ระบบกล้ามเน้อื (Muscular System)
คณุ สมบัติของกล้ามเนอ้ื
มคี วามรูส้ ึกตอ่ สง่ิ เรา้ (Irritability) คือ สามารถรับ สิ่งกระตุ้น (Stimuli) และ
ตอบสนองตอ่ สิง่ กระตุ้น (Stimuli) โดยการหดตวั ของ กล้ามเนอื้ เช่น กระแสประสาทที่
กล้ามเนอื้ เวลาที่จับโดนความรอ้ นหรอื กระแสไฟฟ้า เรามักมกี ารหนหี รือหลบเลย่ี ง
มคี วามสามารถที่จะหดตวั ได้ (Contractelity) คือ กล้ามเนอ้ื สามารถเปลีย่ น
รูปร่างใหส้ ั้นหนา และแข็งได้
ระบบกลา้ มเนือ้ (Muscular System)
คณุ สมบตั ขิ องกล้ามเนือ้
มคี วามสามารถที่จะหย่อนตวั หรอื ยดื ตวั ได้ (Extensibility) กลา้ มเน้อื สามารถ ที่
จะเปลี่ยน รูปร่างให้ยาวขึ้นกว่าความยาวปกติของมันได้ เม่ือถูกดึง เช่น กระเพาะอาหาร
กระเพาะ ปัสสาวะ มดลูก
มีความยืดหยุ่นคล้ายยาง (Elasticity) คือ มีคุณสมบัติท่ีเตรียมพร้อมที่จะ
กลับคนื สสู่ ภาพ เดิมได้ ภายหลงั การ ถกู ยดื ออกแลว้ ซง่ึ คณุ สมบตั ินท้ี าให้ เกดิ Muscle Tone
ขึ้น
มีความสามารถท่ีจะดารงคงท่ีอยู่ได้ (Tonus) โดยกล้ามเนื้อมีการหดตัว บ้าง
เลก็ นอ้ ย เพ่อื เตรียมพร้อมท่ีจะ ทางานอยเู่ สมอ
ระบบกลา้ มเน้ือ (Muscular System)
การหดตวั ของกล้ามเนอ้ื
เกิดขึน้ ไดเ้ ม่ือมีการกระตุ้น กลไก การหดตวั ของกล้ามเน้อื ลาย กล้ามเน้ือเรยี บ และ
กล้ามเนอื้ หวั ใจ
ในมนุษย์ มกี ารกระตุ้นของ ระบบประสาท หรือกระตุ้นโดยความร้อนหรือสารเคมี
หรอื อยา่ งใดอยา่ งหน่งึ
กล้ามเน้ือจะหดตัวได้ต้องอาศัยการเปล่ียนแปลงศักย์ไฟฟ้าขณะเซลล์ทางาน (
Action potential) ซึ่งเกิดข้ึน ท่ีบริเวณ เยื่อแผ่นใยกล้ามเน้ือ (muscle fiber) รวมทั้งต้อง
อาศัยพลงั งานอย่างมาก
ระบบกลา้ มเน้ือ (Muscular System)
กลา้ มเนอื้ ในส่วนตา่ งๆของรา่ งกาย
กล้ามเนื้อในร่างกายทั้งหมดมีอยู่ประมาณ 792 มัด เป็นกล้ามเน้ือชนิดที่อยู่ใน
อานาจจติ ใจ 696 มัด ที่ เหลืออกี 96 มดั เป็นกล้ามเนอื้ ทเี่ ราบงั คบั ไดไ้ มเ่ ต็มสมบูรณ์ ซ่ึงได้แก่
กล้ามเน้ือ ที่ทาหน้าที่ใน
การหายใจ (Respiration)
จาม (Sneezing)
ไอ (Coughing)
ระบบกลา้ มเนอ้ื (Muscular System)
การแบ่งประเภทของกลา้ มเน้ือในร่างกาย
- ลกั ษณะการทางานของกล้ามเนื้อ (By Action) เช่น กล้ามเนื้อด้านในของต้นขา Adductor
Muscle ทาหน้า ที่ในการหบุ ขา
- ตาแหนง่ ทีต่ ง้ั (By location) เช่น กลา้ มเนอ้ื ปลายแขนด้านหน้า ติดกับกระดกู Tiibia,Tibialis
antorioi
- จดุ เริ่มต้นหรือส่วนยดึ (By heads of origin) เช่น กลา้ มเน้ือ Biceps brachii ซึ่งมี Origin 2
จุด กลา้ มเนือ้ Triceps และ Quadraceps
- รูปร่าง (By shape) เช่น กล้ามเน้ือ Trapezius ซึ่งมีลักษณะ เป็นสี่เหล่ียมขนมเปียกปูน
กลา้ มเนอ้ื Detoid ที่ปกคลุมไหลมรี ูปรา่ ง คลา้ ยตัว D
- ตาแหน่งท่ีกล้ามเน้ือเกาะหรือยึดอยู่ เช่น Sternum กระดูก Clavicle และ Mastoid
process ของ กระดกู ขมบั
ระบบกลา้ มเนื้อ (Muscular System)
กลา้ มเน้ือของศรีษะ (The Muscles of head)
1. กล้ามเน้ือแสดงสีหน้า (Muscles of facial
expression) เป็นกล้ามเน้ือท่ีอยู่ติดกับผิวหนัง
มาก จึงมีหน้าที่ทา ให้ผิวหนัง เคล่ือนไหว และ
เปลย่ี นลักษณะของสีหนา้ ประกอบดว้ ย
Orbicularis Oculi ทาหนา้ ท่ี หลับตา
Orbicularis Oris หุบปาก,เมม้ รมิ ฝปี าก
Frontal Muscle ยักคว้ิ ,หนา้ ผากยน่
ระบบกลา้ มเนื้อ (Muscular System)
กลา้ มเนื้อของศรษี ะ (The Muscles of head)
2. กล้ามเนื้อคอ (Muscles of the Neck)
ประกอบดว้ ย
- Sternocleido mastoid ถ้า 2 มัด
ทางานจะก้มศรีษะลง ถ้ามัดเดียวทางานจะเอียง
ศรษี ะ ไปขา้ งท่ีหดตวั
- Platysma ทาหน้าท่ี ดึงฝีปากล่าง
และมุมปากลง
ระบบกล้ามเนื้อ (Muscular System)
กลา้ มเนอ้ื ของลาตวั (TheMuscles of the Trunk)
2. กลา้ มเนอื้ ของทรวงอกด้านหนา้ (Muscles of the chest)
Pectoralis major หุบ,งอและหมุนต้น
แขนเขา้ ข้างในมาข้างหน้า
Pectoralis minor ดึงไหล่ลง,หมุน
สะบักลงข้างลา่ ง
Serratus anterior ยึดสะบักให้อยกู่ ับที่,ดึงสะบักไปข้างหนา้ และข้างๆ
ระบบกล้ามเนอ้ื (Muscular System)
กลา้ มเนื้อของลาตวั (TheMuscles of the Trunk)
3 กลา้ มเน้ือทช่ี ่วยในการหายใจ (The Muscles of respiration)
Diaphragm ทาให้ช่องอกขยาย
โตข้นึ และช่วยดนั ปอดให้ลมออกมา
External Intercostal ยกซี่โครง
ขน้ึ ทาให้ช่องอกขยาย ใหญ่ขึน้
Internal Intercostal ทาให้ช่อง
อกเล็กลง
ระบบกล้ามเนอ้ื (Muscular System)
กลา้ มเน้อื ของลาตัว (TheMuscles of the Trunk)
4 กลา้ มเน้ือของท้อง (The Muscles of abdomen)
Rectus abdominis ทาหน้าที่
เม่อื หดตัวจะกดอวัยวะตา่ งๆ ในชอ่ งทอ้ ง เพมิ่
แรงกดดัน (Pressure) ในช่อง ท้อง ช่วยใน
การคลอดบุตร ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
อาเจียน
External obligue , Internal
obligue , Transversus abdominis ทา
หนา้ ที่ ชว่ ยกดอวยั วะในช่องท้อง ช่วยในการ
หายใจออก ช่วยป้องกันอวัยวะภายในไม่ให้
เปน็ อันตราย และไม่ให้เคล่ือนที่ ช่วยงอและ
หมุนกระดูก สนั หลงั
ระบบกลา้ มเนื้อ (Muscular System)
กล้ามเนอื้ ของอุ้งเชิงกราน (Muscles of pelvis)
Levator ani และ Coccygeus ทาหน้าท่ี ขึงอยู่ใน Pelvic cavity คล้ายเป็น Pelvic diaphagm รองรับ
อวยั วะท่ีอยู่ภายในอุ้งเชงิ กรานไว้
ระบบกล้ามเนื้อ (Muscular System)
กลา้ มเนือ้ ของแขน (Muscles of the upper extremities)
1 กลา้ มเนื้อไหล่ (Muscles of the shoulder)
Deltoid ทาหน้าท่ี กางต้นแขน
ข้นึ มาเป็นมมุ ฉาก
Supraspinatus , Infraspinatus ,
Teres minor ทาหน้าที่ พยุงไหล่ หบุ แขน และ
หมุนตน้ แขนไปข้างๆ
Teres major ทาหน้าท่ี หุบแขน
และหมนุ ตน้ แขนเข้าข้างใน
Subscapularis ทาหน้าที่ หมุนต้น
แขนเขา้ ข้างใน และพยงุ หัวไหล่
ระบบกล้ามเนือ้ (Muscular System)
กลา้ มเนือ้ ของแขน (Muscles of the upper extremities)
2 กลา้ มเน้อื ตน้ แขน (Muscles of the arm)
Biceps brachii คล้ายกระสวยปลายบนมี 2
หวั ทาหนา้ ที่ งอขอ้ ศอกและหงายมอื
Triceps brachii มัดใหญ่อยู่หลังต้นแขน
ปลายบนมี 3 หัว ทาหน้าท่ี เหยียดปลายแขน หัวยาว
เหยียดและหุบแขน
Brachialis คลุมส่วนหน้าของข้อศอก ทา
หน้าท่ี งอปลายแขน
Coracobrachialis ทาหน้าท่ี งอและหุบแขน
ชว่ ยให้หวั ของกระดูก humerus อยูใ่ น Glenoid
ระบบกล้ามเนือ้ (Muscular System)
กล้ามเนื้อของแขน (Muscles of the upper extremities)
3 กล้ามเนอ้ื ปลายแขนดา้ นหนา้ (Volar group)
Pronator Teres ทาหน้าท่ี คว่ามือ
และงอแขนท่อนลา่ ง
Pronator guadatus ทาหน้าที่ คว่า
แขนทอ่ นบน
Flexor carpi Ulnaris ทาหน้าที่
คว่าแขนทอ่ นลา่ ง งอและหุบมอื
Flexor digitorum Profundus ทา
หน้าท่ี งอมอื และงอปลายน้ิว
ระบบกล้ามเนื้อ (Muscular System)
กลา้ มเนือ้ ของแขน (Muscles of the upper extremities)
4 กลา้ มเนื้อปลายแขนดา้ นหลัง (Dorsal group)
Brachioradialis ทาหน้าท่ี งอปลาย
แขนและหงายมอื
Extensor carpi Radialis brevis
ทาหน้าท่ี เหยียดแขนท่อนล่างเหยียดและกาง
ขอ้ มือ
Extensor carpi Ulnaris ทาหน้าที่
เหยียดและกางขอ้ มอื
Extensor digitorum ทาหน้าที่
เหยียดนว้ิ มอื และข้อมือ
ระบบกลา้ มเน้อื (Muscular System)
กล้ามเน้อื ของแขน (Muscles of the upper extremities)
5 กล้ามเนื้อของมอื (Muscles of the hand)
กล้ามเนื้อของมือเป็น
กลา้ มเน้ือสนั้ ๆ
ที่ทาหน้าท่ี ในการ
เคลื่อนไหวน้ิวหัวแม่มือและน้ิว
อ่นื ๆ
น อ ก จ า ก นี้ ยั ง มี
กล้ามเน้ือมัดเล็กๆ ท่ีน้ิวมืออีก
จ า น ว น ม า ก ซึ่ งช่ ว ย ใน ก า ร
เคลือ่ นไหวนิ้วมือ
ระบบกลา้ มเน้ือ (Muscular System)
กลา้ มเนอ้ื ขา (Muscle of lower extremities)
1 กล้ามเน้อื บรเิ วณสะโพก
ทาหน้าที่ เคลื่อนไหวขาท่อนบน
ได้แก่
Gluteus maximus ทาหน้าท่ี
เหยียดและกางตน้ ขา
Gluteus medius ทาหน้าท่ี กาง
ต้นขา
Gluteus minimus ทาหน้าที่
หมุนต้นขาเขา้ ข้างใน
ระบบกลา้ มเนอ้ื (Muscular System)
กลา้ มเนอื้ ขา (Muscle of lower extremities)
กล้ามเนอ้ื ของตน้ ขา (The Muscles of the thigh)
กล้ามเน้ือต้นขาด้านหน้า ประกอบด้วย
ก ล้ า ม เ นื้ อ มั ด ใ ห ญ่ ๆ ที่ เ รี ย ก ว่ า
Quadriceps femoris มหี น้าที่เหยีดปลาย
ขา มี 4 มัด
ระบบกล้ามเนื้อ (Muscular System)
กล้ามเนอ้ื ขา (Muscle of lower extremities)
กลา้ มเน้ือของตน้ ขา (The Muscles of the thigh)
กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง ประกอบด้วย
กล้ามเนื้อกลุ่ม Hamstring muscles เป็น
พวก งอปลายขาข้นึ มา มี 3 มดั
ระบบกลา้ มเนือ้ (Muscular System)
กล้ามเนื้อขา (Muscle of lower extremities)
กลา้ มเนอ้ื ของปลายขา (The Muscles of the legs)
1 กล้ามเน้ือของปลายขาด้านหนา้
Tibialis anterior ทาหน้าท่ี งอหลงั เท้า เหยยี ดนิ้วเท้า หมนุ ฝาเทา้ เขา้ ข้างใน
Extensor digitorum longus ทาหนา้ ที่ งอเทา้ เหยยี ดน้วิ เท้า หนั เทา้ ออกข้างนอก
Peroneus longus ทาหนา้ ท่ี เหยยี ดเทา้ กางและหมนุ เท้าออกขา้ งนอก
Peroneus brevis ทาหน้าท่ี เหยียดเทา้ หมุนเทา้ ออกข้างนอก
2 กล้ามเน้ือของปลายขาดา้ นหลัง
Gastrocnemius มี 2 หวั ทาหนา้ ที่ เหยียดข้อเท้างอปลายขา
Soleus ทาหนา้ ท่ี เหยยี ดขอ้ เท้า
กลา้ มเน้อื ท้ัง 2 มดั รวมกันเป็น Tendon ทหี่ นาและแข็งแรงทส่ี ดุ ในรา่ งกาย แลว้ ไปเกาะ
ที่กระ ดกู สันเทา้ ตรงที่เรียกว่า เอ็นรอ้ ยหวาย
ระบบย่อยอาหาร (Digestive system)
การแปรสภาพของอาหารเกิดจากปฏิกิริยาเคมีท่ีอาศัย
การทางานของเอนไซม์ย่อยอาหาร โดยท่ัวไปเรียกว่า น้าย่อย
จากนั้นโมเลกุลของสารอาหารจะถูกดดู ซมึ เขา้ สเู่ ซลล์
กระบวนการแปรสภาพอาหารที่มีโมเลกุลใหญ่ให้มี
โมเลกุลเล็กลง เรียกว่า การยอ่ ยอาหาร (Digestion)
การย่อยอาหาร (Digestion) หมายถึง กระบวนการ
สลายอนุภาคอาหารให้มีขนาดเล็กสุด จนสามารถดูดซึมเข้าไปใน
เซลลไ์ ด้
ระบบย่อยอาหารประกอบด้วยอวัยวะหลาย ๆ อวัยวะ
ได้แก่ ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ตับ ตับอ่อน ลาไส้เล็ก
ลาไสใ้ หญ่ ซ่ึงอวัยวะบางอวยั วะไม่มีการย่อยแต่เกี่ยวข้องกับทางเดิน
อาหาร
ระบบย่อยอาหาร (Digestive system)
อวัยวะท่ชี ่วยยอ่ ยอาหาร
1. ตอ่ มนา้ ลาย (Salivary Gland)
2. กระเพาะอาหาร (Stomach)
3. ลาไส้เล็ก (Small Intestine)
4. ตับ (Liver)
5. ตบั อ่อน (Pancreas)
ระบบยอ่ ยอาหาร (Digestive system)
การยอ่ ยอาหารมี 2 ขน้ั ตอน
การย่อยเชงิ กล (Mechanical digestion)
- เป็นกระบวนการทาให้อาหารมีขนาดเล็กลง
เพือ่ สะดวกตอ่ การเคลื่อนทีแ่ ละการเกดิ ปฏิกริ ิยา
เคมตี ่อไป
- โดยการบดเค้ียว รวมทั้งการบีบตัวของ
ทางเดินอาหาร ยังไม่สามารถทาให้อาหารมี
ขนาดเล็กสดุ จึงไมส่ ามารถดดู ซึมเขา้ เซลลไ์ ด้
ระบบยอ่ ยอาหาร (Digestive system)
การย่อยอาหารมี 2 ข้ันตอน
การยอ่ ยทางเคมี (Chemical digestion)
- เปน็ การย่อยอาหารให้มีขนาดเล็กทีส่ ุด โดยการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีระหวา่ ง อาหาร กับ น้า โดยตรง
- ใชเ้ อนไซมห์ รือนา้ ยอ่ ยเข้าเร่งปฏิกริ ยิ า ผลจากการยอ่ ยทางเคมีเมื่อถึงจุดสุดท้าย จะได้สารโมเลกุลเล็ก
ท่ีสุดที่สามารถดูดซมึ เข้าสู่เซลล์ได้
- อาหารทตี่ อ้ งมกี ารยอ่ ย ไดแ้ ก่ คารโ์ บไฮเดรต โปรตนี และไขมัน ส่วนเกลือแร่ และวิตามนิ จะดูดซึมเข้าสู่
ร่างกายไดโ้ ดยตรง
ระบบยอ่ ยอาหาร (Digestive system)
น้าดี (Bile)
สร้างจากตับ (Liver) แล้วถกู นาไปเก็บไวท้ ่ี ถุงน้าดี (Gall Bladder) ไมถ่ อื วา่ เปน็ เอนไซม์ เพราะ
จะเปลีย่ นสภาพไปจากเดิม เมอ่ื ปฏิกริ ิยาสิ้นสดุ ลงแล้ว (นา้ ดีไมม่ ีน้ายอ่ ย) มีส่วนประกอบ 3 สว่ น
เกลือน้าดี (Bile Salt) มีหน้าท่ีตีให้
ไขมัน (Fat) แตกตัวเป็นหยดเล็ก ๆ
ไขมันท่ีถูกตีให้แตกตัวเป็นหยดเล็ก ๆ
เรยี กว่า อีมัลช่นั (Emulsion) จากนั้นถูก
Lipase ย่อยต่อให้เป็นกรดไขมันและกลี
เซอรอล
ระบบย่อยอาหาร (Digestive system)
น้าดี (Bile)
รงควัตถุน้าดี (Bile Pigment) เกิดจากการ
สลายตัวของฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) โดยตับเป็น
แหล่งทาลายและกาจดั Hemoglobin ออกจากเซลล์
เมด็ เลือดแดงทหี่ มดอายุ โดยเก็บรวบรวมเข้าไว้เป็นรงควัตถุในน้าดี (Bile Pigment) คือ บิริรูบิน (Bilirubin) จึงทาให้
นา้ ดีมสี ีเหลอื งหรอื เขียวอ่อน และจะถูกเปลี่ยนเป็นสเี หลืองแกมนา้ ตาลโดยแบคทเี รยี ในลาไส้ใหญเ่ กิดเป็นใสในอจุ จาระ
ระบบย่อยอาหาร (Digestive system)
นา้ ดี (Bile)
โคเรสเตอรอล (Cholesterol) ถ้ามีมาก ๆ จะทาให้เกิดน่ิวในถุงน้าดี เกิดการอุดตันที่ท่อน้าดี
เกดิ โรคดีซ่าน (Janudice) มผี ลทาให้การย่อยอาหารประเภทไขมันบกพร่อง
ระบบย่อยอาหาร (Digestive system)
การย่อยในปาก
เริ่มต้นจากการเคี้ยวอาหารโดยการทางานร่วมกันของ ฟัน ล้ิน และแก้ม ซึ่งถือเป็นการย่อย
เชิงกล
เอนไซม์ในน้าลาย คือ ไทยาลิน หรืออะไมเลสจะย่อยแป้งในระยะเวลาสั้น ๆ ในขณะท่ีอยู่ใน
ช่องปากให้กลายเป็น เดกซ์ทริน (Dextrin) ซ่ึงเป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลเล็กกว่าแป้ง แต่ใหญ่กว่า
นา้ ตาล และถกู ย่อยตอ่ ไปจนเป็นน้าตาลโมเลกลุ คู่ คือ มอลโตส
ระบบยอ่ ยอาหาร (Digestive system)
ตอ่ มน้าลาย (Salivary Gland)
ผลิตน้าย่อยอะไมเลส (Amylase)
หรือ ไทยาลิน (Ptyalin) ย่อยแป้งให้
เปน็ นา้ ตาลมอลโทส
เป็นตอ่ มมที อ่ ทาหน้าทผี่ ลติ น้าลาย (Saliva) ต่อมนา้ ลายของคนมอี ยู่ 3 คู่ คือ
1. ตอ่ มน้าลายใตล้ ้นิ (Sublingual Gland) 1 คู่
2. ตอ่ มนา้ ลายใต้ขากรรไกรล่าง (Submandibulary Gland) 1 คู่
3. ต่อมนา้ ลายขา้ งกกหู (Parotid Gland) 1 คู่
ตอ่ มนา้ ลายท้ัง 3 คนู่ ี้ ทาหนา้ ทสี่ รา้ งนา้ ลายทีม่ เี อนไซม์อะไมเลส ซงึ่ เปน็ เอนไซม์ท่ยี อ่ ยสารอาหาร
จาพวกแปง้ เท่าน้ัน
ระบบยอ่ ยอาหาร (Digestive system)
ตอ่ มน้าลาย (Salivary Gland)
ความสาคัญของน้าลาย
- เปน็ ตวั หลอ่ ล่ืน และทาใหอ้ าหารรวมกนั เป็นกอ้ น เรยี กวา่ โบลสั (Bolus)
- ช่วยทาความสะอาดปากและฟนั
- มเี อนไซมช์ ว่ ยย่อยแป้ง
- ชว่ ยทาให้ปมุ่ รับรสตอบสนองต่อรสหวาน รสเค็ม รสเปรี้ยว และรสขมได้ดี
ระบบยอ่ ยอาหาร (Digestive system)
การยอ่ ยในกระเพาะอาหาร
กระเพาะอาหาร
- ประกอบขน้ึ ด้วยกล้ามเน้ือเรียบที่อัดกนั หนามาก
- ด้านในมีลักษณะเป็นสันชว่ ยในการบดอาหารให้มี
ขนาดเลก็ ลง
- ผนงั ด้านในสามารถสร้างเอนไซมเ์ พปซโิ นเจน
(Pepsinogen) และกรดไฮโดรคลอริกหรอื กรดเกลือ
(HCI)
- เพปซโิ นเจนจะถูกกรดเกลือเปลย่ี นสภาพให้
กลายเปน็ เอนไซมเ์ พปซนิ (Pepsin) ซ่ึงมีความสามารถ
ในการย่อยโปรตนี ใหม้ โี มเลกลุ เลก็ ลง เรียก่า เพปไทด์
(Peptide) แตย่ ังไม่สามารถดูดซมึ ไดด้ ี
ระบบยอ่ ยอาหาร (Digestive system)
การยอ่ ยในกระเพาะอาหาร
อาหารจะถูกคลุกเคล้าอยู่ในกระเพาะด้วยการหดตัว
และคลายตัวของกล้ามเน้ือท่ีแข็งแรงของกระเพาะ
โปรตีนจะถกู ยอ่ ยในกระเพาะ โดยน้ายอ่ ยเพปซิน
นา้ ยอ่ ยเพปซนิ ยอ่ ยพนั ธะบางชนดิ ของเพปไทด์เทา่ นน้ั
ดังน้นั โปรตีนที่ถกู เพปซินย่อยสว่ นใหญจ่ งึ เปน็ พอลิเพป
ไทด์ทสี่ ัน้ ลง
ส่วนเรนนินช่วยเปลี่ยนเคซีน (Casein) ซ่ึงเป็นโปรตีน
ในน้านมแล้ว รวมกับแคลเซียมทาใหม้ ีลกั ษณะเป็นล่ิม
ๆ จากนัน้ จะถกู เพปซินยอ่ ยต่อไป
ระบบยอ่ ยอาหาร (Digestive system)
การย่อยในกระเพาะอาหาร
ในกระเพาะอาหาร น้าย่อยลิเพสไม่สามารถทางานได้
เน่อื งจากมีสภาพเป็นกรด
โดยปกติอาหารจะอยู่ในกระเพาะอาหารนาน 30
นาทถี ึง 3 ช่วั โมง ซง่ึ ขึน้ อยู่กบั ชนดิ ของอาหารน้นั ๆ
กระเพาะอาหารก็มีการดูดซึมอาหารบางชนิดได้ แต่
ปริมาณน้อยมาก เช่น น้า แร่ธาตุ น้าตาลโมเลกุล
เด่ยี ว กระเพาะอาหารดูดซึมแอลกอฮอลไ์ ดด้ ี
ระบบย่อยอาหาร (Digestive system)
ลาไส้เล็ก
เป็นทางเดินอาหารส่วนท่ยี าวมาก แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
ดูโอดนี ัม เจจนู ัม และไอเลียม
ผนงั ลาไสเ้ ลก็ สามารถสร้างน้าย่อยข้ึนมาได้ ซ่ึงมีหลาย
ชนดิ
ลาไส้เล็กส่วนดูโอดีนัม ยังได้รับน้าย่อยจากตับอ่อน
และน้าดีมาจากตับ น้าย่อยจากตับอ่อนมีหลายชนิดที่
สามารถย่อยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมนั ได้
ระบบยอ่ ยอาหาร (Digestive system)
ลาไส้เลก็
การยอ่ ยอาหารในลาไส้เล็ก
1.ย่อยน้าตาลโมเลกลุ คู่ ให้เปน็ นา้ ตาลโมเลกุลเด่ียว ดังนี้
- มอลโทส โดยเอนไซมม์ อลเทส ไดก้ ลูโคส 2 โมเลกลุ
- ซโู ครส โดยเอนไซม์ซเู ครส ไดก้ ลโู คส และฟรกั โทส
- แลกโทส โดยเอนไซมแ์ ลกเทส ไดก้ ลโู คส และกาแลกโทส
2. ยอ่ ยสารอาหารโปรตีนต่อจากกระเพาะอาหาร ได้แก่ เพปไทด์โดยเอนไซม์ทริปซินได้กรดอะมิ
โน ซึง่ เป็นโปรตีนโมเลกุลเดยี่ ว
3. ยอ่ ยไขมนั โดยเอนไซม์ ลิเพส จะยอ่ ยไขมนั โมเลกุลเลก็ ( emulsified fat ) ให้เป็นไขมันโมเลกุล
เดีย่ ว ได้แก่ กรดไขมันและกลีเซอรอล
ระบบย่อยอาหาร (Digestive system)
ลาไส้เลก็
การดูดซมึ อาหารในลาไสเ้ ลก็
- เป็นบริเวณท่ีดูดซึมอาหารเกือบทั้งหมด
เพราะเป็นบริเวณท่ีมีการย่อยอาหารเกิดขึ้น
อยา่ งสมบรู ณ์
- สารโมเลกุลเดย่ี ว เชน่ กลูโคส กรดอะมิโน
กรดไขมนั กลีเซอรอล
- โครงสรา้ งภายในลาไส้เล็กก็เหมาะแกก่ ารดดู ซึม คือ
- ผนงั ลาไสเ้ ลก็ จะยาวพบั ไปมา
- ส่วนย่ืนของกลุ่มของเซลล์ที่เรียงตัวเป็นแถวเดียวมีลักษณะคล้ายนิ้วมือ เรียกว่า วิลลัส (Villus)
เป็นจานวนมาก ในแต่ละเซลล์ของวิลลัสยังมีส่วนยื่นของเย่ือหุ้มเซลล์ออกไปอีกมากมาย เรียกว่า ไมโครวิลลัส
(Microvillus)
ระบบย่อยอาหาร (Digestive system)
การดดู ซมึ ในลาไส้ใหญ่
อาหารท่ีไม่ถูกย่อยหรือย่อยไม่ได้ เช่น
เซลลโู ลส ก็จะถูกส่งไปยังลาไส้ใหญ่ ส่วนต้นของลาไส้
ใหญม่ ีไสเ้ ล็ก ๆ ปลายตัน เรยี กว่า ไสต้ ่งิ
อาหารท่ีเหลือจากการย่อยและดูดซึมแล้วจะ
ผ่านเข้าสู่ลาไส้ใหญ่ ลาไส้ใหญ่มีแบคทีเรียอยู่จานวนมาก
แบคเทีเรียบางชนิดยังสังเคราะห์ วิตามินบาง
ชนดิ เช่น วิตามินเค วติ ามินบี 12
เซลล์ที่บุผนังลาไส้ใหญ่ สามารถดูดน้า แร่ธาตุ
วิตามิน และกลูโคสจากกากอาหารเข้ากระแสเลือด ซ่ึง
ส่วนใหญ่จะเป็นน้า จึงทาให้กากอาหารข้นขึ้น และถูก
ขบั ถา่ ยทางทวารหนัก
• โครงสรา้ งและหนา้ ที่ของอวยั วะตา่ งๆ
ของรา่ งกายมนุษย์ 2