โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง บลัชออนจากบีทรูทและแครอท ผู้จัดทำ นางสาว กัญญาณัฏฐ์ ประพันธ์ ม.4/8 เลขที่ 10ก นางสาว ภัสสร ใจทอง ม.4/8 เลขที่ 19 ก นางสาว จิดาภา ใยโฉม ม.4/8 เลขที่ 11ข นางสาว ริศรา แก้วมณีชัย ม.4/8 เลขที่ 17ข ครูที่ปรึกษา อาจารย์ นฤมล คำ นนท์ โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย ลพบุรี อำ เภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
คำ นำ รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การศึกษาค้นคว้าอิสระ(IS)รายงานฉบับนี้ จัดทำ ขึ้นเพื่อศึกษาการทำ บลัชออนจากบีทรูทและแครอท ประโยชน์ของบีทรูท และแครอท และเปรียบเทียบสีของบีทรูทและแครอท ผู้จัดทำ หวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้และเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษา การทำ บลัชออนจากบีทรูทและแครอท ที่เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ หากมีข้อแนะนำ หรือข้อผิดพลาดประการใดผู้จัดทำ ขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย นางสาว กัญญาณัฏฐ์ ประพันธ์ นางสาว จิดาภา ใยโฉม นางสาว ภัสสร ใจทอง นางสาว ริศรา แก้วมณีชัย
สารบัญ บทที่ 1 ที่มาและความสำ คัญ หน้า วัตถุประสงค์ สมมติฐาน ตัวแปรที่ศึกษา ขอบเขตของการศึกษา ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้ บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ประโยชน์ของบีทรูท ประโยชน์ของแครอท บทที่ 3 วิธีการศึกษาค้นคว้า วัสดุและอุปกรณ์ ส่วนผสม วิธีการทำ บลัชออนบีทรูทและแครอท 1 1 1 2 2 2 3 3 3 4 4 4 5
บทที่ 1 ที่มาและความสำ คัญของโครงงาน บทนำ วัตถุประสงค์ของการทำ โครงงาน 1.เพื่อศึกษาการทำ บลัชออนจากธรรมชาติ 2.เพื่อศึกษาประโยชน์ของบีทรูทและแครอท 3.เพื่อเปรียบเทียบสีและความติดทน สมมุติฐานของการศึกษาค้นคว้า -1- บลัชออน (Blush on) คือเครื่องสำ อางสำ หรับใช้ปัดบริเวณแก้ม เน้นผลิตเฉดสีโทนส้ม ชมพู และแดง เพื่อให้ผิวหน้าดูสุขภาพดี มีเลือดฝาด ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ทั้งยังช่วยปรับโครงหน้าให้ เรียวลง คมชัด แถมขับผิวให้เปล่งปลั่ง สดใส และหน้าอ่อนกว่าวัยยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งความเป็น จริง ในวงการเครื่องสำ อางจะเรียกว่า บลัชเชอร์ (Blusher) มาจากคำ ภาษาอังกฤษคือ Blush ที่ แปลว่าเขินจนหน้าแดง แต่คนไทยนิยมเรียกติดปากว่า บลัชออน ที่เป็นชื่อเทคนิกของการนำ บลัช เชอร์มาปัดแก้ม ให้ใบหน้าดูมีโหนกแก้ม มีสันแก้ม และมีสีสันมากขึ้นนั่นเองโดยบลัชออน เกิด จากการนำ ผงสีหรือพิกเมนต์สีมาผสมกับผงแป้งและกรดไขมันสกัดจากธรรมชาติอย่างสัตว์ หรือ ผักผลไม้ เพื่อทำ ให้เนื้อของบลัชออนมีความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ใช้ทาได้สะดวกนอกจากนี้ยังมี สารประกอบต่าง ๆ จำ พวกไมกา (Mica), ซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxcide) และไททาเนียมออกไซด์ (Titanium Oxcide) ที่ช่วยให้ตัวพิกเมนต์มีสีที่โดดเด่น แจ่มชัดมากยิ่งขึ้นรวมอยู่ด้วย ซึ่งตัวผงสีที่ ผ่านการรับรองมาตรฐานว่าปลอดภัย จากสำ นักงานคณะกรรมการอาหารและยามีมากเกือบ 100 สี ทำ ให้บลัชออนสมัยนี้ มีเฉดสีให้เลือกซื้อมากมายอย่างที่เห็นกัน บลัชออนจากบีทรูทมีความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์มากกว่าบลัชออนจากแครอทเพราะสี และความติดทน กลิ่น ของบีทรูททำ ได้ดีกว่าบลัชออนจากแครอท
ตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรต้น : บีทรูทและแครอท ตัวแปรตาม : สี ความติดทน กลิ่น ตัวแปรควบคุม : ปริมาณของผงบีทรูทและแครอท ปริมาณของน้ำ บีทรูทและแครอท ปริมาณของแป้ง ปริมาณของวาสลีน ขอบเขตของการศึกษา ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาและทดลองครั้งนี้ดำ เนินการตั้งแต่วันที่ 5-21 ธันวาคม 2566 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้ 1.ได้ทราบถึงการทำ บลัชอออน 2.สามารถเป็นแนวทางสำ หรับการทำ ธุรกิจแก่ผู้ที่สนใจในอนาคต 3.ได้ฝึกทักษะกระบวนการทำ งานด้วยตนเอง หรือร่วมทำ งานเป็นกลุ่ม -2-
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง -3- บลัชออน บลัชออน คือเครื่องสำ อางประเภทหนึ่งที่ใช้สำ หรับปัดบริเวณแก้ม เพื่อเพิ่มสีสันให้สวยชวน มอง โดยส่วนใหญ่บลัชออนมักมีให้เลือกหลากหลายเฉดสีด้วยกัน แต่สียอดฮิตที่หลายคน นิยมใช้มักจะเป็นโทนสีส้ม สีชมพู และสีแดง ประโยชน์ของบลัชออน ปรับแต่งรูปหน้าให้เรียวสวย เติมสีสันให้ใบหน้าดูเด็กลง เน้นโหนกแก้ม ให้โครงหน้าคมสวยขึ้น เพิ่มความสดใสให้ใบหน้า บีทรูท บีทรูท เป็นพืชชนิดหนึ่งที่นิยมนำ รากซึ่งอยู่ใต้ดินมารับประทาน มีอยู่หลายสายพันธุ์และ มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปตามภูมิภาค นิยมนำ มากินสด ดอง ปรุงอาหาร เพิ่มสีสันของ อาหาร แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และนำ ไปใช้เป็นยารักษาโรค ประโยชน์จากบีทรูท ดูแลสุขภาพผิว เพิ่มความแข็งแรงให้กระดูก ทำ ให้ความดันโลหิตเป็นปกติ แครอท แครอท(Carrot) เป็นไม้ล้มลุก อายุ 1-2 ปี หัวเป็นสีส้ม และมีสารแคโรทีนอยู่เป็นจำ นวนมาก รากยาว เรียว ใบมีลักษณะเป็นฝอย แครอทเป็นพืชกินหัวชนิดหนึ่ง มีลักษณะยาว หัวแครอทมีหลายสี เช่น เหลือง ม่วง ส้ม ประโยชน์จากแครอท บำ รุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งและดูอ่อนเยาว์ ช่วยบำ รุงสุขภาพดวงตา
บทที่ 3 วิธีการศึกษาค้นคว้า วิธีการศึกษาค้นคว้า วัสดุและอุปกรณ์ ที่ฝานผลไม้ ผ้าขาวบาง กระจาดสำ หรับตาก เครื่องปั่น กระชอน ถ้วย ช้อนตวง ถุงมือ กระปุกขนาด 2 ml ส่วนผสม บีทรูทตากแห้ง แครอทตากแห้ง น้ำ บีทรูท น้ำ แครอท แป้งฝุ่น วาสลีน -4- โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง บลัชออนจากบีทรูทและแครอท ได้ข้อมูลจากการสืบค้นคุณสมบัติ ของบีทรูทและแครอททางอินเทอร์เน็ต
การทำ บลัชออนบีทรูท step1ใส่น้ำ บีทรูทปริมาณ 2 ช้อนชา หรือ 10 กรัม วิธีการทำ ผงบีทรูทและผงแครอท step1:ล้างบีทรูทและแครอทให้สะอาด ปอกเปลือกบีทรูทและแครอท ฝานบีทรูทและ แครอทให้เป็นแผ่นบางๆ step2:นำ บีทรูทและแครอทที่ฝานไว้ไปเรียงใส่กระจาดและตากให้แห้งโดยแสงแดด step3:นำ บีทรูทที่แห้งไปปั่นในเครื่องปัั่นและกรองด้วยกระชอนและผ้าขาวบางอีกครั้งจนเป็นผง ละเอียดทำ เช่นเดิมกันกับแครอท step2:ใส่แป้งฝุ่นปริมาณ 1/2 ช้อนโต๊ะและอีก 1 ช้อนชา หรือ 27.5 กรัม -5- step3:ใส่วาสลีนปริมาณ 1/4 ช้อนชา หรือ 0.25 กรัม step4:ใส่ผงบีทรูท 1 ช้อนชา หรือ 5 กรัม step5:ทำ ขั้นตอนเดิมอีกครั้งโดยใช้แครอท
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 4.1 ผลการทดลองของบลัชออนบีทรูทและบลัชออนแครอท บีทรูท แครอท สี กลิ่น ความติดทน เนื้อสีชัด มีสีแดง เนื้อสีไม่ชัด มีสีเหลือง กลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นไม่พึงประสงค์ ไม่มีความติดทน มีความติดทนมากกว่า
บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลการทดลอง จากผลการทดลองจะสรุปได้ว่าการนำ ผลไม้จากธรรมชาติมาทำ เป็นผลิตภัณฑ์บลัชออน บลัชออนบีทรูทมีสีแดงตามที่ต้องการแต่บลัชออนจากแครอทมีสีเหลืองจึงไม่เป็นไปตามความต้องการ สีที่ได้จึงไม่เป็นไปตามที่คาดหมายไว้ บลัชออนจากบีทรูทมีกลิ่นดีกว่าบลัชออนแครอท ความติดทน บลัชออนจากแครอทมีความติดทนมากกว่าบลัชออนจากบีทรูท ประโยชน์ของโครงงาน 1. ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย 2. สามารถใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 3. ได้บลัชออนจากธรรมชาติที่ปราศจากสารเคมี 4. บลัชออนจากแครอทมีประโยชน์ในการบำ รุงผิวด้วยวิตามินและสารอาหารที่มีในแครอทที่ สำ คัญคือวิตามินเอที่ช่วยเสริมสร้างผิวหน้าให้แลดูสุขภาพดี มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการ ทำ ลายของอนุมูลอิสระในผิวหน้าได้ ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสและชุ่มชื้นมากขึ้น 5. บลัชออนจากบีทรูทมีประโยชน์ในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนังและช่วยลดริ้วรอย ทำ ให้ผิวดูกระจ่างใสและมีความอ่อนเยาว์ เพิ่มความชุ่มชื้นในผิวและช่วยปรับสมดุลของน้ำ มันบน ผิวหนัง ทำ ให้ผิวดูมีสุขภาพดีขึ้น ข้อเสนอแนะ 1. เราอาจนำ การทดลองนี้ไปใช้กับผลไม้ชนิดอื่น ๆ ได้ตามท้องถิ่นที่มีอยู่ทั่วไป ได้ 2. เราอาจนำ สมุนไพรไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ เช่น ลิปสติก อายแชโดว์ เป็นต้น