ก้าวย่างแห่งชวี ติ ลูกผชู้ าย
จง
ทำ
วนั
นี้
ให้
ดี
ที่
สดุ
๔๘ ปี นายเมืองมนต์
แหง่ ความภาคภูมใจ เนตรหกาญ
ความสาเรจ็ คือผลลัพธ์ของการทางานหนัก
และเรยี นรู้จากความผิดพลาดในอดตี
ความสาเรจ็ ไมม่ ที างเดินมาหาคณุ
คณุ ตอ้ งหาทางเดินไปหาความสาเร็จเอง
ความสาเรจ็ ไม่ใช่กญุ แจสู่ความสขุ
แต่ความสุขต่างหากที่เป็นกญุ แจส่คู วามสาเร็จ
รไู้ ว้ใช่วา่ ใสบ่ ่าแบกหาม
ข
คำนำ
การจัดทาเอกสารชุดนี้ขึ้นเพื่อเล่าถึงประสบการณ์ของข้าพเจ้าต้ังแต่
เกิดที่จาความได้ และท่พี ่อแม่ พี่น้อง เลา่ ส่กู ันฟงั จึงได้ลาดบั เหตุการณ์ตา่ งๆ
ทเ่ี กิดขึ้นในชีวติ จรงิ ของขา้ พเจ้า ตั้งแต่วัยเด็ก วัยเรยี น วยั ทางาน เพื่อนึกถงึ
วันที่เรามีความพากเพียร อดทน ต่อสู้ ดิ้นรน ในการชีวิต ท่ีมีความไม่
ประมาท จนในวันนี้ที่ได้รับราชการมาเป็นเวลา ๒๔ ปี ได้บ่มเพาะจิตใจ ให้มี
ความบริสุทธ์ิในการสรรสร้างผลงานในหน้าท่ีของข้าพเจ้า สู่การเป็ น
ข้าราชการที่มคี วามมงุ่ มนั่ ทัง้ รา่ งกาย จิตใจ สติปญั ญา เพื่อตอบแทนพระคณุ
บดิ า-มารดา ตอบแทนสงั คม และตอบแทนแผน่ ดินเกิด ขอบทีไ่ ด้มีสิ่งดีๆ ใน
ชวี ติ น้ี ในการดารงชีวิตด้วยความสขุ ทงั้ หนา้ ท่กี ารงาน เพ่ือน ครอบครวั และ
กัลยานิมิตรท้ังหลาย อีกทง้ั เพ่ือเป็นการสร้างแรงบันดานใจแก่ตวั ของขา้ พเจา้
และผู้ท่ไี ดอ้ า่ นหนังสอื ฉบับน้ี
ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ ดร. พา อักษรเสือ อาจารย์ประจา
หลักสตู รปรัชญาดษุ ฎีบณั ฑติ สาขาวชิ าการบรกิ ารและภาวะผนู้ าทางการศกึ ษา
มหาวิทยาลยั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ญาตพิ ่ีน้อง เพื่อน ผูบ้ งั คับบัญชา ทมี่ ี
ส่วนเก่ียวข้องในการจัดทาหนังสือเล่มนี้ ให้มีความสมบูรณ์ ซึ่งอาจจะเป็น
ประโยชนต์ ่อผทู้ ี่ไดอ้ ่านหนังสอื เลม่ นี้ ต่อไป
เมอื งมนต์ เนตรหาญ
ค
เรอื่ ง สำรบญั
คานา หนา้
สารบญั ค
ประวัติส่วนตัว ง
ประวัตกิ ารศึกษา ๒
วัยเด็ก ๔
เมอ่ื เป็นเด็กชาย ๕
เมื่อเป็นนาย ๖
เมือ่ เป็นบ่าว ๗
วัยเรียนเป็นบา่ ว ๘
วัยทางานขอเป็นช่าง (ท่ีดี) ๙
เป็นขา้ ราชการ (ที่ด)ี ๑๐
เป็นขา้ ราชการ (มุง่ ม่ันต้ังใจ) ๑๑
เป็นขา้ ราชการ (เสยี สละ) ๑๒
เป็นขา้ ราชการ (พัฒนาตนเอง) ๑๓
แรงบันดานใจ ๑๔
สร้างสรรค์ผลงาน ๑๕
เป็นข้าราชการ (ตอบแทนคุณแผ่นดนิ ) ๑๖
ผลงานท่ภี าคภูมิใจ ๑๗
ผลงานอบรม สมั มนา ดูงาน ๑๘
คาสัญญาในการดาเนินชวี ิต ๒๑
พระคุณพ่อแม่ ๓๐
๓๑
ง
เมอื งมนต์
เนตรหำญ
รองผอู้ ำนวยกำร
วทิ ยำลยั เทคนิคนครพนม
วิทยฐำนะชำนำญกำรพิเศษ
“จงทำวนั นีใ้ ห้ดที ีส่ ดุ เพ่ือตัวเรำเอง
คนทีเ่ รำ รัก และคนท่อี ยรู่ อบกำยเรำ”
1
ประวัติส่วนตวั
เมืองมนต์ เนตรหำญ
เกดิ วนั ที่ ๒๘ กันยำยน ๒๕๑๖
อำยุ ๔๗ ปี
เป็นบุตรคนที่ ๕ ของ
คณุ พ่อนำยเหล็ง เนตรหำญ
คุณแม่นำงสอน เนตรหำญ
มพี ี่น้องรว่ มกัน ๕ คน
๑. นำยไชยนต์ เนตรหำญ
๒. นำยอนนท์ เนตรหำญ
๓. นำงกุศล เนตรหำญ
ภมู ลิ ำเนำเดมิ ๔. นำยสำกล เนตรหำญ
บำ้ นเลขที่ ๑๓๐ หมู่ ๑ ๕. นำยเมอื งมนต์ เนตรหำญ
บำ้ นทงุ่ แต้ ตำบลทุ่งแต้
อำเภอเมอื ง จังหวัดยโสธร
2
ประวัติสว่ นตวั
ทอ่ี ยปู่ ัจจบุ ัน
บำ้ นเลขท่ี ๒๗๑ หมู่ ๙
ตำบลธำตุพนม อำเภอธำตพุ นม
จงั หวัดนครพนม ๔๘๑๑๐
รว่ มทกุ ข์ ร่วมสุข ร่วมสร้ำง
กับ
นำงวภิ ำวรรณ เนตรหำญ
สรา้ งด้วยตัวเรา
3
ประวัตกิ ำรศกึ ษำ
ระดบั ประถมศึกษา - ปี ๒๕๒๘
โรงเรยี นบา้ นทงุ่ แต้
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ปี ๒๕๓๑
โรงเรยี นสงิ หส์ ามคั ควี ทิ ยา
ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) ปี ๒๕๓๔
สาขาวิชาชา่ งยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ ยโสธร
ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู (ปวส.) ปี ๒๕๓๖
สาขาวชิ าเทคนคิ ยานยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ ยโสธร
ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ครเู ทคนคิ ชน้ั สูง (ปทส.) ปี ๒๕๔๐
สาขาวชิ าเทคนคิ ชา่ งยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ หนองคาย
ระดบั ปรญิ ญาโท (วศ.ม.) สาขาวศิ วกรรมเครอื่ งกล ปี ๒๕๕๓
มหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี
ระดบั ปรญิ ญาโท (ศศ.ม.) สาขาบริหารการศึกษา ปี ๒๕๖๐
มหาวทิ ยาลยั ปทมุ ธานี
4
วยั เด็ก
(ไมร่ ูป้ ระสปี ระสำ)
Know
ช่ือเมืองมนต์ เนตรหาญ เกิดวันท่ี ๒๘
กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๖ เกิดที่อาเภอครบุรี
จงั หวดั นครราชสมี า
พ่อช่ือนายเหล็ง เนตรหาญ ได้เสียชีวิต
แล้ว แม่ชื่อนางสอน เนตรหาญ ทา่ นท้ัง
สองเป็นชาวไร่ ชาวนา พ้ืนฐานนายเหล็ง
เนตรหาญ และนางสอน เนตรหาญ
ดังเดิมอยู่จังหวัดยโสธรมันก็ได้หอบลูกจูงหลานไปทาไร่ที่อาเภอครบุรี จังหวัด
นครราชสีมา มีพ่ีน้องร่วมกันจานวน ๕ คน คนโตก็ชื่อนายไชยนต์ เนตรหาญ
คนท่สี องคือชื่อนายอนนท์ เนตรหาญ คนที่สาม ชอื่ นางกุศล เนตรฐาน คนท่สี ช่ี ื่อ
นายสากล เนตรหาญ และคนสุดท้ายก็คือตัวผมเองก็คือนายเมืองมนต์ เนตรหาญ
สมัยตอนเป็นเด็กจาความได้ว่าคุณพ่อเหล็ก เนตรหาญ กบั คุณแม่สอน เนตรหาญ
ไปทาไร่มันสาปะหลงั ท่ีจาได้ก็เพราะวา่ ได้น่งั รถไถคันใหญ่ สมัยก่อนนี้เป็นฟอร์ด สีฟา้
จ้างมาไถไร่ก็ได้น่ังทั้งวันเพราะชอบมาก ซึ่งสมัยตอนยังเป็นเด็กที่อาเภอครบุรี
จังหวัดนครราชสีมา ยังเป็นพ้ืนที่สีแดงก็คือมีพวกก่อการร้ายก็รู้สึกว่าจาความได้
นิดนึงว่าเขายิงกันบริเวณบ้าน มีการปล้นสะดมคุณพ่อกับคุณแม่ก็ยกพ้ืนบ้าน
เมื่อก่อนนเ้ี ป็นพื้นไม้นะครับ ๒ ช้ัน ช้ันล่างเอาไว้เกบ็ ของก็ตอ้ งยกผื่นข้ึนแล้วก็มุดลง
มาชน้ั ล่างของใตถ้ ุนบา้ น เพ่ือหนกี ารปลน้ สะดมกนั อยู่ จากนั้นคุณพ่อกบั คณุ แมก่ ย็ า้ ย
มาอยู่ที่จังหวัดยโสธร ในวัยเด็กเด็กชายเมืองมนต์ เนตรหาญเป็นเด็กท่ีมีสุขภาพ
ร่างกายแข็งแรง ชอบเล่นกีฬาเป็นชวี ิตจติ ใจทาใหร้ า่ งกายและมขี นาดสมส่วน
5
เม่อื เป็นเดก็ ชำย
เด็กชายเมืองมนต์ เนตรหาญ ได้เข้าเรียนในระดับชั้นประถมศึกษา ท่ี
โรงเรียนบ้านทุ่งแต้ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจาตาบล การเดินทางไปโรงเรียนก็เดิน
ด้วยเท้าไปตอนเชา้ แล้วกลับมาพักเทีย่ งเสรจ็ แลว้ บา่ ยโมงก็กลบั ไปเรยี นอกี ครั้งหนึ่ง
แล้วก็เลิกสิบหกนาฬิกาก็เดินทางกลับบ้าน ในวัยเด็กไม่มีอะไรท่ีบ่งบอกถึงความ
ชัดเจนในการเรียนของเด็กชายเมืองมนต์ เนตรหาญ ใช้ชีวิตเหมือนกับเด็กปกติ
ทั่วไป ตามชนบทเมื่อกลับจากโรงเรียนเสร็จก็ต้องไปนึ่งข้าวรอคุณพ่อกับคุณแม่
กลับจากการทาไร่ ทานา ปกติในวัยเดก็ กท็ างานวนไปอย่างนีไ้ ปเรือ่ ยๆ ซงึ่ ในวัยเด็ก
ยงั ไม่มีความคิดว่าจะเดินทางไปในทิศทางไหน รวมถึงอบายมุข ส่ือเทคโนโลยีก็ยัง
ไมม่ ี ทาให้การดาเนินชวี ิตในวัยเด็กเป็นแบบเรียบง่าย ไม่หวือหวาเป็นเดก็ ที่วา่ นอน
สอนง่ายอยู่ในกฎระเบียบของผู้ปกครอง วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ต้องช่วยพ่อแม่ทา
ไร่ ทานา ช่วงปิดเทอมก็ต้องออกไปทางานช่วยพ่อ แม่หาเงินในช่วงท่ีมีเวลาว่าง
สว่ นการเรยี นก็เป็นเด็กอยู่ในระดับการเรียนปานกลาง แต่ก็จะเด่นในเรื่องของกีฬา
เป็นหลัก ซึ่งในช่วงเป็นเด็กชายก็เป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งขันกีฬากลุ่มของ
โรงเรยี นทกี่ ลุ่มโรงเรยี นจดั ขนึ้ แต่ละปีกเ็ ป็นตัวแทนนกั กีฬาฟุตบอลชาย จนกระท่ังจบ
ประถมศกึ ษาชัน้ ปีท่ี ๖ 6
เมอื่ เป็นนำย
อปุ สรรคขวากหนามในชวี ติ จรงิ
ยอ่ มมหี นทางเอาชนะ
มเี พียงสง่ิ ทอ่ี ยใู่ นจนิ ตนาการเทา่ นนั้
ทไ่ี มอ่ าจเอาชนะได้
Theodore N. Vai
นายเมืองมนต์ เนตรหาญ ได้เรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ท่ี
โรงเรียนขยายโอกาส ชื่อโรงเรียนสิงห์สามัคคีวิทยา ตาบลสิงห์สามัคคี อาเภอ
เมือง จังหวัดยโสธร ระยะห่างจากบ้านถึงโรงเรียนประมาณ ๖ กิโลเมตร
ไป-กลับ ๑ วนั รว่ ม ๑๒ กิโลเมตร ในการเดินทางไปเรยี นหนงั สือได้ป่ นั จกั รยาน
ไปกับเพื่อนอกี ๔ คนรวมท้ังสิ้นเป็น ๕ คน ในชว่ งเรียนมธั ยมต้นมีเรียน ๒ สาย
ก็คือ สายสามัญกับสายอาชีพ ซึ่งเราก็เลือกได้เลือกสายอาชีพ เพราะว่าเราเป็น
คนที่เรียนไม่ค่อยเก่งด้านการคานวณ และเรื่องภาษาท่จี ะต้องใช้ในการเรียนของ
สายสามัญ ดังนั้นจึงได้ตัดสินใจเรียนสายอาชีพ ในเรียนระดับมัธยมศึกษาต้น
ผลการเรียนอยู่ในระดับปานกลางเรียนไม่ค่อยเก่ง แต่ถ้าให้ซ่อมอะไรสามารถ
ซ่อมได้ ซึ่งเราก็มีทักษะในการใช้เคร่ืองมือเพราะว่าตอนพ่อออกไปทางาน
ก่อสร้างเราได้ไปด้วยไปช่วยงานพ่อ ซ่ึงมีทักษะในการใช้เคร่ืองมือ ในช่วงน้ันทา
ให้มองเห็นอนาคตตัวเองว่าเราต้องไปเรียนต่อสายอาชีพให้ได้ เม่ือเราจบ
การศึกษาในระดับต้น ก็ได้ขอโควตาในการเรียนต่อวิทยาลัยเทคนิคยโสธร ได้
เลือกเรียนสาขาวิชาช่างยนต์ เน่ืองจากว่าพี่ชายเรียนช่างยนต์ เห็นพี่ชายออก
ซ่อมบริการประชาชน ซอ่ มรถยนต์จึงชอบที่จะเรยี นสาขาวิชาชา่ งยนต์
7
เมอ่ื เป็นบ่ำว
ในการเรียนระดับประกาศยีบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ถือว่าเป็นการเร่ิมต้น
ของการใช้ชีวติ นอกบา้ นเป็นคร้งั แรกซึ่งต้องเดินทางเข้าในตัวเมอื งยโสธร โดย
ใช้รถโดยสารประจาทางในการเดินทางตอนเช้าแล้วกลับตอนเย็น ในการใช้
ชวี ิตในระหว่างการเรียนหนังสือเป็นคนท่ีชอบแนวปฏิบัติจึงตั้งใจเรียน ในการ
เรียนสาขาช่างยนต์ ผลการเรยี นเกรดเฉลี่ยถือว่าสูง เพราะเฉลี่ยนอยู่ที่ ๓.๕๐
ซึ่งได้ประสบการณ์ในการเรียนการสอนหรือว่าประสบการณ์ใหม่ๆ จาก
วิทยาลัยเทคนิคยโสธร ได้ออกบริการประชาชนในการปฏิบัติงานจริง ได้ออก
คา่ ยอาสาพัฒนากับเพื่อน ๆ และไดฝ้ ึกประสบการณ์จริงจากสถานประกอบการ
ครู-อาจารย์ได้ประสิทธปิ์ ระสาทวิชาใหเ้ ราทาให้เรามคี วามแขง็ แกรง่ ในขณะท่ีเป็น
วัยรุ่นทาให้เรารอดพ้นจากอบายมุขต่าง ๆ เช่น ยาบ้า ยาเสพติด บุหร่ี ฯลฯ
ในการเรียนระดับ ปวช. ก็ไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่เป็นเด็กท่ีตั้งใจเรียนกลับบ้าน
ตรงเวลา เช่ือฟงั พ่อแม่เวลาว่างก็ช่วยพ่อแม่ทางาน เสาร์-อาทิตย์ ช่วยพ่อแม่
ทางานด้านการเกษตรชาวไร่ ชาวนา ซ่ึงเราได้ความอดทนแข็งแรง แข็งแกร่ง
ทางร่างกายทพ่ี ่อแม่ไดส้ ะสมใหต้ ัง้ แตเ่ ดก็ โดยไม่ได้ตง้ั ใจ 8
วยั เรียนเป็นบ่ำว
“รากฐานของบา้ นคอื อฐิ
รากฐานของชวี ติ คอื การศกึ ษา”
The foundation of the building
is brick. The foundation of
life is education.
ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ได้ศึกษาตอ่ ในสาขาวิชา
เทคนิคยานยนต์ วิทยาลัยเทคนคิ ยโสธรเช่นเดิมในช่วงท่ีเรยี นในระดับ ปวส. ทา
ให้เราเป็นผู้ใหญ่ย่ิงข้ึน และได้สะสมประสบการณ์ สะสมความรู้ต่าง ๆ ท่ีครู
อาจารย์ ไดส้ ัง่ สอนมาซึง่ ในชว่ งนีเ้ ราเร่ิมมที กั ษะด้านช่างยนต์เป็นหลักทาให้เรามี
ความม่ันใจว่าเราจะเป็นช่างท่ีดีได้ในอนาคตต่อไปได้ ในช่วงท่ีเรียนในระดับ
ปวส. วิทยาลัยฯ ได้จัดการศึกษาออกเป็นภาคเช้า และภาคบ่าย ซึ่งเราได้เรียน
ภาคบ่ายเริ่มเรียนเวลา ๑๓.๐๐ น. จนถึง ๒๐.๐๐ น. ทาให้เรารู้สึกว่าเราต้อง
ตอ่ สูก้ ับชีวติ เพ่ิมข้ึนเป็น ๒ เท่าเนือ่ งจากวา่ การเดินทางของเรายังใชร้ ถโดยสาร
ประจาทางอยู่ ในขณะที่รถโดยสารประจาทาง ๒ ทุ่มไม่มีว่ิงแล้ว เราต้องหา
วิธีอ่ืนท่ีจะกลับบ้านแทน ระยะทางจากบ้านถึงวิทยาลัยเทคนิคยโสธร ๑๒
กิโลเมตร ไป-กลับ ๒๐ กิโลเมตร ช่วงแรกพ่อซ้ือจักรยานให้ป่ นั จักรยานไป
โรงเรียนระยะทาง ๕ กิโลเมตร เพราะต้องไปข้ึนมอเตอร์ไซค์กับเพ่ือนต่อไปอีก
และในขณะเรียนระดับ ปวส. เราต้องต้ังใจในการเรียนให้มากกว่าเพ่ือน
เน่ืองจากพ่อกับแม่ทาไร่ทานา ทาให้เราคิดในใจว่าเราต้องเป็นส่วนหนึ่งของ
ครอบครัวทจ่ี ะตอ้ งช่วยพ่อแมท่ ามาหากินให้ครองครวั มีฐานะทดี่ ียง่ิ ขึน้ ตอ่ ไป
9
วยั ทำงำนขอเป็นชำ่ ง (ทีด่ ี)
คตปิ ระจาใจในการทางาน
*งานบางอยา่ งอาจจะยาก
แตค่ าว่ายากไมไ่ ดห้ มายความวา่ เป็นไปไมไ่ ด้
*ความลม้ เหลวทาใหเ้ ราคน้ พบความแขง็ แกรง่
ภายในจติ ใจ
*คณุ สามารถเลอื กทาอะไรกไ็ ด้
แตไ่ มใ่ ชย่ อมทาทกุ อยา่ ง
*หากเครียดเรอ่ื งงานอย่าเพิ่งลาออก
เพราะถ้าลาออกคณุ จะเครยี ดเรอ่ื งเงนิ ดว้ ย
เม่อื จบการศึกษาระดบั ปวส. จึงได้ไปสมคั รเขา้ ทางานคร้งั แรก ซ่ึงเป็น
บริษัท อีซูซุ ตังปกั ยโสธร อยู่ในตัวจังหวัดยโสธร ในตาแหน่งช่างซ่อมบารุง
ซ่ึงเราได้เคยฝึกงานตอนเรียนหนังสืออยู่ใน ปวช. และปวส. รุ่นพ่ีได้ถ่ายทอด
วิชาให้เราก็เกิดมีความชานาญข้ึนได้เงินเดือนคร้ังแรก จานวน ๓,๐๐๐ บาท
ทางานได้ ๑ ปี มีเพ่ือนชวนไปเรียนต่อที่วิทยาลัยเทคนิคหนองคายหลักสูตร
ประกาศนียบัตรวิชาชีพครูเทคนิคชั้นสูง หรือเรียกว่า ปทส. สาขาวิชาเทคนิค
ช่างยนต์ เป็นหลักสูตรที่เทียบเท่าระดับปริญญาตรี เป็นหลักสูตรครูสาหรับ
สอนช่างโดยตรง และได้รับทุนการศึกษาเม่ือจบการศึกษาต้องมาชดใช้ทุน คือ
ต้องบรรจุเป็นข้าราชการครูของอาชีวศึกษา จานวน ๓ ปี จบการศึกษาใน
ระดบั นเี้ มือ่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๐
10
เป็นขำ้ รำชกำร (ทดี่ )ี
คำสอนของพ่อ
ในการเร่ิมต้นชีวิตของการรับราชการในตาแหน่งอาจารย์ ๑ ระดับ ๓
ณ วิทยาลัยสารพัดช่างนครพนม เม่ือวันท่ี ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็น
สถานท่ีทางานแห่งแรกของการรับราชการ ได้ประจาสาขาวิชาช่างยนต์
ในช่วงแรกๆ ยงั ปรบั ตวั ไมไ่ ดแ้ ตว่ า่ เมือ่ ปี ๒๕๔๐ เพ่ือนพ้องนอ้ งพี่ ณ วทิ ยาลัย
สารพั ดช่างนครพนมได้การต้อนรับและให้การดูแลได้ให้การช่วยเหลือ
เอื้อเฟ้อื เผ่ือแผ่ของการมารับราชการครง้ั แรก ถือว่ามีความประทับใจ ปญั หาใน
ส่วนของวิทยาลัยสารพัดช่างนครพนม ด้านโรงงานของวิลัยสารพัดช่าง
นครพนม ความสะอาดไม่มี ความเป็นระบบไม่มี ดังนั้นด้วยการเป็นข้าราชการ
วยั หนุ่มท่ีตอ้ งพัฒนาตวั เองต้องช่วยเหลอื ราชการให้มีความพร้อมท่ีจะสอนเด็ก
นักเรียนซึ่งในการจดั การเรียนการสอนของวิทยาลัยสารพัดช่างนครพนม ใน
การเริ่มต้นทางานเราพยายามมองหาเพื่อนในที่ทางาน เพื่อเอามาเป็นแบบอย่าง
มาพัฒนาตัวเอง ส่ิงที่ไม่ดขี องเพ่ือนหรือว่าส่ิงท่ีเราคิดว่าไม่เหมาะเราก็ไม่เอามา
เป็นเยี่ยงอย่างก็ถือว่าได้ประสบการณ์ท่ีดีมาก “เน้นย้าและเตือนสติตัวเองตาม
พระบรมราโชวาท ของ ร. ๙ “
11
เป็นขำ้ รำชกำร (มงุ่ มนั่ ตง้ั ใจ)
คตปิ ระจาใจในการประสบความสาเรจ็
ความสาเรจ็ คอื ผลลพั ธข์ องการทางานหนัก
และเรยี นรจู้ ากความผดิ พลาดในอดตี
ความสาเรจ็ ไม่มที างเดนิ มาหาคุณ
คุณตอ้ งหาทางเดินไปหาความสาเรจ็ เอง
หากมีคนสบประมาทวา่ คณุ จะประสบความสาเรจ็ ได้แคไ่ หน
จงก้าวหน้าใหไ้ กลจนคนเหลา่ นัน้ ไมไ่ ด้ยนิ เสียงคาตอบของคณุ
บนั ไดสคู่ วามสาเรจ็ ประเมินจากความมุ่งมนั่ ท่แี รงกล้า
ความฝนั ทที่ ้าทาย และวธิ กี ารรบั มอื กบั ความล้มเหลวในชวี ิต
ในปี ๒๕๔๒ ได้ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ราชการ ณ วิทยาลัยการอาชีพธาตุพนม
ย้ายเพ่ือหาประสบการณ์ในการทางาน เพิ่มทักษะความแข็งแกร่ง พัฒนาตัวเองให้มี
ทักษะความรู้ท่ีสูงขึ้น ขณะน้ันวิทยาลัยการอาชีพธาตุพนมยังเป็นวิทยาลัยในสังกัด
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในปี ๒๕๔๗ ในช่วงเวลาเปล่ียนผ่านของ
วิทยาลัยการอาชีพธาตุพนม ได้ยกระดับหรือว่าหลอมรวมเข้าเป็นมหาวิทยาลัย
นครพนม ได้ย้ายช่วยราชการที่วิทยาลัยสารพัดช่างนครพนม พอกลับมาอยู่ท่ีแห่ง
เดมิ บรรยากาศเหมอื นเดิม มเี พ่ือนรว่ มงานคนใหม่เข้ามา มเี พื่อนร่วมงานท่ตี ง้ั หลกั ปกั
ฐานอยูท่ ่ีจงั หวัดนครพนม ก็เยอะบรรยากาศต่างๆ เหมือนเดิม ส่งผลในการจดั สินใจ
เรียนต่อในสาขาวิชาที่ตัวเองตั้งใจไว้ในระดับปริญญาโทคือสาขาวิศวกรรมเครื่องกล
ณ มหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี ได้ขอรบั ทนุ การศกึ ษาของมหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี ใน
การจัดทาผลงานวิจัย ได้จบปริญญาโทสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกลศาสตร์
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานปี ี ๒๕๕๓ มีความภาคภูมิใจมาก เน่ืองจากเป็นสิ่งทไี่ ด้ตั้งใจ
ไวต้ ลอดเวลา
“It’s time to start living the life we’ve imagined”.
(Henry James) ถงึ เวลาทจี่ ะเรม่ิ ตน้ ชวี ติ ทเ่ี ราเคยวาดฝนั ไวแ้ ลว้
12
เป็นขำ้ รำชกำร (เสยี สละ)
การทางานใหส้ าเรจ็ งา่ ยกว่าการอธบิ ายวา่ ทาไมคณุ ถงึ ทามนั ไมไ่ ด้
มารต์ นิ แวน บวิ เรน
ถา้ คนคนหนงึ่ สามารถสร้างความแตกตา่ งไดค้ นอน่ื ๆ กค็ วรลองเชน่ กนั
จอหน์ เอฟ เคนเนดี้
ความสาเร็จวดั ทกี่ ารเดนิ ทาง ไมใ่ ชจ่ ดุ หมายปลายทาง
ดไวต์ ด.ี ไอเซนฮาวร์
ในปี ๒๕๕๓ ได้ย้ายไปรับราชการ ณ วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินี
มุกดาหาร ในตาแหน่งครูวิทยฐานะชานาญการ ในการท่ียา้ ยไปวิลัยการอาชีพนว
มินทราชินีมกุ ดาหาร ถือวา่ ให้ประสบการณ์ทเ่ี ยอะมากได้ไปพัฒนาตัวเองเกี่ยวกับ
ทักษะด้านต่างๆ แต่ที่สาคัญได้รับเป็นหัวหน้างานความร่วมมือก็ได้ทาโครงการ
จัดการเรียนการสอนคู่ขนาน ๓ ประเทศ ซ่ึงถือว่าเป็นโครงการที่ผู้ใหญ่ให้ความ
เมตตาในการจัดงบประมาณในการดาเนนิ โครงการช่วงแรกก็ไดไ้ ปศึกษาดูงานกับ
ท่านเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในขณะน้ันคือท่านดร. ชัยพฤกษ์
เสรรี ักษ์ ได้พาไปดงู านทีว่ ิทยาลยั เทคนิคแขวงคามว่ น ประเทศสปป. ลาว จากนั้น
ไ ด้ ข้ า ม ไ ป ที่ ม ห า วิ ท ย า ลั ย ว่ิ ง ที่ ป ร ะ เ ท ศ เ วี ย ด น า ม ไ ด้ มี โ อ ก า ส ร่ ว ม เ ดิ น ท า ง ก ลั บ
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กลับมาได้เขียนโครงการจัดการเรียน
การสอนคู่ขนานไทย-ลาว-เวียดนาม สาขาวิชาช่างยนต์ ข้ึน เร่ิมต้นต้ังแต่ปี
๒๕๕๖ เป็นต้นมา ได้ดาเนินโครงการประชุมร่วมกันจัดทาหลักสูตร ๓ ประเทศ
ทาโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียน-นักศึกษา โครงการศึกษาดูงาน โครงการค่าย
พัฒนานักเรียน-นักศึกษา รวมท้ังการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของนักเรียน ใน
กลมุ่ ประเทศอาเซยี น
13
เป็นขำ้ รำชกำร (พัฒนำตนเอง)
“เสยี ชพี อยา่ เสียสตั ย์”
ในการท่ีข้าพเจ้าเป็นข้าราชการได้มุ่งมั่นพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา
เมื่อมีโอกาส ในด้านต่างๆ เช่น ด้านวิชาชีพของตนเองเพื่อนามาถ่ายทอดแก่
ลูกศษิ ย์ ใหม้ ีความรูค้ วามสามารถในการนาไปใชใ้ นชีวิต และการประอบอาชีพ
ต่อไป ด้านคุณธรรมจริยธรรม ด้านการเสียสละ ด้านการช่วยเหลือสังคม
และการไม่เบียดเบียนสังคม ไม่เอาเปรียบสังคม พ่อแม่สั่งสอน “อย่าเอา
เปรียบสังคม มั่นสร้างความดี และอย่าทาให้ครอบครัวเดือดร้อน” สั่งสอน
ตัง้ แตเ่ ล็กจนโต จึงไดต้ ิดตัวมาจนถงึ ทกุ วันนี้
14
(แรงบนั ดำนใจ)
ในการสร้างแรงบันดาลใน ได้มี
โ อ ก า ส ท า ง า น ร่ ว ม กั บ ส ถ า บั น ก า ร
อาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๒
เม่ือพรบ. อาชีวศึกษา ๒๕๕๑ เกิดขึ้น ได้
มีโอกาสเป็นตัวแทนกรรมการสภาสถาบัน
การอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
๒ เม่อื ปี พศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๑ เป็นเวลา ๒
วาระติดต่อกัน และได้ทาหน้าท่ีในการ
จดั ทาหลักสตู รเทคโนโลยยี านยนต์
หลักสูตร ๒๕๕๗ และ หลักสูตร ๒๕๖๒ วิทยาลัยการอาชีพนวมินท
ราชินมี ุกดาหาร เป็นคณะกรรมการจัดทาระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ของสถาบัน
ฯ ฉ. ๒ และได้รับมอบหมายให้ทาหน้าท่ี ผู้อานวยการสานักยุทธศาสตร์และ
ความร่วมมือ ซึ่งก็ได้ดาเนินการผลักดัน ต่อสู้ และขับเคลื่อนสถาบันฯ ฉ. ๒
อยา่ งต่อจน จนถึงปจั จบุ ัน สง่ ผลให้ถึงเวลาในการพัฒนาตนเองสู่สายบริหาร
จึ ง ไ ด้ ส มั ค ร เ ข้ า รั บ ก า ร ส อ บ คั ด เ ลื อ ก ใ ห้ ด า ร ง ต า แ ห น่ ง ร อ ง ผู้ อ า น ว ย ก า ร
วิทยาลัยเทคนิคนครพนม ซ่ึงในขณะน้ีได้มองถึงการทางานให้ประสบ
ความสาเร็จแก่นักเรียน นักศึกษา องค์กร และเพ่ือนร่วมงาน โดยพยาม
ส่งเสริม สนับสนุน ให้ความร่วมมือ ในการพัฒนานากระบวนการจัดการเรียน
การสอนอย่างต่อเน่ืองและเป็นระบบ ขับเคล่ือนองค์ให้เป็นสถานศกึ ษาแห่งการ
เปล่ยี นแปลงและการขับเคลอ่ื นต่อไปในอนาคต
รู้เขา รู้เรา รบร้อยคร้ังชนะร้อยครัง้ (ซุนวู)
15
(สรำ้ งสรรคผ์ ลงำน)
16
เป็นขำ้ รำชกำร (ตอบแทนคณุ แผน่ ดนิ )
การเป็นข้าราชการท่ีดีของข้าพเจ้า เพ่ือการตอบแทนคุณแผ่นดิน
เป็นหนึง่ ในใจท่ีจะดาเนินการให้เป็นรูปธรรมที่เกดิ ข้ึน เป็นแรงผลักดันในการ
ตอบแทนคฯุ แผ่นดินของข้าราชการ ดังคากล่าวที่ว่า
“ข้าราชการ ข้าของแผ่นดิน เป็นส่ิงท่ีข้าภูมิใจเสียย่ิง ข้ารับใช้งาน
ของพระราชา ด่ังท่ีพระองค์เปรียบว่า พระองค์ท่านคือกาลังของแผ่นดิน
ข้าราชการ ไม่มี รวย แต่ก็ไม่อดตาย เพราะ ยามแก่เฒ่าหลวงก็เลี้ยง
เจบ็ ปว่ ย หลวงก็เลย้ี ง ข้าราชการสยามไมน่ ้อย อยากทีจ่ กั มั่งคง่ั ร่ารวยด่ัง
พ่อค้า แล้วเจ้าจักเป็นทาไมกัน ข้าราชการ ท่ีหวังรวย หวังลาภยศ ความ
ทุกข์ยากจักตกอย่กู ับใคร ก็ตกอยู่กับประชาชน ไพร่ฟา้ พอเร่ืองทราบไปถึง
พระเนตรพระกรรณ พ่ออยู่หัวก็ทุกข์ ใจยิ่งนัก แล้วจักเป็นข้าราชการเพื่อ
อนั ใด “ออกญาศรไี สยณรงค์ จากเฟสบกุ๊ จาขึน้ ใจ”
17
ผลงำนทภ่ี ำคภมู ใิ จ
ได้รับมอบหมายให้ทาหน้าท่ี หัวหน้างานความร่วมมือ เป็นตัวแทนครู ตาม
พรบ. อาชีวศึกษา ๒๕๕๑ มาตรา ๒๓ (๔) ๒ วาระ ในสถาบันการอาชีวศึกษาภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ ๒ ได้รับการแต่งต้ังให้ทาหนา้ ที่ หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยียาน
ยนต์ และทาหน้าที่ ผอู้ านวยการสานกั พัฒนายทุ ธศาสตรแ์ ละความรว่ มมืออาชีวศึกษา
ซ่ึงในการทาหน้าที่หัวหน้างานที่ได้กล่าว ได้สะสมประสบการณ์ในด้านต่างๆ เพ่ือ
นามาใช้ในการพัฒนางานท้ังในวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีมุกดาหาร และใน
สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๒ รวมถึงการช่วยเหลือสังคม
ประชาชน และชุมชน โดยเฉพาะผลงานท่ภี าคภมู ใิ จท่สี ุดคอื ได้จดั ทาโครงการความ
รว่ มมือระหวา่ งประเทศไทย-ประเทศลาว-ประเทศเวยี ดนาม ขนึ้ เรม่ิ ตน้ มีปีงบประมาณ
๒๕๕๖ ตามนโยบายของท่านเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท่านดร.
ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ในขณะน้ัน ซ่ึงได้มีโอกาสร่วมเดินทางกับคณะท่านเลขาธิการ
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ไปเยือนวิทยาลัยเทคนิควิชาชีพแขวงคาม่วน ประเทศ
สปป. ลาว และเข้ารว่ มประชมุ ดา้ นความร่วมมอื ท่ีมหาวทิ ยาลยั วิง ประเทศสาธารณรัฐ
สังคมนิยมเวียดนาม เพ่ือเจรจาความร่วมมือในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคม
อาเซียน เมื่อกลบั มายังประเทศไทยจึงได้เกิดความคิดในการพัฒนากระบวนการเรียน
การสอน ในการเตรียมความพร้อมให้แก่นักเรียน นักศึกษาของประเทศไทย
โดยเฉพาะนักเรียน นกั ศึกษา ของไทยท่ีมีขอ้ ได้เปรียบด้านทักษะวชิ าชีพในสาขาต่างๆ
แต่เรายงั ขาดทักษะบางอยา่ ง ในการทางาน เช่น ภาษา ความขยนั ความรบั ผดิ ชอบ
เป็นต้น จึงได้ดาเนินโครงการต่างๆ เพ่ือเพิ่มเติมในส่วนที่นักเรียน นักศึกษาไทย
ขาดไป โดยใช้โครงการเป็นแรงกระตุ้น นักเรียน นักศึกษา ซึ่งได้ดาเนินโครงการ
ตา่ งๆ ในระยะ ๕ ปี
18
ผลงำนทภ่ี ำคภมู ใิ จ (ตอ่ )
ได้ดาเนินโครงการ Young Vocational Education Camp ขึ้น ในวันที่
๕-๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ จังหวัดมุกดาหาร โดยมีตัวแทนยุวทูตอาชีวศึกษา ครู
ผูบ้ ริหารเขา้ ร่วม จานวน ๘๖ คน โดยมีวัตถปุ ระสงค์ของโครงการฯ คือ ๑. เตรยี ม
ความพร้อมด้านกาลังคนอาชีวศึกษา ๒. พัฒนาทักษะภาษาลาว และภาษาเวียดนาม
๓. ศึกษาศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ของประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีกิจกรรมการ
อบรมภาษาลาว ภาษาเวียดนาม การศึกษาดูงานประเทศ สปป. ลาว และศึกษาดู
งานประเทศเวียดนาม ซึ่งเมือ่ เสร็จสิน้ โครงการฯ สรปุ ผลออกมา อยูใ่ นเกณฑ์ ดมี าก
เมื่อวันท่ี ๑๘-๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ ได้นานักศึกษา ครู ผู้บริหาร จากโรงเรียน
อาชีวศกึ ษากวางตรี และวิทยาลัยอตุ สาหกรรมเว้ ประเทศเวยี ดนาม ศึกษาดูงาน ณ
วทิ ยาลัยการอาชีพนวมินทราชนิ ีมุกดาหาร และได้นาผู้บรหิ ารจากสถานศึกษาประเทศ
เวียดนาม เข้าเยี่ยมคาราวะท่านเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ณ สอศ.
กรุงเทพฯ ต่อมาในวันท่ี ๑๖ กันยายน ๒๕๕๖ วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินี
มุกดาหาร ประเทศไทย กับ วิทยาลัยอุตสาหกรรมเว้ ประเทศเวียดนาม ได้ลงนาม
ความร่วมมือในการพัฒนาการศึกษาระหว่างประเทศไทยกับประเทศเวียดนาม โดยมี
ทา่ นเสริมศักด์ิ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในขณะนั้น
เป็นสักขีพยานในการลงนาม ในงาน Thai Education for ASEAN Community
ณ เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี และในวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ วิทยาลัย
การอาชีพนวมินทราชินีมุกดาหาร ประเทศไทย กับ โรงเรียนอาชีวศึกษากวางตรี
ประเทศเวียดนาม ได้ลงนามความร่วมมือในด้านการพัฒนา การแลกเปลี่ยน
นกั เรยี น นกั ศึกษา ครู ของทงั้ สองประเทศ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ได้มอบหมายให้วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีมุกดาหาร ให้เป็นสถานศึกษานาร่อง
ในการจัดการศึกษา ๓ ประเทศคู่ขนาน ได้แก่ ไทย-ลาว-เวียดนาม ข้ึน เป็นการ
เตรียมกาลังคนด้านอาชีวศึกษาในการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ในวันท่ี ๒๘
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ถงึ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗ รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธิการท่าน
จาตุรนต์ ฉายแสง ได้เป็นประธานในพิธีเปิดป้ายศูนย์การเรียนรู้อาชีวศึกษาไทย-
เวียดนาม ณ โรงเรียนอาชีวศกึ ษากวางตรี และวทิ ยาลัยอตุ สาหกรรมเว้
19
ผลงำนทภ่ี ำคภมู ใิ จ (ตอ่ )
เมื่อวันที่ ๘-๑๒ กันยายน ๒๕๕๗ ได้นาผู้บริหาร ครู นักศึกษา ศึกษาดูงาน ณ
ประเทศเวยี ดนามในงานวันคล้ายวันสถาปนาวิทยาลยั อุตสาหกรรมเว้ ครบรอบ ๑๑๕
ปี ในการก่อตั้งวิทยาลัยฯ
ได้ดาเนินโครงการจัดการเรียนการสอนคู่ขนานไทย-ลาว-เวียดนาม ข้ึนใน
วนั ที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๘ ถงึ วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ณ วิทยาลยั การอาชีพนว
มินทราชินีมุกดาหาร โดยมีนักศึกษาประเทศไทย ๑๐ คน นักศึกษา สปป.ลาว ๑๐
คน และนักศึกษาประเทศเวียดนาม ๑๐ คน มาเข้าค่ายระยะสน้ั เป็นระยะเวลา ๑๐ วัน
โดยมีกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนได้แก่ การเรียนภาษาไทย ภาษาเวียดนาม ภาษาลาว
การศึกษาดูงาน การเรียนวิชาชีพสาขาวิชาช่างยนต์ จากสถานประกอบการค่ายรถ
ตา่ งๆ การศึกษาวฒั นธรรม การเลน่ กฬี า การทดสอบฝีมอื แรงงาน เป็นตน้
เม่ือวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ ถึง ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ได้ดาเนินโครงการประชุม
การจัดทาหลักสูตรคู่ขนาน ไทย-ลาว-เวียดนาม ขึ้น ณ วิทยาลัยเทคนิควิชาชีพ
แขวงคาม่วน สปป.ลาว โดยมีตัวแทนผู้บริหารจากวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินี
มุกดาหาร วิทยาลัยเทคนิคสกลนคร และวิทยาลัยเทคนิคบ้านแพง ประเทศไทย
วทิ ยาลัยอตุ สาหกรรมเว้ ประเทศเวียดนาม และวทิ ยาลยั เทคนิควิชาชีพแขวงคาม่วน
สปป. ลาว เข้ารว่ มการประชมุ ในครง้ั น้ี
เม่ือวันท่ี ๖-๘ เมษายน ๒๕๕๙ ได้ดาเนินการจัดประชุมทากรอบความ
ร่วมมือในการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาโดยมีตัวแทนผู้บริหาร ครู ของประเทศไทย
ประเทศลาว ประเทศเวยี ดนาม เข้าร่วม ณ โรงแรมพลอย พาเลซ จังหวดั มุกดาหาร
โดยมที ่านผูว้ ่าราชการจังหวัดมุกดาหารเป็นประธานในการประชมุ
เมื่อวันท่ี ๒๒-๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๙ ได้ดาเนินการจัดประชุมพิจารณา
ทบทวนหลกั สูตรคูข่ นานไทย-ลาว-เวยี ดนาม ข้ึน ณ โรงแรมสกลนครแกรนด์ พาเลซ
จงั หวดั สกลนคร โดยมตี ัวแทนรองอธบิ ดีกรมอาชีวศกึ ษาลาว ผูบ้ ริหาร ครู เจา้ หน้าท่ี
จากประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศเวียดนามเข้าร่วม เป็นต้น
20
ผลงำนอบรม สมั มนำ กรรมกำร
ที่ อบรม สมั มนาดงู าน วนั /เดอื น/ปี
๑ หลักสตู ร “นวัตกรรมและเทคโนโลยีพลงั งานทดแทนเพ่ือการ ๓-๗ ม.ิ ย.
พัฒนาท่ียงั่ ยนื ” ๒๕๕๖
๒ หลักสูตร “การเตรียมความพร้อมสาหรบั การประกันคณุ ภาพ ๗-๙ ม.ิ ย.
การศึกษา ประจาปีการศึกษา ๒๕๕๖” ๒๕๕๖
๓ หลกั สตู ร “อบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารเทคโนโลยหี ่นุ ยนต์เพื่อ ๒๒-๒๖ ม.ิ ย.
การศึกษาสาหรบั นกั เรียน” ๒๕๕๖
๔ หลกั สูตร “Young Vocational Education Camp” ๕-๙ ส.ค.
๕ หลักสูตร “ปฏบิ ัตกิ ารจัดทาหลักสูตร และแผนจัดการเรยี นรู้ ๒๕๕๖
ฐานสมรรถนะรายวชิ า” ๙-๑๐ ต.ค.
๖ คณะกรรมการดาเนินงานการประกวดส่ิงประดิษฐ์ของคนรุน่ ๒๕๕๖
ใหม่ ประจาปีการศึกษา ๒๕๕๖ ๓-๔ ธ.ค. ๕๖
๗ เข้ารว่ มกิจกรรมจติ อาสา โครงการอาชวี ศกึ ษาร่วมดว้ ยชว่ ย ๒๗ ธค. ๕๖–
ประชาชน “ตรวจรถก่อนใชป้ ลอดภยั แน่นอน” ปีใหม่ ๒ มค.๕๗
๘ เข้ารว่ มกิจกรรมจติ อาสา โครงการอาชวี ศกึ ษาร่วมดว้ ยชว่ ย ๑๑-๑๗ เมย.
ประชาชน “ตรวจรถกอ่ นใชป้ ลอดภัยแนน่ อน” สงกรานต์ ๕๗
๙ หลกั สูตร “การพัฒนาบคุ ลากร การสรา้ งแรงจูงใจ และ ๑๔ พ.ค.
เทคนิคการทางานส่คู วามสาเร็จ” ๒๕๕๗
๔-๖ ก.พ.
๑๐ หลักสูตร “สรา้ งคณุ ธรรมค้าจนุ ชาติ” ๒๕๕๗
21
ผลงำน อบรม สมั มนำ กรรมกำร
ที่ อบรม สัมมนา ดงู าน วนั /เดอื น/ปี
๑๑ หลกั สูตร “การพัฒนาชุดควบคุมการใชเ้ ชอื้ เพลงิ ๑๙-๒๓ พ.ค.
E๘๕ ในรถยนต์ โดยใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์” ๒๕๕๗
๑๒ หลกั สตู ร “การพัฒนาจัดทาสือ่ การสอนผ่านหอ้ ง ๑๗–๑๘ ก.ค.
สนทนา EDMODO” ๒๕๕๗
๑๓ หลักสูตร “การใชเ้ ครื่องมือวเิ คราะห์ Tech-๒ และ ๒๖–๒๘ พ.ย.
ระบบบังคับเลย้ี ว:รถยนต์อีซูซุดีแมคซ์” ๒๕๕๗
๑๔ หลักสตู ร “การพัฒนาผู้เช่ียวชาญดา้ นการ ๑๘–๒๒ ส.ค.
อาชีวศึกษาสาขาวชิ าชพี ด้านอตุ สาหกรรมในระดับ ๒๕๕๗
ภูมิภาคลมุ่ น้าโขง”
๑๕ เป็นครผู ้สู อนในสถานศึกษาที่ปฏบิ ตั ิงานดีเดน่ ๑๙ ธค. ๕๗
ประจาปี ๕๗
๑๖ หลักสตู ร “Thailand,Laos,Vietnam Parallel ๑๘ เม.ย.–๒
Teaching and Learning Program” พ.ค. ๒๕๕๘
๑๗ หลกั สตู ร “The Requirements of an ๒๐ เม.ย.–๑
English Training for Communication In พ.ค. ๒๕๕๘
Summer Camp”
๑๘ หลักสตู ร “Development of Standard ๒๖-๒๗ ส.ค.
Operation Procedures and Improving the ๒๕๕๘
Quality of Teaching and Learning for
Teachers of Dual Vocational Education
via Thailand-Germany Model”
22
ผลงำนอบรม สมั มนำ กรรมกำร
ที่ อบรม สัมมนา ดงู าน วนั /เดอื น/ปี
๑๙ โครงการประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวตั กรรมสาน ๔ มคี . ๕๙
สัมพันธล์ ่มุ น้าโขง คร้ังท่ี ๓
๒๐ หลกั สูตร “การเป็นผู้ประเมนิ คุณภาพในสถาบนั ๑๒-๑๔ ก.ย.
โดยหน่วยงาน ต้นสังกัด” ๒๕๕๙
๒๑ หลักสูตร “SEA-TVET Workshop on ๑๑-๑๓ ต.ค.
Hospitality, Health Care (Nursing),and ๒๕๕๙
Creative Industry”
๒๒ หลักสูตร “ระบบเกียร์อตั โนมตั ิ รนุ่ AW๓๐-๔๐LE ๒๓-๒๕ พ.ย.
รถยนต์อีซซู ดุ ีแมคซ์” ๒๕๕๙
๒๓ ครูท่ปี รกึ ษาส่ิงประดษิ ฐ์ของคนรุ่นใหม่ ประจาปี ๒๙-๓๐ พย.
๒๕๕๙ รางวลั ชนะเลิศ “รถสามลอ้ พลังงานไฟฟา้ ” ๕๙
๒๔ ครูทีป่ รกึ ษาส่ิงประดิษฐ์ของคนรุน่ ใหม่ ประจาปี ๒๙-๓๐ พย.
๒๕๕๙ รางวัลชนะเลศิ “ปืนลมขัดหวั เทยี น” ๕๙
๒๕ ไดป้ ฏบิ ตั งิ านศูนยอ์ าชวี ะอาสาเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๐ ๒๙ ธค. ๕๙-๔
มค. ๖๐
๒๖ เป็นอาจารยท์ ี่ปรึกษาในการส่งผลงานและผ่านการ ๑๒-๑๓ มค.
คัดเลือก จานวน ๒ ผลงาน ๖๐
๒๗ โครงการประกวดสง่ิ ประดิษฐ์และนวตั กรรมสาน ๑๐ กพ. ๖๐
สมั พันธล์ ่มุ น้าโขง คร้งั ท่ี ๔ ชนะเลิศ รถสามล้อ
พลังงานไฟฟา้ ชารจ์ กลับ
23
ผลงำนอบรม สมั มนำ กรรมกำร
ที่ อบรม สมั มนา ดงู าน วนั /เดอื น/ปี
๒๘ กรรมการดาเนนิ โครงการพัฒนาผูบ้ ริหาร คร/ู อาจารย์ ๓-๔ เมย. ๖๐
ด้านมาตรฐาน สมรรถนะวิชีพ และหลกั สตู รสอดคล้อง ๑๒ พค . ๖๐
กบั ไทยแลนด์ ๔.๐ ๓๐ August
๒๙ ผ้ปู ระสานงานการอบรมด้านพื้นฐานการอบรม
๓๐ For having participated in and ontributed to ๒
as a “Group Facilitator” Of the ๒ Young September
sea-tvet symposium “Young Smart
Farmers” ๒๐๑๗
๓๕ เข้ารว่ มการแข่งขันโครงงานวิศวกรรมเครื่องกลรุ่น ๑๘ กพ. ๖๑
เยาว์ ๓๐ ปี ตะโกราย
๓๖ เขา้ รว่ มจดั ทาแผนความร่วมมอื ไทย-เมียนม่า และจดั ทา ๑๓-๑๔ มีค.
แผนการดาเนนิ งานพัฒนาเศรษฐกจิ พิเศษ ๖๑
๓๗ ไดร้ ับการอบรมโครงการฝึกอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการการ
ประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีพลงั งานทดแทนฯ ๒๖-๓๐ มีค.
๓๘ เป็นผคู้ วบคมุ ทีมโครงงานในรอบชงิ ชนะเลิศ การ ๖๑
แขง่ ขันโครงงานวิศวกรรมเครือ่ งกลรุ่นเยาว์ ๓๐ ปี
ตะโกราย ๔ กค. ๖๑
๓๙ เขา้ รว่ มงานมหกรรมตลาดนดั ผลงานนกั เรยี น ครู และ
สถานศกึ ษาท่ีนานโยบายบูรณาการร่วมกนั ที่ประสบ ๒๖ กค. ๖๑
ผลสาเร็จในพ้ืนทต่ี รวจราชการที่ ๑๑
24
ผลงำนอบรม สมั มนำ กรรมกำร
ท่ี อบรม สมั มนา ดงู าน วนั /เดอื น/ปี
๔๐ ครทู ่ีปรึกษาในการประกวดสงิ่ ประดิษฐข์ องครนุ่ ใหม่ ๑๔-๑๕ ธค.
ระดับอาชีวศกึ ษาจังหวดั นครพนม ๖๑
๔๑ ได้ผา่ นการอบรมบุคลากรทางการลกู เสอื ระดับผู้นา ข้นั ๑๖-๒๑ ธค.
ความร้ชู นั้ สงู รนุ่ ที่ ๘๕๒ ๖๒
๔๒ เข้าร่วมจัดนิทรรศการในงานวนั ครู ครัง้ ที่ ๖๓ พ.ศ. ๑๖-๑๗
มค. ๖๒
๒๕๖๒ “คณุ ธรรมนาครไู ทย สรา้ งเด็กไทยหวั ใจ
ซอื่ ตรง” ๑๙ มคี . ๖๒
๔๓ เป็นคณะกรรมการพิจารณาผลงานเสนอบทความวจิ ยั
ภาคโปสเตอร์ ๑๐-๑๑ เมย.
๔๔ เป็นคณะทางานทบทวนและจัดทาแผนยุทธศาสตร์การ ๖๒
พัฒนาการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๖๗
๔๕ ได้ปฏิบัตงิ าน”ศนู ย์อาชวี อาสา” เทศการสงกรานต์ ๑๑-๑๗ เมย.
๒๕๖๒ ๖๒
๔๖ เข้ารว่ มกิจกรรมบริการศูนยซ์ ่อมสรา้ งเพื่อชมุ ชน (Fix it
center) ๙ มยิ . ๖๒
๔๗ เข้าร่วมประชุมเชงิ ปฏิบตั กิ าร งานฐานทรัพยากร
ทอ้ งถ่ิน กลมุ่ จงั หวัด สกลนคร นครพนม มกุ ดาหาร ๒๐-๒๑ กค.
๔๘ เขา้ รบั การอบรมหลกั สตู รผูป้ ระเมินองคก์ ารนกั วิชาชีพ ๖๒
ในอนาคตแห่งประเทศไทย และสมาชกิ ดเี ด่นโครงการ
ภายใต้การนิเทศ ๒๔-๒๖ สค.
๖๒
25
ผลงำนอบรม สมั มนำ กรรมกำร
ที่ อบรม สมั มนา ดงู าน วนั /เดอื น/ปี
๔๙ เป็นกรรมการอานวยการประกวดสง่ิ ประดิษฐข์ องครุน่ ๘ พย. ๖๒
ใหมร่ ะดับอาชวี ศึกษาจังหวดั นครพนม ๒๕๖๒ ๒๐ พย. ๖๒
๕๐ เป็นประธานกรรมการตัดสินผลการแข่งขันทกั ษะงาน
๒๑ ธค. ๖๒
จักรยานยนต์ ๒๖ มค. ๖๓
๕๑ เป็นเจ้าหนา้ ทีล่ ูกเสือ สานักงานลูกเสือแหง่ ชาติ
๕๒ เป็นหัวหน้าตึกการจัดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตดิ ้าน ๓๐ มค.- ๑
กพ. ๖๓
อาชวี ศึกษา (V-net)
๕๓ เป็นอนุกรรมการจัดการแข่งขนั ทกั ษะงานยานยนต์แกส๊ ๑๕-๒๐ กพ.
๖๓
โซลีน
๕๔ Member of the Working Committee to the ๒๖-๒๗ กพ.
๖๓
“The 41st National Convention of the
Future Farmers of Thailand Organization ๑๗ เมย. ๖๓
Under The Royal Patronage of H.R.H.
Princess Maha Chakri Sirindhorn ๒๔ เมย. ๖๓
๕๕ เป็นรองประธานกรรมการประเมินมาตรฐานวิชาชพี
สาขาเทคโนโลยสี ารสนเทศ (ศนู ย์เรอื นจา)
๕๖ ผา่ นการทดสอบออนไลน์วัดความรู้ ”ความรู้เบื้องต้น
เก่ยี วกบั งานสารบรรณ”
๕๗ ผา่ นการทดสอบออนไลน์ ”หลกั เกณฑ์และแนว
ปฏิบตั กิ ารประกันคุณภาพการศึกษา”
26
ที่ อบรม สัมมนา ดงู าน วนั /เดอื น/ปี
๕๘ ผ่านการทดสอบออนไลน์ ”หลักเกณฑ์และแนว ๓๐ เมย. ๖๓
ปฏบิ ัตกิ ารประกันคณุ ภาพการศึกษา”
๕๙ ผา่ นการทดสอบความรู้ออนไลน์เบอ้ื งต้น ๓๐ เมย. ๖๓
”พระราชบัญญัตกิ ารจดั ซ้ือจัดจ้างและการบรหิ ารพัสดุ
ภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐” ๒ พค. ๖๓
๖๐ ผ่านการอบรมหลกั สตู รระยะส้ันออนไลน์ ๓ ชวั่ โมง และ ๑๔ พค. ๖๓
ผา่ นการทดสอบความรู้ เร่ืองความรดู้ ้านเทคโนโลยียาน ๑๒-๑๓ กย.
ยนต์
๖๓
๖๑ ผา่ นการทดสอบความรู้ออนไลน์ หวั ขอ้ ความรูภ้ าษาจีน
ทั่วไปและชา่ งอตุ สาหกรรม ๑๒-๑๓ กย.
๖๓
๖๒ เป็นคณะกรรมการดาเนินการจัดโครงการจัดทาส่ือการ
เรยี นการสอนออนไลน์ ภายใต้โครงการพัฒนา ๒๖ กย. ๖๓
มาตรฐานกาลังคนอาชีวศึกษาด้านเทคโนโลยนี วัตกรรม
(Innovation Technology) ใหพ้ รอ้ มเข้าสู่
Thailand ๔.๐
๖๓ เข้ารบั การอบรมโครงการจดั ทาสอ่ื การเรียนการสอน
ออนไลน์ ภายใตโ้ ครงการพัฒนามาตรฐานกาลงั คน
อาชวี ศึกษาด้านเทคโนโลยีนวัตกรรม(Innovation
Technology) ให้พร้อมเขา้ สู่ Thailand ๔.๐
๖๔ เป็นคณะกรรมการดาเนนิ การจัดโครงการประชมุ เชิง
ปฏบิ ัตกิ ารประกนั คณุ ภาพการศึกษาภายใน ระดบั
ปริญญาตรี ของ สถาบันฯ ฉ. ๒
27
ท่ี อบรม สัมมนา ดงู าน วนั /เดอื น/ปี
๖๕ เข้ารบั การอบรมโครงการประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั ิการประกัน ๒๖ กย. ๖๓
คณุ ภาพการศกึ ษาภายใน ระดับปรญิ ญาตรี ของ
สถาบนั ฯ ฉ. ๒
๖๖ ผา่ นทดสอบความรู้เรือ่ ง ความรทู้ ่วั ไปเกย่ี วกับ ๑๕ มค. ๖๔
คอมพิวเตอร์
๖๗ ผา่ นการทดสอบความรู้ เร่ือง ความปลอดภยั เกี่ยวกับ ๑๗ มค. ๖๔
ไฟฟา้
๖๘ เป็นกรรมการอานวยการประกวดส่งิ ประดิษฐ์ของคร่นุ ๒ มคี . ๖๔
ใหม่ระดบั อาชวี ศึกษาจงั หวดั นครพนม ๒๕๖๓
๖๙ เป็นกรรมการจัดการแขง่ ขันทกั ษะงานยานยนต์ดีเซล ๒๑-๒๕ มีค.
๖๔
๗๐ เข้าร่วมการฝึกอบรมด้วยระบบการเรียนรูส้ มรรถนะ ๒๖ มคี . ๖๔
บคุ คลตามมาตรฐานอาชีพและคณุ วฒุ วิ ิชาชพี ในรูปแบบ
อิเลก็ ทรอนกิ ส์
๗๑ General Requirements for Bodies Operating ๗-๙ เมย. ๖๔
Certification of Persons ISO/IEC ๑๘๐๒๔:
๒๐๑๒ Course
๗๒ ผ่านการอบรมด้วยระบบการเรยี นรสู้ มรรถนะบุคคลตาม ๗ มิย. ๖๔
มาตรฐานอาชพี และคณุ วฒุ ิวิชาชีพในรปู แบบ
อิเลก็ ทรอนกิ ส์
28
ดงู ำนตำ่ งประเทศ
ท่ี สถานที่ เรอื่ งทด่ี งู าน จานวน
(ครงั้ )
๑ ประเทศสิงคโปร์ การจดั การศึกษาอาชวี ศกึ ษาของ
๒
๒ ประเทศ การจัดการศึกษา/เขา้ รว่ มประชุมดา้ น ๒
อนิ โดนีเซีย อาชีวศึกษา ๑๕
๓ ประเทศเวียดนาม การจัดการศึกษา/เขา้ รว่ มประชมุ ดา้ น ๑
๑๐
อาชวี ศกึ ษา/ดาเนินโครงการ ๑
๔ ประเทศเมียร์มา่ เข้าร่วมประชุมด้านอาชวี ศกึ ษาไทยเมยี รม์ ่า
๕ ประเทศลาว ด้านความรว่ มมอื อาชวี ศึกษาไทย-ลาว
๖ ฮอ่ งกง รว่ มงาน WORLD DIDAC
29
คำสญั ญำในกำรดำเนนิ ชวี ติ
คำสญั ญำในกำรดำเนนิ ชีวติ ทเ่ี ปน็ ข้ำรำชกำร ต่อไป
๑. เรยี นรตู้ ลอดเวลำ
๒. กระทำตนเป็นแบบอย่ำงท่ดี ี
๓. พัฒนำงำนในหน้ำที่ใหด้ ีที่สุด
๔. รักษำสิ่งแวดลอ้ มตลอดเวลำ
๕. รกั ษำประเพณีอันดงี ำนของไทย
๖. สง่ เสรมิ พัฒนำคุณธรรมจรยิ ธรรม
๗. มุง่ มั่นต้งั ใจในกำรปฏิบัตงิ ำนในหน้ำท่ี
๘. เป็นผู้นำครอบครวั ท่ีดี และดูแลตลอดไป
๙.กระทำตนเปน็ แบบอย่ำงทด่ี ี แก่บุคคลอืน่
๑๐.พฒั นำควำมรทู้ ักษะในทกุ ดำ้ นทุกมิตเิ มอ่ื มีโอกำส
๑๑. ไมน่ ำตำแหน่งมำใชใ้ นกำรแสวงหำผลประโยชน์
๑๒. ส่งเสริม สนับสนุน และอำนวยควำมสะดวก ดำ้ นกำรศึกษำตลอดไป
๑๓. ไมแ่ สวงหำอำมิสสินจำ้ งหรอื ผลประโยชน์จำกผอู้ ่นื ทมี่ ผี ลในกำรทำงำน
๑๔. เป็นข้ำรำชท่ีไม่หยุดกำรพัฒนำทั้งทำงด้ำนร่ำงกำย ควำมคดิ สติปัญญำ
30
พระคณุ พ่อแม่
"พ่อแม่ก็แกเ่ ฒ่า จาจากเจา้ ไม่อยูน่ าน
จะพบจะพ้องพาน เพียงเส้ียววารของคืนวัน
ใจจรงิ ไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แตช่ พี มิทนนาน ย่อมร้าวรานสลายไป
ขอเถดิ ถา้ สงสาร อยา่ กล่าวขานให้ช้าใจ
คนแกช่ ะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน
ไมร่ ักก็ไม่วา่ เพียงเมตตาช่วยอาทร
ใหก้ นิ และใหน้ อน คลายทุกขผ์ อ่ นพอสุขใจ
เม่ือยามเจา้ โกรธข้งึ ใหน้ กึ ถึงเมื่อเยาว์วยั
ร้องไห้ยามปว่ ยไข้ ไดใ้ ครเล่าเฝา้ ปลอบโยน
เฝา้ เล้ยี งจนโตใหญ่ แม้เหนอื่ ยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะไดผ้ ล เตบิ โตจนสง่างาม
ขอโทษถา้ ทาผิด ขอใหค้ ดิ ทกุ ทกุ ยาม
ใจแทม้ ีแตค่ วาม หวงั ติดตามช่วยอวยชยั
ตน้ ไมท้ ่ีใกลฝ้ ่ งั มีหรือหวงั อยู่นานได้
วันหนึ่งคงลม้ ไป ท้ิงฝ่ งั ไว้ให้วงั เวง"
บทกลอนโดย อ.สนุ ทรเกตุ
31
ทาวนั น้ีใหด้ ีทส่ี ดุ
อยกู่ ับตวั เอง ให้คิดบวก
อยูก่ บั ผองพวก ใหเ้ มตตา
อยกู่ บั ปญั หา ให้ลงมอื แก้
อยกู่ บั พอ่ แม่ ให้กตัญญู
อยู่กบั ผรู้ ู้ ให้ถอ่ มตน
อยกู่ บั ทุกคน ให้ทาดี
อย่บู นโลกน้ี ใหป้ ลอ่ ยวาง
[email protected]
Muangmon7273
08-1052-7273
นายเมอื งมนต์ เนตรหาญ
ค ะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั าคตะวนั ออกเ ียงเหนอื
32