พระองค์ทรงพระประชวรอยู่เนื่อง ๆ อันเนื่องมาจากพระพลนามัยของพระองค์ไม่
ทรงแข็งแรงมาตงั้ แตท่ รงพระเยาว์ โดย พ.ศ. 2480 พระองคท์ รงพระประชวรมากด้วยโรค
ตัวบิดเขา้ ไปอยู่ในพระยกนะ (ตับ) แต่แพทย์ได้รักษาจนเป็นปกติ พระอาการประชวรของ
พระองค์กาเริบหนักข้ึนโดยลาดับต้ังแต่ ธันวาคม พ.ศ. 2483 แต่ก็เริ่มทุเลาข้ึนเร่ือยมา
ต่อมาได้เริ่มประชวรหนักด้วยโรคพระหทัยพิการอีก และทรงอ่อนเพลียลงทุกวัน ทุก
วนั เนอื่ งจากเสวยไมค่ ่อยได้ ตอ้ งบรรทมอยบู่ นพระทแี่ ทบตลอดวนั ในระยะทป่ี ระชวรหนกั
นี้เอง จึงจาเป็นต้องจา้ งพยาบาลมาประจาพระองค์ และเปน็ ผ้ทู ่ไี ดถ้ วายการพยาบาลอยู่
ตราบจนวาระสุดท้าย ขณะท่ีทรงบรรทมอยู่บนพระท่ี ดร.หลุย เวลเลน หมอประจา
พระองค์ได้พยายามถวายการรักษาจนสุดฝีมือ และยังได้นาแพทย์ผู้เช่ียวชาญเฉพาะโรค
มาร่วมด้วยเป็นบางครั้ง ถึงกระน้ันก็หาได้ทาให้พระอาการของพระองค์ดีขึ้นไม่ สมเด็จ
พระปกเกล้าฯ ทรงสง่ั ไวว้ า่ “ถา้ พระองคส์ วรรคตเมอ่ื ไรใหท้ รงพระภูษาแดงและทรงสะพัก
ผ้าขาวผืนเดียวเอาลงหีบแล้วให้รีบถวายพระเพลิงพระบรมศพให้เร็วเท่าที่จะทาได้ และ
ไม่ให้รับเกียรติยศอย่างใดๆ จนอย่างเดียว ท้ังในทางต่างประเทศและทางไทย ให้เอาซอ
ไวโอลินไปเล่นเพลงท่ีพระองค์โปรดคันเดียวในเวลาที่กาลังถวายพระเพลิง เพื่อแทนการ
ประโคม และถ้า......ยงั มอี านาจอยูต่ ราบใด ก็ไม่ให้นาพระบรมอฐั กิ ลบั มาบา้ นเมอื งเปน็ อนั
ขาด”
วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 พระองค์เสด็จสวรรคตโดยฉับพลันด้วยพระหทัย
วาย ขณะท่ีมพี ระชนมายุ 48 พรรษา นับเวลาในการเสด็จครองราชยไ์ ด้ 9 ปี
ทา่ นหญงิ พนู พศิ มยั
ทา่ นหญงิ พนู พศิ มัย ได้บันทึกไว้ใน "ส่งิ ที่ข้าพเจ้าพบเห็น" จากการเสด็จสวรรคตโดย
ท่านได้รับฟังสืบต่อกันมาข้อความมีดังต่อไปนี้"......เราได้รู้เร่ืองสวรรคตต่อมาภายหลัง
ว่า สมเด็จพระปกเกล้าฯ ไม่ทรงมพี ระอนามยั ดมี าแตป่ ระชวรแลว้ ตอ้ งมนี างพยาบาลคอย
ประจาดูแลเรอ่ื งพระหทยั อยู่ด้วยเสมอ ในตอนท่ไี ทยทาสงครามกับอนิ โดจนี กท็ รงราคาญ
อยู่เปน็ นติ ย์ ครนั้ พอเหน็ หนังสือพมิ พ์วา่ ญ่ปี ุ่นจะเป็นผูไ้ กล่เกลี่ยก็หมดกาลังพระทัย เช้า
วันที่ 30 น้ันก็ยังทรงสบายเป็นปกติ จนสมเด็จพระนางเจ้าราไพฯ ทูลลาเสด็จออกไปซ้ือ
ของ แต่พอถงึ 4 แยกแห่งหนึ่ง ตารวจรักษาการณ์ก็เข้ามาหยุดรถบอกว่าเขาโทรศัพท์มา
ใหเ้ สดจ็ กลบั เดี๋ยวนี้ ถงึ ทป่ี ระทับเห็นสมเดจ็ พระปกเกล้าฯ เสดจ็ สวรรคตแล้วอย่างบรรทม
หลับสบาย นางพยาบาลรายงานว่า เมื่อเสวยเช้าแล้วก็ทรงหนังสือพิมพ์ สักครู่ใหญ่ๆ ก็
ทรงบ่นวา่ เวียนหัวไมส่ บาย นางพยาบาลลุกไปหยิบยา พอกลับมากเ็ หน็ พระหัตถ์หอ้ ยลง
มาอยู่ขา้ งๆ แล้ว และหนงั สอื พมพิ ์นัน้ กต็ กอยกู่ บั พน้ื สมเดจ็ พระปกเกล้าฯ หลับพระเนตร
เหมือนหลับอยู่อย่างสบาย จบั พระชพี จรดูจึงรวู้ ่าสวรรคตเสียแล้ว”
สสุ าน โกลเดอรก์ รนี (GOLDERS GREEN)
รัฐบาลอังกฤษได้อนุญาตให้ต้ังพระบรมศพเป็นกรณีพิเศษนาน 4 คืน วันท่ี 3
มิถุนายน พ.ศ. 2484 อัญเชิญพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวข้ึน
ประดษิ ฐานบนรถซงึ่ ตกแตง่ อยา่ งงดงาม มธี งมหาราชคลมุ พระบรมศพ แลเชิญพระชัยวฒั น์
ไว้ทางเบื้องพระเศียร รถเคลื่อนขบวนออกจากพระตาหนกั คอมพต์ นั ไปยงั สถานทถ่ี วายพระ
เพลิงพระบรมศพ ณ สุสานโกลเดอรส์ กรีน ซึง่ อย่ทู างเหนอื ของกรงุ ลอนดอน
เมือ่ เจ้าหน้าที่อญั เชญิ พระบรมศพเข้าสฐู่ านท่ตี งั้ และผทู้ ่ีตามเสดจ็ เขา้ ประทบั และนงั่
เก้าอี้แถวโดยลาดับแล้ว อาร์. ดี. เครก (R. D. Craig) ชาวอังกฤษ ซ่ึงเคยรับราชการอยู่
เมอื งไทยและเป็นพระสหายของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้อ่านสุนทรพจน์
สรรเสริญพระเกียรติคุณ ผู้ท่ีไปชุมนุม ณ ท่ีน้ันถวายความเคารพทีละคน มีคนไทยซึ่งเคย
บวชในพระพุทธศาสนาได้สวดมนต์ถวายพระราชกุศลและมีการบร รเลงเพลงเมนเดลโซน
ไวโอลนิ คอนแชร์โต (Mendelssohn Violin Concerto) ซึ่งเปน็ เพลงทพี่ ระองค์โปรดเป็น
พิเศษ ถวายเป็นครัง้ สดุ ทา้ ยเท่านัน้ หลงั จากถวายพระเพลิงพระบรมศพเสร็จส้ินแล้ว พระ
บรมอัฐิและพระบรมสรีรางคารถูกอัญเชิญกลับไปประดิษฐานยังพระตาหนักคอมพ์ตันอัน
เป็นที่ประทับของพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าราไพพรรณี พระบรมราชินี ยังคงเสด็จ
ประทับอยู่ในอังกฤษตอ่ ไป
การจดั การพระบรมศพนน้ั เปน็ ไปอยา่ งเงยี บๆ โดยไมม่ กี ารบาเพญ็ พระราชกศุ ลทาง
ศาสนาพทุ ธเพราะไมม่ พี ระภกิ ษุ รวมทงั้ ไมม่ กี ารพระราชพธิ อี นื่ ๆ ตามราชประเพณี
อญั เชญิ พระบรมอฐั พิ ระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั กลบั สสู่ ยาม
กระบวนเชญิ หีบพระบรมอฐั ริ ชั กาลที่ 7 ขน้ึ สเู่ รอื วลิ เลมรยั ส์ เมอื งเซาธแ์ ฮมปต์ นั
วนั ท่ี 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2492
วนั ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 เรอื ภาณรุ งั สอี ญั เชญิ หีบพระบรมอฐั ริ ชั กาลท่ี 7
ถงึ กรงุ เทพฯ สมเดจ็ พระนางเจา้ ราไพพรรณเี สด็จพระราชดาเนนิ ลงจากเรอื
เจา้ พนักงานเชญิ พระพทุ ธรปู ประจาพระองคอ์ ยเู่ บอื้ งขวา
อญั เชญิ หบี พระบรมอฐั ริ ชั กาลที่ 7 ขนึ้ สเู่ รอื รบหลวงแมก่ ลอง
พระบรมอฐั ริ ชั กาลท่ี 7 บรรจใุ นพระโกศ ประดษิ ฐานในเรอื รบหลวงแมก่ ลอง
กรมขนุ ชยั นาทนเรนทร ประธานคณะผสู้ าเรจ็ ราชการแทนพระองค์
เสดจ็ ตามพระโกศพระบรมอฐั ริ ชั กาลที่ ลงจากเรอื รบหลวงแมก่ ลอง
พระราเชนทรรถเชญิ พระโกศพระบรมอฐั ริ ชั กาลท่ี 7เขา้ สพู่ ระบรมมหาราชวงั
พระโกศพระบรมอฐั ริ ชั กาลที่ และสมเดจ็ พระศรพี ชั รนิ ทรา 7 รชั กาลที่ 6 รชั กาลท่ี 5
บรมราชนิ นี าถ พระราชชนนพี นั ปีหลวง ประดษิ ฐาน ณ พระทน่ี งั่ พดุ ตานถม
ภายในพระทน่ี ง่ั จกั รมี หาปราสาท ในพระราชพธิ ีบาเพญ็ พระราชกศุ ลทกั ษณิ านปุ ทาน
พระบรมอฐั พิ ระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 7
ในปี พ .ศ.2492 รัฐบาลได้กราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าราไพพรรณี พระบรม
ราชินี ในรัชกาลท่ี ขอพระราชทานให้ทรงอัญเชิญพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จ 7
พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกลับสู่สยามเพื่ออัญเชิญข้ึนประดิษฐานไว้ร่วมกับสมเด็จพระบูรพ
มหากษัตรยิ าธริ าชเจา้ ในพระบรมมหาราชวัง ในการนีพ้ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิ
พลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีทักษิณานุปทานอุทิศถวาย
ตามพระราชประเพณี หลังจากนั้นทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหอ้ ญั เชญิ พระโกศพระบรม
อัฐขิ ้ึนประดิษฐาน ณ หอพระบรมอฐั ิ ซง่ึ อยชู่ น้ั บนของพระที่นงั่ จกั รีมหาปราสาท ส่วนพระ
บรมสรีรางคารนน้ั ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้บรรจไุ วท้ ี่พระพทุ ธบลั ลงั กพ์ ระพทุ ธองั ครี ส
ภายในพระอุโบสถ วดั ราชบพธิ สถติ มหาสีมารามราชวรวหิ าร
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นองค์พระมหากษัตริย์ที่เลื่อมใสการ
ปกครองในระบอบประชาธิปไตย พระองค์ทรงพยายามท่ีจะเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่
ยงั มไิ ดท้ รงทาการเปลี่ยนใดๆลงไป ด้วยทรงคานึงวา่ ยังไม่ถงึ เวลาที่เหมาะสม แตเ่ มื่อมคี ณะ
ราษฎรไ์ ดท้ าการเปล่ียนแปลงเสียก่อน แตก่ ม็ ิไดท้ รงขดั เคืองพระทัยแตอ่ ย่างใด ทรงยอมรบั
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างเต็มพระทัย แม้การเปล่ียนแปลงที่เกิดขึ้นน้ันจะเป็นการ
เปล่ียนแปลงทยี่ งั ไม่สมบรู ณ์ มคี วามบกพรอ่ งอยมู่ ากมายกต็ าม แตด่ ว้ ยทรงตงั้ พระทยั ในการ
เปล่ยี นแปลงอยู่แลว้ ดงั มพี ระราชดารัสว่า
พระบรมราชานสุ าวรยี ์ พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
ดว้ ยพระมหากรณุ าธคิ ุณในดา้ นการปกครอง รฐั บาลจงึ ไดม้ กี ารดาเนนิ การ
สรา้ งพระบรมราชานสุ าวรยี พ์ ระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจา้ อยหู่ วั ข้ึน ณ บรเิ วณ
ลานดา้ นหนา้ อาคารรฐั สภา
……………………………………………………………….
แหลง่ ขอ้ มลู อา้ งองิ
จดหมายเหตคุ วามทรงจา กรมหลวงนรนิ ทรเทวีพรนคร.: องคก์ ารคา้ ครุ สุ ภา,2516.
ทองตอ่ กลว้ ยไม้ ณ อยธุ ยากรุงเทพฯ.ปูชนยี บคุ คลไทย .: สานกั พมิ พภ์ มู ปิ ญั ญาจากัด ,
2544.
ทพิ ยากรณพ์ ระนคร.พระราชพงศาวดารกรงุ รตั นโกสนิ ทร์.เจา้ พระยา.: หอสมดุ แหง่ ชาต,ิ
2506.
สมศกั ดิ์ จาปาเงนิ 7 รชั กาลท.ี่ พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั กรงุ เทพฯ.:
,เอกพมิ พไ์ ท จากดั 2547 .
เสทอ้ื น ศภุ โศภณพระนคร .ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย ฉบบั พฒั นาการ .: อกั ษรเจรญิ ทศั น์,2506.
https://www.bbc.com
https://www.google.com
https://www.matichonacademy.com https://www.pinterest.com
https://www.silpa-mag.com
http://www.satit.up.ac.th
https://www.thaipost.net
https://library.stou.ac.th
https://kpi.ac.th › about › thehistory
https://sites.google.com
https://scout.nma6.go.th
ขอขอบคณุ ขอ้ มลู และภาพจากเว็บไซตต์ า่ งๆ
...............................................................................