แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา พว21001 กลุ่มสาระการเรียนรู้ความรู้พื้นฐาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่องโครงงานวิทยาศาสตร์ จ านวน 2 ชั่วโมง เรื่อง ประเภทโครงงานวิทยาศาสตร์ จ านวน 2 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สถานศึกษ สกร. อ าเภอบ้านแฮด 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ อธิบายประเภท เลือกหัวข้อวางแผน วิธีท า น าเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้(ผลการเรียนรู้ใช้ในรายวิชาเพิ่มเติม) 1. อธิบายประเภท เลือกหัวข้อ วางแผน วิธีท า น าเสนอและประโยชน์ของโครงงาน 2. วางแผนการท าโครงงาน 3. ท าโครงงานวิทยาศาสตร์ 4. น าความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และโครงงานไปใช้ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (K–P–A) (จุดประสงค์การเรียนรู้ที่ไม่ได้แยก K–P–A ก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน) ด้านความรู้ (K) : ผู้เรียนสามารถอธิบายประเภทของโครงาน เลือกหัวข้อที่สนใจในการท าโครงงาน ได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) : ผู้เรียนเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วางแผนการท า โครงงานวิทยาศาสตร์ได้ ด้านคุณลักษณะ (A) : ผู้เรียนเป็นผู้ที่มีวินัย มีความใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการท างาน 3. สาระส าคัญ (โดยเขียนเป็นแก่นความรู้ โดยเขียนเป็นหัวข้อย่อย หรือความเรียงให้ชัดเจน กะทัดรัด) จัดท าโครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ ที่จะด าเนินการจัดโครงงานจะต้องรู้และเข้าใจถึง หลักการ แนวคิด และความหมายของโครงงาน เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้เพื่อจะได้น าความรู้และความ เข้าใจไปด าเนินการจัดท าโครงงานได้ 4. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน (โดยเขียนเฉพาะหัวข้อที่สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละหน่วย และต้องมีการประเมินจริง) 1.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2. ความสามารถในการคิด การท างานเป็นระบบ
5. สาระการเรียนรู้(โดยเขียนหัวข้อ ที่ใช้ในกิจกรรมการเรียนรู้ในรายแผนนั้นๆ) 5.1 ประเภทของโครงงาน 5.2 การเลือกหัวข้อโครงงาน 5.3 การวางแผนการกระท าโครงงาน 5.4 การน าเสนอโครงงาน 6. สาระการเรียนรู้สู่การบูรณาการ (โดยเขียนรายวิชาที่มีเนื้อหาที่สามารถบูรณาการเข้ากับแผนนี้ได้) 1. วิชาคณิตศาสตร์ 2. วิชาทักษะการด าเนินชีวิต 7. กิจกรรมการเรียนรู้(โดยเขียนให้เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ด้วยวิธีการสอน เทคนิคการสอน กระบวนการ สอนที่หลากหลายเหมาะสมกับธรรมชาติในแต่ละรายวิชา) ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน - ครูและผู้เรียนร่วมกันสร้างความเข้าใจอธิบายประเภท เลือกหัวข้อ วางแผน วิธีท า น าเสนอ และประโยชน์ของโครงงาน โดยน าตัวอย่างโครงงานมาให้ผู้เรียนดู ขั้นสอน - ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประเภทของโครงงาน ผ่านคลิบวิดิโอ และใบความรู้ - ครูและผู้เรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยใช้ค าถามปลายเปิดในการชวนคิด ชวนคุย เพื่อหา ข้อสรุปในการเลือกท าโครงงานได้ - ให้ผู้เรียนท าใบงาน เรื่องประเภทของโครงงาน และน าเสนอหน้าห้องเรียน - ครูและผู้เรียนร่วมกันแสดงความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของโครงงาน แล้วก าหนดวิธีการใน การเลือกหัวข้อโครงงานในการจัดท าโครงงานของผู้เรียน - ครูผู้สอนสรุปประเด็นส าคัญจากการน าเสนอและร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องดังกล่าว เพิ่มเติม - ผู้เรียนท าแบบทดสอบหลังเรียนเรื่องประเภทโครงงานวิทยาศาสตร์ ขั้นสรุป ครูผู้สอนสรุปเนื้อหาและเติมเต็มองค์ความรู้พร้อมมอบหมายงานให้ไปศึกษาด้วยตนเอง เพิ่มเติม
8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1. ใบความรู้ 2. หนังสือแบบเรียน 3. ใบงาน 4. แบบทดสอบ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1.ห้องสมุดประชาชน 2.อินเตอร์เน็ต 9. การวัดและประเมินผล (K-P-A) สิ่งที่วัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (K) : ความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหาที่ เรียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ท าง ก า ร เรี ย น ร า ย วิ ช า โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ประเภทโครงงานวิทยาศาสตร์ ส าหรับนักศึกษา ม ต้น แบบทดสอบ นักเรียนได้คะแนนจาก แบบทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ์หลังเรียน ร้อยละ 80 ด้านทักษะกระบวนการ (P) : วัดและประเมินทักษะ กระบวนการท างาน สังเกตความสนใจและ พฤติกรรมการท างานในการ เรียน แบบประเมิน พฤติกรรมการ ท างานของนักเรียน นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินพฤติกรรมการ ท างานอยู่ในระดับ พอใช้ขึ้นไป ด้านคุณลักษณะ (A) : พฤติกรรม การท างาน และคุณลักษณะ ที่พึงประสงค์ในการเรียน ประเมินพฤติกรรมการท ท างานของนักเรียน แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามแบบประเมิน ลักษณะอันพึงประสงค์ ร้อยละ 80
9.1 เกณฑ์การประเมิน (เป็นเพียงตัวอย่างของรายวิชาคณิตศาสตร์ คุณครูสามารถก าหนด เกณฑ์การประเมินตามความเหมาะสมกับรายวิชาของท่าน) 1) ด้านความรู้ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 1. ใบงานเรื่องประเภท ของโครงงาน นักศึกษาท า แบบฝึกทักษะ ได้ถูกต้อง ร้อยละ 80 ขึ้นไป นักศึกษาท า แบบฝึกทักษะ ได้ถูกต้อง ร้อยละ 70 – 79 นักศึกษาท า แบบฝึกทักษะ ได้ถูกต้อง ร้อยละ 50 – 69 นักศึกษาท า แบบฝึกทักษะ ได้ถูกต้อง ต่ ากว่าร้อยละ 50 การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง ระดับคุณภาพดีมาก ระดับ 3 หมายถึง ระดับคุณภาพดี ระดับ 2 หมายถึง ระดับคุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ระดับคุณภาพปรับปรุง หมายเหตุ : ผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป 2) ด้านทักษะ/กระบวนการ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 1. แบบทดสอบ ประเภทโครงงาน วิทยาศาสตร์ นักศึกษาท า แบบฝึกทักษะ ได้ถูกต้อง ร้อยละ 80 ขึ้นไป นักศึกษาท า แบบฝึกทักษะ ได้ถูกต้อง ร้อยละ 70 – 79 นักศึกษาท า แบบฝึกทักษะ ได้ถูกต้อง ร้อยละ 50 – 69 นักศึกษาท า แบบฝึกทักษะ ได้ถูกต้อง ต่ ากว่าร้อยละ 50 การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง ระดับคุณภาพดีมาก ระดับ 3 หมายถึง ระดับคุณภาพดี ระดับ 2 หมายถึง ระดับคุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ระดับคุณภาพปรับปรุง หมายเหตุ : ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับพอใช้ขึ้นไป
3) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 มีวินัย ท างานสะอาดเรียบร้อย และปฏิบัติตนอยู่ใน ข้อตกลงที่ก าหนดให้ ร่วมกันทุกครั้ง ท างานส่วนใหญ่ สะอาดเรียบร้อย และปฏิบัติตน อยู่ในข้อตกลงที่ ก าหนดให้ร่วมกัน เป็นส่วนใหญ่ ท างานไม่สะอาด เรียบร้อยและปฏิบัติ ตนอยู่ในข้อตกลงที่ ก าหนดให้ร่วมกันเป็น บางครั้งต้องอาศัย การแนะน า ท างานไม่สะอาด เรียบร้อยและไม่ ปฏิบัติตนอยู่ใน ข้อตกลงที่ ก าหนดให้ร่วมกัน ใฝ่เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่างๆ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และมีความ เพียรพยายามในการ เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ ไม่ตั้งใจเรียน มุ่งมั่นในการท างาน ตั้งใจและรับผิดชอบใน การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายให้ส าเร็จมี การปรับปรุงและ พัฒนาการท า งานให้ดี ขึ้น ด้วยตนเอง ตั้งใจและรับผิดชอบ ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายให้ ส าเร็จ มีการปรับปรุง และพัฒนาการ ท างานให้ดีขึ้น ตั้งใจและรับผิดชอบ ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายให้ ส าเร็จ ไม่ตั้ง หรือไม่ รับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมาย การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง ระดับคุณภาพดีมาก ระดับ 3 หมายถึง ระดับคุณภาพดี ระดับ 2 หมายถึง ระดับคุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ระดับคุณภาพปรับปรุง หมายเหตุ : ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับพอใช้ขึ้นไป
แบบบันทึกคะแนนด้านความรู้ เลขที่ ชื่อ-สกุล ใบงา น (คะแนน) รวมคะแนน (คะแนน) ร้อยละ ระดับ คุณภาพ ผ่าน ไม่ผ่าน 1 นายศุภกร หาญสุโพธิ์ 3 3 70 2 นายรัชตะ เพ็งโฉม 3 3 72 3 นางสาวอัญชนา มีค าทอง 3 3 73 4 นายรัฐธรรมนูญ เพ็งโฉม 3 3 70 5 นางสาวสายสวรรค์ สุวิชัย 4 4 80 6 นางสาววินดา รักธรรม 4 4 82 7 นางสาววรรณรัตน์ มีค าทอง 4 4 80 8 นายกิตติภูมิ โอริสา 3 3 70 9 นางสาวณัฐรียา โอริสา 3 3 70 10 นางสาวฟ้าใส ศรีผาง 4 4 80
แบบบันทึกการประเมินผลด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ ชื่อ-สกุล ท างานเป็นระบบ ( คะแนน) มีความรอบคอบ ( คะแนน) (3 รวม คะแนน) (คะแนน) เฉลี่ย ระดับคุณภาพ ผ่าน ไม่ผ่าน 1 นายศุภกร หาญสุโพธิ์ 3 3 6 3 2 นายรัชตะ เพ็งโฉม 4 3 7 3.50 3 นางสาวอัญชนา มีค าทอง 4 3 7 3.50 4 นายรัฐธรรมนูญ เพ็งโฉม 4 3 7 3.50 5 นางสาวสายสวรรค์ สุวิชัย 4 4 8 4 6 นางสาววินดา รักธรรม 4 4 8 4 7 นางสาววรรณรัตน์ มีค าทอง 3 4 7 3.50 8 นายกิตติภูมิ โอริสา 3 3 6 3 9 นางสาวณัฐรียา โอริสา 3 3 6 3 10 นางสาวฟ้าใส ศรีผาง 4 4 8 4
แบบบันทึกการประเมินผลด้านทักษะกระบวนการ เลขที่ ชื่อ-สกุล การแก้ปัญหา ( คะแนน) การให้เหตุผล ( คะแนน) รวม (คะแนน) เฉลี่ย ระดับคุณภาพ ผ่าน ไม่ผ่าน 1 นายศุภกร หาญสุโพธิ์ 3 3 6 3 2 นายรัชตะ เพ็งโฉม 4 3 7 3.50 3 นางสาวอัญชนา มีค าทอง 4 3 7 3.50 4 นายรัฐธรรมนูญ เพ็งโฉม 4 3 7 3.50 5 นางสาวสายสวรรค์ สุวิชัย 4 4 8 4 6 นางสาววินดา รักธรรม 4 4 8 4 7 นางสาววรรณรัตน์ มีค าทอง 3 4 7 3.50 8 นายกิตติภูมิ โอริสา 3 3 6 3 9 นางสาวณัฐรียา โอริสา 3 3 6 3 10 นางสาวฟ้าใส ศรีผาง 4 4 8 4
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ผู้เรียนมีความรู้ (K) ผู้เรียนได้คะแนนจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน ร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์การประเมิน จ านวน 10 คน คิดเป็น ร้อยละ.100 ด้านทักษะกระบวนการ (P) ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการ (P) ผู้เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินพฤติกรรม การท างานอยู่ในระดับ พอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์การประเมิน จ านวน10 คน คิดเป็น ร้อยละ100 ด้านคุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ (A) ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ (A) ผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามแบบประเมินลักษณะอันพึงประสงค์ ร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์การประเมิน จ านวน10 คน คิดเป็น ร้อยละ 100 ปัญหาและอุปสรรค ผู้เรียนไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ไม่กล้าน าเสนอ เพราะอายเพื่อน กลัวน าเสนอไม่ถูก ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ครูต้องให้ผู้เรียนได้พูด ได้แสดงความคิดเห็นมากขึ้น ให้ออกมาหน้าชั้นเรียน เล่นเกมส์หรือพูดคุยบ่อยๆ จะได้ ชินกับการพูด ไม่เขิน ไม่อาย ลงชื่อ..................................................ครูผู้สอน (นางสาวจิณัฐตา เพ็ชรแก่น) ต าแหน่ง ครู กศน.ต าบล
การนิเทศและตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้(เสนอผ่านตามขั้นตอนก่อนครูผู้สอนจะน าแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้สอน) 8.1 ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้./หัวหน้างานวิชาการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… .............................................. (นายเกรียงฤทธิ์ เดตะอุด) ……../………………/…….. 8.2 ความคิดเห็นของรองผู้อ านวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เห็นควรอนุญาต เห็นควรปรับปรุง เนื่องจาก..................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………. .............................................. (...........................................) ……../………………/…….. 8.3 ได้รับการตรวจสอบและอนุมัติให้ด าเนินการจัดการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ ในภาคเรียนที่............ ปีการศึกษา............. อนุมัติ ควรปรับปรุง เนื่องจาก................................................................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… .......................................... ( นางสาววิภา ทาโบราณ.) ผู้อ านวยการ สกร.อ าเภอบ้านแฮด ……../………………/……..
ใบความรู้ ความหมายของโครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตร์ หมายถึง การศึกษาเพื่อพบข้อความรู้ใหม่ สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ทางวิทยาศาสตร์ด้วยตัวของผู้เรียนเอง โดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหาโดยมี ครูอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ให้ค าปรึกษา โครงงานวิทยาศาสตร์ หมายถึง “กิจกรรมทางวิทยาศาสตร์อย่าง หนึ่งที่น าเอาวิธีการทาง วิทยาศาสตร์ มาใช้ในการศึกษาเพื่อแก้ปัญหา หรือตอบปัญหาที่สงสัยหรือประดิษฐ์ คิดค้นสิ่งใหม่ โดย เริ่มต้นจาก นักเรียนเป็นผู้คิดและเลือกเรื่องที่ต้องการศึกษา วางแผน ลงมือปฏิบัติ บันทึก ผล สรุปผลและ เสนอผลด้วยตนเอง จนส าเร็จทุกขั้นตอน” ประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ 1. โครงงานประเภทการทดลอง 2. โครงงานประเภทการส ารวจรวบรวมข้อมูล 3. โครงงานประเภทการสร้างสิ่งประดิษฐ์ 4. โครงงานประเภทการสร้างทฤษฎีและหลักการ 1. โครงงานประเภทการทดลอง เป็นโครงงานที่ต้องมีการออกแบบการทดลองเพื่อศึกษาผลของตัวแปรต้น หรือตัวแปร อิสระที่มีต่อตัวแปรตาม และมีการควบคุมตัวแปรอื่น ๆ ที่ไม่ต้องการศึกษาที่จะส่งผลการศึกษา คลาดเคลื่อน ขั้นตอนการท าโครงงานประเภทนี้จะต้องมีการก าหนดปัญหา ตั้งสมมุติฐาน ออกแบบการ ทดลอง ด าเนินการทดลองเพื่อหาค าตอบของปัญหา หรือตรวจสอบสมมุติฐานที่ตั้งไว้ แปรผล และ สรุปผล การท าโครงงานประเภททดลองนี้ในบางครั้งอาจจ าเป็น ต้องท าการทดลองเพื่อศึกษาความเป็นไป ได้เบื้องต้น (Preliminary Study) เสียก่อนเพื่อให้ได้ข้อมูลบางประการมาใช้ประกอบการตัดสินใจ เพื่อ ก าหนด รายละเอียดต่าง ๆ ของการศึกษาค้นคว้าจริงต่อไป การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้แบ่งตัวแปรออกเป็น 3 ประเภท คือ ก. ตัวแปรต้น หรือตัวแปรอิสระ (Independent variable) คือสิ่งที่เป็นสาเหตุที่ท าให้เกิดผล ต่าง ๆ หรือสิ่งที่เราต้องการศึกษาทดลองดูว่าเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดผลเช่นนั้นจริงหรือไม่ ข. ตัวแปรตาม (dependent variable) คือสิ่งที่เป็นผลเนื่องมาจากตัวแปรต้น เมือตัวแปร ต้นหรือสิ่งที่เป็นสาเหตุเปลี่ยนไป ตัวแปรตามหรือสิ่งที่เป็นผลก็จะเปลี่ยนไปด้วย แผนการสอนรายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์ ห้องเรียน วิทยาศาสตร์ภูมิภาค โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย 2 ค. ตัวแปรควบคุม (Controlled variable) คือ สิ่งอื่น ๆ นอกเหนือจากตัวแปรต้นที่มีผลต่อการ ทดลองซึ่งจะต้องควบคุมให้เหมือนกัน มิเช่นนั้นแล้วอาจท าให้ผลการ ทดลองคลาดเคลื่อน สรุป „ ตัวแปรต้นหรือตัวแปรอิสระคือสิ่งที่เราต้องการจะศึกษา „ ตัวแปรตามคือสิ่งที่เรา ต้องการจะวัดหรือผล „ ตัวแปรควบคุมคือสิ่งที่จะไปมีผลท าให้ตัวแปรตามหรือสิ่งที่จะวัดคลาดเคลื่อน 2. โครงงานประเภทการส ารวจรวบรวมข้อมูล เป็นโครงงานที่มีการส ารวจรวบรวมข้อมูลมีอยู่ในธรรมชาติ แล้ วน ามาจ าแนกเป็น หมวดหมู่โดยไม่มีการก าหนดตัวแปร น าเสนอในแบบต่าง ๆ เพื่อให้เห็นลักษณะ หรือ ความสัมพันธ์ของ เรื่องที่ศึกษาได้ชัดเจนขึ้น ตัวอย่างโครงงานประเภทนี้ ้ได้แก่
- การศึกษาลักษณะของพืชในท้องถิ่น - การศึกษาพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่ง - การส ารวจพืชสมุนไพรในท้องถิ่น - การศึกษาสมบัติของสารบางชนิด โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่น าไปใช้ประโยชน์ได้น้อย ส่วนใหญ่เป็น การศึกษาเพื่อ ตอบค าถามหรือเพื่อรู้เท่านั้น การน าไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้น้อยและจุดอ่อนของโครงงาน ประเภทนี้อยู่ ตรงที่ไม่ได้ฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ด้านก าหนดและควบคุมตัวแปร 3. โครงงานประเภทการสร้างสิ่งประดิษฐ์เป็นโครงงานที่เกี่ยวกับการประยุกต์ทฤษฎี หรือหลักการทาง วิทยาศาสตร์มาประดิษฐ์ เครื่องมือเครื่องใช้ หรืออุปกรณ์เพื่อประโยชน์ใช้สอยต่าง ๆ อาจคิดประดิษฐ์ของใหม่ หรือปรับปรุง ดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลักษณะโครงงานประเภทนี้จะต้องมีการก า หนดตัว แปรที่ต้องการศึกษาเหมือนกับโครงงานประเภททดลอง แต่ผลของโครงงานประเภทนี้จะได้อุปกรณ์ หรือ สิ่งประดิษฐ์และมีข้อมูลต่าง ๆ ประกอบด้วย ซึ่งต่างจากโครงงานประเภททดลองตรงที่ผลของโครงงาน ประเภททดลองจะมีแต่เฉพาะข้อมูล โครงงานสิ่งประดิษฐ์นี้จะมีการก าหนดตัวแปรที่จะศึกษาซึ่งมีทั้งตัว แปร ต้นหรือตัวแปรอิสระ ตัวแปรตามและตัวแปรควบคุม เช่นเดียวกับโครงงานประเภททดลอง โครงงาน ประเภท สิ่งประดิษฐ์ ส่วนใหญ่จะก าหนดตัวแปรที่จะศึกษา ดังนี้ตัวแปรต้น มักจะศึกษาในด้านรูปทรงหรือโครงสร้างที่ เหมาะสมของสิ่งประดิษฐ์ชนิดของ วัสดุที่เหมาะสมในการท าสิ่งประดิษฐ์ ฯลฯ แผนการสอนรายวิชา โครงงาน วิทยาศาสตร์ ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาค โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย 3 ตัวแปรตาม มักจะวัดคุณภาพ ของสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งจะก าหนดเกณฑ์การวัดต่าง ๆ กัน ออกไปตามชนิดของสิ่งประดิษฐ์ ตัวแปรควบคุม จะ ควบคุมในสิ่งที่จะท าให้ ผลการวัดตัวแปรตามคลาดเคลื่อน จะควบคุม อะไรบ้างนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของ สิ่งประดิษฐ์ 4. โครงงานประเภทการสร้างทฤษฎีเป็นโครงงานที่ได้เสนอทฤษฎี หลักการ หรือแนวความคิดใหม่ ๆ ซึ่งอาจ อยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือค าอธิบายก็ได้ โดยผู้เสนอได้ตังกติกา หรือข้อตกลงนั้น หรืออาจใช้กติกาและ ข้อตกลงเดิมมา อธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในแนวใหม่ อาจเสนอหลักการ แนวความคิด หรือจินตนาการที่ยัง ไม่มีใครคิด มาก่อน อาจเป็นการขัดแย้งหรือขยายทฤษฎีเดิม แต่จะต้องมีข้อมูลหรือทฤษฎีอื่นมาสนับสนุน อ้างอิ
ส่วนประกอบของการเขียนรายงาน 1. ชื่อโครงงาน 2. ชื่อผู้จัดท าโครงงาน/โรงเรียน/วันเดือนปีที่จัดท า 3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา 4. บทคัดย่อ บอกเค้าโครงย่อยๆประกอบด้วย เรื่อง....วัตถุประสงค์......วิธีการศึกษาและสรุปผล 5. กิตติกรรมประกาศ (แสดงความขอบคุณ บุคคล หรือหน่วยงาน ที่มีส่วนในการให้ความช่วยเหลือ ในด าเนินโครงงาน) 6. ที่มาและความส าคัญของโครงงาน 7. วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า 8. สมมุติฐานของการศึกษาค้นคว้า (ถ้ามี) 9. วิธีด าเนินการ 10. สรุปผลการศึกษาค้นคว้า 11. อภิปรายผล / ประโยชน์ / ข้อเสนอแนะ 12. เอกสารอ้างอิง
โครงงานประเภทการ ทดลอง โครงงานประเภทการ ส ารวจ ใบงาน ค าสั่ง นักเรียนจงบอกลักษณะของโครงงานแต่ละประเภท 1.ลักษณะของโครงงานประเภททดลอง . 2.ลักษณะของโครงงานประเภทส ารวจ
3. โครงงานประเภทการสร้างสิ่งประดิษฐ์ 4. โครงงานประเภทการสร้างทฤษฎี โครงงานประเภท สิ่งประดิษฐ์ โครงงานประเภท ทฤษฎี
แบบทดสอบหลังเรียน 1. ข้อใดกล่าวถึงโครงงานได้ถูกต้อง ก. ไม่สามารถน าไปใช้ได้จริงในชีวิตประจ าวัน ข. ผู้ท าโครงงานไม่มีสิทธิ์เลือกหัวข้อโครงงานของตนเอง ค. ผู้ท าโครงงานสามารถเลือกด าเนินการได้ตามความพอใจ ง. เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนกับที่ปรึกษาโครงงาน 2. ข้อใดคือความส าคัญของการท าโครงงาน ก. เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ข. พัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ค. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ง. ถูกทุกข้อ 3. ความหมายของโครงงานเน้นส่วนที่ส าคัญ คือข้อใด ก. เป็นกิจกรรมที่ครูออกแบบให้ ข. เป็นกิจกรรมที่ครูคิดหัวข้อให้ ค. เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนปฏิบัติได้ด้วยตนเอง ง. เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนได้จัดท าเป็นไปตามการเรียนการสอนปกติ 4. การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เป็นโครงงานประเภทใด ก. โครงงานที่เกี่ยวกับการส ารวจรวบรวมข้อมูล ข. โครงงานที่เกี่ยวกับการทดลอง ค. โครงงานที่เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์หรือการพัฒนา ง. โครงงานที่เกี่ยวกับทฤษฎีและหลักการ
5. โครงงานส ารวจความต้องการประกอบอาชีพของคนในชุมชนเป็นโครงงานประเภทใด ก. โครงงานที่เกี่ยวกับการส ารวจรวบรวมข้อมูล ข. โครงงานที่เกี่ยวกับการทดลอง ค. โครงงานที่เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์หรือการพัฒนา ง. โครงงานที่เกี่ยวกับทฤษฎีและหลักการ 6. การท าของใช้จากวัสดุเหลือใช้ เป็นโครงงานประเภทใด ก. โครงงานที่เกี่ยวกับการส ารวจรวบรวมข้อมูล ข. โครงงานที่เกี่ยวกับการทดลอง ค. โครงงานที่เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์หรือการพัฒนา ง. โครงงานที่เกี่ยวกับทฤษฎีและหลักการ 7. โครงงานประเภทประดิษฐ์ควรค านึงถึงข้อใดมากที่สุด ก. ความประณีต ข. ความสวยงาม ค. ความน่าเชื่อถือ ง. ความคงทนแข็งแรงและประโยชน์ใช้สอย 8. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของโครงงานที่ผู้เรียนจะได้รับจากการท าโครงงาน ก. มีความสุขและสนุกกับการท างาน ข. พัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ค. สามารถน าไปพัฒนาและใช้ได้จริงในชีวิตประจ าวัน ง. น าไปพัฒนาสร้างรายได้จ านวนมาก
9. การเลือกหัวข้อโครงงานควรพิจารณาสิ่งใดเป็นล าดับแรก ก. เคยมีผู้ท าแล้ว ข. ใช้ต้นทุนต่ า ค. ความสามารถของตน ง. สามารถน าไปจ าหน่ายได้ 10. นักเรียนไม่ควรเลือกหัวข้อโครงงานใด ก. การสร้างอาวุธสงคราม ข. สบู่สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ค. ถุงพลาสติกพิชิตแมลงวัน ง. การหาสารพิษในอาหาร 11. สิ่งใดส าคัญที่สุดในการท าโครงงาน ก. งบประมาณ ข. ความปลอดภัย ค. ความสวยงาม ง. การใช้งานได้จริง 12. ข้อใดอยู่ในขั้นตอนการวางแผนการท าโครงงาน ก. การเลือกหัวข้อโครงงาน ข. การศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง ค. การท าเค้าโครงงาน ง. การจัดท าโครงงาน
13. ประโยชน์ของการจัดท าเค้าโครงงานคือข้อใด ก. ก าหนดการท างาน ข. ประหยัดค่าใช้จ่าย ค. มีความเป็นระเบียบ ง. ประหยัดเวลา 14. การตั้งสมมุติฐานคือสิ่งใด ก. การวางแผนการท างาน ข. การคาดผลไว้ล่วงหน้า ค. การแจ้งผลให้ผู้อื่นทราบ ง. การสรุปผลล่วงหน้า 15. ข้อใดเป็นสิ่งส าคัญอันดับแรกของการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะน ามาพัฒนาโครงงาน ก. สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ ข. มีงบประมาณเพียงพอ ค. มีเวลาเพียงพอ ง. มีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
เฉลยแบบทดสอบ 1 ค 2 ง 3 ค 4 ข 5 ก 6 ค 7 ง 8 ง 9 ค 10 ก 11 ง 12 ค 13 ก 14 ข 15 ง