The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พระประวัติ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ประสาร ธาราพรรค์, 2021-12-10 20:00:59

พระประวัติ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส

พระประวัติ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส

พระประวตั ิ
สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานชุ ติ ชิโนรส

ผเู้ รยี บเรยี ง นายประสาร ธาราพรรค์

สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานชุ ติ ชโิ นรส
11 ธันวา วนั กรมพระปรมานชุ ติ ฯ

ยอดนกั คดิ รตั นกวี ศรสี ยาม
มหาสงั ฆ ปรนิ ายก ทว่ั เขตคาม
มีพระนาม เกยี รตเิ กรกิ กอ้ ง มายาวนาน
ปธานาธบิ ดี แหง่ สงฆ์ องคท์ ่ีเจด็
เปรยี บดจุ เพชร สงั ฆราชา ชนกลา่ วขาน
เปน็ เจา้ นาย พระองคแ์ รก ทที่ รงงาน
ทรงเชย่ี วชาญ สรา้ งผลงาน นา่ ชน่ื ชม

ทรงเป็นปราชญ์ คดโี ลก คดธี รรม
วรรณกรรม ลว้ นไพเราะ เสนาะสม
ทง้ั รอ้ ยแกว้ รอ้ ยกรอง สดุ รน่ื รมย์
ลว้ นอดุ ม ทรงคณุ คา่ คาประพนั ธ์
พระอจั ฉรยิ ภาพ อกั ษรศาสตร์ เลอ่ื งลอื ชอื่
พระองคค์ อื เอตทคั คะ สดุ สรา้ งสรรค์
ยเู นสโก ยกยอ่ งทา่ น โลกรพู้ ลนั
ผลงานนน้ั ดา้ นวัฒนธรรม เลศิ วไิ ล

พระนพิ นธ์ ทางวรรณศลิ ป์ พระศาสนา

ปวงประชา นอ้ มราลกึ เหมาะสมยั
เปน็ วรรณคดี ทสี่ าคญั ของชาตไิ ทย
ลว้ นยง่ิ ใหญ่ รกั ษาไว้ ใหย้ นื ยง
พระปรชี า สามารถ ทรงยอดเยยี่ ม
ทกุ เรอื่ งเปย่ี ม ความโดดเดน่ สดุ สงู สง่
พระเกยี รตยิ ศ ชนประจกั ษ์ รกั ษ์ธารง
ใจมน่ั คง ลว้ นศรทั ธา องคว์ าสกุ รี

.......................................................

ประสาร ธาราพรรค์ ผ้ปู ระพนั ธ์

พระประวัติ สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานชุ ติ ชโิ นรส

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานชุ ติ ชโิ นรส ทรงเป็นเจา้ นายพระองค์
แรกทที่ รงได้รับสถาปนาให้ดารงตาแหน่งสมเดจ็ พระสงั ฆราช พระองคท์ ี่ 7 องคพ์ ระ
ประมุขแห่งคณะสงฆ์ไทยนับเป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่ในการปกครองของคณะ
สงฆ์ไทยเพราะแต่ก่อนมานับแต่ยุคตน้ แห่งกรุงรตั นโกสนิ ทร์ย้อนไปจนถึงยุคกรุงศรี
อยุธยาเป็นราชธานไี ม่ปรากฏว่ามเี จา้ นายพระองคใ์ ด แม้ทรงผนวชอยจู่ นตลอดพระ
ชนมชีพจะได้รบั การสถาปนาเป็นสมเดจ็ พระสังฆราช

พระอจั ฉรยิ ภาพ สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส มีพระ
อัจฉริยภาพหลายด้าน ในทางอักษรศาสตร์ ก็ได้นิพนธ์เรื่องฉันท์มาตราพฤติ และ

วรรณพฤติ ตาราโคลงกลบท คากฤษฎี เปน็ ตน้ นอกจากน้ียังได้นพิ นธบ์ ทกวีอกี เป็น
จานวนมาก ทีล่ ้วนมีคุณค่าเป็นเพชรน้าเอกทางวรรณกรรมของไทยตลอดมา

ในปี พ.ศ. 2532 องค์การยูเนสโกได้มีมติรับข้อเสนอของคณะผู้แทนไทยใน
การประชุมสมัยสามัญคร้ังท่ี 25 ท่ีสานักงานใหญ่ในกรุงปารีส ประเทศฝร่ังเศส
ประกาศยกยอ่ งสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส เป็นบุคคลผู้มี
ผลงานดีเดน่ ทางด้านวัฒนธรรมระดบั โลก

องค์การศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์และวฒั นธรรมแหง่ สหประชาชาติ (ยเู นสโก) ได้
ประกาศรายชือ่ บุคคลสาคัญผมู้ ผี ลงานดีเดน่ ทางดา้ นวัฒนธรรมระดบั โลก ประจาปี
พุทธศักราช 2533 - 2534 และถวายพระเกียรติคณุ สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรม
พระปรมานุชิตชิโนรส ในฐานะ ปูชนียบุคคลสาคัญผู้มีผลงาน ดีเด่นทางด้าน
วัฒนธรรมระดับโลกประจาปพี ุทธศักราช 2533 ตามมติท่ีประชมุ สมัยสามัญ ครั้งที่

25 ณ สานกั งานใหญ่ยูเนสโก กรุงปารสี ประเทศฝรง่ั เศส ระหว่างวันที่ 17 ตุลาคม
– 16 พฤศจิกายน 2532 และชกั ชวนใหป้ ระเทศสมาชกิ ร่วมจดั กจิ กรรมฉลองเนื่อง
ในวนั คลา้ ยวันประสูติครบ 200 ปี วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2533 นับเป็นพระสงฆ์
รปู แรกที่ได้รับการถวายเกยี รตนิ ี้
พระประวตั สิ มเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานชุ ติ ชโิ นรส

สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชติ ชโิ นรส เปน็ พระโอรสพระองค์ที่
28 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และเจ้าจอมมารดาจุ้ย (ท้าวทรง
กันดาล) เป็นมารดา ประสูติเม่ือวันเสาร์ เดือนอ้าย ขึ้น 5 ค่า ตรงกับวันที่ 11
ธันวาคม ปจี อ พ.ศ. 2333 พระนามเดิมพระองคเ์ จา้ ชายวาสกุ รี เม่ือพระชนม์ได้ 12
พรรษา ตรงกบั ปจี อ พ.ศ. 2345 ได้ทรงผนวชเป็นสามเณร โดยผนวชเป็นหางนาค

ณ วัดพระศรีสรเพ็ชญ์ (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) ครั้นผนวชแล้วจึงเสด็จไป
ประทบั อยู่ ณ วดั พระเชตพุ นวมิ ลมังคลาราม ในระหว่างที่ผนวชเป็นสามเณรอยู่น้นั
ได้ทรงศกึ ษาในสานักสมเด็จพระพนรตั น วัดพระเชตพุ นวิมลมังคลาราม ทรงศึกษา
อกั ษรทงั้ ไทย ขอม ภาษามคธ (บาลี) โบราณคดี ตลอดจนวธิ ที าเลขยันตต์ า่ งๆ ตาม
คตินิยมในสมยั นั้น

ต่อมาเมื่อปีมะเมีย พ.ศ. 2353 ขณะดารงพระยศเป็นพระเจ้าน้องยาเธอ
พระองค์เจ้าวาสุกรี ในรัชกาลท่ี 2 ได้ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ และทรงศึกษาใน
สานักสมเดจ็ พระนพรัตน์ วัดพระเชตุพนฯ

วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คราราม
ลุปีพุทธศักราช 2357 สมเด็จพระพนรัตนถึงแก่มรณภาพในระหว่างพรรษา
ยังไม่ทันจะได้โปรดให้พระเถระรูปใดเป็นอธิบดีสงฆ์วัดพระเชตุพนฯครั้นออก

พรรษาแล้ว ในช่วงเวลาพระกฐนิ พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลิศหลา้ นภาลยั เสดจ็ ไป
พระราชทานพระกฐินถงึ วัดพระเชตพุ นฯ จึงทรงพระกรณุ าโปรดสถาปนาแต่งตั้งให้
สมเดจ็ ฯ กรมพระปรมานชุ ติ ชิโนรส ขึน้ ป็น กรมหมนื่ นชุ ิตชโิ นรส ศรีสคุ ตขตั ตยิ วงศ์
สถิต ณ วัดพระเชตุพนฯ โปรดให้ดารงตาแหน่งพระราชาคณะ นับเป็นคร้ังแรกที่
ทรงต้ังพระบรมวงศานวุ งศใ์ ห้ดารงสมณศักด์ิ

พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว
ปีชวด พุทธศักราช 2359 และในขณะที่ทรงดารงพระอิสริยยศเป็นกรมหมื่น
อยู่นี้ ได้ทรงทาหน้าท่ีเป็นพระอาจารย์ของเจ้านายหลายพระองค์ โดยเฉพาะ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เม่ือทรงผนวชเป็นพระภิกษุอยู่น้ัน ทรง
เคารพเล่ือมใสในสมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรสเป็นอย่างย่ิงแม้ว่าจะมี

พระชนมายุแก่กว่าพระองค์เพียง 14 พรรษาก็ตาม แต่ก็ทรงต้ังอยู่ในฐานะเป็นพระ
ปิตุลา สมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงตั้งพระองค์อยู่ในฐานะเป็นครุฐานีย
บุคคลในพระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัวเป็นอย่างสูง เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงลาสิกขา
เสด็จข้นึ ครองราชย์ เมอ่ื วันท่ี 25 มีนาคม พทุ ธศักราช 2394 แล้ว ก็ได้ทรงสถาปนา
สมเด็จฯ กรมพระปรมานชุ ิตชโิ นรส ขนึ้ เป็น "กรมสมเดจ็ พระปรมานุชิตชิโนรส"และ
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงให้รวมวัดในแขวง
กรงุ เทพมหานคร ขึน้ เปน็ คณะหน่งึ เรยี กวา่ คณะกลาง แลว้ ได้สถาปนากรมหมน่ื นชุ ติ
ชิโนรสให้ดารงสมณศักดิ์เสมอเจ้าคณะรอง และทรงตั้งเป็นเจ้าคณะกลางทรง
ปกครองวัดในเขตกรงุ เทพฯ และธนบรุ ี 61 วดั

พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั

พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมหมนื่ นชุ ติ ชโิ นรส

ต่อมาเม่ือปีกุน พ.ศ. 2394 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรด
เกลา้ ฯ ใหเ้ ล่ือนพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมหมื่นนชุ ติ ชิโนรส ขึ้นเป็น สมเด็จพระบรม
วงศ์เธอ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส ศรีสุคตขัตติยวงศบรมพงศาธิบดี จักรี
บรมนารถ ปฐมพันธุมหาราชวรังกูร ปรเมนทรเรนทรสูริย์สัมมานาภิสักกาโรดมส
ถาร อริยสมศีลาจารพิเศษมหาวิมล มงคลธรรมเจดีย์ ยุตมุตวาทีสุวิรมนุญ อดุลย
คณุ คณาธาร มโหฬารเมตยาภธิ ยาศรัย ไตรปฎิ กกลาโกสล เบญจปดลเศวตฉัตร สิริ
รัตโนปลักษณมหาสมณุตมาภิเศกาภิสิต ปรมุกกฤษฐสมณศักดิธารง มหาสงฆปริ
นายก พุทธศาสนดิลกโลกุตตมมหาบัณฑิตย สุนทรวิจิตรปฏิภาณ ไวยัติญาณมหา
กระวี พุทธาทิศรีรัตนตรัยคุณารักษ เอกอรรคมหาอนาคาริยรัตน์ สยามาทิโลก
ปฏิพัทธพุทธบริษัทยเนตร สมณคณินทราธิเบศรสกลพุทธจักโรประการกิจ
สฤษดิศุภการ มหาปาโมกษประธานวโรดม บรมนารถบพิตร (ต่อมาในรัชกาลที่ 6
จึงโปรดให้เปลี่ยนเป็นกรมพระตามยศเจ้ากรม) ทรงสมณศักด์ิเป็นพระมหาสังฆป

รณิ ายก ทว่ั พระราชอาณาเขต ใหจ้ ัดตั้ง พระราชพธิ มี หาสมณตุ มาภเิ ษก ทว่ี ัดพระเช
ตุพนวิมลมังคลารามมีทั้งพิธีสงฆ์ และพิธีพราหมณ์ คล้ายกับพระราชพิธีบรม
ราชาภิเษก ซึ่งนับว่าเป็นคร้ังแรกของคณะสงฆ์ไทยได้ทรงรับมหาสมณุตมาภิเษก
เป็นสมเด็จพระมหาสังฆปรินายก ทรงพระนามกรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส
ศรสี ุคตขัตตยิ วงศ์ บรมพงศาธบิ ดี จักรีบรมนาถ ปฐมพนั ธุมหาราชวรัลกูร ฯลฯ

พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ วั
เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์แลว้ ตาแหนง่ สมเดจ็ พระสงั ฆราชกว็ า่ งตลอดรชั สมยั
พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจา้ อยหู่ วั เนื่องจากไมม่ พี ระเถระรปู ใดมคี ณุ สมบตั อิ ยู่
ในฐานะที่จะทรงสถาปนาตามหลักเกณฑ์ กล่าวคือ ตามพระราชประเพณีนิยมที่มี
มาแต่โบราณ พระเถระท่ีจะทรงต้ังเป็น สมเด็จพระสังฆราช และสมเด็จพระราชา

คณะ น้ัน ก็เฉพาะผู้ทรงคุณสมบัติพิเศษ คือเป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นอาจารย์เป็นท่ี
ทรงนับถือเหมือนอย่างพระอุปัชฌาย์ หรือพระอาจารย์ หรือเป็นผู้ใหญ่ ผู้เฒ่า มี
อายแุ กก่ ว่าพระชนมพรรษา แม้ว่าจะวา่ งสมเดจ็ พระสังฆราช แต่การปกครองคณะ
สงฆ์ก็สามารถดาเนินไปได้ด้วยดี เน่ืองจากแต่โบราณมา พระมหากษัตริย์ทรงถือ
เปน็ พระราชภาระในการปกครองดูแลคณะสงฆ์ โดยมเี จา้ นาย หรือขุนนางผใู้ หญใ่ น
ตาแหน่ง เจ้ากรมสังฆการี เป็นผู้กากับดูแลแทนพระองค์ สมเด็จพระสังฆราชมิได้
ทรงบัญชาการคณะสงฆ์โดยตรง ทรงดารงฐานะปูชนียบุคคล การปกครองใน
ลกั ษณะน้ี ไดม้ าเปล่ยี นแปลงไปในรชั สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยหู่ วั

พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยู่หวั
ภายหลังพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดาริว่า การเรียก
พระนามพระบรมราชวงศ์ซง่ึ ดารงสมณศักด์เิ ป็นพระประมุขแห่งสังฆมณฑลแต่เดิม
นั้นเรียกตามพระอิสริยยศแห่งพระบรมราชวงศ์ ไม่ได้เรียกตามสมณศักด์ิของพระ
ประมขุ แหง่ สงั ฆมณฑล คือ "สมเดจ็ พระอริยวงศาคตญาณ" หรือท่ีเรียกอย่างย่อว่า

"สมเด็จพระสังฆราช" พระองค์จึงเปลี่ยนคานาพระนามของพระบรมวงศานุวงศ์ซึ่ง
ดารงสมณศักดิ์เป็นพระประมุขแห่งสังฆมณฑลว่า "สมเด็จพระมหาสมณเจ้า"
เพ่ือให้ปรากฏพระนามในส่วนสมณศักด์ิด้วย ดังนั้น จึงเปล่ียนคานาพระนามเป็น
"สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชติ ชิโนรส

พระอัจฉรยิ ภาพ
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรสทรงเป็นกวีสาคัญย่ิง

พระองค์หนึ่งในยุครัตนโกสินทร์ ทรงได้รับคาสดุดีว่าเป็น จินตกวีไทยอย่างยอด
พระองค์หน่ีง ทรงชานาญเป็นพิเศษในด้านแต่งโคลง ลิลิต และฉันท์ ยากจะหากวี
ผู้อื่นเสมอเหมือน ได้ทรงพระนิพนธ์หนังสือต่าง ๆ ไว้เป็นจานวนมาก ทั้งบทร้อย
กรองและร้อยแก้ว สมพระเกียรติที่เป็น “รัตนกวี” ของชาติ หนังสือเหล่านั้นล้วน

ไดร้ ับนบั ถือยกยอ่ งวา่ เปน็ วรรณคดที ่ีไพเราะ และมีความสาคญั ตอ่ วรรณคดขี องไทย
อย่างย่ิง พระองค์ ได้ทรงพระนิพนธ์หนังสือต่างๆ ไว้เป็นจานวนมาก วรรณกรรม
ของพระองค์ นับว่าเปน็ สมบัตทิ ป่ี ระมาณค่ามิได้ มที งั้ รอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรอง ท่ีเปน็
ร้อยแก้ว เช่น พระปฐมสมโพธิ พระธรรมเทศนาพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา เป็นต้น
ส่วนใหญ่เป็นแล้วเป็นร้อยกรองที่ทรงเชี่ยวชาญและทรงถนัดมากคือฉันท์ เช่น
กฤษณาสอนน้องคาฉันท์ สรรพสิทธิ์คาฉันท์ สมุทรโฆษคาฉันท์ ฉันท์ดุษฎีสังเวย
กล่อมช้างพงั โดยเฉพาะทเี่ ป็นแม่บท ทรงแตง่ ตาราฉนั ทม์ าตราพฤติและวรรณพฤติ

ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย
ในจานวนพระนิพนธท์ ้ังหมด เร่ืองทไี่ ด้รบั การยกย่องทางร้อยกรองว่าดีเยี่ยม
ที่สดุ ได้แก่ ลิลิตตะเลงพา่ ย ซง่ึ เป็นวรรณคดีท่ีดเี ลศิ ทางกระบวนกลอนลิลิตอกี เร่อื ง

หนึ่งด้วย ส่วนพระนิพนธ์ร้อยแก้ว ท่ียอดเยี่ยมที่สุดน่าจะได้แก่ เรื่อง พระปฐม
สมโพธกิ ถา ซง่ึ ผู้อ่านจะไดอ้ รรถรสทั้งภาษาและวรรณคดี นอกเหนอื ไปจากเนอ้ื หาที่
เป็นพระพทุ ธประวตั อิ ีกด้วย

พระนิพนธ์ของพระองค์ท่ีแสดงถึงลักษณะคาประพันธ์ที่ทรงใช้ในการนิพนธ์
เรียกวา่ ลลิ ติ เป็นลิลิตสุภาพ ประกอบด้วยรา่ ยสภุ าพและโคลงสุภาพ โคลงทใ่ี ชม้ ที งั้
โคลง 2 โคลง 3 และโคลง 4 ตอนท้ายเป็นโคลงกระทซู้ ึง่ เป็นลักษณะคาประพันธ์ที่
สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานชุ ิตชโิ นรสทรงนยิ มใชใ้ นการนพิ นธป์ ดิ ทา้ ย
วรรณคดีทท่ี รงนพิ นธเ์ กือบทกุ เรอื่ ง

จารกึ วดั พระชตุ พุ นฯ
ในรัชกาลท่ี 3 ในโอกาสท่ีปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพน เมื่อพุทธศักราช 2375
เพ่ือให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาของประชาชน โดยรวบรวมสรรพวิชาการสาขา

ตา่ งๆ จารกึ บนแผ่นศิลาในวดั พระเชตพุ น ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ใหจ้ ารกึ แผน่

ศิลาประดบั ไวใ้ นวดั พระเชตุพนฯ โดยจารึกตาราวิชาการตา่ งๆ ในการจารกึ แผน่

ศิลาประดิษฐานไว้ในบรเิ วณวดั พระเชตุพนฯ ครง้ั น้ี สมเดจ็ ฯ กรมพระปรมานชุ ติ

ชโิ นรส ไดท้ รงพระนิพนธ์เร่ืองต่างๆ เป็นโคลง ฉันท์ กาพย์ ไว้หลายเรื่อง ท้ังยัง

ได้ทรงพระนิพนธ์โคลงด้ันบาทกุญชรและ โครงดั้นวิวิธมาลี สรรเสริญพระ

เกียรติยศพระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่ีทรงปฏิสังขรณ์ วัดพระเชตุ

พนฯ จารึกไว้ในวัดพระเชตพุ น ดังทที่ รงระบไุ ว้ในโคลงทา้ ยเร่ือง ดังนี้

บรรจงเสาวเลขแลว้ หลายคงุ ขวบฤา

ปางปน่ิ ธเรศอารงุ โลกเลยี้ ง

ทานกุ เชตพุ นผดงุ เผดิมตกึ เตม็ เอย

อาวาสอาจเพง่ เพย้ี ง แผน่ ฟา้ มาเสมอ

สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานุชิตชโิ นรส ทรงนิพนธ์คาประพันธ์ต่างๆไว้
ดงั นี้

คาประพนั ธ์ ประเภทโคลง

1. โคลงดน้ั เรอื่ งปฏสิ งั ขรณ์วดั พระเชตพุ นฯ
2. ลลิ ติ กระบวนแหพ่ ระกฐนิ พยหุ ยาตราทางสถลมารคและชลมารค
3. ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย
4. โคลงภาพฤาษดี ดั ตน
5. โคลงภาพคนตา่ งภาษา
6. โคลงกลบทดาวลอ้ มเดอื น
7. โคลงบาทกญุ ชร และววิ ิธมาลี
8. โคลงจารกึ ศาลาหนา้ พระมหาเจดยี ์ 2 หลัง
9. โคลงจารกึ ศาลาราย 16 หลงั
10.รา่ ยและโคลงบานแพนก

คาประพนั ธ์ ประเภทฉนั ท์

1. กฤษณาสอนนอ้ งคาฉนั ท์
2. สมทุ รโฆษคาฉนั ท์ ตอนปลาย

3. ตาราฉนั ทว์ รรณพฤติ และมาตรพฤติ
4. สรรพสทิ ธคิ าฉนั ท์
5. ฉนั ทส์ งั เวยกลองวนิ จิ ฉยั เภรี ในคาฉนั ทด์ ษุ ฎสี งั เวย
6. จกั รทีปนตี าราโหราศาสตร์
7. ฉนั ทด์ ษุ ฎสี งั เวยกลอ่ มชา้ งพงั
คาประพนั ธ์ ประเภทรา่ ยยาว

1. ปฐมสมโพธิกถา
2. มหาเวสสันดรชาดก (เวน้ กัณฑช์ ชู กและมหาพน)
3. ทาขวญั นาคหลวง
4. คาประกาศบรมราชาภเิ ษกรชั กาลที่ 4

คาประพนั ธป์ ระเภทรอ้ ยแก้ว
1. พระธรรมเทศนาพระราชพงศาวดารสังเขป
2. พระธรรมเทศนาพระราชพงศาวดารสังเขปและพระราชพงศาวดารยอ่
3. คาฤษฎี (พระนพิ นธร์ ว่ มกับสมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเดชา

ดศิ ร และพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงภวู เนตรนรนิ ทรฤทธ์ิ)
4. จกั รทีปนี (รอ้ ยแกว้ ปนกาพย)์ ตาราพยากรณ์ราชาภเิ ศก รชั กาลท่ี 4

คาประพนั ธ์ ประเภทกลอน

1. เพลงยาวเจา้ พระความเรยี ง
2. พระธรรมเทศนาพระราชพงศาวดารสังเขป
3. พระราชพงศาวดารกรงุ ศรอี ยธุ ยา ฉบับความสมเดจ็ ฯ กรมพระปรมานชุ ติ
ชโิ นรส เลม่ 1- 2

ภาษาบาลี

ปฐมสมโพธิกถาฉบับภาษาบาลี มีต้นฉบับอยู่ในหอสมุดแห่งชาติ เป็นพระ
คัมภีร์ใบลานจานวน 30 ผูก ผูกละประมาณ 24 หน้า เมื่อปริวรรตเป็นอักษรไทย
และแปลออกมาแล้วจะเป็นหนังสือหนาประมาณ 2,160 หน้า หรือประมาณ 270
ยก ซง่ึ เปน็ หนังสอื พระพทุ ธประวตั ิฉบับท่มี ีขนาดหนาท่สี ดุ ในโลก

ทางพระพุทธศลิ ป์

ได้ทรงคิดแบบพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ถวายพระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้า
เจ้าอยู่หัว โดยทรงเลือกพระอิริยาบถต่าง ๆ จากพุทธประวัติเป็นจานวน 37 ปาง
เริ่มตง้ั แตป่ างบาเพญ็ ทุกขกิรยิ า จนถึงปางหา้ มมาร พระพุทธรปู ปางตา่ ง ๆ เหลา่ น้ี

พระอสิ รยิ ยศ

พระเจา้ ลกู ยาเธอ พระองค์เจา้ วาสกุ รี (11 ธันวาคม พ.ศ. 2333 – 7 กนั ยายน พ.ศ.
2352)
พระเจา้ นอ้ งยาเธอ พระองค์เจา้ พระวาสกุ รี (7 กนั ยายน พ.ศ. 2352 – พ.ศ. 2356)
พระเจา้ นอ้ งยาเธอ กรมหมน่ื นชุ ติ ชโิ นรส(พ.ศ. 2356 - พ.ศ. 2394)
พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมสมเดจ็ พระปรมานชุ ติ ชโิ นรส (พ.ศ. 2394 - 9 ธันวาคม
พ.ศ. 2396)

ภายหลงั การสน้ิ พระชนม์

สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระปรมานชุ ติ ชโิ นรส (พ.ศ. 2453 - 2464)
สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานชุ ติ ชโิ นรส (พ.ศ. 2464)
สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานชุ ติ ชโิ นรส สน้ิ พระชนมายุ

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ส้ินพระชนมายุ เมื่อวัน
ศุกร์ เดือนอ้าย ข้ึน 9 ค่า ปีฉลู ปีฉลู เบญจศก จุลศักราช 1215 เวลาบ่าย 3 ตรง
กับวันท่ี 9 ธันวาคม 2396 สิริรวมพระชนมายุได้ 64 พรรษา ในฐานะท่ีทรงเป็น
ประมขุ สงฆ์ ท่ีพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงศรทั ธามาก จึงโปรดเกลา้
ฯ ให้อัญเชิญพระศพจากวัดพระเชตุพนฯ ไปประดิษฐาน ณ พระเมรุท่ีท้อง
สนามหลวง แลว้ พระราช ทานเพลิงศพ เม่ือวันเสาร์ท่ี 8 เม.ย. ข้ึน 11 ค่า เดือน 5
พ.ศ. 2397 เมื่อพระราชทานเพลิงพระศพแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า
เจ้าอย่หู ัวโปรดเกลา้ ฯ ใหอ้ ญั เชญิ พระอัฐิไปประดิษฐานไว้ท่ีพระตาหนักวัดพระเชตุ
พนฯ และโปรดให้มีตาแหน่งพระฐานานกุ รมรักษาพระอัฐติ ่อมา

ต่อมาเม่ึอพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลที่ 6 ได้โปรด
สถาปนาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระบรมราชอุปัธ
ยาจารย์ ข้ึนเปน็ สมเด็จพระมหาสมณเจา้ ฯ แลว้ ไดท้ รงพระราชดาริว่า สมเด็จพระ
เจา้ บรมวงศเ์ ธอกรมพระปรมานชุ ติ ชิโนรส ทรงพระเกยี รตคิ ณุ ทางกวนี พิ นธแ์ ละทรง
มีคุณูปการเป็นอย่างย่ิงในพระบวรพุทธศาสนา ตลอดพระชนมายุของพระองค์ จึง
ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาข้ึนเป็นสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ
เม่ือวันที่ 12 เมษายน 2464 ภายหลงั ทีส่ ้ินพระชนม์แลว้ 68 ปี

แหลง่ ข้อมลู อา้ งองิ

จดหมายเหตุเรอื่ งทรงตง้ั พระบรมวงศานวุ งศก์ รุงรตั นโกสนิ ทร์ เลม่ 1. กรงุ เทพฯ :
กรมศลิ ปากร, 2545. 508 หนา้ .

สานกั วรรณกรรมและประวตั ศิ าสตร์ กรมศลิ ปากร. ราชสกลุ วงศ.์ กรงุ เทพฯ :
สานกั วรรณกรรมและ ประวตั ศิ าสตร์ กรมศลิ ปากร, 2554. 296 หนา้ . หนา้ 68.
จุลลดา ภกั ดภี มู นิ ทร์ (หมอ่ มหลวงศรฟี ้า ลดาวลั ย์ มหาวรรณ). เวยี งวงั เลม่ 1.
กรงุ เทพ : เพอื่ นดี บรษิ ทั อกั ษรโสภณ จากดั , พมิ พส์ านกั งาน
คณะกรรมการวฒั นธรรมแหง่ ชาติ. 200 ปี สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้

กรมพระปรมานชุ ติ ชโิ นรส. กรงุ เทพฯ : อมรนิ ทรพ์ ร้นิ ตง้ิ , 2533
w.w.w. dharma-gateway.com
w.w.w.khaosod.co.th
w.w.w.lib.ru.ac.th
w.w.w.sac.or.th
w.w.w.silpa-mag.com
th.wikipedia.org › wiki
sangkhatikan.com
vajiray.org
http://www.watpho.com

ขอขอบคณุ ภาพและขอ้ มลู จากเวบ็ ไซตต์ า่ งๆ


Click to View FlipBook Version