พัฒนาการสมัยประชาธิปไตยและปัจจัยที่ส่งเสริมความเจริญ อาณาจักรรัตนโกสินทร์ ป.6

พฒั นาการสมยั รตั นโกสนิ ทร์

สง่ ผลใหเ้ กดิ การเปลีย่ นแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธริ าชย์มาเป็นระบอบประชาธปิ ไตย
อันมพี ระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ ภายใต้รัฐธรรมนญู ทเ่ี ปน็ กฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ

2.พัฒนาการดา้ นตา่ งๆสมัยรตั นโกสินทร์

2. พัฒนาการสมยั ประชาธปิ ไตย
ด้านการเมอื งการปกครอง

มกี ารกอ่ ต้งั พรรคการเมอื ง
คณะรฐั มนตรี
ประชาชนมีสทิ ธใิ นการเลอื กตั้ง

• พ.ศ. 2475เกิดการเปล่ียนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย ทาให้มีองค์กรการเมอื งเกิดขนึ้
เชน่ รัฐสภา คณะรัฐมนตรี พรรคการเมอื ง เปน็ ตน้

• ประชาชนมสี ทิ ธิออกเสยี งเลอื กต้ัง มเี สรีภาพในการแสดงความคิดเหน็ ทางการเมือง แตบ่ างสมยั มกี าร
ปกครองโดยรัฐบาลทีม่ าจากการปฏิวัตริ ัฐประหาร ทาใหส้ ิทธิทางดา้ นการเมืองของประชาชนถูกจากดั

2.พฒั นาการด้านตา่ งๆสมยั รตั นโกสนิ ทร์

2.พฒั นาการสมยั ประชาธปิ ไตย
ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม

มกี ารเปลย่ี นแปลงตามเหตกุ ารณ์
เชน่ เปลย่ี นช่ือประเทศ ห้ามกนิ หมาก
การสวมรองงเทา้ การจดั พิธีฉัตรมงคล







ไดฟ้ ื้นฟูความสาคญั ของสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์และพระราชพธิ ตี า่ งๆ เช่น จัดงานพระราชพิธฉี ตั รมงคล
เปลี่ยนวนั ชาตจิ ากวันที่ 24 มิถุนายน มาเปน็ วนั ท่ี 5 ธนั วาคม การสง่ เสรมิ โครงการพระราชดาริต่างๆ การแพร่

ภาพขา่ วในพระราชสานกั ผา่ นโทรทศั นแ์ ละวทิ ยุเป็นประจาทกุ วนั การส่งเสรมิ การท่องเทย่ี ว
ส่งเสริมฟื้นฟแู ละสรา้ งสรรคข์ นบธรรมเนียมประเพณีทอ้ งถิ่นตา่ งๆ เพื่อดึงดดู นักทอ่ งเท่ยี วจากตา่ งประเทศ

ในสมยั นยี้ ังได้มีการกาหนดแผนพฒั นาเศรษฐกจิ แห่งชาติฉบับที่ 1 เม่อื พ.ศ. 2504
เพื่อพฒั นาประเทศไทยในหลายดา้ น เช่น ดา้ นการศึกษา การวางแผนครอบครัว เป็นต้น
ในปัจจบุ นั ไดร้ บั อิทธิพลจากชาตติ ่าง ๆ จึงทาใหส้ ภาพสงั คมมกี ารเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา



สมัยนยิ มวฒั นธรรมตะวนั ตก

ความนิยมวฒั นธรรมตะวนั ตกของไทยตงั้ แต่สมัยรัชกาลที่ 4 และที่ 5 ผู้ท่ไี ด้รบั การศึกษา
ส่วนใหญ่มาจากตะวนั ตกเป็นหลัก ได้มกี ารกาหนดใช้แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คม

ซง่ึ ส่งผลทาใหเ้ กดิ การเปลีย่ นแปลงวิถีชวี ิตของคนไทยทง้ั ในเมืองและชนบท
มีการพัฒนาด้านการศึกษาทาให้มีผู้รหู้ นังสือมากขึน้ มีโอกาสไปเรยี นต่อตา่ งประเทศมากขนึ้

ทาใหค้ นไทยสว่ นใหญม่ วี ิถีชีวติ ความเปน็ อยู่และมคี ่านิยมแบบตะวันตก

2.พฒั นาการด้านต่างๆสมยั รตั นโกสนิ ทร์

2.พฒั นาการสมยั ประชาธปิ ไตย
ดา้ นเศรษฐกจิ

ส่งเสรมิ เศรษฐกจิ ดา้ นการเกษตร
การจดั สรรทีด่ นิ เครอื่ งมอื เครอื่ งใช้
เริ่มการลงทนุ ในอตุ สาหกรรม

แบ่งออกเป็น 3 ชว่ ง

เศรษฐกจิ ไทยตั้งแต่ พ.ศ.2475 - พ.ศ. 2501

• หลังการเปล่ยี นแปลงการปกครองใน พ.ศ.2475 รัฐบาลเหน็ ว่าเศรษฐกจิ ของประเทศไทยขณะน้นั อยูภ่ ายใตก้ ารควบคุม
ของต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจนี รฐั บาลจึงมนี โยบายส่งเสรมิ เศรษฐกจิ ของคนไทย แตไ่ มป่ ระสบความสาเรจ็

• ระหวา่ งสงครามโลกคร้งั ท่ี 2 ได้เกดิ ปัญหาสินค้าขาดตลาดมีราคาแพง และสนิ ค้าเกษตรของไทยส่งไปขายต่างประเทศ
ไมไ่ ด้ ทาใหป้ ระเทศมีปญั หาด้านเศรษฐกิจ ขาดแคลนเงนิ ตราตา่ งประเทศ โรงงานอุตสาหกรรมต้องปิดตวั ลง

แบง่ ออกเปน็ 3 ชว่ ง

เศรษฐกิจไทยตงั้ แต่ พ.ศ.2475 - พ.ศ. 2501

• มกี ารโอนกจิ การของเอกชนบางอย่าง เช่น ธรุ กิจธนาคาร เหมืองแร่ มาเปน็ ของรัฐ เพอ่ื จะขจัดอิทธพิ ล
ทางเศรษฐกิจของต่างชาติ

• หลงั สงครามโลกครั้งท่ี 2 รฐั บาลไดเ้ ร่งสนบั สนุนการผลิตในภาคเกษตรกรรม เพื่อผลิตอาหารเล้ียง
ประชาชนและสง่ ออก ทาใหเ้ ศรษฐกิจมีการฟน้ื ตัว และรัฐบาลเรม่ิ การลงทุนในอตุ สาหกรรม ไดแ้ ก่
อตุ สาหกรรมส่งิ ทอ กระดาษ นา้ ตาล ยาสบู ฟอกหนัง เช้ือเพลิง

เศรษฐกจิ ไทยตัง้ แต่ พ.ศ. 2501 - พ.ศ. 2540

• รฐั บาลมีนโยบายส่งเสริมการลงทนุ ของเอกชน เพ่ือพฒั นาประเทศสู่ความเป็นอตุ สาหกรรมเเละ
ใหร้ าษฎร มงี านทาเปิดรับการลงทุนและการตดิ ตอ่ คา้ ขายกับต่างชาตอิ ยา่ งเสรี

• รฐั บาลไดเ้ ตรียมการพฒั นาเศรษฐกิจด้วยการตัง้ สถาบันทางเศรษฐกิจทส่ี าคัญ เชน่ ต้งั สภาพฒั นาการ
เศรษฐกจิ และพัฒนาสาธารณปู โภคขัน้ พ้ืนฐาน เชน่ ถนน ไฟฟ้า ประปา โทรคมนาคม เปน็ ตน้

• สินค้าออกทีส่ าคัญของไทย เช่น เสือ้ ผ้าสาเรจ็ รปู อญั มณี แผงวงจรไฟฟา้ ชน้ิ สว่ นอปุ กรณ์
อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องกระป๋อง เป็นต้น

• ต้ังแต่ พ.ศ. 2528 เศรษฐกิจของไทยมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จากการพัฒนาอุตสาหกรรม
ทาให้รัฐบาลให้ความสาคัญกับภาคอุตสาหกรรมมากข้ึน และพยายามพัฒนาประเทศให้เป็นประเทศ
อุตสาหกรรมใหม่ (NICS) มีการเปิดรับการลงทุน และส่งเสริมการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม
อสังหาริมทรัพย์ หลักทรัพย์ และธุรกิจบริการประเภทต่างๆ ท้ังจากนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนไทย
ทาให้มีการกวา้ นซื้อท่ีดินเพื่อนามาทาสนามกอล์ฟ หม่บู า้ นจัดสรร การลงทนุ ในตลาดหลกั ทรัพย์ และมกี าร
ป่ันห้นุ ในตลาดหลักทรัพย์ให้ราคาสงู ขึ้นกวา่ ราคาสินทรัพยจ์ ริง

• การท่ีเศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตรวดเร็วเกนิ ไป และขาดมาตรการกากบั ดแู ลที่มปี ระสิทธภิ าพ
ทาใหเ้ กดิ วกิ ฤตเศรษฐกจิ ใน พ.ศ. 2540 เรยี กว่า วกิ ฤตเศรษฐกิจฟองสบู่ หรอื รู้จักกนั ดีในชื่อ
วิกฤตการณต์ ้มยากุ้ง ซ่ึงธรุ กจิ จานวนมากล้มละลายและปดิ ตวั ลง ส่งผลใหค้ นจานวนมากในภาคธรุ กจิ
และอตุ สาหกรรมต้องตกงาน

เศรษฐกิจไทยต้งั แต่ พ.ศ. 2540 - ปจั จุบัน

ปญั หาเศรษฐกิจที่เกิดขึน้ ทาให้คนไทยส่วนใหญ่หันมาดาเนนิ

นโยบายเศรษฐกิจตามแนวปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎใี หม่ ซ่งึ พระบาทสมเดจ็ พระ
ปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช พระราชทานใหแ้ ก่ประชาชนไทยเพือ่ เปน็ แนวทางแกป้ ญั หาเศรษฐกิจทเ่ี กิดข้ึน

โดยเน้นการพึง่ พาตนเองและการพฒั นาตามศักยภาพ

เศรษฐกิจไทยต้งั แต่ พ.ศ. 2540 - ปจั จบุ ัน

แนวคดิ นเี้ ปน็ หลกั ท่ปี ระชาชนยึดถือเปน็ หลกั ปฏบิ ตั ิเพ่อื แกป้ ญั หาเศรษฐกจิ ซ่งึ ไดร้ ับการปฏบิ ตั ิ
อยา่ งกว้างขวาง สว่ นในภาครฐั บาลแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียง หมายถึงการพฒั นาประเทศ
ตามลาดบั ข้ันตอน เพ่ือสร้างความสมดุล มน่ั คงและยงั่ ยนื และมุ่งเนน้ พฒั นาภาคเกษตรกรรมมากข้ึน

เพราะเป็นพ้ืนฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ

3.ปจั จยั ทีสง่ เสริมความเจรญิ รงุ่ เรือง

1. ปัจจยั ทางการเมอื ง

พระมหากษตั รยิ ข์ องไทยมพี ระปรชี าสามารถปกครอง
ดแู ลประเทศและราษฎร คราวตอ้ งเผชญิ กับการรกุ รานของ
ตา่ งประเทศ พระมหากษตั รยิ ไ์ ทยกท็ รงปอ้ งกนั และ
ดาเนนิ นโยบายเพอ่ื รกั ษาเอกราช

3.ปัจจัยทีส่งเสรมิ ความเจริญรุ่งเรอื ง

1. ปจั จัยทางการเมอื ง

เช่น รัชกาลท่ี 1 ไทยตอ้ งเผชญิ กับสงครามเกา้ ทพั
จากพมา่ ทรงเปน็ จอมทพั นาสรู้ บกบั พมา่ จนไดร้ บั ชยั ชนะ
และสามารถปกปอ้ งบา้ นเมอื งไวไ้ ด้

3.ปัจจัยทีส่งเสริมความเจรญิ รงุ่ เรอื ง

1. ปจั จัยทางการเมอื ง

เชน่ รชั กาลท่ี 5 ไทยมปี ญั หาขอ้ พพิ าทกบั ฝรง่ั เศส
แตผ่ ูน้ าไทยใชก้ ารเจรจาทางการทตู เปน็ หลกั และพยายาม
ผอ่ นปญั หาหนกั ใหเ้ บาลง จนสามารถรกั ษาเอกราชไวไ้ ด้

3.ปัจจัยทสี ง่ เสรมิ ความเจรญิ รุ่งเรือง

1. ปจั จัยทางการเมอื ง

เช่น สมัยประชาธปิ ไตย รัฐบาลไดส้ ง่ เสรมิ การพฒั นา
เศรษฐกจิ ดว้ ยการมแี ผนเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ
เพอ่ื วางแผนพัฒนาเศรษฐกจิ ของประเทศอยา่ งมรี ะบบ

3.ปจั จยั ทสี ง่ เสรมิ ความเจรญิ รงุ่ เรอื ง

2. ปัจจยั ดา้ นทต่ี ง้ั ทางภมู ศิ าสตร์

กรงุ รตั นโกสนิ ทรต์ งั้ ข้นึ บนฝง่ั ตะวนั ออกของ
แม่น้าเจา้ พระยา มีพนื้ ทก่ี วา้ งขวาง จึงเหมาะ
แกก่ ารขยายบา้ นเมอื ง และอยู่ใกลบ้ รเิ วณ
ปากอา่ วไทย ซงึ่ เหมาะแก่การติดต่อคา้ ขายกบั
ชาวตา่ งชาติ

3.ปจั จัยทสี ง่ เสรมิ ความเจรญิ รุ่งเรอื ง

3. ปัจจยั ดา้ นสังคมและวัฒนธรรม

มีหลายเชอื้ ชาตเิ ข้ามาอยอู่ าศยั และค้าขาย แต่กไ็ มท่ าใหเ้ กดิ
ปัญหาจงึ สามารถพฒั นาความเจรญิ ดา้ นตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง