The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บันทึกการเรียนรู้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suthathip1712.beem, 2021-05-05 14:49:00

บันทึกการเรียนรู้

บันทึกการเรียนรู้

การเปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมท่ี ทกั ษะปฏบิ ตั ขิ อง พฤติกรรมการเรยี นรู้ ทกั ษะปฏบิ ตั ขิ อง
คอ่ นขา้ งถาวรท่ีมาจากประสบการณ์ Dave ด้านทกั ษะพสิ ยั Simpson

ความหมายเกย่ี วกับการ การรบั รู้ ตอบสนอง
เรยี นรู้ Receiving Responding

ความเขา้ ใจ ความรู้ แนวคดิ เกยี่ วกบั พฤตกิ รรมการเรยี นรู้
Comprehension Knowledge การเรยี นรู้ ด้านจติ พสิ ยั

การนาไปใช้ พฤตกิ กรรมการเรยี นรู้ เห็นคณุ คา่ / สร้างคา่ นยิ ม จัดระบบคา่ นยิ ม
Application ด้านพทุ ธิพสิ ยั Valuing Organization

การวเิ คราะห์ การสงั เคราะห์ การประเมนิ คา่ สร้างลกั ษณะนสิ ยั จากคา่ นยิ มเดมิ
Analysis Synthesis Evaluation Characterization













การวดั ผล องคป์ ระกอบของการวดั ผล
การเรยี นรู้ การเรยี นรู้

การ การ แนวคดิ เกยี่ วกบั การ สง่ิ ที่ ขอ้ มูลที่เปน็
วัดผล วดั ผล วัดผล ต้องการ ตวั เลข/
ทางตรง ทางออ้
แนวคดิ เบอ้ื งตน้ วดั สัญลักษณ์ที่
ม เกี่ยวกบั การวดั และ แทนปรมิ าณ
ประเมนิ ผลการเรยี นรู้
วธิ กี ารและ
เครอ่ื งมอื ท่ี
ใช้ในการ

วดั

แนวคดิ เกยี่ วกบั การ แนวทางการนาผลการประเมนิ
ประเมนิ ผล การเรยี นรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

Evaluation 1.การใช้ผลการประเมนิ เพื่อวางแผนการ 3. การใชผ้ ลการประเมินเพ่อื สรปุ และตดั สนิ
จัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้
Assessment
2.การใชผ้ ลการประเมินเพอื่ ปรบั ปรุงพฒั นา 4. การใช้ผลการประเมนิ เพอ่ื การรายงาน
ต่อ

ผปู้ กครองและผเู้ กย่ี วข้อง









ผเู้ รยี ผสู้ อน จาแนกตามขั้นตอนการ
น จดั การเรยี นการสอน ก่อน
เรียน ระหวา่ งเรยี น และหลงั 1. เพือ่ จดั วางตาแหนง่
1. กอ่ นเรียน ความสาคญั ของการวดั 1. กอ่ นเรยี น เรียน 2. เพื่อวินิจฉัย
2. ระหวา่ งเรียน และประเมนิ ผล 2. ระหว่างเรียน 3. เพื่อการพัฒนา
3. หลงั เรียน การเรยี นรู้ 3. หลังเรียน ประเภทของการวดั และ 4. เพื่อสรุปผลการเรยี นรู้
ประเมนิ ผลการเรยี นรู้

1. สถานศกึ ษาเป็นผรู้ ับผดิ ชอบ ความสาคญั ประเภท หลกั การ จุดมงุ่ หมาย จาแนกตามวธิ ีการแปลความหมาย
2.พัฒนาผู้เรียน/ตัดสนิ ผลการเรียนรู้ ของการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ หรือตามการอา้ งองิ
3.สอดคลองและครอบคลมุ กบั มาตรฐาน
1. แบบอิงตน
การเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด 2. แบบอิงกลมุ่
4.ผู้เรียนมสี ่วนร่วมเกย่ี วกบั การวดั ผล 3. แบบอิงเกณฑ์

ประเมิน

หลักการของการวดั และ จุดมุ่งหมายของการ
ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วดั แการเรยี นรู้
ละประเมนิ ผล

5. เป็นสว่ นหนง่ึ ของกระบวนการจัดการเรียน 1. ใหข้ อ้ มูลเพื่อพัฒนา 4. เป็นสว่ นหนง่ึ ของกระบวน
การสอน 2. ตรวจสอบผลการเรียนรู้ การเรยี นการสอน
3. เปน็ เคร่อื งมอื ประกนั คณุ ภาพ
6. พิจารณาจากพัฒนาการตามความเหมาะสม 5. เป็นองค์ประกอบของระบบ
7. เทยี บโอนผลการเรียนระหว่างสถานศึกษา การศึกษา การศกึ ษา
8. สถานศกึ ษาออกหลกั ฐานการศกึ ษา









1. สรา้ งเกณฑใ์ นการให้คะแนน ผเู้ รียนสามารถเขียนคาตอบได้ 1. เลือกและกาหนดผลการ
2. ระมดั ระวงั เกี่ยวกบั ความลาเอยี ง อย่างอิสระโดยใช้ความรู้ เรยี นรู้ท่เี ก่ยี วข้อง
3. ตรวจคะแนนผเู้ รียนใหเ้ สรจ็ ทลี ะขอ้ ในเวลาทตี่ อ่ เน่ือง ความสามารถในระดบั สงู
4. ขระตรวจควรเก็บรวบรวมข้อผดิ พลาด/หกั คะแนนไว้ 2. กาหนดจานวนขอ้ คาถาม
5. ไมค่ วรเอาประเด็นไวยากรณม์ าเปน็ เกณฑใ์ หค้ ะแนน ความหมาย หลกั การ/แนวทางใน ในแตล่ ะเรือ่ ง
แบบทดสอบ การสรา้ ง
แนวทางการตรวจ ความเรยี ง 3. เขียนคาถามโดยใช้
ให้คะแนนขอ้ สอบ แบบทดสอบ ถ้อยคาท่ชี ดั เจน

4. ระบุนา้ หนกั ในแตล่ ะข้อ
คาถาม

5. ระบเุ กณฑ์การให้คะแนน
6. ตรวจสอบคณุ ภาพของ

ขอ้ สอบ

แบบทดสอบความเรยี ง/แบบทดสอบอตั นยั

แบบทดสอบ จาแนกตาม การจาแนก การจาแนกตาม
อัตนัย จดุ หมาย ลักษณะการตอบ การอา้ งองิ
ในการสรา้ ง
แบบทดสอบ
ปรนยั

1.ภาคปฏบิ ัติ 2. เขยี นตอบ 3. วาจา องิ อิงกลุ่ม องิ
1 เกณฑ์ ขอบข่า









1.คาช้แี จง 2.สถานการณ์ 3.ภาษา 4.คาถาม 5. ข้อมลู 6.ควรเขียนใน
ใหช้ ดั เจน อยา่ งใดอย่าง เรียบงา่ ย ควรมี สารสนเทศ รูปแบบประโยค
ชัดเจน ประเดน็ ทเี่ พียงพอ
7.ไมค่ วรลอก หน่งึ ไมม่ ี เดียว บอกเล่า
ขอ้ ความจาก ขอ้ ยกเว้น
แบบทดสอบปรนยั ชนดิ ถกู ผดิ
หนงั สือ 8.ไมค่ วรใช้
คาศัพท์ทผ่ี เู้ รียน 9.หลีกเล่ยี ง 10.ไมค่ วรใช้
11.คาตอบควร คาบางคาทชี่ ี้ ข้อความ
ถูก/ผิดตาม ไม่คนุ้ เคย
รายวิชา คาตอบ ปฏิเสธซ้อน

12.ส่งิ ทถี่ กู ผิด หลักการหรอื แนวทางใน 13.อยา่ ให้ข้อใด 14.จานวนขอ้
ควรเป็นส่วน การสรา้ งแบบทดสอบ ขอ้ หนึ่งแนะนา ถูกผดิ ใกล้
สาคญั ของ คาตอบขอ้ อื่น เคียงกัน

ขอ้ ความ

15.ข้อถูก/ผดิ 16.ควรจัด
ควรอยกู่ ระจาย ข้อสอบถูกผดิ ไว้

กนั ตอนต้นๆ





คอลัมน์ขอ้ คาถามและ หลักการหรอื แนวทางการสรา้ ง ไม่ควรกาหนดคาถามทม่ี ากเกินไป/
คอลัมน์คาตอบ ควรเปน็ เรอ่ื งราวหรอื แบบทดสอบปรนยั ชนดิ จบั คู่ น้อยเกินไปควรอยทู่ ่ี 5-8
ขอ้ ไมค่ วรเกิน 10ข้อ
เน้ือหาเดยี วกัน แบบทดสอบปรนยั ชนดิ จบั คู่
การเรียงลาดับกอ่ นหลงั ของรายการ
เขียนคาชี้แจงในการจบั ครู่ ะหว่างชุด คาตอบ
รายการขอ้ คาถามกบั ชดุ รายการ
คาตอบใหช้ ัดเจน รายการคาถาม/คาตอบควรจดั อยใู่ น
กระดาษแผน่ เดียว
ทบทวนคาถาม/คาตอบอยา่ งรอบคอบ

ควรเพิม่ จานวนคอลมั น์คาตอบให้
มากกวา่ คาถาม

เปน็ รูปแบบหนงึ่ ของแบบทดสอบ
ปรนัยซงึ่ ลักษณะโดยท่ัวไปมกั จะวางกล่มุ ของคา

วลี ตวั เลข หรือสัญลกั ษณไ์ วเ้ ป็น 2 คอลัมน์





1.ข้อแนะนาในการตอบอยา่ ง แบบทดสอบ แบบทดสอบปรนยั 1. ข้อแนะนาในการตอบ
ชัดเจน ปรนัยชนิดเติม ชนิดตอบสนั้ อย่างชัดเจน

2. ความชดั เจน/สมบูรณข์ องคาถาม คา 2. เขยี นคาถามให้ชดั เจน
ในประโยคคาถาม/คาสงั่
3. ไมค่ วรนาขอ้ ความจาก หลักการหรอื แนวทางการ
หนงั สือมาออก สรา้ งแบบทดสอบ 3. ควรมคี าตอบที่
ถูกต้องเพยี งคาตอบ
ชนิดเตมิ แบบทดสอบปรนยั ชนดิ เตมิ คา
คา และชนดิ ตอบสน้ั เดียว

ชนดิ ตอบ
ส้นั

4. เว้นชอ่ งวา่ งสาหรบั คาตอบ ความหมาย 4. ควรประยกุ ต์คาถามใหว้ ดั สติปญั ญา
ในระดับสูงกว่าความรคู้ วามจา
5. คาถามควรสอดคลอ้ งกบั บทเรยี น
วตั ถปุ ระสงค์การเรียน เป็นแบบทดสอบปรนยั ชนิดหน่งึ ทม่ี ุ่งใหผ้ ู้เรียนคิดหาคาตอบด้วยตนเอง ซ่ึง
อาจเป็นคา วลี หรือประโยค แล้วเขียนคาตอบนั้นลงในช่องว่างต่อจาก
ข้อความทีไ่ ด้เขยี นค้างไว้ เพือ่ ให้เปน็ ข้อความทถี่ กู ต้องสมบูรณ์สมเหตุสมผล
เหมาะสาหรบั การวดั ด้านเน้อื หาความรเู้ กี่ยวกบั ขอ้ เทจ็ จรงิ ต่าง ๆ







ความหมายและลกั ษณะ แบบทดสอบปรนยั ชนดิ เลอื กตอบ หลักการหรอื แนวทางใน
ของแบบทดสอบ การสรา้ งแบบทดสอบ

1.คาถามชดั เจน 3. รายละเอียด
เนือ้ หาชัดเจน
ตอบถูก กระชบั รดั กมุ
12. กระจายตัว
คานา ตวั เลือก 2. ตวั เลอื ก เลอื กใหเ้ ท่ากนั
คาถามหลัก
ข้อสอบเลอื กตอบ 4. หลีกเล่ยี งคัดลอก 3-5 ตัวเลอื ก 13. หลีกเลยี่ ง
คาถามโดยตรง นิยมใช้ ผิดทุกขอ้ /ถกู ทุกข้อ
ตอบผิด/ตัวลวง จากหนงั สอื 8. หลกี เล่ียงการ
ประโยคขอ้ ความไม่ สถานการณ์ 14. หลกี เลีย่ งการ
สมบูรณ์ 5. เลอื กคาตอบท่ดี ี ชีแ้ นะคาตอบ ใช้คาท่ีคลุมเครอื

คาถามเดยี ว ทีส่ ดุ 9. ตวั เลือกสอด 15.วางแผนในการ
คล้องกบั คาถาม ออกข้อสอบแต่ละ

6. หลีกเลีย่ งคาถาม ประเด็น

ตวั เลือกคงท่ี เชิงลบ/ปฏิเสธ 10. ไมช่ แี้ นะคาตอบ
7. คาตอบทด่ี ที สี่ ุด ขอ้ อ่ืน ๆ

เพยี ง 1 ข้อ 11. ตัวลวงมคี วาม

เป็นไดแ้ ละดึงดดู

ผ้สู อบ







กรณีขอ้ สอบแต่ละขอ้ กรณแี บบทดสอบ
ให้คะแนนไม่ใช่ 0 กบั 1 อิงเกณฑ์

ตามเกณ์สัมพันธ์ ตามโครงสรา้ ง กรณีข้อสอบแตล่ ะ กรณีแบบทดสอบ
ข้อใหค้ ะแนนเป็น 0 องิ กล่มุ

ตามเนือ้ หา กบั 1

ตามสภาพ 1.ความ 5. ความเชอื่ มัน่
เท่ยี งตรง
ตาม กรณีแบบทดสอบ
พยากรณ์ อิงเกณฑ์

การตรวจสอบคณุ ภาพ 4.อานาจจาแนกรายข้อ
ของแบบทดสอบ

ความชดั เจน
ของคาถาม

2.ความเปน็ ปรนยั 3.ความยาก กรณแี บบทดสอบ
องิ กลุ่ม
ความสอดคลอ้ งใน ความสอดคล้องใน กรณีให้คะแนน กรณีให้คะแนน
การตรวจให้คะแนน การแปล 0 กบั 1 ไมใ่ ช่ 0 กบั 1 กรณใี หค้ ะแนน
0 กบั 1
ความหมายของ
คะแนน กรณีใหค้ ะแนน
ไม่ช่ 0 กับ 1









สรา้ งตัวแปร เปดิ โปรแกรม กรณขี ้อสอบให้ กรณเี ป้นแบบ
คะแนน 0 กบั มาตรประมาณคา่
1
คยี ์ขอ้ มลู การสรา้ งไฟลข์ ้อมลู
การวิเคราะห์

บันทกึ ไฟล์ การวเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยใช้ SPSS

การอา่ น Printout





การวเิ คราะหเ์ ชอื่ มโยงมาตรฐานและตวั ชวี้ ดั สาระการ 1.ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ 3.สาระสาคญั 4.สาระการ
เรยี นรู้วธิ ีจดั การเรยี นการสอนวธิ ีการวัดและประเมินผล เรยี นรู้

การเรียนรู้อย่างสัมพันธ์กนั

2.มาตรฐานตวั ชวี้ ดั 5.ชน้ิ งาน/ภาระงานทใี่ ห้
ผู้เรยี นปฏิบตั ิ
การออกแบบหน่วยการ
ความหมายของการ เรยี นรอู้ งิ มาตรฐานโดยใช้
ออกแบบการเรยี นร้อู ิง
กระบวนการออกแบบ
มาตรฐาน ย้อนกลบั

ข้นั ท่ี 1 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรอู้ งิ มาตรฐาน 6.วิธกี ารวดั และ
ระบุผลลัพธ์ ประเมนิ ผลการเรียนรู้
ท่ตี อ้ งการ/
ข้ันกาหนด โดยใชก้ ระบวนการออกแบบยอ้ นกลบั
เปา้ หมาย
7.กิจกรรมการเรียนรู้/วิธกี าร
จัดการเรียนการสอน

ขน้ั ที่ 2 ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั ตอนการออกแบบ 8.เวลาเรยี นและน้าหนกั คะแนน
กาหนด วางแผนการ หนว่ ยการเรยี นร้อู งิ ประจาหน่วยการเรียนรู้
หลักฐานการ องคป์ ระกอบอื่น
เรยี นรทู้ ่ี จัดการ มาตรฐานโดยใช้
ยอมรับได้ ประสบการณ์ กระบวนการออกแบบ
เรียนร/ู้ การ
เรยี นการสอน ยอ้ น


Click to View FlipBook Version