เสขยิ วัตร
๗๕
หมวด “สารูป” มี 26 สิกขาบท : ว่าด้วยกิริยามารยาทที่ควรประพฤติในเวลาเข้าไปใน
หมู่บ้าน เร่ิมต้ังแตก่ ารนุ่งหม่ การสำรวม ระวังอริ ิยาบถ การพูดคุย ใหอ้ ยู่ในอาการที่เหมาะสม
1. พระภิกษพุ งึ่ ทำความศกึ ษาวา่ เราจัก นงุ่ ใหเ้ ปน็ ปริมณฑล
2. พระภิกษพุ ง่ึ ทำความศกึ ษาวา่ เราจัก ห่มให้เปน็ ปริมณฑล
3. พระภกิ ษพุ ง่ึ ทำความศึกษาว่าเราจัก ปกปดิ กายดว้ ยดีไปในบา้ น
4. พระภกิ ษุพง่ึ ทำความศกึ ษาวา่ เราจัก ปกปิดกายดว้ ยดีน่งั ในบา้ น
5. พระภิกษุพึ่งทำความศกึ ษาว่าเราจัก สำรวมดว้ ยดีไปในบ้าน
6. พระภิกษพุ ึ่งทำความศึกษาว่าเราจัก สำรวมด้วยดีนงั่ ในบ้าน
7. พระภิกษพุ ง่ึ ทำความศึกษาว่าเราจกั มีสายตาทอดลงไปในบา้ น
8. พระภกิ ษุพึ่งทำความศึกษาว่าเราจกั มสี ายตาทอดลงน่ังในบ้าน
9. พระภกิ ษุพึ่งทำความศึกษาว่าเราจัก ไมเ่ วกิ ผ้าไปในบา้ น
10. พระภกิ ษุพึ่งทำความศกึ ษาวา่ เราจัก ไมเ่ วิกผา้ นั่งในบ้าน
11. พระภกิ ษพุ ง่ึ ทำความศึกษาวา่ เราจกั ไม่หวั เราะดงั ไปในบ้าน
12. พระภิกษพุ ง่ึ ทำความศกึ ษาว่าเราจัก ไม่หวั เราะดังน่งั ในบา้ น
13. พระภกิ ษพุ ึ่งทำความศึกษาวา่ เราจกั ไมพ่ ดู เสยี งดังไปในบา้ น
14. พระภิกษพุ ง่ึ ทำความศกึ ษาว่าเราจกั ไม่พดู เสยี งดังน่งั ในบา้ น
15. พระภิกษพุ ึ่งทำความศกึ ษาว่าเราจัก ไมโ่ คลงกายไปในบา้ น
16. พระภกิ ษุพึ่งทำความศกึ ษาวา่ เราจัก ไมโ่ คลงกายน่งั ในบ้าน
17. พระภิกษพุ ง่ึ ทำความศึกษาวา่ เราจัก ไมไ่ กวแขนไปในบา้ น
18. พระภกิ ษุพึ่งทำความศึกษาว่าเราจัก ไมไ่ กวแขนนัง่ ในบ้าน
19. พระภิกษพุ ง่ึ ทำความศึกษาวา่ เราจกั ไม่สนั่ ศรี ษะไปในบา้ น
20. พระภิกษุพง่ึ ทำความศึกษาวา่ เราจกั ไม่ส่ันศีรษะนั่งในบา้ น
21. พระภกิ ษุพึ่งทำความศึกษาว่าเราจัก ไม่เอามือค้ำกายไปในบ้าน
22. พระภกิ ษุพึ่งทำความศกึ ษาวา่ เราจกั ไม่เอามือค้ำกายนั่งในบ้าน
23. พระภกิ ษุพึ่งทำความศึกษาว่าเราจัก ไม่เอาผ้าคลมุ ศรี ษะไปในบา้ น
24. พระภิกษพุ ง่ึ ทำความศึกษาวา่ เราจัก ไมเ่ อาผ้าคลมุ ศีรษะนงั่ ในบ้าน
25. พระภิกษพุ ึ่งทำความศกึ ษาว่าเราจัก ไม่เดนิ กระโหยง่ เทา้ ไปในบา้ น
26. พระภกิ ษุพง่ึ ทำความศึกษาว่าเราจัก ไมน่ ั่งรัดเข่าในบ้าน
หมวด “โภชนปฏิสังยุต” มี 30 สิกขาบท : ว่าด้วยกิริยามารยาทที่ควรประพฤติใน
การรบั บิณฑบาต และการฉนั ภัตตาหาร
1. พระภิกษุพง่ึ ทำความศึกษาวา่ เราจัก รับบิณฑบาตดว้ ยความเคารพ
2. พระภกิ ษพุ ึ่งทำความศกึ ษาวา่ เราจัก ในขณะบณิ ฑบาต จะแลดแู ต่ในบาตร
3. พระภิกษุพง่ึ ทำความศึกษาว่าเราจกั รับบณิ ฑบาตพอสมสว่ นกับแกง
4. พระภกิ ษุพง่ึ ทำความศกึ ษาวา่ เราจกั รับบณิ ฑบาตแคพ่ อเสมอขอบปากบาตร
5. พระภิกษพุ ึ่งทำความศกึ ษาวา่ เราจัก ฉันบณิ ฑบาตโดยความเคารพ
6. พระภิกษุพง่ึ ทำความศกึ ษาวา่ เราจกั ในขณะฉนั บณิ ฑบาต แลดูแต่ในบาตร
7. พระภกิ ษุพึ่งทำความศึกษาวา่ เราจกั ฉนั บิณฑบาตไปตามลำดับ
8. พระภกิ ษพุ ึ่งทำความศึกษาวา่ เราจกั ฉันบิณฑบาตพอสมส่วนกับแกง ไม่ฉันแกง
มากเกินไป
9. พระภิกษุพึ่งทำความศึกษาว่าเราจกั ฉันบณิ ฑบาตไมข่ ยุ้มแต่ยอดลงไป
10. พระภกิ ษุพึ่งทำความศึกษาวา่ เราจัก ไม่เอาข้าวสกุ ปิดแกงและกบั ดว้ ยหวังจะได้มาก
11. พระภิกษพุ ึ่งทำความศึกษาว่าเราจัก ไม่ขอเอาแกงหรือข้าวสุกเพือ่ ประโยชน์แกต่ น
มาฉนั หากไม่เจ็บไข้
12. พระภิกษุพงึ่ ทำความศึกษาว่าเราจกั ไมม่ องดูบาตรของผูอ้ ่นื ดว้ ยคิดจะยกโทษ
13. พระภิกษพุ ึ่งทำความศกึ ษาวา่ เราจัก ไมท่ ำคำข้าวให้ใหญ่เกินไป
14. พระภิกษุพึ่งทำความศกึ ษาว่าเราจกั ไม่ทำคำขา้ วใหก้ ลมกลอ่ ม
15. พระภิกษุพง่ึ ทำความศึกษาว่าเราจัก ไมอ่ า้ ปากเมือ่ คำขา้ วยงั มาไม่ถึง
16. พระภิกษพุ ง่ึ ทำความศึกษาว่าเราจัก ไมเ่ อามือทงั้ มือใสป่ ากในขณะฉัน
17. พระภกิ ษุพง่ึ ทำความศกึ ษาว่าเราจกั ไม่พดู ในขณะทม่ี ีคำขา้ วอยู่ในปาก
18. พระภิกษุพ่งึ ทำความศึกษาว่าเราจัก ไมฉ่ นั โดยการโยนคำขา้ วเข้าปาก
19. พระภกิ ษุพง่ึ ทำความศึกษาว่าเราจกั ไมฉ่ นั กัดคำขา้ ว
20. พระภิกษพุ ึ่งทำความศึกษาวา่ เราจัก ไม่ฉนั ทำกระพ้งุ แกม้ ใหต้ ยุ่
21. พระภกิ ษุพึง่ ทำความศกึ ษาว่าเราจกั ไมฉ่ ันพลางสะบัดมอื พลาง
22. พระภกิ ษพุ ง่ึ ทำความศึกษาวา่ เราจกั ไม่ฉนั โปรยเมล็ดข้าว
23. พระภิกษุพึ่งทำความศกึ ษาวา่ เราจกั ไมฉ่ ันแลบลิน้
24. พระภกิ ษพุ ึง่ ทำความศกึ ษาวา่ เราจกั ไม่ฉันดังจับๆ
25. พระภกิ ษพุ ึ่งทำความศกึ ษาว่าเราจัก ไม่ฉันดังซดู ๆ
26. พระภกิ ษุพึง่ ทำความศึกษาวา่ เราจกั ไม่ฉันเลยี มือ
27. พระภกิ ษุพง่ึ ทำความศกึ ษาวา่ เราจัก ไม่ฉันเลียบาตร
28. พระภิกษุพง่ึ ทำความศึกษาวา่ เราจกั ไมฉ่ ันเลียรมิ ฝีปาก
29. พระภกิ ษุพ่งึ ทำความศกึ ษาว่าเราจัก ไมเ่ อามอื เป้อื นจับภาชนะนำ้
30. พระภิกษุพง่ึ ทำความศกึ ษาวา่ เราจัก ไม่เอานำ้ ลา้ งบาตรมีเมล็ดขา้ วเทลงในบา้ น
หมวด “ธรรมเทสนาปฏิสังยุต” มี 16 สิกขาบท : ว่าด้วยกิริยามารยาทในการแสดง
ธรรมแก่ผอู้ น่ื
1. พระภกิ ษพุ ่งึ ทำความศึกษาวา่ เราจัก ไม่แสดงธรรมแกค่ นไมเ่ ป็นไขท้ ีม่ ีร่มในมือ
2. พระภกิ ษุพง่ึ ทำความศึกษาวา่ เราจกั ไม่แสดงธรรมแกค่ นไม่เป็นไข้ที่มไี มพ้ ลองในมอื
3. พระภกิ ษุพง่ึ ทำความศึกษาว่าเราจัก ไมแ่ สดงธรรมแกค่ นไม่เป็นไขท้ มี่ ีของมคี มในมือ
4. พระภกิ ษพุ ึ่งทำความศึกษาว่าเราจกั ไมแ่ สดงธรรมแกค่ นไม่เปน็ ไข้ที่มอี าวุธในมอื
5. พระภิกษพุ ึ่งทำความศึกษาว่าเราจัก ไม่แสดงธรรมแกค่ นไม่เป็นไข้ที่สวมเขยี งเท่า้
6. พระภกิ ษพุ ง่ึ ทำความศกึ ษาวา่ เราจัก ไมแ่ สดงธรรมแกค่ นไม่เป็นไข้ทีส่ วมรองเทา้
7. พระภกิ ษพุ ง่ึ ทำความศึกษาวา่ เราจกั ไมแ่ สดงธรรมแกค่ นไมเ่ ป็นไขท้ ่ีไปในยาน
8. พระภกิ ษพุ ึ่งทำความศกึ ษาว่าเราจัก ไม่แสดงธรรมแกค่ นไมเ่ ปน็ ไขท้ อ่ี ยู่บนทน่ี อน
9. พระภกิ ษุพ่งึ ทำความศึกษาวา่ เราจัก ไม่แสดงธรรมแกค่ นไมเ่ ป็นไข้ทน่ี ั่งรดั เขา่
10. พระภิกษพุ ง่ึ ทำความศึกษาวา่ เราจกั ไม่แสดงธรรมแก่คนไมเ่ ป็นไขท้ โ่ี พกศีรษะ
11. พระภิกษพุ ึ่งทำความศกึ ษาวา่ เราจกั ไมแ่ สดงธรรมแก่คนไมเ่ ป็นไข้ท่คี ลมุ ศีรษะ
12. พระภิกษุพง่ึ ทำความศึกษาวา่ เราจกั ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ท่ีอยู่บนอาสนะ
โดยภกิ ษอุ ยู่บนแผน่ ดิน
13. พระภิกษุพง่ึ ทำความศกึ ษาว่าเราจัก ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่นั่งบนอาสนะ
สงู กว่าภกิ ษุ
14. พระภกิ ษุพง่ึ ทำความศึกษาวา่ เราจัก ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่นั่งอยู่ แต่ภิกษุ
ยืน
15. พระภิกษุพึ่งทำความศึกษาว่าเราจัก ภิกษเุ ดนิ ไปข้างหลงั ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็น
ไขท้ ี่เดินไปขา้ งหนา้
16. พระภกิ ษุพึง่ ทำความศกึ ษาว่าเราจัก ภิกษุเดินไปนอกทางไม่แสดงธรรมแก่คนไม่
เปน็ ไขท้ ่ีไปในทาง
หมวด “ปกิณกะ” มี 3 สิกขาบท : ว่าด้วยกิรยิ ามารยาท ในการถา่ ยอจุ จาระ ปัสสาวะ
1. พระภิกษพุ ึ่งทำความศกึ ษาวา่ เราจัก ภิกษุไมเ่ ป็นไข้ไมย่ ืนถ่ายอุจจาระ ปสั สาวะ
2. พระภกิ ษุพึ่งทำความศึกษาวา่ เราจกั ภิกษุไม่เป็นไข้ไม่ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ หรือ
บ้วนนำ้ ลายลงในของเขยี ว
3. พระภิกษพุ ึ่งทำความศึกษาวา่ เราจัก ภิกษุไม่เป็นไข้ไม่ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ หรือ
บ้วนนำ้ ลายลงในนำ้