ดา้ นวรรณกรรมและหนงั สอื พมิ พ์
ทรงส่งเสริมให้มีการแต่งหนังสือ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา
พระราชบัญญัติวรรณคดีสโมสร สาหรับในด้านงานหนังสือพิมพ์ ทรงพระกรุณาโปรด
เกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติสมุดเอกสาร พ.ศ.2465 ขึ้น พระองค์ทรงมีอัจฉริยะ
ทางด้านการประพันธ์สูงย่ิงสามารถทรงงานเขียนได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งพระราช
นพิ นธข์ องพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หัว ทนี่ ามาใชเ้ ปน็ แบบเรยี นมมี งคลสตู ร
พระนลคาหลวง ธรรมาธรรมะสงคราม มัทธนะพาธา สาวิตรี ตามใจท่าน และทรงมี
นามปากกา ในการ พระราชนิพนธ์ถึง 37 นามปากกา อาทิ ศรีอยุธยา พระขรรค์เพชร
อศั วพาหุ ฯลฯ
งานชน้ิ แรกทท่ี าให้พระองคท์ รงมชี อื่ เสยี งคอื ได้ทรงพระราชนพิ นธ์ประวัติศาสตร์
ช้ินหนึ่งเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อ THE POLISH SUCCESSION ออกจาหน่ายอย่าง
กว้างขวางและทรงริเริ่มออกนิตยสารภาษาไทยสาหรับคนไทยในอังกฤษชื่อ “สามัคคี
สาร” เป็นที่แพร่หลายในหมู่คนไทยเป็นอย่างมาก เสด็จฯนิวัติกลับประเทศไทยเมื่อปี
พ.ศ.2445 รวมเวลาท่ีประทับอยูใ่ นประเทศองั กฤษถึง 9 ปี
ระหว่างที่ยังทรงพระยศเป็นพระบรมโอรสาธิราชประทับท่ีวัง สราญรมย์ได้ทรง
ริเร่ิมออกหนังสือรายเดือน ช่ือ “ทวีปัญญา” ข้ึนเม่ือ พ.ศ.2447 ทรงมีพระราชนิพนธ์
บทความและเรื่องราวต่าง ๆ ลงพิมพ์โดยทรงใช้พระนามาภิไธยบ้าง พระนามแฝงบ้าง
เช่น นายแก้วนายขวญั พันแหลม ฯลฯ
ในระหว่างทีท่ รงครองราชยไ์ ด้ทรงปรับปรงุ การใช้ภาษาไทยเป็นการใหญท่ รงเปน็
ผู้นาในการใช้ภาษาไทย เมื่อมีผู้ใช้ผิด ๆ ก็จะทรงทักท้วงทั้งกับผู้ใช้โดยตรงหรือโดย
ทางอ้อม ทรงมพี ระราชนพิ นธ์วรรณกรรมตา่ ง ๆ ไว้มากกวา่ 200 เรอื่ ง ท้งั ร้อยแก้ว บท
กวี คาประพันธ์ ประเภท โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ลิลิต และบทละคร ทรง พระราช
นิพนธ์เรื่อง พญาราชวังสัน พระร่วง เรื่อง ท้าวแสนปม เรื่อง เวนิสวาณิช ซึ่งทรงแปล
จากเรื่องของนักเขียนชื่อดังของโลกชาวอังกฤษ ช่ือ วิลเลียม เช็กสเปียร์ และพระราช
นิพนธ์ออกมาเป็นกลอนอย่างไพเราะอย่างย่ิงชนิดคาต่อคาก็ว่าได้รวมท้ังเร่ือง มัทนะ
พาธา หรือตานานดอกกุหลาบซงึ่ พระราชทานนพิ นธเ์ ป็นกาพยแ์ ละฉันท์ เรื่อง ศกณุ ตลา
วิวาหพ์ ระสมุทร หนามยอกเอาหนามบ่ง หัวใจนักรบและอ่ืน ๆ รวมทั้งละคร นาฏศิลป์
และโขนเป็นตอน ๆ ชนดิ ท่ไี ม่มีรตั นกวใี ดเคยกระทาไดม้ าก่อน
เนื่องจากก่อนหนา้ นนั้ เป็นยคุ ที่ความรงุ่ เรื่องในดา้ นตา่ ง ๆ จากตา่ งชาตแิ พรเ่ ขา้ มา
ในประเทศเป็นอย่างมาก จึงมีคาแปลก ๆ ท่ีใช้กันทับศัพท์ภาษาฝรั่ง เช่น คาว่า รถ
มอเตอร์คาร์โปสต์ออฟฟิศ โปลิสสเตช่ัน โรงการ์ด นิคเนม สเคตตาร่ี ฯลฯ พระองค์ได้
ทรงใช้ภาษาไทยโดยอาศัยความรู้ด้านบาลีและสันสกฤตท่ีทรงศึกษามาประกอบเป็น
“รถยนต์” “ที่ทาการไปรษณีย์” “สถานีตารวจ” “กองรักษาการณ์” “นามแฝง” และ
“เลขานุการ” ทาให้ผอู้ ่ืนใชต้ ามในภายหลงั
พระองค์ได้ทรงใช้คาใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น อหิวาตกโรค ไข้ทรพิษ กาฬโรค
สหกรณ์ หอพระสมุด มหรสพ เครื่องบิน อินทรธนู อนุบาล กระทรวงนครบาล (แทนคา
ว่ากระทรวงเมือง) กรมชลประทาน (แทนคาว่ากรมทดน้า) ทรงให้ใช้พุทธศักราช แทน
“รัตนโกสินทร์ศก” และใช้ นาง กบั นางสาว แทนคาวา่ “อาแดง”
ความรอบรู้ในภาษาบาลี และพระอัจฉริยะในการพระราชนพิ นธ์คาฉนั ทท์ เี่ ห็นได้
ชัดเจนคือคาสวดมนต์บทนมัสการคุณานุคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซ่ึง
พระราชทานชื่อบทคาฉันทน์ ี้ว่า “มนตน์ ักรบสยาม” สาหรบั กองทหารเสอื ปา่ และลกู เสอื
สวดมนตใ์ นเวลาค่า ได้แก่บทถวายพรพระหรือพาหงุ 8 บท ซ่ึงไดท้ รงถอดคาฉันทภ์ าษา
มคธมาเปน็ คาฉนั ท์ภาษาไทยอยา่ งสมบรู ณแ์ ละไพเราะใชม้ าจนทุกวนั น้ี
บทพระราชนิพนธท์ น่ี บั ว่าแปลกและดีเด่นมากอีกเรื่องหนึ่งคือเรื่อง “พระนลคาหลวง”
เพราะทรงรวมเอาคาประพันธ์ไว้ในที่เดียวกันอย่างครบถ้วน ทั้งโคลง ฉันท์ กาพย์ และ
กลอน อย่างท่ีไมเ่ คยมกี วีผ้ใู ดประพันธ์มาก่อน
พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระราชนพิ นธไ์ วห้ ลายดา้ น อาทิ
ประเภทวรรณคดี -พระนลคาหลวง นารายณส์ บิ ปาง ศกนุ ตลา มทั นะพาธา ฯลฯ
ประเภทบทละคร -หัวใจนกั รบ พระรว่ ง โรมโิ อและจเู ลยี ต ตามใจทา่ น
เวนชิ วาณชิ ฯลฯ
ประเภทธรรมะ -เทศนาเสอื ปา่ พระพทุ ธเจา้ ตรสั รอู้ ะไร พระบรมราโชวาทในงาน
วสิ าข บชู า ฯลฯ
ประเภทประวตั ศิ าสตรโ์ บราณคดี – เทย่ี วเมอื งพระรว่ ง สนั นษิ ฐานเรอื่ งพระรว่ ง
เทยี่ วเมอื งอยี ปิ ต์ สนั นษิ ฐานเรอ่ื งทา้ วแสนปม ฯลฯ
ประเภททหาร -การสงครามปอ้ มคา่ ยประชดิ พนั แหลม ความเจรญิ แห่งปนื ฯลฯ
ประเภทปลุกใจรักชาติ -เมอื งไทยจงตนื่ เถิด ยวิ แห่งบรู พาทศิ ปลกุ ใจเสอื ปา่
โคลนตดิ ลอ้ ลทั ธเิ อาอยา่ ง
ประเภทนทิ าน -นทิ านทองอนิ นทิ านทหารเรอื นทิ านชวนขนั ฯลฯ
ประเภทกฎหมาย -กฎหมายทะเล หวั ขอ้ กฎหมายนานาประเทศแผนกคดเี มอื ง
ประเภทการเมอื ง -ความกระจดั กระจายแหง่ เมอื งจนี การจราจลในรสั เซยี
ปกณิ กคดขี องอศั วพาหุ ประเภทสขุ วทิ ยา – กนั ป่วย
ดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ
วชริ พยาบาล
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ต้ัง วชิรพยาบาล เม่ือ พ.ศ. 2455โรงพยาบาล
จฬุ าลงกรณ์ โดยใช้ทุนส่วนพระองค์เมื่อ พ.ศ. 2457เพื่อรักษาพยาบาลประชาชนท่ีเจ็บ
ไข้ได้ป่วย ทรงเปิดสถานเสาวภา เม่ือวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2465 เพ่ือผลิตวัคซีนและ
เซรมุ่ เปน็ ประโยชนท์ ้งั แกป่ ระชาชนชาวไทยและประเทศใกล้เคียงอีกด้วย ทรงเปิดการ
ประปากรงุ เทพฯ เมื่อวนั ท่ี 14 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2457
ดา้ นการรเิ รมิ่ เปลยี่ นแปลงแกไ้ ขใหเ้ หมาะกบั ยคุ สมยั
ในสมัยรัชกาลท่ี 6 ได้โปรดให้เปล่ียนแปลงแก้ไขขนบประเพณีของบ้านเมืองให้
เหมาะสมสอดคล้องกบั หลกั สากล ทรงริเรม่ิ เพอื่ ความเจรญิ กา้ วหน้าทนั ยคุ สมัยดังนี้
- ตราพระราชบัญญัตินามสกุล ทรงเห็นว่าชาติท่ีเจริญแล้วย่อมมีชื่อสกุลเป็น
หลักฐาน หลักฐานเคร่ืองช่วยกาหนดบุคคลแต่ละคน การเรียกช่ือเพียงอย่างเดียวอาจ
สับสนวุ่นวายได้ทรงตราพระราชบัญญัตินามสกุลข้ึนเม่ือวันท่ี 22 มีนาคม พ.ศ. 2445
ทรงประกาศใช้วันท่ี 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2456 เมษายน พ.ศ. 2456 ตามทางสุริยคติ
เป็นวันข้ึนปีใหม่และเปล่ียนศักราชราชการ พ.ศ. ใหม่ พร้อมกับให้ใช้คา “ไชโย” แทน
คา”โฮห่ ้วิ ”
- ทรงให้กาเนิดธงชาติ และพระราชทานนามว่าธงไตรรงค์ หรือธงสามสี คือ สี
แดง สขี าว และสีนา้ เงนิ ทรงตราเป็นพระราชบัญญัตธิ งพุทธศักราช 2460
- กาหนดคานาหนา้ สตรีและเด็ก ตามพระราชกฤษฎกี า พ.ศ. 2460 ให้สตรโี สด
ใช้คานาหนา้ ตนวา่ “นางสาว” เม่ือมีสามีแล้วให้ใช้คาว่า “นาง” ส่วนคาว่า “เด็กชาย”
“เดก็ หญงิ ” โปรดใหก้ าหนดไว้ในกฤษฎกี าปี พ.ศ.2464
- เปลี่ยนแปลงการนับเวลา ทรงเห็นว่า การนับเวลาแบบทุ่มโมงไม่สะดวกแก่
วงการธรุ กิจ จงึ โปรดใหเ้ ปล่ยี นตามสากล ให้ถือเวลาเทีย่ งคืนเป็นวนใหม่ และระยะเวลา
ทมุ่ โมงใหเ้ ปลย่ี นเป็นนาฬกิ า
- ตรากฎมณเฑียรบาล ว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ มีการห้ามราชนารีเสด็จข้ึน
ครองราชย์
ดา้ นเศรษฐกจิ
ธ ผกู้ อ่ กาเนดิ ธนาคารออมสนิ “แบงคล์ ฟี อเทยี ” ต้นแบบการออม
พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยู่หวั รัชกาลที่ 6 ทรงเห็นคุณประโยชน์ของ
การออมทรัพย์ เพ่ือให้ประชาชนรู้จักการประหยัด การเก็บออม มีสถานท่ีเก็บรักษา
ทรพั ยส์ ินเงินทองของประชาชน ให้ปลอดภัยจากโจรผู้ร้าย จึงทรง ริเริ่มจัดต้ังคลังออม
สนิ ทดลองขนึ้ โดยทรงพระราชทานนามแบงค์ว่า “ลีฟอเทีย” ในปี พ.ศ. 2450 เพ่ือทรง
ใช้ศึกษาและสารวจนิสัยคนไทยในการออมเบื้องต้น พระองค์ทรงเข้าใจในราษฎรของ
พระองคแ์ ละทรงทราบดวี า่ ควรใช้ กศุ โลบายใดอนั จะจงู ใจคนไทยใหม้ องเหน็ ความสาคญั
ของการออมเพ่ือให้คลังออมสินได้เป็นประโยชน์เก้ือกูลเผื่อแผ่ไปถึงราษฎรโดยท่ัว
กัน พระองคจ์ ึงได้ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้ดาเนนิ การจัดตง้ั “คลงั ออมสิน” ข้ึนใน
สงั กัด กรมพระคลังมหาสมบตั ิ กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ และพระราชทานพระบรม
ราชานุญาตประกาศใช้ “พระราชบัญญัติคลงั ออมสนิ พ.ศ.2456” ประกาศใช้ในวันท่ี 1
เมษายน พ.ศ. 2456
ตราสญั ลกั ษณธ์ นาคารออมสนิ
ตราสญั ลักษณข์ องธนาคารออมสิน เป็นรูปวงกลม ภายในแบ่งออกเป็นสามส่วน
แต่ละส่วนประกอบด้วย วชิราวุธ เบญจปฎลเศวตฉัตร(ฉัตรห้าช้ัน) และต้นไทร อันมี
ความหมายดังต่อไปน้ี
- วชิราวุธ เป็นเครื่องหมายประจาพระองค์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยหู่ ัว รัชกาลท่ี 6ผู้ทรงพระราชทานกาเนดิ คลงั ออมสนิ ขน้ึ ในประเทศไทย
- เบญจปฎลเศวตฉัตร เป็นเคร่ืองหมายประจาพระองค์ พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
พระองค์เจ้า บุรฉัตรไชยากร กรมพระกาแพงเพ็ชรอัครโยธิน ผู้ทรงวางรากฐาน และ
ท า นุ บ า รุ ง กิ จ ก า ร ธ น า ค า ร อ อ ม สิ น ใ ห้ มี ค ว า ม เ จ ริ ญ ก้ า ว ห น้ า
- ต้นไทร หมายถึงความร่มเย็น ความมั่นคง และความเจริญงอกงามตลอดกาล
ตลอดระยะเวลาท่ีผ่านมาธนาคารออมสินได้เปลี่ยนแปลง ปรับปรุงพัฒนาระบบการ
ดาเนินงานและการบริการในทุกด้านอย่างเป็นพลวัตร ธนาคารจึงได้ปรับตัวให้เข้ากับ
สถานการณ์ เพื่อรกั ษาฐานลกู คา้ มากกว่า 26 ล้านบัญชี โดยระดมทรัพยากรในทุกด้าน
เตรียมการเพ่ือปรับปรุงภาพลักษณ์ และรูปแบบการให้บริการท่ีทันสมัยและครบวงจร
ยิง่ ขึ้น เพื่อรองรบั การใหบ้ รกิ ารทส่ี อดคล้องตอ่ ความต้องการและครอบคลมุ ทกุ กลุ่ม ทกุ
อาชีพ และทุกชว่ งวยั ธนาคารออสินมีอายคุ รบ 100 ปี เมอ่ื วนั ท่ี 1 เมษายน 2556
เหตุการณ์สาคัญในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หัว (รชั กาลที่ 6)
เหตุการณ์สาคัญในประเทศไทยในพระชนมชีพของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจา้ อยู่หัว (รัชกาลที่ 6)
พ.ศ. 2423วันท่ี 1 มกราคม พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวประสูติ มี
พระนามเดมิ วา่ เจ้าฟ้ามหาวชริ าวธุ
พ.ศ. 2431 เจา้ ฟ้ามหาวชิราวธุ ได้รบั การสถาปนาเป็น กรมขุนเทพทวาราวดี
พ.ศ. 2436 เสดจ็ ฯไปทรงศกึ ษาดา้ นนิติศาสตร์ อักษรศาสตร์ และประวัติศาสตร์
ที่มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด และวิชาการทหาร ท่ีโรงเรียนนายร้อยแซนเฮิร์สต์ ประเทศ
อังกฤษ เมื่อวันท่ี 20 สิงหาคม พ.ศ. 2436 ขณะนั้นพระชนมายุได้ 12 พรรษา เป็น
ระยะเวลา 9 ปี และได้เสด็จกลบั จากอังกฤษผา่ นสหรัฐอเมรกิ าและญปี่ ่นุ
พ.ศ. 2437 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยาม
มกุฎราชกุมาร รัชทายาทเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึง
โปรดเกล้าฯ สถาปนากรมขนุ เทพทวาราวดีเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟา้ มหา
วชิราวุธ สยามมกุฎราชกมุ าร สบื แทน
พ.ศ. 2447 เสด็จเยือนนครเชียงใหม่ โดยข้ึนรถไฟไปลงท่ีปากน้าโพแล้วต่อเรือ
ล่องแก่ง ผ่านเมืองตากขึ้นไปถึงเชียงใหม่ ในการเสด็จฯ เยือนเชียงใหม่นี้ได้มีการ
สถาปนาโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย และ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย เม่ือวันท่ี 2
มกราคม พ.ศ. 2447
พระราชวงั สนามจนั ทร์
พ.ศ. 2450 ทรงโปรดเกลา้ ฯ ให้สร้างพระราชวงั สนามจนั ทรท์ ่ีนครปฐม
พ.ศ. 2452 เสดจ็ ฯ เยือนเมอื งสวรรคโลก เสดจ็ ฯเยือนหวั เมืองปกั ษ์ใต้
พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั โปรดเกลา้ ฯ ใหส้ รา้ งพระราชวงั พญาไท
พ.ศ. 2453พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต บรรดาเช้ือ
พระวงศ์และข้าราชการชั้นสูงพร้อมใจกันอัญเชิญ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้า
มหาวชิราวธุ สยามมกุฎราชกมุ าร ขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลท่ี 6 แห่งราชวงศ์จักรี พระ
นามว่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ปรับปรุงระเบียบการป้องกันพระ
ราชอาณาจักร เมื่อ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2453 กล่าวคือ ยุบเลิกกรมยุทธนาธิการ ให้ไป
รวมกับกระทรวงกลาโหม ยกกรมทหารเรือเป็นกระทรวงทหารเรือ ต้ังยศจอมพล โดย
พระราชทานให้ สมเดจ็ พระราชปติ ลุ าบรมพงศาภิมุข เจา้ ฟ้าภาณรุ งั ษสี วา่ งวงศ์ กรมพระ
ยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช (สมเด็จวังบูรพา) เป็นองค์ปฐม ให้ใช้คาว่า จอมทัพ แทนคาว่า
จอมพล ซึ่งได้ใช้แทนยศท่ีเหนือกว่าพลเอก ต้ังสภาป้องกันพระราชอาณาจักร (ต้นราก
แหง่ สานกั งานสภาความมนั่ คงแห่งชาติ) ตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวง (วชิราวุธวิทยาลัย)
เม่ือ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2453 ยกฐานะโรงเรียนมหาดเล็ก เป็นโรงเรียนข้าราชการพล
เรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซ่ึงต่อมาคือจุฬาลงกรณ์
มหาวทิ ยาลยั เมอ่ื 29 ธันวาคม พ.ศ. 2453
เกิดภาวะวิกฤติทางการเงินที่ธนาคารสยามกัมมาจลทุนจากัด จนต้องปลด
ผู้จัดการธนาคารสยามกัลมาจล ที่เป็นคนไทยออกไป ฐานก่อความวุ่นวายทางการเงิน
ของธนาคารโดยการปล่อยกู้ไม่รู้ประมาณ แล้วยึดสวนสาธารณะซ่ึงเป็นท่ีของผู้จัดการ
ธนาคารสยามกัลมาจลเพ่ือชาระหน้ี ก่อนให้ นาย ปี. ชวาซ์ ผู้จัดการแผนกต่างประเทศ
ซ่ึงเป็นปรสั เซยี เขา้ ทาหนา้ ท่ีแทนโดยนากาไรจากแผนกตา่ งประเทศ มาแซมทนุ พอแกไ้ ข
ภาวะวกิ ฤตทางการเงนิ ไปได้
พ.ศ. 24541 พฤษภาคม โปรดเกล้าฯ ให้ต้ังกองเสือป่าซึ่งเป็นรากฐานของ
กรมการรกั ษาดนิ แดน หรือ หน่วยบัญชาการกาลงั สารองในปจั จุบนั 1 กรกฎาคม โปรด
เกล้าฯ ให้ต้งั กองลกู เสอื
พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก รชั กาลท่ี 6
11 พฤศจิกายน จดั พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก มีการเชิญราชวงศ์จากยุโรปและ
ญป่ี ุ่นให้เสด็จมาทรงรว่ มการพระราชพธิ ใี นกรุงสยาม นับเป็นการรับพระราชอาคันตุกะ
จานวนมาก เป็นครั้งย่ิงใหญ่คร้ังแรกของประเทศ เกิดร.ศ. 130 เพ่ือเปลี่ยนแปลงการ
ปกครอง และหากไมส่ ามารถดาเนนิ การไดส้ าเรจ็ กต็ ้องการลอบปลงพระชนม์
26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2454 สามารถจับกุมควบคุมสถานการณ์ได้ ทรงริเร่ิม
การศกึ ษาพระปรยิ ัตธิ รรมใหม่ขน้ึ อกี หลักสตู รหนึง่ เรยี กวา่ "นกั ธรรม" โดยมกี ารสอบครง้ั
แรกเมอ่ื เดือนตลุ าคม 2454 ตอนแรกเรียกว่า "องคข์ องสามเณรร้ธู รรม"สมเด็จพระมหา
สมณเจ้าฯ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส ทรงเปลย่ี นวธิ ีการสอบบาลีสนามหลวงจากปาก
เปลา่ มาเป็นขอ้ เขยี น เปน็ คร้ังแรก
พ.ศ. 2455 โปรดเกล้าฯ ให้เปล่ียนมาใช้พุทธศักราช (พ.ศ.) ในราชการแทน
รัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) มผี ลบงั คบั ใชเ้ มอ่ื 1 เมษายน พ.ศ. 2456
พ.ศ. 2456 จัดตง้ั คลงั ออมสนิ เมอ่ื 1 เมษายน 2456 ต้นรากแหง่ ธนาคารออมสิน
ตราพระราชบัญญัตินามสกุล เกิดภาวะวิกฤตทางการเงิน เน่ืองจากแบงค์จีนสยามทุน
ลม้ ละลาย ทาให้ฐานะทางการเงินของธนาคารสยามกมั มาจลและ บรรดาโรงสขี า้ วตกอยู่
ในภาวะคับขนั
พ.ศ. 2457 เป็นปีสถาปนากองบินทหารบก ซ่ึงเป็นรากฐานของกองทัพอากาศ
ไทยในปัจจุบนั ตั้งกองบนิ ขึ้นในกองทัพบก เร่มิ สรา้ งสนามบินดอนเมอื ง เปิดโรงพยาบาล
จุฬาลงกรณ์ ต้ัง วชิรพยาบาล ต้ังโรงเรียนพยาบาลของสภากาชาดไทย เร่ิมให้บริการ
น้าประปา ตั้งเนตบิ ณั ฑิตยสภา มพี ระบรมราชานมุ ตั ใิ หก้ ยู้ มื เงนิ เพอื่ สรา้ งทางรถไฟสายใต้
จากรัฐบาลสหรัฐมลายู
พ.ศ. 2458 เสดจ็ ฯ เยือนหวั เมืองปกั ษใ์ ต้ คร้งั แรกหลงั จากเสวยราชย์
พ.ศ. 2459 1 เมษายน เลิกหวย ก.ข. 26 กุมภาพันธ์ ทดลองจัดต้ังสหกรณ์เป็น
แห่งแรก ท่ี วัดจันทร์ จังหวัดพิษณุโลก 1 เมษายน ทางรถไฟสายใต้เช่ือมกันตลอด ท่ี
ชุมพร 25 มิถุนายน เปิดสถานีรถไฟหลวงกรุงเทพ 26 มีนาคม สถาปนาจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย
พ.ศ. 2460 ธงชาติสยามเปลย่ี นจากธงช้างเผอื กมาเปน็ ธงไตรรงคอ์ ย่างสมบรู ณ์
22 กรกฎาคม ทรงประกาศเขา้ รว่ มสงครามโลกครง้ั ที่ 1 กับฝ่ายสมั พนั ธมติ รทาสงคราม
กับฝ่ายมหาอานาจ เกิดเหตนุ า้ ทว่ มปีมะเส็ง ตง้ั กรมมหาวทิ ยาลยั เลิกการพนนั บอ่ นเบี้ย
เปลี่ยนแปลงการนับเวลาใหส้ อดคล้องกับสากล คือใช้คาว่า ก่อนเทย่ี ง (ก.ท. -AM) และ
หลังเท่ยี ง (ล.ท. -PM) แกไ้ ขปรบั ปรงุ พระราชบญั ญตั กิ ารเกณฑ์ทหาร กาหนดคานาหน้า
นามสตรี จากอาแดงเป็นนางและ นางสาวตามธรรมเนียมสากล ออกพระราชบัญญัติ
หา้ มส่งเงินแท่งและเหรยี ญบาทออกนอกประเทศ
พ.ศ. 2461 6 เมษายน เปลี่ยนนามพระพุทธปรางค์ปราสาท เป็นปราสาท
พระเทพบดิ ร ต้ังดุสติ ธานี ทดลองการปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย พร้อม
ออกหนังสือพิมพ์ดุสิตสมิต และ ดุสิตสมัย ตราธรรมนูญลักษณะการปกครองคณะ
นคราภิบาล ตราพระราชบัญญัติโรงเรียนราษฎร์ ฉบับแรก ต้ังกรมสาธารณสุข ใน
กระทรวงมหาดไทย ซ่งึ เป็นตน้ รากแหง่ กระทรวงสาธารณสุข ขุดอุโมงค์ขุนตานทะลุถึง
กันสาเรจ็ เรม่ิ ใช้ธนบัตร 1 บาท ตราครุฑ แทนการใชเ้ หรียญกษาปณ์เงนิ 1 บาท
1 กรกฎาคม รถไฟหลวงสายใต้ เปดิ เดนิ ได้ถึงปาดงั เบซาร์
พ.ศ. 2462 ทหารอาสาของไทย ร่วมเดินสวนสนามสวนสนามฉลองชัยชนะ ใน
สงครามโลกครัง้ ที่ 1 ที่ประตชู ยั ณ นครปารีส วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2462 ประกาศ
ให้ วันที่ 6 เมษายนเปน็ วันจกั รี และ ใหถ้ อื ว่าเปน็ วนั ชาติในยคุ สมบรู ณาญาสทิ ธิราช วาง
ระเบียบการเรียกเก็บเงนิ รัชชปู การ ซ่งึ เปน็ การเสียเงินปลี ะ 6 บาท ในยคุ ที่ขา้ วสารถงั ละ
50 สตางค์ เริ่มการใช้เวลามาตรฐาน เกิดภาวะฝนแลง้ ทาใหข้ ้าวตายเปน็ จานวนมาก ถึง
ขัน้ ตอ้ งขุดหวั มนั หัวเผอื ก หัวกลอย กินประทงั ชีวติ จนรัฐบาลตอ้ งประกาศ พระราชกา
หนดห้ามการส่งออกข้าวไปตา่ งประเทศ
20 ตุลาคม สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จ
สวรรคต ณ วงั พญาไท โปรดเกลา้ ฯให้พิมพ์คัมภีร์อรรถกถาแห่งพระไตรปิฎกและอรรถ
กถาชาดก และคัมภีร์อื่น ๆ เช่นวิสุทธิมรรค มิลินทปัญหา เป็นต้น ทรงนิพนธ์หนังสือ
แสดงหลกั คeสอนในพระพุทธศาสนาหลายเร่ือง เช่น เทศนาเสือป่า พระพุทธเจ้าตรัสรู้
อะไร
พ.ศ. 2463 แก้ไขสนธิสัญญาใหม่กับสหรัฐอเมริกาสาเร็จเป็นประเทศแรก เปิด
การขนส่งไปรษณียภัณฑ์ทางอากาศระหว่าง กรุงเทพ -นครราชสีมา สตรีใน
พระราชสานัก เริ่มน่งุ ซ่นิ ไวผ้ มยาว ตั้งกระทรวงพาณชิ ย์
สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟา้ จกั รพงษภ์ วู นาถ
สมเดจ็ พระเจ้าน้องยาเธอผู้ทรงเป็นพระรัชทายาท (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้า
จักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพษิ ณุโลกประชานาถ) เสดจ็ ทวิ งคตจากอาการไขห้ วดั ใหญ่
พระเจ้าพย่ี าเธอ กรมหลวงราชบุรีดเิ รกฤทธ์ิ (พระบดิ าแห่งกฎหมายไทย)
พ.ศ. 2464 ตราพระราชบญั ญัติประถมศึกษา ฉบับแรก บงั คบั ใช้ 25 พฤศจิกายน
พ.ศ. 2464 กาหนดคานาหน้านาม เด็ก เป็นเด็กชาย เด็กหญิง รถไฟหลวงสายใต้ เปิด
เดินได้ถึงสุไหงโกลก รถไฟหลวงสายเหนือ เปิดเดินได้ถึงเชียงใหม่ โปรดฯ ให้จอมพล
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช
และ กรมพระนครสวรรค์วรพินิจ เสด็จประกอบพิธีเริ่มการก่อสร้างทางรถไฟ สาย
ตะวนั ออก ท่สี ถานีแปดริว้ สภากาชาดไทยสมัครเข้าเป็นสมาชิกสันนิบาตสภากาชาด
พ.ศ. 2465 เร่มิ ก่อสร้างสะพานพระราม 6 ตราข้อบงั คับลักษณะการปกครองหัว
เมืองชว่ั คราว สถาปนากรมตารวจ เปิดสถานเสาวภา หลงั จากทไ่ี ดพ้ ระราชทานนามใหม่
แทนชื่อเดมิ ว่า "ปาสตรุ สภา"
พ.ศ. 2466ประกาศใชป้ ระมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต้งั สถานอี นามยั แกไ้ ข
สนธสิ ญั ญาใหม่กบั ญปี่ นุ่ สาเรจ็ เปน็ ประเทศที่ 2 สมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้า
เทวัญอุไทยวงศ์ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ เสนาบดีกระทรวงต่างประเทศ
สิน้ พระชนม์ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขต
อุดมศกั ดิ์ สิน้ พระชนม์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชร
บูรณ์อนิ ทราชยั เสด็จทวิ งคต
พ.ศ. 2467 เสด็จเยือนสหรัฐมลายูและสิงค์โปร์โดยทางรถไฟพร้อมด้วยเจ้าจอม
สุวัทนา (ต่อมาคือพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี) ส่งคณะทูตพิเศษนาโดยพระยา
กัลยาณไมตรไี ปเจรจาแก้ไขสนธสิ ญั ญากบั นานาชาติ ตรากฎมณเฑยี รบาลวา่ ดว้ ยการสบื
ราชสันติวงศ์ พ.ศ. 2467 พระราชทานอภัยโทษให้ปล่อยนักโทษคดีกบฏ ร.ศ. 130
ปัญหางบประมาณขาดดลุ ยังไมบ่ รรเทา จาเปน็ ต้องกู้เงินเพ่ิมอีก 3 ล้านปอนด์ ดอกเบี้ย
ร้อยละ 6 ต่อปี ทาให้ต้องเร่ิมกระบวนการตัดทอนงบประมาณ และลดจานวน
ขา้ ราชการออกไป อยา่ งนอ้ ยร้อยละ 10 พ.ศ. 2468 มพี ระราชพินยั กรรม
พระนางเจา้ สวุ ทั นา พระวรราชเทวี ประสตู ิ
สมเดจ็ พระเจา้ ภคนิ เี ธอ เจา้ ฟา้ เพชรรตั นราชสดุ า สริ โิ สภาพณั ณวดี
วันอังคารท่ี 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี
ประสูติ สมเด็จพระเจา้ ภคนิ ีเธอ เจ้าฟา้ เพชรรตั นราชสุดา สริ โิ สภาพณั ณวดี พระราชธดิ า
พระองคเ์ ดียวในรัชกาลท่ี 6
26 พฤศจิกายน รัชกาลท่ี 6 เสด็จสวรรคต เม่ือเวลา 7 ทุ่ม 45 นาที (1 นาฬิกา
45 นาที) หลงั จากท่ที รงพระประชวรดว้ ยอาการพระอันตะ (ลาไส้) ทะลุ จากแผลผา่ ตัด
พระนาภที ่ีเกดิ อาการอกั เสบขนั้ ทะลุบรเิ วณพระนาภี (ผวิ หนังหนา้ ทอ้ ง) พระบาทสมเดจ็
พระปกเกลา้ เจา้ อย่หู ัว ทรงบรรจพุ ระบรมราชสรรี างคารพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้
เจ้าอยูห่ ัว ไว้ใต้ฐานพทุ ธบลั ลงั ก์ พระพุทธชินสหี ์ พระประธานในพระอโุ บสถวดั บวรนเิ วศ
วิหาร และใตฐ้ าน พระรว่ งโรจนฤทธ์ิ ณ พระวิหารด้านทิศเหนือ พระปฐมเจดีย์ จังหวัด
นครปฐม เม่อื 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2469
พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เสดจ็ สวรรคต
พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจา้ อยูห่ ัวทรงพระประชวรพระโรคพระโลหติ เปน็
พิษในพระอุทรต้ังแต่วันท่ี 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2468 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจา้ ยหู่ ัว ทรงพระประชวรหนกั และมีพระอาการรุนแรงขน้ึ ในยามนน้ั พระองคป์ ระทบั ณ
พระทน่ี ่ังจักรพรรดพิ มิ าน ในพระบรมมหาราชวัง จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้พระ
นางเจ้าสุวทั นา พระวรราชเทวีประทับ ณ พระท่ีน่ังเทพสถานพิลาส ซ่ึงติดกับพระที่น่ัง
จกั รพรรดิพิมาน เพอื่ ทรงรอฟงั ขา่ วพระประสูติการอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งพระนางเจ้า
สุวัทนา มีพระประสูติการเจ้าฟ้าหญิงในวันท่ี 24 พฤศจิกายน จากนั้นในเวลาบ่าย
เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟือ้ พ่งึ บญุ ) ไดเ้ ข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลพระกรุณาว่า
พระนางเจา้ สวุ ทั นา พระวรราชเทวี ประสตู ิ “สมเด็จพระเจา้ ลูกเธอ” เมื่อความทราบฝา่
ละอองธลุ ีพระบาทแล้ว มพี ระราชดารสั วา่ “กด็ เี หมือนกัน”
พระนางเจา้ สวุ ทั นา และ เจา้ ฟา้ เพชรรตั นราชสดุ า
ในวันพธุ ท่ี 25 พฤศจิกายน เจ้าพระยารามราฆพ เชญิ เสด็จสมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ
พระองค์น้อยไปเฝ้าฯ สมเดจ็ พระบรมชนกนาถผทู้ รงพระประชวรหนกั บนพระแทน่ เมอื่
ทอดพระเนตรแล้ว ทรงพยายามยกพระหัตถ์ขึ้นสัมผัสพระราชธิดา แต่ก็ทรงอ่อนพระ
กาลังมากจนไมส่ ามารถจะทรงยกพระหตั ถ์ไดเ้ นื่องจากขณะนน้ั มีพระอาการประชวรอยู่
ในขน้ั วกิ ฤต เจ้าพระยารามราฆพจงึ เชิญพระหตั ถข์ นึ้ สมั ผสั พระราชธิดา เมอ่ื จะเชญิ เสดจ็
พระราชกุมารีกลับ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงโบกพระหัตถ์แสดง
พระราชประสงคจ์ ะทอดพระเนตรพระราชธิดาอีกคร้ัง จึงเสด็จสมเด็จพระเจา้ ลูกเธอมา
เฝ้าฯ เป็นครั้งที่สอง และเป็นคร้ังสุดท้ายแห่งพระชนมชีพจนกลางดึกคืนน้ันเองก็เสด็จ
สวรรคต
เสด็จสวรรคต ณ พระทีน่ ัง่ จักรพรรดพิ ิมาน ภายในพระบรมมหาราชวัง เม่ือวันที่
26 พฤศจิกายน พ.ศ.2468 เวลา 1 นาฬิกา 45 นาที เสด็จสวรรคต เมื่อเวลา 7 ทุ่ม 45
นาที (1 นาฬิกา 45 นาที) ของวันที่ 26 พฤศจิกายน ปีฉลู พ.ศ. 2468 หลังจากที่ทรง
พระประชวรด้วยอาการพระอันตะ (ลาไส้) ทะลุ จากแผลผ่าตัดพระนาภีท่ีเกิดอาการ
อกั เสบข้นั ทะลบุ ริเวณพระนาภี (ผิวหนงั หนา้ ท้อง)
พระทน่ี งั่ ดสุ ติ มหาปราสาท
อัญเชิญพระบรมศพไปประดิษฐาน ณ พระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาทรวมพระ
ชนมพรรษาได้ 45 พรรษา และเสด็จดารงสิรริ าชสมบัตไิ ด้ 15 พรรษา แต่รัชกาลท่ี 7 มี
พระราชประสงค์กาหนดวนั สวรรคตของรชั กาลที่ 6 เป็นวันที่ 25 พฤศจกิ ายน และถอื วา่
วันมหาธีรราชเจ้า ตรงกับวันที่ 25 พฤศจิกายน ส่วนพระบรมราชสรีรางคารได้เชิญไป
ประดิษฐาน ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และเชิญไปประดิษฐาน ณ พระปฤศฤางค์ พระร่วง
โรจน์ฤทธิ์ ส่วนพระบรมอัฐิสว่ นหน่ึงเชิญไปประดิษฐาน ณ พระวิมานองคก์ ลาง พระทนี่ งั่
จักรีมหาปราสาท และ อีกส่วนหนึ่งเชิญไปประดิษฐาน ณ พระวิมานพระอัฐิ วังรื่นฤดี
ของ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระราชธิดา
พระองค์เดียว
สมเดจ็ พระเจา้ ภคนิ ีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรตั นราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
ส่วนพระราชธิดาเพยี งพระองค์เดียวของพระองค์คือ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้า
ฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ประสูติเม่ือวันที่ 24 พฤศจิกายนพ.ศ.
2468 ไดร้ บั พระราชทานพระนามจากพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ในการพระ
ราชพิธีสมโภชเดือนและข้ึนพระอู่ เม่ือวันท่ี 30 ธันวาคม พ.ศ. 2468 โดยมีสมเด็จพระ
ศรสี วรินทิราบรมราชเทวี พระพนั วสั สามาตจุ ฉาเจา้ ทรงพระเมตตาเอาพระราชหฤทยั ใส่
ดูแลทั้งด้านพระอนามัยและความเป็นอยู่มาโดยตลอด ด้วยเมื่อพระบาทสมเด็จพระ
มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะทรงพระประชวรหนักนั้น ได้มีพระราชดารัสกับสมเด็จพระ
มาตจุ ฉาเจ้าวา่ “ขอฝากลูกดว้ ย” ต่อมาเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสดุ า พรอ้ มดว้ ยพระนางเจา้
สุวัทนา พระวรราชเทวี ได้เสด็จฯ ไปประทับทปี่ ระเทศองั กฤษต้ังแตป่ ี พ.ศ. 2480 จนใน
ปี พ.ศ. 2501 ทง้ั สองพระองค์ไดเ้ สด็จฯ นวิ ัติกลับประเทศไทยเป็นการถาวรและประทบั
ท่ีวังร่ืนฤดีร่วมกัน ท้ายท่ีสุด สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริ
โสภาพัณณวดีได้สิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการติดเชื้อในกระแสพระโลหิตเม่ือวันที่ 27
กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 16.37 นาฬิกา ณ ตึก 84 ปี โรงพยาบาลศิริราช สิริ
พระชนมายุได้ 85 พรรษา
………………………………………………………
แหลง่ ขอ้ มลู อา้ งองิ
สมบตั ิ จาปาเงนิ . รชั กาลท่ี 6 พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั .กรงุ เทพฯ: 2020
เวลิ ดม์ เี ดยี จากดั ,
2542.
www.campus-star.com
www.parwat.com
www.sriayudhya.ac.th
www.vajiravudh.ac.th
http://www.dek-d.com
http://www.guru.google.co.th
http://www.gsb.or.th/about/
http://www.gsb.or.th/museum/evolution/history
http://www.learners.in.th/blogs/posts
https://www.matichon.co.th
http://www.memohall.chula.ac.th/article
https://norapontorn.wordpress.com
https://www.silpa-mag.com
https://www.msn.com
https://www.thairath.co.th
https://sites.google.com
https://teen.mthai.com
https://lifestyle.campus-star.com › knowledge
http://th.wikipedia.orgi