โครงงานอาชีพ

โครงงาน
เร่ือง กระเป๋ ามดั ย้อมจากเศษผ้า

จดั ทาโดย
นางสาวจีราวัลย์ สีลา
ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 5/12 เลขท่ี 30

เสนอ
คณุ ครูวนิดา บุญพเิ ชฐวงศ์
ครูชานาญการพเิ ศษโรงเรียนสตรีราชินูทศิ
สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานเี ขต 20
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐานกระทรวงศึกษาธกิ าร

ก

กติ ตกิ รรมประกาศ

ในโครงงานฉบบั น้ี สาเร็จลุล่วงไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ดว้ ยความกรุณาอยา่ งยง่ิ จากคุณครูวนิดา บุญพเิ ชฐ
วงศ์ ท่ไี ดส้ ละเวลาอนั มีค่าใหแ้ ก่นกั เรียน เพอื่ ให้คาปรึกษาและแนะนาตลอดจนตรวจทานแกไ้ ขขอ้ บกพร่อง
ต่างๆดว้ ยความเอาใจใส่เป็นอยา่ งยงิ่ จนโครงงานฉบบั น้ีสาเร็จสมบรู ณ์ลุล่วงไดด้ ว้ ยดีผจู้ ดั ทาขอกราบ
ขอบพระคุณเป็ นอยา่ งสูงไว้ ณ ท่ีน้ี จากใจจริง

ขอขอบคุณเพอ่ื นๆ ในหอ้ งหอ้ งที่ใหค้ วามช่วยเหลือและใหค้ าแนะนา จนโครงงานสาเร็จสมบรู ณ์

อน่ึงคณะผจู้ ดั ทาโครงงานหวงั วา่ โครงงานฉบบั น้ีจะมีประโยชนอ์ ยไู่ ม่นอ้ ยสาหรับผศู้ กึ ษา
ขอ้ บกพร่องตา่ งๆที่อาจเกิดข้นึ น้นั ผจู้ ดั ทาขออภยั ไว้ ณ ท่ีน้ีดว้ ย และยนิ ดีทจี่ ะรับฟังคาแนะนะจากทกุ ทา่ นท่ี
ไดเ้ ขา้ มาศกึ ษาเพอื่ เป็นประโยชน์ในการพฒั นาโครงงานตอ่ ไป

ผจู้ ดั ทาโครงงาน

สารบัญ ข

กิตติกรรมประกาศ หน้า
สารบญั ก
บทที่ 1 บทนา ข
บทที่ 2 เอกสารทเี่ กี่ยวขอ้ ง 1
บทที่ 3 อปุ กรณ์และวธิ ีการดาเนิน 2
บทท่ี 4 ผลการดาเนินการ 7
บทท่ี 5 สรุป อภปิ รายผลการดาเนินการ 14
ภาคผนวก 15
16

1

บทท่ี 1

บทนา

ทมี่ าและความสาคญั

เน่ืองจากในปัจจุบนั มีการผลิตกระเป๋ ามดั ยอ้ มจากเศษผา้ ข้นึ มามากมายหลายยห่ี ่อ แตล่ ะยหี่ ่อก็มี
รูปแบบและคุณสมบตั ทิ ีแ่ ตกตา่ งกนั ออกไป เพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการของผซู้ ้ือ กลมุ่ ของขา้ พเจา้ จึงทาการ
สารวจความคิดเห็นการเลือกใชก้ ระเป๋ ามดั ยอ้ มจากเศษผา้ โดยมีการนอ้ มนาเอาหลกั คิดแนวทางเศรษฐกิจ
พอเพยี งและคา่ นิยม 12 ประการ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการทาโครงงานน้ีดว้ ย

วตั ถปุ ระสงค์ของการจดั ทาโครงงาน

- เพอ่ื หารายไดใ้ นช่วงวกิ ฤต
- เพอ่ื ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์
- ไดอ้ อกแบบความคดิ สร้างสรรค์

ขอบเขตการจดั ทาโครงงาน

ขอบเขตการจดั ทาโครงงานต้งั แต่วนั ที่ 9 กรกฎาคม – 31 ตลุ าคม 2563

ผลทค่ี าดว่าจะได้รับ/ประโยชน์ทจี่ ะได้รับ

- กลุ่มของพวกเราไดน้ าเศษผา้ จากการเหลือใชม้ าประยกุ ตใ์ หเ้ ป็ นกระเป๋ าน่ารกั ๆ
- สมาชิกรูจ้ กั การทางานกลมุ่ รูจ้ กั การแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นซ่ึงกนั และกนั
- สมาชิกไดน้ าเอาหลกั แนวคดิ ทางเศรษฐกิจพอเพยี งมาใชเ้ พอ่ื พฒั นาตนเอง
- สมาชิกมีการนาคา่ นิยม 12 ประการมาประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้

2

บทท่ี 2
เอกสารทเี่ กยี่ วข้อง

โครงงานการงานอาชีพ ประเภทสิ่งประดิษฐก์ ระเป๋ ามดั ยอ้ มจากเศษผา้ เน้ือหาในบทน้ีจะนาเสนอ
ทฤษฎีเกี่ยวขอ้ งดงั น้ี

1. อุปกรณ์ที่ใชใ้ นการประดิษฐ์
2. เศษผา้ ดา้ ยดิบ
3. สียอ้ มผา้
4. การยอ้ มกระเป๋ าจากเศษผา้ มดั ยอ้ ม
1. อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการประดิษฐ์
1.1 ผา้ ดา้ ยดิบ
1.2 สียอ้ มผา้

ผ้าด้ายดบิ

ภาพท่ี 1 แสดงลกั ษณะผา้ ดา้ ยดิบ

3

ลกั ษณะผ้าดบิ

ผา้ ดิบทแี่ ทจ้ ริงจะตอ้ งมีสีเหลืองนวล เน้ือผา้ จะมีลกั ษณะแขง็ ๆ ไม่ล่ืนไม่มนั ใหค้ วามรู้สึกเป็ น
ธรรมชาติ ตามชื่อคือมาแบบดิบๆ

จากการทารีเสิร์ชยงั ไม่พบแน่ชดั วา่ ผา้ ดิบมีตน้ กาเนิดมาจากทใี่ ดและต้งั แตเ่ ม่ือใด แตต่ วั ผา้ น้นั มีมา
นานแลว้ ต้งั แต่ก่อนคริสตศ์ กั ราช โดยจากการสารวจพบผา้ ลินินในถ้าท่ีจอร์เจียเม่ือกวา่ 34,000 ปี ก่อน
คริสตศ์ กั ราช ซ่ึงนบั เป็นหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ช้ินนึงท่เี กี่ยวกบั ผา้ ซ่ึงสมยั น้นั แน่นอนวา่ ยงั ไม่มีการ
ฟอกสีผา้

อีกอนั ท่เี ห็นไดช้ ดั คอื ผา้ ดิบท่ที าจากลินินถูกใชห้ ่อหุม้ ร่างของคนตายหรือม่ีเราเรียกวา่ มมั ม่ีในสมยั
อียปิ ตโ์ บราณหรือ 3,000 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช หรือจะเป็นในยคุ ทีศ่ ิลปะเฟื่องฟใู นอดีตก็ใชผ้ า้ ดิบหรือที่เรา
เรียกวา่ แคนวาสมาใชใ้ นการสร้างงานจิตรกรรม สีน้ามนั สีอะคริลคิ ทโี่ ด่งดงั ไปทวั่ โลกคงสภาพไดอ้ ยา่ งดี
และยงั ใชก้ นั เร่ือยมาจนถึงปัจจุบนั

ทุกวนั น้ีผา้ ดิบถูกทอข้ึนในลกั ษณะแตกตา่ งกนั ไปแลว้ แตว่ ธิ ีการทอหรือส่วนผสมท่ีนามาทอ เป็ นท่ี
รู้จกั และใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายมากข้นึ ในหลายๆ รูปแบบ อยา่ งเช่นในวงการแฟชนั่ ผา้ ดิบเปรียบเสมือนส่ิงท่ี
นามาเเทนค่าซ่ึงเรียกวา่ ตวั อยา่ งหรือ prototype ใชข้ ้ึนรูปเส้ือผา้ กบั หุ่นก่อนนาผา้ จริงมาเยบ็ , ร้านสปาหรือ
ร้านนวดใชผ้ า้ ดิบเป็นถุงใส่สมุนไพรหรือทาลูกประคบ, ร้านดอกไมก้ ็ใชผ้ า้ ดิบห่อดอกไม,้ ร้านเคร่ืองด่ืม
โบราณใชผ้ า้ ดิบตดั เยบ็ ทาถุงโอเล้ียง ชาเยน็ , ถุงบรรจหุ รียญของธนาคารและโรงกษาปณ์ และการทากระเป๋ า
หรือถุงใชใ้ นชีวติ ประจาวนั เพื่อความสวยงามและช่วยลดภาวะโลกรอ้ น

ยง่ิ เมื่อมีการรณรงคก์ ารลดการใชถ้ ุงพลาสติกมากข้ึนเม่ือประมาณ 10 ปี ทีผ่ า่ นมา ทาใหค้ นเริ่มตนื่ ตวั
และหนั มานิยมใชก้ ระเป๋ าผา้ กนั มากข้นึ

ผ้าดบิ ทเี่ อามาทาเป็นกระเป๋ ามกั มีราคาไม่แพงมากแตส่ ามารถนามาทาไดห้ ลายแบบ ตดั เยบ็ ไดต้ าม
ความตอ้ งการ สามารถยอมสีใหเ้ ป็นงานอาร์ท ทาผา้ มดั ยอ้ มและอีกหลากหลายไอเดีย ทีเ่ ราจะสรรสร้างข้นึ
สามารถเพม่ิ มูลคา่ ของผา้ ดิบใหส้ ูงข้ึนได้

คุณสมบัตผิ ้าด้ายดบิ

เนื่องจากผา้ ดิบ เป็นผา้ ทย่ี งั ไม่ไดผ้ า่ นกรรมวธิ ี การฟอกสี จึงมีคุณสมบตั ใิ นการยดื หยนุ่ ท่ีดี สามารถ
กนั แดดไดใ้ นระดบั น่ึง และสามารถกนั น้าไดบ้ า้ ง ซ่ึงในวงการแฟชน่ั ตอ้ งมีผา้ ดิบเป็นองคป์ ระกอบน่ึงในการ
ทางาน ซ่ึงหลงั จากทน่ี กั ออกแบบท้งั หลายมีการออกแบบ วาดแบบลงบนกระดาษเรียบร้อยแลว้ ลาดบั ต่อมา
ก็ตอ้ งน่ีเลย ผา้ ดิบ ขาดไม่ได้ นกั ออกแบบก็จะเอาแบบทีไ่ ดม้ าลงบนผา้ ดิบ เนื่องดว้ ยคุณสมบตั ิของผา้ ดิบที่

4

กล่าวมาแลว้ ขา้ งตน้ นน่ั เอง กไ็ ดเ้ อาแบบมาข้นึ แบบบนผา้ ดิบ แลว้ จะทาใหน้ กั ออกแบบไดเ้ ห็นขอ้ ผดิ พลาดท่ี
เกิดข้นึ เพอ่ื นาไปแกไ้ ขก่อนที่จะลงบนผา้ จริง แต่ก็ไม่ไดบ้ งั คบั วา่ เป็ นหน่ึงในกระบวนการออกแบบ อาจใช้
ผา้ ชนิดอื่นที่มีคุณสมบตั คิ ลา้ ยคลึงกบั ผา้ ของจริงก็ไดห้ ากตอ้ งการเห็นมิติหรือขอ้ ผดิ พลาดใหเ้ ด่นชดั ข้นึ แตค่ ง
ตอ้ งหาผา้ ทมี่ ีราคาถูกกวา่ มาใช้ ซ่ึงสุดทา้ ยก็ตอ้ งหนั มาใชผ้ า้ ดิบกนั เหมือนเดิม ดงั น้นั การข้นึ แบบบนผา้ ดิบ
ก่อนจึงกลายเป็ นหน่ึงในกระบวนการหรือข้นั ตอนการออกแบบไปโดยปริยาย เพราะจาทาให้เห็นภาพรวม
และขอ้ ผดิ พลาดตา่ งๆไดง้ า่ ยข้นึ ซ่ึงสาหรบั นกั ออกแบบหนา้ ใหม่ หรือ กลุ่มคนท่เี รียนการออกแบบ ใหม่ๆกม็ ี
บ่นกนั มากวา่ เสียเวลาทจ่ี ะตอ้ งลงงานในผา้ ดิบก่อน แต่เมื่อไดท้ าหลายๆคร้งั แลว้ กจ็ ะเห็นความดีของการลง
งานในผา้ ดิบก่อน เพราะหากเกิดความผดิ พลาดกส็ ามารถแกไ้ ขปรบั ปรุงไดใ้ นทนั ที หรือเมื่อลงงานในผา้ ดิบ
แลว้ กท็ าใหน้ กั ออกแบบไดเ้ ห็นไอเดียใหม่ๆ หรือเรียกไดว้ า่ ไอเดียบรรเจิด ไดเ้ หมือนกนั จากความที่คดิ วา่
เป็นเร่ืองยงุ่ ยาก จึงกลายเป็ นประโยชน์ข้ึนมาทนั ที อีกงานที่ผา้ ดิบมีความสาคญั มากๆ คือ งานการเขียนป้าย
ผา้ ดิบเป็นผา้ ทม่ี ีความหนาพอควร ดงั น้นั ในงานการเขยี นป้ายท่ตี อ้ งมีการลงสี จงึ ตอ้ งใชผ้ า้ ดิบก่อน แตต่ อ้ ง
ใชผ้ า้ ดิบที่มีการลงแป้ง เพอ่ื สีจะไดไ้ ม่ซึมลงบนผา้ ตวั หนงั สือก็จะไม่แตกเมื่อสีโดนผา้ เสน้ ก็จะคมชดั แต่ก็มี
ขอ้ เสียคอื หากผา้ ลงแป้งแลว้ โดยฝนกไ็ ปเหมือนกนั ดงั น้นั จงึ แนะนาใหเ้ ลือกผา้ ดิบทมี่ ีความหนาแลว้ กไ็ ม่
ตอ้ งลงแป้ง แลว้ ใชว้ ธิ ีการสกรีนเอา ตวั หนงั สือทีไ่ ดก้ จ็ ะคมชดั กวา่ สกรีนโลโก้ ส่วนใหญ่วสั ดุท่ใี ชท้ าเป็ น
แบบสาหรับสกรีนกจ็ ะเป็ นผา้ ดิบ เพราะคุณสมบตั ิดงั แจง้ ความหนา และความยดื หยนุ่ และสาคญั มากๆ
ราคาถูก บางรา้ นบอกวา่ ออกแบบทงิ้ เล่นไดเ้ ป็ น สิบๆชิ้นก็ยงั ไดก้ ระเป๋ าผา้ อนั น้ีหลากหลายมาก เป็ นท่นี ิยม
เพราะมีการพฒั นาจากการแบบสกรีนลาย เป็นการนาผา้ อื่นๆมาตดั เป็ นสีสรรน่ารัก หรือมีการปักลาย

สีย้อมผ้า

ภาพท่ี 2 สียอ้ มผา้

5

เราจะไดป้ ระโยชน์ ไม่เหมือนสีสงั เคราะห์ท่ี ใส่ผงหรือน้าสี ลงในอาหาร ไม่มีประโยชนต์ อ่
ร่างกาย แถมยงั มีโทษจากสี หากใส่มาก หรือกินปริมาณมาก นอกจากน้ียงั เส่ียงอนั ตรายจากสีไม่ได้
มาตรฐาน วธิ ีสกดั สีจากผกั ผลไมม้ าใชข้ ้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะของผกั ผลไมน้ ้นั ๆ ถา้ เป็ นผกั ผลไมเ้ น้ือน่ิมอยา่ ง
ใบเตย ผกั โขม เบอร์รีตา่ งๆ มกั นามาปั่นกบั น้า แลว้ กรองผา่ นตะแกรงหรือผา้ ขาว เอาแต่ของเหลวท่มี ีสีเขียว
ไปใช้ ส่วนผกั เน้ือแขง็ อยา่ งบที รูท แครอท และฟักทองมกั นาไปน่ึงหรือตม้ ใหส้ ุกแลว้ บดใหล้ ะเอียด
กะหล่าปลกี ต็ ม้ ในน้าเดือดจนสีม่วงออกมาแลว้ กรองเอาแต่น้า หรือถา้ ใครมีเครื่องสกดั เยน็ กใ็ ชไ้ ด้
เช่นเดียวกนั จะไดส้ ีทเ่ี ขม้ ข้ึน

แหล่งทมี่ าของสีย้อม

 สีแดง เช่น กระเจ๊ียบ บที รูท พริก มะเขือเทศ ฯลฯ
 สีเขียว เช่น ใบเตย ผกั ใบเขียวอยา่ งผกั ชี สะระแหน่ ผกั โขม ใบพริก ชาเขียว ฯลฯ
 สีเหลือง เช่น เก๊กฮวย หญา้ ฝร่ัน ขม้ิน ฟักทอง
 สีสม้ เช่น แครอท ฟักขา้ ว ดอกคาฝอย ฯลฯ
 สีน้าเงนิ เช่น ดอกอญั ชนั สีม่วง ขา้ วไรซเ์ บอร์รี กะหล่าม่วง ลูกหวา้ บลูเบอร์รี มนั ม่วง หอม

แขก ฯลฯ

ข้อดแี ละข้อจากดั ของสีธรรมชาติ

1. ไม่เป็นอนั ตรายต่อสุขภาพของผผู้ ลิตและผบู้ ริโภค
2. น้าทที่ ง้ิ จากกระบวนการผลิตไม่เป็ นอนั ตรายต่อส่ิงแวดลอ้ ม
3. วตั ถุดิบหาไดง้ า่ ยฝนชุมชนไม่ตอ้ งใชส้ ีเคมี
4. การยอ้ มสีธรรมชาตสิ ามารถเรียนรูไ้ ดด้ ว้ ยตนเอง เป็ นความรู้ทีเ่ พมิ่ พนู ข้ึนตามประสบการณ์

สามารถถ่ายทอดใหแ้ ก่คนรุ่นหลงั เป็ นภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินอีกดว้ ย
5. การยอ้ มสีธรรมชาตทิ าใหเ้ ห็นคุณค่าและรู้จกั ใชป้ ระโยชนข์ องทรัพยากรธรรมชาติ
6. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งคนยอ้ มสีกบั ตน้ ไมย้ อ่ มก่อใหเ้ กิดความรัก ความหวงแหน และเรียนรู้ที่จะ

อนุรกั ษแ์ ละปลูกตน้ ไมท้ ดแทนเพอ่ื การผลิตท่ยี ง่ั ยนื

6

ข้อเสียของสีธรรมชาติ

1. ปริมาณสารสีในวตั ถุดิบยอ้ มสีมีนอ้ ยทาให้ยอ้ มสีไดไ้ ม่เขม้ หรือตอ้ งใชว้ ตั ถุดิบปริมาณมาก
2. ไม่สามารถผลิตไดป้ ริมาณมากและไม่สามารถผลิตสีตามท่ีตลาดตอ้ งการได้
3. สีซีดจางและมีความคงทนต่อแสงต่า
4. คุณภาพการยอ้ มสีธรรมชาตขิ ้ึนอยกู่ บั ปัจจยั หลายประการซ่ึงควบคุมไดย้ าก การยอ้ มสีให้

เหมือนเดิมจึงทาไดย้ าก
5. ในการยอ้ มสีธรรมชาตถิ า้ ไม่มีวธิ ีการและจิตสานึกในการใชท้ รัพยากรอยา่ งยง่ั ยนื ยอ่ มจะทาให้

เกิดการทาลายสิ่งแวดลอ้ มได้

7

บทที่ 3

อปุ กรณ์ และวธิ กี ารดาเนนิ การ

1.อปุ กรณ์

1.จกั รเยบ็ ผา้

2.ดา้ ย
3.ผา้ ดา้ ยดิบ
4.กรรไกร
5.สียอ้ มผา้
6.ไมบ้ รรทดั , ดินสอสี

2.วธิ กี ารดาเนินการ

1.ประชุมแผนการดาเนินงาน
2.ออกแบบกระเป๋ า
3.ประดิษฐก์ ระเป๋ า และทดสอบการใชง้ าน

ข้นั ตอนการประดษิ ฐ์

1.วดั ขนาดผา้ ตามท่ตี อ้ งการจะทากระเป๋ า

ภาพท่ี 3 แสดงการวดั ขนาดผา้

8

2.ตดั ผา้ ตามที่ขดี ไว้

ภาพท่ี 4 แสดงการตดั ผา้
4.นาผา้ ขนาดที่เราตดั ไวไ้ ปมดั ตามลวดลายที่เราตอ้ งการ

ภาพที่ 5 แสดงการมดั ผา้ ให้เป็นลวดลายตามทเ่ี ราตอ้ งการ

9

5.นาผา้ ทเ่ี รามดั ไปแช่น้า

ภาพที่ 6 แสดงการนาผา้ ไปแช่น้า
6.นาผา้ ท่เี ราแช่น้าไปทาการยอ้ ม

ภาพที่ 7 แสดงการยอ้ มผา้

10

7.นาผา้ ทย่ี อ้ มไปตากใหแ้ หง้

ภาพที่ 8 แสดงการตากผา้ ท่ยี อ้ ม
8.นาผา้ ทต่ี ากแหง้ แลว้ ไปเยบ็ เป็นกระเป๋ า

ภาพท่ี 9 แสดงการเยบ็ ผา้ ใหเ้ ป็นกระเป๋ า

11

9.เสร็จส้ินการทาการเป๋ าจากเศษผา้ มดั ยอ้ ม

ภาพท่ี 10 แสดงกระเป๋ ามดั ยอ้ มจากเศษผา้

12

บทท่ี 4

ผลการดาเนินงาน

ผลการศึกษา

จากการปฏิบตั กิ ลุ่มขา้ พเจา้ พบวา่ การนาผา้ มาดดั แปลงเป็นกระเป๋ าผา้ เพอ่ื ความประหยดั ตน้ ทุน
เศรษฐกิจพอเพยี งน้นั ไดผ้ ลทด่ี ีมากเนื่องจากผลงานประดิษฐอ์ อกมาสวยงามอีกท้งั ยงั ไดใ้ ชค้ วามสามารถและ
เรียนรู้การทางานอยา่ งมีประสิทธิภาพ นอกจากน้นั เรายงั สามารถนาบทเรียนมาวเิ คราะห์เชื่อมโยงและ
ดดั แปลงให้ เขา้ กบั เน้ือหาและจุดประสงคข์ องโครงงานเพอื่ ให้เกิดประโยชนส์ ูงสุดโดยกลุ่มของเราไดน้ าผา้
ทีใ่ ชแ้ ลว้ มาแปรรูป ใหม่จนไดผ้ ลงานออกมาเป็นประเป๋ าท่ีสวยงามและน่าใช้

ปัญหาทพี่ บเจอระหว่างการทาโครงงาน

1. ผา้ ทนี่ ามาใชไ้ ม่คอ่ ยมีคุณภาพนบั วา่ เป็นเรื่องยากหรบั พวกเราทจ่ี ะหาเศษผา้ หรือเส้ือผา้ ทไี่ ม่ใช้
แลว้ แต่ยงั มีคุณภาพทด่ี ีอยู่ ซ่ึงตอ้ งแขง็ แรงพอและไม่ขาดง่ายจนเกินไปสาหรับการนาไปแปรรูปเป็ นกระเป๋ า
ในการบรรจุของเครื่องใช้ วตั ถุดิบในการทาจึงมีไม่มากนกั พวกเราจงึ ตอ้ งมีการวางแผนในการจดั การใหด้ ี
พอเพอื่ ไม่ใหว้ ตั ถุดิบที่เรามีน้นั สูญเปล่า

2. มีความชานาญในการทาไม่มากพอ ทกั ษะดา้ นการเยบ็ ปักถกั รอ้ ยเป็นอีกปัจจยั หน่ึงท่ีสาคญั มาก
ของโครงงานน้ีแต่พวกเรายงั ไม่ชานาญดา้ นการเยบ็ ปักถกั รอ้ ยมากนกั จงึ ทาใหพ้ วกเราใชเ้ วลาพอสมควรใน
การประดิษฐก์ ระเป๋ าหน่ึงใบ

13

บทท่ี 5

สรุป อภปิ รายผลการดาเนินงาน

สรุปผลการดาเนนิ การ

จากการดาเนินการในการทาโครงงานการงานอาชีพ ผลิตภณั ฑก์ ระเป๋ ามดั ยอ้ มจากเศษผา้

สรุปผลการทดลองตามจุดมุ่งหมายของโครงงานดงั น้ี

1. ไดก้ ระเป๋ ามดั ยอ้ มจากเศษผา้ ท่ีเราทาเอง
2. เพอ่ื เป็นการลดถุงพลาสติกช่วยในการลดโลกร้อน
3. เพอ่ื หาไดร้ ายเสริมจากการวา่ งงาน
4. เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพเพอื่ หารายไดใ้ นอนาคตต่อไป

อภปิ รายผลงานดาเนนิ การ

จากการดาเนินการในการทากระเป๋ ามดั ยอ้ มจากเศษผา้ สามารถใชง้ านจากสิ่งประดิษฐไ์ ดจ้ ริง และ
ผลจากการใชง้ านสิ่งประดิษฐก์ ระเป๋ าผา้ มดั ยอ้ ม ช่วยลดคา่ ใชจ้ า่ ย ช่วยลดโลกร้อน ใส่ของไดเ้ ยอะใชแ้ ลว้
สามารถนากลบั มาใชไ้ ดต้ ่อไปอีกคร้งั

ประโยชน์ท่ไี ดร้ บั

1. ไดร้ ับความรูใ้ นการทากระเป๋ ามดั ยอ้ มจากเศษผา้
2. ไดร้ ายไดเ้ สริมจากการวา่ งงาน
3. ไดช้ ่วยโลกลดโลกรอ้ น
4. ช่วยลดคา่ ใชจ้ ่าย
5. กระเป๋ ามดั ยอ้ มจากเศษผา้ สามารถใส่ของไดเ้ ยอะ

14

บรรณานุกรม

 ผา้ ดา้ ยดิบ แหล่งท่ีมา : http://blog.ok-bag.com วนั ทีส่ ืบคน้ ขอ้ มูล 25 ตุลาคม 2563
 สียอ้ มผา้ แหลง่ ท่ีมา : http://www.tpa.or.th วนั ที่สืบคน้ ขอ้ มลู 25 ตุลาคม 2563
 คุณสมบตั ขิ องผา้ ดา้ ยดิบ แหล่งท่มี า : https://www.bagpig.com วนั ทส่ี ืบคน้ ขอ้ มูล 25

ตุลาคม 2563
 คุณสมบตั สิ ียอ้ มผา้ แหล่งทีม่ า : http://pamdyeingcolor.blogspot.com วนั ทส่ี ืบคน้ ขอ้ มูล 25

ตลุ าคม 2563

ภาคผนวก

16
ภาพแสดงลกั ษณะผา้ ดา้ ยดิบและสียอ้ มผา้
ภาพแสดงการวดั ขนาดของผา้ และตดั ผา้

17
ภาพแสดงการเตรียมผา้ แลว้ นาไปยอ้ ม

ภาพแสดงการยอ้ มผา้ และตากผา้

18
ภาพแสดงการเยบ็ ผา้ ให้เป็นรูปแบบกระเป๋ า

ภาพแสดงกระเป๋ ามดั ยอ้ มจากเศษผา้