The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.3 เทอม 1-2 ปี 2565
ครูสุริยัน ไตรยพันธ์
โรงเรียนเทศบาลเมืองขลุง 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kanom_pang007, 2022-04-14 04:45:40

แผนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 1-2

แผนการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.3 เทอม 1-2 ปี 2565
ครูสุริยัน ไตรยพันธ์
โรงเรียนเทศบาลเมืองขลุง 1

31

4.1 การรวบรวมและประมวลผลข้อมลู (1) (1 ชวั่ โมง)

การจดั การเรยี นรูแ้ บบรว่ มมอื (วิธกี ารสอนแบบผง้ึ แตกรัง)
วิธีการสอนแบบกระบวนการกลุม่ (Group Process)
เทคนคิ ตามแนวคดิ เชงิ คานวณ

ขน้ั นา

1. ครเู ปดิ วดี ิทัศน์ 10 อนั ดับ การต์ นู เอนิเมช่นั Animation ทท่ี ารายได้สงู สดุ ตลอดกาล
(https://www.youtube.com/watch?v=ZJH7cFw7coY) ให้นักเรยี นดู หรือครสู ามารถ
หาวิดีโออ่นื ทเ่ี ป็นการจัดลาดับหรอื สถิติ หรือผลสารวจต่างๆได้ ตามดุลยพนิ จิ ของครู เพือ่
กระตนุ้ ความสนใจของเดก็

2. เมอ่ื ดูจบครูตงั้ คาถามวา่ นกั เรยี นทราบหรือไม่วา่ ทาไมคนทาคลปิ นีถ้ ึงทราบวา่ การ์ตูน
แอนเิ มชนั เรื่องไหนทารายได้สงู สดุ ตลอดกาล นกั เรียนคดิ วา่ อยา่ งไร (แนวการตอบ : เรา
สามารถรู้ไดจ้ ากการรวบรวมข้อมลู หรือตามดลุ ยพินจิ ของนักเรยี น)

3. ครนู าเขา้ สู่บทเรียนวา่ เราสามารถทราบได้ว่าการ์ตนู เรอื่ งไหนทารายได้สงู สดุ ตลอดกาล
จากการรวบรวมข้อมูลแล้วนามาประมวลผล นักเรียนร้จู กั หรอื พบเห็นการรวบรวมขอ้ มูล
อะไรบ้างในชวี ติ ประจาวนั (แนวการตอบ : การเลอื กหวั หนา้ หอ้ ง สถิติการมาโรงเรียน การ
ตดั เกรด )

ขัน้ สอน

1. ครถู ามคาถามประจาหนว่ ยว่า ขอ้ มลู ที่นักเรยี นไดร้ บั มาสามารถนาไปใช้ทาอะไรไดบ้ า้ ง
(แนวการตอบ : ตามดุลยพินจิ ของนักเรยี น )

2. ครูอธบิ ายเร่ือง การรวบรวมขอ้ มลู และประมวลผลจากหนังสือเรียนพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี(วทิ ยาการคานวณ)ป.3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่ือง การรวบรวมขอ้ มลู หน้า 63
1) ข้อมูล คอื ข้อเทจ็ จรงิ หรือเหตกุ ารณ์ที่เกี่ยวขอ้ งกับส่ิงต่างๆ นกั เรียนสามารถรบั รู้
ไดผ้ ่านประสาทสมั ผัสทัง้ 5 คือการมองเหน็ การฟงั การสมั ผสั การรบั กล่ิน และ
การรับร้รู สชาติ หนา้ 63
2) โดยประเภทของขอ้ มลู สามารถแบง่ ออกเปน็ 5 ประเภทนกั เรยี นคดิ ว่ามี
อะไรบา้ ง
(แนวการตอบ : ขอ้ มลู ตวั เลข ขอ้ มูลอักขระ ขอ้ มูลภาพ ข้อมูลเสียง ขอ้ มลู อนื่ ๆ )
หน้า 64

3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมฝึกทักษะ หน้า 65 แล้วบันทึกลงในสมดุ ทาเป็นการบา้ น
4. ครใู ห้นักเรยี นจับกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน

32

5. ครูใหน้ ักเรยี นศกึ ษาประเภทของขอ้ มูล 5 ประเภท(ครูจะตอ้ งวางหัวข้อประเภทของ
ขอ้ มลู ท้งั 5 ประเภทไวต้ ามมมุ หอ้ ง 5 มุม ) และกระดาษฟลปิ ชาร์ต

6. จากน้ันให้แต่ละกลมุ่ แบง่ หนา้ ทกี่ นั เพอื่ ออกไปศึกษาขอ้ มลู จากหัวข้อท่ีครูวางไว้ให้ตามมุม
หอ้ งคนละ 1 หัวข้อ ดังน้ี
ประเภทท่ี 1 ข้อมลู ตัวเลข
ประเภทท่ี 2 ขอ้ มูลอักขระ
ประเภทท่ี 3 ข้อมลู ภาพ
ประเภทที่ 4 ข้อมูลเสยี ง
ประเภทท่ี 5 ข้อมลู อืน่ ๆ
เชน่ คนทไี่ ดป้ ระเภทที่ 1 ของแตล่ ะกลุ่มวง่ิ ไปท่มี ุมแหล่งขอ้ มูลที่ 1 กระจายกันออกไป

เหมือนผึ้ง
แตกรัง

7. จากนน้ั ใหต้ วั แทนแต่ละกลมุ่ ศกึ ษาขอ้ มูลท่ไี ด้ รว่ มกันวิเคราะห์ข้อมูล และสรุปลงใน
กระดาษ
ฟลิปชาร์ต ในหวั ขอ้ ทีไ่ ด้ (กลุม่ ละ 10 นาที)

8. เมอ่ื หมดเวลาตวั แทนแต่ละกลุ่มกลบั มาท่กี ลมุ่ ของตัวเอง เหมือนผึ้งกลบั รัง
9. ครูนากระดาษฟลปิ ชาร์ต ท่ีนักเรยี นสรุปไวใ้ หป้ ระจากล่มุ ละ 1 หวั ขอ้
10. แต่ละกลุ่มศกึ ษาจากข้อมลู บนกระดาษท่ไี ด้ และตัวแทนที่ศกึ ษาเรือ่ งน้ัน ๆ อธบิ ายให้

เพ่ือนในกลุ่มฟงั พรอ้ มตอบคาถามลงในใบงานที่ 4.1.1 เรื่อง ประเภทของการรวบรวม
ข้อมลู
11. วนกระดาษฟลปิ ชาร์ต และทาเหมอื นเดิมตามข้อ 10
12. หากมีคาถามที่สงสัยให้จดบนั ทกึ ไว้เพอ่ื สอบถามครูท้ายคาบ

ขนั้ สรุป

1. ครสู รปุ ความรจู้ าก หวั ขอ้ ทนี่ กั เรียนได้ จากการวิเคราะห์ เรอ่ื ง การรวบรวมข้อมูลและ
ประเภทของขอ้ มูลใหน้ กั เรียนฟงั และให้นกั เรียนซกั ถามในประเด็นทีส่ งสยั

2. ครใู หน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั จากแบบฝกึ หัดรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี
(วิทยาการคานวณ) ป.3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื งการรวบรวมข้อมลู หน้า 51-54 ส่ง
ช่วั โมงถัดไป

3. นักเรียนทากิจกรรมลองทาดหู น้า 50 และกิจกรรมฝึกทกั ษะบันทกึ ลงในสมุดเพ่ือส่งใน
ชว่ั โมงถดั ไป

33

4.2 การรวบรวมและประมวลผลข้อมลู (2) (1 ชว่ั โมง)

ขน้ั นา

1. ครูใหน้ ักเรยี นออกมาจัดแถวหน้าหอ้ งเรยี นโดยคนตวั สงู อยูห่ ลัง คนตวั เต้ียอยหู่ นา้ ภายใน
เวลา 5 นาที

2. จากน้ันครูตรวจสอบวา่ นกั เรียนสามารถทาได้สาเร็จหรอื ไม่
3. ครสู อบถามนักเรียนวา่ นกั เรยี นทราบหรือไมว่ ่าถ้าจะต้องทาตามคาสัง่ เมอ่ื สกั ครู่ให้
สาเรจ็ และ ถกู ตอ้ งมคี วรขน้ั ตอนหรือวธิ ีการอยา่ งไร

ข้นั สอน

1. ครอู ธบิ ายว่าจากกิจกรรมเม่ือสกั ครู่ เราสามารถทาใหส้ าเรจ็ และถูกต้องได้โดยการเกบ็
รวบรวมข้อมลู โดยนักเรยี นจะตอ้ งสอบถามเพ่ือนว่าแตล่ ะคนมสี ่วนสงู เทา่ ไร เพ่อื
รวบรวมขอ้ มูลเกบ็ ไว้ ดว้ ยวิธอี ะไรกไ็ ด้ เช่น การจดบันทกึ ในกระดาษ

2. ครนู าเสนอขั้นตอนการรวบรวมขอ้ มลู จาก หนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี
( วทิ ยาการคานวณ) ป.3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง ขัน้ ตอนการรวบรวมข้อมลู หนา้
66 ขน้ั ตอนรวบรวมข้อมูลมี 5 ขนั้ ตอน
1) เลอื กหัวขอ้ ทต่ี อ้ งการรวบรวมข้อมลู
2) เลือกแหลง่ ข้อมลู ทตี่ ้องการรวบรวมข้อมูล
3) เลอื กวิธกี ารในการรวบรวมข้อมูล
4) เลือกอุปกรณ์ที่ตอ้ งการใชใ้ นการรวบรวมข้อมูล
5) รวบรวมข้อมูล

3. จากน้นั ใหน้ ักเรียนจบั กล่มุ ละ 3-5 คน ทากจิ กรรมฝกึ ทักษะ หน้า 67 เรอื่ งการ
รวบรวมข้อมูลตามหวั ขอ้ ทส่ี นใจ เชน่ วชิ าทชี่ อบ อาชีพในฝนั โดยการแบง่ หน้าท่ีกันไป
สอบถามเพื่อนในหอ้ งจนครบทกุ คน

4. ให้นกั เรยี นนาข้อมลู ท่ไี ด้มาประมวลผลข้อมลู โดยศกึ ษา เรอ่ื ง การประมวลผลขอ้ มลู
จากหนังสอื รายวชิ าวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.3 หนว่ ย
การเรยี นรู้ที่ 4 เรือ่ ง การประมวลข้อมลู ประมวลผลและการนาเสนอข้อมลู หนา้ 68
ศกึ ษาสถานการณต์ วั อย่างดงั น้ี
1) สถานการณ์ตัวอยา่ ง เร่ืองการเปรยี บเทียบ หน้า 68
2) การจัดกลมุ่ หน้า 69
3) การเรียงลาดบั หนา้ 70

5. ให้นกั เรียนนาขอ้ มลู ทไี่ ด้มาประมวลผลข้อมลู ลงบนทกึ ลงในกระดาษฟลิปชาร์ต
6. ให้นักเรียนตกแตง่ ให้สวยงามและนา่ สนใจ เพื่อนาไปใช้นาเสนอในชวั่ โมงถดั ไป

34

7. นักเรยี นทากจิ กรรมฝกึ ทกั ษะเรอื่ ง การประมวลผลโดยการจัดกลุม่ หน้า 71 บันทกึ ลง
ในสมุดและส่งในช่ัวโมงถดั ไป

ข้นั สรุป

1. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นสอบถามข้อสงสัย
2. ครูสรปุ องคค์ วามรูเ้ ร่อื งการรวบรวมข้อมลู และตรวจการรวบรวมข้อมูลและ

ประมวลผลขอ้ มูล จากกระดาษฟลปิ ชารต์ ของแต่ละกลุ่ม
3. ให้นกั เรยี นทากิจกรรมลองทาดู กจิ กรรมฝึกทกั ษะ จากหนังสอื แบบฝึกหัดรายวชิ า
พื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี(วทิ ยาการคานวณ) ป.3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง
การรวบรวมขอ้ มลู ประมวลผล และนาเสนอขอ้ มลู

4.3 การนาเสนอขอ้ มูล (1 ชั่วโมง)

วิธีการสอนแบบกระบวนการกลมุ่ (Group Process)
วิธกี ารสอนแบบนาเสนอ
เทคนคิ ตามแนวคิดเชงิ คานวณ

ขั้นนา 1. ครเู ปดิ คลปิ ฝนฟ้าอากาศ 12 ม.ค.61 เปรมสดุ า อยากไปเที่ยววันเด็ก
ขัน้ สอน https://www.youtube.com/watch?v=QKlqJnELSG4 ให้นกั เรียนดู การ
นาเสนอ
ข่าวการพยากรณ์อากาศ

2. จากน้ันตงั้ คาถามว่า ดูข่าวพยากรณ์อากาศแล้วคดิ อย่างไร แล้วถา้ นักเรยี น
จะต้องนาเสนอข้อมลู เกย่ี วกบั พยากรณอ์ ากาศ นกั เรยี นจะทาอย่างไร

3. จากตัวอยา่ งข่าวที่ครนู ามาให้ดเู ป็นการนาเสนอการพยากรณ์อากาศรปู แบบ
หนึง่

4. ครูสอบถามว่าแล้ววธิ ีการนาเสนอข้อมูลมีกแี่ บบ นกั เรยี นทราบหรอื ไม่

1. ครูถามคาถามประจาหัวขอ้ เพ่ือทบทวนความรูว้ ่า การนาเสนอข้อมูลมีประโยชน์
ต่อผ้อู ื่นอยา่ งไร (แนวการตอบ : ตามดุลยพินจิ ของผเู้ รียน)

2. ครูอธิบายการนาเสนอข้อมูล คือการนาขอ้ มูลท่ผี ่านการรวบรวมข้อมลู และ
ประมวลผล มาเผยแพรใ่ หผ้ ้อู ่นื ได้รับรู้ และสามารถทาได้หลายรปู แบบตาม
ความเหมาะสม ครูอธิบายเร่อื ง รปู แบบการนาเสนอขอ้ มูลจากหนงั สอื รายวชิ า

35

พ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี(วทิ ยาการคานวณ)ป.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4
เร่อื งการนาเสนอขอ้ มูล หน้า 72

1) การนาเสนอขอ้ มลู โดยการบอกเลา่ เปน็ การนาเสนอข้อมลู โดยการพูด
เพอ่ื ถา่ ยทอดข้อมูลใหก้ บั ผู้ฟงั หน้า 72

2) การทาเอกสารรายงาน เป็นการนาเสนอขอ้ มูลโดยใช้ข้อความ ตาราง
แผนภูมิ หรอื ภาพ และเผยแพร่ข้อมูลในรปู แบบกระดาษรายงาน หรือ
เลม่ รายงาน และใหน้ ักเรยี นตอบคาถาม และบนั ทกึ คาถามทา้ ทายการ
คดิ ขน้ั สูง วา่ การนาเสนอโดยการบอกเลา่ และการนาเสนอโดยการทา
รายงาน มขี ้อดีและขอ้ เสียตา่ งกนั อย่างไรหนา้ 73

3) การทาปา้ ยประกาศเป็นการนาเสนอข้อมูลโดยใช้ข้อความหรอื รปู ภาพ
เพ่ือแจ้งให้ผอู้ ่ืนทราบ หนา้ 74 และเสริมเกรด็ น่ารใู้ หน้ ักเรยี นเพ่ิมเตมิ
วา่
Microsoft PowerPoint เป็นโปรแกรมนาเสนอข้อมูลทเี่ ปน็ ท่ีนยิ มใช้
งานกันอยา่ งแพรห่ ลายในปัจจุบนั ซง่ึ สามารถนาเสนอขอ้ มูลด้วย
ขอ้ ความ ภาพนง่ิ ภาพเคลอื่ นไหว เสยี ง หรอื วดิ โี อ

3. ครูซักถามวา่ ในชวี ติ ประจาวนั นกั เรียนเคยพบเห็นรูปแบบการนาเสนอข้อมลู
รปู แบบใดบา้ ง

4. ให้นักเรียนนาขอ้ มลู ที่รวบรวมไว้ชวั่ โมงทีแ่ ลว้ จากกิจกรรมฝกึ ทักษะหน้า 67
เรื่องการรวบรวมข้อมูลตามหัวขอ้ ทส่ี นใจ แลว้ พิจารณาว่าข้อมลู ของตนเอง
เหมาะสมกับการนาเสนอรูปแบบไหน

5. แตล่ ะกลุม่ วางแผนการนาเสนอของกลมุ่ ตนเอง เพอื่ นาเสนอตามหัวข้อ ดงั นี้
1) เร่ืองทนี่ าเสนอ
2) รปู แบบการนาเสนอท่เี ลอื ก
3) ประเภทของข้อมูล
4) ขั้นตอนการรวบรวมขอ้ มูล
5) วเิ คราะหข์ ้อมลู
6) สรุป
7) ประโยชน์และการนาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวัน

6. เปิดโอกาสให้เพ่ือนซกั ถาม ข้อสงสัย ครูอธบิ ายส่งิ ท่ีเด็กสงสยั และนาเสนอขาด
ไป เพมิ่ เตมิ

7. ใหน้ ักเรียนทากจิ กรรมฝึกทกั ษะเปน็ การบา้ น พร้อมทง้ั ตรวจสอบตนเอง หน้า75
สง่ ชัว่ โมงถดั ไป

36

ข้นั สรุป

1. ครูสรุปและเสนอแนะการนาเสนอขอ้ มูลของแตล่ ะกลุม่ เพ่ือให้เดก็ เกดิ
ความเขา้ ใจมากยง่ิ ขน้ึ

2. ครสู รุปสาระสาคัญเร่อื ง การรวบรวมประมวลผล และนาเสนอข้อมลู
เพ่อื ใหน้ กั เรยี นเกิดความเข้าใจมากย่ิงข้ึน หนา้ 76

3. จากนั้นครูให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ หดั จากหนงั สือแบบฝึกหดั รายวชิ าพนื้ ฐาน
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี(วิทยาการคานวณ)ป.3 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เร่อื ง
การนาเสนอข้อมูล หนา้ 55-57

4. ให้นักเรียนทาชิน้ งาน/ภาระงานรวบยอด เรอื่ ง การรวบรวม ประมวลผล
และนาเสนอข้อมลู หรือกจิ กรรมเสริมสร้างการเรียนรหู้ นา้ 77 (ตามความ
เหมาะสมของเวลาและดุลยพนิ ิจของคุณครู)

5. ใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน เรอื่ ง การรวบรวม ประมวลผล และ
นาเสนอข้อมลู

37

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 5

กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3

วิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) รหัสวิชา ว13101

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 การใชง้ านซอฟต์แวร์ เวลาเรยี น 3 ชัว่ โมง

............................................................................................................................. ............................... ....

1. สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

2. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการแกป้ ญั หาท่ีพบในชวี ิตจรงิ อยา่ งเป็น
ขนั้ ตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร ใน การ
เรยี นรู้ การทางานและการ แกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทัน
และมจี รยิ ธรรม

3. ตัวช้วี ัด
ว 4.2 ป.3/4 รวบรวม ประมวลผล และนาเสนอขอ้ มลู โดยใช้ซอฟตแ์ วรต์ ามวัตถุประสงค์

4. สาระสาคัญ
Software (ซอฟตแ์ วร)์ เป็นองคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์ที่เราไม่สามารถสัมผัสจบั ต้องได้

โดยตรง เป็นชดุ คาสั่งหรอื โปรแกรม (Program) ทเ่ี ขียนขนึ้ เพอ่ื ให้คอมพิวเตอร์ทางาน ซอฟต์แวร์จึง
เปน็ เสมอื นตัวเช่ือมระหว่างผใู้ ช้งานกับคอมพิวเตอร์ให้สามารถเข้าใจกันได้ การทีค่ อมพวิ เตอร์จ ะ
ทางานไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพนัน้ ขึน้ อยกู่ ับการเลือกใช้ซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับลกั ษณะงาน โดย
ซอฟตแ์ วร์ทน่ี ยิ มใช้ในปัจจบุ นั เชน่ ซอฟตแ์ วรน์ าเสนอ ซอฟตแ์ วร์ประมวลคา ซอฟต์แวรต์ ารางทางาน

5. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
5.1 ด้านความรู้
1) ประยกุ ตใ์ ช้โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ด์ เอกซ์เซล และเพาเวอร์พอยต์ ในสถานการณ์
ที่กาหนดได้ (K)
2) ออกแบบแบบสารวจ ตารางขอ้ มูล และนาเสนอโดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ได้ (P)
3) เลือกใชซ้ อฟตแ์ วร์ทเ่ี หมาะสมในการทางานในชีวติ ประจาวนั ได้ (A)
5.2 ดา้ นทักษะกระบวนการ
1) ทักษะการแก้ปัญหา
2) ทักษะการสอ่ื สารและสือ่ ความหมาย
3) ทักษะการเชอ่ื มโยง
4) ทกั ษะการให้เหตุผล
5) การคดิ สรา้ งสรรค์

38

5.3 ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์  ซ่ือสัตย์ สุจรติ
 รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์  ใฝ่เรยี นรู้
 มวี ินยั  มุ่งมนั่ ในการทางาน
 อยู่อยา่ งพอเพยี ง
 มจี ติ สาธารณะ
 รกั ความเปน็ ไทย
6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

6.1 ความสามารถในการสื่อสาร
6.2 ความสามารถในการคดิ
6.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
6.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
6.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. การพัฒนา 3R
7.1 ทักษะดา้ นการอา่ น
7.2 ทกั ษะดา้ นการเขยี น
7.3 ทักษะทางคณิตศาสตร์

8. การพฒั นา 8C
8.1 ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณฯ
8.2 ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ฯ
8.3 ทักษะด้านความรว่ มมอื ฯ
8.4 ทกั ษะด้านความเขา้ ใจต่างของวฒั นธรรมฯ
8.5 ทกั ษะดา้ นการสื่อสารฯ
8.6 ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ฯ
8.7 ทักษะอาชพี ฯ
8.8 ทกั ษะความมีเมตตา คณุ ธรรมฯ

9. การบูรณาการ
-

39

5.1 ซอฟต์แวร์เบื้องต้น (1) (1 ช่ัวโมง)

วิธีการสอนแบบสาธิต การจดั การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื เทคนคิ ตามแนวคดิ เชงิ คานวณ

ข้นั นา

1. นักเรยี นทากจิ กรรมลองทาดู ในแบบฝึกหดั รายวิชาพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)
ป.3
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 หน้า 62 เพอื่ เปน็ การทบทวนความรเู้ ดิมก่อนเข้าสูบ่ ทเรยี น

2. ครูนานกั เรียนสนทนาทบทวนความรเู้ กย่ี วกบั เรอ่ื ง ฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟต์แวร์ ใหค้ รยู กตัวอยา่ ง
ภาพข้ึนมาหนา้ ห้องและให้นกั เรียนรว่ มกันทา ใบงานท่ี 1 เราแยกกนั เถอะ โดยให้นักเรยี น
ชว่ ยแยกภาพตัวอย่างวา่ ภาพใดคอื ฮารด์ แวร์ ภาพใดคือซอฟต์แวร์

3. ครูช้ใี หน้ กั เรียนเห็นว่าจาก ใบงานท่ี 1 เราแยกกันเถอะ ทาใหน้ ักเรียนทราบถึงวา่ สง่ิ ใดคือ
ฮารด์ แวร์และส่งิ ใดคือซอฟตแ์ วรแ์ ลว้ ครูใช้คาถามเพ่อื ทดสอบความเขา้ ใจกบั นักเรียนว่า
ฮารด์ แวร์และซอฟตแ์ วรแ์ ตกต่างกันอยา่ งไร (แนวคาตอบ ฮาร์ดแวร์ หมายถึง อปุ กรณต์ า่ ง ๆ
ท่ีประกอบข้ึนเปน็ เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นดว้ ยตาและ
สมั ผสั ได้ เช่น จอภาพ คยี ์บอรด์ เคร่ืองพมิ พ์ เมาส์ สว่ นซอฟต์แวร์ หมายถงึ สว่ นของ
โปรแกรมทีบ่ รรจุคาสงั่ เพื่อใหอ้ ปุ กรณ์นัน้ สามารถทางานไดต้ ามต้องการ โดยปกตแิ ลว้ จะถูก
สร้างโดยบคุ คลที่เรียกวา่ นักเขยี นโปรแกรม ไมส่ ามารถจับตอ้ งหรอื สัมผัสได้เหมือนกับ
ฮารด์ แวร์ ดังน้ันในโทรศัพท์มือถือ ตัวเครอื่ งโทรศพั ทจ์ ัดเปน็ ฮาร์ดแวร์ และระบบการทางาน
ทบี่ รรจุลงในโทรศัพท์กค็ ือซอฟตแ์ วร์)

4. ครใู หน้ ักเรยี นยกตัวอยา่ งซอฟต์แวร์ทีน่ กั เรยี นรจู้ ักหรอื เคยพบเหน็ ในชวี ิตประจาวันเพม่ิ เติม
จากที่ครยู กตัวอยา่ งมาให้ในกจิ กรรมเราแยกกันเถอะ โดยครูเป็นผู้ตอบเพียงว่า ตัวอยา่ งที่
นกั เรียนยกมาน้นั ใช่ซอฟตแ์ วร์หรอื ไม่ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นไดร้ จู้ กั ซอฟตแ์ วร์ทห่ี ลากหลาย

5. ครถู ามคาถามประจาหวั ขอ้ ซอฟต์แวรเ์ บ้ืองต้น หนา้ 79 ในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน
วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 วา่ “ซอฟตแ์ วรแ์ ต่ละ
ชนิดมลี ักษณะการใช้งานและมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไรบา้ ง”

ข้ันสอน

1. ครนู านักเรียนศึกษาเน้ือหาในหนังสอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
(วิทยาการคานวณ) ป.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เร่ือง ซอฟตแ์ วรเ์ บือ้ งตน้ (1.1 ซอฟต์แวร์
ประมวลคา) หน้า 79 และอภปิ รายความรูท้ ไี่ ด้ ตวั อย่างประเด็นการอภปิ ราย เช่น
• ซอฟต์แวรแ์ ต่ละชนดิ มีลกั ษณะการใช้งานและมีประโยชน์อยา่ งไรบ้าง

40

• นักเรียนคดิ ว่าจะใช้ซอฟตแ์ วรใ์ ดทใ่ี ชท้ างานบนเครอื่ งคอมพิวเตอร์ โดยที่เรา
สามารถพิมพข์ อ้ ความ แทรกรปู แทรกเสียง ตลอดจนแทรกวิดีโอลงได้ รวมทง้ั ยงั
สามารถเปรียบเทียบ จัดลาดับ คานวณตัวเลขมากมายได้

• ครแู นะนานกั เรยี นวา่ “คอมพิวเตอรม์ ีซอฟต์แวรท์ ี่จะชว่ ยเราให้สามารถพิมพ์
จดหมาย พมิ พ์เอกสาร พมิ พป์ ระกาศได้ คือ ซอฟต์แวร์ประมวลคา“

2. ครูแนะนาซอฟต์แวร์ประมวลคา ทีใ่ ชส้ าหรบั การพมิ พ์เอกสาร สามารถแกไ้ ข เพ่ิม แทรก ลบ
และจัดรปู แบบเอกสารได้ โดยโปรแกรมที่ได้รบั ความนิยมมากทีส่ ุดคือ ไมโครซอฟตเ์ วริ ด์
(Microsoft Word) ให้นักเรยี นร้จู กั ดว้ ยวธิ สี าธิตวิธกี ารใช้งานเบ้อื งตน้ และใหน้ ักเรียนลอง
ปฏบิ ัติตามหนังสอื เรยี นในหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5 ส่วนประกอบของซอฟต์แวรป์ ระมวลคา
หนา้ 80-85 เช่น
• การเรยี นรสู้ ว่ นประกอบของหน้าจอโปรแกรม
• การตงั้ คา่ หน้ากระดาษตามตอ้ งการ
• การพิมพข์ ้อความและการตกแต่งขอ้ ความรปู แบบและขนาดตัวอกั ษร
• การแทรกรูปภาพ ตาราง สญั ลักษณ์ พิมพ์เนอื้ หาลงกลอ่ งข้อความทม่ี ีรปู รา่ งต่าง ๆ
• การบันทึกไฟล์เอกสาร ช้ินงาน

3. นักเรียนประยุกต์ใชซ้ อฟตแ์ วร์ประมวลคาในสถานการณ์ทกี่ าหนดให้ โดยให้นกั เรียนจบั ค่ทู า
กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ ในหนังสอื เรยี น รายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการ
คานวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 หนา้ 86 โดยเลอื กหวั ขอ้ ท่กี าหนดใหม้ า 1 หัวขอ้ ครสู มุ่ คู่
นักเรียนออกมานาเสนอช้นิ งานของตนเองหนา้ ชัน้ เรียน และใหน้ ักเรียนพิมพ์ชิน้ งานไปติดไว้
ท่ปี ้ายนิเทศน์

4. ครูนานกั เรยี นรว่ มกันสรุปความร้ทู ่ไี ด้จากการจดั กิจกรรม เชน่
- ครตู ั้งคาถามว่า “นกั เรียนคดิ ว่าเราสามารถนาโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิรด์ ไปใช้สรา้ งช้ินงาน
อะไรไดอ้ กี บา้ ง” (แนวคาตอบ งานเอกสารต่าง ๆ)
- ครตู ง้ั คาถามวา่ “โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิร์ดสามารถทาอะไรได้บา้ ง” (แนวคาตอบ
สามารถพมิ พ์และแก้ไขเอกสารสามารถลบ โยกย้าย และสาเนาขอ้ ความสามารถพมิ พ์
ตวั อกั ษรประเภทตา่ ง ๆสามารถขยายขนาดจัดตัวอกั ษรให้เปน็ ตัวหนา ตัวเอียง ขดี เส้นใตไ้ ด้
สามารถใสเ่ คร่อื งหมายและตัวเลขลาดบั หน้าหวั ข้อสามารถตรวจการสะกดและแกไ้ ขให้
ถกู ต้องสามารถจัดขอ้ ความในเอกสารให้พมิ พช์ ิดซา้ ย ชดิ ขวาและก่งึ กลางบรรทดั สามารถใส่
รปู ภาพในเอกสารสามารถพิมพต์ าราง)

5. นกั เรียนทาแบบฝกึ หดั รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 หน้า 63-65 (ซอฟต์แวร์ประมวลคา) หรอื ครูอาจใหน้ ักเรียนทาเปน็
การบา้ น

41

5.2 ซอฟต์แวรเ์ บือ้ งต้น (2) (1 ช่วั โมง)

ขั้นสอน

1. ครนู านักเรยี นสนทนาทบทวนความรเู้ ดมิ ในเร่อื งการใช้ซอฟตแ์ วร์ประมวลคาในคาบที่ผา่ นมา
2. นักเรยี นทา ใบงานที่ 2 เร่อื ง รายรบั – รายจ่าย โดยให้นักเรียนคานวณหารายรบั รายจ่ายการ

ใช้เงนิ ภายใน 1 สัปดาห์ โดยใหค้ านวณหารวมยอดรายรับ รายจา่ ย และเงนิ คงเหลอื จาก
สถานการณท์ กี่ าหนดภายในเวลา 5 นาที ครูสงั เกตการคานวณของนกั เรยี นเพอ่ื ถามเนน้ เวลา
วา่ ”นักเรียนเสร็จหรือยัง เวลาใกล้จะหมดแลว้ ” เม่ือหมดเวลา ครถู ามนักเรยี นว่า“นักเรียน
คนไหนทาเสร็จทันเวลาบ้าง ยกมือขนึ้ ” (แนวคาตอบ ถ้ามคี นยกมือเสร็จทนั เวลาให้สอบถาม
วิธกี ารคิดหรอื การหาคาตอบของนักเรยี นวา่ ทาอยา่ งไร) หรือถ้ามนี กั เรียนคนใดเสรจ็ ไม่
ทันเวลา ให้ครูถามต่อว่า “เพราะอะไรทาไมถึงทาไม่ทันเวลา” (แนวคาตอบ อาจจะได้วา่
เพราะมีตัวเลขหลายรายการ)
3. ครูแนะนาซอฟตแ์ วรต์ ารางทางานที่จะชว่ ยในการคิดคานวณข้อมลู ต่าง ๆ ตามสูตรหรือ
เง่ือนไขทีก่ าหนด เป็นซอฟต์แวร์ท่ีเราจะไดเ้ รียนต่อไปนีค้ อื โปรแกรมไมโครซอฟต์เอกซเ์ ซล
(Microsoft Excel) และครชู ้แี จงในส่วนของเกรด็ นา่ รู้ใหน้ กั เรียนฟังในหนา้ 87
4. ครแู นะนาซอฟต์แวรต์ ารางทางานให้นกั เรยี นรู้จกั ด้วยวิธสี าธิตวิธีการใช้งานเบ้อื งตน้ และให้
นกั เรียนลองปฏิบัติตามหนังสอื เรียนในหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 1.2 ซอฟตแ์ วร์ตารางทางาน
หน้า 87-94 เช่น

• ส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของโปรแกรม
• แถว (row) คอลมั น์ (column) เซลล์ (cell)
• การพมิ พ์ข้อความลงในตาราง
• การใช้สูตรคานวณหาค่าตา่ ง ๆ
• การบนั ทึกไฟล์
5. ใหน้ ักเรยี นประยุกตใ์ ช้ซอฟต์แวรต์ ารางทางานประมวลผลข้อมูล โดยใหน้ ักเรียนจับคเู่ ดิมใน
คาบท่ีแลว้ ทา กจิ กรรมฝกึ ทักษะ ในหนงั สือเรียน รายพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี
(วิทยาการคานวณ) ป.3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 หนา้ 95 นาขอ้ มลู ที่กาหนดใหม้ าประมวลผล
คะแนนรวมโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอกซ์เซล ครูสมุ่ ค่นู ักเรยี นออกมานาเสนอชนิ้ งาน
ของตนเองหน้าชั้นเรยี น (ค่ทู ไ่ี ม่ซา้ กับ 2 คาบท่แี ล้ว)
6. ครูตงั้ คาถามทา้ ทายการคิดขน้ั สูง ตามหนังสอื เรียนในหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 1.3 ซอฟต์แวร์
นาเสนอ หน้า 96 กบั นักเรยี นว่า “ถา้ นกั เรยี นต้องการใช้งานซอฟตแ์ วรเ์ พอ่ื จะนาเสนอ
ชน้ิ งาน ออกมาในรปู ของวดี ีโอแนะนาตนเอง นกั เรียนจะใช้ซอฟต์แวร์ชนิดใด”
7. ครูแนะนาซอฟต์แวร์นาเสนอข้อมูลในรูปแบบตวั อกั ษร รปู ภาพ กราฟ แผนภูมิ
ภาพเคลอื่ นไหวและเสียง โดยใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟตเ์ พาเวอร์พอยต์ (Microsoft

42

PowerPoint) ใหน้ กั เรียนรจู้ ักด้วยวิธสี าธติ วธิ กี ารใชง้ านเบื้องต้นและให้นกั เรียนลองปฏบิ ัติ
ตามหนังสือเรยี นในหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5
1.3 ซอฟตแ์ วรน์ าเสนอ หนา้ 96-103 เช่น

• การสร้างสไลด์ การสร้างงานนาเสนอจะเรม่ิ ตน้ จากการสรา้ งสไลด์ ซึง่ สไลดท์ สี่ รา้ ง
ข้ึนอาจเปน็ สไลดเ์ ปล่า หรือเป็นสไลด์สาเร็จรูปท่ีมีการตกแตง่ มาแล้ว

• การกรอกขอ้ ความ หลกั จากท่ีสรา้ งสไลดเ์ รยี บรอ้ ยแล้ว กต็ ้องมกี ารกาหนดหวั ข้อเพอ่ื
แสดงให้ผูช้ มการนาเสนอทราบวา่ สไลด์แผ่นนีเ้ กีย่ วข้องกับเรื่องอะไร

• ใสร่ ูปภาพ วดี โี อ ภาพเคล่ือนไหว เสยี ง ตาราง แผนภูมริ ปู ภาพ เพอื่ นาเสนองานได้
อยา่ งนา่ สนใจ และสามารถเข้าใจในเนื้อหาไดอ้ ยา่ งงา่ ย ผู้สร้างงานไม่ควรจัดทางาน
นาเสนอท่ีมแี ตข่ อ้ ความล้วน

• กาหนดลูกเล่นตา่ งๆในสไลด์ เพ่ือใหง้ านนาเสนอมีสีสนั และดงึ ดดู เช่น เมือ่ เปดิ สไลด์
จะเหน็ ข้อความวง่ิ ปรากฏจากมาดา้ นซา้ ยของสไลด์ หรือวิ่งมาทลี ะตัวจากทาง
ดา้ นขวา

• เมอ่ื เราได้จดั ทาสไลดเ์ ป็นที่เรียบรอ้ ย ข้ันตอนสดุ ทา้ ยคือ ทดลองนาเสนอจรงิ ควร
ตรวจสอบความถูกต้อง เช่น ตรวจคาผิด ตรวจลาดับของการนาเสนอ จับเวลาใน
การนาเสนอ เป็นต้น

• ครชู แี้ จงในสว่ นของเกรด็ นา่ รใู้ ห้นักเรียนฟงั ในหน้า 98 และหน้า 100
8. ให้นักเรียนประยุกต์ใชซ้ อฟตแ์ วร์นาเสนอในสถานการณท์ ก่ี าหนดให้ โดยนักเรียนจบั คเู่ ดิมใน

คาบทแี่ ล้วทา กิจกรรมฝกึ ทักษะ ในหนังสอื เรยี น รายพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี
(วิทยาการคานวณ) ป.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 หนา้ 104 ออกแบบแผนภูมิรูปภาพจาก
ซอฟต์แวรน์ าเสนอ พรอ้ มทั้งตกแตง่ แผนภมู ิรปู ภาพให้สวยงามครูสุ่มคู่นกั เรียนออกมา
นาเสนอช้ินงานของตนเองหน้าชัน้ เรียนผ่านโปรเจกเตอร์
9. ครูนานักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรทู้ ไ่ี ด้จากการจดั กจิ กรรม เช่น

• ขอ้ ด/ี ประโยชน์ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกซเ์ ซล (Microsoft Excel) มีอะไรบา้ ง
(แนวคาตอบ ซอฟตแ์ วรท์ ชี่ ่วยในการคดิ คานวณขอ้ มูลตา่ ง ๆ)

• ครูตงั้ คาถามวา่ “หากตอ้ งการแทรกตาราง, รูปภาพ ต้องเข้าไปท่ีเมนใู ด ” (แนว
คาตอบ คลกิ ทเ่ี มนู Insert แลว้ เลือกตาราง (Table) และเลอื กรูปภาพ (Picture))

• ครูตง้ั คาถามวา่ “การสรา้ งช้นิ งานด้วยโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ พาเวอรพ์ อยต์ มี
ลาดับขั้นตอนอย่างไรบา้ ง ยกตวั อย่างการเข้าใช้งานอยา่ งคร่าว ๆ ” (แนวคาตอบ1.
เปดิ โปรแกรมซอฟตแ์ วรน์ าเสนอขึ้นมา 2. การสร้างสไลด์ 3. การกรอกขอ้ ความที่
กล่องขอ้ ความ 4. คลิกทเ่ี มนู Insert เพอ่ื ใส่รูปภาพ วีดีโอ ภาพเคล่ือนไหว เสียง
ตาราง แผนภมู ิรปู ภาพ 5. กาหนดลกู เล่นตา่ งๆ
6. ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 7. บันทกึ ช้นิ งาน โดยคลิกที่เมนู File เลอื กบนั ทึก

43

(Save) หรือ (Save as) จากนนั้ ตงั้ ชอื่ ไฟล์งานและคลกิ ท่ีคาวา่ (Save) เพื่อบนั ทกึ
ชิ้นงาน)
10. นักเรยี นทาแบบฝึกหัดรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.3
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 หนา้ 66-70 (ซอฟต์แวรต์ ารางทางาน) (ซอฟตแ์ วรน์ าเสนอ) หรือครูอาจ
ให้นักเรียนทาเปน็ การบ้าน

5.2 ซอฟตแ์ วรเ์ บ้ืองตน้ (3) (1 ชัว่ โมง)

ขั้นสอน

1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มกันทาชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) สารวจโรงเรยี นของฉัน กล่มุ ละ 3-5 คน
ผลดั กันออกมาจับสลาก โดยครูทาสลากตามหวั ข้อตอ่ ไปนี้
• สารวจจานวนต้นไมใ้ หญภ่ ายในโรงเรียน มา 5 ชนิด นามาเรียงลาดบั มากท่ีสดุ ไป
น้อยทส่ี ุด และเปรยี บเทยี บวา่ ต้นไมช้ นิดทมี่ ากท่ีสุดต่างกบั ชนิดท่ีน้อยทีส่ ดุ ก่ตี ้น
• สารวจจานวนขยะภายในโรงเรียนที่อยู่ตามพน้ื ท่ที ้งิ ไม่ลงถงั ขยะ มา 3 ประเภท
แบ่งเปน็ ขวดพลาสติก, ถุงพลาสตกิ และหลอดพลาสติก นามาเรยี งลาดับน้อยที่สดุ
ไปมากทส่ี ุด และเปรียบเทียบวา่ ขยะประเภทท่นี ้อยท่ีสุดต่างกบั ประเภทที่มากที่สุดก่ี
ชิ้น
• สารวจจานวนนักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ทงั้ หมด จานวนนกั เรยี นท่ขี าดเรียน
จานวนนกั เรยี นทล่ี าป่วย ลากจิ และจานวนนกั เรียนคงเหลอื ในระยะเวลา 3 วนั
รวมจานวนที่ขาดเรียน รวมจานวนท่ลี าปว่ ย ลากจิ ในระยะเวลา 3 วนั และทาการ
เปรียบเทียบสถติ กิ ารมาเรยี นแตล่ ะวนั ว่าวันใดนักเรยี นมาเรยี นมากทสี่ ุดตา่ งกับวนั ที่
มาเรยี นนอ้ ยท่ีสุดกีค่ น

2. เมื่อนักเรยี นจับสลากไดแ้ ล้ว ให้นักเรยี นนาหัวข้อทีไ่ ดไ้ ปสารวจ และจัดทาแบบสารวจใน
โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิร์ด และนาข้อมูลมาประมวลผลในโปรแกรมเอกซ์เซล จากน้ัน
นาเสนอในโปรแกรมเพาเวอร์พอยต์ โดยใส่รปู ภาพทส่ี อดคล้องกับหัวข้อท่ีได้ อย่างนอ้ ย 3 รูป
จากนน้ั พิมพช์ ิ้นงานในโปรแกรมต่าง ๆ และติดใส่ในชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

3. ให้นักเรยี นทากจิ กรรมฝึกทกั ษะท่ี 1 เรือ่ ง เลือกให้เหมาะสม โดยให้นกั เรยี นอ่านสถานการณ์
และเลอื กใชซ้ อฟตแ์ วรท์ เี่ หมาะสมในการทางานในชวี ติ ประจาวนั ในแบบฝึกหดั รายวิชา
พืน้ ฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.3 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 หนา้ 71-72

ข้ันสรุป

1. นกั เรยี นตรวจสอบตนเอง หลังจากเรียนจบหนว่ ยน้ี ในหนังสอื เรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน
วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 หน้า 104

44

2. นักเรียนทาแบบทดสอบทา้ ยบท ประจาหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 หน้า 73-76 ในแบบฝกึ หดั
รายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.3 เพื่อเป็นการตรวจสอบ
ความร้ทู ่ไี ด้หลังเรียน

3. ครูนานักเรียนพดู คุยร่วมกันสรุปความรจู้ ากสาระสาคญั ทไี่ ด้จากการจดั กิจกรรมใน
หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.3 หน่วย
การเรยี นรทู้ ่ี 5 หน้า 105 จนไดว้ ่า ซอฟตแ์ วรเ์ บ้อื งตน้ ทเี่ ราเรยี นน้นั มี 3 โปรแกรม คอื
โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ พาเวอรพ์ อยต์ เหมาะทจ่ี ะใชก้ ับงานทต่ี อ้ งการนาเสนอข้อมูล
โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิรด์ เหมาะทจ่ี ะใชก้ บั งานเอกสาร งานประกาศ เพราะสามารถ
จัดรูปแบบเอกสารให้มีความเหมาะสมได้ และโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกซ์เซล เหมาะท่ี
จะใช้กบั งานที่ต้องการคดิ คานวณ ตอ้ งการเปรียบเทียบ บวก ลบ คณู หารจานวนของ
ข้อมลู เปน็ ตน้

4. นกั เรียนทากิจกรรมเสรมิ สรา้ งการเรียนรู้ ในหนงั สือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์
เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 หนา้ 106 เปน็ การบา้ น

นักเรยี นทากจิ กรรมลองทาดูหนา้ 50 และกจิ กรรมฝึกทกั ษะบนั ทึกลงในสมุดเพื่อสง่ ในชวั่ โมงถัดไป

ภาคผนวก

46

การตรวจแผนการจดั การเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นรู.้ ............................................รายวิชา.....................................รหัสวิชา.....................
ระดบั ชน้ั ............................................ภาคเรยี นท่ี ........... ปีการศกึ ษา .....................

ท่ี หนว่ ยการเรียนรู้ QR CODE จานวนช่วั โมง บันทึกการตรวจแผน
(สาหรบั ผตู้ รวจ)

................................................
................................................
................................................
................................................
................................................
................................................

................................................
................................................
................................................

................................................
................................................
................................................

................................................
................................................
................................................
................................................
................................................
................................................

................................................
................................................
................................................
................................................
................................................
................................................

ลงชอ่ื ............................................................ผูบ้ ันทกึ

(............................................)
ตาแหนง่ ..........................................................

ผตู้ รวจแผนการจดั การเรียนรู้
...............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................................. ...

ลงช่อื .........................................................วิชาการสายช้นั

( ...............................................)
ตาแหน่ง...........................................................

47

บนั ทกึ ข้อความ

สว่ นราชการ โรงเรียนเทศบาลเมอื งขลุง 1 (บรุ วิทยาคาร)

ท่ี จบ ๕๒๒๐๖.๑/-- วันท่ี.........................................................................

เร่อื ง การสง่ บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้

เรยี น ผู้อานวยการสถานศึกษา

ข้าพเจา้ ...................................................ไดบ้ นั ทึกผลการจัดการเรียนร้ขู องชั้นประถมศึกษาปีที่ .............
วชิ า...............................................................................รหัสวิชา.................................จานวน.......................ชวั่ โมง
ชว่ งระยะเวลา วนั ท่ี.....................................ถงึ วนั ที่................................................................. เสร็จเรียบร้อยแล้ว
จงึ ได้แนบมาพร้อมกับบนั ทึกน้ี

จงึ เรียนมาเพือ่ โปรดพิจารณา

ลงชอื่ ............................................................ผ้บู นั ทึก
(............................................)

ตาแหน่ง ..........................................................
ผู้ตรวจบันทึกหลังการจดั การเรียนรู้
............................................................................................................................. ..................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื .........................................................วชิ าการสายช้นั
( ...............................................)

ตาแหนง่ ...........................................................

ความเห็น...............................................................................................................................................................

ลงช่อื .................................................................

( ...................................................)
ตาแหนง่ .......................................................

หวั หนา้ งานวชิ าการ
ความเห็นผู้บรหิ าร
...............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................................

ลงชอ่ื ...........................................................

( นายสภุ นิต์ิ สาสะเน )
ผอู้ านวยการสถานศึกษา

48

การส่งบนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้

กล่มุ สาระการเรียนร.ู้ ............................................รายวิชา.....................................รหสั วิชา.....................
ระดบั ชั้น............................................ภาคเรียนท่ี ........... ปีการศกึ ษา .....................

ท่ี หน่วยการเรยี นรู้ QR CODE จานวนชั่วโมง บนั ทึกการตรวจแผน
(สาหรับผ้ตู รวจ)

................................................
................................................
................................................
................................................
................................................
................................................

................................................
................................................
................................................

................................................
................................................
................................................

................................................
................................................
................................................
................................................
................................................
................................................

................................................
................................................
................................................
................................................
................................................
................................................

ลงช่ือ............................................................ผบู้ นั ทึก

(............................................)
ตาแหนง่ ..........................................................

ผตู้ รวจบนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................. ..................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.........................................................วชิ าการสายช้ัน

( ...............................................)
ตาแหนง่ ...........................................................

49

13. บันทึกผลหลังการจดั การเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่..................เร่ือง......................................................

เวลา..........................................ชั่วโมง นกั เรียนท่ีทาการสอนทัง้ หมด ..................................... คน

การวัดผล ผ่านเกณฑ์ ไม่ผา่ นเกณฑ์ การพฒั นาผ้เู รียน/ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ

จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ

ดา้ นความร(ู้ K)

ดา้ นทักษะกระบวนการ(P)

ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค(์ A)
1.รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
2.ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ
3.มีวินยั
4.ใฝเ่ รียนรู้
5.อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง
6.มุง่ มั่นในการทางาน
7.รกั ความเปน็ ไทย
8.มจี ิตสาธารณะ
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
1.การส่อื สาร
2.การคิด
3.การแก้ปญั หา
4.การใช้ทกั ษะชวี ติ
5.การใชเ้ ทคโนโลยี
การพฒั นา 3R
1.ทักษะดา้ นการอา่ น
2.ทกั ษะด้านการเขียน
3.ทักษะทางคณิตศาสตร์
การพัฒนา 8C
1.ทกั ษะด้านการคิดอยา่ ง

มวี จิ ารณญาณฯ
2.ทกั ษะด้านความรว่ มมือ
3.ทักษะดา้ นความเขา้ ใจ

50

การวัดผล ผา่ นเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์ การพฒั นาผูเ้ รยี น/ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะ

ตา่ งของวัฒนธรรมฯ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ

4.ทักษะดา้ นการสือ่ สารฯ
5.ทกั ษะด้านการ

สรา้ งสรรค์
6.ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ฯ

7.ทักษะอาชพี ฯ
8.ทักษะความมีเมตตา
คุณธรรมฯ

ความเห็น
.............................................................................................................................

ลงชอื่ …………………………………………ผูส้ อน ลงช่ือ......................................................วิชาการสายช้ัน
(………………………………………..) ( ………………………………………. )

ตาแหน่ง…………..…วิทยฐานะ…………………… ตาแหนง่ …………………………………………………………………


Click to View FlipBook Version