The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วรรณคดีเรื่อง สุภาษิตอิศรญาณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by arfanee deng, 2024-01-29 03:19:52

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เรื่อง สุภาษิตอิศรญาณ

วรรณคดีเรื่อง สุภาษิตอิศรญาณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

นางสาวอัรอัฟานี เด็ง ด็ สุภาษิต อิอิ อิอิ ศรญาณ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-BOOK) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3


หนังสืออิเล็กกรอนิกส์ (e-book) เรื่อง สุภาษิตอิศรญาณเล่มนี้ จัดทำ ขึ้นเพื่อการจัดการเรียน ในรายวิชาภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเพื่อแก้ปัญหาการเขียนสะกดคำ จากเรื่อง สุภาษิตอิศรญาณ ให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางเรียนสูงขึ้น ซึ่งเรื่องสุภาษิตอิศรญาณ เป็นวรรณคดีที่มีเนื้อหาที่ให้ข้อคิดคติเตือนใจ จึงเรียกว่า ภาษิต สอนการปฏิบัติตนให้เหมาะสม มีคุณค่าด้านวรรณศิลป์ในการประพันธ์วรรณคดี มีการใช้คำ สัมผัสอักษรหรือการเล่นพยัญชนะ การใช้สำ นวนสุภาษิตและโวหารภาพพจน์ต่าง ๆ จึงมีความไพเราะและความงดงามทางภาษา ซึ่งจะทำ ให้ผู้เรียนตระหนักคุณค่าของวรรณคดีไทย ในฐานะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรม เนื้อหาในหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เล่มนี้ ประกอบด้วยความเป็นมา ประวัติผู้แต่ง ลักษณะคำ ประพันธ์ เรื่องย่อ เนื้อหาและคุณค่าของวรรณคดีสุภาษิตอิศรญาณ ซึ่งสามารถนำ ไปปรับใช้ในชีวิตประจำ วันของผู้เรียน ผู้จัดทำ ขอขอบพระคุณอาจารย์ ดร.จริญญาพร สวยนภานุสรณ์ อาจารย์ประจำ สาขาวิชา ภาษาไทย (ค.บ.) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ที่ได้ให้คำ แนะนำ ตลอดการปรับปรุงแก้ไข หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เล่มนี้ ให้สำ เร็จจุล่วงไปด้วยดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เล่มนี้ จะมีประโยณ์แก่ผู้เรียนและผู้สนใจเรื่อง สุภาษิตอิศรญาณได้อย่างสูงสุด คำคำ คำคำ คำคำนำนำ นำนำ นำนำ


หน่วยที่ 1 ความเป็นมา ประวัติผู้แต่ง และลักษณะ 1คำ ประพันธ์ของสุภาษิตอิศรญาณหน่วยที่ 2 เรื่องย่อสุภาษิตอิศรญาณ 8หน่วยที่ 3 เนื้อหาสุภาษิตอิศรญาณ 11หน่วยที่ 4 วิเคราะห์คุณค่าของสุภาษิตอิศรญาณ 38 ??สารบับับับัญ


คือ ถ้อยคำ หรือข้อความที่กล่าวสืบต่อกันมา ช้านานแล้ว มีความหมายเป็นคติสอนใจ สุสุ สุสุ ภาษิษิ ษิษิ ต สุสุ สุสุ ภาษิษิ ษิษิ ตอิอิ อิอิ ศรญาณ การสอนและเตือนสติผู้อ่านเกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติตัว เมื่ออยู่ร่วมกับคนที่มีอำ นาจมากกว่า หรือผู้ที่อาวุโสกว่า โดยไม่ทำ ให้ตัวเองเดือดร้อน ทั้งเรื่องการวางตัว การมีสติ คิดไตร่ตรองก่อนลงมือทำ และการเคารพผู้ใหญ่


หน่วยที่ 1 ความเป็นมา ประวัติผู้แ ผู้ ต่ง และลักษณะคำ ประพันธ์ของสุภาษิตอิศรญาณ 1


ความเป็นมาสุภาษิตอิศรญาณ หม่อมเจ้าอิศรญาณ มีเรื่องเล่ากันว่า หม่อมเจ้าอิศรญาณมีพระจริตที่ไม่ปกตินัก เคยทำ อะไรผิดจริตไปอย่างหนึ่งจึงถูกรัชกาลที่ 4 ตรัสว่า บ้า ทำ ให้เกิดความน้อยพระทัย จึงนิพนธ์เพลงยาวขึ้นบทหนึ่ง ภายหลังเรียกว่า “ภาษิตอิศรญาณ” 2


สุภาษิตอิศรญาณประพันธ์โดย 1 หม่อมเจ้าอิศรญาณ อิสสรญาโน 2 ประสูติ พ.ศ. 2367 3 สิ้นชีพตักษัย 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2423 (ราว 56 ปี) ประวัติผู้แ ผู้ ต่งสุภาษิตอิศรญาณ ประพันธ์ขึ้นสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ภาพที่ 1 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มา : https://www.tnews.co.th/variety/418860 ภาพที่ 2 หม่อมเจ้าอิศรญาณ อิสสรญาโน ที่มา : https://www.tnews.co.th/variety/418860 3


หม่อมเจ้าอิศรญาณ เป็นพระโอรสพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงมหิศวรินทรามเรศ (ทรงเป็นต้นราชสกุลมหากุล พระนามเดิม พระองค์เจ้าโต เป็นพระราชโอรส พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) แต่ในหนังสือ “ประติทินบัตร แล จดหมายเหตุ” กล่าวว่าหม่อมเจ้าอิศรญาณเป็นพระโอรสพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นอินทรพิพิธ (ทรงเป็นต้นราชสกุลอินทรางกูร ซึ่งเป็นพระราชอนุชา พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) กับหม่อมกรุศ หม่อมเจ้าอิศรญาณทรงผนวชอยู่วัดบวรนิเวศวิหาร ได้พระนามฉายาว่า อิสฺสรญาโณ ผลงาน สุภาษิตอิศรญาณ หรือ เพลงยาวเจ้าอิศรญาณ 4


ลักษณะคำ ประพันธ์สุภาษิตอิศรญาณ สุภาษิตอิศรญาณประพันธ์ด้วยกลอนเพลงยาว ซึ่งมีข้อบังคับทางฉันทลักษณ์อันได้แก่ จำ นวนวรรค จำ นวนคำ เสียงท้ายวรรค และวิธีการส่งสัมผัสเช่นเดียวกับกลอน 8 ทุกประการ ต่างกันแต่กลอนเพลงยาวจะขึ้นต้นคำ ประพันธ์ด้วยวรรครับ หรือวรรคที่ 2 ของกลอนแปด และเมื่อจบคำ ประพันธ์จะลงท้ายด้วยคำ ว่า "เอย" 5


ที่มาของคำ ว่า "ลงเอย" เนื่องจาก ใช้เป็นจดหมายรักและจบลงด้วยคำ ว่า"เอย" จึงเป็นที่มาของสำ นวน "ลงเอย" ในภาษาไทยหมายถึงการตกลงปลงใจ ที่จะร่วมชีวิตคู่ ของ ชาย-หญิง ที่มาของชื่อ"เพลงยาว" น่าจะเกิดจาก เนื้อความของจดหมายแต่ละฉบับที่มีขนาดยืดยาว หรืออีกประการหนึ่งอาจเกิดจากระยะเวลา ในการผูกสมัครรักใคร่ และโต้ตอบจดหมายกันจน "ลงเอย" ใช้เวลานานก็เป็นได้ 6


แบบทดสอบหน่วยที่ 1 7


ท 5.1 ม3/1 สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมท้องถิ่น ในระดับที่ยากยิ่งขึ้น หน่วยที่ 2 เนื้อเรื่องย่อ สุภาษิตอิศรญาณ 8


สุภาษิต อิศรญาณ ข้อ ข้คิดว่าด้วยการประพฤติตน ให้ถูกต้อง ข้อ ข้คิดว่าด้วยการรักษา สัมพันธภาพกับผู้อื่ ผู้ อื่ น พึงไม่ประมาทในการทำ ความดี พึงใช้ปัญญาพิจารณาการกระทำ และดำ พูด พึงกตัญญูรู้คุณ ไม่พึงหลงในยศถาบรรดาศักดิ์ ไม่พึงอวดดี อวดฉลาด พึงพิจารณาตนเองอยู่เสมอ พึงรู้จักเลือกคบหาสมาคมกับคนดี มีปัญญาและระวังคนใจคดหลอกลวง พึงถนอมรักษาน้ำ ใจผู้อื่น พึงวางตัวให้เหมาะสม ระมัดระวังกิริยาวาจา ร่วมถึงไม่หักหน้าและหักหาญน้ำ ใจใคร โดยเฉพาะผู้มีสถานภาพทางสังคมสูงกว่าตน เมื่อจะใช้คนหรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น พึงรู้จักฉลาดพูด 9


แบบทดสอบหน่วยที่ 2 10


ท 5.1 ม3/1 สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมท้องถิ่น ในระดับที่ยากยิ่งขึ้น ท 5.1 ม3/3 สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่าน เพื่อนำ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง หน่วยที่ 3 เนื้อเรื่อง สุภาษิตอิศรญาณ 11


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ อิศรญาณชาญกลอนอักษรสาร เทศนาคำ ไทยให้เป็นทาน โดยตำ นานศุภอรรถสวัสดี ๏ สำ หรับคนเจือจิตจริตเขลา ด้วยมัวเมาโมห์มากในซากผีต้องหา ม้ามโนมัยใหญ่ยาวรี สำ หรับขี่เป็นม้าอาชาไนย : สำ หรับคนที่โง่เขลาเบาปัญญาที่ไปลุ่มหลงในความชั่วต้องฝึกใจให้รู้เท่าทันกิเลส คือ เอาใจเป็นนายบังคับใจตัวเองให้อยู่เหนือกิเลส เพื่อจะได้เป็นพาหนะไปสู่ความสุข : หม่อมเจ้าอิศรญาณผู้ทรงเชี่ยวชาญในเชิงกลอนทรงนิพนธ์คำ กลอนสุภาษิตโบราณ สั่งสอนเตือนใจไว้เพื่อเป็นทาน ชาญ หมายถึง เชี่ยวชาญ เทศนา หมายถึง สอน ตำ นาน หมายถึง คำ โบราณ ศุภอรรถ หมายถึง ถ้อยคำ ที่ดี คำ ศัพท์น่าสนใจ เจือ หมายถึง ผสม โมห์ หมายถึง ความลุ่มหลง ม้ามโนมัย หมายถึง ม้าที่ขับขี่ได้รวดเร็วดั่งใจ (มาจากคำ ว่า มโน = ใจ และ มย = ความสำ เร็จ) ม้าอาชาไนย หมายถึง ม้าที่ได้รับการฝึกมาดี 12


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณว่า น้ำ พึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย เราก็จิตคิดดูเล่าเขาก็ใจ รักกันไว้ดีกว่าชังระวังการ : ผู้ชายกับผู้หญิงนั้นต่างกันดังข้าวเปลือกกับข้าวสาร โบราณกล่าวไว้ว่า ชายเปรียบเสมือนข้าวเปลือก หญิงเปรียบเสมือนข้าวสาร ซึ่งเป็นการสอนให้ผู้หญิงรู้จักรักนวลสงวนตัว เพราะผู้หญิงคล้ายกับข้าวสารที่ผ่านการขัดสีพร้อมที่จะนำ ไปหุงอย่างเดียว ไม่สามารถนำ มาปลูกใหม่ได้อีก ขณะที่ผู้ชายเปรียบเสมือนข้าวเปลือกที่สามารถนำ ไปเพาะปลูก และเจริญงอกงามใหม่ได้เรื่อย ๆ ซึ่งทั้งชายและหญิงต่างก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เหมือนกับสำ นวน น้ำ พึ่งเรือเสือพึ่งป่า และต้องนึกถึงใจเขาใจเรา รักกันไว้ก่อนจะดีกว่าการเกลียดชังกัน อัชฌาสัย หมายถึง ความมีน้ำ ใจเกื้อกูลกัน คำ ศัพท์น่าสนใจ 13


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ ผู้ใดดีดีต่ออย่าก่อกิจ ผู้ใดผิดผ่อนพักอย่าหักหาญ สิบดีก็ไม่ถึงกับกึ่งพาล เป็นชายชาญอย่าเพ่อคาดประมาทชาย : ผู้ใดที่ทำ ดีต่อเรา เราควรทำ ดีต่อเขาตอบ ส่วนผู้ใดที่ทำ ไม่ดีต่อเรา หรือทำ ไม่ถูกต้องก็ไม่ควรโกรธหรือตัดรอน จนแตกหัก ทำ ความดีสิบครั้ง ก็ไม่เท่าทำ ความชั่วครึ่งครั้ง ความชั่วนั้นจะทำ ลายความดีลงจนหมดสิ้น เกิดเป็นชายก็ไม่ควรดูถูกชายด้วยกัน หักหาญ หมายถึง การบังคับโดยใช้กำ ลังหรืออำ นาจ อย่าเพ่อ หมายถึง ห้ามไม่ให้กระทำ คำ ศัพท์น่าสนใจ 14


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ รักสั้นนั้นให้รู้อยู่เพียงสั้น รักยาวนั้นอย่าให้เยิ่นเกินกฎหมาย มิใช่ตายแต่เขาเราก็ตาย แหงนดูฟ้าอย่าให้อายแก่เทวดา : ความรักความสัมพันธ์จะเป็นไปอย่างยาวนาน ต้องอาศัยการทำ ดีต่อกันอย่างสม่ำ เสมอ และไม่ทำ อะไรเกินขอบเขตกฎหมาย อย่างไรเสียเราทุกคนก็ต้องตาย ควรทำ ดีต่อกันไว้ เวลาที่แหงนดูฟ้าจะได้ไม่อายเทวดาที่อยู่บนสวรรค์ เยิ่น หมายถึง ยาว หรือ นานออกไป คำ ศัพท์น่าสนใจ 15


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ อย่าดูถูกบุญกรรมว่าทำ น้อย น้ำ ตาลย้อยมากเมื่อไรได้หนักหนา อย่านอนเปล่าเอากระจกยกออกมา ส่องดูหน้าเสียทีหนึ่งแล้วจึงนอน : อย่าดูถูกความดีที่ทำ เพียงเล็กน้อย เพราะมันจะสะสมไปเรื่อย ๆ และมากขึ้นทุกที คล้ายกับการปาดน้ำ ตาลที่แม้จะไหลออกมาเพียงเล็กน้อย แต่หากเวลาผ่านไป น้ำ ตาลก็สามารถจะเพิ่มจำ นวนขึ้นมากเรื่อย ๆ ได้เช่นกัน “อย่านอนเปล่าเอากระจกยกออกมา” ต้องการจะสื่อให้เราสำ รวจกาย จิตใจ และการกระทำ ของตัวเองในแต่ละวัน เตือนใจให้มีสติหมั่นทบทวนตัวเองในทุก ๆ วัน 16


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ เห็นตอหลักปักขวางหนทางอยู่ พิเคราะห์ดูควรทึ้งแล้วจึงถอน เห็นเต็มตาแล้วอย่าอยากทำ ปากบอน ตรองเสียก่อนจึงค่อยทำ กรรมทั้งมวล : เห็นสิ่งใดกีดขวางทางอยู่ จงพิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะเอาออก เพราะอาจเป็นอันตรายได้ และเมื่อไปเห็นการกระทำ ของใคร อย่ารีบพูดออกไป ควรคิดพิจารณาให้ดีเสียก่อน ก่อนที่จะพูดหรือกระทำ อะไรเพราะอาจนำ ผลร้ายมาสู่ตนเองได้ สอนให้รู้จักคิดใคร่ครวญ ไตร่ตรองก่อนจะพูดหรือทำ สิ่งใด พิเคราะห์ หมายถึง คิดพิจารณาอย่างรอบคอบ ทึ้ง หมายถึง พยายามดึง ปากบอน หมายถึง ปากอยู่ไม่สุข ชอบพูด ตรอง หมายถึง คิดทบทวน คำ ศัพท์น่าสนใจ 17


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ ค่อยดำ เนินตามไต่ผู้ไปหน้า ใจความว่าผู้มีคุณอย่าหุนหวน เอาหลังตากแดดเป็นนิจคิดคำ นวณ รู้ถี่ถ้วนจึงสบายเมื่อปลายมือ : ให้ประพฤติปฏิบัติตนตามผู้ใหญ่ เพราะย่อมมีความรู้และประสบการณ์มากกว่า และอย่าเป็นคนอกตัญญู จงมีความขยันหมั่นเพียรทำ งานอยู่เสมอ แล้วจะมีความสุขสบายในภายหน้า ดำ เนิน หมายถึง เดิน หลังตากแดด หมายถึง ก้มหน้าทำ งานหนักแบบชาวนา ทำ ให้หลังถูกแดดตลอดเวลา คิดคำ นวณ หมายถึง คิดใคร่ครวญ เมื่อปลายมือ หมายถึง ในภายหลัง คำ ศัพท์น่าสนใจ 18


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ เพชรอย่างดีมีค่าราคายิ่ง ส่งให้ลิงจะรู้ค่าราคาหรือ ต่อผู้ดีมีปัญญาจึงหารือ ให้เขาลือเสียว่าชายนี้ขายเพชร : การนำ ของมีค่าให้กับคนที่ไม่รู้ค่า ก็เหมือนกับการนำ เพชรไปให้กับลิง ดังนั้น เราควรจะสมาคมกับคนที่มีปัญญาและมองเห็นค่าของตัวเรา วรรคที่บอกว่า “ ให้เขาลือเสียว่าชายนี้ขายเพชร “ หมายถึง ให้คน ร่ำ ลือว่าเรานั้นมีปัญญาราวกับมีเพชรมากพอที่จะอวดได้ 19


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ ของสิ่งใดเจ้าว่างามต้องตามเจ้า ใครเลยเล่าจะไม่งามตามเสด็จ จำ ไว้ทุกสิ่งจริงหรือเท็จ พริกไทยเม็ดนิดเดียวเคี้ยวยังร้อน : บทนี้พูดถึงการเห็นดีเห็นงามตามเจ้านาย ต่อให้ไม่เห็นด้วยก็ต้องเก็บไว้ข้างใน เพื่อให้ไม่เดือดร้อนตนเองเพราะหากเดือดร้อนขึ้นมาต่อให้เป็นเรื่องเล็ก เหมือนพริกไทยเม็ดเดียวก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้เช่นกัน เจ้า หมายถึง เจ้านาย คำ ศัพท์น่าสนใจ 20


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ เกิดเป็นคนเชิงดูให้รู้เท่า ใจของเราไม่สอนใจใครจะสอน อยากใช้เขาเราต้องก้มประนมกร ใครเลยห่อนจะว่าตัวเป็นวัวมอ : เกิดเป็นคนต้องรู้เท่าทันใจของตนเอง คือต้องสอนใจตนเองหรือเตือนตนเองได้ และถ้าจะขอความช่วยเหลือจากผู้ใด เราต้องอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะไม่มีใครที่จะคิดว่าตนเป็นวัวให้คนอื่นใช้งาน ประนมกร หมายถึง ประนมมือ ใครเลยห่อนจะว่าตัวเป็นวัวมอ หมายถึง ไม่มีใครที่จะคิดว่าตน เป็นวัวให้คนอื่นใช้งาน คำ ศัพท์น่าสนใจ 21


๏ เป็นบ้าจี้นิยมชมว่าเอก คนโหยกเหยกรักษายากลำ บากหมอ อันยศศักดิ์มิใช่เหล้าเมาแต่พอ ถ้าเขายอเหมือนอย่างเกาให้เราคัน : คนบ้ายอชอบให้คนเขานิยมยกย่องเปรียบเหมือนคนไม่อยู่กับร่องกับรอย ซึ่งแก้ไขได้ยาก ยศ หรือตำ แหน่งนั้นก็มิใช่เหล้าจงเมาแต่พอควร อย่าไปยึดติด หลงยศ หลงตำ แหน่ง คำ เยินยอต่าง ๆ นั้น ถ้าเราหลงเชื่อ อาจทำ ให้เราเดือดร้อนได้ บ้าจี้ หมายถึง บ้ายอ คนโหยกเหยก หมายถึง คนที่ไม่ได้เรื่อง แก้ไขยาก คำ ศัพท์น่าสนใจ 22


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ บ้างโลดเล่นเต้นรำ ทำ เป็นเจ้า เป็นไรเขาไม่จับผิดคิดดูขัน ผีมันหลอกช่างผีตามทีมัน คนเหมือนกันหลอกกันเองกลัวเกรงนัก : บางคนทำ ตัวเหมือนเจ้าเข้าสิง ไม่มีใครคิดจับผิดว่าเป็นผีจริงหรือไม่ แต่ต่อให้เป็นผีจริงก็ปล่อยให้หลอกไป เพราะอย่างไรก็น่ากลัวน้อยกว่าคนที่มาหลอกกันเอง ทำ เป็นเจ้า หมายถึง ทำ ทีว่าเจ้าเข้าสิง คำ ศัพท์น่าสนใจ 23


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ สูงอย่าให้สูงกว่าฐานนานไปล้ม จะเรียนคมเรียนเถิดอย่าเปิดฝัก คนสามขามีปัญญาหาไว้ทัก ที่ไหนหลักแหลมคำ จงจำ เอา : ถ้าจะสร้างสิ่งใดที่สูงเกินสมดุลของฐานก็อาจจะทำ ให้ล้มได้ สอนให้รู้จักประมาณตน ไม่ให้ทำ อะไรเกินฐานะของตนเอง การศึกษาหาความรู้ก็ต้องขยันหมั่นเพียรโดยไม่อวดรู้จนเกินไป และเราควรที่จะปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่เพราะมีประสบการณ์มาก่อนเรา หากสิ่งไหนที่ดีงาม ก็ควรจะจดจำ และนำ ไปใช้ อย่าเปิดฝัก หมายถึง อย่าอวดรู้ คนสามขา หมายถึง คนแก่ ขาที่สามคือไม้เท้า คำ ศัพท์น่าสนใจ 24


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ เดินตามรอยผู้ใหญ่หมาไม่กัด ไปพูดขัดเขาทำ ไมขัดใจเขา ใครทำ ตึงแล้วหย่อนผ่อนลงเอา นักเลงเก่าเขาไม่หาญราญนักเลง : เราควรประพฤติปฏิบัติตามแบบอย่างผู้ใหญ่ซึ่งมีประสบการณ์มาก่อน เหมือนกับสำ นวน เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด และไม่ควรไปพูดขัดผู้อื่นเพราะอาจขัดใจเขาได้ นอกจากนี้ เราควรรู้จักยืดหยุ่น ถ้ามีคนหาเรื่องก่อนเราก็จะไม่หาเรื่องตอบ หาญ หมายถึง กล้า ราญ หมายถึง รบ คำ ศัพท์น่าสนใจ 25


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ เป็นผู้หญิงแม่หม้ายที่ไร้ผัว ชายมักยั่วทำ เลียบเทียบข่มเหง ไฟไหม้ยังไม่เหมือนคนที่จนเอง ทำ อวดเก่งกับขื่อคาว่ากระไร : ในยุคสมัยก่อนนั้นมีมุมมองว่า การเป็นหญิงหม้ายไม่มีสามีคอยปกป้อง มีโอกาสถูกชายอื่นพูดจาแทะโลมข่มเหง ส่วนไฟไหม้บ้านยังไม่ร้ายแรงเท่ากับคนที่ทำ ตนเอง ให้ยากจน ซึ่งในที่นี้อาจหมายถึงการหมดเงินไปกับกิเลสตัณหาต่าง ๆ และอย่าทำ ตัวท้าทายกฎหมาย และบทลงโทษ ทำ เลียบ หมายถึง พูดจาแทะโลม คนที่จนเอง หมายถึง คนที่ทำ ตนเองให้ยากจน ขื่อคา หมายถึง เครื่องจองจำ นักโทษ แต่ในคำ ประพันธ์นี้ หมาย ถึง แสดงอำ นาจท้าทายบทลงโทษ คำ ศัพท์น่าสนใจ 26


สุภาษิตอิศรญาณ ๏อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก ไปมาผลักบ่อยเข้าเสายังไหว จงฟังหูไว้หูคอยดูไป เชื่อน้ำ ใจดีกว่าอย่าเชื่อยุ : เสาหินขนาด 8 ศอกถูกตอกลงบนพื้นดินอย่างมั่นคง เมื่อมีคนมาผลักไปผลักมาเสาหินย่อมสั่นคลอน เหมือนใจคนย่อมอ่อนไหวไปตามคำ พูดของผู้อื่นได้ ฉะนั้น จึงควรฟังหูไว้หู และคิดให้รอบคอบก่อนที่จะเชื่อใคร มีใจคอหนักแน่นไม่หลงเชื่อคำ ยุยง โดยง่าย ให้รู้จักไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนที่จะคล้อยตามคำ พูดของผู้อื่น ศอก หมายถึง มาตราวัด 1 ศอก เท่ากับ 2 คืบ คำ ศัพท์น่าสนใจ 27


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ หญิงเรียกแม่ชายเรียกพ่อยอไว้ใช้ มันชอบใจข้างปลอบไม่ชอบดุ ที่ห่างปิดที่ชิดไชให้ทะลุ คนจักษุเหล่หลิ่วไพล่พลิ้วพลิก : ถ้าเราต้องการขอความช่วยเหลือก็ควรใช้คำ พูดอ่อนหวานเพราะไม่มีใครชอบให้ใช้คำ พูดห้วน ๆ หรือดุดัน และควรพูดจาให้รู้จักกาลเทศะ เช่น เมื่อเจอคนตาเหล่ก็ควรรู้จักเลี่ยงไม่พูดตรง ๆ เพื่อมิให้เสียน้ำ ใจ คนจักษุเหล่ หมายถึง คนตาเข หรือ คนตาเหล่ คำ ศัพท์น่าสนใจ 28


สุภาษิตอิศรญาณ ๏เอาปลาหมอเป็นครูดูปลาหมอ บนบกหนออุตส่าห์เสือกกระเดือกกระดิก เขาย่อมว่าฆ่าควายเสียดายพริก รักหยอกหยิกยับทั้งตัวอย่ากลัวเล็บ : เราควรเพียรพยายามแบบปลาหมอที่อยู่บนบกแล้วพยายามตะเกียกตะกาย กลับไปในน้ำ ให้ได้ ส่วนการฆ่าควายแล้วอย่าเสียดายพริกนั้น หมายถึง หากจะทำ การใหญ่ก็ไม่ควรกลัว แต่ควรทำ ให้เต็มที่ ส่วนวรรคสุดท้ายต้องการจะสื่อว่า หากเราอยากจะหยอกล้อผู้อื่น เราก็ควรไม่กลัวที่ผู้อื่นจะหยอกล้อเรากลับบ้าง เสือก หมายถึง ทำ ให้เคลื่อนไปบนพื้นโดยแรง กระดิก หมายถึง ทำ ปลายอวัยวะให้เคลื่อนไหว คำ ศัพท์น่าสนใจ 29


สุภาษิตอิศรญาณ ๏มิใช่เนื้อเอาเป็นเนื้อก็เหลือปล้ำ แต่หนามตำ เข้าสักนิดกรีดยังเจ็บ อันโลภลาภบาปหนาตัณหาเย็บ เมียรู้เก็บผัวรู้ทำ พาจำ เริญ : คนเราถ้าไม่ใช่เนื้อคู่กันอยู่ด้วยกัน แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็เจ็บปวดได้ เหมือนกับหนามตำ เพียงนิดเดียวก็สร้างความเจ็บปวดได้ไม่น้อย นอกจากนี้การใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างสามีภรรยา ควรตัดความโลภ และตัณหาต่าง ๆ ออก ฝ่ายสามีต้องขยันทำ งานเลี้ยงครอบครัว ส่วนภรรยาต้องรู้จักเก็บหอมรอมริบจะทำ ให้ครอบครัวเจริญยิ่งขึ้น เนื้อ หมายถึง เนื้อคู่ ตัณหา หมายถึง ความทะยานอยาก จำ เริญ หมายถึง เจริญ คำ ศัพท์น่าสนใจ 30


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ ถึงรู้จริงนิ่งไว้อย่าไขรู้ เต็มที่ครู่เดียวเท่านั้นเขาสรรเสริญ ไม่ควรก้ำ เกินหน้าก็อย่าเกิน อย่าเพลิดเพลินคนชังนักคนรักน้อย : แม้ว่าเราจะรู้จริง เราก็ไม่ต้องอวดว่าเรารู้ แม้จะได้รับการชื่นชมจากผู้อื่นก็เพียงในระยะเวลาสั้น ๆ ดังนั้น อย่าทำ อะไรเกินหน้าเกินตาผู้อื่น เพราะจำ นวนคนที่รักเรานั้นมีน้อยกว่าคนที่เกลียดเรา ไข หมายถึง บอก อธิบาย ชัง หมายถึง เกลียด คำ ศัพท์น่าสนใจ 31


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ วาสนาไม่คู่เคียงเถียงเขายาก ถึงมีปากมีเสียเปล่าเหมือนเต่าหอย ผีเรือนตัวไม่ดีผีอื่นพลอย พูดพล่อยพล่อยไม่ดีปากขี้ริ้ว : ผู้มีอำ นาจน้อยกว่าย่อมไม่สามารถเถียงผู้ที่มีอำ นาจสูงกว่าได้ ถึงแม้ว่าจะมีปากในการพูดแต่พูดไปก็ไร้ประโยชน์ หากไม่ระวังกายและใจของตนเองให้ดี ตัวเราจะประพฤติชั่วได้โดยง่าย การพูดพล่อยๆ โดยไม่คิดให้ดีก่อนพูดเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ พูดพล่อยพล่อย หมายถึง พูดออกมาโดยไม่ไตร่ตรองถึงผลที่จะเกิด ปากขี้ริ้ว หมายถึง พูดจาไม่สุภาพ พูดไม่เหมาะสม คำ ศัพท์น่าสนใจ 32


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ แต่ไม้ไผ่อันหนึ่งตันอันหนึ่งแขวะ สีแหยะแหยะตอกตะบันเป็นควันฉิว ช้างถีบอย่าว่าเล่นกระเด็นปลิว แรงหรือหิวชั่งใจดูจะสู้ช้าง : สอนให้ไม่ประมาทเพราะบางอย่างอาจจะมีพิษภัยกว่าที่คิด อย่างไม้ไผ่อันที่ตันกับอีกอันที่เจาะเป็นรู เมื่อนำ มาสีกันเบา ๆ ก็เกิดความร้อนได้เหมือนกัน และหากเราโดนช้างถีบหรือทำ ร้าย หากคิดจะแก้แค้นเอาคืน ควรพิจารณาตัวเองให้ดีก่อนว่ามีพละกำ ลังมากพอจะสู้กับช้างหรือไม่ แขวะ หมายถึง เอาสิ่งมีคมแหวะคว้านให้กว้าง ไม้ไผ่แขวะ หมายถึง ไม้ไผ่เจาะรู สีแหยะแหยะ หมายถึง ถูกันเบา ๆ ตะบัน หมายถึง แทงกดลงไป คำ ศัพท์น่าสนใจ 33


สุภาษิตอิศรญาณ - ๏ ล้องูเห่าเล่นก็ได้ใจกล้ากล้า แต่ว่าอย่ายักเยื้องเข้าเบื้องหาง ต้องว่องไวในทำ นองคล่องท่าทาง ตบหัวผางเดียวม้วนจึงควรล้อ : ถ้าเราจะล้อเล่นกับงูเห่า (สิ่งที่ดูอันตรายและเสี่ยงภัย) จะต้องมีใจที่กล้าหาญ คล่องแคล่ว ว่องไว ต้องรู้วิธีการจับงู ไม่จับงูเห่าข้างหาง และสามารถตบหัวงูเห่าให้ตายในครั้งเดียวได้ หากไม่สามารถทำ ได้งูเห่าจะย้อนกลับมากัดเราตายได้ เบื้อง หมายถึง ข้าง ด้าน ผาง หมายถึง เสียงดังอย่างเสียงเอามือตบสิ่งของ คำ ศัพท์น่าสนใจ 34


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ ถึงเพื่อนฝูงที่ชอบพอขอกันได้ ถ้าแม้ให้เสียทุกคนกลัวคนขอ พ่อแม่เลี้ยงปิดปกเป็นกกกอ จนแล้วหนอเหมือนเปรตเหตุด้วยจน : การจะขออะไรกับเพื่อนฝูงที่ชอบพอกันก็สามารถขอกันได้ แต่เราไม่สามารถให้ทุกคนที่เข้ามาขอได้ เพราะพ่อแม่ก็ดูแลทะนุถถนอมเรามาอย่างดี กว่าเราจะมีทุกสิ่งอย่างจนวันนี้ แต่ถ้าเราให้คนอื่นไปจนหมดตัว สุดท้ายแล้วเราจะกลายเป็นเหมือนเปรตที่ต้องไปขอส่วนบุญกับผู้อื่น ปิดปกเป็นกกกอ หมายถึง โอบอุ้มทะนุถนอมไว้ คำ ศัพท์น่าสนใจ 35


สุภาษิตอิศรญาณ ๏ ถึงบุญมีไม่ประกอบชอบไม่ได้ ต้องอาศัยคิดดีจึงมีผล บุญหาไม่แล้วอย่าได้ทะนงตน ปุถุชนรักกับชังไม่ยั่งยืน : ถึงมีบุญวาสนาก็ต้องทำ ดีอย่างสม่ำ เสมอ คิดดี ทำ ดีบุญจึงส่งผล เมื่อหมดวาสนาลงแล้วอย่า ทะนงตนว่าเป็นผู้มีบุญบารมี ความรักความชังนั้นเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืนเท่าการทำ ความดี ประกอบ หมายถึง ทำ ทะนง หมายถึง ถือตัว หยิ่งในตนเอง ปุถุชน หมายถึง สามัญชน คำ ศัพท์น่าสนใจ 36


แบบทดสอบหน่วยที่ 3 37


ท 5.1 ม3/2 วิเคราะห์วิถีไทยและคุณค่าจากวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่าน หน่วยที่ 4 วิเคราะห์คุณค่าของสุภาษิตอิศรญาณ 38


ดังที่ว่า "จะเรียนคมเรียนเถิดอย่าเปิดฝัก" คือ ให้เป็นคนใฝ่รู้ แต่ให้เก็บความรู้ไว้ใช้เมื่อถึงเวลาสมควร เช่นเดียวกับการสอนให้รู้จริงแต่มิให้โอ้อวด ดังที่ว่า "ถึงรู้จริงนิ่งไว้อย่าไขรู้" 1. สอนให้เห็นความสำ คัญของปัญญาแต่อย่าอวดรู้ คุณค่า ด้านความรู้ 39


ดังที่ว่า ๏ เห็นตอหลักปักขวางหนทางอยู่ พิเคราะห์ดูควรทิ้งแล้วจึงถอน เห็นเต็มตาแล้วอย่าอยากทำ ปากบอน ตรองเสียก่อนจึงค่อยทำ กรรมทั้งมวล 2. สอนให้รู้จักคิดใคร่ครวญ ไตร่ตรองก่อนจะพูดหรือทำ สิ่งใด คุณค่า ด้านความรู้ 40


ดังที่ว่า "อย่านอนเปล่าเอากระจกยกออกมา ส่องดูหน้าเสียที่หนึ่งแล้วจึงนอน" คำ กลอนนี้สอนว่าเราควรสำ รวจจิตใจของตนเองอยู่เป็นนิจ ว่าคิดดีทำ ดีอยู่ หรือไม่ เพื่อจะได้เตือนตนอยู่เสมอ 3. สอนให้พิจารณาข้อบกพร่องของตนเองเพื่อจะได้ ปรับปรุงแก้ไข คุณค่า ด้านความรู้ 41


ให้รู้จักไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนที่จะคล้อยตามคำ พูดของผู้อื่น ดังที่ว่า ๏ อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก ไปมาผลักบ่อยเข้าเสายังไหว จงฟังหูไว้หูคอยดูไป เชื่อน้ำ ใจดีกว่าอย่าเชื่อยุ 4. สอนให้มีใจหนักแน่น ไม่หลงเชื่อคำ พูดยุยงโดยง่าย คุณค่า ด้านความรู้ 42


การใช้สำ นวนไทย หลายสำ นวนเปรียบเปรยหรือประชดประชัน คุณค่า ด้านวรรณศิลป์ 43


ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณว่า น้ำ พึ่งเสือเรื่อพึ่งป่าอัขฌาสัย เราก็จิตคิดดูเล่าเขาก็ใจ รักกันไว้ดีกว่าชังระวังการ คุณค่า ด้านวรรณศิลป์ ชายข้าวเปลือก หญิงข้าวสาร ผู้หญิงมักเสียเปรียบผู้ชาย คือ ข้าวสารงอกใหม่ไม่ได้เหมือนข้าวเปลือก น้ำ พึ่งเรือ เสือพึ่งป่า คนเราจำ เป็นต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน 44


คุณค่า ด้านวรรณศิลป์ ปลาหมอแถกเหงือก : กระเสือกกระสนดิ้นรน ฆ่าควายเสียดายพริก : ทำ การใหญ่ไม่ควรตระหนี่ หยิกเล็บเจ็บเนื้อ : กระทำ สิ่งใดกับคนหนึ่งย่อมกระทบ ถึงคนใกล้ชิดของผู้นั้น เอาปลาหมอเป็นครูดูปลาหมอ บนบกหนออุตส่าห์เสือกกระเดือกกระดิก เขาย่อมว่าฆ่าควายเสียดายพริก รักหยอกหยิกยับทั้งตัวอย่ากลัวเล็บ 45


การใช้โวหาร นำ ธรรมชาติที่พบเห็นมาเปรียบเทียบ กับสิ่งที่เป็นนามธรรม ทำ ให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น คุณค่า ด้านวรรณศิลป์ 46


Click to View FlipBook Version