The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

Qr3 สรุประบบการจัดการน้ำของสิงคโปร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wangaree_p, 2022-08-13 22:29:36

Qr3 สรุประบบการจัดการน้ำของสิงคโปร์

Qr3 สรุประบบการจัดการน้ำของสิงคโปร์

Keywords: QR3

48

ภาพ:https://www.visitsingapore.com/th_th/see-do-singapore/architecture/modern/gardens-by-the-bay/

➢ Children Garden เป็นโซนสวนสนุกสาหรับเด็ก ที่เป็นที่นิยมกันมากในครอบครัวที่มีเด็ก โดยจะเห็น
ครอบครัวพาลูกหลานมาเล่นกนั ทีน่ ี่มากมาย ภายในมีโซนต่างๆหลายโซน เช่นโซนสาหรับเด็กเล็ก โซน
สาหรับเดก็ โต และโซนท่ีเปน็ น้าพซุ ง่ึ เป็นที่นิยมทส่ี ดุ

49

➢ Dragonfly and Kingfisher Lakes เป็นโซนรมิ ทะเลสาบท่ีเกือบจะลอ้ มสวนโซน South Garden เอาไว้
จะมีสัญญลักษณ์เป็น รูปป้ันแมลงปอสีเงินตัวใหญ่ บรเิ วณน้ีจะมที ะเลสาบพร้อมกับทางเดินท้ัง 2 ด้านที่
จะวนไปอีกด้านหนึง่ ได้ โดยท่ที างเดินน้ีจะเปน็ มุมถา่ ยภาพทีส่ วยงามมากอกี มมุ หน่งึ

➢ Heritage Garden เป็นโซนที่จะมีการจัดสวนแบ่งเป็น 4 สไตล์ ตามเชื้อชาติต้นกาเนิดของประเทศ
สิงคโปร์ นั่นก็คือ จีน มาเลเซีย อินเดีย และประเทศล่าอาณานิคม เป็นการจัดสวนที่นาเอาวัฒนธรรม
ตา่ งๆเข้ามาเช่ือมโยงกัน เปน็ การเลา่ เร่อื งผา่ นต้นไมไ้ ด้อย่างนา่ สนใจ

50

➢ World of Plant เป็นสวนที่ออกแบบไว้สาหรับเรียนรู้เรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับต้นไม้ เช่น การ
เจริญเติบโต การแพร่พันธ์ การปรับตัวของต้นไม้ การบานของดอกไม้ ความแตกต่างของพันธ์ไม้ต่างๆ
รวมทง้ั ต้นไมด้ กึ ดาบรรพ์ท่ียงั หลงเหลอื อย่มู าจนถงึ ปัจจุบันนี้

51
➢ Sun Pavilion เป็นสวนกระบองเพชร ที่มีกระบองเพชรจากมากกว่า 100 สายพันธ์ จากทั่วทุกมุมโลก

โดยมีการจัดสวนเลยี นแบบทะเลทรายตามธรรมชาติ โดยเฉพาะกระบองเพชรขนาดใหญ่ท่ีสูงมากกว่า 3
เมตร

เทคโนโลยที ่ถี ูกนามาใชใ้ น Gardens by the Bay ประกอบด้วย
1) เทคโนโลยีลดการรับความร้อนจากแสงอาทิตย์ (Minimising solar heat gain) ในกระบวนการลดความ
รอ้ นในเรอื นกระจก

ภาพ: https://aerosealcorp.com/how-a-windows-solar-heat-gain-coefficient-shgc-can-impact-your-businesss-energy-bill/

52
2) เทคโนโลยีทาความเย็นเฉพาะพื้นที่ (Cooling only the occupied zones) เพื่อการให้ความเย็นกับ
พน้ื ดนิ ด้วยน้าผา่ นทางท่อเฉพาะชั้นล่าง ซึ่งจะช่วยลดปรมิ าณอากาศทจ่ี ะตอ้ งทาความเยน็

3) เทคโนโลยีลดความช้ืนของอากาศก่อนทาความเยน็ (De-humidifying the air before cooling) เพื่อลด
ปรมิ าณของพลังงานที่จาเป็นตอ้ งใชใ้ นกระบวนการทาความเยน็ ของอากาศใน Flower’s Dome

4) เทคโนโลยีในการสร้างพลังงานและควบคุมความร้อนที่สญู เปล่า (Generating energy and harnessing
waste heat) ด้วยการนาความร้อนที่เกิดขึน้ ในกระบวนการทาความเย็นไปใช้สร้าง liquid desiccant ซึ่งจะเป็นตวั
กาเนิดพลังงานความร้อน

53

Bay South Garden, Bay East Garden และ Bay Central Garden โอเอซิสที่เขียวชอุ่มร่มรื่นนี้ได้รับ
รางวัลต่างๆ มากมายนับตัง้ แต่ทเ่ี ปดิ ให้บรกิ าร

▪ รางวัล World Building of the Year ในการจัดงาน World Architecture Festival ท่ี Marina Bay
Sands ในเดือนตุลาคม 2555 The Cloud Forest และ Flower Dome ก็ได้รับรางวัล Best Display
Building เช่นเดียวกัน

▪ ‘Landscape Award’ (รางวลั ภูมิทัศน์) จาก World Architecture News ในปี 2556
▪ ‘Best Attraction in Asia Pacific’ (สถานที่ท่องเที่ยวท่ีดที ี่สุดในเอเชยี แปซิฟิก) จาก Travel Weekly

ในปี 2558
▪ ‘Best Attraction Experience’ (ประสบการณ์สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด) จาก Singapore Tourism

Awards ประจาปี 2562
ชวี ิตในเมอื งแบบใหม่

อ่าวมารีน่า เบย์ เป็นตัวแทนของทุกสิ่งที่ทันสมัยและสวยโดดเด่นมีสไตล์ นับตั้งแต่ร้านอาหารยอดนิยมไป
จนถงึ สถานทพ่ี กั ผ่อนหยอ่ นใจทน่ี ่ารื่นรมย์ จะได้เห็นนกั ธรุ กจิ ระดับผู้บรหิ ารและผูท้ ่ีมาวง่ิ ออกกาลงั กาย รวมท้ังนักป่ัน
จักรยาน และผู้คนหลากหลาย และบรรดาผู้ที่เรียก Marina Bay วา่ บ้าน

การเที่ยวชมอ่าวมารีน่าจะช่วยให้ทุกประสาทสัมผัสได้ซึมซับความสุข เพลิดเพลินกับผลงานการออกแบบ
สถาปัตยกรรมท่ีสวยงาม ซง่ึ ปรากฏอยู่บนเส้นขอบฟ้า ณ อา่ วมารีน่า เบย์ หรือช่ืนชมววิ ทวิ ทัศน์ท่ีสวยท่ีสุดในโลกได้ที่ Sands
SkyPark ที่ Marina Bay Sands หากต้องการชื่นชมธรรมชาติ Gardens by the Bay บนพื้นที่ 101 เฮคตาร์
ประทับใจกับวิวท่ีสวยงามจาก Supertree Grove ทา่ มกลางสวนสวยเขียวขจี หลกี หนีจากไอแดดและความร้อนของ
เขตร้อนชื้นไปยังเรอื นกระจกปรับอากาศ ขณะที่ Marina Bay Cruise Centre Singapore ออกแบบเพื่อรองรับเรือ
นาเทยี่ วลาใหญ่รนุ่ ใหม่ลา่ สดุ

Jurong Regional Library

นโยบายการสร้างประเทศของ ลี กวน ยู ใหส้ งิ คโปรก์ ้าวขึน้ มาเป็นรัฐที่มีบทบาทอย่างสงู ยงิ่ ในทางเศรษฐกิจ
ของโลก มิได้อยู่ทเ่ี พยี งแตก่ ารสรา้ งระบบการเมอื งทมี่ ีเสถียรภาพ (political stability) เท่านน้ั แตย่ ังได้นาทรัพยากร
ที่สาคญั คอื ทรัพยากรบุคคลขึ้นมาเจียระไนให้มีความเปน็ พลเมืองสูพ่ ลโลกที่มีศักยภาพในการปฏบิ ัติงานกับทุก ๆ
ชาติในโลก ลี กวน ยู เชื่อในเร่อื งนาคนดมี าดารงตาแหนง่ ถึงแม้ระบบจะไมด่ ี หรอื แย่สุด ๆ เพราะคนดเี ม่ือมาดารงอยู่
สามารถสร้างระบบที่ดีได้ แต่ถ้าระบบที่ดีแต่เอาคนไม่ดีมาดารงตาแหน่ง ระบบก็จะพังและพินาศไป บทเรียนนี้เป็น
ความทรงจาของลี กวน ยูในภาวะสงครามที่เขาเคยเผชิญมา นอกจากนี้ ลี กวน ยู ยังไม่มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับ

54

คอร์รัปชั่น ทาให้สิงคโปร์ได้รับการยอมรับจากทุกชาติที่เข้ามาลงทุนด้วย และวาทะที่ ลี กวน ยู เคยประกาศไว้
เปรียบเสมอื นเข็มทศิ ในการสรา้ งประเทศกค็ อื

“การปลูกฝงั ความคิดและความเชือ่ ประชากรของเขาเพือ่ ให้ประชากรของเขาเชือ่ ในเรอ่ื งท่จี ะนาประเทศ
สิงคโปรก์ ้าวพัฒนาไปส่ปู ระเทศที่เจริญและศิวิไลซ์ ใครที่มาขดั ขวางแนวความเชอ่ื นี้ เขาจะขัดขวางและต่อสู้กับ
คนเหล่านน้ั จนถึงทสี่ ุด เพราะความคิดและความเชื่อในสิง่ ท่คี ดิ นไี้ ม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ภายในวนั เดียว แตถ่ ้ามา
ถูกทาลายโดยคนบางกล่มุ ในเพยี งวนั เดียว ประเทศของเขากจ็ ะไมม่ ีศักยภาพในการแขง่ ขนั กบั ประเทศอ่นื ๆ ได”้

ข้อมูลองค์กร National Library Board (NLB)
โดยพันธกิจและวิสัยทัศน์ ต้องการขยายขีดความสามารถในการเรียนรู้ของประเทศ NLB ได้พัฒนา ระบบ

ห้องสมดุ ทต่ี อบสนองความต้องการของชมุ ชน การเปลย่ี นแปลงกระบวนทัศน์ขององคก์ รย้ายจากหมวดการปฏิบัติเพื่อ
คาดการณ์แนวโน้มในอนาคตและนวัตกรรมเพื่อความเป็นเลิศในช่วงเวลาสั้น ๆ หกปีจากการก่อตั้ง NLB ประสบ
ความสาเร็จในการเปลี่ยนแปลงระบบห้องสมุดสาธารณะสู่เครือข่ายห้องสมุดที่เข้าถึงได้สะดวกสู่สาธารณะและ
ปรับแต่งเพื่อตอบสนองความหลากหลายของความต้องการก้าวไปข้างหน้า แผนกลยุทธ์ของ NLB มุ่งเน้นไปท่ี
โปรแกรมที่มุ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับแกนหลักของ NLB ธุรกิจส่งเสริมการอ่านและสร้างความมั่นใจว่าทุนทาง
สังคมเชงิ บวกทส่ี รา้ งโดยห้องสมดุ ได้รบั การปรับปรุง

ชุมชนการเรียนรู้ที่พึ่งพาตนเองได้และมีเป้าหมายที่จะหล่อเลี้ยงชุมชนการเรียนรู้ในละแวกใกล้เคียงและท่ี
ทางาน หนังสือ สโมสร ชุมชนที่น่าสนใจ พลเมืองและองค์กรชุมชนได้รับการสนับสนุนทั้งหมดเพื่อทางานร่วมกับ
ห้องสมุดเพ่ือแบ่งปันขอ้ มูลและความรู้และช่วยเหลอื ซึ่งกันและกันในการเรียนรูบ้ ริการข้อมลู และความรู้ที่ขับเคลื่อน
เศรษฐกจิ การแข่งขันโดยตดิ ตามการพัฒนาล่าสุดด้านบรกิ ารความรแู้ ละข้อมูล NLB หวังใหข้ ้อมูลและความรสู้ นับสนุน
ผปู้ ระกอบการ บริษทั และรฐั บาลให้ยนื หยัดอยา่ งต่อเนอ่ื งมีความสามารถในการแข่งขนั ระดบั โลก

สภาพแวดล้อมที่สนับสนุนห้องสมุดการจัดการข้อมูลและความรู้มืออาชีพในสภาพแวดล้อมที่เป็น
ผปู้ ระกอบการมากข้นึ ทีซ่ ึง่ ความรู้ถูกสร้างขึ้นและใชป้ ระโยชน์ในบริบทระดับโลก NLB มีจดุ มงุ่ หมายเพ่ืออานวยความ
สะดวกในการเรียนรู้สาหรับการจัดการขอ้ มูลและความรู้ผู้เชย่ี วชาญทัว่ โลกและพฒั นาทักษะและความเชี่ยวชาญเพื่อ
ตอบสนองความทา้ ทายทเ่ี กิดขน้ึ ใหม่
ความทา้ ทายเชงิ กลยุทธ์

ความทา้ ทายต่อไปน้จี ะมีส่งผลตอ่ ความสาเร็จของ NLB's เปา้ หมายระยะยาว

55

- จัดหาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขน้ึ และบรกิ ารเพ่ือดงึ ดูดลกู ค้าดว้ ยความต้องการที่ซับซ้อนมากข้ึน
- ส่งมอบการเรียนรู้และความรู้อย่างง่ายดายและราคาไม่แพงเพื่อยกระดับชุมชนผู้ใช้และช่วยรักษาความ
สามคั คใี นสงั คม
- ให้การเข้าถึงความรไู้ ดต้ ลอดเวลา และมคี วามจาเป็นตอ่ การประสบความสาเร็จในระดับโลกพร้อมกบั การแข่งขนั
- การสรา้ งพ้ืนทก่ี ารทางานรว่ มกนั และสิ่งแวดล้อมท่ีสรา้ งทนุ ทางสังคมและให้ความรูแ้ ก่สงิ คโปร์
- ขยายคอลเลกชนั ของสิงคโปรข์ องสนิ ทรัพยค์ วามรู้
- เพิ่มประสิทธิภาพการบริการและการดาเนินงานโดยผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความ
ตอ้ งการที่เพ่ิมขึ้นโดยไม่ต้องมีค่าใชจ้ า่ ยเพ่ิมขึ้นตามสัดส่วน
ต้นแบบหอ้ งสมุดท่ไี ม่ยอมถูกดิสรปั ต์ “หอสมุดแห่งชาติ ประเทศสิงคโปร์” คลังความรู้ดจิ ิทัลของสิงคโปร์
จากคาถามท่วี ่า “ห้องสมุด” จะสามารถต้านทานกระแสความเปลีย่ นแปลงที่ถาโถมเข้ามาไดอ้ ยา่ งไร ในวันท่ี
เทคโนโลยีดิจิทัลกลายมาเปน็ สว่ นหนงึ่ ในชีวิตของผู้คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แถมแอปพลิเคชนั ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนก็
ชว่ ยทาใหช้ ีวติ สะดวกสบาย ส่งผลให้ กิจกรรมการอ่านหนงั สือ ได้รับความนยิ มลดลงอยา่ งต่อเนอื่ ง ขณะที่รูปแบบการ
อ่านหนังสือก็เปลี่ยนไปเป็นการอ่าน E-book หรือ หนังสือออนไลน์แทน กิจการที่ดูจะได้รับผลกระทบจาก
ปรากฏการณ์ความเปลี่ยนแปลงคร้ังนีม้ ากที่สดุ เห็นจะเป็นห้องสมุดน้อยใหญท่ ั่วโลกทีม่ ีจานวนผู้ใช้บริการลดลงเร่ือย ๆ
และถา้ นค่ี ือวิกฤต มาดูกนั วา่ “หอสมุดแหง่ ชาติ ประเทศสิงคโปร์” จะมวี ิธีปรับตวั เพ่อื พลกิ วิกฤตนใ้ี หเ้ ปน็ โอกาสอย่างไร
เรยี นรู้จากต้นแบบ ปฐมบทความสาเรจ็ จากห้องสมุดท่ไี มย่ อมถกู ดิสรปั ต์ “หอสมดุ แหง่ ชาติ ประเทศสิงคโปร์”
นอกจากสิงคโปร์จะเป็นต้นแบบประเทศที่ได้รับการยกย่องในด้านการจัดการศึกษาที่ยอด เยี่ยมให้แก่คนใน
ชาติแล้ว กิจการห้องสมดุ ระดับชาติอยา่ ง National Library Board (NLB) หรอื หอสมุดแหง่ ชาติ ประเทศสิงคโปร์
ก็ประสบความสาเร็จและได้รับคาชื่นชมว่า เป็นหนึ่งในองค์กรตัวอย่างที่สามารถปรับตัวได้เท่าทันกับกระแสความ
เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ไม่ถูกดิสรัปต์โดยเทคโนโลยีแห่งยุค โดยแนวทางบริหารจัดการที่ที่นี่เลือกมาใช้ นั่นคือ
แนวทางการบรหิ ารจัดการเป็นเลิศ หรอื Business Excellent Framework น่นั เอง
ดร.นารินเดอร์ เคอ (Dr. Narinder Kaur) หัวหน้าด้านการบริหารสู่ความเป็นเลิศ (Chief of Organization
Excellence) จากหอสมุดแห่งชาติ ประเทศสิงคโปร์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมไว้ในบทความเรื่อง “NLB ไม่ยอมถูก
Disrupted จากหอ้ งสมุดส่คู ลังความรู้ยุคดจิ ทิ ลั ” เผยแพร่ในเวบ็ ไซต์ สถาบันเพ่ิมผลผลติ แห่งชาติ ว่า
“ท่ผี ่านมา องค์กรของเราประสบความสาเร็จสงู สุด โดยเปน็ องค์กรแรกและองค์กรเดยี วของประเทศสิงคโปร์
ที่ได้รับรางวัลในเครือ Business Excellence Awards ทั้งหมด ได้แก่ รางวัล Innovation Excellence Award,
People Excellence Award รางวัล Service Excellence Award และล่าสุดกับรางวลั คุณภาพแห่งชาติสิงคโปร์ใน
ระดบั คะแนนสงู สดุ คือ 800 คะแนนขนึ้ ไป (SQA with Special Commendation 2018)”

56

โดยเคล็ดลับความสาเร็จของการได้รับรางวัลระดับชาติเหล่านี้ อยู่ที่ ความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาให้
NLB ไมใ่ ชเ่ พียงแคห่ ้องสมดุ แต่เปน็ ‘คลงั ความรู้ยุคดิจิทลั ’ ทมี่ ีความสาคญั ในการส่งเสริมและยกระดับการศึกษา
ของสงิ คโปร์

ดร.นารินเดอร์ เคอ เน้นย้าก่อนว่า การปรับเปล่ียนองค์กรเพื่อให้รอดจากการถูก Technology Disruptive
นั้น ต้องเริ่มมาจากการยอมรับก่อนว่าในยุคนี้ ทุกองค์กรหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่า เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทใน
สงั คมและส่งผลกระทบต่อธุรกิจทุกดา้ น

หลักการ Service Transformation หรือ การพลิกโฉมการบริการ จึงกลายเป็นกุญแจสาคัญใน
กระบวนการพฒั นาองคก์ รสคู่ วามสาเร็จ บวกกบั การประยกุ ต์เอาแนวทาง Design Thinking เขา้ มาใช้เพ่อื รบั มือ
กับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ต่อมา NLB ยังไดเ้ ปล่ียนรปู แบบการให้บริการด้วยการนาเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพ่ือ
สรา้ งความประทบั ใจใหแ้ ก่ลกู ค้าและเพิ่มผลิตภาพให้แกอ่ งค์กร เชน่ เรานาโต๊ะเคาทเ์ ตอรอ์ อกไป ลดอัตรากาลังใน
การใชเ้ จ้าหน้าทใี่ นองคก์ ร จากนัน้ จึงเริม่ พัฒนาการจดั เกบ็ เอกสารสาคัญในรปู แบบออนไลน์ (Archives Online)
ตั้งแต่ในปี 2013 และไดพ้ ัฒนา Robot Assisted Shelf Reading Project ขึ้นใชง้ าน โดยบรกิ ารนีโ้ ดนใจคนรุ่น
ใหม่อย่างมาก ไม่ใช่แค่การปรับเปลี่ยนรูปแบบการใหบ้ ริการให้ทนั สมัย ล้ายุคขึ้นเท่านัน้ แต่ NLB ยังให้ความสาคัญ
กับการสร้างสภาพแวดล้อมการทางานที่เหมาะสมกับการรับมือกับอนาคต เพือ่ สนบั สนุนการปรบั โฉมการบริการให้กับ
ลูกค้า (Service Transformation) อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในแง่มุมของการพัฒนาองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง
วัฒนธรรมท่ีดี ไปจนถึงการปรับเปลีย่ นแนวคิดการมีส่วนร่วมระหว่างบุคลากรและผู้นาองค์กรผ่านกิจกรรมพูดคุยใน
รูปแบบที่หลากหลายทั้ง Coffee Session สั้นๆ ที่องค์กรจะบอกบุคลากรอย่างชัดเจนว่า กาลังจะเกิดอะไรขึ้นใน
อนาคต และทาไมองค์กรจึงต้องปรับเปลี่ยน ซึ่งถ้าพบว่าบุคลากรส่วนใดยังไม่พร้อมสาหรับสิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นก็จะ
พฒั นาดว้ ยการจดั ฝกึ อบรมให้ทนั ที

โดย ดร.เคอ อธิบายว่า แผนการพัฒนาองค์กรในแบบฉบับ NLB ให้ความสาคัญกับประเด็นต่าง ๆ ในแต่ละ
ชว่ งเวลาทแี่ ตกตา่ งกนั ไปตามเทรนดข์ องสงั คมท่ีเปลย่ี นแปลงไป

“เรารู้ถึงเทรนด์การเปลี่ยนแปลงจากการมอนิเตอรส์ ภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปในสังคม แล้วนามาปรับเป็น
แผนกลยุทธ์ ซึ่งในตอนนี้เรามองไกลไปจนถึงปี 2030 แล้ว จากนี้ไปเราจะค่อย ๆ พลิกโฉมไปทีละนิด เปลี่ยนแปลงทั้ง
หอสมุด เทคโนโลยี ตลอดจนพัฒนาบุคลากร แผนกลยุทธ์ เพื่อเป็นไกด์ให้กับองค์กร รวมทั้งเราจาเป็นต้องวางแผน
ระยะยาวโดยดงึ เอาผมู้ สี ่วนได้ส่วนเสยี ชมุ ชน และประชาชน เขา้ มามีสว่ นร่วมกบั การปรับเปลยี่ นคร้ังนีด้ ้วย”

57

และไม่ใช่แค่ตวั องค์กรเท่านัน้ ที่เปลี่ยนแปลง ทว่า mindset ของคนทางานในองคก์ รแห่งนี้ ก็ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไป
ดว้ ยเช่นกัน

“ในทุกปี องคก์ รจะรเิ รม่ิ โปรเจกตน์ วตั กรรม หรือกิจกรรมใหม่ ๆ เพื่อแสดงใหเ้ ห็นว่าทุกคนในองค์กรต้อง
เตรียมตัวรับมือความเปลี่ยนแปลง และกระตุ้นจิตสานึกด้านวัฒนธรรมการให้บริการ ให้อยู่ใน DNA ของชาว
NLB ทุกคน ทาให้ในตอนนี้ถ้าช่วงไหนไม่มีเรื่องแปลกใหม่ โปรเจกต์น่าสนใจ น่าตื่นเต้นเกิดขึ้นในองค์กร ชาว
NLB จะรสู้ ึกเหมือนขาดอะไรไปแน่นอน”

สุดท้ายแล้ว ความตั้งใจดีในการปรับเปลี่ยนองค์กรให้ทันกบั ความเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีนี้ ไดร้ บั การต่อ
ยอดไปสู่การมีส่วนร่วมของทุกคนในองค์กร ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจหลักของ NLB เพื่อสร้าง “Nation of
Knowledge” ชาติที่เปี่ยมไปด้วยองค์ความรู้ เช่น การริเริ่มโครงการ KidsRead ในปี ค.ศ. 2004 โดยจะมี
อาสาสมคั รไปร่วมอ่านหนงั สือและสร้างแนวคดิ การรกั การอ่านใหแ้ ก่เดก็ ชาวสิงคโปร์ โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในครอบครัวที่
มีรายไดน้ อ้ ย ซ่ึงผลลพั ธข์ องโครงการดี ๆ นี้ สง่ ผลใหเ้ ด็กทเ่ี คยเข้ารว่ มโครงการเติบโตขึน้ อย่างมีคุณภาพ มีหน้าท่ีการ
งานทด่ี ี ที่สุดแล้ว กก็ ลบั มาทาประโยชน์ รว่ มพฒั นาประเทศสิงคโปร์ต่อไป
LoTF หอ้ งสมดุ แหง่ อนาคต

คณะกรรมการห้องสมุดแห่งชาติของสิงคโปร์ (National Library Board – NLB) ได้กาหนดแผนแม่บท
ห้องสมดุ แห่งอนาคต LoTF (The Libraries of the Future) โดยแบง่ การบรู ณาการห้องสมดุ ตามแผนแม่บทออกเป็น
3 เฟส รวมระยะเวลา 15 ปี ตัง้ แตป่ ี ค.ศ. 2015-2030 และวางกรอบแนวทางการสรา้ งสรรค์นวัตกรรมการให้บริการ
สาหรับหอ้ งสมุดท่ีปรบั ปรุงใหม่ ดังน้ี

58

Play@Library กิจกรรมการเล่นแบบไม่มีโครงสร้าง (unstructured play) ซึ่งให้อิสระในการคิดและ
สร้างสรรค์แก่เด็กอายุระหว่าง 0-6 ขวบ เน้นการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างเด็กและครอบครัว รวมทั้งการเข้าสังคม
ระหว่างเด็ก ๆ

Tweens Service กิจกรรมสาหรับกลุ่มผู้ใช้บริการอายุระหว่าง 10-14 ปี เน้นการเรียนรู้เรื่องสะเต็มศึกษา
(STEM) มีการจัดทาชุดการเรียนรู้และพาสปอร์ตการเรียนรู้มอบให้วัยรุ่นตอนต้น เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ด้วย
ตนเอง (self-directed learning)

สะเต็มศึกษา (STEM Education) คือ แนวทางการศกึ ษาท่ีได้บรู ณาการความรรู้ ะหว่างศาสตร์วิชา
ต่าง ๆ เช่น ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี ความรู้ทางด้านวิศวกรรม และความรู้ด้าน
คณิตศาสตร์ รวมเข้าดว้ ยกนั

–Science เป็นวิชาที่ว่าด้วยการศึกษาปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในธรรมชาติ โดยอาศัยกระบวนการสืบเสาะ
ทางวทิ ยาศาสตร์ (Scientific Inquiry)

-Technology เป็นวิชาที่ว่าด้วยกระบวนการทางานทีม่ ีการประยุกต์ศาสตร์สาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง
มาใช้ในการแกป้ ัญหา ปรับปรงุ แก้ไขหรอื พฒั นาสง่ิ ต่าง ๆ เพอ่ื ตอบสนองความต้องการ หรือความจาเป็นของมนุษย์

-Engineering เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือสร้างสิ่งต่าง ๆ เพื่อมาอานวยความ
สะดวกของมนุษย์ โดยอาศัยความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และกระบวนการทางเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้
สร้างสรรคช์ ้ินงานนัน้ ๆ

-Mathematics เป็นวิชาที่ว่าด้วยการศึกษาเกี่ยวกับการคานวณ หรือ วิชาที่เกี่ยวกับการคานวณ
เปน็ พืน้ ฐานสาคญั ในการศกึ ษาและตอ่ ยอดทางวศิ วกรรมศาสตร์

จดุ เรม่ิ ตน้ ของแนวคดิ สะเตม็ ศกึ ษา (STEM EDUCATION)
เนื่องจากว่าประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประสบปัญหาเรื่อง ผลการทดสอบ PISA ของสหรัฐอเมริกา ที่ต่ากว่า
หลายประเทศ และส่งผลต่อขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และวิศวกรรม ดังนั้นรัฐบาลจึงมี
นโยบาย ส่งเสริมการศึกษาโดยพัฒนา STEM Education ขึ้นมา เพื่อหวังว่าจะช่วยยกระดับผลการทดสอบ PISA
(Program for International Student Assessment) และ TIMSS การทดสอบด้านคณิตวิทยาศาสตร์ระดับสากล
(Trends in International Mathematics and Science Study) ให้สูงขึ้น และจะเป็นแนวทางหนึ่งในการส่งเสริม
ทกั ษะทีจ่ าเป็นสาหรบั ผ้เู รยี นในศตวรรษที่ 21 (21st Century skills) เช่น

1. ดา้ นปญั ญา ผ้เู รียนสามารถเขา้ ใจเนอ้ื หา
2. ด้านทักษะการคิด ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะการคิด โดยเฉพาะการคิดขั้นสูง เช่น การคิด
วิเคราะห์ การคดิ สร้างสรรค์ ฯลฯ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ ผู้เรยี นสามารถมีทกั ษะการทางานกลมุ่ ทกั ษะการสือ่ สารทม่ี ีประสิทธภิ าพ

59

ดังนนั้ สะเตม็ ศกึ ษานนั้ จงึ ไม่ใชเ่ รื่องใหมแ่ ตเ่ ป็นการตอ่ ยอดหลักสตู รโดยการบรู ณาการการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์ เทคโนโลยแี ละกระบวนการทางวิศวกรรมศาสตร์ เพ่อื เนน้ การนาความรู้ไปใช้แกป้ ญั หาในการดาเนินชีวิต
รวมทงั้ เพื่อใหส้ ามารถพฒั นากระบวนการหรือผลผลติ ใหม่ทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อการดาเนนิ ชีวิตและการประกอบอาชีพใน
อนาคต อีกทง้ั วิชาทง้ั ส่ีเป็นวิชาทมี ีความสาคัญอย่างมากการกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ
การพัฒนาคุณภาพชวี ติ และ ความมั่นคงของประเทศ ซ่ึงลว้ นเปน็ วิชาท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีความรู้ความสามารถที่จะ
ดารงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งมคี ณุ ภาพในโลกศตวรรษที่ 21

Immersive Storytelling ห้องเล่านิทานเสมือนจริงที่ใช้เทคโนโลยีการฉายภาพ แสง และเสียง ที่จะทาให้
เรอ่ื งราวในนิทานโลดแลน่ อยา่ งมีชวี ติ ชวี า

Digital Learning Zone พื้นที่เรยี นรู้สาหรบั การเข้าถึงทรัพยากรดิจิทลั เช่น อีบุ๊ก นิตยสารอิเล็กทรอนกิ ส์
นทิ รรศการเสมือนจรงิ วดิ ีโอ และเนอื้ หาอเิ ล็กทรอนกิ สต์ ่าง ๆ

S.T.A.R การให้คาปรึกษาแบบตัวต่อตัวด้านการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ สาหรับผู้สูงอายุ โดย
อาสาสมัครคนรนุ่ ใหม่ เพือ่ สอนทกั ษะดิจิทัล เช่น การเช่ือมต่อ Wi-Fi การส่งขอ้ ความอิเลก็ ทรอนกิ ส์ การใช้แอปพลิเคชัน
ของ NLB ฯลฯ

นับจนถึงต้นปี 2021 มีห้องสมุดที่บูรณะใหม่แล้วเสร็จ 6 แห่ง คือ ห้องสมุดประชาชนเซงคัง (Seng Kang
Public Library) หอ้ งสมดุ ประชาชนบูกิตปันจัง (Bukit Panjang Public Library) ห้องสมุดภมู ิภาคแทมปิเนส (Tampines
Regional Library) ห้องสมุดประชาชนเบด็อก (Bedok Public Library) ห้องสมุดประชาชนอี้ชุน (Yishun Public
Library) และ library@harbourfront (Bukit Merah Public Library)

ส่วนห้องสมุดประชาชนเชาชูกัง (Choa Chu Kang Public Library) พร้อมเปิดให้บริการช่วงกลางปี และ
หอ้ งสมุดกลาง (Central Public Library) เพ่งิ เร่มิ ปิดปรบั ปรุงเมอ่ื ตน้ ปี 2021 ท่ีผา่ นมา
ประเทศสิงคโปรก์ บั การพฒั นาดา้ นการศกึ ษา

เราจะมอบการศกึ ษาท่ีสมดุลและรอบด้านใหแ้ ก่เดก็ ๆ ของเราเพ่ือช่วยใหพ้ วกเขาค้นพบความสามารถพิเศษ
ของตนเอง ตระหนักถึงศกั ยภาพสูงสุดของตนเอง และหล่อเล้ยี งใหพ้ วกเขาเติบโตขนึ้ เป็นพลเมืองที่พรอ้ มอุทิศตน” น่ี
คือพันธกิจของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารของประเทศสงิ คโปร์ ท้งั นีค้ วามสาเร็จในด้านการบริหารและการจดั การศึกษาของ
สิงคโปรน์ น้ั เปน็ ทป่ี ระจักษ์ในระดับนานาชาติ เหน็ ได้จากสถานศึกษาระดบั อดุ มศึกษาทไ่ี ดร้ ับการจัดอันดับอยู่ใน Top
50 ของโลก และ Top 10 ของทวีปเอเชีย (ข้อมูลปี 2015) จึงเป็นที่น่าสนใจว่าระบบการศกึ ษาของประเทศสิงคโปร์
นั้นมีกระบวนการเปลี่ยนผ่านอย่างไรบ้าง และเราสามารถนามาใช้เป็นแนวทางพฒั นาการศึกษาของประเทศไทยได้
อยา่ งไรบ้าง

“ทาลายกาแพงภาษาและวัฒนธรรม” เป็นนโยบายการสร้างความสมานฉันท์ในสังคมและพัฒนาอัตลักษณ์
ของชาติผา่ นระบบการศกึ ษาของประเทศสิงคโปร์ ที่เริ่มตน้ ขึ้นในปี 1959 โดยสนบั สนนุ ให้เกิดการศกึ ษาในรูปแบบพหุ
ภาษา แต่เหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงสาคัญส่วนใหญ่ในระบบการศึกษาของประเทศสิงคโปร์ ที่ส่งผลต่อการพัฒนา

60

การศกึ ษาน้ัน เร่มิ ตน้ ขึน้ ภายหลังปี ค.ศ.1965 ซึ่งเป็นปที ่ีสงิ คโปร์แยกตวั ออกจากสมาพันธรัฐมาเลเซียและประกาศตน
เป็นรัฐอิสระ ในปี 1966 โดยรัฐบาลมีการนานโยบายสองภาษา (Bilingual policy) มาใช้ในระบบการศึกษาของ
ประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ และมีก่อตั้งมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ขึ้นในปี 1980 ซึ่งเกิดจากการควบรวม
ของสองมหาวิทยาลัย คือ มหาวิทยาลัยสิงคโปร์และมหาวทิ ยาลัยนันยาง และต่อมาในปี 2006 กระทรวงศึกษาธิการ
สิงคโปร์ได้เริ่มนโยบาย “Teach Less, Learn More (TLLM)” ที่มุ่งเน้นหลักการพื้นฐานของการเรียนการสอนที่มี
ประสิทธิภาพ นักเรียนมีส่วนร่วม และมีการพัฒนาการแบบองค์รวมมากกว่าการเรียนเพื่อเตรียมตัวสอบเพียงอย่าง
เดียว นอกจากนี้รัฐบาลยังมีนโยบาย “THINKING GLOBAL, STAYING CONNECTED TO SINGAPORE” เพื่อสร้าง
สงิ คโปร์ให้เปน็ เมืองหลวงของโลก (Global City) ในขณะทปี่ ระชากรยังมคี วามผกู พันกบั สิงคโปร์และเหน็ สิงคโปร์เป็น
บา้ นของตนเอง

ทัง้ น้ีช่วงเวลาการเปล่ียนผ่านของการพัฒนาการศึกษาของประเทศสิงคโปร์หลังจากการได้รับเอกราชนั้น สามารถ
แบ่งได้เปน็ 3 ช่วงหลัก ซึ่งนโยบายด้านการศึกษาของสิงคโปร์ไดอ้ ิงตามเปา้ หมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของ
ประเทศ กลา่ วคือ

1) ช่วงการพัฒนาการศึกษาเพื่อความอยู่รอดทางเศรษฐกิจ (Survival Economics, Survival-Driven
Education) จากปี ค.ศ. 1965 – 1978

2) ช่วงการพัฒนาการศึกษาโดยเน้นประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development
Through Efficient-Driven Education) จากปี ค.ศ. 1978 – 1997

3) ชว่ งการพัฒนาการศกึ ษาโดยเนน้ ความสามารถเพอื่ นาไปสเู่ ศรษฐกิจองค์ความรู้ (Toward a Knowledge-
Based Economy Through Ability-Driven Education) จาก ปี ค.ศ. 1997 – ปจั จุบนั

61

การพัฒนาการศึกษาของประเทศสิงคโปร์ในแต่ละชว่ งนัน้ ให้ความสาคัญกับการกาหนดนโยบายการศึกษา
ควบคไู่ ปกบั การพฒั นาในภาคเศรษฐกจิ ของประเทศ ซึง่ ในแตล่ ะชว่ งเวลา นโยบายดา้ นการศกึ ษาจะมกี ารปรับเปลี่ยน
เพื่อจุดหมายในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ นาความมั่งคั่งมาสู่ประเทศ ดังนั้น ระบบการศึกษาของ
สิงคโปร์ จึงมุ่งเปา้ เพื่อสร้างทรัพยากรบคุ คล (Human Resources) เพื่อเป็นกาลังสาคัญในการสรา้ งประสิทธิผลทาง
เศรษฐกิจ โดยมีแผนพัฒนาทรัพยากรบุคคล (Human Resource Development - HRD) อย่างชัดเจน กล่าวคือ มี
การวางโครงสร้างระบบการศกึ ษาอยู่บนพื้นฐานแนวคิดการพฒั นาบคุ คลตามความสามารถ (Meritocracy) และระบบ
คัดสรรต่าง ๆ ซึ่งทาหน้าที่จัดกลุ่มผู้เรียนไปตามสถาบันการศึกษาที่เหมาะสมกับความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นสถาบนั
อาชีวะศึกษาหรือสถาบันอุดมศึกษา โดยหลักสูตรที่มีการเปิดสอนล้วนเป็นไปเพื่อการตอบสนองความต้อง การ
ทรัพยากรบุคคลของประเทศ ทั้งนี้ประเทศไทยสามารถนาพัฒนาการด้านการศึกษาของประเทศสิงคโปร์ มาเป็น
แนวทางปรบั ใชใ้ นเชงิ นโยบายได้ ดังน้ี

1) การเปลี่ยนค่านิยมทางการศกึ ษาโดยมุ่งเน้นการพัฒนาแรงงานหรอื ทุนมนุษยท์ ี่มคี ุณภาพในฐานะปัจเจก
บคุ คลทพ่ี ร้อมตอบสนองบริบทการพัฒนาและความท้าทายของประเทศ

กระทรวงศกึ ษาธกิ ารของสิงคโปรไ์ ด้พัฒนาระบบการศกึ ษาโดยม่งุ เน้นการตอบสนองการพฒั นาทางเศรษฐกิจ
จึงมีการวางนโยบายเพื่อพัฒนาแรงงานให้เป็นทุนมนุษย์ที่มีคุณภาพ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถตอบสนองต่อการ
เปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความเป็นปัจเจกและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนอย่างเต็มศักยภาพ
เนื่องจากมีแรงจงู ใจจากแนวคิด Meritocracy ซึ่งประเทศไทยสามารถพัฒนาแนวคดิ เชน่ นี้มาเปน็ แนวทางในการวาง
นโยบายการศึกษาทีม่ ุง่ เน้นการพฒั นาความเปน็ ปัจเจก การคดิ วิเคราะห์ การใชเ้ หตุผล และปรบั คา่ นยิ มทางการศึกษา
โดยเน้นให้เห็นถึงความสาคัญของการพัฒนาตนเองของปัจเจกบุคคล การศึกษาจึงไม่ใช่สัญลักษณ์แสดงชนชั้นหรือ
สถานะทางสังคม หากแต่เป็นเครื่องมือในการพฒั นาตนเอง เพื่อนาไปสู่โอกาสในการทางานและความเจริญก้าวหน้า
แบบย่งั ยนื

62

ประเทศสิงคโปร์ ระบุเป้าประสงค์หลักของการศึกษาแต่ละช่วงชั้น (The Key Stage Outcomes of
Education) ไว้ โดยเมื่อนักเรียนจบระดับประถมศึกษา ต้อง “รู้จักและรักประเทศสิงคโปร์” หลังจบการศึกษาใน
ระดับมัธยมศึกษาต้อง “เชื่อมั่นในสิงคโปร์และเข้าใจวา่ อะไรสาคญั ต่อประเทศ” และภายหลังจบระดับอุดมศึกษา
ต้อง “ภาคภูมิใจในความเปน็ สิงคโปรแ์ ละเข้าใจความสมั พันธข์ องสิงคโปร์กับโลก” ซึ่งสะทอ้ นให้เหน็ ถึงความพยายาม
ในการสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีความรู้และเข้าใจในอัตลักษณ์ของตน พร้อมไปกับการตระหนักถึงความสัมพันธ์ของ
ท้องถิ่นตนกับความเปน็ โลก ประเทศไทยสามารถนากระบวนทัศน์นี้มาปรับใช้ในการกาหนดผลลัพธท์ ่ีพึงประสงค์ของ
การศึกษาแตล่ ะช่วงชนั้ และวางแผนการสอนได้

2) ระบบการคดั สรรและสนบั สนนุ บคุ คลตามความสามารถ (Meritocracy)
หลกั การคัดสรรและพัฒนาบคุ คลตามความสามารถ (Meritocracy) เปน็ คณุ ค่าทีท่ าใหร้ ฐั บาลสงิ คโปร์ประสบ
ความสาเร็จในการสร้างแรงจงู ใจในการเรียน ทาใหผ้ ู้เรยี นร้สู ึกอยากพฒั นาตนเองให้มคี วามสามารถ เนื่องจากมองเห็น
ผลตอบแทนของการพัฒนาตนเองอย่างเป็นรูปธรรม แนวคิดนี้อยู่พื้นฐานความเชื่อว่าทุกคนจะได้รับโอกาสทาง
การศึกษาโดยทั่วถึง เนื่องจากเป็นระบบการคัดสรรตามความรู้และความสามารถที่ปราศจากอคติ ประเทศไทย
สามารถนาแนวคดิ น้มี าใชใ้ นการจดั การการศึกษา โดยเพิ่มทางเลือกในการเรียนตามความถนดั และความสามารถ และ
กระตุ้นภาคเศรษฐกิจเพื่อสร้างงานรองรับผู้สาเร็จการศึกษาทั้งในระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย อาชีวะศึกษา และ
อดุ มศกึ ษา จดั หลกั สูตรแยกตามความสามารถของผู้เรียน เพือ่ มงุ่ พัฒนาคณุ ภาพของผูส้ าเรจ็ การศกึ ษาได้เต็มศักยภาพ
มากยิง่ ขน้ึ
3) การพฒั นาสถาบนั อดุ มศกึ ษามุ่งสู่ระดบั สากล
ประเทศไทยสามารถนาสูตรสาเร็จของสงิ คโปร์ ทม่ี ี 3 องคป์ ระกอบ ได้แก่ การดงึ ดดู ผ้มู ีทักษะความสามารถ
เขา้ ส่กู ารเรยี นการสอนของสถาบนั การศกึ ษา, การพัฒนาหลักสูตรที่ท้าทาย และการสรา้ งทัศนคตแิ ละค่านยิ มเกี่ยวกับ
การศึกษา มาปรับใช้ในการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย โดยการสร้างความร่วมมือและดึง
สถาบันการศึกษาชั้นนาของโลกให้เข้ามาเปดิ หลกั สูตรในประเทศไทย วางแผนงบประมาณในการสนบั สนนุ บุคลากรใน
สถาบันการศึกษา เพิ่มอัตราคา่ จ้างเพื่อเป็นแรงจูงใจใหแ้ กผ่ ู้เชี่ยวชาญทั้งรชาวไทยและต่างชาติที่มีความสามารถโดด
เด่นหรือมีผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ จัดสรรทุนการศึกษาเพื่อดึงดูดนักศึกษาต่างชาติที่มีความสามารถโดดเด่น เพิ่ม
งบประมาณในการพัฒนาและจัดทาหลักสูตรสาขาใหม่ที่สอดคล้องกับแนวโน้มความสนใจและการพัฒนาเศรษฐกิจ
ของประเทศและโลก รวมไปถึงเน้นการสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ และเสริมสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียน โดยนา
แนวคดิ การพฒั นาผู้เรียนตามความสามารถมาเปน็ สว่ นหนึ่งในการสร้างแรงจูงใจในการศึกษา
4) การกาหนดนโยบายเพื่อผสานความหลากหลายของกลุ่มชาติพนั ธุ์ พหุวฒั นธรรม และระบบการศึกษาสองภาษา
ภาวะพหุวฒั นธรรม พหุภาษา และการจดั การความหลากหลายทางชาตพิ ันธ์ุของสิงคโปร์ นาไปสู่การจัดสรร
ทรัพยากรในการสรา้ งระบบการศึกษาท่เี ป็นหนง่ึ เดยี วของประเทศ ซงึ่ คือการศึกษาในระบบทวิภาษา การท่ีรัฐเล็งเห็น
ความสาคัญของภาษาอังกฤษในฐานะหนึ่งในห่วงโซ่สาคัญที่เชื่อมโยงผู้คนในสังคมพหุวัฒนธรรม รวมทั้งเป็น

63

“ทรพั ยากรทางเศรษฐกิจ” ทม่ี ีมลู คา่ สูงในเชงิ พาณชิ ยท์ ง้ั ในประเทศสงิ คโปรแ์ ละระดบั สากล ถอื เป็นมมุ มองท่ปี ระเทศ
ไทยสามารถนามาพิจารณาในการวางนโยบายสาหรับการพัฒนาการศึกษาวิชาภาษาองั กฤษ มงุ่ เนน้ การพัฒนาทักษะ
การใช้ภาษาและความรอบรู้ทางวัฒนธรรม เพื่อเป็นเครื่องมือที่สาคัญในการทางาน และเป็นช่องทางในการ
“เชอื่ มโยง” ความเปน็ ไทยกบั ความเปน็ สากล

การสอนสองภาษาของสิงคโปร์นับว่าเป็นนโยบายหนึ่งที่ประสบความสาเร็จในการทาให้พลเมืองสิงคโปร์มี
โอกาสทั้งด้านการศึกษา การทางาน และช่วยให้พลเมืองสิงคโปร์เข้าใจอัตลักษณ์วัฒนธรรมทีแ่ ตกต่างหลากหลาย มี
ทักษะในการสร้างปฏสิ ัมพันธ์กับคนที่มีวฒั นธรรมต่างจากตนเอง ซ่งึ ทกั ษะน้ีเปน็ ทกั ษะที่จาเปน็ มากต่อสังคมโลกาภิวัตน์
ผบู้ ริหารการศกึ ษาในประเทศไทยสามารถศึกษาแนวทางเพม่ิ เตมิ จากสงิ คโปร์ได้ ทง้ั ในแงข่ องการวางหลกั สตู ร การจัด
กิจกรรม และการบริหารจัดการให้สถานศึกษามีส่วนช่วยในการสร้างค่านิยมให้กับพลเมืองไทยที่จะยอมรับการอยู่
รว่ มกนั ในสงั คมพหวุ ฒั นธรรม

เพื่อตอบสนองต่อทิศทางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและกระแสธุรกิจโลก โดยมีแนวคิด “Singapore
Virtually Unlimited” เพ่อื สร้างสิงคโปรใ์ หเ้ ปน็ พืน้ ท่ีแห่งโอกาสอนั ไมสิ้นสดุ สาหรับภาคธรุ กิจและประชาชน เป็นหน่ึง
ในแนวคิดหลัก ผ่านการสร้างอาณาเขตเสมือนจรงิ (Virtual Frontiers) ให้สิงคโปรท์ ี่เชื่อมโยงกจิ กรรมด้านเศรษฐกิจ
กับท่วั โลก จึงทาให้เกดิ การจดั สภาพแวดลอ้ มแหง่ การเรยี นรู้ โดยได้มีแผนยุทธศาสตรใ์ นการพลกิ โฉมหอ้ งสมุดทั่วเกาะ
สิงคโปร์ เช่น ห้องสมุดจูร่ง ดังรายละเอียด ประวัติ คุณสมบัติเฉพาะ ประเภทของทรัพยากรในห้องสมุด และการ
ให้บริการ ดงั น้ี

Jurong Regional Library
ประวตั ิ
ห้องสมุดภูมิภาคจูร่งเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2547 โดยนายธารมาน ชันมูการัตน์

รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ห้องสมุดเปิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2531 โดยเป็น
ห้องสมุดชุมชนจรู ง่ ตะวนั ออก โดยนายโฮ กะเหลียง เลขาธกิ ารรัฐสภาอาวุโส (ฝ่ายสือ่ สารและสารสนเทศ) และสมาชิก
รัฐสภาในเขตเลือกตั้งจรู ง่ หลังจากการปรับปรุงใหม่เสร็จสิ้นในปี 2547 ได้มีการเปิดใหม่เป็นหอสมุดภูมิภาคจูร่ง เป็น
ห้องสมดุ ระดับภูมิภาคที่สามภายใต้เครือข่ายหอ้ งสมุดสาธารณะของคณะกรรมการหอสมุดแหง่ ชาติ หอ้ งสมุดมี 4 ช้ัน
และชน้ั ใต้ดนิ มพี นื้ ที่รวม 12,020 ตารางเมตร

คุณสมบัติเฉพาะ
Verging All Teens (VAT)

Jurong Regional Library เป็นห้องสมุดแห่งแรกในสิงคโปร์ที่ให้บริการห้องสมุด Teens โดย
เฉพาะท่เี รียกว่า 'Verging All Teens (VAT) ซึ่งเปน็ หอ้ งสมุดทีส่ ร้างขึน้ สาหรับวยั รนุ่ โดยวัยรนุ่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ

64

ให้กับวัยรุ่น VAT มีคอลเล็กชั่นการ์ตูนและนิยายภาพประเภทต่าง ๆ ท่ีแตกต่างกัน ยังมีการแสดงและเป็นเวทีเปิดเพื่อ
แสดงความสามารถของคนรุ่นเยาว์ต่อคนรอบข้าง

Early Literacy Library ห้องสมุด
Jurong Regional เป็นห้องสมุดแห่งแรกในสงิ คโปร์ที่มีห้องสมุด Early Literacy ห้องสมุดนี้รองรับ

กลุ่มอายุสองกลุ่ม: อายุต่ากว่า 3 ปี และ 4-6 ปี คอลเลกชันมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสาคัญที่มีความสาคัญต่อการเรียนรู้
และการพัฒนาของเด็ก หนังสือและสื่อโสตทัศน์มใี ห้บริการในภาษาทางการส่ภี าษา คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษา
มาเลย์ และทมฬิ

Make IT at Libraries
Make IT at Libraries เป็นพื้นที่สาหรับผู้สร้างฟรีสาหรับสาธารณะ ซึ่งช่วยให้ทุกคนได้เรียนรู้และ

ลองใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถทาให้ความคิดของคุณเป็นจริงได้ ใช้การพิมพ์ 3 มิติ การตัดแบบดิจิทัล หุ่นยนต์
และรูปแบบอืน่ ๆ ของการประดิษฐ์โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างรายการทีม่ ีความแม่นยาและซับซอ้ นด้วยคอมพิวเตอร์
ซึ่งอาจไมส่ ามารถทาได้ด้วยมอื Make IT มีสิ่งอานวยความสะดวกและคาแนะนาที่ครบถว้ นสาหรับทุกคนที่มาลองใช้
เทคโนโลยเี หลา่ น้ี ไม่จาเป็นตอ้ งมีความเช่ยี วชาญหรอื ประสบการณ์

Jurong Regional Library เปน็ หอ้ งสมุดประชาชนแหง่ ทีส่ ามทมี่ ีขนาดใหญ่ ตง้ั อยู่ในยา่ นธุรกิจอตุ สาหกรรม
ภาคตะวันออกของประเทศสงิ คโปร์ มี 4 ช้นั และช้นั ใตด้ นิ

บริเวณพื้นที่ให้บริการ ซึ่งแต่ละชั้นแบ่งแยกประเภทกลุ่มผู้เข้าใช้ห้องสมุดได้ชัดเจน ตามกลุ่มผู้ใช้
คือ Lifestyle Library, Adult, Teens Library และ Children Library ในแต่ละชั้นมีป้ายที่ตั้งอยู่ในห้องสมุดแบ่ง
สีสนั ตามพืน้ ทีช่ ้ันชัดเจน ยังมกี ารเรียงลาดบั ช้นั สือ่ สารให้เข้าใจได้ง่าย

ชั้นที่ 1 Lifestyle Library มี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสารมากมาย นิตยสาร ฟังเพลงมุมอาหารและ
เครื่องดืม่ (Cafe) ในชั้นนี้มีห้องท่ีใช้จดั กจิ กรรมพิเศษ ๆ ด้วย ในชั้นนี้มีบริการพืน้ ฐานท้ังหลายที่ห้องสมุดในประเทศ
สิงคโปร์ เพื่ออานวยความสะดวกแก่ประชาชน ใช้ชีวิตประจาวันแบบสบายๆ สไตล์ใครก็สไตล์คนนั้น อย่างเช่น
มี multi-operator roaming ,wireless ,broadband access, Multimedia Stations, Self-help kiosks

ชนั้ ที่ 2 Adults ประกอบดว้ ย บรกิ ารตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ บรกิ ารยืม-คนื ด้วยเคร่อื งยืม-คนื อัตโนมัติ เครอ่ื งสาหรับ
ตรวจสอบข้อมูล จ่ายค่าปรับ ค่าลงทะเบียนเป็นสมาชิก ยืมต่อและสารองหนังสือได้ด้วยตัวเอง มีบริเวณสาหรับจัด
แสดงหนังสือใหม่ที่น่าสนใจและอยู่ในความนิยม มีห้อง Quiet Reading Room สาหรับผู้ใช้บริการที่ต้องการความ
เงยี บ สงบ นั่งอา่ นแบบสบายๆ แถมดว้ ยจดุ พกั สายตานอกหนา้ ต่าง สิงคโปร์เนน้ ธรรมชาตทิ า่ มกลางอาคารบ้านเรอื น

ชั้นที่ 3 Reference Services ให้บริการข้อมูลเอกสารอ้างอิงต่าง ๆ ดังนั้นบริการที่อยู่คู่กันในชั้นนี้ก็คือ
บริการการถ่ายสาเนาเอกสาร บริการไมโครฟิล์ม บริการยืมระหว่างห้องสมุด บริการ document delivery และใน
ช้นั น้มี ีหอ้ ง Discussion Rooms ดว้ ย

65

ช้นั ที่ 4 Verging All Teens (V.A.T.) สาหรบั วยั รนุ่ วัยทนี (เยาวชน) มสี ิ่งทีว่ ยั รนุ่ ชอบครบไมว่ า่ จะเป็น สื่อ
ส่ิงพิมพ์ ส่ืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ทอ่ี ยูใ่ นความสนใจของวัยรุ่นสงิ คโปร์ การออกแบบสรา้ งสรรค์พืน้ ทใ่ี นช้ันนี้ ดาเนนิ การแบบ
เข้าไปนั่งในหัวใจเยาวชน เพราะอยา่ งน้ีเราจงึ ไมค่ ่อยพบเดก็ วยั รุ่นสงิ คโปร์ในศนู ยก์ ารค้า ในช้นั นี้สะดุดตาเวทียกพ้ืนรูป
วงกลม สาหรบั การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ดูในชน้ั นเ้ี ดก็ ๆ ใชบ้ รกิ ารเยอะมาก อยากนง่ั อย่างไรก็นัง่ ได้ตามอาเภอใจ อยาก
ขดู ขีด เขยี นอะไร ก็ทาได้ ในบรเิ วณทหี่ อ้ งสมุดจดั ให้ และบรกิ ารอาหาร เครอื่ งดื่มก็ยงั มใี หใ้ นชัน้ น้ีด้วย แตจ่ ะต้องเป็น
เคร่อื งดืม่ หรอื ขนมขบเคี้ยวทซี่ ื้อจากต้บู รกิ ารทหี่ ้องสมุดจัดให้เท่านนั้ และสุดทา้ ย

ชั้นใตด้ ิน สาหรบั เด็กเล็กและผปู้ กครอง มีกจิ กรรมทเี่ หมาะสมกบั เดก็ เล็กจัดข้นึ ในบริเวณที่เป็นเวที เชน่ การ
เล่านิทาน การแสดง การร้องเพลง เป็นต้น วันที่มาดูงานเป็นบ่ายวันธรรมดา เด็ก ๆ ที่เข้าใช้บริการที่เห็นเป็นเด็ก
นักเรยี นชัน้ ประถม

ประเภทของทรัพยากรในห้องสมดุ
-ส่งิ พิมพ์ จานวน 160,000 รายการ/จานวนตวั เล่ม 507,000 เล่ม
-นิตยสาร จานวน 12,000 เลม่
-สอื่ ไมโครฟิลม์ จานวน 22,000 รายการ
-หนงั สือพมิ พ์ จานวน 64 สานัก
-หนังสือสาหรับเด็ก จานวน 118,000 เลม่

การให้บริการ
- เป็นห้องสมุดสาหรับวัยรุ่น มีพื้นที่สาหรับจัดกิจกรรมการแสดงดนตรี เปิดบริการ 24 ชั่วโมง มีระบบห้องสมุด

อัตโนมตั ิ และระบบ multimedia ระบบชาระเงนิ และระบบคนื หนังสอื
- มีบริการให้คาปรกึ ษาและตอบคาถามกบั การให้บริการ
- ใหบ้ รกิ าร internet สาหรบั ผู้ใชบ้ รกิ าร
- มีทรัพยากรสาหรับเดก็ พเิ ศษ
- มพี น้ื ที่สาหรับใหน้ ั่งทางานเป็นห้องแยกเฉพาะ
- พ้ืนท่ีทีจ่ ัดแสดงในทุกสว่ นงาน จะมขี อ้ มูลเก่ียวกบั นโยบายใหม่ ๆ ของรฐั บาลทจี่ ะดาเนินการพฒั นา ให้กับผู้

ทีม่ าใชบ้ ริการท่สี ามารถจะมาศกึ ษาหรอื เรียนรู้ไดต้ ลอดเวลา ซงึ่ ขอ้ มลู จะเปลี่ยนไปตามนโยบายใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา

66

จากการศึกษาข้อมูล ทาให้ทราบว่าในการบริหารจัดการห้องสมุดของสิงคโปร์ ได้นาเอาเทคโนโลยี มาเป็น
เครื่องมือในการจัดการทรัพยากรของห้องสมุด จึงทาให้มีจานวนบุคลากรที่คอยให้บริการมีจานวนน้อย ไม่จาเป็นต้องใช้
บคุ ลากรจานวนมาก โดยมีการปลดพนักงานประจาด้วยผชู้ ่วยหนุ่ ยนต์ พนกั งานไมจ่ าเปน็ ต้องเสียเวลาหลายชั่วโมงในการ
อา่ นหมายเลขโทรศพั ท์ทลี ะเลม่ เพื่อระบหุ นงั สือแต่ละเล่มบนชั้นวางอกี ต่อไป ชว่ ยลดเวลาและความเส่ียงดา้ นสุขภาพท่ี
เกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้แรงงานมาก “บรรณารักษ์สามารถมุ่งความสนใจไปที่งานอ่ืน ๆ ได้ แล้วการอ่านยังคงเป็น
หัวใจหลักของเรา ดังนั้น ถ้าหุ่นยนต์ช่วยงานที่ทาด้วยตัวเองทั้งหมดได้ พนักงานสามารถมีเวลาอ่านหนังสือ แนะนา
หนงั สอื และติดต่อกับลูกค้าได้มากขึ้น”

จากรายงานการศึกษาดูงานและปฏิบัติภารกิจ ภายใต้แผนการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว
ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 พบว่าจานวนสมาชกิ ห้องสมดุ ราว 2 ล้านคนจากประชากรทั้งหมดประมาณ 5.2 ล้าน
หรือเกือบร้อยละ 40 ของประชากรทัง้ หมด ประเทศสิงคโปร์จึงเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ประชาชนรักการอ่านมากท่สี ุด
แห่งหนึ่งของโลก จึงไม่น่าแปลกใจว่าทาไมประเทศสิงคโปร์จึงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาในทุกด้านอย่างไม่
หยดุ ยัง้ หน่งึ ในปรัชญาการบริการของผนู้ า NLB สะทอ้ นถึงแนวทางการขับเคลื่อนองค์กรแหง่ ความรแู้ ห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
นั่นก็คือ ความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม และความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ต้องไม่เป็น
อปุ สรรคในการเรียนรขู้ องคนสิงคโปร์ทุกคน การคิดคน้ เคร่ืองมอื ใหก้ ้าวยุคสมัยจึงเปน็ สิง่ ที่สาคญั มาก แต่ก็มิได้ละเลย
การเผยแพร่ความรู้ในรูปแบบเดิม เครื่องมือในการเรียนรู้จากห้องสมุดของสิงคโปร์จึงเปิดกว้างสาหรับทุกคน ไม่ว่า
ผู้ใช้บริการจะมีเชื้อชาติใด ใช้ภาษาใด และอายุที่แตกต่างกันหลายช่วงอายุ องค์กรก็จะมีเครื่องมือที่สอดคล้อง
ปัจจยั พนื้ ฐานเหลา่ นนั้ อย่างเทา่ เทยี ม การนาเอาเทคโนโลยีเขา้ มาใชใ้ นหอ้ งสมุดของสิงคโปร์ ทาเพื่อจุดประสงค์หลัก 3
ประการ คือ

1. การเผยแพรห่ รือปลดลอ็ คการเขา้ ถึงขอ้ มลู ทเ่ี ป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะของประเทศสิงคโปร์สู่โลกภายนอก
2. การพฒั นารูปแบบขอ้ มูลให้เกิดประโยชน์ต่อการคน้ หาผา่ น Search Engine และการทา Data Mining
3. การเขา้ ถงึ กลุม่ ผใู้ ช้รุ่นใหมโ่ ดยใชเ้ คร่ืองมอื การส่ือสารยคุ ใหม่เปน็ ตัวกลาง

67
ตวั อย่างการใชเ้ ทคโนโลยใี นห้องสมดุ

อุโมงคเ์ สียง
สื่อการเรียนรู้ในรูปแบบภาพและเสียงที่สามารถให้ข้อมูลแก่ผู้รับบริการตามภาษาที่ต้องการรับฟัง

ตามตาแหน่งที่ยืนด้วยเทคโนโลยีการ ส่งสัญญาณเสียงแบบ แม่นยาเฉพาะจุดทาให้การชมวีดิทัศน์ในห้องเดียวกัน
สามารถรับฟัง การบรรยายด้วยภาษาที่แตกต่างกนั เม่ืออยู่ในตาแหนง่ ที่แตกต่างกันเพียงไมก่ ่ีเซนติเมตร ขณะเดียวกัน
ผูท้ ีอ่ ยูน่ อก นอกพื้นทีส่ ่งสัญญาณเสยี งก็จะไมม่ เี สียงรบกวนใด ๆ

ระบบยืมอัจฉรยิ ะ
ผู้รับบริการที่มีบัตรสมาชิกสามารถหยิบหนังสือจากชัน้ แล้วทาการยืมได้ด้วยตนเอง โดยวางหนงั สอื

บนเครื่องยืม หนังสือพร้อมกันสูงสุด 6 เล่ม ระบบจะทากระบวนการยืมให้เสร็จภายในไม่กี่วินาที โดยหลังจาก
กระบวนการเสรจ็ สน้ิ ผูร้ บั บริการจะไดร้ บั แจ้งทางใบแจ้งและทางสมาร์ทโฟน แล้วสามารถเดินออกจากหอ้ งสมุดโดยไม่
จาเป็นตอ้ งทารายการกบั เจา้ หน้าท่หี ้องสมดุ

68
ตู้คนื หนังสือ 24 ชวั่ โมง

ผู้ยืมหนังสือสามารถส่งคืนหนังสือผ่าน Book Drop ตลอด 24 ชั่วโมง ในสถานที่ที่ได้มีการติดตั้ง
Book Drop โดย ไมจ่ าเปน็ ต้องคนื ท่ีห้องสมดุ ต้นทางท่ไี ดท้ าการยืม

บรกิ ารหอ้ งสมดุ ผ่าน KIOSK
ผู้รับบริการสามารถรับบริการข้อมูลผ่าน KIOSK ซึ่งติดตั้งกระจายอยู่มากกว่า 750 เครื่อง ทั่วทั้ง

ประเทศสิงคโปร์ โดยแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ Multimedia stations, OPAC Station, Self-checkout stations
และ Self service kiosks คุณลกั ษณะเดน่ ของ KIOSK

69
• สมัครสมาชิก และบรหิ ารจัดการข้อมูลสมาชกิ
• ตรวจสอบรายการหนงั สอื ค้างสง่
• ชาระคา่ บรหิ าร เชน่ คา่ สมาชิก ค่าธรรมเนยี มเมือ่ ยืมเกนิ กาหนด
• ค้นหาหนงั สือ และกจิ กรรมของแต่ละสาขา
• บริการแจ้งยืมต่างสาขาได้ โดยระบุสาขาที่ต้องการรับหนังสือ ซึ่งผู้ยืมจะได้รับหนังสือที่สาขาที่ตนระบุ
ภายใน 6 ช่วั โมง
• และคณุ สมบัตอิ ื่น ๆ ข้ึนอยกู่ บั ประเภทของ Kiosk
E-Books

e-book เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สร้างการเข้าถึงของหนังสือในรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือ
ตอบสนองความ ต้องการแก่สมาชิก ที่มีความประสงค์ยืมหนังสือ และอ่านผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตน เช่น
คอมพวิ เตอร์ สว่ นบุคคล แท็บเลต็ สมารท์ โฟน หรืออปุ กรณอ์ า่ น e-book อนื่ ๆ ตามสมัยนิยมได้อยา่ งทั่วถึง

ระบบยมื หนังสอื อัตโนมัติ The Book Dispenser

70

ห้องสมุดโซนสาหรบั เด็ก
สาหรบั พน้ื ที่ห้องสมุดโซนสาหรับเด็ก ไดม้ กี ารจดั กิจกรรมส่ือต่าง ๆ เชน่ หนังสือเสยี ง การตอ่ ภาพ มีพืน้ ท่ี

สาหรับผู้ปกครองท่ีจะได้อยกู่ ับเดก็ ๆ มีการจดั ตู้การเรยี นรู้สาหรับเดก็ ๆ

หอ้ งสมดุ โซนสาหรบั ผู้ใหญ่
สาหรับพืน้ ท่ีห้องสมุดโซนผใู้ หญ่ ได้จัดใหม้ พี ืน้ ท่ีสาหรับการใหบ้ รกิ ารท่ีทันสมยั อปุ กรณค์ รบครนั การจัดพื้นที่

ท่สี ะอาด เรยี บง่าย เพื่อช่วยสง่ เสริมการเรยี นรู้

71

จากการศึกษาข้อมลู ดา้ นการพัฒนาการศึกษาและการจัดการความรูข้ องประเทศสิงคโปร์ ทาให้ได้ทราบ
ถึงการพัฒนาด้านการศึกษาที่ได้นาเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการเป็นเครื่องมือสาหรับการเชื่อมต่อระหว่างคน
การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม นาไปสู่การเป็นประเทศที่มีการพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและเป็นผู้นาด้านการศึกษา
อันดับต้น ๆ ของโลกได้ ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม ที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีการโทรคมนาคมที่ดี
ที่สุดในระดับแนวหน้าของโลก มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วมาก ด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้ประเทศเป็นศูนย์กลางใน
ด้าน e-commerce โดยพยายามทจี่ ะใหร้ ะบบการติดตอ่ ส่ือสารเข้าถึงทกุ ท่ใี นประเทศ

ในเดือนตุลาคม 2556 หน่วยงาน Infocomm Development Authority of Singapore (IDA) และ
หน่วยงาน Media Development Authority of Singapore (MDA) ได้รับการปรับโครงสร้างใหม่เพื่อจัดตั้งเป็น
หนว่ ยงาน Government Technology Agency (GovTech) และ Info-communications Media Development
Authority of Singapore (IMDA) ตามลาดบั โดย GovTech ทางานร่วมกบั หน่วยงานของรฐั เพื่อพฒั นาและนาเสนอ
บริการดิจิตอลที่ปลอดภัยและการใช้เทคโนโลยสี าหรับบุคคลและธุรกิจในสิงคโปร์ เพื่อสนับสนุนประเทศสิงคโปร์ใน
ฐานะ Smart Nation เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) และวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น Internet of
Things ในขณะท่ี IMDA จะพัฒนาอตุ สาหกรรมส่อื ที่ขบั เคล่อื นเศรษฐกิจ เชอื่ มโยงผ้คู น ชมุ ชน และความเป็นสมาร์ท
เนชั่นของสิงคโปร์ โดย IMDA จะพัฒนาความสามารถทางธุรกิจและเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ICT และสื่อของ
สิงคโปร์ ควบคุมภาคโทรคมนาคม และสื่อเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภค ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้เกิด
สภาพแวดล้อมทางธรุ กิจทีด่ ี เพ่มิ ระบบการปกปอ้ งข้อมลู ของสิงคโปร์ ผ่านทางคณะกรรมการค้มุ ครองขอ้ มูลส่วนบคุ คล

บริษัทชั้นนาที่ให้บริการด้านการสื่อสารในสิงคโปร์มี 3 บริษัท คือ Singtel, Starhub และ M1 ตามลาดับ
การให้บริการทั้งในระบบเสยี ง ข้อมูล และวิดีโอ มีเครือข่ายในระบบดิจติ อลทีท่ ันสมัยและเต็มรูปแบบ โดยการขยาย
ความกวา้ งของแถบคลนื่ ความถี่ท่ีใชใ้ นการส่ือสาร (bandwidth) ในระบบใชส้ ายและไรส้ ายเพ่ือเพิ่มความเร็วในระบบ
เสียงและข้อมูลทางอินเตอร์เนต มีโครงข่ายใยแก้วนาแสง (Fiber optics) ที่เป็น nation-wide ultra-high speed
และมีระบบ SmartPipe ซึ่งเป็นการรวมกันของ high-speed broadband internet, crystal-clear voice และ
เนอ้ื หาของโทรทัศนเ์ ขา้ ไวด้ ว้ ยกนั ทั้งหมดในชว่ งเวลาเดยี วกนั ซึ่งจะทาใหก้ ารเชื่อมโลกธรุ กิจสะดวกและง่ายข้นึ

แผนการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์
พัฒนาการสาคัญด้านนโยบายและแผนวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมของสิงคโปร์ สิงคโปร์ได้จัดตั้งคณะกรรมการ
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ (National Science and Technology Board – NSTB) และจดั ทา
แผนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ ระยะ 5 ปี ฉบับแรก เมื่อปี 2534 (ค.ศ. 1991) โดยใช้ชื่อว่า
National Technology Plan 19951 เพ่ือส่งเสรมิ การวิจยั และพฒั นา ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมให้
สอดคล้องกับห่วงโซ่มลู คา่ เศรษฐกจิ โลกทีข่ ยายตวั อย่างรวดเรว็ และการพฒั นาบคุ ลากรทงั้ นักวิทยาศาสตร์ วศิ วกร นัก
เทคโนโลยี เพอื่ ชว่ ยขับเคลือ่ นเศรษฐกจิ และการเปลีย่ นแปลงของภาคธรุ กจิ ในสิงคโปร์

72

แผนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมฉบับที่ 2 – 4 ใช้ชื่อวา่ Science and Technology Plan (2000
2005 และ 2010) ต่อมาเมือ่ ปี 2553 สิงคโปร์ได้เปลี่ยนชอื่ เปน็ แผนวิจัย นวตั กรรม และธรุ กิจ (Research, Innovation
and Enterprise – RIE) และจดั ตั้งสถาบันการวิจัยแห่งชาติ (National Research Foundation – NRF) ข้นึ ตรงตอ่ สานัก
นายกรฐั มนตรีของสงิ คโปรร์ วมทง้ั จัดทาโครงการวิจัยเชงิ ยทุ ธศาสตร์ ด้านสงิ่ แวดลอ้ ม เทคโนโลยีทางนา้ และส่ือดิจิทัล
แบบตอบโต้ ซ่งึ แผน RIE 2015 ได้รวมยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมด้านการพาณิชย์เพื่อส่งเสริมศักยภาพของภาคธุรกิจ
และผปู้ ระกอบการด้วย รวมถึงการส่งเสริมการวิจัยเทคโนโลยี ท่ีสาคัญยง่ิ ในขณะนัน้ ได้แก่ ความมั่นคงปลอดภัยทาง
ไซเบอร์และประเดน็ ด้านอาหาร

นอกจาก NRF ซ่งึ เป็นหนว่ ยงานดา้ นนโยบายแลว้ สิงคโปร์ยงั มหี น่วยงานที่ชว่ ยขับเคล่ือนการวิจัยและพัฒนา
ทางวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมที่สาคัญ ได้แก่ Agency for Science, Technology and Research (A*STAR) ศูนย์
วิชาการด้านการแพทย์และโรงพยาบาลต่าง ๆ รวมถึง The Campus of Research Excellence and
Technological Enterprise (CREATE) ตามมหาวิทยาลัยช้ันนาซึ่งมีความร่วมมือกับสถาบันในต่างประเทศ ทั้งยังได้
จัดตั้งห้องทดลองและศูนย์วิจัยเพื่อรองรับแผน RIE อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึง St John’s Island National Marine
Laboratory และNational Supercomputing Centre และมุ่งพัฒนาบุคลากรในสาขาใหม่ ๆ ได้แก่ เทคโนโลยีควอนตัม
ศูนย์วิจัยโรคต้อหินและเรตินา วัสดุสองมิติ และโฟโทนิกส์ รวมถึงการส่งเสริมการตีพิมพ์ผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี และนวัตกรรม ระดับนานาชาติ

แผน RIE 2025 (ฉบับปัจจบุ ัน)
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2563 นาย Heng Swee Keat รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังของ
สิงคโปร์ และประธาน NRF แถลงว่า ที่ประชุมสภาวิจัย นวัตกรรม และธุรกิจ (RIE Council) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็น
ประธาน ได้อนุมัติงบประมาณ 25,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 1% ของ GDP ต่อปี ในการลงทุนด้าน
วทิ ยาศาสตรว์ จิ ยั และนวัตกรรมตามแผน RIE 2025 (ปี 2564 – 2568)
ที่ประชุมสภา RIE (ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี และผู้นาด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม และ
ธรุ กจิ ) เห็นพ้องวา่ ในชว่ ง 30 ปีทีผ่ า่ นมา (ตั้งแตเ่ รม่ิ แผนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรม ฉบบั ที่ 1) การลงทุน
ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม มีส่วนสาคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศของสิงคโปร์ ความก้าวหน้าด้าน
วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ของสถาบันวจิ ัยและศูนย์การแพทยข์ องสิงคโปร์ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และ
กาลังมุ่งสู่ความเป็นเลิศในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อภาคธุรกิจ รวมถึงการวิจัยและพัฒนาด้านการแพทย์และ
สาธารณสขุ เพ่อื รับมอื กับความทา้ ทายของโลก เช่น การแพร่ระบาดของโควิด-19 และโรคระบาดคร้ังใหมใ่ นอนาคต
แผน RIE 2025 ฉบับนี้จะต่อยอดการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อเสริมสร้าง
ศกั ยภาพทางเศรษฐกิจของสงิ คโปร์ ให้สอดคลอ้ งกบั ความเปลีย่ นแปลงของเศรษฐกจิ โลก และสะทอ้ นความมุ่งมั่นของ
รัฐบาลสงิ คโปรใ์ นการวจิ ัยและพัฒนาดา้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และธุรกจิ อย่างตอ่ เนอื่ ง โดยมีสาขา
เป้าหมาย ดังนี้

73

(1) การผลิต การค้า และความเชื่อมโยง (Manufacturing, Trade and Connectivity) โดย
ขยายศักยภาพของภาคการผลิตไปยงั ภาคการค้าและการสร้างความเชื่อมโยง เช่น การบิน การขนส่งทางทะเล โลจิ
สตกิ ส์ และการค้าส่ง

(2) สุขภาพและศักยภาพของมนุษย์ (Human health and Potential) รัฐบาลสิงคโปร์เหน็ วา่
การพัฒนาสุขภาพและสาธารณสุขจะช่วยพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ด้วย โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาสุขภาพในช่วง
ต้ังครรภ์และเดก็ ปฐมวยั การเพม่ิ ผลลพั ธ์ในการเรียนรู้ และการสร้างภาวะอายุยนื อยา่ งแข็งแรงและมีคุณคา่

(3) การพัฒนาเมืองและความยั่งยืน (Urban Solutions and Sustainability) เพื่อตอบโจทย์
ความท้าทายใหม่ ๆ โดยเฉพาะด้านความยั่งยืนและความยดื หยุ่น ซึ่งรวมถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การลดการปล่อยคาร์บอน การสร้างเมืองสุขภาพ และการเปลยี่ นแปลงสภาพแวดล้อมทเี่ ปน็ อยู่ให้ดขี นึ้

(4) ชาติอัจฉริยะและเศรษฐกิจดิจิทัล (Smart Nation and Digital Economy) เป็นวาระ
แห่งชาติที่นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ให้ความสาคัญ โดยส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อพฒั นาบริการ
ภาครัฐ การสร้างและปรับปรุงพื้นที่ดิจิทัลสาหรับภาคเอกชน รวมถึงการส่งเสริมบทบาทของสิงคโปร์ในการเป็น
ศูนยก์ ลางดา้ นนวตั กรรมดจิ ิทลั ของภมู ภิ าค

นอกจากนี้ RIE 2025 ยังตั้งเป้าหมายที่จะสนับสนุนการสร้างผลงานวิจัยและวชิ าการระดับโลก การส่งเสริม
การสร้างบุคลากรด้านวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ให้เพียงพอต่อความต้องการ ทั้งในภาครฐั และเอกชน
และการสนับสนุนเงินทุนการวิจัยแก่ภาคเอกชนหรือบุคคลเพื่อสร้างสรรค์งานวิจัย (bottom-up research ideas)
โดยเฉพาะการวิจัยแบบสหสาขาวิชาในด้านใหม่ ๆ เช่น วัสดุสารสนเทศ ( materials informatics) นาโน
อิเล็กทรอนิกส์ (nanoelectronics) และโภชนพันธศุ าสตรเ์ หนอื ยนี ส์ (nutri-epigenetics)

จากข้อมูลที่ได้ศึกษาในเรื่องของแผนการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อเสริมสร้าง
ศกั ยภาพทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ เพือ่ ให้ทงั้ ชาวสิงคโปรแ์ ละชาวต่างชาติลงทนุ ทาธรุ กิจในสิงคโปร์เพิ่มขึ้น ส่ิงหน่ึงท่ี
ไดจ้ ากการเรียนรู้ คือการบริหารจดั การเรือ่ งน้า จากขอ้ มูลจากองคก์ ารสหประชาชาติ (UN) ประเมนิ วา่ 80% ของน้า
เสียจากทว่ั โลก จะไหลกลบั ส่รู ะบบนเิ วศ โดยไม่ไดร้ บั การบาบัดหรือถกู นากลบั มาใชอ้ ีก โดยน้าเสียเหลา่ น้ันจะไหลลงสู่
แมน่ ้า ลาคลอง และทะเล ทาใหเ้ กิดมลพิษทางน้า ทมี่ ผี ลตอ่ การอุปโภคบริโภคของคน และสิง่ มชี ีวิตอื่น ๆ ด้วยเหตุน้ี
รัฐบาลสิงคโปร์ จึงตัดสินใจเริ่มต้นโครงการพัฒนาระบบบาบัดน้าเสียผ่านการใช้นวัตกรรม ด้วยความหวังที่จะเพ่ิม
ความสามารถในการพึ่งพาตนเองใหม้ ากขน้ึ สิงคโปรบ์ ขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาต และมพี ื้นทจ่ี ากัด โดยสิงคโปร์ มี
ชอ่ งทางการบริหารจัดการนา้ หลัก เช่น การนาเขา้ นา การกักเก็บน้าไวใ้ นอ่างเก็บน้าและกระบวนการแยกเกลอื ออกาก
น้าทะเล และกาลงั จะเพมิ่ “การนากลบั มาใชใ้ หม่ทีไ่ ม่มวี ันสนิ้ สุด” หรอื การรไี ซเคลิ นา้ เขา้ ไปเป็นอีก 1 ในยุทธศาสตร์
จึงเป็นทีม่ าของการถอดบทเรยี นความสาเร็จสิงคโปร์ จากประเทศขาดแคลนนา้ สู่ผนู้ าระดบั โลกดา้ นบรหิ ารจัดการน้า

“แหล่งน้าจืด” เป็นหัวข้อที่มีการหารือกันอย่างเข้มข้นในเวทีระดับโลก และเป็นความกังวลของทั่วโลก
รายงาน “Global Water Crisis: The Facts” ในปี 2560 จาก United Nations University Institute for Water,

74

Environment and Health, Hamilton, Canada ได้จากการรวบรวมผลการศึกษาและสถิติด้านน้าเกือบ 100 ช้ิน
ระบุวา่ แมว้ า่ น้าจะปกคลมุ โลกกวา่ 70% ของพน้ื ท่ี แต่แนวคิดท่วี า่ น้ามมี ากมายถือเปน็ ความเขา้ ใจผิดอย่างมาก แท้ที่
จริงแล้วมีเพียง 2.5% ของปริมาณน้าในโลกที่เป็นน้าจืด และจากปริมาณน้าจืดที่จากัดนี้ ภายในปี 2593 หรืออีก
30 ปีข้างหน้า ประชากรโลกกว่า 3,900 ลา้ นคนจากประชากรท่ีคาดว่าจะสงู ถงึ 9,700 ลา้ นคน หรือคิดเป็นประมาณ
40% จะตอ้ งใช้ชวี ิตลมุ่ นา้ ท่สี ุ่มเสี่ยงจะไมม่ นี า้ จืดใช้อยา่ งเพยี งพอ

หลายประเทศในหลายภมู ิภาคท่ัวโลกเริ่มประสบวิกฤติน้า หลายประเทศเร่ิมประสบปัญหาขาดแคลนน้า แต่
ไม่ใช่ที่สิงคโปร์ ประเทศที่เคยมีปัญหาขาดแคลนน้ามากที่สุดในโลก จนต้องซื้อน้าจากมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้าน
สงิ คโปรม์ กี ารวางแผนพัฒนานวัตกรรมระบบบริหารจัดการนา้ ที่มีประสิทธิภาพจนกลายเปน็ ผนู้ าในอาเซียน ในเอเชีย
และในระดับโลกด้านการวจิ ัยน้า

รฐั บาลสิงคโปรใ์ ห้ความสาคัญกับปญั หาน้ีเปน็ อยา่ งมากเพราะเป็นปัญหาอ่อนไหวต่อความม่นั คงของประเทศ
เพราะสัญญาซ้ือน้าจากมาเลเซียฉบบั ที่ 2 ตั้งแต่ปี 1962 จะสิ้นสุดลงปี 2061 ซึ่งในสัญญาฉบบั นี้สิงคโปร์สามารถขน
น้าจากอ่างเก็บน้ายะโฮร์ ลิงกี มาเลเซียได้วันละ 1,100,100 ลูกบาศก์เมตร ก่อนหน้านี้สิงคโปรท์ าสัญญาซื้อขายน้า
จากมาเลเซียในราคาถกู เป็นเวลายาวนานมาแล้ว 1 ฉบบั ปี 1961 ถงึ ปี 2011

สิงคโปร์จึงต้องหาวิธีจัดการน้าอยา่ งครบวงจรและเป็นรูปธรรม จนกระทั่งปัจจุบันสิงค์โปร์ได้ก้าวขึ้นมาเป็น
หน่งึ ในผู้นาดา้ นการจดั การน้าของโลก เหน็ ได้ชัดเจนจากปจั จุบันทส่ี ิงคโปร์ขายน้าประปาที่ผลติ จากน้าดิบจากมาเลเซีย
กลับไปยงั มาเลเซยี และขนนา้ จากมาเลเซยี เพียงวนั ละ 60% ของความต้องการน้าใช้ในน้าแตล่ ะวันในสิงคโปร์

หน่ึงในเหตผุ ลหลักท่ที าให้สงิ คโปร์ประสบความสาเร็จในการจัดการทรัพยากรน้าคือมุ่งเนน้ การจัดการอุปสงค์
และอปุ ทานของน้าไปพรอ้ มกนั

องค์กรมปี ระสทิ ธภิ าพครอบคลมุ ปัญหาและไมท่ ับซ้อน
สิงคโปรม์ กี ารจัดการนา้ ท้งิ และนา้ ฝนดว้ ยองคก์ รทีม่ ีประสิทธภิ าพประกอบกับสภาพแวดลอ้ มทเี่ อื้ออานวยด้วย
เจตนารมณ์ทางการเมืองที่เข้มแข็ง กฎหมาย และกฎระเบียบท่ีมีประสิทธิภาพ อีกทั้งแรงงานท่ีมีประสบการณ์และมี
แรงกระต้นุ
การบริหารน้าทั้งหมดของสิงคโปร์ขึ้นอยู่กับ คณะกรรมการสาธารณูปโภคสาธารณะ (PUB) ซึ่งเป็น
องค์กรภาครัฐท่เี คยมภี าระหน้าท่บี ริหารจัดการน้าดมื่ ไฟฟ้า และก๊าซ จนกระทั่งปี 2001 กระทรวงส่ิงแวดล้อมได้
เพิ่มภาระหนา้ ท่ขี อง PUB ให้ครอบคลมุ การบรหิ ารจัดการระบบทอ่ ระบายนา้ และนา้
ทัง้ นี้สิงคโปร์เปน็ ประเทศทม่ี นี า้ สูญหายไปจากระบบน้อยมากเพียงแค่ 4.5% เท่านัน้ ซงึ่ เป็นจานวนทีน่ ้อยที่สุด
ในโลก ในขณะทปี่ ระเทศเพอ่ื นบ้านในอาเซยี นมีน้าสูญหายจากระบบถงึ 40-60% จากความครอบคลุมน้ที าใหส้ ามารถ
พัฒนาและใช้นโยบายแบบองค์รวม ประกอบด้วยการปกป้องและขยายแหล่งน้าได้แก่ การกักเก็บน้า อุปสงค์ในน้า

75

การบริหารจัดการน้าฝนและนา้ ทิ้ง การสลายความเค็มของน้า การให้การศึกษาเกี่ยวกับนา้ และโครงการเพื่อความ
ตระหนักเก่ยี วกับนา้

ในปัจจุบัน PUB มีศนู ยข์ องตนเองสาหรับเทคโนโลยีเก่ียวกบั น้าที่กา้ วหนา้ พรอ้ มดว้ ยเจ้าหนา้ ทีผ่ ู้เชยี่ วชาญ 50
คน ท่พี รอ้ มใหง้ านวิจัยทีจ่ าเป็นและการสนับสนนุ เกีย่ วกบั การพัฒนา

ในด้านของบุคลากร PUB เป็นองคก์ รท่ีให้เงินเดือนสูงและมีสวสั ดิการที่ตอบโจทยก์ บั สภาพตลาดแรงงานจึง
สามารถดงึ ดูดบุคลากรทม่ี ีความสามารถเขา้ มาทางานได้ ประกอบกบั การทางานที่โปรง่ ใสปราศจากทจุ ริตอันเป็นแบบ
ฉบบั ของสิงคโปร์ก็ย่งิ ทาใหอ้ งคก์ รนม้ี ปี ระสิทธิภาพยิ่งข้ึน

76

เอกสารอ้างอิง

การบรหิ ารจดั การนา้ ในสงิ คโปร.์ (อ้างเมื่อ 6 กรกฎาคม 2565). จาก
https://rdi.pwa.co.th/images/team/dsm/KMDSM/2.pdf

การบาบัดน้า Ultraviolet คืออะไร? http://m.th.allight-zd.com/info/what-is-ultraviolet-water-treatment-
30147118.html

การพัฒนาประเทศสงิ คโปร.์ (อา้ งเมือ่ 5 กรกฎาคม 2565). จาก
https://researchcafe.org/development-education-in-singapore/

แนวทาง 5 ประการ ในการสรา้ งสิงคโปร์ใหเ้ ป็นประเทศได้ไรข้ ีดจากัด (Virtually Unlimited Singapore).
(อา้ งเมือ่ 4 กรกฎาคม 2565). จาก https://globthailand.com/singapore-270521/

เปดิ แผนยทุ ธศาสตร์ 15 ปี ภารกิจพลกิ โฉมห้องสมดุ ท่ัวเกาะสิงคโปร์. (อ้างเมือ่ 5 กรกฎาคม 2565). จาก
https://www.thekommon.co/the-remaking-of-singapores-public-libraries/

แผนสิงคโปรส์ ีเขยี ว (SGP) 2030 - ศูนยข์ อ้ มลู เพื่อธรุ กิจไทยในสิงคโปร์ (สถานเอกอคั รราชทูต ณ สงิ คโปร์)
(thaibizsingapore.com), Google

พธิ ุวรรณ กิติคณุ . ลกี วน ยู : ความสาเร็จของการสรา้ งชาตดิ ว้ ยการเมือง (อ้างเมอ่ื 5 กรกฎาคม 2565). จาก
https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_dl_link.php?nid=29610

มณฑมาศ สวัสดิ์ธนาคูณ และคณะ. (2564). พัฒนาการของการวางผังเมืองใหม่ในประเทศสิงคโปร์,วารสาร
อิเลก็ ทรอนิกสส์ าระศาสตร์ ฉบบั ที่ 2 หน้า 476

เมือ่ ทรัพยากรท่มี ีอย่างจากดั คือคณุ คา่ ทีน่ าไปสู่ความยั่งยืน. (อ้างเม่อื 6 กรกฎาคม 2565). จาก
https://thematter.co/brandedcontent/stb-urban-solution-07/72624

รายงานการศกึ ษาดงู านและปฏิบัตภิ ารกิจ ภายใต้แผนการเดนิ ทางไปราชการต่างประเทศชัว่ คราว ประจาปี
งบประมาณ พ.ศ. 2556. (อ้างเมื่อ 5 กรกฎาคม 2565). จาก
https://www.ocsc.go.th/sites/default/files/attachment/page/report_singapore.pdf

วารสารเอเชยี ตะวนั ออกและอาเซียนศกึ ษา (อ้างเมื่อ 6 กรกฎาคม 2565). จาก https://so01.tci-
thaijo.org/index.php/eascramJ/article/view/249821/169952

ศุภวิชญ์ สันทัดการ. Singapore’s Strategy: ทัศนคติสากลของสิงคโปร์ในโลกที่ไม่ได้มีเราเพียงลาพัง (อ้างเมื่อ 5
กรกฎาคม 2565). จาก https://waymagazine.org/singapores-strategy/

สถาบันนโยบายการศึกษา. ยอดคนอาเซยี น : ลี กวน ยู แห่งสงิ คโปร์ (อา้ งเม่ือ 5 กรกฎาคม 2565). จาก
https://www.fpps.or.th/news.php?detail=n1408395388.news

77

หลักการทางานของเคร่ืองกรองนา้ ระบบ RO มกี ารทาอย่างไรบา้ ง https://www.mittwater.com/how-work-ro-
system/

ห้องสมดุ ภมู ิภาคจูร่ง. (อา้ งเมอื่ 5 กรกฎาคม 2565). จาก https://www-nlb-gov-
sg.translate.goog/VisitUs/BranchDetails/tabid/140/bid/338/Default.aspx?branch=Jur
ong+Regional+Library&_x_tr_sl=en&_x_tr_tl=th&_x_tr_hl=th&_x_tr_pto=sc

อภญิ ญา เจรญิ ฉ่า. การวางแผนยุทธศาสตรก์ ับการพัฒนาคนเพอื่ พฒั นาชาติ: หัวใจของการพฒั นาอยา่ งยั่งยืน
(อ้างเม่ือ 5 กรกฎาคม 2565). จาก
https://thailand.opendevelopmentmekong.net/th/topics/sustainable-development-goals/

GotoKnow. ที่นี่คือ Jurong Regional Library (JRL). (อ้างเม่อื 5 กรกฎาคม 2565). จาก
https://www.gotoknow.org/posts/214147

Marina Barrage - Visit Singapore Official Site
Marina Barrage. (อ้างเม่อื 6 กรกฎาคม 2565). จาก https://www.youtube.com/watch?v=EaRULQompEk
Minor Smart Kids. สะเตม็ ศึกษา. (อ้างเมอื่ 5 กรกฎาคม 2565). จาก https://minorsmartkids.com/s-t-e-m/
Planning ura.gov.sg ,google
PUB SINGAPORE’S NATIONAL WATER AGENCY. NEWater Visitor Centre. (อ้างเม่อื 7 กรกฎาคม 2565). จาก

https://www.pub.gov.sg/Pages/NEWaterVisitorCentre.aspx
Public Utilities Board (อ้างเมื่อ 7 กรกฎาคม 2565). จาก https://www.pub.gov.sg/savewater/atwork/

WaterEfficiencyBenchmarks
SALIKA Knowledge sharing space. ตน้ แบบห้องสมดุ ทไ่ี ม่ยอมถกู ิสรปั ต์ “หอสมุดแหง่ ชาติ ประเทศ

สงิ คโปร์” คลังความรูด้ ิจทิ ัสของชาวสงิ คโปร์. (อ้างเมอ่ื 7 กรกฎาคม 2565). จาก
https://www.salika.co/2019/08/20/national-library-board-nlb-singapore/
SDG MOVE. เขื่อนมาริน่าแห่งสิงคโปร์-การจดั การนา้ สะอาดอยหู่ มัด. (อา้ งเมอ่ื 6 กรกฎาคม 2565). จาก
https://www.sdgmove.com/2016/11/19/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B7%E0%B9%8
8%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%9
9%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A
A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%82/
THAIBIZSINGAPORE.COM Business Information Center. ภาพรวมสงิ คโปร.์ (อ้างเมอ่ื 5 กรกฎาคม
2565). จาก https://thaibizsingapore.com/singapore/information/infrastructure/

78

THAIPUBLICA. ถอดบทเรยี นความสาเร็จสิงคโปร์ จากประเทศขาดแคลนน้าสู่ผนู้ าระดับโลกดา้ นบริหาร
จดั การนา้ (อ้างเมื่อ 6 กรกฎาคม 2565). จาก https://thaipublica.org/2020/01/singapore-water-
management/

ThaiQuote. สิงคโปร์ พัฒนาระบบบาบัดน้า เปลี่ยน “น้าเสยี ” เป็น “นา้ ดมื่ ” ช่วยลดมลพษิ ทางนา้ . (อ้าง
เมื่อ 6 กรกฎาคม 2565). จาก https://www.thaiquote.org/content/245327

URA สงิ คโปร์ (อา้ งเม่อื 5 กรกฎาคม 2565). จาก https://t.me/urasingapore

79

รายชอ่ื ผ้เู ขา้ รับการฝึกอบรม

"หลกั สตู รการบรหิ ารงานอุดมศกึ ษาสายสนับสนนุ ระดับสูง (นบสส.)" รุ่นท่ี 20

ลาดับ ชอ่ื -สกุล ตาแหนง่ E-mail เบอรโ์ ทรศัพท์
ท่ี
091-545-3514
มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น 092-153-5959
081-060-6443
1 นายชชั วาล หนองนา ผูอ้ านวยการกองบริหารงาน [email protected] 083-415-0949
081-974-0200
2 นางดลิ กรตั น์ โคตรสุมาตย์ ผอู้ านวยการกองบรหิ ารงาน [email protected]
081-373-5317
3 นายสมโภช พิมพพ์ งษ์ต้อน ผ้อู านวยการกองบรหิ ารงาน [email protected]

4 นางจนั ทร์หอม คาภู ผู้อานวยการกองบริหารงาน [email protected]

5 นางกิติพร ไชโยกุล ผอู้ านวยการกองบริหารงาน [email protected]

มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกล้าธนบรุ ี

6 นางวริ าทพิ ย์ ดามาพงษ์ เลขานุการคณะวิทยาศาสตร์ [email protected]

มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลตะวนั ออก

7 นางสาวชลชญา คงสม ผู้อานวยการกองนโยบายและ [email protected] 093-915-1635
มาตย์ แผนรกั ษาราชการแทน
ผูอ้ านวยการสานักงานอธิการบดี

8 นางสาวจันทนา กสิวิทย์ หวั หนา้ สานกั งานผู้อานวยการ [email protected] 081-982-1991
สานักส่งเสริมวชิ าการและงาน
ทะเบียน

มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี

9 นางสุทศิ า จันทรบุตร ผู้อานวยการกองคลงั [email protected] 089-993-5030
[email protected] 089-994-8917
10 นางกญั ญาณัฐ สาย หวั หน้าสานกั งานคณบดี
ประสาท

11 นางสรินยา รกั ษาบุญ หัวหนา้ สานักงานคณบดี [email protected] 081-989-1834

80

ลาดับ ชอ่ื -สกุล ตาแหน่ง E-mail เบอร์โทรศัพท์
ท่ี
12 นางสาวคณธวัลย์ ศุภรตั หัวหน้าสานักงานผูอ้ านวยการ [email protected] 062-285-4594
นาภริ ักษ์ สถาบันวจิ ยั และพัฒนา

มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ

13 นางฤทัยชนก โพธิ์งาม ผอู้ านวยการกองพฒั นานักศึกษา ruethaichanok.p@rmutsb. 081-759-2075
ac.th

มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน nuchjaree_ning@hotmail. 086-219-8826
14 นางนชุ จรีย์ สตางคร์ ตั น์ หวั หนา้ สานกั งานคณบดี com

มหาวิทยาลยั มหาสารคาม ผู้อานวยการกองทะเบียนและ [email protected] 091-868-2971
15 นายสวสั ด์ิ วชิ ระโภชน์ ประมวลผล

16 นางศโิ รวรรณ อินศร ผอู้ านวยการกองบริการ [email protected] 099-054-5499
การศึกษา

มหาวิทยาลัยราชภฏั จันทรเกษม ผู้อานวยการกองบริหารงาน [email protected] 089-818-6138
บคุ คล m
17 นางสาวบปุ ผา จันทร์
สวุ รรณ

18 นางศิวาพร เกิดวาจา ผู้อานวยการกองคลงั [email protected] 081-640-5720

มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครปฐม หวั หนา้ สานักงานผูอ้ านวยการ [email protected] 085-365-5593
สานักวทิ ยบริการและเทคโนโลยี
19 นางสมรัก เปล่งเจริญศิริ สารสนเทศ
ชยั

20 นางจรรยา ร่มเพชร หวั หน้าสานกั งานผอู้ านวยการ [email protected] 089-661-9822
สานกั ศลิ ปะและวัฒนธรรม 081-693-3153

มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครศรีธรรมราช

21 นางสาวสดุ ใจ สุขคง ผอู้ านวยการสานกั งานอธิการบดี [email protected]

81

ลาดบั ชอ่ื -สกุล ตาแหน่ง E-mail เบอรโ์ ทรศัพท์
ท่ี
ผู้อานวยการกองพัฒนานกั ศึกษา [email protected] 098-262-1578
มหาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร

22 นางจาปี บดุ ดา

23 นางชวนพศิ วรรณการ หัวหน้าสานกั งานคณบดี [email protected] 089-880-2969
โสภณ

มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสกลนคร

24 นางอมรรัตน์ ตุ่นกล่ิน ผอู้ านวยการกองนโยบายและ [email protected] 098-745-1265
แผน [email protected] 081-456-7404

มหาวิทยาลยั ราชภฏั หมูบ่ ้านจอมบงึ

25 นายสวงค์ พ่อคา้ หัวหน้าสานักงานคณะบดี

26 นางสาวหทัยรตั น์ มจี นั ทร์ ผอู้ านวยการกองนโยบายและ [email protected] 091-891-6326
27 นางสาวรชั นี นาเลศิ แผน [email protected] 084-715-7276
มหาวิทยาลัยราชภฏั อบุ ลราชธานี
หัวหน้าสานกั งานผอู้ านวยการ
สถาบนั วิจยั และพัฒนา

28 นางวารุณี สกุ ใส หวั หน้าสานกั งานผู้อานวยการ [email protected] 083-743-8899
มหาวทิ ยาลยั ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ
สถาบนั วิจัยและพัฒนา m

29 นายวรวุธ เหลก็ หมนื่ ไวย ผอู้ านวยการส่วนทรัพยากร [email protected] 086-461-2409
30 นายไพฑรู ย์ กุลพรม บคุ คล [email protected] 081-743-5054
มหาวิทยาลยั ศรปี ทมุ
ผู้อานวยการสว่ นพัฒนาความ
ยั่งยนื

31 นายโยธิน มชั ฌมิ าดิลก ผอู้ านวยการสานักงานทะเบียน [email protected] 065-386-5255
มหาวิทยาลัยศิลปากร 089-442-3272
ผอู้ านวยการสานักงานตรวจสอบ [email protected]
32 นางเดอื นเพ็ญ มงคลการ ภายใน

82

ลาดบั ชอ่ื -สกลุ ตาแหนง่ E-mail เบอร์โทรศัพท์
ท่ี
33 นางสาวจติ รรดี ตนั ติ ผู้อานวยการกองบริหารงาน [email protected] 089-916-8438
คชาภรณ์ วชิ าการ

มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์

34 นางอภินันท์ ปานเจย้ี ง ผอู้ านวยการกองคลัง [email protected] 095-439-4633
086-615-4429
35 นางสาวปาริชาต จันทสรุ ัส ผ้อู านวยการสานักงานตรวจสอบ [email protected]
ภายใน 086-101-3799
081-808-4794
สถาบนั บณั ฑิตพฒั นบรหิ ารศาสตร์ 093-149-3553
086-568-1513
36 นายสงคราม ไชยแก้ว หัวหน้าสานักงานเลขานุการ [email protected] 089-459-6050
37 นางสภุ าพร หงษาวงษ์ คณะ [email protected] 087-999-2629
38 นางนวนจนั ทร์ หัสดง หัวหน้าสานกั งานเลขานกุ าร [email protected]
39 นายนิคม สุวรรณปักษ์ คณะ [email protected] 081-466-3073
40 นางสาวอรวรรณ สขุ ยานี หวั หนา้ สานกั งานเลขานกุ าร [email protected] 065-726-1102
41 นางสาวอัญญา น่มิ สุข คณะ [email protected]
สถาบนั บณั ฑิตพฒั นศลิ ป์ หัวหน้าสานักงานเลขานกุ าร 084-298-2393
คณะ
หัวหน้าสานักงานเลขานุการ
สานกั
หัวหนา้ สานักงานเลขานกุ าร
คณะ

42 นายภทั รชยั พ่วงแผน ผอู้ านวยการกองกลาง [email protected]

43 นางละออ แก้วสุวรรณ ผู้อานวยการกองสง่ เสริมวิชาการ [email protected]
สถาบันวทิ ยาลยั ชุมชน และงานวจิ ัย

44 นางสาววภิ าดา ศิริวัฒน์ ผู้อานวยการกองมาตรฐาน [email protected],
การศึกษาและวิจัย [email protected]

45 นางสาวทวนทัศน์ นลิ ดา ผู้อานวยการกองแผนงานและ [email protected] 081-981-9058
งบประมาณ


Click to View FlipBook Version