แ บ ด มิ น ตั น
BADMINTON
BADMINTON BADMINTON
คำนำ
รายงานกีฬาแบตมินตันฉบับนี้เป็นส่วนน
หนึ่งของวิชาพละศึกษาปัจจุบันกีฬาแบตมิน
ตันเป็นที่แพร่หลายและได้รับความสนใจ
เนื่องจากเล่นได้ง่ายสร้างความสามัคคีซึ่งใน
รายงานฉบับนี้ประกอบไปด้วย ประวัติ
กติกา อุปกรณ์และเทคหนิคต่างๆเกี่ยวกับ
กีฬาแบตมินตัน
ป ร ะ วั ติ แ บ ด มิ น ตั น
แบดมินตัน (BADMINTON) เป็น
กีฬาที่ได้รั บการวิจารณ์เป็นอย่างมาก เพราะ
ไ ม่ มี ห ลั ก ฐ า น ที่ แ น่ ชั ด ถึ ง
ที่ ม า ข อ ง กี ฬ า ป ร ะ เ ภ ท
นี้ ฬคางแมบี แดต่มิหนลัตกั นฐมาี เนล่บนากัง
นอใย่นายงุ โทีร่ ทปำ ใโหด้ ทย ร า บ ว่ า
กี เฉพาะ
ในประเทศอังกฤษ ตอนปลายศตวรรษที่ 17
แ ล ะ จ า ก ภ า พ สี น้ำ มั น ห ล า ย ภ า พ ไ ด้ ยื น ยั น ว่ า
กีฬาแบดมินตันเล่นกันอย่างแพร่ หลายในพระ
ราชวงศ์ของราชสำนักต่าง ๆ ในทวีปยุโรป
แ ม้ ว่ า จ ะ เ รีย ก กั น ภ า ย ใ ต้ ชื่ อ อื่ น ก็ ต า ม
โดยกีฬาแบดมินตันได้รับการบันทึกแบบเป็น
ลายลักษณ์อักษรในปี พ.ศ. 2413 ซึ่งพบว่า มี
การเล่นกีฬาลูกขนไก่เกิดขึ้นที่เมืองปูนา
(Poona) ในประเทศอินเดีย เป็นเมืองเล็ก ๆ
ห่างจากเมืองบอมเบย์ประมาณ 50 ไมล์ โดย
ได้รวมการเล่นสองอย่างเข้าด้วยกันคือ การเล่น
ปูนาของประเทศอินเดีย และการเล่นไม้ตีกับลูก
ขนไก่ (Battledore Shuttle Cock) ของ
ยุโรปในระยะแรก การเล่นแบดมินตันจะเล่นกัน
เพียงแต่ในหมู่นายทหารของกองทัพ และ
สมาชิกชนชั้นสูงของอินเดียเท่านั้น จนกระทั่งมี
นายทหารอังกฤษที่ไปประจำการอยู่ที่เมืองปูนา
นำการเล่นตีลูกขนไก่นี้กลับไปอังกฤษ และเล่น
กันอย่างกว้างขวาง ณ คฤหาสน์แบดมินตัน
(Badminton House) ของดยุคแห่งบิวฟ
อร์ด ที่กลอสเตอร์เชียร์ ดังนั้นในปี พ.ศ. 2416
เกมกีฬาตีลูกขนไก่เลยถูกเรียกว่า แบดมินตัน
ตามชื่อคฤหาสน์ของดยุคแห่งบิวฟอร์ดตั้งแต่
นั้นเป็นต้นมา
วิธีการเล่นแบดมินตัน
การจับไม้ การจับไม้ถือเป็นขั้นตอนแรกในการเล่น
แบดมินตัน และมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการ
เล่นแบดมินตัน เพราะถ้าจับไม้ไม่ถูกวิธีก็จะทำให้เราตี
ลูกได้ไม่ดีและขาดประสิทธิภาพในการตี การจับที่ถูก
ต้องคือการจับในลักษณะคีบ โดยนำนิ้วโป้งกับนิ้วชี้
คีบไปที่ด้ามของไม้หลังจากนั้นให้นำนิ้วที่เหลือกำด้าม
ไม้ก็จะได้การจับแบบคีบ การจับไม้ควรจับให้อยู่
กึ่งกลางของด้ามพอดีไม่ควรสูงหรือต่ำจนเกินไป
เพราะจะทำให้ตีได้ไม่ถนัด
การเสริฟ
การเสริฟ มีอยู่ 2 แบบ คือ 1.) การเสริฟ
สั้น จับไม้ข้างขวายกไม้ขึ้นตั้งฉากกับหัวไหล่
หัวไม้อยู่ระดับเอวมืออีกข้างจับลูกขนไก่จรด
กับปลายหัวไม้ ยืนชิดเส้นเสริฟหันทิศทาง
ไปยังที่จะเสริฟ ก้าวเท้าซ้ายไปด้านหลังเปิด
ส้นเท้าเล็กน้อย 2.) การเสริฟยาว จับไม้ข้าง
ขวายื่นไม้ไว้ข้างลำตัวมืออีกข้างถือลูกขนไก่
ในระดับไหล่ ยืนกลางคอร์ตก้าวเท้าขวาถอย
ไปด้านหลังเปิดส้นเท้าเล็กน้อย
การตั้งรับ หลังจากเสริฟออกไปแล้วคู่ต่อสู้ก็จะ
ทำเกมส์รุกใส่เรา เราจำเป็นที่จะต้องตั้งรับเกมส์
รุกของคู่ต่อสู้ โดยมีวิธีตั้งรับดังนี้ ยืนกลางคอร์ต
แยกเท้าออกทั้งสองข้างพอประมาณย่อเข่าเล็ก
น้อย ยกไม้ขึ้นไว้ระดับไหล่ สายตามองตรงไปยัง
คู่ต่อสู้ การตบ การตบเป็นการทำเกมส์รุกใส่คู่
ต่อสู้เพื่อทำคะแนน การตบมีวิธีการดังนี้ ยืน
กลางคอร์ตแยกเท้าขวาไปด้านหลังเปิดส้นเท้า
เล็กน้อย ยกไม้ขึ้นเหนือหัวแขนขวาตั้งฉากกับหัว
ไหล่ แขนอีกข้างยกขนานกับทิศทางที่จะตบ ตาม
องไปยังเป้าหมายที่จะตบ การหยอด การหยอด
เป็นการตั้งรับหรือรุกในเวลาเดียวกันเป็นการชิง
ความได้เปรียบในแดนหน้า การหยอดควรหยอด
ใช้ชิดตาข่ายให้มากที่สุด การหยอดมีวิธีการดังนี้
ยืนชิดหน้าตาข่ายหันตัวไปในทิศทางที่จะหยอด
แยกเท้าซ้ายไปด้านหลังเปิดส้นเท้าเล็กน้อย จับ
ไม้อยู่ในระดับตาข่าย การโยน การโยนเป็นการ
ทำลายจังหวะของคู่ต่อสู้และทำให้คู่ต่อสู้ต้อง
เคลื่อนที่ไปรับลูกที่ท้ายคอร์ต เป็นการเปิดช่อง
ด้านหน้าให้เราทำคะแนน การโยนมีวิธีการดังนี้
ยืนหันทิศทางไปยังด้านที่จะโยน แยกเท้าซ้ายไป
ด้านหลังเปิดส้นเท้าเล็กน้อย ถือไม้ไว้ข้างลำตัว
กติกาของแบดมินตัน
กติกาเบื้องต้น 1. การออกนอกเส้น มีการกำหนดเส้น
ออกแต่งต่างกันในกรณีเล่นเดี่ยวและเล่นคู่ 2. การ
เสิร์ฟลูก ตามกติกา ที่ถูกต้อง คือ 2.1. หัวไม้ขณะ
สัมผัสลูกต้องต่ำกว่าข้อมืออย่างเห็นได้ชัด 2.2. หัวไม้
ขณะสัมผัสลูกต้องต่ำกว่าเอวอย่างเห็นได้ชัด 2.3. ผู้
เล่นต้องไม่ถ่วงเวลา หรือเสริฟช้า หรือเสริฟ 2
จังหวะ การเสริฟต้องเสริฟไปด้วยจังหวะเดียว 2.4.
ขณะเสิร์ฟ ส่วนใดส่วนหนึ่งของเท้าทั้ง 2 ข้างต้อง
สัมผัสพื้นตลอดเวลา 2.5. การเสิร์ฟลูกที่ถูกต้อง
ต้องให้แร็กเก็ตสัมผัสกับหัวลูกก่อน หากโดนขนก่อน
ถือว่าผิดกติกา 3. ขณะตีลูกโตกัน ห้ามนำส่วนหนึ่ง
ส่วนใดของร่างกายหรือไม้แบดไปสัมผัสกับเน็ท 4.
ห้ามตีลูกที่ฝั่ งตรงข้ามโต้กลับมาในขณะที่ลูกยังไม่
ข้ามเน็ทมายังแดนเรา(Over net) สหพันธ์
แบดมินตันนานาชาติ ( IBF) ได้กำหนดให้ ทดลอง
ใช้ระบบการนับคะแนนการ แข่งขันกีฬาแบดมินตัน
ใหม่ ในระบบ 3 x 21
ละเอียดของกติกาการนับคะแนนมีดังนี้ 1. แมทช์หนึ่ง
ต้องชนะให้ได้มากที่สุดใน 3 เกม 2. ทุกประเภทของ
การแข่งขัน ฝ่ายที่ได้ 21 คะแนนก่อนเป็นฝ่ายชนะใน
เกมนั้น ยกเว้น เมื่อได้ 20 คะแนนเท่ากันต้องนับต่อ
ให้มีคะแนนห่างกัน 2 คะแนน ฝ่ายใดได้คะแนนนำ
คะแนนก่อนเป็นผู้ชนะ แต่ไม่เกิน 30 คะแนน
หมายความว่าหากการเล่นดำเนินมาจนถึง 29
คะแนนเท่ากัน ฝ่ายใดได้ 30 คะแนนก่อน เป็นผู้ชนะ
3. ฝ่ายชนะเป็นฝ่ายส่งลูกต่อในเกมต่อไป 4. ฝ่ายชนะ
การเสี่ยงสิทธิ์เป็นฝ่ายส่งลูกได้ก่อน หากฝ่ายตรงข้าม
ทำลูก "เสีย" หรือลูก ไม่ได้อยู่ในการเล่น ผู้เลือกส่งลูก
ก่อนจะได้คะแนนนำ 1-0 และได้ส่งลูกต่อ แต่หากผู้
ส่งลูกทำลูก "เสีย" หรือลูกไม่อยู่ในการเล่น ฝ่ายตรง
ข้ามจะได้คะแนนตามมาทันทีเป็น 1-1 และฝ่ายตรง
ข้ามจะได้สิทธิ์ส่งลูกแทน ดำเนินเช่นนี้ต่อไปจนจบเกม
5. ประเภทคู่ให้ส่งลูกฝ่ายละ 1 ครั้ง ตามคะแนนที่ได้
ขณะที่เปลี่ยนฝ่ายส่งลูก หาก
คะแนนเป็นจำนวนคี่ ผู้อยู่คอร์ดด้านซ้ายเป็นผู้ส่งลูก
หากคะแนนเป็นจำนวนคู่ผู้อยู่คอร์ด ด้านขวาเป็น
ฝ่ายส่งลูก การดิวส์ หาก ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายทำ
คะแนนได้เท่ากันในคะแนนที่ 20 จะมีการเล่นต่อ
จนกว่าว่าจะมี คะแนนมากกว่าฝ่ายตรงข้าม 2
คะแนน แต่ถ้ายังไม่สามารถทำคะแนนห่างกัน 2
แต้มได้ จะเล่นต่อไปเรื่อยๆ แต่ เมื่อแต้มได้ 29 เท่า
กัน ใครที่ทำได้แต้ม 30 ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ
เทคนิคต่างๆ
พยายามทำให้คู่แข่งเคลื่อนที่ไปทั่วสนาม เพื่อทำให้
คู่แข่งรู้สึกอ่อนล้า
การฝึกให้ร่างกายแข็งแกร่งเพียงพอ และรักษาหุ่น
เป็นหัวใจสำคัญ การออกกำลังกายถือว่าเป็นส่วน
ประกอบหลักของการฝึกฝน!
ควบคุมอารมณ์ หากคู่แข่งของคุณทำแต้มได้กว่า
คุณมากๆ เพราะมันจะส่งผลต่อวิธีการเล่นของคุณ
อารมณ์เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลมากเสมอ
ถ้าเป็นการเล่นประเภทคู่ เมื่อคุณเสิร์ฟ ผู้เสิร์ฟควร
เข้าไปใกล้ตาข่าย เพื่อบังคับให้คู่แข่งตีลูกไกล ซึ่ง
จะทำให้คู่ของคุณที่อยู่ข้างหลังสามารถตีโต้กลับได้
ง่ายเรียนรู้จุดอ่อนของคู่แข่งของคุณ ว่ามีจุดอ่อน
อยู่ที่ลูกหลังมือหรือไม่ หรือมีปัญหาในการโต้ลูก
ตบใส่ตัว หรือลูกหยอด หรือการเคลื่อนที่ถอยหลัง
หรือไม่ เป็นต้น ในการเล่นประเภทคู่ ให้ดูว่าผู้เล่น
อีกคนอ่อนกว่าอีกคนหรือไม่ หรือคนใดคนหนึ่งเก่ง
หน้าเน็ตกว่าอีกคนหนึ่งหรือไม่ เป็นต้น
เ รีย น รู้ จุ ด อ่ อ น ข อ ง คู่ แ ข่ ง ข อ ง คุ ณ ว่ า มี จุ ด
อ่ อ น อ ยู่ ที่ ลู ก ห ลั ง มื อ ห รือ ไ ม่ ห รือ มี ปั ญ ห า ใ น
ก า ร โ ต้ ลู ก ต บ ใ ส่ ตั ว ห รือ ลู ก ห ย อ ด ห รือ ก า ร
เ ค ลื่ อ น ที่ ถ อ ย ห ลั ง ห รือ ไ ม่ เ ป็ น ต้ น ใ น ก า ร เ ล่ น
ป ร ะ เ ภ ท คู่ ใ ห้ ดู ว่ า ผู้ เ ล่ น อี ก ค น อ่ อ น ก ว่ า อี ก ค น
ห รือ ไ ม่ ห รือ ค น ใ ด ค น ห นึ่ ง เ ก่ ง ห น้ า เ น็ ต ก ว่ า
อี ก ค น ห นึ่ ง ห รือ ไ ม่ เ ป็ น ต้ น
ที ม เ วิร์ ก เ ป็ น เ รื่ อ ง จำ เ ป็ น ใ น ก า ร เ ล่ น ป ร ะ เ ภ ท คู่
พ ย า ย า ม โ จ ม ตี ที่ พื้ น ที่ ว่ า ง มุ่ ง ค ว า ม ส น ใ จ ไ ป ที่
เ ก ม ก า ร แ ข่ ง ขั น
พ ย า ย า ม เ ล่ น ลู ก ห ย อ ด / ช็ อ ต ห น้ า เ น็ ต ใ น
ทิ ศ ท า ง เ ดี ย ว ไ ป พ ร้ อ ม ๆ กั น แ ล ะ ใ ห้ ไ ก ล ที่ สุ ด
เ ท่ า ที่ เ ป็ น ไ ป ไ ด้ วิธี นี้ จ ะ ทำ ใ ห้ คู่ แ ข่ ง เ ห นื่ อ ย ล้ า
แ ล ะ ร้ อ น ร น ที่ จ ะ โ ต้ ลู ก ที่ อ ยู่ ไ ก ล ตั ว ที่ ไ ม่ ไ ด้ ค า ด
ไ ว้
เ ค ลื่ อ น ไ ห ว ใ ห้ เ ร็ ว เ พื่ อ ตี โ ต้ แ ต่ ห้ า ม วิ่ ง
ก า ร ต บ ห ลั ง มื อ เ ป็ น วิธี ฉ ล า ด ที่ ทำ ใ ห้ คู่ แ ข่ ง
ไ ม่ ทั น ตั้ ง ตั ว ล็ ง ไ ป ที่ มุ ม ทั้ ง สี่ ข อ ง ฝั่ ง คู่ แ ข่ ง
ก า ร ห ย อ ด แ ล ะ เ สิ ร์ ฟ ท แ ย ง มุ ม ช่ ว ย ไ ด้ เ ช่ น
ห ย อ ด ลู ก ข น ไ ก่ ท แ ย ง มุ ม ใ ก ล้ เ น็ ต ถ้ า ห า ก คุ ณ
กำ ลั ง พ ย า ย า ม เ สิ ร์ ฟ ลู ก ล อ ง เ อี ย ง ไ ม้
แ บ ด มิ น ตั น ซึ่ ง จ ะ ทำ ใ ห้ ลู ก ส่ า ย แ ล ะ ทำ ใ ห้ คู่
แ ข่ ง สั บ ส น ว่ า จ ะ เ ข้ า ม า รั บ ลู ก ห รือ ไ ม่
ผู้จัดทำ
นางสาวชฎาภา แก้วคำนวน เลขที่5
นางสาววัชระภรณ์ อินทะวงศ์ เลขที่8