โรงเรียนป่าเด็งิ ทยา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบุรี ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทริงศึกษาธ การ เอกสารประกอบการคัดเลือก - ด้านบร หารจัดการสถานศึกษา - นางสาวเรณ ู ส ี ลิ้ นจ ่ ี ต าแหน่ง รองผู้อ านิยการโรงเรียนป่าเด็งิ ทยา นวัตกรรมที่มีผลการปฏิบัตเิป็ นเลิศ (Best Practice)
ก ค ำน ำ ส ำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำรจึงได้จัดท ำโครงกำร IFTE (Innovation For Thai Education) ขึ้น ซึ่งเป็นโครงกำรต่อเนื่องโดยกำรน ำผลกำรวิเครำะห์และกำรวิจัยกำรพัฒนำรูปแบบ และแนวทำงในกำร จัดกำรเรียนกำรสอนเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนและผลกำรวิเครำะห์และ กำรวิจัยแนวทำง กำรนิเทศ ติดตำมและประเมินผลกำรบริหำรกำรจัดกำรศึกษำจำกโครงกำร TFE (Teams For Education) และ โครงกำรCoaching Teams เพื่อยกระดับคุณภำพกำรศึกษำ จำกปีงบประมำณ พ.ศ. 2562 - 2563 มำสรุป หลอมรวมและใช้ในกำรวำงแผนในกำรพัฒนำกำร ศึกษำและหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ เพื่อสร้ำงและพัฒนำ เครือข่ำยควำมร่วมมือของบุคลำกร ในทุกภำคส่วนมำร่วมกันสร้ำงนวัตกรรมกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำทั้งใน ด้ำนกระบวนกำรบริหำร จัดกำรศึกษำ กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอน และกระบวนกำรนิเทศกำรศึกษำ เพื่อยกระดับ คุณภำพของผู้เรียนในด้ำนทักษะกำรเรียนรู้ทักษะอำชีพ และทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 จำกควำมส ำคัญดังกล่ำวข้ำงต้น ส ำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดเพชรบุรีจึงได้ขยำยผลถ่ำยทอดองค์ ควำมรู้สู่สถำนศึกษำโดยจัดท ำโครงกำร Innovation For Thai Education (IFTE) นวัตกรรมกำรศึกษำเพื่อ พัฒนำกำรศึกษำไทย จังหวัดเพชรบุรี ประจ ำปีงบประมำณ พ.ศ. 2566 ขึ้น โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำได้รับเกียรติเข้ำร่วมโครงกำรดังกล่ำว ตระหนักถึงควำมส ำคัญ พร้อมน ำควำมรู้ที่ ได้รับมำวิเครำะห์ตนเองเพื่อสร้ำงนวัตกรรมตำมบริบทของโรงเรียน อีกทั้งเป็นกำรส่งเสริม สนับสนุน กำร พัฒนำนวัตกรรมกำรบริหำรจัดกำร ส่งผลต่อกำรพัฒนำกำรเรียนรู้ของผู้เรียนและผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดกำร เรียนรู้มีทักษะจ ำเป็นในกำรด ำรงชีวิตในสังคม คุณภำพยุคศตวรรษที่ 21 ต่อไป นำงสำวเรณู สีลิ้นจี่ รองผู้อ ำนวยกำรโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ ส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำมัธยมศึกษำเพชรบุรี
ข สำรบัญ เรื่อง หน้ำ บทคัดย่อ ค บทที่ 1 บทน ำ 1 ควำมเป็นมำและควำมส ำคัญ 1 วัตถุประสงค์ 2 กรอบแนวคิด 3 ขอบเขตกำรพัฒนำนวัตกรรม 4 ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ 7 ค ำนิยำมศัพท์ 8 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี ที่เกี่ยวข้อง 10 บทที่ 3 วิธีด ำเนินกำร 16 3.1 ขอบเขตประชำกรหรือกลุ่มเป้ำหมำย 16 3.2 ขั้นตอนกำรสร้ำง / พัฒนำนวัตกรรม 16 3.3 กำรรวบรวมข้อมูล 21 3.4 เครื่องมือที่ใช้ในกำรพัฒนำ 22 3.5 กำรสร้ำงเครื่องมือในกำรพัฒนำ 23 บทที่ 4 ผลกำรด ำเนินกำร 24 4.1 ผลกำรสร้ำงและผลกำรหำประสิทธิภำพ 24 4.2 ผลกำรใช้นวัตกรรม 27 4.3 ผลกำรประเมินควำมพึงพอใจที่มีต่อนวัตกรรม 34 บทที่ 5 สรุปและอภิปรำยผล 35 5.1 สรุปผลและอภิปรำยผล 35 5.2 ข้อเสนอแนะ 36 ภำคผนวก 37
ค ชื่อเรื่อง กำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL ผู้รำยงำน นำงสำวเรณู สีลิ้นจี่ รองผู้อ ำนวยกำรโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ ส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำมัธยมศึกษำเพชรบุรี ปีกำรศึกษำ 2566 ********************************************************************************** บทคัดย่อ รำยงำนกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอ แก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิต เคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี(2) เพื่อกำรบริหำรจัดกำรเรียนรู้ให้ ครูมีควำมสำมำรถในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนอย่ำงมีประสิทธิภำพ และเน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญเพื่อให้เกิดกำร เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3) เพื่อศึกษำควำมพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนที่มีผลต่อกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีใช้กลุ่มตัวอย่ำงเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1 ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 ปีกำรศึกษำ 2565 จ ำนวน 220 คน ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำโรงเรียนป่ำเด็ง วิทยำ จ ำนวน 11 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย (1) แบบประเมินควำมคิดเห็นในกำรบริหำรจัดกำรกำรน ำ รูปแบบ PD – CARE MODEL มำใช้พัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรมของโรงเรียนป่ำเด็ง วิทยำ (2) แบบนิเทศกำรจัดกำรเรียนกำรสอน โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี (3) แบบประเมินควำมพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ คณะกรรมกำร สถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนมีต่อกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL สถิติที่ใช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่ำเฉลี่ย ( ) และ ร้อยละ หรือ เปอร์เซ็นต์ (Percentage ; %) ผลกำรใช้นวัตกรรม พบว่ำ 1. โรงเรียนสำมำรถน ำรูปแบบ PD – CARE MODEL มำใช้ในกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริม ทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีผ่ำนกิจกรรมพัฒนำ ผู้เรียนได้เป็นอย่ำงดีในภำพรวมอยู่ในระดับมำก ( ) 2. ด้ำนผู้บริหำร มีควำมตระหนัก และเห็นคุณค่ำกำรยกระดับคุณภำพผู้เรียน โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL มำบริหำรจัดกำรศึกษำตำมหลักกำรที่สอดคล้องกับแนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพของ สถำนศึกษำตำมกฎกระทรวงกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ พ.ศ. 2561 โดยยกระดับคุณภำพกำรศึกษำพัฒนำ
ง ทักษะชีวิตพื้นฐำนที่จ ำเป็นส ำหรับผู้เรียน และ คุณภำพผู้เรียน ดีเก่งและมีควำมสุข มุ่งสู่คุณภำพผู้เรียนที่ ยั่งยืนในศตวรรษที่ 21 ในภำพรวมอยู่ในระดับมำก ( ) 3. ครูและบุคลำกำรทำงกำรศึกษำสำมำรถบริหำรจัดกำรเรียนรู้ให้ครูมีควำมสำมำรถในกำรจัด กำรเรียนกำรสอนอย่ำงมีประสิทธิภำพ และเน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญเพื่อให้เกิดกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในภำพรวมอยู่ในระดับมำก ( ) 4. ระดับกำรนิเทศกำรจัดกำรเรียนกำรสอนครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL พบว่ำ ทุกกลุ่มประเมินมีควำมพึงพอใจ อยู่ในระดับมำกที่สุด ( ) 5. ระดับควำมพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ คณะกรรมกำร สถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนที่มีผลต่อกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็ง วิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีจ ำแนกตำมผู้ประเมินในภำพรวม พบว่ำ ทุกกลุ่มประเมินมีควำมพึง พอใจ อยู่ในระดับมำก ( )
1 บทที่ 1 บทน ำ ควำมเป็นมำและควำมส ำคัญ รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ. 2560 มำตรำ 54 ได้บัญญัติไว้ว่ำรัฐต้องด ำเนินกำร ให้เด็กทุก คนได้รับกำรศึกษำเป็นเวลำสิบสองปีตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบกำรศึกษำภำคบังคับอย่ำงมีคุณภำพโดยไม่เก็บ ค่ำใช้จ่ำย ต้องด ำเนินกำรให้เด็กเล็กได้รับกำรดูแลและพัฒนำก่อนเข้ำรับกำรศึกษำเพื่อพัฒนำร่ำงกำยจิตใจ วินัยอำรมณ์สังคม และสติปัญญำให้สมกับวัยโดยส่งเสริมและ สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ภำคเอกชนเข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรด ำเนินกำร ด้วยต้องด ำเนินกำรให้ประชำชนได้รับกำรศึกษำตำมควำม ต้องกำรในระบบต่ำง ๆ รวมทั้งส่งเสริม ให้มีกำรเรียนรู้ตลอดชีวิตและจัดให้มีกำรร่วมมือกันระหว่ำงรัฐองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น และ ภำคเอกชน ในกำรจัดกำรศึกษำทุกระดับ (รำชกิจจำนุเบกษำ , 2560 : 14) กระทรวงศึกษำธิกำรโดยส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำกำรศึกษำจึงได้จัดท ำแผนกำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2560 – 2579 เพื่อวำงกรอบเป้ำหมำยและทิศทำงกำรจัดกำรศึกษำแผนกำรศึกษำแห่งชำติโดยมุ่งเพิ่ม โอกำสและควำมเสมอภำคในกำรเข้ำถึงบริกำรกำรศึกษำที่มีคุณภำพ และ มำตรฐำนของประชำชนทุกช่วงวัย ทุกกลุ่มเป้ำหมำย เพิ่มประสิทธิภำพของกำรบริหำรจัดกำรศึกษำทุกระดับ (ส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำ กำรศึกษำ , 2560 : 141) กำรจัดกำรศึกษำในปัจจุบัน เน้นกำรกระจำยอ ำนำจซึ่งต้องอำศัยควำมสำมำรถจำก ผู้ร่วมงำน ได้แก่ ครูและบุคลำกรในสถำนศึกษำ จึงจ ำเป็นอย่ำงยิ่งในกำรให้ครูมีส่วนร่วมในกำรบริหำรจัดกำร งำนในสถำนศึกษำ แผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำเป็นกำรจัดกำรศึกษำที่เน้นในด้ำนคุณภำพ ประสิทธิผล และ ควำมเสมอภำคอย่ำงทั่วถึง ท ำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงกำรปรับปรุงกำรปฏิรูปกระบวนกำรเรียนรู้และกำร เตรียมควำมพร้อมในกำรพัฒนำระบบกำรบริหำรงำนจัดกำร มีกำรพัฒนำหลักสูตร สถำนศึกษำและพัฒนำ วิชำชีพครูเพื่อให้กำรบริหำรงำนของสถำนศึกษำมีประสิทธิผลโดยผู้บริหำร สถำนศึกษำ คือ บุคคลส ำคัญที่ต้อง ใช้กระบวนกำรบริหำรและวำงแผนเพื่อส่งเสริมจัดกำรเรียนกำรสอนในสถำนศึกษำของตนเอง โดยน ำปัจจัย กำรบริหำรด้ำนต่ำง ๆ มำสนับสนุนให้ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำสำมำรถจัดกำรเรียนกำรสอนให้เป็นไปได้ อย่ำงมีประสิทธิภำพและประสิทธิผลส่งผลต่อคุณภำพผู้เรียนตำมควำมต้องกำรของหลักสูตรต่อไป พระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ได้กล่ำวถึงแนว กำรจัดกำรศึกษำในมำตรำ 26 ให้สถำนศึกษำจัดกำรประเมินผู้เรียนโดยพิจำรณำจำกพัฒนำกำรของผู้เรียน ควำมประพฤติ กำรสังเกตพฤติกรรมกำรเรียน กำรร่วมกิจกรรมและกำรทดสอบควบคู่ไปในกระบวนกำรเรียน กำรสอนตำมควำมเหมำะสมของแต่ละระดับและรูปแบบกำรศึกษำ ให้สถำนศึกษำใช้วิธีกำรที่หลำกหลำยใน กำรจัดสรรโอกำสกำรเข้ำศึกษำต่อและให้น ำผลกำรประเมินผู้เรียนมำใช้ประกอบกำรพิจำรณำด้วย (ส ำนักงำน เลขำธิกำรสภำกำรศึกษำ , 2557, หน้ำ 8 - 10)
2 คุณภำพกำรศึกษำเป็นประเด็นที่ประเทศต่ำง ๆ ทั่วโลกให้ควำมสนใจกันอย่ำงกว้ำงขวำง เพรำะถือว่ำ เป็นตัวชี้วัดที่ส ำคัญด้ำนสถำนภำพทำงเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ แต่มุมมองในกำรพัฒนำคุณภำพ กำรศึกษำเพื่อสำมำรถตอบสนองผู้มีส่วนได้ส่วนเสียซึ่งมีทั้งผู้รับบริกำรกำรศึกษำ ได้แก่ นักเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชนนั้นอำจแตกต่ำงกันไปตำมบริบท ควำมเชื่อ หรือกระบวนทัศน์ในกำรพัฒนำในแต่ละยุค สมัยกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำเป็นกระบวนกำรเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำ เพื่อให้ ได้ผลลัพธ์ตำมมำตรฐำนที่ก ำหนดไว้และจะต้องสร้ำงควำมพึงพอใจของผู้ปกครองชุมชน และสังคมโดยทั่วไป ทั้งนี้กำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำเพื่อพัฒนำกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ต้องอำศัยควำมรับผิดชอบทั้งใน ระดับประเทศ และระดับสถำนศึกษำ โดยค ำนึงถึงองค์ประกอบส ำคัญ 5 ประกำร ได้แก่ หลักสูตร สื่อกำรสอน และเทคโนโลยีกำรประเมินผลผู้เรียน กำรพัฒนำครูกำรประเมินคุณภำพสถำนศึกษำ และกำรสนับสนุน ทรัพยำกรทำงกำรศึกษำที่เชื่อมโยงกับทักษะ 3 ทักษะ ส ำหรับศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้ต้องอำศัย แนวคิดและ ทฤษฎีทำงกำรบริหำรกำรศึกษำ กำรเรียนรู้และกำรสอนเป็นฐำนในกำร พัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ (รัตนำ ดวง แก้ว, 2554) ดังนั้น เพื่อให้นักเรียนมีคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำจึงได้ด ำเนินงำน กำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL มำใช้ใน กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับนักเรียน ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ และ โรงเรียนต่อไป วัตถุประสงค์ 1. เพื่อน ำรูปแบบ PD – CARE MODEL มำใช้ในกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่ คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี 2. เพื่อกำรบริหำรจัดกำรเรียนรู้ให้ครูมีควำมสำมำรถในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนอย่ำงมีประสิทธิภำพ และเน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญเพื่อให้เกิดกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 3. เพื่อศึกษำควำมพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ คณะกรรมกำร สถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนที่มีผลต่อกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรมโรงเรียนป่ำเด็ง วิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี
3 กรอบแนวคิด 2. คุณธรรม (คุณธรรมอัตลักษณ์) มีวินัย ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ กตัญญู จิตอำสำ พอเพียง 1. ทักษะชีวิต 1. ทักษะกำรตัดสินใจ (Decision making) 2. ทักษะกำรแก้ปัญหำ (Problem solving) 3. ทักษะกำรคิดสร้ำงสรรค์ (Creative thinking) 4. ทักษะกำรคิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ (Critical thinking) 5. ทักษะกำรสื่อสำรอย่ำงมีประสิทธิภำพ (Effective communication) 6. ทักษะกำรสร้ำงสัมพันธภำพระหว่ำงบุคคล (Interpersonal relationship) 7. ทักษะกำรตระหนักรู้ในตน (Self-awareness) 8. ทักษะกำรเข้ำใจผู้อื่น (Empathy) 9. ทักษะกำรจัดกำรกับอำรมณ์ (Coping with emotion) 10. ทักษะกำรจัดกำรกับควำมเครียด (Coping with stress) P – Plan (กำรวำงแผน) D – Do (กำรด ำเนินกำร) C – Care (กำรดูแล ส่งเสริม ให้ผู้เรียนคุณธรรมน ำควำมรู้) A – Act (กำรท ำกิจกรรม) R – Recommend (กำรรับฟังข้อเสนอ) E – Evaluation (กำรประเมินผลและสรุปผล) ปัจจัยน ำเข้ำ ขั้นตอนกำรด ำเนินงำน ผลลัพธ์/ผลผลิต • มำตรฐำนกำรศึกษำ ระดับกำรศึกษำขั้น พื้นฐำน • ม ำ ต ร ฐ ำ น ที่ 1 : คุณภำพของผู้เรียน • ม ำ ต ร ฐ ำ น ที่ 2 : กระบวนกำรบริหำร และกำรจัดกำร • ม ำ ต ร ฐ ำ น ที่ 3 : กระบวนกำรจัดกำร เรียน กำรสอนที่เน้น ผู้เรียนเป็นส ำคัญ • นั ก เ รี ย น ชั้ น มัธยมศึกษำปีที่ 1 ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษำ ปีที่ 6 ของโรงเรียน ป่ำเด็งวิทยำ จ ำนวน 869 คน ได้ รับ ก ำ ร ส่งเสริมทักษะชีวิต1 เคียงคู่คุณธรรม2 • ก ำ รบ ริห ำรงำนใน สถำนศึกษำมีคุณภำพ
4 ขอบเขตกำรพัฒนำนวัตกรรม กำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL มีขอบเขต ดังนี้ กำรออกแบบนวัตกรรมทำงด้ำนกำรบริหำร PD – CARE MODEL มีหลักกำรและแนวคิดมำจำกกำรมี ส่วนร่วมทุกภำคส่วนซึ่งเป็นกำรบริหำรโดยใช้โรงเรียนเป็นฐำน (School – Based Management) ซึ่งได้น ำ ทฤษฎีกำรบริหำรมำเป็นฐำนควำมคิด ได้แก่ กำรวิเครำะห์ตนเอง SWOT Analysis หลังจำกนั้นน ำจุดแข็งและ โอกำสมำสร้ำงแรงบันดำลใจในกำรสร้ำงนวัตกรรม โดยใช้หลัก SOAR Analysis มีกำรด ำเนินงำนตำมขั้นตอน ของ ADDIE Model พร้อมทั้งขับเคลื่อนตำมหลักกำรของวงจรคุณภำพ PDCA วิเครำะห์ SWOT Analysis กำรวิเครำะห์สภำพแวดล้อมภำยนอก (External Environment) โอกำส (Opportunity) อุปสรรค (Threats) 1. มีวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ที่เป็น เอกลักษณ์ประจ ำถิ่น (S) 1. วัฒ นธรรมตะวันตกเข้ ำม ำจึงท ำให้ค่ ำนิยม เปลี่ยนไป (S) 2. เทคโนโลยี สำมำรถท ำให้กำรปฏิบัติงำนของครู และกำรเรียนรู้ของนักเรียนมีประสิทธิภำพมำกขึ้น (T) 2. กำรสื่อสำรและกำรเข้ำถึงอินเตอร์เน็ตยังไม่ ครอบคลุมทุกพื้นที่ (T) 3. โรงเรียนได้รับกำรสนับสนุนจำกรัฐบำลตำม นโยบำยเรียนฟรี 15 ปีอย่ำงมีคุณภำพ (E) 3.ผู้ปกครองมีรำยได้น้อย ส่วนใหญ่ประกอบอำชีพ เกษตรกรรม และรับจ้ำง (E) 4. ผู้เรียนมีโอกำสท ำงกำรศึกษ ำม ำกขึ้นจำก นโยบำยเรียนฟรี 15 ปีอย่ำงมีคุณภำพ (P) 4. กำรประเมินต่ำง ๆ เน้นหลักฐำนเอกสำร ท ำให้ เป็นภำระแก่โรงเรียน (P) กำรวิเครำะห์สภำพแวดล้อมภำยใน (Internal Environment) จุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) 1. โรงเรียนมีกำรก ำหนดวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ พันธกิจ และเป้ำหมำยที่ชัดเจน สอดคล้องกับนโยบำยของ ต้นสังกัด (S1) 1. นโยบำยที่มำจำกส่วนกลำง ต้นสังกัด ยังไม่เป็น ตำมสภำพปัญหำและควำมต้องกำรของโรงเรียน (S1) 2. โรงเรียนมีโครงสร้ำงกำรบริหำรงำนที่ชัดเจน (S1) 2. ภำระงำนมีหลำยหน้ำที่ท ำให้ขำดควำมชัดเจนใน กำรปฏิบัติงำน (S1) 3. โรงเรียนจัดท ำหลักสูตรสถำนศึกษำที่สอดคล้อง กับควำมต้องกำรของผู้เรียน (S2) 3. ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนของนักเรียนต่ ำกว่ำ มำตรฐำน (S2)
5 จุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) 4. โรงเรียนน ำระบบ ICT มำใช้ในกำรปฏิบัติงำนและ กำรจัดกำรเรียนกำรสอน (S2) 4. กำรใช้ระบบ ICT ยังไม่เป็นไปอย่ำงเต็มศักยภำพ (S2) 5. ครูมีควำมรู้ ควำมสำมำรถ ในกำรจัดกำรเรียน กำรสอน และ จัดกำรเรียนกำรสอนตรงตำมสำขำ (M1) 5.ครูมีภำระงำนอื่นนอกจำกกำรจัดกำรเรียนกำร สอน (M1) 6. ได้รับกำรสนับสนุนบริจำคจำกชุมชน (M2) 6. งบประมำณไม่เพียงพอต่อกำรบริหำรจัดกำร (M2) 7. โรงเรียนมีอิสระในกำรจัดหำวัสดุอุปกรณ์ได้ตำม ควำมต้องกำร (M3) 7. โรงเรียนมีสื่อ อุปกรณ์ ที่ไม่เพียงพอ และมี ห้องเรียนไม่เพียงพอต่อจ ำนวนนักเรียน (M3) 8. โรงเรียนมีกำรบริหำรหลักสูตรและด ำเนินกำร อย่ำงเป็นระบบ (M4) 8. น ำนโยบำยสู่กำรปฏิบัติยังไม่ครอบคลุม (M4) วิเครำะห์ SOAR Analysis เป็นกำรวิเครำะห์ปัจจัยเชิงบวกทั้งหมด (Positive Factors) นั่นคือกำรน ำจุดแข็งและโอกำสมำสร้ำง แรงบันดำลใจสู่ควำมส ำเร็จด้วยกำรผลักดันและสนับสนุนเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น ำมำพัฒนำนวัตกรรมของ โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ ที่มำ : https://www.makewebeasy.com/th/blog/soar-vs-swot
6 จุดแข็ง (Strengths) แรงบันดำลใจ (Aspiration) ครูมีควำมรู้ ควำมสำมำรถ ในกำรจัดกำรเรียน กำรสอน และ จัดกำรเรียนกำรสอนตรงตำม สำขำ กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนแบบ Active Learning โดยเน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ โอกำส (Opportunity) ผลลัพธ์(Result) มีวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ที่เป็น เอกลักษณ์ประจ ำถิ่น ส่งเสริมทักษะทำงด้ำนอำชีพเคียงคู่คุณธรรม เพื่อต่อยอดสู่พลเมืองโลก เทคโนโลยี สำมำรถท ำให้กำรปฏิบัติงำนของครู และกำรเรียนรู้ของนักเรียนมีประสิทธิภำพ มำกขึ้น ขั้นตอน ADDIE Model เป็นหลักกำรออกแบบกระบวนกำรเรียนรู้และพัฒนำอย่ำงเป็นระบบที่ได้รับกำรยอมรับทั่วโลก ด้วย กำรวิเครำะห์ที่สำเหตุของปัญหำ คิดค้นขึ้นโดย Florida State University’s Center for Educational Technology ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ที่มำ : https://www.peoplevalue.co.th/content/9119/addie-model ขั้นตอน กำรด ำเนินงำน A : Analysis Phase (ขั้นกำรวิเครำะห์) เป็นกำรศึกษำสภำพปัญหำ และควำมต้องกำรใน กำรสร้ำงและพัฒนำนวัตกรรม D : Design Phase (ขั้นกำรออกแบบ) เป็นกำรก ำหนดจุดประสงค์เครื่องมือ กรอบแนวคิด และขั้นตอนกำรด ำเนินกำร D : Development Phase (ขั้นกำรพัฒนำ) เป็นกำรน ำสิ่งที่ได้ออกแบบมำพัฒนำด้ำนเนื้อหำ และเอกสำรต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
7 ขั้นตอน กำรด ำเนินงำน I : Implement Phase (ขั้นกำรด ำเนินกำร หรือ กำรทดลองใช้) เป็นกำรน ำนวัตกรรมมำใช้กับกลุ่มตัวอย่ำง เพื่อหำ ประสิทธิภำพ E : Evaluation Phase (กำรประเมินผล) เป็นกำรประเมินผลของนวัตกรรมจำกผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบ ปรับปรุงและพัฒนำให้เกิดควำม ต่อเนื่อง วงจรคุณภำพ PDCA กำรใช้หลักกำร PDCA หรือ แนวทำงวงจรเดมมิ่ง (Deming Circle) คือ วงจรกำรควบคุมคุณภำพ ประกอบด้วย ที่มำ : https://www.pangpond.com/pdca P : Plan คือ กำรวำงแผนงำนจำกวัตถุประสงค์และเป้ำหมำยที่ได้ก ำหนดไว้ D : Do คือ กำรปฏิบัติตำมขั้นตอนในแผนงำนที่ได้เขียนไว้อย่ำงเป็นระบบและมีควำมต่อเนื่อง C : Check คือกำรตรวจสอบผลกำรด ำเนินงำนในแต่ละขั้นตอนของแผนงำนว่ำมีปัญหำอะไรเกิดขึ้น จ ำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขแผนงำนในขั้นตอนใด A : Act คือกำรปรับปรุงแก้ไขส่วนที่มีปัญหำหรือถ้ำไม่มีปัญหำใด ๆ ก็ยอมรับแนวทำงกำรปฏิบัติตำม แผนงำนที่ได้ผลส ำเร็จเพื่อน ำไปใช้ในกำรท ำงำนครั้งต่อไป ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ ผลที่เกิดกับผู้บริหำร 1. ผู้บริหำรสถำนศึกษำได้รับกำรยอมรับจำกคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำน ผู้ปกครอง นักเรียน ชุมชน ในด้ำนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนอย่ำงมีประสิทธิภำพ และเน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญเพื่อให้เกิด กำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
8 2. ได้รับควำมร่วมมือระหว่ำงครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ นักเรียน ผู้ปกครอง และคณะกรรมกำร สถำนศึกษำในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน 3. ได้มีกำรน ำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ มำใช้พัฒนำกำร กำรจัดกำรเรียนกำรสอนได้อย่ำงเหมำะสม 4. โรงเรียนมีกำรบริหำรจัดกำรที่ดีในรูปคณะกรรมกำร ที่มีควำมเข้มแข็ง พร้อมให้กำรสนับสนุน พัฒนำโรงเรียนทุก ๆ ด้ำน 5. ผู้บริหำรเป็นผู้น ำด้ำนวิชำกำรและเป็นผู้น ำกำรเปลี่ยนแปลง เป็นที่ยอมรับจำกควำมส ำเร็จของ กำรด ำเนินงำนกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอ แก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี ผลที่เกิดกับครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ 1. ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ และมีส่วนร่วมในกำรด ำเนินงำนกำรพัฒนำ นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม 2. ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำมีกำรพัฒนำตนเองอยู่เสมอเพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภำพกำรจัดกิจกรรม กำรเรียนรู้ด้วยวิธีกำรที่หลำกหลำย โดยเน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญเพื่อให้เกิดกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และมี กำรสอดแทรกคุณธรรมในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน 3. มีกำรนิเทศภำยในสถำนศึกษำอย่ำงเป็นระบบ โดยใช้วิธีกำรนิเทศที่หลำกหลำย และน ำผล กำรนิเทศไปใช้ในกำรปรับปรุงและพัฒนำกำรเรียนกำรสอน 4. ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำสำมำรถพัฒนำหลักสูตรออกแบบกำรเรียนรู้จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญเพื่อให้เกิดกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 5. ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำมีควำมพึงพอใจต่อกำรด ำเนินงำนกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริม ทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม ผลที่เกิดกับผู้เรียน 1. ผู้เรียนมีทักษะชีวิต มีคุณธรรมในกำรด ำเนินชีวิต และเกิดกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 2. ผู้เรียนมีควำมพึงพอใจต่อกำรด ำเนินงำนกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม ค ำนิยำมศัพท์ 1. ทักษะชีวิต คือ ทักษะชีวิตเป็นทักษะหนึ่งที่มีควำมจ ำเป็นส ำหรับกำรด ำรงชีวิตในสังคมที่ซับซ้อนใน ปัจจุบัน และเป็นทักษะที่จะชวยสนับสนุนและลดประเด็นปัญหำที่เขำมำมำคุกคำมชีวิตของแต่ละบุคคล อีกทั้ง ยังเป็นทักษะที่ช่วยให้บุคคลสำมำรถปรับตนเองให้เข้ำกับกับสิ่งแวดล้อมไดอย่ำงมีประสิทธิผล ตลอดจนช่วย เสริมสร้ำงกำรด ำเนินชีวิตในด้ำนต่ำง ๆ ไมว่ำจะเป็นด้ำนส่วนตัว ด้ำนครอบครัว ด้ำนสังคม กลุ่มเพื่อนให้มี ควำมสมบูรณมำกยิ่งขึ้น
9 2. ทักษะชีวิตที่จ ำเป็นของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 คือ ทักษะชีวิตที่จ ำเป็นของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ที่จ ำเป็นในกำรด ำรงชีวิต ประกอบด้วย 10 องค์ประกอบ ดังนี้ ทักษะกำรคิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ (Critical thinking skills) ทักษะกำรคิดสร้ำงสรรค์ (Creative thinking skills) ทักษะกำรตระหนักรู้ในตน (Selfawareness building skills) ทักษะกำรเข้ำใจผู้อื่น (Empathy skills) ทักษะกำรตัดสินใจ (Decision making skills) ทักษะกำรแก้ปัญหำ (Problem solving skills) ทักษะกำรสื่อสำรอย่ำงมีประสิทธิภำพ (Effective communication skills) ทั กษ ะก ำ รส ร้ ำงสั มพั น ธภ ำพ ร ะห ว่ ำงบุ ค ค ล (Interpersonal Relationship skills) ทักษะกำรจัดกำรกับอำรมณ์ (Coping with emotion skill) และ ทักษะกำรจัดกำรกับ ควำมเครียด (Coping with stress skills) 3. คุณธรรม คือ ควำมดีควำมงำม ควำมถูกต้อง ในกำรแสดงออกทั้งกำย วำจำใจ ของแต่ละบุคคล ซึ่ง ยึดมั่นไว้เป็นหลักประจ ำใจในกำรประพฤติปฏิบัติจนเกิดเป็นนิสัย ซึ่งอำจส่งผลให้อยู่รวมกันในสังคมอย่ำงมี ควำมสุข จะท ำให้เกิดประโยชน์ตนเองและสังคม 4. คุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน คือ คุณธรรมที่โรงเรียน “โครงกำรกองทุนกำรศึกษำ” ตำม พระรำชปณิธำนของในหลวงรัชกำลที่ 9 ก ำหนดไว้ โดยโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำก ำหนดคุณธรรมอัตลักษณ์ของ โรงเรียน ดังนี้ มีวินัย ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ กตัญญู จิตอำสำ พอเพียง 5. รูปแบบ PD – CARE MODEL คือ รูปแบบกำรพัฒนำของ PD - CARE MODEL นั้น ได้พัฒนำ รูปแบบมำจำกหลักกำรและแนวคิดมำจำกกำรมีส่วนร่วมทุกภำคส่วนซึ่งเป็นกำรบริหำรโดยใช้โรงเรียนเป็นฐำน (School – Based Management) ซึ่งได้น ำทฤษฎีกำรบริหำรมำเป็นฐำนควำมคิด ได้แก่ กำรวิเครำะห์ตนเอง SWOT Analysis หลังจำกนั้นน ำจุดแข็งและโอกำสมำสร้ำงแรงบันดำลใจในกำรสร้ำงนวัตกรรม โดยใช้หลัก SOAR Analysis มีกำรด ำเนินงำนตำมขั้นตอนของ ADDIE Model พร้อมทั้งขับเคลื่อนตำมหลักกำรของวงจร คุณภำพ PDCA โดยรูปแบบของ PD – CARE MODEL ดังนี้ P – Plan (กำรวำงแผน) คือ วำงแผนระบบบริหำรจัดกำร D – Do (กำรด ำเนินกำร) คือ ด ำเนินงำนตำมระบบขั้นตอน C – Care (กำรดูแล ส่งเสริมให้ผู้เรียนคุณธรรมน ำควำมรู้) คือ ศึกษำ รวบรวม สังเครำะห์ข้อมูล A – Act (กำรท ำกิจกรรม) คือ กำรลงมือปฏิบัติ และด ำเนินกำรในกิจกรรมต่ำง ๆ R – Recommend (กำรรับฟังข้อเสนอ) คือ กำรรับฟังควำมคิดเห็นสะท้อนข้อมูลในทุก ๆ ด้ำน E – Evaluation (กำรประเมินผลและสรุปผล) คือ รับฟังควำมคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และสรุปผล น ำไปปรับใช้ในกำรพัฒนำ
10 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี ที่เกี่ยวข้อง จำกกำรศึกษำงำนวิจัยเรื่องกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรมของนักเรียน โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL โดยมีแนวคิด ทฤษฏีที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. ควำมหมำยของทักษะชีวิต 2. ทักษะชีวิตที่จ ำเป็นของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 3. ควำมหมำยของคุณธรรม 4. คุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน 5. รูปแบบ PD – CARE MODEL 6. งำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง 1. ควำมหมำยของทักษะชีวิต ทักษะชีวิต (Life Skills) เป็นทักษะภำยในที่จะช่วยให้วัยรุ่นสำมำรถเผชิญสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ที่เกิดขึ้น ในชีวิตประจ ำวันได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ และเตรียมพร้อมส ำหรับกำรปรับตัวในอนำคต ไม่ว่ำจะเป็นเรื่องกำร ดูแลสุขภำพ ควำมปลอดภัย สิ่งแวดล้อม คุณธรรมจริยธรรม ฯลฯ เพื่อให้สำมำรถมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่ำงมี ควำมสุข หรืออำจกล่ำวได้ว่ำทักษะชีวิต คือ ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำที่ต้องเผชิญในชีวิตประจ ำวัน เพื่อให้ สำมำรถดูแลตนเองได้อย่ำงปลอดภัย องค์กำรอนำมัยโลก (WHO) จึงให้ควำมหมำยทักษะชีวิตเป็น ควำมสำมำรถอันประกอบด้วย ควำมรู้ เจตคติ (ทัศนคติ) และทักษะซึ่งสำมำรถจัดกำรกับปัญหำรอบๆ ตัวให้ บุคคลอยู่รอดในสภำพสังคมและวัฒนธรรมยุคปัจจุบันได้อย่ำงมีควำมสุข และเตรียมพร้อมส ำหรับกำรปรับตัว ในอนำคต (https://www.yuvabadhanafoundation.org) ทักษะชีวิต เป็นควำมสำมำรถของบุคคลที่จะคิด ตัดสินใจ แก้ปัญหำ และปรับตัวให้มีพฤติกรรมที่ ถูกต้อง สำมำรถจัดกำรกับควำมต้องกำร ปัญหำ และสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ เพื่อให้สำมำรถ ด ำเนินชีวิตอย่ำง เหมำะสมกับสังคมที่มีสุขภำพดี (กรมวิชำกำร , 2543) ทักษะชีวิตเป็นคุณลักษณะที่ส ำคัญที่ควรต้องเกิดขึ้นกับเด็กและเยำวชนไทยในสังคม ปัจจุบัน เพรำะ ทักษะชีวิตเป็นผลกำรเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยกำรพัฒนำไปตำมกำรเปลี่ยนแปลงของสังคมและวัฒนธรรม โดย ปัจจุบันสภำพสังคมมีกำรเปลี่ยนแปลง ท ำให้เยำวชนได้รับกำรฝึกทักษะชีวิต จำกบ้ำน โรงเรียน และชุมชน น้อยลงกว่ำเดิม เห็นได้จำกปัญหำที่เยำวชนไทยเผชิญอยู่ เช่น ปัญหำ ยำเสพติด ปัญหำเรื่องเพศสัมพันธ์ไม่ เหมำะสม ปัญหำกำรทะเลำะวิวำท ปัญหำจำกกำรฆ่ำตัวตำยจำกควำมเครียด ซึ่งปัญหำดังกล่ำวนี้ได้ทวีควำม
11 รุนแรง จึงมีควำมจ ำเป็นอย่ำงยิ่งที่เยำวชนไทยต้องได้รับ กำรพัฒนำทักษะชีวิต เพื่อให้สำมำรถด ำรงอยู่ในสังคม ปัจจุบันได้อย่ำงมีควำมสุข (ธนพัชร แก้วปฏิมำ , 2547) แม็คเวล (Maxwell. 1981 : 8) ไดให้ควำมหมำยของค ำว่ำทักษะชีวิต วำหมำยถึงควำมสำมำรถในกำร จัดกำรหรือแกปัญหำต่ำง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต องค์กำรอนำมัยโลก (World Health Organization. 1993 : Online) ไดให้ควำมหมำยของทักษะ ชีวิตไววำ ทักษะชีวิต หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรปรับเปลี่ยนและให้มีพฤติกรรม ในทำงที่เหมำะสมที่จะ สำมำรถให้บุคคลจัดกำรกับควำมต้องกำรและสิ่งต่ำง ๆ ที่มำกระตุ้นในชีวิตประจ ำวันไดอย่ำงมีประสิทธิผล ชนัดดำ เทียนฤกษ์ (2557 , น.5) ทักษะชีวิตและทักษะอำชีพ หมำยถึง ควำมสำมำรถที่บุคคลใช้ ควำมรู้ควำมคิดเพื่อแก้ปัญหำ สำมำรถอยู่ร่วมในวังคมที่มีควำมหลำกหลำยด้ำนวัฒนธรรมที่แตกต่ำงเพื่อ ด ำรงชีวิตและเตรียมวำงแผนเพื่อกำรประกอบอำชีพในอนำคต ส ำหรับยุคที่มีกำรแข่งขันด้ำนข้อมูลข่ำวสำร และเทคโนโลยี IM2 (2017) ทักษะชีวิต คือ ควำมสำมำรถขั้นพื้นฐำนของบุคคลในกำรปรับตัว สำมำรถเลือกทำงเดิน ชีวิตที่เหมำะสม กล้ำเผชิญกับปัญหำรอบตัว มีกำรเตรียมควำมพร้อมส ำหรับอนำคตอย่ำงมีประสิทธิภำพ และ มีกำรถ่ำยทอดประสบกำรณ์โดยกำรฝึกฝน กล่ำวโดยสรุป ทักษะชีวิตเป็นทักษะหนึ่งที่มีควำมจ ำเป็นส ำหรับกำรด ำรงชีวิตในสังคมที่ซับซ้อนใน ปัจจุบัน เป็นทักษะที่จะช่วยสนับสนุนและลดประเด็นปัญหำที่เข้ำมำคุกคำมชีวิตของแต่ละบุคคล อีกทั้งยังเป็น ทักษะที่ช่วยให้บุคคลสำมำรถปรับตนเองให้เข้ำกับสิ่งแวดล้อมไดอย่ำงมีประสิทธิผล สำมำรถวำงแผนหรือ เตรียมควำมพร้อมส ำหรับอนำคตในด้ำนต่ำง ๆ ไมว่ำจะเป็นด้ำนส่วนตัว ด้ำนครอบครัว ด้ำนสังคม กลุ่มเพื่อน ให้มีควำมสมบูรณและมีประสิทธิภำพ 2. ทักษะชีวิตที่จ ำเป็นของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ช่วยเตรียมควำมพร้อมให้นักเรียนรู้จักคิด เรียนรู้ทั้งกำรท ำงำน แก้ปัญหำ สื่อสำร และร่วมมือท ำงำนได้อย่ำงมีประสิทธิผลไปตลอดชีวิต กรอบควำมคิดเพื่อกำรเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 อธิบำยทักษะ ได้แก่ ควำมคิดสร้ำงสรรค์และนวัตกรรมส ำหรับนักเรียนทักษะเหล่ำนี้ท ำให้โดดเด่นกว่ำคนอื่น กำรปรับควำมคิดเพียงเล็กน้อยอำจน ำควำมก้ำวหน้ำครั้งใหญ่มำสู่ชีวิตและองค์กร กำรเต็มใจรับควำม เปลี่ยนแปลงในเชิงบวกท ำให้เรำพร้อมที่จะเปิดรับควำมเป็นไปได้ใหม่ ๆ และรับมือกับกำรเปลี่ยนแปลงที่ไม่ คำดฝันและไม่อำจหลีกเลี่ยงในชีวิต ทักษะแบบใหม่ยังเป็นสิ่งที่แยกองค์กรหรือชำติที่ก้ำวหน้ำออกจำกกลุ่มที่ล้ำ หลัง และยังช่วยเสริมศักยภำพแข่งขันในทุก ๆ ด้ำน อำทิ ควำมแปลกใหม่ ควำมคล่องตัว และกำรปรับปรุง อย่ำงต่อเนื่องควำมสำมำรถที่จะเปลี่ยนควำมคิดที่แตกต่ำงให้กลำยเป็นวัฒนธรรมของสินค้ำ บริกำรทำง แก้ปัญหำ ควำมสำมำรถที่จะบรรลุควำมพยำยำมที่คุ้มค่ำเอำชนะอุปสรรค และควำมเชื่อที่แตกต่ำงทำง วัฒนธรรม (Kay , 2010) (อ้ำงถึงใน น้ ำทิพย์ องอำจวำณิชย์, 2556)
12 รำชบัณฑิตยสถำน (2557) ได้อธิบ ำยไว้ว่ำ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 (21st century skills; transversal skills) หมำยถึง กลุ่มควำมรู้ ทักษะ และนิสัยกำรท ำงำน ที่เชื่อว่ำมีควำมส ำคัญยิ่งต่อควำมส ำเร็จ ในกำรเรียนรู้ตลอดชีวิต น้ ำทิพย์ องอำจวำณิช (2559) กล่ำวว่ำ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 คือ คุณลักษณะและควำมสำมำรถ ของบุคคลที่นอกเหนือจำกควำมรู้ในวิชำเรียน ที่จะท ำให้นักเรียนประสบควำมส ำเร็จใน กำรท ำงำนและกำร ด ำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 สุวิธิดำ จรุงเกียรติกุล (2561) กล่ำวว่ำ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 หมำยถึง กลุ่มควำมรู้ ทักษะ และ นิสัยกำรท ำงำน ที่เชื่อว่ำมีควำมส ำคัญ ยิ่งต่อควำมส ำเร็จในกำรเรียนรู้ตลอดชีวิต องค์กำรอนำมัยโลก (WHO : 1997) เป็นผู้บัญญัติค ำว่ำ “ทักษะชีวิต” ขึ้นมำ และได้ก ำหนด องค์ประกอบของทักษะชีวิตไว้ 10 องค์ประกอบ ได้แก่ ทักษะกำรคิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ (Critical thinking skills) ทักษะกำรคิดสร้ำงสรรค์ (Creative thinking skills) ทักษะกำรตระหนักรู้ในตน (Self-awareness building skills) ทักษะกำรเข้ำใจผู้อื่น (Empathy skills) ทักษะกำรตัดสินใจ (Decision making skills) ทักษะกำรแก้ปัญหำ (Problem solving skills) ทักษะกำรสื่อสำรอย่ำงมีประสิทธิภำพ (Effective communication skills) ทักษะกำรสร้ำงสัมพันธภำพระหว่ำงบุคคล (Interpersonal Relationship skills) ทักษะกำรจัดกำรกับอำรมณ์ (Coping with emotion skill) ทักษะกำรจัดกำรกับควำมเครียด (Coping with stress skills) กล่ำวโดยสรุป ทักษะชีวิตที่จ ำเป็นของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ที่จ ำเป็นในกำรด ำรงชีวิต คือ ควำมรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่มีควำมจ ำเป็นต้อง ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รับกำรพัฒนำ เพื่อใช้ในกำรด ำรงชีวิตใน ปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคของกำรเปลี่ยนแปลง ทำงเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี 3. ควำมหมำยของคุณธรรม สุภัททำ ปิณฑะแพทย์ (2557 : ออนไลน์) กล่ำวว่ำ ค ำว่ำ “คุณธรรม” ประกอบด้วยค ำสองค ำ คือ ค ำ ว่ำ “คุณ” แปลว่ำ ประโยชน์และค ำว่ำ “ธรรม” โดยทั้งคุณธรรมและจริยธรรมจะมีค ำว่ำ “ธรรม” ซึ่งเป็นค ำ ร่วม ค ำว่ำ “ธรรม” พระเทวินทร์ เทวินโท (2544) อธิบำยควำมหมำยไว้ว่ำ หมำยถึง ควำมจริง ควำมประพฤติ ดี ควำมถูกต้อง คุณควำมดี ควำมชอบ ค ำสั่งสอน พจนำนุกรมไทยฉบับรำชบัณฑิตสถำน พ.ศ. 2554 (2556:263) ได้ให้ควำมหมำยของคุณธรรมว่ำ คุณธรรม คือ สภำพคุณงำมควำมดี ค ำว่ำ คุณธรรม มีผู้รู้ได้ให้ควำมหมำยพอสรุปได้ดังต่อไปนี้
13 นภำพร ณ เชียงใหม่และคณะ (2547 : 5) ให้ควำมหมำย คุณธรรม จริยธรรม (Ethics) ว่ำเป็นคุณ ควำมดีงำม สภำพที่เกื้อกูลกำรประพฤติธรรมและวิชำที่เกี่ยวกับกำรประพฤติธรรมจะต้อง ประพฤติอยู่ใจกุศล ธรรมเท่ำนั้น ส่วนที่เป็นอกุศลไม่เรียกว่ำเป็นกำรประพฤติที่ถูกต้อง อันได้แก่ ศีลธรรม กฎเกณฑ์ควำมถูกต้อง หรือ หลักธรรมค ำสั่งสอนในศำสนำต่ำง ๆ สิ่งที่เป็นจริยธรรม จริยศำสตร์ได้ที่ส ำคัญที่สุด คือ ค ำสอนของ ศำสนำ เพรำะผู้ที่นับถือศำสนำ ย่อมถือว่ำ เป็นคนดีของสังคมเพรำะศีลธรรมของศำสนำต่ำงๆ มีมำตรกำรของ ควำมประพฤติดีเป็นสำกลแม้ว่ำบำง ศำสนำจะสอนไม่เหมือนกัน แต่จุดมุ่งหมำยหรือวัตถุประสงค์ย่อม เหมือนกัน คือ ไม่ขัดกับมำตรกำร 21 ของควำมประพฤติที่ดีเป็นสำกล ควำมประพฤติตำมควำมเชื่อทำง ศำสนำของผู้ที่ปฏิบัติย่อมได้รับ กำรยอมรับให้กำรปฏิบัติตำมมำตรฐำนสำกลมีคุณค่ำสูงขึ้น ลักษณะของ คุณธรรม จริยธรรม ลักษณะที่สมบูรณ์แบบสำมำรถตัดสินควำมดีควำมชั่วได้อย่ำงมีเหตุผล ไชยพร เรืองแหล้ (2556) ไดสรุปควำมหมำยของค ำว่ำคุณธรรม หมำยถึง หลักของควำมดีงำมแหง กำรประพฤติตน และลักษณะอุปนิสัยอันดีงำมที่สั่งสมอยูในจิตใจของบุคคลมำเป็นเวลำนำน มีคุณค่ำก่อให้เกิด ประโยชนแกผู้ยึดถือและปฏิบัติตำม อันน ำมำซึ่งควำมเจริญของ ตนเองและสังคม ซึ่งคุณธรรมที่เกิดขึ้นในจิตใจ นั้นเกิดจำกกำรอบรมและปลูกฝัง ดรุณี โอวจริยำพิทักษ และคณะ (2557) สรุปว่ำ คุณธรรม หมำยถึง คุณงำมควำมดีที่บริสุทธิ์ในกำรคิด ในกำรกำระท ำที่เป็นหลักพื้นฐำนประจ ำใจในกำรประพฤติปฏิบัติเพื่อควำมสุข ทั้งของ ตนเองและสังคม กล่ำวโดยสรุปได้ว่ำ คุณธรรม หมำยถึง ควำมดีควำมงำม ควำมถูกต้อง ในกำรแสดงออกทั้งกำย วำจำ ใจ ของแต่ละบุคคล ซึ่งยึดมั่นไว้เป็นหลักประจ ำใจในกำรประพฤติปฏิบัติจนเกิดเป็นนิสัย ซึ่งอำจส่งผลให้อยู่ รวมกันในสังคมอย่ำงมีควำมสุข จะท ำให้เกิดประโยชน์ตนเองและสังคม 4. คุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน รำชบัณฑิตยสถำน (2557) กล่ำวว่ำ อัตลักษณ์หำกแปลตรงตัวจะมำจำก อัต+ลักษณ์ หมำยถึง ลักษณะเฉพำะ ค ำว่ำ อัตลักษณ์ (อ่ำนว่ำ อัด-ตะ-ลัก) ประกอบด้วยค ำว่ำ อัต (อัด-ตะ) ซึ่งหมำยถึง ตน หรือ ตัวเอง กับ ลักษณ์ซึ่งหมำยถึง สมบัติเฉพำะตัว ค ำว่ำ อัตลักษณ์ตรงกับค ำภำษำอังกฤษ ว่ำ identity (อ่ำนว่ำ ไอ-เด็น-ติ-ตี้) หมำยถึง ผลรวมของลักษณะเฉพำะของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งท ำให้สิ่งนั้นเป็นที่รู้จักหรือจ ำได้ ส ำนักงำนรับรองมำตรฐำนและประเมินคุณภำพกำรศึกษำ (2562) กล่ำวว่ำ อัตลักษณ์สถำนศึกษำ หมำยถึง ผลผลิตของบัณฑิตหรือลักษณะที่ออกมำจำกตัวบัณฑิต ตำมปรัชญำ ปณิธำน พันธกิจ และ วัตถุประสงค์ของกำรจัดตั้งสถำนศึกษำที่ได้รับควำมเห็นชอบ จำกคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ และหน่วยงำน ต้นสังกัด หำกกล่ำวถึงอัตลักษณ์สถำนศึกษำแล้ว ค ำว่ำ อัตลักษณ์ หมำยถึง ลักษณะเฉพำะของสถำนศึกษำที่มี ควำมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของสถำนศึกษำ
14 คุณธรรมอัตลักษณ์จะใช้เป็นเครื่องมือในกำรประเมินผลกำรเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของกลุ่ม เป้ำหมำยแต่ละกลุ่ม พฤติกรรมบ่งชี้แต่ละข้อ จะใช้เป็นตัวชี้วัดที่แสดงควำมส ำเร็จของกำรเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมในโรงเรียน หรือ พฤติกรรมที่พึงประสงค์ที่โรงเรียนต้องกำรให้เกิดขึ้น (www.yuvabadhanafoundation.org) กล่ำวโดยสรุปได้ว่ำ คุณธรรมอัตลักษณ์ คือ ลักษณะเฉพำะของสถำนศึกษำที่เป็นตัวก ำหนดพฤติกรรม ของนักเรียน ซึ่งโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำได้ก ำหนดไว้ ดังนี้ ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ กตัญญู จิตอำสำ พอเพียง 5. รูปแบบ PD – CARE MODEL รูปแบบกำรพัฒนำของ PD - CARE MODEL นั้นได้มีกำรพัฒนำรูปแบบมำจำกหลักกำรและแนวคิดมำ จำกกำรมีส่วนร่วมทุกภำคส่วนซึ่งเป็นกำรบริหำรโดยใช้โรงเรียนเป็นฐำน (School – Based Management) ซึ่งได้น ำทฤษฎีกำรบริหำรมำเป็นฐำนควำมคิด ได้แก่ กำรวิเครำะห์ตนเอง SWOT Analysis หลังจำกนั้นน ำจุด แข็งและโอกำสมำสร้ำงแรงบันดำลใจในกำรสร้ำงนวัตกรรม โดยใช้หลัก SOAR Analysis มีกำรด ำเนินงำนตำม ขั้นตอนของ ADDIE Model พร้อมทั้งขับเคลื่อนตำมหลักกำรของวงจรคุณภำพ PDCA โดยรูปแบบของ PD – CARE MODEL ดังนี้ P – Plan (กำรวำงแผน) คือ วำงแผนระบบบริหำรจัดกำร D – Do (กำรด ำเนินกำร) คือ ด ำเนินงำนตำมระบบขั้นตอน C – Care (กำรดูแล ส่งเสริมให้ผู้เรียนคุณธรรมน ำควำมรู้) คือ ศึกษำ รวบรวม สังเครำะห์ ข้อมูล A – Act (กำรท ำกิจกรรม) คือ กำรลงมือปฏิบัติ และด ำเนินกำรในกิจกรรมต่ำง ๆ R – Recommend (กำรรับฟังข้อเสนอ) คือ กำรรับฟังควำมคิดเห็นสะท้อนข้อมูล ในทุก ๆ ด้ำน E – Evaluation (กำรประเมินผลและสรุปผล) คือ รับฟังควำมคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และสรุปผล น ำไปปรับใช้ในกำรพัฒนำ 6. งำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง ปำนทอง อังคณิตย์ (2558 , น. 148-149) ได้ท ำกำรวิจัยเรื่อง กำรเสริมสร้ำงทักษะชีวิตผู้เรียน ระดับ กำรศึกษำขั้นพื้นฐำน โดยใช้กำรวิจัยเชิงปฏิบัติกำรแบบมีส่วนร่วม ผลกำรวิจัยพบว่ำ ผลกำรใช้กิจกรรมนักเรียน ในกำรเสริมสร้ำงทักษะชีวิตเพิ่มสูงขึ้น ดังต่อไปนี้ 1) ระดับมำกที่สุด ได้แก่ ด้ำนยุติข้อขัดแย้งในกลุ่ม ด้วยสันติ วิธี และด้ำนควำมภำคภูมิใจในตนเองและผู้อื่น มีค่ำเฉลี่ย 4.70 และ 4.60 2) ระดับมำก ได้แก่ ด้ำน ค้นพบ จุดเด่น จุดด้อยของตนเอง และด้ำนค้นพบควำมชอบควำมถนัดและควำมสำมรถของตนเอง มีค่ำเฉลี่ย 4.25 และ 4.15 3) ระดับปำนกลำง ได้แก่ รู้จักวิพำกษ์วิจำรณ์บนพื้นฐำนของข้อมูลสำรสนเทศที่ถูกต้อง และด้ำนให้ ควำม ร่วมมือและด ำเนินงำนร่วมกับผู้อื่นได้อย่ำงสร้ำงสรรค์ มีค่ำเฉลี่ย 3.50 และ 3.25
15 องอำจ เทียมกลำง (2559 , น. 180) ได้ท ำกำรวิจัยเรื่องกำรพัฒนำทักษะชีวิต เพื่อแก้ไขพฤติกรรม นักเรียน ส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำมหำสำรคำม เขต 3 ผลกำรวิจัยพบว่ำ กำรพัฒนำทักษะชีวิตของนักเรียน โดยภำพรวมและรำยด้ำน มีกำรปฏิบัติอยู่ในระดับมำกทุกด้ำน ได้แก่ ด้ำนกำรตระหนักรู้และเห็นคุณค่ำใน ตนเองและผู้อื่น ด้ำนกำรคิดวิเครำะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหำอย่ำงสร้ำงสรรค์ ด้ำนกำรสร้ำงสัมพันธภำพที่ดี กับผู้อื่น และด้ำนกำรจัดกำรกับอำรมณ์และควำมเครียด โดยใช้ชุดกิจกรรมทักษะชีวิต พบว่ำ ชุดกิจกรรม กำรพัฒนำทักษะชีวิตเพื่อแก้ไขพฤติกรรมนักเรียน โดยรวมมีระดับเหมำะสมอยู่ในระดับมำกที่สุด เมื่อฝึกด้วย ชุดกิจกรรมนักเรียนมีทักษะชีวิตที่สูงขึ้น และนักเรียนมีพฤติกรรมกำรปฏิบัติอยู่ในระดับมำกทุกด้ำน คมลิขิต นำมไว และคณะ (2563) ได้ท ำกำรศึกษำเรื่อง กำรพัฒนำพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของ นักเรียนตำมคุณธรรมอัตลักษณ์โรงเรียนคุณธรรม ผลกำรศึกษำพบว่ำ คุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน คุณธรรมประกอบด้วย 1) คุณธรรมอัตลักษณ์ที่ผ่ำนกิจกรรมย่อยต่ำง ๆ ได้แก่ (1.1) กิจกรรมที่มุ่งสร้ำงกำรมี ส่วนร่วม (1.2) กิจกรรมที่มุ่งเพิ่มพูนทักษะกำรคิดวิเครำะห์เชิงเหตุผล (1.3) กิจกรรมที่มุ่งเพิ่มพูนทักษะชีวิต (1.4) กิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ (1.5) กิจกรรมที่สนองตอบควำมสนใจ ควำมถนัดและควำมต้องกำรของ นักเรียน (1.6) กิจกรรมที่สะท้อนบริบทจริงของโรงเรียน (1.7) กำรประเมินผลกำรเรียนรู้จำกสภำพจริง (1.8) กิจกรรมที่จัดขึ้นสำมำรถน ำไปประยุกต์ในชั้นเรียน 2) ควำมซื่อสัตย์ 3) ขยัน 4) รับผิดชอบ 5) มีระเบียบ วินัย 6) มีควำมอุตสำหะ 7) มีควำมมุ่งมั่น 8) ใฝ่พัฒนำกำรเรียนรู้ 9) อดทนอดกลั้น 10) สำมัคคี 11) มีน้ ำใจ 12) เมตตำกรุณำ 13) สุภำพ 14) มีสัมมำคำรวะ 15) กตัญญู 16) พอเพียง 17) ประหยัด 18) มีจิตสำธำรณะ ธีระ ขันบุตร (2562) ได้ท ำกำรศึกษำเรื่อง กลยุทธ์กำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนคุณธรรม ที่มีสัมฤทธิผล โรงเรียนบ้ำนปำกน้ ำ (เผดิมจีนนำวำสงเครำะห์) อ ำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ผลกำรศึกษำ พบว่ำ องค์ประกอบ ของกำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนคุณธรรมที่มีสัมฤทธิผล โรงเรียนบ้ำนปำกน้ ำ (เผดิมจีนนำวำสงเครำะห์) มี 5 องค์ประกอบหลัก คือ (1) กำรจัดสภำพแวดล้อมในโรงเรียน (2) กำรบริหำรจัดกำรของผู้บริหำรโรงเรียน (3) กำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครู (4) กำรเรียนรู้และคุณภำพ นักเรียน (5) กำรมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง นักเรียน ด้ำนผลกำรสร้ำงกลยุทธ์ พบว่ำ มี 5 องค์ประกอบหลัก คือ (1) กำรจัดสภำพแวดล้อมในโรงเรียน (2) กำรบริหำรจัดกำรของผู้บริหำรโรงเรียน (3) กำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครู (4) กำรเรียนรู้และคุณภำพ นักเรียน (5) กำรมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง นักเรียน ด้ำนผลกำรทดลองใช้กลยุทธ์กำรบริหำรจัดกำรโรงเรียน คุณธรรมที่มีสัมฤทธิผลโรงเรียนบ้ำนปำกน้ ำ (เผดิมจีนนำวำสงเครำะห์) (1) ผลกำรประเมินระดับกำรปฏิบัติใน ด้ำนกำรด ำเนินงำนตำมกลยุทธ์ในภำพรวม ครูผู้สอน มีควำมคิดเห็นว่ำ กำรด ำเนินงำนตำมกลยุทธ์ มี กำรปฏิบัติอยู่ในระดับมำกที่สุด (2) ผลกำรพัฒนำกลยุทธ์ พบว่ำ ผู้เชี่ยวชำญเห็นว่ำควรมีกำรพัฒนำ ใน กลยุทธ์หลักที่ 1 กำรจัดสภำพแวดล้อมในโรงเรียน กลยุทธ์หลักที่ 2 กำรบริหำรจัดกำรของผู้บริหำรโรงเรียน กลยุทธ์หลักที่ 3 กำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครู กลยุทธ์หลักที่ 4 กำรเรียนรู้และคุณภำพนักเรียน และ กลยุทธ์หลักที่ 5 กำรมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียน
16 บทที่ 3 วิธีด ำเนินกำร 3.1 ขอบเขตประชำกรหรือกลุ่มเป้ำหมำย 3.1.1 ขอบเขตด้ำนประชำกร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1 ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ ปีกำรศึกษำ 2565 จ ำนวน 869 คน ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ จ ำนวน 42 คน 3.1.2 ขอบเขตกลุ่มเป้ำหมำย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1 ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ ปีกำรศึกษำ 2565 จ ำนวน 220 คน ใช้วิธีกำรสุ่มตัวอย่ำงแบบแบ่งเป็นชั้นภูมิ(Stratified Sampling) โดยเลือกจำก นักเรียนที่เลือกกิจกรรมชุมนุมที่ส่งเสริมทักษะชีวิต ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ จ ำนวน 11 คน ใช้วิธีกำรสุ่มตัวอย่ำงแบบ แบ่งเป็นชั้นภูมิ(Stratified Sampling) โดยเลือกจำกครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำที่จัดกิจกรรมชุมนุมที่ ส่งเสริมทักษะชีวิต 3.1.3 ขอบเขตด้ำนเนื้อหำ รูปแบบ PD – CARE MODEL ในกำรบริหำรจัดกำรสถำนศึกษำ ผลกำรจัดกำรเรียนกำรสอนอย่ำงมีประสิทธิภำพ และเน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญเพื่อให้เกิดกำร เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ควำมพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ คณะกรรมกำร สถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนมีต่อกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม 3.2 ขั้นตอนกำรสร้ำง / พัฒนำนวัตกรรม กำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL เพื่อใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนอย่ำงมีประสิทธิภำพ และเน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญให้กับนักเรียน ด ำเนินกำรตำมกระบวนกำร ดังนี้
17 ภำพ แสดงกระบวนกำรผลิตนวัตกรรม P (Plan) กำรวำงแผน กล่ำวคือ โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำด ำเนินกำรประชุม วำงแผน แลกเปลี่ยน สร้ำง มุมมอง พร้อมเปิดโอกำสให้คณะครูคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ ร่วมพูดคุย เรื่อง กำรจัดกำรเรียนกำรสอน อย่ำงมีประสิทธิภำพ และเน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญให้กับนักเรียน และกำรขับเคลื่อนไปสู่เป้ำหมำยที่ก ำหนดไว้ D (DO) กำรด ำเนินงำนตำมแผนที่ก ำหนด กล่ำวคือ โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำก ำหนดช่วงเวลำให้ครูและ บุคลำกรทำงกำรศึกษำจัดกิจกรรมชุมนุมที่ส่งเสริมทักษะชีวิตตำมควำมรู้ ควำมสำมำรถ และควำมถนัด จำกนั้นให้นักเรียนเลือกเรียนกิจกรรมชุมนุมตำมควำมสนใจของนักเรียน C (Care) กำรดูแล ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณธรรมน ำควำมรู้กล่ำวคือ โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำเป็น โรงเรียน “โครงกำรกองทุนกำรศึกษำ” รุ่นที่ 1 ของจังหวัดเพชรบุรีเพื่อสืบสำนพระรำชปณิธำนของในหลวง รัชกำลที่ 9 โดยมีเป้ำหมำยส ำคัญของโครงกำร มิใช่เพียงแค่กำรผลิตผู้มีควำมรู้ควำมสำมำรถเท่ำนั้น แต่ต้อง ร ่วมกันสร้ำงเด็กและเยำวชนให้เป็นคนดี คนเก ่ง มีคุณธรรม รู้หน้ำที ่ รู้ศักยภำพของตนเอง มีน้ ำใจ ช่วยเหลือกัน ไม่ใช่แข่งกันเรียนอย่ำงเดียว แต่ต้องมีกิจกรรมที่ส่งเสริมควำมสำมัคคี และประพฤติตนอยู่ใน สังคมได้อย่ำงมีควำมสุข เคำรพและปฏิบัติตำมกฎหมำยของบ้ำนเมือง เคำรพในสิทธิผู้อื่น เพื่อเป็นก ำลัง ส ำคัญในกำรพัฒนำประเทศไทยให้เกิดควำมยั ่งยืนต ่อไป โรงเรียนจึงสอดแทรกคุณธรรมอัตลักษณ์ชอง โรงเรียน ได้แก่ มีวินัย ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ กตัญญู จิตอำสำ พอเพียง ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน ให้กับนักเรียน A (Act) กำรท ำกิจกรรมแบบ Active Learning โดยเน้นผู้เรียนมีควำมสุขในกำรเรียนรู้ กล่ำวคือ โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำก ำหนดให้นักเรียนเลือกเรียนกิจกรรมชุมนุมตำมควำมสนใจของนักเรียน ร่วมกันออกแบบ หรือก ำหนดกิจกรรมต่ำง ๆ ที่จะลงมือปฏิบัติตลอดภำคเรียน มุ่งเน้นให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองโดยมีครู เป็น Coaching
18 R (Recommend) กำรรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อน ำไปพัฒนำ/ปรับปรุง กล่ำวคือ กำรสะท้อน ควำมรู้สึกนึกคิด ส่งเสริมให้ครูจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนสะท้อนควำมรู้สึกของผู้เรียน โดยผ่ำนกำรจัดกิจกรรมชุมนุม สะท้อนควำมคิดหรือกำรพูดคุย น ำเสนอหน้ำชั้นเรียน และจัดให้มีกำรนิเทศ ติดตำม ตรวจสอบ ควำมก้ำวหน้ำ และผลกำรด ำเนินงำนของครูโดยกำรจัดท ำแบบประเมินต่ำง ๆ และสมุดกำรประเมินกิจกรรม E (Evaluation) กำรประเมินผลและสรุปผลเพื่อต่อยอดสู่กำรเปิดโลกทัศน์ในอนำคต กล่ำวคือ เป็นกำรร่วมกันติดตำมและประเมินผลกำรปฏิบัติงำน ร่วมชื่นชมผลกำรด ำเนินงำนกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อ ส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรมของนักเรียนควำมเป็นจริง ตลอดจนน ำข้อเสนอแนะต่ำง ๆ ที่เกิดขึ้นมำ สรุปผลเพื่อพัฒนำกำรด ำเนินงำนในภำคเรียนต่อไป โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำใช้กระบวนกำร PDCA ในกำรบริหำรจัดกำรนวัตกรรม PD – CARE MODEL กล่ำวคือ 1. กำรวำงแผน Plan P : Plan ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำร่วมกันวิเครำะห์ตัวเอง โดยใช้หลัก SWOT Analysis หลังจำกนั้นน ำจุดแข็งและโอกำสมำสร้ำงแรงบันดำลใจในกำรสร้ำงนวัตกรรม โดยใช้หลัก SOAR Analysis ภำพ แสดงกำรวิเครำะห์ SWOT Analysis
19 ล ภำพ แสดงกำรวิเครำะห์ SOAR Analysis 2. ปฏิบัติตำมแผน Do D : DO แต่งตั้งคณะกรรมกำรด ำเนินงำน พร้อมร่วมกันประชุม วำงแผนกำรจัดกิจกรรมชุมนุม โดย กำร ส่วนร่วมของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมตำมแผนที่ ก ำหนดไว้ C : Care กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนของโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ จะสอดแทรกเกี่ยวกับ คุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน ได้แก่ มีวินัย ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ กตัญญู จิตอำสำ พอเพียง เพื่อส่งเสริมให้ นักเรียน ดี เก่ง มีควำมสุข A : Act โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำเปิดโอกำสให้นักเรียนเลือกเรียนกิจกรรมชุมนุมตำมควำมสนใจของ นักเรียน ร่วมกันออกแบบ หรือก ำหนดกิจกรรมต่ำง ๆ แบบ Active Learning ตลอดภำคเรียน เพื่อมุ่งเน้นให้ นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองและมีควำมสุขในกำรเรียนรู้ โดยมีครูเป็น Coaching 3. ตรวจสอบ Check R : Recommend กำรน ำนวัตกรรมมำใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนครั้งนี้ โรงเรียนป่ำเด็ง วิทยำได้ท ำกำรนิเทศ ติดตำม ตรวจสอบ ควำมก้ำวหน้ำ และผลกำรด ำเนินงำนจำกนักเรียน ครู และบุคลำกร ทำงกำรศึกษำ รวมถึง ผู้ปกครอง เพื่อน ำมำสะท้อนผลกำรน ำนวัตกรรมมำใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำร สอนครั้งนี้
20 4. ปรับปรุงแก้ไข Act E : Evaluation เป็นกำรร่วมกันติดตำมและประเมินผลกำรปฏิบัติงำน ร่วมชื่นชมผลกำรด ำเนินงำน กำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรมของนักเรียนควำมเป็นจริง ตลอดจนน ำ ข้อเสนอแนะต่ำง ๆ ที่เกิดขึ้นมำสรุปผลเพื่อพัฒนำกำรด ำเนินงำนในภำคเรียนต่อไป ภำพ แสดงกระบวนกำร PDCA ในกำรบริหำรจัดกำรนวัตกรรม PD – CARE MODEL นอกจำกกำรน ำหลักกำรต่ำง ๆ ตำมที่กล่ำวมำข้ำงต้น มำใช้ในกระบวนกำรกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อ ส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL แล้วนั้น โรงเรียนยังด ำเนินงำนตำมขั้นตอนชอง ADDIE Model ภำยใต้กระบวนกำร PDCA อีกด้วย
21 ภำพ แสดงกำรด ำเนินงำนตำมขั้นตอน ADDIE Model ภำยใต้กระบวนกำร PDCA 3.3 กำรเก็บรวบรวมข้อมูล กำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL มีขั้นตอน ดังนี้ 1. ประชุมคณะครูเพื่อชี้แจงรำยละเอียดกำรด ำเนินกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่ คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL 2. แนะน ำกำรตอบแบบสอบถำมฉบับที่ 1 ซึ่งเป็นแบบประเมินควำมคิดเห็นในกำรบริหำรจัดกำรกำรน ำ รูปแบบ PD – CARE MODEL มำใช้พัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรมของโรงเรียนป่ำเด็ง วิทยำ 3. ประชุมคณะครูเพื่อชี้แจงรำยละเอียดกำรนิเทศกำรเรียนกำรสอน ปีกำรศึกษำ 2565 4. มอบหมำยให้ครูที่ปรึกษำนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 ด ำเนินกำรเก็บ รวบรวมข้อมูลจำกนักเรียน โดยใช้แบบประเมินควำมพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลำกรทำงกำร ศึกษำ คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนมีต่อกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL Check & Act Do Plan
22 5. จัดประชุมคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนของโรงเรียน และผู้ปกครองของนักเรียนเพื่อชี้แจง รำยละเอียดกำรด ำเนินกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL 6. แนะน ำกำรประเมินควำมพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนมีต่อกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียน ป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL 7. น ำข้อมูลที่ได้มำวิเครำะห์ผลต่อไป 3.4 เครื่องมือที่ใช้ในกำรพัฒนำ เครื่องมือที่ใช้ในกำรประเมินผลกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียน ป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL มีดังนี้ ฉบับที่ 1 แบบประเมินควำมคิดเห็นในกำรบริหำรจัดกำรกำรน ำรูปแบบ PD – CARE MODEL มำใช้ พัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรมของโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบตัวเลือกที่ก ำหนดค ำตอบไว้ให้ (Forced choice) แบบมำตรำส่วนประมำณค่ำ (Rating Scale) ประกอบด้วยวัตถุประสงค์ของโครงกำร และควำมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์กับแนวทำง กำรด ำเนินงำน จ ำนวน 10 ข้อ 5 ระดับ ตำมแบบของลิเคอร์ท (Likert Scale) (ไชยยศ เรืองสุวรรณ, 2553 : 138) มีควำมหมำย ดังนี้ 5 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับมำกที่สุด 4 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับมำก 3 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับปำนกลำง 2 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับน้อย 1 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับน้อยที่สุด ฉบับที่ 2 แบบนิเทศกำรจัดกำรเรียนกำรสอน โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบตัวเลือกที่ก ำหนดค ำตอบไว้ให้ (Forced choice) แบบมำตรำส่วนประมำณค่ำ (Rating Scale) ประกอบด้วยวัตถุประสงค์ของโครงกำร และควำมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์กับแนวทำง กำรด ำเนินงำน จ ำนวน 10 ข้อ 5 ระดับ ตำมแบบของลิเคอร์ท (Likert Scale) (ไชยยศ เรืองสุวรรณ, 2553 : 138) มีควำมหมำย ดังนี้ ระดับคุณภำพ 5 หมำยถึง สำมำรถปฏิบัติได้ดีเยี่ยมหรือมำกที่สุด ระดับคุณภำพ 4 หมำยถึง สำมำรถปฏิบัติได้ดีมำก ระดับคุณภำพ 3 หมำยถึง สำมำรถปฏิบัติได้ดี ระดับคุณภำพ 2 หมำยถึง มีกำรปฏิบัติดีเป็นที่ยอมรับได้ปำนกลำง ระดับคุณภำพ 1 หมำยถึง มีกำรปฏิบัติดีเป็นที่ยอมรับได้น้อย/ควรปรับปรุง
23 ฉบับที่ 3 แบบประเมินควำมพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนมีต่อกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียน ป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบตัวเลือกที่ก ำหนดค ำตอบไว้ให้ (Forced choice) แบบมำตรำส่วนประมำณค่ำ (Rating Scale) ประกอบด้วยวัตถุประสงค์ของโครงกำร และควำมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์กับแนวทำง กำรด ำเนินงำน จ ำนวน 10 ข้อ 5 ระดับ ตำมแบบของลิเคอร์ท (Likert Scale) (ไชยยศ เรืองสุวรรณ, 2553 : 138) มีควำมหมำย ดังนี้ 5 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับมำกที่สุด 4 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับมำก 3 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับปำนกลำง 2 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับน้อย 1 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับน้อยที่สุด 3.5 กำรสร้ำงเครื่องมือในกำรพัฒนำ กำรสร้ำงเครื่องมือที่ใช้ในกำรประเมินผลกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL ทั้ง 3 ฉบับ มี ขั้นตอนดังนี้ 1. ศึกษำเอกสำร แนวคิด ทฤษฎี และงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง แล้วน ำผลกำรศึกษำมำสร้ำงและปรับปรุง เครื่องมือ 2. ตรวจสอบควำมเที่ยวตรงของเนื้อหำ (content validity) ของแบบสอบถำม โดยผู้วิจัยน ำ แบบสอบถำมที่สร้ำงขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชำญตรวจสอบควำมถูกต้องตำมหลักกำร รูปแบบ วิธีกำร ควำมสอดคล้อง ของเนื้อหำ ควำมชัดเจนของภำษำ โดยวิธีกำรหำค่ำ IOC (Index of item – Objective Congruence) ซึ่ง เป็นวิธีกำรหำค่ำควำมสอดคล้องของข้อค ำถำมกับจุดประสงค์ หรือนิยำมตัวแปรที่ต้องกำรวัด โดยมีผู้เชี่ยวชำญ 3 ท่ำน ประกอบด้วย 2.1 นำงสำวศิริญำ เดชะค ำภู ผู้อ ำนวยกำรโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ 2.2 นำงอำรีลักษณ์ ปุ๊กน้อย ศึกษำนิเทศก์ช ำนำญกำรพิเศษ สพม. เพชรบุรี 2.3 สิบต ำรวจเอกโรมรักษ์ หริ่งระรี่ ศึกษำนิเทศก์ช ำนำญกำร สพม. เพชรบุรี ผลกำรประเมินค่ำ IOC ของแบบสอบถำมทุกชุดจำกผู้เชี่ยวชำญ อยู่ระหว่ำง 0.80 – 1.00 สำมำรถ น ำไปใช้ได้ 3. น ำเครื่องมือทั้ง 3 ฉบับ ไปใช้ตำมกลุ่มตัวอย่ำงที่ก ำหนดไว้
24 บทที่ 4 ผลกำรด ำเนินกำร 4.1 ผลกำรสร้ำงและผลกำรหำประสิทธิภำพ จำกกำรด ำเนินงำนของโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำในกำรสร้ำงนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่ คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL ผลกำรใช้นวัตกรรมที่เกิดขึ้นกับผู้ที่เกี่ยวข้องในด้ำนพฤติกรรม พัฒนำกำรหรือกำรเรียนรู้เพื่อพัฒนำ กระบวนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน และส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรมให้มีประสิทธิภำพ พบว่ำ ด้ำนผู้เรียน : ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้ที่มีประสิทธิภำพผ่ำนกระบวนกำรเรียนกำรสอนที่เน้น ผู้เรียนเป็นส ำคัญ พร้อมสอดแทรกคุณธรรม สร้ำงควำมสุขในกำรเรียนรู้แบบ Active Learning ภำพแสดง กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม
25 ด้ำนครู: ครูปรับเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนเนื่องจำกใช้กระบวนกำร มีส่วนร่วมกับนักเรียนในกำรวำงแผนหรือออกแบบกิจกรรมต่ำง ๆ ครูมีกำรพัฒนำตนเองจัดหำสื่อที่แปลกใหม่ หลำกหลำย ทันสมัย ดึงดูดควำมสนใจของนักเรียนเพื่อให้เกิดกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ตลอดจนมีกำรนิเทศ ก ำกับ ติดตำมจำกผู้บริหำร และคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนของโรงเรียนอย่ำงต่อเนื่อง ภำพแสดง ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม
26 ด้ำนผู้บริหำรสถำนศึกษำ : มีแนวคิดในกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ ซึ่งได้แนวทำงจำกกำรวิเครำะห์บริบทของโรงเรียน และผลจำก กำรด ำเนินงำนของโรงเรียนที่ผ่ำนมำในประเด็นของกำรพัฒนำคุณภำพผู้เรียนที่จะส่งผลต่อกำรเปลี่ยนแปลง ของสถำนศึกษำได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ ภำพแสดง กำรนิเทศ ก ำกับ ติดตำม จำกผู้บริหำร ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ แบบ Active Learning เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม ด้ำนชุมชน หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง : ชุมชนเข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรศึกษำอย่ำงเพิ่มขึ้น เข้ำใจ บทบำทของกำรพัฒนำคุณภำพผู้เรียนของสถำนศึกษำ กำรบริหำรจัดกำรของสถำนศึกษำ อย่ำงมีคุณภำพ ตลอดจนกำรมีส่วนร่วมในกำรวำงแผน ขับเคลื่อนคุณภำพของผู้เรียน คุณภำพของสถำนศึกษำ ภำพแสดง ชุมชน ผู้ปกครองเข้ำมำจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม
27 กำรหำประสิทธิภำพ สัญลักษณ์ที่ใช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล ในกำรวิเครำะห์ข้อมูลและแปลควำมหมำยของกำรวิเครำะห์ ข้อมูลเพื่อให้เกิดควำมเข้ำใจตรงกัน จึงได้ก ำหนดสัญลักษณ์ที่ใช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล ดังนี้ 1. กำรหำค่ำเฉลี่ย (Mean) ใช้สูตร ดังนี้ (บุญชม ศรีสะอำด , 2560 : 121) X = n x เมื่อ X แทน ค่ำเฉลี่ย n แทน จ ำนวนคนทั้งหมด x แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด 2. ร้อยละ หรือ เปอร์เซ็นต์ (Percentage ; %) แทน ค่ำที่แสดงกำรเปรียบเทียบต่อหนึ่งร้อยในกำร วิเครำะห์ข้อมูลระดับนำมบัญญัติ (Nominal Scales) ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงคุณภำพ คือข้อมูลที่ไม่สำมำรถวัด ออกมำเป็นค่ำของตัวเลขได้โดยตรง แต่จะเป็นข้อมูลที่บรรยำยคุณสมบัติหรือลักษณะของสิ่งที่ก ำลังสนใจ (ที่มำ : http://www.phichsinee.cmru.ac.th/consult/admin/blog/file/80214052739.pdf) 3. สถิติที่ใช้ในกำรวิเครำะห์คุณภำพเครื่องมือ กำรหำค่ำ IOC (Index of item – Objective Congruence) ใช้สูตร ดังนี้ (บุญชม ศรีสะอำด, 2553 : 112) = ควำมสอดคล้องระหว่ำงวัตถุประสงค์กับข้อค ำถำม = ผลคูณของคะแนนกับจ ำนวนผู้เชี่ยวชำญในแต่ละระดับควำมสอดคล้อง = จ ำนวนผู้เชี่ยวชำญทั้งหมด 4.2 ผลกำรใช้นวัตกรรม ผลกำรใช้นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL ปรำกฏผล ดังนี้ ในกลุ่มตัวอย่ำงนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1 ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 ปีกำรศึกษำ 2565 จ ำนวน 220 คน ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ จ ำนวน 11 คน ปรำกฏผล ดังนี้
28 ข้อมูลสภำพส่วนตัวของผู้ให้ข้อมูล 1. ผู้ให้ข้อมูลในกำรใช้นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอ แก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL ประกอบด้วย ครูและบุคลำกรทำงกำร ศึกษำโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ จ ำนวน 11 คน ดังตำรำง ตำรำง ข้อมูลสภำพส่วนตัวของผู้ให้ข้อมูลในกำรใช้นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL รำยกำร จ ำนวน ร้อยละ เพศ ชำย หญิง 4 7 36.36 63.64 รวม 11 100.00 จำกตำรำงผู้ให้ข้อมูลเป็นครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ จ ำนวน 11 คน มีข้อมูล สภำพส่วนตัว คือ เพศชำย 4 คน คิดเป็นร้อยละ 36.36 และ เพศหญิง 7 คน คิดเป็นร้อยละ 63.64 2. ผู้ให้ข้อมูลในกำรใช้นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอ แก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL ประกอบด้วย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1 ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 ปีกำรศึกษำ 2565 จ ำนวน 220 คน ดังตำรำง ตำรำง ข้อมูลสภำพส่วนตัวของผู้ให้ข้อมูลในกำรใช้นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL รำยกำร จ ำนวน ร้อยละ เพศ ชำย หญิง 72 148 32.73 67.27 รวม 220 100.00 ระดับชั้น มัธยมศึกษำปีที่ 1 มัธยมศึกษำปีที่ 2 มัธยมศึกษำปีที่ 3 มัธยมศึกษำปีที่ 4 มัธยมศึกษำปีที่ 5 มัธยมศึกษำปีที่ 6 38 36 36 38 36 36 17.28 16.36 16.36 17.28 16.36 16.36 รวม 220 100.00
29 จำกตำรำงผู้ให้ข้อมูลเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1 ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 โรงเรียนป่ำเด็ง วิทยำ ปีกำรศึกษำ 2565 จ ำนวน 220 คน มีข้อมูลสภำพส่วนตัว คือ เพศชำย 72 คน คิดเป็นร้อยละ 32.73 และ เพศหญิง 148 คน คิดเป็นร้อยละ 67.27 ระดับชั้นที่ก ำลังศึกษำ มัธยมศึกษำปีที่ 1 จ ำนวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 17.28 มัธยมศึกษำปีที่ 2 จ ำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 16.36 มัธยมศึกษำปีที่ 3 จ ำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 16.36 มัธยมศึกษำปีที่ 4 จ ำนวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 17.28 มัธยมศึกษำปีที่ 5 จ ำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 16.36 มัธยมศึกษำ ปีที่ จ ำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 16.36 3. ผู้ให้ข้อมูลในกำรใช้นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอ แก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุ รีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL ป ระกอบด้วย ผู้ปกครองและ คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำน จ ำนวน 20 คน ดังตำรำง ตำรำง ข้อมูลสภำพส่วนตัวของผู้ให้ข้อมูลในกำรใช้นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL รำยกำร จ ำนวน ร้อยละ เพศ ชำย หญิง 8 12 40.00 60.00 รวม 20 100.00 จำกตำรำงผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้ปกครองและคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำน จ ำนวน 20 คน มีข้อมูล สภำพส่วนตัว คือ เพศชำย 8 คน คิดเป็นร้อยละ 40.00 และ เพศหญิง 12 คน คิดเป็นร้อยละ 60.00 ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูล 1. ผลกำรประเมินควำมคิดเห็นในกำรบริหำรจัดกำร กำรน ำรูปแบบ PD – CARE MODEL มำใช้ พัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรมของโรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ ซึ่งใช้แบบประเมิน ควำมคิดเห็น ดังตำรำง ตำรำง ค่ำเฉลี่ย ( ) และระดับควำมคิดเห็นกำรประเมินควำมคิดเห็นในกำรบริหำรจัดกำร กำรน ำรูปแบบ PD – CARE MODEL มำใช้พัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรมของ โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ
30 รำยกำรประเมิน ระดับ ควำมพึงพอใจ ล ำดับที่ ปัจจัยน ำเข้ำ 1. ตรงตำมมำตรฐำนกำรศึกษำ ระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน มำตรฐำนที่ 1 : คุณภำพของผู้เรียน 4.97 มำก 3 มำตรฐำนที่ 2 : กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร 4.97 มำก 3 มำตรฐำนที่ 3 : กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่เน้น ผู้เรียนเป็นส ำคัญ 4.97 มำก 3 ขั้นตอนกำรด ำเนินงำน 1. P – Plan (กำรวำงแผน) 4.94 มำก 7 2. D – Do (กำรด ำเนินกำร) 4.94 มำก 7 3. C – Care (กำรดูแล ส่งเสริมให้ผู้เรียนคุณธรรมน ำควำมรู้) 4.94 มำก 7 4. A – Act (กำรท ำกิจกรรม) 5.00 มำกที่สุด 1 5. R – Recommend (กำรรับฟังข้อเสนอ) 5.00 มำกที่สุด 1 6. E – Evaluation (กำรประเมินผลและสรุปผล) 4.90 มำก 11 ผลลัพธ์/ผลผลิต 1. นักเรียนทุกระดับชั้นได้รับกำรส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่ คุณธรรม 4.97 มำก 3 2. กำรบริหำรงำนในสถำนศึกษำมีคุณภำพ 4.94 มำก 7 เฉลี่ยรวม 4.96 มำก จำกตำรำงผลกำรวิเครำะห์ควำมคิดเห็นของผู้ให้ข้อมูลประกอบด้วย ผู้ปกครอง ครูและบุคลำกร ทำงกำรศึกษำ คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำน จ ำนวน 31 คน โดยภำพรวมอยู่ระดับมำก ( ) ข้อที่มีค่ำเฉลี่ยสูงสุด มีด้วยกัน 2 ข้อ คือ ขั้นตอนกำรด ำเนินงำน ในส่วนของ A – Act (กำรท ำกิจกรรม) และ R – Recommend (กำรรับฟังข้อเสนอ) ( ) ข้อที่มีค่ำเฉลี่ยต่ ำที่สุด คือ ขั้นตอนกำรด ำเนินงำน ใน ส่วนของ E – Evaluation (กำรประเมินผลและสรุปผล) ( ) เมื่อพิจำรณำเป็นรำยข้อโดยเรียงล ำดับ จำกมำกไปหำน้อย พบว่ำ ปัจจัยน ำเข้ำ ได้แก่ มำตรฐำนที่ 1 : คุณภำพของผู้เรียน มำตรฐำนที่ 2 : กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร มำตรฐำนที่ 3 : กระบวนกำรจัดกำรเรียน กำรสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ ผลลัพธ์/ผลผลิต ได้แก่ นักเรียนทุกระดับชั้นได้รับกำรส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม ( ) ขั้นตอน กำรด ำเนินงำน ได้แก่ P – Plan (กำรวำงแผน) D – Do (กำรด ำเนินกำร) C – Care (กำรดูแล ส่งเสริมให้
31 ผู้เรียนคุณธรรมน ำควำมรู้) ผลลัพธ์/ผลผลิต ได้แก่ กำรบริหำรงำนในสถำนศึกษำมีคุณภำพ ( ) ตำมล ำดับ 2. ผลกำรนิเทศกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำที่มีต่อกำรพัฒนำนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี โดย ใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL โดยใช้แบบนิเทศกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ดังตำรำง ตำรำง ค่ำเฉลี่ย ( ) และระดับควำมคิดเห็นกำรนิเทศกำรจัดกำรเรียนกำรสอนโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL รำยกำรประเมิน ระดับ คุณภำพ ล ำดับที่ 1. กำรตรงต่อเวลำ 5.00 มำกที่สุด 1 2. กำรควบคุมควำมเป็นระเบียบในชั้นเรียน 5.00 มำกที่สุด 1 3. บรรยำกำศในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน 5.00 มำกที่สุด 1 4. กำรแต่งกำย สุภำพ เรียบร้อย 5.00 มำกที่สุด 1 5. กำรใช้น้ ำเสียงมีควำมชัดเจน 4.18 มำก 10 6. ควำมมั่นใจในตนเอง 4.18 มำก 10 7. กำรใช้ภำษำสื่อสำรและสร้ำงบรรยำกำศกำรเรียนรู้ 4.18 มำก 10 8. เนื้อหำสอดคล้องกับจุดประสงค์กำรเรียนรู้/ผลกำรเรียนรู้ที่ คำดหวัง 4.91 มำกที่สุด 8 9. กำรสอดแทรกควำมรู้ทั่วไปและคุณธรรม จริยธรรม และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตำมจุดเน้นของสถำนศึกษำ 5.00 มำกที่สุด 1 10. รูปแบบกำรสอนแบบ Active Learning 4.91 มำกที่สุด 8 11. กำรใช้โปรแกรม/แอพพลิเคชันที่ใช้ในกำรเรียนกำรสอน 4.09 มำก 13 12. กำรเปิดโอกำสให้ผู้เรียนซักถำมหรือแสดงควำมคิดเห็น หรือข้อสงสัยต่ำง ๆ 4.09 มำก 13 13. ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิด ได้ถำม ได้แก้ปัญหำและได้ท ำ กิจกรรมด้วยตนเอง 4.09 มำก 13 14. กำรสรุปเนื้อหำได้ตำมตรงจุดประสงค์/ผลกำรเรียนรู้ที่ คำดหวัง 5.00 มำกที่สุด 1 15. กำรชี้แนะกำรเรียนรู้/กำรศึกษำค้นคว้ำและแหล่งเรียนรู้ เพิ่มเติม 4.09 มำก 13 16. ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่ำงเป็นระบบ มีขั้นตอน 4.09 มำก 13 17. กำรประเมินผลตำมสภำพจริง 5.00 มำกที่สุด 1
32 รำยกำรประเมิน ระดับ คุณภำพ ล ำดับที่ 18. วิธีกำรวัดผล/เกณฑ์กำรวัด และเครื่องมือกำรประเมินผล ที่ชัดเจนครอบคลุมทั้ง 3 ด้ำน (K P A) 4.09 มำก 13 เฉลี่ยรวม 4.55 มำกที่สุด จำกตำรำงผลกำรวิเครำะห์กำรนิเทศกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครูปละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ จ ำนวน 11 คน โดยภำพรวมอยู่ระดับมำกที่สุด ( ) ข้อที่มีค่ำเฉลี่ยสูงสุด มีด้วยกัน 7 ข้อ คือ กำรตรง ต่อเวลำ กำรควบคุมควำมเป็นระเบียบในชั้นเรียน บรรยำกำศในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน กำรแต่งกำย สุภำพ เรียบร้อย กำรสอดแทรกควำมรู้ทั่วไปและคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตำมจุดเน้นของ สถำนศึกษำ กำรสรุปเนื้อหำได้ตำมตรงจุดประสงค์/ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง และ กำรประเมินผลตำมสภำพ จริง ( ) ข้อที่มีค่ำเฉลี่ยต่ ำที่สุด มีด้วยกัน 6 ข้อ คือ กำรใช้โปรแกรม/แอพพลิเคชันที่ใช้ในกำรเรียน กำรสอน กำรเปิดโอกำสให้ผู้เรียนซักถำมหรือแสดงควำมคิดเห็นหรือข้อสงสัยต่ำง ๆ ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิด ได้ ถำม ได้แก้ปัญหำและได้ท ำกิจกรรมด้วยตนเอง กำรชี้แนะกำรเรียนรู้/กำรศึกษำค้นคว้ำและแหล่งเรียนรู้ เพิ่มเติม ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่ำงเป็นระบบ มีขั้นตอน วิธีกำรวัดผล/เกณฑ์กำรวัด และเครื่องมือกำร ประเมินผลที่ชัดเจนครอบคลุมทั้ง 3 ด้ำน (K P A) ( ) เมื่อพิจำรณำเป็นรำยข้อโดยเรียงล ำดับจำก มำกไปหำน้อย พบว่ำ เนื้อหำสอดคล้องกับจุดประสงค์กำรเรียนรู้/ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง และ รูปแบบกำร สอนแบบ Active Learning ( ) กำรใช้น้ ำเสียงมีควำมชัดเจน ควำมมั่นใจในตนเอง และ กำรใช้ ภำษำสื่อสำรและสร้ำงบรรยำกำศกำรเรียนรู้( ) ตำมล ำดับ 3. ผลกำรประเมินควำมพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำคณะกรรมกำร สถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนมีต่อกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL ซึ่งใช้แบบประเมินควำมพึงพอใจ ดังตำรำง ตำรำง ค่ำเฉลี่ย ( ) และระดับควำมคิดเห็นกำรประเมินควำมพึงพอใจที่มีต่อกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อ ส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL รำยกำรประเมิน ระดับ ควำมพึงพอใจ ล ำดับที่ 1. นักเรียนได้เลือกกิจกรรมตำมควำมสนใจและควำมถนัด 4.71 มำกที่สุด 4 2. นักเรียนได้ฝึกกำรวำงแผนหรือก ำหนดขั้นตอนเพื่อ กำรปฏิบัติกิจกรรม 4.16 มำก 14
33 รำยกำรประเมิน ระดับ ควำมพึงพอใจ ล ำดับที่ 3. นักเรียนได้ปฏิบัติจริงตำมแผนที่ก ำหนดไว้ 4.29 มำก 7 4. นักเรียนได้ท ำกำรประเมินผลระหว่ำงกำรด ำเนินกิจกรรม 4.22 มำก 9 5. นักเรียนได้ท ำงำนตำมกระบวนกำรกลุ่ม 4.74 มำกที่สุด 1 6. นักเรียนได้ประชุม ปรึกษำหำรือ เพื่อแก้ปัญหำ/อุปสรรค หรือพัฒนำงำน 4.23 มำก 8 7. นักเรียนได้แสดงผลงำน หรือเผยแพร่ผลงำน 4.21 มำก 10 8. ระยะเวลำในกำรด ำเนินกิจกรรมมีควำมเหมำะสม 3.30 ปำนกลำง 15 9. ต้นทุนกำรผลิตต่ ำ คุ้มค่ำต่อกำรใช้งำน 4.31 มำก 6 10. ได้รับควำมรู้และประสบกำรณ์หลำกหลำยตำมควำม สนใจ 4.72 มำกที่สุด 3 11. สำมำรถน ำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ ำวันได้ 4.20 มำก 11 12. สำมำรถต่อยอดสู่อำชีพในอนำคต 4.20 มำก 11 13. ครูผู้สอนกิจกรรมได้ปลูกผังคุณธรรม จริยธรรม ค่ำนิยม อันพึงประสงค์ (คุณธรรมอัตลักษณ์) ให้แก่นักเรียน 4.69 มำกที่สุด 5 14. นักเรียนมีควำมพึงพอใจต่อกำรร่วมกิจกรรม 4.74 มำกที่สุด 1 15. กำรมีส่วนร่วมในทุกภำคส่วนที่เกี่ยวข้องต่อกำรจัด กิจกรรม 4.18 มำก 13 เฉลี่ยรวม 4.33 มำก จำกตำรำงผลกำรวิเครำะห์ควำมพึงพอใจของผู้ให้ข้อมูลประกอบด้วย นักเรียน ผู้ปกครอง ครูและ บุคลำกรทำงกำรศึกษำ คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำน จ ำนวน 251 คน โดยภำพรวมอยู่ระดับมำก ( ) ข้อที่มีค่ำเฉลี่ยสูงสุด มีด้วยกัน 2 ข้อ คือ นักเรียนได้ท ำงำนตำมกระบวนกำรกลุ่ม และ นักเรียน มีควำมพึงพอใจต่อกำรร่วมกิจกรรม ( ) ข้อที่มีค่ำเฉลี่ยต่ ำที่สุด คือ ระยะเวลำในกำรด ำเนินกิจกรรม มีควำมเหมำะสม ( ) เมื่อพิจำรณำเป็นรำยข้อโดยเรียงล ำดับจำกมำกไปหำน้อย พบว่ำ ได้รับควำมรู้ และประสบกำรณ์หลำกหลำยตำมควำมสนใจ ( ) นักเรียนได้เลือกกิจกรรมตำมควำมสนใจและ ควำมถนัด( ) ครูผู้สอนกิจกรรมได้ปลูกผังคุณธรรม จริยธรรม ค่ำนิยมอันพึงประสงค์ (คุณธรรมอัต ลักษณ์) ให้แก่นักเรียน ( ) ต้นทุนกำรผลิตต่ ำ คุ้มค่ำต่อกำรใช้งำน ( ) นักเรียนได้ปฏิบัติ จริงตำมแผนที่ก ำหนดไว้( ) นักเรียนได้ประชุม ปรึกษำหำรือ เพื่อแก้ปัญหำ/อุปสรรค หรือพัฒนำ งำน( ) นักเรียนได้ท ำกำรประเมินผลระหว่ำงกำรด ำเนินกิจกรรม ( ) นักเรียนได้แสดงผล
34 งำน หรือเผยแพร่ผลงำน ( ) สำมำรถน ำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ ำวันได้( ) สำมำรถ ต่อยอดสู่อำชีพในอนำคต ( ) กำรมีส่วนร่วมในทุกภำคส่วนที่เกี่ยวข้องต่อกำรจัดกิจกรรม ( ) นักเรียนได้ฝึกกำรวำงแผนหรือก ำหนดขั้นตอนเพื่อกำรปฏิบัติกิจกรรม ( ) ตำมล ำดับ 4.3 ผลกำรประเมินควำมพึงพอใจที่มีต่อนวัตกรรม ผลกำรประเมินกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL ดังนี้ 1. ควรให้มีกำรนิเทศ ก ำกับ ติดตำม จำกคลิปวิดีโอ เนื่องจำกกิจกรรมบำงกิจกรรมใช้เวลำนำนกว่ำจะ เห็นผลส ำเร็จของชิ้นงำน 2. ควรส่งเสริมให้มีกิจกรรมเปิดโลกอำชีพ โดยบูรณำกำรกับทุกกลุ่มสำระกำรเรียนรู้เพื่อให้นักเรียน แสดงศักยภำพ พร้อมให้ผู้ปกครอง ชุมชนเข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรจัดกิจกรรมดังกล่ำว 3. อยำกให้มีอำชีพที่หลำกหลำย และตรงตำมควำมต้องกำรของสังคมในปัจจุบันในกำรจัดกิจกรรม ของปีกำรศึกษำต่อ ๆ ไป
35 บทที่ 5 สรุปผลและอภิปรำยผล 5.1 สรุปผลและอภิปรำยผล จำกกำรที่โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำได้น ำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็ง วิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL พบว่ำ 1. โรงเรียนสำมำรถน ำรูปแบบ PD – CARE MODEL มำใช้ในกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะ ชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็งวิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีผ่ำนกิจกรรมพัฒนำผู้เรียนได้ เป็นอย่ำงดีในภำพรวมอยู่ในระดับมำก ( ) 2. ด้ำนผู้บริหำร มีควำมตระหนัก และเห็นคุณค่ำกำรยกระดับคุณภำพผู้เรียน โดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL มำบริหำรจัดกำรศึกษำตำมหลักกำรที่สอดคล้องกับแนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพของ สถำนศึกษำตำมกฎกระทรวงกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ พ.ศ. 2561 โดยยกระดับคุณภำพกำรศึกษำพัฒนำ ทักษะชีวิตพื้นฐำนที่จ ำเป็นส ำหรับผู้เรียน และ คุณภำพผู้เรียน ดีเก่งและมีควำมสุข มุ่งสู่คุณภำพผู้เรียนที่ ยั่งยืนในศตวรรษที่ 21 ในภำพรวมอยู่ในระดับมำก ( ) ซึ่งสอดคล้องกับ คมลิขิต นำมไว และคณะ (2563) ที่ท ำกำรศึกษำเรื่อง กำรพัฒนำพฤติกรรมที่พึง ประสงค์ของนักเรียนตำมคุณธรรมอัตลักษณ์โรงเรียนคุณธรรม และ ธีระ ขันบุตร (2562) ได้ศึกษำเรื่อง กล ยุทธ์กำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนคุณธรรม ที่มีสัมฤทธิผลโรงเรียนบ้ำนปำกน้ ำ (เผดิมจีนนำวำสงเครำะห์) อ ำเภอ เมือง จังหวัดชุมพร ผลกำรศึกษำ พบว่ำ ผลกำรประเมินระดับกำรปฏิบัติในด้ำนกำรด ำเนินงำนตำมกลยุทธ์ใน ภำพรวม ครูผู้สอน มีควำมคิดเห็นว่ำกำรด ำเนินงำนตำมกลยุทธ์ มีกำรปฏิบัติอยู่ในระดับมำกที่สุด 3. ครูและบุคลำกำรทำงกำรศึกษำสำมำรถบริหำรจัดกำรเรียนรู้ให้ครูมีควำมสำมำรถในกำรจัด กำรเรียนกำรสอนอย่ำงมีประสิทธิภำพ และเน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญเพื่อให้เกิดกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในภำพรวมอยู่ในระดับมำก ( ) 4. ระดับกำรนิเทศกำรจัดกำรเรียนกำรสอนครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำโดยใช้รูปแบบ PD – CARE MODEL พบว่ำ ทุกกลุ่มประเมินมีควำมพึงพอใจ อยู่ในระดับมำกที่สุด ( ) 5. ระดับควำมพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ คณะกรรมกำร สถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนที่มีผลต่อกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่คุณธรรม โรงเรียนป่ำเด็ง วิทยำ อ ำเภอแก่งกระจำน จังหวัดเพชรบุรีจ ำแนกตำมผู้ประเมินในภำพรวม พบว่ำ ทุกกลุ่มประเมินมีควำมพึง พอใจ อยู่ในระดับมำก ( ) ซึ่งสอดคล้องกับ ปำนทอง อังคณิตย์ (2558 , น. 148-149) ที่ท ำกำรวิจัยเรื่อง กำรเสริมสร้ำงทักษะ ชีวิตผู้เรียน ระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน โดยใช้กำรวิจัยเชิงปฏิบัติกำรแบบมีส่วนร่วม ผลกำรวิจัยพบว่ำ ผล
36 กำรใช้กิจกรรมนักเรียนในกำรเสริมสร้ำงทักษะชีวิตเพิ่มสูงขึ้น และองอำจ เทียมกลำง (2559 , น. 180) ที่ท ำ กำรวิจัยเรื่องกำรพัฒนำทักษะชีวิต เพื่อแก้ไขพฤติกรรม นักเรียน ส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำมหำสำรคำม เขต 3 ผลกำรวิจัยพบว่ำ กำรพัฒนำทักษะชีวิตของนักเรียนโดยภำพรวมและรำยด้ำน มีกำรปฏิบัติอยู่ในระดับ มำกทุกด้ำน 5.2 ข้อเสนอแนะ 1. กำรนิเทศ ก ำกับ ติดตำม ตรวจสอบ ควรด ำเนินกำรเป็นระยะ ๆ พร้อมทั้งร่วมกันพัฒนำหรือ แก้ปัญหำอย่ำงต่อเนื่อง อำจท ำในรูปแบบของชุมชนกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ (Professional Learning Community : PLC) ทั้งแบบ ครู – นักเรียน ครู – ครู และ ครู – ผู้บริหำร เพื่อพัฒนำองค์กรต่อไป 2. น ำรูปแบบ PD – CARE MODEL มำบูรณำกำรกำรจัดกำรเรียนกำรสอนรำยวิชำต่ำง ๆ ของกลุ่ม สำระกำรเรียนรู้ที่เน้นกำรฝึกปฏิบัติ เช่น กลุ่มสำระกำรงำนอำชีพ กลุ่มสำระวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น เพื่อให้นักเรียนได้เกิดประสบกำรณ์ตรงจนเกิดกำรเรียนรู้
37 ภำคผนวก
38 บรรณำนุกรม กรมวิชำกำร, กระทรวงศึกษำธิกำร. (2543). แนวกำรจัดกระบวนกำรเรียนรูทักษะชีวิตเพื่อพัฒนำ พฤติกรรมสุขภำพของนักเรียนระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย (ชั้นปีที่10 - 12). กรุงเทพฯ: โรงพิมพคุรุสภำลำดพร้ำว. คมลิขิต นำมไวและคณะ. กำรพัฒนำพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของนักเรียนตำมคุณธรรมอัตลักษณ์โรงเรียน คุณธรรม. วำรสำรมหำวิทยำลัยมหำมกุฏรำชวิทยำลัย วิทยำเขตร้อยเอ็ด 9, 1 (มกรำคม-มิถุนำยน 2563) : บทคัดย่อ. ชนัดดำ เทียนฤกษ์. (2557). กำรพัฒนำโมเดลกำรวัดทักษะชีวิตและอำชีพของนักเรียนระดับ ชั้นมัธยมศึกษำตอนปลำยในศตวรรษที่ 21. วิทยำนิพนธ์ปริญญำมหำบัณฑิต จุฬำลงกรณมหำวิทยำลัย. ไชยพร เรืองแหล้. (2556). บทบำทของสถำนศึกษำในกำรส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมแก่นักเรียน สังกัดส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำขอนแก่น เขต 1. วิทยำนิพนธ์ปริญญำพุทธศำสตร มหำบัณฑิต สำขำวิชำกำรบริหำรกำรศึกษำ มหำวิทยำลัยมหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลัย. ดรุณี โอวจริยำพิทักษ์ และคณะ. (2557). กำรศึกษำคุณธรรมจริยธรรมของนักศึกษำ กรณีศึกษำ นักศึกษำคณะเทคโนโลยีคหกรรมศำสตร์ มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลพระนคร. มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลพระนคร. ธนพัชร แก้วปฏิมำ. (2547). กำรพัฒนำแบบวัดทักษะชีวิตส ำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษำปีที่4 – 6. วิทยำนิพนธปริญญำศึกษำศำสตรมหำบัณฑิต มหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร. ธีระ ขันบุตร. กลยุทธ์กำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนคุณธรรมที่มีสัมฤทธิผล โรงเรียนบ้ำนปำกน้ ำ (เผดิมจีนนำวำสงเครำะห์) อ ำเภอเมือง จังหวัดชุมพร. วำรสำรกำรบริหำรกำรศึกษำ มหำวิทยำลัยศิลปำกร 10, 1 (มกรำคม – มิถุนำยน, 2562) : 955-966. นภำพร ณ เชียงใหม่ และคณะ. (2547). กำรด ำเนินงำนด้ำนกำรส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ของโรงเรียน วัดบำงยำง. วิทยำนิพนธ์ศึกษำศำสตรมหำบัณฑิต สำขำวิชำกำรบริหำรกำรศึกษำ มหำวิทยำลัยรำชภัฏ บ้ำนสมเด็จเจ้ำพระยำ. น้ ำทิพย องอำจวำณิชย 2556). กำรพัฒนำแบบวัดทักษะในศตวรรษที่ 21 ตำมกำรรับรูของนักเรียน มัธยมศึกษำตอนต้น : กำรประยุกตใชแนวคิดกำรเขำถึงคุณลักษณะที่มุงวัดของแบบสอบ. วิทยำนิพนธ์ครุศำสตรดุษฎีบัณฑิต ภำควิชำวิจัยและจิตวิทยำกำรศึกษำ คณะครุศำสตร จุฬำลงกรณมหำวิทยำลัย. ______. (2559). แนวทำงกำรประเมินทักษะแห่งศตวรรษที่ 21. วำรสำรศึกษำศำสตร์ มหำวิทยำลัยทักษิณ. ปีที่ 16 ฉบับที่ 2 (กรกฎำคม – ธันวำคม 2559).
39 บุญชม ศรีสะอำด. (2560). กำรวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : สุวีริยำสำส์น. ปำนทอง อังคณิตย์. (2558). กำรเสริมสร้ำงทักษะชีวิตนักเรียน ระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน โดยใช้กำรวิจัย เชิงปฏิบัติกำรแบบมีส่วนร่วม. วิทยำนิพนธ์ปริญญำปรัชญำดุษฎีบัณฑิต. บุรีรัมย์ : มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์. มูลนิธิยุวพัฒน์, ทักษะชีวิต สิ่งส ำคัญส ำหรับวัยรุ่นศตวรรษที่ 21. (ออนไลน์). แหล่งที่มำ https://www.yuvabadhanafoundation.org (1 กรกฎำคม 2565). รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ. 2560. (2560, 6 เมษำยน). รำชกิจจำนุเบกษำ. เล่ม 134 (ตอนที่ 40). รัตนำ ดวงแก้ว. (2556). กำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ. ใน ประมวลสำระชุดนโยบำย กำรแผนงำนและ กำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ. หน่วยที่ 11 : 1 – 83, นนทบุรี : สำขำวิชำศึกษำศำสตร์ มหำวิทยำลัยสุโขทัยธรรมำธิรำช. รำชบัณฑิตยสถำน. พจนำนุกรมฉบับรำชบัณฑิตยสถำน พ.ศ. 2554. กรุงเทพฯ : นำนมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์, 2556. ______. (2557). พจนำนุกรมฉบับรำชบัณฑิตยสถำน พ.ศ. 2554. กรุงเทพฯ : นำนมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์. ______. (2563). คลังควำมรู้. เข้ำถึงเมื่อ 15 สิงหำคม 2563. เข้ำถึงได้จำก http://www.royin.go.th/?knowledges=อัตลักษณ์-16-มิถุนำยน-25 ศูนย์โรงเรียนคุณธรรม มูลนิธิยุวสถิรคุณ โดยกำรสนับสนุนของส ำนักงำนทรัพย์สินส่วนพระมหำกษัตริย์. คู่มือปฏิบัติ โรงเรียนคุณธรรม. (ออนไลน์). แหล่งที่มำ https://www.yuvabadhanafoundation.org ส ำนักงำนรับรองมำตรฐำนและประเมินคุณภำพกำรศึกษำ (องค์กำรมหำชน). ท ำอย่ำงไรให้พร้อมรับ กำรประเมินฯรอบสำม. เข้ำถึงเมื่อ 10 มกรำคม 2562. เข้ำถึงได้จำก http://lpn.nfe.go.th/pranee/UserFiles/Pdf/may54.pdf ส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำกำรศึกษำ. (2557). รำยงำนกำรวิจัยแนวทำงกำรพัฒนำกำรศึกษำไทยกับ กำรเตรียมควำมพรอมศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ : ส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำกำรศึกษำ กระทรวงศึกษำธิกำร. ส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำกำรศึกษำ. (2560). แผนกำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2560 – 2579 (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : ส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำกำรศึกษำ กระทรวงศึกษำธิกำร. สุภัททำ ปิณฑะแพทย์. (2554). คุณธรรม จริยธรรมและจรรยำบรรณวิชำชีพทำงกำรศึกษำ. (ออนไลน์). แหล่งที่มำ http://www.supatta.haysamy.com/learn2_1.html. ( 1 กรกฎำคม 2565).
40 องอำจ เทียมกลำง. (2559). กำรพัฒนำทักษะชีวิต เพื่อแก้ไขพฤติกรรมนักเรียน ส ำนักงำนเขตพื้นที่ กำรศึกษำมหำสำรคำม เขต 3. วิทยำนิพนธ์ปริญญำครุศำสตร์ดุษฎีบัณฑิต. มหำสำรคำม. มหำวิทยำลัยรำชภัฏมหำสำรคำม. IM2. (2017). บทควำมทักษะชีวิต. (ออนไลน์). แหล่งที่มำ https://www.im2market.com/2017/12/01/4673. (1 กรกฎำคม 2565). Maxwell, Robert. (1981). Life After School : A Social Skills Curriculum. New York: Pregamon International Library. World Health Organization. (1993). Life Skills Education for Children and Adolescents in Schools. Programmer on Mental Health. Geneva. Retrieved August 15, 2005, from http://www.unescap/org/esid/hds/pubs/2317/m7.pdf
41 ค่ำดัชนีควำมสอดคล้อง IOC (Index of item – Objective Congruence) แบบสอบถำมฉบับที่ 1 จำกควำมคิดเห็นของผู้เชี่ยวชำญ หัวข้อ คะแนนควำมคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชำญ ค่ำ IOC แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 ปัจจัยน ำเข้ำ 1. ตรงตำมมำตรฐำนกำรศึกษำ ระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน มำตรฐำนที่ 1 : คุณภำพของผู้เรียน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ มำตรฐำนที่ 2 : กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร +1 +1 +1 1 ใช้ได้ มำตรฐำนที่ 3 : กระบวนกำรจัดกำรเรียน กำรสอนที่เน้น ผู้เรียนเป็นส ำคัญ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ขั้นตอนกำรด ำเนินงำน 1. P – Plan (กำรวำงแผน) +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 2. D – Do (กำรด ำเนินกำร) +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 3. C – Care (กำรดูแล ส่งเสริมให้ผู้เรียนคุณธรรมน ำควำมรู้) +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 4. A – Act (กำรท ำกิจกรรม) +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 5. R – Recommend (กำรรับฟังข้อเสนอ) +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 6. E – Evaluation (กำรประเมินผลและสรุปผล) +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ผลลัพธ์/ผลผลิต 1. นักเรียนทุกระดับชั้นได้รับกำรส่งเสริมทักษะชีวิตเคียงคู่ คุณธรรม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 2. กำรบริหำรงำนในสถำนศึกษำมีคุณภำพ +1 +1 +1 1 ใช้ได้
42 ค่ำดัชนีควำมสอดคล้อง IOC (Index of item – Objective Congruence) แบบสอบถำมฉบับที่ 2 จำกควำมคิดเห็นของผู้เชี่ยวชำญ หัวข้อ คะแนนควำมคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชำญ ค่ำ IOC แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 1. กำรตรงต่อเวลำ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 2. กำรควบคุมควำมเป็นระเบียบในชั้นเรียน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 3. บรรยำกำศในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 4. กำรแต่งกำย สุภำพ เรียบร้อย +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 5. กำรใช้น้ ำเสียงมีควำมชัดเจน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 6. ควำมมั่นใจในตนเอง +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 7. กำรใช้ภำษำสื่อสำรและสร้ำงบรรยำกำศกำรเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 8. เนื้อหำสอดคล้องกับจุดประสงค์กำรเรียนรู้/ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 9. กำรสอดแทรกควำมรู้ทั่วไปและคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ตำมจุดเน้นของสถำนศึกษำ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 10. รูปแบบกำรสอนแบบ Active Learning +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 11. กำรใช้โปรแกรม/แอพพลิเคชันที่ใช้ในกำรเรียนกำรสอน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 12. กำรเปิดโอกำสให้ผู้เรียนซักถำมหรือแสดงควำมคิดเห็นหรือข้อสงสัยต่ำง ๆ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 13. ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิด ได้ถำม ได้แก้ปัญหำและได้ท ำกิจกรรมด้วยตนเอง +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 14. กำรสรุปเนื้อหำได้ตำมตรงจุดประสงค์/ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 15. กำรชี้แนะกำรเรียนรู้/กำรศึกษำค้นคว้ำและแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 16. ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่ำงเป็นระบบ มีขั้นตอน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 17. กำรประเมินผลตำมสภำพจริง +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 18. วิธีกำรวัดผล/เกณฑ์กำรวัด และเครื่องมือกำรประเมินผลที่ชัดเจน ครอบคลุมทั้ง 3 ด้ำน (K P A) +1 +1 +1 1 ใช้ได้
43 ค่ำดัชนีควำมสอดคล้อง IOC (Index of item – Objective Congruence) แบบสอบถำมฉบับที่ 3 จำกควำมคิดเห็นของผู้เชี่ยวชำญ หัวข้อ คะแนนควำมคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชำญ ค่ำ IOC แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 1. นักเรียนได้เลือกกิจกรรมตำมควำมสนใจและควำมถนัด +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 2. นักเรียนได้ฝึกกำรวำงแผนหรือก ำหนดขั้นตอนเพื่อกำรปฏิบัติ กิจกรรม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 3. นักเรียนได้ปฏิบัติจริงตำมแผนที่ก ำหนดไว้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 4. นักเรียนได้ท ำกำรประเมินผลระหว่ำงกำรด ำเนินกิจกรรม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 5. นักเรียนได้ท ำงำนตำมกระบวนกำรกลุ่ม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 6. นักเรียนได้ประชุม ปรึกษำหำรือ เพื่อแก้ปัญหำ/อุปสรรค หรือ พัฒนำงำน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 7. นักเรียนได้แสดงผลงำน หรือเผยแพร่ผลงำน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 8. ระยะเวลำในกำรด ำเนินกิจกรรมมีควำมเหมำะสม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 9. ต้นทุนกำรผลิตต่ ำ คุ้มค่ำต่อกำรใช้งำน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 10. ได้รับควำมรู้และประสบกำรณ์หลำกหลำยตำมควำมสนใจ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 11. สำมำรถน ำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ ำวันได้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 12. สำมำรถต่อยอดสู่อำชีพในอนำคต +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 13. ครูผู้สอนกิจกรรมได้ปลูกผังคุณธรรม จริยธรรม ค่ำนิยมอัน พึงประสงค์ (คุณธรรมอัตลักษณ์) ให้แก่นักเรียน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 14. นักเรียนมีควำมพึงพอใจต่อกำรร่วมกิจกรรม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 15. กำรมีส่วนร่วมในทุกภำคส่วนที่เกี่ยวข้องต่อกำรจัดกิจกรรม +1 +1 +1 1 ใช้ได้
โรงเรียนป่าเด็งิ ทยา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบุรี ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทริงศึกษาธ การ