The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การพัฒนาองค์การด้วยระบบบริหารงานคุณภาพ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 04วาสนา ทวีทรัพย์, 2024-02-27 04:10:54

การพัฒนาองค์การด้วยระบบบริหารงานคุณภาพ

การพัฒนาองค์การด้วยระบบบริหารงานคุณภาพ

การพัฒนาองค์การด้วยระบบบริหารงานคุณภาพ โดย นางสาววาสนา ทวีทรัพย์ 65307010004 นางสาวพิชชาพร ประพันพัฒน์ 65307010005 นางสาวพนัสดา สอสอนหัก 65307010007 นางสาวชาลิสา เหล็งเอี่ยม 65307010010 นายศุภกิตติ์นาคสระเกษ 65307010015 เสนอ อาจารย์สินาภรณ์สุขเรื่อย รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา รายวิชา การพัฒนาองค์การด้วยระบบ บริหารงานคุณภาพ ( Quality Administration Organization ) รหัสวิชา 30001 – 1003 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรีปีการศึกษา 2566


การพัฒนาองค์การด้วยระบบบริหารงานคุณภาพ โดย นางสาววาสนา ทวีทรัพย์ 65307010004 นางสาวพิชชาพร ประพันพัฒน์ 65307010005 นางสาวพนัสดา สอสอนหัก 65307010007 นางสาวชาลิสา เหล็งเอี่ยม 65307010010 นายศุภกิตติ์นาคสระเกษ 65307010015 เสนอ อาจารย์สินาภรณ์สุขเรื่อย รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา รายวิชา การพัฒนาองค์การด้วยระบบ บริหารงานคุณภาพ ( Quality Administration Organization ) รหัสวิชา 30001 – 1003 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรีปีการศึกษา 2566


คำนำ รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาการพัฒนาองค์การด้วยระบบบริหารงาน คุณภาพ รหัสวิชา ( 30001-1003 ) ข้าพเจ้าได้จัดทำรายงานนี้เพื่อเผยแพร่ความรู้ในการจัดเลี้ยง ซึ่งข้าพเจ้าได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากสถานประกอบการด้านการจัดเลี้ยงทั้งยังได้รับความรู้จาก ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการจัดเลี้ยงและมีประสบการณ์ในการจัดเลี้ยง ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน ผู้ศึกษาและผู้ที่สนใจ ทุกท่าน หากรายงานฉบับนี้มีข้อผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้า ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย คณะผู้จัดทำ นางสาววาสนา ทวีทรัพย์ นางสาวพิชชาพร ประพันพัฒน์ นางสาวพนัสดา สอสอนหัก นางสาวชาลิสา เหล็งเอี่ยม นายศุภกิตติ์ นาคสระเกษ


สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ................................................................................................................................ ก สารบัญ............................................................................................................................. ข สารบัญ (ต่อ)..................................................................................................................... ค สารบัญภาพ...................................................................................................................... ง 1.การจัดองค์การ................................................................................................................ 1 1.1ความหมายของการจัดองค์การ....................................................................... 1 1.2 ประเภทขององค์การ……………………………………………………………………………… 1 1.3 การมอบหมายงาน........................................................................................... 2 2.หลักการบริหารงานคุณภาพและเพิ่มผลิตภาพ.............................................................. 4 2.1 หลักการบริหารงานคุณภาพ................................................................................. 4 2.2 การบริหารด้วยความเป็นผู้นำ................................................................................. 4 2.3การบริหารอย่างเป็นระบบ...................................................................................... 4 3.การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพขององค์การ.................................................................... 5 3.1 กสรพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพขององค์การ........................................................ 5 3.2 ความมีประสิทธิภาพ.............................................................................................. 5 3.3 ความหมายของการเพิ่มประสิทธิภาพในองค์.......................................................... 5 3.4 ข้อแตกต่างระหว่างประสิทธิผลกับประสิทธิภาพ................................................... 6 3.5 ปรัชญาและอุดมการณ์เพิ่มประสิทธิภาพในองค์การ.............................................. 6


สารบัญ (ต่อ) เรื่อง หน้า 4.การจัดการความเสี่ยง........................................................................................................ 7 4.1 การจัดการความเสี่ยง หมายถึง............................................................................. 7 4.2 ความเสี่ยง คือ...................................................................................................... 7 4.3 การจัดการความเสี่ยง คือ...................................................................................... 7 4.4 ประโยชน์การจัดการความเสี่ยง คือ....................................................................... 7 4.5 4 Steps of Risk Management………………………………………………………………… 8 5.กลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน................................................................................ 9 5.1 กลยุทธ์ คือ................................................................................................................ 9 5.2 การประเมินสภาพการทำงาน................................................................................ 9 5.3 7 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน.......................................................................... 9 5.4 การบริหารองค์กรให้มีประสิทธิภาพมีเรื่องที่สำคัญที่ต้องพิจารณา 2 ประการคือ............... 10 5.5 กลยุทธ์การบริหารที่ทรงประสิทธิภาพ.................................................................................. 10 ภาคผนวก ก แบบทดสอบ


สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า ภาพที่ 1.3 การมอบหมายงาน....................................................................................... 2 ภาพที่ 2.3 แผนภูมิการบริหารงาน................................................................................. 4 ภาพที่ 5.1 ประสิทธิภาพการทำงาน.............................................................................. 9


1 บทที่ 1 การจัดองค์การ 1.1 ความหมายของการจัดองค์การ องค์การ คือกลุ่มบุคคลแต่เป็นกลุ่มที่ค่อนข้างใหญ่และมีลักษณะเฉพาะที่มีจุดมุ่งหมายในการ ดำเนินการอย่างใด อย่างหนึ่งโดยกลุ่มบุคคลนี้จะมีสิ่งยึดเหนี่ยวร่วมกันและร่วมแรงรวมใจกันท างานเพื่อบรรลุ เป้าหมายที่วางไว้ องค์การจึง มีลักษณะดังนี้ 1. องค์การเป็นรูปแบบของการรวมบุคคล 2. มีความสัมพันธ์ที่จะท ากิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งร่วมกัน 3. มีการแบ่งงาน จัดสรรหน้าที่ให้สมาชิกในองค์การ 4. มีโครงสร้างขององค์การในลักษณะของการบังคับบัญชา 5. มีการยอมรับในสังคม ตามระเบียบแบนแผน ประเพณี หรือกฎหมาย 1.2 ประเภทขององค์การ (Types of Organization) ในการแบ่งประเภทขององค์การนั้น ขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายขององค์การว่าเป็นอย่างไร ซึ่งมีลักษณะ การด าเนินงาน ที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งประเภทขององค์การได้ดังนี้ 1.2.1 การแบ่งองค์การตามความต้องการของบุคคล 1. องค์การเบื้องต้น (Primary Organization) เป็นองค์การที่สมาชิกมีความรู้สึก สนิทสนมกันดี มี ลักษณะเป็นครอบครัว ญาติมิตร เพื่อนฝูง มีลักษณะที่ค่อนข้างไม่มีพิธีรีตอง มีจุดมุ่งหมายเน้นไปที่ ความ สนุกสนา 2. องค์การทุติยภูมิ(Secondary Organization) เป็นองค์การที่กำหนดบทบาทและหน้าที่ของสมาชิก ใน องค์การ มีความสัมพันธ์ไม่แน่นแฟ้ม เป็นไปในลักษณะชั่วคราว มีลักษณะเป็น โรงงาน ร้านค้า สมาคม สโมสร เป็นต้น 1.2.2 การจำแนกองค์การโดยยึดโดยยึดโครงสร้าง แบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้ 1. องค์การแบบเป็นทางการ (Formal Organization เป็นองค์การที่มีการจัดโครงสร้างอย่างเป็น ระเบียบ แบบแผนแน่นอน การจัดตั้งมีกฎหมายรองรับ บางแห่งเรียกว่า องค์การรูปนัย ได้แก่ บริษัทมูลนิธิ หน่วยราชการ กรม โรงพยาบาล โรงเรียน ฯลฯ ซึ่งการศึกษาเรื่ององค์การและการจัดการจะเป็นการศึกษาใน เรื่องขององค์การประเภทนี้ทั้งสิ้น 2. องค์การแบบไม่เป็นทางการ (Informal Organization) เป็นองค์การที่รวมกันหรือจัดตั้งขึ้นด้วย ความพึ่ง พอใจและความสัมพันธ์กันเป็นส่วนตัวไม่มีการจัดระเบียบโครงสร้างภายในมีการรวมตัวกันอย่างง่ายๆ


2 และเลิกล้มได้ง่าย องค์การแบบนี้เรียกว่า องค์การอรูปนัยหรือองค์การนอกแบบ เช่น ชมรมต่างๆ หรือกลุ่ม ต่างๆอาจเป็นการรวมกลุ่มกัน ด้วยความสมัครใจของสมาชิกกลุ่ม ซึ่งเนื่องมาจากรายได้ อาชีพ รสนิยม ศาสนา ประเพณี ตำแหน่งงาน ฯลฯ 1.2.3 การแบ่งองค์การตามจุดมุ่งหมายขององค์การ 1. องค์การที่แสวงหาผลประโยชน์(Profit Organization) เป็นองค์การที่มุ่งทางการค้าการแสวงหาผล กำไร เข้าองค์การ หรือเข้ากลุ่มสมาชิก เป็นลักษณะรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้า ร้านค้า สำนักงาน เป็นต้น 2. องค์การที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์(Non- Profit Organization) เป็นองค์การที่ให้บริการเพื่อสังคม เพื่อ สาธารณประโยชน์ เช่น สมาคมการกุศลต่างๆ สมาคมศิษย์เก่า มูลนิธิ เป็นต้น 1.3 การมอบหมายงาน (Delegation) 1.3.1 ความหมายของการมอบหมายงาน การมอบหมายงาน หมายถึง การที่ผู้บังคับบัญชาได้กำหนด ความรับผิดชอบและอำนาจหน้าที่ (Assignment of Responsibility and Authority) หรือเป็นการกระจาย งานในหน้าที่ ความรับผิดชอบ (Responsibility) และให้อำนาจในการตัดสินใจ (Authority) ภายในขอบเขตที่ กำหนดให้ผู้ร่วมงาน หรือผู้ใต้บังคับบัญชาไปปฏิบัติ ภาพที่ 1.3 การมอบหมายงาน การมอบหมายงาน เป็นลักษณะการมอบหมายงานบางส่วนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติเป็นการแบ่งเบา ภาระงาน ของผู้บังคับบัญชา ในขณะเดียวกันเป็นการเพิ่มภาระผูกพันแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา 1.3.2 ขั้นตอนการมอบหมายงาน การมอบหมายงานมีส่วนประกอบ 3 ขั้นตอน คือ (William H Newman) (1) ผู้บริหารกำหนดภารกิจหน้าที่ให้แก่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา (2) ให้อำนาจหน้าที่ สิทธิหน้าที่ และทรัพยากรตามความจำเป็น (3) พยายามสร้างความรับผิดชอบให้เกิดขึ้นในตัวผู้ใต้บังคับบัญชา


3 1.3.3 ประเภทของการมอบหมายงาน การมอบหมายงาน ต้องมอบหมายให้ผู้ที่มีความสามารถ มี ความตั้งใจทำงาน และรับผิดชอบรู้เป้าหมายของงานที่จะทำ ต้องพิจารณาว่า ควรมอบหมายงานให้ ผู้ใต้บังคับบัญชาในลักษณะใด การมอบหมายงานมี2 ประเภทคือ 1. การมอบหมายงานประจำ ผู้ที่มาทำงานใหม่แต่ละหน่วยงานทุกคนจะได้รับการมอบหมายงาน เช่น พนักงานใหม่ของธนาคาร จะได้รับมอบงาน คือ รับเงิน ฝากเงิน ลงบัญชี หาเงินฝาก พิมพ์จดหมาย รับ โทรศัพท์ เป็นต้น จัดเป็นการตัดสินใจเพียงเล็กน้อย ซึ่งผู้ใต้บังคับบัญชาระดับล่างทำได้หากผู้บริหารระดับสูง เชื่อมั่น ว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาสามารถทำงานให้สำเร็จได้ อาจมอบหมายหน้าที่เพิ่มขึ้นหากทำได้ดีก็มอบหมายให้ ทำเป็นประจำ ถ้าทำงานล้มเหลวหรือทำได้ไม่ดี ก็จะพิจารณาเปลี่ยนแปลงหน้าที่ตามความถนัดของพนักงาน 2. การมอบหมายงานชั่วคราว เป็นการมอบหมายงานเฉพาะกิจหรืองานพิเศษ เมื่อเสร็จภารกิจก็หมด ภาระหน้าที่


4 บทที่ 2 หลักการบริหารงานคุณภาพและเพิ่มผลิตภาพ 2.1 หลักการบริหารงานคุณภาพ เป็นองค์การที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นส าคัญ (Customer Focus Organization) 1.สำรวจ ตรวจสอบ หรือทดสอบความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า 2.ตอบสนองความต้องการของลูกค้า 3.สร้างระบบผลการประเมินความพึงพอใจของลูกค้า 4.สร้างระบบความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับองค์การ 5.สร้างระบบการสื่อสารภายในองค์การที่มีประสิทธิภาพ 2.2 การบริหารด้วยความเป็นผู้นำ (Leadership) 1. กำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์การและหน่วยงานให้สอดคล้อง กับเป้าหมายและ วัตถุประสงค์ขององค์การ 2. มีความตื่นตัวในการดำเนินการให ้เป็นแบบอย่างแก่บุคลากรในองค์การ 3. สร้างแรงจูงใจ กระตุ้นให้บุคลากรมีส่วนร่วมบริหารงานในหน่วยงาน 4. สร้างความเชื่อมั่นให้แก่บุคลากร 5. ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายความสามารถของบุคลากร 6. ฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของบุคลากรพร้อมให้โอกาสทางการศึกษา 7. จดัให้มีระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความเข้าใจทั่วทั้งองค์การ 8. สร้างค่านิยม “ความร่วมมือ” ของบุคลากร พร้อมใช้คุณธรรมในการบริหารงานทุกระดับ 2.3 การบริหารงานอย่างเป็นระบบ (System Approach to Management) การบริหารงานอย่างเป็นระบบ หมายถึง การ ให้ความส าคัญกับการสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน ของหน่วยงานต่าง ๆ ขององค์การ เพราะทุก หน่วยงานมีส่วนร่วมในการสร้างผลงาน คุณภาพตามความต้องการของลูกค้าทั้ง โดยตรงและโดย อ้อม ดังแผนภูมิ ภาพที่ 2.3 แผนภูมิการบริหาร หน่วยประชาสัมพันธ์ หน่วยขาย หน่วยส่งมอบ ลูกค้า


5 บทที่ 3 การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพขององค์การ 3.1 การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพขององค์การ การพัฒนาองค์การ หรือการเพิ่มประสิทธิภาพองค์การ จะเกี่ยวกับการลดต้นทุน ลดการสูญเสียทำให้ มีผลผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพนี้ก็ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ คือ เป้าหมาย นโยบาย การวางแผน การจัดการองค์การ การควบคุมงาน การฝึกอบรม การติดต่อประสานงาน การวางตำแหน่งบุคคล การกำหนด ระยะเวลา เป็นต้น เมื่อมีการดำเนินงานให้เป็นไปตามกระบวนการที่วางไว้แล้ว ก็ย่อมทำให้องค์การนั้นมีการ ทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเพิ่มผลผลิตมากขึ้นนั่นเอง ความมีประสิทธิผลขององค์การ (Organizational Effectiveness) เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการ วิเคราะห์ และขัดเกลาพฤติกรรมที่เกิดจากการบริหารงาน ว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ความมี ประสิทธิผลขององค์การ นี้จะมีขึ้นได้นั้น ย่อมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ว่า องค์การสามารถทำประโยชน์จาก สภาพแวดล้อมจนบรรลุผลสำเร็จ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่สิ่งที่สำคัญที่อยู่เบื้องหลังควบคู่กันกับประสิทธิผลก็ คือ ความมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุตามที่กล่าวมานี้เอง ประสิทธิภาพขององค์การที่จะชี้ว่าองค์การมีประสิทธิผล จริงหรือไม่ เพียงใด จึงอยู่ที่เกณฑ์การวัด คือ การอยู่รอด ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อองค์การต้องสามารถปรับตัวต่อ สภาวการณ์และ สิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น และสามารถมีประสิทธิภาพการปฏิบัติงานภายในพร้อมกันไปด้วยเสมอ 3.2 ความมีประสิทธิภาพ (Efficiency) ความมีประสิทธิภาพ (Efficiency) หมายถึง การมีสมรรถนะสูง สามารถมีระบบการทำงาน สร้างสม ทรัพยากรและความมั่นคงเก็บเกี่ยว ไว้ภายในเพื่อการขยายตัวต่อไป และเพื่อเอาไปไว้สาหรับรองรับ สถานการณ์ที่อาจเกิดวิกฤตการณ์จากภายนอก ได้ด้วย ด้วยเหตุตามที่กล่าวมานี้เอง ประสิทธิภาพขององค์การ ที่จะชี้ว่าองค์การมีประสิทธิผลจริงหรือไม่ เพียงใด จึงอยู่ที่เกณฑ์การวัด คือ การอยู่รอด ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อ องค์การต้องสามารถปรับตัวต่อสภาวการณ์และ สิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น และสามารถมีประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ภายในพร้อมกันไปด้วยเสมอ 3.3 ความหมายของการเพิ่มประสิทธิภาพในองค์การ ความหมายของการเพิ่มประสิทธิภาพในองค์การ หมายถึง การเพิ่มประสิทธิภาพขององค์การ โดยการ เปรียบเทียบทรัพยากรที่ใช้ไปกับผลที่ได้จากการทำงานว่าดีขึ้นอย่างไร แค่ไหน ในขณะที่กำลังทำงานตาม เป้าหมายขององค์การ โดยหลักการแล้วองค์การควรมีทั้งประสิทธิผลและประสิทธิภาพควบคู่กันไป แต่ก็ ปรากฏว่าได้เห็นบ่อยครั้งว่า มีองค์การจำนวนมากที่สามารถทำได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง กล่าวคือ องค์การ บางแห่งอาจทำให้มีประสิทธิผลบรรลุเป้าหมายได้ แต่กลับมีการใช้จ่ายทรัพยากรสิ้นเปลือง ซึ่งอาจปรากฏใน รูปแบบต่างๆ กัน เช่น การต้องใช้วัตถุดิบหรือวัสดุอุปกรณ์มากเกินไป หรือเกินความจาเป็น และรวมถึงการใช้ แรงงานคนอย่างสิ้นเปลือง


6 3.4 ข้อแตกต่างระหว่างประสิทธิผลกับประสิทธิภาพ ประสิทธิผล (Effectiveness) หมายถึง ความสำเร็จในการที่สามารถดำเนินกิจการก้าวหน้าไป และ สามารถบรรลุเป้าหมายต่างๆ ที่องค์การตั้งไว้ได้ ประสิทธิภาพ (Efficiency) หมายถึง การเปรียบเทียบทรัพยากรที่ใช้ไปกับผลที่ได้จากการทำงานว่าดี ขึ้นอย่างไร แค่ไหน ในขณะที่กำลังทางานตามเป้าหมายขององค์การ 3.5 ปรัชญาและอุดมการณ์การเพิ่มประสิทธิภาพในองค์การ ความมีประสิทธิภาพขององค์การ หมายถึง ขนาดของความสามารถขององค์การที่จะสามารถทำงาน บรรลุเป้าหมายต่าง ๆ ที่ตั้งไว้ โดยนำทรัพยากรมาใช้อย่างเต็มที่


7 บทที่ 4 การจัดการความเสี่ยง 4.1 การจัดความเสี่ยง หมายถึง การจัดการความเสี่ยง (Risk Management) จึงหมายถึง กระบวนการวางแผนการบริหารและการ จัดการความเสี่ยง เพื่อช่วยในการตัดสินใจ ของบุคคลหรือธุรกิจใดๆ ในอันที่จะหาวิธีการที่ดีที่สุด เพื่อใช้เป็น แนวทางในการ ตัดสินใจแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นให้ น้อยที่สุด โดยมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด 4.2 ความเสี่ยง คือ ความเสี่ยง (Risk) คือ ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นและมีผลต่อการบรรลุเป้าหมาย หรือวัตถุประสงค์ที่ ตั้งใจไว้ ความเสี่ยงนี้จะถูกวัดด้วยผลกระทบที่ได้รับและความน่าจะ เป็นของเหตุการณ์ หรือ โอกาส หรือ เหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ที่จะท าให้องค์กรไม่ บรรลุวัตถุประสงค์นั้นๆ 4.3 การจัดการความเสี่ยง คือ การจัดการความเสี่ยง หรือ การบร ิหารความเสี่ยง (Risk Management) คือ กระบวนการในการ ระบุ (Risk Identification) การวิเคราะห์ (Risk Analysis) การประเมิน (Risk Assessment) การดูแล ตรวจสอบและควบคุมความเสี่ยง (Risk Control) ที่สัมพันธ์กับกิจกรรมและกระบวนการท างาน เพื่อให้ องค์กรลดความเสียหาย จากความเสี่ยงมากที่สุด อันเนื่องมาจากความเสี่ยงที่องค์กรต้อง เผชิญในช่วงเวลาใด เวลาหนึ่ง 4.4 ประโยชน์การจัดการความเสี่ยง ประโยชน์จากการจัดการความเสี่ยง 1. เป็นการสร้างฐานข้อมูลความรู้ที่มีประโยชน์ต่อการบริหาร และการ ปฏิบัติงานในองค์กร เป็น แหล่งข้อมูลสำหรับผู้บริหารในการตัดสินใจด้านต่างๆ เนื่องจากการจัดการความเสี่ยง เป็นการดำเนินการซึ่ง ตั้งอยู่บนสมมุติฐานในการ ตอบสนองต่อเป้าหมายและภารกิจหลักขององค์กร 2. ช่วยสะท้อนให้เห็นภาพรวมของความเสี่ยงต่างๆ ที่สำคัญได้ทั้งหมด ทำให้พนักงานภายในองค์กรมี ความเข้าใจถึงเป้าหมายและภารกิจหลักขององค์กร และตระหนักถึงความเสี่ยงสำคัญที่ส่งผลกระทบในเชิงลบ ต่อองค์กรได้อย่าง ครบถ้วน ซึ่งครอบคลุมความเสี่ยงที่มีเหตุทั้งจากปัจจัยภายในองค์กร และจาก ปัจจัย ภายนอกองค์กร 3. เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารงาน ช่วยให้ผู้บริหารสามารถมั่นใจได้ว่า ความเสี่ยงได้รับการ จัดการอย่างเหมาะสมและทันเวลา รวมทั้งเป็นเครื่องมือ ที่สำคัญของผู้บริหารในการบริหารงาน และการ


8 ตัดสินใจในด้านต่างๆ เช่น การวางแผน การก าหนดกลยุทธ์ การติดตามควบคุมและวัดผลการปฏิบัติงาน ซึ่ง จะส่งผลให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้แก่องค์กรได้เป็นอย่างดี 4. ช่วยให้การพัฒนาองค์กรเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้รูปแบบ การตัดสินใจในการปฏิบัติงานของ องค์กรมีการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน เช่น การตัดสินใจโดยที่ผู้ บริหารมีความเข้าใจในกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ของ องค์กร และระดับความเสี่ยงอย่างชัดเจน 5. ช่วยให้การพัฒนาการบริหารและจัดสรรทรัพยากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล การจัดสรรทรัพยากรเป็นไปอย่างเหมาะสม โดยพิจารณาถึงระดับความเสี่ยงในแต่ละกิจกรรมและการเลือกใช้ มาตรการใน การจัดการความเสี่ยง 4.5 4 Steps of Risk Management ในการทำธุรกิจ องค์กรย่อมมีการ กำหนดวัตถุประสงค์ของภาพรวม (Objective Establishment) องค์กรและหน่วยงานต่างๆ ที่ชัดเจน และสามารถวัดผลได้ นั่นคือ สิ่งแรกก่อนที่จะท าการจัดการความเสี่ยงใน 4 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้ 1. การระบุความเสี่ยง (Risk Identification) 2. การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) 3. การวางแผนรับมือกับความเสี่ยง (Risk Response Planning) 4. การลงมือท า ติดตามและควบคุม (Risk Implement & Control)


9 บทที่ 5 กลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ภาพที่ 5.1 ประสิทธิภาพการทำงาน 5.1 กลยุทธ์ คือ กลยุทธ์ (Strategie) เป็นแผนการปฏิบัติการที่อธิบายถึง การจัดสรรทรัพยากรและกิจกรรมอื่นๆ ให้ เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมและช่วยให้องค์การบรรลุเป้าหมาย ดังนั้น การบริหารเชิงกลยุทธ์ (Strategic Management) จึงหมายถึง กระบวนการสร้างความมั่นใจว่า องค์การได้รับผลประโยชน์จากการใช้กลยุทธ์ที่ เหมาะสมนำมาใช้ด้านการตัดสินใจ และนำไปปฏิบัติซึ่งกลยุทธ์จะเสนอความเป็นต่อในการแข่งขัน ระหว่าง องค์การและสิ่งแวดล้อมเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การ แบ่งกระบวนการบริหารออกเป็น 4 ขั้นตอน คือ 1. การวิเคราะห์สถานการณ์ 2. การกำหนดกลยุทธ์ขององค์การ 3. การปฏิบัติตามกลยุทธ์ 4. การควบคุมกลยุทธ์ 5.2 การประเมินสภาพการทำงาน (Assessing) เป็นกระบวนการศึกษาถึงภาพต่างๆ รวมทั้งข้อมูลที่จำเป็นเพื่อจะนำมาเป็นตัวกำหนดถึงความต้องการของ องค์การ และความเป็นไปได้เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งประกอบด้วยงานต่อไปนี้ คือ 5.1 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการศึกษา หรือพิจารณาธรรมชาติและความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ 5.2 สังเกตสิ่งต่างๆ ด้วยความรอบคอบ 5.3 วัดพฤติกรรมและ 5.4 เปรียบเทียบพฤติกรรมการทำงาน 5.3 7 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 1. นำเครื่องมือสำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานเข้ามาใช้ 2. ทบทวนการดำเนินงาน 3. ทบทวนขนาดของบริษัท 4. สร้างโอกาสในการสื่อสารระหว่างพนักงาน 5. พยายามสร้างแรงจูงใจให้แก่พนักงาน 6. พัฒนาทักษะของพนักงาน


10 7. แก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร 5.4 การบริหารองค์กรให้มีประสิทธิภาพมีเรื่องที่สำคัญที่ต้องพิจารณา 2 ประการคือ ประการแรก ผู้บริหารต้องเข้าใจถึงลักษณะสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ประการที่สอง ผู้บริหารต้องเข้าใจว่า องค์กรสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมอย่างไร โดยพิจารณาในแง่ของ การพิจารณาปัจจัยสำคัญต่าง ๆ ตามความหมายของพฤติกรรมองค์กร 5.5 กลยุทธ์การบริหารที่ทรงประสิทธิภาพ ปัญหาหนักอกของผู้บริหารที่เผชิญอยู่ ก็คือ ปัญหาประสิทธิภาพทางการบริหาร โดยเฉพะในด้านที่ เกี่ยวกับ ผลผลิต ที่ตกต่ำกว่าเดิม กลยุทธ์การบริหารที่ทรงคุณภาพนี้ คือ การมีประสิทธิผล ที่สามารถกำหนด เป้าหมายที่ดี และสามารถบรรลุผลสำเร็จในเป้าหมายนั้นๆ ได้ และการมีประสิทธิภาพ ที่สามารถทำสำเร็จใน เป้าหมายเหล่านั้น โดยมีต้นทุนค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดด้วย ลักษณะของกลยุทธ์การบริหารที่ทรงประสิทธิภาพที่จะ ทำให้การบริหารสามารถประสบผลสำเร็จได้อย่างดีในทุกสถานการณ์


11 ภาคผนวก ก แบบทดสอบ


12 แบบทดสอบบทที่ 1 1.ความหมายของการจัดองค์การ 2.ประเภทขององค์การ แบ่งได้กี่ประเภท 3.การมอบหมายงาน หมายถึง 4.การมอบหมายงานมีกี่ประเภท 5.องค์การที่แสวงหาผลประโยชน์คือ 6.องค์การที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์ คือ 7.การจำแนกองค์การโดยมีโครงสร้าง แบ่งได้กี่ประเภท 8.องค์การเบื้องต้น คือ 9.องค์การทุติยภูมิ คือ 10.ขั้นตอนการมอบหมายงาน มีส่วนประกอบกี่ขั้นตอน แบบทดสอบบทที่ 2 1.หลักการบริหารงานทีอะไรบ้าง ตัวอย่าง 3 ข้อ 2.Leadrship มาจากคำว่าอะไร 3.การบริหารงานอย่างเป็นระบบมีอะไรบ้าง 4.การบริหารงานอย่างเป็นระบบ หมายถึง 5.ยกตัวอย่างการบริหารงานด้วยความเป็นผู้นำมา 4 ข้อ 6.หน่วยขายอยู่ในการบริหารใด 7.ลูกค้าอยู่ในการบริหารใด 8.หน่วยประชาสัมพันธ์อยู่ในการบริหารใด 9.หน่วยส่งมอบอยู่ในการบริหารใด 10.Customer Focus Organization คำภาษาไทยแปลว่า แบบทดสอบบทที่ 3 1.การพัฒนาองค์การ คือ 2.ความมีปรสิทธิผลขององค์การ คือ


13 3.ความมีประสิทธิภาพ หมายถึง 4.ความหมายของการเพิ่มประสิทธิภาพในองค์การ 5.ข้อแตกต่าง ประสิทธิภาพ และ ประสิทธิผล 6.Efficiency คือ 7.Effectiveness คือ 8.Efficiency คือ 9.ความมีประสิทธิภาพ หมายถึง 10.organization effectiveness คือ แบบทดสอบบทที่ 4 1.การจัดความเสี่ยง หมายถึง 2.ความเสี่ยง คือ 3.การจัดความเสี่ยง คือ 4.ประโยชน์การจัดความเสี่ยง คือ 5.4 Steps of Risk Management มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง 6.Risk Ldentification คือ 7.Risk Assessnent คือ 8.Risk Response Planning คือ 9.Risk Lmplement & Control คือ 10.Risk คือ แบบทดสอบบทที่ 5 1.กลยุทธ์ คือ 2.แบ่งกระบวนการบริหารออกเป็นกี่ขั้นตอน 3.การประเมินการทำงาน 4.วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 5.การบริหารองค์การให้มีประสิทธิภาพ มีกี่ประเภท


14 6.Assessing คือ 7.Strategie คือ 8.การบริหารเชิงกลยุทธ์ คือ 9.การประเมินการทำงาน ประกอบด้วย 10.กลยุทธ์การบริหารที่ทรงประสิทธิภาพ คือ


Click to View FlipBook Version