The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ruengkwamdee, 2021-01-18 07:43:59

BBF73452-197A-42A7-B212-81E483309A97

BBF73452-197A-42A7-B212-81E483309A97

BIOLOGY

คําศัพทช วี วทิ ยา 5 บท
จดั ทาํ โดย นางสาวฐติ ิมา ประคําทอง ม.5/7

Digestive system

บ ท 1 3 ร ะ บ บ ย อ ย อ า ห า ร

กล่องเสยี ง (larynx)

อวัยวะสาํ คัญทีทําให้เกิดเสียงพู ดอยู่ในลําคอใต้ช่องปากลง
ไ ป ต ร ง ส่ ว น บ น ข อ ง ห ล อ ด ล ม ใ ห ญ่ .

การดดู ซมึ (absorption)

ห ม า ย ถึ ง ก า ร ดู ด ซึ ม ข อ ง เ ห ล ว ห ร ือ แ ก๊ ส ไ ว้ ใ น โ ค ร ง ส ร ้า ง ข อ ง ตั ว ดู ด ซึ ม
(absorbent) แล้วกักของเหลวนันไว้ไม่ให้ไหลออกมา เช่น การดูดซึมนาํ
ของฟองนาํ การดูดซึมสารอาหารทีถูกย่อยแล้วผ่านผนังลําไส้เล็ก การดูด

ซึมนาํ ผ่านรากของต้นไม้

การยอ่ ยอาหาร (Digestion)

การแปรสภาพของสารอาหารทีมีโมเลกุลใหญ่และละลายนาํ ไม่ได้ ให้เปนสาร
อาหารทีมีโมเลกุลเล็กลงจนสามารถละลายนาํ และดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดนาํ ไป

ใช้ประโยชน์ได้ โดยอาศัยกระบวนการทางเชิงกลและกระบวนการทางเคมี

คอหอย (pharynx)

ส่ ว น ข อ ง ค อ ต ร ง เ ห นื อ ลู ก ก ร ะ เ ดื อ ก ขึ น ม า
เ ป น ท า ง ร่ ว ม ข อ ง ร ะ บ บ ท า ง เ ดิ น อ า ห า ร แ ล ะ

ร ะ บ บ ท า ง เ ดิ น อ า ก า ศ ห า ย ใ จ .

ซกี ัม(Caecum)

เ ป น ลํา ไ ส้ ใ ห ญ่ ส่ ว น แ ร ก ต่ อ จ า ก ลํา ไ ส้ เ ล็ ก ส่ ว น ไ อ เ ลี ย ม
ทํา ห น้ า ที รั บ ก า ก อ า ห า ร จ า ก ลํา ไ ส้ เ ล็ ก ที ซี กั ม มี ส่ ว น
ข อ ง ไ ส้ ติ ง ยื น อ อ ก ม า( V E R M I F R O M A P P E N D I X )

โคลอน (Colon)

เ ป น ลํา ไ ส้ ใ ห ญ่ ส่ ว น ที ย า ว ที สุ ด ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย ลํา ไ ส้ ใ ห ญ่
ข ว า ลํา ไ ส้ ใ ห ญ่ ก ล า ง แ ล ะ ลํา ไ ส้ ใ ห ญ่ ซ้ า ย มี ห น้ า ที ดู ด ซึ ม
นาํ แ ล ะ พ ว ก วิ ต า มิ น บี 1 2 ที แ บ ค ที เ รี ย ใ น ลํา ไ ส้ ใ ห ญ่ ส ร้ า ง

ขึ น แ ล ะ ขั บ ก า ก อ า ห า ร เ ข้ า สู่ ลํา ไ ส้ ใ ห ญ่ ส่ ว น ต่ อ ไ ป

เจจนู ัม ลาํ ไสเ ลก็ สวนกลาง มคี วามยาวประมาณ 2 ใน 5 สว นของลําไสเ ลก็
ท้งั หมด มหี นาท่ีดูดซึมสารอาหารทถ่ี ูกยอยอยางสมบูรณแลว ผา นเซลล
(Jejunum)
เยอ่ื บุผิว เขา สกู ระแสเลอื ด

ดโู อดนี ัม ชอ่ื ท่เี รยี กลาํ ไสเล็กสว นตนท่ีอยตู ดิ กับกระเพาะอาหาร

( Duodenum) ดานลางในระบบทางเดนิ อาหาร

ตบั ออน เปนอวัยวะที่อยดู า นหลงั กระเพาะอาหารใกลก บั ลําไสเ ล็กสวนตน

(Pancreas) มีหนาทชี่ วยยอยอาหารและคมุ ระดบั นํ้าตาลในกระแสเลือด

ถงุ นํ้าดี อวยั วะบรเิ วณชอ งทองทท่ี าํ หนา ทใี่ นการกกั เกบ็ นํ้าดีทาํ ให

(Gallbladder) นา้ํ ดเี ขมขน เพ่ือพรอมสาํ หรับยอยไขมัน

Respiratory
system

บทท่ี14 ระบบหายใจ

E BOOK BIOLOGY

01 รู จ มู ก ( N O S T R I L L )

เ ป น ท า ง ผ่ า น เ ข้ า ข อ ง อ า ก า ศ

02 โ พ ร ง จ มู ก ( N A S A L C A V I T Y )

เ ป น โ พ ร ง ที ถั ด จ า ก รู จ มู ก เ ข้ า ไ ป ซึ ง ติ ด ต่ อ กั บ ค อ ห อ ย ที โ พ ร ง
จ มู ก จ ะ มี ข น เ ส้ น เ ล็ ก ๆ แ ล ะ ต่ อ ม นาํ มั น ช่ ว ย ก ร อ ง แ ล ะ จั บ ฝุ น

ล ะ อ อ ง ไ ม่ ใ ห้ ผ่ า น ล ง สู่ ป อ ด

03 หลอดลม (TRACHEA)

เ ป น ห ล อ ด ย า ว ต ร ง มี ก ร ะ ดู ก อ่ อ น เ รี ย ง เ ป น รู ป เ กื อ ก
ม้ า ติ ด อ ยู่ แ ล ะ ก า ร ที มี แ ผ่ น ก ร ะ ดู ก อ่ อ น จึ ง ทํา ใ ห้
ห ล อ ด ล ม ไ ม่ แ ฟ บ ล ง

04 05 06

ขั ว ป อ ด หลอดลมฝอย ถุ ง ล ม เ ล็ ก ๆ ใ น ป อ ด
(BRONCHUS) (BRONCHIOLE) (ALVEOLU )

เ ป น ส่ ว น ข อ ง ห ล อ ด ล ม ที แ ย ก เ ป น แ ข น ง ข อ ง ท่ อ ล ม ที แ ย ก ที ผ นั ง ข อ ง ถุ ง ล ม จ ะ มี เ ส้ น เ ลื อ ด ฝ อ ย
อ อ ก เ ป น กิ ง ซ้ า ย แ ล ะ ข ว า เ ข้ า อ อ ก ไ ป ม า ก ม า ย แ ท ร ก อ ยู่ ล้ อ ม ร อ บ อ ยู่ ม า ก ม า ย จึ ง เ ป น แ ห ล่ ง ใ น
ก า ร แ ล ก เ ป ลี ย น ก๊ า ซ ภ า ย ใ น ป อ ด ข อ ง
สู่ ป อ ด ทั ว ไ ป ใ น เ นื อ ป อ ด ซึ ง จ ะ ไ ป สิ น
สุ ด ที ถุ ง ล ม ( a l v e o l u s ) ค น มี อั ล วิ โ อ ลั ส   ( ถุ ง ล ม เ ล็ ก ๆ
) ป ร ะ ม า ณ   3 0 0 ล้ า น ถุ ง

ปอด (LUNG)

ป อ ด มี อ ยู่ ส อ ง ข้ า ง ว า ง อ ยู่ ใ น ท ร ว ง อ ก มี รู ป ร่ า ง ค ล้ า ย ก ร ว ย มี ป ล า ย ห รื อ ย อ ด ชี ขึ น ไ ป ข้ า ง
บ น แ ล ะ ไ ป ส ว ม พ อ ดี กั บ ช่ อ ง เ ป ด แ ค บ ๆ ข อ ง ท ร ว ง อ ก ซึ ง ช่ อ ง เ ป ด แ ค บ ๆ นี ป ร ะ ก อ บ ขึ น ด้ ว ย
ซี โ ค ร ง บ น ข อ ง ก ร ะ ดู ก สั น อ ก แ ล ะ ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง ฐ า น ข อ ง ป อ ด แ ต่ ล ะ ข้ า ง จ ะ ใ ห ญ่ แ ล ะ ว า ง
แ น บ ส นิ ท กั บ ก ร ะ บั ง ล ม ร ะ ห ว่ า ง ป อ ด 2 ข้ า ง จ ะ พ บ ว่ า มี หั ว ใ จ อ ยู่ ป อ ด ข้ า ง ข ว า จ ะ โ ต ก ว่ า ป อ ด
ข้ า ง ซ้ า ย เ ล็ ก น้ อ ย แ ล ะ มี อ ยู่ 3 ก้ อ น ส่ ว น ข้ า ง ซ้ า ย มี 2 ก้ อ น   ห น้ า ที ข อ ง ป อ ด คื อ ก า ร นาํ ก๊ า ซ
C O 2 อ อ ก จ า ก เ ลื อ ด แ ล ะ นาํ อ อ ก ซิ เ จ น เ ข้ า สู่ เ ลื อ ด ป อ ด จึ ง มี รู ป ร่ า ง ใ ห ญ่ มี ลั ก ษ ณ ะ ยื ด ห ยุ่ น

ค ล้ า ย ฟ อ ง นาํ

เ ยื อ หุ้ ม ป อ ด ( P L E U R A )

เ ป น เ ยื อ ที บ า ง แ ล ะ ล ะ เ อี ย ด อ่ อ น เ ป ย ก ชื น แ ล ะ เ ป น มั น ลื น หุ้ ม ผิ ว ภ า ย น อ ก ข อ ง
ป อ ด เ ยื อ หุ้ ม นี ไ ม่ เ พี ย ง ค ลุ ม ป อ ด เ ท่ า นั น ยั ง ไ ป บุ ผิ ว ห นั ง ด้ า น ใ น ข อ ง ท ร ว ง อ ก
อี ก ห รื อ ก ล่ า ว ไ ด้ อี ก อ ย่ า ง ห นึ ง ว่ า เ ยื อ หุ้ ม ป อ ด ซึ ง มี 2 ชั น ร ะ ห ว่ า ง 2 ชั น นี มี
ข อ ง เ ห ล ว อ ยู่ นิ ด ห น่ อ ย เ พื อ ล ด แ ร ง เ สี ย ด สี ร ะ ห ว่ า ง เ ยื อ หุ้ ม มี โ พ ร ง ว่ า ง เ รี ย ก

ว่ า ช่ อ ง ร ะ ห ว่ า ง เ ยื อ หุ้ ม ป อ ด

ก า ร ห า ย ใ จ เ ข้ า ( I N S P I R A T I O N )

ก ะ บั ง ล ม จ ะ เ ลื อ น ตํา ล ง ก ร ะ ดู ก ซี โ ค ร ง จ ะ เ ลื อ น สู ง ขึ น ทํา ใ ห้ ป ริ ม า ต ร
ข อ ง ช่ อ ง อ ก เ พิ ม ขึ น ค ว า ม ดั น อ า ก า ศ ใ น บ ริ เ ว ณ ร อ บ ๆ ป อ ด ล ด ตํา ล ง
ก ว่ า อ า ก า ศ ภ า ย น อ ก อ า ก า ศ ภ า ย น อ ก จึ ง เ ค ลื อ น เ ข้ า สู่ จ มู ก ห ล อ ด ล ม

แ ล ะ ไ ป ยั ง ถุ ง ล ม ป อ ด

จ มู ก ( N O S E )

จ มู ก ส่ ว น น อ ก เ ป น ส่ ว น ที ยื น อ อ ก ม า จ า ก ต ร ง กึ ง ก ล า ง ข อ ง ใ บ ห น้ า รู ป ร่ า ง
ข อ ง จ มู ก มี ลั ก ษ ณ ะ เ ป น รู ป ส า ม เ ห ลี ย ม พี ร ะ มิ ด ฐ า น ข อ ง รู ป ส า ม เ ห ลี ย ม ว า ง
ป ะ ติ ด กั บ ห น้ า ผ า ก ร ะ ห ว่ า ง ต า ส อ ง ข้ า ง สั น จ มู ก ห รื อ ดั ง จ มู ก มี รู ป ร่ า ง แ ล ะ
ข น า ด ต่ า ง ๆ กั น ยื น ตั ง แ ต่ ฐ า น อ อ ก ม า ข้ า ง น อ ก แ ล ะ ล ง ข้ า ง ล่ า ง ม า สุ ด ที ป ล า ย

Circulatory
and

Lymphatic
System

บ ท ที 1 5 ร ะ บ บ ห มุ น เ วี ย น เ ลื อ ด
แ ล ะ ร ะ บ บ นาํ เ ห ลื อ ง

ก ล้ า ม เ นื อ หั ว ใ จ
(CARDIAC MUSCLE)

เ ป น ก ล้ า ม เ นื อ ล า ย ช นิ ด ห นึ ง ที อ ยู่ น อ ก อํา น า จ จิ ต ใ จ
( i n v o l u n t a r y ) พ บ ที หั ว ใ จ ทํา ห น้ า ที ใ น ก า ร สู บ ฉี ด โ ล หิ ต
ไ ป ยั ง ร ะ บ บ ไ ห ล เ วี ย น โ ล หิ ต โ ด ย ก า ร ห ด ตั ว ข อ ง ก ล้ า ม เ นื อ

แ ก ร นู โ ล ไ ซ ต์
(GRANULOCYTE)

เ ป น เ ซ ล ล์ เ ม็ ด เ ลื อ ด ข า ว ที มี แ ก ร นู ล อ ยู่ ภ า ย ใ น เ ซ ล ล์
แ บ่ ง ย่ อ ย ไ ด้ เ ป น นิ ว โ ต ร ฟ ล   ( n e u t r o p h i l ) มี แ ก ร นู ล

ข น า ด เ ล็ ก นิ ว เ ค ลี ย ส มี 2 - 5 พู มี ห น้ า ที ทํา ล า ย สิ ง
แ ป ล ก ป ล อ ม ด้ ว ย วิ ธี ฟ า โ ก ไ ซ โ ต ซิ ส อี โ อ ซิ โ น ฟ ล

โ ก ล บู ลิ น
(GLOBULIN)

เ ป น ก ลุ่ ม ข อ ง โ ป ร ตี น ที มี รู ป ร่ า ง ท ร ง ก ล ม มี นํา ห นั ก
โ ม เ ล กุ ล สู ง ไ ม่ ล ะ ล า ย ใ น นาํ แ ต่ ล ะ ล า ย ไ ด้ ใ น ส า ร ล ะ ล า ย

เ ก ลื อ เ จื อ จ า ง พ บ อ ยู่ ทั ว ไ ป ใ น อ า ห า ร ต า ม ธ ร ร ม ช า ติ
ห า ก พ บ ใ น ซี รั ม เ รี ย ก ว่ า อิ ม มู โ น โ ก ล บู ลิ น

ต่อมนําเหลือง (LYMPH NODE)

ต่อมทีมลี ักษณะคล้ายเมด็ ถัว ทําหน้าทีคอยสงั เกตการณ์และกรองเอาเซลล์ที
เสยี หายและเซลล์มะเรง็ ออกจากนําเหลือง นอกจากนียงั ผลิตและกักเก็บ
เซลล์เมด็ เลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ และเซลล์ภมู คิ ้มุ กันอืน ๆ ทีโจมตีและกําจดั
สงิ แปลกปลอมทีเปนอันตรายต่อรา่ งกาย

เยอื หมุ้ หวั ใจ (PERICARDIUM)

เปนเยอื หมุ้ สองชนั ทีมลี ักษณะเหนียวและมคี วามแขง็ แรงทนทาน
โดยชอ่ งวา่ งระหวา่ งเยอื หมุ้ ทังสองชนั จะมขี องเหลวบรรจุอยูซ่ งึ
มหี น้าทีชว่ ยปกปองหวั ใจจากการกระตกุ และการชอ็ ก เยอื หมุ้ หวั ใจ
แบง่ ออกเปน 2 ชนั

นําเหลือง (LYMPH)

เปนสว่ นประกอบหนึงในรา่ งกายทีหลายๆ คนค้นุ เคยกันมานาน แต่นอ้ ย
คนนักทีจะรูว้ า่ นําเหลืองคืออะไร และทําหน้าทีอยา่ งไรในรา่ งกาย Hello
คณุ หมอ เลยจะมาแนะนําใหท้ กุ คนได้รูจ้ กั กับ ระบบนําเหลือง อีกหนงึ
ระบบสาํ คัญในรา่ งกายทีไมค่ วรมองขา้ ม

ท่อรวบรวม (COLLECTING DUCTS)

คือท่อทีเชอื มต่อระหวา่ งท่อนําเหลืองกับหลอดเลือดดํา ทําหน้าทีในการสง่ นาํ
เหลืองกลับคืนเขา้ สกู่ ระแสเลือด เพอื ใหป้ รมิ าณและแรงดันของเลือดอยูใ่ นระดับ
ทีปกติ นอกจากนียงั ชว่ ยปองกันไมใ่ หม้ นี ําสะสมอยูใ่ นเนือเยอื มากเกินไปอีกด้วย

เกล็ดเลือด (PLATELETS)

เปนเซลล์เมด็ เลือดชนิดไมม่ สี ี มหี น้าทีชว่ ยในการทําใหเ้ ลือดแขง็ ตัว
และลดการสญู เสยี เลือดจากรา่ งกายเวลาเกิดแผล

ไฟบรนิ (FIBRIN)

สารทีมลี ักษณะเปนเสน้ ใยเหนียวพบในเลือด ชว่ ยในการแขง็ ตัวของเลือด
เมอื เกิดบาดแผล โดยไฟบรนิ จะประสานกันเปนรา่ งแหอุดรอยฉีกขาดของ
เสน้ เลือดตรงบรเิ วณปากแผล

ลคู ีเมยี (LEUKEMIA)

เปนโรคมะเรง็ ทีเกิดขนึ ในไขกระดกู เกิดจากมเี ซลล์เมด็ เลือดขาวตัวอ่อนเติบโต
มากผดิ ปกติโดยไมท่ ราบสาเหตุ การแบง่ ตัวอยา่ งไมห่ ยุดของเซลล์เหล่านี ไดไ้ ป
รบกวนการสรา้ งเมด็ เลือดปกติชนิดอืนของไขกระดกู ทําใหเ้ มด็ เลือดแดง เมด็
เลือดขาวปกติ และเกล็ดเลือดลดลง สง่ ผลใหผ้ ปู้ วยมภี าวะโลหติ จาง

TTmmsshhyymmaassnunuttekneknmmIeIe

บทท่ี 16ระบบภูมิคุมกัน
Immune system

การอักเสบ (INFLAMMATION)

เปนการตอบสนองทางชวี ภาพทีซบั ซอ้ นของเนือเยอื หลอดเลือดต่อสงิ กระต้นุ ทีเปน
อันตราย เชน่ เชอื โรค เซลล์ทีเสอื มสภาพ หรอื การระคายเคือง ซงึ เปนความพยายาม
ของสงิ มชี วี ติ ทีจะนําสงิ กระต้นุ ดังกล่าวออกไปและซอ่ มแซมเนือเยอื ทีถกู ทําลาย

เซลล์ที (T CELL)

เปนเซลล์ภมู ติ ้านทานชนิดหนึง ซงึ มหี น้าทีหลักในการหาเซลล์ทีติดเชอื
หรอื เชอื โรคต่าง ๆ และกําจดั มนั มนั ทําหน้าทีนีได้โดยการใชโ้ ปรตีนทีอยู่
บนพนื ผวิ ของมนั เองไปยดึ เกาะกับโปรตีนบนพนื ผวิ ของสงิ แปลกปลอม

บเี ซลล์(B CELL)

เปนเซลล์เมด็ เลือดขาวประเภทลิมโฟไซต์ ซงึ เมอื ถกู กระต้นุ ด้วยสาร
แปลกปลอมหรอื แอนติเจนจะพฒั นาเปนพลาสมาเซลล์ทีมหี นา้ ทีหลัง
แอนติบอดีมาจบั กับแอนติเจน

โ ร ค ภู มิ แ พ้ ลู ป ส แ อ น ติ เ จ น
(ALLERGY) (LUPUS) (ANTIGEN)

เ กิ ด จ า ก ร่ า ง ก า ย สั ม ผั ส จั ด อ ยู่ ใ น ก ลุ่ ม โ ร ค แ พ้ ภู มิ สิ ง แ ป ล ก ป ล อ ม เ มื อ
ส า ร ก่ อ ภู มิ แ พ้   ซึ ง ไ ป ต น เ อ ง เ ป น โ ร ค ที มี ค ว า ม เ ข้ า สู่ ร่ า ง ก า ย แ ล้ ว ก ร ะ
ก ร ะ ตุ้ น ใ ห้ มี ป ฏิ กิ ริ ย า
ผิ ด ป ก ติ ข อ ง ร ะ บ บ ตุ้ น ใ ห้ ร่ า ง ก า ย ส ร้ า ง
ต อ บ ส น อ ง ต่ อ ส า ร เ ห ล่ า ภู มิ คุ้ ม กั น โ ด ย ร่ า ง ก า ย แ อ น ติ บ อ ดี แ ล ะ
นั น ม า ก ผิ ด ป ก ติ แ ล ะ ใ ห้ ร ะ บ บ ภู มิ คุ้ ม กั น ต่ อ ต้ า น
ห รื อ ท า ล า ย เ นื อ เ ยื อ แ อ น ติ เ จ น นั น จ ะ ทํา
ทํา ใ ห้ เ กิ ด อ า ก า ร ต่ า ง ๆ ที ป ฏิ กิ ริ ย า จาํ เ พ า ะ กั บ
ร่ า ง ก า ย แ ล ะ เ ซ ล ล์ ต่ า ง ๆ ข อ ง แ อ น ติ บ อ ดี ซึ ง วั ค ซี น ก็
ร่ า ง ก า ย ต น เ อ ง ใ น ร ะ บ บ ถื อ เ ป น แ อ น ติ เ จ น
อ วั ย ว ะ ต่ า ง ๆ แ ท น ที จ ะ
ต่ อ ต้ า น ห รื อ ท า ล า ย สิ ง อ ย่ า ง ห นึ ง

แปลกปลอมจาก
ภ า ย น อ ก ร่ า ง ก า ย

แมคโครฟาจ (MACROPHAGE )

ทีอยูใ่ นเนือเยอื กระจายอยูใ่ นอวยั วะต่าง ๆ เมอื กิน antigen เขา้ ไปแล้ว จะทํา
หน้าทีเปน antigen presenting cell (APC) คือสง่ สญั ญาณจาก antigen
ต่อมาใหเ้ ซลล์เมด็ เลือดขาวชนิด T lymphocyte เพอื รบั หนา้ ทีต่อไป

แอนติบอดี (ANTIBODY)

สารพวกโปรตีนทีรา่ งกายมนุษย์ หรอื สตั วช์ นั สงู อืน ๆ สรา้ ง
ขนึ มสี มบตั ิในการต่อต้านสงิ แปลกปลอมทีเขา้ มาในรา่ งกาย
ซงึ เรยี กวา่ แอนติเจน.

แมสต์เซลล์ (MAST CELL)

เปนเซลล์เกียวขอ้ งกับระบบภมู คิ ้มุ กันต้านทานโรคของรา่ งกาย มกั พบไดต้ ามเนือเยอื ต่างๆ
ทัวรา่ งกายเชน่ เนือเยอื เกียวพนั ผวิ หนัง เนือ เยอื ใกล้หลอดเลือด และในผนงั กระเพาะ
อาหารและลําไส้ มาสต์เซลล์เปนเซลล์ทีเกียวขอ้ งกับระบบภมู คิ ้มุ กันต้านทานโรคของ
รา่ งกายทีก่อใหเ้ กิดอาการอักเสบ (บวม แดง รอ้ น) ของเนือเยอื ต่างๆ

พลาสมาเซลล์ (PLASMA CELL)

เปนเซลล์เมด็ เลือดขาวทีมหี น้าทีสรา้ ง antibody ขนสง่ ทางนําเลือด และ
ระบบนําเหลืองโดยพลาสมาเซลล์นันถกู สรา้ งขนึ ทีไขกระดกู เมอื ออกจาก
ไขกระดกู ก็จะเปน B cell ก่อนทีจะมกี ารเปลียนแปลงลักษณะมาเปนพลาสมา
เซลล์ พบได้ทีต่อมนําเหลือง

EXCRETORY
SYSTEMY

บทท่ี 17 ระบบขบั ถา ย

กรวยไต(KIDNEY CONE)

กรวยไตเปนอวยั วะทีมลี ักษณะเปนโพรง เปนสว่ นต่อกับท่อ
ไต ทําหน้าทีรองรบั นําปสสาวะทีกรองแล้วจากเซลล์ของไต
จากนันจงึ นําสง่ ไปทีท่อไต

การกรอง (FILTRATION)

เปนการแยก (separation) ทางกล เพอื แยกอนุภาคของแขง็ ทีไม่
ละลายซงึ แขวนลอยอยูใ่ นสารละลายออกจากสว่ นท่ีเปนของเหลว โดย
ใหข้ องเหลวทีมสี ว่ นผสมของทังของแขง็ และของเหลวไหลผา่ นตัว
แผน่ กรอง ซงึ มหี น้าทีกักของแขง็ ทีมขี นาดใหญ่กวา่ ขนาดรูของตัว
แผน่ กรองไวแ้ ละปล่อยใหส้ ว่ นทีเปนของเหลวไหลผา่ น ของเหลวที
กรองได้เรยี กวา่ ฟลเทรต (filtrate)

การดดู กลับของไต
(TULAR REABSORBTION)

คือขบวนการดดู กลับสารทีมปี ระโยชน์ต่อรา่ งกาย จากท่อไตกลับเขา้ สู่
กระแสเลือดจะเกิดขนึ ตลอดความยาวของท่อเล็กๆ ในหน่วยทํางานของไต
จะดดู ซมึ เอานําและสารบางอยา่ งทีรา่ งกายต้องการกลับ คืนสกู่ ระแสเลือด
ประมาณ 178.5-179 ลิตร/วนั จงึ มปี สสาวะออกมานอกรา่ งกายเพยี ง 1-
1.5 ลิตรต่อวนั การดดู ซมึ กลับจะเกิดขนึ มากบรเิ วณหลอดฝอยไตสว่ นต้น

โ ก ล เ ม อ รู ลั ส ไตKIDNEY นิ ว ใ น ไ ต ท่ อ ไ ต U R E T E R
GLOMERULUS (KIDNEY
เ ป น อ วั ย ว ะ รู ป ถั ว ซึ ง STONES) ท่ อ ข น า ด เ ล็ ก ที เ ชื อ ม จ า ก
เ ป น ก ร ะ จุ ก ห ล อ ด เ ลื อ ด ฝ อ ย มี ห น้ า ที ค ว บ คุ ม สาํ คั ญ ไ ต ล ง ม า ที ก ร ะ เ พ า ะ
ทํา ห น้ า ที ก ร อ ง เ ลื อ ด ขั น แ ร ก ห ล า ย อ ย่ า ง ใ น สั ต ว์ มี โ ร ค ที เ กิ ด จ า ก แ ร่ ธ า ตุ
อ ยู่ ที จุ ด เ ริ ม ต้ น ข อ ง ห น่ ว ย ไ ต แ ข็ ง ช นิ ด ต่ า ง ๆ ที ร ว ม ป ส ส า ว ะ ซึ ง มี อ ยู่ 2 ข้ า ง
ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง บ า ง ค รั ง อ า จ มี ก้ อ น นิ ว
( n e p h r o n ) ซึ ง เ ป น ตั ว กั น เ ป น ก้ อ น ก้ อ น
โ ค ร ง ส ร้ า ง รู ป ท่ อ ที มี ห น้ า ที ข น า ด เ ล็ ก อุ ด ค า อ ยู่ ภ า ย ใ น
ก ร อ ง เ ลื อ ด แ ล้ ว ส ร้ า ง เ ป น ท่ อ ไ ต ซึ ง มั ก เ กิ ด ขึ น เ พี ย ง

ปสสาวะในไต ข้ า ง เ ดี ย ว ทํา ใ ห้ เ กิ ด
อ า ก า ร ป ว ด ท้ อ ง รุ น แ ร ง

ฉั บ พ ลั น ไ ด้

เ ม ดั ล ล า M E D U L L A

เ ป น โ ค ร ง ส ร้ า ง รู ป ก้ า น ซึ ง อ ยู่ ใ น ก้ า น ส ม อ ง มั น
อ ยู่ ด้ า น ห น้ า แ ล ะ ด้ า น ห ลั ง โ ด ย ส่ ว น ห นึ ง ข อ ง

ส ม อ ง น้ อ ย มั น อ ยู่ ด้ า น ห น้ า ข อ ง ส ม อ ง น้ อ ย โ ด ย
ค่ อ น ข้ า ง ตํา ก ว่ า เ นื อ เ ซ ล ล์ ป ร ะ ส า ท ที มี รู ป ก ร ว ย

ข อ ง มั น มี ห น้ า ที ซึ ง ไ ม่ ไ ด้ อ ยู่ ใ ต้ อํา น า จ จิ ต ใ จ

ท่ อ ร ว ม
(COLLECTING TUBULE)

เ ป น บ ริ เ ว ณ ที ท่ อ ข ด ส่ ว น ป ล า ย ข อ ง ห น่ ว ย ไ ต ม า เ ป ด
ร ว ม กั น เ พื อ นาํ ป ส ส า ว ะ อ อ ก สู่ ก ร ว ย ไ ต โ ด ย ห น่ ว ย

ไ ต ห ล า ย ๆ ห น่ ว ย ใ ช้ ร่ ว ม กั น ไ ด้

ท่ อ ป ส ส า ว ะ ( U R E T H R A )

เ ป น ท่ อ ต่ อ จ า ก ก ร ะ เ พ า ะ ป ส ส า ว ะ   ทํา ห น้ า ที เ ป น ท า ง
ผ่ า น ข อ ง ป ส ส า ว ะ จ า ก ก ร ะ เ พ า ะ ป ส ส า ว ะ อ อ ก สู่ น อ ก
ร่ า ง ก า ย   ท่ อ ป ส ส า ว ะ ข อ ง ผู้ ช า ย จ ะ ย า ว ก ว่ า ผู้ ห ญิ ง
แ ล ะ ไ ม่ แ ย ก จ า ก อ วั ย ว ะ เ พ ศ ดั ง นั น ร ะ บ บ ท า ง เ ดิ น
ป ส ส า ว ะ จึ ง มั ก เ กี ย ว พั น แ ล ะ ค ร อ บ ค ลุ ม ไ ป ถึ ง ร ะ บ บ

สื บ พั น ธุ์ เ พ ศ ช า ย ด้ ว ย

Thank

you!

จัดทาํ โดย นางสาวฐิตมิ า ประคาํ ทอง ม.5/7


Click to View FlipBook Version