1
Diversity of
Plants
หนว่ ยการเรียนรู้เรอ่ื ง อาณาจักรพชื : Kingdom Plantae
ความแตกตา่ งระหวา่ งพืชกับสัตว์ Animals
Plants
1. Heterotrophic
1. Autotrophic, Photosynthetic 2. Mobile
2. Sessile 3. Determinate growth
3. Indeterminate growth 4. Nervous system
4. No Nervous system 5. Cell wall absent
5. Cellulose cell walls 6. Vacuole absent
6. Vacuole present 7. Sex cell separated from body
7. Sex cell arise late in
cells early in development
development
1
Figure : © Copyright Kyosti Valitalo
2การปรับตัวตามววิ ัฒนาการเพ่อื การดารงชีวิตบนบกของพืช
1. กลุ่มสงิ่ มีชีวติ ทไ่ี มม่ กี ลไกการป้องกนั การแหง้ แล้ง (Poikilohydry) จำเป็นตอ้ งอำศัยอยู่
ในสภำพแวดลอ้ มท่ีชน้ื แฉะ ไดแ้ ก_่ _______________________________________
2. กลุ่มส่ิงมีชีวิตที่มีกลไกภายในตัวสร้างขึ้นมาเพ่ือเผชิญกับภาวะความแห้งแล้ง
(Homoiohydry) ไดแ้ ก่______________________________________________
- กลไกชว่ ยป้องกันกำรสูญเสยี น้ำ Waxy cuticle
- ส่งิ ท่ชี ว่ ยใหน้ ำ้ กระจำยทว่ั ลำต้น Vascular system
- กำรแลกเปล่ยี นแก๊ส Stomata and gas space
- ไดร้ ับธำตุอำหำรผ่ำนทำง Rhizoid or root system
- สังเครำะหแ์ สงโดยใช้ Branching system and leaf
- ลดควำมรอ้ นโดย Transpiration คำยนำ้ ทำงปำกใบ
- รบั อำกำศผำ่ นทำง Ticked cell wall
(Collenchyma)
- กำรสร้ำงเซลล์สืบพันธุ์ (Sclerenchyma)
Antheridium or Microspore
Archegonium or Megaspore
Plant Characteristics
1. Multicellular eukaryotes
2. Photosynthetic autotroph (สร้ำงอำหำรเองได้) บริเวณ Chloroplast
3. Non-mobile (ไม่เคลอื่ นท)่ี
4. มี Cell wall ประกอบด้วยสำรในกล่มุ Cellulose
5. มีกำรตอบสนองต่อสงิ่ เร้ำโดยผลของ hormone (Plant growth regulator)
6. Waxy outer layer of epidermis
7. Haplodiplontic life cycle (Alternation of Generation)
ขอ้ มูลอ้างองิ : รศ.ดร.อรุโณทยั จาปีทอง ภาควิชาชวี วิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่
2
การจัดหมวดหมใู่ นอาณาจักรพชื (Plant Classification)
กำรจัดหมวดหมู่ในอำณำจักรพืช (Kingdom Plantae) นั้นนักอนุกรมวิธำนพืชหลำยสำนัก
ได้ใช้แนวคิดที่แตกต่ำงกันหลำยระบบในกำรจัดจำแนก แต่เพ่ือให้เป็นปัจจุบันที่สุดในบทเรียนน้ีจึงได้
ผสมผสำนแนวคิดกำรจัดหมวดหมู่พืช ของ Kenrick & Crane (1997), Pryer et al. (2004),
Shaw & Renzaglia (2004), Angiosperm Phylogeny Group (2009 และ Christenhusz et al.
(2011) ซ่ึงได้เรียบเรียงจำกเอกสำรประกอบกำรสอนเร่ืองอำณำจักรพืช (Kingdom Plantae) ของ
ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร.ต่อศักด์ิ สีลำนันท์ ภำควิชำพฤกษศำสตร์ คณะวิทยำศำสตร์ จุฬำลงกรณ์
มหำวิทยำลัย และเอกสำรประกอบกำรสอนวิชำสัณฐำนวิทยำของพืช (Plant Morphology) ของ
รองศำสตรำจำรย์ ดร.อรโุ ณทัย จำปที อง ภำควชิ ำชีววทิ ยำ คณะวิทยำศำสตร์ มหำวิทยำลัยเชียงใหม่
การจัดจาแนกพืช
1. พืชทไี่ มม่ ที ่อลาเลยี ง (Non-vascular plants)
2. พชื ทีม่ ที อ่ ลาเลยี ง (Vascular plants)
พชื ทีไ่ มม่ ีทอ่ ลาเลียง (Non-vascular plants)
- พืชท่ีไม่มีท่อลำเลียงหรือ_________________เป็นพืชที่ไม่มีเน้ือเยื่อลำเลียง และมี
ระยะ_______________________เป็นระยะเด่น มี ไรซอยด์ (Rhizoid) ทำหน้ำท่ี
แทนรำกในกำรยึดเกำะพ้ืนดิน ดูดน้ำ และธำตุอำหำร เนื่องจำกไม่มีราก ลาต้น และ
ใบทแี่ ทจ้ ริง ระยะ____________________จะเจริญอยบู่ นต้นแกมโี ทไฟตต์ ลอดชวี ติ
- มีส่วนทท่ี ำหน้ำที่ในกำรสร้ำงสปอร์เรยี กว่ำ_________________________ เรียกพืช
ในกลมุ่ นี้วำ่ ไบรโอไฟต์ (Bryophyte) ได้แก่ ลิเวอร์เวิร์ท ฮอร์นเวิรท์ และมอส
3
1. 3Division Marchantiophyta
ดวิ ิชนั มาแคนทิโอไฟตา
- พืชในดิวิชนั น้ีได้แก_่ _______________________________________________
- ลกั ษณะเป็นแผ่นแบน เรยี กว่ำ ทลั ลัส (thallus) ซง่ึ เปน็ ต้น gametophyte ภำยในมี
หยดนา้ มันหรอื oil body
- มีระยะ gametophyte เด่น ไม่มีรำก ลำต้น และใบท่ีแท้จริง ดูดซึมน้ำและอำหำร
โดยตรงผ่ำนเซลล์ผิว และมี rhizoid ทาหน้าที่แทนราก ยึดเกำะกับผิวดินและดูดน้ำ
และธำตุอำหำร เมื่อถึงเวลำที่เหมำะสมจะสร้ำง อับเซลล์สืบพันธ์ุท่ีบรรจุเซลล์สืบพันธุ์
อยภู่ ำยใน
ลักษณะ Thallus ของลิเวอร์เวริ ์ท Rhizoid
- ต้น sporophyte เกิดข้ึนภำยหลงั จำกกำรปฏิสนธิของเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมีย
และจะเจริญอยู่ในอับเซลล์สืบพันธ์ุเมีย ซึ่งอับเซลล์สืบพันธ์ุเพศผู้และเพศเมียจะ
แยกเพศบนต้น gametophyte โดยรับอำหำรจำกต้น gametophyte ตลอดกำร
เจรญิ
ขอ้ มูลอ้างอิง : ดร.กันยา สันทนะโชติ ผู้เชีย่ วชาญไบรโอไฟต์ ภาควชิ าชีววิทยา คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
4
- โครงสร้ำงในระยะ sporophyte ไม่สำมำรถมองเห็นได้ด้วยตำเปล่ำ โดยจะเจริญอยู่
บนโครงสรำ้ งสืบพนั ธ์ขุ องเพศเมยี ซ่งึ เปน็ สว่ นของ gametophyte
- ต้น gametophyte ของลิเวอร์เวิร์ทจะสร้ำงโครงสร้ำงสืบพันธุ์ท่ีมีลักษณะเป็น
อับเซลล์สืบพันธุ์ แยกเพศ มีลักษณะ คล้ายร่ม โดยเพศผู้จะเรียกกลุ่มของอับเซลล์
สืบพันธว์ุ ำ่ Antheridium ส่วนอับเซลล์สบื พนั ธ์เุ พศเมยี จะเรยี กว่ำ Archegonium
โครงสร้างทสี่ รา้ งเซลลส์ บื พันธ์เุ พศผู้ (Antheridium)
โครงสรา้ งท่ีสรา้ งเซลลส์ ืบพันธเ์ุ พศเมยี (Archegonium)
- ในสภำวะแวดล้อมท่ไี ม่เหมำะสมตอ่ กำรสรำ้ งเซลล์สืบพนั ธ์ุ ลิเวอร์เวริ ์ทจะสบื พันธ์ุแบบ
ไม่อำศยั เพศ โดยกำรสร้ำงโครงสร้ำงที่เรยี กวำ่ _______________________
โครงสร้างสืบพันธุ์แบบไม่อาศยั เพศของลิเวอรเ์ วริ ท์ (Gemma cup)
5
2. Division Anthocerotophyta
ดวิ ชิ ันแอนโทเซอโรโทไฟตา
- พืชในดิวชิ ันนไี้ ดแ้ ก_่ ______________________________________________
- ต้นที่พบเด่นในธรรมชำติเป็นระยะ_________________________และมีอำยุยืน
เช่นเดียวกับลิเวอร์เวิรท์ มลี กั ษณะเปน็ แผ่นแบนหรือแบบ thallus
- ในเซลล์ผิวมี คลอโรพลาสต์เพียงอันเดยี ว
- ต้น sporophyte ของฮอร์นเวิร์ทจะเจริญอยู่บนต้น gametophyte โดยแบ่งเป็น
2 ส่วนคือ ส่วนโคนท่ีฝังอยู่ในต้น gametophyte และส่วนท่ีเป็น แคปซูล ที่มี
รปู รำ่ งเป็นแท่งยำวและภำยในจะสร้ำงสปอร์ เม่ือสปอร์ถูกปล่อยออกจำกแคปซูลแล้ว
ต้น sporophyte จะตำยไป
Sporophyte
Gametophyte
6
Capsule
Cone
3. Division Bryophyta
ดวิ ิชันไบรโอไฟตา
- พืชในดวิ ชิ ันนี้ไดแ้ ก_่ ______________________________________________
- ยงั ไมม่ รี ำก ลำตน้ และใบท่แี ท้จรงิ ตน้ ทพ่ี บในธรรมชำติอย่ใู นระยะ_____________
- มีส่วนคล้ำยใบเรียงรอบส่วนคล้ำยลำต้น บริเวณกลำงแผ่นของส่วนคล้ำยใบมีเซลล์
ซอ้ นกันหลำยชน้ั ดูคล้ำยกับเสน้ กลำงใบเรียกว่ำ คอสตา (costa)
ส่วนคลา้ ยใบ
Costa
สว่ นคลา้ ยต้น
7
- ต้น sporophyte ของมอสเจริญอยู่บนต้น gametophyte ซ่ึงต้น sporophyte ของ
มอสแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
1. สว่ นโคน (foot) ท่ฝี งั ตัวอยใู่ นตน้ gametophyte
2. ส่วนก้าน (seta) ซงึ่ มีขนำดส้ันและยำวแตกตำ่ งกันไปของชนิดมอส
3. ส่วนแคปซูล (capsule) หรือ อับสปอร์ที่สร้ำงสปอร์อยู่ภำยใน แคปซูลของมอส
จะมีปลอกหุ้มด้ำนนอกเรียกว่ำ calyptra และมีฝำปิดเรียกว่ำ operculum
ซ่ึงจะหลุดออกไปเม่ือสปอโรไฟต์เจริญเต็มที่ เม่ือฝำปิดหลุดออกจะเห็นเป็น
แผ่นบำง ๆ คล้ำยซี่ฟันเรียกว่ำ peristome teeth ช่วยในกำรกระจำยสปอร์
เพอ่ื สืบพนั ธุ์
Calyptra
Operculum
Capsule
Seta
Foot
ส่วนประกอบของต้น Sporophyte Peristome teeth
- ไบรโอไฟต์ส่วนใหญ่มีขนำดเล็ก และพบตำมพ้ืนท่ีที่มีควำมชื้นสูง พบได้ท้ังบนดิน
บนหนิ อิงอำศัย และในนำ้ กำรปฏิสนธติ ้องอำศยั น้ำเปน็ ตวั กลำงให้สเปริ ์มผสมกับไข่
8
พืชทีม่ ีทอ่ ลาเลียง (Vascular plants)
- พืชท่ีมีท่อลำเลียงหรือ___________________________________ เป็นกลุ่มพืชท่ี
มีระยะ_______________________เป็นระยะเด่น มีเนื้อเยื่อท่อลำเลียง (vascular
tissue) มรี ำก ลำต้น และใบท่ีแทจ้ รงิ
- Gametophyte มีขนาดเล็กและมีช่วงชีวิตส้ันกว่า sporophyte กำรใช้หลักฐำน
ทำงชีววิทยำโมเลกุลในกำรจำแนกพืชมีท่อลำเลียงที่มีสำยสัมพันธ์เชิงวิวัฒนำกำรแยก
ออกเปน็ 2 กลุ่มคอื
1. ไลโคไฟต์ (Lycophytes)
2. ยฟู ลิ โลไฟต์ (Euphyllophytes)
ไลโคไฟต์ (Lycophytes)
- เปน็ พชื ทีเ่ จริญอยบู่ นดนิ หรอื องิ อำศยั มีประมำณ 1,200 สปีชสี ์
- ใบเป็นแบบ_________________คือเป็นใบที่มีขนำดเล็ก และมี เส้นใบเพียง 1 เส้น
ทย่ี งั ไมแ่ ตกแขนง
- มีกำรสร้างสปอร์แบบเดียว (Homosporous plant) พืชในกลุ่มนี้ได้แก่ จีนัสไลโค
โพเดยี ม (Lycopodium)
- ถ้ำหำกมีกำรสร้างสปอร์สองแบบหรือแยกเพศ (Heterosporous plant) ได้
เป็น___________________________จะแบ่งตัวและเกิดเป็น gametophyte
เพศเมีย กับ_______________________จะแบ่งตัวและเกิดเป็น gametophyte
เพศผู้ ซง่ึ จะพบไดใ้ นกลมุ่ พชื จนี สั ซีแลกจเิ นลลา (Selaginella) และจีนัสไอโซอีเทส
(Isoetes)
- พชื ในกล่มุ นีจ้ ะมีกำรแตกกง่ิ เปน็ แบบ___________________________________
- บรเิ วณปลำยกิ่งจะมโี ครงสรำ้ งของกลมุ่ ใบท่ีสร้ำงอับสปอรเ์ รียกว่ำ______________
ซ่ึงประกอบด้วย____________________________
9
1. Division Lycopodiophyta
ดวิ ิชันไลโคโพดโิ อไฟตา
- พชื ในดวิ ชิ นั น้ปี ระกอบดว้ ยพชื 3 กล่มุ ใหญค่ ือ
Lycopodiaceae
Selaginellaceae
Isoetaceae
Lycopodiaceae (Lycopodium)
- พชื ในกล่มุ นี้ไดแ้ ก_่ ________________________________________________
- มกี ำรสร้ำงสปอร์เป็นแบบ___________________________________________
- Sporophyte มีใบเป็นแบบ lycophyll or microphyll คือ แผ่นใบมีเส้นใบเพียง
เสน้ เดยี วท่ีไม่แตกแขนง
10
Lycophyll / Microphyll
Strobilus
Sporophyll
Sporangium
Homospore
ลกั ษณะของต้น Sporophyte ของพืชในกลุ่ม Lycopodiaceae
11
Selaginellaceae (Selaginella)
- พชื ในกลมุ่ นีไ้ ดแ้ ก่______________________________________________
- มีกำรสรำ้ งสปอร์แบบ___________________________________________
ซึ่งประกอบด้วย___________________________________สร้ำงสปอร์เพศผู้
และ______________________________สรำ้ งสปอร์เพศเมีย
- ใบเปน็ แบบ lycophyll และมีลักษณะใบ 2 ชุด (2 forms of leaf) คือ
ventral leaf ที่แผ่ขยายออกด้านข้าง กบั dorsal leaf ท่ีแนบติดแนวแกนกลาง
ของก่ิง
Dorsal leaf Microsporophyll
Ventral leaf Microsporangium
Strobilus
12
Megasporophyll
Megasporangium
Isoetaceae (Isoetes)
- พชื ในกลมุ่ นี้ได้แก_่ _______________________________________________
- จดั เปน็ Lycophyte ทพ่ี บไดย้ ำกมำกในปัจจบุ ัน ลักษณะคลำ้ ยกอกระเทียมขนำดเลก็
- มีกำรสร้ำงสปอร์แบบ______________________________________________
Megasporangium Microsporangium
ยูฟิลโลไฟต์ (euphyllophyte)
- เปน็ พชื ทมี่ ใี บแบบ___________________ ซง่ึ มีจำนวน เสน้ ใบมากกว่า 1 เสน้ และ
มกี ารแตกแขนงภายในแผน่ ใบ
- พัฒนำกำรของแผ่นใบมำจำก เน้ือเย่ือเจริญ (permanent tissue) ท่ีมีตำแหน่งอยู่
บรเิ วณปลำยใบและขอบใบ
13
ลกั ษณะใบแบบยูฟลิ (euphyll)
- แบง่ ย่อยไดเ้ ป็น 2 กลุ่ม คอื
โมนิโลไฟต์ (Monilophyte)
สเปอรม์ าโทไฟต์ (Spermatophyte)
โมนิโลไฟต์ (Monilophyte)
- พบไดท้ งั้ บนบก บนหนิ และอิงอำศัย บำงชนดิ อำศัยอยู่ในนำ้ หรอื บริเวณท่ชี ้ืนแฉะ
- กำรสืบพันธย์ุ ังคงต้องอำศยั น้า เปน็ ตัวกลำงใหส้ เปิร์มไปผสมกับไข่
- มที ้ังพืชทีม่ ลี ำตน้ ใต้ดิน (rhizome) และลำต้นเหนอื ดิน
- ส่วนใหญ่ sporophyte มีแบบเดยี ว ยกเว้น (เฟิรน์ นา้ : aquatic ferns)
- พืชในกลุ่มน้ีมี 1 ดิวิชัน มีจำนวนมำกถึง 12,000 สปีชีส์ และในบทเรียนน้ีจะจัด
จำแนกออกเปน็ 3 ช้ัน (class) ดงั น้ี
1. Division Monilophyta
ดิวิชนั โมนิโลไฟตา
Class Psilopsida (ไซโลทอพซดิ า)
Class Equisetopsida (อีควเิ ซทอพซดิ า)
Class Polyposiopsida (โพลโี พดิออพซิดา)
14
Class Psilopsida
- พชื ในคลำสนีไ้ ดแ้ ก่________________________________________________
- ยัง ไม่มีรากท่ีจริง มี rhizoid ทาหน้าท่ีแทนราก เนื่องจำกลดรูปหำยไป มีลำต้น
2 แบบคือ ส่วนท่ีเจริญใต้ดินหรือลำต้นใต้ดิน (rhizome) และ ลำต้นเหนือดิน
ทีม่ ีการแตกก่งิ แบบ____________________
- อับสปอรเ์ จรญิ อยู่บนกงิ่ มลี กั ษณะเป็น 3 พู (3 lobe)
- จดั เป็นพืชทีม่ ใี บแบบ ยูฟลิ แตย่ ังไม่พัฒนา ซงึ่ เห็นเปน็ เพียงติ่งหรือแขนงสนั้ ๆ บนก่ิง
Euphyll ที่ยงั ไมพ่ ัฒนา
sporangium
sporangium
spore
Scale leaf
15
Class Equisetopsida
- พืชในคลำสนี้ได้แก่______________________________________________
- ลำตน้ เหนอื ดินมี ข้อปลอ้ ง ทีช่ ัดเจน มกี ำรแตกก่ิงจำกตำขำ้ ง
- อบั สปอรเ์ กิดอยู่รวมกนั ปลำยกิ่งเรียกวำ่ ___________________ โดยอับสปอร์เจริญ
อยบู่ นโครงสรำ้ งท่ีเรยี กวำ่ sporangiophore (สปอแรงจโิ อฟอร์)
- ลักษณะใบเกิดจำกกำรลดรูปของยูฟิลแนบชิดอยู่กับลำต้นเหนือดิน ทำให้ดูคล้ำย
ไลโคฟลิ
ปล้อง (internode)
Euphyll ท่ีลดรปู
ข้อ (Node)
Sporangiophore
Strobilus
Scale leaf
16
Sporangium
Spore
Class Polypodiopsida
- พืชในชน้ั น้ไี ด้แก_่ _________________________________________________
- เปน็ เฟิร์นทแี่ ทจ้ รงิ หรอื เฟิรน์ ท่ีอับสปอร์เจริญมำจำกเซลล์ต้นกำเนิดเพียง 1 เซลล์ และ
ผนังอับสปอร์หนำเพียง 1 ชน้ั เซลล์
- ใบอ่อนมีลักษณะม้วนงอเรียกว่ำ______________________เมื่อเจริญใบมักมีขนำด
ใหญ่ เรยี กใบของเฟิร์นว่ำ frond และจะสร้ำงอับสปอร์ท่ีผิวด้ำนล่ำงใบ หรือขอบของ
ใบเรยี กว่ำ กลมุ่ อับสปอร์ หรอื _____________________
มักมีกำรสร้ำงเน้ือเยื่อมำปิดกลุ่มอับสปอร์เรียกว่ำ อินดูเซียม (indusium) ผนังอับ
สปอรข์ องเฟิรน์ จะพบแถวของเซลล์ท่ีมีผนังหนำเรยี กว่ำ แอนนูลัส (annulus)
- เจรญิ ได้ในแหล่งทอ่ี ย่หู ลำยประเภทท้งั บนดนิ บนหิน อิงอำศยั และในน้ำ
17
ลกั ษณะใบอ่อนของเฟริ น์ จะมว้ นงอกเรียกว่า Circinate Vernation
Sorus : กลมุ่ อบั สปอร์
Indusium : เยื่อคลุมอับสปอร์
Spore
Annulus
18
รู้หรอื ไม่ ! (จอกหูหนู แหนแดง แหนใบมะขาม และผกั แว่น จดั เปน็ เฟริ ์นน้า : Aquatic ferns)
แหนใบมะขาม จอกหหู นู
ผกั แว่น
Sporocarp
กลุ่มอับสปอร์
Microsporangium
แหนแดง Megasporangium
19
สเปอรม์ าโทไฟต์ (Spermatophyte)
- เปน็ พืชทีม่ ีเมลด็ ทสี่ ร้ำงออวุล มกี ารถ่ายเรณู (pollination) โดยอำศยั ลม น้ำ หรือ
pollinator (แมลงและสตั ว์)
- หลงั กำรถ่ำยเรณูจะเกดิ กำรงอกของหลอดเรณู (pollen tube) เพ่ือเปน็ ชอ่ งทำงให้
สเปิรม์ เคลื่อนทีไ่ ปปฏสิ นธิกับเซลลไ์ ข่ พชื กลมุ่ นี้ จงึ ไมต่ อ้ งอาศยั น้าเปน็ ตัวกลางใน
การปฏสิ นธิ
- หลงั จำกปฏสิ นธิแล้ว ออวุลจะเจรญิ เป็น______________________
- Sporophyte ของพืชกลุ่มน้ีมักมีขนำดใหญ่ มีกำรสปอร์ต่ำงแบบคือ microspore
และ megaspore ส่วน gametophyte จะลดรูปเหลือเพียงไม่กี่เซลล์และอำศัยอยู่
บนต้น sporophyte
- แบง่ ไดเ้ ป็น 2 กลุ่มคอื
พชื เมล็ดเปลอื ย (Gymnosperm)
พชื ดอก (Angiosperm)
พชื เมล็ดเปลอื ย (Gymnosperm)
- ออวุลของพืชกลุ่มนี้ไม่มีรังไข่ห่อหุ้ม ดังนั้น เมล็ดจึงไม่มีผลห่อหุ้ม จึงเรียกว่ำ
(พืชเมลด็ เปลือย)
- โครงสรำ้ งทส่ี ร้ำงอบั สปอร์ของพืชเมลด็ เปลือยมักเกิดรวมกนั เปน็ กลมุ่ เรยี กว่ำ
_______________ หรือ strobilus โดยโคนจะแยกเพศตำมชนิดของของ
สปอร์ทส่ี ร้ำง โคนทส่ี ร้ำง microspore เรียกวำ่ ______________________
ส่วนโคนทสี่ รำ้ ง megaspore เรียกวำ่ _____________________________
20
1. Division Gymnospermae
ดิวิชันจิมโนสเปิร์มมี
- พชื ในดวิ ชิ นั น้ี ออวุลจะเจริญบนใบท่เี รยี กว่ำ_____________________________
- แบ่งพชื ในดวิ ชิ ันนีอ้ อกเปน็ 4 class คือ
Class Cycadopsida
Class Ginkgoopsida
Class Pinopsida
Class Gnetopsida
Cycadopsida
- พชื ในคลำสนีไ้ ดแ้ ก่_______________________________________________
- เปน็ ไม้ต้น มกี ำรเจริญเตบิ โตทุติยภูมิ
- ต้น sporophyte แยกเพศ โดย ต้นเพศผู้จะสร้ำงใบ (microsporophyll) ท่ีสร้าง
microsporangium ส่วนเพศเมียจะ สร้ำงใบ (Megasporophyll) ที่สร้าง
megasporangium
Male cone Female cone
Microspore 21
Microsporangium
ลกั ษณะของ female cone ที่ ovule พฒั นาไปเป็น seed
Class Ginkgoopsida
- พืชในคลำสนี้ได้แก่______________________________________________
- ทั่วโลกพบเพยี ง 1 ชนิดเท่ำนัน้ คอื Ginkgo biloba
- เปน็ ไมต้ ้นขนำดใหญ่ ผลัดใบในฤดหู นำว และเป็นตน้ แยกเพศ
- ตน้ เพศเมียจะสร้ำงกิ่งพิเศษทีม่ ีก่งิ แขนงและใบเจรญิ เปน็ กระจุก ออวุลเจริญอยู่ที่ปลำย
ก่งิ แขนง Male cone
อาศัยลมในการสืบพนั ธ์ุ
Seed
Ovule
Female cone
22
Class Pinopsida
- พชื ในคลำสน้ีได้แก่________________________________________________
- เปน็ กลมุ่ ที่มีจำนวนมำกที่สุดและหลำกหลำยที่สดุ ในบรรดำพืชเมลด็ เปลือย
- ออวลุ เจรญิ บนกง่ิ ที่เปล่ยี นแปลงรูปร่ำงไปเป็นแผน่ เกลด็
- ต้น sporophyte ของสนเป็นระยะที่เด่นและเจริญในส่ิงแวดล้อม อวัยวะสืบพันธุ์
เรียกว่ำ_______________ ซึ่งเป็นต้นแยกเพศ โดยต้นเพศผู้ประกอบด้วยโคนเพศผู้
ท่ีประกอบด้วย___________________มีลักษณะเป็น เกล็ด (scale) เรียงตัวรอบ
แกนที่ใต้โคน ซึ่งจะมีอับไมโครสปอร์หรือ microsporangium ซ่ึงจะเจริญไป
เปน็ ___________สว่ นโคนเพศเมียจะประกอบด้วย___________________และจะ
มีอับเมกะสปอรห์ รอื Megasporangium ซงึ่ จะเจริญเป็น____________________
Male cone Microsporophyll
Ovuliferous scale Microsporangiu
Megaspore m
pollen
Cross Section Male cone
23
Class Gnetopsida
- พืชในกลุม่ นไี้ ดแ้ ก_่ ________________________________________________
- จดั เป็นพชื เมลด็ เปลอื ยท่มี วี วิ ฒั นำกำรสูงสุด มลี กั ษณะบำงอยำ่ งใกลเ้ คยี งกับพืชดอก
- มี 3 สกุล คือ Gnetum sp., Welwichia sp., Ephedra sp. ในประเทศไทยพบเพียง
สกุลเดยี วคือ Gnetum sp. ไดแ้ ก่มะเมือ่ ย เหรยี ง
- Gnetum sp. ลักษณะเป็นต้นแยกเพศ คือมี strobilus เพศผู้ (microsporangiate
strobilus) ซ่ึงจะสร้ำง____________และ strobilus เพศเมีย (megasporangiate
strobilus) ซ่ึงจะมี ovule และพัฒนาเป็น seed เป็นไม้เถำขนำดใหญ่ ใบเจริญดี
แผ่นใบมีเสน้ ใบแตกแขนงเหมอื นพชื ใบเลย้ี งคู่
Gnetum sp. Microsporangiate strobilus
Ovule
Seed
Megasporangiate strobilus
24
Welwitchia sp. Ephedra sp.
พืชดอก (Angiosperm)
- ออวลุ อยูใ่ นโครงสรำ้ งของ___________เม่อื พฒั นำไปเปน็ เมลด็
- เมล็ดของพืชดอกจะอยู่ในโครงสรำ้ งของ_______ซ่งึ พฒั นำมำจำกรังไข่
- มีดอกท่ีเป็นส่วนของกิ่งมีกำรเปลี่ยนแปลงรูปร่ำง (modification) ไปเพ่ือทำ
หน้ำท่ีในกำรสืบพันธ์ุ โดยทำหน้ำที่สร้ำง สปอร์ และมีกำรปฏิสนธิคู่
(double fertilization)
1. Division Magnoliophyta
ดวิ ิชนั แมคโนลโิ อไฟตา
- พืชในดวิ ิช้นั น้ีได้แก_่ ________________________________________
- เป็นพืชที่มีจำนวนชนิดมำกท่ีสุด มีมำกถึง 250,000 ชนิด เป็นพืชที่มนุษย์ใช้
ประโยชน์มำกที่สดุ
- ลักษณะสำคัญคือ มอี อวุลเจริญอยู่ในโครงสร้ำงทีเ่ รยี กว่ำ_______________
ซึง่ เป็นใบทีม่ อี อวุลเจรญิ อยู่ที่ผิวใบด้ำนบนตำมแนวขอบใบ แล้วขอบใบพับเข้ำ
หำกันตำมแนวเส้นกลำงใบและเช่ือมกันตลอดแนวขอบใบ ทำให้เกิดเป็นช่อง
และมอี อวุลเจริญอยู่ภำยใน
25
26