The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jackleboy_kk, 2023-03-02 04:18:29

Postcard 12 Topic for WSF

Postcard 12 Topic for WSF

วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับ อุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย 2. เพื่อเป็นข้อก าหนดพื้นฐานในการจัดการกับ ระบบไฟฟ้า ให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เป็นไป ตามข้อก าหนดด้านความปลอดภัย 3. เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากอันตราย จากไฟฟ้าต่อผู้ปฏิบัติงาน โดย WSF Trainers ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “HSE NC Library” ความปลอดภัยใน การท างานกับไฟฟ้า Electrical Safety ภัยอันตราย จากไฟฟ้า อันตรายจากไฟฟ้ามี 2 สาเหตุ 1. ไฟฟ้าชอร์ต (Short Circuit) มักเกิดจากกหลายสาเหตุ เช่น ฉนวนไฟฟ้าช ารุด และเสื่อมสภาพ มีสิ่งก่อสร้างหรือต้นไม้ สัมผัส สายไฟฟ้า จนท าให้เกิดการเสียดสี และเกิดการลุกไหม้ สายไฟหลุดพื้นหรือขาดลงพื้น ท าให้ กระแสไฟฟ้ากระจายอยู่ในบริเวณนั้น 2. ไฟฟ้าดูด (Electric Short) การสัมผัสโดยตรง (DIRECT CONTACT) คือ การที่ส่วนของร่างกายสัมผัสไฟฟ้าโดยตรง เช่น สายไฟฟ้ารั่ว ฉนวนช ารุด แล้วเอามือไปจับ การสัมผัสโดยอ้อม (INDIRECT CONTACT) เกิดจากการที่สัมผัสกับส่วน ที่ปกติไม่มีไฟฟ้าแต่เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้าจึงปรากฏ อยู่บนพื้นผิวของเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อสัมผัสจึงถูกไฟฟ้าดูด วิธีสังเกตอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า จุดต่อสายไฟฟ้า ต้องแน่น ผิวหน้าหรือสายเคลือบพีวีซี จะต้องไม่ฉีกขาด สายไฟฟ้าเก่าหรือหมดอายุฉนวน จะมีการแตกบวมหรือแห้งกรอบ แผงสวิตช์ไฟฟ้าต้องอยู่ในที่แห้ง ไม่เปียกชื้น และห่างไกลจาก สารเคมีหรือสารไวไฟต่างๆ ขนาดของสายไฟฟ้า ต้องเลือกให้เหมาะสม กับการใช้งาน สายไฟฟ้าต้องไม่อยู่ใน ต าแหน่งที่มีความร้อน หรือถูกสิ่งของหนักกดทับ อยู่


. 1. เลือกซื้ออุปกรณ์ที่ได้รับรองจากการ ทดสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม 2. ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดให้เป็นไป ตามหลักและกฎความปลอดภัยโดยช่างผู้ ช านาญ 3. จ าเป็นต้องมีการตรวจสอบระบบไฟฟ้า อย่างสม ่าเสมอ เช่น เต้าเสียบ ฉนวน สายไฟ เต้ารับ สวิตช์ เป็นต้น 4. บ ารุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยช่างผู้ ช านาญอย่างสม ่าเสมอ 5. ต่อสายกราวด์ของระบบไฟฟ้าดิน 6. ใช้ฉนวนหุ้มสายไฟฟ้าที่มีอัตราเสี่ยง ต่อการเกิดไฟรั่ว 7. ติดตั้งเครื่องตัดไฟอัตโนมัติ ที่มา : www.safetyinthai.com การป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า 1. เมื่อพบผู้ถูกกระแสไฟฟ้าดูดให้ตัดการจ่ายไฟ เช่น ปลดคัทเอาท์เพื่อตัดไฟ การช่วยเหลือผู้ประสบอันตราย จากไฟฟ้า อย่าใช้มือเปล่าหรือตัวน าไฟฟ้าสัมผัสตัวผู้ที่ติด อยู่กับกระแสไฟฟ้าโดยเด็ดขาด รีบหาทางตัดกระแสไฟฟ้าโดยเร็ว จะด้วยการถอดปลั๊กหรืออ้าสวิชต์ ออกก็ได้ ใช้วัตถุที่ไม่เป็นสื่อไฟฟ้า เช่น ไม้แห้ง เชือกที่แห้ง สายยาง หรือผ้าแห้งพันมือให้หนา และผลักหรือ ฉุดตัวผู้ประสบอันตรายให้หลุดออกมาโดยเร็ว กรณีที่มีกระแสไฟฟ้าอยู่ในบริเวณที่มีน ้าขัง อย่าลงไปในน ้า ต้องหาทางเขี่ยสายไฟฟ้าออกให้ พ้นหรือตัดกระแสไฟฟ้าก่อนจึงค่อยช่วยผู้ประสบ อันตรายจากไฟฟ้า หากเป็นสายไฟฟ้าแรงสูงให้หลีกเลี่ยง แล้ว รีบโทรแจ้งการไฟฟ้าให้เร็วที่สุด ขั้นตอนการปฐมพยาบาลผู้ถูกกระแสไฟฟ้าดูดเบื้องต้น 2. ใช้วัตถุที่เป็นฉนวนไฟฟ้าเขี่ยหรือดึงผู้ที่ถูกกระแสไฟฟ้า ดูดออกจากจุดเกิดเหตุโดยเร็ว เพื่อท าการปฐมพยาบาล 3. จัดท่าผู้ถูกกระแสไฟฟ้าดูดให้นอนหงายบนพื้น ราบแข็ง และประเมินความรู้สึกจากการหายใจ หรือ เรียก ปลุก เขย่า 4. ให้ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้น หรือขอให้คนใดคนหนึ่งโทรศัพท์แจ้งทีมแพทย์ฉุกเฉิน เบอร์ 1669 5. เปิดทางเดินหายใจและช่วยหายใจ โดยใช้มือกด หน้าผากและใช้มืออีกข้างหนึ่งเชยคางขึ้น หลังจากนั้นใช้นิ้วบีบจมูกให้แน่น แล้วเป่าลม หายใจเข้าปอดผู้ป่วยเต็มที่ 2 ครั้ง 7. กดหน้าอก 30 ครั้ง สลับการช่วยหายใจ 2 ครั้ง นับเป็น 1 รอบ ท าต่อเนื่องหรือจนกว่าผู้ป่วยมีการเคลื่อนไหว ไอ จามส่ายหน้า ขยับแขน หายใจ หรือเมื่อทีมแพทย์ฉุกเฉินมาถึง 8. หากผู้ป่วยหายใจเองได้แล้ว ให้จัดท่าพักฟื้น (Recovery position) เพื่อป้องกันภาวะทางเดินหายใจอุดตั้น การกดหน้าอก : 1. ต าแหน่งวางมือ: เหนือกระดูกลิ้นปี่ 2 นิ้วมือ 2. สิ่งที่ใช้กด: ส้นมือสองข้างประสานซ้อนกันเหยียดแขนตรง 3. กดหน้าอกจ านวนครั้ง: 30 ครั้ง 4. ความลึก: 2-2.4 นิ้ว 5. ความเร็วในการกด: 100 – 120 ครั้ง/นาที


Company Name Street Address City, ST ZIP Code Recipient Name Address City, ST ZIP Code โดย WSF Trainers โรงงานต้องวิธีปฏิบัติด้านการซ่อมบ ารุง ต้องมีข้อมูลประกอบ ดังต่อไปนี้ ◼ มีระบบบ ารุงรักษาเชิงป้องกัน และ ซ่อมแซมจะต้องมีข้อมูลประกอบด้วยข้อมูล ต่อไปนี้ ◼ ก าหนดเวลาและการจัดล าดับความส าคัญ ◼ รายละเอียดของงานที่ท าเสร็จแล้ว ◼ วันที่และชื่อบุคคลที่ท างานเสร็จ ◼ บันทึกการบ ารุงรักษา/ซ่อมแซมชิ้นส่วน ต่างๆ ของอุปกรณ์หรืออุปกรณ์ ใบอนุญาตการท างานที่ใช้ความร้อน หรือก่อเกิดประกายไฟ ◼ สถานที่และลักษณะการท างานที่ใช้ความร้อน ◼ เวลาและระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ◼ การใช้ความระมัดระวังก่อนเริ่มงาน และหลัง งานจากท างานเสร็จ ◼ หัวหน้างานและพนักงานที่ปฏิบัติงาน ▪ มีอุปกรณ์ตอบโต้เหตุฉุกเฉิน ▪ รายชื่อผู้ออกใบอนุญาตลงด้วยลายมือ เท่านั้น เนื้อหาอบรมส าหรับพนักงานซ่อมบ ารุง ◼ ข้อก าหนดเฉพาะของโครงการด้านความปลอดภัย ในการซ่อมบ ารุง ◼ การใช้งาน การจัดเก็บ และบ ารุงรักษาเครื่องมือ ◼ ข้อก าหนดในการบ ารุงรักษาอุปกรณ์แครื่องมือเชิง ป้องกัน ความปลอดภัยใน การบ ารุงรักษา Maintenance Safety วัตถุประสงค์ 1) เพื่อให้ทีม WSF เข้าใจหลักการท างานการจัดการ ความปลอดภัยเกี่ยวกับงานซ่อมบ ารุง ภายในบริษัทฯ 2) เพื่อให้ทีม WSF เข้าใจหลักการประเมินแหล่ง อันตรายของงานซ่อมบ ารุง ภายในบริษัทฯ 3) เพื่อให้ทีม WSF เข้าใจหลักการการขอใบอนุญาต ท างานเกี่วกับการก่อเกิดประกายไฟ หรือ ความร้อน ภายในบริษัทฯ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “HSE NC Library”


To get started right away, just select any placeholder text (such as this) and start typing to replace it with your own. ค าจ ากัดความ การท างานที่ต้องใช้ความร้อน คืองานเชื่อม งานตัด งานเจียรไน หรืองานอื่นๆ ที่ต้องใช้ เปลวไฟ ประกายไฟ หรือแหล่งจุดติดไฟอื่นๆ ซึ่งอาจท าให้เกิดควันหรือไฟ หรือที่อาจท าให้ ระบบตรวจสอบท างาน “โรงงานต้องจัดท าเอกสารประเมิน ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับงานบ ารุงรักษา หรือการซ่อมแซม” โรงงานต้องวิธีปฏิบัติด้านการซ่อมบ ารุง ต้องมี ข้อมูลประกอบ ดังต ่อไปนี้ ◼ สถานที่ท างานจะต้องอยู่ในสภาพดีและสะอาด การประเมินความเสี่ยง a) การชี้บ่งอันตรายที่เกี่ยวข้องกับการงานการ บ ารุงรักษาและซ่อมแซม b) การประเมินความเสี่ยงจากอันตรายที่ก าหนด c) ก าหนดมาตรการการควบคุมเพื่อลดหรือก าจัดความ เสี่ยง (เช่น อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล, การขอ ใบอนุญาตท างาน ที่ใช้ความร้อน) ◼ สามารถดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์ได้ ◼ เครื่องมือและอุปกรณ์ทั้งหมดต้องอยู่ใน สภาพที่ปลอดภัย และใช้งานได้ ◼ จัดเตรียมและใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตราย ส่วนบุคคล เนื้อหาอบรมส าหรับพนักงานที่รับอนุญาต ให้ท างานกับความร้อน ◼ วิธีปฏิบัติและระบบการอนุญาตให้ท างานกับ ความร้อนหรือก่อเกิดประกายไฟ ◼ การใช้อุปกรณ์ ( รวมถึงอุปกรณ์ดับเพลิง )


การท างาน บนที่สูง Working at high โดย WSF Trainers คือ สถานที่ปฏิบัติงานสูง เท่ากับ หรือ มากกว่า 1.8 เมตรจากพื้นหรือโครงสร้าง หรือ สิ่งปลูกสร้างทุกประเภท ไม่ว่าแบบถาวรหรือ ชั่วคราว ที่มีความสูงเหนือพื้นดิน ซึ่งจะต้องมี คนขึ้นไปท างานอย่างใดอย่างหนึ่ง รวมถึงส่วน พื้นล่างของหลุมซึ่งกว้างพอที่คนสามารถพลัด ตกลงไปได้ ที่สูงและงานที่ต้อง ปฏิบัติบนที่สูง วิธีสวมใส่สายรัดนิรภัยชนิดเต็มตัว จับห่วงคล้องอุปกรณ์ เชื่อมต่อด้านหลัง ตรวจสอบ สายรัดนิรภัยไม่ให้บิดหรือพัน กัน สอดแขน เข้าสายคล้อง บ่าทีละข้าง ปรับสายรัดอกให้ อยู่ในระดับอก และ กระชับพอดีล าตัว ปรับสายรัด กระชับต้นขาให้พอดี ปรับสายรัด กระชับต้นขาให้พอดี ปรับสายรัดกระชับ ต้นขาให้พอดีทั้งสองข้าง ห่วงคล้องอุปกรณ์เชื่อมต่อด้านหลัง ต้องอยู่ตรงกลางระหว่างบ่าและสามารถเอื้อม มือจับห่วงด้านหลังได้ โดยยืนล าตัวตรง ทดสอบความกระชับของชุด โดยต้องสอดนิ้วเข้าไปได้พอดี ทดสอบความกระชับของชุด โดยลองนั่ง ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “HSE NC Library” ที่มา : www.tosh.or.th และ www.safetyinthai.com “HSE NC Library”


การขออนุญาตท างานกับบนที่สูง (High Work Permit) ตัวอย่าง ใบอนุญาตการท างาน (Work Permit) บุคคลที่ท างานบนที่สูงเกิน 1.8 เมตร ต้องขอ อนุญาตในการท างาน (Work Permit) ก่อนทุกครั้ง สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ สภาพพื้นที่ปฏิบัติงานมีสภาพที่ไม่มั่นคง หรือไม่ปลอดภัย ท าให้เกิดการถล่ม พังทลาย หรือมีช่องเปิดโล่งอันตราย ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันการตกจากที่สูง สภาพร่างกายของผู้ปฏิบัติงาน ไม่มีความ พร้อม ขาดการออกแบบที่ดี และติดตั้งอุปกรณ์ ป้องกันการตก ไม่มีการเตือนอันตราย หรือก าหนด จุดอันตราย อุปกรณ์ต่างๆ มีสภาพช ารุด หรือไม่ เหมาะสม เช่น นั่งร้าน บันได รถยก เป็นต้น มาตรการ...เชิงป้องกัน เกี่ยวกับการท างานบนที่สูง ท างานสูงเกิน 1.8 เมตรขึ้นไป ต้องมีการป้องกันการตกหล่น โดยใช้บันไดไต่ หรือนั่งร้าน การใช้บันไดไต่ชนิดเคลื่อนย้ายได้ มุมบันไดที่ตรงข้ามผนังต้องวาง ประมาณ 75 องศา และยึดโยงให้ มั่นคง ท างานสูงเกิน 4 เมตรขึ้นไป ต้องสวมใส่เข็มขัดนิรภัย และสาย ช่วยชีวิต ตาข่ายนิรภัย หรือราว กั้นกันตก ท างานบริเวณที่มีช่องเปิด หรือ ขอบอาคาร ต้องมีราวกั้นกันความสูง ระหว่าง 90-110 ซม. การใช้รถเครน ต้องมีแผ่นเหล็กรองขาช้าง เพื่อ ป้องกันการทรุดตัวขณะ ปฏิบัติงาน คนขับรถเครนและผู้ให้ สัญญาณต้องผ่านการอบรม ความปลอดภัยอื่นๆ อุปกรณ์ ไขควง เครื่องมือต่างๆ ที่น าขึ้นไป ใช้บนที่สูงต้องผูกยึดไม่ให้ตกลงไปในช่องเปิด หรือปล่องต่างๆ ได้ ทั้งนี้ ต้องมีฝาปิดหรือ ขอบกันของตก ความสูงไม่น้อยกว่า 7 ซม. ในบริเวณนั้น


โดย WSF Trainers วัตถุประสงค์: 1. เพื่อให้รับทราบการขับขี่ และการจราจร ถนน สาธารณะรอบบริษัทฯและในพื้นที่บริษัทฯทีอาจจะไม่ ปลอดภัยส่งผลกระทบต่อองค์กรและสังคม 2. เพื่อให้ทราบถึงข้อก าหนดของกฎหมายและ ข้อก าหนดของลูกค้า ในเรื่องการควบคุมการจราจรและ ยานพาหนะ ถนนสาธารณะรอบบริษัทฯและในพื้นที่บริษัท ฯที่มีความเกี่ยวพันธ์และส่งผลกระทบต่อการด าเนิน ธุรกิจของบริษัท 3. เพื่อจัดท ามาตรการควบคุมการปฏิบัติงาน การ ควบคุมการจราจรและยานพาหนะให้มีความปลอดภัย สูงสุด กฎระเบียบการควบคุมการจราจรของทางบริษัทฯ การจัดการจราจร และยานพาหนะ Traffic and Vehicle Safety 1. บริษัทฯ จัดหาและติดตั้งป้ายจราจรตามกฏหมายที่จ าเป็นต่อการควบคุมจราจรภายในบริษัทฯ 2. ต้องน าไปจดทะเบียนและเสียภาษีประจ าปี พร้อมส าเนาคู่มือจดทะเบียนรถไว้ประจ ารถด้วย 3. ต้องไม่เกิดเสียงดังเกินเกณฑ์ที่ก าหนด (เสียงดังไม่เกิน 100 เดซิเบล A เมื่อวัดระยะห่าง 0.5 เมตร) 4. ต้องน ารถไปตรวจสภาพเป็นประจ าทุกปี 5. ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่ และน าใบอนุญาตขับขี่ติดตัวไปด้วยทุกครั้งในขณะขับรถ 6. ผู้ขับขี่ต้องไม่ถือหรือใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับขี่ เว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริมส าหรับการสนทนา 7. ต้องไม่ดื่มสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นในขณะขับขี่ (มีแอลกอฮอล์ในร่างกายเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าเมาสุรา) 8. ผู้ขับขี่รถยนต์และผู้โดยสารต้องคาดเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง ขณะขับขี่รถยนต์หรือโดยสาร 9. ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้โดยสารต้องสวมหมวกนิรภัย ขณะขับขี่หรือโดยสาร 10. ต้องขับรถไม่เร็วเกินกว่ากฎหมายก าหนด - ในเขตเทศบาล ความเร็วไม่เกิน 80 กม. / ชั่วโมง - นอกเขตเทศบาล ความเร็วไม่เกิน 90 กม. / ชั่วโมง - ทางพิเศษหรือทางด่วน ความเร็วไม่เกิน 120 กม. / ชั่วโมง - ภายในบริษัทต้องขับขี่ ความเร็วไม่เกิน 20 กม./ ชั่วโมง ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรที่ปรากฏบนทางนั้น ๆ ด้วย 11. คนเดินเท้า - คนเดินเท้า หมายถึง คนเดินทาง ผู้ใช้เก้าอี้ล้อส าหรับคนพิการ หรือรถเข็นส าหรับเด็ก - ทางที่มีทางเท้าให้คนเดินเท้าเดินบนทางเท้า หากไม่มีทางเท้าให้เดินริมทางด้านขวาของตน - ห้ามคนเดินเท้าข้ามทางภายในระยะไม่เกิน 100 เมตร นับจากทางข้าม 12. รถจักรยานต์ต้องมีสภาพสมบูรณ์ มีทะเบียน มีแตรให้สัญญาณ มีเบรกห้ามล้อที่ใช้งานได้ดี 13. ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบการควบคุมจราจรอย่างเคร่งครัด (พรบ.จราจร 2522) 14. ผู้ที่ใช้รถหรือยานพาหนะต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบการควบคุมการจราจรของทางบริษัทฯ อย่าง เคร่งครัด ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “HSE NC Library”


เครื่องหมายจราจร (Traffic Signs) 1. 2. ให้รถสวนทาง มาก่อน ห้ามเข้า หยุด ให้ทาง ห้ามแซง ห้ามเลี้ยวซ้าย ห้ามรถยนต์ ห้ามกลับรถไป ทางขวา ห้ามกลับรถไป ทางซ้าย ห้ามเลี้ยวขวา ห้ามรถยนต์ สามล้อ ห้ามรถจักรยาน ห้ามรถบรรทุก ห้ามรถจักรยานยนต์ ห้ามรถสามล้อ ห้ามรถจักรยาน รถสามล้อ รถจักรยานยนต์ ห้ามใช้เสียง ห้ามล้อลเอนลากเข็น ห้ามรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ห้ามรถยนต์ที่ใช้ใน การเกษตร หยุดตรวจ ห้ามคนเข้า ห้ามจ ากัดความเร็ว ห้ามหยุดรถ ห้ามจอดรถ ห้ามรถกว้างเกิน ก าหนด ให้เดินรถทางเดียวไป ข้างหน้า ทางเดินรถทาง เดียวไปทางซ้าย ห้ามรถสูงเกิน ก าหนด ห้ามรถหนักเกิน ก าหนด ให้เลี้ยวขวา ให้ชิดซ้าย ทางเดินรถทาง เดียวไปทางขวา ให้ชิดขวา ให้เลี้ยวซ้าย วงเวียน ให้เลี้ยวซ้ายหรือ เลี้ยวขวา ห้ามรถยาวเกิน ก าหนด ให้ไปทางซ้ายหรือ ทางขวา สุดเขตบังคับ ทางเดินทางเดียว ไปทางซ้าย ทางเดินทางเดียว ไปทางขวา ให้ชิดขวา ให้ชิดซ้าย ให้รถตรงไป ให้เลี้ยวขวา ให้เลี้ยวซ้าย ให้ไปทางซ้ายหรือ ทางขวา ให้ตรงไปหรือ เลี้ยวซ้าย ให้ตรงไปหรือ เลี้ยวขวา ให้เลี้ยวซ้ายหรือ เลี้ยวขวา เฉพาะคนเดิน ช่องเดิน รถจักรยาน ความเร็วขั้นต ่า ช่องเดินรถ ประจ าทาง ป้ายบังคับ ป้ายเตือน


ความปลอดภัยใน การก่อสร้าง Construction Safety โดย WSF Trainers ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “HSE NC Library” การตรวจสอบ ติดตาม การดําเนินการด้านความ ปลอดภัยในการทํางานของบริษัทผู้รับเหมา การตรวจสอบความปลอดภัย เป็นมาตรการหนึ่งที่ใช้สําหรับตรวจสอบ และประเมิน มาตรการควบคุมทางด้านความปลอดภัยในการทํางาน งานของบริษัทผู้รับเหมา ท้ังนี้เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัท ผู้รับเหมาได้จัดให้มีมาตรการควบคุมความปลอดภัยใน การทํางานที่เพียงพอและเหมาะสม โดยได้กําหนดให้มี การตรวจสอบความปลอดภัยไว้ดังต่อไปนี้ 1. บริษัทผู้รับเหมา จะต้องส่งรายงานด้านความ ปลอดภัยในการทํางานให้บริษัทฯ ทราบประจําทุกเดือน หรือตามระยะเวลาที่บริษัทฯ กําหนด ซึ่งมีหัวข้อที่ สําคัญประกอบด้วย ◼ ระยะเวลาเริ่มงาน และสิ้นสุดงานตามสัญญา ◼ จํานวนพนักงานที่เข้ามาปฎิบัติงานในพื้นที่บริษัทฯ ◼ รายงานการประสบอุบัติเหตุจากการทํางาน (กรณี มีอุบัติเหตุจากการทํางานเกิดขึ้น) ◼ รายงานเหตุการณ์ผิดปกติหรือ รายงานความ เสียหายของอุปกรณ์ บริษัทฯจะใช้รายงานนี้ในการประเมินผลด้านความ ปลอดภัยในการทํางานของบริษัทผู้รับเหมาโดยอาจจใช้ เป็นเงื่อนไขในการพิจารณาคัดเลือกบริษัทผู้รับเหมาเข้า มาทํางานในงานต่อไป 2. การตรวจสอบความปลอดภัยโดยหัวหน้างานและ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทํางานของผู้รับเหมา จะต้องดําเนินการตรวจสอบติดตามความปลอดภัยใน งานที่ควบคุมดูแลทุกงานอย่างต่อเนื่อง 4.12.3 การตรวจสอบความปลอดภัยจะต้อง 3. การตรวจสอบความปลอดภัยจะต้องตรวจสอบทั้ง สภาพการทํางานและพฤติกรรมการทํางานของผู้รับเหมา รวมถึง การดําเนินการตามมาตรการควบคุมความ ปลอดภัยต่างๆ ได้แก่ ◼ การขออนุญาตทํางานที่มีความเสี่ยงอันตรายในพื้นที่ เขตการบิน หรือทํางานในพื้นที่หวงห้าม ◼ การปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรฐานวิธีการทํางานต่างๆ เช่น - การวิเคราะห์ความปลอดภัยของงาน (Job Safety Analysis ;JSA) - แผนงานที่ปลอดภัย (Safe Work Plan; SWP) - แผนงานบูรณาการ (Integrated Work Plan; IWP) - วิธีดําเนินการขั้นตอน (Method of Procedure; MOP) ◼ การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) ของผู้ปฏิบัติงาน ◼ การใช้ป้ายเตือนอันตรายและการปิดกั้นพื้นที่เสี่ยง ◼ การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย ◼ การปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ◼ ความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องจักร เครื่องมือที่ใช้ใน การทํางาน ◼ พฤติกรรมความปลอดภัยในการ ทํางาน ผลการตรวจสอบความปลอดภัย จะมีข้อแก้ไขจะต้องติดตามให้ได้รับการ แก้ไขปัญหานั้น และแจ้งเตือนหรือสื่อสาร ไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด อุบัติเหตุจากการทํางานขึ้นอีก


การดําเนินการของบริษัทผู้รับเหมา 1. บริษัทผู้รับเหมาต้องปฏิบัติตามกฎหมายความ ปลอดภัยในการทํางานที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ อย่าง เคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทํางานของ พนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง 2. บริษัทผู้รับเหมาต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ในการทํางานระดับต่างๆ และทํา หน้าที่ตามที่ กฎกระทรวงการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการ ทํางาน บุคลากร หน่วยงาน หรือคณะบุคคลเพื่อ ดําเนินการด้านความปลอดภัย ในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2565 3. บริษัทผู้รับเหมาต้องจัดให้พนักงานหรือผู้ปฏิบัติ หน้าที่ควบคุมเครื่องจักร ป้ันจั่น หม้อน้ํา การทํางานบนที่ สูงและผู้ที่ต้องลงไปทํางานในที่อับอากาศ หรือลักษณะ งานอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต้องผ่านการ ฝึกอบรมตามหลักเกณฑ์ วิธีการที่กฎหมายกําหนด 4. บริษัทผู้รับเหมาต้องจัดอุปกรณ์คุ้มครองความ ปลอดภัยส่วนบุคคลให้พนักงานของตน ได้สวมใส่อย่าง น้อยต้องได้มาตรฐานไม่ต่ํากว่าที่กฎหมายความปลอดภัย ในการทํางานกําหนดไว้ 5. บริษัทผู้รับเหมาต้องตรวจสอบการเกิดอุบัติเหตุจาก การทํางานของพนักงานของตนเป็นประจําทุกเดือน และ ส่งรายงานให้ผู้จัดการโครงการความปลอดภัยในการ ก่อสร้าง (Construction Safety Program Management; CSPM) ทราบ หากเกิดอุบัติเหตุจากการ ทํางานให้ส่งรายงานการเกิดอุบัติเหตุให้ CSPM ทราบ ในทันทีหลังจากสอบสวนการเกิดอุบัติเหตุจากการทํางาน ในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว โดยระบุถึงสาเหตุของการเกิด อุบัติเหตุ ลักษณะการเกิดอุบัติเหตุ ความเสียหายหรือการ บาดเจ็บ จํานวนวันที่ต้องหยุดพักรักษาตัว 6. บริษัทผู้รับเหมาต้องจัดเฉพาะบุคลากรที่มี ความสามารถและประสบการณ์ที่เหมาะสม และมี ทัศนคติที่ให้ความสําคัญต่อความปลอดภัยอย่างจริงจัง มาทํางานนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้มีหน้าที่ควบคุมงานใน สนามได้แก่ หัวหน้างาน (Foreman), เจ้าหน้าที่ความ ปลอดภัย เป็นต้น 7. บริษัทผู้รับเหมาต้องประกาศเป้าหมายในเรื่องความ ปลอดภัยในการทํางานให้ชัดเจน และประกาศหรือแจ้งให้ พนักงานทุกคนทราบ การดําเนินการก่อนเริ่มงาน 1. บริษัทผู้รับเหมาจะต้องแจ้งกําหนดเวลาที่จะมาเริ่มงาน ระยะเวลาในการเตรียมงาน รวมทั้งกําหนดเสร็จของงาน ก่อนการเริ่มงานตามสัญญา โดยบริษัทผู้รับเหมาต้องแจ้ง ชื่อพนักงานที่จะเข้ามาทํางานให้ทราบ เพื่อจัดทําบัตร อนุญาต และเพื่อให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถ ตรวจสอบได้ตลอดเวลาที่อยู่ใน พื้นที่ 2. บริษัทผู้รับเหมาจะต้องคัดสรรบุคลากรที่มีความรู้ ทักษะ ประสบการณ์การทํางานที่เกี่ยวข้อง มีความรู้และ ทัศนคติในเรื่องความปลอดภัยในการทํางาน เพื่อให้สามารถ ปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย 3. บริษัทผู้รับเหมางานในงานที่มีความเสี่ยงเฉพาะ พนักงานจะต้องได้รับการอบรมในเรื่อง ความปลอดภัยใน การทํางานเกี่ยวกับงานเสี่ยงน้ันๆ โดยเฉพาะงานที่กฎหมาย ความปลอดภัยระบุไว้ให้ผู้ปฏิบัติงาน จะต้องผ่านการ ฝึกอบรม เช่น การทํางานที่ทําให้เกิดความร้อนและประกาย ไฟ ตัด/เชื่อม/เจียร ในพื้นที่หวงห้าม หรือมีเชื้อเพลิง, การ ทํางานบนที่สูง, การทํางานในที่อับอากาศ, การทํางานที่ต้อง ใช้สารเคมีอันตราย, การทํางานเกี่ยวกับรังสี, การทํางานที่ ต้องใช้เครื่องจักร ปั้นจั่น หม้อนํ้า รถ Forklift ฯลฯ 4. ผู้รับเหมาต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการ ทํางาน (จป.) โดยกําหนด เป็นมาตรฐานข้ันตํ่าไว้ ดังนี้ จํานวนลูกจ้างที่ทํางาน จป.ระดับต่างๆ ตั้งแต่ 2-19 คน จป.หัวหน้างาน และจป.บริหาร ตั้งแต่ 20-49 คน จป.เทคนิค จป.หัวหน้างาน และจป.บริหาร ตั้งแต่ 50-99 คน จป.เทคนิคขั้นสูง จป.หัวหน้างาน และจป.บริหาร ตั้งแต่ 100 คน ขึ้นไป จป.วิชาชีพ จป.หัวหน้างาน และจป.บริหาร


COMPANY NAME โดย WSF Trainers การปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับความร้อน ความปลอดภัยในการท างานที่เกี่ยวกับความร้อน จัดอุปกรณ์ดับเพลิงไว้ ในพื้นที่ใกล้เคียง ใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการ รับรองเท่านั้น ตรวจสอบอุปกรณืที่ใช้ ในการปฏิบัติงาน สวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน อันตรายส่วนบุคคล มีการระบาย อากาศที่ดี ห้ามปฏิบัติงานใกล้กับ วัตถุไวไฟ อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน อุปกรณ์ป้องกัน ดวงตา ถุงมือที่ท าจากหนัง รองเท้านิรภัย เสื้อผ้าที่ทน ความร้อน การขออนุญาต ท างานกับ ความร้อน Hot Work Permit


2 ก่อนใช้งานเครื่องเชื่อมไฟฟ้า และเครื่องเชื่อมก๊าซ จัดให้มีฉากกั้นหรืออุปกรณ์ป้องกันอันตราย อื่นๆที่เหมาะสมเพื่อป้องกันอันตรายจาก ประกายไฟและแสงจ้า จัดสถานที่ปฏิบัติงานให้มีแสงสว่าง และการระบายอากาศอย่างเหมาะสม 3 ในการท างานเกี่ยวกับเครื่อง เชื่อมไฟฟ้า จัดให้มีการใช้สายดินของวงจรเชื่อม สาย เชื่อม และหัวจับลวดเชื่อมตามขนาดและ มาตรฐานท่ก าหนดไว้ในรายละเอียด คุณลักษณะ จัดสายไฟฟ้าและสายดินให้ห่างจากการ บดทับของยานพาหนะ น ้า หรือที่ชื้นแฉะ เพื่อป้องกันการเกิดอันตราย 1 การขออนุญาตท างานกับความร้อน (Hot Work Permit) บุคคลที่ท างานที่ก่อให้เกิดประกายไฟต้องขออนุญาตใน การท างาน (Work Permit) ก่อนทุกครั้ง ตัวอย่าง ใบอนุญาตการท างาน (Work Permit) 4 นายจ้างต้องจัดให้มีมาตรการด้าน ความปลอดภัยเกี่ยวกับถังบรรจุก๊าซ จัดให้มีการยึดถังป้องกันถังล้ม เช่น คล้องโซ่ มีอุปกรณ์ป้องกันวาล์ว เช่น โกร่ง ก าบัง หรือฝาครอบวาล์วปิดขณะ ไม่ได้ใช้ก๊าซ ป้องกันไม่ให้ถังเกิดการสั่นสะเทือน อันอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ 5 นายจ้างต้องใช้ถังบรรจุก๊าซที่มีการ ติดตั้งกลอุปกรณ์นิรภัยแบบระบาย การจัดเก็บถังบรรจุก๊าซให้เป็นไปตามกฎกระทรวง ว่าด้วยการก าหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการ และด าเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท างานเกี่ยวกับการ ป้องกันและระงับอัคคีภัย ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “HSE NC Library” ที่มา : www.safetyinthai.com


ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “HSE NC Library” Contractor Safety โดย WSF Trainers กฎระเบียบด้านความปลอดภัย Golden Rule for Workplace Safety 1. ต้องมีการขอใบอนุญาตท างานที่มีความเสี่ยงสูง - High risk job work permit process 2. ผู้รับผิดชอบที่ได้รับการรับรองต้องติดป้ายความ ปลอดภัยส าหรับการท างานที่มีความเสี่ยงสูง - Visible safety badge for high risk job 3. ต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล - Appropriate Personal Protective Equipment (PPE) 4. เครื่องจักร/เครื่องมือต้องผ่านการรับรองด้าน ความปลอดภัย - Qualified Machine/ tools 5. ปฎิบัติตามป้ายเตือนด้วยความปลอดภัยทั้งหมด อย่างเคร่งครัด - Follow all safety and warning sign ความปลอดภัย ของผู้รับเหมา 3. ขั้นตอนการปฏิบัติกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน 3.1 ผู้รับเหมาแจ้งรปภ. / เจ้าหน้าที่ CR เมื่อผู้รับเหมามีเหตุกรณีฉุกเฉิน , อัคคีภัย , เกิดอุบัติเหตุจาก การท างาน ให้ผู้รับเหมารีบแจ้งเจ้าหน้าที่ รปภ. / จป. เมื่อผู้รับเหมามีเหตุกรณีฉุกเฉิน , อัคคีภัย , เกิดอุบัติเหตุจาก การท างาน ให้ผู้รับเหมารีบแจ้งเจ้าหน้าที่ รปภ. / จป. 3.2 เจ้าหน้าที่ CR เข้าท าการช่วยเหลือ 3.3 แจ้งรายงานตามล าดับขั้นตอน จป. / เจ้าหน้าที่ รปภ. แจ้งรายงานตามล าดับขั้นตอน 3.4 สรุปรายงานแจ้งลูกค้า จป. ท าการส่งรายงานส่ง E- mail แจ้งลูกค้า ▪ ภายใน 24 ชั่วโมงกรณีมีเหตุผู้เสียชีวิต หรือกรณีเกิดอัคคีภัยขั้นรุนแรง ▪ ภายใน 48 ชั่วโมงกรณีมีเหตุผู้บาดเจ็บ ตัวอย่างใบอนุญาตท างาน (Work Permit)


ความปลอดภัยในงานก่อสร้าง 1. ความปลอดภัยในสถานที่ 1.1 การท ารั้วกั้นโดยรอบบริเวณก่อสร้างทั้งหมดเพื่อ ป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในเขตก่อสร้าง รวมถึงท าหลังคา คลุมเพื่อป้องกันเศษวัสดุตกใส่ผู้สัญจรไปมาภายนอก 1.2 สถานที่ที่มีอันตรายในพื้นที่ก่อสร้างต้องมีป้ายสัญลักษณ์ เตือนภัยต่างๆ หรือข้อควรปฏิบัติส าหรับผู้จะเข้าไปในบริเวณ ดังกล่าว 1.3 อาคารขณะก่อสร้างในที่มีช่องเปิดหรือที่ไม่มีแผงกั้น ควร ท าราวกั้น และมีตาข่ายเสริมเพื่อป้องกันการตกของวัสดุหรือ คนงาน 2. ความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือ เครื่องจักร 2.1 ก่อนและหลังการใช้เครื่องมือ เครื่องจักร ต้องมีการ ตรวจสอบและซ่อมแซม ก่อนหรือหลังการใช้งานทุกครั้ง 2.2 เครื่องมือที่ใช้ไฟฟ้าควรมีการเดินสายอย่างปลอดภัย โดย มีการหุ้มฉนวนตลอด บริเวณที่มีเครื่องมือที่มีการใช้เชื้อเพลิง ห้ามก่อประกายไฟ หรือสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด 2.3 การใช้เครื่องมือเครื่องจักรต่างๆ ควรใช้งานอย่าง เหมาะสมและถูกต้องเสมอ โดยห้ามใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ 2.4 ควรมีการอบรมแก่ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้ รู้จักการใช้งานได้อย่างถูกต้อง 3. ความปลอดภัยส่วนบุคคล 3.1 การแต่งกายของผู้ปฏิบัติงานควรเป็นชุดที่รัดกุมไม่ ปล่อยชายเสื้อหรือแขนเสื้อหลุดลุ่ย รวมถึงสวมใส่ อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยเสมอ 3.2 ห้ามดื่มมสุรา และใช้สารเสพติดต่างๆ รวมถึงการ เล่น หยอกล้อกันระหว่างปฏิบัติงาน 3.3 เมื่อมีการใช้เครื่องมือเรียบร้อย ควรมีการเก็บให้ เป็นที่ เครื่องมือหลายๆอย่างเป็นเครื่องมีที่มีความคม ควรจะเก็บในพื้นที่ที่ปลอดภัย หรือกล่องอุปกรณ์ก่อน เมื่อถึงเวลาจะใช้งานจึงน าออกมา อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) หมวกนิรภัย (Safety Helmet) ใช้ส าหรับป้องกันศีรษะที่เกิดจากการ กระแทก หรือมีสิ่งของตกหล่น แว่นตานิรภัย (Safety Glasses) ใช้ส าหรับป้องกันดวงตาจากเศษฝุ่น เศษโลหะ สารเคมีที่อาจโดนดวงตา ปลั๊กลดเสียง (Ear Plugs) ใช้ส าหรับป้องกันหูจากการรับสัมผัส เสียงที่ดังมากกว่าปกติ เป็นเวลานาน ถุงมือนิรภัย (Safety Gloves) ใช้ส าหรับป้องกันมือจากของมีคม ความร้อน การสัมผัสสารเคมีที่ อาจจะระคายเคืองหรือบาดเจ็บได้ เข็มขัดนิรภัย (Safety Harness) ใช้ส าหรับการท างานบนที่สูงเพื่อ ป้องกันไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานตกลง มา หากเกิดอุบัติเหตุ รองเท้านิรภัย (Safety Shoes) ใช้ส าหรับป้องกันอันตรายจากการท างานในพื้นที่เสี่ยงต่อ การกระแทก หรือถูกสิ่งของที่มีน ้าหนักมากตกใส่ ขั้นตอนการปฏิบัติงานส าหรับผู้รับเหมา 1.1 การคัดเลือกผู้รับเหมา จป.วิชาชีพ ตรวจเช็คข้อมูลใบสัญญาว่าจ้างด้านความ ปลอดภัย เช่น การจัดการด้านความปลอดภัยรายการอุปกรณ์ PPE ของผู้รับเหมา หรือมีบุคลากรที่เป็น จป. ระดับต่างๆ หรือไม่ เป็นต้น 1.2 ผู้รับเหมาจัดท ารายการเครื่องมือ ผู้รับเหมาจัดท ารายการเครื่องมือ-อุปกรณ์ท างาน เช่น รายการเครื่องจักร , รายการเครื่องมือช่าง , รายการอุปกรณ์ PPE , รายการสารเคมีที่ใช้งาน พร้อมลักษณะการท างานตาม ประเภทงาน โดยจะต้องส่งรายการล่วงหน้า 7 วันก่อนเข้ามา บริษัทฯ 2.1 ผู้รับเหมาเข้ามาติดต่อที่ป้อมรปภ. 2.2 อบรมผู้รับเหมา 2.3 ตรวจสอบเขตก่อสร้าง 2.4 เปิดใบอนุญาตท างาน (Work Permit) 2.5 ตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้รับเหมา 2.6 ปิดใบอนุญาตท างาน (Work Permit) 1. ขั้นตอนการคัดเลือกผู้รับเหมา 2. ขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อผู้รับเหมาเข้ามาท างาน


Sexual Harassment เกิดในรูปแบบใดบ้าง ? WOMAN HEALTH โดย WSF Trainers วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการอบรมเกิดความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับ Sexual Harassment 2. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการอบรมเกิดความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ และโรคทางเพศสัมพันธ์ 3. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการล่วงเกินล่วงละเมิดทาง เพศ การล่วงเกินทางเพศเริ่มมาจาก ◼ Verbal ค าพูด 83 % ◼ Physical แตะต้อง 14 % ◼ Visual สายตา 1 % ◼ Written ข้อเขียน 2 % Sexual Harassment หมายถึง การคุกคามทางเพศ หรือการล่วงละเมิด ล่วงเกินทางเพศรูปแบบของการ คุกคามทางเพศนั้น ไม่ได้จ ากัดอยู่เฉพาะการข่มขืน ลวนลาม หรือสัมผัสร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการ แทะโลมด้วยสายตา ค าพูด หรือกริยาท่าทางด้วย ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “HSE NC Library”


Sexual Harassment ส่งผล กระทบอย่างไร ◼ เกิดอาการซึมเศร้า ◼ ความเชื่อใจที่มีต่อสังคม, คน อื่นลดลง ◼ ความมั่นใจในตัวเองลดลง ◼ การเห็นคุณค่าในตัวเองลดลง ◼ เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย การป้องกันตนเองไม่ให้โดน คุกคามทางเพศ ◼ ไม่เพิกเฉย ผู้ถูกกระท าไม่ควรเพิกเฉย ต้องแสดงออกถึงความไม่พอใจ รู้จักพูด ปฏิเสธเมื่อถูกคุกคาม ◼ ร้องเรียน หรือพูดคุยกับผู้มีอ านาจในโรงเรียน หรือในองค์กร เช่น คุณครู ต ารวจ เจ้านาย เป็นต้น ◼ ให้ความช่วยเหลือ หากอยู่ในสถานการณ์ หรือพบเห็นผู้ถูกกระท าไม่ควรเพิกเฉย โดย อาจใช้วิธีห้าม หรือขอร้องให้หยุดการกระท านั้น เพราะการพบเห็นเหตุการณ์แต่ เพิกเฉยเท่ากับว่าเราเป็นส่วนร่วมในการกระท านั้นด้วย เพศสัมพันธ์หรือเซ็กส์ มี 2 รูปแบบ ⚫ เพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ ( Sexual Intercourse ) หมายถึง กิจกรรมเพื่อความสุขทาง เพศหรือเพื่อสืบพันธุ์หรือทั้งสองอย่าง โดยขณะการมีเพศสัมพันธ์อวัยวะเพศชายจะ แข็งตัวและสอดใส่เข้าไปยังของเพศหญิงและมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ ⚫ เพศสัมพันธ์แบบไม่สอดใส่ ( Sexual Outercourse ) หมายถึง กิจกรรมเพศสัมพันธ์ ภายนอก เช่น การเล้าโลม ( Foreplay ) การส าเร็จความใคร่ให้กันและกัน ( Mutual Masturbation ) และการท าออรัลเซ็กส์ ( Oral Sex ) โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ STD (Sexually Transmitted Disease) หมายถึง โรคที่ติดต่อจากบุคคล หนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง โดยผ่าน การมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์อาจรุนแรงถึงขั้น เสียชีวิตก่อนวัยอันควร เชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคนี้ แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ 1. เชื้อไวรัส ได้แก่ เริม (Herpes Simplex), หูดหงอนไก่ (Papilloma Virus หรือ HPV), เอดส์(HIV) 2. เชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ หนองในแท้(Gonorrhea), หนองในเทียม (Chlamydia), ซิฟิลิส (Syphilis) 3. เชื้ออื่นๆ ได้แก่ เชื้อพยาธิ(Trichomonas), เชื้อรา (Candida) อาการของโรคที่พบได้ คือ ⚫ มีตกขาวผิดปกติ ⚫ ตกขาวมีกลิ่น มีอาการคันหรือ ระคายเคือง ⚫ มีตุ่ม มีผื่น หรือแผล บริเว อวัยวะเพศ ⚫ ปัสสาวะแสบขัด ⚫ เชื้อบางชนิด อาจไม่แสดงอาการ ในระยะแรก หรือบางระยะโรค วิธีการป้องกันโรค ◼ ใช้ถุงยางอนามัย ◼ ไม่เปลี่ยนคู่นอน ◼ ไม่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เสี่ยงโรค ◼ รักษาความสะอาด ร่างกายและ อวัยวะเพศ ◼ ตรวจสุขภาพสม ่าเสมอ ◼ ศึกษาเรื่องโรคติดต่อทาง เพศสัมพันธ์ ◼ ปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ สิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อถูกคุกคามทางเพศ ◼ แสดงออก ผู้ถูกกระท าต้องแสดงออกทันทีว่าไม่พอใจ หรือถอยห่างจากบุคคลนั้น ◼ ส่งเสียงร้อง เรียกให้ผู้อื่นช่วย เพื่อให้ผู้กระท าหยุดการกระท า ◼ บันทึกหลักฐาน หากตกอยู่ในสถานการณ์ถูกคุมคามทางเพศ ควรตั้งสติแล้วกด บันทึกเสียง บันทึกภาพ วิดีโอ (หากท าได้) หรือบันทึกเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องเป็นลายลักษณ์ อักษรทันที ◼ แจ้งปัญหา ผู้ถูกกระท าควรรีบเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้บุคคลที่ไว้ใจทราบทันที และแจ้งปัญหา ที่เกิดขึ้น กับผู้บังคับบัญชา บุคคล หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบด้วยตนเอง หรืออาจให้ เพื่อนมาแจ้งแทน


โดย WSF Trainers วัตถุประสงค์ 1. สามารถระบุความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อ และ กระดูกที่เกี่ยวข้องกับงาน 2. ตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติ ของระบบกล้ามเนื้อ และกระดูก 3. สามารถระบุวิธีการควบคุมตามหลักสรีรศาสตร์ ส าหรับการก าจัด/ลดความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อ และกระดูกที่เกิดจากการท างาน “ การยกและเคลื่อนย้ายวัสดุ ด้วยแรงกาย มักพบในสถาน ประกอบกิจการเกือบทุกแห่ง “ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก กลาง หรือ ใหญ่ ซึ่งวัสดุที่ต้องยกและเคลื่อนย้ายอาจจะมีน ้าหนักมาก มีขนาดใหญ่หรือมีรูปร่างที่ไม่เป็นมาตรฐาน และบางหน้าที่ ต้องปฏิบัติงานนั้นเป็นประจ าหรือหลายชั่วโมงตลอดการ ท างาน จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดปัญหาการบาดเจ็บที่ กล้ามเนื้อและระบบบโครงสร้างกระดูก เช่น บริเวณหลัง ส่วนล่าง บริเวณคอและไหล่ บริเวณขาและหัวเข่า เป็นต้น โดยในระยะเริ่มต้น จะมีอาการปวดเมื่อยที่ส่วนร่างกาย อาการเหล่านี้จะสะสมและเพิ่มระดับอาการขึ้น ซึ่งจะเป็น ผลกระทบต่อสมรรถภาพการท างานของตัวผู้ปฏิบัติงาน และเกิดการบาดเจ็บได้ อาการเหล่านี้จะสะสมและเพิ่ม ระดับอาการขึ้น ซึ่งจะเป็นผลกระทบต่อสมรรถภาพการ ท างานของตัวผู้ปฏิบัติงาน และเกิดการบาดเจ็บนี้อาจจะ เป็นการบาดเจ็บถาวรมีผลให้ไม่ สามารถปฏิบัติงานยกและเคลื่อนย้าย หรืองานใช้แรงกายอื่นๆ ได้ และมีผล ต่อคุณภาพชีวิตของตัวผู้ปฏิบัติงานอีกด้วย ท่าทางการยก และเคลื่อนย้ายวัสดุที่ถูกต้อง 1. ยืนใกล้วัตถุที่จะยก วางเท้าให้ถูกต้องและมีความมั่นคงเพื่อป้องกัน การเสียสมดุลของร่างกาย 2. เมื่อต าแหน่งมือจับของวัสดุอยู่ต ่ากว่าระยะก าปั้น (ขณะยืน) ให้ย่อเข่าโดยให้หลังอยู่ในแนวเส้นตรง เพื่อรักษาส่วนโค้งของกระดูกสันหลังให้เป็นไปตาม ธรรมชาติ จะท าให้แรงกดบนหมออนรองกระดูกสัน หลังมีการกระจายตัวเท่าๆ กันในขณะยกวัสดุ 3. จับวัสดุให้มั่นคงโดยใช้อุ้งมือประคองจับ เพื่อป้องกันการลื่นหลุดดจากมือ และหากเป็นไปได้ ควรมีที่จับเพื่อให้จับได้ถนัดและง่าย 4. ควรให้แขนชิดล าตัว ไม่ควรกางแขนออก และให้วัสดุที่จะยกอยู่ชิดล าตัว ให้มากที่สุด เพื่อให้มวลของวัสดุผ่านลงที่ต้นขาทั้งสอง ข้าง 5. ค่อยๆ ยืดเข่า ยกตัวยืนขึ้นโดยใช้ก าลังจาก กล้ามเนื้อขา และขณะที่ยืนขึ้น หลังจะอยู่ในแนวตรง หรือเป็นไป ตามธรรมชาติ 6. ควรให้ต าแหน่งของศีรษะอยู่ในแนวตรงกับกระดูก สันหลัง ไม่ก้ม โดยที่ในขณะยกวัสดุขึ้นและเดินจะต้อง มองเห็นทางเดินได้อย่างชัดเจน คือ วิชาการที่เป็นการปรับเปลี่ยนสภาพงานให้ เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัยและ สุขภาพต่างๆ ในการท างานของพนักงานที่เกิดขึ้นจาก สภาพการท างานที่ไม่เหมาะสม เช่น อุณหภูมิ ที่สูง มีเสียงดัง มีแสงสว่างมากหรือ เครื่องมือต่างๆ ที่มีขนาดไม่เหมาะสมกับ พนักงาน เช่น เก้าอี้ที่มีขนาดสูงเกินไป การเอื้อมหรือยกสิ่งของสุดแขน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หรืองานที่ต้องก้มบ่อยๆ เป็นต้น “HSE NC Library”


ท่าบริหารร่างกายป้องกัน โรคออฟฟิศซินโดม \ 4 ปัญหาการยศาสตร์ คืออะไร? การประสบอันตรายจากการยก 1. หรือเคลื่อนย้ายของหนัก 2. การประสบอันตรายจาก ท่าทางการท างาน 3. อาการเจ็บป่วยจากการ เคลื่อนย้ายของหนัก 4. อาการเจ็บป่วยจาก ท่าทางการท างาน ตัวอย่างการแก้ปัญหาด้านการยศาสตร์ที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น ท่าทางในการยกสิ่งของที่ผิดวิธีเช่น การก้มหลังยกซึ่งถือเป็นวิธีที่ผิด! ที่ถูกต้องควรใช้ การย่อตัวแทน เพราะการก้มหลังนั้นจะส่งผลเสีย ต่อกระดูกสันหลังที่เป็นต้นเหตุของอาการปวดหลัง หรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือ ท่าทางการใช้งาน เครื่อง คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะต้องมีการจัดท่าทางในการนั่ง การปรับระดับความสูงของเก้าอี้ การปรับระดับ ของหน้าจอ เป็นต้น เมื่อนั่งถูกท่าตาม หลักการยศาสตร์แล้ว ก็ต้องดูแลเรื่องสถานที่ ที่ปฏิบัติงานและ อุปกรณ์ เพื่อลด ความเสี่ยงที่จะเป็น โรค Office syndrome หลังตรง หรือเอนไปด้านหลัง เล็กน้อย ถ้าเก้าอี้มีพนักพิงหลัง นั่ง ศีรษะ สายตา มือและแขน เข่า ตั้งตรง หรือ ก้ม เล็กน้อย ในแนวราบควรอยู่ ระดับเดียวกับขอบบนจอภาพ ท่อนล่าง อยู่ในแนวเส้นตรงตั้งฉากประมาณ 90 องศากับแขนท่อนบน ท ามุม 90 องศากับพื้น และวางเท้าไว้ที่พื้นหรือที่พักเท้า บริหารต้นคอ บริหารหัวไหล่ บริหารฝ่ามือ บริหารหลัง บริหารช่วงสะโพก ที่มา : www.tosh.com และ www.safetyinthai.com


1 ตั้งสติ ไม่ตื่นตะหนก โดย WSF Trainers วัตถุประสงค์ ◼ เพื่อให้ทีม WSF เข้าใจหลักการท างานการ จัดการความปลอดภัยเกี่ยวกับอัคคีภัยภายใน บริษัทฯ ◼ เพื่อให้ทีม WSF เข้าใจประเภทของอุปกรณ์ ระงับอัคคีภัย , ป้ายชี้บ่ง ภายในบริษัทฯ ◼ เพื่อให้ทีม WSF เข้าใจและวิธีการใช้ถัง ดับเพลิงเบื้องต้น การจัดการความ ปลอดภัยด้านอัคคีภัย Fire Safety Management สาเหตุหลักของหารเกิดอัคคีภัย อุปกรณ์ไฟฟ้าขั้วต่อหลวมไม่ได้ มาตรฐานจะเกิดประกายไฟ การจุดบุหรี่ หรือการจุดไฟ และทิ้งก้นบุหรี่ การเสียดทาน การเสียดสีของ เครื่องจักร ท าให้เกิดความร้อนสูง วัตถุที่มีผิวร้อนจัด เช่น เหล็กที่ถูกเผา เมื่อเชื้อพลิงสัมผัสจะเกิดการลุกไหม้ สะเก็ดไฟ ประกายไฟ หรือเปลวไฟ ไฟฟ้าสถิต เกิดจาการถ่ายเท ประจุไฟฟ้าระหว่างกัน ปฏิกิริยาของสารเคมีบางชนิดเมื่อ สัมผัสกับน ้า อากาศ จะเกิดไฟลุกไหม้ 2 ดึง/ กด สัญญาณเตือนไฟไหม้ 3 โทรแจ้ง 199 มาควบคุมเพลิง 4 ใช้ถังดับเพลิง ควบคุมในเบื้องต้น 5 หาผ้าชุบน ้า ปิดจมูกและปาก อย่าพึ่งเปิดประตู 6 ให้ใช้มือสัมผัสลูกบิดประตู หากร้อนไม่ควรออกไป 7 หรือย่อตัวใกล้กับระดับพื้น หมอบคลานต ่า 8 ห้ามใช้ลิฟต์ หรือย่อตัวใกล้กับระดับพื้น 9 ถ้าไฟลุกติดเสื้อผ้า ให้รีบถอดเสื้อผ้าหรือใช้วิธี นอนราบกับพื้น 10 ไม่หนีไปอยู่ในห้องน ้า และไม่ขึ้นชั้นบนหรือดาดฟ้า ยกเว้นหนีลงชั้นล่างไม่ได้ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “HSE NC Library”


แจ้งเหตุด้วยสัญญาณเตือนภัยและแจ้ง เหตุเพลิงไหม้ให้คนรอบข้างทราบ แจ้งเหตุเพลิงไหม้ต่อหน่วยงานระงับเหตุ ฉุกเฉินขององค์กร หยุดกระบวนการผลิตหรือเครื่องจักรที่ อาจก่อให้เกิดอันตราย หากไม่สามารดับเพลิงใน เบื้องต้นได้ให้ปิดประตูและหนี อพยพออกจากที่เกิดเหตุทางบันไดไปตามเส้นทาง หนีไฟที่ไปยังทางออกที่ใกล้ที่สุด ห้ามใช้ลิฟต์ อย่าน าสิ่งของขนาดใหญ่ติดตัวไปด้วย ขณะ อพยพหนีไฟ อพยพออกจากที่เกิดเหตุอย่างเป็นระเบียบ อย่าวิ่ง หรือผลักกัน เมื่ออพยพออกจากที่เกิดเหตุให้ไปยัง จุดรวมพล เตรียมให้พร้อม จัดเตรียม อุปกรณ์ที่ใช้ในการดับเพลิง และไปยังที่เกิดเหตุโดย เร็วที่สุด ตรวจสอบประเภทของ เพลิงไหม้และประเมิน สถานการณ์ความรุนแรง ของเพลิงไหม้ ดับเพลิงโดยใช้เครื่องดับ เพลิงชนิดที่เหมาะสมกับ ประเภทของเพลิงที่เกิดขึ้น ประเภท A เพลิงที่เกิดจากเชื้อเพลิง ของแข็ง เช่น ไม้ ผ้า กระดาษ พลาสติก ประเภท B เพลิงในของเหลวและก๊าซ ติดไฟ เช่น น ้ามัน ก๊าซหุงต้ม จาระบี ประเภท C เพลิงจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มี กระแสไฟฟ้าไหลอยู่ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร ประเภท D ประเภทของแข็งหรือโลหะ ไวไฟ เช่น แมกนีเซียม ห้ามใช้น ้าดับ!!! ประเภท K เพลิงที่เกิดจากน ้ามันที่ใช้ ประกอบอาหาร ไขมันสัตว์ ABOUT US ขั้นตอนที่ 1 ผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ การดับเพลิงเบื้องต้น ไฟเกิดจากการรวมตัวขององค์ประกอบ 3 ประการ ที่รวมตัวกันจนได้สัดส่วน ในกรณีเพลิงไหม้เล็กน้อยให้ใช้ เครื่องดับเพลิงที่อยู่ใกล้เคียง ขั้นตอนที่ 2 การอพยพหนีไฟ ขั้นตอนที่ 3 การระงับเหตุเพลิงไหม้ ประเภทที่เกิดจากเพลิงไหม้ มี 5 ประเภท ดังนี้ 1. ถังดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง (Dry Chemical) เมื่อฉีดออกมาจะฟุ้งกระจาย และเมื่อ ฉีดแล้ว แรงดันจะตกไม่สามารถใช้งาน ได้อีก 2. ชนิดน ้ายาเหลวระเหย เมื่อฉีดใช้งานจะไม่ทิ้งคราบสกปรก ไม่ท าลายอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย *ส าหรับใช้ดับไฟภายใน* 3. ชนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เมื่อฉีดก๊าซที่ฉีดออกมาจะเป็นไอเย็นจัด คล้ายน ้าแข็งแห้ง ลดความร้อนของไฟ ได้ ไม่ทิ้งคราบสกปรก 4. ชนิดโฟม สารเคมีภายในบรรจุโฟม เมื่อฉีดจะเป็นฟองโฟมคลุมเพลิงที่ลุก ไหม้ ไม่สามารถดับเพลิงประเภท C ได้ เพราะเป็นสื่อน าไฟฟ้า


ระบบบริหารจัดการด้านการป้องกันเพื่อให้สถานที่ เก็บรักษาวัตถุอันตรายมีความปลอดภัยประกอบด้วย มาตรการดังนี้ Chemical Safety Management โดย WSF Trainers วัตถุประสงค์ ช่วยให้ทุกคนเข้าใจความหมายของสารเคมี การสัมผัสสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย และผลกระทบที่เป็น อันตรายของสารเคมี มาตรการการป้องกัน 1. การจัดการด้านสุขศาสตร์ การจัดการด้านสุขศาสตร์ หมายถึง การจัดการ เพื่อควบคุมปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมไม่ให้ส่งผลกระทบต่อ สุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน 1.1 สุขอนามัยของผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับวัตถุ อันตรายต้องด าเนินการ 1.2 การตรวจสุขภาพ การบันทึกผล การแจ้ง และการส่งผลการตรวจสุขภาพผู้ปฏิบัติงานให้เป็นไปตาม กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน 2. การใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล 2.1 ต้องจัดให้ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับวัตถุอันตราย สวมอุปกรณ์ป้องกันอันตราย ส่วนบุคคล ตามความ จ าเป็นและเหมาะสมต่อการปฏิบัติงานนั้นๆ 2.2 ต้องดูแลรักษาอุปกรณ์ป้องกันอันตราย ส่วนบุคคลให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย พร้อมที่จะใช้งานได้ อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา 3. เครื่องหมายความปลอดภัย เครื่องหมายความปลอดภัยได้แก่ป้ายต่างๆดังนี้ ◼ ป้ายห้าม คือ ป้ายห้ามการปฏิบัติที่จะก่อหรือเป็นเหตุให้ เกิดอันตราย ◼ ป้ายเตือน คือ ป้ายเตือนใหระวังภัยหรืออันตรายที่อาจ เกิดขึ้น ◼ ป้ายบังคับ คือ ป้ายที่ก าหนดใหต้องปฏิบัติสิ่งหนึ่งสิ่งใด ป้ายข้อมูล คือป้ายที่ให้ ข้อมูลเฉพาะ เช่น ทางหนีไฟ ห้อง ปฐมพยาบาล เป็นต้น 3.1 ป้ายห้าม ป้ายเตือน ป้ายบังคับ และป้ายข้อมูล ต้องมีขนาดที่เหมาะสม ติดไว้ให้เห็นเด่นชัดบริเวณพื้นที่ ต้องใช้ป้ายนั้นๆ 3.2 ต้องควบคุม ดูแลคนงานหรือผู้ที่จะเข้าไปใน บริเวณดังกล่าว ปฏิบัติตามป้ายนั้นๆ อย่างเคร่งครัด 4. การจัดการเมื่อเกิดการหกรั่วไหลและตอบโต้ภาวะ ฉุกเฉิน การหกรั่วไหลของวัตถุอันตรายอาจเกิดได้ เนื่องจากการเคลื่อนย้าย ภาชนะที่ใช้บรรจุช ารุด มาตรการที่ใช้ลดความเสี่ยงอันตรายจากการหกรั่วไหล จะต้องมีความพร้อมของอุปกรณ์ และต้องท าการเก็บท า ความสะอาดทันที โดยศึกษาข้อมูลความปลอดภัย (SDS) รวมทั้งต้องระมัดระวัง ไม่ให้วัตถุอันตรายที่หกรั่วไหลนั้น มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การซ้อมแผนฉุกเฉินสารเคมี หกรั่วไหล และการสวมใส่ อุปกรณ์ป้องกันอันตราย ส่วนบุคคล ป้ายแสดงความปลอดภัย (Safety Sign) ในการท างานกับสารเคมี ข้อมูลความปลอดภัยเกี่ยวกับสารเคมี (Safety Data Sheet; SDS) การจัดการความ ปลอดภัยเกี่ยวกับสารเคมี ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “HSE NC Library”


การติดตั้งป้องกันการระเบิด (Explosion-proof Installation) ชุดประกอบสายดินยึดกับ พื้นดิน สายดิน สายดิน อุปกรณ์ป้องกัน การกระเด็น อุปกรณ์ป้องกันระเบิด หรือแอร์มอเตอร์ สายดินพร้อมชุดสาย ดิน สายต่อเคเบิล “ ปฏิบัติตามกฎ ลดอุบัติเหตุ ”


อุปกรณ์ป้องกันอันตราย จากเครื่องจักร Machine Guarding - โดย WSF Trainers - วัตถุประสงค์ ◼ เพื่อให้เข้าใจถึงประเภทเครื่องจักร ◼ เพื่อให้เข้าใจถึงกลไกอันตรายของเครื่องจักร ◼ เพื่อให้สามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่เกิด จากอันตรายจากเครื่องจักรจากการปฏิบัติหน้าที่ ◼ เพื่อให้เข้าใจถึงหน้าที่หลักของอุปกรณ์ป้องกัน อันตรายจากเครื่องจักร ◼ เพื่อให้เข้าใจถึงชนิดของอุปกรณ์ป้องกัน อันตรายจากเครื่องจักร ◼ เพื่อให้เข้าใจถึงการปฏิบัติในการบ ารุงรักษาและ ซ่อมแซมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร หมายถึง ชิ้นส่วนหลายชิ้นเพื่อใช้ ก่อก าเนิดพลังงานเปลี่ยนหรือแปลงสภาพพลังงาน หรือส่งพลังงานด้วยก าลังน ้า ไอน ้า ลม ก๊าซ ไฟฟ้า หรือพลังงานอื่นๆ การถูกหนีบ 1ส่วนใด ของเครื่องจักรเคลื่อนไหว ก่อให้เกิดจุดหนีบ บีบ อัด และดึงหรือฉุด 2การถูกชน หรือกระแทก ส่วนใดที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว 3 การสัมผัสถูก ส่วนใดที่แหลมคม ร้อน เย็น หรือกระแสไฟฟ้า การเกี่ยวพัน หรือถูกดึงเข้าไป 4 ส่วนใดที่ก่อให้เกิดการเกี่ยวพัน หรือดึงเสื้อ กางเกง ถุงมือ ผม และเครื่องประดับ 5การพ่น หรือเป่าใส่ ส่วนใดที่กระเด็น หรือถูกขับ ออกมา 1 2 3 4 5 เครื่องจักรไม่มีเซฟการ์ดที่ เหมาะสม เครื่องจักรบางเครื่องมีจุดที่ น่าจะเกิดอันตราย แต่เจ้าของก็ไม่ได้ ดูแลให้มีการติดตั้งเซฟการ์ดให้ เหมาะสม มีการถอดเซฟการ์ดออก เพื่อซ่อมบ ารุง เมื่อเสร็จแล้วไม่ได้ใส่เซฟ การ์ดกลับเข้าที่เดิม มีการปล่อยปละละเลย เช่น เครื่องจักรในที่สูงไม่ จ าเป็นต้องมีเซฟการ์ด พนักงานขาดทัศนคติที่ ปลอดภัย คือ ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ เสี่ยงอันตรายโดยไม่จ าเป็น พนักงานขาดการฝึกอบรม ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “HSE NC Library”


ป้องกันไม่ให้คนสัมผัสกับ ส่วนที่เคลื่อนไหวอยู่ ตลอดเวลาของเครื่องจักร ป้องกันไม่ให้คนสัมผัส กับลักษณะงานที่เป็น อันตรายมาก ป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ หรือป้องกันอันตรายจาก ไฟฟ้า เนื่องจากระบบไฟฟ้า ช ารุดหรือต่อไว้ไม่ถูก ป้องกันอันตรายที่เกิดจากการช ารุดของ เครื่องจักรเนื่องจากเครื่อง จักรขาดการบ ารุง รักษาใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือใช้เครื่องจักรเกินก าลัง ป้องกันอันตรายเนื่องจาก ความบกพร่องของผู้ใช้เอง เช่น ง่วง เหนื่อย เมื่อยล้า เป็นต้น ได้รับการออกแบบถูกต้องตาม มาตรฐาน สามารถประกอบกับ เครื่องจักรได้เหมาะสม สามารถป้องกันอันตรายได้มาก ที่สุด และทั่วบริเวณการท างานของ คนงาน เซฟการ์ดที่ติดตั้งจะต้องไม่เป็น ชนวนให้เกิดอันตรายกับคนที่ใช้ เครื่องจักรนั้น สามารถถอดดเพื่อซ่อมแซม และ บ ารุงรักษาได้ง่าย มีความเหมาะสมกับงาน และ เครื่องจักรนั้น ต้องทนทานต่อการกัดกร่อนของ กรด ด่าง วัสดุที่ใช้ท าต้องคงทนแข็งแรง สามารถรับน ้าหนักแรกกระแทก แรงกดได้อย่างดี 1 มาตรการด้านเทคนิคออกแบบ อุปกรณ์ป้องกันให้มีลักษณะ ดังนี้ ◼ มีระบบความปลอดภัยในตัว ◼ ลดความจ าเป็นที่จะเข้าใกล้ส่วน ที่เป็นอันตราย ◼ ใช้ Ergonomics ช่วยลดความ ผิดพลาดหรือความเมื่อยล้า มาตรการด้านการปฏิบัติ ◼ วางแผนการบ ารุงรักษา และตรวจสอบ เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ป้องกัน ◼ จัดระบบ ระเบียบ การท างานของ เครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพ ◼ออกระเบียบอนุญาตท างานกับเครื่องจักรที่ มีความเสี่ยง 2 3 มาตรการด้านพฤติกรรม ◼ ฝึกอบรมขั้นพื้นฐาน วิธีการท างาน และอันตรายของเครื่องจักร ◼ ให้ความรู้และทักษะในการสังเกต สิ่งผิดปกติ และแนวทางแก้ไข


Click to View FlipBook Version