The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by krookrisitsirimak, 2022-06-12 12:14:41

เอกสารประกอบการเรียนรู้ด้วยตนเอง

เรื่องที่ 1 หลักสูตรสมรรถนะ

Keywords: หลักสูตร

กรอบหลั กสู ตรสมรรถนะ

(ระดับประถมศึ กษา)

๑. แนวคิ ดพื้นฐานของการพัฒนาหลักสูตร

ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการด้านต่าง ๆ ของโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะ
การเปลี่ยนแปลงความรู้ และเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ที่นำไปสู่การเป็นสังคมดิจิทัล
อยา่ งรวดเรว็ รวมถึงการเกิดปรากฏการณส์ ำคญั ของโลก เชน่ ภาวะการระบาดของเชอ้ื ไวรสั โคโรนา
อย่างรุนแรง ส่งผลให้ทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทย เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม
และเศรษฐกิจที่กระทบวิถีชีวิตของผู้คนอย่างไม่หยุดยั้ง เกิดปัญหา ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกจิ
และสังคมท่ชี ัดเจนขึน้ เรอื่ ย ๆ นอกจากนัน้ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการศึกษายังไม่สะท้อนถึงศักยภาพของ
ผู้เรียนที่สามารถออกไปสู่สังคมและโลกของการทำงานในอนาคตได้อย่างชัดเจน จึงเป็น
ความสำคญั จำเปน็ ท่จี ะตอ้ งปรบั ปรุงหลกั สูตรการศกึ ษาของชาติ ซึ่งเปน็ พมิ พ์เขยี วและกลไกสำคัญ
ในการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาของประเทศ ให้สอดคล้องรับกับความก้าวหนา้ ทางวิทยาการและ
การเปลี่ยนแปลงทุกด้าน เพื่อสร้าง คนไทยให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ มีความสามารถและ
ศักยภาพในการดำรงชีวิต ปรับตนให้พร้อมรับ การเปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะแข่งขันและร่วมมือ
อย่างสรา้ งสรรคใ์ นเวทีโลก กระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน
จึงไดด้ ำเนินงานพัฒนาหลักสตู รการศึกษาของชาตฉิ บับใหม่เพือ่ ใชเ้ ปน็ กรอบแนวคดิ ในการพัฒนา
เยาวชนของชาติให้มีคุณลักษณะสอดคล้องกับการเปลีย่ นแปลงของโลก พร้อมท้ัง เป็นการเตรยี ม
เยาชนสำหรบั การเผชิญหนา้ กับโลกอนาคตทไ่ี มแ่ น่นอนตอ่ ไป

(ร่าง) กรอบหลกั สตู รการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ระดบั ประถมศึกษาน้ี พัฒนาขนึ้ ตามแนวคิดการ
จัดการศึกษาฐานสมรรถนะ ซึ่งมีความแตกต่างจากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 ที่พัฒนาขึ้นตามแนวคิดหลักสูตรอิงมาตรฐาน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อพฒั นาผู้เรยี น
ทุกคนให้มีคุณภาพ อย่างน้อยตามที่มาตรฐานกำหนด ส่วน (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษา
ขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช…. ระดบั ประถมศึกษา เปน็ หลักสูตรฐานสมรรถนะ มีเป้าหมายเพื่อพฒั นา
ผู้เรียนทุกคนให้มีสมรรถนะหลักที่สำคัญจำเป็น และส่งเสริมให้ผู้เรียนได้บ่มเพาะ พัฒนา
และต่อยอดสมรรถนะหลักและสมรรถนะอื่นได้เต็มตามศักยภาพ ตามความจำเพาะเจาะจง
ของบุคคล (Personalization) ตามความเชอ่ื ทวี่ ่ามนุษย์มีหน้าท่ี ในการพยายามคน้ หาตัวเอง และ
เลือกสร้างลักษณะของตนเองตามที่อยากจะเป็น การจัดการศึกษาตามแนวคิดนี้จึงมุ่งให้ผู้เรียน
ทบทวน พิจารณา ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ และตรวจสอบ เพื่อให้ค้นพบและรู้จักตนเองอยู่เสมอ
เพ่ือพัฒนาศกั ยภาพของตนเองอย่างเปน็ องค์รวม

แนวคิ ดพื้นฐานของการพัฒนาหลักสูตร (ต่อ)

การจัดการศึกษาซึ่งหมายถึงการออกแบบหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ และการวัดและ
ประเมินผล การเรียนรู้ ตาม (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ....
ระดับประถมศึกษา จึงมีเป้าหมายในการพัฒนาสมรรถนะหลักของผู้เรียนที่เหมาะสมตามช่วงวัย
จัดสภาพแวดล้อมและเส้นทางการเรียนรู้ (Learning Pathways) ที่หลากหลาย จัดระบบ
สนับสนุนการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับธรรมชาติของผู้เรียน ( Differentiated Learning)
ใช้กระบวนการจัดการเรียนรูเ้ ชิงรุก ใช้สื่อและสถานการณ์การเรียนรู้ ที่ร่วมสมัย หลากหลายและ
ยืดหยุ่น ตามความสนใจและความถนัดของผู้เรียน บริบท และจุดเน้นของสถานศึกษาและชุมชน
แวดล้อม เนน้ ประเมนิ การเรยี นรู้เพื่อพฒั นาและสะท้อนสมรรถนะของผูเ้ รยี นตามเกณฑ์การปฏิบัติ
ท่ีเป็นธรรม เช่อื ถอื ได้ เอ้ือต่อการถ่ายโยงการเรียนรแู้ ละพัฒนาในระดับทสี่ งู ขึ้นตามความเช่ียวชาญ
ของผ้เู รียนอย่างตอ่ เนื่อง

๒. วิสัยทัศน์

“ผูเ้ รียนมสี มรรถนะหลัก ความรู้ ทักษะ และเจตคติ เพอื่ การเปน็ ผ้เู รียนรู้ ผู้รว่ มสร้างสรรค์
นวัตกรรม และเป็นพลเมอื งทเ่ี ขม้ แขง็ ”

๓. หลักการของหลักสูตร

(ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช .... ระดับประถมศึกษา กำหนด
หลกั การสำคัญของหลักสูตร ไวด้ งั น้ี

๑) เป็นหลักสูตรที่มีเป้าหมายในการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนที่เหมาะสมตามช่วงวัย
เน้นการพัฒนาผู้เรียนรายบุคคล (Personalization) อยา่ งเปน็ องคร์ วม (Holistic Development)
เพือ่ การเป็นเจา้ ของ การเรยี นรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนอื่ ง (Life-Long Learning)

๒) เป็นหลักสูตรที่เชื่อมโยงระหว่างสมรรถนะหลักและสมรรถนะเฉพาะในการกำหนด
ผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learning Outcome) เพื่อการพัฒนาผู้เรียนให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ใน
ชวี ิตและการทำงาน

๓) เป็นหลักสูตรที่จัดสภาพแวดล้อมและเส้นทางการเรียนรู้ ( Learning Pathway)
ท่ีหลากหลาย และระบบสนับสนนุ การเรียนรู้ทส่ี อดคล้องกบั พหุปัญญาและธรรมชาติของผูเ้ รียน

หลักการของหลักสูตร (ต่อ)
๔) เป็นหลักสูตรที่มีกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การใช้สื่อและ

สถานการณ์ การเรียนรู้ร่วมสมัย มีความหลากหลาย และยืดหยุ่น ตามความสนใจ ความถนัด
ของผเู้ รียน (Differentiated Instruction) บริบท จุดเนน้ ของสถานศึกษา และชุมชนแวดล้อม

๕) เป็นหลักสูตรที่มุ่งใช้การประเมินเพื่อการพัฒนาการเรียนรู้และสะท้อนสมรรถนะ
ของผู้เรียน ตามเกณฑ์การปฏิบัติ (Performance) ที่เป็นธรรม เชื่อถือได้ เอื้อต่อการถ่ายโยง
การเรียนรแู้ ละพัฒนาในระดบั ท่ีสูงข้นึ ตามระดับความสามารถ

๔. จุดหมายของหลักสูตร

การพัฒนาผู้เรียนตาม (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ....
ระดับประถมศึกษา มีจุดหมายเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะและเจตคติ
ทจ่ี ำเปน็ ตอ่ การดำเนินชวี ิต และมีความสามารถ ดงั น้ี

๑) รู้จัก รัก เห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น จัดการอารมณ์และความเครียด ปัญหา และ
ภาวะวิกฤต สามารถฟื้นคืนสู่สภาวะสมดุล (Resilience) และมีสุขภาวะและมีสัมพันธภาพที่ดี
กับผอู้ ืน่

๒) มีทักษะการคิดขั้นสูงอย่างมีคุณธรรม มีความสามารถในการนำและกำกับการเรียนรู้
ของตนเอง อยา่ งมีเป้าหมาย

๓) ส่อื สารอย่างฉลาดรู้ สร้างสรรค์ มพี ลัง ด้วยความรับผดิ ชอบต่อตนเองและสังคม
๔) จัดระบบและกระบวนการทำงานให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย มีความ
เป็นผ้ปู ระกอบการ ภาวะผนู้ ำ และจัดการความขดั แย้งภายใตส้ ถานการณท์ ม่ี ีความซบั ซ้อน
๕) ปฏบิ ัตติ นอย่างรบั ผดิ ชอบ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม ในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก
๖) เข้าใจพ้นื ฐานเก่ยี วกบั ปรากฏการณ์ของโลกและจักรวาล เข้าถงึ และรู้เท่าทันวิทยาการ
เทคโนโลยี เพ่ือการดำรงชีวติ และอยูร่ ่วมกบั ธรรมชาติอย่างยัง่ ยืน

๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นค่านิยมร่วมที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน
อันเป็นคุณลักษณะ ที่สังคมต้องการในด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและจิตสำนึกเพื่อให้อยู่
รว่ มกนั ในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ ท้ังในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก ประกอบดว้ ย

๑) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ
มีทัศนคติ ที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา
ที่ตนนับถือ เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ และยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองตาม
ระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข

๒) ซื่อสัตย์สุจริต เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในความถูกต้อง ประพฤติ
ตรงตามความเป็นจริงต่อตนเองและผู้อื่นทั้งทางกาย วาจาและใจ ยึดหลักความจริงและ
ความถูกต้องในการดำเนนิ ชวี ติ มคี วามละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำผิด

๓) มีวินัย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในข้อตกลง กฎเกณฑ์และ
ระเบียบข้อบังคับ ทั้งของตนเอง ครอบครัว โรงเรียนและสังคมเป็นปกติวิสัย และไม่ละเมิดสิทธิ
ของผอู้ ่ืน

๔) อยู่อย่างพอเพียง เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ
มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม อยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยความรับผดิ ชอบไม่เบยี ดเบียนผู้อื่น เห็นคุณคา่
ของทรัพยากรต่าง ๆ มีการวางแผนป้องกันความเสีย่ งและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง มีภูมิคุ้มกนั
ในบุคคลทด่ี ีและปรบั ตวั เพ่ืออย่ใู นสังคม ได้อยา่ งมีความสขุ

๕) มีจิตสาธารณะ เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือ
สถานการณ์ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่น ชุมชน และสังคม ด้วยความเต็มใจและกระตือรือร้น
โดยไม่หวงั ผลตอบแทน

๖. สมรรถนะหลัก ๖ ด้าน

สมรรถนะหลัก (Core Competencies) ตาม (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ระดับประถมศึกษา หมายถึง สมรรถนะที่กำหนดให้เป็นพื้นฐานที่นักเรียนทุกคนต้องได้รับ
การพัฒนาให้เป็นความสามารถติดตัวเมื่อจบการศึกษา มีลักษณะเป็นสมรรถนะข้ามกลุ่ม สาระ
การเรียนรู้หรือคร่อมวิชา สามารถพัฒนาให้เกิดขึ้นแก่ผู้เรียนได้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ
ที่หลากหลาย หรือสามารถนำไปประยุกต์ใช้ ในการพัฒนาผู้เรียนให้เรียนรู้สาระต่าง ๆ ได้ดีข้ึน
เปน็ สมรรถนะทีม่ ลี กั ษณะ “content – free” คือ ไมข่ ึน้ กับเนื้อหาสาระของศาสตร์ใด ๆ อย่างไรก็
ตามสมรรถนะหลักโดยตัวมันเองไม่ได้ปราศจากความรู้ แต่ความรู้ ที่เป็นองค์ประกอบ
ของสมรรถนะหลักจะเป็นองค์ความรู้เชิงกระบวนการ (Procedural Knowledge) ซึ่งเป็นชุด
ของขั้นตอนหรือการปฏิบัติเพื่อดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายขอ งสมรรถนะนั้น ๆ เป็นได้ท้ัง
กระบวนการที่ใช้เฉพาะศาสตร์หรือบูรณาการข้ามศาสตร์ เช่น ความรู้ที่เป็นองค์ประกอบ
ของสมรรถนะการคิดขั้นสูงเป็นเป็นชุดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการคิดประเภทต่าง ๆ เช่น
การคิดวเิ คราะห์ การคิดเชงิ วิพากษ์ และการคดิ สรา้ งสรรค์

(ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับประถมศึกษา กำหนดสมรรถนะหลัก ๖
ดา้ น เพื่อเป็นเป้าหมายการพัฒนาผู้เรียนระดบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ดงั นี้

๑. การจดั การตนเอง
๒. การคิดขนั้ สงู
๓. การสอ่ื สาร
๔. การรวมพลงั ทำงานเป็นทีม
๕. การเปน็ พลเมอื งทเ่ี ข้มแขง็
๖. การอยูร่ ่วมกบั ธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยัง่ ยืน

๑. สมรรถนะการจัดการตนเอง (Self-Management: SM)

นิยาม
การรู้จัก รัก เห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น การพัฒนาปัญญาภายใน ตั้งเป้าหมายในชีวิต
และกำกับตนเองในการเรียนรู้และใช้ชีวติ การจัดการอารมณ์และความเครียด รวมถึงการจัดการ
ปัญหาและภาวะวิกฤต สามารถฟื้นคืนสู่สภาวะสมดุล (Resilience) เพื่อไปสู่ความสำเร็จ
ของเปา้ หมายในชวี ติ มีสขุ ภาวะที่ดแี ละมีสมั พันธภาพกบั ผ้อู ่ืนได้ดี

องค์ประกอบ
๑. การเห็นคุณค่าในตนเอง : การรู้จัก รัก เห็นคุณค่าในตนเอง รู้จุดเด่น ข้อจำกัด
ความสนใจ ความสามารถ ความถนัด และภาคภูมิใจในตนเอง มั่นใจในตนเอง เห็นอกเห็นใจ
ให้เกียรติและเคารพสทิ ธติ นเองและผู้อนื่ มคี วามรับผิดชอบในตนเอง
๒. การมีเป้าหมายในชีวิต : การตั้งเป้าหมายในชีวิต มีวินัยในตนเอง สามารถบริหาร
จดั การเวลา ทรัพยากร สามารถพึง่ พาและกำกับตนเองใหไ้ ปสเู่ ป้าหมายในชีวิต และมีสขุ ภาวะที่ดี
๓. การจัดการอารมณ์และความเครียด : การรับรู้ เข้าใจ รู้เท่าทัน อารมณ์ ความรู้สึก
ความคิด และความเครียดที่เกิดขึ้นในชวี ิตประจำวันของตนเอง เข้าใจสาเหตุและสามารถจัดการ
อารมณ์ ความรู้สกึ และความคิดของตนเอง
๔. การจดั การปัญหาและภาวะวกิ ฤต : การรู้เทา่ ทันการเปลี่ยนแปลงท่ีเกดิ จากปัญหาและ
ภาวะวิกฤต สามารถฟื้นคืนสู่สภาวะสมดุลได้ สามารถเตรียมการ ป้องกัน และแก้ไข เพื่อให้
เกิดความปลอดภยั ในชวี ติ และทรพั ย์สนิ

๒. สมรรถนะการคิ ดข้ันสูง (Higher Order Thinking: HOT)

นยิ าม
สามารถคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมีวิจารญาณบนหลักเหตุผลอย่าง
รอบด้าน โดยใช้คุณธรรมกำกับการตัดสินใจได้อย่างมีวิจารณญาณ มีความสามารถคิดอย่าง
เป็นเหตุเป็นผลด้วยความเข้าใจ ถึงความเชื่อมโยงของสรรพสิ่งที่อยู่ร่วมกันอย่างเป็นระบบ
ใช้จนิ ตนาการและความรูส้ รา้ งทางเลือกใหม่ เพอื่ แก้ปญั หาทซ่ี บั ซ้อนได้อย่างมีเปา้ หมาย

องคป์ ระกอบ
๑. การคิดอย่างมีวิจารณญาณ (Critical Thinking: HOT-CTC) หมายถึง กระบวน
การคดิ ท่ีพิจารณาไตร่ตรองอย่างมีเหตุผล มีจดุ ประสงค์เพ่ือตัดสินว่าส่ิงใดควรเช่ือหรือควรกระทำ
โดยมีหลักฐานสนับสนุนซึ่งเป็นผลมาจากการตีความ ประเมิน วิเคราะห์ สรุปความ และอธิบาย
ตามหลักฐาน แนวคิด วิธีการ กฎเกณฑ์ หรือบริบทต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลที่รวบรวมหรือข้อ มูล
จากการสังเกต ประสบการณ์ การใช้เหตุผล การสะท้อนคิด การสื่อสาร และการโต้แย้ง
นำไปพิจารณาร่วมกบั ขอ้ มลู ด้านอ่ืน ๆ เช่น ความเหมาะสม ตามหลกั กฎหมาย ศีลธรรม คุณธรรม
ค่านิยม ความเช่ือและบรรทดั ฐานทางสังคมและวัฒนธรรม

๒. การคิดเชิงระบบ (System Thinking: HOT-STM) หมายถึง กระบวนการคิด
ที่มองเห็นภาพรวมโครงสร้างทั้งหมดที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กันเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างเป็นระบบ
ภายใตบ้ รบิ ท/ ปัจจัย ของสิง่ แวดลอ้ มท่เี กิดสถานการณน์ ัน้ ๆ โดยมองสถานการณ์ให้ลึกลงไปกว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นแบบแผนหรือรูปแบบที่เกิดขึ้น เห็นรากเหง้าของสถานการณ์และ
ปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นั้น ๆ จนเกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในสถานการณ์นั้น
นำไปสู่การออกแบบระบบ เปรียบเทียบแบบจำลองความคิด ทำนายผลลัพธ์ของการแทรกแซง
ระบบ และประเมนิ ระบบได้

๓. การคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking: HOT-CRT) หมายถึง กระบวนการคิด
ที่หลากหลาย ริเริ่ม ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาต่อยอดความคิด เพื่อการแก้ปัญหาหรือสร้าง
ทางเลือก ที่มีประสิทธิภาพ การสร้างความก้าวหนา้ ในความรู้ หรือการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์
โดยอาศัยจินตนาการและทักษะพื้นฐานด้านการคิดริเริ่ม คิดคล่อง คิดยืดหยุ่น คิดละเอียดลออ
คิดหลากหลาย คิดวิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อให้ได้สิ่งใหม่ที่ดีกว่า แตกต่างไปจากเดิม
มีประโยชน์ และมีคุณค่าตอ่ ตนเอง ผอู้ ื่น และสังคมมากกวา่ เดิม ซ่งึ ส่งิ ใหมใ่ นที่น้ีอาจเป็นการปรับ
หรือประยกุ ตส์ ง่ิ เดิมให้อย่ใู นรูปแบบใหม่ หรือเปน็ การตอ่ ยอด จากสิ่งเดิม หรือเป็นการริเริ่มสิ่งใหม่
ข้นึ มาท้งั หมด

๔. การคดิ แก้ปญั หา (Problem Solving Thinking: HOT-PRB)
หมายถึง กระบวนการคิดที่ใช้ในการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการกำหนด
ปัญหา เข้าใจเหตุและผลของปัญหา วางแผน การแก้ปัญหาโดยรวบรวมข้อมูลเพื่อแก้ปัญหา
ออกแบบวธิ ีการแก้ปญั หาทหี่ ลากหลาย และเลอื กวธิ กี ารแกป้ ญั หาทีด่ ีท่ีสุด ดำเนนิ การแก้ไขปัญหา
ตามแผนที่วางไว้อย่างเป็นลำดับขั้นตอน เก็บ และวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อประเมนิ และตรวจสอบผล
ของการแก้ปญั หา ปรบั ปรุง จนปญั หาได้รับการแก้ไข

๓. สมรรถนะการสื่อสาร (Communication: CM)

นิยาม
มีความสามารถรับรู้ รับฟัง ตีความ และส่งสารด้วยภาษาต่าง ๆ ทั้งวัจนภาษาและ
อวัจนภาษา โดยใช้กระบวนการคิด ซึ่งจะนำไปสู่การเรียนรู้ ความเข้าใจ ในระบบคุณค่า
การแก้ปัญหาร่วมกันผ่านกลวิธี การสื่อสาร อย่างฉลาดรู้ สร้างสรรค์ มีพลัง โดยคำนึงถึง
ความรับผิดชอบตอ่ สังคม

องคป์ ระกอบ
๑. การรับสารอย่างมีสติและถอดรหัสเพื่อให้เกิดความเข้าใจ หมายถึง การรับสารด้วย
ความใส่ใจ ผ่านประสาทสัมผัสในการรับสาร ตลอดจนสามารถตีความ1สารที่ส่งมาไดท้ ั้งความคดิ
ความรูส้ ึก เจตนา ตลอดจนสามารถตีความสารและสามารถนำสารมาใชพ้ ัฒนาตนเองและสังคม
๒. การรับส่งสารบนพ้ืนฐานความเข้าใจและความเคารพในความคดิ เห็นและวัฒนธรรม
ทแ่ี ตกตา่ ง หมายถึง การรบั สง่ สารดว้ ยวิธีการท่ีหลากหลาย ทัง้ การเจรจาต่อรอง หรือแลกเปล่ียน
ข้อมูล สารสนเทศ องค์ความรู้ ประสบการณ์ ผ่านช่องทางหรือสื่อที่มีความหลากหลาย ทั้งสื่อ
บุคคล สอ่ื ธรรมชาติ สอ่ื สง่ิ พิมพ์ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ และส่อื ระคน โดยปราศจากความขัดแย้งต่าง ๆ
และรู้เท่าทัน บนพื้นฐานความเข้าใจในบริบทสังคมที่มีความคิดและวัฒนธรรมที่แตกต่าง
ทัง้ ในระดบั ชุมชน ชาติ และสากล
๓. การเลือกใช้กลวิธีการสื่อสารอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงความรับผดิ ชอบต่อสังคม
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการสื่อสาร หมายถึง การเลือกใช้วิธีการสื่อสารในลักษณะต่าง ๆ
ทั้งวัจนภาษาและอวัจนภาษา ตลอดจนการสื่อความหมายผ่านสื่อในรูปแบบต่าง ๆเพื่อบรรลุ
เปา้ หมายในการส่อื สาร โดยมีความรบั ผดิ ชอบ ตอ่ ผลทจี่ ะเกิดขึ้นในสังคมและวัฒนธรรมท่ีแตกต่าง
ทงั้ ในระดบั ชุมชน ชาติ และสากล

๔. สมรรถนะการรวมพลังทางานเป็ นทีม (Teamwork and
Collaboration: TC)

นิยาม
สามารถจัดระบบและกระบวนการทำงาน กิจการ และการประกอบการใด ๆ ท้ัง
ของตนเอง และร่วมกับผู้อืน่ โดยใช้การรวมพลงั ทำงานเป็นทีม มีแผน ขั้นตอน ให้บรรลุผลสำเรจ็
ตามเป้าหมาย มีภาวะผู้นำ มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีการประสานความคิดเห็นที่แตกต่าง
สู่การตัดสินใจและแก้ปัญหาเป็นทีม อย่างรับผิดชอบร่วมกัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและ
จดั การความขัดแยง้ ภายใต้สถานการณท์ ย่ี ่งุ ยาก
องค์ประกอบ
๑. เป็นสมาชิกทีมที่ดีและมีภาวะผู้นำ มีทักษะการทำงานเป็นทีม รับผิดชอบในบทบาท
หน้าท่ีของตนและของทมี มีความยืดหย่นุ ในการทำงานร่วมกบั กลุ่มคนทแี่ ตกต่าง นำจดุ เดน่ ของตน
และสมาชิกมาใช้ ในการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย สะท้อนการทำงานของตนเองและทีม ส่งเสริม
และพฒั นาศกั ยภาพของทีม สร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเอง ใหเ้ ปน็ ท่ยี อมรับและไว้วางใจ
ประสานความร่วมมือภายในทีม และระหว่างทีม สร้างค่านิยมใหม่ในการทำงานร่วมกัน
และการพฒั นาทีมท่เี ขม้ แข็ง สามารถเป็นต้นแบบผ้สู รา้ งการเปลีย่ นแปลง

๒. กระบวนการทำงานแบบร่วมมือรวมพลังอย่างเป็นระบบ สามารถจัดระบบ
การทำงานกิจการ และการประกอบการใด ๆ ทั้งของตนเอง และร่วมกับผู้อื่น ร่วมกันกำหนด
เป้าหมาย แผนการทำงาน ขั้นตอน และกระบวนการทำงานเป็นทีม เห็นภาพความสำเร็จของทมี
คำนึงถึงประโยชน์ของทีมก่อนประโยชน์ส่วนตน แบ่งบทบาทหน้าที่ให้เหมาะสมกับศักยภาพ
ของสมาชิก รับผิดชอบตามบทบาทหน้าที่ด้วยความใส่ใจ มีความพยายามในการทำงานและ
สนับสนุนช่วยเหลือให้เกิดความสำเร็จ เคารพ รับฟัง แลกเปลี่ยน และประสานความคิดเห็น
ที่แตกต่าง ประยุกต์ใช้ทักษะการคิดขั้นสูงในการตัดสินใจเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ ประเมินและ
ปรับปรงุ กระบวนการทำงานรว่ มกันอย่างเปน็ ระบบ ด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ รว่ มรับผิด
และรับชอบต่อผลการตัดสินใจของทมี เหน็ คณุ คา่ ของการทำงานแบบร่วมมือรวมพลัง

๓. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการจัดการความขัดแย้ง มีทัศนคติเชิงบวกในการทำงาน
ร่วมกับผู้อื่น เห็นคุณค่าของสัมพันธภาพที่ดี สร้างและรักษาความสัมพันธ์อันดีในทีม
ให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกันปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความจรงิ ใจ เห็นอกเห็นใจในฐานะที่เป็นมนุษย์
ดว้ ยกนั เคารพและเห็นประโยชน์ของ ความแตกตา่ งหลากหลาย มที ักษะและใชว้ ิธกี ารป้องกนั และ
จัดการความขัดแย้งไดอ้ ยา่ งเป็นระบบ

๕. สมรรถนะการเป็ นพลเมื องที่เข้มแข็ง (Active Citizen: AC)

นิยาม
การปฏิบัติตนอย่างรับผิดชอบในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก รู้เคารพสิทธิเสรีภาพของ
ตนเอง และผู้อื่น เคารพในกฎกติกาและกฎหมาย มีส่วนร่วมทางสังคมอย่างมีวิจารณญาณ
อยู่ร่วมกับผู้อื่นท่ามกลางความหลากหลาย เห็นคุณค่าของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีบทบาท
ในการตัดสินใจและสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยยึดม่นั ในความเทา่ เทียมเป็นธรรม คา่ นิยม
ประชาธปิ ไตย และสันติวิธี
องคป์ ระกอบ
๑. พลเมอื งรู้เคารพสทิ ธิ เคารพสิทธเิ สรีภาพของผ้อู ่ืน ตระหนกั ในสทิ ธเิ สรภี าพของตนเอง
ช่วยเหลือ ให้เกียรติ และเห็นอกเหน็ ใจผอู้ ่ืนบนพื้นฐานของการพ่ึงพาอาศัยกนั โดยปราศจากอคติ
ไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ิ เพ่อื การอย่รู ว่ มกนั อย่างสนั ติ
๒. พลเมืองรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ ปฏิบัติตนตามกฎ กติกา ข้อตกลง กฎหมาย
อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม รบั ผดิ ชอบบทบาทหน้าทีต่ นเองในฐานะพลเมอื งไทยและพลโลก
๓. พลเมืองมีส่วนร่วมอย่างมีวิจารณญาณ ติดตามสถานการณ์และประเด็นปัญหา
ของสงั คม อยา่ งมวี จิ ารณญาณ มสี ่วนร่วมทางสังคมด้วยจติ สาธารณะและสำนกึ สากล
๔. พลเมืองผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง มีความกระตือรือร้นในการสร้างการเปลี่ยนแปลง
เชิงบวก ทางสังคม บนพืน้ ฐานของความเท่าเทียมเปน็ ธรรม คา่ นิยมประชาธิปไตย และสันติวิธี

๖. สมรรถนะการอยู่ร่วมกั บธรรมชาติ และวิ ทยาการอย่างย่ังยื น

( Sustainable coexistence with living in the harmony of nature and
science: SLNS)

นิยาม
มีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับปรากฏการณ์ของโลกและเอกภพและความสัมพันธ์
ของคณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละธรรมชาติในชีวิตประจำวนั ใช้และรเู้ ทา่ ทันวิทยาการเทคโนโลยี
มีความอยากรู้ อยากเห็น ช่างสังเกต เห็นคุณค่า สามารถแก้ปัญหา หรือสร้างสรรค์นวัตกรรมได้
เพอ่ื การดำรงชวี ติ และอยูร่ ว่ มกับธรรมชาติอย่างย่งั ยืน
องคป์ ระกอบ
๑. การเข้าใจปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกและในเอกภพ: สืบเสาะ ทำความเข้าใจ
ข้อเท็จจรงิ สาเหตุ กระบวนการ และผลกระทบทเี่ กิดขึ้นของปรากฏการณต์ ่าง ๆ ทเ่ี กดิ ขึ้นบนโลก
และในเอกภพ
๒. การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพื่อการอยู่ร่วมกันกับ
ธรรมชาติอย่างยั่งยืน: มองเห็นปัญหา เชื่อมโยงและประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการ
ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหา หรือสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อ
การดำรงชวี ิตและอย่รู ่วมกับธรรมชาติอย่างยง่ั ยนื
๓. การสร้าง ใช้ และรู้เท่าทันวิทยาการเทคโนโลยี: สร้างและใช้เทคโนโลยี
อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์ รู้เท่าทัน มีความฉลาดทางดิจิทัล คำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต
สง่ิ แวดลอ้ ม และสงั คม
๔. การมีคุณลักษณะทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์สำหรับการเข้าใจระบบ
ธรรมชาติและการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน: มีความอยากรู้อยากเห็น ช่างสังเกต เข้าใจระบบ
ธรรมชาติ เห็นคุณค่าของคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เพื่อการดำรงชีวิตและอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
อยา่ งย่ังยืน

ช่ องทางการค้ นคว้าข้อมูลเพิม่ เติม
https://cbethailand.com/


Click to View FlipBook Version