- 51 - | P a g e ๑๐ พมิพเ์ขือ่ง เนือ้กระแจะ จนัทร์หนึกนุ่มจดัผวิเยือ่ หอม เมล็ดพิกุล ๑๑ พมิพเ์ขือ่ง เนือ้ เกสร ดอกไม้ แตกลายงาอ่อน หนึกนุ่ม ผิวเรียบบาง สี งาช ้าง มีรักทองเก่าร าไร ๑๒ พมิพเ์ขือ่ง เนือ้ กระแจะจันทร ์ หนึกนุ่ม จัด สีเมล็ดพิกุล ๑๔ โปรง่เนือ้ปูนแกร่ง ความ ซึ ้งดีผวิเรยีบหนา สจีา ปา ขาวระยบัดุจกระเบือ้งโป๊ส เลน ๑๖ สนัทดัเนือ้ เกสรดอกไม้ หนึกนุ่มจดัความซึ ้งจดัผวิ เยือ่หอม สลีาน ๑๗ เขือ่ง เนือ้ปูนแกรง่หนึก แกรง่ความซึ ้งดีผวิฟูบางและ แป้ งโรยพิมพ์ สีจ าปี ๑๘ สนัทดัเนือ้ปูนแกรง่หนึก แกรง่ความซึ ้งดี ผิวฟูบาง สี จ าปี ๑๕ ป้ อม สีพิกุลแห้ง
- 52 - | P a g e
- 53 - | P a g e หนังสืออนุสรณ์ 100 ปี แห่งการมรณภาพ สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี ) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพ ปี 2515
- 54 - | P a g e ภาพที่ ๑ ภาพที่ ๒ ภาพที่ ๓ ภาพที่ ๔
- 55 - | P a g e ภาพที่ ๕ ภาพที่ ๖ ภาพที่ ๗ ภาพที่ ๘
- 56 - | P a g e ภาพที่ ๙
- 57 - | P a g e ภาพที่ ๑๐
- 58 - | P a g e ภาพที่ ๑๑ ภาพที่ ๑๒ ภาพที่ ๑๓ ภาพที่ ๑๔
- 59 - | P a g e ภาพที่ ๑๕ ภาพที่ ๑๖ ภาพที่ ๑๗ ภาพที่ ๑๘
- 60 - | P a g e ภาพที่ ๑๙ ภาพที่ ๒๐
- 61 - | P a g e เทียบแม่พิมพ์อดีตกับปัจจุบัน
- 62 - | P a g e เทียบแม่พิมพ์อดีตกับปัจจุบัน
- 63 - | P a g e เทียบแม่พิมพ์อดีตกับปัจจุบัน
- 64 - | P a g e
- 65 - | P a g e อ้างอิง ๑. ประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี จากบันทึกของมหาอำมาตย์ตรีพระยา ทิพโกษา (สอน โลหะนันทน์) ปี พ.ศ. ๒๔๗๓ ๒. ประวัติของเจ้าประคุณสมเด็จฯ โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ “เรื่องตั้งพระราชาคณะผู้ใหญ่ใน กรุงรัตนโกสินทร์” ปี พ.ศ. ๒๔๖๖ ๓. ประวัติประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ผู้แต่ง : พระครูกัลยาณานุกูล รวบรวมและเรียบเรียงจัดพิมพ์:พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงาน พระราชทานเพลิงศพ นายล้อม ฟักอุดม และนางพิมเสน ฟักอุดม ปีที่พิมพ์ : พ.ศ. 2512พระมหาเฮง วัดกัลยาณมิตร ๔. หนังสือ “สมเด็จโต” โดย แฉล้ม โชติช่วง , มนัส ยอขันธ์ ปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ๕. หนังสือพระสมเด็จ โดยตรียัมปวาย ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ๖. หนังสือที่ระลึกงานสงกรานต์ชลบุรี ประจำปี พ.ศ. ๒๕๐๗ เรื่อง "สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)" โดย อธึก สวัสดิมงคล ๗. ประวัติและอภินิหารของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรสี) หนังสือ "๘๐ ปี เขตบางกอกน้อย" ๑๕ ตุลาคม ๒๕๓๘ ๘. หลักการพิจารณาพระสมเด็จวัดระฆัง โดย อาจารย์ไพรพนา ศรีเสน ๙. ประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี โดยหลวงพ่อจรัญ ฐิตธรรมโม วัดอัมพวัน สิงห์บุรี ๑๐.จากบทความเรื่อง ๑๐๐ ปี ที่สมเด็จจากไป โดยนายฉันทิชย์กระแสสินธุ์ ในหนังสืออนุสรณ์ ๑๐๐ ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ๒๒ มิถุนายน ๒๕๑๕ ๑๑. สี่สมเด็จ โดยนายสุคนธ์ เพียรพัฒน์ พิมพ์ที่ แอลซีเพรสส์ ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ๑๒. หนังสือภาพ-ประวัติ พระสมเด็จโต โดย พ.ต.ต.จำลอง มัลลิกะ นาวิน พิมพ์ที่โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น กรมการปกครอง ๑ มีนาคม ๒๕๒๗ ๑๓. เรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรง นายธงชัย พลอยช่าง (สกุลเดิม อิศรางกูร ณ อยุธยา) ช่างปั้นพระปฏิมากร บางกอกน้อย กรุงเทพฯ ๑๔. เรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรง พระภิกษุวงษ์ สุธรรมโม (พระอาจารย์จิ้ม กันภัย) วัดดงมูลเหล็ก กรุงเทพฯ (อายุ ๘๕ ปี ๕๐ พรรษา) ๑๕. ภาพเขียนบนผนังโบสถ์วัดอินทรวิหาร ๑๖. ประวัติช่างสิบหมู่ จากวิกิพีเดียร สารานุกรมเสรี ๑๗. พระคัมภีร์และพระสูตรคาถา จากวิกิพีเดียร สารานุกรมเสรี ๑๘. ประวัติวัดระฆังโฆษิตาราม จากวิกิพีเดียร สารานุกรมเสรี
- 66 - | P a g e ปุจฉา-วิสัชนา พระสมเด็จฯ ปุจฉา เนื้อพระสมเด็จงอกได้ไหม วิสัชนา ปูนตำโบราณ กับ โครงสร้างทางเคมี (ประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์ต้องสอดคล้องกัน) แล้วเนื้อพระสมเด็จงอกได้ไหม ก่อนอื่นต้องเข้าใจธรรมชาติก่อน -เปลือกหอย กระดูก หรือฟันของสิ่งมีชีวิต งอกได้เพราะสิ่งมีชีวิตนั้นมีเอนไซด์ ที่แปลงแคลเซียมในน้ำ ในอาหาร ให้กลายเป็นเนื้อ แคลเซี่ยมได้ แต่เนื้อพระสมเด็จไม่มีสิ่งมีชีวิตแล้ว จึงงอกไม่ได้ด้วยการใช้ตัวอย่างนี้ -หินงอก หินย้อย ในถ้ำ เกิดได้เพราะภูเขามีหินปูนอยู่ หินปูนมีคุณสมบัติเป็นด่าง เมื่อถูกน้ำฝนที่มีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ จะละลาย จากหินด้านบน แล้วค่อยๆพอก ไม่ได้งอกเอง เนื้อพระสมเด็จไม่มีน้ำฝนไหลผ่าน ไฉนจะงอกเองได้ -เปลือกหอย จะเป็นโครงสร้างผลึก ก็คือซ้อนเป็นชั้นๆโดยมีโปรตีนเอนไซด์เชื่อมเกาะตัวไว้ เมื่อนำมาเผา จะทำลายโปรตีน และไล่ Co2 ออกไป เมื่อนำมาบดจนละเอียด จะทำลายโครงสร้างผลึกไปทั้งหมด เนื้อพระสมเด็จจะแน่นตึง แข็งแรงกว่า และแทบไม่มี โครงสร้างผลึกของเปลือกหอยอยู่อีกเลย การเปรียบเทียบปลือกหอยหรือฟันกับเนื้อพระสมเด็จจึงไม่เหมือนกัน -รอยหนอนด้นหรือปูไต่ รอยหนอนด้นเกิดจากสารอินทรีย์ที่สลายตัวไป ส่วนรอยปูไต่เกิดจากแรงกระทำจากการตัดขอบพระ ไม่ เกี่ยวกับการงอกของเนื้อพระ -หลุมในเนื้อพระตื้นลง ก็ไม่ได้เกิดจากการงอก แต่เกิดจากสลายตัวของปูนเป็นฝุ่นผงลงไปอุดตามร่อง หรือเนื้อพระยุบตัวลงจาก การคล้ายความชื้นออกมากกว่า -เนื้อพระสมเด็จหากถูกความชื้นหรือ Co2 ในอากาศแล้วงอกได้ รับรองต้องเห็นพระสมเด็จ ปริ แตก ระเบิดได้เองแน่นอน พระ สมเด็จเมื่อเซทตัวแล้วแช่น้ำเป็นปีเนื้อก็ไม่งอก แต่อาจกร่อนได้ถ้าน้ำเป็นกรดอ่อนๆ มีพระผงเกจิหลายรุ่นที่แช่น้ำมนต์ ก็ไม่เห็นเนื้อ งอก มีแต่คราบตะกรัน และกร่อนไปบ้าง ทั้งสิ้น -เม็ดพระธาตุ ในพระสมเด็จฯ ก็คือเนื้อปูนดิบที่ยังเผาไม่สมบูรณ์ หรือ เนื้อที่ตัดขอบพระ เนื้อติดครกซึ่งเริ่มแข็งตัวแล้ว นำมาผสม ใหม่ ทำให้ไม่กลืนเป็นเนื้อเดียวกันกับเนื้อใหม่ เมื่อผ่านกาลเวลาเนื้อพระหดตัว จะเกิดร่องรอยปริแยกรอบเนื้อปูนขึ้น หากเป็นพระ ธาตุ ซึ่งจะงอกและขยายขนาดได้จะต้องรอยปริแตกแทน
- 67 - | P a g e พระสมเด็จฯ NG กลับเป็นพระแท้ที่ดูง่าย ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ การสร้างพระสมเด็จฯจากแม่พิมพ์ หากเป็นพระปั๊มจากโรงงาน เมื่อปั๊มองค์พระแล้วเกิดการผิดเพี้ยนไปจากแม่พิมพ์จะไม่ผ่าน QC ถูก Reject ออกไปครับ แต่พระสมเด็จฯที่เกิดจากจากการกดพิมพ์ด้วยมือ จะเกิด Defect ได้ง่าย เช่น การกดแม่พิมพ์ลงหาเนื้อพระ เหมือนการปั๊มตรายาง จะเกิดร่องรอยการขยับของเส้นสายได้ง่าย รวมทั้งการถอดยกแม่พิมพ์ออก จากเนื้อพระ ก็จะเกิดร่องรอยการขยับ รอยครูด รอยเขยื้อนของซุ้ม รอยขยับของฐาน พระกรดุ้ง พระเกศเอียง สบัด รอยบี้ รอย เลือน รวมทั้งรอยเนอะจากเนื้อพระดูดติดกับแม่พิมพ์ การออกแรงกดแม่พิมพ์ที่ไม่เท่ากัน ส่งผลต่อความคมชัดขององค์พระ รูปทรง และความหนาของพระไม่เท่ากันทั้งองค์ แม่พิมพ์ พระสมเด็จขอบจะตื้น 1-2 ม.ม. เปรียบเทียบกับพระหลวงพ่อปาน จะกดเนื้อเข้าแม่พิมพ์ที่มีขอบบังคับพิมพ์ หรือขอบกระบอก ขนาด ความหนาจะเท่ากัน ความคมชัดก็จะใกล้เคียงกันมากกว่า พระสมเด็จฯสร้างแบบ Handmade จึงไม่เหมือนกันแป๊ะ อย่างกับแกะซักองค์ มักเกิด Defect ได้ง่าย แต่กลับเป็นพระแท้ที่ดูง่าย ขึ้นจึงเป็นหลักพิจารณาพระสมเด็จฯ จาก “ร่องรอยการสร้างพระ” ที่สำคัญมาก “ฉัพพรรณรังสี”
- 68 - | P a g e ร่องรอย “พระกรดุ้ง” จากการถอดแม่พิมพ์ขึ้นจากเนื้อพระ ร่องรอย การกดแม่พิมพ์ลงเนื้อไม่แรงพอ
- 69 - | P a g e ร่องรอย “ฐานขยับ” ร่องรอย “ซุ้มเขยื้อน”