รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
คำนำ
ดว้ ยเจตนารมณต์ ามรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ.2550 มาตรา 49 ได้บญั ญตั ิว่า “บคุ คล
ย่อมมีสิทธิเสมอกันในการับการศึกษาไม่น้อยกว่า 12 ปี ท่ีรัฐจะต้องจัดให้อย่างท่ัวถึงและมีคุณภาพโดย
ไม่เก็บค่าใช้จ่าย” คณะรฐั มนตรีได้มีนโยบายเร่งด่วนที่จะลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ข้อ 1.3.1 ว่า
“ให้ทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาฟรี 15 ปี โดยสนับสนุนตาราเรียนหลัก ให้แก่สถานศึกษา จัดให้มี
ชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนฟรี และสนับสนุนค่าใช้จ่ายอ่ืนๆ เพ่ือชดเชยค่าใช้จ่ายอื่นๆ ท่ีสถานศึกษา
เรียกเก็บจากผู้ปกครอง” ซึ่งกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนท่ีกาหนดให้สถานศึกษาจัดในส่วนท่ีเป็นกิจกรรม
ทศั นศึกษานน้ั เป็นกจิ กรรมศึกษาตามแหล่งเรยี นรตู้ ่างๆ เพอ่ื สร้างเสรมิ ประสบการณต์ รงให้กับนักเรียนท่ีเรียน
เพ่ิมเติมจากการเรียนในห้องเรียน และเพ่ือให้นักเรียน มีความรู้และประสบการณ์อย่างกว้างขวาง
โดยกาหนดให้ดาเนินการจัดกิจกรรมทัศนศึกษาปีละ 1 คร้ัง โรงเรียนกันกงบ้านลี่สามัคคีจึงได้จัดกิจกรรม
ทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ เพื่อตอบสนองนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพขึ้น ส่งเสริมให้
นักเรียนทุกคนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเต็มตามศักยภาพ 1) เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจจาก
การศึกษาแหล่งเรียนรู้ภายนอกสถานศึกษา 2) เพ่ือส่งเสริมผู้เรียนมีประสบการณ์ในกระบวนการการเรียนรู้
ท่เี ปน็ ระบบ 3) เพื่อเสริมแรงให้นกั เรียนมีความกระตือรือรน้ มคี วามรับผิดชอบ 4) เพ่ือให้นักเรยี นตระหนัก
ถึงคุณค่าทรัพยากร อันเป็นสมบัติของชาติที่ตนเองมีส่วนเป็นเจ้าของ มีเหตุผล มีการตัดสินใจท่ีเหมาะสม
ได้รับความรู้และประสบการณ์จากการไปทัศนศึกษานอกสถานที่เพ่ิมมากขึ้น และนักเรียนมีความพึงพอใจ
ต่อกิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานทอ่ี ย่ใู นระดบั มาก
โครงการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ จึงเป็นการจัดกิจกรรมให้แก่นักเรียน ซึ่งให้สอดคล้องและสนอง
นโยบายการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการและพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ การจัด
กระบวนการเรียนรู้ที่จะส่งเสริมให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ นอกห้องเรียน เกิดทักษะจาก
ประสบการณ์จริง สามารถนาประสบการณ์มา วเิ คราะห์และพัฒนาทักษะการเรียนรไู้ ด้อย่างเหมาะสมและ
มีความสุข
คณะผจู้ ัดทา
โครงการทศั นศึกษาแหล่งเรยี นรู้นอกสถานท่ี 2565
โรงเรียนกนั กงบ้านล่ีสามัคคี
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
สำรบญั
เร่อื ง หนำ้
แบบรายงานผลการพานกั เรียน/นักศึกษาไปนอกสถานที่
บทที่ 1 บทนา………………………………………….……………………………………………………………. 1
ทีม่ าและความสาคัญ............................................................................................... 1
วตั ถปุ ระสงค.์ .......................................................................................................... 1
ขอบเขตของการศกึ ษา……………............................................................................. 1
ผลที่คาดว่าจะไดร้ ับในการจัดกิจกรรม................................................................... 2
บทที่ 2 เอกสารทีเ่ ก่ียวข้อง……………………………………………………………………………………. 3
กจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน ปีการศกึ ษา 2555 ตามนโยบายการสนบั สนุนคา่ ใช้จ่าย
ในการจัดการศึกษา ตง้ั แตร่ ะดบั อนุบาลจนจบการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน………………… 3
แหลง่ เรียนรู้……………………………………………………………………………………………… 3
แหลง่ เรยี นท่ศี ึกษา…………………………………………………………………………………….. 7
บทท่ี 3 ขั้นตอนการดาเนนิ การ......................................................................................... 8
บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน................................................................................................. 9
บทท่ี 5 สรุปผลและขอ้ เสนอแนะ...................................................................................... 11
บรรณานุกรม ……………………………………………………………………………………………………….. 12
ภาคผนวก............................................................................................................................ 13
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
แบบรำยงำนผลกำรพำนกั เรียน/นกั ศึกษำ
ไปนอกสถำนท่ี
โรงเรียนกนั กงบ้านลีส่ ามัคคี
วนั ที่ 1 ธนั วาคม 2565
เรื่อง การพานักเรียน/นักศกึ ษาไปนอกสถานท่ี
เรียน ผู้อานวยการโรงเรยี นกันกงบา้ นลี่สามคั คี
ตามท่ขี า้ พเจ้าไดร้ ับอนญุ าตให้นานักเรียนโรงเรียนกนั กงบ้านล่สี ามคั คี ตง้ั แต่ระดบั ชั้นอนุบาล 1 ถึง
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 จานวน 43 คน ครผู ูค้ วบคุม จานวน 5 คน โดยมี นางสาวนิตยา จาเริญพงค์
ตาแหนง่ พนกั งานราชการ เป็นเจา้ ของโครงการทัศนศกึ ษาแหลง่ เรยี นรู้นอกสถานที่ ควบคุมไปเพ่ือศึกษา
แหล่งเรียนร้นู อกสถานที่ ณ ศนู ยว์ ิทยาศาสตร์เพอ่ื การเรยี นรู้นครราชสมี า จงั หวัดนครราชสีมา เร่ิมออก
เดินทาง วันท่ี 30 พฤศจกิ ายน 2565 เวลา 06.30 น. ได้ไปตามเส้นทางผ่านถนนชยั ภูมิ-สีควิ้ หมายเลข 201
โดยพาหนะ รถทวั ร์นาเทย่ี ว สถิตชัย ทวั ร์ ทะเบียน 10-2153 ชัยภมู ิ และได้กลับถงึ สถานศกึ ษา วันที่ 30
พฤศจกิ ายน 2565 เวลา 16.30 น.
โดยการพานักเรียนไปในครง้ั นี้ เป็นไปดว้ ยความเรียบร้อย ข้าพเจา้ จงึ ได้จดั ทารายงานผลการดาเนิน
โครงการ เพื่อเป็นสารสนเทศของสถานศกึ ษาดงั เอกสารทแ่ี นบ จงึ เรยี นมาเพื่อโปรดทราบ
ลงชื่อ
(นางสาวนิตยา จาเริญพงค์)
พนักงานราชการ
ควำมคิดเห็นของผู้อำนวยกำร
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงช่อื
(นายทนิ กร ตรรี ัตน์)
ผู้อานวยการโรงเรียนกนั กงบา้ นลี่สามคั คี
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
บทที่ 1
บทนำ
1. ทม่ี ำและควำมสำคัญ
ด้วยรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 หมวด 3 มาตรา 49 ไดบ้ ัญญัติไว้วา่ “บุคคล
ย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไม่น้อยกว่าสิบสองปี ที่รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดย
ไม่เก็บค่าใช้จ่าย” และพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2553
มาตรา 10 วรรค 1 ได้บัญญัติไว้ว่า “การจัดการศึกษาต้องจัดให้บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการ
รับการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปีทร่ี ัฐจะต้องจัดให้อยา่ งท่วั ถงึ และมคี ณุ ภาพโดยไมเ่ ก็บค่าใช้จา่ ย”
ซ่ึงเป็นข้อกาหนดที่เก่ียวกับการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ประกอบกับคาแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี
ได้กาหนดเป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะเร่ิมดาเนินการตามเจตนารมณ์ดังกล่าว ต้ังแต่ปีการศึกษา 2552 ตอ่ เนื่อง
มาจนถึงปีการศึกษา 2555 โดยรัฐบาลได้กาหนดนโยบายสังคมและคุณภาพชีวิต ข้อ 2 สร้างโอกาส
ทางการศกึ ษา กระจายโอกาสทางการศกึ ษาในสงั คมไทยโดยคานึงถึงการสร้างความเสมอภาคความเป็นธรรม
ให้เกิดขึ้นแก่ประชากรทุกกลุ่ม ซึ่งรวมถึงผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้บกพร่องทางกายและการเรียนรู้
รวมทั้งชนกลุ่มน้อย โดยส่งเสริมการให้ความรู้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาถึงแรกเกิด ให้ได้รับการดูแลอย่าง
มปี ระสทิ ธิภาพ ทง้ั แมแ่ ละเดก็ สนบั สนุนการจดั การศกึ ษาตามวยั และพฒั นาการอยา่ งมีคุณภาพ ตัง้ แตก่ อ่ นวัย
เรียนจนจบการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน โดยจัดให้มีระบบสะสมผลการศึกษาและการเทียบโอนเพ่ือขยายโอกาส
ใหก้ วา้ งขวางและลดปญั หาคนออกจากระบบการศกึ ษา
จากเหตุผลดังกล่าว โรงเรียนกันกงบ้านล่ีสามัคคีจึงได้จัดกิจกรรมทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้
นอกสถานท่ี โดยเน้นศึกษา เพื่อตอบสนองนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพข้ึน ส่งเสริมให้นักเรียน
ทุกคนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเต็มตามศักยภาพ เกิดทักษะจากประสบการณ์จริง สามารถนา
ประสบการณ์มา วเิ คราะห์และพฒั นาทักษะการเรยี นร้ไู ด้อย่างเหมาะสมและมีความสุข
2. วตั ถปุ ระสงค์
2.1 เพ่อื ใหน้ ักเรียนได้เปลยี่ นบรรยากาศในการเรียนรู้ สร้างเสรมิ ประสบการณ์ตรงจากแหล่งเรยี นรู้
2.2 เพอื่ ใหน้ กั เรยี นมโี ลกทศั น์ทกี่ วา้ งขนึ้ ศกึ ษาคน้ คว้าและพฒั นาตนเอง จากการศึกษาแหลง่ เรียนรู้
2.3 เพื่อกระตุ้นใหน้ ักเรยี นไดต้ ระหนักถงึ ความสาคัญของแหลง่ เรียนรู้ภายในท้องถ่นิ และประเทศ
3. ขอบเขตของกำรศึกษำ
3.1 เป้ำหมำยของกิจกรรม
3.1.1 ด้ำนปริมำณ
1) นกั เรียนโรงเรยี นกนั กงบ้านลส่ี ามัคคี จานวน 43 คน ไดไ้ ปทัศนศึกษานอกสถานที่
จานวน 1 คร้งั ต่อปกี ารศึกษา
2) ครูท่ีปรกึ ษา จานวน 6 คน เข้าร่วมโครงการทศั นศึกษานอกสถานท่ี
3.1.2 ด้ำนคุณภำพ
1) นักเรยี นได้รับความรแู้ ละประสบการณจ์ ากการไปทัศนศึกษานอกสถานทเี่ พมิ่ มากข้ึน
2) นักเรยี นมคี วามพึงพอใจตอ่ กิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานท่อี ย่ใู นระดบั มาก
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
3.2 สถำนทีใ่ นกำรจดั กิจกรรม ดงั น้ี
3.2.1 ศูนยว์ ทิ ยาศาสตรเ์ พอื่ การศึกษานครราชสีมา จงั หวดั นครราชสีมา
3.2.2 อ่างเกบ็ นา้ เขายายเทยี่ ง ลาตะคอง
3.3 ระยะเวลำทใ่ี ช้ในจัดกจิ กรรม
วันท่ี 30 เดอื น พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2565
4. ผลที่คำดว่ำจะไดร้ ับในกำรจัดกิจกรรม
4.1 นักเรียนโรงเรียนกันกงบ้านล่สี ามคั คี จานวน 43 คน ได้ไปทัศนศึกษานอกสถานท่ี
4.2 ครูท่ปี รกึ ษา จานวน 6 คน เข้ารว่ มโครงการทศั นศึกษานอกสถานท่ี
4.3 นักเรยี นไดร้ ับความรู้และประสบการณ์จากการไปทศั นศึกษานอกสถานท่ีเพิ่มมากข้ึน
4.4 นักเรียนมคี วามพงึ พอใจตอ่ กจิ กรรมทัศนศึกษานอกสถานทีอ่ ยู่ในระดับมาก
4.5 นักเรียนผู้เขา้ รว่ มกิจกรรม เกดิ ความตระหนักถงึ ความสาคัญของการอนุรกั ษ์แหลง่ เรยี นรู้
รายงานผลการดาเนินโครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
บทท่ี 2
เอกสำรทเี่ กีย่ วขอ้ ง
โรงเรยี นกนั กงบา้ นล่สี ามคั คีจึงไดจ้ ัดกิจกรรมทัศนศึกษาแหลง่ เรยี นรู้นอกสถานที่ โดยเนน้ ศกึ ษา
เพ่อื ตอบสนองนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมคี ณุ ภาพข้นึ ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนทุกคนได้รบั โอกาสทางการศกึ ษา
อย่างเต็มตามศักยภาพ เกดิ ทักษะจากประสบการณ์จรงิ สามารถนาประสบการณม์ า วิเคราะห์และพฒั นา
ทักษะการเรยี นรูไ้ ด้อย่างเหมาะสมและมคี วามสขุ ซ่ึงมีเอกสารท่เี ก่ียวขอ้ งดังต่อไปน้ี
1. กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพผ้เู รยี น ปีการศึกษา 2565 ตามนโยบายการสนับสนุนคา่ ใช้จ่าย
ในการจัดการศกึ ษา ตงั้ แตร่ ะดบั อนบุ าลจนจบการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน
1.1 กิจกรรมทศั นศึกษา
2. แหล่งเรยี นรู้
2.1 ความหมายของแหลง่ เรียนรู้
2.2 ความสาคัญของแหล่งเรยี นรู้
2.3 ประเภทของแหลง่ เรียนรู้
3. แหล่งเรยี นรู้นอกสถานที่ท่ศี ึกษา
3.1 ศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พื่อการศกึ ษานครราชสีมา จังหวดั นครราชสีมา
3.2 อ่างเกบ็ น้าเขายายเทย่ี ง ลาตะคอง
1. นโยบำยกำรสนับสนนุ คำ่ ใช้จำ่ ย ในกำรจัดกำรศึกษำ ตง้ั แต่ระดบั อนุบำลจนจบกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน
ปีกำรศกึ ษำ 2565 กจิ กรรมพฒั นำคุณภำพผูเ้ รยี นเปน็ กิจกรรมพฒั นำผูเ้ รียนทส่ี ถำนศึกษำจัดขึ้น ประกอบ
ไปดว้ ย
1. กิจกรรมวิชาการ
2. กิจกรรมคุณธรรม/ลกู เสอื /เนตรนารี/ยวุ กาชาด
3. ทศั นศกึ ษา
4. การบรกิ ารสารสนเทศ/ICT
1.1 กจิ กรรมทศั นศึกษำ เป็นกจิ กรรมศึกษาตามแหลง่ เรยี นร้ตู ่าง ๆ เพอ่ื สร้างเสริมประสบการณ์ตรง
ใหก้ ับนกั เรยี นทเ่ี พิ่มเติมจากการเรียนในห้องเรียน เพอื่ ให้นกั เรยี นมีความรแู้ ละประสบการณ์อยา่ งกว้างขวาง
โดยกาหนดให้ดาเนนิ การกจิ กรรมดังกล่าว ปีการศึกษาละ 1 คร้งั
2. แหลง่ เรียนรู้
2.1 ควำมหมำยของแหล่งเรยี นรู้
หน่วยศึกษานเิ ทศก์ กรมสามญั ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (2544) ให้ความหมายของแหล่งเรยี นรู้
หมายถึง แหล่งข้อมลู ข่าวสาร สารสนเทศ แหลง่ ความรูท้ างวิทยาการ และประสบการณ์ที่สนับสนุน สง่ เสรมิ
ใหผ้ ้เู รยี นใฝ่เรยี นใฝ่รู้ แสวงหาความรู้และเรยี นร้ดู ว้ ยตนเองตามอัธยาศัยอย่างกว้างขวางและต่อเน่ืองจาก
แหล่งตา่ งๆ เพ่อื เสริมสรา้ งให้ผเู้ รียนเกดิ กระบวนการเรียนรู้ และเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
กรมวชิ าการ (2545) ใหค้ วามหมายแหลง่ เรยี นรู้ว่า หมายถงึ แหลง่ ขอ้ มูล ขา่ วสารสารสนเทศ
และประสบการณท์ ี่สนบั สนุนสง่ เสริมให้ผูเ้ รยี นใฝเ่ รียนแสวงหาความรู้และเรียนร้ดู ้วยตนเองตามอัธยาศัย
อย่างกวา้ งขวางและต่อเน่อื งเพอ่ื เสริมสร้างใหผ้ ้เู รยี นเกดิ กระบวนการการเรยี นรแู้ ละเป็นบุคคลแห่งการเรยี นรู้
รายงานผลการดาเนินโครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
นิคม ชมพูหลง (2545) ให้ความหมายแหลง่ เรยี นรใู้ นชมุ ชนว่า หมายถงึ แหลง่ ความรู้ต่างๆ
ในชุมชนท่สี ถานศึกษาหรือหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้องกบั การศึกษาท่ีตัง้ อยู่ อาจเปน็ ชุมชนในระดบั หมูบ่ ้าน ตาบล
อาเภอ จังหวดั รวมถึงทุกสง่ิ ทุกอยา่ งทีม่ อี ยู่และเป็นของชุมชน ไมว่ ่าจะเปน็ เรอื่ งราวของประวตั ศิ าสตร์
ความเปน็ มาของชนชาติ สภาพภมู ิประเทศ วถิ ีชีวิต ความเป็นอยู่ ศิลปวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิน่
รวมท้งั แนวโน้มการเปลย่ี นแปลงของชมุ ชน
ปรีชา มาละวรรณโณ (2545) ใหค้ วามหมายของแหลง่ เรยี นร้วู า่ หมายถงึ แหลง่ ที่มีข้อมูล
ขา่ วสาร ความรทู้ ่เี ข้าไปศึกษาความรู้ ความเขา้ ใจ และความชานาญ จากความหมายของแหลง่ เรียนรู้ ซ่งึ มี
ชอ่ื เรยี กตา่ งๆ กนั ดงั กล่าวมาขา้ งตน้ จะเหน็ ไดว้ า่ นักการศึกษาส่วนใหญ่จะใชค้ าวา่ แหล่งความร้ใู นชมุ ชน
หรือแหล่งวทิ ยาการในชมุ ชน หรือแหล่งทรพั ยากรในชุมชน เน่ืองจากในอดีตที่ผ่านมาหรอื แมแ้ ต่ปัจจบุ นั
การจดั แหลง่ เรียนรู้มีวัตถุประสงคใ์ ช้กับการจดั การศึกษานอกระบบหรือการศกึ ษาผูใ้ หญ่ เพื่อให้ประชาชน
ในท้องถ่ินหรือชมุ ชนตา่ งๆ ที่ไมม่ โี อกาสเข้าศึกษาในระบบโรงเรยี นได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง
จากแหล่งความรตู้ ่างๆ ในชมุ ชน
สรปุ ไดว้ า่ แหล่งเรียนรู้ หรือแหล่งความรู้ในชุมชน หรอื แหลง่ วทิ ยาการในชมุ ชน หรือแหล่ง
ทรพั ยากรในชมุ ชน ต่างกม็ คี วามหมายเหมือนกนั เพยี งแตใ่ ชช้ ื่อเรยี กต่างกัน ซงึ่ หมายถึง แหล่งวิชาการหรือ
แหลง่ ทรัพยากร ที่สามารถใช้เป็นที่ศึกษาหาความรู้ ความเข้าใจ ความชานาญ ซ่งึ อาจเป็นได้ทงั้ สง่ิ ท่ีเปน็
ธรรมชาติหรือส่ิงทมี่ นุษยส์ รา้ งขึน้ เป็นไดท้ ้ังบคุ คล ส่งิ มชี วี ิตและไมม่ ชี วี ติ ได้แก่ บคุ คล สถานท่ตี ่างๆ
แหล่งวทิ ยาการ ธรรมชาติ สภาพสังคมเศรษฐกิจ การเมือง วฒั นธรรม และเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ
ทีเ่ สรมิ สรา้ งให้ผ้เู รียนเกิดกระบวนการเรยี นรู้ และเป็นบคุ คลแหง่ การเรยี นรดู้ ้วยตนเองโดยประสบการณ์ตรง
เพอื่ ใหส้ ามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวันได้
2.2 ควำมสำคญั ของแหลง่ เรียนรู้
ความกา้ วหน้าทางวิทยาการของโลกปัจจบุ ัน เป็นไปอยา่ งกว้างขวางและรวดเร็ว การศึกษาหรือ
การเรียนรจู้ ะหยดุ อยูเ่ พยี งการศกึ ษาในรวั้ โรงเรียนเทา่ นนั้ คงไม่เพียงพอ เพ่อื เสริมสร้างศกั ยภาพของบคุ คล
ท้งั ด้านความรู้ ทักษะ ทศั นคติ ค่านยิ ม โดยส่งเสรมิ การศึกษาหาความร้อู ยา่ งต่อเนอ่ื งตอ่ ไปตลอดชีวิต การ
จัดแหล่งเรียนรทู้ ีห่ ลากหลาย มงุ่ ให้ผู้เรยี นรักการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง มผี ู้กลา่ วถงึ
ความสาคญั ของแหลง่ เรียนรู้ไว้มากมาย ในส่วนหนึ่งมีดงั ตอ่ ไปน้ี
หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมสามญั ศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ (2544) ได้ให้ความสาคญั แหล่งเรียนรู้
ทห่ี ลากหลายมงุ่ ให้ผู้เรียนรกั การเรียนรูแ้ ละแสวงหาความรไู้ ด้ดว้ ยตนเองมีความสาคญั คอื
1. เปน็ แหล่งการศึกษาตามอธั ยาศัย
2. เป็นแหล่งการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ
3. เปน็ แหล่งปลูกฝงั นิสัยรกั การอา่ น การศกึ ษาคน้ ควา้ แสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง
4. เปน็ แหล่งเสริมประสบการณภ์ าคปฏบิ ตั ิ
5. เป็นแหล่งเสริมความรู้ ความคิด วทิ ยาการและประสบการณ์
ศิรกิ าญจน์ โกสมุ ภ์ และ ดารณี คาวจั นัง (2545) กล่าวถงึ ความสาคัญของแหลง่ การเรยี นรู้ใน
ชุมชนดังน้ี
1. เปน็ แหลง่ ทมี่ ีความรูห้ ลากหลาย พร้อมทจ่ี ะให้ผเู้ รยี นเขา้ ไปศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยกระบวนการ
จดั การเรยี นร้ทู ีแ่ ตกต่างกัน
2. เปน็ แหลง่ เชื่อมโยงการเรียนรู้ของโรงเรียนและชุมชนเขา้ ดว้ ยกัน
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
3. เป็นแหลง่ การเรยี นร้ทู ่ีทาให้ผเู้ รียนเกิดการเรยี นรู้อยา่ งมีความสุขตามหลกั การปฏริ ูป
การเรยี นรู้ ผู้เรยี นสาคัญที่สุด ผู้เรียนต้องเรยี นร้จู ากการไดค้ ิดเอง ปฏบิ ัตเิ อง และสรา้ งความรู้ด้วยตนเอง
ในเร่ืองทสี่ อดคล้องกับการดารงชีวิตจากแหล่งเรยี นร้รู อบตวั
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน (2547) กลา่ วไว้วา่ แหลง่ เรยี นรเู้ ปน็ ปจั จยั สาคญั
ปจั จัยหน่ึงในการเรียนการสอนทย่ี ดึ ผเู้ รียนเปน็ ศูนยก์ ลาง เพราะแหล่งเรยี นรู้จะเป็นสือ่ ในการกระต้นุ ให้
ผเู้ รยี นเกดิ ความสนใจใครร่ ้แู ละเกดิ การเรยี นรู้ โดยผา่ นกระบวนการหรอื กิจกรรม การใช้แหล่งเรยี นรู้
ใหบ้ ังเกิดผลตอ้ งเกดิ จากการสนับสนุนของผบู้ ริหาร ครู นกั เรียนและความรว่ มมอื ของทกุ ฝา่ ย
สานกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ (2550) ได้ใหค้ วามสาคญั ของการ
จดั การเรียนรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรู้ดังนี้ การใช้แหลง่ การเรียนร้มู ีความสาคญั ในกระบวนการจดั การเรยี นรสู้ าหรบั
ผ้เู รยี นเพราะผเู้ รียนสามารถเรียนร้จู ากสภาพจรงิ การจัดการเรยี นร้จู ากแหล่งเรียนรู้จะเก่ยี วกบั บคุ คล สถานที่
ธรรมชาติ หน่วยงาน องคก์ ร สถานประกอบการ ชมุ ชน และสิง่ แวดล้อมอื่นๆ ซง่ึ ผ้เู รียน ผูส้ อนสามารถศกึ ษา
คน้ ควา้ หาความรู้หรอื เรือ่ งทส่ี นใจได้จากแหลง่ เรยี นรทู้ ง้ั ทเ่ี ปน็ ธรรมชาติ และมนุษยส์ รา้ งขึน้ ชมุ ชนและ
ธรรมชาตเิ ปน็ ขุมทรัพย์มหาศาลทเี่ ราสามารถคน้ พบความรู้ได้ไมร่ ้จู บ ทาให้ผู้เรยี นเกิดการเรียนรู้และสรา้ ง
องค์ความรู้ดว้ ยตนเอง
ลกั ษณะเด่นของการจัดการเรยี นร้จู ากแหลง่ เรียนร้มู ดี ังนี้
1. ผู้เรียนได้ปฏบิ ตั ิจรงิ คน้ คว้าหาความรดู้ ้วยตนเอง
2. ผู้เรยี นไดฝ้ ึกทางานเปน็ กล่มุ ร่วมคิด รว่ มทา ร่วมแก้ไขปญั หาตา่ งๆ ซึง่ จะชว่ ยใหเ้ กิด
3. การเรียนรู้ และทักษะกระบวนตา่ งๆ
4. ผู้เรียนไดฝ้ กึ ทักษะการสงั เกตการณเ์ กบ็ รวบรวมข้อมูล การวเิ คราะหข์ ้อมูล การตีความและ
การสรปุ ความ คดิ แก้ปญั หาอย่างเปน็ ระบบ
5. ผเู้ รยี นได้ประเมินผลการทางานด้วยตนเอง
6. ผูเ้ รียนสามารถนาความรู้ท่ีไดไ้ ปประยุกต์ใชแ้ ละเผยแพรค่ วามรไู้ ด้
7. ผสู้ อนเปน็ ท่ีปรึกษา ให้ความรู้ ให้คาแนะนา ให้การสนับสนุน
สรุปได้ว่า ความสาคญั ของแหลง่ เรยี นรูม้ คี วามหลากหลาย สามารถตอบสนองความตอ้ งการของ
แตล่ ะบคุ คลในการแสวงหาความร้ดู ้วยตนเอง เพราะบุคคลมีความตอ้ งการแตกต่างกันไปตามความสามารถ
ความสนใจ ความถนดั และความพร้อมที่จะเรียนรู้ หากสามารถดาเนินการจดั แหล่งความรไู้ ดเ้ พียงพอและ
มปี ระสิทธภิ าพ ก็สามารถสง่ เสรมิ ให้บคุ คลเกดิ การเรียนรู้ตลอดชวี ิตและเกดิ สังคมแหง่ การเรยี นร้ไู ด้ท่ัวทุกแหง่
2.3 ประเภทของแหลง่ เรียนรู้
หน่วยศกึ ษานิเทศก์ กรมสามัญศกึ ษา เขตการศึกษา 5 (2542 ข) แหลง่ เรียนรู้ทมี่ นุษย์ทุกคนได้
สมั ผสั ก็คือ สง่ิ แวดลอ้ มรอบๆ ตวั ได้แก่ ธรรมชาติ ป่าไม้ ภูเขา แมน่ า้ ดวงอาทติ ย์ นก ฯลฯ การเรยี นรเู้ กดิ ข้ึน
ด้วยตนเองเพ่อื ความอย่รู อดและการมีชวี ติ อย่รู ่วมกบั ผู้อืน่ ได้ การเรียนรู้จึงช่วยพัฒนาร่างกายและจิตใจให้มี
คุณภาพมากขน้ึ ในปจั จุบนั ด้วยความเจริญด้านเทคโนโลยี มนุษยส์ รา้ งแหลง่ เรยี นรทู้ ี่ชว่ ยใหส้ ามารถเรียนรู้ได้
ตามความตอ้ งการทกุ เพศ ทกุ วัย ทุกสถานท่ี เชน่ วิทยุ โทรทัศน์ คอมพวิ เตอร์ เปน็ ต้น แหลง่ เรียนรทู้ ีเ่ ปน็
บุคคลหรอื กลุม่ คนทีม่ ีความรคู้ วามสามารถ ความเช่ยี วชาญในเรอ่ื งใดเรือ่ งหนึง่ จะเปน็ ผถู้ ่ายทอดให้ผเู้ รียนมี
ทกั ษะในการพัฒนาชวี ิตตอ่ ไป
เนื่องจากแหลง่ เรียนรู้ หรือแหล่งความรู้ หรือแหล่งความรู้ในชุมชน หรอื แหล่งวทิ ยาการในชุมชน
มีความหมายกว้างมาก จงึ มีนักการศกึ ษาจาแนกประเภทไว้แตกต่างกนั ไปดงั ต่อไปนี้
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
ศรสี ดุ า จริยากลู (2546) ไดจ้ าแนกแหลง่ เรียนรู้ในชมุ ชนไว้เปน็ 2 ประเภท ดังนี้
1. จาแนกตามลักษณะ ได้แก่
1.1 ลักษณะนามธรรม เชน่ ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี วัฒนธรรม ศลิ ปะ ความชานาญ
1.2 ลกั ษณะรูปธรรม เช่น คน สัตว์ สิ่งของ และธรรมชาติ
2. จาแนกตามแหล่งกาเนิด ไดแ้ ก่
2.1 แหล่งกาเนิดธรรมชาติ คือ สิ่งท่เี กิดข้นึ เองตามธรรมชาติ และมนุษยน์ ามาใช้ในการ
ดารงชีวิต เชน่ อาหาร น้า อากาศ ดิน หนิ แร่ธาตุ และป่าไม้
2.2 แหลง่ กาเนดิ เกดิ ขน้ึ จากการสร้างข้นึ และเกดิ จากสังคม ได้แก่
2.2.1 แหล่งการศึกษาและการเรียนรู้ เช่น สถานศึกษา แหล่งเฉพาะบคุ คล
2.2.2 แหลง่ เรียนรทู้ ่ไี มม่ ุ่งการเรียนรู้ เช่น บ้าน ที่ทางาน เพ่ือน สถานที่ ทอ่ งเทย่ี ว
สวุ ิทย์ มูลคาและอรทัย มลู คา (2545) จัดประเภทของแหลง่ เรยี นรเู้ ป็น 5 ประเภท ดงั นี้
1. สถาบันชุมชนทีม่ อี ยูแ่ ล้วในวิถชี ีวิตและการทามาหากินในชุมชน เช่น วดั โบสถ์ วิหาร ซึง่
เปน็ สถานท่ีทาบญุ ตามประเพณี ตลาด รา้ นขายของชา โรงงานขนาดเลก็ ในหมู่บา้ น ปา่ ห้วย หนอง คลอง บงึ
2. สถานท่หี รอื สถาบนั ทรี่ ัฐและประชาชนจัดตงั้ ขนึ้ เช่น อทุ ยานการศกึ ษา อุทยาน
ประวัติศาสตร์ อุทยานแหง่ ชาติทางทะเล อุทยานแหง่ ชาตใิ นท้องถน่ิ ศูนย์วัฒนธรรม ห้องสมุด
3. สอ่ื เทคโนโลยีทม่ี ีในโรงเรยี นและชุมชน เช่น วีดที ัศน์ โปรแกรมสาเรจ็ รปู ภาพยนตร์
ภาพสไลด์ ห่นุ จาลอง หรือของจริง
4. สอื่ เอกสารสิ่งพิมพ์ตา่ ง ๆ ที่มอี ยูใ่ นโรงเรียนและชุมชน เช่น หนังสอื วารสาร สารานกุ รม
ตารายาพื้นบา้ น ภาพจติ รกรรมฝาผนัง ภาพถ่าย
5. บคุ ลากรท่ีมคี วามร้ดู ้านตา่ ง ๆ ในชุมชน เช่น ผนู้ าทางศาสนา เกษตรกร ปราชญช์ าวบ้าน
หมอพืน้ บา้ น
สรุปไดว้ ่า แหล่งเรยี นรู้ ซ่งึ เปน็ แหลง่ ความรทู้ างวิทยาการ ที่ส่งเสริมให้เกิดการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง
สามารถ จาแนกเปน็ ประเภทใหญๆ่ ได้ดังน้ี
1. แหล่งเรียนรทู้ เี่ ปน็ บคุ คล ผทู้ ม่ี ีความรู้ความสามารถในด้านตา่ งๆ ทั้งในโรงเรยี น ชมุ ชน
นอกชุมชนทโี่ รงเรียนตั้งอยู่ ได้แก่ บคุ ลากรในโรงเรียน ผปู้ กครองนกั เรียน ผทู้ รงคุณวุฒใิ นทอ้ งถ่ิน บุคลากร
ในชุมชน กรรมการสถานศกึ ษา เป็นต้น
2. แหล่งเรียนรทู้ เ่ี ปน็ แหลง่ วิทยาการ หมายถึง อาคารสถานทซี่ ึ่งเป็นแหล่งรวมข้อมูลแหล่ง
ความรตู้ า่ งๆ แบ่งเปน็ ประเภทใหญ่ๆ คือ แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน แหล่งเรยี นร้ภู ายนอกโรงเรยี น ได้แก่
หอ้ งสมดุ ห้องพิพธิ ภณั ฑ์ เทคโนโลยี สารสนเทศ ศนู ย์วชิ าการ สวนพฤกษศาสตร์ หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร อทุ ยาน
สวนสาธารณะ สถานประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรม สถานที่ราชการ เปน็ ตน้
3. แหลง่ เรยี นรทู้ เ่ี ปน็ ธรรมชาติ สง่ิ ต่างๆ ที่มอี ยตู่ ามธรรมชาติ ไดแ้ ก่ แหลง่ น้าตา่ ง ๆ
สัตวต์ า่ งๆ อุทยานแห่งชาติ ภูเขา ป่าไม้ ตน้ ไม้ ใบไม้ เปน็ ตน้
4. แหลง่ เรียนรู้ท่เี ปน็ ส่อื สารสนเทศ หมายถึง ส่อื นวตั กรรม รวมทงั้ เทคโนโลยีสงิ่ ประดิษฐ์
ตา่ งๆ ได้แก่ หนงั สือ ตารา สิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณา รายการวิทยุ รายการโทรทศั น์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ตา่ งๆ
เปน็ ต้น
กล่าวโดยสรุป แหลง่ เรียนรแู้ บ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ แหล่งเรียนรู้ท่เี ปน็ ธรรมชาติ แหลง่ เรียนรู้
ท่ีเป็นบคุ คล แหล่งเรียนรูท้ ่ีเปน็ อาคารสถานที่ แหลง่ เรียนรูท้ ่เี ป็นเทคโนโลยี
รายงานผลการดาเนินโครงการทศั นศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
3. แหล่งเรยี นนอกสถำนทท่ี ศ่ี ึกษำ
3.1 ศูนย์วิทยำศำสตรเ์ พอื่ กำรศกึ ษำนครรำชสีมำ
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันท่ี 16
สิงหาคม2537 อนุมตั ิให้กรมการศกึ ษานอกโรงเรียนจัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษาข้ึน 12 จังหวัด และ
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเร่ืองจัดต้ังศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา จังหวัดสมุทรสาคร ขอนแก่น
นครราชสีมา อุบลราชธานี นครสวรรค์ ลาปาง และจังหวัดสระแก้ว ลงวันท่ี 27 มิถุนายน 2540
เป็นสถานศึกษาสังกดั กรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธกิ ารให้บริการในเขตพ้นื ท่ี จานวน 4 จังหวัด
ได้แก่จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิบุรีรัมย์ และ จังหวัดสุรินทร์ และ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาจังหวัด
นครราชสีมา ปัจจุบันเปลี่ยนช่ือเป็น "ศูนย์วิทยาศาสตร์เพ่ือการศึกษานครราชสีมา” สังกัดสานักงานส่งเสริม
การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ ารกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ตาม
ประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เม่ือวันท่ี 26 มนี าคม 2551
วสิ ยั ทัศน์
ศูนยว์ ทิ ยาศาสตรเ์ พือ่ การศึกษานครราชสมี า เปน็ แหล่งเรยี นร้ชู ั้นนาในการจดั การเรยี นรดู้ ้านวทิ ยาศาสตร์
ดว้ ยเทคโนโลยีทีห่ ลากหลาย อยา่ งมีคณุ ภาพ
อตั ลักษณ์
ใฝ่เรียนรู้ คูก่ ระบวนการคดิ บุคลิกนักวทิ ยาศาสตร์
เอกลักษณ์
บริการทุกระดบั ประทบั ใจทกุ องคก์ ร
พันธกิจ
1. จัดและสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยด้านวทิ ยาศาสตรอ์ ยา่ งมคี ุณภาพ
2. จดั การเรียนร้กู ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยดา้ นวิทยาศาสตร์ดว้ ยเทคโนโลยีท่ี
หลากหลายสอดคลอ้ งกับสถานการณป์ ัจจบุ ัน
3. พฒั นาสถานศกึ ษาเป็นแหลง่ เรยี นรทู้ ไ่ี ด้มาตรฐาน
4. พัฒนาระบบการบริหารจัดการเพอ่ื ใหส้ ามารถดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศัยไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผล
5. ประสานและขยายความรว่ มมอื กบั ภาคเี ครอื ข่าย ชุมชน ในการจัดการเรยี นรูด้ า้ น
บทบำทหนำ้ ทขี่ องศนู ย์วิทยำศำสตร์เพือ่ กำรศกึ ษำนครรำชสมี ำ มีบทบาทหนา้ ทด่ี ังต่อไปน้ี
1. จัดระบบและบรกิ ารการเรียนรดู้ ้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละสิ่งแวดลอ้ ม ใหแ้ ก่นกั เรยี นนกั ศกึ ษาทั้งใน
และนอกระบบโรงเรียน และประชาชนในพืน้ ที่ทีร่ บั ผดิ ชอบ
2. ศึกษา ค้นควา้ วิจัย และพัฒนารปู แบบกจิ กรรม หลกั สูตร ส่อื และกระบวนการเรียนรู้ด้านวทิ ยาศาสตร์
เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม อาทิ ดาราศาสตร์ ธรรมชาติวิทยา เทคโนโลยีทเี่ หมาะสม
3. เผยแพร่และบรกิ ารรปู แบบกิจกรรม หลกั สูตร สือ่ กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ดา้ นวทิ ยาศาสตร์
เทคโนโลยี และสงิ่ แวดลอ้ ม
4. พัฒนาครู อาจารย์ วทิ ยากร และบุคลากรทางการศกึ ษา ผรู้ บั ผดิ ชอบการจัดกิจกรรม การเรยี นรทู้ างด้าน
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสงิ่ แวดล้อม
5. สง่ เสริม สนบั สนุน และประสานงานร่วมกับภาคเี ครือข่ายในการจัดกจิ กรรมการเรียนร้ทู างด้าน
วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสง่ิ แวดลอ้ ม
6. ปฏบิ ตั งิ านอนื่ ๆ ตามทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
รายงานผลการดาเนินโครงการทศั นศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
ภำรกิจและรูปแบบกำรให้บริกำร
ภารกิจและรปู แบบการให้บรกิ ารของศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพื่อการศกึ ษานครราชสมี าดา้ นวทิ ยาศาสตร์
เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม แก่นกั เรียน นกั ศกึ ษา และประชาชนทั่วไป ในเขตพืน้ ทร่ี บั ผิดชอบ 4 จังหวัด
ประกอบดว้ ย จังหวดั นครราชสีมา ชยั ภมู ิ บุรรี มั ย์ และสุรนิ ทร์ มรี ปู แบบการใหบ้ ริการ 4 รปู แบบ ไดแ้ ก่
1. การเรยี นรผู้ า่ นนิทรรศการ (บริการนทิ รรศการผา่ นฐานการเรยี นร)ู้
2. คา่ ยวทิ ยาศาสตร์
3. กิจกรรมการศกึ ษา
4. บริการวชิ าการ
ทีม่ ำ : http://web63.scikorat.com/GCMS-main/index.php
3.1 อ่ำงพกั นำ้ เขำยำยเทย่ี ง
ท่มี ำ : https://www.relaxtrip2018.com
รายงานผลการดาเนินโครงการทศั นศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
บทที่ 3
ขั้นตอนกำรดำเนนิ กำร
โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้ โรงเรยี นกันกงบา้ นลีส่ ามัคคี ไดด้ าเนินการจัดกิจกรรม สาหรับ
นกั เรยี นชนั้ อนุบาล 1 – ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 มีขั้นตอนดังนี้
1. ตรวจสอบนักเรียนท่ีไปทศั นศกึ ษา และสารวจจานวนนกั เรียนที่ยังไมไ่ ด้ไปทัศนศึกษา
2. ประชมุ เพ่อื วางแผนงาน กรอบแนวทางการดาเนนิ และกาหนดสถานที่ในการทัศนศึกษา
3. บันทกึ เสนอข้อความขออนญุ าตนานักเรียนไปทัศนศึกษาแหล่งเรยี นรู้ โดยไม่คา้ งคนื
4. เอกสารแนบบนั ทึกเสนอ ประกอบด้วย
5.1 แบบขออนุญาตนานักเรียนไปทัศนศกึ ษานอกสถานศกึ ษาแบบไม่คา้ งคนื
5.2 รายช่อื นักเรียน – ครผู ูค้ วบคมุ
5.3 กาหนดการ
5.4 แผนผังเส้นทาง
5.5 หนังสือขออนญุ าตผู้ปกครอง
5. แบบบันทึกขอจัดซื้อ-จัดจ้าง
6. เสนอเอกสารผ่านกลุ่มงานการเงิน เพ่อื ตรวจสอบและเสนอขอใช้เงนิ ตามโครงการ
7. เสนอล่วงหนา้ 15 วัน ก่อนนานกั เรียนไปทศั นศึกษานอกสถานศึกษา
8. เก็บรวบรวมหนังสอื ของอนญุ าตผูป้ กครอง
9. เม่อื ดาเนนิ การเรียบร้อยแล้ว
10. ครูเจา้ ของโครงการ สรปุ รายงานผลตามรปู แบบระเบียบกระทรวงศึกษาธกิ าร ว่าดว้ ยการพา
นกั เรยี น นกั ศกึ ษาไปนอกสถานศกึ ษา พ.ศ.2548 และมาตรการในการพานักเรียน นกั ศกึ ษาไปนอกสถานศกึ ษา
รายงานผลตอ่ ผูอ้ านวยการโรงเรยี น พรอ้ มแนบรปู ภาพประกอบ
11. จดั ทารายงานสรุป 5 บท ตามรปู แบบทโี่ รงเรียนกาหนด
รายงานผลการดาเนินโครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
บทที่ 4
ผลกำรดำเนนิ งำน
โรงเรยี นกนั กงบา้ นลสี่ ามัคคจี งึ ได้จัดกิจกรรมทศั นศึกษาแหลง่ เรียนร้นู อกสถานที่ โดยเนน้ ศึกษา
เพ่ือตอบสนองนโยบายเรยี นฟรี 15 ปอี ย่างมีคุณภาพข้นึ สง่ เสริมให้นักเรยี นทุกคนได้รับโอกาสทางการศกึ ษา
อยา่ งเตม็ ตามศักยภาพ เกดิ ทักษะจากประสบการณ์จรงิ สามารถนาประสบการณม์ า วเิ คราะหแ์ ละพฒั นา
ทักษะการเรยี นรู้ได้อย่างเหมาะสมและมีความสขุ มีผลการดาเนินงาน ดงั นี้
1. ผลกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจต่อโครงกำรทศั นศกึ ษำแหลง่ เรยี นรู้ ณ ศนู ยว์ ิทยาศาสตร์เพอ่ื การศกึ ษา
นครราชสมี า ตาบลลาตะคอง อาเภอสีคิ้ว จังหวดั ชัยภูมิ วนั ที่ 30 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. 2565
กำรแปลควำมหมำยของขอ้ มูลพิจำรณำจำกค่ำเฉล่ีย X ดังนี้
4.51 – 5.00 หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจมากท่ีสดุ
3.51 – 4.50 หมายถึง มคี วามพึงพอใจมาก
2.51 – 3.50 หมายถึง มีความพึงพอใจปานกลาง
1.51 – 2.50 หมายถงึ มีความพงึ พอใจนอ้ ย
1.00 – 1.50 หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจนอ้ ยทส่ี ุด
จำนวนผูต้ อบแบบสอบถำมทง้ั หมด 43 คน นักเรียนชนั้ อนบุ ำล 1 – นกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษำปที ี่ 6
ควำมพงึ พอใจเก่ยี วกำรดำเนินงำนและกำรจัดกจิ กรรมต่ำงๆ
ระดบั ควำมพึงพอใจ 5 = มำกทส่ี ุด 4 = มำก 3 = ปำนกลำง 2 = นอ้ ย และ 1 = นอ้ ยทส่ี ดุ
กำรดำเนนิ งำนและกำรจัดกิจกรรมตำ่ งๆ จำนวนนกั เรยี น (คน) คำ่ เฉล่ีย กำรแปลผล
54321
1. วนั และเวลาในการจดั กิจกรรม 43 - - - - 100.00 มากที่สุด
2. สถานท่ีในการไปทัศนศึกษานอกสถานที่ 40 3 - - - 92.17 มากที่สดุ
3. ยานพาหนะทใี่ ช้ในการเดินทาง 35 6 2 - - 89.13 มากที่สุด
4. นักเรียนได้เปล่ียนบรรยากาศ ในการเรยี นรู้ 43 - - - - 100.00 มากที่สดุ
สร้างเสริมประสบการณ์ตรงจากแหล่งเรยี นรู้
5. นักเรียนไดเ้ ปดิ โลกทศั น์ทก่ี ว้างขน้ึ ศกึ ษา 42 1 - - - 96.96 มากทส่ี ดุ
คน้ คว้าและพัฒนาตนเอง จากการศกึ ษาแหล่ง
เรยี นรู้
6. กิจกรรมกระตนุ้ และสง่ เสริมใหน้ กั เรียนมี 38 5 - - - 95.66 มากทส่ี ุด
ความรูด้ ้านวทิ ยาศาสตร์ ด้านธรรมชาติ และด้าน
ต่างๆ
7. นกั เรียนประทบั ใจการเดนิ ทางไปในคร้งั น้ี 43 - - - - 100.00 มากท่ีสดุ
8. นักเรียนสามารถประยุกต์ใช้ความรจู้ ากการไป 37 4 2 - - 96.52 มากทส่ี ุด
ทัศนศกึ ษา
9. นักเรียนอยากให้จดั กิจกกรมทศั นศกึ ษาขึน้ อีก 43 - - - - 100.00 มากทส่ี ุด
10. นกั เรียนประทบั ใจกิจกรรมทศั นศกึ ษา 43 - - - - 100.00 มากท่ีสุด
รวมเฉลย่ี 96.52
รายงานผลการดาเนินโครงการทศั นศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
หมำยเหตุ
ค่ารอ้ ยละ = จานวนคนตอบแบบสอบถาม
จานวนคนทงั้ หมด
ค่าเฉล่ีย = (จน.นร.เลอื กข้อ5*5)+(จน.นร.เลือกขอ้ 4*4)+(จน.นร.เลือกข้อ3*3)+(จน.นร.เลอื กขอ้ 2*2)+(จน.นร.เลอื กขอ้ 1*1)
จานวนนักเรียนทั้งหมด
สรุปผลกำรประเมินกำรดำเนินงำนและกำรจัดกิจกรรมต่ำงๆ
จากตารางแสดงผลความพึงพอใจตอ่ โครงการทัศนศกึ ษาแหลง่ เรยี นรนู้ อกสถานที่ โรงเรียนกนั กงบา้ นล่ี
สามัคคี ประจาปกี ารศกึ ษา 2565 พบว่า ความพงึ พอใจเฉลีย่ เทา่ กับ 96.52 มีระดบั ความพงึ พอใจ ระดับมาก
ทสี่ ุด โดยภาพรวมจงึ สรปุ ไดว้ ่า มีความพึงพอใจมาก และบรรลตุ ามวัตถุประสงค์ทกุ ประการ
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
บทที่ 5
สรุปผลและขอ้ เสนอแนะ
โรงเรียนกนั กงบา้ นลสี่ ามัคคจี งึ ไดจ้ ดั กิจกรรมโครงการทศั นศกึ ษาแหล่งเรียนรูน้ อกสถานที่ โดยเน้น
ศึกษา พบวา่
1. สรุปผล
1.1 เปำ้ หมำยดำ้ นปริมำณ
1) นักเรยี นโรงเรียนกนั กงบา้ นล่ีสามัคคี จานวน 43 คน ได้ไปทัศนศกึ ษานอกสถานท่ี
จานวน 1 ครงั้ ต่อปกี ารศึกษา
2) ครูท่ีปรกึ ษา จานวน 6 คน เข้ารว่ มโครงการทัศนศกึ ษานอกสถานที่
1.2 เปำ้ หมำยด้ำนคุณภำพ
พบว่ำ ควำมพงึ พอใจเฉลย่ี เทำ่ กับ 96.52 มรี ะดบั ควำมพึงพอใจ ระดับมำกท่สี ุด
1) นกั เรยี นไดร้ บั ความรแู้ ละประสบการณ์จากการไปทัศนศกึ ษานอกสถานท่ีเพิ่มมากข้นึ
2) นกั เรยี นมีความพึงพอใจตอ่ กิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานทอี่ ยู่ในระดบั มำกทส่ี ุด
3) นกั เรียนผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรม เกดิ ความตระหนักถึงความสาคญั ของการอนรุ ักษแ์ หล่งเรียนรู้
2. ข้อเสนอแนะ (ไดจ้ ำกขอ้ เสนอแนะแบบประเมนิ )
2.1 สนุกมาก อยากให้มีกจิ กรรมแบบนี้อีก
2.2 ได้ความรดู้ า้ นวิทยาศาสตรม์ ากมาย
2.3 ภาพยนตร์4 มติ ิ สนุกและไดส้ าระความร้มู าก
2.4 ไดร้ ับความรู้ ไดต้ อบคาถามรู้จกั ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม
2.5 อยากให้จัดทัศนศกึ ษาแบบน้อี ีก และสนุกสนานกับเพ่ือนๆ
2.6 อยากไปดูไดโนเสาร์ทจี่ ังหวดั ขอนแกน่ อกี
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
บรรณำนุกรม
กรมวิชาการ. (2545). เอกสำรกำรนเิ ทศกลุ่มสำระกำรเรยี นร้คู ณิตศำสตร์ กำรพฒั นำแหลง่ เรียนรู้.
กรงุ เทพฯ : โรงพิมพค์ ุรสุ ภาลาดพรา้ ว.
ปรีชา มาละวรรณโณ. (2545). กำรพัฒนำแหลง่ เรยี นร้ใู นโรงเรียนมธั ยมศึกษำขนำดกลำง สงั กัด
กรมสำมญั ศึกษำ จังหวัดขอนแก่น. วิทยานิพนธ์ปริญญาศกึ ษาศาสตรมหาบัญฑติ
สาขาบริหารการศกึ ษา บณั ฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแกน่ .
ศรีสดุ า จรยิ ากลู . (2546). กำรใชท้ รัพยำกรชุมชนเพอื่ กำรศึกษำ ใน บริบททำงกำรศกึ ษำ.
นนทบรุ ี:มหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธิราช. 36 (9), 2-4.
ศริ ิกาญจน์ โกสุมภ์& ดารณี คาวัจนงั (2545). แหลง่ กำรเรยี นรู้ เพือ่ กำรปฏริ ปู กำรเรยี นรู้และ
หลกั สตู รสถำนศกึ ษำ. พิมพค์ ร้ังท่ี 1. กรุงเทพฯ: เมธีทปิ ส์
ศนู ย์นทิ รรศการและการประชุมไบเทค บางนา (2555). สืบค้นจาก : http://www.computer.nrru.ac.th
[11 ตุลาคม 2555]
สานักงานคณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาต.ิ (2550). พระรำชบัญญัติกำรศึกษำแหง่ ชำติ
พทุ ธศักรำช 2542 แก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี 3). กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรสุ ภาลาดพรา้ ว.
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน. (2547). กำรใช้แหลง่ เรยี นรใู้ นโรงเรียนและชมุ ชน.
กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์คุรุสภาลาดพร้าว.
สานักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา. (2550). กำรจดั กำรเรยี นรจู้ ำกแหลง่ เรยี นรู้. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์
ครุ สุ ภาลาดพรา้ ว.
สุวทิ ย์ มูลคาและอรทยั มูลคา. (2545). เรียนรสู้ ู่ครูมอื อำชพี . พมพ์ครัง้ ที่ 3. กรงุ เทพฯ : ท.ี พ.ี พร้นิ ท.์
หนวยศกึ ษานิเทศก กรมสามัญศึกษา เขตการศกึ ษา 5. (2542ก) กำรพฒั นำแหลงเรียนรูใน
โรงเรียน. (อัดสาเนา)
. 2542ข แหลงเรยี นรูในโรงเรยี นและนอกโรงเรียนกรมสำมญั ศึกษำเขตกำรศึกษำ 5.
(อัดสาเนา)
หนวยศกึ ษานิเทศก กรมสามญั ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2544). กำรพัฒนำและกำรใชแหลง
กำรเรียนรูในโรงเรียน และทองถนิ่ เพอ่ื จัดกระบวนกำรเรยี นรู กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ
การศาสนา.
รายงานผลการดาเนินโครงการทศั นศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
ภาคผนวก
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
ภาคผนวก ก.
ขออนญุ าตดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหล่งเรยี นร้นู อกสถานท่ี
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
-
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
ภาคผนวก ข.
คาส่งั แต่งตง้ั คณะกรรมการพานักเรยี นไปทศั นศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
ภาคผนวก ค.
หนงั สือขออนญุ าตผ้ปู กครองพานักเรียนไปนอกสถานศกึ ษา
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
ภาคผนวก ง.
สมุดบนั ทึกกิจกรรม
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
ภาคผนวก จ.
แบบประเมนิ ความพึงพอใจ
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
ภาคผนวก ฉ.
รปู ภาพในการดาเนินโครงการ ฯ
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานที่ 2565
ภาคผนวก ฉ.
ขา่ วประชาสัมพนั ธ/์ เผยแพรโ่ ครงการ
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565
รายงานผลการดาเนนิ โครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 2565