The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณ ป.2 นางสาวภัทราภรณ์ บุญภึก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by naowanit_alone, 2022-03-19 06:00:55

แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณ ป.2 นางสาวภัทราภรณ์ บุญภึก

แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณ ป.2 นางสาวภัทราภรณ์ บุญภึก

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

รำยวชิ ำพ้นื ฐำนเทคโนโลยี (วิทยำกำรคำนวณ) รหัสวิชำ ว12101
ระดบั ช้ัน ประถมศกึ ษำปีที่ 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วิทยำศำสตร์
ปีกำรศกึ ษำ 2564 เวลำ 20 ช่ัวโมง/ปีกำรศึกษำ จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560)
ได้กาหนดใหร้ ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) อยู่ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
ซงึ่ มีเป้าหมายพัฒนาผู้เรยี นให้ใช้ทักษะเก่ียวกบั การคิดเชิงคานวณ การวิเคราะห์ แกป้ ัญหาเป็นข้ันตอนและเป็นระบบ
สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงได้
อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถค้นหาข้อมูลหรือสารสนเทศ ประเมิน จัดการ วิเคราะห์ สังเคราะห์เขียนโปรแกรม
โดยใช้สอ่ื สร้าง จัดเก็บ และเรียกใชไ้ ฟล์ตามวัตถุประสงค์ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ดูแลรักษา
อุปกรณ์และใช้งานเทคโนโลยีสาระสนเทศอย่างเหมาะสม รวมไปถึงการมีจริยธรรม คุณธรรม และค่านิยม
ที่เหมาะสม

หลักสูตรวิทยาการคานวณนี้ใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
(วิทยาการคานวณ) ประกอบด้วย การศึกษาการแสดงลาดับข้ันตอนการทางานหรือแก้ปัญหาอย่างง่าย โดยใช้
ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ ตลอดจนการเขียนโปรแกรมสร้างลาดับของคอมพิวเตอร์ทางาน และตรวจหา
ข้อผิดพลาดของโปรแกรม ศึกษาการใช้งานซอฟท์แวร์เบื้องต้น การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสร้าง และ
จัดการกบั ขอ้ มลู อยา่ งเป็นระบบ รวมถึงการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั

โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Base-Learning) เพื่อเน้นให้ผู้เรียนเกิด
การเรียนรู้จากการฝึกแก้ปัญหาต่างๆ ผ่านกระบวนการคิด การปฏิบัติอย่างเป็นระบบ และสร้างองค์ความรู้ใหม่
จากการใช้ปัญหาที่เกิดขึ้นจรงิ ในชีวติ ประจาวนั

มำตรฐำนกำรเรียนรู้

มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางานและการแก้ปัญหาอย่างมี
ประสิทธิภาพรเู้ ทา่ ทนั และมจี ริยธรรม

มำตรฐำนตัวชี้วัด

ป. 2/1 แสดงลาดับขั้นตอนการทางานหรอื การแกป้ ญั หาอยา่ งงา่ ยโดยใช้ภาพสัญลกั ษณห์ รือข้อความ
ป.2/2 เขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือสอ่ื และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม
ป.2/3 ใชเ้ ทคโนโลยีในการสรา้ ง จดั หมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรียกใชข้ ้อมูลตาม วัตถุประสงค์
ป.2/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ปฏิบัตติ ามข้อตกลงในการใชค้ อมพวิ เตอร์ รว่ มกนั ดแู ลรักษา

อุปกรณ์เบอ้ื งต้นใช้งานอย่างเหมาะสม
รวม 4 ตัวชีว้ ัด

โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ

รำยวิชำพนื้ ฐำนเทคโนโลยี (วทิ ยำกำรคำนวณ) รหัสวิชำ ว12101
ระดับชนั้ ประถมศึกษำปีที่ 2 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ วิทยำศำสตร์
ปกี ำรศกึ ษำ 2564 เวลำ 20 ชั่วโมง/ปีกำรศึกษำ จำนวน 0.5 หน่วยกิต

ลำดบั ชื่อหน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำน/ตัวช้ีวดั สำระกำรเรียนรู้ จำนวน นำ้ หนัก
ที่ (ชั่วโมง) คะแนน

1. การแก้ปัญหาอยา่ ง ว 4.2 ป. 2/1 แสดงลาดบั - การแสดงขนั้ ตอนการแกป้ ัญหา 6 15
ขน้ั ตอนการทางานหรอื ทาได้โดยการเขยี นบอกเลา่ วาดภาพ
เป็นขั้นตอน การแกป้ ัญหาอย่างง่ายโดย หรือใช้สญั ลกั ษณ์ เชน่ เกมตวั ตอ่
ใชภ้ าพสัญลกั ษณ์หรือ การแตง่ กายมาโรงเรยี น
ข้อความ

2. การตรวจหา ว 4.2 ป.2/2 เขยี น - ตวั อยา่ งโปรแกรม เชน่ เขียน 6 20
ข้อผิดพลาดของ
โปรแกรม โปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ โปรแกรมสั่งใหต้ วั ละครทางานตามท่ี

ซอฟต์แวรห์ รอื สื่อ และ ตอ้ งการและตรวจสอบข้อผิดพลาด

ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของ ปรบั แกไ้ ขใหไ้ ด้ผลลพั ธ์ตามท่ีกาหนด

โปรแกรม - การตรวจหาข้อผิดพลาด ทาได้โดย

ตรวจสอบคาสง่ั ทแ่ี จง้

- ข้อผิดพลาด หรือหาผลลัพธ์ไมเ่ ปน็

ไปตามท่ีตอ้ งการให้ตรวจสอบการ

ทางานทีละคาสง่ั

- ซอฟตแ์ วรห์ รอื ส่ือที่ใช้ในการเขยี น

โปรแกรม เชน่ ใชบ้ ัตรคาสงั่ แสดง

การเขียนโปรแกรม, code.org

3. การจัดการไฟล์อยา่ ง ว 4.2 ป.2/3 ใช้ - การใช้งานซอฟทแ์ วร์เบ้ืองต้น เชน่ 5 20
3 15
มรี ะบบ เทคโนโลยีในการสร้าง การเข้าและออกจากโปรแกรม

จดั หมวดหมู่ ค้นหา การสรา้ งไฟล์ การจดั เกบ็ การเรยี กใช้

จัดเกบ็ เรียกใชข้ ้อมูลตาม ไฟล์ การแก้ไขตกแตง่ เอกสาร ทาได้

วตั ถุประสงค์ ในโปรแกรม เชน่ โปรแกรมประมวล

คาโปรแกรมกราฟิก โปรแกรม

นาเสนอ

- การสรา้ ง คดั ลอก ยา้ ย ลบ เปลีย่ น

ชอ่ื จดั หมวดหมไู่ ฟล์ และโฟลเดอร์

อยา่ งเป็นระบบจะทาใหเ้ รยี กใช้

ค้นหาขอ้ มูลได้ง่ายและรวดเร็ว

4. การใช้เทคโนโลยี ว 4.2 ป.2/4 ใช้ - การใชเ้ ทคโนโลยีสาระสนเทศอย่าง

ลำดบั ชอื่ หน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน/ตัวชี้วัด สำระกำรเรยี นรู้ จำนวน น้ำหนัก
ที่ (ชว่ั โมง) คะแนน
เทคโนโลยสี ารสนเทศ ปลอดภัย เช่น รู้จักขอ้ มลู ส่วนตัว
สาระสนเทศอยา่ ง อย่างปลอดภัยปฏิบัติ อันตรายจากการเผยแพร่ข้อมูล
ตามข้อตกลงในการใช้ สว่ นตวั และไม่บอกข้อมลู สว่ นตวั กบั
ปลอดภัย คอมพิวเตอร์ ร่วมกนั ดูแล บคุ คลอ่ืนยกเวน้ ผูป้ กครองหรือครู
รกั ษาอุปกรณ์เบื้องตน้ แจง้ ผเู้ กี่ยวขอ้ งเม่ือตอ้ งการความ
ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม ช่วยเหลือ เกยี่ วกบั การใช้งาน
- ข้อปฏบิ ัตใิ นการใชง้ านและการดูแล
รกั ษาอปุ กรณเ์ ช่นไม้-เขยี นบน
อุปกรณ์ทาความสะอาดใช้อุปกรณ์
อย่างถูกวิธี

รวม 4 20 70
คะแนนระหว่ำงเรยี น 70
คะแนนสอบกลำงภำค 10
คะแนนสอบปลำยภำค 20
รวมคะแนนทง้ั ปี 100

แผนกำรจัดกำรเรียนร้ทู ี่ 6

กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)

รหสั วิชำ ว 12101 ระดบั ประถมศึกษาปีท่ี 2

หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ี่ 2 เรอ่ื ง การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม จานวน 6 ช่วั โมง

แผนกำรเรียนรู้ท่ี 6 เรือ่ ง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซา้ จานวน 1 ชั่วโมง

ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 2 วนั ท่ี 20 มีนาคม 2565 ชว่ั โมงที่ 6

ผู้สอน นางสาวภทั ราภรณ์ บุญภึก

ครผู สู้ อนรายวชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2

1. สำระสำคญั

การเขียนโปรแกรม หมายถึง การเขียนชุดคาส่ังให้คอมพิวเตอร์ทางานตามเง่ือนไขที่กาหนดโดยเร่ิมกระบวนการ
ต้ังแต่การออกแบบโปรแกรม การเปลี่ยนชุดคาสั่งเพ่ือให้โปรแกรมทางานตามท่ีออกแบบไว้จนกระทั่งตรวจสอบ
ผลลัพธ์การทางานท่ีได้ และทาการแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบ ส่วนการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้าจะทาให้การเขียน
โปรแกรมงา่ ย และสะดวกขน้ึ โดยไมต่ ้องเขยี นโปรแกรมซ้ากนั หลายๆคร้ัง

2. มำตรฐำนตวั ชวี้ ัด
มำตรฐำน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาทพ่ี บในชีวติ จริงอย่างเปน็ ขนั้ ตอนและ

เป็นระบบใชเ้ ทคโนโลยีสาระสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้การทางานและการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพรู้เทา่ ทันและจริยธรรม

ตวั ช้วี ดั ป.2/1 เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่ายโดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรอื สื่อและตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม

3. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ (K-P-A)
1. นักเรยี นสามารถอธิบายขั้นตอนในการเขยี นโปรแกรมและการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้าได้ (K)
2. นกั เรียนสามารถเขยี นโปรแกรมแบบวนซา้ ได้ถกู ต้อง (P)
3. นักเรียนเหน็ ความสาคญั และประโยชน์ของการเขยี นโปรแกรมแบบวนซา้ (A)

4. สำระกำรเรยี นรู้
การเขยี นโปรแกรมแบบวนซา้

5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

6. คุณลกั ษณะอันเพิ่งประสงค์
1. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. ม่งุ มั่นในการทางาน

7. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
วิธกี ารสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional model)

ขั้นนำ
ขน้ั ท่ี 1 กระต้นุ ควำมสนใจ (Engagement)
1. ครูกล่าวคาทกั ทายนกั เรียน
2. ครทู บทวนความรเู้ ดิมเรื่องชดุ คาส่ังในการเขยี นโปรแกรมโดยครยู กตวั อยา่ งบัตรคาชุดคาสง่ั ให้นักเรยี นดู

แล้วใหน้ กั เรียนตอบว่า คือ สัญลักษณ์คาสง่ั อะไร จากนั้นนาบัตรภาพคาสั่งทาซ้าให้นักเรียนดู
3. ครูเปดิ วิดีโอผงึ้ น้อยใหน้ ักเรยี นดู

ขนั้ สอน
ขน้ั ท่ี 2 สำรวจคน้ หำ (Exploration)
1. เมือ่ ดูวิดีโอจบครูถามคาถามเพ่ือกระตุ้นความคดิ ของนักเรียนว่า “นักเรยี นเห็นอะไรในคลิปวิดโี อทคี่ รู

เปดิ ใหด้ ู” “นักเรียนคิดวา่ น้าผง้ึ เกิดขน้ึ ได้อย่างไร” นักเรียนตอบตามความคิดของตนเอง
2. ครูขออาสาสมคั รนักเรียนออกมาหน้าชัน้ จานวน 3 คน เพ่ือทากจิ กรรมสาธิตขนั้ ตอนการผลิตนา้ ผ้ึง

โดยใหน้ ักเรียนใส่ส่ือสวมหัว โดยให้นักเรยี นคนท่ี 1 แสดงเป็นผงึ้ นักเรยี นคนท่ี 2 แสดงเป็นดอกไม้ และถือบัตรภาพ
หยดน้าหวาน 3 หยด นักรียนคนท่ี 3 แสดงเปน็ รวงผ้งึ สถานการณ์ คือ ให้ผงึ้ เดนิ ไปหาดอกไม้เพ่ือดูดนา้ หวาน 2 ครงั้
จากเกสรดอกไม้ จากน้นั ผง้ึ นาหยดน้าหวานไปหยดท่ีหลวงผึง้ เพอ่ื ผลิตนา้ หวานจานวน 3 ครง้ั

3. ครูถามคาถามกับนักเรยี นตอ่ ว่า “นกั เรยี นคิดวา่ กระบวนการผลติ น้าผ้งึ กว่าจะไดน้ า้ ผ้ึงนัน้ ผงึ้ มีข้นั ตอน
การทางานซา้ ๆ กันหรือไม่” “แล้วขัน้ ตอนใดบ้างทผี่ ง้ึ ต้องทางานซ้าๆกัน” นกั เรียนชว่ ยกันตอบคาถามครแู ละครู
อธบิ ายกบั นกั เรียนอีกวา่ “หากนากระบวนการทางานของผึ้งมาเขียนเป็นโปรแกรม บางข้ันตอนต้องใชค้ าสงั่ ทาซา้
เพ่อื ใหท้ างานซ้ากนั หลายๆ รอบ หรอื เรียกว่า “การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้า”

ขน้ั ที่ 3 อธิบำยควำมรู้ (Explanation)
4. ครูอธิบายการเขยี นโปรแกรมแบบวนซา้ โดยใชส้ ่อื Coding board และสมุ่ ให้นกั เรียนออกมาทา
กิจกรรมหนา้ ช้ันเรียนเปน็ รายบคุ คล
5. ครใู ห้นกั เรยี นศึกษาและทาใบงานที่1 การหาเส้นทาง
6. ครอู ธิบายให้นักเรียนเกิดความเขา้ ใจมากยิ่งขน้ึ ว่า “จากการทากจิ กรรม Coding board ถ้าเรานา
หลกั การน้ไี ปเขยี นโปรแกรมแบบใช้คาสง่ั ทาซ้าจะชว่ ยใหก้ ารเขยี นโปรแกรมงา่ ยขึ้นและมีความสะดวกมากยง่ิ ขนึ้
โดยไมต่ อ้ งเขยี นโปรแกรมสาคัญหลายๆ รอบ ช่วยลดความซ้าซ้อนในการทางาน”

ข้นั ที่ 4 ขยำยควำมเขำ้ ใจ (Elaboration)
7. ครอู ธิบายและยกตวั อย่างการเขยี นโปรแกรมโดยใชค้ าส่งั ทาซา้ ใหน้ ักเรยี นช่วยกันเขียนโปรแกรมแบบ
วนซา้ จากเวบ็ ไซต์ Code.org ครอสท่ี 1 บทท่ี 14 เรอ่ื ง ผึ้ง Loops ให้ผ้ึงสามารถเดินไปเกบ็ น้าหวานจากดอกไม้
และนาไปผลติ นา้ ผึ้งได้
8. ครใู หน้ กั เรียนแต่ละคนเข้าเว็บไซต์ Code.org เลือกบทท่ี 14 เรือ่ งผ้ึง Loops ใหน้ กั เรียนเขียนคาสงั่
ให้ผึ้งสามารถเดินไปเกบ็ น้าหวานจากดอกไม้และนาไปผลติ นา้ ผงึ้ ไดโ้ ดยใชค้ าสั่งทาซา้ ใหถ้ ูกตอ้ ง ครเู ดนิ ดนู ักเรยี น
เป็นรายบคุ คล

ข้ันสรุป
ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูตรวจสอบผลการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้าของนักเรียนแตล่ ะคน และให้คะแนน
2. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรปุ เกยี่ วกบั ประโยชนข์ องการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้า
3. ครอู ธบิ ายเพิ่มเติมว่า “การเขยี นโปรแกรมแบบวนซา้ จะช่วยใหก้ ารเขียนโปรแกรมคาสง่ั สะดวก

และง่ายขึน้ โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมคาส่ังซ้ากนั หลายๆ ครั้ง ชว่ ยใหป้ ระหยดั ระยะเวลาในการเขียนโปรแกรม”

8. นวัตกรรมกำรศึกษำ
8.1 ส่ือและอุปกรณ์กำรเรียนรู้
8.1.1 เว็บไซต์ Code.org
8.1.2 วิดีโอเพลงผึ้งน้อย
8.1.3 บัตรภาพชุดคาสัง่
8.1.4 สื่อสวมหัว
8.1.5 Coding board
8.1.6 ใบงานท่ี 1 การหาเส้นทาง

8.2 แหล่งเรียนรู้
8.1.1 หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์
8.1.2 อินเตอรเ์ นต็

9. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล (K-P-A)

กำรวดั และ วธิ กี ำรวดั ผล เครื่องมือวัด เกณฑ์กำร
ประเมนิ ผล ประเมินผล

จุดประสงค์

1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายขัน้ ตอน - การถามตอบในห้องเรียน - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ ระดับคุณภาพ 2
ในการเขยี นโปรแกรมและการเขยี น ทางานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์
โปรแกรมแบบวนซ้าได้ (K)
2. นกั เรยี นสามารถเขียนโปรแกรม - การถามตอบในห้องเรยี น - ใบงานที่ 1 การหาเส้นทาง ผ่านการประเมิน
แบบวนซา้ ไดถ้ ูกต้อง (P) 70%
- การทากิจกรรมระหว่างเรียน - การเขยี นโปรแกรมใน
3. นกั เรยี นเหน็ ความสาคัญและ ระดบั คุณภาพ 2
ประโยชน์ของการเขียนโปรแกรม Code.org ผา่ นเกณฑ์
แบบวนซ้า (A)
- การคน้ ควา้ หาคาตอบ - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ

การตอบคาถามการทางาน อนั เพ่ิงประสงค์

ในเวลาทก่ี าหนด ขัน้ ตอนในการ

ทางาน ปฏบิ ัติตามขน้ั ตอนท่ี

วางแผนไว้

- การทากิจกรรมในใบงาน

10.บนั ทึกกำรใช้แผนกำรจัดกำรเรียนรู้
ผลกำรสอน

ปญั หำและอปุ สรรค

ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข

ลงชอ่ื ผู้สอน
( นางสาวภทั ราภรณ์ บุญภึก )

ตาแหน่ง................................................................
วันท่.ี ............เดือน................................พ.ศ...........

ควำมคดิ เหน็ ของครูพ่เี ลย้ี ง

ลงชอื่
(.....................................................................)

ตาแหน่ง................................................................

ควำมคิดเหน็ ของผู้บริหำรสถำนศึกษำ

ลงชอ่ื
(...................................................................)

ตาแหนง่ ................................................................

แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล ชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ 2

ที่ พฤตกิ รรม ความสนใจ การแสดง การตอบ การยอมรับ ทางานท่ีได้รบั สรปุ
ความคิดเห็น คาถาม ฟงั คนอืน่ มอบหมาย
ช่อื -สกุล
1 4321432143214321432 1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

เกณฑ์การวดั ผลใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรม ดังนี้
ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พดู คยุ ในช้นั ตอบคาถามถกู ต้อง ทางานสง่ ครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50%
ปรับปรุง = 1 เขา้ ชั้นเรียนแตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก สง่ งานไมค่ รบ ไม่ตรงต่อเวลา

ลงช่ือ ผสู้ อน
( นางสาวภัทราภรณ์ บญุ ภกึ )

ตาแหนง่ ................................................................
วนั ท.่ี ............เดอื น................................พ.ศ...........

แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

คำชีแ้ จง ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียน แล้วขีด  ลงในช่องที่ตรงกบั ระดบั คะแนน

คุณลักษณะอันพงึ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน
ประสงค์ด้ำน
1. รักชาติศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาตแิ ละรอ้ งเพลงชาติได้ 321
กษตั ริย์
1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คีปรองดองและเปน็ ประโยชน์
2. ซ่ือสัตยส์ จุ ริต
1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือหรือปฏิบัติตามศาสนา
3. มวี นิ ัยรับผิดชอบ
4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่เี กย่ี วกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ต์ ามที่โรงเรียนจัดขน้ึ

5. อย่อู ยา่ งพอเพียง 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ ูกตอ้ งและเป็นจริง

6. มุง่ มัน่ ในการ 2.2 ปฏิบตั ใิ นส่ิงที่ถูกต้อง
ทางาน
7. รกั ความเปน็ ไทย 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ระเบียบมีความตรงต่อเวลา

8. มีจิตสาธารณะ 4.1 รจู้ ักใช้เวลาวา่ งให้เกดิ ประโยชนแ์ ละนาไปปฏบิ ัติได้

4.2 รู้จกั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟงั คาส่งั สอนของบดิ ามารดาโดยไม่โต้แย้ง

4.4 ต้งั ไจเรยี น

5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด

5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คณุ ค่า

5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั และมีการเก็บออมเงิน

6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย

6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออุปสรรคเพื่อใช้งานสาเร็จ

7.1 มีจติ สานกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย

7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย

8.1 รู้จกั ชว่ ยพอ่ แม่ผู้ปกครองและครูทางาน

8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สนิ สมบตั แิ ละสิง่ แวดลอ้ ม

รวม

เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

46 - 60 ดี

30 – 45 พอใช้

ตา่ กว่า 30 ปรบั ปรงุ

เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบำงครง้ั ให้ 1 คะแนน

ลงชือ่ ผสู้ อน
( นางสาวภัทราภรณ์ บุญภึก )

ตาแหนง่ ................................................................

ใบงำนท่ี 1 เรือ่ งกำรหำเส้นทำง
วิชำเทคโนโลยี (วทิ ยำกำรคำนวณ) ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี 2

ช่ือ ชัน้ เลขท่ี

คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นศึกษาความหมายของชุดคาสั่งต่อไปน้ี

ชดุ คำส่ัง

สญั ลกั ษณ์ ควำมหมำย

เดนิ ไปขำ้ งบน

เดนิ ลงข้ำงล่ำง

เดินไปทำงขวำ

เดนิ ไปทำงซ้ำย

เก็บหน้ำหวำน

ผลติ นำ้ ผึ้ง

ชดุ คำสั่ง ควำมหมำย
สญั ลกั ษณ์

กำรทำซ้ำ

กำรทำซำ้ 2 ครัง้

กำรทำซำ้ 3 ครง้ั

กำรทำซ้ำ 4 ครง้ั

กำรทำซ้ำ 5 ครง้ั

คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นเขยี นโปรแกรมคาสง่ั โดยน้าผงึ้ เดนิ ทางไปเก็บน้าหวานจากเกสรดอกไม้และผลติ
น้าหวานทรี่ วงผึ้งได้สาเร็จตามเสน้ ทางท่ีกาหนด

สถำนกำรณ์

โปรแกรมคำส่งั

1. 2. 3. 4. 5.

ช่ือ ช้นั เลขที่

เฉลย

คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นเขยี นโปรแกรมคาส่งั โดยนา้ ผง้ึ เดินทางไปเก็บน้าหวานจากเกสรดอกไม้
และผลติ นา้ หวานทรี่ วงผึ้งได้สาเรจ็ ตามเสน้ ทางทก่ี าหนด

สถำนกำรณ์

โปรแกรมคำส่งั

1. 2. 3. 4. 2. 5.

ส่อื ประกอบการสอน
1. โปรแกรมผึง้ เก็บน้าหวาน จากเว็บไซต์ Code.org

2. วดิ โี อเพลงผง้ึ น้อย จากเวบ็ ไซต์ Youtube.com

3. บัตรภาพชดุ คาส่งั

4. บัตรภาพผึง้ น้อย

 
5. บตั รภาพดอกไม้





6. บตั รภาพรวงผง้ึ 





Click to View FlipBook Version