The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by bqae1996, 2021-05-24 11:43:34

RABBIT MYTHOLOGY AND BELIEF



01 INDIA
จันทราผู้ถือศศะไว้ในมือ
CHINA
กระต่ายนักปรุงยา
VIETNAMS 21 สัญลักษณ์แห่งความไร้เดียงสา
05
09
13 KOREAN
นักตําาโมจิบนดวงจันทร์ 17 กระต่ายผู้น่ังทําาต็อก
JAPAN
23 27
THAI
จ้าวแห่งการเสียสละ
ISRAEL
กระต่ายผู้ขี้ขลาด
OJIBWE
เทพกระต่ายผู้ยิงใหญ่


29 31 33 35
39 41
43
AZTEC
เทพแหง่ กระตา่ ย
AMERICA
สัญลักษณ์ของชีวิตใหม่
RABBIT FEET
เครื่องรางที่ต้องแลกมากับชีวิตของกระต่าย
ENGLAND
กระต่ายนักทําานาย
SWEDEN
สัตว์ท่ีแม่มดนิยมแปรงร่าง
UNITED KINGDOM กระต่ายน้ันเป็นตัวโชคร้าย
AFRICA
บทลงโทษของกระต่ายท่ีไม่ใส่ใจ


1CONT


2


3

01 4
INDIA
จันทราผู้ถือศศะไว้ในมือ
ตามตาํา นานเลา่ วา่ ครงั้ หนงึ่ มี กระต่าย ลิง นาก และสุนัข จงิ้จอกสาบานรว่มกนัวา่จะ ไม่ฆ่าสัตว์ตลอดชีวิต และ บําาเพ็ญตนเป็นฤๅษีอยู่ในป่า เมื่อพระอินทร์เห็นดังน้ัน จึงอยากทดสอบในศรัทธา ของสัตว์ทั้งสี่ จึงปลอมตัว เป็นพราหมณ์เที่ยวขอบริจา คทานโดยไปขอจากลิงเป็น ตัวแรก ลิงได้มอบมะม่วง ให้ จากนั้นพราหมณ์ก็ไป ขอทานจากนาก นากจึงได้ ถวายปลาซ่ึงมาตายเกยตื้น อยู่ริมฝั่งแม่นํา้า ส่วนสุนัข จ้ิงจอกก็ได้ถวายนมหม้อ หนึ่งและผลไม้แห้ง เมื่อ พราหมณ์เข้าไปขอบริจา คทานจากกระตา่ยกระตา่ย จึงพูดกับพราหมณ์ว่า “ ข้า กนิ แตห่ ญา้ เปน็ อาหาร หญา้ ก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ กับ ทา่ นเลย ” พราหมณจ์ งึ เอย่
ขนึ้ มาวา่ ถา้ กระตา่ ยบาํา เพญ็ ตนเปน็ ฤๅษที แี่ ทจ้ รงิ แลว้ ขอ ให้กระต่ายสละชีวิตของตน เพ่ือเป็นอาหารแก่พราหมณ์ กระตา่ ยตอบตกลงทนั ทแี ละ ทําาตามที่พราหมณ์ขอร้อง ว่า ให้กระโดดเข้ากองไฟ เองพราหมณ์จะได้ไม่ต้อง ลงมือฆ่าและปรุงกระต่าย เป็นอาหาร กระต่ายปีนข้ึน ยืนบนก้อนหินและกระโดด เข้ากองไฟ ในขณะที่ร่าง กระต่ายกําาลังจะกสู่เปลว เพลิงนั้น พราหมณ์ได้คว้า ตัวกระต่ายไว้ แล้วเปิดเผย ตัวตนท่ีแท้จริงว่าคือใคร พระอินทร์จึงนําากระต่าย ไปไว้บนดวงจันทร์เพ่ือให้ สิ่งมีชีวิตท้ังมวลในโลกได้ เห็นกระต่าย และรับรู้ว่า กระตา่ ยคอื ตวั อยา่ งแหง่ การ เสียสละตนอันยิ่งใหญ่


5

6


7

02 8 กระต่ายนักปรุงยา
ทู่ เอ๋อร์ เย๋ แปลว่า “ เทพ หนา้ ทต่ี าํา ยาอยบู่ นดวงจนั ทร์ กระต่าย”ซ่ึงเทพองค์นี้มา ให้ลงมารักษาโรคให้ชาว จากเทพนิยาย“กระต่ายบ้านเมอื่กระตา่ยหยกไดล้ง หยกในตําาหนักจันทร์ ” มี มายังโลกจึงได้ทําาการพลาง
CHINA
ตําานานที่เล่าว่าย้อนกลับไป เมอ่ื นานมาแลว้ ทเ่ี มอื งปกั กง่ิ เกิดโรคระบาดหนักผู้คน มากมายล้มตาย เทพธิดา ฉางเอ๋อซึ่งอยู่บนดวงจันทร์ จงึไดส้ง่กระตา่ยหยกทเี่ลยี้ง เอาไว้อยู่ข้างกาย ซึ่งปกติ กระตา่ ยหยกตวั นจี้ ะตอ้ งทาํา
ตัวแบบไมเคย่ซ้ําากัน เผ่ือ รกั ษาผคู้ นทเี่ จบ็ ปว่ ยหลา่ นนั้ และไม่เคยหวังส่ิงตอบแทน ใด ๆ และเมอ่ื กาํา จดั โรคภยั ให้ชาวเมืองเสร็จเรียบร้อย กระต่ายหยกก็กลับข้ึนไป ยังวังจันทราเพื่อไปอยู่กับ เทพธิดาฉางเอ๋อเช่นเดิม


9

10


11

03 12 JAPAN
นักตําาโมจิบนดวงจันทร์
ตามตําานานของญ่ีปุ่นนั้น เล่าว่า ครั้งหน่ึงมีชายชรา ที่อาศัยอยู่บนดวงจันทร์ได้ มองลงมาท่ีป่าใหญ่บนโลก มนุษย์ เขาเห็นกระต่าย ลิง และ สุนัขจิ้งจอก ทั้งสาม อาศัยอยู่ด้วยกันท่ีนั่น และ ตา่ งเปน็ เพอ่ื นทด่ี ตี อ่ กนั ชาย ชราจึงเกิดความสงสัยและ อยากรู้ว่าสัตว์ตัวไหนใจดี ที่สุดจึงได้ทําาการแปลงตัว มาเป็นขอทาน แล้วลงจาก ดวงจันทร์ไปยังป่าใหญ่บน โลกมนุษย์เม่ือลงไปเจอกับ สัตว์ท้ังสามบนโลกมนุษย์ ชายชราจึงได้พูดกับสัตว์ ท้ังสามว่า “ โปรดช่วยผม ด้วยผมหิวหิวเหลือเกิน” เม่ือสัตว์ท้ังสามเห็นจึงรู้สึก สงสาร และแยกย้ายกันไป หาอาหารมาให้ขอทาน ลิง ได้นําาผลไม้มาจําานวนมาก ส่วนสุนัขจิ้งจอกได้ไปจับ ปลาตัวใหญ่แต่กระต่ายไม่ สามารถหาสิ่งใดมาได้ จึง
ทาําใหก้ระตา่ยรอ้งครา่ําครวญ แต่แล้วก็ได้ความคิดข้ึนมา กระตา่ ยจงึ ไดพ้ ดู กบั ขอทาน ว่า “ ผมไม่มีสิ่งใดจะให้ คุณ ดังนั้นผมจะโยนตัวเอง ลงไปในกองไฟนี้ ขอให้คุณ กินเน้ือของผมแทนก็แล้ว กัน ” กระต่ายเตรียมพร้อม ที่จะกระโจนลงไปในกองไฟ และย่างตัวเอง แต่ทันใด นั้นขอทานก็เปล่ียนร่างเป็น ชายชราบนดวงจันทร์ตาม เดิม และได้พูดกับกระต่าย ว่า“เธอเป็นสัตว์ท่ีใจดีมาก เจ้ากระต่าย แต่เธอไม่ควร ทําาสิ่งใดที่เป็นการทําาร้ายตัว ของเธอเอง เนื่องจากเธอ เปน็สตัวท์ใี่จดทีสี่ดุในบรรดา สตัวท์ง้ัหมดฉนัจงึขอนาําเธอ กลับขึ้นไปอยู่กับฉัน ” จาก นั้น ชายชราบนดวงจันทร์ ก็อุ้มกระต่ายนําาไปที่ดวง จันทร์ดังน้ันในคืนที่ท้องฟ้า สดใดคนญ่ีปุ่นจึงมองเห็น กระต่ายอยู่บนน้ัน


13

14


15

04 16 KOREAN
กระต่ายผู้น่ังทําาต็อก
ตําานานเกาหลี ตามตําานาน ของประเทศเกาหลีน้ันก็ จะเห็นกระต่ายอยู่บนดวง จันทร์คล้ายกับของประเทศ ญ่ีปุ่น เพียงแต่ว่ากระต่าย เหล่าน้ันไม่ได้กําาลังตําาแป้ง โมจิแต่ตามตําานานเกาหลี เช่ือกันว่าเป็นแป้ง “ ต็อก ” ซ่ึงก็คือเค้กข้าวของชาว เกาหลีและกระต่ายเหล่า นั้นก็อยู่ใต้ต้นอบเชย แต่ใน เรื่องเล่าของตําานานเกาหลี นั้นก็มีความคล้ายคลึงกับ เรื่องเล่าของตําานานญี่ปุ่น แต่ตัวละครและสานที่ใน เรื่องเล่าน้ันจะมีความแตก ต่างกันบ้างตามตําานานเกา หลีนั้นเล่าว่า จักรพรรดินั้น อาศัยอยู่บนสวรรค์ และได้ มีสัตว์สามชนิดท่ีอาศัยอยู่ ท่ีนั่นด้วย ได้แก่ ลิง สุนัข จิ้งจอกและกระต่าย ด้วย ความสงสัยใคร่รู้ของจักร พรรดจิ งึ อยากทดสอบความ ใจดีของสัตว์ทั้งสาม จึงได้
ไปขอทานสัตว์ท้ังสามด้วย ความหิวโหย แต่ด้วยความ สงสารสตั วท์ งั้ สามจงึ ออกไป หาอาหารมาให้ ลิงได้กลับ มาพร้อมผลไม้ ต่อมาสุนัข จงิ้ จอกไดก้ ลบั มาพรอ้ มปลา แต่กระต่ายได้กลับมาเป็น ตัวสุดท้ายและไม่สามารหา อะไรมาให้จักรพรรดิได้เลย ดังน้ันกระต่ายจึงได้พูดกับ จักรพรรดิว่า ผมไม่มีส่ิงใด จะให้คุณ ดังนั้นผมจะโยน ตัวเองลงไปในกองไฟน้ี ขอ ให้คุณกินเน้ือของผมแทนก็ แล้วกัน ด้วยความซาบซึ้ง ใจจักรพรรดิจึงได้แต่งต้ัง กระต่ายให้เป็นผู้พิทักษ์และ ยกย่องกระต่ายว่าเป็นสัตว์ ที่เสียสละที่สุด


17

18


19

05 20 VIETNAMS
สัญลักษณ์แห่งความไร้เดียงสา
ตําานานเวียดนาม คนเวียดนามน้ันมองว่ากระต่ายเป็น สัญลักษณ์แห่งความไร้เดียงสาและอ่อนเยาว์ อีกทั้งยังมี ภาพเหล่าทวยเทพขณะกําาลังไล่ล่ากระต่าย ก็เพื่อแสดงให้ เห็นพละกําาลังของเทพทั้งปวง


21

06 22 THAI
จ้าวแห่งการเสียสละ
ในเรื่องเล่าของประเทศไทย เล่าว่า วันหนึ่งมีชายหลง เข้าไปในป่า แต่หมดสติ ไปเพราะความหิวโหยน้ัน มีสัตว์ป่า 3 ชนิดมาพบ ได้แก่ หมี, หมาจ้ิงจอก และกระต่าย โดยสัตว์ท้ัง 3 ตกลงกันจะช่วยชายคน นี้โดยหมีได้ไปนําาปลามาให้ ชายผู้นี้กิน หมาจิ้งจอกเอา น้ําาองุ่นมาให้ แต่กระต่าย นั้นไม่สามารถหาอะไรมา ไดเ้ พราะกนิ แตห่ ญา้ จงึ เลอื ก เสียสละตนเองลุยเข้ากอง ไฟเพื่อเป็นอาหารแก่ชายผู้ นั้น อย่างไรก็ตามชาดกเรืื่ องนี้ได้มีรายละเอียดต่าง
ไปเล็กๆน้อยๆ เช่น ชายผู้ น้ีบ้างก็ว่าเป็นพระพุทธเจ้า หรือ เป็นพราหมณ์บ้าง หรือกระทั่งว่า กระต่าย ตัวนี้คือพระชาติหนึ่งของ พระพุทธเจ้าก็มี


23

24


25

07 26 ISRAEL
กระต่ายผู้ขี้ขลาด
ตําานานตะวันออกกลาง ตามตําานานของตะวันออกกลาง ชาวยิวเช่ือกันว่ากระต่ายน้ันหมายถึงความขี้ขลาด รวม ถึงตําานานของชาวอิสราเอลที่พูดภาษาฮิบรูก็มีคําาว่า “ กระต่าย ” อันหมายถึง “ ขี้ขลาด ” เช่นเดียวกับคําาว่า “ ชิกเก้น ” ที่แปลตรง ๆ ว่าไก่ในภาษาอังกฤษ


27

08 28 OJIBWE
เทพกระต่ายผู้ยิงใหญ่
ตําานานอเมริกากลาง ชนเผ่าโอจิบวี (Ojibwe) ชาวอเมริกัน ดั้งเดิมมีนานาโบโซ (Nanabozho) เชื่อว่ากระต่ายเป็นเทพ กระต่ายผู้ยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโลก


29

09 30 AZTEC
เทพแหง่ กระตา่ ย
ตาํา นานแอซเทค็ แอซเทค็ มวี หิ าร เทพกระต่าย 400 องค์ “ เซ็นต์ ซอน โตต็อชติน ” (CentzonTo- tochtin) และยังมีเทพกระต่าย อีก 2 องค์ชื่อ “ โอเมต็อชตลิ ” (Ometotchtli) เป็นตัวแทนแห่ง ความอุดมสมบูรณ์, การเฉลิม ฉลอง และความมึนเมา


31

10 32 AMERICA
สัญลักษณ์ของชีวิตใหม่
ตําานานอีสเตอร์ ในซีก โลกฝั่งตะวันตก เม่ือส้ิน ฤดูหนาวก็จะเป็นฤดูใบไม้ ผลิซึ่งเป็นช่วงเวลาของการ เพาะปลูกและการเร่ิมชีวิต อันสดใสอีกคร้ังหลังจาก ความหนาวเหน็บในฤดู หนาวได้ผ่านพ้นไปหลาย ๆ ศาสนาในสมัยโบราณ จะมีประเพณีการฉลองฤดู ใบไม้ผลิ การฉลองดังกล่าว คือ เทศกาลแห่งการกินดื่ม และขอพรให้เกิดความอุดม สมบรู ณ์ ดว้ ยเหตผุ ลทว่ี า่ ไข่ เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่ ส่วนกระต่ายนั้นเป็นท่ีรู้กัน ว่ามีลูกดกและแพร่พันธ์ุเร็ว
ทั้งไข่และกระต่ายจึงเป็น สัญลักษณ์ของท้ังชีวิตใหม่ และความหวังคริสเตียนใน ประเทศตะวันตกจึงนําาเอา ไข่และกระต่ายมาใช้เป็น สัญลักษณ์ของชีวิตใหม่แห่ง การฟนื้ คนื พระชนมข์ องพระ คริสต์


33

11 34
RABBIT FEET
เครื่องรางท่ีต้องแลกมากับชีวิตของกระต่าย
ความเชื่อเรื่องตีนกระต่าย เมื่อ 600 ปีก่อนคริสตกาล ในหลายประเทศเช่ือกัน ว่าตีนกระต่ายตากแห้งนั้น จะช่วยขับไล่เคราะห์ร้าย และเป็นเครื่องรางท่ีจะนําา โชคดีมาให้เจ้าของท่ีครอบ ครองเพราะโดยธรรมชาติ ของกระต่ายนั้นจะต่ืนตัว และระวังภัยอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งกระต่ายน้ันมีความ ว่องไวยากแก่การจับตัว จึง เป็นความเช่ือว่าการมีตีน ของกระต่ายพกติดตัวไว้ น้ันจะนําามาซึ่งความโชคดี ซึ่งการจะได้มานั้นก็ไม่ใช่ เร่ืองง่ายเพราะเช่ือกันว่า จะต้องล่ากระต่ายในคืนที่ พระจันทร์เต็มดวง และจะ ต้องยิงกระต่ายด้วยกระสุน
เงิน หลังจากนั้นก็ตัดขา หลังข้างซ้ายจุ่มลงไปในน้ําา ฝนที่ขังในตอไม้ และจะ ต้องพกขาของกระต่ายไว้ ในกระเป๋าหลังข้างซ้ายหรือ ต้องแขวนคอไว้ตลอดเวลา เท่าน้ัน ความเชื่อเร่ืองตีน กระตา่ยนไ้ีดแ้พรก่ระจา่ยไป ทว่ัทงั้ยโุรปไปจนถงึแอฟรกิา และอเมริกาและเป็นความ เชอื่ ทอี่ ยมู่ าจนมาถงึ ปจั จบุ นั น้ี ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนั้น จะมีพัฒนาการทําาขนสัตว์ เทียมขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังมี กระต่ายจําานวนไม่น้อยท่ี ยังถูกฆ่าและนําาเท้ามาทําา เป็นเครื่องรางเพื่อปรนเปรอ ความเช่ือของตนเอง


35

36


37


12 ENGLAND
กระต่ายนักทําานาย
ตําานานอังกฤษ ตามตําานานเล่าขานว่า “บูดิคา” ราชินีแห่ง ชนเผ่าอังกฤษได้ใช้กระต่ายในการทําานายศึกสงคราม โดย การปล่อยกระต่ายป่าให้ว่ิงออกจากเสื้อคลุมก่อนที่จะรบ กับกองทัพโรมัน และเส้นทางที่กระต่ายป่าวิ่งผ่านนั้นก็จะ สามารถบอกได้ว่าพวกเขาจะชนะศึกสงครามครั้งนี้ได้หรือ ไม่
38


39


13
40
SWEDEN
สัตว์ที่แม่มดนิยมแปรงร่าง
ตําานานสวีเดน ในประเทศ สวีเดนในศตวรรษที่18ใน ยุคสมัยนั้นผู้คนท่ีประเทศ สวีเดนเชื่อเรื่องแม่มดอย่าง มาก จงึ ทาํา ใหผ้ คู้ นเชอ่ื กนั วา่ แมม่ ดจะแปลงกายมาในรา่ ง ของกระต่าย หรือกระต่าย ปา่ เพอื่ ขโมยนมจากปศสุ ตั ว์ นอกจากนั้นพวกมันยังเป็น สัญลักษณ์ความชั่วร้าย ดัง ที่ปรากฎผ่านทางภาพเขียน
ในอดีต สาเหตุที่เป็นเช่น น้ันก็เป็นเพราะว่ากระต่าย คือหนึ่งในตัวทําาลายพืชผล ทางการเกษตร จึงทําาให้ ผู้คนในสวีเดนเชื่อเช่นน้ัน และด้วยความท่ีกระต่าย เป็นสัตว์ที่มีถ่ินอาศัยอยู่ท่ัว โลก ในหลากหลายชนชาติ จึงมีมุมมองที่แตกต่างจาก ชาวสวีเดน


41


14
42
UNITED
KINGDOM
กระต่ายนั้นเป็นตัวโชคร้าย
ตําานานเกาะพอร์ทแลนด์ ในดอร์เซ็ต สหราช อาณาจักร ตามตําานานเล่า ว่าก่อนหน้าน้ีชาวเมืองเห็น ว่า กระต่ายเป็นลางร้าย และเป็นสัตว์โชคร้าย และ การพูดคําาว่า “ กระต่าย ” จะทําาให้ผู้ใหญ่ในบ้านเป็น อันตราย ดังนั้นถ้าใครจะ พูดถึงกระต่าย ก็จะเลี่ยงใช้
คําาว่ากระต่ายแต่จะใช้คําา พูดอื่นแทน เช่น เจ้าหูยาว แต่ในช่วง 50 ปีหลังมาน้ี ความเช่ือดังกล่าวก็ได้หาย ไป ผู้คนบนเกาะสามารถ พูดคําาว่า “ กระต่าย ” ได้ อย่างเต็มปาก และ “ เจ้าหู ยาว ” ก็กลายเป็นเร่ืองเล่า สืบต่อกันมา


43


15
44
AFRICA
บทลงโทษของกระต่ายท่ีไม่ใส่ใจ
ตําานานในหมู่ชาวฮอตเท นทอต ชาวฮอตเทนทอต เป็นชาวพื้นเมืองเร่ร่อนล่า สัตว์ทางตอนใต้ของทวีป แอฟริกา ตามตําานาน กระต่ายบนดวงจันทร์ของ ชาวฮอตเทนทอตจะอธบิ าย โรคปากแหวง่ตง้ัแตเ่กดิของ คนเรา ตามตําานานได้เล่า สืบต่อกันมาว่า พระจันทร์ ส่งกระต่ายลงมายังโลกเพื่อ บอกกับมนุษย์ว่า “ เมื่อ เธอตายจะกลับฟื้นอีกครั้ง และมนุษย์ก็เช่นกัน ” แต่ กระต่ายไม่ใส่ใจหรือสนใจ ท่ีจะจําาข้อความตามที่ พระจันทร์บอก จึงทําาให้ รับข้อความท่ีได้มานั้นผิด ๆ ถูก ๆ และกระต่ายได้
ไปไปบอกกับมนุษย์ว่า “ พระจันทร์ตายแล้ว จะไม่ ฟื้นคืนมาใหม่ และมนุษย์ ก็จะเป็นเช่นเดียวกับเธอ ” เมื่อพระจันทร์ได้ทราบว่า กระต่ายได้ทําาอะไรลงไปจึง ทาํา ใหพ้ ระจนั ทรน์ น้ั โกรธมาก และพยายามที่จะใช้ขวาน จามหัวของกระต่าย แต่ก็ ดันพลาดทําาให้ไปโดนริม ฝีปากบนของกระต่ายแทน เมื่อกระต่ายได้รับบาดเจ็บ จึงได้ตอบแทนด้วยการข่วน เข้าที่ใบหน้าของพระจันทร์ ดว้ยองุ้เลบ็ของตนจนทาําให้ เกิดรอยดําาท่ีปรากฏอยู่บน ดวงจันทร์เหมือนที่เราเห็น กันทุกวันนี้


Collage Art คือ เป็นงานศิลปะอีกหนึ่งด้านที่มีความนิยมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นทั้งใน ประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยหัวใจของงานชิ้นนี้ก็คือ การนําาภาพหลายๆ ภาพมารวมกันให้ อยู่ในงานเดียวกันเพื่อสื่อไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ควรมาอยู่ด้วยกันแต่เมื่อ นําาภาพเหล่านี้มาอยู่ด้วยกันแล้วก็สามารเข้ากันได้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังสามารสื่ออารมณ์ศิลปะ เพืื่อใช้ในการถ่ายทอดจินตนาการต่างๆ ของผู้ที่ต้องการจะสื่อออกมา


Click to View FlipBook Version