โ ค ร ง ก า ร พั ฒ น า ต น เอง ร ายวิชา ก า ร พั ฒ น า คุณธร ร ม แ ละ วิชาชี พ ก า ร บ ริ ห า ร ก า ร ศึ ก ษ า โ ค ร ง ก า ร พั ฒ น า ต น เอง ร ายวิชา ก า ร พั ฒ น า คุณธร ร ม แ ละ วิชาชี พ ก า ร บ ริ ห า ร ก า ร ศึ ก ษ า น า ง ส า วชุ ภิ ด า ไชย พิ เ ด ช ร หั ส 1 0 6
เป็นการพัฒ พั นาคุณสมบัติ บั ติในตัว ตั บุคคล เพื่อ พื่ จัด จั การตนเองให้มีเ มี ป้าหมายชีวิต วิ ที่ดี ที่ ดี ทั้ง ทั้ ในปัจจุบัน บั และอนาคต ทำ ให้เป็นบุคคลที่มี ที่ คุ มี คุ ณค่า หลัก ลั การพัฒ พั นาตนเอง แบ่งออกเป็น 3 ขั้น ขั้ ตอน ได้แก่ 1. การตระหนัก นั รู้ถึง ถึ ความจำ เป็นในการปรับ รั ปรุงตนเอง 2. การวิเ วิ คราะห์ตนเอง 3. การวางแผนพัฒ พั นาตนเองและการตั้ง ตั้ เป้าหมาย ปราณี รามสูต และจำ รัส รั ด้วงสุวรรณ (2545 : 125-129) การพัฒนาตนเอง การพัฒนาตนเอง การตระหนัก นั รู้ตนเอง (Self-awareness) หมายถึง ถึ ความสามารถที่จ ที่ ะรับ รั รู้และเข้าใจ ถึง ถึ จุดแข็ง ข็ จุดอ่อน จุดที่เ ที่ ราควรพัฒ พั นา ความรู้สึก สึ ความต้องการ และอารมณ์ของ ตนเอง รวมไปถึง ถึ ผลลัพ ลั ธ์ที่ ธ์ ที่ จ ที่ ะเกิด กิ กับ กั ผู้อื่น อื่ หากเรารับ รั รู้และเข้าใจตนเองแล้ว จะนำ ไปสู่การควบคุม การพัฒ พั นาตนเอง ซึ่งเป็นการบริห ริ ารตนเองในทุกด้าน ให้เป็นบุคคลที่เ ที่ ป็นที่ย ที่ อมรับ รั และมีคุ มี คุ ณค่า
สิ่ ง ที่ ต้ อง ก า ร พั ฒ น า : เรื่รื่รื่ อ รื่ อง การบริริริ ห ริ หารจัจัจั ด จั ดการเวลา
ปัญหา : เนื่องด้วยสถานศึกษาหน่วยงานของข้าพเจ้าเป็นสถานศึกษาขนาดเล็ก มีจำ นวนบุคลากรที่จำ กัด มีการประเมินโครงการต่าง ๆ หลายโครงการ การขาดแคลนของบุคลากรส่งผลต่อปริมาณภาระงานของครู ทำ ให้ได้รับมอบหมายงานจากผู้บังคับบัญชาค่อนข้างมาก และเวลาทับซ้อนกัน ประกอบกับข้าพเจ้าได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ด้านการบริหารและ พัฒนาการศึกษา เพื่อเป็นการพัฒนาตนเองในด้านวิชาชีพ ซึ่งทำ ให้มีภาระงานเพิ่มขึ้น ปัญหาที่พบ พบว่า การทำ งานหลายอย่างโดยทับซ้อนเวลากัน ส่งผลให้งาน แต่ละชิ้นนั้นไม่มีประสิทธิภาพ เกิดปัญหาสุขภาพ การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา การนอนดึกเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่มีความสุขในการทำ งาน จึงมีความจำ เป็นอย่างยิ่งที่ต้องบริหารจัดการเวลาให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุเป้าหมายและให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป
ก ร ะ บ ว น ก า ร ใ น ก า ร พั ฒ น า ต น เ อ ง
ขั้นที่ 1 Plan การวางแผน 1. การทำ ความเข้าใจกระบวนการทำ งานแต่ละชิ้น 2. การจัดตารางเวลา ช่วยกำ หนดระยะเวลาในการทำ งานแต่ละชิ้นของเรา 3. ลำ ดับความสำ คัญของงานจากสำ คัญมากไปหาน้อย ทำ ให้เรารู้ว่าแต่ละงานใช้เวลามากน้อยเพียงใด
ขั้ น ที่ 2 D o ก า ร ป ฏิ บั ติ เวลาทำ งาน 8 ชั่วโมง ในการใช้สมาธิจดจ่อกับงาน เวลาส่วนตัว 8 ชั่วโมง การให้เวลาส่วนตัวกับตนเอง และดูแลครอบครัว เวลาพักผ่อน 8 ชั่วโมง หลังจากใช้เวลาทำ งานเป็นระยะนานติดต่อกัน หลายชั่วโมง อาจทำ ให้เกิดความเหนื่อยล้าได้ จึงควรจัดเวลา ให้ร่างกายได้พักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอ และรับประทานอาหารตรงเวลา เพื่อไม่ให้กระทบปัญหาสุขภาพ ทั้งนี้ยังเป็นการกระตุ้นความคิดใหม่ ๆ ด้วย 1. การลงมือปฏิบัติงานตามแผนที่มีการจัดเรียงลำ ดับงานไว้ 2. แบ่งเวลา (Time Blocking) ได้แก่
ขั้ น ที่ 3 C hec k ก า ร ต ร วจ ส อ บ ประเมินการทำ งานของตนตลอดเวลา โดยการตรวจสอบ ความคล่องตัว ตั ในการทำ งาน ความทัน ทั เวลา ความสำ เร็จ ร็ ของงาน ความสุขในการทำ งานของตนเอง
หากพบว่า ในขณะที่เ ที่ ราทำ งานนั้น นั้ มีปัญหา หรือ รื อุปสรรคใด ได้เก็บ ก็ มาเป็นข้อมูล เพื่อ พื่ นำ มาปรับ รั ปรุงพัฒ พั นากระบวนการทำ งานต่อไป ซึ่งอุปสรรคในการทำ งานนั้น นั้ พบว่า ยัง ยั มีบางงานที่เ ที่ สร็จ ร็ ล่าช้ากว่ากำ หนด ทำ ให้เบีย บี ดบัง บั เวลางานอื่น อื่ ตามลำ ดับ ดั ลงมา จึง จึได้มีการปรับ รั ปรุง บริห ริ ารจัด จั การเวลาใหม่ โดยการลดเวลาส่วนตัว ตั ลงเล็กน้อย เพื่อ พื่ ให้สามารถทำ งานสำ เร็จ ร็ ตามเป้าหมาย ทัน ทั เวลา และไม่กระทบลำ ดับ ดั งานอื่น อื่ ๆ ขั้ น ที่ 4 A ct ก า ร ป รั บ ป รุ ง แ ละ พั ฒ น า
ส รุ ป ผ ล ก าร พัฒน า ต น เอง ส รุ ป ผ ล ก าร พัฒน า ต น เอง 1. สามารถปฏิบั ฏิ ติ บั ติ งานได้อย่างมีปมี ระสิท สิ ธิภ ธิ าพมากขึ้น ขึ้ 2. ทำ งานโดยไม่เบีย บี ดบัง บั เวลาพัก พั ผ่อน จึง จึ สามารถนอนหลับ ลั พัก พั ผ่อนอย่างเต็ม ต็ ที่ ไม่กระทบสุขภาพร่างกาย และมีจิ มี ต จิ ใจร่าเริง ริ แจ่มใส พร้อมที่จ ที่ ะทำ งานอยู่เสมอ 3. มีค มี วามสุขในการทำ งาน มีค มี วามกระตือ ตื รือ รื ร้น ร้ ในการทำ งานมากขึ้น ขึ้ 4. มีค มี วามสุขกับ กั การใช้ชีวิต วิ ประจำ วัน วั ของตนเอง ได้ผ่อนคลาย และใช้เวลากับ กั ครอบครัว รั
Thank you