The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tritapohnj, 2022-03-22 08:05:33

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษพื้นฐาน

1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
ครูทบทวน prepositions of time ดว้ ยการเขียนตาราง 9 ชอ่ ง บนกระดาน และเขยี นช่ือเดอื น
ช่ือวนั เวลา วนั ที่ เช่น May, Tuesday, 6:30, 12th April, the morning, noon ลงไปช่องละ 1 คา
จากน้นั แบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทีม ใหแ้ ขง่ กนั เลน่ เกม Noughts and Crosses โดยผลดั กนั พดู ประโยค
จากคาในตาราง และใช้ prepositions of time ให้ถกู ตอ้ ง ถา้ ทมี ใดพดู ประโยคถูกตอ้ ง จะไดท้ า
สญั ลกั ษณ์ X หรือ O ในตาราง ทีมทท่ี าสัญลกั ษณเ์ รียงตอ่ กนั ในแนวต้งั แนวนอน หรือแนวทแยง
ไดก้ ่อนจะเป็นผชู้ นะ

ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอวลี famous for (มีช่ือเสียงในดา้ น/เรื่อง, เป็นทร่ี ูจ้ กั ดใี นดา้ น/เร่ือง) และ take place

(เกดิ ข้ึน) โดยยกตวั อยา่ งประโยค เพือ่ ใหน้ กั เรียนเดาความหมายของวลี เชน่
Brazil is famous for football.
Hollywood is famous for its movie studios.
Teacher’s Day takes place on 16th January.
When will the party take place? It will takes place on Sunday.

famous for = be known for (มชี ่ือเสียงในดา้ น)
England is famous for its long history.

take place = happen (จดั ข้นึ ท่ี)
The film festival takes place in October.

2. ครูถามคาถามโดยใชว้ ลีทสี่ อนไป ให้นกั เรียนชว่ ยกนั ตอบ เชน่
T: When does Songkran Festival take place?
Ss: Songkran Festival takes place in April.

T: What is Buriram Province famous for?
Ss: It’s famous for football club.
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 62 Ex. 1 ใหน้ กั เรียนดูภาพ A และบอกวา่ เหน็ สตั วอ์ ะไรบา้ ง แลว้ ครูใหน้ กั เรียน
คิดวา่ เกดิ เหตุการณอ์ ะไรข้นึ ในภาพ A จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอา่ นบทอ่านตาม
เพือ่ ตรวจว่าสิ่งทค่ี าดเดาไวถ้ กู ตอ้ งหรือไม่

Picture A shows a cat on a float in a parade.

Background information
Ypres /і:prә/ เป็นเมืองทอ่ี ยู่ทางตอนใตข้ องประเทศเบลเยย่ี ม มปี ระชากรอาศยั อยู่
ประมาณ 35,000 คน ในสมยั สงครามโลกคร้ังท่ี 1 มกี ารสูร้ บเกิดข้ึนท่นี ี่หลายคร้งั
ปัจจุบนั เมอื งน้ีถูกเรียกว่า “the city of peace”
2. หนังสือเรียน หน้า 62 Ex. 2 ครูทบทวนคาศพั ทใ์ ห้นกั เรียน หลงั จากน้ันใหน้ กั เรียนอา่ นคาถามขอ้
1-3 สรุปคาถามและแนวโนม้ ของตาตอบ ใหน้ กั เรียนอ่านบทอา่ นอกี คร้ัง และตอบคาถามที่
กาหนดใหโ้ ดยให้ขีดเสน้ ใตใ้ นบทความวา่ คาตอบขอ้ 1-3 อย่ทู ีไ่ หน จากน้นั ให้นกั เรียนบอก
ความหมายของคาในกรอบ Check these words แลว้ ครูตรวจคาตอบ

1 Every three years.
2 They can hunt for treasure.
3 In the second weekend in May.

3. ใหน้ กั เรียนอา่ นคาพดู ของ เตโอฟีล โกตเี ยร์ (Théophile Gautier) ในกรอบ Famous quotation ครูชว่ ย
อธิบายคาวา่ slave (= a person who is owned by another person and works for them (ทาส)) แลว้ ให้
นกั เรียนพูดขอ้ ความน้ีเป็นภาษาไทย จากน้นั ให้นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นวา่ เหน็ ดว้ ยกบั คาพูดน้ี
หรือไม่ พรอ้ มใหเ้ หตผุ ลประกอบ

ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 62 Ex. 3 ใหน้ กั เรียนเขียนหัวขอ้ Name, Place, Date, Activities ลงในสมุด แลว้

อา่ นบทอ่านอีกคร้ัง และจดโนต้ ยอ่ ตามหัวขอ้ จากน้นั ให้นกั เรียนใชโ้ นต้ ย่อที่จดไวเ้ ขียนบรรยาย
เกยี่ วกบั เทศกาล A ในบทอา่ น ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง นกั เรียนนาผลงานของตนติดไวท้ บ่ี อร์ด

หนา้ ห้อง เพื่อแลกเปลย่ี นกบั เพื่อนคนอ่ืน ๆ

Name: Cat Festival
Place: Ypres, Belgium
Date:
Activities: the second weekend in May every three years

treasure hunt for children, fireworks, parade with colourful
floats and music bands, people dance and wear cat
costumes, crown a Cat Queen

The Cat Festival takes place in Ypres, Belgium during the second weekend in
May every three years. There is a treasure hunt for children, fireworks, a parade
with colourful floats and music bands. People dance and wear cat costumes and
they crown a Cat Queen.

2. นกั เรียนทา Language Review 5c Exs. 3-4 ในหนงั สือเรียน หนา้ 109 ร่วมกนั ในช้นั
3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 40 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

ช่ัวโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
ครูนาภาพ festival ต่าง ๆในประเทศไทย 5-10 ภาพ แลว้ ถามนกั เรียนวา่ เป็นเทศกาลอะไร และจดั ข้ึน
ทใี่ ด
T: What festival is this?
Ss: It’s Songkran festival.

T: Where does it take place?
Ss: Everywhere in Thailand.
ข้นั Presentation
ครูนาเสนอคาศพั ท์ last compete perform do tricks (จากหวั ขอ้ Vocabulary) โดยเริ่มจากการ
ออกเสียง ให้นกั เรียนฝึกทายตวั สะกด เขยี นคาลงบนกระดาน ให้นกั เรียนอา่ นอีกรอบ เขยี น
ความหมายคาศพั ทแ์ ละประโยคตวั อย่างลงบนกระดาน ใหน้ กั เรียนอา่ นประโยคและศึกษา
ความหมาย ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั สรุปความหมายของคาศพั ท์

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 62 Ex. 1 ให้นกั เรียนดภู าพ B และบอกวา่ เห็นสตั วอ์ ะไรบา้ ง แลว้ ครูใหน้ กั เรียน

คดิ วา่ เกดิ เหตกุ ารณ์อะไรข้ึนในภาพ B จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอ่านบทอา่ นตาม
เพ่อื ตรวจวา่ สิ่งท่ีคาดเดาไวถ้ กู ตอ้ งหรือไม่

Picture B shows fighting on elephants’ back.
I think they must be festivals.

2. หนงั สือเรียน หน้า 62 Ex. 2 ครูทบทวนคาศพั ทใ์ หน้ กั เรียน หลงั จากน้ันให้นกั เรียนอ่านคาถามขอ้
4-6 สรุปคาถามและแนวโนม้ ของตาตอบ ให้นกั เรียนอา่ นบทอ่านอีกคร้งั และตอบคาถามท่ี
กาหนดให้โดยใหข้ ดี เสน้ ใตใ้ นบทความว่าคาตอบขอ้ 4-6 อยูท่ ไี่ หน จากน้นั ใหน้ กั เรียนบอก
ความหมายของคาในกรอบ Check these words แลว้ ครูตรวจคาตอบ

4 Surin Province in Thailand.
5 They compete in various races, perform, do tricks and play football.
6 Two days.

3. หนงั สือเรียน หน้า 62 Ex. 3 ใหน้ กั เรียนเขยี นหัวขอ้ Name, Place, Date, Activities ลงในสมุด แลว้
อ่านบทอา่ นอีกคร้งั และจดโนต้ ยอ่ ตามหัวขอ้ จากน้ันให้นกั เรียนใชโ้ นต้ ย่อทจ่ี ดไวเ้ ขียนบรรยาย
เกย่ี วกบั เทศกาล B ในบทอา่ น ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง นกั เรียนนาผลงานของตนตดิ ไวท้ ี่บอร์ด
หนา้ หอ้ ง เพ่อื แลกเปลย่ี นกบั เพ่ือนคนอ่ืนๆ

Name: Elephant Festival
Place:
Date: Surin Province, Thailand
Activities: third Saturday of November every year

elephants compete in races, perform, do tricks,
play football

The Elephant Festival takes place in Surin Province in Thailand on the third
Saturday of November every year. Elephants compete in races, perform, do
tricks and play football.

ข้นั Production
1. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน คน้ ควา้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั เทศกาลทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั สตั วใ์ นประเทศที่

ตนเองสนใจจากอินเทอร์เน็ต แลว้ จดโนต้ ตามหัวขอ้ Name, Place, Date, Activities ครูให้นกั เรียนหา
ภาพมาประกอบดว้ ย จากน้นั ให้แตล่ ะกล่มุ ออกมาพูดนาเสนอใหเ้ พอื่ นฟังท่ี
หนา้ ช้นั
2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 41 Ex. 3 ใหน้ กั เรียนฟัง CD แลว้ เลือกคาตอบท่ถี กู ตอ้ ง
3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 41 Ex. 7 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เติมขอ้ มลู ลงในชอ่ งวา่ ง
4. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 41 Exs. 4-5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

7. การวดั และการประเมินผล

วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ร้อยละ 60
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบฝึกหัด (Workbook) -

ตรวจการเขียนเก่ยี วกบั เทศกาลจากเร่ือง สมดุ นกั เรียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

ท่ีอา่ น ระดบั คุณภาพ ผา่ น

ประเมนิ การคน้ ควา้ และพูดนาเสนอ แบบประเมินการสารวจ/คน้ ควา้

เก่ียวกบั เทศกาลท่เี กยี่ วขอ้ งกบั สัตว์

สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมุง่ มนั่ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ
ในการทางาน อนั พึงประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1
3) แบบฝึกหดั SPARK 1 ม. 1
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) ภาพเทศกาลตา่ ง ๆ ของไทย

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 จานวน
รหัสวชิ า อ21101 รายวิชา ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน จานวน 1.5 หน่วยกติ 2 คาบ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
ช้ัน มธั ยมศึกษาท่ปี ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปี การศึกษา 2564

โรงเรียนสภาราชินี จังหวัดตรัง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- อา่ นออกเสียงบทสนทนาถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ นได้
- ตอบคาถามจากการอา่ นบทสนทนาได้
- แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ ีก่ าหนดได้
- พดู สนทนาตามสถานการณ์ที่กาหนดได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 1/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้ัน ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ ัวขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ
อ่านบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้ัน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ
ในชีวติ ประจาวนั
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั

ต 2.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ าลองท่ีเกดิ ข้ึนในหอ้ งเรียนและ

สถานศกึ ษา

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้สานวนภาษาท่ีใชใ้ นการแสดงความกลวั จะช่วยใหพ้ ดู สนทนาส่ือสารในชีวติ ประจาวนั

ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Expressing fear (I’m afraid of …, Get it away from me!, Are you sure it’s
safe?, Oh my goodness!)

Calming down (Don’t be silly!, Would you like to try?)

Functions: Expressing fear
What’s wrong?

I’m afraid of snakes.
Pronunciation: /ɔ:/: boring, chore

/ɑ:/: park, arm

2) Language Skills
Speaking:
พูดสนทนาตามสถานการณท์ ก่ี าหนด

Reading: อา่ นเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ, อ่านออกเสียงบทสนทนา

Writing: แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ าหนด

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร

2) ความสามารถในการคิด

5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงที่ 1
ข้นั Warm up
1. ครูทบทวน comparative และ superlative ดว้ ยการเขยี นตาราง 9 ชอ่ ง บนกระดาน และเขียน

comparative adjective และ superlative adjective ลงไปช่องละ 1 คา จากน้นั แบง่ นกั เรียนออกเป็น
2 ทีม ใหแ้ ข่งกนั เลน่ เกม Noughts and Crosses โดยผลดั กนั พดู ประโยคจาก comparative/superlative
adjective ในตาราง ถา้ ทีมใดพดู ประโยคถูกตอ้ งจะไดท้ าสญั ลกั ษณ์ X หรือ O ในตาราง ทมี ที่ทา
สญั ลกั ษณเ์ รียงต่อกนั ในแนวต้งั แนวนอน หรือแนวทแยงไดก้ อ่ นจะเป็นผชู้ นะ
2. ใหน้ กั เรียนดภู าพในหนงั สือเรียน หนา้ 63 แลว้ ครูถามว่า What animal can you see? Do you think it
is dangerous?

ข้นั Presentation
1. ครูพูดกบั นกั เรียนวา่ I’m afraid of snakes. และถามนกั เรียนว่า Are you afraid of snakes? แลว้ ครู

เขียนประโยคบนกระดาน และอธิบายว่า be afraid of… ใชเ้ พอ่ื บอกส่ิงทีก่ ลวั นอกจากน้ีนกั เรียนยงั
สามารถใช้ be frightened of..., be terrified of และ be scared of... ได้ แลว้ ครูยกตวั อย่างประโยค เชน่
My mum is frightened of mice. Mark is afraid of being alone. My sister is terrified of doctors. I
am scared of flying. ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนดูโครงสร้างประโยค และถามว่าหลงั afraid/terrified/
scared/frightened of จะตามดว้ ยคาประเภทใด (noun และ v-ing)
2. ครูสุ่มถามคาถาม ให้นกั เรียนบอกส่ิงทตี่ นเองกลวั เชน่

T: What are you afraid of?
S1: I’m afraid of ghosts.
T: Are you afraid of snakes?

S2: No, I’m not.

ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 63 Ex. 1 ให้นกั เรียนอา่ นประโยคทก่ี าหนดให้ แลว้ ครูบอกวา่ ประโยคเหลา่ น้ีมา

จากบทสนทนาระหวา่ งเพือ่ น 2 คน ให้นกั เรียนเดาว่าบทสนทนาน้ีน่าจะเกีย่ วกบั เรื่องอะไร จากน้นั
ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านบทสนทนาตามไปดว้ ย เพอื่ ตรวจว่าส่ิงนกั เรียนคาดเดาถูกตอ้ ง
หรือไม่ แลว้ ครูให้นกั เรียนพูดประโยคทกี่ าหนดใหเ้ ป็นภาษาไทย

The dialogue is about a strange pet someone has that frightens their friend.
2. หนงั สือเรียน หน้า 63 Ex. 2 ให้นกั เรียนอ่านคาถาม และบอกวา่ คาคอบน่าจะเก่ยี วกบั อะไร จากน้นั

ให้นกั เรียนอ่านบทสนทนา และตอบคาถามทกี่ าหนดให้ เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบ

1 His pet is a baby wolf spider.
2 It’s three months old.
3 He thinks it’s cute.
4 No, she doesn’t. She’s afraid of spiders.
3. หนังสือเรียน หน้า 63 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นประโยค 1-4 แลว้ หาประโยคท่มี ีความหมายเหมอื นกบั
ประโยคเหลา่ น้ีในบทสนทนา จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ

1 Oh no! – Oh my goodness!
2 I’m terrified of spiders – I’m afraid of spiders.
3 What is the problem? – What’s wrong?
4 How about giving it a try? – Would you like to try?

ข้นั Production
1. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกล่มุ 3-5 คน แลว้ เขียน Riddle (ปริศนาคา) เกี่ยวกบั สตั ว์ โดยใหศ้ ึกษาตวั อยา่ งจาก

กรอบ Smile และสืบคน้ จากอนิ เตอร์เนต็ โดยเขยี นใส่กระดาษ A4 แลว้ มเี ฉลยอย่ดู า้ นหลงั ครู
ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน นักเรียนกลุ่ม
อนื่ ๆ ทายปริศนา
2. นกั เรียนทา Language Review 5d Ex. 4 ในหนงั สือเรียน หนา้ 108 ร่วมกนั ในช้นั
3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 42 Ex. 4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ชั่วโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
นกั เรียนเล่นเกม Animal Riddles โดยอ่านปริศนาเกี่ยวกบั สัตวแ์ ละทายว่าคอื สัตวช์ นิดใด
1) I have four legs and a long tail. I eat grass. I run fast. People ride on my back. (horse)
2) I have a tail. I can fly. I have colorful feathers. I can whistle and I can talk. (parrot)
3) I have four legs and a tail. I have no teeth. I can swim and dive under water. I carry my
house around with me. (turtle)
4) I am small and shy. I have eight legs. I eat bugs. I catch them in my web. (spider)
5) I have little tail. My nose is big. I live on a farm. I can say, “Oink-oink”. (pig)

ข้นั Presentation
1. ครูสอนการออกเสียง /ɑ:/ โดยครูเขียนคาศพั ท์ barn, March บนกระดาน และออกเสียงคาศพั ท์ ให้

นกั เรียนสังเกตปากครูและออกเสียงตามหลาย ๆ คร้งั จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ เสียงน้ีออกเสียงคลา้ ย
กบั เสียงสระตวั ใดในภาษาไทย เมอื่ ไดค้ าตอบว่าสระอา ครูบอกนกั เรียนวา่ เน่ืองจากเสียง /ɑ:/ เป็น
เสียงที่ไม่มใี นภาษาไทย จงึ ออกเสียงไม่เหมอื นกบั สระอาซะทเี ดยี ว
2. ครูสอนการออกเสียง /ɔ:/ โดยครูเขยี นคาศพั ท์ fork, court บนกระดาน และออกเสียงใหน้ กั เรียนฟัง
ใหน้ กั เรียนออกเสียงตามหลายๆ คร้ัง แลว้ ครูบอกนักเรียนว่าเสียง /ɔ:/ กไ็ มม่ ีในภาษาไทยเช่นกนั

จากน้นั ครูให้นกั เรียนคิดและบอกเสียงสระในภาษาไทยท่อี อกเสียงคลา้ ยกบั เสียง /ɔ:/ จนไดค้ าตอบ
วา่ สระออ แลว้ ครูเขียนคาศพั ทเ์ พม่ิ เตมิ บนกระดาน ใหน้ กั เรียนออกเสียงคาศพั ท์
born barn horn heart
corn car form farm

การออกเสียง /ɑ:/ ใหเ้ ปิดปาก ลิ้นวางราบ ซ่ึงเสียง /ɑ:/ น้ีออกเสียงแตกตา่ งจากเสียง
สระอาในภาษาไทย โดยสระอาจะใชล้ ิ้นส่วนหนา้ ในการออกเสียง แตเ่ สียง /ɑ:/ จะ
ใชล้ น้ิ ส่วนหลงั
การออกเสียง /ɔ:/ ให้ห่อริมฝีปาก ล้นิ จะไม่สัมผสั กบั ฟันบนและผนงั ดา้ นในปาก
การออกเสียง /ɔ:/ แตกตา่ งจากเสียงสระออตรงท่ีเสียง /ɔ:/ จะยกลน้ิ สูงกว่า

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 63 Ex. 4 ให้นกั เรียนจบั ค่กู นั แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังบทสนทนา จากน้นั

ใหแ้ ต่ละคฝู่ ึกพดู บทสนทนา โดยครูย้าใหน้ กั เรียนใชน้ ้าเสียงและแสดงทา่ ทางให้สมจริง ครูเดิน
สงั เกตรอบ ๆ ช้นั เรียน และสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพดู บทสนทนาใหเ้ พือ่ นฟังท่หี นา้ ช้นั
2. หนงั สือเรียน หน้า 63 Ex. 6 ครูเปิด CD ให้นกั เรียนฟังคาศพั ทท์ ี่ออกเสียง /ɔ:/, /ɑ:/ และฝึกออกเสียง
ตาม พรอ้ มกนั และทลี ะคน จากน้ันให้นกั เรียนชว่ ยกนั คิดคาศพั ทท์ อ่ี อกเสียง /ɔ:/, /ɑ:/ เพ่ิมเติม

/ɔ:/: boring, chore /ɑ:/: park, arm

ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 63 Ex. 5 นกั เรียนทางานคู่ โดยสมมตสิ ถานการณว์ า่ เพ่อื นของนักเรียนมีสัตวเ์ ล้ยี ง

ใหม่คอื งู แลว้ ให้แต่ละคชู่ ่วยกนั แต่งบทสนทนา ครูแนะนาให้นกั เรียนใชบ้ ทสนทนาใน Ex. 1 เป็น
ตน้ แบบ เม่ือแตง่ บทสนทนาเสร็จแลว้ ครูให้เวลานกั เรียนฝึกพดู สนทนา จากน้นั ให้แตล่ ะคู่ออกมาพดู
สนทนาท่หี นา้ ช้นั

A: Would you like to see my new pet?
B: Sure. What is it?

A: Here, look. It’s a snake. It’s two years old.
B: Oh my goodness! Get it away from me!

A: What’s wrong?
B: I’m afraid of snakes.
A: Don’t be silly!
B: Are you sure it’s safe?
A: Of course. Would you like to hold it?
B: Er… maybe another time. Bye.

2. ครูมอบหมายให้นกั เรียนแตล่ ะคู่ไปฝึกอ่านบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 63 ใหค้ ลอ่ ง แลว้ มาอา่ น
บทสนทนาใหค้ รูฟังนอกเวลาเรียน

3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 42 Ex. 5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

7. การวดั และการประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
วิธกี ารวดั แบบฝึกหัด (Workbook) รอ้ ยละ 60

ประเมินการอา่ นออกเสียงบทสนทนา แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น
บทสนทนา แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการเขียน Riddle (ปริศนาคา)
เกยี่ วกบั สตั ว์ แบบประเมินการแสดงบทสนทนา/ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการแตง่ บทสนทนาตาม บทบาทสมมติ
สถานการณ์ที่กาหนด แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ประเมินการพดู สนทนาตาม อนั พึงประสงค์
สถานการณท์ กี่ าหนด

สงั เกตความใฝ่เรียนรูแ้ ละความมงุ่ มน่ั
ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้

1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชดุ SPARK 1 ม. 1
3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 จานวน
รหสั วชิ า อ21101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน จานวน 1.5 หน่วยกิต 2 คาบ

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5
ช้ัน มธั ยมศึกษาที่ปี 1 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2564

โรงเรียนสภาราชินี จงั หวัดตรัง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- เขยี นบรรยายเกี่ยวสตั วป์ ระจาชาตขิ องไทยได้
- คน้ ควา้ และเกี่ยวสัตวป์ ระจาชาติของประเทศอน่ื และนาเสนอได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อยา่ งมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ วั ขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ
อา่ นบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้ัน
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 1/3 พูด/เขียนแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั กิจกรรมหรือเรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั พรอ้ มท้งั ให้
เหตผุ ลส้ัน ๆ ประกอบ
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่ และเป็ น
พ้ืนฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 1/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เท็จจริงทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรูอ้ น่ื
จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้เก่ียวกบั สัตวป์ ระจาชาติของประเทศต่าง ๆ จะชว่ ยให้สามารถพูดและเขียนส่ือสารได้

อยา่ งเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (hop, kick)
Nouns (forests, grasslands, plants, claws, bamboo)

Adjectives (national, strong, hard, heavy, round, sharp)

2) Language Skills
Reading:
อ่านเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขยี นบรรยายเกีย่ วสัตวป์ ระจาชาตขิ องไทย

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงที่ 1
ข้นั Warm up
1. ครูสุ่มถามนกั เรียน 5 คน เกีย่ วกบั ส่ิงที่นกั เรียนกลวั ให้นกั เรียนที่เหลอื ต้งั ใจฟังคาตอบของเพือ่ น เชน่

T: Nan, what are you afraid of?

Nan: I’m afraid of mice.
T: Bum, what are you afraid of?
Bum: I’m afraid of the dark.
เมื่อถามนกั เรียนครบท้งั 5 คนแลว้ ครูถามคาถามนกั เรียนท่ีเหลือเก่ียวกบั สิ่งท่เี พื่อนท้งั 5 คน กลวั
เช่น
T: What is Nan afraid of?
Ss: She’s afraid of mice.
T: Is Bum afraid of heights?
Ss: No, she isn’t. She’s afraid of the dark.
2. ใหน้ กั เรียนดภู าพในหนงั สือเรียน หนา้ 64 แลว้ ครูถามว่า What animals can you see?
What countries can we see them?

ข้นั Presentation
1. ครูเขียนคาถามท่ขี ้ึนตน้ ดว้ ย How: How long, How fast, Haw many, How much บนกระดาน เช่น

How long is a snake? It’s 2 m long.
How fast does a tiger run? Up to 35 mph.
How many legs does a horse have? Four
How much do you weigh? 55 kg.
แลว้ ใหน้ กั เรียนสงั เกตวา่ หลงั how จะตามดว้ ยคาประเภทใด (adjective) จากน้นั ครูให้นกั เรียน
ชว่ ยกนั บอกว่าคาถาม how บนกระดาน แตล่ ะประโยคถามเกยี่ วกบั อะไร และมแี นวคาตอบอย่างไร
2. ครูอธิบายคาศพั ท์ hop kick forest และ grassland โดยออกเสียงและใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม
หลงั จากน้นั ใหน้ กั เรียนฝึกสะกด ครูเขียนคาศพั ท์ คานิยาม และประโยคตวั อยา่ งลงบนกระดาน ให้
นกั เรียนศึกษาประโยคและเดาความหมายคาศพั ท์ ครูให้ความช่วยเหลือนกั เรียนและสรุปความหมาย
คาศพั ท์

ข้นั Practice
1. ใหน้ กั เรียนดูช่ือเร่ือง “National animals from around the world” พร้อมรูปจงิ โจแ้ ละหมีแพนดา้

สอบถามนกั เรียนว่าบทอา่ นน่าจะเกี่ยวขอ้ งกบั เรื่องอะไร (สัตวป์ ระจาชาตริ อบโลก)
2. หนังสือเรียน หน้า 64 Ex. 1 ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ บั เพอ่ื นอา่ นประโยคขอ้ ที่ 1-3 และชว่ ยกนั คดิ วา่

ประโยคทใ่ี หม้ าถูกหรือผิด แลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอ่านบทอ่านตามเพือ่ ตรวจคาตอบ

พร้อมท้งั แกไ้ ขประโยคทผ่ี ิดให้ถูกตอ้ ง จากน้นั ให้นกั เรียนหาความหมายของคาในกรอบ Check
these words

1 F Kangaroos have got short arms.
2T
3 F Kangaroos eat plants.
จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน ให้บอกขอ้ เท็จจริง 2 อย่าง เก่ยี วกบั สตั วใ์ นบทอ่าน

Kangaroos can hop fast. They live in forests and grasslands.

อินทรีหวั ขาว (bald eagle) เป็นสตั วป์ ระจาชาตขิ องอเมริกา มถี นิ่ กาเนิดในอเมริกา
และพบไดใ้ นทวปี อเมริกาเหนือเท่าน้นั จุดเด่นของอนิ ทรีหวั ขาวคอื ขนบริเวณหัว
และคอเป็นสีขาว ขนบริเวณลาตวั มีสีดา กรงเลบ็ และจะงอยปากสีเหลอื ง สายตา
แหลมคมมองเหน็ ไดไ้ กลถึง 1.6 กโิ ลเมตร เนื่องจากเป็นสตั วท์ ี่พบไดใ้ นอเมริกา
เทา่ น้นั และเป็นสญั ลกั ษณแ์ ห่งความกลา้ หาญและอานาจ อนิ ทรีหัวขาวจงึ ถกู เลอื กให้
เป็นสตั วป์ ระจาชาตขิ องอเมริกา โดยปรากฏอยู่ในตราประจาตาแหน่งประธานาธิบดี
และในสญั ลกั ษณข์ องหน่วยงานราชการตา่ ง ๆ ของอเมริกา

3. หนงั สือเรียน หน้า 64 Ex. 2 ครูทบทวนคาถามที่ข้ึนตน้ ดว้ ย How แลว้ ใหน้ กั เรียนดกู รอบทางซ้ายซ่ึง
เป็นขอ้ มูลเกีย่ วกบั เสือ และสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นคาถามและคาตอบ แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั พูด
คาถามและคาตอบเป็นภาษาไทย จากน้นั ใหน้ กั เรียนเตมิ คาถามท่ีข้ึนตน้ ดว้ ย How ลงในกรอบ
ทางขวาให้ถูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบ

1 How much 3 How fast 5 How long

2 How many 4 How many

ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 64 Ex. 3 ใหน้ กั เรียนจบั คเู่ ขยี นบรรยายเกีย่ วกบั สัตวป์ ระจาชาติของไทย โดยใหม้ ี

ขอ้ มูลเก่ียวกบั what is look like, where it lives, what it eats, what it can do ก่อนทางานครูถาม
นกั เรียนว่าสตั วป์ ระจาชาติของไทยคือสัตวช์ นิดใด (ชา้ ง) เพ่ือใหน้ กั เรียนเขา้ ใจตรงกนั วา่ กาลงั จะ
เขียนเก่ยี วกบั สตั วช์ นิดใด จากน้นั ใหเ้ วลานกั เรียนเขียน โดยครูคอยชว่ ยเหลือนกั เรียนเรื่องคาศพั ท์
เมอื่ เขียนเสร็จแลว้ ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งและใหน้ กั เรียนปรบั แก้ หลงั จากน้นั นักเรียนนาผลงาน
ไปตดิ บนบอร์ดในช้นั เรียน?

The elephant is the national animal of Thailand. Elephants have got a big body,
big ears, big legs, two tusks, a long nose and a long tail. They are usually about
2-4 metres long and they weigh from 3,000-5,000 kilos. They live in the forests
and eat plants. They are very strong, intelligent and friendly. They can swim
and they can blow the water out of their nose.

2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 42 Exs. 1-3 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ชั่วโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
ครูถามความรูท้ วั่ ไปเกี่ยวกบั สัตว์ 5-10 ขอ้ เชน่
• What is the biggest type of “big cat” in the world? (Tiger)
• Are butterflies insects? (Yes)
• Are bats mammals? (Yes)
• How many pairs of wings does a bee have? (2)
• What is the tallest animal in the world? (Giraffe)

• How many legs does a spider have? (8)

ข้นั Presentation
ครูอธิบายคาศพั ท์ heavy sharp และ claw โดยออกเสียงและใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม หลงั จากน้นั ให้
นกั เรียนฝึกสะกด ครูเขยี นคาศพั ท์ คานิยาม และประโยคตวั อย่างลงบนกระดาน ให้นกั เรียนศึกษา
ประโยคและเดาความหมายคาศพั ท์ ครูใหค้ วามช่วยเหลือนกั เรียนและสรุปความหมายคาศพั ท์

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 64 Ex. 1 ครูเปิด CD ใหน้ กั เรียนจบั ค่กู บั เพอ่ื นอ่านประโยคขอ้ ท่ี 4-5 และช่วยกนั

คดิ ว่าประโยคทใ่ี ห้มาถกู หรือผดิ แลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอา่ นบทอ่านตามเพือ่ ตรวจ
คาตอบ พร้อมท้งั แกไ้ ขประโยคทผี่ ิดให้ถูกตอ้ ง จากน้นั ให้นกั เรียนหาความหมายของคาในกรอบ
Check these words

4T
5 F Giant Pandas live in forests.

จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน ให้บอกขอ้ เท็จจริง 2 อยา่ ง เก่ียวกบั สัตวใ์ นบทอ่าน

Giant Pandas eat bamboo. They can climb trees.

2. ครูนาภาพชา้ งไทยมาแสดงให้นกั เรียนดู แลว้ นาภาพไปติดบนกระดาน จากน้นั ถามคาถาม
• What is it? It’s an elephant.
• Where does it live? It lives in the forest.
• What does it eat? It’s eats bananas.
• What can it do? It can carry people.

ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ ครูเขยี นคาตอบลงบนกระดาน จากน้นั แบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทมี ใหท้ มี A ถาม
คาถาม และทีม B ตอบคาถาม

3. ครูให้นกั เรียนจบั คหู่ รือกลมุ่ กลุ่มละ 3-5 คน ครูแจกภาพสตั วใ์ หน้ กั เรียน 1 ภาพ (มา้ จิงโจ้ ยีราฟ เสือ
กวาง แรด เป็นตน้ ) แลว้ ให้นกั เรียนศึกษาลกั ษณะของสตั ว์ และผลดั กนั ถามและตอบขอ้ มลู เกยี่ วกบั
สตั ว์ โดยใชโ้ ครงสร้างประโยคจากขอ้ 2

ข้นั Production
1. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 9 กลมุ่ และใหแ้ ตล่ ะกล่มุ คน้ ควา้ ขอ้ มลู จากอินเทอร์เนต็ เกยี่ วกบั สัตวป์ ระจา

ชาติของประเทศสมาชิกอาเซียนมา 1 ประเทศ ตามที่ครูมอบหมายหรือจบั สลากได้ แลว้ ให้นกั เรียน
จดั ทาเป็นโปสเตอร์ จากน้นั ใหแ้ ต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอทีห่ นา้ ช้นั ถา้ ในช้นั เรียนมีคอมพวิ เตอร์
ครูอาจจะให้นกั เรียนนาเสนอขอ้ มูลดว้ ย PowerPoint

ไทย: สัตว์ประจาชาตขิ องประเทศสมาชิกอาเซียน
อินโดนีเซีย:
มาเลเซีย: ชา้ ง (Elephant)
ฟิลิปปิ นส์: มงั กรโคโมโด (Komodo dragon)
สิงคโปร์: เสือโคร่งพนั ธุม์ ลายู (Malayan tiger)
บรูไน: ควาย (Buffalo)
เวยี ดนาม: สิงโต (Lion)
ลาว: เสือโคร่ง (Tiger)
พม่า: ควาย (Buffalo)
กมั พูชา: ชา้ ง (Elephant)
เสือโคร่งพนั ธุอ์ ินโดจนี (Indochinese tiger)
กปู รี (Kouprey)

2. นกั เรียนทา Vocabulary Bank 5 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 98-99

7. การวัดและการประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
วธิ กี ารวดั
แบบประเมนิ การสารวจ/คน้ ควา้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประเมนิ การเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั สตั ว์
ประจาชาตขิ องไทย
ประเมินการคน้ ควา้ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั สตั ว์
ประจาชาตขิ องประเทศสมาชิกอาเซียน
และพดู นาเสนอ

สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมนั่ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ในการทางาน อนั พึงประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชดุ SPARK 1 ม. 1
3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) อินเทอร์เน็ต
7) ภาพสตั ว์


Click to View FlipBook Version