17 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ เรื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมเส้นใยจากใบอ้อย ส าหรับใช้ในอาคารประหยัดพลังงาน โดย 1. เด็กชายธนากร หวนคะนึงคิด ระดับชั้นมะยมศึกษาปีที่ 2 2. เด็กชายสรวิศ บาทขุนทด ระดับชั้นมะยมศึกษาปีที่ 2 3. เด็กชายชานน ย้อยสนิท ระดับชั้นมะยมศึกษาปีที่ 2 ครูที่ปรึกษา 1. นายสาธิต ศรีวรรณะ ต าแหน่งครูผู้ช่วย 2. นางสาวธัญลักษณ์ เอื้อสลุง ต าแหน่งครูอัตราจ้าง โรงเรียนยางรากวิทยา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาลพบุรี รายงานฉบับนี้เป็นส่วนประกอบของโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 เนื่องในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่70 วันที่ 19 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2565
รายการ ที่ รายละเอียด ราคา/ หน่วย จ านวน (หน่วย) รวม (บาท) 1 ใบอ้อยแห้ง 0.00 300 กรัม 0.00 2 ปูนยิบซัม ขนาด 1,000 กรัม 60.00 1 ถุง 60.00 3 กาวเอนกประสงค์ ขนาด 600 มิลลิลิตร 140.00 1 กระป๋ อง 140.00 4 สารแคลเซียมคลอไรด์ 1,000 กรัม 100.00 1ถุง 100.00 5 แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ 1,000 กรัม 119.00 1 ถุง 119.00 ราคารวม 419.00 (ส ี่ร ้ อยสิบเกา ้ บาทถว ้ น) อตัราส่วน 1:0.3:1:0.3กิโลกรัม รายการ ที่ รายละเอียด ราคา/ 1 กรัม จ านวน (หน่วย) รวม (บาท) 1 ใบอ้อยแห้ง 0.00 300กรัม 0.00 2 ปูนยิบซัม 0.06 300กรัม 18 3 กาวเอนกประสงค์ 0.23 150กรัม 34.5 4 สารแคลเซียมคลอไรด์ 0.1 300กรัม 30 5 แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ 0.119 300กรัม 35.7 ราคารวม 118.20 (หนึ่งร้อยสิบแปดบาทยี่สิบสตางค์) ส่วนผสมท ้ งัหมด 1กิโลกรัม ม ี ราคาร่วม 118.20 บาท ยิปซัมผสมใบอ้อยขนาด 210x297 มิลลิเมตร ม ี น ้ า หนกั300กรัม แผน่ยปิซมัน ้ า หนกั0.3กิโลกรัม ม ี ราคา35.46 บาท หร ื อ36 บาท
24 ภาพการทดสอบสิ่งประดิษฐ์กับมาตรฐานอุตสาหกรรม ภาพที่ 1 การทดสอบแรงกดแตก ด้วยเครื่องไฮดรอลิก ภาพที่ 2 การทดสอบแรงต้านการดึงตะปูด้วยเครื่องไฮดรอลิก ภาพที่ 3 การทดสอบการเป็นฉนวนกันความร้อน ด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ
23 ภาพขั้นตอนการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ ภาพที่ 1 ขั้นตอนการผสมปูนยิปซัมกับใบอ้อย ภาพที่ 2 ขั้นตอนการเทลงแบบหล่อ ภาพที่ 3 ขั้นตอนการบ่มแดด จ านวน 28 วัน
21 รูปภาพวัสดุ / อุปกรณ์ การพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ ภาพที่ 1 ใบอ้อยและใบอ้อยแห้งตัดความยาวโดยประมาณ 5 เซนติเมตร ขนาดผ่านตะแกรงเบอร์ 6 ภาพที่ 2 ปูนกาวยิปซัมยาแนว ขนาด 1 กิโลกรัม สีขาวมุก ภาพที่ 3 กาวเอนกประสงค์ ขนาด 80 กรัม
22 ภาพที่ 4 แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Mg(OH)2 ) น ้าหนัก 5 กรัม ภาพที่ 5 แคลเซียมคลอไรด์ (CaCl2 ) น ้าหนัก 5 กรัม ภาพที่ 6 น ้าปะปา
20 ภาคผนวก ก. วัสดุ / อุปกรณ์ การพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ ข. ภาพขั้นตอนการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ ค. ภาพการทดสอบสิ่งประดิษฐ์กับมาตรฐานอุตสาหกรรม ง. ราคาต้นทุนการผลิต
18 เอกสารอ้างอิง เกษม สุขสถาน. (2523). อ้อย. สารานุกรมไทยส าหรับเยาวชนฯ เล่ม 5. มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยส าหรับเยาวชนฯ: กรุงเทพมหานครฯ กรมพัฒนาที่ดิน. (2564). แนวทางการส่งเสริมการเกษตรที่เหมาะสม ตามฐานข้อมูลแผนที่ เกษตรเชิงรุก AGRI-MAP จังหวัดลพบุรี. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์: กรุงเทพมหานครฯ กลุ่มวิชาการและสารสนเทศอุตสาหกรรมอ้อยและน าตาลทราย. (2560). รายงานพื นที่ปลูกอ้อย ปีการผลิต 2559/2560. ปีที่5(1): 128. จ าเนียร ฝ่ายดี. (2555). โครงการวิจัยการพัฒนาคอนกรีตใช้สารผสม. สาขาวิศวกรรมโยธา. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ. เชาวลิตร์ วงษ์ดี และคนอื่น ๆ. (2564). การศึกษาภูมิปัญญาหมอพื นบ้านรักษาโรคนิ่วในระบบ ทางเดินปัสสาวะ กรณีศึกษาหมอเขียน เขื่อนทอง อ าเภอสอง จังหวัดแพร่. วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. ปีที่ 19(1): 172-183. ปราโมทย์ วีรานุกูล, กิตติพงษ์ สุวีโร และอิทธิ วีรานุกูล. (2563). ผลิตภัณฑ์แผ่นฝ้าเพดาน ผสมขุยมะพร้าวที่มีสมบัติความเป็นฉนวนป้องกันความร้อน. วารสารวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลธัญบุรี. ปีที่ 35(1): 129 – 138. ผกามาศ ชูสิทธิ์ และนิลมิต นิลาศ. (2561). การพัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสม เส้นใยจากใบต้นข้าวโพด ส าหรับใช้ในอาคารประหยัดพลังงาน. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร. พรรณี พุทธเจริญทอง, ภาณุเดช ขัดเงางาม และประเสริฐ บุญยงค์. (2563). การผลิตและสมบัติ ของแผ่นฝ้าเพดาน (T-BAR) ที่ท าจากส่วนยอดของต้นสบู่ด า. วารสารวิจัยและนวัตกรรม สถาบันการอาชีวศึกษากรุงเทพมหานคร. ปีที่ 1(2): 10 - 21. ภัทรียา นวลใย. (2562). ประชาชาติธุรกิจ. ท าไมต้องเผาอ้อย. สืบค้นเมื่อ 27 กุมภาพันธ์2565. จาก https://bit.ly/2vD5wmd. วรพรรณ ทิณพงษ์. (2562). คลังความรู้ SciMath. หินยิปซัม. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2565. จาก https://www.scimath.org/image-earthscience/item/9726-2018-12-28-08- 24-47 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย. (2564). แนวโนมเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยและภาวะการลงทุนในป 2564 รวมถึงผลกระทบจาก COVID-19 (โควิด-19). สารสัมพันธ์. ปีที่ 13(1): 15-18.
19 ส านักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี. (2564). ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร. ข้อมูลเชิงสถิติการให้บริการของ ส านักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี ปี 2564. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2565. จาก https://lopburi.industry.go.th/th/information-center/242387. ส านักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม. (2562). กฎหมายที่เกี่ยวข้อง. รายชื่อมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2565. จาก https://www.tisi.go.th/website/standardlist/list_measures. Rothon, RN (2003). Particulate Filled Polymer Composites. Shrewsbury. UK: Rapra Technology.
15 บทที่ 5 สรุปผลการด าเนินการ/อภิปรายผลการด าเนินการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมเส้นใยจากใบอ้อย ส าหรับใช้ในอาคาร ประหยัดพลังงาน เป็นการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมใหม่จากเศษวัสดุเหลือทิ้งใน อุตสาหกรรมการเกษตรและอาคาร ซึ่งสามารถสรุปผลได้ดังนี้ 1. สรุปผลการด าเนินการ ผลจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมผสมใบอ้อยประเภททนไฟ ส าหรับใช้ในอาคาร ประหยัดพลังงาน พบว่าการพัฒนากระบวนการผลิตแผ่นยิปซัมประเภททนไฟมีคุณสมบัติความเป็น ฉนวนป้องกันความร้อนที่ดี แผ่นยิปซัมประเภททนไฟที่มีปริมาณใบอ้อยมากที่สุด คือ อัตราส่วน M300 เป็นอัตราส่วนที่มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลามากที่สุดอยู่ที่ 112 วินาที ที่อัตราส่วน M250 มี การทนไฟได้เป็นระยะเวลา 109 วินาที และอัตราส่วนที่ M100 มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลา 98 วินาที โดยศึกษาข้อมูลจากแผ่นยิปซัมที่มีส่วนผสมของใบอ้อยและสารทนไฟ ผลการทดสอบคุณสมบัติของแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมใบอ้อย พบว่า มีสมบัติเป็น ฉนวนป้องกันความร้อนส าหรับท้องถิ่น ตามมาตรฐาน มอก. 219 – 2552 เรื่องแผ่นยิปซัม และ มาตรฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ การทดสอบแรงกดแตกตามแนวแกน X (แนวตามยาว) และตาม แนวแกน Y (แนวตามขวาง) ปริมาณของใบอ้อยที่มีความเหมาะสมที่สุดส าหรับน ามาผสมลงในแผ่น ยิปซัมประเภททนไฟ เพื่อเพิ่มความต้านทานแรงกดแตก คือ อัตราส่วนปูนยิปซัมต่อใบอ้อย เท่ากับ 1 : 0 : 150 หรืออัตราส่วน M150 รองลงมาคือ อัตราส่วน M100 อัตราส่วน M200 อัตราส่วน M0 อัตราส่วน M250 และอัตราส่วน M300 เป็นอัตราส่วนเหมาะสมน้อยที่สุด ทั้งนี้เป็นผลมาจากใบอ้อย เป็นเส้นใยเซลลูโลสที่มีความสามารถในการรับแรงดังได้ดีแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมใบอ้อย อัตราส่วน M0 M100 และ M150 ทั้ง 3 อัตราส่วน สามารถผ่านมาตรฐานที่ก าหนด และแผ่นยิปซัม ประเภททนไฟผสมใบอ้อยอัตราส่วน M200 M250 และ M300 เป็นอัตราส่วนที่รับแรงดึงตะปูได้น้อย ที่สุด ทั้งนี้เป็นผลมาจากความยืดหยุ่นของใยอ้อย และแผ่นยิปซัมประเภททนไฟที่มีปริมาณใบอ้อย มากที่สุด คือ อัตราส่วน M300 เป็นอัตราส่วนที่มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลามากที่สุดอยู่ที่ 112 วินาที ที่อัตราส่วน M250 มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลา 109 วินาที และอัตราส่วนที่ M100 มีการทน ไฟได้เป็นระยะเวลา 98 วินาที โดยศึกษาข้อมูลจากแผ่นยิปซัมที่มีส่วนผสมของใบอ้อยและสารทนไฟ ผลการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ทางอาหารและการเกษตรกรรม (Food and Agriculture) การ น าใบอ้อยมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตแผ่นยิปซัม สามารถเป็นต้นแบบในการสร้างรายได้ให้กับชุมชน และพัฒนาเป็น Soft-Power ของต าบลยางรากต่อไปได้อย่างดี
16 2. อภิปรายผลการด าเนินการ ผลจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมผสมใบอ้อยประเภททนไฟ ส าหรับใช้ในอาคาร ประหยัดพลังงาน พบว่าการพัฒนากระบวนการผลิตแผ่นยิปซัมประเภททนไฟมีคุณสมบัติความเป็น ฉนวนป้องกันความร้อนที่ดี แผ่นยิปซัมประเภททนไฟที่มีปริมาณใบอ้อยมากที่สุด คือ อัตราส่วน M300 เป็นอัตราส่วนที่มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลามากที่สุดอยู่ที่ 112 วินาที ที่อัตราส่วน M250 มี การทนไฟได้เป็นระยะเวลา 109 วินาที และอัตราส่วนที่ M100 มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลา 98 วินาที โดยศึกษาข้อมูลจากแผ่นยิปซัมที่มีส่วนผสมของใบอ้อยและสารทนไฟ สอดคล้องกับผลจากการ พัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมผสมใบอ้อยประเภททนไฟ ส าหรับใช้ในอาคารประหยัดพลังงาน พบว่า การพัฒนากระบวนการผลิตแผ่นยิปซัมประเภททนไฟมีคุณสมบัติความเป็นฉนวนป้องกันความร้อนที่ดี แผ่นยิปซัมประเภททนไฟที่มีปริมาณใบอ้อยมากที่สุด คือ อัตราส่วน M300 เป็นอัตราส่วนที่มีการทน ไฟได้เป็นระยะเวลามากที่สุดอยู่ที่ 112 วินาที ที่อัตราส่วน M250 มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลา 109 วินาที และอัตราส่วนที่ M100 มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลา 98 วินาที โดยศึกษาข้อมูลจากแผ่น ยิปซัมที่มีส่วนผสมของใบอ้อยและสารทนไฟ ผลการทดสอบคุณสมบัติของแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมใบอ้อย พบว่า มีสมบัติเป็น ฉนวนป้องกันความร้อนส าหรับท้องถิ่น ตามมาตรฐาน มอก. 219 – 2552 เรื่องแผ่นยิปซัม และ มาตรฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ การทดสอบแรงกดแตกตามแนวแกน X (แนวตามยาว) และตาม แนวแกน Y (แนวตามขวาง) ปริมาณของใบอ้อยที่มีความเหมาะสมที่สุดส าหรับน ามาผสมลงในแผ่น ยิปซัมประเภททนไฟ เพื่อเพิ่มความต้านทานแรงกดแตก คือ อัตราส่วนปูนยิปซัมต่อใบอ้อย เท่ากับ 1 : 0 : 150 หรืออัตราส่วน M150 รองลงมาคือ อัตราส่วน M100 อัตราส่วน M200 อัตราส่วน M0 อัตราส่วน M250 และอัตราส่วน M300 เป็นอัตราส่วนเหมาะสมน้อยที่สุด ทั้งนี้เป็นผลมาจากใบอ้อย เป็นเส้นใยเซลลูโลสที่มีความสามารถในการรับแรงดังได้ดี แผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมใบอ้อย อัตราส่วน M0 M100 และ M150 ทั้ง 3 อัตราส่วน สามารถผ่านมาตรฐานที่ก าหนด และแผ่นยิปซัม ประเภททนไฟผสมใบอ้อยอัตราส่วน M200 M250 และ M300 เป็นอัตราส่วนที่รับแรงดึงตะปูได้น้อย ที่สุด ทั้งนี้เป็นผลมาจากความยืดหยุ่นของใยอ้อย และแผ่นยิปซัมประเภททนไฟที่มีปริมาณใบอ้อย มากที่สุด คือ อัตราส่วน M300 เป็นอัตราส่วนที่มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลามากที่สุดอยู่ที่ 112 วินาที ที่อัตราส่วน M250 มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลา 109 วินาที และอัตราส่วนที่ M100 มีการทน ไฟได้เป็นระยะเวลา 98 วินาที โดยศึกษาข้อมูลจากแผ่นยิปซัมที่มีส่วนผสมของใบอ้อยและสารทนไฟ สอดคล้องกับงานวิจัยของ ผลการทดสอบคุณสมบัติของแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมใบอ้อย พบว่า มีสมบัติเป็นฉนวนป้องกันความร้อนส าหรับท้องถิ่น ตามมาตรฐาน มอก. 219 – 2552 เรื่องแผ่น ยิปซัม และมาตรฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ การทดสอบแรงกดแตกตามแนวแกน X (แนวตามยาว) และตามแนวแกน Y (แนวตามขวาง) ปริมาณของใบอ้อยที่มีความเหมาะสมที่สุดส าหรับน ามาผสมลง
17 ในแผ่นยิปซัมประเภททนไฟ เพื่อเพิ่มความต้านทานแรงกดแตก คือ อัตราส่วนปูนยิปซัมต่อใบอ้อย เท่ากับ 1 : 0 : 150 หรืออัตราส่วน M150 รองลงมาคือ อัตราส่วน M100 อัตราส่วน M200 อัตราส่วน M0 อัตราส่วน M250 และอัตราส่วน M300 เป็นอัตราส่วนเหมาะสมน้อยที่สุด ทั้งนี้เป็นผล มาจากใบอ้อยเป็นเส้นใยเซลลูโลสที่มีความสามารถในการรับแรงดังได้ดี แผ่นยิปซัมประเภททนไฟ ผสมใบอ้อย อัตราส่วน M0 M100 และ M150 ทั้ง 3 อัตราส่วน สามารถผ่านมาตรฐานที่ก าหนด และ แผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมใบอ้อยอัตราส่วน M200 M250 และ M300 เป็นอัตราส่วนที่รับแรงดึง ตะปูได้น้อยที่สุด ทั้งนี้เป็นผลมาจากความยืดหยุ่นของใยอ้อย และแผ่นยิปซัมประเภททนไฟที่มี ปริมาณใบอ้อยมากที่สุด คือ อัตราส่วน M300 เป็นอัตราส่วนที่มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลามากที่สุด อยู่ที่ 112 วินาที ที่อัตราส่วน M250 มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลา 109 วินาที และอัตราส่วนที่ M100 มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลา 98 วินาที โดยศึกษาข้อมูลจากแผ่นยิปซัมที่มีส่วนผสมของใบอ้อยและ สารทนไฟ ผลการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ทางอาหารและการเกษตรกรรม (Food and Agriculture) การ น าใบอ้อยมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตแผ่นยิปซัม สามารถเป็นต้นแบบในการสร้างรายได้ให้กับชุมชน และพัฒนาเป็น Soft-Power ของต าบลยางรากต่อไปได้อย่างดี สอดคล้องกับงานวิจัยของ พรรณี พุทธเจริญทอง และคนอื่น ๆ (2561) การผลิตและสมบัติของแผ่นฝ้าเพดาน (T-BAR) ที่ท าจากส่วน ยอดของต้นสบู่ด า ผลการทดลองพบว่า ขนาดของแผ่นวัสดุฝ้าเพดานที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 2 ซม. อัตราส่วนผสมที่เหมาะสม คือ ต้นสบู่ด า 95% กาวไอโซไซยาเนต 5% อุณหภูมิที่ใช้ในการอัด 120°C ความหนาแน่นที่เหมาะสมในการอัดแผ่นฝ้าเท่ากับ 0.80 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร ปริมาณความชื้น ของวัสดุก่อนอัดเฉลี่ยอยู่ที่ 8.97% แรงอัดที่เหมาะสมอยู่ที่ 150 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จากการทดสอบ ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก. 876-2547) พบว่า แผ่นฝ้าเพดานสามารถทดสอบผ่านเกณฑ์ มาตรฐานในด้านความชื้น ความหนาแน่น ความต้านทานแรงดัด แต่ไม่ผ่านในด้านการพองตัวเมื่อ แช่น ้า 2 ชั่วโมง และด้านค่ามอดูลัสยืดหยุ่น ในภาพรวมส่วนยอดของต้นสบู่ด าสามารถน าไปผลิตเป็น แผ่นฝ้าเพดาน (T-BAR) ได้ 3. ข้อเสนอแนะ 3.1 พัฒนาส่วนผสมที่มีปูนยิปซัมให้น้อยลง เพื่อลดเวลาในการผลิต 3.2 ควรทดสอบการทนต่อความชื่น และสภาพอากาศของประเทศไทย 3.3 พัฒนาให้สามารถลดการเกิดเชื้อราจากแผ่นยิปซัม 3.4 มีการพัฒนาร่วมกับหน่วยงานการวิจัยภาครัฐ และเอกชนมากขึ้น
12 บทที่ 4 ผลการด าเนินการ จากการทดสอบสมบัติทางกายภาพและทางกลของผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสม ใบอ้อย ที่มีสมบัติเป็นฉนวนป้องกันความร้อนส าหรับท้องถิ่น ตามมาตรฐาน มอก. 219 – 2552 เรื่อง แผ่นยิปซัม และมาตรฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถสรุปได้ ดังต่อไปนี้ 1. แรงกดแตก การทดสอบแรงกดแตกของแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมใบอ้อยทั้ง 6 อัตราส่วน โดย ทดสอบ 2 แนว (แนวแกน X และแนวแกน Y) ดังภาพที่ 4.1และ 4.2 ภาพที่ 4.1 แรงกดแตกตามแนวแกน X หรือตามแนวยาว ภาพที่ 4.2 แรงกดแตกตามแนวแกน Y หรือตามแนวขวาง 0 200 400 M0 M100 M150 M200 M250 M300 แรงกด (นิวตัน) แรงกดแตกตามแนวแกน x (ตามแนวยาว) 0 50 100 150 M0 M100 M150 M200 M250 M300 แรงกด (นิวตัน) แรงกดแตกตามแนวแกน Y (แนวแกนขวาง)
13 จากภาพที่ 4.1 และ 4.2 พบว่า การทดสอบแรงกดแตกตามแนวแกน X (แนวตามยาว) และตามแนวแกน Y (แนวตามขวาง) ปริมาณของใบอ้อยที่มีความเหมาะสมที่สุดส าหรับน ามาผสมลง ในแผ่นยิปซัมประเภททนไฟ เพื่อเพิ่มความต้านทานแรงกดแตก คือ อัตราส่วนปูนยิปซัมต่อใบอ้อย เท่ากับ 1 : 0 : 150 หรืออัตราส่วน M150 รองลงมาคือ อัตราส่วน M100 อัตราส่วน M200 อัตราส่วน M0 อัตราส่วน M250 และอัตราส่วน M300 เป็นอัตราส่วนเหมาะสมน้อยที่สุด ทั้งนี้เป็นผล มาจากใบอ้อยเป็นเส้นใยเซลลูโลสที่มีความสามารถในการรับแรงดังได้ดี 2. แรงต้านทานการดึงตะปู ผลการทดสอบแรงต้านทานการดึงตะปูของแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมใบอ้อย ที่อายุการ บ่ม 28 วัน สามารถสรุปได้ดังภาพที่ 4.3 ภาพที่ 4.3 ผลการทดสอบแรงต้านทานการดึงตะปู ภาพที่ 4.3 การทดสอบแรงต้านทานการดึงตะปู พบว่า แผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมใบ อ้อย อัตราส่วน M0 M100 และ M150 ทั้ง 3 อัตราส่วน สามารถผ่านมาตรฐานที่ก าหนด และแผ่น ยิปซัมประเภททนไฟผสมใบอ้อยอัตราส่วน M200 M250 และ M300 เป็นอัตราส่วนที่รับแรงดึง ตะปูได้น้อยที่สุด ทั้งนี้เป็นผลมาจากความยืดหยุ่นของใยอ้อย 0 100 200 300 M0 M100 M150 M200 M250 M300 แรงต้านการดึงตะปู แรงต้านการดึงตะปู
14 3. การทดสอบการทนไฟและการเป็นฉนวนความร้อน ภาพที่ 4.4 ผลการทดสอบการทนไฟและการเป็นฉนวนความร้อน จากรูปที่ 4.4 พบว่า แผ่นยิปซัมประเภททนไฟที่มีปริมาณใบอ้อยมากที่สุด คือ อัตราส่วน M300 เป็นอัตราส่วนที่มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลามากที่สุดอยู่ที่ 112 วินาที ที่อัตราส่วน M250 มี การทนไฟได้เป็นระยะเวลา 109 วินาที และอัตราส่วนที่ M100 มีการทนไฟได้เป็นระยะเวลา 98 วินาที โดยศึกษาข้อมูลจากแผ่นยิปซัมที่มีส่วนผสมของใบอ้อยและสารทนไฟ 4. ขนาด/น าหนักสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ฯ ความหนาแน่นของแผ่นยิปซัม ที่ความหนา 1 นิ้ว อายุการบ่ม 28 วัน ดังภาพที่ 4.5 ภาพที่ 4.5 น้ าหนักโดยรวมของแผ่นยิปซัมผสมใบอ้อย ที่ความหนา 1 นิ้ว 0 50 100 150 M0 M100 M150 M200 M250 M300 เวลาในการทดสอบ (วินาที) การทดสอบการทนไฟและการเป็นฉนวนความร้อน
9 บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีการด าเนินการ ในบทนี้จะกล่าวถึงการศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการน าวัสดุธรรมชาติที่เหลือใช้จาก เกษตรกรรมมาผลิตแผ่นยิปซัมบอร์ดฉนวนกันความร้อน คือ ใบอ้อย โดยพัฒนาขึ้นจากแหล่งวัตถุดิบ ในชุมชน คณะผู้จัดท าได้ก าหนดขั้นตอนในการด าเนินการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ ดังนี้ 1. วัสดุที่ใช้ในการทดลอง 2. เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ 3. ขั้นตอนและวิธีการทดลอง 1. วัสดุที่ใช้ในการทดลอง (ภาคผนวก ก.) 1.1 ใบอ้อยย่อยให้มีความยาวไม่เกิน 5 เซนติเมตร 1.2 ผงยิปซัม 1.3 แคลเซียมคลอไรด์ (CaCl2 ) 1.4 แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Mg(OH)2) 1.5 กาวเอนกประสงค์ 1.6 น้ าสะอาด 2. เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ 2.1 เครื่องมือ และอุปกรณ์พัฒนาสิ่งประดิษฐ์ 2.1.1 ถังผสม 2.1.2 กรรไกร 2.1.3 ตะแกรงร่อน 2.1.4 เครื่องชั่งน้ าหนัก 2.1.5 แบบหล่อขนาด 30 x 50 x 1.5 เซนติเมตร 2.1.6 เตาอบไร้ความชื้น 2.1.7 พลาสติกใส 2.2 เครื่องมือ และอุปกรณ์ทดสอบสิ่งประดิษฐ์ 2.2.1 แท่นอัดไฮโดรริก 2.2.2 ชุดทดสอบการทนไฟ 2.2.3 ชุดทดสอบความตึงตะปู 2.2.4 อุปกรณ์วัดขนาด เช่น ไมโครมิเตอร์ และเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์
10 3. การออกแบบอัตราส่วนผสม การออกแบบส่วนผสมของแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมใบอ้อย ออกแบบอัตราส่วน จ านวน 5 อัตราส่วน โดยท าการเพิ่มใบอ้อยให้มากขึ้น ดังตารางที่ 3.1 ตารางที่ 3.1 อัตราส่วนผสมของแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมใบอ้อยโดยน้ าหนัก (กิโลกรัม) อัตราส่วน ผงยิปซัม ใบอ้อย น้ าสะอาด กาว เอนกประสงค์ สารเร่งการก่อ ตัว M0 1 0 1 0.03 0.03 M100 1 0.100 1 0.03 0.03 M150 1 0.150 1 0.03 0.03 M200 1 0.200 1 0.03 0.03 M250 1 0.250 1 0.03 0.03 M300 1 0.300 1 0.03 0.03 4. การขึ้นรูปตัวอย่างแผ่นยิปซัม 4.1 ย่อยและคัดขนาดใบอ้อย ให้มีขนาดผ่านตะแกรงเบอร์ 6 หรือ 6.72 มิลลิเมตร ความ ยาวเฉลี่ย 5 เซนติเมตร 4.2 ผสมส่วนผสมตามอัตราส่วนของแผ่นยิปซัมประเภททั่วไปผสมเส้นใยใบอ้อย จ านวนไม่ น้อยกว่า 5 อัตราส่วน โดยท าการออกแบบไว้ดังตารางที่ 3.1 4.3 ชั่งตวงส่วนผสมทั้งหมดตามทที่ออกแบบ 4.4 ละลายแคลเซียมคลอไรด์ (CaCl2 ) เข้ากับน้ าประปา ได้สารละลายแคลเซียมคลอไรด์ มี ความเข้มข้นร้อยละ 10 กรัม 4.5 ผสมผงยิปซัมและใยใบอ้อย ให้เข้ากันด้วยถังผสม โดยทยอยเติมสารละลายแคลเซียม คลอไรด์ ให้เข้ากัน 4.6 ผสมผงยิปซัมและใยใบอ้อย ให้เข้ากันด้วยถังผสม โดยทยอยเติมกาวเอนกประสงค์ให้ เข้ากัน 4.7 เตรียมแบบหล่อให้สะอาดพร้อมปูรองด้วยพลาสติกใสกันความชื้น 4.8 เทส่วนผสมทั้งหมดลงในแบบ ปรับหน้าผิวยิปซัมให้เรียบ แล้วน าพลาสติกใสคลุม หลังจากที่ผงปูนเซตตัว 4.9 บ่มแผ่นยิปซัมในอากาศ เพื่อไล่น้ าส่วนเกินตามระยะเวลาที่ก าหนดได้แก่ 7, 14, 21 และ 28 วัน ก่อนน าไปทดสอบคุณลักษณะต่าง ๆ
11 5. การทดสอบตามสมบัติ การทดสอบแผ่นยิปซัมผลิตจากใบอ้อยที่มีสมบัติความเป็นฉนวนป้องกันความร้อน ตาม มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 219-2552 เรื่องแผ่นยิปซัม (สมอ. 2552) มาตรฐาน ASTM C 177 (American Society for Testing and Materials. 2012) และมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ ตัวอย่างทดสอบ 3 ตัวอย่างต่ออัตราส่วนต่อการทดสอบประกอบด้วย 5.1 แรงกดแตก ที่อายุการบ่มยิปซัมได้ 28 วัน 5.2 การทดสอบแรงต้านการดึงตะปูของแผ่นยิปซัมผลิตจากใบอ้อย 5.3 สัมประสิทธิ์การนพความร้อน ที่อายุการบ่มยิปซัมได้ 28 วัน 6. แผนภาพและหลักการท างาน การพัฒนาแผ่นยิปซัมผสมใบอ้อยส าหรับใช้ในอาคารประหยัดพลังงานได้ คือ ส่วนผสม (ตัวแปรต้น) มีผลต่อคุณลักษณะของแผ่นยิปซัมตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเรื่องยิปซัม (มอก. 219) ภาพที่ 3.1 แผนภาพการผลิตสิ่งประดิษฐ์ หลักการใช้งานของแผ่นยิปซัมผสมใบอ้อย เพื่อใช้ในอาคารประหยัดพลังงาน ดังนี้ 1. ออกแบบสัดส่วนและเลือกระบบของผนังยิปซัมที่ต้องการติดตั้ง เช่น กันร้อน กันชื้น ฯลฯ 2. ติดตั้งโครงผนังยิปซัม โดยแบ่งช่องว่างระหว่างโครงติดตั้งให้พอดี 3. ติดตั้งแผ่นยิปซัมบนโครงที่เตรียมไว้ 4. สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ปูนยิปซัมฉาบทับหรือไม่ ข้อควรระวังในการใช้งาน 1. ควรทาสีรองพื้นก่อนทาสีจริง เพื่อให้เนื้อสียึดเกาะกับยิปซัมได้ดียิ่งขึ้นไม่โป่งพอง 2. แผ่นยิปซั่มถูกพัฒนาขึ้นด้วยใบอ้อย ซึ่งเมื่ออายุการใช้งานเป็นเวลามาก ๆ อาจจะ พบปัญหาปลวกกินแผ่นยิปซั่ม ตัวแปรต้น (ส่วนผสม) -ยิปซัม -ใบอ้อยแห้ง -น้ าประปา -แคลเซียมคลอไรด์ (CaCl2 ) -แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Mg(OH)2 ) ตัวแปรตาม (คุณลักษณะ) -แรงกดแตก -แรงต้านการดึงตะปู -การทนไฟและการเป็นฉนวนกัน ความร้อน -ต้นทุนเชิงเศรษฐศาสตร์ -การใช้งานจริง
5 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ทฤษฎีข้อมูลพื้นฐานของพืชไร่อ้อย แผ่นยิปซัมบอร์ด ประเภทฉนวนกันความร้อน เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย และทางด้านการทดสอบต่าง ๆ โดยสรุปได้ดังนี้ 1. พืชไร่ประเภทอ้อย 2. แผ่นยิปซัมบอร์ด 3. คุณสมบัติสารก่อตัวและสารฉนวนกันความร้อน 4. มาตรฐานอุตสาหกรรม 5. เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 6. กรอบแนวคิด 1. พืชไร่ประเภทอ้อย อ้อย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Saccharum officinarum L. อยู่ในวงศ์ของ GRAMINEAE โดย มีชื่อสามัญ Sugar cane ลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นไม้ล้มลุก สูง 2 - 5เมตร ล าต้นสีม่วงแดง มีไข สีขาวปกคลุม ไม่แตกกิ่งก้าน ใบเดี่ยว เรียงสลับ กว้าง 2.5 – 5 ซม. ยาว 0.5 – 1 เมตร ดอกช่อ ออกที่ ปลายยอด สีขาว ผลเป็นผลแห้ง ขนาดเล็ก อ้อยมีหลายพันธุ์แตกต่างกันที่ความสูง ความยาวของข้อ และสีของล าต้น (สารานุกรมไทยส าหรับเยาวชน เล่ม 5. 2523: 65 – 107) ประโยชน์คุณค่าทางโภชนาการ อ้อย มีน้ าตาลซูโครสสูงมาก มีธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส เล็กน้อย และมีสารอื่น ๆ ใช้เป็นยา น้ าเชื่อม ที่มีความเข้มข้นคามขนาดที่ฟาร์มาโคเปียก าหนดไว้ สามารถใช้เป็นสารกันบูด และฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ใส่แผลเรื้อรัง ทั้งต้น ใช้รักษาปัสสาวะพิการ รักษา ขัดเบา แก้อาการช้ า รักษาโรคนิ่ว อาการไอ ต้น แก้ไข้ แก้คอแห้งกระหายน้ า รักษาอาการโรคไซนัส เป็นยาบ ารุงหัวใจ รักษาอาการสัมประชวร รักษาไข้จับใน ชานอ้อย น ามาเผาให้เป็นเถ้า แล้วบดเป็น ผง รักษาฝีอักเสบ และแผลใต้ผิวหนังเรื้อรัง ต ารายาไทยใช้ล าต้นเป็นยาขับปัสสาวะ โดยใช้ล าต้นสด 70 - 90 กรัม หรือแห้ง 30 - 40 กรัม หั่นเป็นชิ้น ต้มน้ า แบ่งดื่มวันละ 2 ครั้งก่อนอาหาร แก้ไตพิการ หนองในและขับนิ่ว แพทย์พื้นบ้านใช้ขับเสมหะ รายงานว่าอ้อยแดงมีฤทธิ์ขับปัสสาวะในสัตว์ทดลอง (เชาวลิตร์ วงษ์ดี และคนอื่น ๆ. 2564: 172-183)
6 2. แผ่นยิปซัมบอร์ด ยิปซัม (Gypsum, CaSO4 -2H2OCaSO4 -H2O) หรือเรียกว่าเกลือจืด เป็นแร่อโลหะที่มีความ เปราะมากมีสีขาว ไม่มีสีหรือสีเทา มักมีสีเหลือง แดง หรือน้ าตาล เป็นมลทินปนอยู่ มีความวาวคล้าย แก้ว มุก หรือไหม ความแข็ง 2 ความถ่วงจ าเพาะ 2.7 เนื้อแร่โปร่งใสจนกระทั่งโปร่งแสง อาจเรียกชื่อ ต่างกันออกไปตามลักษณะของเนื้อแร่ คือ ชนิดซาตินสปาร์ (Satinspar) เป็นแร่ยิปซัมลักษณะที่เป็น เนื้อเสี้ยน มีความวาวคล้ายไหม ชนิดอะลาบาสเทอร์ (Alabaster) มีเนื้อเป็นมวลเม็ดอัดกันแน่น และ ชนิดซีลีไนต์(Selenite) ใสไม่มีสี เนื้อแร่เป็นแผ่นบางโปร่งใส เกิดจากแร่ที่ตกตะกอนในแอ่งที่มีการ ระเหยของน้ าสูงมากและต่อเนื่อง ท าให้น้ าส่วนที่เหลือมีความเข้มข้นสูงขึ้น ถึงจุดที่แร่กลุ่มที่เรียกว่า “อีแวพอไรต์ (Evaporites)” จะสามารถตกตะกอนออกมาตามล าดับความสามารถในการละลาย (Solubility) ซึ่งโดยทั่วไปเริ่มจากพวกคาร์บอเนต (Carbonates) ซัลเฟต (Sulphates) และเฮไลด์ (Halides) การก าเนิด แร่ยิปซัมของไทยมีเนื้อเป็นเกล็ดเล็ก ๆ สมานแน่น เรียกว่า “อะลาบาสเตอร์ (Alabaster)” ซึ่งมิได้เกิดจากการตกตะกอนทับถมกันในสภาพการณ์ปฐมภูมิจากการระเหยของน้ า แต่เกิดจากการเติมน้ า (Rehydration) ให้กับช่วงบนสุดของมวลแอนไฮไดรต์ จนเกิดการเปลี่ยนแปลง ชนิดแร่ ยิปซัมในประเทศไทยมีประวัติที่ค่อนข้างซับซ้อน และการศึกษาธรณีวิทยาแหล่งแร่พบว่า เคยผ่านการเปลี่ยนแปลงชนิดแร่ไปมา ระหว่างยิปซัมกับแอนไฮไดรต์ (CaSO4 ) ก่อนจะมีสภาพเช่นใน ปัจจุบัน (วรพรรณ ทิณพงษ์. 2562) 3. คุณสมบัติสารก่อตัวและสารฉนวนกันความร้อน 3.1 แคลเซียมคลอไรด์ (CaCl2 ) Calcium chloride มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว ใช้มากในงาน อุตสาหกรรมทั่วไป อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมการเกษตร เป็นสารที่ดูดซับความชื้น และ ละลายได้ดีในน้ า 3.1.1 ประโยชน์แคลเซียมคลอไรด์ งานเทคอนกรีตนิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์เป็นสารเร่งการแข็งตัว และเพิ่มก าลังรับ แรงอัดของคอนกรีตในช่วงอายุต้น ๆ สารละลายแคลเซียมคลอไรด์นิยมใช้รักษา และยืดอายุผลผลิต ทางการเกษตร ดูดซับความชื้นหรือดูดซับน้ าออกจากตัวท าละลาย เพิ่มความกรอบให้แก่ผลไม้อัด กระป๋อง เพิ่มความนุ่มของผลิตภัณฑ์เนื้อต่าง ๆ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ในอาหาร และ สกัดโปรตีนออกจากเนื้อ เช่น การผลิตไส้กรอก การผลิตเนื้อหมัก (จ ำเนียร ฝ่ำยดี. 2555) 3.2 แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Mg(OH)2 ) magnesium hydroxide เป็นสารประกอบ อนินทรีย์และมีอยู่ตามธรรมชาติโดยเป็นแร่บรูไซต์ (brucite) เป็นของแข็งสีขาวละลายน้ าได้น้อย
7 (Ksp=5.61×10−12) เป็นองค์ประกอบสามัญของยาลดกรด เช่น มิลก์ออฟแมกนีเซีย (milk of magnesia) พร้อมทั้งยาระบาย โดยมากที่ผลิตในระดับอุตสาหกรรม และส่วนน้อยอีกจ านวนหนึ่งที่ได้ จากเหมืองแร่ จะแปรเป็นแมกนีเซียมออกไซด์ (MgO) หรือแมกนีเซีย ซึ่งมีค่าเพราะน าไฟฟ้าไม่ได้แต่ น าความร้อนได้ดีเยี่ยม ใช้เป็นสารหน่วงไฟ โดยสังเคราะห์ขึ้นโดยมากเหมือนกับอะลูมิเนียมไฮดรอก ไซด์ แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ที่เป็นของแข็งจะมีคุณสมบัติห้ามควันและหน่วงไฟ คุณสมบัติเช่นนี้มา จากการสลายตัวแบบดูดซับความร้อนที่อุณหภูมิ 332 องศาเซลเซียส ความร้อนที่ดูดซึมเนื่องด้วย ปฏิกิริยา จะหน่วงการติดไฟของสารอื่น ๆ อนึ่ง น้ าที่ปล่อยออกยังท าแก๊สที่ติดไฟได้ให้เจือจาง การใช้ สามัญรวมการใส่แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์เข้าในปลอกสายเคเบิล (Rothon. 2003: 53-100) 4. มาตรฐานอุตสาหกรรม มาตรฐานนี้ครอบคลุมแผ่นยิปซัม ส าหรับใช้ภายในอาคาร เช่น ฝาผนัง และฝ้าเพดาน และ ส าหรับใช้ภายนอกอาคารเฉพาะท าฝ้าเพดานบริเวณที่ไม่ถูกน้ าโดยตรง คุณลักษณะที่ต้องการของแผ่น ยิปซัมตามมาตรฐาน มอก.219 เรื่องแผ่นยิปซัมประเภทต่าง ๆ (สมอ. 2552) สามารถสรุปได้ดังนี้ 4.1 แรงกดแตก (breaking load) ที่ความหนา 6 และ 7 มิลลิเมตร มีแรงกดแตกตามยาวที่ 222 นิวตัน และแรงกดแตกตามขวางที่ 89 นิวตัน 4.2 แรงต้านการดึงตะปู(nail pull resistance) ที่ความหนา 6 มิลลิเมตร แรงต้านการดึง ตะปู 180 นิวตัน 4.3 การแอ่นตัว (เฉพาะแผ่นยิปซัมความหนาตั้งแต่ 9 มิลลิเมตรขึ้นไป) ต้องไม่เกินกว่า 10 มิลลิเมตร 4.4 การดูดซึมน้ า (เฉพาะแผ่นยิปซัมประเภททนความชื้น) ต้องไม่เกินกว่าร้อยละ 5 และ การดูดซึมน้ าที่ผิวต้องไม่เกิน 160 กรัมต่อตารางเมตร 4.5 การทนไฟ (เฉพาะแผ่นยิปซัมประเภททนไฟ) ภายในเวลา 20 นาทีจ านวนชิ้นทดสอบ ทั้งหมด 5 ชิ้น ต้องไม่มีชิ้นทดสอบใดขาดออกจากกัน และภายในเวลา 30 นาทีชิ้นทดสอบ 4 ใน 5 ชิ้นต้องไม่ขาดออกจากกัน 5. เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผกามาศ ชูสิทธิ์และนิลมิต นิลาศ (2562) การพัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมประเภท ทนไฟผสมเส้นใยจากใบต้นข้าวโพดส าหรับใช้ในอาคารประหยัดพลังงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา แผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมเส้นใยข้าวโพด โดยออกแบบอัตราส่วนผงยิปซัม: เส้นใยข้าวโพด: น้ าประปา: โซเดียมซิลิเกต จ้านวน 5 อัตราส่วน ได้แก่ 1: 0: 1: 0.03, 1: 0.100: 1: 0.03, 1: 0.150:
8 1: 0.03, 1: 0.200: 1: 0.03, 1: 0.250: 1: 0.03 และ 1: 0.300: 1: 0.03 โดยน้ าหนัก ขึ้นรูปแผ่น ยิปซัมประเภททนไฟด้วยวิธีหล่อในอุณหภูมิปกติ (30 – 35 องศาเซลเซียส) ท าการทดสอบสมบัติตาม มาตรฐาน มอก.219-2552 เรื่องแผ่นยิปซัม ประกอบด้วย การทดสอบแรงกดแตก แรงต้านทานการ ดึงตะปู การแอ่นตัว การดูดซึมน้ า ความหนาแน่น และสัมประสิทธิ์การน้ าความร้อน ผลการทดสอบ พบว่า อัตราส่วน 1: 0.150: 1: 0.03 โดยน้ าหนักเป็นอัตราส่วนแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมเส้นใย ข้าวโพดเหมาะสมที่สุด แผ่นซีเมนต์บอร์ดที่พัฒนาขึ้นนี้ สามารถลดปริมาณใบข้าวโพดที่เหลือทิ้งโดย น้ ามาผสมในแผ่นยิปซัมประเภททนไฟ และได้ผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมประเภททนไฟที่มีสมบัติความเป็น ฉนวนป้องกันความร้อนที่ดี ปราโมทย์ วีรานุกูล และคนอื่น ๆ (2563) ผลิตภัณฑ์แผ่นฝ้าเพดานผสมขุยมะพร้าวที่มี สมบัติความเป็นฉนวนป้องกันความร้อน งานวิจัยนี้งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแผ่นฝ้าเพดาน ผสมขุยมะพร้าว โดยออกแบบอัตราส่วนยิปซัมปลาสเตอร์: ขุยมะพร้าว:โซเดียมซิลิเกต: น้ าประปา จ านวน 5 อัตราส่วน ได้แก่ 1: 0: 1: 0.03, 1: 100: 1: 0.03, 1: 150: 1: 0.03, 1: 200: 1: 0.03, 1:250: 1: 0.03 และ 1: 300: 1: 0.03 โดยน้ าหนัก ขึ้นรูปแผ่นฝ้าเพดานด้วยวิธีหล่อในอุณหภูมิปกติ (30 – 35 องศาเซลเซียส) ท าการทดสอบสมบัติตามมาตรฐาน มอก.219-2552 เรื่องแผ่นยิปซัม ประกอบด้วย การทดสอบแรงกดแตก แรงต้านทานการดึงตะปู การแอ่นตัว การดูดซึมน้ า ความหนาแน่น และสัมประสิทธิ์การน าความร้อน ผลการทดสอบ พบว่า อัตราส่วน 1: 150: 1:0.03 โดยน้ าหนัก เป็นอัตราส่วนแผ่นฝ้าเพดานผสมขุยมะพร้าวเหมาะสมที่สุด แผ่นซีเมนต์บอร์ดที่พัฒนาขึ้น สามารถลดปริมาณขุยกะลามะพร้าวเหลือทิ้ง และได้ผลิตภัณฑ์แผ่นฝ้าเพดานที่มีสมบัติความเป็น ฉนวนป้องกันความร้อนที่ดี พรรณี พุทธเจริญทอง และคนอื่น ๆ (2563) การผลิตและสมบัติของแผ่นฝ้าเพดาน (T-BAR) ที่ท าจากส่วนยอดของต้นสบู่ด า ผลการทดลองพบว่า ขนาดของแผ่นวัสดุฝ้าเพดานที่ เหมาะสมไม่ควรเกิน 2 ซม. อัตราส่วนผสมที่เหมาะสม คือ ต้นสบู่ด า 95% กาวไอโซไซยาเนต 5% อุณหภูมิที่ใช้ในการอัด 120°C ความหนาแน่นที่เหมาะสมในการอัดแผ่นฝ้าเท่ากับ 0.80 กรัมต่อ ลูกบาศก์เซนติเมตร ปริมาณความชื้นของวัสดุก่อนอัดเฉลี่ยอยู่ที่ 8.97% แรงอัดที่เหมาะสมอยู่ที่ 150 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จากการทดสอบตามมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก. 876-2547) พบว่า แผ่นฝ้า เพดานสามารถทดสอบผ่านเกณฑ์มาตรฐานในด้านความชื้น ความหนาแน่น ความต้านทานแรงดัด แต่ไม่ผ่านในด้านการพองตัวเมื่อแช่น ้า 2 ชั่วโมง และด้านค่ามอดูลัสยืดหยุ่น ในภาพรวมส่วนยอดของ ต้นสบู่ด าสามารถน าไปผลิตเป็นแผ่นฝ้าเพดาน (T-BAR) ได้
1 บทที่ 1 บทน า 1. ความเป็นมา/แนวคิด/แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน อ้อยเป็นพืชอุตสาหกรรมที่มีความส าคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยเพราะเป็นผู้ส่งออก น้ าตาลทรายรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศบราซิล จากการที่รัฐบาลผลักดันนโยบาย บริหารพื้นที่เกษตรกรรมของพืช (Zoning) โดยเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวที่อยู่ในพื้นที่ไม่เหมาะไปสู่การ ปลูกอ้อยโรงงานและพืชอื่น ๆ ส าหรับประเทศไทยพบว่ามีพื้นที่ปลูกอ้อยในปี 2559/2560 จ านวน 10,988,489 ไร่ ในเขตพื้นที่ส ารวจรวม 47 จังหวัด (กลุ่มวิชาการและสารสนเทศอุตสาหกรรมอ้อย และน้ าตาลทราย. 2560) ซึ่งอ้อยสามารถน้ าไปใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม นอกจาก การแปรรูปเป็นน้ าตาลทรายแล้วยังสามารถน าไปใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องหลายชนิด เช่น การผลิต เชื้อเพลิงชีวภาพ พลาสติกชีวภาพ เคมีชีวภาพ และเวชภัณฑ์ชีวภาพ เป็นต้น ซึ่งจะมีตลาดรองรับ ผลผลิตอ้อยที่แน่นอนและสร้างความมั่นคงจากการ ยึดอาชีพชาวไร่อ้อยได้ปจจุบันเกษตรกรยังปลูก ออยโรงงานในเขตจังหวัดลพบุรีอยูมีเนื้อที่ 9,944 ไร กระจายอยูในอ าเภอสระโบสถ อ าเภอชัย บาดาล อ าเภอโคกเจริญ อ าเภอล าสนธิ อ าเภอทาวุง และอ าเภอพัฒนานิคมทั้งนี้ ตามแผนยุทธศาสตร ส านักงานคณะกรรมการออยและน้ าตาลทราย พ.ศ. 2564-2568 มียุทธศาสตรสงเสริม สนับสนุนการ วิจัย การบริหารจัดการ และการเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตอุตสาหกรรม ออยน้ าตาลทราย และ อุตสาหกรรม การเก็บเกี่ยวผลผลิตโดยการรณรงคลดการเผาตอซังเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดปญหาภาวะ โลกรอน หนวยงานที่เกี่ยวของคิดคนเทคโนโลยีการเก็บเกี่ยวโดยใชเครื่องจักรเพื่อลดปญหาแรงงาน (กรมพัฒนาที่ดิน. 2564: 26) สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 เป็นประเด็นที่หลายฝ่ายให้ความสนใจเป็น อย่างยิ่ง โดยกลายเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่และกระทบต่อสุขภาพประชาชน เป็นอย่างมาก จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า สาเหตุที่ท าให้เกิดปัญหา PM 2.5 มาจาก 2 สาเหตุหลัก ด้วยกันคือ 1) การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซล และ 2) การเผาพืชตามไร่นา มีพื้นที่เพาะปลูกอ้อย เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศและมักประสบปัญหา PM 2.5 ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายนที่เป็นช่วง เก็บเกี่ยวอ้อย โดยปัญหานี้จะยิ่งรุนแรงขึ้น ในช่วงที่อากาศแล้งและมีปริมาณฝนน้อย เนื่องจากการ ชะล้างฝุ่นละอองเป็นไปอย่างจ ากัด (ภัทรียา นวลใย. 2562)
2 จากผลการส ารวจเกษตรกรชาวไร่อ้อยในต าบลยางรากพบว่า สาเหตุผลที่ชาวไร่อ้อย เลือกใช้วิธีการเผาไร่อ้อยมากกว่าการตัดอ้อยสด สาเหตุใหญ่เป็นปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงาน โดยแรงงาน 1 คนจะตัดอ้อยสดได้ประมาณ 1-1.5 ตัน/วัน แต่ถ้าเป็นอ้อยไฟไหม้จะตัดได้ประมาณ 2- 3 ตัน/วัน และการที่โรงงานให้คิวอ้อยไฟไหม้ก่อนอ้อยสด เนื่องจากอ้อยไฟไหม้ส่วนใหญ่เป็นของ หัวหน้ารายใหญ่ซึ่งมีอ านาจต่อรองกับโรงงานน้ าตาล และการลดลงของน้ าหนักอ้อยไฟไหม้ไม่ได้ กระทบกับค่าความหวาน อีกทั้งโรงงานยังรับซื้ออ้อยไฟไหม้ได้ในราคาที่ถูกกว่าอ้อยสด แรงงานตัด อ้อยไฟไหม้จะได้ผลตอบแทนสูงกว่าตัดอ้อยสด 2 เท่า ส่วนเจ้าของไร่อ้อยถึงจะจ่ายแพงกว่าต่อวัน แต่ ก็ได้ผลผลิตไปขายได้มากและเร็วกว่า และหาแรงงานง่ายกว่า ท าให้ปัจจุบันโรงงานน้ าตาลส่วนใหญ่ที่ มีอัตราอ้อยไฟไหม้เข้าโรงงาน ยังคงอยู่ที่ 60% ขึ้นไป (ส านักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี. 2564) แผ่นยิปซัม (Gypsum Board) เป็นวัสดุก่อสร้างที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย และมี แนวโน้มเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น ตามมูลค่าการลงทุนด้านงานก่อสร้างในปัจจุบันและการเติบโตของ สังคมเมืองและสังคมชนบท (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย. 2564) แผ่นยิปซัมเป็นวัสดุก่อสร้างที่มีการควบคุม คุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 219 เรื่องแผ่นยิปซัม (สมอ. 2552) ซึ่ง ส่วนประกอบของแผ่นยิปซัมเป็นการผสมเนื้อยิปซัม เส้นใยแก้ว (Glass Fiber) กระดาษเหนียว และ น้ า จากส่วนผสมดังกล่าว พบว่า เส้นใยแก้วเป็นวัสดุที่ถูกน ามาใช้เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเนื้อ ยิปซัมเท่านั้น ราคาสูง และต้องใช้พลังงานในการผลิตมาก ดังนั้น กลุ่มโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่นฉนวนยิปซัม กันความร้อน ประเภททนไฟผสมเส้นใยจากใบอ้อย ส าหรับใช้ในอาคารประหยัดพลังงาน เป็นการลด ปัญหามลภาวะทางอากาศในพื้นที่ เกิดจากการเผ่าไร่อ้อยในการเก็บเกี่ยวผลผลิต และปรับปรุง คุณสมบัติของแผ่นฉนวนกันความร้อน สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับพืชอ้อย สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัดลพบุรี ตลอดจนพัฒนาวัสดุก่อสร้างให้เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมต่อไป 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมเส้นใยใบอ้อยที่มีคุณสมบัติ ความเป็นฉนวนป้องกันความร้อนที่ดี 2.2 เพื่อทดสอบคุณสมบัติของแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมเส้นใยใบอ้อย 2.3 เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ทางอาหารและการเกษตรกรรม (Food and Agriculture)
3 3. ขอบเขตของโครงงาน 3.1 ผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมเส้นใยใบอ้อย ท าการทดสอบและเปรียบเทียบ คุณสมบัติตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก. 219) เรื่องแผ่นยิปซัม (สมอ. 2562) 3.2 ตัวแปรต้น ปูนยิปซัม, ใบอ้อย, กาวเอนกประสงค์, สารเร่งการก่อตัว และสารทนไฟ ตัวแปรตาม แผ่นยิปซัมผสมใบอ้อย 3.2 ระยะเวลาในการด าเนินการวิจัย 3 เดือน (มิถุนายน 2565 – สิงหาคม 2565) 4. วัสดุ/อุปกรณ์ ที่ใช้(ส าหรับแผ่นยิปซัมขนาด 60 x 60 เซนติเมตร) 4.1 วัสดุ 4.1.1 ใบอ้อยแห้ง จ านวน 300 กรัม 4.1.2 วัสดุเชื่อมประสาน (ปูนกาว) จ านวน 100 กรัม 4.1.3 แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Mg(OH)2 ) จ านวน 5 กรัม 4.1.4 แคลเซียมคลอไรด์ (CaCl2 ) จ านวน 5 กรัม 4.1.5 กาวเอนกประสงค์ จ านวน 20 กรัม 4.1.6 น้ า จ านวน 1.5 ลิตร 4.2 อุปกรณ์ 4.2.1 ถังผสมวัสดุ จ านวน 1 ชิ้น 4.2.2 เกียงใบโพธิ์ จ านวน 1 ชิ้น 4.2.3 พลาสติกใสขนาด 30 x 100 เซนติเมตรจ านวน 1 ม้วน 4.2.4 บล็อกแบบขนาด 60 x 60 เซนติเมตร จ านวน 1 ชิ้น 4.2.5 เตาอบความร้อน จ านวน 1 เครื่อง 4.2.6 เครื่องชั่ง ตวงสาร จ านวน 1 ชุด 5. งบประมาณ (ส าหรับแผ่นยิปซัมขนาด 2.10 x 2.97 เซนติเมตร) 5.1 วัสดุเชื่อมประสาน (ปูนกาว) จ านวน 100 กรัม ราคา 6 บาท
4 5.2 แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Mg(OH)2 ) จ านวน 5 กรัม ราคา 5.3 กาวเอนกประสงค์ จ านวน 20 กรัม ราคา 5 บาท 5.4 แคลเซียมคลอไรด์ (CaCl2 ) จ านวน 5 กรัม ราคา 8 บาท 6. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 6.1 ทราบกระบวนการผลิตแผ่นยิปซัมประเภททั่วไปและประเภททนไฟผสมเส้นใยใบอ้อย 6.2 ทราบอัตราส่วนที่เหมาะสมที่สุดส าหรับผลิตแผ่นยิปซัมประเภททั่วไปและประเภททน ไฟผสมเส้นใยใบอ้อย 6.3 เพิ่มมูลค่าของใบอ้อย 6.4 ลดการเผ่าใบอ้อย ลดปัญหามลพิษทางอากาศ 6.5 สามารถสร้างความร่วมมือระหว่างโรงเรียนยางรากวิทยากับสมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัด ลพบุรี 7. ศัพท์นิยามเฉพาะ แผ่นยิปซัม หมายถึง สิ่งประดิษฐ์ด้านอาหารและการเกษตรกรรม (Food and Agriculture) โดยใช้ใบอ้อยเป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิตแผ่นยิปซัม ใบอ้อย หมายถึง วัตถุดิบหลัดที่เป็นทรัพยากรทางธรรมชาติในท้องถิ่น ที่สามารถหาได้ง่าย และไม่มีราคา แรงกดแตก หมายถึง การทดสอบแผนยิปซัมด้วยการกดจากเครื่องมืออัดไฮโดรริกตามแนว ตรงและแนวขวาง แรงต้านทานการดึงตะปูหมายถึง จะมีผลต่อการยึดเหนี่ยวของตะปูที่ตอกยึดแผ่นยิปซั่มซึ่งมี ค่าแรงต้านมากขึ้นตามความหนาของแผ่นยิปซั่ม การทนไฟ หมายถึง คุณลักษณะข้อนี้เป็นคุณลักษณะที่จะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงทน ทนทานจากไฟ ของแผ่นยิปซั่ม โดยการทดสอบใช้เวลา 20 นาทีแผ่นยิปซั่มชิ้นทดสอบทั้งหมดต้องไม่ ขาดจากกัน และภายในระยะเวลา 30 นาที 4ชิ้น ใน 5 ชิ้นต้องไม่ขาดจากกัน
ข สารบัญ บทที่ หน้าที่ บทคัดย่อ.................................................................................................................. (1) กิตติกรรมประกาศ.................................................................................................... ก สารบัญ..................................................................................................................... ข สารบัญตาราง........................................................................................................... ง สารบัญภาพ.............................................................................................................. จ 1 บทน า....................................................................................................................... 1 ความเป็นมา/แนวคิด/แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน.............................. 1 วัตถุประสงค์......................................................................................................... 2 ขอบเขตของโครงงาน........................................................................................... 3 วัสดุ/อุปกรณ์ ที่ใช้................................................................................................ 3 งบประมาณ.......................................................................................................... 3 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ................................................................................... 4 ศัพท์นิยามเฉพาะ.................................................................................................. 4 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง.................................................................................................... 5 พืชไร่ประเภทอ้อย................................................................................................ 5 แผ่นยิปซัมบอร์ด................................................................................................... 6 คุณสมบัติสารก่อตัวและสารฉนวนกันความร้อน................................................... 6 มาตรฐานอุตสาหกรรม......................................................................................... 7 เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง................................................................................... 7 3 อุปกรณ์และวิธีการด าเนินการ.................................................................................. 9 วัสดุที่ใช้ในการทดลอง.......................................................................................... 9 เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์............................................. 9 การออกแบบอัตราส่วนผสม................................................................................. 10 การขึ้นรูปตัวอย่างแผ่นยิปซัม............................................................................... 10 การทดสอบตามสมบัติ.......................................................................................... 11 แผนภาพและหลักการท างาน............................................................................... 11
ค สารบัญ (ต่อ) บทที่ หน้าที่ 4 ผลการด าเนินการ..................................................................................................... 12 แรงกดแตก........................................................................................................... 12 แรงต้านทานการดึงตะปู....................................................................................... 13 การทดสอบการทนไฟและการเป็นฉนวนความร้อน............................................. 14 5 สรุปผลการด าเนินการ/อภิปรายผลการด าเนินการ.................................................. 15 สรุปผลการด าเนินการ.......................................................................................... 15 อภิปรายผลการด าเนินการ................................................................................... 16 ข้อเสนอแนะ......................................................................................................... 17 เอกสารอ้างอิง........................................................................................................... 18 ภาคผนวก................................................................................................................. 20
ง สารบัญภาพ ภาพที่ หน้าที่ 3.1 แผนภาพการผลิตสิ่งประดิษฐ์............................................................. 11 4.1 แรงกดแตกตามแนวแกน X หรือตามแนวยาว.................................... 12 4.2 แรงกดแตกตามแนวแกน Y หรือตามแนวขวาง.................................. 12 4.3 ผลการทดสอบแรงต้านทานการดึงตะปู.............................................. 13 4.4 ผลการทดสอบการทนไฟและการเป็นฉนวนความร้อน....................... 14 4.5 น้ าหนักโดยรวมของแผ่นยิปซัมผสมใบอ้อย ที่ความหนา 1 นิ้ว........... 14
จ สารบัญตาราง ตารางที่ หน้าที่ 3.1 อัตราส่วนผสมของแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมใบอ้อยโดย น้ าหนัก (กิโลกรัม)............................................................................ 10
ก กิตติกรรมประกาศ โครงงานพัฒนาสิ่งประดิษฐ์จากวัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตร เรื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ แผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมเส้นใยจากใบอ้อย ส าหรับใช้ในอาคารประหยัดพลังงาน เพื่อการพัฒนา ตนเองและการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน สามารถด าเนินการจนประสบความส าเร็จลุล่วงไป ด้วยดี เนื่องจากได้รับความอนุเคราะห์และสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่งจาก นายสาธิต ศรีวรรณะ และ นางสาวธัญลักษณ์ เอื้อสลุง และคุณครูทุกท่านที่ได้กรุณาให้ค าปรึกษา ความรู้ ข้อคิด ข้อแนะน าและ ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ จนกระทั่งการพัฒนาโครงงานฯ ครั้งนี้ ขอขอบพระคุณท่านผู้อ านวยการโรงเรียนยางรากวิทยา นางปาณิสรา ศรีเชื้อ ที่อนุเคราะห์ เวลาและสนับสนุนทุนทรัพย์ส่วนตน เพื่อใช้จ่ายในการพัฒนาโครงงานงานวิทยาศาสตร์นี้ส าเร็จ เรียบร้อยด้วยดี ขอขอบพระคุณเกษตรกรชาวไร่อ้อยในต าบลยางรากทุกท่าน ที่ให้ข้อมูล เวลา ความรู้และ วัตถุดิบน ามาใช้การพัฒนาโครงงานสิ่งประดิษฐ์นี้ ขอขอบพระคุณนายผทัย ใจหาญ หรือช่างผัด ที่กรุณาให้กลุ่มงานของข้าพเจ้า น าสิ่งประดิษฐ์ที่ข้าพเจ้าพัฒนาขึ้นครั้งนี้ไปทดสอบการกดแตก และแรงต้านการดึงตะปู โดยใช้ เครื่องไฮดรอลิก ขอขอบพระคุณบิดา มารดา ญาติ พี่น้อง ของข้าพเจ้าทุก ๆ คน ที่เข้าใจและย้อมรับการ เสียสละเวลาพัฒนาโครงงานสิ่งประดิษฐ์ในครั้งนี้ ข้าพเจ้าและคณะด าเนินโครงงานฯ ขอกราบ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้
(1) บทคัดย่อ โครงงานนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมเส้นใย ใบอ้อยที่มีคุณสมบัติความเป็นฉนวนป้องกันความร้อนที่ดีทดสอบคุณสมบัติของแผ่นยิปซัมประเภท ทนไฟผสมเส้นใยใบอ้อย และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ทางอาหารและการเกษตรกรรม (Food and Agriculture) ขอบเขตโครงงานฯ ท าการทดสอบและเปรียบเทียบคุณสมบัติตามมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก. 219) เรื่องแผ่นยิปซัม (สมอ. 2552) ระยะเวลาในการด าเนินการวิจัย 3 เดือน (มิถุนายน 2565 – สิงหาคม 2565) พบว่า ที่อัตราส่วน 1: 0.300: 1: 0.03 โดยน้ าหนัก เป็น อัตราส่วนแผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมเส้นใบอ้อยที่มีความเหมาะสมที่สุด สิ่งประดิษฐ์จากผลิตภัณฑ์ ทางการการเกษตรนี้ สามารถลดการเผ่าท าลายโดยน ามาเป็นวัตถุดิบหลักในการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ และสามารถเป็นฉนวนความร้อนได้ดี ค ำส ำคัญ: แผ่นยิปซัม, ใบอ้อย, แรงกดแตก, แรงต้านทานการดึงตะปู, การทนไฟ
17 การพัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมประเภททนไฟผสมเส้นใยจากใบอ้อย ส าหรับใช้ในอาคารประหยัดพลังงาน โดย 1. เด็กชายธนากร หวนคะนึงคิด ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2. เด็กชายสรวิศ บาทขุนทด ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3. เด็กชายชานน ย้อยสนิท ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ครูที่ปรึกษา 1. นายสาธิต ศรีวรรณะ ต าแหน่งครูผู้ช่วย 2. นางสาวธัญลักษณ์ เอื้อสลุง ต าแหน่งครูอัตราจ้าง