไม่ รับผิดชอบ 2. นักเรียนต้องไม่ใช้เครื่องมือสื่อสาร ได้แก่ โทรศัพท์ นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ในเวลาเรียน ยกเว้นการใช้โดยได้รับอนุญาต เพื่อประกอบการเรียนการสอน หากฝ่าฝืนอาจารย์ผู้สอนสามารถยึดและมอบให้งานส่งเสริมวินัยนักเรียนและให้ผู้ปกครองติดต่อรับคืนเท่านั้น 3. กรณีนักเรียนใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่น แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเพื่อประกอบการเรียน จะต้องได้รับ อนุญาตจากอาจารย์ผู้สอน 4. ในขณะที่อยู่ในห้องเรียน/ห้องปฏิบัติการ/ห้องสอบ ไม่อนุญาตให้เปิดเสียงโทรศัพท์เด็ดขาด 5. หากมีความจำเป็นจะต้องใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครอง ขณะทำการเรียนการสอน จะต้องขออนุญาต อาจารย์ผู้สอนทุกครั้ง 6. ไม่อนุญาตให้นักเรียนใช้กระแสไฟฟ้าของโรงเรียนเพื่อเติมแบตเตอร์รี่ และเครื่องสำรองไฟ ยกเว้นได้รับอนุญาต จากอาจารย์ในกรณีที่มีความจำเป็น 7. กรณีที่นักเรียนใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด ในการส่งข้อความ รูปภาพ และเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์แล้วทำ ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือโรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง จะถูกตัดคะแนนความประพฤติ 40 คะแนน และต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ข้อ 13 การปฏิบัติตนในการนำยานพาหนะมาโรงเรียน ห้ามนักเรียนขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์เข้ามาในบริเวณโรงเรียน ข้อ ๑4 การปฏิบัติตนในการขออนุญาตกลับบ้านก่อนเวลาและขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียน 1. เขียนใบขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียนโดยให้ผู้ปกครองลงนาม 2. อาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษา ลงนามรับทราบ อนุญาต/ไม่อนุญาต 3. กรรมการงานส่งเสริมวินัยนักเรียนหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ลงนามรับทราบ อนุญาต/ไม่อนุญาต 4. นักเรียนต้องผ่านระบบสแกน ทุกครั้งและแสดงใบขออนุญาตออกนอกโรงเรียนต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 5. โรงเรียนจะอนุญาตให้นักเรียนออกนอกบริเวณโรงเรียนในกรณีดังต่อไปนี้ - ผู้ปกครองมารับด้วยตนเอง - มีหนังสือนัดจากแพทย์หรือหนังสือขออนุญาตจากผู้ปกครอง
26 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน - เมื่อนักเรียนมีความเจ็บป่วย ซึ่งอยู่ในความวินิจฉัยของงานส่งเสริมสุขภาพและแจ้งผู้ปกครองมารับ ข้อ ๑5 การปฏิบัติตนเมื่อหยุดเรียน การลา การขาดเรียน 1. การหยุดเรียนทุกครั้ง นักเรียนต้องยื่นใบ “ลากิจ” หรือ “ลาป่วย” ต่ออาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษา ตามเหตุผลที่ เป็นจริง ก่อนวันลาในกรณีลากิจ หรือในวันแรกที่มาโรงเรียนในกรณีลาป่วย ถ้าลาป่วย ตั้งแต่ ๓ วัน ต้องมีใบรับรองแพทย์มา ประกอบด้วย หากหยุดเรียนโดยไม่ส่งใบลา ให้ถือว่าขาดเรียน 2. ให้ผู้ปกครองเขียนข้อความรับรองว่า “ข้าพเจ้ารับรองว่าเป็นความจริง” พร้อมลงลายมือชื่อในตอนท้ายใบลาของ นักเรียน โดยต้องเป็นลายมือของผู้ปกครองที่มาทำการมอบตัวหรือที่ได้แจ้งไว้กับทางโรงเรียนหรือผู้ปกครองที่ดูแลนักเรียน ถ้าปรากฏ ว่านักเรียนคนใดปลอมลายมือชื่อผู้ปกครองให้ลงโทษฐานแจ้งเท็จอีกประการหนึ่ง 3. หากขาดเรียนเกิน ๓ วันติดต่อกัน และไม่ได้รับแจ้งจากผู้ปกครองทางโรงเรียนจะดำเนินการ ดังนี้ - อาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษา ติดต่อขอข้อมูลจากผู้ปกครอง หากไม่ได้รับการชี้แจงจากผู้ปกครองภายใน ๗ วัน อาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษาทำรายงานแจ้งงานส่งเสริมวินัยนักเรียนทราบ เพื่อทางโรงเรียนจะได้ทำหนังสือเชิญผู้ปกครองมาพบงาน ส่งเสริมวินัยนักเรียน และอาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษา ต่อไป - กรณีที่ผู้ปกครองไม่มาพบงานส่งเสริมวินัยนักเรียน และอาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษา ให้งานส่งเสริมวินัยนักเรียน เสนอรองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน เพื่อเสนอผู้อำนวยการโรงเรียน พิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป ข้อ ๑6 การปฏิบัติตนในการแสดงความเคารพ นักเรียนต้องแสดงความเคารพอาจารย์และผู้ใหญ่ ดังนี้ ๑. เมื่อนักเรียนนั่งหรือยืนอยู่กับที่ หากอาจารย์เดินผ่านในระยะใกล้พอสมควรให้แสดงความเคารพด้วยการยืนตรง หรือไหว้ ๒. เมื่อนักเรียนเดินสวนกับอาจารย์ให้แสดงความเคารพด้วยการยืนตรงหรือไหว้ เมื่ออาจารย์เดินผ่านไปแล้วจึงเดิน ต่อไป ๓. เมื่อนักเรียนเดินตามหลังอาจารย์ ไม่ควรเดินแซงขึ้นหน้า นอกจากกรณีจำเป็นให้กล่าวขอโทษหรือขออนุญาต เสียก่อน และหากอาจารย์เดินตามหลังนักเรียนมาในระยะใกล้ ควรหยุดให้อาจารย์เดินผ่านไปก่อน ๔. เมื่ออาจารย์เข้าห้องเรียน ให้หัวหน้านักเรียนหรือรองหัวหน้านักเรียนบอกทำความเคารพว่า “นักเรียนประนม มือกราบ” ให้นักเรียนประนมมือกราบลงที่โต๊ะและกล่าวคำว่า “สวัสดีครับ, สวัสดีค่ะ..อาจารย์” พร้อมกัน ๕. เมื่อนักเรียนยืนพูดกับอาจารย์ต้องยืนตรงในลักษณะสำรวม เมื่อพูดเสร็จแล้วให้แสดงความเคารพด้วยการไหว้ ๖. หากนักเรียนเข้าไปพบอาจารย์พร้อมๆ กัน เป็นจำนวนหลายคน ให้นักเรียนเข้าแถวตามลำดับก่อนหลัง ห้ามรุม ล้อมโต๊ะอาจารย์ ๗. นักเรียนที่เป็นลูกเสือและเนตรนารีเหล่าอากาศ นักศึกษาวิชาทหาร การแสดงความเคารพให้ปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วย การแสดงความเคารพนั้นๆ ๘. เมื่อมีบุคคลมาเยี่ยมโรงเรียนหรือมีผู้ปกครองเข้ามาในโรงเรียน ให้ทำความเคารพเช่นเดียวกับการปฏิบัติต่ออาจารย์ ของโรงเรียน ๙. เมื่อนักเรียนพบอาจารย์ภายนอกโรงเรียนให้แสดงความเคารพทุกครั้งโดยการไหว้ และกล่าวคำว่า “สวัสดีครับ, สวัสดีค่ะ” ๑๐. การแสดงความเคารพต้องให้เหมาะสมแก่เวลา สถานที่และบุคคล ข้อ ๑7 การปฏิบัติตนในการใช้คำพูดของนักเรียน โรงเรียนส่งเสริมให้นักเรียนทุกคนเป็นผู้มีกิริยาวาจา สุภาพ เรียบร้อยเหมาะสม จึงกำหนดลักษณะในการพูดจาให้ เหมาะสม ดังต่อไปนี้ ๑. การใช้สรรพนามในการสนทนาระหว่างเพื่อน พี่ และน้อง ให้ใช้สรรพนามที่เหมาะสมและสุภาพ ดังต่อไปนี้ คุณ ผม พี่ น้อง ดิฉัน ๒. ให้นักเรียนใช้สรรพนามแทนอาจารย์ด้วยคำว่า “อาจารย์” เท่านั้น การพูดกับอาจารย์และผู้ใหญ่ต้องมีสัมมาคารวะ และเน้นการมีหางเสียงโดยมีคำว่า “ครับ” หรือ “ค่ะ”
27 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน ๓. การพูดในที่สาธารณะให้ใช้ถ้อยคำสุภาพ การใช้ภาษาคะนอง, คำผวน หรือถ้อยคำภาษาที่เป็นกันเอง ระหว่าง กลุ่มเพื่อน พี่หรือน้องต้องใช้เฉพาะในที่รโหฐานหรือที่ลับเฉพาะบุคคล ซึ่งไม่มีอาจารย์หรือผู้ใหญ่ในบริเวณนั้น ๔. ให้คณะกรรมการงานส่งเสริมวินัยนักเรียน อาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษาและอาจารย์ทุกท่านเป็นผู้พิจารณา ดำเนินการให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามความเหมาะสมต่อไป หมวดที่ 2 ทรงผมและเครื่องแต่งกาย ข้อ 18 การไว้ทรงผมของนักเรียน มีรายละเอียดดังนี้ ๑. นักเรียนชายระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษาและมัธยมศึกษาทุกหลักสูตร นักเรียนชายไว้ผมได้ 2 แบบ คือไว้ผมสั้นทรงนักเรียน หรือไว้ผมรองทรงสูง โดยมีความยาวของผมด้านหน้าไม่เกิน 8 เซนติเมตร ห้ามดัดผม ซอยผม ทำสีผม ตัดไว้จอน หวีผมแสกกลาง หวีผมเสย หรือการกระทำอื่นใด ซึ่งไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็น นักเรียน เช่นไว้ผมทรงแปลกๆ ตามแฟชั่น ไว้หนวดเครา ใส่น้ำมันจัดแต่งทรงผม ๒. นักเรียนหญิงระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาทุกหลักสูตร ทรงผม ให้นักเรียนไว้ผมได้ ๒ แบบ ดังนี้ - ไว้ผมสั้น ทรงบ๊อบธรรมดา ความยาวระดับต้นคอ กรณีที่นักเรียนไว้ผมหน้าม้าให้เป็นแบบเรียบตรงเสมอคิ้ว - ไว้ผมยาว ให้รวบและผูกด้วยริบบิ้นหรือถักเปียให้เรียบร้อย ขนาดของริบบิ้นกว้างไม่เกิน ๓ เซนติเมตร สีม่วงเข้ม โดยความยาวของผมเมื่อรวบแล้วจากต้นคอไม่เกิน ๓๐ เซนติเมตร - ห้ามดัด ซอย ทำสีผม ไว้ผมทรงแปลกๆ หรือใช้เครื่องประดับทุกชนิด ยกเว้นกิ๊บสีดำธรรมดาเท่านั้น และห้าม ใส่น้ำมันจัดแต่งทรงผม - กรณีนักเรียนไว้เปียผม อนุญาตให้เปียโดยรวบในลักษณะของการถักเปีย 1 เปีย หรือ ถัก 2 เปียได้ไม่เกิน 2 ข้าง ผูกริบบิ้นให้เรียบร้อย ข้อ 19 เครื่องแต่งกายของนักเรียนมีรายละเอียดดังนี้ นักเรียนชาย 1. ระดับอนุบาลศึกษา เสื้อนักเรียน - ให้ใช้เสื้อปกฮาวาย แขนสั้นสีขาว ใช้ผ้าขาวเกลี้ยงผ่าหน้าตลอด ติดกระดุม 4-5 เม็ดสีขาว เอวจั๊ม จับจีบซ้าย-ขวา ข้างละที่ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กระเป๋าเสื้อปักตราพระพิรุณทรงนาคล้อมด้วยกลีบบัว - ให้ปักชื่อ-นามสกุล ทางด้านขวาสูงระดับเดียวกับขอบกระเป๋าเสื้อด้านบน ด้วยไหมสีม่วงเข้ม ขนาดของ ตัวอักษรสูง ๐.5 เซนติเมตร ตัวอักษรให้ปักทึบแบบธรรมดาตามที่โรงเรียนกำหนด ไม่ต้องมีคำนำหน้า - ให้ปักสัญลักษณ์รูปดาวแบบทึบ ด้วยไหมสีเขียวเข้ม ขนาด 0.5-0.8 เซนติเมตร อยู่ด้านบนเหนือ ชื่อ-นามสกุล ระดับชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 1 ปัก ระดับชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 2 ปัก ระดับชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 3 ปัก - การใส่เสื้อข้างในต้องใส่เสื้อกล้ามสีขาวแบบธรรมดาไม่มีลวดลาย กางเกง ให้ใช้กางเกงขาสั้น ชายกางเกงอยู่แนวลูกสะบ้าเข่า ใช้ผ้าโทเรสีม่วงเข้ม เอวด้านหลังเป็นยางยืด ด้านหน้าเป็นเอวธรรมดา มีกระเป๋าตามแนวตะเข็บข้าง ข้างละ 1 ใบ
28 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน ชุดนอน เสื้อนอน ให้ใช้เสื้อคอกลมแขนสั้น ผ้าสีฟ้าอมเขียว มีกระเป๋าเสื้อ ๒ ด้าน ตรงชายเสื้อด้านล่าง ปักชื่อ-นามสกุล บริเวณด้านหน้าอกทางด้านขวาด้วยไหมสีม่วงเข้ม ไม่มีคำนำหน้าชื่อ กางเกงนอน ให้ใช้กางเกงขายาว เอวเป็นยางยืด ผ้าสีฟ้าอมเขียว ถุงเท้า ให้ใช้ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด โดยเป็นถุงเท้าข้อสั้นสีขาว พื้นสีดำมีขลิบด้านข้างสีเขียวม่วง รองเท้า ให้ใช้รองเท้านักเรียน ทำด้วยหนังหุ้มสีดำแบบติดกระดุมแป๊กมีส้นสูงไม่เกิน ๓ เซนติเมตร 2. ระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหลักสูตรปกติ เสื้อนักเรียน - ให้ใช้เสื้อเชิ้ตแขนสั้นเหนือข้อศอกสีขาว ใช้ผ้าขาวเกลี้ยงผ่าหน้าตลอด สาบกว้าง ๑ ๑ ๔ - ๑ ๑ ๒ นิ้ว ด้านหลังของเสื้อ ไม่มีจีบ มีกระเป๋าด้านซ้าย - ให้ปักตราพระพิรุณทรงนาคล้อมด้วยกลีบบัวด้วยไหมสีม่วงเข้มที่กระเป๋าด้านซ้าย - ให้ปักชื่อ-นามสกุล ทางด้านขวาสูงระดับเดียวกับขอบกระเป๋าเสื้อด้านบน ด้วยไหมสีม่วงเข้ม ขนาดของตัวอักษร สูง ๐.5 เซนติเมตร ให้ปักทึบแบบธรรมดาตามที่โรงเรียนกำหนดไม่ต้องมีคำนำหน้า - ให้ปักสัญลักษณ์รูปดาวแบบทึบ ด้วยไหมสีเขียวเข้ม ขนาด 0.5 - 0.8 เซนติเมตร อยู่ด้านบนเหนือ ชื่อ-นามสกุล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปัก - ให้ปักสัญลักษณ์รูปดาวแบบทึบ ด้วยไหมสีม่วงเข้ม ขนาด 0.5 - 0.8 เซนติเมตรอยู่ด้านบนเหนือชื่อ-นามสกุล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปัก - การใส่เสื้อข้างในต้องใส่เสื้อกล้ามสีขาวแบบธรรมดา ไม่มีลวดลาย กางเกง ให้ใช้กางเกงขาสั้น สีกรมท่า ชายกางเกงอยู่แนวลูกสะบ้าเข่า ปลายขาพับเข้าข้างในกว้าง ๔–๕ เซนติเมตร ผ่าตรงส่วนหน้า ๒ จีบ มีหูกางเกงใช้สำหรับสอดเข็มขัด ๗ หู ขนาดของหูกางเกงกว้าง ๑ เซนติเมตร เข็มขัด ให้ใช้เข็มขัดหนังสีดำไม่มีลวดลาย ขนาดกว้าง ๓ เซนติเมตร หัวเข็มขัดเป็นโลหะทองแดง รมดำ ลายดุน ตราพระพิรุณทรงนาคล้อมด้วยกลีบบัว ตามที่โรงเรียนกำหนด ถุงเท้า ให้ใช้ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด โดยเป็นถุงเท้าข้อสั้นสีขาว พื้นสีดำมีขลิบด้านข้างสีเขียวม่วง รองเท้า ให้ใช้รองเท้านักเรียนผ้าใบสีดำล้วนชนิดผูกเชือก ห้ามใช้รองเท้ามีลวดลาย 3. ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หลักสูตร IEP เสื้อนักเรียน นักเรียนระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น ให้ใช้เสื้อปกฮาวาย แขนสั้นสีขาว ใช้ผ้าขาวเกลี้ยงผ่าหน้าตลอด ติดกระดุม ๔-๕ เม็ด สีขาว เอวจั๊ม จับจีบซ้าย-ขวา ข้างละ ๒ จีบ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ให้ปักตราพระพิรุณทรงนาค ล้อมด้วยกลีบบัว ด้วยไหมสีม่วงเข้มที่กระเป๋าด้านซ้าย นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ให้ใช้เสื้อปกฮาวาย แขนสั้นสีขาว ใช้ผ้าขาวเกลี้ยงผ่าหน้าตลอด ติดกระดุม ๔-๕ เม็ด สีขาว เอวจั๊ม จับจีบซ้าย-ขวา ข้างละ ๒ จีบ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังกระเป๋าเสื้อไม่ต้องปักตราเครื่องหมายพระพิรุณทรงนาค ล้อมด้วยกลีบบัว เหนือกระเป๋าให้ติดเข็มโลหะสีทอง ลงยา ลายดุน ตราพระพิรุณทรงนาค ล้อมด้วยกลีบบัว
29 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน - ให้ปักชื่อ-นามสกุล ทางด้านขวาสูงระดับเดียวกับขอบกระเป๋าเสื้อด้านบน ด้วยไหมสีม่วงเข้ม ขนาดของตัวอักษร สูง ๐.5 เซนติเมตร ตัวอักษรให้ปักทึบแบบธรรมดาตามที่โรงเรียนกำหนดไม่ต้องมีคำนำหน้า เป็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษโดยอักษรแรก ของชื่อและนามสกุลให้ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ส่วนตัวอักษรอื่นๆ ให้ใช้ตัวพิมพ์เล็ก - ให้ปักสัญลักษณ์รูปดาวแบบทึบ ด้วยไหมสีเขียวเข้ม ขนาด 0.5-0.8 เซนติเมตร อยู่ด้านบนเหนือชื่อ-นามสกุล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปัก - ให้ปักสัญลักษณ์รูปดาวแบบทึบ ด้วยไหมสีม่วงเข้ม ขนาด0.5 -0.8 เซนติเมตรอยู่ด้านบนเหนือ ชื่อ-นามสกุล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัก - การใส่เสื้อข้างในต้องใส่เสื้อกล้ามสีขาวแบบธรรมดา ไม่มีลวดลาย กางเกง ให้ใช้กางเกงขาสั้นลายสก๊อตสีม่วง ชายกางเกงอยู่แนวลูกสะบ้าหัวเข่า ปลายขาพับเข้าข้างในกว้าง ๔-๕ เซนติเมตร ผ่าตรงส่วนหน้า ๒ จีบ เอวด้านหลังมียางยืด เข็มขัด ให้ใช้เข็มขัดหนังสีดำไม่มีลวดลาย ขนาดกว้าง ๓ เซนติเมตร หัวเข็มขัดเป็นโลหะทองแดง รมดำ ลายดุน ตราพระพิรุณทรงนาค ล้อมด้วยกลีบบัว ตามที่โรงเรียนกำหนด ถุงเท้า ให้ใช้ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด โดยเป็นถุงเท้าข้อสั้นสีขาว พื้นสีดำมีขลิบด้านข้างสีเขียวม่วง รองเท้า ให้ใช้รองเท้านักเรียนผ้าใบสีดำล้วนชนิดผูกเชือก ห้ามใช้รองเท้ามีลวดลาย 4. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหลักสูตรปกติและหลักสูตร วมว. เสื้อนักเรียน - ให้ใช้เสื้อเชิ้ตแขนสั้นเหนือข้อศอกสีขาว ใช้ผ้าขาวเกลี้ยง ผ่าหน้าตลอด สาบกว้าง ๑ ๑ ๔ - ๑ ๑ ๒ นิ้ว ด้านหลังของเสื้อ ไม่มีจีบ มีกระเป๋าด้านซ้าย - กระเป๋าเสื้อไม่ต้องปักตราเครื่องหมายพระพิรุณทรงนาคล้อมด้วยกลีบบัว เหนือกระเป๋าให้ติดเข็มโลหะสีทอง ลงยา ลายดุน ตราพระพิรุณทรงนาคล้อมด้วยกลีบบัว - ให้ปักชื่อ-นามสกุล ทางด้านขวาสูงระดับเดียวกับขอบกระเป๋าเสื้อด้านบน ด้วยไหมสีม่วงเข้มขนาดของ ตัวอักษรสูง ๐.5 เซนติเมตร ตัวอักษรให้ปักทึบแบบธรรมดาตามที่โรงเรียนกำหนดไม่ต้องมีคำนำหน้า - ให้ปักสัญลักษณ์รูปดาวแบบทึบ ด้วยไหมสีม่วงเข้ม ขนาด 0.5 - 0.8 เซนติเมตรอยู่ด้านบนเหนือชื่อ-นามสกุล ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปัก ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปัก ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัก - การใส่เสื้อข้างในต้องใส่เสื้อกล้ามสีขาวแบบธรรมดาไม่มีลวดลาย กางเกง ให้ใช้กางเกงขาสั้น สีกรมท่า ชายกางเกงอยู่แนวลูกสะบ้าหัวเข่า ปลายขาพับเข้าข้างในกว้าง ๔-๕ เซนติเมตร ผ่าตรงส่วนหน้า ๒ จีบ มีหูกางเกงใช้สำหรับสอดเข็มขัด ๗ หู ขนาดของหูกางเกงกว้าง ๑ เซนติเมตร เข็มขัด ให้ใช้เข็มขัดหนังสีดำไม่มีลวดลาย ขนาดกว้าง ๓ เซนติเมตร หัวเข็มขัดเป็นโลหะทองแดง รมดำ ลายดุน ตราพระพิรุณทรงนาค ล้อมด้วยกลีบบัว ตามที่โรงเรียนกำหนด ถุงเท้า ให้ใช้ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด โดยเป็นถุงเท้าข้อสั้นสีขาว พื้นสีดำมีขลิบด้านข้างสีเขียวม่วง รองเท้า ให้ใช้รองเท้านักเรียนผ้าใบสีดำล้วนชนิดผูกเชือก ห้ามใช้รองเท้ามีลวดลาย
30 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน นักเรียนหญิง 1. ระดับอนุบาลศึกษา เสื้อนักเรียน - ให้ใช้เสื้อสีขาวเป็นชุดติดกันผ่าหน้า ไม่มีสาบ ติดกระดุมสีม่วง เจาะรังดุม คอกลมแขนกุด กุ๊นคอและแขนด้วย ผ้าสีม่วงเข้ม ขอบที่กุ๊นกว้างไม่เกิน 1 เซนติเมตรส่วนที่เป็นตัวเสื้อยาวต่ำจากเอวลงมาประมาณ 5 เซนติเมตรกระเป๋าปักตราพระพิรุณทรงนาค ล้อมด้วยกลีบบัว - ให้ปักชื่อ-นามสกุล ทางด้านขวาปักสูงระดับเดียวกับขอบกระเป๋าเสื้อด้านบนด้วยไหมสีม่วงเข้ม ไม่มีคำนำหน้าชื่อ ขนาดของตัวอักษรสูง 0.5 เซนติเมตร ตัวอักษรให้ปักทึบแบบธรรมดาตามที่โรงเรียนกำหนดไม่ต้องมีคำนำหน้า - ให้ใส่เสื้อทับในสีขาวแบบเต็มตัว - ให้ปักสัญลักษณ์รูปดาวแบบทึบ ด้วยไหมสีเขียวเข้ม ขนาด 0.5-0.8 เซนติเมตร อยู่ด้านบนเหนือ ชื่อ-นามสกุล ระดับชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 1 ปัก ระดับชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 2 ปัก ระดับชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 3 ปัก ตัวกระโปรง สีม่วงเข้มเย็บติดกับตัวเสื้อสำหรับขอบเอวเป็นผ้าสีม่วงเข้ม ขอบหนาประมาณ ๑ - ๑ ๑ ๒ นิ้ว กระโปรง จีบรอบตัว ๑๖ จีบ จีบวนไปทางซ้าย ด้านหน้า ๘ จีบ ด้านหลัง ๘ จีบ ความลึกของจีบ ๓ เซนติเมตร ความยาวของกระโปรงให้คลุมเข่าและ ยาวไม่เกินครึ่งหน้าแข้ง ชุดนอน เสื้อนอน ให้ใช้เสื้อคอกลมแขนสั้น ผ้าสีชมพูอมส้ม มีกระเป๋าเสื้อ ๒ ด้าน ตรงชายเสื้อด้านล่าง ปักชื่อ-นามสกุล บริเวณด้านหน้าอกทางด้านขวาด้วยไหมสีม่วงเข้ม ไม่มีคำนำหน้าชื่อ กางเกงนอน ให้ใช้กางเกงขายาว เอวเป็นยางยืด ผ้าสีชมพูอมส้ม ถุงเท้า ให้ใช้ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด โดยเป็นถุงเท้าข้อสั้นสีขาว พื้นสีดำมีขลิบด้านข้างสีเขียวม่วง รองเท้า ให้ใช้รองเท้านักเรียน ทำด้วยหนังหุ้มส้นสีดำแบบติดกระดุมแป๊ก มีส้นสูงไม่เกิน ๓ เซนติเมตร 2. ระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหลักสูตรปกติ เสื้อนักเรียน - ให้ใช้เสื้อแขนสั้นสีขาว ไม่มีลวดลาย เนื้อหนา คอตั้งตื้น ปกบัว ปลายมนกว้าง เอวปล่อย ตัวเสื้อผ่าด้านหน้าตลอด เจาะรังดุมติดกระดุม ๔-๕ เม็ด มีกระเป๋าด้านซ้าย รอบคอใต้ปกมีผ้าผูกโบสีม่วงเข้ม ปลายกว้างทับไขว้กันลงมาด้านหน้าของตัวเสื้อยาว ประมาณ ๑๕ เซนติเมตร และติดเข็มโลหะสีทอง ลงยา ลายดุนตราพระพิรุณ - ให้ปักตราพระพิรุณทรงนาคล้อมด้วยกลีบบัวด้วยไหมสีม่วงเข้มที่กระเป๋าด้านซ้าย - ให้ปักชื่อ-นามสกุล ทางด้านขวาสูงระดับเดียวกับขอบกระเป๋าเสื้อด้านบน ขนาดของตัวอักษรสูง ๐.5 เซนติเมตร ตัวอักษรให้ปักทึบแบบธรรมดาตามที่โรงเรียนกำหนดไม่ต้องมีคำนำหน้า - ให้ปักสัญลักษณ์รูปดาวแบบทึบ ด้วยไหมสีเขียวเข้ม ขนาด 0.5-0.8 เซนติเมตร อยู่ด้านบนเหนือ ชื่อ-นามสกุล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปัก - ให้ปักสัญลักษณ์รูปดาวแบบทึบ ด้วยไหมสีม่วงเข้ม ขนาด 0.5 - 0.8 เซนติเมตรอยู่ด้านบนเหนือ ชื่อ-นามสกุล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปัก - การใส่เสื้อชั้นในให้เป็นแบบธรรมดาไม่มีลวดลาย และสวมเสื้อทับในสีขาวแบบเต็มตัว
31 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน กระโปรง ให้ใช้กระโปรงสีม่วงเข้ม มีจีบรอบตัว ๑๖ จีบ จีบวนไปทางซ้ายด้านหน้า ๘ จีบ ด้านหลัง ๘ จีบ ความลึก ของจีบ ๓ เซนติเมตร ความยาวของกระโปรงยาวคลุมเข่าและยาวไม่เกินครึ่งหน้าแข้ง ถุงเท้า ให้ใช้ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด โดยเป็นถุงเท้าข้อสั้นสีขาว พื้นสีดำมีขลิบด้านข้างสีเขียวม่วง รองเท้า ให้ใช้รองเท้านักเรียนทำด้วยหนัง หุ้มส้นสีดำมีสายรัดหลังเท้า มีส้นสูงไม่เกิน ๓ เซนติเมตร 3. ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หลักสูตร IEP เสื้อนักเรียน - ให้ใช้เสื้อแขนสั้นสีขาว คอตั้งตื้น ปกบัว ปลายมนกว้าง ผ่าหน้าตลอด เจาะรังดุมติดกระดุม ๔-๕ เม็ด เอวจั๊ม จับจีบซ้าย-ขวา ข้างละ ๒ จีบ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รอบคอใต้ปกมีผ้าผูกโบ ลายสก๊อตสีม่วงปลายกว้างทับไขว้กันลงมาด้านหน้าของ ตัวเสื้อยาวประมาณ ๑๕ เซนติเมตร ติดเข็มโลหะสีทอง ลงยา ลายดุนตราพระพิรุณและให้ปักตราพระพิรุณทรงนาคล้อมด้วยกลีบบัว ด้วยไหมสีม่วงเข้มที่กระเป๋าด้านซ้าย - ให้ปักชื่อ-นามสกุล ทางด้านขวา ระดับเดียวกับของกระเป๋าเสื้อด้านบนด้วยไหมสีม่วงเข้ม ขนาดของตัวอักษรสูง ๐.5 เซนติเมตร ตัวอักษรให้ปักทึบแบบธรรมดาตามที่โรงเรียนกำหนดไม่ต้องมีคำนำหน้าเป็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษ โดยอักษรแรกของชื่อ และนามสกุลให้ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ส่วนตัวอักษรอื่นๆ ให้ใช้ตัวพิมพ์เล็ก - ให้ปักสัญลักษณ์รูปดาวแบบทึบ ด้วยไหมสีเขียวเข้ม ขนาด 0.5-0.8 เซนติเมตร อยู่ด้านบนเหนือ ชื่อ-นามสกุล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปัก - ให้ปักสัญลักษณ์รูปดาวแบบทึบ ด้วยไหมสีม่วงเข้ม ขนาด 0.5-0.8 เซนติเมตรอยู่ด้านบนเหนือชื่อ-นามสกุล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปัก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปัก - การใส่เสื้อชั้นในให้เป็นแบบธรรมดาไม่มีลวดลาย และสวมเสื้อทับในสีขาวแบบเต็มตัว กระโปรง ให้ใช้กระโปรงลายสก๊อตสีม่วง มีจีบรอบตัว ๑๖ จีบ จีบวนไปทางซ้าย ด้านหน้า ๘ จีบ ด้านหลัง ๘ จีบ ความลึกของจีบ ๓ เซนติเมตร ความยาวของกระโปรงยาวคลุมเข่าและยาวไม่เกินครึ่งหน้าแข้ง ถุงเท้า ให้ใช้ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด โดยเป็นถุงเท้าข้อสั้นสีขาว พื้นสีดำมีขลิบด้านข้างสีเขียวม่วง รองเท้า ให้ใช้รองเท้านักเรียนทำด้วยหนัง หุ้มส้นสีดำมีสายรัดหลังเท้า มีส้นสูงไม่เกิน ๓ เซนติเมตร 4. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหลักสูตรปกติและหลักสูตร วมว. เสื้อนักเรียน - ให้ใช้เสื้อแขนสั้นสีขาว ไม่มีลวดลาย เนื้อหนา คอตั้งตื้น ปกบัว ปลายมนกว้าง เอวปล่อย ตัวเสื้อผ่าด้านหน้าตลอด ไม่มีสาบ เจาะรังดุมติดกระดุม ๔-๕ เม็ด รอบคอใต้ปกมีผ้าผูกโบสีม่วงเข้ม ปลายกว้างทับไขว้กันลงมาด้านหน้าของตัวเสื้อยาวประมาณ ๑๕ เซนติเมตร นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กระเป๋าเสื้อไม่ต้องปักตราเครื่องหมายพระพิรุณทรงนาคล้อมด้วยกลีบบัวเหนือกระเป๋า ให้ติดเข็มโลหะสีทองลงยา ลายดุน ตราพระพิรุณทรงนาคล้อมด้วยกลีบบัว - ให้ปักชื่อ-นามสกุล ทางด้านขวาสูงระดับเดียวกับขอบกระเป๋าเสื้อด้านบน ด้วยไหมสีม่วงเข้ม ขนาดของตัวอักษร สูง ๐.5 เซนติเมตร ตัวอักษรให้ปักทึบแบบธรรมดาตามที่โรงเรียนกำหนดไม่ต้องมีคำนำหน้า - ให้ปักสัญลักษณ์รูปดาวแบบทึบด้วยไหมสีม่วงเข้ม ขนาด 0.5-0.8 เซนติเมตรอยู่ด้านบนเหนือ ชื่อ-นามสกุล ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปัก ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปัก ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัก
32 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน - การใส่เสื้อชั้นในให้เป็นแบบธรรมดาไม่มีลวดลาย และสวมเสื้อทับในสีขาวแบบเต็มตัว กระโปรง ให้ใช้กระโปรงสีม่วงเข้ม มีจีบรอบตัว ๑๖ จีบ จีบวนไปทางซ้าย ด้านหน้า ๘ จีบ ด้านหลัง ๘ จีบ ความลึก ของจีบ ๓ เซนติเมตร ความยาวของกระโปรงยาวคลุมเข่าและยาวไม่เกินครึ่งหน้าแข้ง ถุงเท้า ให้ใช้ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด โดยเป็นถุงเท้าข้อสั้นสีขาว พื้นสีดำมีขลิบด้านข้างสีเขียวม่วง รองเท้า ให้ใช้รองเท้านักเรียนทำด้วยหนัง หุ้มส้นสีดำมีสายรัดหลังเท้า มีส้นสูงไม่เกิน ๓ เซนติเมตร 5. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหลักสูตร IEP เสื้อนักเรียน - ให้ใช้เสื้อแขนสั้นสีขาวไม่มีลวดลาย เนื้อหนา คอตั้งตื้น ปกบัว ปลายมนกว้าง เอวปล่อยตัวเสื้อผ่าหน้าตลอดไม่มีสาบ เจาะรังดุมติดกระดุม ๔-๕ เม็ดรอบคอใต้ปกมีผ้าผูกโบลายสก๊อตสีม่วงปลายกว้างทับไขว้กันลงมาด้านหน้าของตัวเสื้อยาวประมาณ ๑๕ เซนติเมตร นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายกระเป๋าเสื้อไม่ต้องปักตราเครื่องหมายพระพิรุณทรงนาคล้อมด้วยกลีบบัว เหนือกระเป๋า ให้ติดเข็มโลหะสีทอง ลงยา ลายดุน ตราพระพิรุณทรงนาคล้อมด้วยกลีบบัว - ให้ปักชื่อ-นามสกุล ทางด้านขวาสูงระดับเดียวกับขอบกระเป๋าเสื้อด้านบนด้วยไหมสีม่วงเข้ม ขนาดของตัวอักษรสูง ๐.5 เซนติเมตร ตัวอักษรให้ปักทึบแบบธรรมดา ตามที่โรงเรียนกำหนดไม่ต้องมีคำนำหน้า เป็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษ โดยอักษรแรก ของชื่อและนามสกุล ให้ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ส่วนตัวอักษรอื่นๆ ให้ใช้ตัวพิมพ์เล็ก - ให้ปักสัญลักษณ์รูปดาวแบบทึบ ด้วยไหมสีม่วงเข้ม ขนาด 0.5-0.8 เซนติเมตรอยู่ด้านบนเหนือ ชื่อ-นามสกุล ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปัก ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปัก ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัก - การใส่เสื้อชั้นในให้เป็นแบบธรรมดาไม่มีลวดลาย และสวมเสื้อทับในสีขาวแบบเต็มตัว กระโปรง ให้ใช้กระโปรงลายสก๊อตสีม่วง มีจีบรอบตัว ๑๖ จีบ จีบวนไปทางซ้าย ด้านหน้า ๘ จีบ ด้านหลัง ๘ จีบ ความลึกของจีบ ๓ เซนติเมตร ความยาวของกระโปรงยาวคลุมเข่าและยาวไม่เกินครึ่งหน้าแข้ง ถุงเท้า ให้ใช้ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด โดยเป็นถุงเท้าข้อสั้นสีขาว พื้นสีดำมีขลิบด้านข้างสีเขียวม่วง รองเท้า ให้ใช้รองเท้านักเรียนทำด้วยหนัง หุ้มส้นสีดำมีสายรัดหลังเท้า มีส้นสูงไม่เกิน ๓ เซนติเมตร ข้อ 20 เครื่องแบบลูกเสือและเนตรนารีเหล่าอากาศ 1. ลูกเสือเหล่าอากาศ หมวก ทรงอ่อนสีกรมท่า มีตราหน้าหมวกรูปตราคณะลูกเสือแห่งชาติ มีรูปปีกนก 2 ข้าง ยาวข้างละ 2 เซนติเมตร ทำด้วยโลหะสีทองติดเหนือขอบหมวก เวลาสวมให้ตราหน้าหมวกอยู่เหนือคิ้วซ้าย เสื้อ คอพับสีกรมท่าแขนสั้นเหนือศอกผ่าอกตลอด ติดป้ายชื่อพื้นสีแดง อักษรสีเหลือง อินทนูสีเลือดหมู ปักอักษร ล.ญ. ผ้าผูกคอ รูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ด้านฐาน 100 เซนติเมตรด้านตั้ง 75 เซนติเมตร สีเหลือง มีตราประจำจังหวัด นครปฐม กางเกงสีกรมท่า ขาสั้นเหนือเข่าประมาณ 5 เซนติเมตร ส่วนกว้างของขากางเกงเมื่อยืนตรงห่างจากขาตั้งแต่ 8-12 เซนติเมตร ปลายขาพับเข้ากว้าง 5 เซนติเมตร ผ่าตรงส่วนหน้า ใช้ดุมขนาดย่อมขัดซ่อนไว้ข้างใน มีกระเป๋าตามแนวตะเข็บข้างละ 1 กระเป๋า และมีหูร้อยเข็มขัดยาวไม่เกิน 6 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร เข็มขัดหนังสีดำกว้างไม่เกิน 3 เซนติเมตร หัวชนิดหัวขัดทำด้วยโลหะสีทอง มีลายดุนรูปตราคณะลูกเสือแห่งชาติ ภายในกรอบช่อชัยพฤกษ์ ถุงเท้า ยาวสีเทา พับขอบไว้ใต้เข่า ใต้พับขอบมีรอยรัดถุง รองเท้า ให้ใช้รองเท้านักเรียนผ้าใบสีดำล้วนชนิดผูกเชือก ห้ามใช้รองเท้ามีลวดลาย
33 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน 2. เครื่องแบบเนตรนารีเหล่าอากาศ ประกอบด้วย หมวก ทรงปีกแคบสีกรมท่า มีตราหน้าหมวกรูปตราเครื่องหมายเนตรนารีประกอบปีก ทำด้วยโลหะสีทอง ปีกหมวก ด้านหลังพับขึ้น เสื้อ คอพับสีกรมท่าแขนสั้นเหนือศอกผ่าอกตลอด ติดป้ายชื่อพื้นสีแดง อักษรสีเหลือง อินทนูสีเลือดหมู ปักอักษร น.ญ. ผ้าผูกคอ รูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ด้านฐาน 100 เซนติเมตรด้านตั้ง 75 เซนติเมตรสีเหลืองมีตราประจำจังหวัด นครปฐม กระโปรง สีกรมท่า ยาวเสมอเข่า ด้านหน้าและด้านหลังพับเป็นกลีบหันออกด้านข้าง ด้านละ 1 กลีบ เข็มขัดหนังสีดำกว้างไม่เกิน 3 เซนติเมตร หัวรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าด้วยโลหะสีทอง มีลายดุนรูปเครื่องหมายเนตรนารี ถุงเท้า สีเทา พับสั้นเพียงข้อเท้า รองเท้า ให้ใช้รองเท้านักเรียนหญิงหุ้มส้นสีดำ มีส้นสูงไม่เกิน ๓ เซนติเมตร มีสายรัดหลังเท้า ข้อ ๒1 เครื่องแบบนักศึกษาวิชาทหาร ให้เป็นไปตามแบบที่ศูนย์การนักศึกษาวิชาทหารกำหนด ข้อ ๒2 เครื่องแบบพลศึกษา ๑. ระดับอนุบาลศึกษา กำหนดให้ใช้เครื่องแบบพลศึกษาทั้งนักเรียนชายและนักเรียนหญิง เป็นแบบเดียวกัน ดังนี้ เสื้อพลศึกษา ให้ใช้เสื้อยืดโปโลสีม่วงตามแบบที่โรงเรียนกำหนด - ให้ปักชื่อ-นามสกุล ทางด้านขวาด้วยไหมสีขาวโดยไม่ต้องปักสัญลักษณ์รูปดาว - ให้นำชายเสื้อทับอยู่ด้านในกางเกง - การใส่เสื้อชั้นในให้เป็นแบบธรรมดาไม่มีลวดลาย และสวมเสื้อทับในสีขาวแบบเต็มตัว กางเกง ให้ใช้กางเกงวอร์มขาสั้นสีดำ ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด ถุงเท้า ให้ใช้ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด โดยเป็นถุงเท้าข้อสั้นสีขาว พื้นสีดำมีขลิบด้านข้างสีเขียวม่วง รองเท้า ให้ใช้รองเท้าผ้าใบสีขาวแบบติดเทป ไม่มีลวดลายใดๆ ๒. ระดับประถมศึกษาหลักสูตรปกติและหลักสูตร IEP กำหนดให้ใช้เครื่องแบบพลศึกษาทั้งนักเรียนชายและนักเรียนหญิง เป็นแบบเดียวกัน ดังนี้ เสื้อพลศึกษา ให้ใช้เสื้อยืดโปโลสีม่วงตามแบบที่โรงเรียนกำหนด - ให้ปักชื่อ-นามสกุล ทางด้านขวาด้วยไหมสีขาวโดยไม่ต้องปักสัญลักษณ์รูปดาว - ให้นำชายเสื้อทับอยู่ด้านในกางเกง - การใส่เสื้อชั้นในให้เป็นแบบธรรมดาไม่มีลวดลาย และสวมเสื้อทับในสีขาวแบบเต็มตัว กางเกง ใช้กางเกงวอร์มสีดำตามแบบที่โรงเรียนกำหนด - ระดับประถมศึกษาตอนต้น (ป.1-3) ใช้ขาสั้น - ระดับประถมศึกษาตอนปลาย (ป.4-6) ใช้ขายาว ถุงเท้า ให้ใช้ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด โดยเป็นถุงเท้าข้อสั้นสีขาว พื้นสีดำมีขลิบด้านข้างสีเขียวม่วง รองเท้า ให้ใช้รองเท้าผ้าใบสีขาวล้วนชนิดผูกเชือก ไม่มีลวดลายใดๆ ๓. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหลักสูตรปกติหลักสูตร วมว. และหลักสูตร IEP กำหนดให้ใช้เครื่องแบบพลศึกษาทั้งนักเรียนชายและนักเรียนหญิง เป็นแบบเดียวกัน ดังนี้ เสื้อพลศึกษา ให้ใช้เสื้อยืดโปโลสีม่วงตามแบบที่โรงเรียนกำหนด - ให้ปักชื่อ-นามสกุล ทางด้านขวาด้วยไหมสีขาวโดยไม่ต้องปักสัญลักษณ์รูปดาว - ให้นำชายเสื้อทับอยู่ด้านในกางเกง - การใส่เสื้อชั้นในให้เป็นแบบธรรมดาไม่มีลวดลาย และสวมเสื้อทับในสีขาวแบบเต็มตัว
34 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน กางเกง ให้ใช้กางเกงวอร์มขายาวสีดำตามแบบที่โรงเรียนกำหนด ถุงเท้า ให้ใช้ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด โดยเป็นถุงเท้าข้อสั้นสีขาว พื้นสีดำมีขลิบด้านข้างสีเขียวม่วง รองเท้าผ้าใบสีขาว ให้ใช้รองเท้าผ้าใบสีขาวล้วนชนิดผูกเชือก ไม่มีลวดลายใดๆ ข้อ ๒3 เครื่องประดับ เครื่องสำอาง และอื่น ๆ - ห้ามนักเรียนเจาะหูขยายติ่งหูให้มีขนาดใหญ่ผิดรูปไปจากเดิมหรือเจาะอวัยวะอื่นใดที่ไม่เหมาะสม - ห้ามนักเรียนแต่งหน้า ทาสีเล็บ ใส่ต่างหูต่อขนตา ต่อเล็บ ต่อผมหรือกระทำอื่นใดที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็น นักเรียน - ห้ามใช้เครื่องประดับและเครื่องสำอางทุกชนิดประดับและตกแต่งกาย เว้นแต่ นาฬิกาข้อมือ ซึ่งต้องมีสายเป็นโลหะ หรือหนังแบบสุภาพ สายสร้อยคอ เพื่อแขวนพระหรือเครื่องหมายศาสนาอนุญาตให้ใช้ได้ โดยกำหนดให้อยู่ในเสื้อ ยกเว้นสร้อยทองคำ สร้อยนาค และสร้อยเงิน แว่นสายตาแบบสุภาพ ไม่มีลวดลายหรือสีฉูดฉาด - ถุงย่าม/ถุงผ้า กระเป๋า ให้ใช้ตามแบบที่โรงเรียนกำหนด หมวดที่ 3 สิทธิ์ในการตัดคะแนน ข้อที่ 24 อาจารย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนา การศึกษา ทุกคนมีสิทธิ์ตัดคะแนนความประพฤติตามความเหมาะสมของความผิด ดังนี้ 1. ผู้อำนวยการโรงเรียนมีอำนาจในการตัดคะแนน ความประพฤตินักเรียนได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ไม่เกินครั้งละ 80 คะแนน 2. รองผู้อำนวยการ มีอำนาจในการตัดคะแนนความประพฤตินักเรียนได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ไม่เกินครั้งละ 40 คะแนน 3. ผู้ช่วยผู้อำนวยการ มีอำนาจในการตัดคะแนนความประพฤตินักเรียนได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ไม่เกินครั้งละ 30 คะแนน 4. หัวหน้าสาขาวิชา หัวหน้างาน อาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษา มีอำนาจในการตัดคะแนนความประพฤตินักเรียนได้ ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ไม่เกินครั้งละ 20 คะแนน 5. อาจารย์ที่พบเห็นการกระทำผิด มีอำนาจในการตัดคะแนนความประพฤตินักเรียนได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ไม่เกิน ครั้งละ 10 คะแนน ข้อที่ 25 กรณีความผิดที่ตัดคะแนนความประพฤติเกิน 40 คะแนน ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารโรงเรียน หรือผู้อำนวยการโรงเรียน หมวดที่ 4 ประเภทความผิดและเกณฑ์การตัดคะแนนความประพฤติ ข้อที่ 26 ให้จำแนกความผิดเป็น 4 ประเภท ตามความหนักเบา ของการกระทำความผิดและให้พิจารณา "เจตนา" ใน การกระทำความผิด (อ้างอิงจากระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 : ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 122 ตอนพิเศษ 35 ง หน้า 18 ลงวันที่ 26 เมษายน 2548) หากการทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแต่ยังคงมีพฤติกรรมไม่ ดีขึ้นให้พิจารณาตามดุลยพินิจของคณะกรรมการงานส่งเสริมวินัยนักเรียนและนำเสนอต่อรองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียนเพื่อให้ ผู้อำนวยการพิจารณาตามลำดับต่อไป โดยมีลำดับขั้นดังนี้ 1. ว่ากล่าวตักเตือน 2. ทำทัณฑ์บน
35 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน 3. ตัดคะแนนความประพฤติ 4. ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ข้อที่ 27 เกณฑ์การตัดคะแนนความประพฤติการทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของ โรงเรียน ดำเนินการดังต่อไปนี้ กรณีความผิดทั่วไป คะแนนที่ตัด นักเรียน ผู้ช่วยผู้อำนวยการระดับ งานส่งเสริมวินัยนักเรียน 3 แต่ไม่ถึง 30 จัดส่งเอกสารการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อขอ คืน 5 คะแนน (ยื่นได้เมื่อคะแนนถูกตัด ครบ 20 คะแนนขึ้นไป,ยื่นขอคืนคะแนน ได้ 1 ครั้ง) - ให้คำแนะนำนักเรียน (เมื่อคะแนนถูก ตัดครบ 20 คะแนนขึ้นไป) - ดูแลยื่นการจัดส่งเอกสารการบำเพ็ญ ประโยชน์ - ลงนามและยื่นเอกสารไปยังหัวหน้างาน ส่งเสริมวินัยนักเรียนเสนอตามลำดับ ตรวจสอบข้อมูลและลงนามเอกสารบันทึก ข้อมูลในระบบเพื่อคืน 5 คะแนน (ขอคืน คะแนนได้ไม่เกิน 1 ครั้ง) - 30 คะแนน เข้าอบรม ครั้งที่ 1 (1 ชั่วโมง) โดยผ่าน ระบบออนไลน์ว่าด้วยเรื่อง ระเบียบวินัย - ประสานอาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษา และงานส่งเสริมวินัยนักเรียน เชิญ ผู้ปกครอง - พบผู้ปกครองนักเรียนและดูแลการ บำเพ็ญประโยชน์ร่วมกับอาจารย์ประจำ ชั้น/ที่ปรึกษาและงานส่งเสริมวินัย นักเรียน - ลงนามในเอกสารที่เกี่ยวข้อง เชิญผู้ปกครอง ครั้งที่ 1 ดูแลให้นักเรียน บำเพ็ญประโยชน์เพื่อคืนคะแนน 5 คะแนน - 45 คะแนน เข้าอบรม ครั้งที่ 2 (2 ชั่วโมง) โดยผ่าน ระบบออนไลน์ว่าด้วยเรื่อง คุณธรรม จริยธรรมและจิตสาธารณะ เชิญผู้ปกครอง ครั้งที่ 2 ดูแลให้นักเรียน บำเพ็ญประโยชน์เพื่อคืนคะแนน 5 คะแนน - 60 คะแนน ผู้ปกครองนำนักเรียนทำกิจกรรมบำเพ็ญ ประโยชน์นอกสถานศึกษา เพื่อคืนคะแนน 5 คะแนน เชิญผู้ปกครอง ครั้งที่ 3 ดูแลให้นักเรียน บำเพ็ญประโยชน์ นอกสถานที่เพื่อคืน คะแนน 5 คะแนน - 70 คะแนน ทำทัณฑ์บนนักเรียน ครั้งที่ 1 ควบคุมพฤติกรรม 5 วัน (ครบกำหนด) คืนคะแนน 10 คะแนน เชิญผู้ปกครอง ครั้งที่ 4 บันทึกรายงาน ผลเพื่อขออนุมัติการพิจารณาทำทัณฑ์บน นักเรียน ครั้งที่ 1 เพื่อดำเนินการควบคุม พฤติกรรม 5 วัน (ครบกำหนด) คืน คะแนน 10 คะแนน - 80 คะแนน ทำทัณฑ์บนนักเรียน ครั้งที่ 2 ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการเรียน 5 วัน คืนคะแนน 10 คะแนน - ประสานอาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษา และงานส่งเสริมวินัยนักเรียนเชิญ ผู้ปกครอง - พบผู้ปกครองนักเรียนร่วมกับงานส่งเสริม วินัยนักเรียน - ลงนามในเอกสารที่เกี่ยวข้อง - เข้าร่วมการจัดกิจกรรมค่ายคุณธรรม จริยธรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้กับนักเรียนร่วมกับอาจารย์ประจำชั้น/ ที่ปรึกษาและงานส่งเสริมวินัยนักเรียน เชิญผู้ปกครอง ครั้งที่ 5 - บันทึกรายงานผลเพื่อขออนุมัติการ พิจารณาทำทัณฑ์บนนักเรียน ครั้งที่ 2 - ดำเนินการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม ในการเรียน 5 วัน คืนคะแนน 10 คะแนน -80 คะแนน (รอบ 2) ดำเนินการเข้าค่ายคุณธรรมจริยธรรมเพื่อ ปรับพฤติกรรมโดยไม่ได้รับการคืนคะแนน * กรณีนักเรียนไม่ปฏิบัติตามที่กำหนด อาจส่งผลให้มีการเปลี่ยนสถานที่เรียนใหม่ หากเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ตอนปลาย/มัธยมศึกษาตอนต้น ถึงจะมี ผลการเรียนดี (2.50 ขึ้นไป) ทางโรงเรียน ก็จะไม่รับพิจารณาให้เข้าศึกษาต่อใน ระดับ ที่สูงขึ้น เชิญผู้ปกครองครั้งที่ 6 ดำเนินการให้ นักเรียนเข้าค่ายคุณธรรมจริยธรรมเพื่อ ปรับพฤติกรรม โดยไม่คืนคะแนน * กรณีนักเรียนไม่ปฏิบัติตามที่กำหนด ปรึกษาหารือกับผู้ปกครองในการเปลี่ยน สถานที่เรียนใหม่
36 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน กรณีความผิดร้ายแรง ความผิดร้ายแรง เช่น บุหรี่ สิ่งเสพติด ทะเลาะวิวาท ชู้สาว ลักขโมยทรัพย์สิน ครอบครอง/พกพา หรือใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด เพื่อเป็นอุปกรณ์ทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ฯลฯ ดำเนินการ ดังต่อไปนี้ คะแนนที่ตัด นักเรียน ผู้ช่วยผู้อำนวยการระดับ งานส่งเสริมวินัยนักเรียน -40 คะแนน ความผิด ครั้งแรก ทำทัณฑ์บนนักเรียน ครั้งที่ 1 ดำเนินการควบคุมพฤติกรรม 5 วัน - ประสานอาจารย์ประจำชั้น/ที่ปรึกษา และงานส่งเสริมวินัยนักเรียน เชิญผู้ปกครอง - พบผู้ปกครองนักเรียนและร่วมพิจารณา กับงานส่งเสริมวินัยนักเรียน - ลงนามในเอกสารที่เกี่ยวข้อง - เข้าร่วมการจัดกิจกรรมค่ายคุณธรรม จริยธรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้กับนักเรียนร่วมกับอาจารย์ประจำ ชั้น/ที่ปรึกษาและงานส่งเสริมวินัย นักเรียน เชิญผู้ปกครอง ครั้งที่ 1 - ทำทัณฑ์บนนักเรียน ครั้งที่ 1 - ดำเนินการควบคุมพฤติกรรมนักเรียน 5 วัน -60 คะแนน ความผิด ครั้งที่ 2 ควบคุมความประพฤติเปลี่ยนสถานที่ ปรับพฤติกรรม 5 วัน เชิญผู้ปกครอง ครั้งที่ 2 - ทำทัณฑ์บนนักเรียน ครั้งที่ 2 - ดำเนินการควบคุมความประพฤติ เปลี่ยนสถานที่ปรับพฤติกรรม 5 วัน -80 คะแนน ความผิด ครั้งที่ 3 นักเรียนต้องเข้าค่ายคุณธรรมจริยธรรม เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่มีเงื่อนไข เชิญผู้ปกครอง ครั้งที่ 3 - ทำทัณฑ์บนนักเรียน ครั้งที่ 3 - นำนักเรียนเข้าค่ายคุณธรรมจริยธรรม เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่มีเงื่อนไข 1. ความผิดร้ายแรงไม่มีการคืนคะแนนความประพฤติ 2. กรณีความผิดร้ายแรง ที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดถ้าเสพดำเนินการเช่นเดียวกับครั้งแรกแต่ต้องส่งบำบัด กรณีจำหน่าย ให้พ้นสภาพการเป็นนักเรียน 3. ในกรณีที่โรงเรียนมีความจำเป็นในการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย นักเรียนและผู้ปกครองจะต้องให้ความร่วมมือกับ ทางโรงเรียน โดยไม่มีเงื่อนไข 4. ความผิดร้ายแรงกรณีอื่นๆ ที่นอกเหนือจากยาเสพติด สามารถพิจารณาตามบทลงโทษสูงสุด โดยทางโรงเรียนสามารถ คัดชื่อออกหรือให้พ้นสภาพการเป็นนักเรียน 5. กรณีความผิดร้ายแรง จนถึงเข้าค่ายคุณธรรมจริยธรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม - นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย และนักเรียนระดับชั้นมัยมศึกษาตอนต้น จะไม่ได้รับการพิจารณาให้เข้า ศึกษาต่อที่โรงเรียน - นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หากมีคะแนนพฤติกรรมน้อยกว่า 80 คะแนน โรงเรียนจะไม่รับพิจารณา ออกหลักฐานการรับรองความประพฤติ หมวดที่ 5 กลุ่มพฤติกรรม การตัดคะแนนและเพิ่มคะแนนความประพฤตินักเรียน ข้อที่ 28 การตัดคะแนนความประพฤตินักเรียน แยกตามกลุ่มพฤติกรรม รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปตามข้อกำหนด ของโรงเรียน โดยการตัดคะแนนความประพฤตินักเรียนให้ดำเนินการดังต่อไปนี้ - แจ้งให้นักเรียนผู้นั้นรับทราบ - ตัดคะแนนในระบบที่ทางโรงเรียนกำหนด - กรณีที่การตัดคะแนนเกินสิทธิ์ที่สามารถกระทำได้ ให้ดำเนินการแจ้งโดยใช้เอกสารพร้อมแนบหลักฐานประกอบจัดส่งที่ งานส่งเสริมวินัยนักเรียนเพื่อพิจารณาโดยงานส่งเสริมวินัยนักเรียนจะเป็นผู้ดำเนินการตัดคะแนนในระบบทั้งนี้ในกรณีความผิดร้ายแรงที่ ต้องมีการตัดคะแนนเกินกว่าทางงานส่งเสริมวินัยนักเรียนจะพึงกระทำได้ให้นำเสนอ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียนเพื่อพิจารณา ตามลำดับขั้น
37 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน ข้อที่ 29 ความผิดลักษณะอื่น นอกเหนือจากที่ระบุให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการงานส่งเสริมวินัยนักเรียนพิจารณา เพื่อนำเสนอรองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียนตามลำดับขั้น ข้อที่ 30 ผลการถูกตัดคะแนน - นักเรียนที่ถูกตัดคะแนนความประพฤติครบ 10 คะแนน จะถูกตัดสิทธิ์ในการเสนอชื่อเข้ารับเกียรติบัตรของโรงเรียน และขอสนับสนุนทุนการศึกษาทุกประเภทของโรงเรียน - นักเรียนที่ถูกตัดคะแนนความประพฤติถึงเกณฑ์80 คะแนน นักเรียนจะต้องทำกิจกรรมเข้าค่ายคุณธรรมจริยธรรม เพื่อฝึกอบรมพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมและระเบียบวินัย ตามกำหนดเวลาและสถานที่ตามโรงเรียนกำหนด โดยผู้ปกครองนักเรียนจะต้อง เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเข้าค่ายอบรมทั้งหมด และเมื่อกลับมาแล้วพฤติกรรมยังไม่พัฒนาขึ้นก็จะพิจารณาให้เข้าอบรมเพิ่มเติมหรือ พิจารณาเป็นอย่างอื่น ตามที่คณะกรรมการงานส่งเสริมวินัยนักเรียนเห็นสมควร ข้อที่ 31 การเพิ่มคะแนนความประพฤตินักเรียน รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโรงเรียน การพิจารณาให้ คะแนนความประพฤติ ต้องมีหลักฐาน แสดงว่าเป็นบุคคลที่มีคุณธรรมจริยธรรม ช่วยเหลือสังคม สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน หรือเป็น แบบอย่างกับผู้อื่นเป็นที่ประจักษ์จึงกำหนดเกณฑ์ไว้ดังนี้ - นักเรียนที่ทำความดี จะต้องมีอาจารย์ในโรงเรียนให้คำรับรองอย่างน้อย ๑ ท่าน - อาจารย์ที่ประสงค์เสนอให้พิจารณาเพิ่มคะแนนความประพฤตินักเรียน จะต้องแจ้งข้อมูลรายละเอียดตามเอกสารที่ ทางงานส่งเสริมวินัยนักเรียนกำหนด พร้อมแนบหลักฐานประกอบ ภายในเวลาไม่เกิน ๑ สัปดาห์ นับจากที่นักเรียนได้ทำความดี - กรณีการเพิ่มคะแนนความประพฤตินักเรียนที่มีเอกสารรับรองการปฏิบัติที่ส่งมายังงานส่งเสริมวินัยนักเรียนตาม ขั้นตอน งานส่งเสริมวินัยนักเรียนหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจะเป็นผู้บันทึกคะแนนในระบบ - การบันทึกการเพิ่มคะแนนความประพฤตินักเรียนในลักษณะอื่นที่อาจารย์ทุกท่านสามารถบันทึกได้ ให้เป็นไปตาม ดุลยพินิจหรือมติของคณะกรรมการงานส่งเสริมวินัยนักเรียนกำหนด ข้อที่ 32 การเพิ่มคะแนนความประพฤติลักษณะอื่น นอกเหนือจากที่ระบุให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการงานส่งเสริม วินัยนักเรียนพิจารณาเพื่อนำเสนอรองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียนตามลำดับขั้น ข้อที่ 33 ผลการเพิ่มคะแนนความประพฤติ 1. การเพิ่มคะแนนความประพฤติสะสม จำแนกตามระดับประถมศึกษาตอนต้น ประถมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย 2. นักเรียนที่ได้รับการเพิ่มคะแนนความประพฤติสะสม ตั้งแต่ ๘0 คะแนนขึ้นไป ตลอดปีการศึกษา และต้องไม่เคย ถูกตัดคะแนนความประพฤติมาก่อน จะได้รับเกียรติบัตรยกย่องเป็น "คนดี ศรีสาธิต" จะได้รับเกียรติบัตรที่แสดงให้เห็นการสร้างคุณงาม ความดีให้กับโรงเรียนมาอย่างต่อเนื่อง 3. นักเรียนที่กระทำความดีให้เพิ่มคะแนนความประพฤติได้ทั้งนี้ขึ้นกับดุลยพินิจของคณะกรรมการงานส่งเสริมวินัย นักเรียนให้เป็นไปตามระเบียบของโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ว่าด้วยการควบคุมความประพฤติ การลงโทษ การตัด และการเพิ่มคะแนนความประพฤตินักเรียน พ.ศ. ๒๕๖6 4. กรณีอื่นๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจของรองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน/เป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหาร โรงเรียนโดยความเห็นชอบของหัวหน้าสถานศึกษา
38 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน ข้อที่ 34 ลักษณะความผิดและเกณฑ์การตัดคะแนนและเพิ่มคะแนนพฤติกรรมแบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ ดังนี้ 1. กลุ่มพฤติกรรมด้านการแต่งกายมาโรงเรียน (10 คะแนน) 2. กลุ่มพฤติกรรมการมาโรงเรียนและการเรียน (10 คะแนน) กลุ่ม รหัส รายการ คะแนน ที่ตัด 1 101 สักลาย เขียนลาย ติดสติกเกอร์ตามอวัยวะอื่นๆ 10 102 ใส่ต่างหูหรือเจาะหู จมูก ระเบิดใบหูเพื่อใส่อุปกรณ์ขยายขนาดหรืออวัยวะอื่นๆ ตามแฟชั่น 103 ใส่บิ๊กอายหรือคอนแท็คเลนส์สีต่างๆ 5 104 ไว้หนวดเครา,จอน และรวมถึงการแต่งผม/ย้อมสีผม 105 นักเรียนหญิงไม่สวมเสื้อทับ/สวมเสื้อซับในสีดำ/สีฉูดฉาดหรือมีลวดลาย 106 ทรงผมผิดระเบียบ อาทิ ซอยผม ผมยาวเกินกว่าระเบียบที่กำหนด 107 แต่งกายผิดระเบียบเสื้อ/กางเกง/กระโปรง/เข็มขัด/เข็มติดอกเสื้อ/ถุงเท้า/รองเท้า 108 สวมเสื้อนักเรียน/พลศึกษา ไม่มีตราโรงเรียนที่ไม่ปักชื่อ-นามสกุล หรือปักชื่อ- นามสกุล เป็นสีอื่น นอกเหนือจากที่กำหนด/ไม่ปักสัญลักษณ์รูปดาวตามจำนวน และสีที่กำหนดตามระดับชั้นเรียน 109 ใช้เครื่องสำอางเสริมแต่งบนใบหน้า 3 110 ไว้เล็บยาว เคลือบเล็บ ทาสีเล็บ ต่อเล็บ 111 สวมเครื่องแบบไม่ตรงตามที่กำหนดในวันที่มีเรียน หรือแต่งกายไม่ถูกระเบียบไม่เป็นไปตามชุดที่ สวมใส่ เช่น ชุดนักเรียน/ชุดลูกเสือและเนตรนารีเหล่าอากาศ/ชุดพลศึกษา/ชุดนักศึกษาวิชาทหาร 112 ใส่เสื้อที่ปักชื่อนักเรียนคนอื่น และอ้างว่าเป็นตนเอง เมื่อกระทำความผิด 113 ใช้เครื่องประดับที่ไม่เหมาะสมต่อการเป็นนักเรียน/สวมแหวนทุกชนิด /สายข้อมือ กลุ่ม รหัส รายการ คะแนน ที่ตัด 2 201 ไม่เข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน แต่นัดหมายกับบุคคลอื่นไปยังสถานที่ต่างๆ 10 202 หลีกเลี่ยงไม่เข้าห้องเรียนหรือหลบหนีออกนอกบริเวณโรงเรียนไม่ได้รับอนุญาต หรือประพฤติผิด นอกโรงเรียนโดยแต่งกายเครื่องแบบนักเรียน 203 มั่วสุมนอกโรงเรียน ร้านเกม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ไม่อยู่ภายในเขตโรงเรียนในช่วงเวลาที่ กำหนด (หนีเรียน) 204 หลบหนีการสอบสวนหรือถูกพบเห็น ว่าได้กระทำความผิดตามระเบียบโรงเรียน และประกาศเรียก พบแต่ไม่มารายงานตัว 5 205 มาสายหลังจาก 08.20 น. เป็นต้นไป 3 206 มาเข้าแถวช้า หรือไม่เข้าร่วมกิจกรรมหน้าเสาธง 207 ขาดเรียนโดยไม่ส่งใบลา โดยไม่มีเหตุอันสมควร 208 ไม่ข้ามถนนตรงทางม้าลายหรือข้ามในบริเวณที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น
39 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน 3. กลุ่มพฤติกรรมความผิดเกี่ยวกับเพศและการละเมิด (40 คะแนน) 4. กลุ่มพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง ยุยง ส่งเสริมเพื่อให้เกิดความแตกแยก (40 คะแนน) กลุ่ม รหัส รายการ คะแนน ที่ตัด 3 301 หลอกลวง กักขัง หน่วงเหนี่ยว ลักพา/เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี 302 มีพฤติกรรมที่เกี่ยวกับเพศ กระทำอนาจารและการล่วงละเมิดทางเพศทั้งในและนอกโรงเรียน อันส่งผล 40 สร้างความเสียหายต่อตนเองและโรงเรียน 303 ชายหญิงอยู่ในที่ลับตาสองต่อสอง หรือแสดงอาการของความพอใจทางเพศในสถานศึกษา เช่น โอบกอด, จับมือถือแขน 20 กลุ่ม รหัส รายการ คะแนน ที่ตัด 4 401 ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เตรียมการหรือกระทำการใดๆ อันน่าจะก่อให้เกิดความ ไม่สงบเรียบร้อยทั้งภายในและนอกโรงเรียน 40 402 ให้ข้อมูลเป็นเท็จข่มขู่นักเรียนด้วยกัน, ทะเลาะวิวาท, นำพาหรือชักชวนบุคคลภายนอกเข้ามาใน บริเวณโรงเรียน จนเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาท 403 ตั้งกลุ่มอันธพาล/รวมกลุ่มก่อเหตุเพื่อทำร้ายร่างกาย ทะเลาะวิวาท, ยุยง, ส่งเสริม, ให้เกิดเหตุ/ ชักชวนทำการประท้วงอาจารย์ บุคลากรหรือโรงเรียน 404 ทำร้ายร่างกายนักเรียน อาจารย์ บุคลากรหรือบุคคลอื่น จนบุคคลนั้นได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตราย ต่อชีวิตและทรัพย์สิน 405 กระทำความผิดใดๆ ถูกแจ้งหรือถูกจับกุมโดยเจ้าพนักงาน 406 หมิ่นประมาทด้วยคำพูด กิริยาที่แสดงออก อย่างไม่สุภาพต่อสถานที่และบุคคลอื่น 20 407 พฤติกรรมก้าวร้าวต่ออาจารย์, บุพการีของตน หรือของผู้อื่นด้วยกิริยาท่าทาง แสดงวาจายอกย้อน, ล้อเลียน ส่อเสียด 408 จงใจโยน, ขว้างปาสิ่งของ, ถ่มน้ำลาย, แสดงกริยาที่ไม่เหมาะสมกับเพื่อนนักเรียน/อาจารย์หรือ ผู้ปกครอง 409 พฤติกรรมก้าวร้าวต่อเพื่อน ด้วยกิริยาท่าทาง แสดงวาจายอกย้อน, ล้อเลียนส่อเสียดใช้คำหยาบทำให้ อับอายต่อผู้อื่น 10 410 เจตนาขัดคำสั่ง หรือไม่ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติตามคำสั่งของอาจารย์
40 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน 5. กลุ่มพฤติกรรมความผิดเกี่ยวกับอบายมุขและสิ่งเสพติด (40 คะแนน) 6. กลุ่มพฤติกรรมความผิดเกี่ยวกับทรัพย์และสถานที่ (30 คะแนน) กลุ่ม รหัส รายการ คะแนน ที่ตัด 5 501 มีบุหรี่, บุหรี่ไฟฟ้า ไว้ในครอบครองหรือสูบ หรือชักชวนให้ผู้อื่นสูบหรือครอบครองโดยการแนะนำ ของตน 40 502 มี/เสพสิ่งเสพติดประเภทที่ 1 ยาบ้า, ไอซ์(ดำเนินการทางกฎหมาย) 503 เล่นการพนันทุกชนิด/เล่นพนันออนไลน์จัดให้มีการเล่นการพนันหรือมั่วสุมในวงการพนัน หรือมี อุปกรณ์การพนันทุกประเภท 504 ดื่ม/มีสุราหรือมีของมึนเมา ทุกประเภททั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน 505 มี/เสพ สารเสพติดกลุ่มที่ออกฤทธิ์ต่อประสาท เช่น ใบกระท่อม, น้ำกระท่อม, กัญชา ทั้งในและ นอกโรงเรียน 506 เข้าไปในแหล่งอบายมุขหรือสถานที่ไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน กลุ่ม รหัส รายการ คะแนน ที่ตัด 6 601 รีดไถทรัพย์, ลักทรัพย์, ยักยอกทรัพย์, ฉ้อโกงทรัพย์, กรรโชกทรัพย์ 30 602 ทำลายทรัพย์สินของราชการ หรือทรัพย์สินส่วนรวมของโรงเรียน 603 ขีดเขียนข้อความ, ฉีดสเปรย์สีลงในทรัพย์สินส่วนรวม หรือทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นให้ได้รับความ เสียหาย 604 กดเครื่องส่งสัญญาณไฟไหม้ด้วยความคึกคะนองทำให้ผู้อื่นตกใจโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร 605 ทำให้กล้องวงจรปิดเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนทิศทางไปจากเดิม หรือเสียหาย ชำรุดใช้งานไม่ได้ 20 606 ปิดเบรคเกอร์ไฟฟ้า เปิดไฟ เปิดพัดลม เปิดแอร์ เปิดน้ำทิ้งไว้ฯลฯ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร 607 ใช้ลิฟต์ในการขึ้น/ลงอาคารเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต/ไม่มีความจำเป็น/มีอาการป่วย 10 608 ประมาทเลินเล่อ ไม่ระมัดระวัง วางอุปกรณ์ไม่เป็นระเบียบ เป็นเหตุให้ผู้อื่นเดือดร้อน 609 เล่นกีฬาในสถานที่ห้ามเล่น หรือเล่นในเวลาที่ห้ามเล่น 610 นำเครื่องวิทยุ อุปกรณ์สื่อสาร เครื่องเล่นเกม มาโรงเรียน โดยไม่ได้รับอนุญาต 611 นำเครื่องประดับราคาสูงมาโรงเรียนโดยไม่มีเหตุอันควร 612 รับประทานอาหาร หรือนำอาหารขึ้นไปบนอาคารเรียน/รับประทานอาหารในเวลาเรียน 613 นำอาหารจากข้างนอกโรงเรียนเข้ามารับประทานอาหารภายในโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต 614 ไม่ทำเวรรักษาความสะอาดห้องเรียน 3 615 ทำให้เกิดความสกปรกภายในโรงเรียนด้วยวิธีต่างๆ/ทิ้งขยะไม่เป็นที่ 616 นำอุปกรณ์การรับประทานอาหาร/อาหารออกจากบริเวณโรงอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต 617 นั่ง ยืน นอนเล่น ปีนป่ายบนโต๊ะ เก้าอี้ ต้นไม้ หรือบริเวณต่างๆ อย่างไม่เหมาะสม
41 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน 7. กลุ่มพฤติกรรมความผิดเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต (40 คะแนน) 8. กลุ่มพฤติกรรมความผิดอื่น ๆ (40 คะแนน) 9. กลุ่มพฤติกรรมและการเพิ่มคะแนนความประพฤตินักเรียน ( 60 คะแนน) ได้แก่ ความดีเกี่ยวกับการเป็นตัวแทนนักเรียนในด้านการปฏิบัติหน้าที่ การสร้างชื่อเสียง พฤติกรรมและการบำเพ็ญ ประโยชน์ต่อโรงเรียน ทั้งนี้ต้องเป็นกิจกรรมที่จัดส่งโดยทางโรงเรียนและรางวัลที่ได้รับจะนับจากรางวัลสูงสุดเมื่อสิ้นสุดกิจกรรมนั้นๆ เท่านั้น โดยกำหนดให้ผู้ที่รับผิดชอบในการดูแลนักเรียน หรือฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดส่งข้อมูลพร้อมแนบเอกสาร/หลักฐาน ประกอบการทำกิจกรรม มายังงานส่งเสริมวินัยนักเรียน ภายใน 1 สัปดาห์ หลังกิจกรรมแล้วเสร็จ กลุ่ม รหัส รายการ คะแนน ที่ตัด 7 701 โพสต์ข้อความหรืออัพโหลดรูปภาพที่หมิ่นสถาบันหลักของชาติ 40 702 โพสต์ข้อความ รูปภาพ โดยทำให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลและโรงเรียน 703 ถ่ายภาพ คลิปวิดีโอ ไลฟ์สดที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดทุกกรณีอันนำมาซึ่งความเสียหายต่อ บุคคลและโรงเรียน 704 ตัดต่อ, ตกแต่งภาพบุคคลอื่น ในลักษณะอนาจารและโพสต์ขึ้นเว็บบอร์ดของโรงเรียนหรือช่องทาง สื่ออื่นๆ อันนำมาซึ่งความเสียหายต่อบุคคลและโรงเรียน 705 เปลี่ยนแปลงข้อมูล, แก้ไขฐานข้อมูลของบุคคลอื่น, หรือทำให้สูญหายโดยเจตนา 706 เข้าสู่ฐานข้อมูลหลักในระบบอินเทอร์เน็ตของโรงเรียน หรือฐานข้อมูลของบุคคลอื่นซึ่งไม่ได้รับ อนุญาตโดยเจตนา 707 โพสต์ข้อความยุยงให้ผู้อื่นปฏิบัติผิดกฎหมาย/ระเบียบโรงเรียน 708 โพสต์ข้อความหรืออัพโหลดรูปภาพในลักษณะดูหมิ่นโรงเรียน อาจารย์และบุคลากร 709 โพสต์ข้อความใส่ร้าย ดูหมิ่น ส่อเสียด เหน็บแนมด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ลงเว็บบอร์ดของ โรงเรียนหรือช่องทางสื่ออื่นๆ อันนำมาซึ่งความเสียหายต่อบุคคลและโรงเรียน กลุ่ม รหัส รายการ คะแนน ที่ตัด 8 801 ใช้เอกสารปลอม แก้ไขเอกสารของโรงเรียน เอกสารของผู้ปกครองหรือบุคคลอื่น 40 802 ขูด/ลบ/ขีดฆ่า/ทำให้เสื่อม/ทำลาย/เพื่อเปลี่ยนแปลงเอกสารสำคัญในเอกสารราชการ 803 ปลอมลายเซ็นอาจารย์ที่ปรึกษาหรือลายเซ็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ของโรงเรียน 804 ปลอมลายเซ็นผู้ปกครอง/นำบุคคลอื่นมาแอบอ้างเป็นผู้ปกครอง/แอบอ้างชื่อหรือเลขประจำตัว บุคคลอื่นมาแทนตนกล่าวเท็จ ให้การเท็จ ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยเจตนา 805 นำพาบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ผู้ปกครองเข้ามาโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาตอันจะนำมาซึ่งความไม่ ปลอดภัยต่อบุคคลอื่น 30 806 ทำลายชื่อเสียงของบุคคลอื่น/ของโรงเรียน โดยการแสดงออกด้วยการพูด กริยาท่าทาง การเขียน หรือการพิมพ์ 20 807 นำเอกสารประเภทต่างๆ ของโรงเรียนไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือไม่เป็นไปตามที่โรงเรียน มุ่งหมาย 10 808 หลีกเลี่ยงไม่ยอมรับ และ/หรือ รับแต่ไม่นำเอกสารทุกประเภทจากทางโรงเรียน เพื่อนำแจ้งผู้ปกครอง
42 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน ข้อที่ 35 ให้รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา เป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ให้ผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัยและให้ถือเป็นที่สิ้นสุด ข้อที่ 36 ระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖6 (ผู้ช่วยศาสตราจารย์สานิตย์ รัศมี) ผู้อำนวยการ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา กลุ่ม รหัส รายการ คะแนน ที่เพิ่ม 9 901 ประธานนักเรียน/ประธานคณะกรรมการสภานักเรียน/ประธานคณะกรรมการนักเรียน 60 902 ได้รับการคัดเลือกให้ปฏิบัติหน้าที่รองประธาน/คณะกรรมการของสภานักเรียนหรือคณะกรรมการ นักเรียนตลอดปีการศึกษา 40 903 ได้รับรางวัลการแข่งขันระดับชาติหรือนานาชาติมีเอกสารรับรอง 904 เป็นตัวแทนการเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ 30 905 เป็นตัวแทนการเข้าร่วมการแข่งขันระดับชาติ 25 906 ได้รับรางวัลจากการเข้าร่วมแข่งขันระดับระดับภาค/เขตพื้นที่การศึกษา,มีเอกสารรับรอง 20 907 ได้รับรางวัลจากการเข้าร่วมแข่งขันกิจกรรมรายการต่างๆ ของระดับจังหวัด และมีเอกสารรับรอง 15 908 เป็นตัวแทนของโรงเรียนเข้าร่วมการทำกิจกรรมกับหน่วยงานภายนอกโรงเรียน/ชุมชน 10 909 เข้าร่วมกิจกรรมหรือแข่งขันทักษะ การแข่งขันทางวิชาการ คุณธรรม จริยธรรม และกิจกรรมที่เป็น ประโยชน์ต่อชุมชน 910 สร้างชื่อเสียงที่ดีด้านต่างๆ ให้กับโรงเรียน เป็นที่ยอมรับ และศรัทธาจากสังคม 911 ช่วยเหลือสังคมหรือบุคคลอื่น จนได้รับการยกย่องชื่นชม จนเป็นที่ปรากฏแก่หน่วยงาน 912 ได้รับการยกย่องชมเชยจากหน่วยงานภายนอก/ชุมชนเป็นลายลักษณ์อักษร 913 นักเรียนประจำห้องงานโสตทัศนูปกรณ์/ช่างภาพของโรงเรียน 914 นักเรียนปฏิบัติหน้าที่งานธนาคารโรงเรียน/สหกรณ์โรงเรียน/ห้องสมุด ตลอดปีการศึกษา 915 นักเรียนผลิตสื่อ/นวัตกรรม อันเป็นประโยชน์ให้กับทางโรงเรียน 916 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ได้รับรางวัลดีเด่นด้านต่างๆ จากโรงเรียน ต่อรายการ 917 แกนนำการทำกิจกรรมที่เป็นสาธารณะประโยชน์ที่มีต่อโรงเรียนหรือหน่วยงานภายนอกและมีเอกสารรับรอง 918 การแสดงที่นำเสนอในการต้อนรับทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน หรือ เป็นนักเรียนที่มีจิตอาสาให้ความ ช่วยเหลือผู้อื่นในกิจกรรมต่างๆ เช่น แสดงดนตรีไทย/ดนตรีสากล/นาฎศิลป์ นักเรียนวงโยธวาทิต ตลอดปีการศึกษา 919 เก็บสิ่งของมีค่าได้และคืนเจ้าของ/ต่อครั้ง 920 บำเพ็ญประโยชน์ต่อโรงเรียน เช่น เก็บขยะ ทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน กิจกรรมรณรงค์เรื่อง 3 ความสะอาด การประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อม
43 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน
44 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน
45 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน
46 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน
47 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน
48 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน
49 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน
50 คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง รร.สาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน