เครื่องดนตรีไทย
เรีย รี บเรีย รี งโดย นางสาว วริน ริ ยา ประพานศรี สาขดนตรีศึรีศึ กาษา 66121040101
คำ นำ ดนตรีไทย จัดทำ ขึ้นเพื่ีอศึกษาเกี่ยวกับดนตรีไทยมี เนื้อหาพื้นฐานในการเรียนรู้เกี่ยวกับดนตรีไไทยผู้ จัดทำ ได้เลือกหัวข้อนี้เนื่องจากเป็นเนื้อหาที่น่าสนใจ และเป็นวิชาในสาขาขิองผู้จัดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ได้มาศึกษา ก
สารบัญ เรื่อง คำ นำ สารบััญ ความหหมายของเครื่องดนตรีไทย เครื่องดนตรีประเภทดีด เครื่องดนตรีประเภทสสี เครื่องดนตรีประเภทตี เครื่องดนตรีประเภทเป่า บรรณานุกรม หน้า ก ข 1 2 3 6 15 19 ข
เครื่องดนตรีไทยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้ 1. เครื่องดนตรีประเภทดีด 2. เครื่องดนตรีประเภทสี 3. เครื่องดนตรีประเภทตี 4. เครื่องดนตรีประเภทเป่า เครื่องดนตรีประเภทเครื่องดีด 1. กระจับปี่ เป็นเครื่องดนตรีไทยแต่โบราณรูปร่างคล้ายกีตาร์มี 3 หรือ 4 สาย ปัจจุบันหาผู้เล่นได้ยาก จึงไม่ค่อย ได้พบการบรรเลงมากนัก นอกจาก งานเฉพาะกิจที่ต้องการโชว์รูปแบบการบรรเลงในโอกาสพิเศษ ท่านั้น กระจับปี่ใช้บรรเลงอยู่ในวงมโหรีโบราณ ทำ หน้าที่ดำ เนินทำ นองขับ กล่อมไปพร้อมๆกับซอสามสาย 1
2. จะเข้ สันนิษฐานว่าเป็นเครื่อ รื่ งดนตรีที่ รีที่ แก้ไขดัดแปลง วิวัวิวั ฒนาการมาจากพิณ โดยประดิษฐ์ให้นั่งดีดได้สะดวก จะเข้มีสาย 3 สาย ใช้ดีดด้วยกระดูกสัตว์หรือ รื งา นิยมบรรเลงกันมากในสมัยกรุงศรีอ รี ยุธยา ลักษณะการ บรรเลงแต่เดิมมีลักษณะที่เป็นอิสระไม่ได้มีการประสมวงที่ เป็น อิสระใช้บรรเลงในวงเครื่อ รื่ งสายและวงมโหรี บทบาทหน้าที่ในการบรรเลง นั้น จะดำ เนินทำ นองคลุกเคล้าไปกับระนาดเอกในวงมโหรีแ รี ละดำ เนินทำ นอง คลุกเคล้ากับซอด้วงในวงเครื่อ รื่ งสายไทย จะเข้เป็นเครื่อ รื่ งดนตรีที่ รีที่ มีบทบาท ทางการดำ เนินทำ นอง 2
เครื่อ รื่ งประเภทสี 1ซอสามสาย กะโหลกทำด้วยกะลามะพร้าวชนิดที่เที่ป็นกะลานูนเป็นกระพุ้ง 3 ปุ่ม ปุ่ ขึงหนัง แพะหรือหนังวัว ปิดปาก กะลา นำ ไปติดกับคันหรือทวน คันชักทำด้วยขน หางม้าประมาณ 250 - 300 เส้น ซอสามสายเป็นเครื่องดนตรีโบราณ ของไทย สันนิษฐานว่ามีมาแต่สมัยสุโขทัยใช้บรรเลงในวงมโหรีโบราณ วงขับไม้ในปัจจุบันใช้บรรเลงในวงมโหรีและวง เครื่องสายประสม ขนาดของซอสามสาย วัดจากส่วน บนสุดถึงล่างสุด มีความยาวประมาณ 115 เซนติเมตร ซอสามสายใช้บรรเลงร่วมอยู่ในวงมโหรี และบรรเลงคลอไปกับการขับร้อง 3
2ซออู้ ตัวกะโหลกซอทำ ด้วยกะลามะพร้าว ขึ่งหนังแพะหรือหนังวัว มีสาย 2 สาย เรียกว่าสายเอกและ สายทุ้ม คันชักทำ ด้วยหาง ม้าประมาณ 160 - 200 เส้น มีเสียงทุ้ม ขออู้ ใช้บรรเลงใน วงเครื่องสายและวงมโหรี วงเครื่องสาย วงปีพาทย์ไม้นวม และวงปี่พาทย์ดีกดำ บรรพ์ นอกจากนี้ ซอ อู้ ยังทำ หน้าที่ เป็นผู้ตามในการบรรเลง เพลงประเภทที่มีลูกล้อลูกขัด 4
3ซอด้วง กะโหลกทำ ด้วยไม่ไผ่หรือไม้จริง ใช้หนังงูเหลือมขึ้นหน้า มีเสียงแหลม คันชักทำ ด้วยขนหางม้าประมาณ 120 - 150 เส้น ซอด้วงใช้บรรเลงในวงเครื่องสายและวงมโหรี ในวงเครื่องสายชอด้วงทำ หน้าที่เป็นผู้นำ วง ในการ บรรเลง ส่วนในวงมโหรีนั้นซอด้วงทำ หน้าที่ในการดำ เนิน ทำ นองร่วมไปกับระนาดเอก 5
เครื่อ รื่ งดนตรีปรี ระเภทตี 1ระนาดเอก ระนาดเอก เป็นเครื่องตีที่วิวัฒนาการมาจากกรับ คือเอา กรับหลายๆ อัน มา วางเรียงกัน ตีให้เกิดเสียง ไม้กรับที่เรียงกันนั้นมีขนาด ต่างๆ กัน เรียกว่า ลูกระนาด ลูกระนาดเดิมทำ ด้วยไม่ไผ่ ตง ภายหลังใช้ไม้แก่นบ้าง เช่น ไม้ชิงชัน ไม้มะหาด ไม้ พยุง ทำ รางเป็นรูปคล้ายลำ เรือสำ หรับขึงลูกระนาดที่ ร้อยเชือกเรียง ไว้นั้น เข้าที่โขนสองข้างหัวท้าย ลูก ระนาดแต่ละลูกใช้ขี้ผึ้งกับตะกั่วติดหัวท้ายถ่วงเสียงเพื่อ ให้ได้เสียงตาม ต้องการ ระนาดเอกใช้บรรเลงในวงปี่ พาทย์ เช่น ปี่ พาทย์ไม้แข็ง ปีพาทย์ไม้นวม ปีพาทย์ดึกดำ บรรพ์ ปีพาทย์ นางหงส์ ปี่พาทย์มอญ โดยจะบรรเลง เป็น ผู้นำ ของวงรับ ผิดชอบเป็นผู้นำ ในบทเพลงประเภทลูกล้อ - ลูกขัด 6
2ระนาดทุ้ม ระนาดทุ้ม เป็นเครื่องดนตรีที่คิดประดิษฐ์ขึ้นมาภายหลัง ระนาดเอก มีเสียงหุ้มต่ำ ตามชื่อ ลูกระนาดมีขนาดใหญ่ กว่าระนาดเอก ส่วนมากนิยมทำ ด้วยไม้ไผ่ตง อาจใช้ ไม้แก่นบ้าง เช่นไม้ชิงชัน เป็นต้น ระนาดทุ้มใช้บรรเลง ร่วมอยู่ในวงมโหรี และปี่พาทย์ เช่น ปีพาทย์ไม้นวม ปี่ พาทย์ไม้แข็ง ปีพาทย์นางหงส์ ปีพาทย์ดึกดำ บรรพ์ ปี่ พาทย์มอญ เป็นต้น และยังเป็นเครื่องดนตรีที่บรรเลง ทำ นองหยอกล้อกับระนาดเอก ในบทเพลงเภทลูกล้อ - ลูกขัด มีลีลาการบรรเลงที่สนุกสนาน 7
3 ฉิ่ง ฉิ่ง ทำ ด้วยโลหะหล่อหนา รูปร่างคล้ายถ้วย มีสองฝาและ เจาะรูร้อยเชือกสำ หรับถือ ให้เข้าคู่กัน ใช้ถือตีให้กระทบ กันเป็นเสียงฉิ่งและฉับ ใช้บรรเลงเป็นเครื่องประกอบ จังหวะในวงดนตรีไทย การตีฉิ่ง มีวิธีการตีคือ เสียง "ฉิ่ง" เวลาตีให้ฝาฉิ่งกระทบกันที่ขอบฉิ่ง แล้วเปิดมือ ส่วนเสียง "ฉับ" ให้ฝาฉิ่ง ทั้งสองข้างประกอบกันสนิท แล้วปิดมือ 8
ฉาบ เป็นเครื่องตีด้วยโลหะรูปคล้ายฉิ่งแต่ใหญ่กว่า กว้าง กว่า ตอนกลางมีปุ่มกลมเป็นกระพุ้ง ขนาดวางในอุ้งมือได้ ขอบนอกแบนราบออกไปโดยรอบ เจาะรูตรงกลางสำ หรับ ร้อยเชือก ฉาบมี 2 ขนาด ขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางราว 12 ถึง 14 เซนติเมตร ขนาดใหญ่ราว 24-26 เซนติเมตร ฉาบใหญ่ ใช้บรรเลง ร่วมกันนิ่งเพื่อทำ ให้เกิดเสียงหนัก แน่น โดยบรรเลงพร้อมกับเสียงฉับของฉิ่งในวงดนตรี ประเภท วงปี่พาทย์ เช่น ปี่พาทย์ไม้แข็ง ปี่พาทย์มอญ เนื่องจากฉาบใหญ่มีเสียงดังจึงไม่นิยมใช้บรรเลงในวง ดนตรีประเภททำ จังหวะ ต่างๆ เพื่อทำ ให้ทำ นองเพลงเกิด ความสนุกสนาน ฉาบเล็กจะบรรเลงอยู่ในวงดนตรีประเภท วงมโหรี ปี่พาทย์ ชนิดต่างๆ เช่น วงปีพาทย์มอญวงปี่ พาทย์นางหงส์ วงปี่พาทย์ไม้แข็ง เป็นต้น 4 ฉาบ 9
ฆ้องวงใหญ่ มีวิวัฒนาการมาจาก ข้องเดี่ยว ม้องคู่และ ข้องราง นำ มา วาง เรียงกันบนวงฆ้องทำ ด้วยหวายโป่ง ดัดโค้งเป็นวงเกือบ เป็นวงกลม มีลูกม้อง 16 ลูก เรียงจาก เล็กไปหาใหญ่ ลูก เล็กสุด เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 12 เซนติเมตร ลูกใหญ่ สุดขนาด 17 เซนติเมตร อยู่ซ้าย สุดของผู้ตีเวลาบรรเลง ตีด้วยไม้ สองอัน ซึ่งทำ หัวเป็นปุ่มกลมแบบหุ้มหนังเจาะ กลาง เสียบด้ามสำ หรับถือตีฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงใหญ่ บรรเลงร่วมอยู่ในวงปี่พาทย์ไม้แข็ง วงปี่พาทย์ นางหงส์ วง ปี่พาทย์ไม้นวม วงปี่พาทย์มอญ วงปี่พาทย์ ดึกดำ บรรพ์ โดย ทำ หน้าที่ในการบรรเลง ทำ นองหลัก ของเพลง ฆ้องวงใหญ่นั้นจัดอยู่ในประเภทดนตรีประเภท เครื่องตาม เมื่อบรรเลง เพลงประกอบลูก ล้อลูกขัด 5ฆ้องวงใหญ่ 10
6ฆ้องวงเล็ก ฆ้องวงเล็ก มีลักษณะคล้ายกับข้องวงใหญ่ แต่ลูกฆ้องมีขนาดเล็กกว่า และ เสียงแหลมกว่าฆ้องวงใหญ่ จำ นวนลูกข้องมีทั้งหมด 18 ลูก และอาจย่อส่วนลูกฆ้อให้เล็กลงไปอีกสำ หรับใช้บรรเลง ในวง มโหรีแบบดั้งเดิม ม้องวงเล็กบรรเลงร่วมอยู่ในวงปี่พาทย์ มอญ วงปี่พาทย์ไม้แข็งวงปี่พาทย์นางหงส์ วงปี่พาทย์ ไม้นวม จะบรรเลงในกลุ่มนำ ทำ นองคู่กับระนาดเอก ในการ บรรเลงเพลงประกอบลูกล้อ ลูกขัด เพิ่มหัวเรื่อ รื่ งย่อย 11
กลองทัด ตัวกลองทำ ด้วยไม้แก่นเนื้อแข็ง กลึงคว้านข้างในจน เป็นโพรง ตรงกลาง ป่องเล็กน้อย เรียกว่า "หุ่น" ขึ้นหน้าทั้งสองข้างด้วยหนัง วัวหรือหนังควาย ตรึงด้วยหมุด ทำ ด้วยไม้หรืองาหรือ โลหะ ตรงกลางตัวกลองด้านหนึ่งติดห่วงสำ หรับแขวน หรือวางตะแคงบนขาหยั่ง สำ หรับบรรเลงให้หน้ากลอง ตะแคงมาทางผู้ตี ตีด้วยท่อนไม้ 2 อัน ที่ยาวขนาด 50 - 54 เซนติเมตร เดิมใช้บรรเลง ลูกเดียว เมื่อถึงสมัย รัชกาลที่ 2 จึงเพิ่มมาใช้ 2 ลูก ลูกหนึ่งเสียงสูง เรียกว่า "ตูม" ลูกหนึ่งเสียงต่ำ เรียกว่า "ต้อม" ตรงหน้ากลอง ด้านหนึ่ง ทาด้วยยางรักสีดำ เป็นวง ให้รู้จุดศูนย์กลาง สำ หรับตี อีก ด้านหนึ่งติดข้าวสุกขี้เถ้าตรงใจกลาง เพื่อ ถ่วงเสียงให้ได้ระดับ กลองทัดบรรเลงร่วมอยู่ในวงปี่พาทย์ไม้แข็ง ใช้บรรเลง คู่กับตะโพนไทย โดยมาก พบการบรรเลงกลองทัด ในการบรรเลงเพลงที่เกี่ยวกับ การบรรเลงประกอบการแสดง โขนละคร และการบรรเลง เพลงประกอบพิธีกรรมต่างๆ 7กลองทัด 12
8กลองชาตรี กลองชาตรี รูปร่างลักษณะคล้ายกับกลองทัด แต่ขนาด เล็กกว่ากลองทัดมาก กลองชาตรี มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กลองตุ๊ก กลอง ชาตรีเป็นเครื่องดนตรีประเภททำ จังหวะ ใช้บรรเลง ร่วม กับโทนชาตรีใน วงปี่พาทย์ชาตรี ประกอบการแสดง ละครชาตรี 13
9ตะโพนไทย ตะโพนไทย หุ่นกลองทำ ด้วยไม้สัก หรือไม้ขนุน ขึ้นหน้า สองด้านด้วยหนัง มีสายหนังโยง เร่งเสียง เรียกว่า "หนังเรียด" ขนาด กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาว 40 เซนติเมตร มีรัด อกรอบตรงกลาง ตัวตะโพน หน้าหนึ่งใหญ่กว้าง ประมาณ 25 เซนติเมตร เรียกว่า "หน้าเท่ง" มัก ติด ข้าวสุกบดขี้เถ้าเพื่อถ่วงเสียง ให้ได้ระดับ อีกหน้าหนึ่ง กว้างประมาณ 22 เซนติเมตร เรียกว่า "หน้ามัด" ตะโพนไทย บรรเลงในวงปี่พาทย์ไม้แข็ง ทำ หน้าที่บรรเลงกำ กับจังหวะหน้าทับ โดยมาก มัก บรรเลงประกอบเพลงหน้าพาทย์ต่างๆ คู่กับกลองทัด 14
เครื่อ รื่ ดนตรีปรี ระเภทเครือ รื งเป่า 1ขลุ่ยเพียงออ ขลุ่ยเพียงออ เป็นขลุ่ยที่มีเสียงขนาดปานกลาง ระหว่าง เสียงขลุ่ยอู้กับขลุ่ยหลิบ มีความยาว ประมาณ 45 - 48 เซนติเมตร ขลุ่ยเพียงออ ใช้ประสมวงในวงดนตรีไทย ประเภทวงมโหรี วงเครื่องสายไทย จัดอยู่ในกลุ่มของผู้ บรรเลงนำ ในกรณีที่มีขลุ่ยเลาเดียวและจะเป็นผู้บรรเลง ตาม ในกรณีที่มีขลุ่ยหลีบบรรเลงรวมวงด้วย 15
2ปี่ใน ปี่ใน มีขนาดยาวประมาณ 41 เซนติเมตร กว้างประมาณ 4.5 เซนติเมตร ปี่ใน บรรเลงในวงปี่พาทย์ไม้แข็งประกอบการแสดงโขน ละคร โดยเป่าเก็บทางโหยหวนบ้าง เคล้าไปตามทำ นองเพลง ปี่ใน ทำ หน้าที่เป็นผู้นำ ในการบรรเลงร่วมวงปี่พาทย์ไม้แข็ง 16
3ปี่กลาง ปี่กลาง มีขนาดยาวประมาณ 37 เซนติเมตร กว้าง 4 เซนติเมตร ปี่กลาง บรรเลง ในวงปีพาทย์ไม้แข็ง ประกอบการแสดงโขน หนังใหญ่ซึ่ง แสดงกลางแจ้ง 17
4ปี่นอก ปี่นอก มีขนาดเล็ก ยาวประมาณ 31 เซนติเมตร กว้างประมาณ 3.5 เซนติเมตร เดิม ใช้บรรเลงในวงปี่พาทย์เครื่องใหญ่ แต่ปัจจุบันไม่นิยมมาบรรเลงเนื่องจาก หาคนเป่ายาก และบรรเลง ในวง ปี่พาทย์ชาตรี ประกอบละครชาตรีโนราห์ และหนังตะลุง 18
บรรณานุกรม 19 ้้้้้้ lookaside.fbsbx.com Hhttps//th.wikipedia.org
เครื่องดนตรีไทย จัดทำ โดย นางสาว วรินยา ประพานศรี 66121040101 Thank you!