The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เจ้าพระยาพิชัยดาบหัก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ประสาร ธาราพรรค์, 2021-11-18 07:55:56

เจ้าพระยาพิชัยดาบหัก

เจ้าพระยาพิชัยดาบหัก

ชวี ประวตั ิ พระยาพชิ ยั ดาบหัก

ผเู้ รยี บเรยี งนายประสาร ธาราพรรค์

ประวัตพิ ระยาพชิ ยั ดาบหัก
พระยาพชิ ัยดาบหกั ทหารค่พู ระวรกายสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ท่านต่อสู้กับอริราชศัตรู ด้วยดาบสองมือ ออกต่อสู้กับศตรูของชาติ
จนกระทั่งดาบหักไปข้างหนึ่งท่านมีส่วนสาคัญในการร่วมกู้เอกราชชาติไทย
ให้พน้ ภยั พมา่

พระยาพิชัยดาบหักเดิมช่ือ จ้อย เกิดปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ในปี
พ.ศ. 2284 ท่ีบ้าน ห้วยคา อาเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ มีพี่น้อง 4
คน แตเ่ สียชวี ิตไป 3 คนพระยาพิชัยดาบหักเปน็ ตน้ ตระกูลวชิ ัยขนั ธะ
การศกึ ษา

วัดมหาธาตุ เมอื งพชิ ยั

เมื่ออายุได้ 14 ปี บิดานาไปฝากกับท่านพระครูวัดมหาธาตุ หรือวัด
ใหญ่ เมอื งพิชัย จ้อยสามารถอ่านออกเขียนไดจ้ นแตกฉานเพราะเปน็ คนขยนั
และเอาใจใส่ในตาราเรียนคอยรบั ใชอ้ าจารย์ และซอ้ มมวย ไปด้วย
ศกึ ษาวชิ ามวย

ในขณะท่ีเป็นเด็กวัดน้ันเขามักจะถูกกล่ันแกล้งจากเด็กท่ีโตกว่าเสมอ
แตใ่ นระยะหลังเขากส็ ามารถปราบเดก็ วดั ได้ทกุ คนดว้ ยชน้ั เชิงมวย ตอ่ มาเจ้า
เมืองพิชัยได้นาบุตร (ช่ือเฉิด) มาฝากที่วัดเพื่อร่าเรียนวิชา เฉิดกับพวกมัก
หาทางทะเลาะวิวาทกับจ้อยเสมอ เขาจึงตัดสินใจหนีออกจากวัดขึ้นไปทาง

เหนือโดยมิได้บอกพ่อแม่และอาจารย์ เดินตามลาน้าน่านไปเรื่อยๆ เม่ือ
เหนื่อยก็หยุดพักตามวัด ท่ีวัดบ้านแก่ง จ้อย ได้พบกับครูฝึกมวยคนหนึ่งชื่อ
เท่ยี ง จงึ ฝากตัวเป็นศษิ ย์แลว้ เปล่ียนช่ือใหม่เป็นทองดี ครูเที่ยงรักนายทองดี
มากและมักเรียกนายทองดีว่านายทองดี ฟันขาว (เน่ืองจากท่านไม่เคี้ยว
หมากพลดู ังคนสมัยน้นั ) ดว้ ยความสุภาพเรยี บร้อย และขยนั ขนั แขง็ เอาใจใส่
การฝึกมวยช่วยการงานบ้านครูเที่ยงด้วยดีเสมอมา ทาให้ลูกหลานครูเที่ยง
อิจฉานายทองดีมาก จนหาทางกลั่นแกล้งต่างๆ นานา นายทองดี ฟันขาว
เห็นว่าอยู่บ้านแก่งต่อไปคงลาบาก ประกอบ ครูเท่ียงก็ถ่ายทอดวิชามวยให้
จบหมดส้นิ แลว้ จงึ กราบลาครขู ึ้นเหนือตอ่ ไป

วัดวงั เตาหม้อ(วดั ทา่ ถนน)

เมื่อเดินทางถึงบางโพได้เข้าพักท่ีวดั วงั เตาหม้อ (ปจั จบุ นั คอื วดั ท่าถนน)
พอดกี บั มีการแสดงง้ิว จึงอยู่ดูอยู่เจ็ดวันเจ็ดคืน นายทองดี ฟันขาว สนใจง้ิว
แสดง ท่าทางหกคะเมน จึงจดจาไปฝึกหัดจนจดจาท่าง้ิวได้ท้ังหมดสามารถ
กระโดดข้ามศีรษะคนยนื ไดอ้ ย่างสบายจากนัน้ ก็ลาพระสงฆ์วัดวงั เตาหม้อขน้ึ
ไปท่าเสา ขอสมัครเป็นลูกศิษย์ครูเมฆ ซึ่งมีช่ือเสียงในการสอนมวยมาก ครู
เมฆรกั นิสยั ใจคอจึงถ่ายทอดวชิ าการชกมวยใหจ้ นหมดส้ิน ขณะน้ันนายทอง
ดี ฟันขาว อายุได้ 18 ปี ต่อมาได้มีโอกาสชกมวยในงานไหว้พระแท่นศิลา
อาสน์ กบั นายถึก ศษิ ยเ์ อกของครูนลิ นายถกึ ไม่สามารถป้องกันได้ ถูก
เตะสลบไปนาน ประมาณ 10 นาที ครูนิลอับอายมากจึงท้าครูเมฆชกกัน
นายทองดี ฟันขาว ได้กราบอ้อนวอนขอร้อง ขอชกแทนครูเมฆ และได้ตลุย
เตะต่อยจนครูนิลฟันหลุดถึง 4 ซี่ เลือดเต็มปากสลบอยู่เป็นเวลานาน
ช่ือเสียงนายทองดี ฟันขาว กระฉอ่ นไปทว่ั เมืองทุ่งยั้ง ลับแล พิชัย และเมือง
ฝาง นายทองดีอยู่กับครูเมฆประมาณ 2 ปี ก็ขอลาไปศึกษา การฟันดาบ ท่ี
เมอื งสวรรคโลก ด้วยความฉลาดมีไหวพรบิ เขาใช้เวลาเพียง 3 เดอื น ก็เรยี น
ฟันดาบสาเร็จเป็นท่ีพิศวงต่อครูผู้สอนยิ่งนัก หลังจากน้ัน ก็ไปเท่ียวเมือง
สุโขทัยและเมืองตากระหว่างทางได้รับศิษย์ไว้ 1 คน ชื่อบุญเกิด ครั้งท่ีบุญ
เกิดถูกเสือคาบไปน้ัน ทองดีได้ช่วยบุญเกิดไว้โดยการแทงมีดท่ีปากเสือ จน
เปน็ ท่รี ่าลอื ไปท่วั

รับราชการ

เม่ือท่านเดินทางถึงเมืองตาก ขณะนั้นได้มีพิธีถือน้าพิพัฒน์สัตยาท่ีวัด
ใหญ่เจ้าเมอื งตาก สมเดจ็ พระเจา้ กรงุ ธนบุรีจดั ให้มีมวยฉลองดว้ ย นายทองดี
ฟันขาว ดใี จมากเขา้ ไปเปรียบมวยกับครหู ้าว ซ่งึ เปน็ ครมู วยมอื ดขี องเจา้ เมอื ง
ตาก และมอี ิทธิพลมาก นายทองดี ฟันขาว ใช้ความว่องไวใช้หมัดศอก และ
เตะขากรรไกรจนครูห้าวสลบไปเจ้าเมอื งตากจึงถามวา่ สามารถชกนกั มวยอน่ื
อกี ไดห้ รอื ไม่ นายทองดี ฟนั ขาว บอกว่าสามารถชกได้อกี เจ้าเมอื งตากจงึ ให้
ชกกับครูหมึกครูมวยร่างสูงใหญ่ ผิวดา นายทองดี เตะซ้ายเตะขวา บริเวณ
ขากรรไกร จนครูหมึกล้มลงสลบไป เจ้าเมืองตากพอใจมากให้เงิน
3 ตาลึง และชักชวนให้อยู่ด้วย นายทองดี ฟันขาว จึงได้ถวายตัวเป็นทหาร
ของเจ้าเมืองตาก (สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี) ต้ังแต่บัดน้ัน รับใช้เป็นที่
โปรดปรานมาก ได้รับยศเป็น “หลวงพิชัยอาสา” เม่ือเจ้าเมืองตากได้รับ

พระราชทานโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระยาวชิรปราการ หลวงพิชัยอาสาได้
ติดตามไปรับใช้อย่างใกล้ชิด และเป็นเวลาเดียวท่ีพม่ายกทัพล้อม กรุงศรี
อยุธยา และได้ติดตามพระยาวชิรปราการ (เจ้าเมืองตาก)ตีฝ่าทหารพม่า
ออกมาต้ังทัพอยู่ที่วัดพิชัย นอกกรุง หลังจากน้ันไม่ก่ีเพลาก็เสียกรุงโดย
เดด็ ขาดแกพ่ ม่าเมอ่ื วนั ท่ี 7 เมษายน2310

ต่อมาทัพเจ้าเมืองตาก มาตั้งมั่นอยู่ท่ีเมืองจันทบูรได้ยกทัพจากเมือง
จันทบูรโดยทางนา้ เขา้ ทางปากนา้ สมุทรปราการขึน้ ไปตีเมืองธนบรุ ี ศกึ กชู้ าติ
อย่างแท้จริงได้เริ่มขึ้นในเช้าวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันศุกร์ที่ 6
พฤศจิกายน พ.ศ. 2310 ณ ค่ายโพธิส์ ามตน้ ซึ่งอยู่เหนอื กรุงศรีอยุธยาขึ้นไป
เล็กนอ้ ย มกี องกาลงั ของพมา่ คุมเชิงอยู่ มี สกุ ้พี ระนายกองเปน็ ผ้บู ังคบั บญั ชา

พระเจ้าตากสินรบชนะพมา่ ที่คา่ ยโพธ์สิ ามต้น ซึง่ ถอื เปน็ การกเู้ อกราชคนื จาก
พม่าได้สาเร็จโดยใช้เวลาเพียง 7 เดือนเศษเท่าน้ันนับจากเสียกรุงศรีอยุธยา
ในปี พ.ศ. 2310 ปตี อ่ มาพระเจ้าตากได้ย้ายราชธานจี ากกรุงศรอี ยธุ ยาไปอยู่
ที่กรุงธนบุรีซึ่งมีช่ือเต็มว่า “กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร” และได้ปราบดาภิเษก
ขึน้ เป็นกษัตริย์ ทรงพระนามวา่ สมเดจ็ พระบรมราชาธริ าชที่ 4

ต่อมาพระยาพิชัยได้ติดตามรับใช้ใกล้ชิดเข้าร่วมปราบปรามหัวเมือง
เหนือในปีพ.ศ.2313 สมเด็จพระเจ้ากรงุ ธนบรุ ีจึงโปรดเกล้าฯ แตง่ ตัง้ ให้เป็น
พระยาศรีหราชเดโช ผู้ร้ังเมืองพิชัย หรือเรียกอีกนามหนึ่งคือ ออกญาศรี

สุริยะราชาไชย ศักดินา 5000 และต่อมาพระยาพิชัยได้เข้าร่วมรบในเหตุ
พพิ าทระหวา่ งไทยกบั พมา่ ด้วยกนั 9 คร้งั คือ

คร้ังท่ี1 รบกบั พม่าท่บี างกุง้ พ.ศ.2310
ครัง้ ท่ี 2 พม่าตสี วรรคโลก พ.ศ.2313
ครง้ั ท่ี3 ทัพไทยตเี มอื งเชยี งใหม่ครง้ั ท่ี 1 พ.ศ.2313
ครั้งท่ี 4 พม่าตีเมอื งพชิ ัยครง้ั ท่ี1 พ.ศ.2315

วดั เอกา อาเภอพชิ ยั จหั วดั อตุ รดติ ถ์

ครั้งที่ 5 พม่าตีเมืองพิชัยครั้งท่ี 2 พ.ศ.2316 และในคร้ังน้ีเกิดขึ้นเม่ือ
โปสพุ ลาแม่ทัพใหญ่ของพม่านาทัพลงมาตเี มืองพิชยั เอง แต่ท่านพระยาพิชัย
รตู้ วั ก่อนจงึ นดั กับพระยาสุรสีห์ ยกกองทัพไปดกั ซุม่ รอพม่าอยกู่ ลางทาง ศึก
ครงั้ น้ีพระยาพิชยั จับดาบสองมอื คาดด้าย ออกไลฟ่ ันแทงพม่าอยา่ งชุลมนุ ณ
สมรภูมิบริเวณ วัดเอกา เมื่อวันอังคาร เดือนย่ี แรม 7 ค่า ปีมะเส็ง พ.ศ.
2316 (ตรงกบั วนั ท่ี 7 มกราคม พ.ศ. 2316)

ในขณะที่กาลังสู้รบกันชุลมุน ท่านพระยาพิชัยเหยียบดินล่ืนเสียหลัก
จะล้ม จึงเอาดาบยันดินไว้เพื่อไม่ให้ล้มจนดาบข้างขวาหัก แต่กระนั้นก็ยัง

เข้าไล่ฟันทหารพม่าเป็นสามารถ สร้างความประทับใจแก่ทหารท่ีร่วมรบ
ด้วยกัน จนโจษขานร่าลือกนั ไปทั่ว และพรอ้ มใจกนั ขนานนามท่าน วา่ "พระ
ยาพชิ ยั (ดาบหัก)"

ช่ือเสียงในการรบครั้งน้ีเป็นท่ีโจษจันไปจนถึงพระนครและถูก
บันทึกไว้ในพระราชพงศวดาร ถึงความกล้าหาญ ในการสงคราม รักษา
หน้าที่ในการรบ แม้ดาบจะหักก็ยังต่อสู้จนทัพพม่าแตกพ่ายกลับไปเมือง
เชยี งใหม่ นบั แตน่ ้นั ทา่ นจึงได้ชื่อวา่ พระยาพิชัย(ดาบหกั )

คร้งั ท่ี 6 ทัพไทยตีเมอื งเชียงใหม่ครั้งท่ี 2 พ.ศ.2317
ครั้งท่ี 7 รบกับพม่าท่ีบางแกว้ เมอื งราชบุรี พ.ศ.2317
ครั้งท่ี 8 เมอื่ อะแซหวนุ่ กห้ี วั เมอื งฝา่ ยเหนือ พ.ศ.2318 อะแซหวุ่นก้ีนา
ทพั เข้าตีหัวเมืองฝ่ายเหนือที่เมืองพิชัย รวมถึงเมืองอื่นๆเช่น เมืองพิษณุโลก
สวรรคโลก จนเสียหายยับเยิน พระยาพิชัยเข้าร่วมทัพหลวงสู้ศึกพม่าอยู่
เป็นเวลานาน แต่ทัพพม่าต้องถอยกลับเนื่องจากการสวรรคตของพระเจ้า
มังระ แหง่ กรุงอังวะ หลงั จากนั้นท่านจึงกลับไปฟ้นื ฟูเมืองพิชัย รวบรวมคน
ไทยที่หนเี ขา้ ไปอยู่ตามปา่ ตามเขาให้กลับมาอยใู่ นเมอื งพชิ ัยตามเดมิ
คร้ังท่ี 9 รบกับพม่าที่เมืองอุทัยธานี พ.ศ.2319 หลังจากน้ันพระยา
พชิ ยั (ดาบหกั ) คงอยรู่ กั ษาเมอื งพิชัย อันเป็นเมืองหน้าด่านที่สาคัญจนถึงสิ้น
แผ่นดนิ สมเดจ็ พระเจ้ากรุงธนบุรี

"อาวุธคู่กายของพระยาพิชัยดาบหัก มีดาบที่ช่ือว่า ดาบนันทกาวุธ
ดาบคู่กายพ่อพระยาพิชัย "ดาบนันทกาวุธ" แปลว่า ดาบที่สยบทหารของ
พระเจ้านันทบุเรง ดาบนามนี้สมเด็จพระนเรศวรฯ ทรงพระราชทานใน
คราว บรรดาศักด์ิ "ขุนแสนสะท้านศึก" เสมือนตาแหน่งจาตุรงค์บาทเดินคู่
ชา้ งศึกของพระองค์ หลงั จากสิน้ รัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรฯ ชอ่ื ของขุนพระ
นายแสนศึกสะท้านได้สูญหายไปพร้อมกับดาบเหล็กน้าพี้คู่ ที่ชื่อว่า....
"ดาบนันทกาวธุ " สบื มาภายหลงั ...ชา่ งตเี หล็กหลวงชาว โปรตุเกตุ นามว่า ปี
แอร์ สมิทธ์ ได้พบ "ดาบนันทกาวุธ" จากการท่ีกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายพม่า

ตกมาชนกับยอดปรางคเ์ จดีย์ ยอดหน่งึ "ดาบนันทกาวุธ" ได้บรรจุไว้ในเจดีย์
ดังกล่าว ปีแอร์ สมิทธ์ ได้มีโอกาสมอบดาบ "ดาบนันทกาวุธ" คู่น้ันให้กับ
"หลวงพิชัยอาสา" เพื่อทดแทนดาบสองมือของหลวงพิชัยอาสาด้วยเห็นว่า
ดาบดคี วรคู่กับนักรบเช่น..."หลวงพชิ ยั อาสา”

พระปรางคว์ ดั ราชคฤหว์ รวิหาร สถานทบี่ รรจุอฐั ขิ องพระยาพชิ ยั ดาบหกั

ถวายชวี ติ เปน็ ราชพลี

ในปี พ.ศ. 2325 หลังจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ถูกสาเร็จ
โทษ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เล็งเห็นว่าพระยาพิชัยเป็นขุนนางคู่
พระทยั สมเดจ็ พระเจา้ กรุงธนบุรีท่ีมีฝีมือและมีความซื่อสัตย์ จึงชวนพระยา
พิชัยเข้ารับราชการในแผ่นดินใหม่ แต่พระยาพิชัยไม่ขอรับตาแหน่ง ด้วย
ท่านเป็นคนจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
และถือคติว่า "ข้าสองเจ้า บ่าวสองนายมิดี" จึงขอให้สมเด็จเจ้าพระยามหา
กษัตริย์ศึก สาเร็จโทษตนเป็นการถวายชีวิตตายตามสมเด็จพระเจ้าตากสิน
มหาราช สาเร็จโทษถูกประหารชีวิตในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2325
ณ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานครฯ สิริอายรุ วมได้ 41 ปี

ซึง่ ทายาทของพระยาพิชัยดาบหัก ก็ได้รับราชการสืบมา โดยท่านเป็น
ต้นตระกลู ของนามสกลุ วชิ ัยขทั คะ วิชยั ลกั ขณา ศรีศรากร พชิ ยั กลุ ศิรปิ าละ
ดิฐานนท์ หลังจากทา่ นไดถ้ กู สาเร็จโทษ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้
ปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่ง ราชวงศ์จักรีเฉลิมพระนามว่า
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์จึงได้มีรับสั่งให้
สร้างพระปรางค์นาอัฐิของท่านไปบรรจุไว้ ณ วัดราชคฤห์วรวิหาร ซ่ึงพระ
ปรางค์น้ีก็ยงั ปรากฏสืบมาจนปัจจุบัน

พระยาพิชัยดาบหักไดส้ รา้ งมรดกอนั ควรแก่การยกยอ่ งสรรเสรญิ ให้สบื
ทอดมาถึงปัจจุบันได้แก่ ความซ่ือสัตย์สุจริต ความกตัญญูกตเวที ความเด็ด
เดี่ยวเฉียบขาดกล้าหาญ รวมถึงความรักชาติ ต้องการให้ชาติเจริญรุ่งเรือง
มน่ั คงตลอดไป

.................................................................

แหลง่ ข้อมลู

ปรามนิ ทร์ เครอื ทอง.“ชาระประวตั วิ รี บุรษุ ‘พระยาพชิ ยั ดาบหกั ’ ของแท้ หรอื
เรอ่ื งแตง่ ?”. ศลิ ปวฒั นธรรม ฉบบั ธนั วาคม 2552 นธิ ิ เอยี วศรวี งศ์. “การ
เมอื งไทยสมยั พระเจา้ กรงุ ธนบรุ ี”. พมิ พ์ คร้งั ท่ี 9. กรงุ เทพฯ : มตชิ น,
2550.

บทความเรอ่ื ง ชาแหละประวตั วิ รี บรุ ษุ “พระยาพชิ ยั ดาบหกั ” ของแท้ หรอื เรอ่ื ง

แตง่ โดย ปรามนิ ทร์ เครอื ทอง นติ ยสารศลิ ปวัฒนธรรม ฉบับธนั วาคม 2552.

www.bannjomyyut.com
www.facebook.com
www.khaosod.co.th
www. matichon.co.th>การเมอื ง
museumthailand.com
www.nectec.or.th
www. se-ed.com
www.silpa-mag.com
www. trueplookpanya.com
www.uttaradit.go.th
site.google.com
th.wikipedia.org

ขอขอบคุณขอ้ มลู และภาพจากเว็บไซตต์ า่ งๆ


Click to View FlipBook Version