The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะรายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตจริง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kewalin.nontanam, 2021-04-07 00:02:08

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษในชีวิตจริง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะรายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตจริง

แผนการสอน/การจดั การเรยี นรู้แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ
และบรู ณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

รหัสวิชา 20000-1201 รายวชิ าภาษาองั กฤษในชวี ิตจริง หนว่ ยกติ (ชวั่ โมง)1/2
หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2563
ประจาภาคเรียนท่ี1 ปีการศกึ ษา 2563

ประเภทวิชา ภาษาอังกฤษ

จัดทาโดย

นางสาวเกวลิน นนทะนา
ตาแหน่ง ครูพเิ ศษสอน
แผนกวิชา สามัญสมั พันธ์

ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563
วิทยาลยั เทคนคิ สวา่ งแดนดนิ

สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

แบบคำขออนมุ ตั ิใช้แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้

รำยวิชำภำษำไทยเพือ่ อำชีพ รหสั วิชำ 2000-1102

ลงช่ือ...........................................
(นำงสำวเกวลิน นนทะนำ)
ครปู ระจำวิชำ

ควำมเห็นหวั หน้ำแผนกวิชำสำมญั สัมพนั ธ์ ควำมเห็นหัวหนำ้ งำนพฒั นำหลกั สตู รฯ
.................................................................. ...............................................................

ลงชื่อ............................................... ลงชอ่ื ...............................................
(นำงมณีกำนต์ โคตรโสภำ) (นำยคุมดวง พรมอนิ ทร์)

หวั หนำ้ แผนกวชิ ำสำมญั สมั พนั ธ์ งำนพัฒนำหลกั สตู รกำรเรียนกำรสอน

ควำมเห็นรองผู้อำนวยกำรฝ่ำยวิชำกำร
………………………………………………

ลงช่ือ……………………………………...
(นำยทนิ กร พรหมอนิ ทร)์
รองผู้อำนวยกำรฝำ่ ยวิชำกำร

ควำมเหน็ ผ้อู ำนวยกำรวทิ ยำลัยกำรอำชีพสว่ำงแดนดนิ
……………………………………………………….……….

ลงช่ือ...........................................
(นำงวรรณภำ พ่วงกุล)

ผ้อู ำนวยกำรวิทยำลัยกำรอำชีพสว่ำงแดนดิน

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ม่ี ่งุ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 1

บรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอนคร้ังท่ี 1-2
ชวั่ โมงรวม 4
วชิ ำ ภำษำอังกฤษในชวี ติ จริง 20000-1201

ชอ่ื หน่วย Self-Introduction จานวนชัว่ โมง 4

__________________________________________________________________________________

1. สาระสาคญั

When meeting at the first time, people greet, introduce themselves and give

personal data such as their nationalities, hometowns, home countries and families. People

may ask some questions to get to know people.

2. สมรรถนะประจาหน่วย
2.1. บอกข้อมลู สัญชำติ (nationalities) ประเทศและเมืองหลวง (countries & capitals) และ
ควำมสมั พันธ์ของบุคคลในครอบครัว (family relationship)
2.2. สนทนำโต้ตอบในกำรกล่ำวทักทำย (greeting) กำรกล่ำวลำ (making a farewell) กำรแนะนำตนเอง
(introducing oneself) และกำรแนะนำผอู้ ่ืน (introducing others)
2.3. สนทนำโต้ตอบใหข้ ้อมลู เก่ยี วกบั ครอบครัว (giving information about family)
2.4. กรอกขอ้ มลู บุคคลลงในแบบฟอร์ม (personal data)
2.5. เขียนจดหมำยอิเล็กทรอนิกส์ (email) เพื่อส่ือสำรในชีวติ ประจำวนั และกำรทำงำน
2.6. สื่อสำรโดยใชภ้ ำษำกำยในกำรทกั ทำย (non-verbal) ตำมมำรยำทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้ำของ
ภำษำ
2.7. สบื ค้นข้อมลู บนระบบสำรสนเทศและแสดงควำมรู้ทำงภำษำองั กฤษ

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1. ด้านความรู้
3.1.1. เพื่อใหผ้ ู้เรียนสำมำรถบอกช่ือสัญชำติ ประเทศ เมืองหลวงหรือเมอื งสำคัญของชำติตำ่ ง
ๆ ได้
3.1.2. เพื่อใหผ้ เู้ รียนมคี วำมรเู้ กยี่ วกับวัฒนธรรมกำรทักทำยโดยใชอ้ วัจนภำษำ
3.1.3. เพอ่ื ให้ผู้เรียนสำมำรถใช้พจนำนกุ รมออนไลน์และอนิ เทอร์เนต็ แหลง่ สบื ค้นข้อมลู ควำมรู้
ในกำรพฒั นำทกั ษะภำษำองั กฤษได้
3.2. ด้านทักษะ
3.2.1. เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รียนสำมำรถสนทักทำย แนะนำตนเองและกล่ำวลำได้
3.2.2. เพื่อให้ผูเ้ รยี นสำมำรถแนะนำบคุ คลอ่ืนใหร้ ู้จกั กนั ได้
3.2.3. เพอื่ ใหผ้ ้เู รียนสำมำรถให้ข้อมูลบุคคลเช่นสญั ชำติ บ้ำนเกดิ และครอบครวั ได้

3.2.4. เพือ่ ให้ผูเ้ รียนสำมำรถกรอกข้อมลู บคุ คลลงในแบบฟอร์มได้
3.2.5. เพ่ือให้ผู้เรยี นสำมำรถเขยี นอีเมลต์ ดิ ตอ่ ในชวี ติ ประจำวนั ได้
3.3. คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
3.3.1. เพ่อื ให้ผเู้ รยี นบูรณำคุณธรรมพ้นื ฐำน 8 ประกำร คุณธรรม จริยธรรม ค่ำนิยมและ

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคเ์ ป็นแนวทำงทำงในกำรดำรงชีวิตและกำรทำงำนได้
3.3.2. เพอ่ื ให้ผ้เู รียนบรู ณำหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี งเขำ้ กับหนว่ ยกำรเรียน Self-

introduction ได้

4. เน้อื หาสาระการเรียนรู้
4.1. Giving information about nationalities, capitals and countries
4.2. Greeting, introducing oneself and others and making a farewell
4.3. Giving information about people in families
4.4. Filling out personal data in a form
4.5. Writing a personal email

5. กิจกรรมการเรียนรู้

หวั ข้อ INTRODUCING ONESELF ครั้งที่ 1 / สัปดาหท์ ่ี 1 / ช่ัวโมงท่ี 1 – 2

- ผสู้ อนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน

- ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนศกึ ษำควำมหมำยคำศัพท์ที่จะได้ใชใ้ นหน่วยกำรเรยี น และฝกึ กำรออกเสยี ง

BRAINSTORMING: COUNTRIES & NATIONALITIES

- ผู้สอนให้ผเู้ รยี นกรอกข้อมูลช่ือสญั ชำติของประเทศตำ่ ง ๆ ท่ีกำหนด โดยเขยี นเติมข้อมูลลงในตำรำง

แลว้ แบ่งปนั คำตอบกบั เพ่ือนร่วมชนั้

- ผ้สู อนให้ผเู้ รียนฟังบุคคลจำกชำติ ASEAN แนะนำและใหข้ ้อมลู บคุ คล แลว้ ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนเขยี นชื่อ

ประเทศและสญั ชำตขิ องคนใน ASEAN

INTRODUCING ONESELF

- ผู้สอนใหค้ วำมรู้เก่ียวกบั วัฒนธรรมกำรทกั ทำยโดยใชอ้ วจั นภำษำรปู แบบต่ำง ๆ ขณะพดู ทกั ทำย เชน่

“hi”, “hello”, “good morning”, “good afternoon”, and “good evening.”

- ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนอำ่ นและฟังบทสนทนำเก่ียวกับกำรทักทำยและแนะนำตวั แลว้ ตอบคำถำม จำกนนั้

ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนศกึ ษำตัวอย่ำงกำรแนะนำตวั แล้วผู้เรยี นเขยี นคำแนะนำตนเองตำมตัวอยำ่ ง จำกน้นั พดู

แนะนำตนเองในชนั้ เรียน

- ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นอำ่ นบทสนทนำ แลว้ แทนท่สี ำนวนพูดที่ขดี เส้นใต้ ด้วยสำนวนพูดทก่ี ำหนด จำกนัน้ ฟัง

บทสนทนำเพื่อตรวจสอบคำตอบ

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนจับคสู่ ำนวนภำษำทีม่ ีควำมหมำยเหมอื นกัน ที่ใชใ้ นกำรพูดแนะนำตัว กำรทำควำมรู้จกั

ซงึ่ กันและกนั โดยเขียนคำตอบ (a, b, c ... ) ในชอ่ งวำ่ ง

- ผสู้ อนใหค้ วำมรู้ผเู้ รียนเก่ียวกับประเทศตำ่ ง ๆ และเมอื งหลวงทัว่ โลก ผเู้ รยี นแลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ่วมกนั
- ผ้สู อนให้ผู้เรยี นฟงั คลิปเสียงบุคคลแนะนำชือ่ ตนเอง สัญชำติ เมอื งหลวงและประเทศ แล้วผเู้ รยี นเขยี น

ประโยคใหข้ ้อมูลบคุ คลดงั กล่ำวลงในช่องวำ่ ง จำกนน้ั ผู้สอนใหผ้ ้เู รียนเขียนแนะนำตนเอง และพูด
แนะนำตนเองในชนั้ เรยี น
SPEAKING TASK

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นทำงำนเป็นคู่ อำ่ นและฟงั บทสนทนำตัวอยำ่ ง จำกน้นั ใหผ้ ้เู รียนเขียนบทสนทนำแนะนำ

ตนเองลงในช่องวำ่ ง แล้วใหผ้ ้เู รยี นแสดงบทบำทร่วมกับคู่ของตนเอง

หวั ข้อ INTRODUCING OTHERS AT WORK ครัง้ ท่ี 2 / สัปดาหท์ ่ี 2 / ช่ัวโมงที่ 3 – 4

- ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นอ่ำนบทสนทนำทไ่ี มส่ มบูรณแ์ ละเตมิ คำที่หำยไปลงในชอ่ งวำ่ ง แลว้ ฟังคลิปกำรสนทนำ

เพอื่ ตรวจสอบคำตอบ

- ผสู้ อนใหค้ วำมร้แู กผ่ ูเ้ รยี นเพมิ่ เติมเก่ียวกับวธิ กี ำรกล่ำวตอ้ นรับและคำอวยพรท่ีใชใ้ นชวี ิตประจำวัน

- ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นทำงำนกล่มุ ละ 3 คน อำ่ นและฟังบทสนทนำตวั อย่ำง จำกน้นั ให้ผู้เรียนเขยี นบทสนทนำ

แนะนำตนเองและผูอ้ ่ืนลงในช่องว่ำง โดยใช้สำนวนคำกลำ่ วตอ้ นรับและคำอวยพร แล้วให้ผเู้ รียนแสดง

บทบำทร่วมกบั คู่ของตนเอง

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนฝกึ กรอกข้อมูลบคุ คลลงในแบบฟอร์ม

RELATIONSHIP IN FAMILY

- ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนศกึ ษำ Family Tree จำกนัน้ ให้ผูเ้ รียนศกึ ษำคำศัพท์เกยี่ วกับควำมสัมพนั ธ์ของบุคคลใน

ครอบครัว

- ผู้สอนให้ผู้เรยี นอ่ำนและฟงั บทสนทนำท่ีกำหนด แลว้ นำข้อมูลมำเขยี น Family Tree

- ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนตอบคำถำมเกี่ยวกบั ขอ้ มลู บคุ คล โดยเขียนคำตอบลงในชอ่ งวำ่ ง

EMAIL WRITING

- ผู้สอนให้ผู้เรยี นศกึ ษำคำส่ังท่ีใช้ในอีเมล์ จำกน้ันนำคำศัพท์ท่กี ำหนดไปเติมลงประโยค ผเู้ รยี นวิเครำะห์

คำตอบร่วมกนั

WRITING TASK

- ผสู้ อนให้ผ้เู รียนอ่ำนอเี มลตวั อย่ำง เขียนอีเมล์เพื่อแนะนำตัวเองให้กบั เพ่ือนและส่งอเี มล์ไปยงั ผู้สอน ให้

ผ้เู รียนเขียนจดหมำยฉบับรำ่ งลงในชอ่ งวำ่ งท่ีกำหนด

- ผูส้ อนให้ผเู้ รียนเขียนข้อมลู ท่เี กดิ จำกควำมตระหนักร้แู ละสิ่งทีเ่ ปน็ แนวทำงในกำรดำเนินชีวิตโดยใชห้ ลกั

ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง ทน่ี ำมำบูรณำกำรเขำ้ หน่วยกำรเรียนรู้นี้ จำกน้นั แบ่งปนั ควำมรใู้ นชน้ั

เรยี น

- ผสู้ อนประเมนิ ผู้เรยี นด้ำนคุณธรรม จริยธรรม คำ่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ประจำหนว่ ยกำร

เรยี น

- ผู้สอนให้ผเู้ รยี นทำแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิท์ ำงกำรเรยี นท้ำยหน่วย จำนวน 20 ขอ้
- ผสู้ อนให้ผู้เรยี นประเมินระดับควำมร้คู วำมเข้ำใจของตน ทำ้ ยหน่วยกำรเรยี น

6. สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ การเรยี นรู้
6.1. สื่อส่ิงพิมพ์
6.1.1. ตำรำเรียนวิชำภำษำอังกฤษในชวี ติ จริง
6.1.2. รปู ภำพธงชำตปิ ระกอบกำรสอนเรอื่ งสัญชำติและประเทศ
6.2. สื่อโสตทศั น์ (ถ้าม)ี
6.2.1. VDO/MP4
6.2.2. MP3
6.3. หุ่นจาลองหรือของจรงิ (ไม่มี)
6.4. อน่ื ๆ (ถ้ามี)
6.4.1. แบบทดสอบประจำหน่วย
6.4.2. Facebook
6.4.3. Online Dictionary

7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบควำมรู้ ใบงำน ใบมอบหมำยงำน ฯลฯ)
7.1. พจนำนุกรมภำษำอังกฤษ – ภำษำไทย
7.2. ใบงำนกำรบูรณำกำรหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หัวขอ้ Self-introduction
7.3. แบบประเมินทักษะกำรพูด (Scoring Rubric)
7.4. แบบประเมินทกั ษะกำรเขยี น (Scoring Rubric)

8. การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธ์กบั วชิ าอ่ืน
8.1. กำรบูรณำกำรหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง
8.2. คุณธรรมพ้ืนฐำน 8 ประกำร
8.3. หลักคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คำ่ นิยมและคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์

9. การวัดและประเมินผล
9.1. กอ่ นเรยี น
9.1.1. กำรทดสอบก่อนเรยี น

9.2. ขณะเรยี น
9.2.1. กำรประเมินทักษะกำรพูด (บทบำทสมมุติหัวข้อ Introducing Oneself และ Introducing
Others at Work)
9.2.2. กำรประเมนิ ทกั ษะกำรเขยี น (Personal Data)

9.3. หลงั เรียน
9.3.1. กำรทดสอบหลังเรยี น (online)
9.3.2. กำรประเมนิ ผเู้ รยี นดำ้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่ำนิยมและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

10. บนั ทึกหลังสอน
10.1.ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
10.2.ผลการเรยี นร้ขู องนักเรยี น นักศกึ ษา
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

10.3.แนวทางการพฒั นาคุณภาพการเรยี นรู้
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

แผนการจดั การเรียนรทู้ มี่ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 2

บรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง สอนครั้งท่ี 3-4
ชั่วโมงรวม 4
วิชำ ภำษำองั กฤษในชีวิตจริง 20000-1201

ช่อื หน่วย Hobby & Health จานวนช่ัวโมง 4

__________________________________________________________________________________

1. สาระสาคัญ

Leisure activities or hobbies reduce health problems like a headache, a flu and a

heart disease. Avoid smoking and drinking alcohols when having health problems. Doing

exercise daily is good to everyone’s health.

2. สมรรถนะประจาหน่วย
2.1. สนทนำให้ขอ้ มูลบุคคลเกีย่ วกับงำนอดิเรก (hobbies) และส่งิ ท่สี นใจ (interests)
2.2. สอบถำมและให้ขอ้ มูลเกยี่ วกับสิ่งท่ีชอบ (likes) และไม่ชอบ (dislikes) เชน่ กิจกรรมยำมวำ่ ง กีฬำและ
วิชำท่ีศึกษำในโรงเรียน
2.3. สอบถำมและให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับปญั หำสขุ ภำพ (health)
2.4. ใหค้ ำแนะนำ (advice) เกยี่ วกบั สุขภำพ และกำรตอบรับคำแนะนำ
2.5. กรอกข้อมูลบคุ คลลงในแบบฟอรม์ ขอทนุ กำรศึกษำ (scholarship application form)
2.6. กรอกใบลำปว่ ย (leave request form)
2.7. สืบคน้ ขอ้ มลู บนระบบสำรสนเทศและแสดงควำมรู้ทำงภำษำอังกฤษ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1. ดา้ นความรู้
3.1.1. เพื่อให้ผเู้ รียนบอกชื่องำนอดิเรก กจิ กรรมยำมว่ำงและควำมสนใจของตนได้
3.1.2. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนมีควำมรเู้ กยี่ วกับกำรดแู ลสุขภำพ
3.1.3. เพื่อให้ผู้เรียนสำมำรถใช้พจนำนุกรมออนไลน์และอินเทอร์เนต็ แหล่งสืบคน้ ข้อมูลควำมรู้ใน
กำรพัฒนำทักษะภำษำอังกฤษได้
3.2. ดา้ นทกั ษะ
3.2.1. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถให้ข้อมูลเกี่ยวกับงำนอดิเรกและควำมสนใจได้
3.2.2. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถให้ข้อมูลเกยี่ วกับสิง่ ทช่ี ่ืนชอบและไม่ชอบได้
3.2.3. เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รียนสำมำรถให้คำแนะนำในกำรดแู ลปัญหำสุขภำพได้
3.2.4. เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รียนสำมำรถกรอกข้อมลู ลงในแบบฟอรม์ ได้

3.3. คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์
3.3.1. เพอื่ ให้ผเู้ รยี นบูรณำคุณธรรมพน้ื ฐำน 8 ประกำร คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คำ่ นยิ มและคุณลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์เป็นแนวทำงทำงในกำรดำรงชวี ติ และกำรทำงำนได้
3.3.2. เพือ่ ให้ผเู้ รยี นบูรณำหลักปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียงเข้ำกับหน่วยกำรเรียน Self-
introduction ได้

4. เน้ือหาสาระการเรียนรู้
4.1. Talking about hobbies and interests
4.2. Expressing likes and dislikes
4.3. Talking about health
4.4. Giving advice (Imperative)
4.5. Completing a scholarship application form
4.6. Completing a leave request form

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

หัวข้อ HOBBIES & INTERESTS คร้งั ที่ 3 / สัปดาหท์ ่ี 3 / ช่ัวโมงที่ 5 – 6

- ผู้สอนให้ผ้เู รยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

- ผสู้ อนใหผ้ ้เู รยี นศึกษำควำมหมำยคำศัพท์ที่จะไดใ้ ชใ้ นหน่วยกำรเรยี น และฝึกกำรออกเสยี ง

BRAINSTORMING

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนเขยี นกรยิ ำวลี โดยเร่มิ ต้นแต่ละวลีด้วย “going”, “doing”, หรอื “playing” จำกนน้ั นำ

อภิปรำยคำตอบร่วมกนั ในช้ันเรยี น

- ผสู้ อนให้ผู้เรียนระบุช่อื วชิ ำท่ีตนเองชอบจำนวน 5 วิชำ โดยเขยี น 1-5 ลงในกล่องส่เี หลย่ี ม จำกนัน้ ผสู้ อน

ถำมผู้เรยี น เพื่อสำรวจและตรวจสอบควำมเขำ้ ใจ โดยใชโ้ ครงสรำ้ งทำงภำษำทกี่ ำหนด

HOBBIES & INTERESTS

- ผสู้ อนให้ผเู้ รียนฟงั ผคู้ นสนทนำเกย่ี วกับงำนอดิเรกและควำมสนใจ จำกน้นั นำคำศัพทเ์ ก่ยี วกับงำนอดเิ รก

และควำมสนใจไปเขียนบรรยำยใต้รปู ภำพ ผูส้ อนใหผ้ เู้ รยี นแสดงคำตอบ

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนอำ่ นและฟังบทสนทนำ แล้วใหข้ ้อมูลเกยี่ วกับงำนอดเิ รกและควำมสนใจของตน

- ผสู้ อนให้ควำมรู้เกยี่ วกบั กำรใช้ Adverbs of Frequency โดยใหผ้ เู้ รียนศกึ ษำจำกตวั อยำ่ ง จำกนั้นนำ

Adverbs of Frequency ไปเตมิ ลงในประโยคเพ่ือให้ข้อมูลเก่ียวกบั กจิ กรรมยำมวำ่ งหรืองำนอดิเรก

และควำมถ่ีควำมบ่อยของกำรกระทำ

- ผู้สอนใหค้ วำมรู้เพิม่ เตมิ เก่ยี วกับกำรให้ข้อมลู สง่ิ ที่ชื่นชอบและไมช่ อบ โดยใหผ้ เู้ รยี นศึกษำกำรใช้คำจำก

ตวั อยำ่ ง จำกนนั้ ผู้สอนให้ผเู้ รียนตอบคำถำมที่กำหนดเก่ียวกบั ควำมชอบและไม่ชอบของตน

- ผสู้ อนให้ผู้เรยี นทำกิจกรรมคู่ กรอกข้อมูลเกี่ยวกบั ส่ิงท่ชี ืน่ ชอบและไม่ชอบลงในตำรำง จำกน้ันผสู้ อนให้

ผู้เรยี นอำ่ นและฟงั บทสนทนำ แล้วแทนทคี่ ำท่ีขดี เส้นใต้ดว้ ยขอ้ มลู ของตัวเอง และเขยี นบทสนทนำของ
ตนเองใหมใ่ นชอ่ งว่ำง

- ผู้สอนให้ผู้เรยี นจัดเรียงประโยคใหม่ เพ่ือสรำ้ งบทสนทนำท่ีมใี จควำมสมบูรณ์ แลว้ เขยี นบทสนทนำนั้นลง

ในชอ่ งวำ่ ง ผ้สู อนใหผ้ ูเ้ รยี นฟังคลิปกำรสนทนำเพ่ือตรวจสอบคำตอบ
SPEAKING TASK

- ผู้สอนใหผ้ ้เู รียนทำงำนเป็นคู่ โดยอำ่ นและฟงั บทสนทนำตวั อย่ำง แล้วสรำ้ งบทสนทนำของตนเอง

เกยี่ วกับงำนอดเิ รกและควำมสนใจ จำกนัน้ ผ้สู อนให้ผู้เรียนแสดงบทบำทสมมติร่วมกับเพ่ือนของตนเอง
ผสู้ อนประเมินทักษะกำรพดู ของผูเ้ รยี นโดยใช้แบบประเมนิ ทักษะกำรพูด

หวั ข้อ TAKING MESSAGES ครงั้ ท่ี 4 / สัปดาหท์ ี่ 4 / ชั่วโมงท่ี 7 – 8

TALKING ABOUT HEALTH

- ผสู้ อนให้ผู้เรยี นฟงั คลปิ กำรสนทนำเกีย่ วกบั ปัญหำสุขภำพ จำกนั้นนำคำศพั ท์เก่ียวกับปัญหำสขุ ภำพไป

บรรยำยใตร้ ปู ภำพท่ีกำหนด ให้ฝึกกำรถำม-ตอบคำถำมโดยใชส้ ำนวนภำษำท่กี ำหนดและอภิปรำย

คำตอบร่วมกันในชั้นเรยี น

- ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นอำ่ นและฟงั บทสนทนำ แลว้ ตอบคำถำม

- ผสู้ อนสอดแทรกควำมรู้คำศัพทเ์ พ่มิ เตมิ โดยให้ผเู้ รียนฝกึ กำรออกเสียงคำและคน้ หำควำมหมำย

- ผู้สอนให้ควำมรผู้ ้เู รียนเกีย่ วกับกำรใช้สำนวนภำษำในกำรตอบรบั และปฏิเสธกำรให้คำแนะนำ และ

ยกตัวอย่ำงเพ่มิ เติม

- ผู้สอนใหผ้ ูเ้ รียนอ่ำนบทสนทนำท่ีไม่สมบรู ณ์ แล้วเติมคำท่ีขำดหำยไปลงในชอ่ งว่ำง โดยใช้คำท่กี ำหนด

จำกนน้ั ผ้สู อนให้ผ้เู รียนฟังคลิปเสียงกำรสนทนำเพ่อื ตรวจสอบคำตอบ

- ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นดภู ำพและสงั เกตอำกำร อำ่ นประโยคที่ไม่สมบูรณ์ เติมคำลงในชอ่ งว่ำงด้วย "always"

หรอื "never" จำกน้นั อภปิ รำยคำตอบร่วมกันในชน้ั เรยี น

- ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนศกึ ษำตัวอยำ่ งกำรเขียนประโยค และจัดเรยี งคำที่กำหนดใหมเ่ พ่ือสร้ำงประโยคท่มี ี

ควำมหมำยสมบูรณ์ แลว้ เขียนลงในชอ่ งวำ่ ง จำกนั้นอภปิ รำยคำตอบร่วมกนั ในช้ันเรียน

SPEAKING TASK

- ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนทำงำนเปน็ คู่ โดยอ่ำนและฟงั บทสนทนำตวั อย่ำง จำกนนั้ ใหเ้ ขยี นบทสนทนำเก่ียวกบั

ปญั หำสขุ ภำพและกำรให้คำแนะนำลงในชอ่ งว่ำง แลว้ แสดงบทบำทร่วมกบั คู่ของตนเอง

SICK LEAVE & REQUEST

- ผู้สอนให้ผเู้ รียนอำ่ นและฟังบทสนทนำ แลว้ กรอกข้อมลู ลงในแบบฟอรม์ ใบลำ

- ผสู้ อนให้ผเู้ รียนศกึ ษำตวั อยำ่ งอเี มล์ จำกนัน้ เขยี นอีเมล์เพื่อขอลำป่วยและส่งไปให้ผ้สู อน

WRITING TASK

- ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นประเมินทักษะของตนเอง จำกน้ันให้ผู้เรียนกรอกขอ้ มลู ของตนเองลงในใบสมัคร

ทนุ กำรศึกษำ

- ผ้สู อนใหผ้ เู้ รียนเขยี นข้อมูลที่เกดิ จำกควำมตระหนักรู้และสิ่งที่เป็นแนวทำงในกำรดำเนนิ ชีวติ โดยใช้หลัก

ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง ที่นำมำบรู ณำกำรเข้ำหน่วยกำรเรียนร้นู ้ี จำกนนั้ แบ่งปนั ควำมรใู้ นช้ัน
เรียน

- ผู้สอนประเมนิ ผู้เรียนด้ำนคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ประจำหนว่ ยกำร

เรียน

- ผสู้ อนให้ผู้เรยี นทำแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทำงกำรเรียนท้ำยหน่วย จำนวน 20 ข้อ
- ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนประเมนิ ระดบั ควำมรู้ควำมเข้ำใจของตน ท้ำยหน่วยกำรเรียน

7. สือ่ การเรยี นร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้
7.1. ส่อื สงิ่ พมิ พ์
7.1.1. ตำรำเรยี นวชิ ำภำษำองั กฤษในชวี ิตจริง
7.1.2. รปู ภำพงำนอดิเรก
7.1.3. รูปภำพปญั หำสขุ ภำพ
7.2. สอื่ โสตทศั น์ (ถา้ มี)
7.2.1. VDO/MP4
7.2.2. MP3
7.3. หุ่นจาลองหรือของจรงิ (ไม่มี)
7.4. อนื่ ๆ (ถา้ มี)
7.4.1. แบบทดสอบประจำหน่วย
7.4.2. Facebook
7.4.3. Online Dictionary

8. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบควำมรู้ ใบงำน ใบมอบหมำยงำน ฯลฯ)
7.5. พจนำนุกรมภำษำอังกฤษ – ภำษำไทย
7.6. ใบงำนกำรบรู ณำกำรหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง หัวข้อ Hobbies & Health
7.7. แบบประเมนิ ทกั ษะกำรพูด (Scoring Rubric)
7.8. แบบประเมินทกั ษะกำรเขียน (Scoring Rubric)

9. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวชิ าอ่ืน
8.4. กำรบรู ณำกำรหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง

8.5. คุณธรรมพน้ื ฐำน 8 ประกำร
8.6. หลกั คุณธรรม จรยิ ธรรม คำ่ นิยมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์

10. การวดั และประเมินผล
9.4. กอ่ นเรยี น
9.4.1. กำรทดสอบก่อนเรียน
9.5. ขณะเรยี น
9.5.1. กำรประเมนิ ทักษะกำรพูด (บทบำทสมมุตหิ วั ขอ้ Talking about Hobbies & Interests
และ Talking about Health Problems)
9.5.2. กำรประเมินทักษะกำรเขียน (Filling Forms)
9.6. หลงั เรียน
9.6.1. กำรทดสอบหลงั เรยี น (online)
9.6.2. กำรประเมนิ ผเู้ รยี นดำ้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนยิ มและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

11. บนั ทกึ หลังสอน
10.4.ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
10.5.ผลการเรียนรูข้ องนกั เรยี น นักศึกษา
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

10.6.แนวทางการพฒั นาคุณภาพการเรยี นรู้
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ม่งุ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 3

บรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สอนครัง้ ท่ี 5-7
ชวั่ โมงรวม 6
วิชำ ภำษำองั กฤษในชวี ิตจริง 20000-1201

ชือ่ หน่วย Telephone จานวนช่ัวโมง 6

__________________________________________________________________________________

6. สาระสาคญั

Telephoning is the most convenient and fastest way of communication for

personal and business purposes. Telephone users must learn and know expressions used

in telephoning as well as the telephone etiquette.

7. สมรรถนะประจาหน่วย
2.1. บอกช่ือปุ่มใช้งำนบนโทรศัพท์ รหสั ประเทศ โคด้ อักษรสำหรบั ใชส้ ะกดทำงโทรศัพท์ และอกั ษรย่อ
ทใี่ ชใ้ นกำรโทรศัพท์โดยทวั่ ไป
2.2. สนทนำโตต้ อบโต้ตอบทำงโทรศัพท์ (Making a phone contact)
2.3. ฝำกและรับข้อควำมทำงโทรศัพท์ (Leaving and taking phone messages)
2.4. เขียนจดหมำยอิเลก็ ทรอนิกส์แนะนำธุรกจิ
2.5. ใชภ้ ำษำตำมมำรยำทสังคมและวัฒนธรรมในกำรตดิ ต่อทำงโทรศัพท์
2.6. สืบคน้ ขอ้ มลู บนระบบสำรสนเทศและแสดงควำมรู้ทำงภำษำองั กฤษ

8. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.4. ดา้ นความรู้
3.4.1. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถบอกหน้ำท่ีปมุ่ ใชง้ ำนบนโทรศพั ท์ได้
3.4.2. เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นมีควำมรูเ้ กย่ี วกับกำรใชโ้ ทรศพั ทเ์ ช่นรหสั ประเทศ กำรอ่ำนหมำยเลขโทรศัพท์
และกำรโคด้ อกั ษรท่ใี ช้ในกำรโทรศพั ท์
3.4.3. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นสำมำรถใช้พจนำนุกรมออนไลน์และอินเทอร์เนต็ แหลง่ สบื ค้นข้อมลู ควำมรู้ใน
กำรพัฒนำทกั ษะภำษำองั กฤษได้
3.5. ดา้ นทักษะ
3.5.1. เพือ่ ให้ผู้เรยี นสำมำรถสนทนำโตต้ อบทำงโทรศัพท์ได้
3.5.2. เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนสำมำรถรบั และฝำกขอ้ ควำมทำงโทรศัพทไ์ ด้
3.5.3. เพื่อใหผ้ เู้ รียนสำมำรถเขยี นถ่ำยโอนขอ้ มลู จำกส่ิงท่ีอำ่ นหรือฟังได้
3.5.4. เพื่อให้ผเู้ รยี นสำมำรถเขยี นจดหมำยอิเล็กทรอนิกส์เพ่ือแนะนำธรุ กิจได้

3.6. คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์
3.6.1. เพือ่ ให้ผู้เรียนบรู ณำคุณธรรมพืน้ ฐำน 8 ประกำร คณุ ธรรม จริยธรรม ค่ำนยิ มและคณุ ลักษณะ
อนั พึงประสงค์เปน็ แนวทำงทำงในกำรดำรงชีวติ และกำรทำงำนได้
3.6.2. เพ่อื ให้ผู้เรยี นบรู ณำหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งเข้ำกบั หนว่ ยกำรเรียน Telephone ได้

9. เนือ้ หาสาระการเรียนรู้
4.1. Defining functions on phones, country codes, alphabet codes for spelling, and
abbreviations in telephoning
4.2. Making a phone contact
4.3. Leaving and taking phone messages
4.4. Writing an email for a business purpose

10. กจิ กรรมการเรียนรู้

หัวข้อ MAKING A PHONE CONTACT ครงั้ ท่ี 5 / สัปดาหท์ ่ี 5 / ช่ัวโมงท่ี 9 – 10

- ผสู้ อนให้ผ้เู รียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน

- ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นศกึ ษำควำมหมำยคำศัพท์ทจ่ี ะได้ใชใ้ นหน่วยกำรเรยี น และฝึกกำรออกเสยี ง

TELEPHONE BASICS

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นดูสญั ลักษณ์ จำกน้ันระบุฟังกช์ ั่นบนสมำรท์ โฟน โดยเลือกคำตอบจำกรำยกำรคำศัพท์ท่ี

กำหนด แลว้ เขยี นคำตอบไว้ใต้สญั ลกั ษณ์ ผ้สู อนใหผ้ ้เู รยี นอภปิ รำยคำตอบท่ีไดร้ ่วมกนั ในชน้ั เรยี น

- ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนอ่ำนและฟังบทสนทนำ จำกนนั้ คน้ หำรหัสโทรศพั ท์ของประเทศต่ำง ๆ ในอำเซียนและ

กรอกขอ้ มูลลงในช่องว่ำง แล้วอภปิ รำยคำตอบรว่ มกันในช้ันเรยี น

COUNTRY CALLING CODES

- ผู้สอนให้ควำมรเู้ พิม่ เติมเก่ียวกับรหสั โทรศพั ท์ของประเทศต่ำง ๆ ท่วั โลก จำกตัวอย่ำง จำกนั้นใหผ้ เู้ รียน

ฟงั คลปิ กำรสนทนำเก่ยี วกบั รหสั โทรศพั ท์ของประเทศต่ำง ๆ และเติมขอ้ มลู ที่หำยไปลงในช่องว่ำง แล้ว

อภิปรำยคำตอบรว่ มกันในชน้ั เรียน

- ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนจับคู่ ระบชุ ือ่ ปุ่มใช้งำนบนโทรศัพทม์ ือถือเพ่ือจะใช้งำนตำมจุดประสงค์ท่ีกำหนด แล้ว

อภปิ รำยคำตอบรว่ มกนั ในชน้ั เรยี น

- ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นอำ่ นบทสนทนำทไ่ี ม่สมบูรณแ์ ละเตมิ คำที่หำยไปลงในช่องวำ่ ง ใหผ้ ูเ้ รียนฟังคลปิ กำร

สนทนำเพ่ือตรวจสอบคำตอบ

MAKING A PHONE CONTACT

- ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นอ่ำนและฟงั บทสนทนำ และตอบคำถำมท่ีกำหนด

- ผู้สอนใหผ้ ้เู รียนอำ่ นและฟงั บทสนทนำ จำกนน้ั ใช้วลที กี่ ำหนดเพ่อื แทนทว่ี ลีที่ถกู ขีดเสน้ ใต้ในบทสนทนำ

ให้ผเู้ รยี นเขียนบทสนทนำใหม่ลงในช่องวำ่ ง

- ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นศึกษำสำนวนภำษำทีใ่ ช้ในโทรศัพท์เชน่ กำรขอร้อง กำรสอบถำมช่ือผู้ตดิ ต่อ กำรแจ้งใหผ้ ู้

ติดตอ่ รอสำยและกำรแจง้ เร่ืองกำรโอนสำย โดยให้ศึกษำจำกตวั อย่ำงและยกตวั อย่ำงเพ่ิมเติม

- ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นอ่ำนสำนวนที่ใชใ้ นกำรโทรศัพท์ แลว้ เติมคำที่หำยไปลงในช่องวำ่ ง โดยเลือกคำตอบจำก

คำหรอื สำนวนทก่ี ำหนด แลว้ อภิปรำยคำตอบร่วมกันในชั้นเรยี น
TELEPHONE PHRASES

- ผสู้ อนให้ผู้เรียนฟังคลิปกำรสนทนำทำงโทรศัพท์ จำกนน้ั ให้ระบุว่ำสำนวนภำษำหรอื วลที กี่ ำหนด ถูกใช้

โดยใครระหวำ่ ง “Operator” กับ “Caller” แลว้ อภปิ รำยคำตอบรว่ มกันในชั้นเรียน
SPEAKING TASK

- ผู้สอนให้ผู้เรียนทำงำนเปน็ คู่ อ่ำนและฟงั บทสนทนำตัวอย่ำง จำกน้นั เขยี นบทสนทนำกำรติดต่อทำง

โทรศัพท์ และแสดงบทบำทร่วมกับคู่ของตนเอง ผู้สอนประเมนิ ทกั ษะกำรพดู ของผู้เรียนโดยใชแ้ บบ
ประเมินทักษะกำรพดู

หัวข้อ LEAVING & TAKING PHONE MESSAGES ครง้ั ที่ 6 / สัปดาหท์ ่ี 6 / ช่ัวโมงที่ 11 – 12

- ผูส้ อนให้ผู้เรยี นอ่ำนบทสนทนำทำงโทรศัพทแ์ ละตอบคำถำม จำกนนั้ ผูส้ อนให้ควำมรู้ผูเ้ รยี นเพมิ่ เติม

เก่ยี วกับโค้ดอักษรท่ีใช้ทำงโทรศัพท์ ต้ังแต่ A – Z

- ผู้สอนให้ผู้เรยี นอำ่ นและฟังคลปิ กำรสนทนำทำงโทรศพั ท์ จำกนน้ั กรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์ม แลว้

อภปิ รำยคำตอบร่วมกนั ในช้ันเรียน

- ผสู้ อนให้ผเู้ รียนศึกษำสำนวนภำษำทำงโทรศัพทเ์ พ่มิ เติมเช่นกำรแจ้งเหตุท่ีไมส่ ำมำรถโอนสำย กำรรบั -

ฝำกขอ้ ควำมทำงโทรศัพท์ กำรแจง้ ปญั หำระบบสญั ญำณและกำรรับปำกเพ่ือทำตำมคำขอของผตู้ ดิ ต่อ
โดยให้ผเู้ รียนศกึ ษำจำกตวั อย่ำงและยกตัวอยำ่ งเพิ่มเติม

- ผู้สอนสอดแทรกควำมร้เู ก่ียวกบั อักษรย่อท่ใี ชใ้ นขอ้ ควำมทำงโทรศพั ท์ และยกตัวอย่ำงเพมิ่ เตมิ จำกกำร

อภิปรำยรว่ มกนั ในชัน้ เรียน

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นฟงั คลปิ กำรสนทนำทำงโทรศัพท์และเติมคำที่หำยไปลงในช่องว่ำง และตอบคำถำม

จำกนั้นอภปิ รำยคำตอบร่วมกันในชั้นเรียน

- ผู้สอนใหผ้ ้เู รียนอำ่ นข้อควำมท่ีฝำกไว้ทำงโทรศัพท์ แล้วนำข้อมลู ไปเติมลงในบทสนทนำใหส้ มบรู ณ์

จำกน้ันให้ผู้เรยี นฟงั คลปิ กำรสนทนำเพื่อตรวจสอบคำตอบ
SPEAKING TASK

- ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนทำงำนเป็นคู่ อำ่ นและฟังบทสนทนำตวั อย่ำง จำกน้นั เขียนบทสนทนำเกยี่ วกับกำรรับ –

ฝำกขอ้ ควำมทำงโทรศัพท์ ให้ผูเ้ รียนแสดงบทบำทสมมตริ ว่ มกบั คู่ของตนเอง รวมท้ังกำรบันทกึ ข้อควำม
ทำงโทรศัพท์ลงในแบบฟอร์ม ผสู้ อนประเมนิ ทักษะกำรพูดของผ้เู รียนโดยใช้แบบประเมินทกั ษะกำรพูด

หัวข้อ WRITING BUSINESS EMAILS ครง้ั ที่ 7 / สัปดาห์ที่ 7 / ชั่วโมงที่ 13 – 14

- ผสู้ อนให้ผู้เรยี นอำ่ นข้อควำมทำงอีเมล์และตอบคำถำม จำกน้ันอภปิ รำยคำตอบร่วมกันในชัน้ เรยี น

WRITING TASK

- ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนเขยี นอีเมลเ์ พ่ือแนะนำบรษิ ัทใหม่ ตำมรปู แบบทีก่ ำหนด แล้วสง่ ใหผ้ สู้ อน ผู้สอนประเมนิ

ทกั ษะกำรเขียนของผเู้ รียนโดยใชแ้ บบประเมินทกั ษะกำรเขียน

- ผูส้ อนใหผ้ เู้ รียนเขียนข้อมลู ทเี่ กิดจำกควำมตระหนักรู้และส่ิงทเี่ ปน็ แนวทำงในกำรดำเนนิ ชวี ติ โดยใชห้ ลัก

ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง ท่นี ำมำบูรณำกำรเขำ้ หน่วยกำรเรียนรนู้ ้ี จำกน้ันแบง่ ปันควำมรใู้ นชนั้

เรียน

- ผู้สอนประเมินผูเ้ รียนดำ้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คำ่ นิยมและคุณลกั ษณะอันพึงประสงคป์ ระจำหน่วยกำร

เรยี น

- ผู้สอนให้ผูเ้ รียนทำแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธท์ิ ำงกำรเรียนท้ำยหนว่ ย จำนวน 20 ข้อ

- ผสู้ อนให้ผู้เรยี นประเมินระดบั ควำมรูค้ วำมเข้ำใจของตน ทำ้ ยหน่วยกำรเรียน

11. สอ่ื การเรียนรู้/แหลง่ การเรยี นรู้
11.1. สอ่ื สง่ิ พิมพ์
11.1.1. ตำรำเรยี นวิชำกำรเขยี นภำษำอังกฤษในชวี ิตประจำวนั
11.1.2. ภำพ Icons หรือ Symbols ทเ่ี ปน็ ฟังกช์ ่นั ใช้งำนบนโทรศัพท์
11.2. สอ่ื โสตทัศน์ (ถา้ ม)ี
11.2.1. VDO/MP4
11.2.2. MP3
11.3. หุ่นจาลองหรือของจริง (ถา้ มี)
11.3.1. Email (Gmail)
11.3.2. Mobile Phone
11.4. อนื่ ๆ (ถ้าม)ี
11.4.1. แบบทดสอบออนไลน์ประจำหนว่ ย
11.4.2. Online Dictionary (ldoceonline.com/dict.longdo.com)
11.4.3. Facebook

12. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ใบควำมรู้ ใบงำน ใบมอบหมำยงำน ฯลฯ)
7.9. พจนำนุกรมภำษำอังกฤษ – ภำษำไทย
7.10. ใบงำนกำรบูรณำกำรหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หัวขอ้ Telephone
7.11. แบบประเมนิ ทกั ษะกำรพูด (Scoring Rubric)
7.12. แบบประเมนิ ทกั ษะกำรเขยี น (Scoring Rubric)

13. การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธก์ ับวิชาอื่น
8.7. กำรบรู ณำกำรหลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง
8.8. คุณธรรมพน้ื ฐำน 8 ประกำร
8.9. หลักคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์

14. การวัดและประเมินผล
9.7. กอ่ นเรียน
9.7.1. กำรทดสอบก่อนเรยี น
9.8. ขณะเรยี น
9.8.1. กำรประเมนิ ทกั ษะกำรพูด (บทบำทสมมตุ หิ วั ขอ้ Making a Phone Contact และ Leaving
and Taking Phone Messages)
9.8.2. กำรประเมินทกั ษะกำรเขยี น (Business Email)
9.9. หลงั เรียน
9.9.1. กำรทดสอบหลังเรียน (online)
9.9.2. กำรประเมินผเู้ รียนดำ้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่ำนยิ มและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

15. บนั ทึกหลังสอน
10.1. ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

10.2. ผลการเรียนรู้ของนกั เรียน นักศกึ ษา
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

10.3. แนวทางการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นรู้
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ีม่ ุง่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 4

บรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอนครั้งที่ 8-10
ชวั่ โมงรวม 6
วชิ ำ ภำษำอังกฤษในชีวติ จรงิ 20000-1201

ช่อื หน่วย Journey จานวนช่วั โมง 6

________________________________________________________________________________

16. สาระสาคญั
When travelling to places around to world, travelers need to make travel plans

such as booking a plane ticket, hotel accommodation, a car rental and a tour program. At
present time, the booking can be made online.

17. สมรรถนะประจาหน่วย
2.1. บอกชอ่ื สถำนที่ (places) และทำเลท่ตี ั้ง (locations)
2.2. สอบถำมและให้ข้อมลู เกย่ี วกับสถำนกำรณ์หรือกำรกระทำทกี่ ำลงั เกิดข้ึน (happening situations)
2.3. สอบถำมและบอกเสน้ ทำงหรือทิศทำง (directions)
2.4. จองต๋วั เครื่องบนิ (plane tickets)
2.5. อ่ำนตำรำงเวลำเทยี่ วบิน (flight schedule)
2.6. กรอกแบบฟอรม์ จองต๋วั เคร่ืองบนิ หรอื เท่ียวบนิ (reservation form)
2.7. สืบคน้ ข้อมูลบนระบบสำรสนเทศและแสดงควำมรู้ทำงภำษำองั กฤษ

18. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.7. ด้านความรู้
3.7.1. เพื่อให้ผ้เู รียนสำมำรถบอกชอื่ สถำนท่ีได้
3.7.2. เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นมีควำมร้เู ก่ยี วกับวธิ ีกำรจองตั๋วเครื่องบิน
3.7.3. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นสำมำรถใช้พจนำนุกรมออนไลนแ์ ละอนิ เทอร์เนต็ แหลง่ สบื คน้ ข้อมลู ควำมรู้ในกำร
พฒั นำทักษะภำษำอังกฤษได้
3.8. ดา้ นทักษะ
3.8.1. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถสนทนำโต้ตอบเกยี่ วกบั สถำนกำรณห์ รอื กำรกระทำที่กำลังเกดิ ขน้ึ ได้
3.8.2. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนสำมำรถบอกทศิ ทำงและตำแหนง่ สถำนที่ได้
3.8.3. เพือ่ ให้ผู้เรียนสำมำรถสนทนำโต้ตอบกำรจองต๋วั เครื่องบนิ ได้
3.8.4. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสำมำรถอ่ำนตำรำงกำรบนิ ได้
3.8.5. เพื่อให้ผู้เรียนสำมำรถกรอกแบบฟอร์มสำหรบั จองตัว๋ เครื่องบินได้
3.9. คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์

3.9.1. เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนบรู ณำคุณธรรมพ้นื ฐำน 8 ประกำร คณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยมและคุณลกั ษณะ
อนั พึงประสงคเ์ ปน็ แนวทำงทำงในกำรดำรงชีวติ และกำรทำงำนได้

3.9.2. เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นบูรณำหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งเขำ้ กับหนว่ ยกำรเรยี น Journey ได้

19. เนอ้ื หาสาระการเรยี นรู้
4.1. Defining Places & Locations
4.2. Talking about Happening Situations
4.3. Giving Directions
4.4. Booking a Plane Ticket
4.5. Reading a Flight Schedule
4.6. Completing an Airline Reservation Form

20. กิจกรรมการเรยี นรู้

หัวข้อ DEFINING PLACES & LOCATIONS คร้ังที่ 8 / สัปดาห์ที่ 8 / ช่ัวโมงที่ 15 – 16

- ผู้สอนให้ผเู้ รียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น

- ผสู้ อนให้ผูเ้ รยี นศกึ ษำควำมหมำยคำศัพท์ท่ีจะไดใ้ ชใ้ นหน่วยกำรเรยี น และฝกึ กำรออกเสียง

BRAINSTORMING

- ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนดรู ูปภำพเก่ียวกับกำรบอกทิศทำงและสัญลักษณส์ ถำนท่ี แลว้ เขยี นคำบรรยำยกำกบั ภำพ

แล้วอภปิ รำยคำตอบร่วมกนั ในชั้นเรยี น

DEFINING PLACES & LOCATIONS

- ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นฟงั คลปิ กำรสนทนำเกีย่ วกับสถำนทแี่ ละตำแหนง่ ใหใ้ ช้คำศัพท์จำกบทสนทนำเขียน

บรรยำยใตภ้ ำพสัญลกั ษณห์ รือ Icon จำกนน้ั อภิปรำยคำตอบรว่ มกันในชนั้ เรยี น

- ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนจับคู่คำศพั ท์บอกสถำนที่ กับ กจิ กรรมทส่ี ำมำรถทำไดใ้ นสถำนที่นัน้ ๆ โดยเขยี นคำตอบ

(a, b, c…) ลงในชอ่ งวำ่ ง แลว้ อภิปรำยคำตอบร่วมกนั ในชั้นเรยี น จำกนนั้ ฝกึ กำรถำมตอบโดยใช้

โครงสร้ำงทำงภำษำทกี่ ำหนด

- ผู้สอนให้ควำมรู้ผเู้ รยี นเพิ่มเติมเกย่ี วกับหลกั กำรใชภ้ ำษำเรื่อง Present Continuous Tense โดยให้

ผู้เรยี นศึกษำจำกตวั อย่ำง จำกนนั้ ตอบคำถำมท่ีกำหนด

- ผู้สอนใหผ้ ้เู รยี นอ่ำนประโยคแล้วเตมิ คำลงในชอ่ งวำ่ ง โดยใช้ Preposition ทกี่ ำหนด แล้วอภปิ รำยคำตอบ

ร่วมกันในชนั้ เรียน

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนอ่ำนสำนวนภำษำท่ีใช้ในกำรบอกทิศทำงหรือตำแหน่งสถำนที่ และเตมิ คำที่หำยไปใน

ช่องว่ำง แลว้ อภิปรำยคำตอบรว่ มกันในช้นั เรยี น

- ผสู้ อนให้ผู้เรยี นตอบคำถำมเก่ียวกบั สถำนทแี่ ละตำแหน่ง ทิศทำง โดยใช้ Preposition ท่ีกำหนด แล้ว

อภปิ รำยคำตอบรว่ มกนั ในช้ันเรียน

TOURIST ATTRACTIONS

- ผู้สอนให้ผู้เรยี นศกึ ษำคำศัพท์เกีย่ วกบั สถำนท่ีทอ่ งเที่ยว บอกควำมหมำยและฝกึ ออกเสียง ผู้สอนให้ผเู้ รยี น
ยกตัวอยำ่ งคำศัพทเ์ กย่ี วกับสถำนทีเ่ พ่ิมเตมิ แลว้ อภปิ รำยรว่ มกันในชัน้ เรยี น

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนจัดเรยี งประโยคหรือสำนวนภำษำอังกฤษเพ่ือสรำ้ งบทสนทนำท่ีมีใจควำมสมบรู ณ์ ฟังคลปิ
กำรสนทนำเพื่อตรวจสอบคำตอบ จำกนั้นเขียนบทสนทนำท่สี มบูรณ์ลงในช่องว่ำง

- ผู้สอนให้ผเู้ รียนอ่ำนและฟงั คลิปบทสนทนำ แลว้ ตอบ “true” หรือ “false” แลว้ อภิปรำยคำตอบรว่ มกนั
ในชัน้ เรียน

- ผ้สู อนใหผ้ เู้ รยี นอ่ำนบทสนทนำท่ีไมส่ มบูรณ์ แลว้ เติมคำทห่ี ำยไปลงในช่องวำ่ ง จำกน้นั ใหผ้ ู้เรียนฟังคลปิ
กำรสนทนำเพ่ือตรวจสอบคำตอบ

SPEAKING TASK
- ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนทำงำนเปน็ คู่ อำ่ นและฟังบทสนทนำตวั อยำ่ ง จำกนัน้ เขียนบทสนทนำเกี่ยวกับกำรวำงแผน

เดนิ ทำง สถำนที่และตำแหน่งสถำนที่ แล้วแสดงบทบำทสมมตริ ว่ มกบั คู่ของตนเอง ผู้สอนประเมนิ ทักษะ
กำรพดู ของผ้เู รยี น โดยใช้แบบประเมนิ ทักษะกำรพดู

หัวข้อ BOOKING A PLANE TICKET คร้ังท่ี 9 / สัปดาหท์ ่ี 9 / ช่ัวโมงที่ 17 – 18

- ผู้สอนให้ผู้เรยี นอำ่ นตำรำงเท่ียวบนิ และตอบคำถำม แล้วอภปิ รำยคำตอบรว่ มกันในช้ันเรียน

- ผู้สอนใหผ้ ้เู รยี นอ่ำนและฟังบทสนทนำ แลว้ ตอบ “true” หรอื “false” จำกนัน้ ข้อมลู กำรจองเที่ยวบินลง

ในแบบฟอร์ม แล้วอภิปรำยคำตอบร่วมกนั ในช้นั เรียน

- ผสู้ อนให้ผเู้ รียนอำ่ นตัว๋ เครื่องบนิ และเตมิ ข้อมูลลงในประโยคให้สมบรู ณ์ แล้วอภิปรำยคำตอบรว่ มกนั ใน

ชั้นเรียน

- ผสู้ อนสอดแทรกควำมรู้คำศัพท์เกย่ี วกบั เท่ียวบินแกผ่ เู้ รียน ศึกษำควำมหมำยและฝึกกำรออกเสียง แลว้ ให้

ผู้เรียนยกตวั อย่ำงเพมิ่ เติม

- ผู้สอนให้ผูเ้ รียนอ่ำนบทสนทนำท่ไี มส่ มบรู ณ์ แลว้ เติมคำทหี่ ำยไปลงในชอ่ งวำ่ ง โดยเลือกคำศพั ท์ท่ีจะนำไป

เตมิ ลงในชอ่ งวำ่ งจำกรำยกำรคำศัพท์ท่ีกำหนด จำกนัน้ ผูส้ อนให้ผู้เรยี นฟังคลปิ กำรสนทนำเพื่อตรวจสอบ

คำตอบ

SPEAKING TASK

- ผู้สอนให้ผู้เรยี นทำงำนเป็นคู่ อำ่ นและฟังบทสนทนำตวั อย่ำง จำกน้ันเขยี นบทสนทนำเกีย่ วกับกำรจองตัว๋

เครือ่ งบินลงในชอ่ งว่ำง ฝกึ กำรสนทนำและแสดงบทบำทร่วมกับคู่ของตนเอง ผู้สอนประเมินทักษะกำรพูด

ของผเู้ รียน โดยใช้แบบประเมินทักษะกำรพดู

หวั ข้อ FLIGHT SCHEDULES คร้งั ที่ 10 / สปั ดาห์ท่ี 10 / ชัว่ โมงที่ 19 – 20

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นอำ่ นตำรำงเที่ยวบิน แลว้ ตอบคำถำม แล้วอภิปรำยคำตอบรว่ มกันในชัน้ เรียน

- ผูส้ อนใหผ้ ู้เรยี นกรอกแบบฟอรม์ กำรจองเทยี่ วบนิ โดยใช้ขอ้ มลู จำกตำรำงเที่ยวบนิ ขำ้ งตน้ เพม่ิ ข้อมลู

ผเู้ รียนสำมำรถกรอกข้อมลู เพิ่มเติมท่จี ำเปน็ ได้

WRITING TASK

- ผู้สอนใหผ้ ูเ้ รยี นกรอกข้อมลู บุคคลลงในแบบฟอร์มเพื่อจองเทีย่ วบิน ผู้สอนประเมินทกั ษะกำรเขียนของ
ผูเ้ รยี น โดยใช้แบบประเมนิ ทักษะกำรเขียน

- ผสู้ อนให้ผเู้ รียนเขยี นข้อมูลทเ่ี กิดจำกควำมตระหนักรแู้ ละสิ่งท่ีเป็นแนวทำงในกำรดำเนนิ ชวี ติ โดยใชห้ ลกั
ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง ท่ีนำมำบูรณำกำรเขำ้ หน่วยกำรเรียนร้นู ้ี จำกนั้นแบง่ ปนั ควำมรู้ในชั้นเรยี น

- ผู้สอนประเมนิ ผูเ้ รยี นด้ำนคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนยิ มและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคป์ ระจำหน่วยกำร
เรยี น

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นทำแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรยี นท้ำยหนว่ ย จำนวน 20 ข้อ
- ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นประเมินระดับควำมร้คู วำมเข้ำใจของตน ท้ำยหน่วยกำรเรียน

21. สอ่ื การเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรยี นรู้
11.5. ส่ือสงิ่ พิมพ์
11.5.1. ตำรำเรยี นวชิ ำกำรเขยี นภำษำองั กฤษในชวี ติ ประจำวัน
11.5.2. รปู ภำพ/Icon บอกสถำนที่
11.6. สอ่ื โสตทศั น์ (ถา้ ม)ี
11.6.1. VDO/MP4
11.6.2. MP3
11.7. ห่นุ จาลองหรือของจริง (ถา้ มี)
11.7.1. แบบฟอร์มจองตั๋วเครอ่ื งบนิ ออนไลน์
11.8. อ่นื ๆ (ถา้ มี)
11.8.1. แบบทดสอบออนไลน์
11.8.2. Online Dictionary (ldoceonline.com/dict.longdo.com)
11.8.3. Facebook

22. เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบควำมรู้ ใบงำน ใบมอบหมำยงำน ฯลฯ)
7.13. พจนำนกุ รมภำษำอังกฤษ – ภำษำไทย
7.14. ใบงำนกำรบูรณำกำรหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง หัวขอ้ Journey
7.15. แบบประเมนิ ทักษะกำรพูด (Scoring Rubric)
7.16. แบบประเมนิ ทักษะกำรเขียน (Scoring Rubric)

23. การบรู ณาการ/ความสมั พันธ์กบั วิชาอนื่
8.10. กำรบูรณำกำรหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
8.11. คุณธรรมพ้ืนฐำน 8 ประกำร
8.12. หลกั คุณธรรม จริยธรรม คำ่ นิยมและคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์

24. การวดั และประเมินผล
9.10. กอ่ นเรียน
9.10.1. กำรทดสอบก่อนเรียน
9.11. ขณะเรยี น
9.11.1. กำรประเมินทักษะกำรพูด (บทบำทสมมุตหิ วั ขอ้ Talking about Happening Situations
และ Booking a Plane Ticket)
9.11.2. กำรประเมินทกั ษะกำรเขียน (Reservation Form)
9.12.หลังเรยี น
9.12.1. กำรทดสอบหลังเรียน (online)
9.12.2. กำรประเมนิ ผ้เู รียนด้ำนคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คำ่ นิยมและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

25. บนั ทึกหลังสอน
10.4. ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________

10.5. ผลการเรียนร้ขู องนกั เรียน นักศกึ ษา
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________

_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________

10.6. แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพการเรียนรู้
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ีมุง่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 5

บรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สอนคร้งั ที่ 11-13
ชว่ั โมงรวม 6
วิชำ ภำษำอังกฤษในชวี ติ จริง 20000-1201

ชอ่ื หน่วย Check-In จานวนชว่ั โมง 6

________________________________________________________________________________

26. สาระสาคัญ
Hotels provide a wide variety of services and amenities. Services such as a free

shuttle bus for an airport transfer, laundry services and a business center attract guests to
buy hotel rooms. Some hotel guests make decisions based on choices of amenities .

27. สมรรถนะประจาหน่วย
2.1. บอกชอ่ื สิ่งอำนวยควำมสะดวก (Amenities) และบริกำร(Services) ในโรงแรมได้
2.2. อำ่ นป้ำยประกำศ (Notices) และบอกควำมหมำยอักษรย่อทใ่ี ชใ้ นงำนโรงแรม (Abbreviations)
2.3. สอบถำมและให้ข้อมูลกำรเข้ำพกั ในโรงแรม (Staying at a Hotel)
2.4. สอบถำมและให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรมทพี่ ัก (Making Enquiries)
2.5. สนทนำโตต้ อบกำรขอรบั บริกำรและขอสิ่งอำนวยควำมสะดวกระหว่ำงเข้ำพกั ในโรงแรม (Making
Requests)
2.6. กรอกขอ้ มูลลงในแจ้งขอรับบริกำร (Hotel Request Form) และบัตรลงทะเบยี นของโรงแรม (Hotel
Registration Card)
2.7. สืบค้นข้อมลู บนระบบสำรสนเทศและแสดงควำมรู้ทำงภำษำองั กฤษ

28. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.10. ดา้ นความรู้
3.10.1. เพอื่ ให้ผ้เู รยี นสำมำรถบอกช่ือสงิ่ อำนวยควำมสะดวกและบริกำรในโรงแรมได้
3.10.2. เพ่อื ให้ผู้เรียนมีควำมรู้เบื้องต้นเก่ยี วกับโรงแรม
3.10.3. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนสำมำรถใช้พจนำนุกรมออนไลนแ์ ละอนิ เทอรเ์ นต็ แหล่งสบื คน้ ข้อมลู ควำมรู้ในกำร
พัฒนำทักษะภำษำอังกฤษได้
3.11. ดา้ นทกั ษะ
3.11.1. เพื่อให้ผเู้ รยี นสำมำรถสนทนำซือ้ – ขำยหอ้ งพักโรงแรมได้
3.11.2. เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถสนทนำสอบถำมและขอร้องได้
3.11.3. เพ่ือใหผ้ เู้ รียนสำมำรถอำ่ นปำ้ ยข้อควำมในโรงแรมได้
3.11.4. เพื่อใหผ้ ู้เรียนสำมำรถกรอกข้อมลู ลงในแบบฟอรม์ ที่กำหนดได้ได้

3.11.5. เพอ่ื ให้ผู้เรียนสำมำรถเขียนถำ่ ยโอนขอ้ มลู จำกส่งิ ที่อำ่ นหรือฟงั ได้
3.12. คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์

3.12.1. เพือ่ ให้ผู้เรยี นบูรณำคุณธรรมพ้นื ฐำน 8 ประกำร คณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ มและคุณลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์เป็นแนวทำงทำงในกำรดำรงชวี ติ และกำรทำงำนได้

3.12.2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นบรู ณำหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงเข้ำกับหน่วยกำรเรยี น Check-in ได้

29. เน้ือหาสาระการเรยี นรู้
4.1. Abbreviations in Hotel Work
4.2. Hotel Amenities & Services
4.3. Reading Hotel Notices
4.4. Staying at a Hotel
4.5. Making Enquiries & Requests
4.6. Hotel Request Form & Registration Card

30. กิจกรรมการเรียนรู้

หัวข้อ HOTEL BASICS คร้ังที่ 11 / สัปดาห์ที่ 11 / ชัว่ โมงที่ 21 – 22

- ผูส้ อนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

- ผสู้ อนใหผ้ ูเ้ รยี นศกึ ษำควำมหมำยคำศัพท์ทจี่ ะไดใ้ ช้ในหนว่ ยกำรเรียน และฝึกกำรออกเสียง

BRAINSTORMING

- ผู้สอนให้ผเู้ รียนฟังคลปิ กำรสนทนำเกย่ี วอักษรและรหสั อักษรทีใ่ ช้ในกำรสะกดคำในโรงแรม จำกนน้ั เติม

ขอ้ มูลทห่ี ำยไปลงในช่องว่ำง โดยเปรียบเทยี บกับรหสั อักษรท่ีใช้ในกำรโทรศัพท์ แล้วอภิปรำยคำตอบ

ร่วมกันในช้ันเรยี น

- ผสู้ อนให้ผู้เรียนระบสุ งิ่ อำนวยควำมสะดวกและบรกิ ำรทจ่ี ำเป็นในโรงแรม โดยกรอกข้อมูลในตำรำง แลว้

อภปิ รำยคำตอบรว่ มกันในชั้นเรียน

HOTEL BASICS

- ผ้สู อนให้ผเู้ รียนศกึ ษำตวั อย่ำงคำย่อตำ่ ง ๆ ท่พี บในงำนโรงแรม และสะกดคำย่อท่ีกำหนดใหเ้ ป็นคำเต็ม

แล้วผ้เู รยี นแชร์คำตอบและอภิปรำยคำตอบรว่ มกนั ในช้นั เรียน จำกนั้นผู้สอนใหผ้ เู้ รียนค้นหำคำยอ่ เพิ่มเติม

ในงำนโรงแรม แล้วเขยี นลงในช่องว่ำง

- ผ้สู อนใหค้ วำมร้ผู เู้ รยี นเพิ่มเติมเก่ียวกบั งำนโรงแรมเช่นชนิดของห้องพัก ววิ ตำ่ ง ๆ ที่มองจำกหอ้ งพัก สิง่

อำนวยควำมสะดวกและบริกำรต่ำง ๆ ในโรงแรม และยกตัวอย่ำงเพิ่มเติม

- ผ้สู อนใหผ้ เู้ รยี นฟังคลปิ เสียงพนกั งำนโรงแรมให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับสง่ิ อำนวยควำมสะดวกและบรกิ ำรตำ่ ง ๆ ใน

โรงแรม แลว้ นำคำศัพทท์ ีป่ รำกฏในคลิปเสียง ไปเขียนใต้บรรยำยภำพแตล่ ะภำพหรือ Icon

- ผู้สอนให้ผเู้ รยี นอ่ำนป้ำยขอ้ ควำมหรือป้ำยสงั เกตของโรงแรม แลว้ ตอบคำถำม จำกน้ันอภปิ รำยคำตอบ

ร่วมกันในชัน้ เรยี น

- ผสู้ อนให้ผเู้ รียนอำ่ นปำ้ ยขอ้ ควำมหรอื ปำ้ ยสงั เกตของโรงแรม ใหผ้ เู้ รียนระบวุ ่ำป้ำยข้อควำมหรือป้ำยสังเกต
ดงั กล่ำวสำมำรถพบไดต้ รงจดุ ไหนของโรงแรม ให้ผเู้ รียนเขียนคำตอบใต้รปู ภำพ แล้วอภปิ รำยคำตอบ
รว่ มกนั ในชนั้ เรยี น

หัวข้อ STAYING AT A HOTEL คร้งั ท่ี 12 / สปั ดาห์ท่ี 12 / ชว่ั โมงที่ 23 – 24

- ผู้สอนให้ผูเ้ รยี นอ่ำนโฆษณำของโรงแรมและตอบคำถำม แล้วอภปิ รำยคำตอบรว่ มกนั ในชั้นเรยี น

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนอำ่ นและฟงั บทสนทนำ แล้วตอบคำถำม จำกนนั้ นำข้อมลู ไปกรอกลงในเอกสำร

กำหนดกำรเดนิ ทำง ผู้เรียนสำมำรถเพิ่มเติมข้อมลู ไดต้ ำมท่จี ำเปน็

- ผู้สอนให้ผเู้ รียนอำ่ นสำนวนภำษำทใี่ ชใ้ นโรงแรม ท่ไี ม่สมบูรณ์ แล้วเตมิ คำที่หำยไปลงในช่องวำ่ ง จำกน้นั

อภิปรำยคำตอบรว่ มกนั ในชนั้ เรยี น

- ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนอ่ำนบทสนทนำท่ีไม่สมบรู ณ์ และเติมคำท่ีหำยไปลงในช่องวำ่ ง จำกน้ันให้ผู้เรยี นฟังคลปิ

กำรสนทนำเพ่ือตรวจสอบคำตอบ

SPEAKING TASK

- ผู้สอนให้ผเู้ รยี นทำงำนเป็นคู่ อ่ำนและฟังบทสนทนำตวั อยำ่ ง จำกนนั้ กรอกแบบฟอรม์ ลงทะเยนเข้ำพักใน

โรงแรม แล้วเขยี นบทสนทนำเกย่ี วกับกำรเชค็ อนิ ท่โี รงแรม แล้วให้ผู้เรียนแสดงบทบำทร่วมกับคู่ของ

ตนเอง ผ้สู อนประเมนิ ทักษะกำรพูดของผู้เรียน โดยใชแ้ บบประเมินทักษะกำรพูด

หวั ข้อ MAKING ENQUIRIES & REQUESTS ครง้ั ท่ี 13 / สปั ดาห์ท่ี 13 / ชว่ั โมงท่ี 25 – 26

- ผสู้ อนให้ผู้เรียนอำ่ นและฟังบทสนทนำ แล้วตอบคำถำม แล้วอภปิ รำยคำตอบร่วมกันในช้นั เรียน

- ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นศึกษำตวั อย่ำงสำนวนภำษำทใ่ี ช้ในสอบถำมขอ้ มลู กำรตอบรับและกำรตอบปฏิเสธ โดยให้

ผเู้ รยี นศึกษำจำกตัวอย่ำงและยกตัวอยำ่ งเพ่ิมเติม

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นฟังคลิปกำรสนทนำสอบถำมข้อมลู เกีย่ วกบั สงิ่ อำนวยควำมสะดวกและบริกำรตำ่ ง ๆ

ระหว่ำงลกู ค้ำกบั พนักงำนโรงแรม จำกนั้นให้ผเู้ รยี นตอบวำ่ มีสง่ิ อำนวยควำมสะดวกและบริกำรดังกลำ่ วใน

โรงแรมหรอื ไม่ แล้วอภปิ รำยคำตอบรว่ มกันในช้ันเรียน

- ผสู้ อนให้ผ้เู รยี นศกึ ษำตวั อย่ำงสำนวนภำษำท่ีใช้ในขอรอ้ ง รูปแบบกำรใช้ภำษำ กำรตอบรับและกำรตอบ

ปฏเิ สธ โดยใหผ้ ้เู รียนศึกษำจำกตวั อย่ำงและยกตวั อย่ำงเพิ่มเติม

- ผู้สอนให้ผู้เรยี นดรู ูปภำพส่งิ อำนวยควำมสะดวกของโรงแรม แล้วเขียนบทสนทนำสน้ั ๆ เพื่อร้องขอ

เกยี่ วกับสิง่ อำนวยควำมสะดวกตำมภำพลงในช่องวำ่ ง ผสู้ อนใหผ้ ูเ้ รยี นฝกึ ำรถำม-ตอบในชั้นเรยี น

SPEAKING TASK

- ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทำงำนเปน็ คู่ อ่ำนและฟงั บทสนทนำตัวอย่ำง จำกนน้ั เขียนบทสนทนำเกี่ยวกบั กำร

สอบถำมและร้องขอสงิ่ อำนวยควำมสะดวกและบรกิ ำรในโรงแรม แลว้ แสดงบทบำทสมมตริ ว่ มกับคู่ของ

ตนเอง ผู้สอนประเมินทักษะกำรพดู ของผู้เรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ ทักษะกำรพูด

HOTEL REQUEST FORM

- ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนกรอกแบบฟอรม์ คำร้องของโรงแรม โดยจำลองสถำนกำรณใ์ ห้ผเู้ รยี นเข้ำพักที่โรงแรม

WRITING TASK
- ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนกรอกใบลงทะเบียนเขำ้ พักในโรงแรม โดยจำลองสถำนกำรณ์ให้ผูเ้ รียนเข้ำพกั ทโ่ี รงแรม

ผู้เรียนสำมำรถกรอกข้อมูลเพิ่มเตมิ ทจี่ ำเปน็ ลงในแบบฟอร์ม
- ผ้สู อนใหผ้ เู้ รียนเขยี นข้อมูลท่ีเกิดจำกควำมตระหนักร้แู ละส่ิงท่ีเปน็ แนวทำงในกำรดำเนินชีวิตโดยใชห้ ลัก

ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียง ทน่ี ำมำบูรณำกำรเข้ำหน่วยกำรเรียนรนู้ ี้ จำกนั้นแบ่งปนั ควำมรู้ในชั้นเรยี น
- ผูส้ อนประเมนิ ผเู้ รียนด้ำนคุณธรรม จริยธรรม ค่ำนยิ มและคุณลกั ษณะอันพึงประสงคป์ ระจำหนว่ ยกำร

เรยี น
- ผ้สู อนให้ผู้เรยี นทำแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนท้ำยหน่วย จำนวน 20 ข้อ
- ผสู้ อนให้ผ้เู รยี นประเมนิ ระดับควำมรคู้ วำมเข้ำใจของตน ทำ้ ยหนว่ ยกำรเรยี น

31. สื่อการเรียนร้/ู แหล่งการเรยี นรู้
11.9. สอื่ สงิ่ พมิ พ์
11.9.1. ตำรำเรยี นวชิ ำกำรเขียนภำษำองั กฤษในชีวติ ประจำวนั
11.9.2. รูปภำพสง่ิ อำนวยควำมสะดวกในโรงแรม
11.9.3. รูปภำพป้ำยสงั เกตหรือปำ้ ยข้อควำมท่ีพบในโรงแรม
11.10. ส่ือโสตทศั น์ (ถ้ามี)
11.10.1. VDO/MP4
11.10.2. MP3
11.11. หุ่นจาลองหรือของจริง (ถ้ามี)
11.11.1. ใบลงทะเบียนเข้ำพักในโรงแรม
11.12. อ่ืน ๆ (ถ้าม)ี
11.12.1. แบบทดสอบประจำหนว่ ยออนไลน์
11.12.2. Online Dictionary (ldoceonline.com/dict.longdo.com)
11.12.3. Facebook

32. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ใบควำมรู้ ใบงำน ใบมอบหมำยงำน ฯลฯ)
7.17. พจนำนุกรมภำษำอังกฤษ – ภำษำไทย
7.18. ใบงำนกำรบูรณำกำรหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง หัวขอ้ Check-in
7.19. แบบประเมนิ ทักษะกำรพูด (Scoring Rubric)
7.20. แบบประเมนิ ทักษะกำรเขียน (Scoring Rubric)

33. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธ์กับวิชาอ่ืน
8.13. กำรบรู ณำกำรหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง

8.14. คุณธรรมพื้นฐำน 8 ประกำร
8.15. หลักคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนิยมและคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์

34. การวดั และประเมินผล
9.13. ก่อนเรยี น
9.13.1. กำรทดสอบก่อนเรยี น
9.14. ขณะเรยี น
9.14.1. กำรประเมินทกั ษะกำรพดู (บทบำทสมมุติหัวข้อ Staying at a hotel และ Making
enquiries and requests )
9.14.2. กำรประเมนิ ทกั ษะกำรเขียน (Hotel Registration Card)
9.15.หลงั เรยี น
9.15.1. กำรทดสอบหลังเรยี น (online)
9.15.2. กำรประเมนิ ผเู้ รยี นด้ำนคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนิยมและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

35. บันทกึ หลังสอน
10.7. ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
10.8. ผลการเรยี นรขู้ องนกั เรียน นักศึกษา
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________

_______________________________________________________________________

10.9. แนวทางการพฒั นาคุณภาพการเรียนรู้
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่มี ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6

บรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง สอนครั้งท่ี 14-15
ชั่วโมงรวม 4
วิชำ ภำษำอังกฤษในชีวิตจริง 20000-1201

ชื่อหน่วย Instructions จานวนชว่ั โมง 4

__________________________________________________________________________________

36. สาระสาคญั

Raw materials have different properties such as elasticity, conductivity, waterproof

and toughness. Consumers must read technical details of products for proper use and

follow all safety instructions on product labels.

37. สมรรถนะประจาหนว่ ย
2.7. บอกชื่อวตั ถุ (Materials) และคุณสมบัตขิ องวตั ถุ (Properties of Materials)
2.8. บอกชอ่ื เคร่ืองใช้ภำยในบ้ำน (Household Appliances)
2.9. บรรยำยส่งิ ของหรือวตั ถุ (Describing Objects)
2.10. ขอและช้แี นะวธิ ีกำรใช้เครือ่ งใชห้ รือเครือ่ งมือ (Giving Instructions)
2.11. อ่ำนทำควำมเข้ำใจและถ่ำยทอดข้อมลู ผลติ ภณั ์์ และข้อมูลควำมปลอดภยั บนฉลำกผลติ ภัณ์์
(Reading Product Labels & Safety Instructions on Labels)
2.12. กรอกข้อมลู ลงในใบลงทะเบยี นผลิตภณั ์์ (Product Registration) และแนบไฟล์เอกสำรใน
จดหมำยอิเลก็ ทรอนิกส์ (email)
2.13. สบื คน้ ข้อมูลบนระบบสำรสนเทศและแสดงควำมรู้ทำงภำษำองั กฤษ

38. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.13. ด้านความรู้
3.13.1. เพื่อให้ผเู้ รยี นสำมำรถบอกช่อื วสั ดุหรอื วตั ถดุ บิ ได้
3.13.2. เพ่อื ใหผ้ ้เู รียนสำมำรถบอกช่ือเครอ่ื งใช้ไฟฟ้ำภำยในบ้ำนได้
3.13.3. เพือ่ ให้ผูเ้ รยี นมคี วำมรู้เก่ยี วกับคุณสมบตั ิของวัสดุ
3.13.4. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมีควำมรู้ควำมเข้ำใจขอ้ มูลควำมปลอดภัยบนฉลำกผลิตภัณ์์
3.13.5. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสำมำรถใช้พจนำนกุ รมออนไลน์และอินเทอร์เน็ตแหลง่ สบื คน้ ข้อมูลควำมรู้ใน
กำรพฒั นำทกั ษะภำษำอังกฤษได้
3.14. ด้านทกั ษะ
3.14.1. เพอื่ ให้ผเู้ รียนสำมำรถบรรยำยส่งิ ของหรือวตั ถุได้
3.14.2. เพื่อให้ผเู้ รยี นสำมำรถบอกวิธใี ช้เครื่องใชไ้ ฟฟ้ำได้
3.14.3. เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนสำมำรถถ่ำยโอนข้อมูลจำกส่งิ ท่ีอ่ำนหรอื ฟงั ได้

3.14.4. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นสำมำรถปฏบิ ตั ติ ำมขอ้ มูลควำมปลอดภัยบนฉลำกผลติ ภัณ์์ได้
3.14.5. เพือ่ ให้ผู้เรยี นสำมำรถกรอกข้อมูลลงในใบลงทะเบยี นผลิตภัณ์ไ์ ด้
3.15. คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
3.15.1. เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นบรู ณำคุณธรรมพ้นื ฐำน 8 ประกำร คณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยมและคณุ ลักษณะ

อนั พึงประสงค์เปน็ แนวทำงทำงในกำรดำรงชีวิตและกำรทำงำนได้
3.15.2. เพอื่ ให้ผเู้ รียนบรู ณำหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียงเข้ำกับหน่วยกำรเรยี น Instructions

ได้

39. เน้ือหาสาระการเรียนรู้
4.1. Materials & Properties of Materials
4.2. Describing Objects
4.3. Giving Instructions
4.4. Reading Product Labels
4.5. Following Safety Instructions on Labels
4.6. Product Registration

40. กจิ กรรมการเรยี นรู้

หวั ข้อ DESCRIBING OBJECTS ครัง้ ที่ 14 / สปั ดาห์ที่ 14 / ชวั่ โมงท่ี 27 – 28

- ผสู้ อนให้ผูเ้ รียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น

- ผสู้ อนให้ผเู้ รียนศึกษำควำมหมำยคำศัพท์ทีจ่ ะได้ใช้ในหน่วยกำรเรยี น และฝกึ กำรออกเสียง

BRAINSTORMING

- ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นตอบคำถำมโดยบอกช่อื เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้ำภำยในบำ้ น บอกข้นั ตอนกำรใชผ้ ลิตภัณ์์และ

วิธกี ำรใชผ้ ลติ ภณั ์ท์ ีถ่ กู ต้อง จำกนั้นผสู้ อนให้ผูเ้ รยี นแสดงคำตอบและอภิปรำยรว่ มกนั ในชั้นเรยี น

DESCRIBING OBJECTS

- ผู้สอนใหผ้ ้เู รียนดูรปู ภำพและบอกชอื่ วัสดุ โดยเขียนคำศัพท์บรรยำยใตร้ ูปภำพ จำกนั้นผู้สอนใหผ้ ู้เรยี น

แสดงคำตอบและอภิปรำยร่วมกนั ในชน้ั เรียน

- ผู้สอนให้ผู้เรียนดูรูปภำพและตอบคำถำมเก่ยี ววัตถุดบิ

- ผสู้ อนใหผ้ ้เู รียนระบุคุณสมบัติของวัสดุที่กำหนด โดยเลือกคำตอบจำกรำยกำรที่กำหนด โดยวัตถุดิบแต่

ละรำยกำรอำจมหี ลำยคุณสมบัติ จำกนน้ั ผสู้ อนใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงคำตอบและอภิปรำยร่วมกันในชน้ั เรียน

- ผู้สอนให้ผเู้ รยี นเขียนประโยคอธิบำยคณุ สมบัติของวัสดุหรอื วตั ถดุ บิ (จำกตอนท่ี 3) โดยใช้โครงสรำ้ งทำง

ภำษำทีก่ ำหนด ผ้สู อนใหผ้ เู้ รียนบำงส่วนออกมำเขยี นประโยคบนกระดำน จำกน้นั อภปิ รำยคำตอบ

ร่วมกันในชน้ั เรยี น

- ผู้สอนสอดแทรกควำมรู้เร่ือง Adjectives ทีใ่ ชใ้ นกำรบรรยำยคุณสมบัติของวัตดหุ รอื วัตถุดิบ โดยศกึ ษำ
จำกตัวอยำ่ งและยกตัวอย่ำงเพ่ิมเติม จำกนั้นผ้สู อนใหผ้ ้เู รียนบอกควำมหมำยคำคณุ ศัพท์ท่ีกำหนด แลว้
อภปิ รำยคำตอบรว่ มกนั ในชนั้ เรยี น

- ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นยกตวั อยำ่ งวัสดหุ รือวัตถุดบิ ท่ีมคี ุณสมบตั ิตรงกับควำมหมำยของ Adjective ทก่ี ำหนด
จำกนนั้ นำข้อมลู ไปเขียนเป็นประโยค แล้วผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนแสดงคำตอบและอภปิ รำยร่วมกันในชั้นเรียน

SPEAKING TASK
- ผู้สอนให้ผเู้ รียนทำงำนเป็นคู่ อำ่ นและฟงั บทสนทนำตัวอยำ่ ง จำกนนั้ ให้เขียนบทสนทนำบรรยำยวัตถุ ลง

ในชอ่ งว่ำง และแสดงบทบำทสมมตริ ่วมกับคู่ของตนเอง ผู้สอนประเมนิ ทกั ษะกำรพดู ของผเู้ รยี น โดยใช้
แบบประเมนิ ทักษะกำรพูด

หัวข้อ GIVING INSTRUCTIONS คร้ังที่ 15 / สปั ดาห์ท่ี 15 / ช่วั โมงที่ 29 – 30

- ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นฟงั คลปิ ให้คำแนะนำวธิ ีใชเ้ คร่ืองป่นั อำหำรไฟฟำ้ และเติมคำทห่ี ำยไปลงในช่องวำ่ ง แล้ว

ผู้สอนให้ผเู้ รยี นแสดงคำตอบและอภิปรำยร่วมกนั ในชน้ั เรยี น

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นอำ่ นและฟังบทสนทนำ บอกวิธีกำรใช้เครือ่ งซักผำ้ โดยเขยี นขั้นตอนตำมลำดบั ลงใน

ชอ่ งว่ำง ผูส้ อนให้ผเู้ รียนแสดงคำตอบและอภิปรำยร่วมกนั ในช้นั เรยี น

- ผสู้ อนสอดแทรกควำมรเู้ พ่มิ เติมเก่ียวกบั กำรขอและใหค้ ำแนะนำ บอกวธิ ี รวมทง้ั กำรกำรใช้คำบอก

ลำดบั ขนั้ ตอน (Sequence Markers) โดยศึกษำจำกตัวอยำ่ งและยกตวั อยำ่ งเพมิ่ เติม

- ผู้สอนให้ผเู้ รียนเรยี งลำดบั ขน้ั ตอนวิธีกำรทำควำมสะอำดพัดลมและวธิ ีกำรใชเ้ ตำอบไมโครเวฟ โดยเขยี น

ขัน้ ตอนตำมลำดับและใช้คำบอกลำดบั ขัน้ ตอนท่เี หมำะสม จำกนัน้ ผ้สู อนให้ผเู้ รยี นฟังบทสนทนำเพ่ือ

ตรวจสอบคำตอบ

- ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นดูภำพและบอกชอื่ เคร่ืองใช้ในครวั เรอื น แล้วเขียนคำตอบใตภ้ ำพแต่ละภำพ ผู้สอนให้

ผ้เู รียนแสดงคำตอบและอภิปรำยร่วมกนั ในชน้ั เรยี น

- ผสู้ อนสอดแทรกควำมรู้เกย่ี วกบั Suffix –er เพม่ิ เติม โดยใหผ้ เู้ รียนศึกษำจำกตวั อยำ่ งและยกตวั อย่ำง

เพมิ่ เติม แลว้ อภิปรำยร่วมกันในชัน้ เรียน

SPEAKING TASK

- ผูส้ อนใหผ้ เู้ รยี นทำงำนเป็นคู่ โดยให้คน้ หำวธิ ีใช้เครอ่ื งใช้ในครัวเรอื นหรืออุปกรณบ์ นเวบ็ ไซต์ แล้วเขยี น

แต่ละขัน้ ตอนตำมลำดับในชอ่ งว่ำง จำกน้ันผู้สอนให้ผู้เรยี นอำ่ นและฟังบทสนทนำตวั อยำ่ ง แลว้ เขียนบท

สนทนำบอกวิธีใชเ้ ครื่องใช้ในครัวเรอื นหรอื อุปกรณ์ และแสดงบทบำทสมมติรว่ มกบั คขู่ องตนเอง ผูส้ อน

ประเมนิ ทักษะกำรพดู ของผเู้ รียน โดยใชแ้ บบประเมินทักษะกำรพดู

PRODUCT LABELS

- ผสู้ อนใหผ้ ้เู รียนอำ่ นฉลำกผลิตภัณ์์และตอบคำถำม ผ้สู อนให้ผูเ้ รียนแสดงคำตอบและอภปิ รำยร่วมกนั

ในช้นั เรยี น

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนศึกษำปำ้ ยควำมปลอดภยั บนผลิตภัณ์์ แล้วเขียนคำบรรยำยใต้รูปภำพ โดยเลือกคำตอบ

จำกรำยกำรที่กำหนด ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนแสดงคำตอบและอภปิ รำยรว่ มกันในช้ันเรียน

DISCOVER YOURSELF!
- ผู้สอนให้ผูเ้ รยี นสำรวจทบ่ี ำ้ น แลว้ เขียนบนั ทึกรำยละเอยี ดเกีย่ วกบั สินคำ้ อปุ โภคบริโภคในครัวเรอื น ลง

ในตำรำง ผู้สอนใหผ้ ้เู รยี นแสดงคำตอบและอภปิ รำยร่วมกันในชน้ั เรยี น
- ผสู้ อนให้ผู้เรยี นอำ่ นใบลงทะเบียนกำรรบั ประกันผลติ ภณั ์์และตอบคำถำม ผู้สอนให้ผู้เรียนแสดง

คำตอบและอภิปรำยรว่ มกนั ในชน้ั เรยี น
WRITING TASK
- ผูส้ อนใหผ้ เู้ รียนทำงำนเป็นคู่ ตรวจสอบรำยละเอียดสินค้ำอุปโภคบริโภคในครัวเรือน แล้วกรอกขอ้ มลู ลง

ในใบลงทะเบียนผลิตภณั ์์ โดยสำมำรถเพิ่มข้อมูลท่จี ำเปน็ จำกนนั้ แนบแบบฟอรม์ กำรลงทะเบียน
ผลิตภณั ์์ ในอีเมล์สง่ ไปยังท่ีอยอู่ ีเมล์ของผูส้ อน
- ผู้สอนใหผ้ ้เู รียนเขียนข้อมูลทเี่ กดิ จำกควำมตระหนักรูแ้ ละสิ่งทเี่ ป็นแนวทำงในกำรดำเนินชีวิตโดยใช้หลัก
ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง ท่นี ำมำบูรณำกำรเขำ้ หน่วยกำรเรียนรูน้ ี้ จำกนน้ั แบ่งปันควำมรใู้ นชัน้
เรยี น
- ผสู้ อนประเมินผเู้ รียนด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม ค่ำนยิ มและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ประจำหน่วยกำร
เรยี น
- ผสู้ อนใหผ้ ้เู รียนทำแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทำงกำรเรียนท้ำยหน่วย จำนวน 20 ข้อ
- ผูส้ อนใหผ้ ู้เรยี นประเมนิ ระดบั ควำมรู้ควำมเข้ำใจของตน ท้ำยหนว่ ยกำรเรียน

41. ส่อื การเรยี นรู/้ แหล่งการเรียนรู้
11.13. สอ่ื สิง่ พมิ พ์
11.13.1. ตำรำเรียนวชิ ำกำรเขยี นภำษำองั กฤษในชวี ติ ประจำวัน
11.13.2. ภำพวัสดแุ ละวัตถุดิบ
11.13.3. ภำพเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้ำภำยในครัวเรือน
11.13.4. ภำพป้ำยควำมปลอดภัณ์์บนฉลำกผลิตภณั ์์
11.14. สอ่ื โสตทศั น์ (ถา้ ม)ี
11.14.1. VDO/MP4
11.14.2. MP3
11.15. หุ่นจาลองหรือของจริง (ถ้ามี)
11.15.1. ฉลำกผลติ ภัณ์์
11.16. อืน่ ๆ (ถ้าม)ี
11.16.1. แบบทดสอบประจำหนว่ ยออนไลน์
11.16.2. Online Dictionary (ldoceonline.com/dict.longdo.com)
11.16.3. Facebook

42. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบควำมรู้ ใบงำน ใบมอบหมำยงำน ฯลฯ)
7.21. พจนำนกุ รมภำษำอังกฤษ – ภำษำไทย
7.22. ใบงำนกำรบรู ณำกำรหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง หัวข้อ Instructions
7.23. แบบประเมินทักษะกำรพูด (Scoring Rubric)
7.24. แบบประเมินทักษะกำรเขยี น (Scoring Rubric)

43. การบรู ณาการ/ความสัมพันธก์ บั วชิ าอ่ืน
8.16. กำรบรู ณำกำรหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง
8.17. คุณธรรมพื้นฐำน 8 ประกำร
8.18. หลักคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนิยมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์

44. การวัดและประเมนิ ผล
9.16.ก่อนเรยี น
9.16.1. กำรทดสอบก่อนเรียน
9.17. ขณะเรียน
9.17.1. กำรประเมินทักษะกำรพูด (บทบำทสมมตุ ิหัวขอ้ Describing Objects และ Giving
Instructions)
9.17.2. กำรประเมินทักษะกำรเขียน (Product Registration)
9.18.หลงั เรียน
9.18.1. กำรทดสอบหลังเรยี น (online)
9.18.2. กำรประเมนิ ผูเ้ รียนด้ำนคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนิยมและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

45. บันทกึ หลังสอน
10.10. ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

10.11. ผลการเรยี นรู้ของนกั เรียน นักศึกษา
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

10.12. แนวทางการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นรู้
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่มี งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 7

บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สอนคร้ังท่ี 16-18
ชั่วโมงรวม 6
วิชำ ภำษำอังกฤษในชวี ติ จรงิ 20000-1201

ชื่อหน่วย Invitations จานวนชั่วโมง 6

________________________________________________________________________________

46. สาระสาคญั
Meeting at festival time is very special for people. At present time, the hosts

send their invitations through social networks or an email to guests. The guests must
respond to all formal invitations.

47. สมรรถนะประจาหนว่ ย
2.8. กลำ่ วคำอวยพรในโอกำสพิเศษ (Giving Wishes) และในเทศกำลตำ่ งๆ (Festivals)
2.9. อำ่ นป้ำยประกำศ (Reading Notices)
2.10. นัดหมำย (Arranging a Date) ตอบรบั และปฏิเสธนัด
2.11. กลำ่ วคำเชิญ (Making Invitations) ในโอกำสพเิ ศษตำ่ งๆตอบรับและปฏเิ สธคำเชญิ
2.12. เขียนอีเมล์คำเชิญ (Emailing Invitations) ในโอกำสพเิ ศษ
2.13. สบื คน้ ขอ้ มูลบนระบบสำรสนเทศและแสดงควำมรู้ทำงภำษำอังกฤษ

48. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.16. ด้านความรู้
3.16.1. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมีควำมรเู้ ก่ียวกับเทศกำลสำกล
3.16.2. เพือ่ ให้ผู้เรียนมีควำมรเู้ ก่ยี วกับกำรอวยพรและกำรเชญิ ในโอกำสพิเศษตำ่ ง ๆ
3.16.3. เพ่ือให้ผเู้ รยี นสำมำรถใช้พจนำนุกรมออนไลนแ์ ละอนิ เทอร์เนต็ แหลง่ สืบค้นข้อมลู ควำมรู้ในกำร
พฒั นำทักษะภำษำอังกฤษได้
3.17. ด้านทกั ษะ
3.17.1. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนสำมำรถปฏิบัตติ ำมป้ำยประกำศทว่ั ไปได้
3.17.2. เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นสำมำรถสนทนำโต้ตอบโดยใช้สำนวนภำษำในกำรนัดหมำยได้ถูกต้อง
3.17.3. เพ่อื ให้ผู้เรยี นสำมำรถบอกวัน-เวลำได้
3.17.4. เพื่อให้ผู้เรยี นสำมำรถสนทนำโต้ตอบโดยใช้สำนวนภำษำในกำรเชอ้ื เชิญได้ถูกต้อง
3.17.5. เพื่อใหผ้ เู้ รยี นสำมำรถกลำ่ วคำอวยพรในเทศกำลหรือโอกำสพเิ ศษตำ่ ง ๆ ได้
3.17.6. เพื่อให้ผูเ้ รียนสำมำรถเขียนบัตรเชิญได้
3.18. คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์

3.18.1. เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นบรู ณำคุณธรรมพน้ื ฐำน 8 ประกำร คณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยมและคณุ ลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงคเ์ ปน็ แนวทำงทำงในกำรดำรงชวี ติ และกำรทำงำนได้

3.18.2. เพ่ือใหผ้ เู้ รียนบรู ณำหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี งเข้ำกบั หน่วยกำรเรยี น Instructions
ได้

49. เนื้อหาสาระการเรยี นรู้
4.1. Festivals
4.2. Reading Notices
4.3. Arranging a Date
4.4. Telling Dates & Time
4.5. Making Invitations
4.6. Giving Wishes
4.7. Emailing Invitations

50. กจิ กรรมการเรียนรู้

หวั ข้อ READING NOTICES ครัง้ ที่ 16 / สัปดาห์ท่ี 16 / ช่ัวโมงท่ี 31 – 32

- ผู้สอนให้ผ้เู รยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน

- ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษำควำมหมำยคำศัพท์ทจี่ ะไดใ้ ชใ้ นหน่วยกำรเรยี น และฝึกกำรออกเสียง

BRAINSTORMING

- ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นฟงั คลปิ กำรสนทนำ แลว้ บอกช่ือโอกำสพิเศษทคี่ ำอวยพรท่ีกำหนดถูกนำไปใช้ ใหผ้ ูเ้ รียน

เขียนคำตอบใต้รูปภำพ จำกน้ันผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นแสดงคำตอบและอภิปรำยร่วมกนั ในชน้ั เรียน

- ผ้สู อนใหผ้ ู้เรียนเขียนคำอวยพรท่ีใช้พูดในโอกำสพิเศษทก่ี ำหนด แล้วผสู้ อนให้ผเู้ รยี นแสดงคำตอบและ

อภิปรำยร่วมกนั ในช้นั เรยี น

READING NOTICES

- ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นอ่ำนปำ้ ยประกำศ แล้วบอกตำแหน่งทส่ี ำมำรถพบประกำศเหลำ่ น้ไี ด้ ผ้สู อนใหผ้ ูเ้ รียนแสดง

คำตอบและอภิปรำยรว่ มกันในช้นั เรยี น

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนอ่ำนปำ้ ยประกำศและตอบคำถำม ผูส้ อนให้ผู้เรยี นแสดงคำตอบและอภิปรำยรว่ มกันในชั้น

เรยี น

- ผสู้ อนให้ผเู้ รียนจับคู่ปำ้ ยประกำศกับคำอธบิ ำยที่เหมำะสมท่สี ดุ โดยเขียนคำตอบ (a, b, c ... ) กำกบั ปำ้ ย

ประกำศ ผู้สอนให้ผู้เรยี นแสดงคำตอบและอภิปรำยร่วมกันในช้นั เรยี น

- ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนอ่ำนประกำศ แล้วตอบคำถำม ผูส้ อนใหผ้ ูเ้ รียนแสดงคำตอบและอภิปรำยร่วมกนั ในชั้น

เรียน

- ผ้สู อนใหผ้ ู้เรียนอ่ำนป้ำยประกำศทำควำมเขำ้ ใจและตอบว่ำ "true" หรือ "false" ผูส้ อนใหผ้ เู้ รียนแสดง

คำตอบและอภิปรำยร่วมกันในช้นั เรยี น

หวั ข้อ ARRANGING A DATE/AN APPOINTMENT ครั้งท่ี 17 / สปั ดาห์ที่ 17 / ช่วั โมงที่ 33 – 34
- ผู้สอนให้ผู้เรียนอ่ำนและฟงั บทสนทนำ แล้วตอบคำถำม ผสู้ อนให้ผ้เู รยี นแสดงคำตอบและอภปิ รำยร่วมกัน

ในชั้นเรยี น
- ผู้สอนให้ผูเ้ รยี นอำ่ นสำนวนที่ใชใ้ นกำรนัดหมำย จำกนั้นแทนทีก่ ล่มุ คำทถี่ ูกขีดเสน้ ใต้ ดว้ ยสำนวนภำษำที่

กำหนดไว้ด้ำนซ้ำย ผู้สอนให้ผู้เรยี นแสดงคำตอบและอภปิ รำยรว่ มกนั ในช้ันเรียน
- ผสู้ อนใหค้ วำมรูแ้ ก่ผูเ้ รยี นเพ่ิมเติมเกี่ยวกับสำนวนภำษำทีใ่ ช้ในกำรนดั หมำยเช่น กำรพูดนัดหมำย กำร

แสดงควำมเหน็ ด้วยและไมเ่ ห็นดว้ ยกับข้อเสนอในกำรนัดหมำยและกำรเสนอวนั เวลำนดั หมำยใหม่ โดยให้
ผเู้ รยี นศกึ ษำจำกตัวอยำ่ งและยกตัวอย่ำงเพ่ิมเติม และอภปิ รำยรว่ มกนั ในชนั้ เรยี น
- ผสู้ อนสอดแทรกควำมร้เู กีย่ วกับหลกั กำรใชภ้ ำษำเรื่อง กำรบอกวันและเวลำโดยใช้ Prepositions:
in/on/at โดยใหผ้ ู้เรียนศกึ ษำจำกตวั อยำ่ งและยกตัวอย่ำงเพ่มิ เติม จำกน้ันผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นนำ in/on/at)
ไปเติมลงในช่องว่ำง เพื่อบอกวันเวลำ ผู้สอนให้ผูเ้ รยี นแสดงคำตอบและอภปิ รำยรว่ มกนั ในช้ันเรยี น
- ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนอ่ำนสำนวนภำษำท่ใี ชใ้ นกำรนดั หมำย แล้วนำคำบุพบทท่เี หมำะสมทส่ี ุดไปเตมิ ลงใน
ช่องว่ำงในประโยค ผสู้ อนให้ผ้เู รยี นแสดงคำตอบและอภิปรำยรว่ มกนั ในชั้นเรียน
SPEAKING TASK
- ผู้สอนใหผ้ ้เู รยี นทำงำนเปน็ คู่ อำ่ นและฟังบทสนทนำตวั อยำ่ ง จำกนัน้ เขยี นบทสนทนำเกย่ี วกบั กำรนัด
หมำยลงในชอ่ งวำ่ ง แลว้ แสดงบทบำทสมมติร่วมกบั คู่ของตนเอง ผู้สอนประเมินทักษะกำรพูดของผเู้ รยี น
โดยใช้แบบประเมินทักษะกำรพูด

หัวข้อ MAKING INVITATIONS คร้ังท่ี 18 / สัปดาห์ท่ี 18 / ชัว่ โมงที่ 35 – 36

- ผ้สู อนใหผ้ เู้ รียนอำ่ นและฟังบทสนทนำ แล้วตอบคำถำม ผ้สู อนให้ผ้เู รียนแสดงคำตอบและอภปิ รำยรว่ มกัน

ในช้ันเรียน

- ผู้สอนใหค้ วำมรู้แกผ่ ู้เรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกบั สำนวนภำษำท่ีใช้ในกำรเชอ้ื เชิญเชน่ กำรพดู คำเชิญ กำรตอบรบั

และปฏเิ สธคำเชิญ และกำรให้เหตุผลประกอบคำปฏเิ สธ โดยให้ผ้เู รียนศกึ ษำจำกตวั อยำ่ งและยกตัวอย่ำง

เพ่ิมเติม แล้วอภิปรำยร่วมกันในช้นั เรยี น

- ผสู้ อนให้ผู้เรยี นฟังคลิปกำรสนทนำเกย่ี วกบั กำรเชญิ ใหผ้ ูเ้ รียนเขียนระบวุ ่ำเปน็ กำรเชิญไปในโอกำสพิเศษ

ใด แลว้ ใหต้ อบว่ำผู้ถูกเชิญตอบรับหรือปฏิเสธคำเชญิ ผสู้ อนให้ผู้เรยี นแสดงคำตอบและอภิปรำยร่วมกันใน

ชั้นเรียน

- ผูส้ อนใหผ้ ้เู รยี นจับคู่โอกำสที่พิเศษกับคำอวยพรทเี่ หมำะสมท่สี ดุ โดยเขียนคำตอบ (a, b, c ... ) ลงใน

ชอ่ งว่ำง ผ้สู อนให้ผู้เรยี นแสดงคำตอบและอภปิ รำยร่วมกันในช้นั เรยี น

DISCOVER YOURSELF!

- ผู้สอนให้ผูเ้ รียนเขียนคำอวยพรในโอกำสพิเศษทกี่ ำหนดลงในช่องวำ่ ง แลว้ อเี มล์ข้อควำมคำอวยพรให้

ผ้สู อน ผ้สู อนให้ผเู้ รียนแสดงคำตอบและอภปิ รำยรว่ มกนั ในช้นั เรยี น

SPEAKING TASK

- ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นทำงำนเปน็ คู่ อำ่ นและฟงั บทสนทนำตวั อย่ำง จำกนน้ั เขียนบทสนทนำเก่ยี วกบั กำรเชญิ
และกำรอวยพรในโอกำสพิเศษ แลว้ ให้ผ้เู รียนแสดงบทบำทสมมตริ ่วมกบั คู่ของตนเอง ผสู้ อนประเมนิ
ทักษะกำรพูดของผเู้ รยี น โดยใชแ้ บบประเมินทกั ษะกำรพดู

EMAILING INVITATIONS
- ผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นอำ่ นคำเชญิ และตอบคำถำม จำกน้นั ผสู้ อนให้ผู้เรยี นแสดงคำตอบและอภิปรำยร่วมกันใน

ชั้นเรยี น
WRITING TASK
- ผู้สอนใหผ้ ้เู รยี นศกึ ษำตัวอย่ำงจดหมำยเชิญ และเขียนจดหมำยเชิญฉบับรำ่ งลงในช่องว่ำง แลว้ อเี มลค์ ำ

เชิญไปยงั ผสู้ อน ผู้สอนประเมินทกั ษะกำรกำรเขยี นของผเู้ รียน โดยใช้แบบประเมินทักษะกำรเขยี น
- ผสู้ อนให้ผูเ้ รยี นเขียนข้อมลู ท่เี กิดจำกควำมตระหนักรู้และส่ิงทเี่ ปน็ แนวทำงในกำรดำเนนิ ชวี ิตโดยใช้หลกั

ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง ท่นี ำมำบรู ณำกำรเขำ้ หน่วยกำรเรยี นรนู้ ้ี จำกนน้ั แบง่ ปนั ควำมรู้ในชั้นเรียน
- ผู้สอนประเมนิ ผู้เรียนด้ำนคุณธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ มและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ประจำหน่วยกำร

เรียน
- ผู้สอนให้ผ้เู รยี นทำแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทำงกำรเรยี นท้ำยหนว่ ย จำนวน 20 ข้อ
- ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นประเมนิ ระดบั ควำมร้คู วำมเข้ำใจของตน ทำ้ ยหน่วยกำรเรยี น

51. ส่ือการเรียนร/ู้ แหล่งการเรียนรู้
11.17. สอื่ สง่ิ พิมพ์
11.17.1. ตำรำเรียนวชิ ำกำรเขยี นภำษำองั กฤษในชวี ติ ประจำวัน
11.17.2. ภำพเทศกำล
11.18. ส่ือโสตทัศน์ (ถา้ มี)
11.18.1. VDO/MP4
11.18.2. MP3
11.19. ห่นุ จาลองหรือของจริง (ถา้ มี)
11.19.1. ตัวอย่ำงบตั รเชิญ
11.20. อ่ืน ๆ (ถา้ ม)ี
11.20.1. แบบทดสอบประจำหน่วยออนไลน์
11.20.2. Online Dictionary (ldoceonline.com/dict.longdo.com)
11.20.3. Facebook
11.20.4. Email

52. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบควำมรู้ ใบงำน ใบมอบหมำยงำน ฯลฯ)
7.25. พจนำนุกรมภำษำอังกฤษ – ภำษำไทย
7.26. ใบงำนกำรบูรณำกำรหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง หัวขอ้ Invitations

7.27. แบบประเมินทักษะกำรพูด (Scoring Rubric)
7.28. แบบประเมนิ ทกั ษะกำรเขียน (Scoring Rubric)

53. การบูรณาการ/ความสัมพันธก์ ับวิชาอน่ื
8.19. กำรบรู ณำกำรหลักปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
8.20. คณุ ธรรมพน้ื ฐำน 8 ประกำร
8.21. หลกั คณุ ธรรม จริยธรรม ค่ำนิยมและคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์

54. การวดั และประเมินผล
9.19. ก่อนเรียน
9.19.1. กำรทดสอบก่อนเรียน
9.20. ขณะเรยี น
9.20.1. กำรประเมนิ ทักษะกำรพูด (Arranging a Date/an Appointment)
9.20.2. กำรประเมนิ ทักษะกำรเขียน (Wish/Invitation Email)

9.21. หลังเรียน
9.21.1. กำรทดสอบหลังเรียน (online)
9.21.2. กำรประเมินผ้เู รียนด้ำนคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนยิ มและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

55. บนั ทึกหลังสอน
10.13. ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________

10.14. ผลการเรยี นรู้ของนกั เรยี น นักศกึ ษา
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________

_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________

10.15. แนวทางการพัฒนาคณุ ภาพการเรียนรู้
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________


Click to View FlipBook Version