The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา 2565-2568.docx

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nathapons2004, 2022-09-06 03:12:55

แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา 2565-2568.docx

แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา 2565-2568.docx

46

เป้ำหมำย ตัวชีว้ ัดควำมสำเร็จ กิจกรรมหลกั แหล่งข้อมูล
2. คณะกรรมการ - ระดบั ความสาเร็จการ - การประสานงาน - คาสง่ั แตง่ ตง้ั คณะกรรมการ
สถานศกึ ษาข้ันพื้นฐานมี กากับดูแลตามบทบาท - จดั ประชมุ - บันทึกการประชมุ
ส่วนร่วมในการบริหาร หนา้ ท่ี ทีร่ ะเบียบ คณะกรรมการ -รูปภาพ
และจัดการศกึ ษา กฎหมายกาหนด สถานศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน - บนั ทกึ การกากบั ตดิ ตาม
-การติดตามผล -การระดมทรพั ยากร
3. ประสิทธิผล -ระดับความสาเร็จของ การดาเนินการ -รายงานโครงการ
-การประเมนิ ผล -กจิ กรรม
ของการบริหารและ การบริหารงานตาม - การประชุม - คาสงั่ แตง่ ตัง้ คณะกรรมการ
คณะกรรมการ - บันทกึ การประชุม
จดั การศึกษา นโยบาย สถานศึกษาขัน้ พืน้ / - ขอ้ มลู สารสนเทศ
ผปู้ กครอง - รายงานโครงการ
-ระดบั ความสาเรจ็ ของ - มรี ะบบตรวจสอบ - การรายงานประจาปี
การปฏบิ ตั ติ ามแผน
การบริหารงานตาม -การประเมินผล -คาสง่ั แต่งต้งั คณะกรรมการ
ร่วมกับชุมชน
แผนปฏบิ ัติการประจาปี -การประชุม -บนั ทกึ การประชมุ
คณะกรรมการ -ข้อมลู สารสนเทศ
-ระดับความสาเร็จของ สถานศึกษาขนั้ พื้น / -ภาพถา่ ยกจิ กรรม
ผปู้ กครอง/ชมุ ชน -เกียรตบิ ตั ร
การบรหิ ารสถานศึกษา -การระดมทรพั ยากร -รายงานโครงการ
-การสร้างและพัฒนา
-ระดบั ความสาเร็จการ แหล่งการเรียนรู้ทง้ั
ภายในและภายนอก
บรหิ ารและสารสนเทศ สถานศึกษา
-การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
4. สถานศึกษาเป็นสังคม -ระดบั ความสาเร็จของ -กิจกรรมยกย่องเชิดชู
เกยี รติ
แห่งการเรียนรู้ การบรกิ ารทางวิชาการ

แกบ่ คุ คลและชมุ ชน

-ระดับความสาเรจ็ ของ

การสรา้ งและพัฒนา

แหล่งการเรยี นรูท้ ้ัง

ภายในและภายนอก

สถานศึกษา

-ระดับความสาเร็จของ

การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้

ระหวา่ งบคุ คลใน

สถานศึกษาและชุมชน

47

เปำ้ หมำย ตวั ชี้วัดควำมสำเร็จ กิจกรรมหลกั แหลง่ ข้อมูล
-ระดบั ความสาเรจ็ ของ -การประชาสัมพันธ์
ของการยกย่องเชิดชู
เกยี รตผิ ู้มีผลงานใฝ่รู้

ใฝ่เรยี นดเี ด่น

แผนกำรดำเนนิ กิจกรรม / โครงกำรตำมกลยทุ ธ์ที่ 5

กิจกรรมหลัก โครงกำร ปี พ.ศ. 2565 - 2568
2565 2566 2567 2568
-การประชมุ คณะกรรมการ 1. พฒั นาระบบประกันคณุ ภาพภายใน
สถานศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน / สถานศกึ ษา / / //
ผูป้ กครอง/ชุมชน 2. นิเทศภายใน / / //
- การระดมทรัพยากร 3. พัฒนาปรบั ปรุงหลักสตู ร / / //
- การสร้างและพัฒนาแหล่งการ 4. จดั ทาแผนปฏบิ ัตกิ ารประจาปี / / //
เรียนรู้ทัง้ ภายในและภายนอก 5. สนับสนุนคา่ สาธารณูปโภคภายใน / / //
สถานศึกษา สถานศึกษา
- การแลกเปลีย่ นเรียนรู้ 6. ซอ่ มเสริมวัสดคุ รุภัณฑ์และส่ิงกอ่ สร้าง / / //
-การประชาสมั พันธ์ 7. การตรวจสอบการใชง้ บประมาณ
ประจาปี / / //
8. บรกิ าร ICT / / //

48

5. จุดเนน้ ในกำรพัฒนำคุณภำพกำรศกึ ษำของโรงเรียน
(School Priorities)

ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนบา้ นบ่อดิน มุ่งเน้นพัฒนานกั เรียนครบทกุ ด้าน
โดยองคร์ วม ดา้ นกาย อารมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญา การกาหนดจดุ เนน้ ในการพฒั นาคุณภาพการศึกษา
เป็นส่วนหนึง่ ของความต้องการของโรงเรียนและชุมชนที่จะพฒั นาผูเ้ รยี นให้ถึงขดี สุดของศกั ยภาพ
สามารถดารงตนอยู่ในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข

แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาโรงเรยี นบา้ นบ่อดิน พ.ศ.2565 – 2568 ไดจ้ ดั ลาดบั ความสาคัญของจุดเน้น
ในการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาของโรงเรียนไว้ 6 ประเด็น ดงั น้ี

1. การพัฒนากระบวนการเรยี นรู้
2. การพฒั นาสื่อและเทคโนโลยี
3. การพัฒนาบคุ ลากรของโรงเรียน
4. การพฒั นาอาคารสถานที่ การจัดสภาพแวดล้อม
5. การพัฒนาสุขภาพอนามยั
6. การพัฒนาดา้ นจิตพิสัย

จุดเน้นท่ี 1 กำรพฒั นำกระบวนกำรเรียนร้ปู ญั หำและควำมจำเป็น
ปัจจบุ นั สภาพทางสงั คมเปลี่ยนแปลงอยา่ งมาก การสอนของครูโดยมีครูเป็นศูนย์กลางเปน็ ผู้ถ่ายทอด

ความรเู้ พียงผู้เดยี ว ครูเตรยี ม ครเู น้น ในสง่ิ ท่ีครูต้องการท่ีจะถา่ ยทอดให้ผ้เู รยี นไดเ้ รยี นรู้ เป็นสาคัญ นกั เรยี น
จงึ รบั รู้จากครเู พยี งอย่างเดียว โอกาสท่ีผ้เู รียน จะคิดหรือสรา้ งสรรค์งานของตนเอง จงึ ไม่เกดิ ขนึ้ ในตัวผู้เรยี น

โรงเรยี นจงึ เนน้ การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ใหผ้ ้เู รียนเปน็ ผสู้ รา้ งความรดู้ ้วยตนเอง ผู้เรียนมบี ทบาท
และมสี ่วนรว่ มในกระบวนการเรยี นรู้ ได้แลกเปลย่ี นการเรยี นร้ซู ่ึงกันและกัน สามารถสรุปองค์ความรู้และนา
ความรนู้ ัน้ ไปใช้ประโยชนไ์ ด้จริงในชีวติ
ลกั ษณะของกิจกรรม
การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ หรอื จัดกระบวนการเรียนรู้ โดยเนน้ ผู้เรยี นเป็นสาคญั โดยเรม่ิ จากการจัด
กระบวนการเรยี นรู้ตามมาตรา 44 แหง่ พระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแหง่ ชาติ ดังนี้

1. จัดกจิ กรรมการเรียนรูใ้ หส้ อดคล้องกบั ความสนใจ ความถนัดของผู้เรยี น โดยคานงึ ถึงความแตกต่าง
ระหว่างบคุ คล

2. จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจดั การเผชิญกบั สถานการณ์ และการประยกุ ต์
ความรู้มาใช้

3. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผูเ้ รยี นไดเ้ รยี นรจู้ ากประสบการณ์จรงิ
4. ผสมผสานสาระความรูด้ ้านตา่ ง ๆ อยา่ งไดส้ ัดส่วนสมดุลกัน
5. สง่ เสริม สนบั สนนุ ใหผ้ ้สู อนสามารถจดั บรรยากาศสภาพแวดล้อม ส่อื การเรยี น และอานวยความ
สะดวก เพื่อใหผ้ ู้เรยี นเกิดการเรยี นรู้ และสามารถใช้การวิจัย เป็นสว่ นหนงึ่ ของกระบวนการเรยี นรู้

49

6. จัดการเรยี นรู้ให้เกิดข้ึนไดท้ ุกเวลา ทกุ สถานท่ีนอกจากน้ี ยังจดั กระบวนการเรียนรทู้ ีเ่ นน้ ผู้เรยี นเป็น
สาคัญ

การลงมอื ปฏบิ ัติ (Active learning) การเรียนรูแ้ บบลงมอื ทา(ปฏบิ ัติ) Active Learning คอื กระบวนการ
จดั การเรยี นรทู้ ีผ่ ู้เรยี นไดล้ งมอื กระทาและไดใ้ ช้กระบวนการคิดเกย่ี วกบั สิ่งท่ีเขาได้กระทาลงไป
(Bonwell,1991) เป็นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ภายใต้สมมตฐิ านพื้นฐาน 2 ประการคือ 1) การเรยี นรูเ้ ปน็
ความพยายามโดยธรรมชาติของมนุษย์, และ 2) แต่ละบุคคลมแี นวทางในการเรยี นรู้ท่ีแตกตา่ งกัน (Meyers
and Jones, 1993) โดยผเู้ รยี นจะถกู เปลีย่ นบทบาทจากผรู้ ับความรู้ (receive) ไปสกู่ ารมีสว่ นรว่ มในการสร้าง
ความรู้ (co-creators)
ผลทคี่ ำดวำ่ จะไดร้ บั

ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ด้วยตนเอง มสี ่วนรว่ มกับครูในการวางแผนการจัดประสบการณ์ เขา้ ใจ
กระบวนการเรยี นรู้ และสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้

จดุ เนน้ ท่ี 2 กำรพฒั นำสื่อและเทคโนโลยีควำมตอ้ งกำรและควำมจำเปน็
สื่อการเรยี นการสอนเป็นเคร่ืองมือสาคัญของครู สาหรับชว่ ยสร้างการเรยี นรแู้ ละแรงจงู ใจของผเู้ รยี น

ทาใหผ้ ูเ้ รียนเขา้ ใจในบทเรยี นไดง้ ่ายขนึ้ ในเวลาทจ่ี ากดั โรงเรียนบา้ นบอ่ ดิน มีความต้องการท่ีจะพัฒนาสือ่ และ
เทคโนโลยีทมี่ อี ยู่แลว้ ท้งั ใน ดา้ นปรมิ าณ และคณุ ลักษณะของสือ่ ใหเ้ อ้ือต่อการจัดกระบวนการเรียนรไู้ ด้อย่าง
มปี ระสทิ ธภิ าพ
ลักษณะของกิจกรรม

โรงเรียนบ้านบอ่ ดนิ ดาเนนิ การจัดหาสื่อให้สอดคล้องเหมาะสมกับความต้องการ จงึ จาเป็นตอ้ งหา
วิธีการ
ทจ่ี ะไดม้ าซ่ึงสื่อ ประกอบด้วย

1. ครูจดั สรา้ งส่ือขน้ึ ใช้เอง 2. โรงเรยี นจดั หาสื่อเพ่มิ เตมิ 3. สื่อท่ีทางราชการจัดสรรให้
4. ส่อื ที่ทางโรงเรยี นจัดซ้ือเอง 5. สอ่ื ทเี่ ป็นศนู ย์ศกึ ษาต่าง ๆ 6. สื่อเทคโนโลยี 7. คอมพวิ เตอร์
8. แหล่งเรียนร้จู ากธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมในโรงเรียน
ผลทีค่ ำดว่ำจะไดร้ ับ
ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ไดอ้ ย่างรวดเร็ว มคี วามสขุ ในการเรียน สรา้ งแรงจงู ใจใหผ้ ูเ้ รียนสนใจในบทเรยี นมากขน้ึ
ส่ือเป็นเครื่องมือชว่ ยครูให้การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ดาเนนิ ไปอย่างมีคณุ ภาพ ชว่ ยยกระดบั การเรียนรขู้ อง
ผู้เรยี นให้มผี ลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนสูงขึ้น

50

จุดเนน้ ท่ี 3 กำรพฒั นำบคุ ลำกรของโรงเรยี นควำมสำคญั และควำมจำเปน็
โรงเรียนบา้ นบอ่ ดนิ ใหค้ วามสาคญั กับการพฒั นาบคุ ลากรของโรงเรียนตามแนวทางของแผนพฒั นา

เศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติฉบบั ที่ 12 (พ.ศ. 2563 – 2564) ที่เนน้ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
“คนเป็นศนู ยก์ ลำงกำรพฒั นำ” สร้างความมน่ั คงของชาติ พฒั นาคนทุกวัยใหเ้ ปน็ คนดี คนเกง่ มีศกั ยภาพ
และความคิดสรา้ งสรรค์ ซ่งึ เป็นหวั ใจสาคญั ในการเพม่ิ ศักยภาพการแขง่ ขันทั้งในภาคการผลติ และภาคบริการ
เพอื่ สรา้ งความเข้มแข็ง มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม มจี ิตสานึกรบั ผดิ ชอบตอ่ ส่วนรวมนาไปสกู่ ารสร้างสังคมท่ีพงึ
ปรารถนา รวมถงึ มีจิตอนรุ กั ษ์ รกั ษา ฟืน้ ฟู และใช้ประโยชนจ์ ากทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมอย่าง
ถูกต้องและเหมาะสม
ลักษณะของกิจกรรม

โรงเรียนบ้านบ่อดิน มบี ุคลากรท่จี บการศึกษาระดับปรญิ ญาตรี ไม่ครบทุกสาขาวชิ าทจ่ี ัดการเรยี นการ
สอน โรงเรียนจงึ ดาเนินการพัฒนาบุคลากรตามความจาเป็นในการพัฒนางานของโรงเรยี น ดังน้ี

1. โรงเรียนจดั พฒั นาบุคลากรของโรงเรียนเองตามความจาเป็น เปน็ การวจิ ัย ในสถานศึกษา
2. เชิญวิทยากรจากหน่วยงานภายในและภายนอก เป็นวทิ ยากรอบรมสัมมนา ในการพัฒนางานทาง
วชิ าการ และพฒั นาความก้าวหนา้ ในอาชพี
3. จัดส่งบุคลากรไปเขา้ รับการอบรมในสาขาวชิ าท่ีโรงเรียนตอ้ งการพฒั นา เป็นพเิ ศษ เช่น คอมพิวเตอร์
ลูกเสือ เนตรนรี นาฏศิลป์ พลศกึ ษา เปน็ ตน้
4. จดั ใหบ้ ริการเอกสารทางวชิ าการ การค้นคว้าหาความรจู้ ากอินเทอรเ์ น็ต
5. สนบั สนนุ สง่ เสรมิ ใหบ้ ุคลากรไปเขา้ รบั การศกึ ษาต่อให้สูงขึน้
6. ผู้บรหิ ารประชมุ ชีแ้ จง ประชุมสัมมนา ประชุมเชิงปฏบิ ัติการ ในโอกาสทีม่ ีความจาเป็น หรือในโอกาส
วนั ประชมุ ประจาเดือนของทุกเดือน
7. จดั ใหม้ ีการศกึ ษาดูงาน จากหนว่ ยงานท่ปี ระสบความสาเร็จ

จุดเนน้ ท่ี 4 กำรพฒั นำอำคำรสถำนท่ี กำรจัดสภำพแวดลอ้ มและกำรอนรุ กั ษ์สิ่งแวดลอ้ มควำมต้องกำร
และควำมจำเป็น

อาคารสถานทีแ่ ละสง่ิ แวดล้อมของโรงเรยี น เปน็ ปัจจัยสาคญั ท่สี นบั สนุนในการใชป้ ระโยชน์เพื่อการจดั
กระบวนการเรียนรู้ เพ่ือความปลอดภัย เน้นการเออื้ ประโยชนต์ อ่ สขุ ภาพกายและสุขภาพจิตเปน็ สาคัญ
ลกั ษณะของกจิ กรรม

1. จัดอาคารเรยี น อาคารประกอบ ใหเ้ หมาะสมกบั การจดั กจิ กรรมการเรยี น
การสอน จดั ให้มีสวนหยอ่ ม ไมด้ อก ไมป้ ระดบั รอบ ๆ บริเวณ

2. จดั สวนป่าพนื้ ท่ขี องโรงเรียนใหเ้ ป็นแหลง่ เรยี นรู้
3. จดั สวนพฤกษศาสตร์ ในบริเวณโรงเรยี น
4. ปลูกไมผ้ ล ไม้ดอก ไม้ประดบั ตามริมสนามกีฬา รมิ ถนน
5. จดั ท่ีวา่ งเปลา่ หรือทล่ี ุ่ม เป็นทที่ าการเกษตรทฤษฎีใหม่

51

6. จดั ให้มรี ะบบประปา เพ่ือพัฒนาสิ่งแวดล้อม
7. จัดให้มเี ตาเผาขยะ เพือ่ กาจดั ขยะให้ถูกวิธี
8. จดั ใหม้ เี รือนเพาะชา เพอ่ื ฝึกนกั เรียนใหร้ จู้ ักการเพาะชาต้นไม้ ทั้งไมด้ อก ไมป้ ระดับ และไม้ผล
ผลทีค่ ำดว่ำจะไดร้ ับ
โรงเรียนมีอาคารเรียนที่เพียงพอต่อการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน มีพน้ื ทส่ี วยงาม ร่มร่ืน เอ้ือ
ประโยชน์ตอ่ การเรียนรู้ของผเู้ รียน ใหโ้ รงเรยี นนา่ ดู น่าอยู่ น่าเรยี น และ ชมุ ชนเข้ามามีส่วนรว่ มในการพัฒนา
โรงเรยี น

จดุ เนน้ ท่ี 5 กำรพัฒนำสุขภำพอนำมัยของผู้เรยี น ควำมต้องกำรและควำมจำเป็น
ความสมบรู ณแ์ ขง็ แรงของผูเ้ รียน การปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ การมกี จิ นิสยั ในการออกกาลงั กายเป็น

ประจา การไดร้ บั ประทานอาหารทส่ี ะอาด มีคณุ คา่ และครบทงั้ 5 หมู่ การมนี ้าหนักและสว่ นสูงเปน็ ไปตาม
เกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข การรู้จกั ปฏบิ ตั ติ น ใหห้ า่ งไกลจากยาเสพติด และการฉีดวัคซีนเพ่อื
สรา้ งภูมิค้มุ กนั เปน็ เครือ่ งบ่งช้ีสุขภาพอนามยั ของผูเ้ รียน นักเรยี นโรงเรียนบา้ นบ่อดินมีสุขภาพพลานามัยท่ี
แข็งแรงสมบูรณ์ทุกคน
ลกั ษณะของกจิ กรรม

โรงเรียนบา้ นบอ่ ดนิ จัดกจิ กรรมเสรมิ สรา้ งสุขภาพพลานามยั ผู้เรยี นเป็นประจาและตอ่ เนื่อง ดงั นี้
1. การรับประทานอาหารท่ีมีคุณคา่ และสะอาด ครบทุก 5 หมู่ ครบทกุ คน
2. การเล่นกีฬา การออกกาลงั กาย
3. การฉีดวัคซนี เพอื่ สรา้ งภูมคิ ้มุ กัน
4. การรู้จกั ระวังรกั ษาตนเองให้หา่ งไกลจากยาเสพติด
5. การบริการอาหารเสรมิ (นม)
6. การจดั โครงการ ความสะอาดปราศจากโรค
ผลท่คี ำดว่ำจะไดร้ ับ
นกั เรียนโรงเรียนบา้ นบ่อดินทุกคน มีสุขภาพพลานามัยทแ่ี ข็งแรงสมบูรณ์ มีนา้ หนกั และสว่ นสงู เป็นไป
ตามเกณฑม์ าตรฐานของกระทรวงสาธารณสขุ

จุดเนน้ ท่ี 6 กำรพฒั นำด้ำนจิตนสิ ยั ควำมต้องกำรและควำมจำเปน็
ผลผลติ ผเู้ รยี นของโรงเรยี นบ้านบอ่ ดนิ จะต้องเปน็ คนดี คนเกง่ และ มีความสุข มีจิตใจ ที่เป็นจติ

สาธารณะ เป็นผมู้ ีคณุ ธรรม และจริยธรรม ตามหลกั ธรรมของศาสนา และมีคุณลักษณะที่ พึงประสงคต์ ามท่ี
หลักสตู รกาหนด
ลกั ษณะของกจิ กรรม

1. การสวดมนต์ ไหว้พระ ในวนั สุดสัปดาห์
2. การเข้าคา่ ยพุทธบุตร

52

3. การนิมนตพ์ ระมาเทศน์ และให้ความรู้
4. การจดั กิจกรรมประกวดมารยาทไทย
5. การพาไปแหลง่ เรียนรู้ด้านพระพทุ ธศาสนา

ผลทีค่ ำดวำ่ จะไดร้ บั
นักเรยี นโรงเรยี นบ้านบ่อดิน สามารถเรยี นรูแ้ ละสบื ทอดประเพณีวฒั นธรรมท่ดี ีงาม และ คง

เอกลักษณ์ความเปน็ ไทยไว้สบื ไป

ส่วนท่ี 4

บทบำทของผู้มีหนำ้ ทจี่ ัดกำรศกึ ษำและผู้เกยี่ วข้อง

1. บทบำทหนำ้ ท่ีของผบู้ รหิ ำร ครู และนักเรียน
1.1 บทบำทของผบู้ รหิ ำร
ตามพระราชบัญญตั ิการศึกษาแหง่ ชาติ ตามมาตรา 39 ในพระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ

พ .ศ. 2542 ทใี่ ห้กระทรวงกระจายอานาจการบริหารจัดการ ไปยังคณะกรรมการ และสานักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษาโดยตรง ใน 4 ด้าน คอื ดา้ นวิชาการ การบริหารงบประมาณ การบรหิ ารบคุ คล และการบรหิ ารทัว่ ไป
สรปุ พอสังเขปได้ ดังน้ี

ดำ้ นวชิ ำกำร ด้ำนกำรบริหำร ด้ำนกำรบรหิ ำรงำน ด้ำนกำรบรหิ ำรทั่วไป

1. มีความรู้และเป็นผู้นาด้าน งบประมำณ บคุ คล 1. เปน็ นักวางแผนและ
วิชาการ กาหนดนโยบายที่ดี
2. มคี วามรู้ มที ักษะ 1. เขา้ ใจนโยบาย อานาจ 1. มคี วามรู้ ทกั ษะ 2. เป็นผทู้ ่ตี ัดสนิ ใจและ
มปี ระสบการณ์ด้านการ วินจิ ฉัยสง่ั การท่ีดี
บรหิ ารงาน หน้าท่ี และกจิ กรรมใน ประสบการณ์ในการ 3. มคี วามรู้ และบรหิ าร
3. สามารถใชค้ วามร้แู ละ โดยใช้ระบบสารสนเทศ
ประสบการณ์แก้ปัญหา หนว่ ยงาน บริหารงานบคุ คล ทที่ นั สมัย
เฉพาะหน้าได้ทนั ทว่ งที 4. เปน็ ผ้ทู ่ีมี
4. มวี ิสัยทัศน์ 2. มคี วามรรู้ ะบบ 2. เป็นแบบอยา่ งที่ดี ความสามารถในการ
5. มคี วามคิดริเร่มิ สร้างสรรค์ ตดิ ตอ่ สือ่ สาร
6. ใฝเ่ รียน ใฝร่ ู้ มงุ่ พฒั นา งบประมาณ 3. มมี นษุ ยสมั พันธ์ 5. รจู้ ักมอบอานาจและ
ตนเองอย่เู สมอ ความรับผดิ ชอบแกผ่ ู้ที่
7. รอบรทู้ างด้านการศึกษา 3. เข้าใจระเบียบงานพัสดุ 4. มีอารมณ์ขนั เหมาะสม
8. ความรบั ผิดชอบ 6. มคี วามคล่องแคล่ว
9. แสวงหาขอ้ มลู ข่าวสาร และการเงิน 5. เปน็ นักประชาธปิ ไตย ว่องไว และตน่ื ตวั อยู่
10. รายงานผลการ เสมอ
ปฏิบัติงานอย่างเปน็ ระบบ 4. มีความซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต 6. ประนปี ระนอม 7. มคี วามรับผดิ ชอบ
11. ใช้นวัตกรรมทางการ งานสูง ไม่ย่อท้อต่อ
บริหาร 5. มีความละเอียด 7. อดทน อดกล้ัน ปัญหาอปุ สรรค
12. คานงึ ถึงมาตรฐาน 8. กากับ ตดิ ตาม และ
วิชาการ รอบคอบ 8. เปน็ นกั พดู ทดี่ ี ประเมินผล

6. มีความสามารถในการ 9. มีความสามารถในการ

ตัดสนิ ใจอยา่ งมีเหตุผล ประสานงาน

7. หมัน่ ตรวจสอบการใช้ 10. มีความสามารถจูงใจ

งบประมาณอยูเ่ สมอ ให้คนร่วมกนั ทางาน

8. รายงานการเงินอย่าง 11. กลา้ ตดั สินใจ

เป็นระบบ 12. ม่งุ ม่ันพฒั นาองคก์ ร

54

1.2 บทบำทหน้ำที่ของครู
บทบาทสาคญั ของครูในการประกนั คุณภาพภายในของโรงเรยี นบ้านละหานทรายเก่า ซึ่งตอ้ งมกี าร

ปฏริ ูปการสอน เพื่อปฏริ ูปการเรียนรู้ให้ผู้เรยี นมีคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา ประกอบด้วยบทบาทหน้าท่ี
สาคัญ 3 ประการ คือ

1.2.1 การปฏบิ ัติงานปกติของครูอย่างมีระบบและกระบวนการ
1.2.2 การประเมินตนเอง
1.2.3 การรายงานผลการประเมนิ ตนเอง ซึ่งครูแต่ละคนสามารถกาหนดกระบวนการทางานของ
ตนเองได้ อาจจาแนกเป็นขน้ั ตอนได้ ดังน้ี
ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาเร่ืองมาตรฐานการศึกษาและหลักสูตรให้เข้าใจ ถ้าเป็นไปได้ควรศึกษาให้ครบท้ัง
หนว่ ยของการเรยี นทอี่ าจจะกาหนดเป็นภาคเรยี นหรือทั้งปีการศกึ ษา และนามาพัฒนาหลักสตู รรายวิชาที่ตน
สอนอยู่
ขนั้ ตอนที่ 2 วางแผนการสอน วา่ ควรจะสอนอย่างไร รวมทั้งจะตอ้ งสามารถกาหนดสงิ่ ท่ีจะบรรลผุ ล
หรือสง่ิ ที่จะเกดิ ขนึ้ หรือพฤติกรรมของนักเรยี นทีจ่ ะเกดิ ขึ้นหลงั จากได้รับการศึกษา โดยเน้นการจดั กิจกรรมและ
การใชส้ อ่ื ทสี่ ่งเสริมการเรียนรู้
ขั้นตอนที่ 3 นากระบวนการวจิ ยั เข้ามาใชใ้ นการสอนของครู และการเรยี นของนักเรียนเพ่ือ
สรา้ งสรรคค์ วามร้คู วบคู่การเรียนรู้
ขนั้ ตอนท่ี 4 ดาเนินการสอน โดยทางานรว่ มกบั ผูเ้ รียนหมายความว่า ต้องลดบทบาทการบอกของครู
มาเปน็ การทางานรว่ มกบั ผู้เรียน โดยอานวยความสะดวกให้ผู้เรียนได้มีบทบาทในการเรียนมากขึ้น
ขั้นตอนที่ 5 ประเมนิ ผลการสอน วา่ สงิ่ ทคี่ รสู อนไปนนั้ บรรลุตามเปา้ หมายทกี่ าหนดไวม้ ากนอ้ ย
เพยี งใด โดยวัดจากผลการเรียนรู้ของผู้เรียน พจิ ารณาเป็นรายบุคคลและรายช้ันเรยี น
ขั้นตอนท่ี 6 วิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงการเรยี นการสอนในวงจรต่อไป
ขนั้ ตอนที่ 7 บนั ทกึ สรปุ ผลการสอน ว่าในคาบหรอื หนว่ ยน้ันมีความสาเร็จ บรรลตุ ามเป้าหมายมาก
นอ้ ยเพยี งใด มปี ัญหาและอปุ สรรคท่ีต้องแก้ไขอยา่ งไร มคี าแนะนาเพอื่ จะนาไปปรับปรงุ ต่อไปอยา่ งไร โดย
บันทึกทุกสิ่งทุกอยา่ งเอาไว้เป็นหนงึ่ หนว่ ย
บทบาทของครูในการประกันคุณภาพภายใน คือ การประกันคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรยี น
ประกอบดว้ ย บทบาทหนา้ ที่ 3 ประการ คือ

1. การปฏบิ ตั ิงานปกตขิ องครูอย่างมีระบบและกระบวนการ
2. การประเมนิ ตนเอง และ
3. การรายงานผลการประเมินตนเอง
ส่วนบทบาทของครใู นการประกันคุณภาพภายนอก เป็นบทบาทที่ต่อเนื่องจากการประกันคุณภาพภายใน
อกี 3 ประการ คือ
1. รว่ มจัดทารายงานการศึกษาตนเองของสถานศึกษา
2. รบั การตรวจเย่ียมของผู้ประเมนิ ภายนอก และ

55

3. รบั ขอ้ เสนอแนะจากผู้ประเมนิ ภายนอกมาดาเนนิ การให้มีการปรับปรุงแกไ้ ข
นอกจากบทบาทของครใู นการประกนั คุณภาพภายในแลว้ ครูจะต้องมี สมรรถนะ คุณธรรมจรยิ ธรรม
และจรรยาบรรณครู ในการการทางานซงึ่ แยกได้ ดังนี้
1.สมรรถนะหลกั

กำรมงุ่ ผลสัมฤทธ์ิ กำรบรกิ ำรทด่ี ี กำรพัฒนำตนเอง กำรทำงำนเป็นทีม
1. ความสามารถในการ 1. ความสามารถในการ 1. ความสามารถในการ 1. ความสามารถในการ
วางแผนการปฏบิ ัติงาน สรา้ งระบบการใหบ้ รกิ าร วเิ คราะห์ตนเอง วางแผนเพ่อื การ
1.1 ความร้คู วามเข้าใจ 1.1 การศึกษาความ 1.1 การวเิ คราะห์จุดเด่น ปฏบิ ัตงิ านเปน็ ทมี
ในการวางแผน ตอ้ งการของผรู้ บั บรกิ าร จุดด้อยของตนเอง 1.1การมีสว่ นร่วมในการ
1.2การวางแผนการ 1.2 การจดั ระบบการ 1.2 การเลือกวธิ พี ฒั นา วางแผนรว่ มกบั ผู้อืน่
ปฏบิ ตั ิงานแตล่ ะภารกจิ ใหบ้ ริการบนพน้ื ฐานของ ตนเองใหเ้ หมาะสมกับ 1.2 การรับฟงั ความ
2. ความสามารถในการ ขอ้ มูลความต้องการ จุดเดน่ จุดดอ้ ย. คดิ เห็นของผ้อู นื่
ปฏิบตั งิ าน 2. ความสามารถในการ 2. ความสามารถในการ 1.3 การยอมรับข้อตกลง
2.1การปฏบิ ัตงิ านให้ ให้บรกิ าร ใช้ภาษาไทยเพือ่ การ ของทีมงาน
บรรลเุ ปา้ หมายตามแผน 2.1 ความตัง้ ใจ เต็มใจ ส่ือสาร 2 .ความสามารถในการ
2.2 ความมุง่ มน่ั และกระตือรือร้นในการ 2.1การจับใจความ การ ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั
กระตือรือรน้ ในการ ใหบ้ รกิ าร สรุปจากการอ่านและ 2.1 ความเตม็ ใจให้ความ
ปฏิบัตงิ าน 2.2 การศึกษาผลการ การฟงั รว่ มมอื ในการปฏบิ ตั งิ าน
2.3 การใช้ความคิด ให้บรกิ ารเพ่ือการ 2.2 ความชดั เจนในการ 2.2 ความรบั ผดิ ชอบใน
สร้างสรรค์เพ่ือพัฒนา ปรบั ปรุงพฒั นาการ อธิบาย และยกตัวอย่าง การปฏิบตั ิงานตาม
งาน ใหบ้ ริการ 2.3 การตั้งคาถามได้ตรง บทบาทหนา้ ที่ของตน
2.4การยดึ หลกั การ ประเดน็ 2.3การปฏิบตั ติ นเป็น
ประหยัดในการ 3 ความสามารถในการ ผู้นา หรือผ้ตู ามได้
ปฏิบตั ิงาน ใชภ้ าษาองั กฤษเพื่อการ เหมาะสมกับบทบาท
2.5 การนานวัตกรรมมา แสวงหาความรู้ 2.4 ความรว่ มมือกับ
ใช้เพ่อื เพ่ิมประสทิ ธิภาพ 3.1 การจบั ใจความ และ ทมี งานในการแกป้ ญั หา
ในการปฏบิ ตั งิ าน การสรปุ จากการอา่ น การปฏบิ ัติงาน
และการฟัง

56

กำรมุง่ ผลสัมฤทธิ์ กำรบรกิ ำรที่ดี กำรพฒั นำตนเอง กำรทำงำนเปน็ ทีม
2.6 การปรับปรุงแกไ้ ข 3.2 ความชัดเจนในการ 2.5 การสนบั สนนุ ให้
การปฏิบัตงิ านเพื่อให้ อธบิ าย และยกตัวอยา่ ง กาลังใจ ยกย่อง ให้
บรรลุเปา้ หมาย 3.3ตั้งคาถามไดต้ รง เกยี รติผู้อื่นในโอกาสที่
3 ผลการปฏบิ ตั ิงาน ประเดน็ เหมาะสม
3.1 ความถูกต้องของผล 4. ความสามารถในการ
การปฏบิ ัติงาน ตดิ ตามความ
3.2 ความครบถว้ น เคล่อื นไหวทางวิชาการ
สมบรู ณ์ของผลการ และวชิ าชพี
ปฏบิ ัตงิ าน 4.1 การใช้ Computer
เบอ้ื งต้น
4.2การใช้ Internet
4.3 การใช้ e – mail
4.4 การเลือกใช้แหล่ง
การเรยี นรทู้ ่หี ลากหลาย
4.5 การเลอื กใช้แหล่ง
การเรยี นรทู้ ีเ่ หมาะสม
4.6การแลกเปล่ยี น
เรยี นรู้กบั เพื่อนร่วมงาน
5. ความสามารถในการ
ประมวลความรู้ และนา
ความรู้ไปใช้
5.1การวเิ คราะห์ และ
สังเคราะห์องค์ความรู้
เพอื่ นาไปใช้พัฒนางาน
5.2การนา และการผลติ
นวตั กรรม และ
เทคโนโลยใี หม่ ๆ มาใช้
ในการพฒั นางาน

57

นอกจากบทบาทของครใู นการประกันคุณภาพภายในแล้วครจู ะต้องมี สมรรถนะ คุณธรรมจริยธรรมและ
จรรยาบรรณครู ในการการทางานซง่ึ แยกได้ ดังนี้

2. สมรรถนะประจาสานงาน

กำรจดั กำรเรียนรู้ กำรพัฒนำผ้เู รียน กำรบริหำร กำรวิเครำะห์ กำรสรำ้ ง

จัดกำรช้ันเรียน สงั เครำะห์และ ควำมร่วมมือกบั

กำรวิจัย ชุมชน

1.ความสามารถในการ 1. ความสามารถ 1 .ความสามารถ 1. ความสามารถ 1. ความสามารถ

สร้างและพฒั นา ในการปลูกฝงั ในการจดั ในการวิเคราะห์ ในการนาชุมชนมี

หลกั สูตร คุณธรรม บรรยากาศการ 1.1 การวเิ คราะห์ ส่วนร่วมใน

1.1 การดาเนนิ การ จริยธรรม เรียนรู้ สภาพปัจจุบนั กิจกรรม

สร้าง / พัฒนา 1.1การจัด 1.1 การจดั ปญั หา จุดแข็ง สถานศึกษา

หลกั สูตรสถานศึกษา กิจกรรมได้ กิจกรรม หรือ จุดอ่อนของ 1.1 การประสาน

และหลกั สูตรท้องถิ่น. หลากหลาย สนับสนุนให้ สถานศกึ ษา ใหช้ มุ ชนมสี ่วน

1.2 การนาหลกั สูตร เหมาะสมกับ นกั เรยี นกลา้ แสดง 1.2การวเิ คราะห์ รว่ มในกิจกรรม

สถานศกึ ษา หรอื ธรรมชาตขิ อง ความคดิ เหน็ แผนการจัดการ ตา่ ง ๆ ของ

หลักสูตรท้องถน่ิ ไปใช้ ผู้เรียน 1.2การจัด พูดคุย โตต้ อบใน เรียนรู้ สถานศึกษา

ใหบ้ รรลจุ ดุ ประสงค์ หรือสอดแทรก ส่งิ ทีเ่ กย่ี วข้องกับ 2. ความสามารถ 1.2 การจดั

1.3 การนาผลการ คุณธรรมจรยิ ธรรม บทเรียน ในการสังเคราะห์ กิจกรรมเพ่อื

ประเมนิ การจัดการ ไดส้ อดคลอ้ งกับ 1.2การจดั 2.1การจดั ทา บริการชุมชนให้

เรยี นรูม้ าใชใ้ นการ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมใหผ้ ู้เรยี น แผนงาน/โครงการ เขา้ มาใช้

ปรับปรงุ และพฒั นา 2. ความสามารถ ปฏบิ ัตงิ านรว่ มกัน เพื่อการจดั การ สถานศึกษาเป็น

หลักสูตร ในการพัฒนา 1.3การจัดมุม เรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้

2. ความสามารถใน ทกั ษะชีวติ ประสบการณ์ 2.2 การบรู ณาการ และนันทนาการ

เน้อื หาสาระทีส่ อน สขุ ภาพกาย และ และส่อื ทีเ่ อ้ือตอ่ ความรู้ท้ังภายใน 2. ความสามารถ

( ) ภาษาไทย สขุ ภาพจิต การเรยี นรู้ให้แก่ และระหว่างกล่มุ ในการเขา้ ร่วม

( ) คณติ ศาสตร์ 2.1การจัด ผู้เรยี น สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมของ

( ) วทิ ยาศาสตร์ กิจกรรมให้ผู้เรียน 1.4 การจัด ชมุ ชน

( ) สงั คมศึกษา ศาสนา ดูแลตนเองดา้ น กจิ กรรมเพอ่ื

และวฒั นธรรม สุขภาพกาย เพื่อ ส่งเสริมให้ผ้เู รียน

การดารงชวี ติ ที่ดี เรียนรู้อย่างมี

ความสขุ

58

กำรจัดกำรเรยี นรู้ กำรพฒั นำผู้เรียน กำรบรหิ ำร กำรวิเครำะห์ กำรสร้ำง

จดั กำรชัน้ เรียน สังเครำะหแ์ ละ ควำมรว่ มมือกบั

กำรวิจยั ชุมชน

( ) สุขศึกษา และ 2.2การจดั 2. ความสามารถ 2.3 การบูรณาการ 2.1การร่วมมือกับ

พลศกึ ษา กจิ กรรมใหผ้ ูเ้ รยี น ในการจัดทาข้อมูล สาระการเรยี นรู้ ชุมชนเพอ่ื ป้องกนั

( ) ศิลปะ ไดพ้ ฒั นา สารสนเทศและ ให้สอดคล้องกับวิถี และแกป้ ัญหา

( ) การงานอาชพี และ สขุ ภาพจติ เพื่อ เอกสารประจาชน้ั ชวี ติ ประจาวนั . เกย่ี วกบั การ

เทคโนโลยี การดารงชวี ติ ท่ดี ี เรียน/ประจาวชิ า 3. ความสามารถ อนรุ ักษ์พลังงาน

( ) ภาษาตา่ งประเทศ 2.3 การจดั 2.1 การจดั ทา ในการเขียน และสิง่ แวดล้อม

( ) อนื่ ๆ (ระบุ) กิจกรรมใหผ้ เู้ รยี น ข้อมลู สารสนเทศ เอกสารทาง 2.2 การร่วมมือ

สาระท่สี อนในระดับ ไดฝ้ ึกแกป้ ัญหา ของนักเรยี นเป็น วชิ าการ กับชมุ ชนเพอ่ื

ปฐมวยั ชีวติ ประจาวัน รายบุคคล 3.1บทความ ป้องกันและ

(4 – 5 ป)ี 2.4 การจดั 2.2การนาข้อมูล 3.2 ค่มู อื การเรยี น แกป้ ัญหาเก่ียวกบั

( ) ประสบการณส์ าคญั กิจกรรมให้ผเู้ รยี น สารสนเทศไปใช้ การสอน เยาวชน

ทส่ี ่งเสรมิ พฒั นาการ อย่รู ว่ มกบั ผอู้ นื่ ใน ในการบรหิ าร 3.3 ตารา

ด้านรา่ งกาย สงั คมได้อย่างมี จัดการช้ันเรียน 3.4 หนังสอื

( ) ประสบการณส์ าคญั ความสุข 2.3 การนาข้อมูล 3.5 รายงานทาง

ที่สง่ เสริมพัฒนาการ 2.5การสง่ เสริมให้ จากฐานข้อมูลไป วิชาการ

ด้านอารมณ์จติ ใจ ผู้เรียนติดตาม ใชป้ ระโยชน์ใน 4. ความสามารถ

( ) ประสบการณ์สาคัญ ความเคลื่อนไหว การบริหารจัดการ ในการวจิ ยั

ทส่ี ง่ เสรมิ พฒั นาการ ของเหตุการณ์ใน ชั้นเรียน. 4.1ความรู้ ความ

ด้านสงั คม สงั คม 3. ความสามารถ เข้าใจในระเบียบ

( ) ประสบการณ์สาคัญ 3. ความสามารถ ในการกากบั ดูแล วธิ วี ิจัย

ท่สี ง่ เสรมิ พฒั นาการ ในการปลกู ฝัง ชัน้ เรยี น

ด้านสติปญั ญา ความเป็น

( ) เรอ่ื งราวเกยี่ วกับ ประชาธปิ ไตย

ตัวเดก็ 3.1การจัด

กจิ กรรมให้ผเู้ รยี น

รู้จกั รบั ฟงั ความ

คิดเหน็ ของผู้อน่ื

และ / หรือ

59

ยอมรับมติของ
กลมุ่

กำรจัดกำรเรียนรู้ กำรพฒั นำผู้เรียน กำรบริหำร กำรวิเครำะห์ กำรสรำ้ ง
ควำมร่วมมือกบั
จัดกำรช้ันเรียน สังเครำะห์และ
ชุมชน
กำรวิจัย

( ) เรอ่ื งราวเก่ียวกับ 3.2การจดั 3.1 การจัด 4.2การวจิ ยั ในช้ัน

บุคคล และสถานที่ กจิ กรรมให้ผ้เู รยี น กิจกรรมให้ผเู้ รยี น เรียน

แวดล้อมเด็ก มีส่วนรว่ มในการ มีส่วนร่วมในการ 4.3 การวจิ ยั เพอ่ื

( ) ธรรมชาตริ อบตัว แลกเปลยี่ นความ กาหนดกฎ กติกา สรา้ งองค์ความรู้

( ) สงิ่ ตา่ ง ๆ รอบตัว คิดเหน็ และ ใน ขอ้ ตกลง สาหรับ 4.4 การวจิ ัยและ

เด็ก การปฏิบัติ ใช้ร่วมกนั ในช้ัน พฒั นา

3. ความสามารถใน กจิ กรรมของกลมุ่ เรยี น

การจัดกระบวนการ 3.3การจดั 3.2 การแกป้ ัญหา

เรยี นรู้ กิจกรรมใหผ้ ูเ้ รียน พฤติกรรมด้าน

ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ร้จู กั ใช้เหตผุ ล ระเบยี บวินยั ในช้นั

3.1 การจดั ทาแผนการ ไตรต่ รองในการ เรยี น

จัดการเรียนรไู้ ด้อยา่ ง ตดั สนิ ใจ

มีระบบ โดยมี 3.4 การจดั

องค์ประกอบท่ี กจิ กรรมให้ผเู้ รียน

สอดคลอ้ งกัน มีความตระหนัก

3.2 การจัดกิจกรรม ในเรือ่ งสทิ ธิ

การเรียนรูท้ เี่ นน้ การ มนษุ ยชน

ปฏบิ ัติจริง เพือ่ ให้ 4. ความสามารถ

ผ้เู รยี น ในการปลกู ฝงั

คดิ เปน็ ทาเป็น และ ความเป็นไทย

แก้ปญั หาได้ 4.1การจดั

3.3 การจัดกิจกรรม กจิ กรรมใหผ้ ู้เรยี น

ให้ผู้เรียนเลอื กเรยี น เห็นคณุ คา่ ของ

ตามความสามารถและ วัฒนธรรมไทย

ความสนใจ ค่านยิ ม และ

60

เอกลักษณ์ของ
ชาติ

กำรจัดกำรเรียนรู้ กำรพฒั นำผเู้ รยี น กำรบรหิ ำร กำรวเิ ครำะห์ กำรสร้ำง
จดั กำรชนั้ เรยี น สงั เครำะหแ์ ละ ควำมรว่ มมือกับ

กำรวิจัย ชมุ ชน

3.4 การใช้ส่อื การ 4.2 การสง่ เสริมให้

เรียนรู้ นวัตกรรม ผเู้ รยี นปฏิบัติตน

เทคโนโลยี และแหล่ง ตามวฒั นธรรม

การเรยี นร้ทู ี่ และ

หลากหลาย คา่ นิยมไทย

4. ความสามารถใน 5. ความสามารถ

การใชแ้ ละพฒั นา ในการจัดระบบ

นวัตกรรม เทคโนโลยี ดูแล และ

สารสนเทศ ช่วยเหลือผเู้ รยี น

เพื่อการจัดการเรียนรู้ 5.1 การวิเคราะห์

4.1 การเลอื กใช้ ความแตกต่าง

นวตั กรรมเทคโนโลยี ระหว่างบคุ คลของ

สารสนเทศ เพ่ือการ ผเู้ รียน

จัดการเรียนรู้ 5.2 การวิเคราะห์

4.2 การออกแบบ และ ปัญหาเพื่อหาทาง

การสร้างนวตั กรรม ช่วยเหลือผู้เรียน

เทคโนโลยีสารสนเทศ 5.3 การแนะแนว

เพอื่ การจัดการเรยี นรู้ และใหค้ าปรึกษา

4.3 การหา แกผ่ เู้ รยี นท้งั กลุ่มดี

ประสทิ ธิภาพ และ กลมุ่ เสย่ี ง และ

พัฒนานวัตกรรม กลุ่มมีปัญหา

เทคโนโลยีสารสนเทศ 5.4 การตดิ ตาม

เพ่อื การจดั การเรยี นรู้ ประเมินผลการ

61

5. ความสามารถใน แนะแนว และให้

การวัด และ คาปรึกษาแก่

ประเมินผลการเรียนรู้ ผู้เรียน

กำรจัดกำรเรียนรู้ กำรพัฒนำผูเ้ รยี น กำรบริหำร กำรวิเครำะห์ กำรสร้ำง
จัดกำรชัน้ เรียน สังเครำะห์และกำร ควำมรว่ มมือกับ
5.1 การประเมินการ 5.5 การจัดทา
เรียนรตู้ ามสภาพจริง ระบบเพื่อป้องกนั วิจัย ชุมชน
5.2 การสรา้ งและหา ปญั หาท่ีอาจเกดิ
คณุ ภาพเครอ่ื งมือ ขึ้นกบั
วดั ผลการเรยี นรู้ ผเู้ รียน
5.3 การนาผลการ
ประเมินไปใชป้ รับปรุง
และพัฒนาการจดั การ
เรียนรู้

3. ครูมีคณุ ธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณครู

คณุ ธรรมจรยิ ธรรมและจรรยำบรรณครู ขอ้ มูล/หลกั ฐำน/ร่องรอย

1.ครตู ้องรักและเมตตาศิษย์ โดยให้ความเอาใจใส่ 1. อบรมคณุ ธรรมนักเรียน

ช่วยเหลือส่งเสริมให้กาลังใจในการศกึ ษาเล่าเรียนแก่ 2. อบรมคุณธรรมครู

ศษิ ยโ์ ดยเสมอหนา้ 3. อบรมคณุ ธรรมผูบ้ รหิ าร

2.ครูต้องอบรม สงั่ สอน ฝกึ ฝน สร้างเสริมความรู้

ทกั ษะและนิสยั ที่ถูกต้องดีงาม ให้เกดิ แกศ่ ิษย์ อยา่ ง

เต็มความสามารถ ด้วยความบรสิ ทุ ธ์ิใจ

3.ครตู ้องประพฤติ ปฏิบัตติ นเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ีแก่

ศิษยท์ ั้งทางกาย วาจา จติ ใจ

4.ครตู ้องไม่กระทาตนเป็นปฏิปักษต์ ่อความเจริญทาง 62
กาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคมของศษิ ย์
5.ครูตอ้ งไมแ่ สวงหาประโยชนอ์ ันเปน็ อามสิ สนิ จา้ ง ข้อมูล/หลกั ฐำน/ร่องรอย
จากศษิ ย์ ในการปฏบิ ตั ิหน้าท่ีตามปกติ และไม่ใชใ้ ห้
ศษิ ย์กระทาการใด ๆ อนั เป็นการหาผลประโยชน์ บทบำทหน้ำทใ่ี นชมุ ชน
ให้แก่ตนโดยมิชอบ

คณุ ธรรมจริยธรรมและจรรยำบรรณครู
6.ครยู ่อมพัฒนาตนเองท้งั ทางดา้ นวชิ าชีพ ดา้ น
บคุ ลกิ ภาพและวสิ ยั ทศั น์ให้ทันตอ่ การพัฒนาทาง
วิทยาการ เศรษฐกจิ สังคมและการเมืองอย่เู สมอ
7.ครยู ่อมรักและศรัทธาในวชิ าชีพครแู ละเป็นสมาชกิ
ทีด่ ตี ่อองค์กรวิชาชพี ครู
8.ครูพึงช่วยเหลือเก้ือกูลครูและชมุ ชนในทาง
สร้างสรรค์
9.ครพู ึงประพฤติ ปฏิบตั ติ น เปน็ ผู้นาในการอนุรักษ์
และพฒั นาภูมปิ ัญญา และวฒั นธรรมไทย

1.3 บทบาทหนา้ ท่ีของนกั เรยี น

บทบำทหน้ำท่ใี นโรงเรยี น

63

1.ผู้เรยี นมคี ณุ ธรรมจริยธรรมและค่านิยมอนั พงึ 1. นับถือศาสนา และปฏิบตั ติ ามคาสอนของศาสนา

ประสงค์ ผู้เรยี นเปน็ นักเรียนที่ดีของโรงเรยี นได้ โดยปฏบิ ตั ิตามหลักธรรมของศาสนา

แสดงออกดังน้ี 2. รักษาขนบธรรมเนยี มประเพณีอันดงี ามโดยการ

มสี ว่ นรว่ มในการวางแผนการจัดการเรยี นรู้ อนรุ กั ษ์สบื สานวฒั นธรรมตลอดจนมรดกของชมุ ชน

ร่วมกับครผู ้สู อนและผู้ปกครอง 3. เชอ่ื ฟังพ่อแมแ่ ละครอู าจารย์ ด้วยความเคารพ

1.1 ผ้เู รยี นเป็นลกู ทด่ี ีของพอ่ แมผ่ ู้ปกครอง ได้ 4. มวี าจาสภุ าพออ่ นหวาน นุ่มนวล

แสดงออกดงั น้เี อ้ืออาทรผูอ้ นื่ และกตญั ญู 5. มคี วามกตัญญูกตเวทตี ่อผู้มพี ระคุณ

กตเวทีต่อผู้มพี ระคุณ 6. เปน็ ผ้รู ู้รกั การงาน ขยนั อดทน

1.2 ผเู้ รียนเป็นสมาชกิ ท่ีดีของชมุ ชนสงั คมโดย 7. ต้องมานะบากบ่นั ในการศึกษา และไม่เกยี จคร้าน

การแสดง อนุรักษธ์ รรมชาติและสง่ิ แวดล้อม 8. รูจ้ ักประหยัด และอดออม

สืบสานวฒั นธรรม ตลอดจนมรดกของ 9. มคี วามซ่อื สัตย์ และมีน้าใจเป็นนักกีฬา กล้าหาญ

ชมุ ชนไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ เข้มแข็ง

2.ผเู้ รยี นมสี ุขภาพกายและมสี ุขภาพจิตทดี่ ี 10. ทาตนใหเ้ ป็นประโยชน์ ร้จู กั บาปบญุ คุณโทษ

2.1ผเู้ รียนมสี ุขภาพดีมีนา้ หนกั สว่ นสงู และ อนรุ ักษห์ วงแหนสมบตั ชิ าติ

สมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์รวมท้ังรจู้ ักดูแล

ตนเองให้มีความปลอดภัยไดแ้ สดงออกป้องกันตนเอง

จากสิ่งเสพตดิ ใหโ้ ทษ และหลีกเล่ียงตนเองจาก

สภาวะทเ่ี สีย่ งตอ่ ความรุนแรง โรคภัย อบุ ัติเหตุและ

ปญั หาทางเพศ

2.2 ผู้เรยี นมสี ุขภาพจติ ดมี ีมนุษยส์ มั พันธ์ที่ดีต่อผอู้ ื่น

และมีสุนทรยี ภาพดี ใหเ้ กียรติผอู้ ่นื และมองโลกในแง่

ดี

3.ผ้เู รยี นมีความใฝ่รู้ใฝ่เรียน

3.1 ผ้เู รยี นมนี สิ ัยรกั การอ่านแสวงหาความรจู้ าก

แหล่งตา่ ง ๆสามารถเรยี นรู้ได้ด้วยตนเองจาก

ห้องสมดุ แหลง่ เรียนรู้ และส่อื ต่าง ๆ รอบตวั

3.2 ผเู้ รยี นสามารถเรียนรเู้ ปน็ ทีม เรียนรู้รว่ มกนั

เป็นกลุม่ แลกเปลยี่ นความคิดเห็นเพ่ือการเรียนรู้

ระหว่างกัน

3.3 ผ้เู รยี นสามารถใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรียนรู้

และนาเสนอผลงานได้

4.ผู้เรยี นคิดเป็น

64

4.1 ผู้เรยี นมคี วามสามารถคดิ เปน็ ระบบ สรุป
ความคิดเห็นจากเรอื่ งทอ่ี ่าน ฟังและดู และสือ่ สาร
โดยการพูด หรอื เขยี นตามความคดิ ของตนเอง

4.2 ผ้เู รียนมคี วามสามรถในการคิดสร้างสรรค์
มีความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรคผ์ ลงานด้วยความ
ภาคภูมใิ จ

4.3 ผเู้ รยี นมคี วามสามารถในการคิดแก้ปญั หา
นาเสนอวิธีคดิ วธิ แี กป้ ัญหาด้วยภาษาหรือวิธีการ
ของตนเอง

4.4 กาหนดเปา้ หมาย คาดการณ์ ตัดสินใจ
แกป้ ญั หาโดยมเี หตผุ ลประกอบ

2. บทบำทหน้ำท่ีและแนวทำงกำรมสี ่วนรว่ มของบดิ ำมำรดำและผปู้ กครองนักเรยี นและคณะกรรมกำร
สถำนศกึ ษำขนั้ พ้นื ฐำน

2.1 บทบำทหนำ้ ท่ขี องบดิ ำมำรดำและผูป้ กครองนักเรยี น มีดังน้ี

65

บทบำทหนำ้ ทใี่ นโรงเรยี น บทบำทหนำ้ ทใี่ นชุมชน

1.การเขา้ มามสี ่วนร่วมในการตัดสินใจของ 1. การอบรมเลี้ยงดูในฐานะเป็นพอ่ แม่ ควรเลีย้ งดู

โรงเรียน โดยการกาหนดสาระของหลกั สตู รและ อย่างถูกต้องและเหมาะสม เช่น

กาหนดแผนพัฒนาการศึกษา กาหนดแผนการ ใหต้ ง้ั อยู่ในความดี ให้การศึกษา มอบทรัพยม์ รดก

เรียนรู้ร่วมกับครแู ละผเู้ รยี น หาคู่ครองให้ ฯลฯ

2. การเป็นผูป้ ระสานงานในการระดมทรัพยากรทาง 2. การสือ่ สารระหว่างบา้ นและโรงเรียน เชน่ ด้าน

การศกึ ษา โดยการร่วมสนบั สนนุ ทรพั ยากรเพื่อ เอกสาร ประชาสัมพันธห์ อกระจายข่าว

พฒั นาคณุ ภาพการศึกษา 3.การจัดระบบการเรยี นการสอนทบ่ี า้ นเชน่ ใชเ้ วลา

3.การเขา้ มามสี ่วนรว่ มในการให้ความช่วยเหลอื วา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์

นกั เรียนโดยการ สง่ เสริมใหผ้ ู้เรยี นรจู้ ักแสวงหา

ความรจู้ ากแหล่งเรยี นรตู้ า่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสมและ

ตอ่ เนอ่ื ง

4.งานอาสาสมคั รเพ่ือการศกึ ษา เชน่ ร่วมกิจกรรม

การเรยี นรใู้ นรูปแบบตา่ ง ๆ สง่ เสริมการเรยี นรู้

เกี่ยวกบั ทักษะชวี ิต ปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หาท่ี

เกย่ี วขอ้ ง เชน่ ยาเสพตดิ ไข้หวดั ใหญ่ โรคเอดส์

โรคติดต่อรา้ ยแรงอืน่ ๆ มีส่วนร่วมในการประเมนิ ผล

การเรียนรรู้ ่วมกบั สถานศึกษา ปฏิบัติตนให้เปน็

บคุ คลแหง่ การเรยี นรู้ และถึงพร้อมดว้ ยความรู้

คุณธรรม จริยธรรม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

เพื่อเป็นแบบอย่างทด่ี ีให้กบั ผู้เรียน ส่งเสรมิ ให้เดก็

และเยาวชนที่อยู่ในอปุ การะไดร้ บั การศึกษาขั้น

พืน้ ฐาน 12 ปี

2.2 บทบาทหนา้ ที่ของคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน
ดำ้ นวิชำกำร กำรบริหำรงบประมำณ กำรบริหำรงำนบุคคล กำรบรหิ ำรท่วั ไป

66

1.มีสว่ นร่วมกับ 1.มสี ่วนร่วมจดั ทา 1.มสี ่วนรว่ มให้

สถานศึกษา จดั ทา แผนการใช้เงิน ขอ้ เสนอแนะเกี่ยวกับ

หลักสตู รสถานศึกษา งบประมาณของ การจัดบคุ ลากรให้

2. มีส่วนร่วมจดั ทา สถานศึกษา ปฏิบัติงานในส่วนตา่ ง ๆ

แผนพฒั นาการศึกษา 2.มีสว่ นร่วมจัดสรร ของสถานศกึ ษา

ประจาปขี องสถานศกึ ษา การใชง้ บประมาณที่ 2.มีสว่ นรว่ ม

3 .มีสว่ นรว่ ม ได้รับจากบุคคลภายนอก พจิ ารณาจัดหาวิทยากร

กาหนดนโยบายหรือแนว ของสถานศกึ ษา ภายนอกตามความ

ทางการพัฒนาคุณภาพ 3.มสี ่วนร่วม ต้องการของสถานศึกษา

สถานศกึ ษา ติดตามและรายงานผล 3.มีส่วนร่วมในการ

4. มสี ว่ นรว่ มให้ การใชง้ บประมาณใน จัดหาเทคโนโลยเี พือ่

ข้อเสนอแนะในการ สถานศกึ ษา พฒั นาระบบขอ้ มูล

กาหนดเกณฑม์ าตรฐาน 4.มีสว่ นรว่ มเป็น บคุ ลากรของสถานศึกษา

คณุ ภาพการศึกษาของ กรรมการจัดชื้อ-จัดจ้าง 4.มสี ว่ นร่วมวาง

สถานศึกษา พสั ดคุ รุภณั ฑ์ของ แผนการพฒั นาบุคลากร

5. ใหก้ ารสนบั สนนุ สถานศกึ ษา ของสถานศกึ ษา

ทนุ การศึกษา วทิ ยากร 5.มีส่วนรว่ มเปน็ 5.รว่ มให้

และแหลง่ การเรยี นรู้ใน กรรมการตรวจรับพสั ดุ ข้อเสนอแนะในการ

ทอ้ งถนิ่ แก่สถานศึกษา ครภุ ัณฑข์ องสถานศึกษา ประเมนิ ผลการ

6. มสี ว่ นรว่ มในการ 6.มีสว่ นร่วมเป็น ปฏิบัตงิ านของบคุ ลากร

จัดกจิ กรรมการเรียนการ กรรมการควบคมุ การ ในสถานศกึ ษา

สอนที่สอดคล้องกบั กอ่ สร้างของสถานศึกษา

ความตอ้ งการของ ชมุ ชน 7.มสี ่วนร่วมจดั หา

งบประมาณสนบั สนนุ

สถานศกึ ษา โดยระดม

จากชุมชน

2.2 บทบาทหนา้ ท่ีของคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน(ตอ่ )

7. มีส่วนร่วมใน 8.มสี ่วนรว่ มรักษา 67

การจัดหาสื่อการเรียน ความปลอดภัยเกี่ยวกบั 7.สนบั สนุนการบรกิ าร
ด้านสุขภาพและอนามยั
การสอนท่ีทันสมัย ทรพั ยส์ นิ ทางราชการ แก่นกั เรียนของ
สถานศกึ ษา
8. มสี ว่ นร่วมเป็น ของสถานศกึ ษา 8.สนับสนุนให้
สถานศึกษาใหม้ ี
วทิ ยากรในการให้ความรู้ 9.มสี ่วนรว่ ม การเผยแพร่ความรตู้ ่าง
ๆทเ่ี ปน็ ประโยชนแ์ ก่
แกน่ ักเรยี น เสนอแนะแตง่ ต้งั ชุมชนและเป็น
ศนู ย์บริการด้านวชิ าการ
9. มีสว่ นรว่ มส่งเสรมิ เจา้ หนา้ ท่รี บั ผดิ ชอบงาน 9.สนับสนุนกจิ กรรมงาน
บริการตา่ ง ๆของ
ให้มกี ารใช้ส่อื การเรยี น การเงนิ พสั ดุ สถานศกึ ษาได้แก่
สหกรณ์ แนะแนว
การสอน อย่างสมา่ เสมอ 10.มีสว่ นร่วมใน อาหารกลางวนั
10.มสี ว่ นร่วมสง่ เสริม
10. มสี ว่ นร่วม การกากบั ตดิ ตามการทา กิจกรรมประชาธิปไตย
ทั้งในระดับสถานศึกษา
ประเมนิ ผลการใช้ บัญชกี ารเงนิ ได้ถกู ต้อง และในระดบั ท้องถนิ่
11.สง่ เสรมิ การจัด
หลกั สูตร และเปน็ ปจั จบุ ัน กิจกรรมของสถานศึกษา
ทางดา้ นศาสนา ศลิ ปะ
วฒั นธรรมในทอ้ งถน่ิ

บทที่ 5
กำรใช้งบประมำณและทรัพยำกร

1. กำรคำดกำรณ์จำนวนนกั เรียน ตำมสำมะโนนักเรียนและแผนกำรจัดชั้นเรยี น

จำนวนชนั้ เรยี น ปี พ.ศ. 2565 - 2568 2568
2565 2566 2567 7
1. อนบุ าลปีที่ 2 7
2. อนบุ าลปที ี่ 3 456 14
777 9
รวม 11 12 13 9
3. ประถมศึกษาปีที่ 1 678 6
4. ประถมศึกษาปีที่ 2 999 8
5. ประถมศึกษาปีที่ 3 666 7
6. ประถมศึกษาปีท่ี 4 888 9
7. ประถมศึกษาปีที่ 5 777 48
8. ประถมศึกษาปีท่ี 6 999 -
45 46 47 -
รวม --- -
9. มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 --- -
10. มัธยมศึกษาปที ี่ 2 --- 62
11. มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ---
56 58 60
รวม
รวมทั้งสน้ิ

68

2. กำรคำนวณงบประมำณเงินอุดหนุนรำยหัว

ซึ่งเปน็ งบประมาณหลักทโี่ รงเรียน นามาใชว้ างแผนบริหารจัดการศึกษาตามภารกจิ และเปา้ หมายที่

กาหนด ดงั น้ี

1. ระดบั กอ่ นประถมศึกษา จานวนงบประมาณเกิดจากจานวนนักเรยี น 11 x 2,200 = 24,200 บาท

2. ระดบั ประถมศกึ ษา จานวนงบประมาณเกิดจากจานวนนักเรียน 45 x 2,400 = 108,000 บาท

3. เงินรายได้สถานศึกษา (ขายยางพารา,ขายต้นไม้, อื่น ๆ) - บาท

4. เงนิ โครงการสนับสนุนค่าใชจ้ ่ายในการจัดการศึกษา (4 รายการ) 100,793 บาท

5. เงนิ ปัจจัยพืน้ ฐานสาหรบั นกั เรยี นยากจน (ยากจนธรรมดา+พเิ ศษ) 36,500 บาท

ท้งั นีไ้ ม่คิดคานวณรวมกบั งบประมาณทจี่ า่ ยเป็นเงินเดือน ค่าจ้างประจาคา่ จา้ งชั่วคราวและเงินอ่ืนท่จี ่าย

พร้อมกับเงินเดือน ค่าจ้างประจาและค่าตอบแทน งบดาเนินงานและงบลงทุนทเี่ ปน็ ปกติซึ่งได้รบั จดั สรรและอนุมัติ

จาก สพฐ.และงบเงินอดุ หนนุ เช่นรายการค่าอุดหนุนปจั จัยพื้นฐานนกั เรียนยากจนขาดแคลน คา่ อาหารกลางวนั

สาหรับนักเรยี น รายการเงนิ อุดหนนุ อ่ืน ๆ และเงนิ รายได้จากการบรจิ าคและระดมทรัพยากร ที่พึงมแี ละพึงไดร้ ับใน

ภายหลังซึง่ จะไปปรากฏอยู่ในแผนปฏบิ ัติการประจาปีการศึกษา หรอื โครงการทจ่ี ัดทารองรบั สาหรับการบริหาร

งบประมาณรายการนัน้ ๆ ต่อไป

(ประมาณการ/คาดการณล์ ่วงหน้า) งบประมาณรายการคา่ จดั การศึกษาตามภารกิจและเปา้ หมายที่กาหนด

จำนวนนักเรยี น ยอดยกมำ ปี พ.ศ. 2565 - 2568 2568
จำกปี 2565 2566 2567 (บำท)
1. เงินคงเหลือยกมา (เงินรายหัว) (บำท) (บำท) (บำท)
2. กอ่ นประถมศึกษา 11 x 2,200 บาท พ.ศ. 2564 -
3. ช้ันประถมศึกษา 45 x 2,400 บาท 100,088.68 - -- 30,800
4. เงินรายได้สถานศึกษา 24,200 26,400 28,600 115,200
5. เงินโครงการฯจดั การศกึ ษา (4รายการ) - 108,000 110,400 112,800 -
6. เงินปจั จยั พืน้ ฯยากจน(ธรรมดา+พเิ ศษ) - - -- 109,841
7. เงินโครงการอาหารกลางวัน - 100,793 103,809 106,825 38,000
8. เงนิ อ่นื ๆ (เงนิ นอกงบประมาณ) - 36,500 37,000 37,500 247,800
- 235,200 239,400 243,600
รวม 17,533.14 -
รวมทั้งสนิ้ - --- 541,641
117,621.82 504,693 517,009 529,325

2,210,289.82

69

3. กำรจัดสรรงบประมำณของสถำนศึกษำ (คำดกำรณ์ลว่ งหน้ำ)

แผนงำนขบั เคลือ่ น 2565 ปี พ.ศ. 2565 - 2568 2568
(บำท) 2566 2567 (บำท)
1. เงินอดุ หนนุ รายหัว 132,200 (บำท) (บำท) 146,000
1) ด้านการบริหารวิชาการ 136,800 141,400
2) ด้านการบรหิ ารงบประมาณ 66,100 73,000
3) ดา้ นการบรหิ ารงานบุคคล 26,440 68,400 70,700 29,200
4) ดา้ นการบริหารทวั่ ไป 26,440 27,360 28,280 29,200
13,220 27,360 28,280 14,600
2. เงนิ รายได้สถานศึกษา 13,680 14,140
3 . เงนิ โครงการฯ จัดการศึกษา ( 4 รายการ) - -
4. เงินปัจจยั พนื้ ฐานสาหรบั นกั เรยี นฯ (ธรรมดา+พิเศษ) --
5. เงินโครงการอาหารกลางวัน 100,793 109,841
6. เงินอื่น ๆ (เงนิ นอกงบประมาณ) 36,500 103,809 106,825 38,000
235,200 37,000 37,500 247,800
239,400 243,600
- -
- -

รวม 504,693 517,009 529,325 541,641
รวมท้ังสน้ิ 2,092,668

หมำยเหตุ ** คา่ สาธารณปู โภค หมายถงึ ค่าบริการกระแสไฟฟา้ ประปา โทรศัพทป์ ระจาที่ คา่ บัตรเติมเงิน
โทรศพั ทเ์ คล่อื นที่ ค่าเชา่ สัญญาณดาวเทยี ม เคเบลิ ทวี ี อินเตอรเ์ นต็ คา่ ไปรษณยี แ์ ละแสตมป์ ต้องกาหนดต้ังรายจา่ ย
งบประมาณเทา่ กบั หรอื มากกว่ายอดรายจา่ ยรวมประจาเดือนประมาณ 2-4% ทุกเดือนหรือทุกรอบชาระคา่ ใช้
บริการ จานวน 12 เดือน ท้ังน้เี มื่อต้ังจ่ายเปน็ รายรายการในแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจาปกี ารศกึ ษา และ
หา้ มนาไปใช้จา่ ยหรือยมื ทดลองจา่ ยเพอ่ื กิจกรรมหรือโครงการอืน่ เวน้ แตเ่ ปน็ จานวนเงินคงเหลือ

บทท่ี 6

แนวทำงกำรตดิ ตำม วดั และประเมนิ ผล

เพ่ือให้แผนพฒั นาการจดั การศึกษาสัมฤทธ์ิผลตามเป้าหมาย พนั ธกิจและวิสัยทศั น์ทก่ี าหนด ควรมีการสร้าง
เคร่อื งมอื กลไกบุคคล/คณะบุคคลติดตามวดั และประเมินผลการดาเนินงาน ดังนี้

1. การจัดใหม้ สี ว่ นรว่ มจากคณะครู ผแู้ ทนนักเรยี น/ผ้ปู กครอง คณะกรรมการสถานศกึ ษา
ในการร่างและจัดทาแผนพัฒนาการจดั การศกึ ษาอยา่ งทวั่ ถึงและครอบคลมุ ทกุ กลมุ่ คณะ

2. การจัดให้มกี ลไกการประสานแผนงานและกลยุทธ์ต่าง ๆ ภายในแผน การกาหนด
บุคคลหรอื คณะบคุ คลรว่ มรับผดิ ชอบการดาเนินงานในแตล่ ะกลยุทธ์

3. การสร้างหรือทบทวนความรู้ การสร้างความเข้าใจในการวางแผน การจัดทาแผน
การดาเนนิ งานตามแผนและการประเมินตนเองพร้อมทั้งรายงานผลการดาเนินงานในส่วนที่รบั ผดิ ชอบแก่คณะครู

4. การจดั ให้มีการประชาสัมพันธ์ใหผ้ มู้ สี ว่ นเก่ียวข้องทุกฝา่ ยไดท้ ราบสาระสาคัญอย่าง
ง่ายๆของแผน ตลอดทง้ั ภาพแนวทางการดาเนินงานทชี่ ัดเจน

5. การจดั ให้มีการพฒั นาระบบฐานข้อมลู ใหเ้ ปน็ ปัจจุบัน เพอ่ื ใชป้ ระโยชนใ์ นการ
ปรบั ปรุงกิจกรรม โครงการ กิจกรรมหลกั เปา้ หมายและตวั ชี้วดั ความสาคัญ ให้สอดคลอ้ งและทนั กับสภาพทีม่ ีอยู่
แล้วจรงิ

6. มีการพัฒนาสมรรถนะและศักยภาพของคณะครใู นการนาแผนส่กู ารปฏิบตั ิ
7. มีเวทหี รอื จัดใหม้ ีการประชุมทางวิชาการหรือประชมุ ย่อยทม่ี ีการนาและเปิดโอกาสให้
มีการพูดคยุ และแลกเปลย่ี นข้อมูล ปัญหา และแนวปฏิบัตใิ นการแก้ไขปญั หาทเี่ กิดขึน้ ระหวา่ งการปฏิบัติงานตาม
แผน
8. มีการปรบั ปรงุ เช่ือมโยงกับนโยบายและแผนพฒั นาการศกึ ษาของหนว่ ยงานตน้ สังกดั หรือส่วนราชการที่
เกย่ี วข้องรายปีเสมอ
9. มีการปรบั ปรุงพฤตกิ รรมของผู้บริหาร ให้มีคุณลักษณะตามวิสยั ทศั นท์ ี่กาหนด และมี
ความเปน็ ผูน้ าทจ่ี ะนาโรงเรียนไปสู่วิสยั ทัศน์ไดจ้ รงิ พร้อมทงั้ เปน็ ผนู้ าการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการคิดริเร่ิม
ตวั อยา่ งงานหรือวิธีการทางานอย่างงา่ ยและเกดิ ผลดใี นทางปฏิบตั ิแกค่ ณะครูเสมอ
10. มีความพยายามหรือมกี ารปฏบิ ัติงานตามบทบาทหนา้ ทที่ ง้ั ส่วนของผู้บริหารและคณะ
ครูตามท่ีกาหนดไว้ในแผน
11. มคี วามพยายามหรือมกี ารชักจูง กากบั ใหน้ ักเรียนเกดิ การปฏิบัติหนา้ ท่ีตามที่กาหนดไว้ในแผน
12. มกี ารประสาน การสนบั สนุน การจัด การหว่านล้อมให้เกดิ ความร่วมมือหรือขอ้ ตกลง

71

ในการปฏบิ ัติตามบทบาทหน้าทขี่ องผู้ปกครอง ชมุ ชน คณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน องค์กรปกครองสว่ น
ท้องถน่ิ และองค์กรสถาบนั อน่ื ตามที่กาหนดไวใ้ นแผน

13. มีการติดตาม วดั และประเมนิ ผลแผนพฒั นาการจดั การศึกษา ดงั น้ี
1) ติดตามความกา้ วหน้าประจาปี เปน็ การตดิ ตามความก้าวหนา้ ของตัวช้ีวดั ในแต่

ละกลยุทธ์ เพ่ือตรวจสอบถึงผลงานทีเ่ กดิ ข้นึ จรงิ เปรยี บเทียบกับเป้าหมายทีก่ าหนด อนั จะนาไปสู่การทบทวน
ปรับปรุง แกไ้ ขเปา้ หมายและกลยทุ ธ์ใหม้ คี วามเหมาะสมต่อไป

2) การวดั และประเมินผลในระยะครึ่งแผน เป็นการประเมินผลในชว่ ง 2 ปีงบประมาณ
แรกของแผน คือ เม่ือสิน้ สดุ ปีงบประมาณ 2566 เพื่อทบทวนผลความกา้ วหน้าและปญั หาอุปสรรค รวม
ท้งั ทบทวนกลยุทธ์ ตวั ชี้วัด เปา้ หมาย หรอื เพ่ือการปรบั เปล่ียนแผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ 2565

3) การประเมนิ ผลเมอ่ื สิ้นสุดแผน เป็นการประมวลผลแผนพฒั นาการจัดการศกึ ษา 4 ปี เมอ่ื ส้นิ สุด
ปีงบประมาณ 2568 เพื่อสรปุ ผลการพฒั นาการจัดการศึกษา พิจารณาผลสมั ฤทธิข์ องงานทีเ่ กดิ ข้นึ ตลอดชว่ งเวลา 4
ปีงบประมาณ และเพ่ือใช้เปน็ ฐานข้อมลู หลกั ในการจัดทาแผนพัฒนาการจัดการศึกษา ประจาปีงบประมาณ 2565-
2568

14. การจัดทารายงานผลการปฏิบตั งิ านประจาปีการศึกษาตามแผนปฏิบตั ิการประจา
ปีการศกึ ษา

สว่ นท่ี 7 ภำคผนวก

คาส่งั โรงเรยี นบ้านบอ่ ดนิ

ท่ี 219/ 2564

เรื่อง แต่งตง้ั คณะกรรมการจัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา 4 ปี พ.ศ. 2565 – 2568

…………………………………………………..

เพอ่ื ใหก้ ารดาเนนิ จัดทาแผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา 4 ปี พ.ศ. 2565 – 2568 โรงเรียนบา้ นบอ่ ดิน

หมูท่ ี่ 11 ตาบลไพศาล อาเภอประโคนชัย สานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาบุรีรัมย์ เขต 2

เปน็ ไปดว้ ยความเรียบร้อย จึงแต่งต้ังคณะกรรมการดาเนินการ ดังตอ่ ไปน้ี

คณะกรรมกำรที่ปรึกษำ

1. นายหิรญั สดมสุข ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พน้ื ฐาน

2. นายรวิภาส เกดิ ไทย คณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพื้นฐาน

3. พระมหาไสว สิรปิ ญั โญ คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน

4. นายฉลวย เสริมงาม คณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน

5. นายวาทชั พลายเมือง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐาน

6. นายมานะ กริ ัมย์ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้นื ฐาน

7. นางนภสร การเพยี ร คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพน้ื ฐาน

8. นายณัฐพล มีเวที ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านบ่อดิน

คณะทำงำน

1. นายณัฐพล มีเวที หวั หนา้ คณะทางาน

2. นางสาวจนั ทนี กระมล คณะทางาน

3. นางสาวเพชรรตั น์ กสุ ะรัมย์ คณะทางาน

4. นางสาวประนอม ดวงศิล คณะทางาน

5. นายพงศ์พนั ธ์ จริตรัมย์ คณะทางาน

6. นางอรทยั เพง็ ประโคน คณะทางาน

7. นายโกมลเพง็ เพ็งประโคน คณะทางาน

8. นายบุญติด วเิ ลศ คณะทางาน

ใหผ้ ู้ทไี่ ด้รับแต่งต้ังได้ปฏิบัติหน้าทเี่ ป็นไปด้วยความเรยี บรอ้ ย บรรลุวตั ถปุ ระสงค์ มปี ระสทิ ธภิ าพ และเกดิ
ประโยชน์สูงสุดต่อทางโรงเรยี นบา้ นบอ่ ดิน

ทั้งน้ี ตั้งแต่บดั นเ้ี ป็นต้นไป
สั่ง ณ วันท่ี 30 เดอื นธันวาคม พ.ศ. 2564

(นายณัฐพล มีเวที)
ผูอ้ านวยการโรงเรียนบ้านบอ่ ดิน

บันทึกการพิจารณาใหค้ วามเหน็ ชอบเอกสาร

แผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา ปี พ.ศ. 2565-2568
ของโรงเรียนบา้ นบ่อดนิ

สานักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาบุรรี ัมย์ เขต 2
………………..

มตทิ ป่ี ระชุมคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐานโรงเรยี นบา้ นบ่อดิน ในการประชมุ คร้ังที่ 1/2565
เม่อื วนั ที่ 7 เดือนมกราคม พ.ศ. 2565 ได้พจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ปี พ.ศ.2565 - 2568 ดว้ ยมติเป็นเอกฉนั ท์ใช้รายงานต่อหน่วยงานตน้ สังกัด และสาธารณชนตอ่ ไป

ลงชอื่
(นายหริ ญั สดมสขุ )

ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน
โรงเรียนบ้านบ่อดิน

ลงชื่อ
(นายณฐั พล มีเวท)ี

ผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านบอ่ ดนิ


Click to View FlipBook Version