The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชีวประวัติ พระยาพิชัยดาบหัก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ประสาร ธาราพรรค์, 2020-12-08 02:29:15

ชีวประวัติ พระยาพิชัยดาบหัก

ชีวประวัติ พระยาพิชัยดาบหัก

ชวี ประวตั ิ พระยาพชิ ยั ดาบหัก

ผเู้ รยี บเรยี งนายประสาร ธาราพรรค์

เพลงพระยาพชิ ยั ดาบหกั ของ ยนื ยง โอภากลุ แอด๊ คาราบาว
ในวยั เยาว์ เขามนี ามวา่ จอ้ ย ชอบชกตอ่ ย โลดโผนโจนทะยาน ชานาญเชงิ หมดั มวย

ถงึ ชว่ ยรมุ สามรมุ หนงึ่ ยงั พากนั ลม้ ตงึ เปน็ ทต่ี ะลงึ อศั จรรยใ์ จ ทตี่ ะลงึ อศั จรรย์ใจ
ไดเ้ ล่าเรยี น อยวู่ ดั มหาธาตุ เปน็ โอกาสไดช้ ุบชวี ติ ใหม่ กลายเปน็ นายทองดี ผมู้ ากมฝี มี อื วชิ า
จนเปน็ ทเ่ี ขา้ ตา พระยาตากจงึ ออกปากชวน พระยาตากจงึ ออกปากชวน ไมย่ อมเปน็ ขา้ สองเจ้า
ไม่เอาเปน็ บา่ วสองนาย ขอตายตามสเดจ็ พระเจา้ ตาก ดว้ ยความจงรกั ภคั ดี
คนไทยทงั้ แผน่ ดนิ นย้ี อมรบั นบั ถอื พระยาพชิ ยั นบั ถอื พระยาพชิ ยั นายทองดเี ขา้ ตขี ้าศกึ ศตั รู
รบเคยี งคเู่ คยี งขา้ งพระยาตาก จากเหนอื จดใตร้ บไหนเขา้ ไปรบกนั จนเปน็ ทโี่ จษจนั ทร์
ขน้ึ ชน้ั หลวงพชิ ยั อาสา ขนึ้ ชนั้ หลวงพิชยั อาสา ในตานานปอ้ งกนั เมอื งพชิ ยั
อาศยั ช่วงทพั กรุงธน ทาศกึ กมั พชู า พม่าลอบมาตไี ทย ไพรพ่ ลสองฝา่ ยตะลมุ บอน
จนแผน่ ดนิ สะทอ้ น ดาบหลวงพชิ ัยถงึ หกั กระเดน็ ดาบหลวงพชิ ยั หักกระเดน็
จงึ เปน็ พระยาพชิ ัย…

ประวตั พิ ระยาพชิ ัยดาบหกั

อนสุ าวรยี ์พระยาพชิ ัยดาบหกั บ้านหว้ ยคา อตุ รดติ ถ์
พระยาพิชัยดาบหัก ทหารคู่พระวรกายสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านต่อสู้กับอริราช
ศัตรู ด้วยดาบสองมอื ออกตอ่ สู้กบั ศตรขู องชาตจิ นกระทง่ั ดาบหกั ไปข้างหน่ึงทา่ นมสี ว่ นสาคัญในการ
รว่ มกูเ้ อกราชชาตไิ ทยให้พน้ ภัยพมา่
พระยาพิชัยดาบหักเดิมช่ือ จ้อย เกิดปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ในปี พ.ศ. 2284 ที่บ้าน
หว้ ยคา อาเภอพชิ ัย จงั หวดั อตุ รดิตถ์ มีพ่ีน้อง 4 คน แต่เสียชีวิตไป 3 คนพระยาพิชัยดาบหักเป็นต้น
ตระกลู วิชยั ขันธะ

การศกึ ษา

วดั มหาธาตุ เมอื งพชิ ยั

เม่ืออายุได้ 14 ปี บิดานาไปฝากกับท่านพระครูวัดมหาธาตุ หรือวัดใหญ่ เมืองพิชัย จ้อย
สามารถอา่ นออกเขยี นไดจ้ นแตกฉานเพราะเปน็ คนขยันและเอาใจใส่ในตาราเรียนคอยรับใช้อาจารย์
และซอ้ มมวย ไปดว้ ย
ศกึ ษาวิชามวย

ในขณะท่ีเป็นเด็กวัดน้ันเขามักจะถูกกลั่นแกล้งจากเด็กที่โตกว่าเสมอ แต่ในระยะหลังเขาก็
สามารถปราบเด็กวัดได้ทุกคนดว้ ยชั้นเชงิ มวย ต่อมาเจ้าเมืองพิชยั ไดน้ าบตุ ร (ชอ่ื เฉิด) มาฝากท่ีวดั เพอื่
รา่ เรียนวชิ า เฉดิ กับพวกมักหาทางทะเลาะวิวาทกบั จ้อยเสมอ เขาจึงตัดสินใจหนีออกจากวดั ขนึ้ ไปทาง
เหนือโดยมไิ ด้บอกพอ่ แม่และอาจารย์ เดนิ ตามลาน้านา่ นไปเรือ่ ยๆ เมื่อเหน่ือยก็หยุดพักตามวัด ท่ีวัด
บา้ นแก่ง จอ้ ย ได้พบกับครูฝึกมวยคนหน่ึงช่ือ เท่ียง จึงฝากตัวเป็นศิษย์แล้วเปล่ียนช่ือใหม่เป็นทองดี
ครเู ท่ียงรักนายทองดีมากและมักเรยี กนายทองดวี ่านายทองดี ฟันขาว (เนอื่ งจากทา่ นไมเ่ คยี้ วหมากพลู

ดังคนสมัยน้ัน) ด้วยความสุภาพเรียบร้อย และขยันขันแข็งเอาใจใส่การฝึกมวยช่วยการงานบ้านครู
เที่ยงด้วยดีเสมอมา ทาใหล้ กู หลานครเู ทีย่ งอจิ ฉานายทองดมี าก จนหาทางกลัน่ แกล้งต่างๆ นานา นาย
ทองดี ฟนั ขาว เห็นวา่ อยบู่ า้ นแกง่ ตอ่ ไปคงลาบาก ประกอบ ครูเที่ยงกถ็ ่ายทอดวชิ ามวยให้จบหมดสิ้น
แลว้ จงึ กราบลาครขู ึ้นเหนอื ตอ่ ไป

วดั วงั เตาหมอ้ (วดั ท่าถนน)

เมื่อเดินทางถึงบางโพได้เข้าพักที่วัดวังเตาหม้อ (ปัจจุบันคือวัดท่าถนน) พอดีกับมีการแสดง
งวิ้ จงึ อย่ดู อู ยูเ่ จ็ดวนั เจ็ดคนื นายทองดี ฟันขาว สนใจงิ้วแสดง ทา่ ทางหกคะเมน จงึ จดจาไปฝึกหัดจน
จดจาท่างิ้วได้ทั้งหมดสามารถกระโดดข้ามศีรษะคนยืนได้อย่างสบายจากน้ันก็ลา พระสงฆ์วัดวังเตา
หมอ้ ขึน้ ไปท่าเสา ขอสมคั รเปน็ ลกู ศษิ ย์ครเู มฆ ซง่ึ มีชือ่ เสียงในการสอนมวยมาก ครูเมฆรักนิสัยใจคอ
จงึ ถ่ายทอดวชิ าการชกมวยใหจ้ นหมดสิน้ ขณะน้ันนายทองดี ฟันขาว อายุได้ 18 ปี ต่อมาได้มีโอกาส
ชกมวยในงานไหว้พระแทน่ ศลิ าอาสน์ กับนายถกึ ศิษย์เอกของครูนลิ นายถกึ ไม่สามารถปอ้ งกนั ได้ ถกู

เตะสลบไปนาน ประมาณ 10 นาที ครูนลิ อบั อายมากจึงท้าครูเมฆชกกัน นายทองดี ฟนั ขาว ได้กราบ
อ้อนวอนขอร้อง ขอชกแทนครเู มฆ และได้ตลุยเตะต่อยจนครนู ิลฟันหลุดถึง 4 ซ่ี เลอื ดเตม็ ปากสลบอยู่
เป็นเวลานาน ช่ือเสียงนายทองดี ฟันขาว กระฉ่อนไปท่ัวเมืองทุ่งย้ัง ลับแล พิชัย และเมืองฝาง นาย
ทองดอี ยกู่ บั ครเู มฆประมาณ 2 ปี ก็ขอลาไปศึกษา การฟันดาบ ท่ีเมืองสวรรคโลก ด้วยความฉลาดมี
ไหวพริบ เขาใช้เวลาเพยี ง 3 เดือน ก็เรยี นฟันดาบสาเรจ็ เปน็ ทีพ่ ศิ วงตอ่ ครผู สู้ อนยิ่งนัก หลังจากนั้น ก็
ไปเทยี่ วเมอื งสุโขทัยและเมอื งตากระหว่างทางไดร้ ับศิษยไ์ ว้ 1 คน ชอ่ื บุญเกดิ ครั้งท่ีบุญเกิดถกู เสอื คาบ
ไปนัน้ ทองดีไดช้ ่วยบญุ เกิดไว้โดยการแทงมีดท่ปี ากเสือ จนเป็นทรี่ ่าลอื ไปทั่ว
รบั ราชการ

เม่อื ทา่ นเดินทางถงึ เมอื งตาก ขณะนน้ั ได้มีพธิ ีถือน้าพิพัฒน์สตั ยาที่วัดใหญเ่ จา้ เมอื งตาก สมเดจ็
พระเจา้ กรงุ ธนบรุ ีจดั ให้มีมวยฉลองด้วย นายทองดี ฟันขาว ดีใจมากเข้าไปเปรียบมวยกับครูห้าว ซ่ึง
เป็นครูมวยมือดีของเจ้าเมืองตาก และมีอิทธิพลมาก นายทองดี ฟันขาว ใช้ความว่องไวใช้หมัดศอก
และเตะขากรรไกรจนครูห้าวสลบไปเจ้าเมืองตากจึงถามว่าสามารถชกนักมวยอ่ืนอีกได้หรือไม่ นาย
ทองดี ฟันขาว บอกว่าสามารถชกไดอ้ ีก เจา้ เมอื งตากจงึ ให้ชกกับครหู มกึ ครูมวยรา่ งสงู ใหญ่ ผิวดา นาย
ทองดี เตะซ้ายเตะขวา บริเวณขากรรไกร จนครูหมึกล้มลงสลบไป เจ้าเมืองตากพอใจมากให้เงิน
3 ตาลึง และชักชวนให้อยู่ด้วย นายทองดี ฟันขาว จึงได้ถวายตัวเป็น ทหารของเจ้าเมืองตาก

(สมเดจ็ พระเจา้ กรงุ ธนบุรี) ตัง้ แตบ่ ัดนนั้ รบั ใชเ้ ป็นทโี่ ปรดปรานมาก ได้รับยศเป็น “หลวงพิชัยอาสา”
เมื่อเจา้ เมืองตากได้รบั พระราชทานโปรดเกลา้ ฯ ให้เป็นพระยาวชริ ปราการ หลวงพชิ ยั อาสาไดต้ ดิ ตาม
ไปรับใช้อย่างใกล้ชิด และเป็นเวลาเดียวท่ีพม่ายกทัพล้อม กรุงศรีอยุธยา และได้ติดตามพระยาวชิร
ปราการ (เจ้าเมืองตาก)ตีฝา่ ทหารพมา่ ออกมาต้ังทพั อยทู่ วี่ ัดพชิ ยั นอกกรุง หลงั จากนน้ั ไม่กี่เพลากเ็ สีย
กรุงโดยเดด็ ขาดแก่พมา่ เมื่อวันที่ 7 เมษายน2310

ต่อมาทัพเจ้าเมืองตาก มาตั้งมั่นอยู่ที่เมืองจันทบูรได้ยกทัพจากเมืองจันทบูรโดยทางน้าเข้า
ทางปากน้าสมุทรปราการข้ึนไปตีเมืองธนบุรี ศึกกู้ชาติอย่างแท้จริงได้เริ่มขึ้นในเช้าวันเพ็ญเดือน 12
ตรงกับวันศุกร์ท่ี 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2310 ณ ค่ายโพธ์ิสามต้น ซึ่งอยู่เหนือกรุงศรีอยุธยาขึ้นไป
เล็กนอ้ ย มกี องกาลงั ของพม่าคมุ เชิงอยู่ มี สุกี้พระนายกองเป็นผบู้ ังคับบัญชา พระเจ้าตากสินรบชนะ
พม่าท่ีค่ายโพธิ์สามต้น ซ่ึงถือเป็นการกู้เอกราชคืนจากพม่าได้สาเร็จโดยใช้เวลาเพียง 7 เดือนเศษ
เท่าน้ันนับจากเสียกรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ. 2310 ปีต่อมาพระเจ้าตากได้ย้ายราชธานีจากกรุงศรี
อยุธยาไปอยูท่ ่กี รุงธนบรุ ีซง่ึ มชี อ่ื เตม็ วา่ “กรงุ ธนบุรีศรมี หาสมทุ ร” และไดป้ ราบดาภเิ ษกขนึ้ เปน็ กษตั รยิ ์
ทรงพระนามว่า สมเดจ็ พระบรมราชาธิราชท่ี 4

ต่อมาพระยาพิชัยได้ติดตามรับใช้ใกล้ชิดเข้าร่วมปราบปรามหัวเมืองเหนือในปีพ .ศ.
2313 สมเดจ็ พระเจ้ากรงุ ธนบุรจี ึงโปรดเกล้าฯ แตง่ ตงั้ ให้เปน็ พระยาศรีหราชเดโช ผรู้ ั้งเมอื งพิชยั หรอื
เรยี กอกี นามหน่งึ คอื ออกญาศรสี ุริยะราชาไชย ศกั ดินา 5000 และต่อมาพระยาพิชัยได้เขา้ รว่ มรบใน
เหตุพิพาทระหว่างไทยกบั พมา่ ด้วยกนั 9 ครัง้ คือ

ครง้ั ท่ี1 รบกับพม่าท่ีบางก้งุ พ.ศ.2310
ครง้ั ที่ 2 พมา่ ตีสวรรคโลก พ.ศ.2313
ครง้ั ที่3 ทพั ไทยตเี มืองเชยี งใหม่คร้งั ท่ี 1 พ.ศ.2313
คร้ังท่ี 4 พม่าตเี มอื งพชิ ัยคร้งั ที่1 พ.ศ.2315

วดั เอกา อาเภอพชิ ยั จหั วดั อตุ รดติ ถ์

ครง้ั ที่ 5 พม่าตเี มอื งพิชัยครง้ั ท่ี 2 พ.ศ.2316 และในคร้ังนเ้ี กิดข้นึ เมื่อ โปสพุ ลาแม่ทพั ใหญ่ของ
พมา่ นาทพั ลงมาตเี มอื งพิชยั เอง แตท่ า่ นพระยาพชิ ยั รตู้ วั กอ่ นจึงนดั กบั พระยาสรุ สหี ์ ยกกองทัพไปดัก
ซุ่มรอพม่าอยู่กลางทาง ศึกครั้งนพ้ี ระยาพชิ ยั จับดาบสองมือคาดด้าย ออกไล่ฟันแทงพม่าอย่างชุลมุน
ณ สมรภูมิบริเวณ วัดเอกา เม่ือวันอังคาร เดือนย่ี แรม 7 ค่า ปีมะเส็ง พ.ศ. 2316 (ตรงกับวันที่
7 มกราคม พ.ศ. 2316)

ในขณะท่กี าลงั ส้รู บกันชุลมนุ ท่านพระยาพชิ ยั เหยียบดินลื่นเสยี หลักจะลม้ จงึ เอาดาบยนั ดนิ ไว้
เพือ่ ไมใ่ ห้ล้มจนดาบขา้ งขวาหัก แต่กระน้ันกย็ ังเขา้ ไลฟ่ ันทหารพม่าเป็นสามารถ สรา้ งความประทบั ใจ
แก่ทหารท่ีรว่ มรบด้วยกนั จนโจษขานร่าลอื กนั ไปท่ัว และพร้อมใจกนั ขนานนามท่าน วา่ "พระยาพิชยั
(ดาบหกั )"

ช่ือเสยี งในการรบครัง้ นีเ้ ปน็ ท่โี จษจนั ไปจนถงึ พระนครและถูกบันทึกไว้ในพระราชพงศวดาร
ถึงความกล้าหาญ ในการสงคราม รักษาหน้าท่ีในการรบ แม้ดาบจะหักก็ยังต่อสู้จนทัพพม่าแตกพ่าย
กลบั ไปเมอื งเชยี งใหม่ นับแต่น้ันทา่ นจึงไดช้ อ่ื วา่ พระยาพชิ ยั (ดาบหัก)

ครัง้ ท่ี 6 ทพั ไทยตเี มอื งเชียงใหม่ครัง้ ที่ 2 พ.ศ.2317
ครง้ั ที่ 7 รบกบั พม่าที่บางแกว้ เมอื งราชบรุ ี พ.ศ.2317
คร้ังที่ 8 เม่ืออะแซหวุ่นก้ีหัวเมืองฝ่ายเหนือ พ.ศ.2318 อะแซหวุ่นก้ีนาทัพเข้าตีหัวเมืองฝ่าย
เหนือทเ่ี มอื งพิชยั รวมถงึ เมืองอืน่ ๆเชน่ เมอื งพิษณโุ ลก สวรรคโลก จนเสียหายยับเยิน พระยาพชิ ยั เขา้
ร่วมทัพหลวงสู้ศึกพม่าอยู่เป็นเวลานาน แต่ทัพพม่าต้องถอยกลับเน่ืองจากการสวรรคตของพระเจ้า
มงั ระ แหง่ กรงุ องั วะ หลังจากนน้ั ท่านจึงกลับไปฟน้ื ฟเู มอื งพิชัย รวบรวมคนไทยทีห่ นีเข้าไปอย่ตู ามปา่
ตามเขาใหก้ ลบั มาอยใู่ นเมอื งพชิ ัยตามเดิม
ครง้ั ท่ี 9 รบกบั พม่าท่เี มืองอุทัยธานี พ.ศ.2319 หลังจากนน้ั พระยาพิชัย(ดาบหัก) คงอยู่รักษา
เมืองพชิ ยั อันเปน็ เมอื งหนา้ ดา่ นท่ีสาคญั จนถงึ ส้นิ แผน่ ดนิ สมเด็จพระเจา้ กรุงธนบรุ ี

อาวุธคู่กายของพระยาพิชัยดาบหัก มีดาบที่ชื่อว่า ดาบนันทกาวุธ ดาบคู่กายพ่อพระยาพิชัย
"ดาบนันทกาวุธ" แปลว่า ดาบที่สยบทหารของพระเจ้านันทบุเรง ดาบนามนี้สมเด็จพระนเรศวรฯ
ทรงพระราชทานในคราว บรรดาศักดิ์ "ขนุ แสนสะทา้ นศกึ " เสมอื นตาแหน่งจาตรุ งค์บาทเดินคู่ช้างศึก
ของพระองค์ หลงั จากส้ินรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรฯ ชื่อของขุนพระนายแสนศกึ สะทา้ นไดส้ ญู หายไป
พรอ้ มกับดาบเหล็กน้าพ้คี ู่ ท่ชี ื่อวา่ .... "ดาบนนั ทกาวธุ " สืบมาภายหลงั ...ชา่ งตเี หล็กหลวงชาว โปรตเุ กตุ
นามว่า ปีแอร์ สมทิ ธ์ ได้พบ "ดาบนันทกาวุธ" จากการท่ีกระสุนปนื ใหญข่ องฝ่ายพม่าตกมาชนกบั ยอด
ปรางคเ์ จดีย์ ยอดหนง่ึ "ดาบนันทกาวธุ " ไดบ้ รรจไุ วใ้ นเจดยี ์ดงั กลา่ ว ปีแอร์ สมทิ ธ์ ได้มีโอกาสมอบดาบ
"ดาบนันทกาวธุ " คู่นน้ั ให้กบั "หลวงพิชัยอาสา" เพ่ือทดแทนดาบสองมือของหลวงพิชัยอาสาด้วยเห็น
ว่าดาบดคี วรคูก่ ับนักรบเช่น..."หลวงพชิ ัยอาสา"

พระปรางคว์ ดั ราชคฤหว์ รวหิ าร สถานทบ่ี รรจุอฐั ขิ องพระยาพชิ ยั ดาบหกั

ถวายชีวติ เปน็ ราชพลี

ในปี พ.ศ. 2325 หลงั จากสมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราช ถกู สาเร็จโทษ สมเดจ็ เจ้าพระยามหา
กษัตรยิ ์ศึก เล็งเห็นว่าพระยาพิชัยเป็นขุนนางคู่พระทัย สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีที่มีฝีมือและมีความ
ซ่ือสตั ย์ จึงชวนพระยาพิชยั เข้ารับราชการในแผ่นดินใหม่ แต่พระยาพิชัยไม่ขอรับตาแหน่ง ด้วยท่าน
เป็นคนจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และถือคติว่า "ข้าสองเจ้า บ่าว
สองนายมิดี" จึงขอให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก สาเร็จโทษตนเป็นการถวายชีวิตตายตาม
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สาเร็จโทษถูกประหารชีวิตในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2325
ณ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานครฯ สริ ิอายุรวมได้ 41 ปี

ซึง่ ทายาทของพระยาพิชยั ดาบหัก กไ็ ด้รับราชการสืบมา โดยทา่ นเป็นตน้ ตระกูลของนามสกุล
วิชัยขัทคะ วชิ ัยลกั ขณา ศรศี รากร พิชัยกลุ ศริ ปิ าละ ดฐิ านนท์ หลังจากท่านได้ถูกสาเร็จโทษ สมเด็จ
เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้ปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่ง ราชวงศ์จักรีเฉลิมพระนามว่า
พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช พระองคจ์ ึงไดม้ รี บั สงั่ ให้สรา้ งพระปรางค์นาอัฐิของ
ท่านไปบรรจุไว้ ณ วดั ราชคฤหว์ รวิหาร ซึง่ พระปรางค์นีก้ ็ยงั ปรากฏสบื มาจนปจั จุบนั

พระยาพชิ ัยดาบหักไดส้ ร้างมรดกอันควรแก่การยกยอ่ งสรรเสรญิ ใหส้ บื ทอดมาถงึ ปจั จบุ นั ไดแ้ ก่
ความซื่อสัตย์สุจริต ความกตัญญูกตเวที ความเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดกล้าหาญ รวมถึงความรักชาติ
ตอ้ งการให้ชาตเิ จริญรงุ่ เรืองมัน่ คงตลอดไป

.................................................................

แหลง่ ขอ้ มูล

ปรามนิ ทร์ เครอื ทอง.“ชาระประวตั วิ รี บุรษุ ‘พระยาพชิ ัยดาบหกั ’ ของแท้ หรอื เรอ่ื งแตง่ ?”.
ศลิ ปวฒั นธรรม ฉบับ ธนั วาคม 2552 นธิ ิ เอยี วศรวี งศ์. “การเมอื งไทยสมยั พระเจา้ กรงุ ธนบรุ ี”. พมิ พ์

ครงั้ ที่ 9. กรงุ เทพฯ : มตชิ น, 2550.
บทความเรอ่ื ง ชาแหละประวตั วิ ีรบรุ ษุ “พระยาพชิ ยั ดาบหกั ” ของแท้ หรอื เรอื่ งแตง่

โดย ปรามนิ ทร์ เครอื ทอง นติ ยสารศลิ ปวฒั นธรรม ฉบบั ธนั วาคม 2552.
www.bannjomyyut.com
www.facebook.com
www.khaosod.co.th
www. matichon.co.th>การเมอื ง
museumthailand.com
www.nectec.or.th
www. se-ed.com
www.silpa-mag.com
www. trueplookpanya.com
www.uttaradit.go.th
site.google.com
th.wikipedia.org

ขอขอบคณุ ขอ้ มูลและภาพจากเวบ็ ไซตต์ า่ งๆ


Click to View FlipBook Version