51
เข้าไปเพ่ืออะไร อดีต ปัจจุบัน อนาคต
วดั วาอารามใหญ่คล้ายวงั เวียง อดีตสอนให้เตบิ โตระลกึ ถงึ
ประดบั ประดาเคียงสวรรค์คล้าย คานงึ ถึงความสขุ ก็แสนหวาน
มลู คา่ หลายล้านแตง่ สร้างแข่งขนั คานงึ ถงึ ความปวดร้าวก็ทรมาน
เหลือพระหนงึ่ รูปแลโยมแก่ชรา แตท่ กุ อยา่ งก็ผ่านเป็ นอดีตแล้ว
โจรก็ขนึ ้ งดั ง้างบาตรกิน ปัจจบุ นั อยรู่ ะหว่างอดตี และอนาคต
ขโมยพระพทุ ธรูปปางหากินความเชื่อ กาลงั สดในเวลาและความฝัน
สีกานงุ่ กระโจมอาบนา้ มนต์ขลงั คดิ ถงึ อนาคตหรือปวดร้าวกบั อดตี จ่อมจมทกุ วนั
ลงนะหน้าท้องแบนราบเสริมบารมี ปัจจบุ นั ก็เป็นอดีตเป็นอนาคตได้ทงั้ สนิ ้
มีเปรตคบสมภารคอยสอนถ้อยคาธรรม อนาคตผา่ นอดีตเป็นปัจจบุ นั
ขายบญุ เป็นเงินกามากล้น มีความหลงั มีความฝันปัจจบุ นั สนิ ้
บญุ วาสนาจกั เกิดด้วยทรัพย์สนิ กอ่ อนาคตท่ีจะถึงไมใ่ ชค่ วามจริง
ขายไร่นาที่เพื่อสร้างบญุ ญาตน เป็นปัจจบุ นั เป็นอดีตคดิ สร้างเป็น
เข้าวดั เพียงชมโบสถ์โอ้อา่ อนั รวม อดีต ปัจจบุ นั และ อนาคต
เส่ียงเซียมซีราพาพรรณดวงถ้อย ทกุ ส่งิ หมดไปกบั เวลาและความฝัน
เอาอดตี เอาอนาคตเป็นปัจจบุ นั
หยอดสิบบาทหวงั ได้สิบล้าน
บห่ วงั ได้สจั ธรรมเที่ยงแท้ประดบั หู มีความฝันมีอดีตเป็ นเงาเวลา
52
โลกไม่เคยสนิ้ สงคราม
โลกใบนีไ้ มเ่ คยสนิ ้ สงคราม
ยงั เถ่ือนทรามในโลกหล้า
ทวีปนีเ้มืองนนั้ นานา
เดก็ ผวาใครทาอะไรกนั
โลกเลก็ เล็กในจกั รวาล
เขาแยง่ อะไรกนั นกั หนา
แบง่ ฝักแบง่ ฝ่ ายแบง่ แยกศาสดา
แล้วสาดฤทธาเข้าหากนั
ใครไหนเลา่ ได้ประโยชน์
เฝ้ าโทษกลมุ่ นนั้ กลมุ่ นีส้ ร้างปัญหา
ท้ายสดุ ใครเลา่ หลงั่ รินนา้ ตา
เดก็ ผ้หู ญิง ประชาชน คนบ้า หรือผ้นู า
จะเฝ้ าเอือ้ ยเอย่ กบั ศาสดาองคใ์ ด
วา่ มนษุ ย์ประเสริฐไซร้กวา่ ทกุ สรรพสิ่ง
ดสู ง่ิ มนษุ ย์ทากบั มนษุ ย์บนความจริง
ชา่ งเป็นส่งิ เสริฐคา่ กวา่ สง่ิ ใดใด
53
สัญญา รักษาสงบเสง่ียมเชน่ สตั ตบรรณ
ธรรมะธรรมใดอนั สืบชี ้
นบั แตส่ ญั ญาปางนนั้ ดบั ลง
ดอกหนาวถกู ปื นปงเด็ดทงิ ้ อารามขว่ งแก้วถึงหอมคกู่ าลเกือ้
บข่ าดบล่ ะสืบทอดถงึ ลกู หลานแฮ
สจั จะบม่ ีในหมโู่ จรผู้
สกั ขีพยานพร้อมโลกรู้สืบเนือง ยืนต้นในรากเหง้าแหง่ ตน
แผเ่ ผ่ือเสรีชนทว่ั หล้า
ดอกนนั้ ดอกนีค้ ือดอกหนาวไพร
บดั นีถ้ กู กลบลบซอ่ นใบผลดั ทงิ ้ กลีบผกางามพร้ อมสรรเสริญ
ด้วยศาสตราเขีย้ วเล็บคมปล้น พญาเสือไร้จริตจงึ่ ใคร่ปองเครือ
บอ่ ยากหา่ งต้นใบเพียงถกู ทงึ ้ พรากเพิง
ดอกหนาวเคยสงบเลิศลา้ แดนดนิ
มีเทือกเขาเหลา่ หยกนลิ เกลื่อนฟ้ า
หงส์เหนิ ร่ายราเกีย้ วในมรรค
บต่ า่ งราชพฤกษ์รุ่งโรจน์ครัง้ แลนา
ตา่ งยืนตา่ งยงดีงามวฒั นธรรมไพร
เจ้าฟ้ าเจ้าเมืองนยั สืบป้ อง
ภาษาพดู เขียนเป็นเจ้าตนมี
เสมอเหมือนผกามาศของชาตชิ นั้ ชนเจริญ
54
เสรีภาพมนุษยชาติ เราก็คนชนชนั้ ย่ิงใหญ่นา
สรรพตา่ งเคยมีมาเหมือนแท้
แม้วา่ โลกเจริญก้าวไกลไกล เพียงดอกหนาวนีบ้ ย่ อมก้มให้
เทคโนโลยีก้าวนาไปบช่ ้า โจรถอ่ ยยียา้ เสมือนเดรัชชา
โทรจิตมองพกั ตร์ข้ามโลก
เพียงอีกเศษสว่ นใกล้ลา้ ไป่ มี
คอื พญาเสือโคร่งแมกไม้แทนกนั
คอื บษุ บาของผองพนั ธ์ุเผา่ เชือ้
ริมเขตแดนผกามาศใกล้ลา้
ยงั จบั ปื นยืนส้เู รียกร้องเสรีชนตน
ดอกไม้เยาว์คงขืนไห้บที า
ด้วยด้ามปื นมีดพร้าเถ่ือนถ้อย
มะลนิ ้อยถกู กกั ต้อนทาสหาบ
ทานตะวนั เหี่ยวเฉาร้องวอนชีวี
เพียงเรียกเพียงร้ องเสรีชนเอย
ท่ีเคยชมชื่นประชาชีก่อนเกือ้
โดนลกั ขโมยด้วยเล่ห์ไกปื น
ใดเลา่ ในโลกจกั บส่ ้เู พื่อเสรีชนเฮย
55
ต้นไม้ใหญ่ ภเู ขาสูง ทุ่งราบแคบ ข้าวสกุ รอแบง่ ปันกินในหมวก
กบั ผกั ลวกนา้ พริกฉีกปันให้
รุ่งเช้ายงั พราวพร่างนา้ ค้างป่ า มือจบั ปื นป้ อนข้าวแลแมกไพร
สกณุ าถลาบนิ ในกล่นิ หนาว ขม่ ขืนใจหมน่ ทกุ ข์ แม้ดอกแย้มยามเช้า
สดู ดมไอแมกพรรณฉ่าสกาว
แม้เหน็บหนาวยงั พราวพร่างในจนิ ตนา
เสียงนา้ ตกหมอกฟ้ ายงั คราคร่า
สงู เสียดชนั ท้องนภาดงั สวรรค์
ฟองขาวคล้งุ บริสทุ ธ์ิผดุ ผ่องพรรณ
หอมสะพร่ันกล่นิ แมกไม้ในป่ าเครือ
มวลแมกหญ้ายงั ชชู ่อหอ่ นา้ เหมย
เหมือนจกั เคยร่วมเคยี งคชู่ าติปางไหน
ก่อนแดดออ่ นจกั มาพรากนากลบั ไป
เช้าวนั ใหมก่ ลบั มาพร้อมรักศรัทธา
ภเู ขาสลบั ซบั ซ้อนนอนเรียงเคยี งชดิ ใกล้
ต้นไม้ใหญ่ตงั้ ตระหงา่ นผา่ นลมผวน
เขียวขจีผลิดอกไม้ ไร้ รัญจวน
ซง่ึ ตา่ งล้วนพง่ึ แบง่ ปันผนั ผ่านเวลา
56
เสียงพณิ ท่หี ายไป แสงแห่งความอบอุ่น
เม่ือเทียนอบั ไส้ย่อมไร้แสง ขดตวั เหนบ็ หนาวบนหยาดนา้ ค้าง
เม่ือแมลงอบั เกสรยอ่ มไร้คู่ นอนอ้างว้างในป่ าเขาลาเนาสนั ต์
เมื่อนภาไร้ ดาวสกาวพรู เสียงลมพดั ขดั ก่ิงไม้ออเซาะกนั
โลกหดหหู่ มองคลา้ ระกาใจ เดอื นดาวพลนั สง่ ผ้าหม่ พรมศรัทธา
ววั ไร้หญ้านาไร้ควายปลาไร้หนอง ในจกั รดาราคา่ คืนอนั มืดมดิ
เณรไร้ฆ้องพระไร้ศีลพณิ ไร้เสียง ยงั ลิขิตวาดฝันอนั เฉิดฉาย
ดอกไร้กล่ินปลาไร้คาวดาวไร้เดือนเคยี ง ให้กวีมีตาทิพย์ทอดประกาย
ไร้ แม้ เสียงลมหายใจกลิ่นไอรัก ชว่ ยเฉิดฉายประกายแสงแหง่ ศรัทธา
หิง่ ห้อยโดนบดก้นแสงทงิ ้
แล้วเอาสงิ่ โสมมจมปลกั ใส่
เฉือนรากแก้วแล้วให้เหลือแตด่ อกใบ
ให้คอ่ ยเห่ียวสิน้ ไซร้เพียงลาพงั
เหลือเพียงแสงดาวแหง่ ศรัทธา
ในร่องนา้ ตาที่เหือดไหม้
เหลือเพียงแสงเสรีผอ่ งอาไพ
ก้าวเล็กเลก็ ยงั ยงิ่ ใหญ่ในผองพนั ธ์ุ
57
หน้ารักใจเสือ วอนเดือนหม่ ดาว
วอนลมหม่ ฟ้ า
พี่เป็นเสืออยใู่ นป่ านา่ กลวั นกั วอนเสรีหม่ ศรัทธา
กลวั ดอกรักที่หา่ งพี่จะมีขม วอนนาคารักเสือป่ าสะกิดใจนาง
กลวั ไอ้บ้าโจรถ่อยจบั อนงค์
เดด็ จบั ถมจมกองเลือดแล้วเชือดกิน
ใจพี่ร้อนดงั กองฟอนที่ผ่อนพกั
ร้อนยง่ิ นกั แม้พรรณป่ าจะเหนบ็ หนาว
แม้นา้ ค้างหยาดหยดลงเป็นราว
มอิ าจหนาวหว่ งเกสรร้อนฤทยั
พี่เข้าป่ ามาเพื่อชาตทิ ่ีวาดไว้
ดอกหนาวไพรจงรอพ่ีอยา่ หนีหลง
หากเสร็จศกึ การเมืองอ่อนเจ้าอนงค์
จะฝ่ าดงเหาะข้ามด้าวให้เจ้าเจอ
ฝากเดือนดาวที่เราเห็นเชน่ กนั นี ้
เป็นสกั ขีเป็ นพยานห้วงกาลรัก
คดิ ถึงเจ้าเยาวมาลย์เป็นประจกั ษ์
เก็บเอารักให้อบอนุ่ แม้กาลเลย
58
หน้าสวยใจหาญ วอนเดอื นหม่ ดาว
วอนไพรพนาหม่ เสือ
ดอกหนาวเฝ้ ารอรักอยทู่ างนี ้ วอนสายลมอนุ่ จลุ เจือ
อยา่ ร้อนพี่จงผอ่ นใจในไพรสน ให้เสือกลบั มารักดงั หมายมาด
ขอใจพี่จงแมน่ มนั่ อย่าหวนั่ องค์
ดอกหนาวคงรอพ่ีมิจืดจาง
แม้ทวา่ โจรห้าร้อยจะมาเด็ด
จะขอเชด็ นา้ ตาด้วยอาสญั
จะปลดิ ชีพตนเองไปโดยพลนั
ไมใ่ ห้มนั ได้สมั ผสั รัดกายา
จติ ใจคงยงั ผกู พนั มน่ั แตพ่ ี่
เสือใจดีน่ารักยากลืมหาย
แม้ตวั หา่ งกลางแมกภยนั ตราย
อยา่ ได้หมายวา่ เกสรจะผนั แปร
ฝากเดือนดาวที่เราเหน็ เชน่ กนั นี ้
ค้มุ ครองพ่ีให้ปลอดภยั ในไพรสน
เพ่ือกลบั มาอิงค์แอบแนบอนงค์
ให้ยืนยงเคียงคชู่ าตทิ ี่วาดเคียง
59
ดอกไม้ท่หี ายไป
หมโู่ คลนตมปกหม่ ฟ้ า
เมฆนภาลบั เลือนหาย
เดอื นดาวเป็นเชน่ ขีค้ วาย
หมมู่ ารร้ายจะคลองคน
คนดีถกู จ้วงแทงไส้
ควกั ตบั ไตหวั ใจสิน้
หมมู่ ารร้ายจะมีเพชรนิล
แล้วแลบลนิ ้ ดหู มิน่ ศีลธรรม
ความรักจะถกู กลืนหาย
คดิ ถงึ กลบั กลายเป็ นกรอกกลงิ ้
ให้หมอู่ ีกาจกข้าวแกงกิน
ทว่ั ธรณินจะเตม็ ไปด้วยมนต์ดา
ดอกไม้ไมเ่ หลือให้ยลชม
นารีจะถกู ขม่ ด้วยเขีย้ วร้าย
ปื นผากริชมีดจะเกรียวกราย
สาแดงฤทธ์ิหมน่ ไหม้ทกุ ฤดู
60
เมืองพนั เกาะจะเลือนหาย ขยา้ กินด้วยดนิ ปื น
ขม่ ขืนหญิงสาวไซร้
ดจุ แดนดนิ สวรรคช์ นั้ ฟ้ า ยงิ ผ้คู นทงิ ้ ทงั้ น้อยใหญ่
ปวงเทพเทพาสร้ างสรรค์ ทาเสมือนไซร้มิใชค่ น
ให้งามงดบริสทุ ธ์ิพรรณ
กนุ๋ เหงเมืองพนั เกาะนนั้ เป็นมา ปล้นฆา่ ช้างม้าววั ควาย
ทรัพย์สินมากมายยดึ ยือ้
นา้ หลง่ั จากฟ้ าเทือกเขา ด้วยเสียงกระสนุ ปื นระบอื
รินไหลคล้งุ พราวฟ้ า ฉดุ ยือ้ เขน่ ฆา่ จนหนาใจ
ขาวดจุ กลีบเกสรมรรคา
ให้มนษุ ย์ในโลกหล้าไว้ยลชม เผาวดั วาอารามขว่ งแก้ว
ให้มอดไหม้แล้วแลน่ หนี
ไหลหลง่ั ลงมาดบั ทกุ ข์ เมืองสวรรค์เป็ นนรกอเวจี
สร้างสขุ สร้างชีวติ วถิ ี เป็นเมืองผีเพียงชว่ั คนื
สตั ว์ป่ าน้อยใหญ่พงึ่ ชีวี
ตา่ งอาศยั ธารสวรรค์นีด้ ่มื กิน ด้วยมองเห็นเป็ นทรัพย์ใหญ่
สร้ างเข่ือนกระแสไฟขายเจ๊ กฉี
จนวนั หนง่ึ ซง่ึ มารร้าย จงึ ขบั ต้อนกวาดล้างด้วยอกศุ ลวิธี
ผ้หู มายจองจากดขี่ ประหนง่ึ ผีล้วงไส้พระเณรกิน
ขม่ เหงรังแกย่ายี
ด้วยกลวิธีเดรัชชา
61
คงไมม่ ีแล้วเมืองสวรรค์ นา้ ตาเป็ นนา้ ค้าง
คงจะกลายเป็ นเมืองบาดาลใต้
ความสวา่ งจะแทนท่ีแมกไพร บ้านเรือนห้องหออบั ร้าง
ที่หลงั่ รินไหลคงเป็นโลหิตประชา หลงั คาค้างด้วยหวั กระสนุ
เทวดาป่ าเขาคงร่าไห้ นกหนแู มลงเข้ารูบนุ่
อีกชนเผา่ น้อยใหญ่ในวิถี หลบกระสนุ หนีตายเหมือนประชาชน
คงจมอยใู่ ต้นายทนุ อปั รีย์
เป็นเมืองผีเตม็ ไปด้วยจิตวิญญาณ งดั บ้านเรือนหอห้อง
เก็บของมีคา่ ทกุ อยา่ ง
หิง่ ห้อยน้อยแสงลาลบั ไลต่ ้อนผีเสือ้ ปี กบาง
ผีเสือ้ ไร้ปี กบนิ หนี ลา่ มโซไ่ ปนอนค้างกลางป่ า ผา่ ผ้าสนิ ้ กิน
จมอยใู่ ต้บาดาลท่ีตนกาเนดิ ชีวี หิง่ ห้อยนอนตายเกล่ือน
ยอมเป็ นผีตายในเรือนตน ไร้แสงสวยสวา่ งคืนค่า
มีแตร่ ังสีอามหิตมืดดา
กลา่ วซ้องให้โลกรู้ กลางวนั คนื ค่า ผีหวั เราะเยาะ
ประชาชนยงั ร้องกใู่ นเหน็บหนาว
ถกู เอารัดเอาเปรียบมานานเนา นา้ ตาหยดเป็นนา้ ค้าง
ความอ้างว้างปกคลมุ แทนเมฆฝ้ า
ครานีค้ งเศร้าจะจมทงั้ ผืนดนิ
สายเลือดไหลแทนสายธารา
หยดนา้ ตาเกล่ือนกลาดแทนเม็ดทราย
62
ดอกไม้ขาว เบง่ บานชวั่ คราวกบั อนาคต
ทงิ ้ รอยไหม้ขดตวั ตามเนือ้ หนงั
ดอกไม้อนาคตเจ้าอยไู่ หน
อยใู่ นความไสวของก้นหง่ิ ห้อย ผา่ นเวลาทกุ ข์สขุ ไร้จีรัง
ฤาซอ่ นอยใู่ นนา้ ค้างดงดอย เรือกายาพายถงึ ฝ่ังอนาคต
หรือจม-ลอยอยใู่ นร่องแก้มคนชรา
รอยยมิ ้ เจ้าชา่ งนา่ รัก
เหมือนผกั เปลือ้ งผ้าอาบนา้ กลางฝน
ชะล้างฝ่ นุ ควนั เกาะดวงกมล
ทกุ หนคนื ความสขุ เม่ือสบสายตา
สายตาเจ้าประกายความหวงั
ทรงพลงั บริสทุ ธิ์ไร้เดยี งสา
อนาคตเปลง่ ประกายในแววตา
อีกความผวาบนความจริงยงั ไมพ่ บเจอ
อนาคตเจ้าดอกไม้บริสทุ ธ์ิ
บางเกสรต้องสะดจุ ด้วยเงินตรา
บ้างมาเพ่ือหาป๋ ยุ เลีย้ งกายา
เพราะเกิดมากาพร้ าความร่ารวย
63
ผู้กล้าผ่านศึก ใครบ้างจกั รู้เมืองห้องดื่มกิน
แลกมาด้วยชีวติ มิตรแท้
เสร็จนาฆา่ โคถกึ ทงิ ้ ทอดเท กลบั รังเกียจเดียดฉนั ท์ใกล้
พิการแขนขาลกู เมียทอดทงิ ้ ร้องขอให้รัฐขจดั พ้นถนนเมืองเจริญ
กลบั กลายเป็นขอทานขอข้าว
ไร้บ้านท่ีพิงพกั คนจรเกลียดชงั
นายผ้สู ง่ั เสีย้ มแดนไกล
รับเหรียญกล้าหาญไปตดิ บงั้
ช่ือเสียงเงินทองหอมคล้งุ ขจรกล้า
ประชาชนยกยอ่ งวีรบรุ ุษโลกควรจา
คา่ คนื นอนผวาเศร้าวิญญาณ
หลอกหลอนมาฆา่ ฟันจิตฟ้ งุ
โหยหาสรุ าเมรัยฤทธ์ิดบั กล้มุ
กลบั คล้มุ คลง่ั คนผา่ นพบกลบั กลวั
ใครก่อใครทาให้สงคราม
ใยไมจ่ บั ปื นพร้างามรบแค้น
ผ้กู ล้าใยสง่ บรุ ุษไร้เขน่ ฆา่
ท้ายสดุ วีรบรุ ุษอบั สนิ ้ แสงฉาย
64
รุ้งแก้ว เพ่อื อสิ รภาพ
ท้องฟ้ ามืดครึม้ แล้ว เดอื นดาวเคยเกล่ือนนภา
เจ้ารุ้งแก้วไปอยไู่ หน ไมผ่ วาแม้มืดมดิ ผลิตแสงให้
ใต้ซอกหลืบเมฆกลีบใด ลมเคยพดั เย็นฉ่ามาร่าไร
ฤาถกู จบั ซอ่ นแววรุ้งไว้ในความมืดมล เมฆก้อนใหญ่เคยท่องยทุ ธ์ทว่ั เขตคนั ธ์
แม้ดวงดาวถามศรัทธาผวาไหม้ มจั ฉาวา่ ยกรายนา้ ให้ฉ่าช่ืน
ศรัทธาไซร้อยแู่ หง่ หนตาบลหนอง ไมว่ า่ งเว้นวนั คืนท่ีผนั ผวน
หรือจมนา้ ไร้หายใจในลาคลอง สกณุ าเคยร่ายราอ่อนน้อมมวล
หรือถกู กล้องปลายปื นฝื นศรัทธา เป็นสขุ ล้วนพร่างผกาในนาตน
เดือนมิกล้าประกายแสงแหง่ ความรัก จนบดั นีห้ มเู่ ดือนดาวท่ีพราวพร่าง
หลบใต้ตกั แหง่ ศรัทธาท่ีมอดไหม้ กลบั อ้างว้างถกู ดบั แสงด้วยแปลงสาร
เคยเปลง่ แสงสวยงามอยรู่ ่าไร
เหตไุ ฉนถงึ หลบลีก้ บั ศรัทธา ผวาครวญผวาคร่าในอนธการ
ลมอบั ฉานด้วยกระสนุ ขนุ่ ชีวิน
มวลมจั ฉานาพาตนขนึ ้ บนฝั่ง
หลบซอ่ นนงั่ ในป่ าเขาลาเนาสนั ต์
สกณุ าเงียบเสียงก้องในแมกพรรณ
ตา่ งนอนฝันผวาร้ายเพราะปลายปื น
65
หยิบดอกไม้ลกุ ขนึ ้ ส้พู ร้อมเสือป่ า ใยมองเหน็ เป็ นเช่นผี
ชวนมจั ฉาที่ฉ่าเยน็ เข็ญแรงหาญ
ชวนหมเู่ มฆท่ีเคยหลบในอนธการ ฉนั นนั้ ก็ไมใ่ ชห่ นิ ผา
ชว่ ยขบั ขานร้องก่คู เู่ คียงประชาธิปไตย ท่ีเถ่ือนท้าพายโุ หมประโคมหนั่
ไมใ่ ชไ่ มร่ ้อนตอนแดดเปรีย้ งมาประดงั
มืดดบั อบั แสง ไมใ่ ชห่ นิ ที่แกร่งกรังท่ียงั่ ยืน
แถลงกลา่ วชี ้
ซอ่ นสนั ตภิ าพมรรควธิ ี ฉนั ก็คนธรรมดาทวั่ -ทว่ั ไป
แตไ่ มห่ นีแม้ไมเ่ ห็นเชน่ อาพราง มีชีวติ มีจิตใจเชน่ ใครเขา
อยใู่ ต้แดดก็ร้อนเป็ นและเห็นเงา
ก็เคยเศร้าก็เคยทกุ ข์เคยสขุ เชน่ กนั
ใยมองฉนั เป็นเชน่ ผี
บอกเดก็ ว่าฉนั มีเขีย้ วดจุ พร้า
เคยจกไส้คนกินจนสิน้ ชีวา
อยา่ มองหน้าอยใู่ ห้หา่ งตา่ งกลา่ วกนั
ฉนั ก็อยากจะเลือกเกิด
คาบช้อนเงินทองมาเกิดลกู เศรษฐี
ตอนเป็นเด็กใครก็รักโตขนึ ้ จกั ได้ดี
จะมีอนาคตที่ยงิ่ ใหญ่ใครกล่าวกนั
66
หากเรามองดอกไม้ เป็ นดอกไม้
มองท้องฟ้ าก้อนเมฆใหญ่ใครก็เหน็
มองสายรุ้งมองนา้ ค้างอยา่ งท่ีเป็น
ไมไ่ ด้เหน็ เป็นอยา่ งอ่ืนที่ตา่ งกนั
รูปลกั ษณ์เพียงบอกถ้อยชนตน
เราตา่ งก็คือคนบผ่ ดิ แท้
หายใจเข้าออกทางเดียวกนั นา
เกิดขนึ ้ ตงั้ อยู่ ดบั ม้วย สิ่งใดบม่ ีเหมือน
67
เผ่าพันธ์ุ เพยี งภายนอก
จะพงศ์เผา่ พ้อง ใดใด แม้จะตา่ งเชือ้ ชาตพิ งศ์พนั ธ์ุ
ยอ่ มรักยอ่ มเป็ นไป สืบเชือ้ ตา่ งเพียงรูปภายนอกนนั้ ทงั้ สิน้
เหลา่ กอใดล้วนเกือ้ ใน แพรกเผา่ แม้จะประดบั ด้วยเสือ้ ผ้าหยกนิล
ยอ่ มดงี ามในเง้าเนือ้ เครือตน
หาได้เป็นส่งิ วดั คา่ ในใจคน
บ้างรักป่ ามวลแมก พงไพร
พิธีกรรมสืบเนืองไป กบั พ้อง กวาดขยะริมบาทวถิ ี
เป็นผืนแมกต้นนา้ ไล่ ธารสาย เพื่อความสะอาดประชาชีกลา่ วถ้อย
ก่กู ้องเก็บเผา่ พงศ์ก้อง ขนานเคยี ง
มีแตค่ นขยะแขยงเหมน็ สาบ
หากโลกนีไ้ ร้ซง่ึ แมก ไพวลั ย์ ตา่ ต้อยบอ่ ยากใกล้เป็นจริง
เพชรนิลหยกกานลั คา่ ม้วย
ธารบไ่ หลเมืองตกต้องพลนั แดดบั เราเลือกเกิดบไ่ ด้เป็นมา
ชีวติ ยอ่ มดบั แดดนิ ้ ด้วย สลายสญู แท้ จริงอยากเกิดเป็ นเทวดามีสิน้
ทงั้ แก้วแหวนเงินทองตระกลู พิณ
อยากมีสิน้ เชน่ เดียวกนั ทกุ นาม
68
ต่างอยู่ในใบโลกกลม ชายไร้ อนาคต
เกิดขนึ ้ ตงั้ อย่ดู บั ไป มณีนลิ สนิ เพชรในโลก
หลบั ใหลก็ตายวายสิน้ ต้ องโศกหมองม้ างไร้ คา่
หลบั อยกู่ ็เกิดความจริง อีกเดือนดาวจกั รดารา
ไมน่ ่ิงแปรเปลี่ยนเวียนวา่ ย ไร้ แสงพร่าหร่ีริบเรไร
ตา่ งกนั ตรงไหนใครอื่น เป็ นเพียงก้ อนกรวดต่า
หม่ืนแสนล้วนเป็ นเชน่ เชือ้ เยือกเย็นย่าในหินผา
เผา่ พงศก์ อเงา่ เถาว์เครือ จมจอ่ มอยใู่ ต้ภพสธุ า
หรือเพียงเพื่อสืบพนั ธ์ุแล้วหายไป หาได้มีคา่ ในโลกเลว
ตา่ งอย่ใู นใบโลกกลม เมฆคลา้ มืดจืดเปลี่ยว
หายใจสดู ดมใครไมเ่ หมือน รุ้งเหลือเพียงเสีย้ วเศษสี
มืดมนยือยกั หาบกลุ ี
แล้วใยดถู กู ผองเพ่ือน ให้เป็นผีพงุ่ ใต้ลงป่ าช้า
หรือเรือ้ นกดั กร่อนกินใจแล้ว
วญิ ญาณเรือ้ นเร่ร่อน
ใครๆ ตา่ งต้องการความสขุ ให้หมาเหา่ หอนแชง่ ท้า
ไมค่ วรโยนทกุ ข์ให้ชีวติ อ่ืน วา่ เป็นบรุ ุษไร้อนาคตา
เวลาก็หยดุ ให้ถ้อยคา
ไมน่ านเนิน่ ช้าข้ามคืน
ก็ถกู กลืนลบั หายกบั สายกาล
69
เราคือเพ่อื นมนุษย์
เคารพในความเป็ นมนษุ ย์
เวียนวา่ ยทกุ ข์สขุ ในสงั ขาร
ดนิ ้ รนค้นหาสขุ สาราญ
ไมอ่ ยากทกุ ข์ผลาญจน
ตา่ งเพียงผวิ พรรณชาตเิ ชือ้
ประหนง่ึ เกลือที่ใดก็เคม็ เหมือน
มีรักมีความหวงั ท่ีลางเลือน
เราคือเพื่อนร่วมโลกใบเดยี วกนั
หากแตม่ วั ดถู กู ผกู ชนชนั้
ก็จะต้องรบกนั จนวนั สิน้
หากเมตตากรุณาพงึ่ พิง
ทกุ ๆสิ่งจะอยไู่ ด้ไมต่ า่ งกนั
เมล็ดพนั ธ์ุที่แท้แหง่ มนษุ ย์
คอื ท่ีสดุ ของเมตตากรุณาเกือ้
ก็ประหนง่ึ เครือญาตใิ นวงเครือ
จงชว่ ยเหลือด้วยนา้ มิตรจิตไมตรี
70
แด่ดวงจติ ปี กบาง
หมอกเหมยเอยเจ้าหยด ผีเสือ้ บนิ ในถิ่นกนั ดาร
ร่วงรินรดอากาศธาตคุ ลื่น มีสวนดอกไม้ เป็ นบ้ านถิ่น
ด่ืมด่ากลางเวลานภาคนื
หยิบย่ืนความสงบในโมงยาม ทกุ -ทกุ วนั ยงั โบยบนิ
หากินนา้ หวานเกสรพรรณไม้
ส่ือสารในมา่ นศลิ ป์ กล่นิ ไอรัก
โคลนตมปลกั ยงั หวานหอม โยนบนิ อยา่ งเสรี
เกลือกกลวั้ กายอาบดมดอม อยเู่ ป็นตามวิถีสงบลา้
ยงั กล่ินหอมในโคลนกลิ่นบวั มีสขุ มีทกุ ข์ตามยถากรรม
ทกุ คนื คา่ เอิบเปรมกบั เดือนดาว
เพีย้ วถางทางสายรุ้ง
ให้โรจน์รุ่งพงุ่ แสงสรรค์ ปี กบางเบาขยบั เคลื่อน
เกีย้ วพาราสีใต้แสงจนั ทร์ เอือ้ นเอย่ กบั เสียงขลยุ่ ไผ่
เพื่อรังสรรค์ดอกไม้แก่จิตตน มาดแม้นเกิดมาชาตใิ ด-ใด
ขอเคียงชิดใกล้แคม่ วลดอกไม้
ทิวากาลผา่ นพบแล้วผา่ น
ทงิ ้ รอยไหม้กร้านในชีวิต ดอกแล้วดอกเลา่ โรยรา
เป็นภมรแก้วบนิ ล้อมดวงจติ ไมฝ่ ื นชะตาฟ้ าลิขิตชีวิตไว้
เนรมิตเม็ดทรายในอนธการ ขอเกิดขนึ ้ ตงั้ อยแู่ ล้วดบั ไป
พลิว้ ไสวกบั สายลมพดั พรางยมิ ้
71
บูชาครู เอาคาครูคากวีเป็ นท่ีพงึ่
คดิ ว่าทกุ สิ่งล้วนคณุ คา่
เกิดมาตา่ งฤดกู าล ทงั้ สขุ ทงั้ ทกุ ข์กดั กินนานา
ประสบการณ์ก็น้อยรู้ เพียงหวงั วา่ วนั หนง่ึ จะถึงความวา่ งเปลือย
เคารพนบั ถือบรรดาครู
ที่เขียนความรู้ไว้ให้อาบกิน
เพราะมีครูถงึ มีชยั
เป็ นร่มโพธ์ิใหญ่ปกเกล้ า
ไมเ่ คยรู้จกั เห็นแตเ่ งา
ก็ยงั คงเฝ้ าตดิ ตามงาน
อาจยงั หาไมพ่ บตวั ตน
ยงั สบั สนในอา่ นเขียน
แตไ่ มเ่ คยคดิ หยดุ พรากเพียร
เที่ยวอ่านเขียนเก็บรู้ไป
สงั่ สมประสบการณ์ผา่ นเวลา
บนโลกท่ีบางคราแทบล้ม
กบั หมนู่ า้ ลายที่โสมม
เฝ้ าทบั ถมให้ความหวงั พงั ทลาย
72
โลกทพิ ย์
ก้าวข้ามให้พ้นกลอนกวี
ให้เหลือพืน้ ที่ว่างเปลา่
ซมึ ซาบเอาความปวดร้าว
หยดนา้ ตาในร่องเงาของมนษุ ย์
เป็ นโลกทิพย์สร้ าง
ปลอ่ ยวางให้วา่ งเปลา่
ไมน่ านกลบั ส่ดู นิ ดาว
จะกลบั มาเม่ือความเหน็บหนาวเรียกร้อง
ในกามือถือดอกไม้
ถือหวิ ้ ไปเพื่อใจชมุ่ ชืน้
เก็บเอาสตั ว์ปวงธรรมในวนั คืน
เพื่อไปต่นื อีกฝั่งด้วยความรัก
อยใู่ ต้อ้งุ เท้ามนษุ ย์และสตั ว์
อยใู่ นป่ ารกชฏั และทงุ่ นา้ ค้าง
ออ่ นไหวแขง็ กร้าวและบอบบาง
อยรู่ ะหว่างมีชีวิตและสนิ ้ ลม