อาณาจกั รธนบรุ ี
กรุงธนบรุ ี (บางกอก) พงศาวดาร
เรยี กว่า (เมืองธนบุรศี รมี หาสมทุ ร)
คือ ฝ่ังพระนครและฝง่ั ธนบรุ ี
เปน็ ทร่ี าบสามเหลี่ยมปากแมน่ า้ เจา้ พระยา
เมอื งธนบรุ ีเกา่ เคยเปน็ เมอื งหน้าดา่ น
ทางทะเล มกี ารตดิ ตอ่ คา้ ขายและ
มปี ้อมวไิ ชยเยนทร์ ทม่ี ที หารโปรตุเกสและ
ฝรัง่ เศสมาประจา้ จนพระเจา้ ตากสนิ กอบกู้
เอกราชมาได้
ก่อนเสยี กรงุ ศรอี ยธุ ยาครังที่ 2 พระเจา้ ตากสนิ ครอง
เมืองตาก และถกู เรยี กตวั มากอบกเู้ อกราช พระเจา้ ตากสนิ
ตีฝ่าวงลอ้ พมา่ ไปตงั ทจี่ นั ทบุรี มีการรวบรวมกา้ ลงั คน ยกทพั
ตีกองทพั พมา่ ทีค่ ่ายโพธส์ิ ามตน้ สกุ นี ายกองของพมา่ ตาย
1.กองกา้ ลงั มเี พมิ่ มากขนึ
2.การยอมรบั อา้ นาจจากเจา้ เมอื งตา่ ง ๆ
พม่าแตกพา่ ย พระเจา้ ตากสนิ
สามารถกอบกเู้ อกราชไดส้ ้าเรจ็
หลังจากเสยี กรงุ ใหพ้ มา่ เปน็ เวลา 7 เดือน
พระเจา้ ตากสนิ กอบกเู้ อกราช ทรงปราบดาภเิ ษกเป็น
พระมหากษัตริย์ครองกรุงธนบุรี ทรงมพี ระนามวา่
หลังกอบกเู้ อกราชและทรงเหน็ วา่ กรงุ
ศรีอยธุ ยาสภาพทรดุ โทรม ไมส่ ามารถ
ซอ่ มแซมได้ จึงสรา้ งราชธานใี หมท่ ่ี
เมอื งธนบรุ ี มขี องเขตสองฝงั่ แมน่ า้
มีแมน่ า้ เจา้ พระยาผา่ นกลาง
การสถาปนาอาณาจักรธนบรุ ี
แผนที่แสดงอาณาเขตกรงุ ธนบุรีในสมัยสมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช
คลองบางกอกน้อย ชมุ ชนลาว
ชุมชนมลายู
วดั ระฆงั ชมุ ชนจนี วดั มหาธาตยุ ุวราชรังสฤษฎ์ิ
คลองมอญ ชุมชนเวยี ดนาม ราชวรมหาวิหาร
ทีอ่ ย่อู าศยั ของขนุ นาง วัดพระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม
ราชวรมหาวหิ าร
วัดท้ายตลาด
1.กรงุ ศรอี ยธุ ยาเสยี หายหนกั จนยากทจ่ี ะฟนื้ ฟไู ด้
2.ก้าลงั พลมนี อ้ ยเกนิ กวา่ จะบรู ณะและไม่สามารถรกั ษากรงุ ศรอี ยธุ ยาได้
3.ข้าศกึ รทู้ ศิ ทางของกรงุ ศรอี ยธุ ยา
4.เมอื งธนบรุ เี ปน็ เมอื งขนาดเลก็ ดแู ลปอ้ งกนั งา่ ยไม่กวา้ งมาก และ
มีป้อมปราการม่นั คงใชป้ อ้ งกนั ขา้ ศกึ ทยี่ กมาทางเรอื ได้ หากขา้ ศกึ ยกทพั มาแล้ว
สู้ไมไ่ ดก้ ส็ ามารถหนีออกทางทะเลได้
5.ธนบรุ อี ยใู่ นยุทธศาสตรท์ ดี่ ี มีแมน่ า้ เจา้ พระยาเปน็ แนวป้องกนั ดา้ น
ตะวันออก และอยไู่ มไ่ กลจากอา่ วไทย สะดวกแกก่ ารค้าขายกบั ตา่ งประเทศ
6.เมอื งธนบรุ เี ปน็ เมอื งเกา่ มีวดั ทส่ี รา้ งไวต้ ังแตส่ มยั อยธุ ยา
ไม่จา้ เปน็ ตอ้ งสรา้ งใหม่
7.เมอื งธนบรุ มี ผี นื ดนิ อนั อดุ มสมบรู ณเ์ หมาะสมแกก่ ารเพาะปลกู
โดยมีสภาพเปน็ ทล่ี มุ่ มีดนิ ดี มีคลองหลายสาย ทา้ ใหม้ นี า้ ใชต้ ลอดปี
แผนทเ่ี มอื งธนบรุ สี มยั กรงุ ธนบรุ ี
1.การปราบปรามชุมนมุ ตา่ งๆ
ชมุ นุมเจา้ พมิ าย ชุมนมุ เจา้ พษิ ณโุ ลก
ชมุ นมุ เจา้ พระฝาง ชุมนุมเจา้ นครศรธี รรมราช
๑ ท่ีเมืองพิมาย (ในนครราชสมี า) มีกรมหมื่นเทพพพิ ิธเป็นหวั หนา้
๒ ที่เมืองฝาง (ในอตุ รดติ ถ์) มเี จา้ พระฝางซึ่งเปน็ ภิกษเุ ปน็ หวั หนา้
๓ ทเี่ มืองจนั ทบูร (จนั ทบรุ ี) มพี ระเจ้าตาก)สิน เป็นหัวหน้า
๔ ทีเ่ มืองพษิ ณุโลก มีเจา้ พระยาพษิ ณโุ ลกเปน็ หวั หน้า
๕ ที่เมืองนครศรีธรรมราช มีพระปลัด(หนู) เป็นหวั หน้า
1.สงครามกบั พมา่ ครังส้าคญั ได้แก่ ศกึ ทคี่ า่ ยบางกุ้ง
สมุทรสาคร ศกึ ท่คี ่ายบางแกว้ ราชบรุ ี ศกึ ตีเมอื งเชยี งใหม่
และศกึ อะแซหวนุ่ กี
2.สงครามกบั รฐั อนื่ ได้แก่ การทา้ สงครามกบั เขมร
และโปรดเกลา้ ฯ ให้สมเดจ็ เจา้ พระยามหากษตั ริยศ์ ึกนา้ กองทพั
ไปตเี มอื งเวยี งจนั ทรข์ องลาว ไดร้ บั ชยั ชนะจงึ ไดอ้ ญั เชญิ พระแก้วมรกต
มาไวท้ ว่ี ดั แจง้ ในกรุงธนบรุ ี
2.ดา้ นการปกครอง
ดา้ เนินตามสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา
ระบอบสมบรู ณาญาสิทธิราชย์
มีพระมหากษัตรยิ เ์ ปน็ ประมุข มอี า้ นาจเดด็ ขาด
การบริหารราชการแผน่ ดนิ สว่ นกลาง สมหุ นายก
สมหุ พระกลาโหม ดูแลงานฝ่ายทหารทั่วไปดแู ลหวั เมอื งฝา่ ยเหนอื
ท้งั ฝา่ ยทหารและพลเรือน ดูแลจตสุ ดมภ์
ดูแลงานฝา่ ยทหารทั่วไปและ โดยเสนาบดีกรมคลังรับผิดชอบกรมคลงั และ
เป็นที่ปรกึ ษาราชการแผน่ ดิน หวั เมอื งชายทะเลตะวนั ออกและ
หวั เมอื งฝ่ายใต้ ท้ังฝ่ายทหารและพลเรือน
การบรหิ ารราชการแผ่นดนิ ส่วนหัวเมือง “ยงั คงยึดแบบอย่างสมยั อยธุ ยาตอนปลาย”
หัวเมอื งชนั้ ใน หัวเมอื งชน้ั ใน
ราชธานี หัวเมอื งชน้ั นอก • มีผู้รง้ั เมอื งและคณะกรมการเมืองรับนโยบาย และคาส่งั จากเสนาบดจี ากส่วนกลาง
• จัดเป็นเมืองจัตวา
หัวเมืองประเทศราช
หัวเมืองชนั้ นอก (เมอื งพระยามหานคร)
• มเี จ้าเมืองปกครองพรอ้ มทงั้ คณะกรมการเมือง
• มจี ตุสดมภเ์ หมอื นราชธานี มเี มืองใหญ่น้อยขึ้นตรงอกี ต่อหนง่ึ
• หัวเมืองเหลา่ นี้แบง่ เปน็ หัวเมืองเอก โท ตรี
หวั เมอื งประเทศราช
• ตอ้ งส่งเครื่องราชบรรณาการตน้ ไม้เงิน ตน้ ไม้ทองมาถวาย
พระมหากษัตริย์ ทก่ี รงุ ธนบรุ ี
• เมืองสาคญั เชน่ กัมพูชา หลวงพระบาง เวยี งจันทน์ จาปาศกั ดิ์
การกวาดต้อนและ การทาสงครามปราบชุมนุม การใชจ้ ่ายทรพั ย์สนิ
เสบียงอาหารของพมา่ และรบกบั พม่า ในด้านต่างๆ จานวนมาก
3.ดา้ นเศรษฐกจิ
สภาพเศรษฐกจิ ไมค่ อ่ ยดมี ากหนกั เกิดโจรผูร้ า้ ย
เกิดโรคระบาด ภยั ธรรมชาติ พระองคแ์ กโ้ ดยการสละราชทรพั ย์
สว่ นพระองคซ์ อื ขา้ วสาร แจกจา่ ย
3.ด้านเศรษฐกจิ
มีรายไดก้ บั การคา้ ตา่ งประเทศ
สนบั สนนุ การทา้ นาปลี ะ 2 ครัง
แก้ปญั หาขาดแคลน
3.ด้านการศกึ ษา
ท้านุบา้ รงุ ส่งเสรมิ การศึกษา
ศนู ยก์ ลางคอื วัด ผชู้ ายมาเลา่ เรยี นทีว่ ัด
ผหู้ ญงิ เรยี นตามแบบแผนกลุ สตรี
3.ดา้ นการศาสนา
จัดระเบยี บสังฆมณฑล จัดตงั คณะสงฆ์
รวบรวมพระไตรปฎิ ก
บูรณปฏสิ งั ขรณว์ ัดตา่ งๆ
3.ดา้ นสงั คม
จัดลา้ ดบั ชนั ของคนตามระบบศกั ดนิ าแบบอยธุ ยา คอื
ชนชันผปู้ กครอง ไดแ้ ก่ พระมหากษตั รยิ ์ พระบรมวงศานวุ งศ์
ขุนนาง
ชนชนั ผู้ถูกปกครอง ได้แก่ ไพร่ ทาส
พงศาวดารบนั ทกึ ไวว้ า่ “พระองคต์ รากตรา้ ภารกจิ
บา้ นเมอื งมากจนสตฟิ ่ันเฟือน” และพระยาสรรค์ท่ีส่งไปสอบสวน
กบฏกลายเปน็ มาโจมตกี รงุ ธนบรุ ี พระยาสรุ ยิ อภยั ไดส้ กึ พระเจา้
ตากสนิ เปน็ ฆราวาส และจบั ขงั
พงศาวดารบนั ทึกไวอ้ กี ว่า พระยามหา
กษัตรยิ ส์ า้ เรจ็ โทษพระเจา้ ตากสินตาม
ขุนนางบอกวา่ สตฟิ น่ั เฟือน และประหาร
ชวี ติ และสวรรคต ซง่ึ กรงุ ธนบรุ เี ปน็ ราชธานี
เพียง 15 ปี
1. .................................................................................... 2. .................................................................................. 3. ..................................................................................
.......................................................................................... ..........................................................................................
.......................................................................................... .......................................................................................... ..........................................................................................
..........................................................................................
4. .................................................................................. 7. ..................................................................................
.......................................................................................... ..........................................................................................
.......................................................................................... ..........................................................................................
5. .................................................................................. 6. ..................................................................................
.......................................................................................... ..........................................................................................
.......................................................................................... ..........................................................................................