The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิเคราะห์วรรณศิลป์ในอิเหนา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kanyarat Pongpaew, 2023-02-15 21:54:03

วิเคราะห์วรรณศิลป์ในอิเหนา

วิเคราะห์วรรณศิลป์ในอิเหนา

อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง วิเคราะห์คุณค่าวรรณศิลป์


คุณค่าวรรณศิลป์ 1. กวีโวหาร 2. ภาพพจน์ 3. การเล่นเสียง 4. การเล่นค า 5. จินตภาพ เสาวรจนีย์ นารีปราโมทย์ พิโรธวาทัง สัลลาปังคพิสัย อุปมา อุปลักษณ์ อติพจน์ เล่นเสียงสระ เล่นเสียงพยัญชนะ ค าพ้องรูป ค าพ้องเสียง ค าพ้องความหมาย ภาพเคลื่อนไหว


กวีโวหาร


คุณค่าวรรณศิลป์ 1. กวีโวหาร เสาวรจนีย์ การชมความงาม ตัวละคร เครื่องแต่งกาย บ้านเมือง กองทัพ ธรรมชาติ ฯลฯ เช่น ทนต์แดงดังแสงทับทิม เพริศพริ้มเพรารับกับขนง เกศาปลายงอนงามทรง เอวองค์สารพัดไม่ขัดตา (อิเหนาชมศพของวิหยาสะก า)


คุณค่าวรรณศิลป์ 1. กวีโวหาร นารีปราโมทย์ การแสดงความรัก การเกี้ยวพาราสี การโอ้โลมปฏิโลม เช่น น้องเอยน้องรัก นวลละลองผ่องพักตร์เพียงแขไข งามองค์ทรงลักษณ์วิไล พิศไหนสารพันเป็นขวัญตา พี่หวังจากไมตรีจิต รักร่วมสนิทเสน่หา ควรฤๅดวงใจไม่เมตตา แต่จะตอบวาจาก็ไม่มี ช่างผินผันหันหลังไม่แลดู โฉมตรูขัดใจสิ่งไรพี่ เชิญชะม้ายชายตามาทางนี้ จะสะบัดเบือนหนีพี่ยาไย (อิเหนาจีบนางจินตะหราวาตี)


คุณค่าวรรณศิลป์ 1. กวีโวหาร พิโรธวาทัง การแสดงความโกรธ ตัดพ้อ ประชดประชัน เช่น เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงแข็งขัน ได้ฟังกริ้วโกรธดังเพลิงกัลป์ จึงกระชั้นสีหนาทประภาษไป ถึงว่ากษัตริย์ทั้งสี่กรุง จะมาช่วยรบพุ่งเป็นศึกใหญ่ กูก็ไม่ครั่นคร้ามขามใคร จะหักให้เป็นภัสม์ธุลีลง (ท้าวกะหมังกุหนิงโกรธท้าวดาหา)


คุณค่าวรรณศิลป์ 1. กวีโวหาร สัลลาปังคพิสัย เช่น เอนองค์ลงอิงพิงเขนย กรเกยก่ายพักตร์ถวิลหวัง รสรักร้อนรนพ้นก าลัง ชลนัยน์ไหลหลั่งลงพรั่งพราย บทแสดงความเศร้า อาลัยอาวรณ์ (อิเหนาก าลังคิดถึงจินตะหราวาตีสะการะวาตี มาหยารัศมี )


ภาพพจน์


คุณค่าวรรณศิลป์ 2. ภาพพจน์ อุปมา : การเปรียบสิ่งหนึ่ง เหมือน อีกสิ่งหนึ่ง Keywords > ดุจ ดั่ง ดัง ประดุจ เหมือน คล้าย เฉก เช่น เพี้ยง ราวกับ พ่าง ปาน เช่น แล้วว่าอนิจจาความรัก พึ่งประจักษ์ดั่งสายน ้าไหล ตั้งแต่จะเชี่ยวเป็นเกลียวไป ที่ไหนเลยจะไหลคืนมา


คุณค่าวรรณศิลป์ 2. ภาพพจน์ อุปมา : การเปรียบสิ่งหนึ่ง เหมือน อีกสิ่งหนึ่ง Keywords > ดุจ ดั่ง ดัง ประดุจ เหมือน คล้าย เฉก เช่น เพี้ยง ราวกับ พ่าง ปาน เช่น กรุงกษัตริย์ขอขึ้นก็นับร้อย เราเป็นเมืองน้อยกระจิหริด ดังหิ่งห้อยจะแข่งแสงอาทิตย์ เห็นผิดระบอบบุราณมา


คุณค่าวรรณศิลป์ 2. ภาพพจน์ อุปลักษณ์ : การเปรียบสิ่งหนึ่ง เป็น อีกสิ่งหนึ่ง Keywords > เป็น / คือ เช่น หวังเป็นเกือกทองรองบาทา พระผู้วงศ์เทวาอันปรากฏ จะขอพระบุตรีผู้มียศ ให้โอรสข้าน้อยดังจินดา


คุณค่าวรรณศิลป์ 2. ภาพพจน์ อติพจน์ : การใช้ค าเปรียบเทียบเกินจริง เช่น เมื่อนั้น สังคามาระตาเรื่องศรี ฟังวิหยาสะก าพาที ดังตรีเพชรบาดในอุรา จึงร้องว่าเหวยไพริน ลมลิ้นหยาบคายนักหนา มาถามไถ่ไล่เอากิจจา คือจะปรารถนาสิ่งใด


การเล่นเสียง


คุณค่าวรรณศิลป์ 3. การเล่นเสียง การเล่นเสียงสระ เช่น ความกลัวความรักสลักทรวง ให้เป็นห่วงหลังกังวลหน้า แต่เรรวนหวนนึกตรึกตรา พระราชาสะท้อนถอนใจ จึงด ารัสตรัสสั่งต ามะหงง เร่งเตรียมจตุรงค์ทัพใหญ่ ม้ารถคชสารชาญชัย รีบรัดจัดไว้ให้ครบครัน


คุณค่าวรรณศิลป์ 3. การเล่นเสียง การเล่นเสียงพยัญชนะ เช่น แว่วเสียงส าเนียงบุหรงร้อง ว่าเสียงสามนิ่มน้องเสน่หา พระแย้มเยี่ยมม่านทองทัศนา เห็นแต่ป่าพุ่มไม้ใบบัง


การเล่นค า


คุณค่าวรรณศิลป์ การเล่นค าพ้องรูป ค าที่เขียนเหมือนกัน แต่ออกเสียงต่าง และมีความหมายต่างกัน การเล่นค าพ้องเสียง ค าที่เขียนต่างกัน แต่ออกเสียงเหมือน และมีความหมายต่างกัน ว่าพลางทางชมคณานก โผนผกจับไม้อึงมี่ เบญจวรรณจับวัลย์ชาลี เหมือนวันพี่ไกลสามสุดามา นางนวลจับนางนวลนอน เหมือนพี่แนบนวลสมรจินตะหรา จากพรากจับจากจ านรรจา เหมือนจากนางสะการะวาตี แขกเต้าจับเต่าร้างร้อง เหมือนร้างห้องมาหยารัศมี นกแก้วจับแก้วพาที เหมือนแก้วพี่ทั้งสามสั่งความมา 4. การเล่นค า


คุณค่าวรรณศิลป์ 4. การเล่นค า การเล่นค าพ้องความหมาย (ค าไวพจน์) ค าที่มีความหมายเหมือนกัน แต่ใช้ในบริบทต่างกัน พระมหากษัตริย์ ภูมี กษัตริย์ พระผู้ผ่านนคเรศ พระปิ่นภพ พระทรงธรรม์ พระองค์ทรงพิภพ ภูวไนย พระราชา


คุณค่าวรรณศิลป์ 4. การเล่นค า ค าที่มีความหมายเหมือนกัน แต่ใช้ในบริบทต่างกัน เมือง กรุง นคร นคเรศ เวียงชัย พารา เขตขัณฑ์บุรี ธานี ม้า พาชี สินธพ อาชาไนย ไหย อัศว แสะ ดุรงค์ มโนมัย


คุณค่าวรรณศิลป์ 4. การเล่นค า ค าที่มีความหมายเหมือนกัน แต่ใช้ในบริบทต่างกัน ข้าศึก ผู้หญิง ข้าเศิก ดัสกร ปรปักษ์ ปัจจามิตร ไพริน ไพรี ริปู ศัตรู อริ อรินทร์ บังอร นางโฉมยง นวล กัลยา โฉมเฉลา วนิดา เยาวเรศ อรทัย สตรี อิตถี แก้วตา ดวงสมร นงคราญ


จินตภาพ


คุณค่าวรรณศิลป์ 5. จินตภาพ การสรรค าเพื่อท าให้เกิดภาพเคลื่อนไหว เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีชาญสนาม พระกรกรายฉายกริชติดตาม ไม่เข็ดถามคร้ามถอยคอยรับ หลบหลีกไวว่องป้องกัน ผัดผันหันออกกลอกกลับ ปะทะแทงแสร้งท าส าทับ ย่างกระหยับรุกไล่มิได้ยั้ง เห็นระตูถอยเท้าก้าวผิด พระกรายกริชแทงอกตลอดหลัง ล้มลงด่าวดิ้นสิ้นก าลัง มอดม้วยชีวังปลดปลง


ศึกกะหมังกุหนิง


เกมเปิดแผ่นป้าย ทายวรรณศิลป์


Slide 26 ๑. ระเด่นมนตรี (อิเหนา) Slide 27 ๒. บุษบาหนึ่งหรัด ๓. ท้าวกุเรปัน Slide 29 ๔. จินตหราวาตี ๕. ระตูจรกา ๖. ท้าวกะหมังกุหนิง ๗. สังคามาระตา ๘. วิหยาสะก า ๙. ท้าวดาหา ๑๐. สุหรานากง ๑๑. กะหรัดตะปาตี


เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรี จึ่งถอดโกลนโจนจากพาชี ภูมีไม่ยั้งรั้งรา ทรงกระบี่ร าเรียงเคียงร่าย ประปรายปลายกระบี่แล้วให้ท่า กระหยับหันผันหลังออกมา แล้วกลับหน้าจ้วงโจนเข้าฟันแทง เมื่อนั้น พระสุริย์วงศ์เทวากล้าหาญ กลับกระบี่ให้ท่าเปลี่ยนแปลง ต่อแย้งย่างท้าวเข้าชิด แทงต้องระตูแล้วฟันซ ้า ไม่ชอกซ ้าผิวหนังแต่สักหนิด ต่างทรงศักดาวราฤทธิ์ เลี้ยวไล่ตามติดต้านทาน


กรุงกษัตริย์ขอขึ้นก็นับร้อย เราเป็นเมืองน้อยกระจิหริด ดังหิ่งห้อยจะแข่งแสงอาทิตย์ เห็นผิดระบอบบุราณมา ม้ารถคชหกรรม์ครั่นครื้น ดังเสียงคลื่นในสมุทรไม่ขาดสาย บัดนี้มาตั้งอยู่เนินทราย ที่ชายทุ่งกับป่าต่อกัน


ตระเวนไพรร่อนร้องตระเวนไพร เหมือนเวรใดให้นิราศเสน่หา เค้าโมงจับโมงอยู่เอกา เหมือนพี่นับโมงมาเมื่อไกลนาง คับแคจับแคสันโดษเดี่ยว เหมือนเปล่าเปลี่ยวคับใจในไพรกว้าง ชมวิหคนกไม้ไปตามทาง คะนึงนางพลางรีบโยธี


เมื่อนั้น โฉมยงองค์ระเด่นจินตะหรา ค้อนให้ไม่แลดูสารา กัลยาคั่งแค้นแน่นใจ แล้วว่าอนิจจาความรัก พึ่งประจักษ์ดั่งสายน ้าไหล ตั้งแต่จะเชี่ยวเป็นเกลียวไป ที่ไหนเลยจะไหลคืนมา สตรีใดในพิภพจบแดน ไม่มีใครได้แค้นเหมือนอกข้า ด้วยใฝ่รักให้เกินพักตรา จะมีแต่เวทนาเป็นเนืองนิตย์ กวีโวหารชนิดใด


ครั้นออกมานอกนคเรศ พระทรงเดชเศร้าสร้อยระห้อยไห้ เหลียวหลังตั้งตาดูเวียงชัย หฤทัยหวั่นหวั่นถึงกัลยา โอ้ว่าเจ้าดวงยิหวาพี่ ปานนี้จะคร ่าครวญหวนหา ใครจะปลอบโฉมงามสามสุดา แต่พอพาใจเศร้าบรรเทาคลาย กวีโวหารชนิดใด


เจ้าเอยเจ้าพี่ ว่าไยอย่างนี้ขนิษฐา อันความที่พี่รักกัลยา ยิ่งกว่าดวงเนตรดวงใจ จะถนอมเนื้อนวลสงวนน้อง มิให้เคืองขัดอัชฌาสัย เมื่อมิเชื่อโฉมตรูคอยดูไป พี่มิให้เสียสัตย์ซึ่งสัญญา กวีโวหารชนิดใด


ห้าองค์ช าระสระสนาน กิดาหยันถวายพานเครื่องต้น บรรจงทรงทาพระสุคนธ์ ปรุงปนเกสรสุมาลี สอดใส่สนับเพลาภูษาทรง ฉลององค์โหมดตาดต่างสี เจียระบาดคาดรัดรูจี ปั้นเหน่งเพชรพลอยมณีหนุนซับ ทรงมหาสังวาลพิชัยยุทธ์ ชมพูนุชเฟื่องห้อยพลอยประดับ ทองกรแก้วกามวามวับ ธ ามรงค์รุ้งระยับจับตา ทรงมุงกุฎกุณฑลทัดตรัสเตร็จ อุบะเพชรแพร้วพรายพระเวหา เหน็บกริชฤทธิไกรแล้วไคลคลา เสด็จมายังเกยแก้วมณี กวีโวหารชนิดใด


ครั้นอ่านสารเสร็จสิ้นพระทรงฤทธิ์ ถอนฤทัยคิดแล้วสงสัย บุษบาจะงามสักเพียงใด จึงต้องใจระตูทุกบุรี หลงรักรูปนางแต่อย่างนั้น จะพากันมาม้วยไม่พอที่ แม้นงามเหมือนจินตะหราวาตี ถึงจะเสียชีวีก็ควรนัก


ครั้นถึงห้องสุวรรณบรรจง นงแนบแอบองค์นางโฉมศรี ทอดถอนฤทัยพลางทางพาที ภูมีแจ้งความแก่ทรามวัย บัดนี้ดะหมังเสนา ถือสารพระบิดามาให้ เป็นเหตุด้วยดาหาเวียงชัย เกิดการศึกใหญ่ไพรี


ครั้นออกมานอกนคเรศ พระทรงเดชเศร้าสร้อยระห้อยไห้ เหลียวหลังตั้งตาดูเวียงชัย หฤทัยหวั่นหวั่นถึงกัลยา โอ้ว่าเจ้าดวงยิหวาพี่ ปานนี้จะคร ่าครวญหวนหา ใครจะปลอบโฉมงามสามสุดา แต่พอพาใจเศร้าบรรเทาคลาย


หวังเป็นเกือกทองรองบาทา พระผู้วงศ์เทวาอันปรากฏ จะขอพระบุตรีผู้มียศ ให้โอรสข้าน้อยดังจินดา อันกรุงไกรไอศูรย์ทั้งสอง จะเป็นทองแผ่นเดียวในวันหน้า ขอพ านักพักพึ่งพระเดชา ไปกว่าชีวันจะบรรลัย ฯ


Click to View FlipBook Version